งานเคร่ืองมอื กลเบือ้ งต้น ใบเนือ้ หาเคร่ืองกลงึ และงานกลงึ Xgen Microsoft Corporation [เลอื กวนั ที]่
รหัสวชิ า 2100-1007 ใบเนือ้ หา ชื่อวชิ า งานเคร่ืองมอื กลเบอื้ งต้น ชื่อหน่วย เคร่ืองกลงึ และงานกลงึ ระดบั ช้ัน ปวช. สาขาวชิ า เคร่ืองมอื กล ชนิดของเคร่ืองกลงึ เครื่องกลงึ มีหลายชนิด เช่น เคร่ืองกลึงยนั ศนู ย์ เคร่ืองกลึงเทอเรต เครื่องกลงึ ท่ีควบคุมดว้ ยคอมพวิ เตอร์ แต่ เน้ือหาในบทเรียนน้ีจะกล่าวถึงเฉพาะเคร่ืองกลงึ ที่เป็นเคร่ืองกลึงพ้นื ฐาน 1. เครื่องกลงึ ยนั ศนู ยเ์ ป็นเคร่ืองกลงึ พน้ื ฐานที่ใชก้ นั อยทู่ ว่ั ๆ ไป เคร่ืองกลงึ ยนั ศนู ย์ 2. เคร่ืองกลงึ เทอเรต เป็นเคร่ืองกลึงท่ีตดั แปลงมาจากเครื่องกลึงธรรมดา เพือ่ เพ่ิมประสิทธิภาพใหท้ างานไดด้ ี ข้ึน และสามารถทางานใหเ้ สร็จในขบวนการในการทางานในคร้ังเดียวต้งั แต่เริ่มตน้ จนจบข้นึ ตอนสุดทา้ ย เคร่ืองกลึงเทอเรตแบ่งออกได้ 2 ลกั ษณะ คือ เครื่องกลึงเทอเรตแนวต้งั และเครื่องกลงึ เทอเรตแนวนอน 2.1 เคร่ืองกลึงเทอเรตแนวต้งั (Vertical Turret Lathe) เป็นเครื่องกลงึ ท่ีมีลกั ษณะคลา้ ย ๆ เครื่องควา้ น แนวต้งั ใชส้ าหรับการแปรรูปชน้ิ งานท่ีมขี นาดใหญ่ เครื่องกลึงเทอเรตแนวต้งั
2.2 เครื่องกลงึ เทอเรตแนวนอน (Horizontal Turret Lathe) แบ่งออกไดต้ ามลกั ษณะของการเคลอ่ื นทข่ องหวั เทอเรตได้ 2 แบบ คือ * เคร่ืองกลึงเทอเรตแบบแรม (Ram Type Turret Lathe) เป็นเคร่ืองกลึงเทอเรตตที่มีหวั หกเหลย่ี มซ่ึงหมนุ ได้ รอบ วางอยบู่ นแรม การเคล่อื นทแี่ รมจะเคลื่อนท่ีบนรางเล่ือบของแซดเดิล (Saddle) * เครื่องกลึงเทอเรตแบบแซดเดลิ (Saddle Type Turret) เป็นเคร่ืองกลงึ เทอเรต ท่ีมีหวั หกเหลี่ยมซ่ึงหมุนได้ รอบตวั วางอยบู่ นแซดเดลิ โดยตรง
รูปร่างการบอกขนาดและส่วนประกอบท่ีสาคญั ของเครื่องกลึง การบอกขนาดของเคร่ืองกลงึ โดยท่ง ๆ ไปมีหลายวิธีดงั น้ี 1. การบอกขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางชิ้นงานขนาดโตสุดท่ีสามารถหมุนอยบู่ นแท่นเคร่ืองได้ ส่วนใหญ่การ บอกลกั ษณะน้ีจะนิยมใชใ้ นประเทศสหรัฐอเมริกา 2. การบอกระยะห่างระหว่างศนู ย์ จากศนู ยห์ วั ถงึ ศนู ยท์ า้ ย 3. การบอกความยาวแท่นเครื่องเป็นการบอกความยาวของแท่นเคร่ืองว่ามีความยาวทง่ั หมดเท่าใด 4. การบอกขนาดเป็นรัศมขี องช้ินงานมากสุดที่สามารถหมุนอยบู่ นแท่นเคร่ืองไดส้ ่วนใหญ่จะใชใ้ นประเทศ ยโุ รป การบอกขนาดเครื่องกลึง เครื่องกลงึ ยนั ศนู ย์ เป็นเครื่องกลงึ พ้ืนฐานที่สาคญั มากในสาขางานช่างกลโรงงาน สาขาช่างซ่อมบารุง และ เทคนิคพ้นื ฐานจาเป็นจะตอ้ งมไี วใ้ ช้ เคร่ืองกลึงมีประโยชนม์ ากสามารถทางานไดห้ ลายอยา่ ง ส่วนประกอบของ เคร่ืองกลึงมีมากมาย
ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของเคร่ืองกลึงยนั ศูนย์ ส่วนต่าง ๆ ของเครื่องกลึงทส่ี าคญั 1. ฐานเคร่ือง (Base) เป็นส่วนที่อยลู่ า้ งสุดของเคร่ือง จะอยกู่ บั พ้ืนโรงงานโดยมฐี านรองเคร่ืองรองรับอยเู่ พ่อื ความสะดวกในการปรับระดบั ทาหนา้ ท่ีรองรับน้าหนกั ท้งั หมดของเครื่อง เคร่ืองกลึงขนาดใหญ่ทาดว้ ยเหลก็ หลอ่ จะทาใหเ้ คร่ืองมนั่ คงไมส่ นั สะเทือน ถา้ เป็นเครื่องขนาดเลก็ อาดจะทาดว้ ยเหลก็ เหนียว 2. แท่นเคร่ือง (Bed Ways) เป็นส่วนที่ติดอยบู่ นฐานเครื่อง ทาดว้ ยเหลก็ หลอ่ ทาหนา้ ท่ีรองรับชุดหวั เครื่อง ชุดทา้ ยแท่น และชุดแท่นเลอ่ื น ท่ีสนั บนแท่นเคร่ืองจะมีลกั ษณะเป็นรูปตวั วคี ว่า เพอ่ื ใหเ้ ป็นรางเลือ่ นใหช้ ุดแท่น เล่ือน และชุดทา้ ยแท่นไปมา แท่นเคร่ืองกลงึ
3. ชุดหวั เคร่ือง (Head Stock) อยตู่ รงดา้ นซา้ ยของเครื่อง ภายในประกอบดว้ ยชุดเฟื องทดใชส้ าหรับเปลยี่ น ความเร็วรอบ และเปลย่ี นอตั ราป้ อนกลงึ เพ่อื ส่งกาลงั ไปยงั แกนเพลาและชุดขบั เคลอ่ื นต่าง ๆ เพื่อกลงึ อตั โนมตั ิ และกลงึ เกลียว 4. แกนเพลาเคร่ืองกลึง (Spindle) มลี กั ษณะเป็นเพลากลม ภายในเป็นรูกลวงเป็นเรียวมาตรฐานมอส เพ่ือใช้ ประกอบกบั ยนั ศนู ยเ์ พือ่ ใชก้ ลงึ ยนั ศนู ยห์ วั เครื่องและศนู ยท์ า้ ยแท่น แกนเพลาเคร่ืองกลงึ ใชป้ ระกอบกบั หวั จบั ต่าง ๆ เช่น สามจบั และสี่จบั การจบั ยดึ มีหลายวิธีดงั น้ี คือ การจบั ยดึ ดว้ ยเกลยี ว (Thread) การจบั ยดึ ดว้ ยเรียว (Taper Key) การจบั ยดึ ดว้ ยลกู เบ้ียว (Cam-Lock) และการจบั ยดึ ดว้ ยเกลียวร้อยยดึ (Bolted) แสดงการจบั ยดึ ดว้ ยวิธีตา่ ง ๆ
5. ชุดทา้ ยแทน (Tail Stock) อยตู่ อนทา้ ยของแทน่ เครื่อง สามารถเคล่ือนท่ีไปมาไดบ้ นแท่นเครื่อง ชุดทา้ ย แท่นประกอบดว้ ย 2 ส่วน คือ ส่วนบนและส่วนล่าง เพอ่ื ไวใ้ ชส้ าหรับปรับเยอ้ื งศนู ยเ์ พอ่ื กลึงเรียว 5.1 ส่วนลา้ งของทา้ ยแท่น จะวางอยบู่ นแท่นเล่ือน จะมตี วั จบั ยดึ ใหอ้ ยกู่ บั ท่ีเวลาใชง้ านเพอ่ื ป้ องกนั ทา้ ย แท่นเคลอ่ื นท่ี ช่วงหลงั จะมขี ีดสเกลไวใ้ หด้ เู วลาปรับเยอ้ื งศนู ยเ์ วลากลงึ เรียว แต่ไมล่ ะเอียดพอในการปฏิบตั ิงานจริง จะตอ้ งใชน้ าฬกิ าวดั ช่วย 5.2 ส่วนบนของทา้ ยแท่น ประกอบดว้ ยแกนเพลา สามารถเคลอื่ นท่ีเขา้ ออกไดด้ ว้ ยแขนหมนุ เพอ่ื ใช้ ป้ อนยนั ศนู ยง์ าน หรือป้ อนดอกสวา่ นเจาะงาน ที่แกนเพลาจะมีขีดบอกระยะ ภายในแกนเพลาจะมรี ูเรียวมาตรฐาน มอส เพื่อใชจ้ บั ยดึ ยนั ศนู ย์ จบั ยดึ หวั จบั ดอกสวา่ น หรือดอกสวา่ นกา้ นเรียว ชดุ ทา้ ยแท่น 6. ชุดแท่นเลอื่ น (Carriage) อยบู่ นแท่นเคร่ือง สามารถเคล่ือนท่ีซา้ ยขวาบนแท่นเครื่องเพ่อื ใชใ้ นการกลึง ปอกงานสามารถเคลอ่ื นท่ีไดด้ ว้ ยมือและอตั โนมตั ิประกอบดว้ ยส่วนประกอบที่สาคญั 2 ส่วน 6.1 อานมา้ (Saddle) เป็นส่วนที่วางอยบู่ นสนั ตวั วคี วา่ บนแทน่ เล่อื น เพื่อบงั คบั การเคลือ่ นที่ซา้ ยขวา จะ มรี ูปร่างเหมือนตวั อกั ษร H บนอานมา้ จะมแี ท่นตดั ขวางวางอยู่ 6.2 Apron เป็นส่วนที่อยดู่ า้ นหนา้ ของแท่นเลื่อนจะยดึ ตดิ อยกู่ บั อานมา้ บน Apron จะมีแขนหมุนกลงึ ปอก คนั โยกกลึงอตั โนมตั ิ คนั โยกสาหรับกลงึ เกลียว
7. แท่นตดั ขวาง (Cross Slide) จะวางอยบู่ นอานมา้ สามารถเคลือ่ นท่ีไปในแนวขวางบนอานมา้ เพือ่ ใชก้ ลึง ปาดหนา้ ดว้ ยการป้ อนดว้ ยมือหรืออตั โนมตั ิ 8. Compound Rest เป็นส่วนหน่ึงที่ยดึ อยบู่ นแท่นตดั ขวางสามารถต้งั องศาเพือ่ กลงึ เป็นมุมเรียวต่าง ๆ ได้ ส่วนบนจะมี Compound Slide หรือ Top Slide อยู่
9. ป้ อมมีด (Tool Post) ยดึ ติดอยบู่ น Compound Rest เป็นตวั จบั ยดึ ดา้ มมดี หรือจบั ยดึ มดี กลงึ โดยตรงใน กรณีใชม้ ีดกลึงแบบไม่ตอ้ งใชด้ า้ มจบั ยดึ คือมดี กลงึ มขี นาดต้งั แต่ 3/8 น้ิว ข้ึนไป ปัจจุบนั นิยมใชป้ ้ อมมดี แบบเทอ เรต สามารถจบั มีดกลึงไดท้ ้งั 4 ดา้ น สามารถเปลี่ยนมดี กลงึ ไดร้ วดเร็ว 10. มอเตอร์ (motor) เป็นตวั ส่งกาลงั ที่ส่งกาลงั ไปยงั ชุดเฟื องทดเพอื่ ใชส้ ่งกาลงั ไปยงั ท่ีตาแหน่งต่าง ๆ มีท้งั ใชไ้ ฟฟ้ ากระแสสลบั 220 โวลตแ์ ละ 380 โวลต์ 11. ชุดเฟื องทดส่งกาลงั ขบั เคลือ่ น เป็นชุดท่ีส่งกาลงั ไปยงั ชุดขบั เคล่ือนเพ่อื กลงึ อตั โนมตั ิหรือเพือ่ กลึงเกลียว 12. แขนโยกปรับความเร็ว เป็นอปุ กรณ์ท่ีใชโ้ ยกเปลย่ี นชุดเฟื องเพอ่ื เพ่ิมความสะดวกและรวดเร็วในการ เปล่ยี นความเร็วรอบ ความเร็วในการป้ อนกลึงงาน ทาใหส้ ามารถทางานไดเ้ ร็วข้ึน 13. แขนโยกกลงึ อตั โนมตั ิ เป็นแขนโยกสาหรับสบั ในการกลงึ ปอกอตั โนมตั ิ และมแี ขนโยกสบั สาหรับการ กลงึ เกลยี ว 14. ขีดสเกลสาหรับป้ อนกลงึ ใชใ้ นการป้ อนกลึงเพอ่ื ทาใหส้ ะดวกในการกลงึ ทาใหก้ ลึงขนาดไดแ้ มน่ ยา มี การปอกเป็นมลิ ลิเมตร หรือบอกเป็นน้ิว แลว้ แต่บริษทั ผผู้ ลิตจะผลิตมา ปัจจุบนั นิยมใชแ้ บบมลิ ลเิ มตร
เคร่ืองมือและอุปกรณ์ทใ่ี ช้สาหรับเครื่องกลึง 1. หวั จบั (Chuck) มปี ระโยชนม์ ากสาหรับเครื่องกลึงหวั จบั มไี วส้ าหรับจบั ยดึ ชิน้ งานทาใหส้ ามารถทางานได้ สะดวก หวั จบั มีมากมายหลายแบบ ในการเลอื กใชก้ จ็ ะตอ้ งเลอื กใชใ้ หถ้ กู กบั งาน 1.1 หวั จบั สามจบั ฟันพร้อม (Three Jaws Chuck) ใชส้ าหรับจบั งานกลม งานหกเหล่ยี ม ฟันสามารถ เคลื่อนที่เขา้ ออกไดพ้ ร้อมกนั ดว้ ยประแจขนั ฟันมีอยู่ 2 ชุด คือฟันชุดจบั นอกและฟันชุดจบั ใน ฟันแต่ละชุด สามารถถอดเปล่ียนได้ ในการประกอบเขา้ จะตอ้ งเลยี งตามลาดบั มิฉะน้นั ฟนั จะเขา้ ไมเ่ สมอกนั หวั จบั จามจบั ฟันพร้อม 1.2 หวั จบั สี่จบั ฟันอิสระ (Four Jaws Independent Chuck) สามารถจบั งานไดร้ ูปทรงต่าง ๆ ฟันจะเป็น อสิ ระจะมเี กลียวยงั คบั ของแต่ละฟัน ฟันมีชดุ เดียวสามารถจบั นอกและจบั ในได้ หวั จบั ส่ีจบั ฟันอสิ ระ 2. หวั จบั แม่เหลก็ (Magnetic Chuck) ใชส้ าหรับจบั งานท่ีบาง ๆ ไมส่ ามารถจบั กลึงดว้ ยหวั จบั แบบธรรมดา ได้ หวั จบั แม่เหลก็
3. จานพา (Drive Plate) ใชร้ วมกบั ยนั ศนู ยแ์ ละหวงั พาเพอื่ ส่งกาลงั ใหช้ ้ินงานหมนุ สาหรับกลึง จานพา 4. หนา้ จาน (Face Plate) ใชส้ าหรับจบั ยดึ งานที่มรี ูปทรงแปลก ๆ หรือจบั ยดึ ชิ้นงานที่ใหญ่ หนา้ จาน 5. กนั สะเทือน ใชส้ าหรับประคองช้ินงานที่ยาว ๆ ป้ องกนั ชิ้นงานโก่งงอ มอี ยู่ 2 แบบ คือ 5.1 กนั สะเทือนตาม (Follow Rest) จะยดึ ติดอยกู่ บั ชุดแท่นเลื่อน มีขาประคอง 2 ขา ใชป้ ระคองตรง ขา้ มขีดกลงึ จะเคล่ือนที่ไปพร้อมมกี ลงึ ในแนวกลึงปอก กนั สะเทอื น
5.2 กนั สะเทือนน่ิง (Steady rest) จะยดึ ติดอยกู่ บั ที่ มขี าประคอง 3 ขา กนั สะเทือนนิ่ง 6. ยนั ศนู ย์ เป็นอปุ กรณ์สาหรับประคองชน้ิ งานใหไ้ ดศ้ นู ยป์ ้ องกนั การแกวง่ ของช้ินงานโดยทว่ั ๆ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ศนู ยต์ าย (Dead Center) และศนู ยเ์ ป็น (Live Center) หวั ยนั ศนู ยจ์ ะหมนุ ตามช้ินงาน 7. ห่วงพา (Lathe Dog) เป็นอุปกรณ์ท่ีใชร้ ่วมกบั จานพา เป็นตวั พาชน้ิ งานหมุน ห่วงพาแบบตา่ ง ๆ
8. ดา้ มมดี กลงึ (Tool Holder)เป็นดา้ มมีดที่ใชส้ าหรับจบั มดี กลงึ ขนาดเลก็ ส่วนใหญ่มีขนาด ¼ น้ิว 9. ลอ้ พิมพล์ าย (Knurling) เป็นอุปกรณ์ท่ีใชพ้ มิ พล์ ายบนชิ้นงาน เพ่อื ทาใหจ้ บั ไดม้ น่ั คงและสวยงาม ลอ้ พิมพ์ ลายมีท้งั ลายตรงและลายขวาง
10. มีดกลงึ เป็นเคร่ืองมือที่จาเป็นมากที่สุด มดี กลงึ ท่ีใชโ้ ดยทวั่ ไปทาดว้ ยวสั ดุเหลก็ รอบสูง และมีดกลึงที่ทา ดว้ ยเหลก็ คาร์ไบด์ แต่ในเบ้ืองตน้ น้ีจะกล่าวแต่มดี กลึงที่ทาจากเหลก็ รอบสูง ซ่ึงรูปแบบต่าง ๆ ของมีดกลึงมี กล่าวในหน่วยท่ี 1 11. ดอกเจาะนาศนู ย์ (Center Drill) เป็นอุปกรณ์ท่จี าเป็นอยา่ งหน่ึงของงานกลึง เป็นอุปกรณ์เจาะรูนา ทาให้ เจาะรูไดต้ รงตามตาแหน่งแมน่ ยาข้ึน 12. ดอกสว่าน เป็นอุปกรณ์ท่ีจาเป็นและจะตอ้ งใชอ้ ยา่ งมากในงานกลึง มที ้งั สว่านกา้ นเรียวและสวา่ นกา้ น ตรง รายละเอยี ดอยใู่ นหน่วยที่ 3 13. ดอกควา้ นละเอยี ด (Reamer) มดี อกควา้ นละเอยี ดท่ีใชม้ ือควา้ นละเอยี ดและแบบควา้ นละเอียดดว้ ยเครื่อง รายละเอียดอยใู่ นหน่วยท่ี 3 14. ดอกตาปและดาย (Tap and Die) ดอกตาปเป็นอุปกรณ์ทาเกลยี วใน 1 ชุดจะประกอบดว้ ยดอกตาป 3 ดอก จะตอ้ งตาปตามลาดบั ส่วนดารเป็นอปุ กรณ์ทาเกลยี วนอก 1 ชุดจะมเี พยี งชิ้นเดียว 15. ตะไบ เป็นอปุ กรณ์อีกชนิดหน่ึงที่ใชก้ บั เครื่องกลึง ตะไบเป็นอุปกรณ์ที่ใชล้ ดขนาด ตกแต่งผวิ ให้ เรียบร้อยและและยงั ใชล้ บคมของชิ้นงานเพอ่ื ไมใ่ หบ้ าดมอื ผปู่ ฏิบตั ิงาน ส่วนใหญ่จะใชท้ ้งั ตะไบหยาบและตะไบ ละเอียด
ข้นั ตอนการทางานของเครื่องกลึง การกลึงปาดหนา้ 1. จบั มีดกลงึ ปาดหนา้ ใหไ้ ดศ้ นู ยก์ ลางงานโดยการตรวจสอบจากศนู ยท์ า้ ยแท่น 2. จบั ชิ้นงานใหแ้ น่นบนเคร่ืองกลึง กรณีจบั ดว้ ยสามจบั ฟันพร้อมจบั ไดเ้ ลย ถา้ จบั ดว้ ยหวั จบั สี่จบั ฟัน อิสระจะตอ้ งตรวจสอบช้ินงานใหไ้ ดศ้ นู ย์ แต่ถา้ กรณีกลึงระหวา่ งศนู ยห์ วั และศนู ยท์ า้ ยจะตอ้ ง ตรวจสอบศนู ยท์ ้งั สองใหไ้ ดศ้ นู ยก์ ่อน 3. ต้งั ความเร็วรอบใหเ้ หมาะสม 4. กลงึ ปาดหนา้ อาดจะป้ อนกลงึ ดว้ ยมือหรือป้ อนกลงึ อตั โนมตั ิจนผวิ หนา้ เรียบพร้อมทาการลบคม ชิ้นงาน 5. ถอดชิ้นงานออกมาร่างแบบความยาวงานดว้ ยเวอร์เนียร์ไฮเกจบนโต๊ะละดบั ตามแบบงาน 6. นาชิ้นงานจบั บนเคร่ืองกลงึ อกี คร้ัง แลว้ กลึงปาดหนา้ ใหไ้ ดต้ ามความยาวตามท่ีร่างแบบไวแ้ ละควรจะ ตรวจสอบความยาวอกี คร้ังดว้ ยเวอร์เนียร์คาลิเปอร์ เพราะการร่างแบบอาดเกดิ การผดิ พลาดได้ หรือมี ความละเอยี ดไมพ่ อ การกลงึ ปอก 1. นาชิ้นงานที่กลึงปาดหนา้ แลว้ จบั ยดึ บนเคร่ืองกลึง 2. ต้งั ความเร็วรอบใหถ้ กู ตอ้ ง 3. ทาการกลึงช้ินงาน อาดจะกลึงปอกดว้ ยมือหรืออตั โนมตั ิ การกลงึ ดว้ ยอตั โนมตั ิจะมีผวิ เรียบดีกวา่ เพราะอตั ราการป้ อนงานจะสม่าเสมอดีกว่า ในการกลึงปอกจะมีการป้ อนลึกจะป้ อนลึกมากนอ้ ยข้ึนอยู่ กบั ปัจจยั หลายอยา่ ง เช่น วสั ดุงาน วสั ดุมีดกลึง การกลึงหยาบ กลึงละเอียด การกลงึ หยาบจะกลงึ ได้ มากกวา่ การกลงึ ละเอียดเพราะถา้ ป้ อนกินลกึ มากผวิ งานกจ็ ะไมเ่ รียบกลงึ ปอกเสร็จทุกคร้ังจะตอ้ งกลึง ลบคม การกลงึ ข้ึนรูป การกลึงข้ึนรูป คือ การกลึงชิ้นงานเป็นรูปทรงต่าง ๆ ตามตอ้ งการโดยการลบั มดี กลงึ เป็นรูปทรงน้นั ๆ เช่น การกลึงบ่าฉาก การกลงึ ร่องสามเหล่ียม การกลงึ ตกร่องโคง้ ฯลฯ ซ่ึงมีข้นั ตอนดงั น้ี 1. จบั ยดึ ช้ินงานท่ีกลึงปาดหนา้ กลึงปอกและร่างแบบมาเรียบร้อยแลว้ 2. ต้งั ความเร็วรอบของช้ินงาน โดยปกติจะต้งั ความเร็วรอบประมาณ 1 หรือ 2 เท่าของการกลึงปอก 23
3. จบั ยดึ มีดกลึงรูปแบบต่าง ๆ ท่ีตอ้ งการกลึง โดยการต้งั มดี ใหอ้ ยศู่ นู ยก์ ลางงาน 4. เลอื่ นตาแหน่งมีดกลงึ ใหต้ รงตามตาแหน่งท่ีร่างแบบไว้ 5. ป้ อนมกี ินลกึ บนช้ินงานจนไดค้ วามลกึ ที่ตอ้ งการ การกลึงเกลยี ว การกลึงเกลยี วถอื ว่าเป็นการกลงึ ข้ึนรูปชนิดหน่ึงท่ีมคี วามสาคญั มาก แต่จะมก่ี ารข้ึนรูปท่ีแตกต่างจากการกลงึ ข้ึนรูปทว่ั ไป คือขณะกลงึ เกลียวน้นั มกี ลงึ จะเคลอ่ื นที่ดว้ ยและมีความสาพนั ธก์ บั การหมุนของงาน เกลียวถา้ แบ่งตาม รูปร่างมีหลายชนิด เช่น เกลียวสามเหลยี่ ม เกลียวส่ีเหลี่ยม เกลียวส่ีเหลี่ยมคางหมู เกลียวกลม ฯลฯ ถา้ แบ่งตาม หน่วยการวดั จะมีอยู่ 2 ระบบ คือ ระบบเมตริก และระบบน้ิวคือระบบองั กฤษหรือเกลียวอมริกนั เกลียวไม่วา่ จะเป็นระบบใดการกลงึ เกลียวกจ็ ะใชร้ ะบบเดียวกนั ต่างกนั ตรงรูปร่างหนา้ ตดั ของเกลยี ว ความลกึ ที่จะกลึง ระยะพิตชข์ องเกลียวหรือจานวนเกลยี วต่อน้ิว จานวนปากเกลยี วแต่กระบวนการต่าง ๆ ใชห้ ลกั การ เดียวกนั มวี ธิ ีการกลงึ ดงั น้ี 1. จบั ยดึ ช้ินงานท่ีกลงึ ปาดหนา้ , กลึงปอกจนไดข้ นาดความยาวเสา้ ผา่ นศนู ยก์ ลางโตสุดของงาน เช่น เกลยี ว M 10 × 1.5 กก็ ลึงขนาดความยาวเสาผา่ นศนู ยก์ ลางโตนอก 10 มม. 2. ต้งั ความเร็วรอบของชิ้นงานตามปกติจะต้งั ความเร็วรอบชา้ ๆ ประมาณ 1 ของงานกลงึ ปอก 3 3. จบั ยดึ มดี กลึงเกลยี วที่ตอ้ งการกลงึ โดยต้งั มดี ใหอ้ ยศู่ นู ยก์ ลางงาน 4. ต้งั มีกลงึ เกลยี วดว้ ยเกจวดั เกลียวชนิดน้นั 5. กลงึ งานใหเ้ ป็นรอยเพียงเลก็ นอ้ ยแลว้ ตรวจสอบระยะพิตชข์ องเกลยี ว หรือจานวนเกลยี วต่อน้ิวในระบบ องั กฤษ วา่ เกลียวถกู ตอ้ งหรือไม่ 6. ป้ อนมดี กลงึ ลึกบนช้ินงานจนไดค้ วามลึกเกลยี วท่ีตอ้ งการ โดยมีการทดสอบดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ
การกลึงเรียว เรียวจะมีวิธกี ารกลงึ อยู่ 3 วธิ ี 1. กลึงโดยการใชต้ ้งั มมุ มีดท่ี Compound Rest โดยการต้งั องศาเท่ากบั คร่ึงหน่ึงของมุมยอดรวมของมมุ เรียว = 2 2. การกลงึ เรียวโดยการใชศ้ นู ยท์ า้ ยแทน่ 3. การกลึงโดยใชอ้ ปุ กรณ์พิเศษสาหรับกลงึ เรียว การคานวณความเร็วในงานกลึง ในงานกลึงน้นั ความเร็วท่ีใชง้ านมคี วามสาคญั มากเพราะในการกลึงงานจะตอ้ งมีการต้งั ความเร็วให้เหมาะสม เพอ่ื เป็นการรักษาอายกุ ารใชง้ านของมีดกลึงและยงั ช่วยใหป้ ระหยดั เวลาในการเปลย่ี นมดี กลงึ และเสียเวลาลบั มีดกลึง ใหม่ ความเร็วในงานกลึงที่ควรรู้จกั คือ ความเร็วตดั และความเร็วรอบ ซ่ึงมีสูตรในการคานวณดงั น้ี สูตรการคานวณหาความเร็วตดั เม่อื กาหนด V = dn 1000 V = ความเร็วตดั เมตร/นาที d = ความยาวผา่ นเสน้ ศนู ยก์ ลางชิ้นงาน มม. n = ความเร็วรอบชิ้นงาน รอบ/นาที ตวั อยา่ งที่ 1 ตอ้ งการกลึงงานโต 20 × 300 มม. ดว้ ยความเร็วรอบ 200 รอบ/นาที จงคานวณหาความเร็วตดั วธิ ีทา ความเร็วตดั V = dn 1000 = 3.1416 20 200 1000 = 12.57 เมตร/นาที สูตรการคานวณหาความเร็วรอบ ในการทางานจริงเราจะตอ้ งคานวณหาค่าความเร็วรอบเพือ่ นาไปต้งั ความเร็ง รอบของเครื่องกลงึ เพื่อใชก้ ลึงช้ินงาน โดยการ้ายสมการของสูตรจากสูตรความเร็วตดั สูตรการคานวณหาค่าความเร็วรอบ n = 1000v d
ตวั อยา่ งท่ี 2 ตอ้ งการกลึงงานช้ินหน่ึงโต 30 × 300 มม. ใชค้ วามเร็วตดั 22 เมตร/นาที จงคานวณหา ค่าความเร็วรอบในการกลึงงานชิ้นน้ี วธิ ีทา ความเร็วรอบ n = 1000v d = 1000 22 3.1416 30 = 233.43 รอบ/นาที นาความเร็วรอบที่คานวณไดไ้ ปเลือกความเร็วรอบของเครื่องกลึงที่ใชก้ ลงึ การบารุงรักษาเครื่องกลงึ เพอื่ เป็นการรักษาใหเ้ ครื่องกลงึ มีอายกุ ารใชง้ านท่ียาวนาน ควรมกี ารบารุงรักษา ซ่ึงการบารุงรกั ษาโดยทวั่ ๆ ไปมดี งั น้ี 1. ตรวจดคู วามพร้อมของเครื่องอยตู่ ลอดเวลา ไมว่ า่ จะเป็นการตรวจดรู ะบบไฟฟ้ า ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของ เครื่องกลงึ จะตอ้ งอยใู่ นสภาพท่ีใชง้ านไดด้ ีและปลอดภยั 2. ก่อนใชเ้ คร่ืองทุกคร้ัง จะตอ้ งทาการหยอดน้ามนั หล่อลื่นในส่วนท่ีเคลอื่ นท่ีไดเ้ ป็นการลดการเสียดสีในขณะ ใชง้ าน 3. ในการเปลีย่ นความเร็วรอบ โดยเฉพาะเคร่ืองกลงึ ท่ีมกี ารเปลยี่ นความเร็วรอบดว้ ยชุดเฟื องทด ควรจะตอ้ ง หยดุ เครื่องก่อนเปล่ียนความเร็วรอบ และควรโยกคนั โยกบงั คบั ใหต้ รงตามตาแหน่ง มิฉะน้นั ฟนั เฟื องจะขบกนั ไม่ ตรงฟัน จะทาใหเ้ ฟื องเกิดการเยนิ และสึกหรอเร็ว 4. การเลือกใชค้ วามเร็วรอบ อตั ราป้ อนกลึง จะตอ้ งเลอื กใหเ้ หมาะสมกนั ชนิดของงานถา้ ใหค้ วามเร็วรอบเร็ว เกินไป หรือการป้ อนกนิ ลึกมากเกินไป หรือใชอ้ ตั ราป้ อนกินเร็วเกินไป ทาใหเ้ คร่ืองกลงึ รับภาระหนกั อาจเป็น สาเหตุทาใหเ้ คร่ืองกลึงชารุดเสียหายได้ 5. จะตอ้ งมีการเปล่ียนถา่ ยน้ามนั เครื่องของเครื่องกลงึ ตามระยะเวลาทีก่ าหนด และควรเลอื กใชช้ นิดของ น้ามนั เคร่ืองตามท่ีค่มู อื การใชเ้ คร่ืองกาหนดไว้ 6. หลงั จากเลกิ ใชง้ านทุกคร้ังจะตอ้ งทาความสะอาดเครื่อง และจะตอ้ งชโลมน้ามนั 7. ชุดแท่นเล่ือน หลงั เลกิ ใชง้ านควรเลื่อนมาอยตู่ าแหน่งใกลช้ ุดศนู ยท์ า้ ยแท่นเพราะตาแหน่งน้ีจะมีส่วนที่เป็น ฐานช่วยรองรับน้าหนกั ป้ องกนั การแอนตวั ของแท่นเลื่อน การบารุงรักษานกจากท่ีไดก้ วา่ มาขา้ งตน้ แลว้ ในการบารุงรักษาที่ดีควรจะศึกษาค่มู อื ของเคร่ืองจกั รกลที่มากบั เคร่ืองจกั กลน้นั หรือสอบถามจากตวั แทนจาหน่ายเพราะจะทราบจุดอ่อนของเครื่องจกั รกลน้นั ๆ เป็นอยา่ งดี
ความปลอดภยั ในการใชเ้ คร่ืองกลึง ในการใชเ้ คร่ืองกลงึ น้นั อาดเกิดอบุ ตั ิเหตุได้ สาเหตุอาดเกิดจากผปู้ ฏบิ ตั ิงานเองหรืออาดเกิดจากเคร่ืองกลึงหรือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นามาใชก้ บั เคร่ืองกลึง เพ่ือเป็นการป้ องกนั อบุ ตั ิเหตุและก่อใหเ้ กิดความไมป่ ลอดภยั ควรปฏิบตั ิดงั น้ี 1. ผปู้ ฏบิ ตั ิงานจะตอ้ งการใหร้ ัดกมุ และถกู ตอ้ งตามกฎความปลอดภยั ของโรงงาน ผมไมย่ าวรุงรัง ไม่ผกู เน็กไท ไม่ควรสวมเคร่ืองประดบั ต่าง ๆ ท่ีอาดก่อใหเ้ กิดอนั ตราย 2. ผปู้ ฏบิ ตั ิงานจะตอ้ งสวมแวนตานิรภยั ขณะปฏบิ ตั ิงาน 3. หา้ มปฏบิ ตั ิงานกลงึ ขณะที่ทานยาแกไ้ ขท้ ่ีมผี ลทาใหง้ ่วงนอน หรือร่างกายออ่ นเพลยี 4. ไมห่ ยอกลอ้ กนั ขณะปฏบิ ตั ิงาน 5. การปฏบิ ตั ิงานจะตอ้ งทาเพียงผเู้ ดียว ไมต่ อ้ งมีเพือ่ นช่วย เพราะอาดจะเกดิ อบุ ตั ิเหตุได้ 6. จะตอ้ งตรวจดคู วามพร้อมของเคร่ืองกลึงก่อนการใชท้ ุกคร้ัง 7. ศึกษาการใชเ้ คร่ืองกลงึ เป็นอยา่ งดี 8. จะตอ้ งมีแสงสวา่ งเพยี งพอขณะปฏบิ ตั ิงาน 9. จบั หวั จบั ใหแ้ น่นพร้อมท้งั จบั ยดึ งานใหแ้ น่น และนาประแจขนั หวั จบั ออกจากหวั จบั ทุกคร้ังอยา่ ปลอ่ ย คา้ งไว้ 10. เศษโลหะจากการกลึงจะตอ้ งมเี ศษเก่ียวออกมา หา้ มใชม้ อื หยบิ เพราะเศษโลหะมคี วามคมอาดบาดมอื ได้ ประโยชน์และการทางานดว้ ยเครื่องกลึง เครื่องกลึงมีประโยชนม์ ากมายสาหรับในสาขาช่างกลโรงงานดงั ที่กลา่ วมาแลว้ เช่น กลึงปาดหนา้ กลึง ปอก กลงึ ข้ึนรูป และยงั ทางานอืน่ ไดอ้ กี เช่น เจาะรูบนเคร่ืองกลึง การพมิ พล์ าย การตาปเกลียว ฯลฯ เป็นตน้
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: