Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เทคนิคการตรวจสอบฐานข้อมูลระดับนานาชาติเพื่อเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ สำหรับบุคลากรสายวิชาการ

เทคนิคการตรวจสอบฐานข้อมูลระดับนานาชาติเพื่อเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ สำหรับบุคลากรสายวิชาการ

Published by pes_1998, 2021-11-23 08:42:35

Description: เทคนิคการตรวจสอบฐานข้อมูลระดับนานาชาติเพื่อเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ สำหรับบุคลากรสายวิชาการ

Search

Read the Text Version

หลกั เกณฑ์และวธิ ีการพจิ ารณาแตง่ ต้ังบุคคลให้ดารง ตาแหนง่ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารยแ์ ละศาสตราจารย์ หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวชิ าการ สาหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2562 หลักเกณฑก์ ารขอกาหนดตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารยแ์ ละศาสตราจารย์

1 หลกั เกณฑ์และวิธีการพจิ ารณา แต่งตง้ั บุคคลให้ดารงตาแหนง่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์

หลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการพจิ ารณา ผลงานทางวิชาการ แต่งตัง้ บคุ คลให้ดารงตาแหนง่ และ ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ การเผยแพร่ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์

ฉบบั ท่ี 1 ประกาศ ณ วนั ที่ 16 ตุลาคม 2564 ฉบับท่ี 2 ประกาศ ณ วนั ท่ี 24 ตลุ าคม 2561

ฉบบั ที่ 1 ประกาศ ณ วนั ที่ 28 พฤษภาคม 2563 ฉบบั ท่ี 2 พ.ศ. 2563 ประกาศ ณ วนั ท่ี 8 กรกฎาคม 2563 ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2563 ประกาศ ณ วันท่ี 25 พฤศจิกายน 2563 ฉบบั ที่ 4 พ.ศ. 2564 ประกาศ ณ วนั ที่ 26 เมษายน 2564

ประกาศ ก.พ.อ. เรื่องหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารพจิ ารณาแต่งต้งั บุคคลให้ดารงตาแหนง่ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์และศาสตราจารย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 (ประกาศ ณ วนั ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563)

ประกาศ ก.พ.อ. เรือ่ งหลักเกณฑ์และวิธกี ารพจิ ารณาแต่งตั้งบุคคลใหด้ ารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์และศาสตราจารย์ (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2564 (ประกาศ ณ วันท่ี 26 เมษายน พ.ศ. 2564) 12

ประกาศ ก.พ.อ. เรื่องหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารพจิ ารณาแต่งต้งั บุคคลให้ดารงตาแหนง่ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์และศาสตราจารย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564 (ประกาศ ณ วนั ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2564)

2 หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสาร ทางวชิ าการ สาหรับการเผยแพร่ ผลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2562

ประกาศ ก.พ.อ. เรอื่ งหลักเกณฑก์ ารพิจารณาวารสารทางวชิ าการ สาหรบั การเผยแพร่ผลงานทางวชิ าการ พ.ศ. 2562 (ประกาศ ณ วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2562)

ประกาศ ก.พ.อ. เรอื่ งหลักเกณฑก์ ารพิจารณาวารสารทางวชิ าการ สาหรบั การเผยแพร่ผลงานทางวชิ าการ พ.ศ. 2562 (ประกาศ ณ วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2562)

https://mjl.clarivate.com/search-results

https://www.scopus.com

https://www.scimagojr.com/

3 หลักเกณฑ์การขอกาหนดตาแหนง่ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์

2 ผลการสอน คุณสมบตั เิ ฉพาะตาแหน่ง 1 3 ผลงานทางวชิ าการ จรยิ ธรรมและ 4 จรรยาบรรณทางวชิ าการ

1 คุณวฒุ ิ ขอ ผศ. ขอ รศ. ขอ ศ. ปริญญาตรี 6 ปี ดารงตาแหนง่ ดารงตาแหนง่ ปรญิ ญาโท 4 ปี ผศ. รศ. ปรญิ ญาเอก 1 ปี ไมน่ อ้ ยกวา่ 2 ปี ไมน่ อ้ ยกวา่ 2 ปี

2 คุณวุฒิ ขอ ผศ. ขอ รศ. ขอ ศ. ชั่วโมงสอน มี มี มี การสอน ชานาญ ชานาญพิเศษ - เอกสาร* คุณภาพดี - คุณภาพดี *เอกสาร ไดใ้ ช้ประกอบการสอนมาแล้ว โดยผ่านการประเมนิ จากคณะกรรมการพจิ ารณา ตาแหน่งทางวชิ าการตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการที่กาหนดในขอ้ บงั คบั ของสภาฯ

3 ตามเอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. งานวจิ ัย 12 ผลงานวชิ าการในลกั ษณะอื่น ผลงานวิชาการรับใชส้ งั คม ตารา / หนงั สือ ประเภทผลงาน บทความทางวิชาการ ทางวชิ าการ 43

เกณฑ์ 3 2560  ผลงานวิจัย 2 เร่อื ง (ด)ี  ผลงานวิจยั 1 เรอ่ื ง + ผลงานวชิ าการในลักษณะอนื่ 1 รายการ (ดี)  ผลงานวิจยั 1 เร่ือง + ผลงานวชิ าการรบั ใช้สังคม 1 เรอื่ ง (ด)ี  ผลงานวิจยั 1 เร่อื ง + ตารา/หนงั สอื 1 เลม่ (ดี)  สาขาวิชาทางสังคมศาสตร์และมนษุ ยศาสตร์ อาจใช้ผลงานทางวิชาการในลกั ษณะอน่ื / ผลงานวิชาการ รับใช้สงั คม / บทความทางวชิ าการ (ดมี าก) แทนผลงานวิจัยได้ ผลงานทางวิชาการต้องได้รับการเผยแพร่ ตามหลกั เกณฑ์ท่ี ก.พ.อ. กาหนด และผา่ นการประเมนิ คุณภาพ โดยคณะกรรมการผูท้ รงคณุ วฒุ ิ (peer reviewer) ทีม่ าจากหลากหลายสถาบัน

เกณฑ์ 3 2560  ตารา/หนงั สือ 1 เลม่ + ผลงานวิจัย 2 เรอ่ื ง (ดี)  ตารา/หนงั สอื 1 เลม่ + ผลงานวิจยั 1 เรื่อง + ผลงานวิชาการในลกั ษณะอน่ื 1 รายการ (ด)ี  ตารา/หนังสอื 1 เล่ม + ผลงานวจิ ัย 1 เร่อื ง + ผลงานวชิ าการรบั ใช้สังคม 1 เร่อื ง (ด)ี ผลงานทางวิชาการต้องได้รบั การเผยแพร่ ตามหลักเกณฑท์ ี่ ก.พ.อ. กาหนด และผา่ นการประเมินคุณภาพ โดยคณะกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิ (peer reviewer) ท่ีมาจากหลากหลายสถาบนั

เกณฑ์ 3 2560  ผลงานวิจัย 3 เรอื่ ง (ดีมาก 2 เรอ่ื ง ดี 1 เรอื่ ง)  ผลงานวิจัย 2 เรอ่ื ง (ดมี าก) + ผลงานวิชาการในลกั ษณะอ่นื 1 รายการ (ด)ี  ผลงานวิจัย 2 เร่ือง (ดีมาก) + ผลงานวิชาการรับใชส้ งั คม 1 เร่ือง (ด)ี  เฉพาะสาขาทางสงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์ อาจใช้ตารา/หนงั สือ 3 เล่ม (ดีมาก 2 เลม่ ดี 1 เลม่ ) ผลงานทางวิชาการต้องไดร้ บั การเผยแพร่ ตามหลกั เกณฑท์ ี่ ก.พ.อ. กาหนด และผ่านการประเมนิ คุณภาพ โดยคณะกรรมการผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ (peer reviewer) ท่มี าจากหลากหลายสถาบนั

เกณฑ์ 3 2560 วธิ ที ่ี 1  ตารา/หนงั สือ 1 เลม่ + ผลงานวจิ ัย 5 เรือ่ ง (ดีมาก)  ตารา/หนังสือ 1 เลม่ + ผลงานวจิ ัย 1 เรื่อง + ผลงานในลกั ษณะอ่ืน/ผลงานรับใชส้ งั คม 5 เรื่อง (ดมี าก) วิธีท่ี 2  ผลงานวิจัย 5 เรือ่ ง (ดีเดน่ )  ผลงานวิจยั 1 เร่ือง + ผลงานในลกั ษณะอน่ื /ผลงานรับใช้สงั คม 5 เรอื่ ง (ดีเด่น) ผลงานทางวชิ าการต้องเผยแพร่ในวารสารวิชาการท่ีอยู่ใน ฐานข้อมลู ระดบั นานาชาตติ ามที่ ก.พ.อ. กาหนด

เกณฑ์ 3 2560 วิธีที่ 1  ตารา/หนงั สือ 2 เลม่ + ผลงานวิจยั 2 เร่อื ง (ดีมาก)  ตารา/หนังสือ 2 เลม่ + ผลงานวิจยั 1 เร่ือง + ผลงานในลกั ษณะอ่นื /ผลงานรับใช้สงั คม 2 เร่ือง (ดมี าก) วิธีท่ี 2  ผลงานวจิ ัย 3 เรอื่ ง (ดีเด่น)  ผลงานวจิ ยั /ตารา/หนังสอื 1 เรอื่ ง + ผลงานในลกั ษณะอน่ื /ผลงานรับใชส้ ังคม 3 เรอ่ื ง (ดเี ดน่ )  ตารา/หนังสือ 3 เล่ม (ดีเดน่ ) ผลงานวิจยั ต้องไดร้ ับการเผยแพรใ่ นวารสารวชิ าการท่ีอยูใ่ น ฐานข้อมลู ระดบั นานาชาติ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด / TCI 1

เกณฑ์ 3 2563  งานวิจยั 2 เรอ่ื ง (B)  งานวิจัย 1 เรื่อง + ผลงานวชิ าการในลกั ษณะอ่ืน 1 รายการ (B)  งานวิจยั 1 เรอ่ื ง + ผลงานวชิ าการรบั ใช้สงั คม 1 เรอื่ ง (B)  งานวิจัย 1 เรอื่ ง + ตารา/หนงั สือ 1 เลม่ (B)  งานวจิ ัย อย่างนอ้ ย 1 เรอื่ ง ผขู้ อตอ้ งเป็น First author / Corresponding author  สาขาทางสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ อาจใช้ผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่ืน / ผลงานวชิ าการ รบั ใชส้ งั คม (B) / บทความทางวชิ าการ (B+) แทนงานวจิ ยั (2) – (4) ได้ โดยผลงาน อยา่ งนอ้ ย 1 เรอื่ ง ผู้ขอตอ้ งเปน็ First author ผลงานทางวิชาการต้องไดร้ บั การเผยแพร่ ตามหลักเกณฑท์ ี่ ก.พ.อ. กาหนด และผ่านการประเมนิ คณุ ภาพ โดยคณะกรรมการผ้ทู รงคุณวฒุ ิ (peer reviewer) ทมี่ าจากหลากหลายสถาบัน

เกณฑ์ 3 2563  ตารา/หนงั สอื 1 เล่ม + งานวิจัย 2 เร่อื ง (B+)  ตารา/หนงั สือ 1 เลม่ + งานวจิ ยั 1 เรื่อง + ผลงานวชิ าการในลกั ษณะอื่น 1 รายการ (B+)  ตารา/หนังสือ 1 เล่ม + งานวิจยั 1 เรื่อง + ผลงานวิชาการรับใช้สังคม 1 เรื่อง (B+)  งานวิจัย อยา่ งนอ้ ย 1 เร่อื ง ผขู้ อตอ้ งเปน็ First author / Corresponding author  ตารา/หนงั สือ อยา่ งนอ้ ย 1 เรอื่ ง ผูข้ อต้องเป็น First author ผลงานวจิ ัยต้องไดร้ บั การเผยแพรใ่ นวารสารวิชาการท่ีอย่ใู น ฐานขอ้ มลู ระดบั นานาชาติ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด / TCI 1 ผลงานทางวชิ าการตอ้ งได้รบั การเผยแพร่ ตามหลักเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด และผา่ นการประเมนิ คณุ ภาพ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (peer reviewer) ท่มี าจากหลากหลายสถาบนั

เกณฑ์ 3 2563  งานวจิ ัย 3 เรือ่ ง (A) 2 เร่อื ง + (B+) 1 เร่อื ง  งานวจิ ยั 2 เรือ่ ง (A) + ผลงานในลักษณะอ่ืน 1 รายการ (B+)  งานวิจัย 2 เร่อื ง (A) + ผลงานรบั ใช้สงั คม 1 เรื่อง (B+)  งานวจิ ยั อยา่ งนอ้ ย 2 เร่ือง ผขู้ อตอ้ งเปน็ First author / Corresponding author  เฉพาะสาขาทางสังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์ อาจใชต้ ารา/หนังสอื 2 เลม่ ซึ่งผขู้ อตอ้ งเป็น First author (A) + ตารา/หนังสือ 1 เลม่ (B+) ผลงานวิจยั ตอ้ งได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการทอี่ ยใู่ น ฐานข้อมลู ระดับนานาชาติ ตามที่ ก.พ.อ. กาหนด / TCI 1 ผลงานทางวิชาการตอ้ งไดร้ บั การเผยแพร่ ตามหลกั เกณฑท์ ี่ ก.พ.อ. กาหนด และผ่านการประเมินคณุ ภาพ โดยคณะกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิ (peer reviewer) ท่มี าจากหลากหลายสถาบัน

เกณฑ์ 3 2563 สาขาทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วศิ วกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ งานวิจัย 10 เร่อื ง เผยแพรใ่ นวารสาร Q1 และ Q2 ของ Scopus หลงั ได้ตาแหน่ง ผศ. โดยอยา่ งนอ้ ย 5 เร่ือง ผขู้ อต้องเป็น First author / Corresponding author และ มีงานวิจยั ท่ไี ด้รบั การอา้ งองิ จาก Scopus อยา่ งนอ้ ย 500 รายการ และ มีค่า Lift-time h-index (Scopus) ไม่นอ้ ยกวา่ 8 และ เป็นหัวหนา้ โครงการวจิ ยั (ทุนจากภายนอก) อยา่ งน้อย 5 โครงการ โดยไมต่ ้องแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อทาหนา้ ทีป่ ระเมนิ ผลงานทางวชิ าการ

เกณฑ์ 3 2563 สาขาทางบรหิ ารธุรกจิ เศรษฐศาสตร์ งานวิจัย 5 เรอ่ื ง เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐาน Scopus หลังได้ตาแหน่ง ผศ. โดยอยา่ งนอ้ ย 3 เร่อื ง ผขู้ อตอ้ งเป็น First author / Corresponding author และ มีงานวิจัยที่ได้รบั การอ้างองิ จาก Scopus อย่างนอ้ ย 150 รายการ และ มคี า่ Lift-time h-index (Scopus) ไมน่ ้อยกวา่ 4 และ เป็นหวั หน้าโครงการวจิ ยั (ทุนจากภายนอก) อย่างนอ้ ย 5 โครงการ โดยไม่ตอ้ งแต่งตั้งคณะกรรมการผ้ทู รงคณุ วฒุ เิ พ่ือทาหน้าที่ประเมินผลงานทางวชิ าการ

เกณฑ์ 3 2563 ตารา/หนังสือ 1 เล่ม + งานวจิ ัย 5 เรื่อง (A)  ตารา/หนงั สือ 1 เลม่ + งานวิจัย 1 เรอ่ื ง + ผลงานในลักษณะอน่ื /ผลงานรับใชส้ งั คม 5 เรอ่ื ง (A) งานวจิ ยั /ผลงานในลกั ษะอื่น/ผลงานรบั ใชส้ ังคม อยา่ งน้อย 2 เร่ือง ผู้ขอต้องเป็น First author / Corresponding author + ตารา/หนังสือ อย่างน้อย 1 เรือ่ ง ผขู้ อตอ้ งเปน็ First author ผลงานวจิ ัยตอ้ งไดร้ ับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการทอี่ ยู่ใน ฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาติ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ผลงานในลกั ษณะอน่ื ต้องไดร้ ับการเผยแพร่ในระดับนานาชาติ

เกณฑ์ 3 2563 งานวิจยั 5 เร่อื ง (A+) 2 เร่อื ง+(A) 3 เรอื่ ง โดยอยา่ งน้อย (A+) 2 เรือ่ ง+(A) 1 เรอื่ ง ผขู้ อตอ้ งเป็น First author / Corresponding author  งานวิจยั 1 เรอื่ ง + ผลงานในลกั ษณะอ่ืน/ผลงานรบั ใช้สงั คม 5 เร่อื ง (A+) 2 เร่อื ง+(A) 3 เร่อื ง โดยอย่างน้อย (A+) 2 เร่ือง+(A) 1 เร่อื ง ผ้ขู อตอ้ งเปน็ First author / Corresponding author  งานวจิ ยั 10 เรื่อง (A) โดยอย่างนอ้ ย 6 เรอื่ ง ผู้ขอต้องเป็น First author / Corresponding author ผลงานวจิ ัยต้องไดร้ บั การเผยแพรใ่ นวารสารวชิ าการท่ีอยใู่ น ฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาติ ตามที่ ก.พ.อ. กาหนด ผลงานในลกั ษณะอืน่ ต้องได้รับการเผยแพร่ในระดบั นานาชาติ

เกณฑ์ 3 2563 วิธที ่ี 1 ตารา/หนังสอื 2 เลม่ + งานวิจยั 3 เร่อื ง (A)  ตารา/หนังสือ 2 เลม่ + งานวิจยั 1 เรอื่ ง + ผลงานในลกั ษณะอน่ื /ผลงานรับใชส้ ังคม 3 เรื่อง (A)  งานวจิ ยั /ผลงานในลกั ษณะอ่ืน/ผลงานรบั ใชส้ งั คม อย่างนอ้ ย 2 เรอ่ื ง ผขู้ อตอ้ งเป็น First author / Corresponding author +  ตารา/หนงั สอื อย่างนอ้ ย 1 เรอ่ื ง ผขู้ อตอ้ งเปน็ First author ผลงานวิจยั ตอ้ งได้รบั การเผยแพรใ่ นวารสารวชิ าการทอ่ี ยูใ่ น ฐานขอ้ มูลระดับนานาชาติ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ผลงานในลักษณะอนื่ ต้องไดร้ ับการเผยแพร่ในระดบั นานาชาติ

เกณฑ์ 3 2563 วธิ ที ี่ 2 งานวิจยั 5 เรอื่ ง (A+) 2 เรอ่ื ง+(A) 3 เร่ือง โดยอย่างน้อย (A+) 2 เร่ือง+(A) 1 เร่อื ง ผขู้ อต้องเปน็ First author / Corresponding author  งานวิจยั 1 เร่อื ง + ผลงานในลักษณะอน่ื /ผลงานรบั ใชส้ งั คม 5 เรอื่ ง (A+) 2 เร่ือง+(A) 3 เรื่อง โดยอย่างนอ้ ย (A+) 2 เรอ่ื ง+(A) 1 เรอ่ื ง ผ้ขู อต้องเป็น First author / Corresponding author ตารา/หนงั สือ 3 เลม่ (A+) 1 เลม่ + (A) 2 เลม่ ผู้ขอต้องเปน็ First author ผลงานวจิ ัยต้องได้รับการเผยแพรใ่ นวารสารวิชาการท่อี ยู่ใน ฐานขอ้ มลู ระดับนานาชาติ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ผลงานในลกั ษณะอน่ื ต้องได้รับการเผยแพรใ่ นระดับนานาชาติ

เกณฑ์ 3 2563 สาขาทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วศิ วกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ งานวิจัย 10 เรอื่ ง เผยแพร่ในวารสาร Q1 และ Q2 ของ Scopus หลงั ได้ตาแหนง่ ผศ. โดยอย่างนอ้ ย 5 เร่ือง ผู้ขอตอ้ งเปน็ First author / Corresponding author และ มีงานวิจยั ทีไ่ ด้รับการอ้างองิ จาก Scopus อย่างน้อย 1,000 รายการ และ มีคา่ Lift-time h-index (Scopus) ไม่น้อยกวา่ 18 และ เป็นหัวหน้าโครงการวจิ ัย (ทุนจากภายนอก) อย่างนอ้ ย 10 โครงการ โดยไมต่ ้องแตง่ ต้งั คณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ เิ พ่ือทาหน้าที่ประเมินผลงานทางวิชาการ

เกณฑ์ 3 2563 สาขาทางบรหิ ารธุรกจิ เศรษฐศาสตร์ งานวจิ ัย 10 เรื่อง เผยแพร่ในวารสารที่อยใู่ นฐาน Scopus หลงั ไดต้ าแหนง่ ผศ. โดยอยา่ งนอ้ ย 3 เรอ่ื ง ผูข้ อต้องเป็น First author / Corresponding author และ  มีงานวิจยั ท่ไี ด้รบั การอ้างองิ จาก Scopus - สาขาทางบรหิ ารธรุ กิจ อย่างน้อย 500 รายการ - สาขาทางเศรษฐศาสตร์ อยา่ งน้อย 200 รายการ และ มีค่า Lift-time h-index (Scopus) ไม่นอ้ ยกว่า 8 และ เป็นหวั หนา้ โครงการวจิ ัย (ทนุ จากภายนอก) อยา่ งน้อย 10 โครงการ โดยไม่ต้องแตง่ ต้ังคณะกรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิเพื่อทาหน้าที่ประเมินผลงานทางวิชาการ

4 1. ตอ้ งมีความซือ่ สตั ย์ทางวิชาการ ไมน่ าผลงานของผู้อืน่ มาเปน็ ผลงานของตนและไมล่ อก เลียนผลงานชองผ้อู ่นื รวมทั้งไมน่ าผลงานของตนเองในเรอ่ื งเดยี วกันไปเผยแพรใ่ นวารสารวิชาการ มากกว่า 1 ฉบบั ในลกั ษณะท่จี ะทาให้เขา้ ใจผิดวา่ เปน็ ผลงานใหม่ 2. ตอ้ งให้เกยี รตแิ ละอา้ งถึงบุคคลหรอื แหลง่ ทีม่ าของขอ้ มูลทีน่ ามาใช้ในผลงานทาง วิชาการของตนเองและแสดงหลักฐานของการคน้ คว้า 3. ต้องไมค่ านึงถึงผลประโยชนท์ างวชิ าการจนละเลยหรือละเมดิ สทิ ธสิ ว่ นบุคคลของผู้อนื่ และสทิ ธิมนษุ ยชน

4 4. ผลงานทางวชิ าการตอ้ งได้มาจากการศกึ ษาโดยใช้หลักวิชาการเปน็ เกณฑ์ ไม่มอี คติมาเกย่ี วขอ้ ง และเสนอผลงานตามความเป็นจริง ไมจ่ งใจเบย่ี งเบนผลการวจิ ยั โดยหวังผลประโยชน์สว่ นตวั หรือตอ้ งการ สรา้ งความเสยี หายแก่ผ้อู ื่น และไมข่ ยายข้อค้นพบโดยปราศจากการตรวจสอบยืนยันในทางวชิ าการ 5. ตอ้ งนาผลงานไปใช้ประโยชนใ์ นทางทช่ี อบธรรมและชอบด้วยกฎหมาย 6. หากผลงานวิชาการมกี ารใช้ขอ้ มลู จากการทาวิจัยในคนหรือสัตว์ ผู้ขอตาแหนง่ จะตอ้ งย่นื หลักฐานแสดงการอนญุ าตจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจยั ของสถาบนั ที่มีการดาเนินการ

แบบเสนอเพ่อื ขอรบั การพจิ ารณาจรยิ ธรรมการวจิ ยั ในมนษุ ย์