หนา้ ทพ่ี ลเมือง และ ศีลธรรม รหสั วชิ า 20000 - 1501
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 สถาบันทางสังคม สาระการเรียนรู้ • ความรู้พ้นื ฐานของสถาบนั สงั คม • สถาบนั ครอบครัว • สถาบนั การศึกษา • สถาบนั ศาสนา • สถาบนั เศรษฐกิจ • สถาบนั การเมืองการปกครอง • สถาบนั ส่ือสารมวลชน • สถาบนั นนั ทนาการ
1. ความรู้พนื้ ฐานของสถาบันสังคม ความหมายของสถาบันทางสังคม กล่าวโดยสรุป หมายถึงรูปแบบท่ีมนุษยใ์ นสังคม กาหนดหรือสร้างข้ึนเพราะเห็นว่ามีประโยชน์และจาเป็ นต่อชีวิต และเพ่ือควบคุม พฤติกรรมของคนในสังคมโดยต้งั กฎเป็ นชุดมาตรฐานของบรรทดั ฐานทางสังคม ซึง ไดอ้ อกแบบโดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื รักษาคุณค่าทางสังคม
ลักษณะของสถาบันทางสังคม 1. เป็นสิ่งท่ีอยนู่ อกมนุษย์ เป็นนามธรรม 2. เป็นส่ิงท่ีไดร้ ับการยอมรับจากคนทว่ั ไป 3. มีอานาจบงั คบั ใหม้ นุษยป์ ฏิบตั ิตามแบบแผนสถาบนั 4. มีความคงทนถาวร กล่าวคือ มีมาต้งั แตอ่ ดีตจนถึงปัจจุบนั และตอ่ ไปในอนาคต
องคป์ ระกอบของสถาบันสังคม 1. องคก์ ารทางสงั คม ในแต่ละสถาบนั สงั คมจะประกอบดว้ ยกลุ่มคนต่างๆเช่นสถาบนั ครอบครัวจะประกอบดว้ ยพอ่ แม่ลูกญาติพีน่ อ้ งสถาบนั การศึกษาจะประกอบดว้ ยผอู้ านวยการ ครูอาจารยน์ กั เรียนคนงานเป็นตน้ 2. สถานภาพและบทบาท ในแต่ละสถาบนั สงั คมจะประกอบดว้ ยผคู้ นที่มีตาแหน่งความ รับผดิ ชอบหรือที่เรียกวา่ สถานภาพ 3. หนา้ ท่ี แต่ละสถาบนั สงั คมต่างกม็ ีหนา้ ท่ีเพอ่ื ทาใหส้ งั คมคงสภาพและสนองความตอ้ งการ ของสมาชิกในสงั คม 4. บรรทดั ฐานทางสังคม สถาบนั สงั คมจะประกอบดว้ ยกลุ่มของบรรทดั ฐานเพ่ือเป็นหลกั การ ปฎิบตั ิกิจกรรมต่างๆเช่นสถาบนั การศึกษาจะกาหนดแนวการปฎิบตั ิเก่ียวกบั การรับนกั เรียนการ เรียนการสอน
สถาบนั ครอบครัว ความหมายของสถาบันครอบครัว ครอบครัวเป็ นกลุ่มบุคคลท่ีมี ความสมั พนั ธก์ นั โดยสายเลือด การสมรส หรือการรบั เลีย้ งเป็นบตุ รบญุ ธรรม บคุ คล ในครอบครวั เดียวกันจะมีความผกู พนั ทางอารมณแ์ ละจิตใจในการใชช้ ีวิตร่วมกัน ตลอดจนมีปฏสิ มั พนั ธต์ ามบทบาทหนา้ ท่ีและพง่ึ พิงกนั ทางเศรษฐกิจและสงั คม
ครอบครัวเด่ียว ประเภทของ สถาบนั ครอบครัว ครอบครัวขยาย
ครอบครัวเดี่ยว • คือครอบครัวที่มีสมาชิกในครอบครัว ประกอบดว้ ยพ่อแม่ลูกส่วนใหญ่ครอบครัว เด๋ียวจะอาศยั อยใู่ นสงั คมเมือง ครอบครัวขยาย • คือครอบครัวที่มีสมาชิกมาแต่ด้ังเดิม สมาชิกของครอบครัวขยายประกอบดว้ ย ป่ ูยา่ ตายายหรือญาติคนอ่ืนซ่ึงอาศยั อยตู่ าม สงั คมชนบทและชานเมือง
ลกั ษณะของครอบครัวไทย ครอบครัวไทย ครอบครัวไทย ครอบครัวไทยส่วน เป็ นครอบครัวที่มี เป็ นครอบครัวที่ ใหญ่เป็ นครอบครัว ใหค้ วามสาคญั กบั ความผกู พนั ท่ียดึ มนั่ ใน ระหวา่ งเครือญา ผอู้ าวโุ ส หลกั ธรรมหรือคา ตอยา่ งใกลช้ ิด สอนทางศาสนา รวมถึง ขนบธรรมเนียม ประเพณี
ครอบครัวเป็ น ครอบครัวเป็ น ครอบครัวเป็ น ตน้ กาเนิดของ สถาบนั สถาบนั ที่สามารถ บุคลิกและ ตอบสนองความ คุณลกั ษณะ พ้นื ฐานของ ตอ้ งการพ้นื ฐาน ของสมาชิก การศึกษา ของ ของมนุษยไ์ ดใ้ น สงั คม ทุกระดบั
หนา้ ที่ของสถาบนั ครอบครัว หนา้ ที่ทางชีวภาพและจิตวทิ ยา ป้องกนั และดูแล หนา้ ที่ดา้ นสงั คมและเศรษฐกิจ หนา้ ท่ีทางวฒั นธรรมและศาสนา
สถาบันการศึกษา สถาบนั การศึกษาเป็ นสถาบนั สาหรับการพฒั นามนุษยต์ ่อ จากสถาบนั ครอบครัว มีจุดมุ่งหมายในการที่จะทาให้สมาชิกใน สังคมเกิดการเรี ยนรู้ มีความรู้ความสามารถเป็ นบุคคลท่ี ประกอบดว้ ยคุณธรรมศีลธรรมและวฒั นธรรม
สถาบนั การศึกษา สถาบนั การศึกษา ที่เป็นทางการ ที่ไม่เป็นทางการ
บทบาทใน เป็ นแหล่ง เลือกสรร ผสม การขดั เกลา เรียนรู้ และกาหนด กลมกลืน ทางสงั คม ถ่ายทอด บทบาทของ ทางสงั คม ความรู้ สมาชิกใน เพื่อให้ ความสามา และ สมาชิกมี รถทกั ษะ สังคม วฒั นธรรม คนลกั ษณะ และ ตามที่สังคม เทคโนโลยี ตอ้ งการ
ระบบการศึกษาใน ประเทศไทย การจดั การศึกษา การแบ่งระดบั การศึกษา
หนา้ ที่ของสถาบนั ศาสนา
บรรทดั ฐานทางสงั คม สถาบนั ทางศาสนาจะกาหนด หลกั คาสอนและแนวการปฏิบตั ิ ของสมาชิกเช่น การละหมาด 5 เวลา การถือศีลอด การใหท้ าน การประกอบพธิ ีฮจั ญเ์ ป็นตน้
สถาบนั เศรษฐกิจ คอื กลุ่มของระเบยี บกฎเกณฑ์หรอื ระบบ ความสัมพนั ธท์ างสังคมในกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ ซึง่ หมายถึงการผลติ สนิ ค้าบริการการอปุ โภคและ บริโภคการแลกเปลีย่ นหรอื การค้าขายในดา้ นปจั จยั 4 และการบรกิ ารในด้านสง่ิ อานวยความสะดวก ตา่ งๆในการดาเนินชีวิต
บทบาทและความสาคญั ของสถาบนั เศรษฐกิจ
หนา้ ท่ีของสถาบนั เศรษฐกิจ สถาบนั การเงิน อื่นๆเช่นบริษทั ประกนั ภยั ให้ ความคุม้ ครอง ปัจจยั เสี่ยงต่างๆ นอกเหนือจาก การใหโ้ อกาส ในการลงทุน และการใหก้ ยู้ มื
สถาบนั การเมืองการปกครอง หมายถึงองคก์ รท่ีมีบุคคลหรือกลุม่ คนเขา้ มาดาเนินกิจกรรมทางการเมืองร่วมกนั โดยมี ระเบียบแบบแผนกฎเกณฑก์ ระบวนการและวธิ ีการดาเนินงานท้งั ในส่วนที่เป็นแบบ แผนและในส่วนที่ไม่เป็นแบบแผนใหบ้ รรลุเป้าหมายขององคก์ รน้นั ๆโดยชอบธรรม
องคก์ รสาคญั ท่เี ก่ียวเน่ืองกบั สถาบนั การเมืองการปกครองไดแ้ ก่ • ฝ่ ายนิติบญั ญตั ิทาหนา้ ที่ออกกฎหมายเช่นรัฐสภา • ฝ่ ายบริหารทาหนา้ ที่บริหารจดั การกิจการของประเทศเช่นคณะรัฐบาล • ฝ่ ายตุลาการทาหนา้ ท่ีใหค้ วามเป็นธรรมวนิ ิจฉยั ความผดิ เช่นศาลช้นั ตน้ ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา
บทบาทและความสาคญั ของสถาบนั การเมืองการปกครอง • เป็นสถาบนั ท่ีสร้างระเบียบกฎเกณฑใ์ หแ้ ก่สังคม • ใหห้ ลกั ประกนั ในเรื่องสิทธิและเสรีภาพแก่สมาชิกในสังคม • วนิ ิจฉยั ขอ้ ขดั แยง้ ระหวา่ งสมาชิกในสังคม • วางแผนและกาหนดนโยบายในการบริหารประเทศ • ป้องกนั รักษาและใหค้ วามคุม้ ครองสมาชิกในสังคมใหม้ ีความปลอดภยั
หนา้ ท่ีของสถาบนั การเมืองการปกครอง • ดารงรักษาและบูรณาการสังคมโดยการกาหนดบรรทดั ฐานสังคม • ปรับและเปล่ียนแปลงองคป์ ระกอบของระบบสงั คม • ปกป้องความมน่ั คงของระบบการเมืองจากภยั คุกคามภายนอก
สถาบนั ส่อื มวลชน เป็นสถาบนั ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนผา่ นส่ือต่างๆเช่น โทรทศั นว์ ทิ ยหุ นงั สือพิมพเ์ ป็นตน้ เพอ่ื ใหไ้ ดร้ ับทราบขอ้ มูล
บทบาทและความสาคญั ของสถาบนั ส่อื สารมวลชน • ถา่ ยทอดขอ้ มูลขา่ วสารใหป้ ระชาชนรับทราบ • นาเสนอความคิดเห็นของประชาชนออกสู่สาธารณชน • ช่วยตรวจสอบความเป็นธรรมในสังคม • ใหค้ วามบนั เทิงแก่คนในสังคมในรูปแบบต่างๆ
สถาบนั นนั ทนาการ พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถานพทุ ธศกั ราช 2554 ไดค้ วามหมายของ นนั ทนาการไวว้ า่ กิจกรรมที่ทาตามสมคั รใจในยามวา่ งเพ่ือใหเ้ กิดความสนุกสนาน เพลิดเพลินและผอ่ นคลายความตึงเครียดการสราญใจ ดงั น้นั สถาบนั นนั ทนาการจึงเป็นสถาบนั ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การพกั ผอ่ นดว้ ย วธิ ีการต่างๆเช่นการสร้างงานศิลปะการเลน่ กีฬาการเลน่ ดนตรี
บทบาทและความสาคญั ของสถาบนั นนั ทนาการ • ทาใหค้ นในสงั คมใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์และอาจสร้างรายไดเ้ สริมได้ • ผอ่ นคลายความตึงเครียด • ลดปัญหาต่างๆทางสังคมเช่นปัญหาการติดยาเสพติดปัญหาอาชญากรรม
สรุป การศึกษาสงั คมมนุษยน์ ้นั จาเป็นตอ้ งเรียนรู้ถึงโครงสร้างทางสังคมเพอื่ ให้ สามารถมองเห็นลกั ษณะและระบบและสถาบนั สังคมอยา่ งชดั เจนสามารถเขา้ ใจ กลไกลการจดั ระเบียบทางสังคมที่ยดึ โยงสังคมใหด้ ารงอยแู่ ละมีเอกลกั ษณ์เฉพาะของ แตล่ ะสงั คม
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: