นาฏศิลป์ จัดทำโดย นาย กณวรรธณ์ หนูเกิด เลขที่4 นางสาว กนกพร ศรีสัย เลขที่37 นางสาว กิรณา ศิริพันธ์ เลขที่38 นางสาว สุชานาถ สิงห์ดำ เลขที่40
ละครตะวันตก ละครยุคแรก • ละครกรีก • ละครโรมัน ละครยุคฟื้ นฟู ศิลปวิทยาการ • อินเตอร์เมทซี • ละครโอเปร่า ละครยุคกลาง • การแสดงละคร ละครเกี่ยวกับ ศาสนาและศีล ธรรม ละครสมัยใหม่ • การแสดงละครสัจนิยมประเภทต่างๆ ละครแนวต่อต้านสัจนิยมละครเพื่อสังคม
ละครกรีก เริ่มจากการประกวดการร้องเพลงเป็นหมู่ (Choral dance) เรียกว่า วิธีแรมบ์ (dithyramb)ในเทศกาลบวงสรวงเทพเจ้าไดโอนีซุส ปัจจุบันมี 2 ประเภท คือ ละคร โศกนาฏกรรม ละคร สุขนาฏกรรม • แสดงชีวิตตัวละครเอกที่ต้อง • ตลกขบขันเพราะความ ดิ้นรนต่อสู้กับชะตากรรม บกพร่องของมนุษย์ • จบท้ายด้วยความเศร้าหรือไม่ • ขับร้องเพลงเพื่อความ สมหวัง สนุกสนานเฮฮา • แสดงถึงความทุกข์ทรมาน ของมนุษย์ Eg. Mr.bean ลักษณะตัวละคร • ใช้ผู้ชายแสดง • ใช้พิธีกรบรรยายฉากการตาย
ละครโรมัน ได้รับอิทธิพลจากละครของกรีกแล้วพัฒนาให้เข้ากับรสนิยมชาวโรมัน ละครโศกนาฏกรรมโรมัน ละครตลกขบขันแบบโรมัน นักเขียน ลูเซียสแอนน์เซียส เซเนกา • แพนโทไมม์ (Pantomime) เรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรง • แฟบูล่า แอทเทนลาน่า (Fabula Atteniana) สยดสยอง อาฆาตแค้น • “ไมม์ (Mime) มีเรื่องราวของภูตผีปีศาจและการใช้ เวทมนตร์คาถา Eg. The Eagle ฝ่าหมื่นตาย Eg. Sir John Falstaff
ละครยุคกลาง 1. ละครในวัด 2. ละครเกี่ยวกับศาสนา และศีลธรรม 3. การแสดงประเภทอื่นๆ • โฟลค์เพลย์ (FolkPlay) เกี่ยวกับก.ผจญภัยของ วีรบุรุษยอดนิยม เช่น โรบินฮูด • ฟาร์ส (Farce) เป็นเรื่องราว เกี่ยวกับการ ล้อเลียนค.ชั่วร้าย • เซอร์คลา อิเตอร์ลูด (SecularInterlode) เป็นเรื่องราวที่อาจจริงจังหรือตลก และไม่เกี่ยวกับศาสนา ละครยุคฟื้ นฟูศิลปวิทยาการ 1. อินเตอร์เมทซี 2. โอเปร่า ละครสมัยใหม่ 1.ละครแนวสัจนิยม → สมจริง บทไม่บิดเบือนจากค.จริง 2.ละครแนวต่อต้านสัจธรรม • ละครสัญลักษณนิยม • ละครเอ็กซ์เปรสชั่นนิสม์ • ละครเพื่อสังคม
• สมัยน่านเจ้า - มีละครเรื่อง นามาโนราห์ เป็นนิยายของพวกชาวไต ซึ่งเป็น ชนกลุ่มน้อยทางตอนใต้ของจีน ต่อมาเพี้ยนมาเป็น มโนราห์ • สมัยสุโขทัย - เป็นการแสดงประเภทระบำ รำ ฟ้อน - มีวิวัฒนาการมาจากการละเล่นของชาวบ้าน เป็นการพักผ่อนหย่อนใจหลังจากเสร็จงาน
สมัยอยุธยา สมัยอยุธยามีละคร 3 ประเภทคือ 1. ละครชาตรีซึ่งเป็นละครดั้งเดิม 2. ละครนอกที่แก้ไขมาจาก ละครชาตรี 3. ละครในเป็นละครของผู้หญิง สมัยธนบุรี - สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดละครมาก ทรงควบคุมการแสดงละครและพระราชนิพนธ์บทละคร เรื่อง รามเกียรติ์ 5 ตอน คือ - ตอนหนุมานเกี้ยวนางวานรินทร์ - ตอนท้าวมาลีวราชว่าความ - ตอนทศกัณฐ์ตั้งพิธีทรายกรด - ตอนพระลักษมณ์ถูกหอกกบิลพัท - ตอนปล่อยม้าอุปการ
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่1:พระบาทสมเด็จพระพุทธ ยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ฟื้ นฟูและรวบรวม สิ่งที่สูญหายให้มีความ สมบูรณ์มากขึ้นและรวบรวม ตำราการฟ้อนรำ พัฒนาโขน โดยให้ผู้แสดงเปิดหน้าและสวม มงกุฎ หรือชฏา ทรงพระราชนิพนธ์บทละคร เรื่องรามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทกซึ่ง มีชื่อเสียงโด่งดังมาก
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รีชกาลที่2 :พระบาทสมเด็ก พระพุทธเลิศหล้านภาลัย สมัยนี้วรรณคดี และละครเจริญรุ่งเรืองอย่างมากที่สุด มีการเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย ให้เป็นการแต่งยืนเครื่อง แบบในละครใน ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องอิเหนา เมื่อปี พ.ศ.2511 ยูเนสโก ได้ถวายพระเกียรติคุณแด่ พระองค์ ให้ในฐานะบุคคลสำคัญ ที่มีผลงานดีเด่นทาง วัฒนธรรม ระดับโลก รัชกาลที่2จึงเป็นพระมหากษะตริย์ ที่โดดเด่นในด้สนวรรณกรรม วรรณคดี ซึ่งควบคู่ไปกับการละคร
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รีชกาลที่3 :พระบาทสมเด็กพระนั่ง เกล้าเจ้าอยู่หัว สมัยนี้พระองค์ ให้ยกเลิกละครหลวง พระบรมวงศานุ วงศ์ จึงพากันฝึกหัดโขนละคร ส่งผลให้เกิดคณะละครของเจ้านายและขุนนางขึ้นแพร่ หลายและ คณะละครที่เกิดขึ้น เช่น ๑. ละครของพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ เดิมคือ โขน หลวงในรัชกาลที่ ๒ มีนายเกษ พระราม ข้าหลวง เดิมเป็นผู้ฝึกหัด ๒. ละครกรมพระพิพิธโภคเบนทร์ (ต้นสุกล พนมวัน)
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รีชกาลที่4 :พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นยุคสมัยที่มีการเ ปลี่ยนแปลงสำคัญๆเกี่ยวกับนาฏศิลป์ และการละครไทยหลายประการ ๑. โปรดให้มีละครหลวงขึ้นอีกครั้ง เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๗ ๒. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ประกาศพระราชทาน พระบรมราชานุญาติ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการผู้น้อยและเอกชน ฝึกหัดละครผู้หญิงได้ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๘ ๓. โปรดให้ตั้งภาษีมหรสพขึ้นเป็นครั้งแรก เรียกกันใน สมัยนั้นว่า ภาษีโขน ละคร
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รีชกาลที่5 :พระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วิถีชีวิตคนไทยในยุคนี้เปลี่ยนไป จากเดิมเพราะได้รับวัฒนธรรม จากตะวันตก ศิลปะการแสดงได้มี การพัฒนาไปอีกรูปแบบหนึ่ง ทรงฟื้ นฟูนาฏศิลป์ และการละครโดยโปรด เกล้าฯให้ครูละครหลวงร่วมกันแสดงเรื่อง สังข์ทอง เพื่อให้เยาวชนได้เห็นแบบแผนฝีมือ ครู ทรงสนับสนุนให้เจ้านายและเอกชนจัด ตั้งคณะละครขึ้นมากมาย
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รีชกาลที่6 : พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้ตั้งกรมมหรสพขึ้น พระองค์ทรงปรับปรุง และทำนุบำรุงศิลปะทางโขน ละครและดนตรีปี่ พาทย์ให้ เจริญรุ่งเรืองทางมาตรฐาน สมัยนี้ยังเกิด “โขนบรรดาศักดิ์”ซึ่งเป็นโขน สมัครเล่นที่ฝึกหัดให้มหาดเล็กแสดงโขน โขน เชลยศักดิ์” ซึ่งเป็นโขนที่ ประชาชนทั่วไปแสดง โปรดให้ตั้งโรงเรียนฝึกหัดศิลปะทางโขน ละคร และดนตรีปี่ พาทย์ขึ้นในกรมมหรสพ ชื่อ “โรงเรียน ทหารกระบี่หลวง” และต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนพรานหลวง ยังทรงพระราชนิพนธ์บทละครนอกหลายเรื่อง เช่น เรื่องพระร่วงหรือขอมดำดิน เรื่องท้าวแสนปม
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รีชกาลที่ 7:พระบาทสมเด็จพระ ปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในยุคนี้ประสบกับภาวะเศรษฐกิจทรุดโทรม เสนาบดี สภาได้ตกลงกันให้ยุบกรมมหรสพได้โปรดให้รวมกรม มหรสพและกรมมหาดเล็กเข้าอยู่ในกระทรวงวัง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๘ ได้มีการปรับปรุง กระทรวงวังกันอีกครั้งหนึ่ง และโอนงาน กองช่างวังนอกและกองมหรสพไปอยู่ สังกัดกรมศิลปากรเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๘
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รีชกาลที่8 :พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล การแสดงนาฏศิลป์ โขน ละคร ในสมัยนี้อยู่ในการดูแลของกรมศิลปากร หลวงวิจิตรวาทการเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง สถาบันการสอนศิลปะการแสดงโขน ละคร ดนตรี ปี่ พาทย์ ควบคู่ไปกับการสอน วิชาสามัญ คือ “วิทยาลัยนาฏศิลป มีการแสดงละครปลุกใจ ให้รักชาติ และมี ลักษณะที่แตกต่างจากละครที่มีอยู่เดิม จึง เรียกว่า “ละครหลวงวิจิตรวาทการ” ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ ประชาชนนิยม เล่นรำโทนกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งต่อมา กรมศิลปากรได้นำมาปรับปรุงเป็น “รำวงมาตรฐาน”
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รีชกาลที่9 :พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ สมัยนี้การแสดงละครเฟื่ องฟูมาก มีการจัดการแสดงละครกัน อย่างแพร่หลาย ทั้งละครเวที ละครที่แพร่ภาพผ่านทางสื่อต่างๆ มีผู้ยึดอาชีพการแสดงละครเป็นจำนวนมาก โปรดเกล้าฯ ให้จัดพิธีไหว้ครูมอบท่ารำ องค์พระพิราพให้แก่ศิลปินกรมศิลปากร โปรดเกล้าฯ ให้บันทึกภาพยนตร์สีส่วนพระองค์ บันทึกท่ารำหน้าพาทย์องค์พระพิราพ ท่ารำ เพลงหน้าพาทย์ของพระ นาง ยักษ์ ลิง อีกทั้งทางรัฐบาลยังให้การสนับสนุนส่งเสริมและ เชิดชูเกียรติบุคคลที่อยู่ในแวดวงศิลปะการแสดงโดย กำหนดให้ วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันศิลปินแห่งชาติ
หลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร หลักในการชมละคร มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการแสดงที่ชม มีมารยาทในการดู ปิดโทรศัพท์ ไม่รบกวนคนอื่น การแสดงจบควรปรบมือเพื่อให้เกียรติผู้แสดง แสดงออกทางอารมณ์ คล้อยตามกับบทผู้แสดง หลักการวิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์ การบรรยาย เป็นการพูด/เขียน ถึงสิ่งที่เห็น รับรู้สึกต่างๆของการ แสดง วิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆของการแสดง ความเป็น เอกภาพเป็นอันหนึ่งเดียวกัน ความงดงามของการร่ายรำ ความถูกต้องตามแบบแผน
หลักการวิจารณ์การแสดงละคร หัวข้อ ลักษณะ วิจารณ์ โครงเรื่อง ตัวละครและ มี 3แบบ เหตุการณ์ในเรื่อง บทบาท ต้น ให้รู้ว่าใครคือใคร ชัดเจนไหม สถานที่ เวลา พื้นฐาน ตอนจบเร้าอารมณ์ แนวคิดของเรื่อง กลาง มีอุปสรรคใหญ่ ได้มากน้อยเพียงใด ปลาย คลี่คลายปัญหาได้ สิ่งที่น่าสนใจมากๆใน ภาพที่เห็น เรื่อง การใช้บทเจรจาการแสดง พฤติกรรมสอดคล้องกับ ตัวละครสามารถ บุคลิกของตัวละคร ดึงดูดคนดูได้มาก น้อยเพียงใด ผู้ประพันธ์ต้องการสื่ออะไร ตัวละครแสดงได้ แนวคิดสร้างเพื่ออะไร เช่น สมจริงหรือไม่ เพื่อความบันเทิง ดูแล้วได้แนวคิด ฉาก การแสดง สอดคล้อง ปรัชญาอะไร กับตัวละคร สร้าง เห็นด้วยกับแนวคิด บรรยากาศเหมาะสม สร้าง หรือไม่ อารมณ์ที่สอดคล้องกัน สามารถนำแนวคิดมา สมเหตุสมผลกัน ใช้ได้จริงไหม ตัวละครแสดงได้เป็น ธรรมชาติหรือไม่ ชุดที่ใช้ในการเเสดง การแต่งหน้าเหมาะกับ เรื่องไหม
หลักการประเมินคุณภาพของการ แสดงนาฏศิลป์และการแสดงละคร ด้าน หลักเกณฑ์การพิจารณา คุณภาพด้าน การนำเสนอการแสดงชัดเจนเรื่องประเภท การแสดง ผู้แสดงมีเอกลักษณ์ในการแสดง มีความ งามในระดับพื้นฐาน ผลงานให้คุณค่าทางสังคม คุณภาพด้าน เครื่องประกอบการแสดงบนเวทีต่างๆ ถูก องค์ประกอบ ต้องตามแบบแผน ยุคสมัย ระบบเสียงชัดเจน การแสดง เครื่องเเต่งกาย เเต่งหน้า สมฐานะ บทบาทตัวละคร หลักการประเมินการแสดงนาฏศิลป์ ลีลาในการเคลื่อนไหวถูกต้องตามแบบแผน มีการแปรแถวหลากหลาย มีความสมดุลบนเวที ดนตรี การขับร้อง ท่วงทำนอง เครื่องแต่งกาย และ ลีลาการเคลื่อนไหวมีความสอดคล้องกัน
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: