Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดที่ 4 นิพจน์และตัวดำเนินการ

ชุดที่ 4 นิพจน์และตัวดำเนินการ

Published by kruraphiphon2019, 2022-06-14 12:32:12

Description: ชุดที่ 4 นิพจน์และตัวดำเนินการ

Search

Read the Text Version

นางรพพี ร นามมุลตรี ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ

คานา สำหรับชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้แบบอิเลก็ ทรอนิกส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนักเรยี นชัน้ มัธยมศึกษำปที ่ี 6 ชดุ น้ี จดั ทำข้ึน เพือ่ ใชเ้ ปน็ ส่อื ประกอบกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรดู้ ว้ ยกำรเรียนรูแ้ บบสืบเสำะหำควำมรู้ 7 ข้ัน (7E) วชิ ำ กำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรบั นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ 6 โรงเรยี นนำโพธพิ์ ทิ ยำสรรพ์ สังกัดสำนกั งำนเขตพื้นทีก่ ำรศึกษำ มัธยมศึกษำ เขต 26 เพ่ือพัฒนำผลสัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรยี น และทกั ษะกำรคิดวิเครำะห์ สงั เครำะห์ และ แก้ปญั หำ ตลอดจนควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยแี ละกำรทำงำนรว่ มกบั ผู้อน่ื ทงั้ นี้ ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรูแ้ บบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ วชิ ำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษำปีท่ี 6 จะช่วยพฒั นำ ผลสมั ฤทธิท์ ำงกำรเรยี น และทกั ษะกำรคดิ วิเครำะห์ สังเครำะห์ และแก้ปัญหำ ตลอดจน ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยแี ละกำรทำงำนรว่ มกับผอู้ ่ืน จำกกำรทำกิจกรรมเสริมทักษะย่อย ต่ำงๆ ประจำเน้ือหำสำระกำรเรยี นรูท้ กี่ ำหนดให้ตำมวธิ ีกำรเรียนร้แู บบสบื เสำะหำควำมรู้ มีควำม สอดคลอ้ งตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้และตวั ชวี้ ัด หลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พนื้ ฐำน พทุ ธศักรำช 2551 และหลักสตู รสถำนศึกษำโรงเรียนนำโพธพิ์ ทิ ยำสรรพ์ สงั กัดสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศกึ ษำ มธั ยมศกึ ษำ เขต 26 มุ่งเน้นกำรเรยี นรูด้ ว้ ยตวั เอง และทำกิจกรรมรว่ มกบั ผอู้ ่ืน เพ่ือใหน้ กั เรียนร้จู ัก เข้ำสงั คมและปรับตัวใหเ้ ข้ำกับผ้อู ื่นได้ ตลอดจนสำมำรถนำควำมรู้ ควำมสำมำรถไปปรบั ประยกุ ต์ใช้ ในชวี ติ ประจำวนั ได้ ผ้จู ัดทำขอขอบพระคุณ และคณะครูอำจำรย์ทุกทำ่ นทใ่ี ห้กำรสนบั สนุนกำรพัฒนำชดุ กิจกรรม กำรเรียนรแู้ บบอิเล็กทรอนกิ ส์ วิชำ กำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 6 นี้ ได้สำเร็จตำมวตั ถุประสงค์ จนทำใหม้ ีควำมสมบรู ณ์ถูกต้องเป็นอย่ำงดี และเปน็ ประโยชน์ต่อครู นักเรียน และผสู้ นใจได้เป็นอยำ่ งดี รพีพร นำมมลุ ตรี

คาช้ีแจง ชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้แบบอิเล็กทรอนิกส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรับนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษำปที ่ี 6 มีเนื้อหำสำระ สอดคล้องกบั หลักสตู รกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 และหลักสูตรสถำนศึกษำตำม กระทรวงศกึ ษำธกิ ำรกำหนด ซ่งึ นับว่ำมคี วำมสำคัญอย่ำงยงิ่ สำหรบั นกั เรยี น เพรำะถือเป็นพืน้ ฐำน สำคญั ของกำรใช้เทคโนโลยใี นยุค 4.0 และสอดคล้องกบั กำรเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 น้ี เพื่อส่งเสรมิ และพฒั นำกำรเรยี นรูด้ ้ำนเทคโนโลยแี กน่ กั เรยี น ตลอดจนทักษะกำรคิดวิเครำะห์ สงั เครำะห์ และ กำรแกป้ ัญหำ เพื่อกำรนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน ชดุ กจิ กรรมกำรเรียนร้แู บบอเิ ล็กทรอนิกส์ วชิ ำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรับ นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 6 ชดุ นี้ ท่ีไดจ้ ดั ทำขึน้ ประกอบด้วย 9 ชดุ ดงั น้ี ชดุ ที่ 1 หลักกำรเขียนโปรแกรมเบื้องต้น ชุดที่ 2 กำรตดิ ต้ังโปรแกรม Dev C++ ชดุ ท่ี 3 องคป์ ระกอบของภำษำซี ตัวแปร และชนดิ ข้อมลู ชุดท่ี 4 นพิ จน์และตัวดำเนนิ กำร ชุดที่ 5 ฟงั ก์ชันกำรรบั แสดงผล และฟังก์ชนั ทำงคณิตศำสตร์ ชุดที่ 6 คำส่งั ควบคุมเงอื่ นไข และกำรทำงำนเป็นรอบ ชดุ ท่ี 7 อำร์เรยแ์ ละฟังก์ชนั จดั กำรสตริง ชดุ ที่ 8 กำรสรำ้ งฟงั กช์ ันและตวั แปรชนิดพอยน์เตอร์ ชุดท่ี 9 ขอ้ มลู ชนดิ โครงสรำ้ งและกำรจัดกำรแฟ้มข้อมูล ทง้ั น้ี ชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรแู้ บบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ วชิ ำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุม่ สำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษำปที ่ี 6 เปน็ หนงั สอื อิเล็กทรอนกิ ส์ โดยสำมำรถ สแกนผ่ำน QR-Code หรือผำ่ นลิงค์เวบ็ ไซต์ https://pubhtml5.com/bookcase/wjru เพ่ือใช้งำนตำมปกติ พร้อมกับรูปเล่มจริง ตำมลิงค์ ออนไลนท์ ี่แนบนี้ QR-Code

คาแนะนาสาหรับครู 1. นกั เรียนศกึ ษำคำชแ้ี จง และคำแนะนำให้พร้อมก่อนเริ่มศกึ ษำ 2. นกั เรียนรบั ฟงั คำแนะนำกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้แบบอิเล็กทรอนิกส์ วิชำ กำรเขยี น โปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรบั นกั เรียน ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 6 ให้เข้ำใจก่อนเสมอ 3. นักเรียนแบ่งกลมุ่ 4-5 คน เพอ่ื ทำกจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นประจำชุดกิจกรรมกำรเรียนรแู้ บบอเิ ล็กทรอนิกส์ วิชำ กำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรับนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ 6 ด้วยควำมต้ังใจ และซ่ือสัตย์ 5. นกั เรียนศึกษำใบควำมรู้ ให้เข้ำใจก่อนทำกิจกรรมระหว่ำงเรยี น และกิจกรรมโครงงำน 6. ทบทวนควำมรู้และฝึกทักษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยีดว้ ยกำรทำกิจกรรมกำรเรียนรู้ 7. หำกนักเรยี นเกดิ ขอ้ สงสยั ให้ปรึกษำ หรอื แจ้งครูไดท้ ันที และให้นักเรยี นควรตรวจสอบ ควำมถกู ตอ้ งของกำรทำกิจกรรมให้เรยี บรอ้ ย 8. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนประจำชุดกิจกรรมกำรเรียนรแู้ บบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ วชิ ำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรูก้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษำปที ่ี 6 ด้วยควำมต้องใจ และซือ่ สตั ย์ 9. นักเรยี นรวบรวมกระดำษคำตอบและชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรแู้ บบอเิ ล็กทรอนิกส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 6 สง่ คืนครู 10. นกั เรียนตอ้ งใหค้ วำมร่วมมอื ในกำรทำกิจกรรมกำรเรียนรู้ เพ่ือให้บรรลเุ ปำ้ หมำย

คาแนะนาสาหรบั นกั เรียน 1. ศึกษำคำชีแ้ จง คำแนะนำ และเตรยี มกระดำษคำตอบให้พร้อมก่อนเร่มิ ศึกษำ 2. อธบิ ำยและให้คำแนะนำกับนกั เรียนในกำรใช้ชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรแู้ บบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ วชิ ำ กำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรบั นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 6 3. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม 4-5 คน เพื่อทำกิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4. ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนประจำชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้แบบอิเลก็ ทรอนิกส์ วิชำ กำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนร้กู ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 6 ด้วยควำมต้งั ใจ และซื่อสตั ย์ 5. ใหน้ ักเรียนศกึ ษำใบควำมรู้ ให้เข้ำใจก่อนทำกิจกรรมระหว่ำงเรยี นและกิจกรรมโครงงำน 6. ให้ทบทวนควำมรูแ้ ละฝึกทักษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยีด้วยกำรทำกิจกรรมกำรเรียนรู้ 7. หำกนกั เรยี นเกดิ ข้อสงสยั ใหป้ รึกษำ หรือแจ้งครูได้ทนั ที และให้นกั เรียนควรตรวจสอบ ควำมถกู ต้องของกำรทำกิจกรรมใหเ้ รยี บรอ้ ย 8. ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี นประจำชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้แบบอเิ ล็กทรอนิกส์ วชิ ำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 6 ดว้ ยควำมต้องใจ และซื่อสตั ย์ 9. ให้นกั เรียนรวบรวมกระดำษคำตอบและชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้แบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 6 ส่งคืนครู 10. สงั เกตพฤตกิ รรมและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ของนักเรียนเพ่ือบันทึกคะแนน และกล่มุ

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้วี ดั มำตรฐำน ง 3.1 เข้ำใจ เหน็ คุณค่ำ และใชก้ ระบวนกำรเทคโนโลยสี ำรสนเทศในกำรสืบค้น ข้อมูล กำรเรยี นรู้ กำรสอ่ื สำร กำรแก้ปัญหำ กำรทำงำน และอำชีพอย่ำงมีประสิทธิภำพประสทิ ธิผล และมคี ุณธรรม (ง3.1 ม.5/1-13) แนวคดิ ศึกษำเก่ียวกับกำรเปลี่ยนชนิดข้อมูล ตัวดำเนินกำรกับลำดับควำมสำคัญ และตัวดำเนินกำร (Operators) ซึ่งเนือ้ หำเหลำ่ นถ้ี อื เปน็ ส่ิงสำคญั ในกำรศกึ ษำวิชำกำรเขียนโปรแกรมเบือ้ งตน้ ทงั้ สิ้น สาระการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 4 นิพจนแ์ ละตัวดำเนินกำร 1. ตัวดำเนินกำร (Operators) 2. ตัวดำเนินกำรกับลำดับควำมสำคัญ 3. กำรเปล่ยี นชนิดข้อมูล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ ความเข้าใจ (K) 1. มีควำมรู้เก่ียวกับนิพจน์และตวั ดำเนินกำร 2. รวบรวม วเิ ครำะหข์ ้อมูล ควำมรู้นิพจนแ์ ละตวั ดำเนนิ กำรได้ 3. สรปุ ข้อมูลเกยี่ วกับควำมรู้นพิ จน์และตัวดำเนินกำรได้ ทักษะกระบวนการ (P) 1. ใช้ควำมรู้เก่ยี วกบั นิพจนแ์ ละตัวดำเนนิ กำร 2. มีกำรคิดวิเครำะห์ และกำรใหเ้ หตุผลตำมกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ได้ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. มคี วำมสนใจและตั้งใจเรียน กระตือรือร้น ตรงต่อเวลำ ใหค้ วำมร่วมมือในกำรทำงำนกลมุ่ และ มีเจตคติท่ดี ีตอ่ กำรเรยี นวิทยำศำสตร์ สมรรถนะท่สี าคญั (C) 1. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 2. ควำมสำมำรถในกำรให้เหตผุ ล 3. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร 4. ควำมสำมำรถในกำรเชอ่ื มโยง 5. ควำมสำมำรถในกำรใชค้ วำมคดิ รเิ ร่มิ สร้ำงสรรค์

ภาระหน้าที่ / ช้นิ งาน ชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้แบบอิเลก็ ทรอนิกส์ วชิ ำ กำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุม่ สำระกำรเรยี นร้กู ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรบั นักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 6 ชุดที่ 4 นพิ จน์และตัวดำเนนิ กำร 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน 2. กิจกรรมระหวำ่ งเรยี น (กจิ กรรมท่ี 1-5) 3. แบบทดสอบหลังเรียน กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ กำรเรียนรูแ้ บบสืบเสำะหำควำมรู้ 7 ขนั้ (7E) การวดั ผลประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน คะแนนเฉล่ีย ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป จึงจะผ่ำนเกณฑ์ 2. กจิ กรรมระหวำ่ งเรียน คะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป จงึ จะผ่ำนเกณฑ์ 3. แบบทดสอบหลังเรยี น คะแนนเฉล่ีย รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป จงึ จะผำ่ นเกณฑ์ 4. แบบประเมินสมรรถนะทส่ี ำคัญ คะแนนเฉลีย่ ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป จึงจะผ่ำนเกณฑ์ 5. แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป จงึ จะผำ่ นเกณฑ์

สารบญั คำนำ หน้า คำช้ีแจง ก คำแนะนำสำหรบั ครู ข คำแนะนำสำหรับนักเรียน ค ง ชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้แบบอเิ ล็กทรอนิกส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรยี นรูก้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรับนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษำปีที่ 6 จ สำรบัญ ช แบบทดสอบกอ่ นเรียน 1 กระดำษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 3 ใบควำมรู้ เร่ือง นิพจน์และตัวดำเนนิ กำร 4 16 กิจกรรมที่ 1 17 กจิ กรรมท่ี 2 18 กจิ กรรมท่ี 3 19 กจิ กรรมที่ 4 20 กิจกรรมท่ี 5 21 แบบทดสอบหลงั เรยี น 23 กระดำษคำตอบแบบทดสอบหลงั เรยี น 24 ภำคผนวก 25 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 26 เฉลยกจิ กรรมที่ 1 27 เฉลยกจิ กรรมที่ 2 28 เฉลยกจิ กรรมที่ 3 29 เฉลยกจิ กรรมที่ 4 30 เฉลยกจิ กรรมที่ 5 31 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 32 แบบบันทกึ คะแนน 33 บรรณำนุกรม 34 ประวัติย่อผูจ้ ัดทำ

คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบท่ีถกู ทสี่ ดุ เพียงคำตอบเดียวแลว้ ทำเครื่องหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ 1. ข้อใดต่อไปนี้ กลำ่ วไม่ถูกต้อง ก. กรณที ี่นิพจน์มีเครื่องหมำยวงเลบ็ ซ้อนกันหลำยๆ ชน้ั นิพจนข์ องวงเล็บวงในสดุ จะได้รับ กำรประมวลผลก่อน ข. กรณที ล่ี ำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำรเท่ำกัน จะกระทำจำกขวำไปซ้ำยเท่ำน้ัน ค. นพิ จน์ทเ่ี ปน็ ผลคณู จะถกู ดำเนนิ กำรก่อนนิพจนท์ ่เี ปน็ ผลบวก ง. กำรใชเ้ ครือ่ งหมำยวงเล็บให้กบั สูตรคำนวณที่ซับซ้อน จะทำให้อำ่ นแล้วเขำ้ ใจได้ง่ำยข้ึน 2. นิพจน์ในภำษำซีตำมข้อใดตอ่ ไปนี้ ไมถ่ ูกต้อง ข. Txt = ‘T’; ก. var = 123.56; ง. 3 + a = b; ค. this = ‘T’ * 20; 3. สญั ลกั ษณ์ตำมขอ้ ใดต่อไปน้ี สำมำรถผนวกไวใ้ นนิพจน์ได้ ก. [ ] ข. { } ค. ( ) ง. $ 4. ขอ้ ใดต่อไปนี้ลำดบั ตัวดำเนนิ กำรก่อนหลงั ได้ถกู ต้อง ข. **, *, /, +, - ก. **, * หรอื /, + หรือ - ง. / หรอื *, - หรือ + ค. **, /, *, +, - 5. ถ้ำ a มีชนดิ ข้อมลู เป็น int อยำกทรำบว่ำนิพจน์ต่อไปนี้ ค่ำ a จะมีคำ่ ตำมข้อใด a = 5 / 2; ก. 2.5 ข. 3 ค. 2 ง. 0

6. จำกนพิ จนต์ ่อไปน้ี อยำกทรำบวำ่ สว่ นใดจะไดร้ ับกำรกระทำก่อน b = 6.6 / a + 2 * n; ก. 6.6 / a ข. a + 2 ค. 2 * n ง. 6.6 / a + 2 7. ขอ้ ใดกลำ่ วได้ถูกต้อง เกย่ี วกบั ตัวดำเนินกำรเพิ่มคำ่ และลดค่ำทีละหนึ่ง ก. ตวั ดำเนนิ กำรทง้ั สองจัดเป็นตัวดำเนนิ กำรแบบยูนำรี ข. ทั้งสองรปู แบบสำมำรถมีได้ท้งั แบบ prefix ค. +-a และ a++ มีควำมหมำยเดียวกนั กบั a = a + 1 ง. b-+ และ b++ มีค่ำเทำ่ กนั 8. Casting หมำยถึง ข้อใด ก. คอื กำรประกำศตวั แปรชนิดหน่งึ ข. คอื กำรปัดเศษค่ำตัวเลขจำกเลขจำนวนเต็ม มำเป็นเลขจำนวนเตม็ ค. กำรแปลงชนดิ ข้อมลู จำกชนิดหน่ึง มำเปน็ อีกชนดิ หน่ึง ง. กำรลำดบั ตวั เลขให้เท่ำกับ 9. ข้อใดไมใ่ ช่ตัวดำเนนิ กำร ก. ตวั ดำเนนิ กำรทำงคณติ ศำสตร์ ข. ตวั ดำเนินกำรยนู ำรี ค. ตัวดำเนนิ กำรรปู ภำพ ง. ตวั ดำเนินกำรตรรกะ 10. ข้อใด คือ ตัวดำเนนิ กำรตรรกะ ก. // ข. ++ ค. /* ง. && อยา่ ลืมทวนคาตอบ นะคะนักเรียน

คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคำตอบเดียวแลว้ ทำเคร่อื งหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ ข้อ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. สรุปคะแนน สรุปผล ผา่ น ไม่ผ่าน คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้ ……………...…. …………………. 10 คะแนน ………………. คะแนน

นิพจน์ (Expression) นพิ จน์ในทน่ี ี้หมำยถึง นพิ จน์ทำงคณติ ศำสตร์ ซง่ึ สำมำรถพบเห็น ไดจ้ ำกสูตรกำรคำนวณตวั เลขต่ำงๆ ดังน้นั นพิ จน์จึงประกอบดว้ ย ตัวแปรค่ำคงที่และตวั ดำเนนิ กำร ทำงคณิตศำสตร์มำประกอบรวมกนั ตัวอยา่ งเชน่ ans = 100 – 5 score = midterm + final + quiz income = salary + (ot * RATE) + bonus - tax จำกนพิ จน์คณิตศำสตร์ข้ำงต้นจะพบวำ่ ท้ัง ans, score และ income จะเป็นตวั แปรทใี่ ช้ เก็บผลลัพธจ์ ำกกำรคำนวณส่วนนพิ จนด์ ้ำนขวำกจ็ ะเป็นนิพจนแ์ บบหลำยตวั แปร ซ่งึ สำมำรถมไี ด้ท้ัง ตวั แปรและคำ่ คงที่รวมถงึ ตวั ดำเนนิ กำรคณติ ศำสตร์ เช่น + - * / เป็นต้น อย่ำงไรก็ตำมในกำรสร้ำง สูตรคำนวณค่ำตัวเลข โดยเฉพำะสตู รคำนวณที่มคี วำมซบั ซอ้ นต้องระมดั ระวังในกำรจดั ลำดับนพิ จน์ เพือ่ ใหค้ อมพิวเตอรป์ ระมวลผลได้อยำ่ งถูกต้องทง้ั นี้ตัวดำเนินกำรต่ำงๆ ทน่ี ำมำใช้เพื่อกำรคำนวณนน้ั แตล่ ะตวั จะมลี ำดับควำมสำคัญทีแ่ ตกต่ำงกัน เช่น เมอื่ พบเคร่ืองหมำย + และ * กำรประมวลผลจะ กระทำ ทต่ี วั ดำเนนิ กำร * ก่อน เพรำะ “ จะมีลำดบั ควำมสำคัญสูงกวำ่ + น่นั เอง ตวั อย่ำงเช่น result = 5 + 2 * 4 อยำกทรำบวำ่ ผลลพั ธข์ อง result คือ ค่ำใด คำตอบ คือ 13 มใิ ช่ 28 แตอ่ ย่ำงใด ดงั นน้ั เนอื้ หำในบทน้ี นอกจำกจะกล่ำวถึงรำยละเอยี ดเก่ียวกับตัวดำเนินกำรชนิดตำ่ งๆ แล้ว ยังจะกล่ำวถงึ ลำดับกำรคำนวณ เพ่อื ให้เรำสำมำรถไปประยุกตใ์ ชง้ ำนเพ่ือสร้ำงนิพจน์หรือสูตรคำนวณทำง คณติ ศำสตร์ใหไ้ ด้มำซงึ่ ผลลพั ธ์ที่ถูกต้อง ในภำษำซมี ีตวั ดำเนินกำรหลำกหลำยชนิด แต่ในท่นี ้ีจะกล่ำวถึงตวั ดำเนินกำรพ้ืนฐำนทสี่ ำคญั ดังต่อไปน้ี 1. ตัวดาเนินการคณิตศาสตร์ จดั เปน็ ตวั ดำเนนิ กำรพืน้ ฐำนท่ีนำมำใช้เพ่อื กำรคำนวณ เช่น บวก ลบ คูณ หำร และ โมดูลสั (หำรเพือ่ เอำเศษ) โดยสญั ลักษณ์ของตวั ดำเนินกำรดงั กลำ่ วเป็นไปดังนี้ ตวั ดาเนนิ การ ความหมาย + กำรบวก - กำรลบ * กำรคูณ / กำรหำร % กำรหำรเอำเศษ

กำหนดให้ a และ b เป็นตัวแปรชนดิ เลขจำนวนเตม็ (int) โดยท่ี a = 10 และ b = 2 นิพจน์ ผลลัพธ์ a+b 12 a–b–3 5 a*b 20 a/b 5 a%b 0 ตวั อย่างท่ี 1 โปรแกรมสงั่ พิมพ์นพิ จน์ 1: #include <stdio.h> 2: main() 3: { 4: int a = 10, b = 2; 5: 6: printf(\"a = 10, b = 2\\n\\n\"); 7: printf(\"a + b = %d\\n\", a + b); 8: printf(\"a - b – 3 = %d\\n\", a – b - 3); 9: printf(\"a * b = %d\\n\", a * b); 10: printf(\"a / b = %d\\n\", a / b); 11: printf(\"a mod b = %d\\n\", a % b); 12: } คาอธิบายโปรแกรม บรรทัดที่ ความหมาย 1 ผนวกเฮดเดอรไ์ ฟล์ <stdio.h> 2 ฟงั กช์ ัน main() 4 ประกำศตวั แปร a และ b มีชนิดข้อมลู เป็น int พร้อมกำหนดค่ำ 6 พิมพ์ข้อควำมให้ทรำบวำ่ คำ่ a = 10 และค่ำ b = 2 7 สง่ั พมิ พ์ผลลัพธข์ องนิพจน์ a + b 8 สง่ั พิมพ์ผลลัพธข์ องนิพจน์ a – b – 3 9 สั่งพมิ พผ์ ลลพั ธข์ องนิพจน์ a * b 10 สั่งพิมพ์ผลลพั ธข์ องนิพจน์ a / b 11 สง่ั พิมพ์ผลลพั ธข์ องนิพจน์ a % b

ผลลพั ธจ์ ากการรันโปรแกรม ภำพท่ี 1 ผลลพั ธ์จำกกำรรันโปรแกรมตวั ดำเนนิ กำร (Operators) 2. ตัวดาเนนิ การยูนารี ตวั ดำเนินกำรยูนำรี ตัวแรกท่ีจะกล่ำวถึงก็คือ เคร่ืองหมำยลบที่ นำมำใช้นำหนำ้ คำ่ ตัวเลข หรือกำหนดค่ำตวั แปร ซึง่ จะสง่ ผลใหค้ ่ำถูกเปลี่ยนเป็นค่ำตดิ ลบโดยทันที เชน่ -10, x เป็นตน้ อย่ำงไรกต็ ำม เคร่อื งหมำยยูนำรีลบดังกล่ำว มิใช่ตัวดำเนินกำรลบแต่อยำ่ งใด กำหนดให้ และ b เปน็ ตวั แปรชนดิ เลขจำนวนเตม็ (int) โดยท่ี a = 10 และ b = 2 ดงั นั้น นิพจน์ ผลลัพธ์ a + b 12 -a + b -8 -a * b -20 a - - b 12 ตวั อย่างท่ี 2 โปรแกรมทดสอบนพิ จนย์ ูนำรี 1: #include <stdio.h> 2: main() 3: { 4: int a = 10, b = 2; 5: 6: printf(\"a = 10, b = 2\\n\\n\"); 7: printf(\"a + b = %d\\n\", a + b); 8: printf(\"-a + b = %d\\n\", -a + b); 9: printf(\"-a * b = %d\\n\", -a / b); 10: printf(\"a - -b = %d\\n\", a - -b); 11: }

คาอธบิ ายโปรแกรม บรรทัดที่ ความหมาย 1 ผนวกเฮดเดอรไ์ ฟล์ <stdio.h> 2 ฟังกช์ ัน main() 4 ประกำศตวั แปร a และ b มชี นิดขอ้ มูลเปน็ int พร้อมกำหนดค่ำ 6 พิมพข์ ้อควำมให้ทรำบว่ำ คำ่ a = 10 และค่ำ b = 2 7 สั่งพิมพ์ผลลพั ธข์ องนิพจน์ a + b 8 ส่ังพิมพผ์ ลลพั ธข์ องนิพจน์ - a + b 9 สง่ั พมิ พ์ผลลัพธข์ องนิพจน์ - a * b 10 สง่ั พมิ พผ์ ลลัพธ์ของนิพจน์ a - - b ผลลัพธจ์ ากการรันโปรแกรม ภำพท่ี 2 ผลลพั ธจ์ ำกกำรรนั โปรแกรมตัวดำเนินกำรยูนำรี สำหรบั ตวั ดำเนินกำรยูนำรตี ัวถดั ไปที่จะกล่ำวถึงก็คือ ตวั ดำเนินกำรเพ่ิมค่ำ และตัว ดำเนนิ กำรลดคำ่ ด้วยกำรใช้เคร่ืองหมำย -- เพื่อลดลงที่ละหนงึ่ และเคร่ืองหมำย + เพ่ือเพ่ิมคำทลี ะ หนง่ึ โดยเขียนนำหนำตัวแปร (prefix) หรือหลังตัวแปร (postfix) ก็ได้ เชน่ ++a หรือ a-- โดยท่ี - การเพม่ิ ค่าทลี ะหนง่ึ (Increment) สำมำรถใช้ a++ หรือ ++a ซง่ึ มีควำมหมำยเดยี วกันกับนิพจน์ a = a + 1 - การลดค่าทลี ะหนึ่ง (Decrement) สำมำรถใช้ .b--. หรอื --b ซ่ึงมคี วำมหมำยเดียวกนั กบั นิพจน์ b = b – 1 แต่อย่ำงไรก็ตำมตัวดำเนินกำรยนู ำรีทั้งแบบเพมิ่ ค่ำและลดคำ่ ทลี ะหน่งึ ของทั้งสอง รปู แบบนน้ั จะมีวิธีจัดกำรกับค่ำท่ีแตกต่ำงกัน ดงั รำยละเอียดตอ่ ไปนี้ นิพจน์ ความหมาย ++a เพมิ่ ค่ำอีกหนึ่งใหก้ ับ a กอ่ น แลว้ จงึ นำค่ำใหม่ของ a ไปใชง้ ำน a++ นำค่ำเดมิ ของ a ไปใช้งำนก่อนแลว้ จงึ เพิม่ คำ่ a อีกหนง่ึ --a ลดคำ่ ลงหนง่ึ ใหก้ บั a กอ่ นแล้วจึงนำคำ่ ใหมข่ อง a ไปใชง้ ำน a-- นำคำ่ เดิมของ a ไปใช้งำนก่อนแล้วจึงลดค่ำ a ลงอกี หน่งึ

ตัวอย่างท่ี 3 โปรแกรมทดสอบตัวดำเนนิ กำร ++ ทง้ั แบบ prefix และ postfix increment 1: #include <stdio.h> 2: 3: int main() 4: { 5: int num; 6: 7: //ทดสอบการใช้ตวั ดาเนนิ การ postfix increment 8: num = 10; 9: printf(\"num = %d\\n\", num); 10: printf(\"num++ = %d\\n\", num++); 11: printf(\"num = %d\\n\\n\", num); 12: 13: //ทดสอบการใช้ตัวดาเนนิ การ prefix increment 14: num = 10; 15: printf(\"num = %d\\n\", num); 16: printf(\"++num = %d\\n\", ++num); 17: printf(\"num = %d\\n\\n\", num); 18: } คาอธบิ ายโปรแกรม บรรทัดที่ ความหมาย 8 กำหนดให้ num มีคำ่ เริม่ ต้นเท่ำกบั 10 9 สงั่ พมิ พค์ ำ่ ปัจจุบันของ num 10 พมิ พค์ ่ำ num ด้วย num++ (postfix increment) 11 พมิ พค์ ำ่ ปัจจบุ นั ของ num 14 กำหนดให้ num มคี ่ำเท่ำกับ 10 15 สั่งพิมพค์ ่ำปจั จบุ ันของ num 16 พมิ พ์คำ่ num ดว้ ย ++num (prefix increment) 17 พมิ พค์ ่ำปจั จุบนั ของ num ผลลัพธ์จากการรันโปรแกรม ภำพท่ี 3 โปรแกรมทดสอบตวั ดำเนนิ กำร ++ ทั้งแบบ prefix และ postfix increment

เมอื่ พิจำรณำจำกโปรแกรมจะพบว่ำ ไมว่ ่ำจะใชต้ วั ดำเนินกำร num++ หรือ ++num กต็ ำม ค่ำของ num ท้ำยสุดแลว้ กจ็ ะมคี ำ่ เท่ำกับ 11 เหมือนกนั แต่จะต่ำงกันเพียงวธิ กี ำร จัดกำรกับกำรเพ่มิ ค่ำก่อนหรือกำรเพิ่มคำ่ ทหี่ ลังนน่ั เอง 3. ตวั ดาเนนิ การเปรยี บเทียบ ในภำษำซี จะมีตัวดำเนินกำรที่นำมำใช้เพือ่ กำรเปรียบเทียบ ค่ำ ซ่งึ ประกอบดว้ ย ตัวดาเนนิ การ ความหมาย < นอ้ ยกวำ่ <= น้อยกวำ่ หรือเท่ำกับ > มำกกวำ่ >= มำกกว่ำหรือเท่ำกับ == เท่ำกบั != ไม่เท่ำกับ สำหรับผลลพั ธ์จำกกำรเปรยี บเทยี บ - จะไดค้ ำ่ 1 กรณีเงื่อนไขเปรียบเทียบเป็นจรงิ (True) - จะได้ค่ำ 0 กรณเี ง่ือนไขเปรียบเทียบเป็นเทจ็ (False) ตัวอย่างท่ี 4 โปรแกรมทดสอบกำรใช้ตวั ดำเนินกำรเปรียบเทียบ และผลลพั ธ์ทไี่ ด้ 1: #include <stdio.h> 2: main() 3: { 4: printf(\"100 > 8 = %d\\n\", 100 > 8); 5: printf(\" -5 > 5 = %d\\n\\n\", -5 > 5); 6: 7: int result1, result2; 8: float a = 9.0, b = 9.01; 9: result1 = a > b; 10: result2 = a < b; 11: 12: printf(\"result1 = %d\\n\", result1); 13: printf(\"result2 = %d\\n\", result2); 14: }

คาอธบิ ายโปรแกรม บรรทดั ที่ ความหมาย 4 พมิ พ์ผลลพั ธ์จำกกำรเปรียบเทียบคำ่ 100 > 8 ผลทไ่ี ด้เปน็ จรงิ 5 พมิ พ์ผลลพั ธจ์ ำกกำรเปรยี บเทยี บคำ่ -5 > 5 ผลทไี่ ดเ้ ปน็ เท็จ 7 ประกำสตวั แปร result1 และ result2 มีชนิดขอ้ มลู เปน็ int 8 ประกำศตัวแปร a และ b มีชนดิ ขอ้ มูลเป็น float พรอ้ มกำหนดคำ่ 9 กำหนดให้ result1 เกบ็ ผลลพั ธ์จำกกำรเปรียบเทยี บค่ำ a > b 10 กำหนดให้ result2 เก็บผลลัพธ์จำกกำรเปรียบเทียบค่ำ a < b 12 พมิ พ์คำ่ result1 ผลทีไ่ ด้เป็นเท็จ 13 พมิ พ์คำ่ result2 ผลท่ไี ดเ้ ป็นเท็จ ผลลพั ธ์จากการรันโปรแกรม ภำพที่ 4 ผลลัพธ์จำกกำรรันโปรแกรมตัวดำเนนิ กำรเปรยี บเทยี บ 4. ตวั ดาเนินการตรรกะ นอกจำกตัวดำเนินกำรเปรยี บเทียบแล้ว เรำยงั สำมำรถนำตัว ดำเนนิ กำรตรรกะมำใช้ รว่ มกันได้ ซึ่งตัวดำเนินกำรตรรกะจะประกอบดว้ ย ตวั ดาเนินการ ความหมาย && และ (and) || หรือ (or) ! ไม่ใช่ (not) โดยผลลพั ธจ์ ะเป็นไปตำมตำรำงค่ำควำมจรงิ ดงั นี้ (T = True, F = False) ตวั เปรียบเทียบ ผลลพั ธ์ a b a && b a || b ! a T T T TF TF FTF F T F TT F F F FT

ตวั อย่างท่ี 5 โปรแกรมทดสอบกำรใชต้ ัวดำเนินกำรเปรียบเทียบกับตวั ดำเนินกำรตรรกะและ ผลลัพธ์ทไ่ี ด้ 1: #include <stdio.h> 2: main() 3: { 4: int score = 80; 5: 6: printf(\"%d\\n\", score >=80 && score <90); 7: printf(\"%d\\n\", score !=80 || score > 50); 8: printf(\"%d\\n\", !(score == 80) ); 9: } คาอธบิ ายโปรแกรม บรรทดั ท่ี ความหมาย 4 ประกำศตวั แปร score ใหม้ ีชนิดข้อมูลเปน็ int และมีคำ่ เริ่มต้นเท่ำกับ 80 6 พมิ พ์ผลลัพธจ์ ำกกำรเปรยี บเทยี บคำ่ score >= 80 และ score < 90 ผลท่ไี ด้เปน็ จริง 7 พิมพ์ผลลัพธ์จำกกำรเปรียบเทยี บคำ่ score != 80 หรอื score > 50 ผลทไ่ี ด้เปน็ จริง 8 พมิ พผ์ ลลพั ธ์จำกกำรเปรียบเทียบคำ่ !(score == 80) ผลท่ไี ด้จะได้คำ่ ตรงกนั ขำ้ มคือเทจ็ ผลลัพธจ์ ากการรันโปรแกรม ภำพที่ 5 ผลลัพธ์จำกกำรรนั โปรแกรมตวั ดำเนินกำรตรรกะ 5. ตัวดาเนนิ การกาหนดค่าแบบผสม จำกควำมรทู้ ผี่ ำ่ นมำไดเ้ รยี นรถู้ งึ กำรกำหนดค่ำให้กับ ตัวแปรมำบำ้ งแลว้ แต่ในภำษำซยี งั มตี วั ดำเนนิ กำรกำหนดค่ำแบบผสม (Compound Assignment Operators) ซึ่งประกอบด้วย +=, --=, *=, /= และ %= โดยสำมำรถแสดงไดด้ งั ตวั อยำ่ งต่อไปน้ี

นิพจนท์ ่ีเขยี นแบบท่ัวไป นิพจน์ท่ีใช้ตัวดาเนนิ การกาหนดค่าแบบผสม i=i+5 i += 5 f=f–g f -= g j = j * (i – 3) j *= (i – 3) f=f/3 f /= 3 i = i % (j – 2) i %= (J – 2) 6. ตวั ดาเนนิ การเง่ือนไข ตวั ดำเนนิ กำรเง่ือนไขจะนำมำใช้เพ่ือทดสอบค่ำนิพจน์ทำงตรรกะ วำ่ จรงิ หรอื เท็จโดยมีรูปแบบดังนี้ รปู แบบ expression1 ? expression2 : expression3 โดยท่ี Expression 1 หมำยถงึ นิพจน์เงอ่ื นไข Expression 2 หมำยถงึ นพิ จนก์ รณีเปน็ จรงิ Expression 3 หมำยถึง นพิ จนก์ รณีเปน็ เท็จ ตัวอย่ำงเช่น ตัวอย่างเช่น result = (x < y) ? 0 : 100; หมำยควำมว่ำ ถ้ำมีคำ่ น้อยกว่ำ y - กรณเี ปน็ จรงิ ตัวแปร result จะถกู กำหนดคำ่ ให้เปน็ 0 - กรณีเปน็ เทจ็ ตัวแปร result จะถูกกำหนดค่ำใหเ้ ปน็ 100 ในกำรใช้ตวั ดำเนินกำรเง่ือนไขจะช่วยลดชุดคำสั่งให้กระชับลงได้ ดังน้นั หำกไม่ใช้ตัว ดำเนนิ กำรเง่ือนไขเข้ำมำช่วย ก็จะต้องสร้ำงเงื่อนไขดงั นี้ if (x < y) result = 0; else result = 100; ตวั ดำเนนิ กำรแต่ละตัวจะมีลำดับควำมสำคญั กอ่ นหลังท่แี ตกตำ่ งกนั โดยกำรประมวลผลจะ กระทำกับตวั ดำเนินกำรท่ีมลี ำดบั ควำมสำคญั สงู กอ่ น แต่ถำ้ กรณีทม่ี ลี ำดบั ควำมสำคญั เทำ่ กนั ตำมปกตจิ ะกระทำกบั ตวั ดำเนินกำรจำกซ้ำยไปขวำ กล่ำวคือ จะกระทำกบั ตัวดำเนนิ กำรทพ่ี บก่อน น่นั เอง และต่อไปนีเ้ ป็นลำดับควำมสำคญั ของตวั ดำเนนิ กำรพื้นฐำน

ลาดบั ความสาคญั ตัวดาเนินการ ความหมาย 1 () เครื่องหมำยวงเลบ็ 2 ตัวดำเนนิ กำรเพิ่มค่ำ / ลดคำ่ 3 ++, -- ยนู ำรีลบ และตรรกะ NdddOT 4 -, ! คูณ หำร โมดูลัส 5 *, /, % บวก ลบ +, - ตวั อย่างนิพจนก์ ารคานวณ เชน่ ans = 2 * 3 / 4 + 4 / 4 + 8 – 2 + 5 / 8 จะลำดับกำรคำนวณในแตล่ ะนิพจนไ์ ด้ดังนี้ ans = 2 * 3 / 4 + 4 / 4 + 8 – 2 + 5 / 8 6/4+4/4+8–2+5/8 1+4/4+8–2+5/8 1+1+8–2+5/8 1+1+8–2+0 2+8–2+0 10 – 2 + 0 8+0 8 ภำพท่ี 6 จะลำดบั กำรคำนวณในแต่ละนิพจน์ ทำ้ ยสดุ ผลลัพธ์ที่ได้ คือ 8 อย่ำงไรกต็ ำมนพิ จน์กำรคำนวณสำมำรถเขียนให้ดงู ่ำยข้ึน และ เพ่ือป้องกันกำรคำนวณท่ีผดิ พลำดได้ด้วยกำรใช้เคร่อื งหมำย 0 กำกบั โดยกำรคำนวณจะกระทำใน แต่ละวงเลบ็ ใหเ้ สรจ็ ก่อน ดังตัวอยำ่ งเชน่ income = salary + (ot * RATE) + commission - tax จำกสตู รคำนวณรำยไดข้ ้ำงต้นถึง แมว้ ่ำจะไมใ่ สเ่ ครือ่ งหมำยวงเลบ็ ก็ไดผ้ ลลพั ธ์ที่ถูกต้องเช่นกนั แต่กำรใสว่ งเลบ็ กำกบั จะช่วยใหก้ ำรอ่ำนสูตรคำนวณไดเ้ ข้ำใจงำ่ ยกว่ำ รวมถึงเป็นกำรป้องกนั ข้อผิดพลำดท่ีอำจเกดิ ขน้ึ จำกลำดับกำรคำนวณได้ อย่ำงไรก็ตำมกรณีที่มีวงเล็บซ้อนวงเล็บกำร ประมวลผลจะดำเนนิ กำรที่วงเลบ็ วงในสดุ ก่อน

ในภำษำซี ยังมตี วั ดำเนินกำรท่ีเรยี กวำ่ “การแคสต์ (Casting)” เพอื่ แปลงชนิดข้อมลู จำก ชนิดหน่งึ มำเปน็ อีกชนิดหนึ่งได้ วธิ ที ำกค็ ือใหร้ ะบชุ นดิ ข้อมูลที่ต้องกำรภำยในเคร่ืองหมำยวงเล็บหนำ้ นพิ จน์ทตี่ ้องกำร ตัวอยำ่ งเชน่ float x = 1.20, y = 3.51; in tans; ans = (x + y) % 2; จำกตัวอย่ำง เมื่อคอมไพล์แล้วพบข้อผิดพลำด เนือ่ งจำกผลรวมของ และ y ที โมดลู สั ดว้ ย 2 นั้น จะต้องเป็นค่ำจำนวนเต็มบวก ดงั น้ันสำมำรถเปลีย่ นชนดิ ข้อมลู ของผลรวม x และ y เป็นเลข จำนวนเตม็ ก่อน แลว้ จงึ นำไปโมดูลัสกบั 2 ans = (int) (x + y) % 2; ตัวอย่างท่ี 6 โปรแกรมทดสอบกำรเปล่ยี นชนิดขอ้ มูล 1: #include <stdio.h> 2: main() 3: { 4: float x = 1.20, y = 3.51; 5: int ans; 6: 7: ans = (int) (x + y) % 2; 8: printf(\"ans = %d\", ans); 9: } คาอธบิ ายโปรแกรม บรรทดั ท่ี ความหมาย 4 ประกำศใหต้ ัวแปร x และ y มชี นดิ ขอ้ มูลเป็น float พรอ้ มกำหนดค่ำเริ่มต้น 5 ประกำศให้ตวั แปร ans มชี นดิ ขอ้ มูลเปน็ int สร้ำงสูตรด้วยนำ x กบั y มำรวมกัน ด้วยกำรเปลยี่ นชนิดขอ้ มลู เปน็ int ก่อน 7 จำกน้ันจงึ โมดูลสั ดว้ ย 2 โดยนำผลลพั ธท์ ่ไี ด้เก็บไวท้ ีต่ วั แปร ans พมิ พ์ผลลัพธข์ อง ans ซงึ่ จะมีคำ่ เปน็ 0 เนื่องจำกหำรลงตัว (4 % 2) 8

ผลลัพธจ์ ากการรันโปรแกรม ภำพที่ 7 ผลลัพธ์จำกกำรรนั โปรแกรมโปรแกรมทดสอบกำรเปลี่ยนชนดิ ข้อมลู สรปุ ทา้ ยบท นิพจน์ประกอบด้วย ตวั แปร คำ่ คงที่ และตัวดำเนนิ กำรทำงคณติ ศำสตรม์ ำประกอบรวมกนั ตัวดาเนนิ การพื้นฐานในกาษาซี ประกอบด้วย 1. ตวั ดำเนนิ กำรคณติ ศำสตร์ 2. ตัวดำเนินกำรยูนำรี 3. ตวั ดำเนนิ กำรเปรยี บเทียบ 4. ตัวดำเนนิ กำรตรรกะ 5. ตวั ดำเนินกำรกำหนดค่ำแบบผสม 6. ตวั ดำเนินกำรเงอื่ นไข ตัวดำเนนิ กำรแตล่ ะตวั จะถูกจัดลำดับควำมสำคัญกอ่ นหลังทแ่ี ตกต่ำงกัน โดยกำร คำนวณจะ กระทำกบั ตวั ดำเนนิ กำรทีม่ ลี ำดับควำมสำคญั สูงกอ่ นเสมอ กรณลี ำดบั ควำมสำคัญของตัวดำเนนิ กำรเท่ำกัน โดยปกติกำรประมวลผลจะกระทำ กบั ตวั ตำเนนิ กำรจำกซ้ำยไปขวำ ซ่งึ หมำยถึงจะกระทำกบั ตัวดำเนนิ กำรที่พบก่อนนัน่ เอง ตัวดำเนินกำรท่เี รียกว่ำ “การแคส (Casting)” นำมำใช้เพื่อแปลงชนดิ ข้อมูลจำกชนิด หนง่ึ มำเปน็ อีกชนิดหนึง่ โดยใหร้ ะบุชนดิ ข้อมูลท่ีต้องกำรภำยในเครอ่ื งหมำยวงเลบ็ หน้ำนิพจน์ทตี่ ้องกำร ไปทากิจกรรมกัน ต่อเลยคะนกั เรียน

คาชแี้ จง ให้นักเรียนอ่ำนข้อควำมแต่ละข้อแล้วทำเคร่ืองหมำยถูก  หน้ำข้อที่ถูกและ ทำเคร่ืองหมำยผิด  หน้ำข้อท่ีผิดต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ..............1. ในภำษำซมี ตี ัวดำเนนิ กำรแคห่ น่ึงชนดิ ..............2. สำมำรถใช้ a++ หรอื a-+ ซึ่งมีควำมหมำยเดียวกนั กับนพิ จน์ a = a + 1 ..............3. สำมำรถใช้ b-- หรือ --b ซ่ึงมคี วำมหมำยเดียวกันกับนิพจน์ b = b - 1 ..............4. a++ นำค่ำเดิมของ a ไปใช้งำนก่อนแลว้ จึงเพ่ิมคำ่ a อีกหนึ่ง ..............5. ในภำษำซีจะมตี ัวดำเนินกำรที่นำมำใช้เพื่อกำรเปรียบเทียบคำ่ ..............6. ตวั ดำเนนิ กำรเงอื่ นไขจะนำมำใช้เพื่อทดสอบค่ำนพิ จนท์ ำงคณติ ศำสตร์ ว่ำจรงิ หรอื เท็จ ..............7. กรณที มี่ ลี ำดับควำมสำคญั เท่ำกนั ตำมปกตจิ ะกระทำกับตวั ดำเนินกำรจำกซ้ำยไปขวำ ..............8. กรณที ี่มีลำดับควำมสำคัญเท่ำกันตำมปกตจิ ะกระทำกับตวั ดำเนินกำรจำกขวำไปซ้ำย ..............9. นิพจน์ประกอบด้วยคำ่ คงทีแ่ ละตัวดำเนินกำรทำงคณิตศำสตรร์ วมกัน ..............10. casting คอื ตัวดำเนนิ กำรใช้แปลงชนิดข้อมูลจำกชนดิ หนึ่งมำอกี ชนดิ หนงึ่ สรุปคะแนน สรปุ ผล ผ่าน ไมผ่ ่าน คะแนนเต็ม คะแนนทไี่ ด้ ……………...…. …………………. 10 คะแนน ………………. คะแนน อยา่ ลมื ทวนคาตอบ นะคะนกั เรียน

คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนตอบคำถำมต่อไปน้ใี ห้ถูกต้อง 1. นพิ จน์ทำงคณติ ศำสตร์มีส่วนประกอบอยำ่ งไรบำ้ ง ตอบ ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................ ................................ 2. ตวั ดำเนนิ กำร มสี ว่ นประกอบอย่ำงไรบำ้ ง อธบิ ำยมำพอสงั เขป ตอบ .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... 3. ตัวดำเนินกำรและลำดบั ควำมสำคญั แตกตำ่ งกันอย่ำงไร ตอบ ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................ 4. ใหน้ กั เรียนสรุปตวั ดำเนินกำร casting มำพอสงั เขป ตอบ .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... 5. ใหน้ กั เรียนหำผลลัพธข์ องค่ำ result ตอ่ ไปนี้ให้ถกู ต้อง result = 7 + 2 * 10 ตอบ ............................................................................................................................. ..................... .......................................................................................... ...................................................................... สรปุ คะแนน สรปุ ผล ผา่ น ไม่ผา่ น คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ ……………...…. …………………. 10 คะแนน ………………. คะแนน

คาชีแ้ จง ให้นกั เรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลุ่มดังตอ่ ไปน้ี 1. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็น กลุม่ ละ 4-5 คน เพื่อทำกจิ กรรมกลุ่ม 2. ให้ฝกึ เขยี นโปรแกรมส่ังพิมพ์นิพจน์ตำมตัวอยำ่ งท่กี ำหนดให้เพื่อไลโ่ ปรแกรม 3. ให้วิเครำะหห์ ำผลลพั ธ์ให้ถูกตอ้ ง ตวั อยา่ งโปรแกรม 1: #include <stdio.h> 2: main() 3: { 4: int a = 10, b = 2; 5: 6: printf(\"a = 10, b = 2\\n\\n\"); 7: printf(\"a + b = %d\\n\", a + b); 8: printf(\"a - b – 3 = %d\\n\", a – b - 3); 9: printf(\"a * b = %d\\n\", a * b); 10: printf(\"a / b = %d\\n\", a / b); 11: printf(\"a mod b = %d\\n\", a % b); 12: } ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................. ................... ................................................................................................................ ................................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ สรุปคะแนน สรปุ ผล ผ่าน ไม่ผ่าน คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ ……………...…. …………………. 15 คะแนน ………………. คะแนน

คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลมุ่ ดังตอ่ ไปนี้ 1. ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่มออกเป็น กลมุ่ ละ 4-5 คน เพ่อื ทำกจิ กรรมกล่มุ 2. ให้ฝกึ เขียนโปรแกรมทดสอบนิพจน์ยนู ำรีตำมตวั อย่ำงที่กำหนดใหเ้ พื่อไล่โปรแกรม 3. ใหว้ เิ ครำะหห์ ำผลลพั ธ์ให้ถูกต้อง ตัวอยา่ งโปรแกรม 1: #include <stdio.h> 2: main() 3: { 4: int a = 10, b = 2; 5: 6: printf(\"a = 10, b = 2\\n\\n\"); 7: printf(\"a + b = %d\\n\", a + b); 8: printf(\"-a + b = %d\\n\", -a + b); 9: printf(\"-a * b = %d\\n\", -a / b); 10: printf(\"a - -b = %d\\n\", a - -b); 11: } .................................................................................................................................. .............................. ..................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................................................................. .............................. .................................................................................................... ............................................................ สรปุ คะแนน สรุปผล ผา่ น ไม่ผา่ น คะแนนเต็ม คะแนนทไี่ ด้ ……………...…. …………………. 15 คะแนน ………………. คะแนน

คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนปฏิบัติกิจกรรมดังต่อไปนี้ 1. ชว่ ยกันสรปุ องค์ควำมรู้ 2. สรำ้ งแผนที่ควำมคดิ จำกกำรสรปุ องคค์ วำมรู้ 3. สรปุ องคค์ วำมรใู้ นสมุดบนั ทึกสว่ นตัว 4. นำเสนอแผนทค่ี วำมคิด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรปุ คะแนน สรปุ ผล ผา่ น ไมผ่ ่าน คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ ……………...…. …………………. 15 คะแนน ………………. คะแนน

คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถกู ทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดียวแลว้ ทำเครอื่ งหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ 1. ขอ้ ใดต่อไปนี้ กลำ่ วไม่ถูกต้อง ก. กรณที ี่นิพจน์มเี ครื่องหมำยวงเล็บซอ้ นกนั หลำยๆ ชน้ั นพิ จน์ของวงเล็บวงในสดุ จะไดร้ บั กำรประมวลผลก่อน ข. นพิ จน์ทเี่ ปน็ ผลคณู จะถูกดำเนนิ กำรก่อนนิพจนท์ ีเ่ ป็นผลบวก ค. กรณที ่ลี ำดบั ควำมสำคัญของตวั ดำเนนิ กำรเทำ่ กนั จะกระทำจำกขวำไปซำ้ ยเท่ำนั้น ง. กำรใช้เครื่องหมำยวงเล็บใหก้ ับสูตรคำนวณท่ีซับซอ้ น จะทำให้อำ่ นแล้วเขำ้ ใจไดง้ ่ำยข้ึน 2. นพิ จน์ในภำษำซีตำมข้อใดตอ่ ไปนี้ ไม่ถูกต้อง ข. 3 + a = b; ก. var = 123.56; ง. Txt = ‘T’; ค. this = ‘T’ * 20; 3. สญั ลกั ษณ์ตำมข้อใดต่อไปนี้ สำมำรถผนวกไวใ้ นนิพจน์ได้ ก. { } ข. [ ] ค. ( ) ง. $ 4. ข้อใดต่อไปน้ลี ำดบั ตวั ดำเนินกำรก่อนหลังได้ถกู ต้อง ข. **, *, /, +, - ก. **, * หรอื /, + หรอื - ง. **, /, *, +, - ค. / หรอื *, - หรือ + 5. ถ้ำ a มชี นดิ ข้อมูลเป็น int อยำกทรำบว่ำนิพจนต์ ่อไปน้ี ค่ำ a จะมีคำ่ ตำมข้อใด a = 5 / 2; ก. 0 ข. 3 ค. 2 ง. 2.5

6. จำกนพิ จน์ตอ่ ไปน้ี อยำกทรำบว่ำสว่ นใดจะได้รบั กำรกระทำกอ่ น b = 6.6 / a + 2 * n; ก. 6.6 / a ข. a + 2 ค. 6.6 / a + 2 ง. 2 * n 7. ขอ้ ใดกล่ำวได้ถูกตอ้ ง เก่ียวกับตัวดำเนินกำรเพม่ิ คำ่ และลดค่ำทีละหนึง่ ก. ตวั ดำเนนิ กำรทงั้ สองจดั เป็นตวั ดำเนินกำรแบบยนู ำรี ข. ท้ังสองรูปแบบสำมำรถมีได้ท้งั แบบ prefix ค. b-+ และ b++ มีคำ่ เท่ำกนั ง. +-a และ a++ มคี วำมหมำยเดียวกนั กบั a = a + 1 8. Casting หมำยถงึ ข้อใด ก. กำรลำดับตัวเลขให้เทำ่ กับ ข. กำรแปลงชนิดข้อมูลจำกชนดิ หนง่ึ มำเป็นอีกชนดิ หนงึ่ ค. คอื กำรปัดเศษคำ่ ตัวเลขจำกเลขจำนวนเตม็ มำเป็นเลขจำนวนเตม็ ง. คือกำรประกำศตวั แปรชนิดหน่งึ 9. ข้อใดไม่ใช่ตวั ดำเนินกำร ก. ตัวดำเนินกำรทำงคณิตศำสตร์ ข. ตัวดำเนินกำรรปู ภำพ ค. ตัวดำเนนิ กำรยูนำรี ง. ตัวดำเนินกำรตรรกะ 10. ขอ้ ใด คือ ตัวดำเนินกำรตรรกะ ก. && ข. /* ค. ++ ง. // สู้ๆ นะคะนักเรียน

คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคำตอบเดียวแลว้ ทำเคร่อื งหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ ข้อ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. สรุปคะแนน สรุปผล ผา่ น ไม่ผ่าน คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้ ……………...…. …………………. 10 คะแนน ………………. คะแนน



คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถกู ที่สดุ เพยี งคำตอบเดียวแล้วทำเคร่อื งหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ ขอ้ ก ข ค ง 1.  2.  3.  4.  5.  6.  7.  8.  9.  10.  ตอบถูกกีข่ อ้ คะ

คาชแ้ี จง ให้นักเรียนอ่ำนข้อควำมแต่ละข้อแล้วทำเคร่ืองหมำยถูก  หน้ำข้อท่ีถูกและ ทำเครื่องหมำยผิด  หน้ำข้อท่ีผิดต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ……..…. 1. ในภำษำซมี ีตัวดำเนินกำรแคห่ น่ึงชนดิ ..…..…. 2. สำมำรถใช้ a++ หรอื a-+ ซึง่ มีควำมหมำยเดียวกันกับนพิ จน์ a = a + 1 ……..…. 3. สำมำรถใช้ b-- หรือ --b ซง่ึ มคี วำมหมำยเดยี วกนั กบั นพิ จน์ b = b - 1 ……..…. 4. a++ นำคำ่ เดิมของ a ไปใชง้ ำนก่อนแล้วจงึ เพม่ิ คำ่ a อีกหน่ึง ……..…. 5. ในภำษำซจี ะมีตวั ดำเนินกำรทน่ี ำมำใชเ้ พื่อกำรเปรยี บเทียบค่ำ ..…..…. 6. ตวั ดำเนนิ กำรเงื่อนไขจะนำมำใชเ้ พ่ือทดสอบค่ำนพิ จน์ทำงคณติ ศำสตร์ วำ่ จริงหรอื เทจ็ ……..…. 7. กรณีที่มีลำดบั ควำมสำคัญเท่ำกนั ตำมปกติจะกระทำกับตัวดำเนินกำรจำกซำ้ ยไปขวำ ..…..…. 8. กรณีที่มลี ำดับควำมสำคญั เท่ำกนั ตำมปกตจิ ะกระทำกับตัวดำเนินกำรจำกขวำไปซำ้ ย ..…..…. 9. นพิ จน์ประกอบด้วยค่ำคงท่ีและตวั ดำเนินกำรทำงคณิตศำสตรร์ วมกนั ……..…. 10. casting คอื ตัวดำเนินกำรใชแ้ ปลงชนดิ ข้อมูลจำกชนดิ หนึง่ มำอีกชนดิ หนึ่ง สู้ๆ นะคะนักเรียน

คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคำถำมต่อไปน้ใี ห้ถกู ต้อง 1. นิพจน์ทำงคณติ ศำสตร์มีสว่ นประกอบอย่ำงไรบำ้ ง ตอบ ประกอบด้วย ตัวแปร ค่ำคงท่ี และตวั ดำเนินกำรทำงคณติ ศำสตรม์ ำประกอบรวมกัน 2. ตวั ดำเนินกำร มสี ว่ นประกอบอยำ่ งไรบำ้ ง อธบิ ำยมำพอสังเขป ตอบ 1. ตัวดำเนินกำรคณติ ศำสตร์ 2. ตวั ดำเนนิ กำรยูนำรี 3. ตวั ดำเนนิ กำรเปรยี บเทียบ 4. ตัวดำเนนิ กำรตรรกะ 5. ตวั ดำเนินกำรกำหนดค่ำแบบผสม 6. ตัวดำเนินกำรเงอ่ื นไข 3. ตัวดำเนนิ กำรและลำดับควำมสำคญั แตกต่ำงกนั อย่ำงไร ตอบ ตัวดำเนินกำรแต่ละตัวจะมีลำดับควำมสำคัญกอ่ นหลงั ที่แตกต่ำงกนั จะกระทำกบั ตัว ดำเนินกำรที่พบก่อนนน่ั เอง 4. ใหน้ ักเรยี นสรปุ ตวั ดำเนนิ กำร casting มำพอสงั เขป ตอบ นำมำใช้เพื่อแปลงชนดิ ข้อมลู จำกชนิดหนง่ึ มำเปน็ อกี ชนดิ หนึ่ง โดยระบุชนดิ ขอ้ มูลทตี่ อ้ งกำร ภำยในเครื่องหมำยวงเลบ็ หนำ้ นพิ จนท์ ี่ต้องกำร 5. ใหน้ กั เรียนหำผลลพั ธ์ของค่ำ result ตอ่ ไปน้ีให้ถูกต้อง result = 7 + 2 * 10 ตอบ ผลลัพธ์ของคำ่ result คือ 27

คาช้แี จง ให้นักเรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุ่มดังตอ่ ไปนี้ 1. ให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น กลมุ่ ละ 4-5 คน เพื่อทำกิจกรรมกลุ่ม 2. ใหฝ้ กึ เขยี นโปรแกรมสั่งพิมพ์นพิ จนต์ ำมตวั อยำ่ งทกี่ ำหนดใหเ้ พ่ือไลโ่ ปรแกรม 3. ใหว้ เิ ครำะห์หำผลลพั ธ์ให้ถูกต้อง เกณฑ์การประเมนิ คาชีแ้ จง โปรดทำเครอื่ งหมำย  ลงในช่องวำ่ งตำมระดับคะแนนที่เป็นจรงิ ระดับคะแนน 3 ระดบั ดังนี้ 3 คะแนน หมำยถงึ ดี 2 คะแนน หมำยถึง พอใช้ 1 คะแนน หมำยถงึ ควรปรับปรงุ รายการประเมนิ ระดับคะแนน หมายเหตุ 321 1. ปฏบิ ตั ิตำมขน้ั ตอนอยำ่ งถูกตอ้ งและครบถว้ น 2. อธิบำยข้ันตอนได้อย่ำงถูกตอ้ งและชดั เจน 3. แก้ไขปัญหำและสถำนกำรณไ์ ด้อย่ำงสร้ำงสรรค์ 4. ทำงำนเสร็จเรยี บร้อยตำมเวลำกำหนด 5. สนใจศึกษำหำควำมรูเ้ พ่ิมเตมิ ดว้ ยตนเอง รวม เกณฑก์ ารประเมนิ ตอ้ งผำ่ นรอ้ ยละ 80 ข้ึนไป หรือ 12 คะแนนข้นึ ไป  ผำ่ น  ไม่ผำ่ น ลงชื่อ..........................................ผูป้ ระเมนิ (..........................................)

คาชี้แจง ให้นักเรยี นปฏบิ ัติกิจกรรมกลมุ่ ดังต่อไปน้ี 1. ให้นักเรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น กลมุ่ ละ 4-5 คน เพอื่ ทำกจิ กรรมกล่มุ 2. ใหฝ้ กึ เขยี นโปรแกรมทดสอบนพิ จนย์ ูนำรตี ำมตวั อยำ่ งท่ีกำหนดให้เพื่อไลโ่ ปรแกรม 3. ใหว้ ิเครำะห์หำผลลัพธ์ใหถ้ ูกต้อง เกณฑ์การประเมนิ คาช้แี จง โปรดทำเครอ่ื งหมำย  ลงในช่องว่ำงตำมระดับคะแนนทีเ่ ปน็ จรงิ ระดับคะแนน 3 ระดับ ดงั น้ี 3 คะแนน หมำยถึง ดี 2 คะแนน หมำยถึง พอใช้ 1 คะแนน หมำยถงึ ควรปรับปรงุ รายการประเมิน ระดบั คะแนน หมายเหตุ 321 1. ปฏบิ ตั ติ ำมขน้ั ตอนอย่ำงถูกตอ้ งและครบถ้วน 2. อธบิ ำยข้นั ตอนได้อย่ำงถูกตอ้ งและชัดเจน 3. แก้ไขปัญหำและสถำนกำรณไ์ ด้อยำ่ งสร้ำงสรรค์ 4. ทำงำนเสรจ็ เรียบรอ้ ยตำมเวลำกำหนด 5. สนใจศึกษำหำควำมร้เู พิ่มเติมด้วยตนเอง รวม เกณฑก์ ารประเมนิ ตอ้ งผ่ำนรอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป หรอื 12 คะแนนข้ึนไป  ผำ่ น  ไม่ผ่ำน ลงช่อื ..........................................ผู้ประเมนิ (..........................................)

คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นปฏิบัตกิ ิจกรรมดังต่อไปนี้ 1. ชว่ ยกนั สรปุ องคค์ วำมรู้ 2. สร้ำงแผนที่ควำมคดิ จำกกำรสรุปองค์ควำมรู้ 3. สรปุ องคค์ วำมรใู้ นสมุดบันทกึ ส่วนตัว 4. นำเสนอแผนทค่ี วำมคดิ เกณฑ์การประเมนิ คาช้แี จง โปรดทำเครอื่ งหมำย  ลงในชอ่ งว่ำงตำมระดับคะแนนทเ่ี ป็นจริง ระดบั คะแนน 3 ระดบั ดงั นี้ 3 คะแนน หมำยถงึ ดี 2 คะแนน หมำยถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมำยถึง ควรปรบั ปรุง รายการประเมิน ระดบั คะแนน หมายเหตุ 321 1. สรปุ องค์ประกอบควำมรูไ้ ด้ชัดเจนและครบถว้ น 2. บอกควำมสำคญั ได้ตรงประเด็น 3. สะอำด เรยี บรอ้ ย และสวยงำม 4. ควำมคิดสรำ้ งสรรค์ 5. ควำมกล้ำแสดงออกในกำรนำเสนองำน รวม เกณฑก์ ารประเมิน ตอ้ งผำ่ นร้อยละ 80 ขนึ้ ไป หรือ 12 คะแนนขน้ึ ไป  ผำ่ น  ไมผ่ ำ่ น ลงช่ือ..........................................ผูป้ ระเมนิ (..........................................)

คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกท่ีสุดเพยี งคำตอบเดียวแลว้ ทำเครอ่ื งหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ ข้อ ก ข ค ง 1.  2.  3.  4.  5.  6.  7.  8.  9.  10.  ตอบถูกก่ีข้อคะ

การประเมนิ คะแนนเต็ม คะแนนทไ่ี ด้ ความกา้ วหนา้ แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลงั เรียน 10 เกณฑ์การประเมิน 10 ตอ้ งผ่ำนร้อยละ 80 ขนึ้ ไป หรอื 8 คะแนนขึน้ ไป  ผำ่ น  ไม่ผำ่ น การประเมิน คะแนนเต็ม คะแนนทไี่ ด้ คา่ เฉล่ีย S.D. ร้อยละ กจิ กรรมที่ 1 10 กจิ กรรมที่ 2 10 กิจกรรมที่ 3 15 กิจกรรมที่ 4 15 กจิ กรรมที่ 5 15 รวม 65 เกณฑ์การประเมนิ ตอ้ งผ่ำนร้อยละ 80 ขึน้ ไป หรอื 52 คะแนนขึ้นไป  ผำ่ น  ไม่ผำ่ น ลงชอ่ื ..........................................ผปู้ ระเมนิ (..........................................)

กรมวิชำกำร กระทรวงศึกษำธิกำร. (2545). หลักสตู รการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2544. กรงุ เทพฯ : ครุ ุสภำลำดพรำ้ ว. กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร (2551) หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551. สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขัน้ พืน้ ฐำน กรุงเทพฯโรงพมิ พ์ชมุ ชมุ สหกรณ์ ________. (2552). มาตรฐานและตัวชี้วัด ตามกลุ่มสาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ : ชุมนมุ สหกรณ์ กำรเกษตรแหง่ ประเทศไทย. ________. (2560). มาตรฐานและตัวชว้ี ัด ตามกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560. กรุงเทพฯ : ชมุ นุมสหกรณก์ ำรเกษตรแห่งประเทศไทย. ครรชิต มำลยั วงศ์ และวชิ ติ ปุณวัตร์. (2532). เทคนคิ การออกแบบโปรแกรม. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชนั่ . ธีรวฒั น์ ประกอบผล. (2562). คู่มือการเขียนโปรแกรมภาษา C ฉบับสมบูรณ์. กรงุ เทพฯ : ซเี อ็ดยูเคช่ัน. นรำธร สังข์ประเสริฐ. (2562). การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาซี. กรุงเทพฯ : ซเี อด็ ยูเคช่ัน. พิสณุ ฟองศรี. (2556). การสร้างและพัฒนาเครื่องมอื วิจัย. กรงุ เทพฯ : ดำ่ นสุทธำกำรพมิ พ์. ______. (2556). การวิจยั การศึกษา. กรุงเทพฯ : ดำ่ นสุทธำกำรพิมพ.์ ฝำ่ ยตำรำวิชำกำรคอมพิวเตอร์. (2558). การเขียนโปรแกรมเบ้อื งตน้ (ภาษาซี). กรุงเทพฯ : ซเี อ็ด ยูเคช่นั . วรรณวิภำ จำเรญิ ดำรำรัศมี. (2539). วิทยาการคอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งต้น. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชน่ั . สำลี รักสุทธ.ี (2553). การจดั ทาส่ือนวัตกรรมและแผนประกอบสื่อนวัตกรรม. นนทบุรี : เพมิ่ ทรพั ย์ สุพจน์ สงำ่ กอง และปิยะ นำกสงค์. (2561). คู่มือการเขียนโปรแกรมภาษา C++. กรงุ เทพฯ : ซีเอด็ ยเู คช่ัน. สวุ ิทย์ มูลคำ. (2550). กลยุทธก์ ารสอนคดิ วิเคราะห.์ กรุงเทพฯ: ภำพพิมพ.์ โอภำส เอ่ยี มสิริวงศ์. (2552). การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C (Programming with C). กรุงเทพฯ : ซเี อด็ ยูเคชัน่ . ______. (2557). การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C. กรุงเทพฯ : ซีเอด็ ยูเคช่นั .

ขอ้ มูลท่ัวไป ช่อื – สกลุ นำงรพพี ร นำมมุลตรี วัน เดือน ปีเกดิ 19 มนี ำคม พ.ศ. 2515 ทอี่ ยู่ปัจจุบัน 110 หมูท่ ่ี 20 ตำบลเขวำ อำเภอเมือง จงั หวดั มหำสำรคำม รหสั ไปรษณีย์ 44000 E-mail [email protected] เบอรโ์ ทร 081-975-2310 การปฏบิ ตั ิงานปัจจบุ ัน ตาแหนง่ ครู วิทยฐำนะ ครูชำนำญกำรพเิ ศษ สถานท่ที างานปัจจุบนั โรงเรียนนำโพธ์ิพิทยำสรรพ์ ตำบลนำโพธ์ิ อำเภอกุดรงั จงั หวัดมหำสำรคำม รหัสไปรษณยี ์ 44130 สำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำมัธยมศกึ ษำ เขต 26 ประวตั ิการศึกษา จบ พ.ศ. 2537 หลกั สตู รวทิ ยำศำสตรบณั ฑิต สำขำวชิ ำวิทยำกำรคอมพิวเตอร์ มหำวทิ ยำลยั ศลิ ปำกร (วทิ ยำเขตพระรำชวังสนำมจันทร์) อำเภอเมือง จังหวดั นครปฐม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook