ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 By ครูจอย
การใช้เทคโนโลยีอย่างร้เู ทา่ ทัน ในชีวิตประจำวันของเรำ เทคโนโลยีสำรสนเทศมีบทบำท กับกำรดำเนินชีวิตในปัจจุบันเป็นอย่ำงมำก ในขณะท่ีในทุกๆวัน เทคโนโลยีมีกำรเปล่ียนแปลงตลอดเวลำ เรำเองก็ต้องเรียนรู้และ ปรับตัวให้ทันต่อกำรเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี อย่ำงไรก็ตำม เทคโนโลยีนั้นมีท้ังคุณประโยชน์และโทษในเวลำเดียวกัน เพื่อให้ เรำมีควำมรู้และสำมำรถใช้เทคโนโลยีได้อย่ำงมีประโยชน์และ ปลอดภัย ก็จำเป็นที่จะต้องมีควำมรู้เกี่ยวกับควำมรู้ทำงด้ำนต่ำง ๆ ต่อไปนี้ ➢ กำรประเมนิ ควำมน่ำเชอ่ื ถือของข้อมูล ➢ เหตผุ ลวิบัติ ➢ กำรใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศอยำ่ งปลอดภยั ➢ รเู้ ท่ำทนั สื่อและข่ำวลว่ ง ➢ กฎหมำยเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์ ➢ กำรใชง้ ำนลขิ สิทธท์ิ ่ีเปน็ ธรรม
การประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถอื ของขอ้ มูล กำรนำข้อมูลมำใช้ในกำรเรียน กำรทำงำนและกำร ตัดสนิ ใจต่ำงๆ จะต้องพิจำรณำควำมถูกต้องของข้อมูลที่นำมำจำก หลำยแหล่งข้อมูล โดยต้องเป็นแหล่งข้อมูลที่มีควำมน่ำเชื่อถือ มี ควำมถกู ตอ้ งสมบูรณ์ สอดคลอ้ งตรงตำมควำมตอ้ งกำร และมคี วำม ทันสมยั เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีมีคุณภำพนักเรียนอำจใช้กำรประเมิน ควำมน่ำเช่ือถือของข้อมูลโดยใช้ประเด็นกำรพิจำรณำของ “พร อมท์” ได้แก่
➢ Presentation กำรนำเสนอข้อมูลต้องชัดเจน ตรงตำม เนอื้ หำ กระชบั ➢ Relevance กำรพจิ ำรณำควำมสมั พนั ธ์ ควำมสอดคลอ้ งของ ขอ้ มูลกับสิง่ ทต่ี ้องกำร ➢ Objectivity ข้อมูลที่นำมำใช้ต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ไมม่ ีเจตนำแอบแฝง หรือเป็นขอ้ มลู ทีแ่ สดงควำมคดิ เหน็ ➢ Method มีกำรวำงแผนกำรเก็บรวบรวมข้อมูลอย่ำงเป็น ระบบ ➢ Provenance มีกำรระบุแหล่งที่มำของข้อมูลอย่ำงชัดเจน เชอ่ื ถือได้ ➢ Timeliness ขอ้ มูลต้องเปน็ ปัจจุบนั ทันสมยั
การตรวจสอบความนา่ เช่ือถอื ของแหลง่ ท่มี าของข้อมูล กำรตรวจสอบควำมน่ำเช่ือถือของแหล่งท่ีมำของข้อมูลใน กำรค้นหำขอ้ มูลจำกเว็บไซตห์ รอื แหล่งท่มี ำของข้อมูลเพ่ือนำข้อมูล ไปใช้งำนและอ้ำงอิงจำเป็นต้องมีกำรตรวจสอบควำมน่ำเช่ือของ แหล่งที่มำของข้อมูลก่อนไม่เช่นน้ันอำจจะสร้ำงควำมเสียหำยได้ วิธีกำรตรวจสอบควำมน่ำเช่ือถือของแหลง่ ข้อมลู สำมำรถทำไดด้ ังน้ี 1 เว็บไซตห์ รือแหลง่ ท่ีมาของข้อมูลตอ้ ง บอกวตั ถุประสงคใ์ นการสร้างหรือ เผยแพรข่ ้อมลู ไว้ในเวบ็ ไซต์ อย่างชดั เจน 2 การนาเสนอเน้อื หาต้องตรงตาม วตั ถปุ ระสงคใ์ นการสรา้ งหรอื เผยแพร่ขอ้ มลู ของเว็บไซต์ 3 เนอื้ หาเวบ็ ไซรไ์ ม่ขดั ขอ้ งตอ่ กฎหมาย ศีลธรรม และจรยิ ธรรม
4 มีการระบุชื่อผเู้ ขยี นบทความ หรือผู้ให้ขอ้ มลู บนเวบ็ ไซต์ 5 มกี ารอา้ งองิ แหล่งที่มาหรือแหลง่ ตน้ ตอของขอ้ มลู ทีม่ ีเนื้อหาปรากฏ บนเวบ็ ไซต์ 6 สามารถเชอ่ื มโยง (link) ไปเวบ็ ไซต์อ่นื ที่อา้ งถึงเพื่อตรวจสอบ แหลง่ ตน้ ตอของขอ้ มลู ได้ 7 มกี ารระบวุ นั เวลาในการเผยแพร่ ข้อมูลบนเว็บไซต์ 8 มกี ารใหท้ ีอ่ ยู่หรืออีเมล ท่ีผูอ้ า่ น สามารถตดิ ตอ่ ผดู้ แู ลเว็บไซต์ได้
9 มชี อ่ งทางให้ผู้อ่านแสดง ความคิดเหน็ 10 มีข้อความเตอื นผูอ้ ่านใหใ้ ช้ วจิ ารณญาณในการตัดสนิ ใจใช้ ขอ้ มลู ท่ปี รากฏบนเว็บไซต์
เหตุผลวิบตั ิ เหตุผลวิบัติ (fallacy) เป็นกำรอ้ำงเหตุผลท่ีบกพร่องอัน เกิดจำกควำมผิดพลำดในกระบวนกำรคิดหำเหตุผล (reasoning process) ท้ังแบบอุปนัยเละนิรนัยซึ่งส่งผลให้กำรอ้ำงเหตุผลนั้น เป็นกำรอ้ำงหตุผลทว่ี บิ ัติ (fallacious argument) ในส่วนที่เกี่ขวกับเหตุผลวิบัติน้ี มีส่ิงท่ีควรสังเกตอย่อข่ำง หนึ่งคอื กำรพบว่ำมีเหตผุ ลวบิ ัตใิ นกำรอำ้ งเหตผุ ลใดนน้ั มนั ไม่ไดท้ ำ ให้เรำสำมำรถสรุปได้ว่ำข้อสรุปน้ันเท็จ ในกรณีท่ีกำรองเหตุผล บกพร่องหรือวิบัติน้ัน มันหมำยถึงว่ำ กำรอ้ำงเหตุผลน้ันจะไม่เป็น เหตผุ ลทท่ี ำให้เรำเชื่อไดว้ ่ำขอ้ สรุปนน้ั ถกู เหตผุ ลวิบตั ิแบง่ ได้ 2 ประเภท 1. เหตผุ ลวิบตั ิแบบเปน็ ทำงกำร 2. เหตผุ ลวบิ ัติแบบไม่เปน็ ทำงกำร
1. เหตผุ ลวิบตั แิ บบเปน็ ทางการ เกิดจำกกำรให้เหตุผลท่ีใช้หลักตรรกะท่ีไม่ถูกต้อง แต่เขียนใน รูปแบบที่เป็นทำงกำรทำให้ดสู มเหตสุ มผล นกั เรยี นอำจตีควำมว่ำ ถ้ำเลือก แล้วจะมีกำรพัฒนำหมูบ้ำน แต่ใน ควำมเปน็ จรงิ ถึงแมจ้ ะถูกเลอื กกอ็ ำจจะไม่มีกำรพฒั นำหมบู ำ้ นกไ็ ด้
2. เหตุผลวิบัติแบบไม่เปน็ ทางการ ▪ กำรให้เหตุผลโดยอ้ำงถึงผู้พูดว่ำ มีพฤติกรรมขัดแย้งกับส่ิงท่ี พูดเพรำะส่งิ ที่พูดเชอ่ื ถอื ไม่ได้ เหตผุ ลท่พี ่อใหเ้ ป็นเหตผุ ลทถี่ กู ตอ้ ง แตล่ ูกไม่ไดส้ นใจควำมถกู ตอ้ ง แต่กลับไปสนใจพฤติกรรมของพ่อท่ีขดั แย้งกบั สง่ิ ทพี่ อ่ กำลงั สอน
▪ กำรให้เหตุผลโดยอ้ำงอิงถึงลักษณะของตัวบุคคลโดยไม่สนใจ เน้ือหำสำระของขอ้ ควำม ควำมคดิ เห็นของผู้พูดเปน็ ควำมคิดทด่ี ี แต่คนฟงั ไม่สนใจประเด็นท่ี พดู แต่มุ่งประเด็นไปท่ผี พู้ ูดเป็นเดก็
▪ กำรให้เหตุผลโดยอ้ำงถึงควำมน่ำสงสำร หรือควำมเห็นอก เห็นใจแล้วเปลย่ี นเปน็ ควำมถกู ต้อง สงิ่ ที่เกิดขน้ึ เปน็ ควำมผดิ ทำงกฎหมำย แต่คนที่แสดงควำมเหน็ กลบั มุง่ ประเดน็ ไปทเี่ หตุผลของกำรกระทำ ซงึ่ ไมเ่ ก่ยี วข้องกัน
▪ กำรให้เหตุผลโดยอ้ำงถึงคนส่วนใหญ่ท่ีปฏิบัติเหมือนกัน ดังนน้ั สิ่งทีท่ ำจงึ ถูกต้อง ผพู้ ดู รอู้ ยู่แลว้ ว่ำสงิ่ ทที่ ำไม่ถูกต้อง แต่กลบั อ้ำงถึงสง่ิ ทค่ี นอนื่ ทำแลว้ ไม่ถูกตอ้ งเหมอื นกัน เพื่อเป็นเหตุผลใหต้ นเองไม่ต้องทำในสงิ่ ทถ่ี ูกต้อง
▪ กำรใหเ้ หตผุ ลโดยสร้ำงทำงเลือกไว้แค่ 2 ทำง แต่ในควำมเป็น จรงิ อำจมที ำงเลอื กอ่ืนๆ อกี กำรใหเ้ หตผุ ลอำจมปี ัจจยั อนื่ ๆ มำประกอบ ไมไ่ ดม้ แี ค่ 2 ทำงเลือก เท่ำนัน้ กำรทเ่ี รำไมเ่ ห็นดว้ ยกบั ทำงเลือกแรก ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งเลอื ก ทำงเลอื กท่ี 2 อำจมีทำงเลอื กอน่ื ๆ อีก
▪ กำรให้เหตุผลเกินจริง โดยบอกเหตุผลว่ำเม่ือสิ่งน้ีเกิดจะมีอีก สงิ่ หนง่ึ เกดิ ขนึ้ ตำมมำซง่ึ เกนิ ควำมจรงิ ไปมำก กำรโต้แยง้ ของนำย ข เกนิ ควำมเปน็ จรงิ ไปมำก ซึ่งนำย ก มเี จตนำ ให้นกั เรยี นใสแ่ คห่ น้ำกำกอนำมยั เฉพำะชว่ งเวลำทมี่ ฝี นุ่ จำนวนมำกเท่ำนน้ั
▪ กำรให้เหตุผลโดยเบี่ยงประเด็นกำรโต้แย้งของผู้อื่นให้ กลำยเป็นอีกเรื่องหน่งึ แลว้ ค่อยโจมตปี ระเด็นทถ่ี กู บิดเบือน เจตนำของนำย ก ตอ้ งกำรสนับสนนุ ใหน้ กั เรียนนำ SmartPhone มำใชใ้ นกำรเรยี นแต่นำย ข โต้แย้งโดยเบี่ยงไป ประเด็นอนื่ เพื่อโจมตีนำย ก
▪ กำรให้เหตุผลโดยอ้ำงว่ำสิ่งใดส่ิงหน่ึงเป็นส่ิงพิเศษไม่เหมือน ใคร ดังน้ันจะเอำไปเปรียบเทียบกับส่ิงอ่ืนไม่ได้ ทั้งท่ีประเด็น ที่อำ้ งน้ันไมไ่ ด้เกยี่ วข้องกับสง่ิ ทโ่ี ต้แย้งกนั อย่เู ลย ส่งิ ที่ลงุ ทำนนั้ ไม่ถกู ตอ้ ง แต่ใหเ้ หตผุ ลโดยอำ้ งถงึ ควำมพเิ ศษคือ ตนเองเปน็ ผู้ใหญซ่ ่ึงไมต่ อ้ งท้ิงขยะลงถังกไ็ ด้
การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย กำรใช้งำนเทคโนโลยีสำรสนเทศมีวัตถุประสงค์หลำย อย่ำงเช่นกำรใช้งำนเพ่ือทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (electronic transaction) กำรใช้งำนเพ่ือสนับสนุนกำรทำงำนและกำรใช้งำน ทว่ั ไปซงึ่ จะตอ้ งคำนงึ ถึงควำมปลอดภยั ในกำรใชง้ ำน การทาธุรกรรมอเิ ล็กทรอนิกสอ์ ยา่ งปลอดภยั ก ำ ร ท ำ ธุ ร ก ร ร ม ผ่ ำ น อิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต ห รื อ ธุ ร ก ร ร ม อิเล็กทรอนิกส์นั้นกลำยเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวคนไทยมำกข้ึนหลังจำก รัฐบำลไทยได้ให้ธนำคำรพำณิชย์ต่ำง ๆ เปิดโครงกำรพร้อมเพย์ (prompt pay) เพอ่ื ใหท้ ำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้สะดวกมำก ยิ่งข้ึนเช่นกำรโอนเงินกำรชำระค่ำสินค้ำและบริกำรในกำรทำ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต้องระมัดระวังและมีควำมรอบคอบ เช่น กำรซื้อสินค้ำออนไลน์ผู้ซ้ือสินค้ำไม่เห็นสินค้ำจริง และไม่ได้รับ สินค้ำทันทีหลังจำกชำระเงินซึ่งอำจเป็นช่องทำงให้เกิดกำรฉ้อโกง เช่น ไมไ่ ดร้ บั สินคำ้ สินค้ำไม่มีคุณภำพหรือสินค้ำไม่ตรงตำมข้อมูลท่ี ปรำกฏ
การรูท้ นั ส่อื กำรรู้เท่ำทันส่ือ หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรป้องกัน ตนเองจำกกำรถูกโนม้ นำ้ วดว้ ยเนอื้ หำทเ่ี ป็นเท็จและมีผลกระทบตอ่ ผู้รับสื่อ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเคร่ืองมือทำงกำรตลำดหรือผลประโยชน์ ท่ีส่ือนำเสนอกำรรู้เท่ำทันสื่อน้ัน ผู้รับสำรต้องสำมำรถตีควำม วิเครำะห์ แยกแยะเน้ือหำสำระของสื่อ คิดก่อนนำส่ือไปเผยแพร่ สำมำรถตั้งคำถำมว่ำส่ือน้ันมีที่มำอย่ำงไร ใครเป็นเจ้ำของสื่อ ใคร ผลติ และผลติ ภำยใตข้ ้อจำกดั ใด ควรเชอ่ื หรือไม่ มีควำมเชอื่ อะไรที่ แฝงมำกับส่ือนั้น ผู้สร้ำงหรือผู้เผยแพร่ส่ือน้ันหวังผลอะไร ดังน้ัน ควรเลอื กแนวปฏิบตั ิอยำ่ งเหมำะสม โดยทวั่ ไปแล้วกำรเข้ำถึงเน้ือหำหรือข้อมูลข่ำวสำรจำกส่ือ ต่ำง ๆ นั้นสำมำรถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้รับสำร แต่ต้องสร้ำง กำรตระหนักรู้ถึงภัยคุกคำมของสื่อท่ีมำกับควำมอยำกรู้อยำกเห็น ด้วย
ข่าวลวงและผลกระทบ ข่ำวลวง (fake news) เปน็ รปู แบบหนง่ึ ของกำรก่อกวนซ่ึง ข่ำวลวงจะนำเสนอเรื่องรำวที่เป็นเท็จมีวัตถุประสงค์แอบแฝงที่ แตกต่ำงกัน เช่น เพ่ือขำยสินค้ำ ทำให้เกิดควำมเข้ำใจผิด สร้ำง ควำมสับสนให้แก่ผู้รับข้อมูล ข่ำวลวงอำจแพร่ผ่ำนอีเมล หรือ เครอื ข่ำยทำงสงั คม โดยจะสง่ ผลใหเ้ กิดควำมเสียหำยทั้งส่วนบุคคล ทำงด้ำนเศรษฐกจิ กำรเมืองกำรปกครอง ฯลฯ ลักษณะของข่ำวลวง เชน่ ▪ สร้ำงเรือ่ งรำวเพือ่ ใหเ้ ป็นจุดสนใจของสงั คม ▪ สร้ำงควำมหวำดกลัว ▪ กระตุน้ ควำมโลภ ▪ สรำ้ งควำมเกลียดชัง ▪ สง่ ตอ่ กนั มำผ่ำนเครือขำ่ ยทำงสงั คม ▪ ไม่ระบุแหล่งท่ีมำ ▪ ขยำยควำมต่อจำกอคติของคนทั่วไปท่ีมีอยู่ก่อนแล้วเพ่ือหวังให้ ตนเองได้รับผลประโยชน์หรือใช้เพ่ือโจมตีคู่แขง่
กฎหมายเกยี่ วกบั คอมพิวเตอร์ กำรออกข้อกำหนดระเบียบและกฎหมำยต่ำง ๆ ที่ เก่ียวข้องกับเทคโนโลยีสำรสนเทศมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้กำรใช้งำน เทคโนโลยสี ำรสนเทศเป็นไปด้วยควำมเรียบร้อยประเทศไทยมีกำร ออกพระรำชบัญญัติต่ำง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับเทคโนโลยีสำรสนเทศ และมีกำรปรับปรงุ ใหท้ นั สมัยอยำ่ งสม่ำเสมอโดยรำยละเอยี ดตำ่ ง ๆ สำมำรถศกึ ษำได้จำกพระรำชบญั ญตั แิ ตล่ ะฉบับดังนี้ ▪ พระรำชบัญญัติกำรพัฒนำดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สงั คม พ.ศ. ๒๕๖๐ ▪ พระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรกระทำควำมผิดเก่ียวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และแก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐
ตวั อยา่ งการกระทาท่ีมีความผิดตามพระราชบัญญัตวิ ่าด้วย การกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ เชน่ ▪ ส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออีเมลให้บุคคลอ่ืนซึ่งก่อให้เกิดควำม เดือดรอ้ นหรอื รำคำญโดยไม่เปิดโอกำสให้ผู้รับสำมำรถบอกเลิก หรือปฏเิ สธกำรตอบรับไดโ้ ดยงำ่ ยเช่นส่งอีเมลสแปมส่งข้อควำม โฆษณำมำทโี่ ทรศพั ทม์ อื ถือฝำกร้ำนในเครอื ขำ่ ยทำงสงั คม ▪ กดไลค์ (Like)เก่ยี วกบั กำรหม่ินสถำบนั พระมหำกษัตรยิ ์ ▪ กดแชร์ (Share) ข้อมูลที่มีผลกระทบต่อผู้อื่นทำให้เกิดควำม เสียหำย ▪ พบข้อมูลผิดกฎหมำยในระบบคอมพิวเตอร์หรือในบัญชี เครือข่ำยทำงสังคมถึงแม้ไม่ได้เป็นเจ้ำของข้อมูลก็ตำมแล้ว เพิกเฉยโดยไม่แจ้งไปยังหน่วยงำนที่รับผิดชอบและลบข้อมูล ออกจำกระบบ
▪ ผู้ดูแลเพจหรือแอดมินเพจพบข้อควำมแสดงควำมคิดเห็นที่ผิด พ.ร.บ. แล้วเพิกเฉย ▪ โพสต์สอ่ื ลำมกอนำจำรท่ีทำให้เกิดกำรเผยแพร่สู่ประชำชนได้© โพสต์เกย่ี วกับเดก็ เยำวชนแลว้ ไมป่ ิดบงั ใบหน้ำยกเวน้ กรณีทเี่ ป็น กำรเชิดชหู รอื ชนื่ ชมอยำ่ งใหเ้ กยี รติ ▪ ใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับผ้เู สยี ชวี ติ แลว้ ทำให้เกดิ ควำมเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมินเกลยี ดชังญำตสิ ำมำรถฟ้องร้องได้ตำมกฎหมำย ▪ กำรโพสต์ด่ำว่ำผู้อ่ืนหรือข้อควำมเท็จเป็นควำมผิดทำงอำญำ© ละเมดิ ลิขสทิ ธิผ์ ู้อื่นเช่นขอ้ ควำมเพลงรูปภำพวีดทิ ศั น์ ▪ แชรร์ ปู ภำพของผ้อู น่ื ในเชงิ พำณชิ ยเ์ พอื่ หำรำยได้
การใชง้ านลิขสิทธิท่เี ป็นธรรม “ ลิขสิทธ์ิสิทธิ แต่เพียงผู้เดียวที่จะกระทำกำรใด ๆ เก่ียวกับงำนท่ีผู้สร้ำงสรรค์ได้ริเร่ิมโดยกำรใช้สติปัญญำควำมรู้ ควำมสำมำรถและควำมวิริยอุตสำหะของตนเองในกำรสร้ำงสรรค์ ไม่ลอกเลียนงำนของผู้อื่นโดยงำนที่สร้ำงสรรค์ต้องเป็นงำนตำม ประเภทท่ีกฎหมำยลิขสิทธ์ิให้ควำมคุ้มครองโดยผู้สร้ำงสรรค์จะ ไดร้ ับควำมคมุ้ ครองทนั ที่ทส่ี ร้ำงสรรค์โดยไม่ต้องจดทะเบียน” กรม ทรัพย์สนิ ทำงปญั ญำ ตวั อยา่ งการใช้งานลิขสิทธ์ทิ ่เี ปน็ ธรรม กำรวจิ ัยหรอื ศกึ ษำงำน โดยไมแ่ สวงหำกำไร เช่น นกั เรียน สำเนำขอ้ ควำมบำงส่วนในบทควำมเพอื่ ทำแบบฝึกหดั กำรคัดลอกคำกลำ่ วหรือบทควำมโดยยอ่ และมกี ำรอ้งองิ ในกำรรำยงำนข่ำว กำรคดั ลอกคำกลำ่ วหรือบทควำมโดยย่อ และมีกำรอง้ องิ ในกำรรำยงำนข่ำว
ตัวอย่างการใชง้ านลิขสทิ ธทิ์ ่ีไมเ่ ป็นธรรม กำรดำวน์โหลดเพลงผูอ้ น่ื ไปขำย ผู้สอนถำ่ ยเอกสำรหนงั สือเรียนเพื่อขำยกบั ผู้เรยี นจำนวน มำก ทำใหเ้ จ้ำของลิขสทิ ธิ์สูญเสยี รำยได้ ผู้นำไปใช้มเี จตนำทุจรติ โดยกำรนำงำนที่มีลขิ สิทธิ์ไปใช้โดย ไมอ่ ำ้ งอิงหรอื ใช้ในลกั ษณะทีท่ ำใหผ้ ูอ้ นื่ เขำ้ ใจวำ่ ผลงำน ลิขสิทธ์นัน้ เป็นของตนเอง ก ำ ร ใ ช้ ง ำ น โ ป ร แ ก ร ม ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ แ บ บ ท ด ล อ ง ใ ช้ (shareware) อยำ่ งตอ่ เนือ่ งแม้วำ่ จะหมดอำยุกำรใช้งำน
สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา มัธยมศึกษาลาปาง ลาพูน
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: