รายงานผลการปฏบิ ตั ิงาน และผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล (Self Assessment Report: SAR) ประจาปีการศกึ ษา 2562 ผรู้ ายงาน ช่ือนางสาวการะเกต ทองแย้ม โรงเรยี นอนุบาลบรรณวทิ ย์ ศึกษาธกิ ารจงั หวดั แมฮ่ ่องสอน
คานา รายงานการประเมนิ ตนเอง(Self Assessment Report : SAR) เปน็ การประเมนิ การปฏบิ ัติ หน้าท่ีตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542และฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2545 รวมทง้ั มาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน ข้าพเจ้าไดจ้ ัดทาขึ้นเพ่ือรายงานผลการจัดการเรียนการสอน และการปฏิบัติหน้าที่ของข้าพเจ้าตามฝ่าย/กลุ่มงานตลอดจนกิจกรรมต่างๆท่ีได้ส่งเสริมให้นักเรียนมี คุณลักษณะและคุณภาพตามระดับมาตรฐานคุณภาพการศึกษาโรงเรียนอนุบาลบรรณวิทย์สานักงาน การศึกษาเอกชนจังหวดั แมฮ่ ่องสอนประจาปกี ารศกึ ษา 2562 รายงานน้ีโรงเรียนสามารถนาผลการดาเนินงานไปจัดทาการประเมินคุณภาพภายในและ สรุปรายงานให้ผบู้ ังคบั บัญชาตามลาดับสายงานตลอดจนเผยแพร่ให้กบั ผู้ปกครองนกั เรยี นชุมชนในสงั คม ได้ทราบผลการปฏิบัติงานของบคุ ลากรการศึกษา โรงเรียนอนุบาลบรรณวิทย์สานกั งานการศกึ ษาเอกชน จังหวัดแมฮ่ อ่ งสอน ข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการประเมนิ ในการประเมินตนเอง (SAR) ในครัง้ นี้ขา้ พเจ้าจะได้นาไปใช้เป็น แนวทางในการปรบั ปรงุ เพื่อพฒั นาการปฏิบตั ิงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย เพือ่ สง่ เสริมและพัฒนาศกั ยภาพของ ผูเ้ รยี นใหส้ งู ขน้ึ ในทุก ๆ ดา้ นต่อไป (นางสาวการะเกต ทองแย้ม) ....... มีนาคม 2563
สารบัญ หนา้ ตอนที่ 1 ข้อมูลสว่ นตวั - ข้อมลู ทั่วไป - ข้อมลู การปฏบิ ัติหน้าที่ - การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน - ผลการปฏบิ ตั ิงาน - ผลการประเมินการสอนของครโู ดยนักเรยี น - การประเมนิ ตนเองของครู ตอนที่ 2 ผลการดาเนนิ งานตามมาตรฐานการศกึ ษา มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผู้เรยี น มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ผู้เรยี นเป็นสาคัญ ภาคผนวก
รายงานการประเมินตนเอง (SAR) ตอนที่ 1 : ข้อมลู ส่วนตัว 1.1 ขอ้ มูลทัว่ ไปชอ่ื นายสาวการะเกต ทองแย้ม วุฒกิ ารศกึ ษา ปริญญาตรี จิตวทิ ยาและการแนะแนว ปริญญาโท วชิ าเอกจาก.................................... อื่น ๆ ระ ระบ.ุ ................ วิชาเอกจาก................................... ตาแหน่ง ครู อายุ 38 ปี ปฏิบตั กิ ารสอน 11 ปเี งินเดอื น 16,900 บาท วนั / เดอื น / ปี เกดิ 29 /กรกฎาคม / 2525 ปฏิบตั กิ ารสอนกล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ป.1 ภาษาไทย ป.1 วิทยาศาสตร์ ป.1 สังคมศกึ ษา ป.1 ประวัตศิ าสตร์ ป.1 การงานอาชีพ ป.1 และวิชาหนา้ ทีพ่ ลเมอื ง ป.1 ป.4-6 ปฏบิ ตั ิงานพเิ ศษ หวั หนา้ ฝา่ ย วิชาการโรงเรยี นอนบุ าลบรรณวิทย์ สานกั งานการศกึ ษาเอกชนจังหวดั แมฮ่ อ่ งสอน แสดงจานวนวันลา ประจาปีการศึกษา 2561 (1 เมษายน 2561– 31 มนี าคม 2562) วนั เดอื น ปี ลาปว่ ย ลากจิ ลาอุปสมบท ลาคลอด มาสาย ทล่ี า ครัง้ วัน ครงั้ วัน คร้งั วัน ครั้ง วัน คร้งั วนั 11 6 ก.พ.63 14 12-15 ก.พ.63 รวม 25 รวมท้ังสิน้ จานวน........2........ครัง้ จานวน.......5.........วนั
1.2 ขอ้ มูลการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี 1.2.1 ปฏบิ ตั ิการสอนตลอดปกี ารศกึ ษา 2561 ท่ี รหสั วชิ า ชอ่ื วชิ า ช้ัน จานวน จานวน ห้อง 1 ค11101 ภาคเรียนที่ 1 ช่วั โมง / 2 ท11101 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน สัปดาห์ 3 ว11101 4 ส11101 ภาษาไทย 11 5 5 ส11102 วทิ ยาศาสตร์ 11 4 6 ง11101 สงั คมศึกษา 11 3 7 ประวตั ิศาสตร์ 11 2 8 การงานอาชีพ 11 1 9 แนะแนว (หน้าทีพ่ ลเมือง) 11 1 10 แนะแนว (หน้าทพ่ี ลเมอื ง) 11 1 แนะแนว (หนา้ ท่ีพลเมือง) 41 1 1 ค11101 แนะแนว (หน้าทพ่ี ลเมอื ง) 51 1 2 ท11101 61 1 3 ว11101 รวม 10 10 20 4 ส11101 ภาคเรียนท่ี 2 5 ส11102 คณติ ศาสตรพ์ นื้ ฐาน 11 5 6 ง11101 ภาษาไทย 11 4 7 วิทยาศาสตร์ 11 3 8 สงั คมศึกษา 11 2 9 ประวตั ศิ าสตร์ 11 1 10 การงานอาชีพ 11 1 แนะแนว (หนา้ ทพ่ี ลเมือง) 11 1 แนะแนว (หน้าทีพ่ ลเมอื ง) 41 1 แนะแนว (หนา้ ที่พลเมอื ง) 51 1 แนะแนว (หน้าท่ีพลเมือง) 61 1 รวม 10 10 20
1.2.2 กิจกรรมพฒั นาผู้เรียนท่ปี ฏบิ ัตกิ ารพฒั นาผู้เรียนตลอดปกี ารศึกษา 2561 ท่ี กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน และชมุ นุม ชั้น / จานวน ผ่าน ไม่ผา่ น ห้อง นกั เรยี น 1 ลูกเสือสารอง - 2 ชุมนุม ออ่ นเสรมิ เตมิ เก่ง ป.1-3 175 175 - 3 กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ - 4 แนะแนว (หน้าทพ่ี ลเมอื ง) ป.1 29 29 - 5 แนะแนว (หนา้ ท่ีพลเมือง) - 6 แนะแนว (หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง) --- - 7 แนะแนว (หน้าท่ีพลเมอื ง) - ป.1 29 29 ป.4 37 32 ป.5 27 27 ป.6 37 37 1.2.3 ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ครูทป่ี รกึ ษา จานวนนกั เรยี น รวมทั้งสน้ิ (คน) ช้นั / ห้อง ชาย(คน) หญิง (คน) 29 ประถมศกึ ษาปีที.่ .........1/2.......... 15 14 1.2.4 งานพเิ ศษ ในโรงเรียน ได้แก่ งาน พิธกี รกจิ กรรมตา่ งๆภายในโรงเรยี น งาน วิชาการโรงเรียนอนบุ าลบรรณวิทย์ งาน กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ลกู เสอื เนตนารี งาน สรปุ โครงการกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ดา้ นวิชาการ) งาน สรปุ โครงการเปิดบ้านวชิ าการ งาน สรปุ โครงการเรยี นรูค้ ภู่ มู ิปญั ญาท้องถน่ิ 1.3 การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน 1.3.1 จดั ทาแผนการจัดการเรยี นรู้ ดงั น้ี ที่ รหสั วชิ า สาระการเรยี นรู้/รายวชิ า ระดับชั้น จานวน/ แผน 1 แนะแนว (หน้าที่พลเมือง) ป.1-3 40 2 แนะแนว (หน้าท่พี ลเมอื ง) ป.4-6 3 ว11101 ป.1 40 วทิ ยาศาสตร์
1.3.2 ผลติ ส่ือ / นวัตกรรม 1 ชน้ิ ได้แก่ จานวน(ชนิ้ ) 1 ท่ี ชอื่ สอื่ /นวัตกรรม 1 สื่อประกอบการเรยี นวชิ าแนะแนว เรื่อง อาชพี ในฝนั 1 2 สื่อประกอบการเรียนวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เรอื่ ง อวยั วะภายในและอวัยวะ ภายนอก 1.3.3 จัดทาหน่วยการเรยี นรูแ้ บบบูรณาการ (ทอ้ งถน่ิ , เศรษฐกิจพอเพียง) ได้แก่ หนว่ ยที่ เร่ือง จานวนชวั่ โมง 1 ชวี ติ ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ 2 1.3.4 จัดทาวจิ ยั ในชั้นเรียน จานวน 1 เรื่อง ได้แก่ ระดบั ช้ัน ป.1 ท่ี เรอ่ื ง 1 การพัฒนาทักษะด้านการอา่ น 1.3.5 การนา/มอบหมายงาน นกั เรยี นไปศึกษาคน้ ควา้ /ใชแ้ หลง่ เรียนรู้นอกโรงเรียนจานวนครง้ั ดงั นี้ ที่ ชอ่ื แหลง่ เรียนรู้ เรื่อง จานวนคร้งั 1 ศูนย์ ICT การวาดรูปจากโปรแกรม paint 1 2 พิพธิ ภณั ฑม์ ชี ีวติ สังคมศกึ ษา 1 1.3.6 เชญิ วทิ ยากรภายนอกมาให้ความรู้แก่นักเรยี น จานวนคร้ัง ได้แก่ ท่ี วัน /เดอื น / ปี ช่ือวทิ ยากร เรอ่ื ง / หวั ข้อ 1 จานวน 13 ครั้ง ด.ต.ปณิธาน แก้วมาลา ยาเสพติด 1.3.7 รปู แบบ / วธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนที่ครใู ช้ คือ ข้อใดบ้าง (ตอบไดม้ ากกว่า 1 ขอ้ ) การอธบิ าย การสบื สวนสอบสวน การสาธิต / ทดลอง กลมุ่ สบื คน้ ความรู้ การใช้เกมประกอบ กลมุ่ สมั พนั ธ์ สถานการณจ์ าลอง การเรยี นร้แู บบร่วมมอื กรณตี ัวอย่าง ความคดิ รวบยอด บทบาทสมมุติ อรยิ สจั 4 การแกไ้ ขสถานการณ์ การศกึ ษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง โปรแกรมสาเร็จรูป การทศั นะศึกษานอกสถานท่ี ศูนยก์ ารเรียน การเรียนรจู้ ากหอ้ งสมดุ ชดุ การสอน การพฒั นากระบวนการคดิ
คอมพวิ เตอร์ช่วยสอน การใชภ้ ูมิปัญญาท้องถ่นิ โครงงาน การอภิปรายกล่มุ ย่อย การถามตอบ การแกป้ ัญหา อน่ื ๆ ระบ.ุ ........... สรุป จานวนรูปแบบ / วิธีการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนทีค่ รูใช้ 22 วิธี 1.3.8 สภาพการปฏบิ ัตงิ านสอน เขียนเครอื่ งหมาย ในชอ่ งท่ตี รงกับความเป็นจริงทท่ี ่าน ปฏบิ ัตอิ ยู่ (ตอบได้มากกวา่ 1) ท่ี รายการปฏบิ ัติ มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ท่สี ดุ กลาง ที่สดุ 1 ตรงตามวุฒิ/สาขาวชิ าทจ่ี บการศกึ ษา 2 ตรงตามความถนดั √ 3 ตรงตามประสบการณก์ ารสอน 4 ตรงกบั ความรูค้ วามสามารถ √ 5 ตรงกบั ความตอ้ งการ/ความสนใจ √ √ √ 1.3.9 การพฒั นาตนเอง (การเข้าร่วมกจิ กรรมทางวิชาการ/ การเขา้ รว่ มอบรม/ประชมุ สมั มนา /ศึกษาดงู านฯลฯ) ที่ วนั /เดอื น/ ปี เรือ่ ง สถานที่ หน่วยงานทีจ่ ดั หลักฐาน เข้ารบั การอบรมครพู เี่ ลย้ี ง 1 19-21 เม.ย.62 สะเตม็ ระดบั ประถมศกึ ษา สพป.มส.เขต1 สพป.มส.เขต1 ตอนปลาย โครงการพฒั นาคุณภาพครู 2 7-9 พ.ค.62 โรงเรยี นเอกชนเพอื่ ยกระดบั หอ้ งประชมุ สช. วุฒบิ ัตร ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน ธนโชติรีสอรท์ O-NET 3 18-20 พ.ค.62 ปฏิบตั ิธรรมวดั ป่าบา้ นใหม่ วัดปา่ บ้านใหม่ โรงเรียน วฒุ บิ ตั ร 4 12-14 มิ.ย.62 STEM TO STEAM โรงแรม สช. วุฒบิ ตั ร 5 29-30 มิ.ย.62 ครแู กนนาจรยิ ธรรม ดวงตะวนั เชยี งใหม่ สช. วฒุ ิบตั ร โรงแรม ดวงตะวันเชยี งใหม่
ที่ วัน /เดือน/ ปี เร่อื ง สถานที่ หนว่ ยงานท่ีจัด หลักฐาน 6 22 พ.ย.62 การประเมินภาษเี งินไดท้ ีด่ ิน โรงเรียนดารา สช. วุฒบิ ัตร 7 12 ม.ค.63 และสง่ิ ปลูกสร้าง โรงแรมเชยี งใหม่ภู สช. คา 8 14-16มี.ค.63 พัฒนาระบบการประกนั ศธจ. คุณภาพภายนอก สพป.มส.เขต1 ครูแกนนาสะเต็มศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษาตอนปลาย สรปุ การพฒั นาตนเอง จานวน 8 ครง้ั จานวน 19 วัน คดิ เป็น 152 ชว่ั โมง 1.3.10 การไดร้ บั รางวัล / ประกาศเกียรตคิ ุณ / ผลงานดเี ดน่ / เกียรติประวัติท่ปี รากฏตอ่ สาธารณชนด้านสถานศึกษา / ครู / นกั เรยี น ที่ วัน/เดือน/ปี รางวลั /เกยี รติคณุ หนว่ ยงานทม่ี อบ หลักฐาน สพป.มส.เขต1 เกียรตบิ ัตร เหรยี ญทอง งานศิลปหัตกรรม นกั เรียนระดับเครอื ขา่ ย เล่านิทาน 1 คณุ ธรรมระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษา ตอนต้น เหรยี ญทอง งานศิลปหตั กรรม สพป.มส.เขต1 เกยี รตบิ ตั ร นกั เรียนระดับเครอื ข่าย เล่านทิ าน 2 คุณธรรมระดบั ชั้นประถมศกึ ษาตอน ปลาย เหรยี ญเงนิ งานศิลปหตั กรรม สพป.มส.เขต1 เกียรตบิ ัตร นกั เรยี นระดับเครือขา่ ย วาดภาพ 3 ระบายสรี ะดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาตอน ปลาย เขา้ รว่ ม งานศลิ ปหตั กรรมนักเรียน สพป.มส.เขต1 เกยี รตบิ ตั ร ระดับเครอื ขา่ ย วาดภาพระบายสี 4 ระดับชนั้ ประถมศึกษาตอนตน้
ท่ี วนั /เดอื น/ปี รางวลั /เกียรตคิ ณุ หน่วยงานที่มอบ หลักฐาน เกียรตบิ ตั ร 5 เหรียญทอง งานศลิ ปหัตกรรม สพป.มส.เขต1 นกั เรยี นระดบั ภาค เล่านิทาน เกยี รตบิ ตั ร คุณธรรมระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาตอน ปลาย เหรยี ญเงนิ งานศิลปหัตกรรม สพป.มส.เขต1 6 นักเรยี นระดับเครือข่าย เลา่ นิทาน คณุ ธรรมระดบั ช้นั ประถมศึกษา ตอนต้น รางวลั ชนะเลิศ ประกวดวาดภาพ อบจ. 7 ระบายสีหวั ขอ้ เดก็ ไทยหวั ใจรกั ษป์ า่ ในงานวนั เด็กแหง่ ชาติ ได้รบั เงิน รางวลั 4,000บาท รางวลั รองชนะเลศิ ชนะเลศิ อบจ. 8 ประกวดวาดภาพระบายสหี วั ขอ้ เดก็ ไทยหัวใจรกั ษป์ ่า ในงานวนั เดก็ แห่งชาติ 3,000บาท 1.3.11 การได้รับเชญิ เปน็ วิทยากร/กรรมการตดั สินภายในและภายนอกสถานศกึ ษา ท่ี วนั / เดอื น / ปี รายการ / เร่อื ง หน่วยงานที่เชญิ วัดป่าบ้านใหม่ 1 16-20 พ.ค.62 นกั เรยี นหัวใจเพชรรุ่นที่ 60 โรงเรยี นอนบุ าลบรรณวทิ ย์ 2 13 ก.ค.62 ครแู กนนาคณุ ธรรม 1.4 ผลการปฏบิ ัตงิ าน 1.4.1 การปฏบิ ตั ิหน้าท่ีจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนประจาปีการศึกษา 2562 ปรากฏผลดงั นี้ ที่ รายวชิ า ห้อง จานวน ร มส. 0 1 ผลการเรยี น (คน) 3.5 4 รวม 1 คณติ ศาสตร์ ผเู้ รยี น 1.5 2 2.5 3 ป.1 29 - - - - - - 2 7 4 16 29 2 ภาษาไทย ป.1 29 - - - - - 1 3 4 3 18 29 3 วทิ ยาศาสตร์ ป.1 29 - - - - - - 1 2 5 21 29 4 สังคมศึกษา ป.1 29 - - - - - - 1 3 11 14 29 5 ประวตั ิศาสตร์ ป.1 29 - - - - - - - 1 9 19 29 5 การงานอาชพี ป.1 29 - - - - - - - 5 13 11 29
ท่ี รายวชิ า ห้อง จานวน ร มส. 0 1 ผลการเรยี น (คน) 3.5 4 รวม 6 แนะแนว ผู้เรียน 1.5 2 2.5 3 ป.1 29 - - - - - - 1 3 4 21 29 (หนา้ ทพ่ี ลเมือง) 7 แนะแนว ป.4 32 - - - - - 1 9 8 6 8 32 (หนา้ ท่ีพลเมือง) 8 แนะแนว ป.5 27 - - - - - 1 3 3 4 16 27 (หนา้ ทีพ่ ลเมือง) 9 แนะแนว ป.6 37 - - - - - - 5 6 8 18 37 (หนา้ ที่พลเมอื ง) รวม 299 3 25 42 67 162 299 รอ้ ยละ - - - 1.0 8.3 14. 22. 54. ร้อยละของนักเรียนท่ีได้รบั ผลการเรียน 3 ขึ้นไป 0 6 05 41 18 ร้อยละของนกั เรยี นท่ไี ด้รบั ผลการเรียน 2 ขนึ้ ไป 99.00 100 1.4.2 การปฏบิ ัติงานหน้าท่พี ิเศษปรากฏผลดงั น้ี (หลกั ฐานปรากฏในภาคผนวก) 1) ฝา่ ยวชิ าการ 1. ปฏบิ ตั หิ น้าทหี่ วั หนา้ ฝ่ายวชิ าการ 2. ปฏิบตั หิ น้าท่กี ารสอนกลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ป.1 ภาษาไทย ป.1 วิทยาศาสตร์ ป.1 สงั คมศกึ ษา ป.1 ประวตั ศิ าสตร์ ป.1 การงานอาชพี ป.1 และวิชาหนา้ ท่ี พลเมือง ป.1 ป.4-6 3. อื่นๆ............................................................................................................ สรปุ ไดว้ ่า ระดับคณุ ภาพการปฏิบัตงิ านอยู่ในระดับ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 2) ฝ่ายกจิ การนักเรยี น 1. การเยยี่ มบา้ นนกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1/2 2. ปฏบิ ัตหิ นา้ ท่คี รเู วรประจาวนั อังคาร 3. ปฏบิ ตั หิ น้าที่ครเู วรวันหยดุ ราชการ..........ครง้ั 4. ร่วมการประชุมผ้ปู กครองนกั เรยี น....1...ครงั้ 5. อนื่ ๆ ......................................................................................... สรปุ ได้ว่า ระดบั คณุ ภาพการปฏิบัตงิ าน ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
3) ฝ่ายบริหารงานท่ัวไป 1. ปฏิบตั งิ านหนา้ ทีด่ แู ลบรเิ วณ อาคารประถม ลานเวที ทางเดนิ เตรียมอนบุ าล อืน่ ๆ ……………………………………………………………………………. สรุปไดว้ า่ ระดบั คณุ ภาพการปฏิบตั งิ าน ดี พอใช้ ปรบั ปรุง 4) ฝา่ ยอานวยการและบุคลากร 1. ปฏบิ ัติงานหนา้ ท่ี การรับเงินบารุงการศึกษานกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท1ี่ /2 จานวน 2 คร้งั 2. อืน่ ๆ…………………………………………………………………………… สรปุ ได้วา่ ระดบั คณุ ภาพการปฏิบัติงาน ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 5) ฝ่ายยุทธศาสตร์การพฒั นา 1.รายงานผลการประเมนิ ตนเอง (SAR)ประจาปกี ารศึกษา 2561 2. อืน่ ๆ…………………………………………………………………………… สรปุ ไดว้ า่ ระดบั คณุ ภาพการปฏบิ ัติงาน ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 1.5 ผลการประเมินการสอนของครโู ดยนักเรยี น (หลักฐานแสดงความพึงพอใจต่อการเรยี นการสอน) ตาราง แสดงรอ้ ยละ ของระดับการประเมนิ การสอนของครโู ดยนักเรยี น ระดบั การประเมนิ กิจกรรม มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ทสี่ ดุ กลาง ที่สดุ 1. ครแู จง้ ผลการเรียนรใู้ ห้นกั เรียนทราบอย่างชัดเจน 100 - - - - 2. ครจู ัดกจิ กรรมการเรยี นรูส้ นกุ และน่าสนใจ 20 32.5 47.5 - - 3. เนือ้ หาทส่ี อนทันสมยั เสมอ 60 40 - - - 4. ครใู ชส้ ือ่ ประกอบการเรียนการสอนท่ีเหมาะสมและหลากหลาย - 32.5 67.5 - - 5. ครใู ชค้ าถามซักถามนักเรียนบ่อย ๆ 77.5 22.5 - - - 6. ครูประยุกตส์ าระที่สอนเข้ากับเหตกุ ารณ์ปจั จบุ ัน/สภาพแวดล้อม 57.5 42.5 - - - 7. ครูสง่ เสรมิ นกั เรยี นไดฝ้ กึ ปฏบิ ัตจิ รงิ มกี ารจดั การ และการแก้ปัญหา 50 50 - - - 8. ครใู หน้ กั เรียนฝกึ กระบวนการคดิ คิดวเิ คราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ 47.5 52.5 - - - 9. ครูสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นทางานรว่ มกันทงั้ เป็นกลมุ่ และรายบคุ คล 80 20 - - - 10. ครใู ห้นักเรียนแสวงหาความรู้จากแหล่งเรยี นรู้ต่าง ๆ 42.5 40 17.5 - - 11. ครูมกี ารเสรมิ แรงใหน้ ักเรยี นที่รว่ มกิจกรรมการเรียนการสอน 65 35 - - -
ระดบั การประเมิน กิจกรรม มาก มาก ปาน น้อย น้อย กลาง ทสี่ ดุ ท่สี ุด - - 12. ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรียนซักถามปญั หา 87.5 12.5 - - - - 13. ครคู อยกระตุน้ ให้นกั เรยี นตน่ื ตวั ในการเรยี นเสมอ 100 -- - 14. ครูสอดแทรกคณุ ธรรมและคา่ นยิ ม 12 ประการในวิชาทส่ี อน 67.5 32.5 - - - - 15. ครูยอมรับความคิดเหน็ ของนกั เรยี นที่ตา่ งไปจากครู 100 --- - - 16. นักเรียนมสี ว่ นร่วมในการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น - 42.5 57.5 - 17. ครูมกี ารประเมินผลการเรียนด้วยวิธีการทห่ี ลากหมายและ ยุติธรรม 55 45 - - 47.5 - - 18. ครมู คี วามตงั้ ใจในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน 52.5 32.5 - - 10 - - 19. บคุ ลิกภาพ การแตง่ กายและการพูดจาของครเู หมาะสม 67.5 20. ครเู ข้าสอนและออกชน้ั เรียนตรงตามเวลา 90 จากผลการประเมินการสอนของครโู ดยนกั เรียน พบวา่ อยใู่ นระดบั มากทีส่ ดุ มาก ปานกลาง น้อย น้อยท่ีสุด 1.6 การประเมนิ ตนเองเกีย่ วกับการจัดทาแผนการจดั การเรียนรูท้ ่เี น้นผู้เรียนเป็นสาคัญ (เขียนเครอื่ งหมาย / ลงในชอ่ งระดับคณุ ภาพ โดยพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมนิ ด้านขวามอื ) ดชั นชี วี้ ดั ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ 4321 1. การวเิ คราะห์ มาตรฐานฯ 1. มีการระบตุ วั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ และ ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ √ 2. มกี ารวเิ คราะหต์ วั ชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้ แยกออกเปน็ 3 ดา้ นคือ ความรู้ เจตคติ ทกั ษะ (KPA) (ระดบั 4 มี 5 ขอ้ √ 3. มคี วามเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ระดบั 3 มี 4 ขอ้ 4. สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวงั ระดับ 2 มี 3 ข้อ 5. ครอบคลมุ มาตรฐานการศึกษา ระดับ 1 มี 1-2 ข้อ) 1. การออกแบบกจิ กรรมการเรียนรเู้ ปน็ ข้ันตอน 2. การออกแบบกจิ กรรม 2. แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้มี การเรียนรู้ (ระดับ 4 มี 5 ขอ้ องค์ประกอบครบ 4 ด้าน (แลกเปลี่ยน ระดบั 3 มี 4 ขอ้ ประสบการณ์ การสรา้ งองค์ความรู้ ระดบั 2 มี 3 ข้อ นาเสนอความรู้ ปฏบิ ัติ / ประยุกต์ใช้) ระดบั 1 มี 1-2 ข้อ) 3. มคี วามเหมาะสมกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดชั นีชว้ี ดั ระดับคุณภาพ เกณฑ์การประเมิน 4321 3. การออกแบบปฏิสมั พันธ์ 4. มีความสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ระดับ 4 มี 5 ข้อ √ ท้ัง 3 ด้าน(ความรู้ เจตคติ ทักษะ) ระดบั 3 มี 4 ข้อ √ 5. สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้จริง ระดับ 2 มี 3 ข้อ 1. มีการจดั กิจกรรมการเรยี นร้โู ดยใช้กระบวนการกลุ่ม ระดบั 1 มี 1-2 ข้อ) √ 2. มคี วามหลากหลายในการมีส่วนรว่ มของผู้เรยี น 4. การออกแบบประเมินผล 3. มกี ารกาหนดบทบาทและกจิ กรรมอยา่ ง ชัดเจน (ระดับ 4 มี 5 ข้อ 4. ปฏบิ ตั ิจริง ระดบั 3 มี 4 ข้อ 5. ผู้เรียนสนกุ สนาน เกิดการเรียนรู้ ระดับ 2 มี 3 ข้อ 1. มกี ารประเมินผลการเรียนในแตล่ ะแผน ระดับ 1 มี 1-2 ขอ้ ) 2. มกี ารกาหนดวธิ กี ารประเมินผลหลากหลาย 3. วธิ ีการประเมินผลสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์ 5. การใช้ส่ืออปุ กรณ์ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ 4. ปฏิบัตจิ รงิ (ระดับ 4 มี 5 ข้อ 5. นาผลการประเมินมาพัฒนาการเรยี นรู้ ระดบั 3 มี 4 ข้อ 1. มกี ารใช้สื่อ อุปกรณ์หรอื แหลง่ เรียนรู้ ระดบั 2 มี 3 ขอ้ 2. มีการกาหนดขนั้ ตอนหรือวิธีการใชส้ ื่อ ระดบั 1 มี 1-2 ขอ้ ) หรือแหล่งเรียนรู้ 3. มกี ารใชส้ ือ่ อปุ กรณห์ รือแหล่งการเรียนรู้ เหมาะสมกับกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4. มีส่ือ อปุ กรณ์ แหลง่ เรยี นรู้ 5. มีการพฒั นาสอ่ื อุปกรณ์ แหลง่ เรียนรู้ สรปุ : การจัดทาแผนการจดั การเรยี นรนู้ ้ี อยใู่ นระดบั คุณภาพ 3 เกณฑก์ ารตดั สนิ มกี ารปฏิบัตอิ ยู่ในระดบั ดมี าก หรอื พอใจมากท่สี ุด 4 หมายถึง มีการปฏบิ ตั ิอยใู่ นระดับดี หรอื พอใจมาก มกี ารปฏิบัตอิ ยูใ่ นระดบั ปานกลาง หรือพอใจพอใช้ 3 หมายถงึ มีการปฏิบัตอิ ยใู่ นระดบั ปรบั ปรงุ หรือไม่พอใจ 2 หมายถึง 1 หมายถึง
ตอนท่ี 2 ศกึ ษาเกณฑ์มาตรฐานคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรยี นอนบุ าลบรรณวิทย์มาตรฐานท่ี 1-3 1. มาตรฐานท่ี 1-3 ประเมนิ ผลแลว้ จะได้ผลระดบั คุณภาพตัวบ่งช้/ี มาตรฐาน แลว้ ทาเคร่อื งหมาย ลงในช่องระดบั คณุ ภาพ 2. เกณฑก์ ารตัดสิน 5 หมายถึง มีผลการปฏบิ ตั ิอยู่ในระดบั ยอดเยย่ี ม 4 หมายถงึ มีผลการปฏบิ ตั ิอยใู่ นระดบั ดเี ลิศ 3 หมายถงึ มีผลการปฏิบตั อิ ยู่ในระดบั ดี 2 หมายถงึ มีผลการปฏิบัตอิ ยใู่ นระดับปานกลาง 1 หมายถงึ มผี ลการปฏบิ ัติอยใู่ นระดบั กาลงั พฒั นา มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของผ้เู รยี น ตัวบง่ ชี้ ระดบั คณุ ภาพตวั บง่ ช/ี้ มาตรฐาน 54321 ๑.๑ผลสมั ฤทธ์ทิ างวชิ าการของผู้เรยี น ๑) มีความสามารถในการอ่าน การเขยี น การส่อื สารและการคิดคานวณ √ ๒) มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ คดิ อย่างมี √ วจิ ารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแกป้ ญั หา ๓) มีความสามารถในการสร้างนวตั กรรม √ ๔) มคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ √ และการส่อื สาร ๕) มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา √ ๖) มคี วามรู้ทกั ษะพื้นฐาน และเจตคตทิ ี่ดีตอ่ งานอาชพี √ ๑.๒ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ของผูเ้ รียน √ ๑) การมคี ณุ ลกั ษณะและคา่ นิยมทีด่ ีตามทสี่ ถานศึกษากาหนด ๒) ความภมู ใิ จในทอ้ งถ่ินและความเป็นไทย √ ๓) การยอมรับท่ีจะอยรู่ ่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย √ ๔) สุขภาวะทางรา่ งกาย และจติ สงั คม √ คะแนนรวม 253 สรุปผลการประเมนิ มาตรฐานที่ 1 7.8 (คะแนนรวมทงั้ หมด/10) ระดับคุณภาพ 3.9 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................
มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ระดับคณุ ภาพตัวบ่งชี/้ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ 5 4 3 21 √ ๒.๑ มเี ปา้ หมายวสิ ัยทัศน์และพันธกจิ ทสี่ ถานศกึ ษากาหนดชัดเจน ๒.๒ มีระบบบรหิ ารจัดการคณุ ภาพของสถานศกึ ษา √ ๒.๓ ดา เนนิ งานพัฒนาวิชาการทเี่ น้นคุณภาพผเู้ รียนรอบดา้ นตาม หลกั สูตรสถานศึกษา และทกุ กลมุ่ เปา้ หมาย √ ๒.๔ พัฒนาครแู ละบคุ ลากรให้มีความเช่ียวชาญทางวชิ าชพี ๒.๕ จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมทเ่ี ออ้ื ต่อการจดั การเรยี นรู้ √ อยา่ งมีคณุ ภาพ √ ๒.๖จดั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ สนบั สนุนการบริหารจดั การและ การจัดการเรียนรู้ √ คะแนนรวม 3 3 0 00 สรุปผลการประเมินมาตรฐานที่2 5.4 (คะแนนรวมทง้ั หมด/๖) 4.5 ระดบั คุณภาพ ข้อเสนอแนะเพมิ่ เตมิ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................
มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนท่เี น้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ระดบั คณุ ภาพตวั บ่งชี/้ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ 5 4 3 21 √ ๓.๑จัดการเรยี นรผู้ ่านกระบวนการคิดและปฏบิ ัติจริง และ สามารถนา ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตได้ √ ๓.๒ใชส้ อ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหลง่ เรยี นรทู้ ีเ่ ออ้ื ตอ่ √ การเรยี นรู้ ๓.๓มีการบรหิ ารจดั การช้ันเรียนเชิงบวก √ ๓.๔ตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รียนอยา่ งเปน็ ระบบ และนาผล มาพัฒนาผู้เรยี น √ ๓.๕มกี ารแลกเปลี่ยนเรยี นร้แู ละใหข้ อ้ มูลสะทอ้ นกลบั 1 4 00 0 เพื่อพฒั นาและปรบั ปรงุ การจัดการเรยี นรู 4.2 คะแนนรวม สรปุ ผลการประเมินมาตรฐานที่3 4.2 (คะแนนรวมทง้ั หมด/5) ระดบั คุณภาพ ข้อเสนอแนะเพมิ่ เติม .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................
การรบั รองรายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report ; SAR) ลงชือ่ ผู้รายงาน (นางสาวการะเกต ทองแยม้ ) ตาแหน่ง ครสู อน ........../................/........... ลงชื่อ ผูร้ บั รองรายงาน (นางนุศรา กลา้ หาญ) หัวหนา้ ฝา่ ยประถมศกึ ษา ........../................/........... ลงชือ่ ผ้รู บั รองรายงาน (นางมขุ ชญา ปรุ ณะวิทย์) ผูอ้ านวยการโรงเรยี นอนบุ าลบรรณวิทย์ ........../................/...........
ภาคผนวก ประเด็น รอ่ งรอยหลกั ฐาน -ขอ้ มูลการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ ตารางสอน, รูปภาพ การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน แผนการสอน,แผนบรู ณาการทอ้ งถ่นิ แผนบูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง, รปู ภาพ,เกียรตบิ ัตร,วฒุ ิบัตร,วจิ ัย ผลการปฏบิ ัติงาน ปพ.5 ผลการประเมินการสอนของครโู ดยนกั เรยี น ตารางวเิ คราะห์ การประเมินตนเองเก่ียวกบั การจัดการเรยี นการ แผนการสอน (อ้างอิงแผน อจท.) สอนทเี่ น้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผเู้ รียน ปพ.5 , รูปภาพ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ าร เอกสารโรงเรยี น มาตรฐานที่ 3 กระบวนการเรยี นทจ่ี ดั การเรียน แผนการสอน, แผนบูรณาการท้องถน่ิ การสอนทีเ่ น้นผู้เรียนเป็นสาคัญ แผนบรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง, รปู ภาพ,วจิ ยั
แผนการจัดการเรยี นรู้พฒั นาทักษะการะบวนการคิด เรื่อง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง รายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น (แนะแนว) ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 ปีการศกึ ษา 2562 นางสาวการะเกต ทองแย้ม โรงเรยี นอนุบาลบรรณวทิ ย์ จงั หวดั แมฮ่ ่องสอน
หน่วยการเรียนรูห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง ชีวิตท่ีเปน็ ประโยชน์ วิชา แนะแนว ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน จานวนเวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง 1.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชีว้ ดั / ผลการเรยี นรู้ การรจู้ ัก เขา้ ใจ รกั และเหน็ คุณค่าในตนเองและผอู้ ่นื 2.สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด นักเรียนตระหนกั และเหน็ คุณคา่ ในความสามารถของตนเองท่เี ปน็ ประโยชนต์ อ่ ผู้อนื่ และพฒั นา ตนอย่างตอ่ เน่ืองตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3.สาระการเรยี นรู้กจิ กรรมแนะแนว 3.1 คุณค่าของสิง่ ท่ีตนทาแล้วเป็นประโยชน์ต่อผอู้ นื่ 3.2 วธิ ีพัฒนาตนเองอย่างตอ่ เนือ่ ง 4.สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5.คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.1 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 5.2 ใฝ่เรียนรู้ 5.3 อย่อู ย่างพอเพียง 6.ชิ้นงาน / ภาระงาน (รวบยอด) รายงานการปฏบิ ตั ิตนในส่ิงทที่ าแลว้ เป็นประโยชน์ตอ่ ผอู้ ่นื 7.การวัดและประเมนิ ผล 7.1 แบบทดสอบก่อนเรียน 7.2 ใบงานเร่ือง “ฉนั เปน็ ประโยชน์ ฉันมคี า่ ” และใบงานเรอื่ ง “พัฒนาตนเพ่ือชีวิตทีม่ ี ประโยชน”์ 7.3 แบบทดสอบหลงั เรยี น 7.4 แบบประเมินชน้ิ งาน 8.กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมท่ี 1 คุณคา่ ของส่ิงทต่ี นทาแลว้ เปน็ ประโยชนต์ ่อผอู้ น่ื เวลา 1 ชัว่ โมง
1.1 สนทนากบั นกั เรยี นเรอ่ื งของต้นหญา้ หญา้ ที่ใชป้ ูพนื้ สนาม เวลานกั เรียนวง่ิ เล่นหรือทา กิจกรรม โดยให้นักเรียนช่วยกนั บอกประโยชน์ของตน้ หญ้ามาคนละ 1 อยา่ ง และหา อาสาสมัครมาเขียนคาตอบลงบนกระดานหนา้ หอ้ ง 1.2 ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาคาตอบประโยชนข์ องต้นหญ้าและแสดงความคิดเห็น 1.3 ครูต้งั คาถามให้นักเรียนช่วยกนั หาคาตอบวา่ -ประโยชนข์ องตน้ หญ้าทป่ี รากฏอยบู่ นกระดานนน้ั เป็นประโยชนต์ อ่ ใคร -ต้นหญ้าสามารถนาไปใชป้ ระโยชนอ์ ะไรไดบ้ ้าง -ต้นหญ้าสามารถนาไปผลิตอะไรได้เหมาะสมทสี่ ุด 1.4 ครเู ชือ่ มโยงความกจิ กรรมกบั ชีวิตของนกั เรยี น โดยการใหน้ ักเรยี นสารวจการกระทาของ ตนเองทเ่ี กดิ ประโยชน์ตอ่ ผอู้ ืน่ พรอ้ มทัง้ บอกคุณคา่ ของสง่ิ ทท่ี า ในใบงาน “ฉนั เปน็ ประโยชน์ ฉนั มคี ่า” 1.5 ใหน้ กั เรยี นเลา่ ถึงความคิด ความรู้สกึ ทเ่ี กิดขึ้นต่อตนเองภายหลังการทาใบงาน กิจกรรมที่ 2ทบทวนความรเู้ ดิมจากชว่ั โมงที่แล้ว 2.1 ให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ใหท้ กุ คนนาใบงาน “ฉันเปน็ ประโยชน์ ฉนั มคี ่า”ของตน มาแลกเปลยี่ นเรียนรใู้ นกลุ่ม 2.2 ใหน้ กั เรยี นวางแผนการพฒั นาตน โดยการทาใบงาน เรอ่ื ง “พัฒนาตนเพ่อื ชวี ิตทม่ี ี ประโยชน”์ 2.3 ขออาสาสมัคร มาบอกวธิ ีการวางแผนพฒั นาตนเพือ่ ชีวติ ทีเ่ ป็นประโยชน์ หน้าชน้ั เรียน 2.4 นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน 9. สือ่ แหลง่ เรียนรู้ 9.1 ภาพต้นหญ้า 9.2 ใบงานเร่ือง “ฉันเป็นประโยชน์ ฉนั มีค่า” และใบงานเรอื่ ง “พฒั นาตนเพอ่ื ชีวิตท่มี ี ประโยชน”์ 10. บันทึกผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ลงชือ่ ………………………………………..ผจู้ ดั ทา ( นางสาวการะเกต ทองแย้ม )
แบบทดสอบกอ่ น – หลงั เรียน ชอ่ื -สกลุ ................................................................................................................................................. คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นเขยี นสงิ่ ทตี่ นเองทาแล้วเป็นประโยชน์ต่อผอู้ ่นื ลงในช่องว่างทก่ี าหนดให้ 1. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. ……………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงานเรื่อง “ฉันเป็นประโยชน์ ฉนั มีคา่ ” ช่ือ-สกลุ ..................................................................................................................................................... สถานท่ี สง่ิ ทท่ี าแล้วเป็นประโยชน์ต่อผู้อน่ื ทีบ่ า้ น ทโี่ รงเรียน ทชี่ มุ ชน/สังคม ประเทศชาติ กจิ กรรมนที้ าใหไ้ ด้ เรยี นร้วู า่
ใบงานเรอ่ื ง “พัฒนาตนเพือ่ ชีวติ ที่มปี ระโยชน”์ ช่อื -สกลุ ..................................................................................................................................................... สิ่งท่ีฉันทาแลว้ เป็นประโยชน์ต่อผอู้ ื่นและตง้ั ใจจะ อธบิ ายแนวทางการพฒั นา ทาต่อไปอยา่ งต่อเนื่อง 1. 2. 3. 4. 5.
การพัฒนาทักษะในด้านการอ่าน ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1/2 ผู้วิจยั นางสาวการะเกต ทองแยม้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2561
ช่อื เร่ือง การพัฒนานาทกั ษะในด้านการอา่ น ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1/2 ช่อื ผู้วิจัย นางสาวการะเกต ทองแยม้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย บทคดั ย่อ ในการวิจัยครง้ั น้ี มจี ุดมงุ่ หมายเพือ่ การพฒั นาทักษะในดา้ นการอ่านระดับช้ัน ประถมศกึ ษาปที ่ี 1/2 ในภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2561 จากจานวนนกั เรยี น ท้ังหมด 2 คน ด้วยวิธีการประเมนิ ที่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั ระยะเวลาท่ีใช้ในการวิจยั ทงั้ สนิ้ โดยเร่ิมทาการวจิ ยั ตงั้ แตเ่ ดือน พฤษภาคม - เดอื นกนั ยายน ผลการวิจยั พบวา่ นกั เรียนจานวนหนงึ่ มกี ารพฒั นาทกั ษะในด้านการอ่านดขี ้นึ กว่าเดิม ด้วย วธิ กี ารให้แรงเสริมโดยการชมเชยและใหร้ ะยะเวลาในการฝกึ ทักษะการอา่ นมากพอสมควร ดงั นน้ั นักเรยี นจงึ เกิดทกั ษะในดา้ นการอ่านโดยฝกึ ทักษะการประสมคา พยญั ชนะ สระ ตวั สะกด และรูป วรรณยุกต์ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง โดยนามาซ่ึงการพฒั นาทักษะในด้านการอ่านได้อยา่ งคลอ่ งแคลว่ และถกู ต้อง เขา้ ใจมากยง่ิ ขนึ้
คานา งานวจิ ัยเรื่องการพฒั นาทกั ษะในดา้ นการอ่าน ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1/2 ในรายวิชา ภาษาไทย ได้จดั ทาขึ้นเพ่อื ประเมินการพัฒนาทักษะในด้านการอ่านใหก้ ับนกั เรยี น ผูว้ จิ ัยหวงั เปน็ อย่าง ย่ิงวา่ การวจิ ัยเรอื่ งนี้ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผทู้ ศ่ี กึ ษา เพอื่ เป็นแนวทางในการพฒั นาทางดา้ นการเรยี น การสอนให้มปี ระสทิ ธิภาพมากยง่ิ ข้นึ นางสาวการะเกต ทองแยม้ ผวู้ ิจยั
สารบัญ หวั ข้อวิจยั ความสาคญั และที่มา จดุ มุง่ หมาย ตวั แปรทีศ่ ึกษา กรอบแนวคิดในการวจิ ัย ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะไดร้ บั ขอบเขตของการวิจัย วิธีดาเนนิ การวจิ ยั เคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู สรปุ ผล ขอ้ คิดทีไ่ ด้จากการวจิ ยั ภาคผนวก
1. เรอื่ ง การพฒั นาทักษะในด้านการอ่าน ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1/2 2. ความสาคญั และที่มา ในการพัฒนาวิชาภาษาไทย เป็นการพฒั นาทเี่ น้นการสอนเพอ่ื พัฒนาในด้านทักษะ และการฝกึ ประสมคาอา่ น สะกดคาเปน็ พน้ื ฐานในการศกึ ษาหาความรเู้ พอ่ื พฒั นาในด้านทกั ษะและการฝึกประสม คาอา่ นสะกดคาเป็นพน้ื ฐานในการศึกษาหาความรู้ ในการสอนทผ่ี า่ นมาพบวา่ นักเรยี นในบางส่วน ยงั ขาดทกั ษะในดา้ นการอ่าน จงึ สง่ ผลมาให้ตอ้ งมกี ารปรบั ปรุง แก้ไข และตอ้ งมีการพฒั นาในทักษะนี้ อยา่ งต่อเน่ือง และจากการเรียนการสอนของนักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1/2 จากจานวน 29 คน มี นกั เรยี นท่ีมปี ญั หาในทกั ษะดา้ นการอา่ นอยู่ 2 คน ดังนั้น ผูท้ ี่ทาการวิจยั จงึ หาวธิ ีการท่ีจะดาเนนิ การ เพือ่ ทจ่ี ะแกป้ ัญหา และพฒั นาใหน้ กั เรียนไดเ้ กดิ ทกั ษะในดา้ นการอา่ นใหเ้ ข้าใจมากยง่ิ ขนึ้ ดังนั้นในการพฒั นาในครั้งนี้ จะใช้วิธกี ารประเมินนกั เรยี นควบคู่ไปกบั กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3. จุดมงุ่ หมาย เพือ่ เป็นการพฒั นาทักษะในดา้ นการอา่ น ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1/2 ด้วยวิธีการประเมิน ทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ 4. ตวั แปรทศี่ กึ ษา 1. วธิ สี อนตามปกติ ตวั แปรตน้ 2. วิธกี ารประเมนิ ที่เน้นนักเรยี นเป็นสาคญั ตวั แปรตาม 3. การทดสอบทกั ษะในด้านการอา่ นและข้อเสนอแนะ 1. พฤตกิ รรมการเรยี นรูข้ องนกั เรียน 2. ทักษะในด้านการอ่าน 5. กรอบแนวคิดในการวจิ ยั พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ของนกั เรยี น ทกั ษะในดา้ นการอา่ น วธิ กี ารสอนตามปกติและวธิ กี าร ประเมินทเ่ี นน้ นกั เรียนเปน็ สาคัญ 6. ประโยชน์ท่คี าดว่าจะไดร้ บั ผลการวจิ ัยน้ี จะเปน็ ข้อมลู อยา่ งหนงึ่ ทจ่ี ะชว่ ยให้การพฒั นาทักษะในดา้ นการอ่าน ด้วยวธิ ีการ ประเมินทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ มกี ารฝกึ ทกั ษะการสะกดคา การประสมคา ทีม่ ีพยัญชนะ สระ ตวั สะกดและวรรณยกุ ต์ และใหเ้ กิดทัศนคตทิ ่ีดตี อ่ วิชาภาษาไทย เพือ่ ท่จี ะใหก้ ารเรียนการสอนวชิ า ภาษาไทยสมั ฤทธผิ์ ลยงิ่ ข้ึน
7. ขอบเขตของการวิจัย 1. กลุ่มที่ศึกษานักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1/2 จานวนนักเรียนท่ีศึกษา 2 คน ของ โรงเรยี นอนุบาลบรรณวิทย์ ในภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 ในการทาวจิ ัยครัง้ นี้ เลอื กนกั เรียน ท่ีศึกษาในช้นั เรยี น 2 คน ได้เลือกนักเรียนกลุม่ นเี้ นื่องจากนักเรียนมที ักษะพ้นื ฐานในด้านการสะกดคา อา่ นคา ไม่คล่องแคลว่ จึงเป็นปัญหาในด้านการเรียนในวิชาอน่ื ๆ โดยครูประจาชั้นได้ตดิ ตามพฤติกรรม ในด้านการเรียนของนักเรยี นกลุม่ น้ีได้อยา่ งตอ่ เน่ือง 2. การสอนวิชาภาษาไทย หมายถงึ วิธสี อนทผ่ี ู้วิจัยได้สอนตามปกติ โดยมีเทคนิคการสอน แบบใหม่ๆ โดยการเนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสาคัญ 3. วิธีการประเมนิ ทเี่ น้นผเู้ รยี น เป็นสาคัญท่ผี ู้วิจัยได้ใชค้ วบคกู่ ับการเรยี นการสอน เพอ่ื จะได้ ขอ้ มลู จากตวั นกั เรยี นและนาขอ้ มูลเหลา่ นัน้ มาปรบั ปรงุ การสอนเพื่อใหน้ กั เรียนเกิดการเรยี นรอู้ ยา่ งสงู สดุ โดยมีวิธกี ารทใ่ี ช้ดังต่อไปน้ี คือ โดยการสงั เกตการสอนของครู สนทนา ซักถามนกั เรียน การจดบันทึก ประจาคาบของนกั เรียน การตรวจการบ้าน การฝึกอ่านสะกดในใบหนังสือแบบเรียนภาษาไทย และ หนังสือเสริมทกั ษะการอา่ น 4. พฤตกิ รรมการเรียนรขู้ องนกั เรยี น หมายถึง พฤตกิ รรมที่นักเรยี นแสดงออก ในการเรียนรู้ ในวิชาภาษาไทย ดา้ นการอ่านสะกดคา การเขียนคาตามคาบอกของครู และการทาแบบฝึกหดั อ่าน สะกดคา 5. ทักษะการเรียนในวิชาภาษาไทย หมายถึง ความสามารถของนักเรียนในการเรียนวิชา ภาษาไทย เกี่ยวกบั การอ่านสะกดคา สามารถบอกถงึ พยญั ชนะ ตน้ สระ ตัวสะกด และรูปวรรณยกุ ต์ ได้ โดยมเี กณฑ์ผ่านรอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป โดยการทดสอบเก็บคะแนน 8. วธิ ดี าเนินการวจิ ยั 1. การกาหนดระยองเวลาทาการวิจัย ระยะเวลาที่ทาการวิจัยทง้ั หมด 12 สัปดาห์ สัปดาห์ ละ 2 คร้ัง รวมท้ังหมด 24 คร้ัง โดยผู้วิจัยกาหนดให้นักเรียนอ่านสะกดคาในหนังสือแบบเรียน ภาษาไทย ในแต่ละคร้ัง ครูก็จะบันทึกหลังการอ่านสะกดคา อ่านเนื้อเร่ืองในหนังสือแบบเรียน ภาษาไทย ลงในตารางบันทึกเพ่ือความกา้ วหนา้ ของตัวนักเรียน
กาหนดตารางทาการวิจัย ในการวิจัยครงั้ น้ี ผู้วจิ ยั ได้ดาเนนิ การวิจัยตามแผนการสอนตามปกติ โดยครอบคลุมเนอ้ื หาใน การอา่ นสะกดคา อ่านเนื้อเรื่องจากหนงั สือแบบเรยี นภาษาไทย รวมถงึ ฝึกเขยี นสะกดคาทกุ วนั ในตอน เชา้ ก่อนมกี ารเรียนการสอนในภาคเรียนที่ 1 โดยดาเนินการสอนในตาราง ดังนี้ สัปดาห์ท่ี เน้อื หา กจิ กรรม เคร่ืองมอื สปั ดาหท์ ่ี 1 ครั้งที่ 1 คาท่ีประสมสระ -ะ - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อา่ น และสระ -า -อธิบายวิธีการอ่าน - แบบทดสอบ ประสมคา ครงั้ ท่ี 2 คาทป่ี ระสมสระ -ะ - สอนตามปกติ - แบบฝึกอา่ น และสระ -า -อธิบายวธิ กี ารอา่ น - แบบทดสอบ ประสมคา สปั ดาหท์ ี่ 2 ครั้งท่ี 1 คาทป่ี ระสมสระ - สอนตามปกติ - แบบฝึกอา่ น และสระ -อธบิ ายวิธีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ ครง้ั ท่ี 2 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อา่ น คาทป่ี ระสมสระ - และสระ - -อธบิ ายวธิ ีการอา่ นประสมคา - แบบทดสอบ สปั ดาหท์ ่ี 3 ครั้งที่ 1 - สอนตามปกติ - แบบฝึกอ่าน คาทีป่ ระสมสระ - -อธิบายวธิ ีการอา่ นประสมคา - แบบทดสอบ และสระ - ครัง้ ท่ี 2 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อ่าน คาที่ประสมสระ - และสระ - -อธบิ ายวิธีการอา่ นประสมคา - แบบทดสอบ สัปดาหท์ ี่ 4 ครั้งที่ 1 - สอนตามปกติ - แบบฝึกอา่ น คาทป่ี ระสมสระ - -อธบิ ายวิธกี ารอา่ นประสมคา - แบบทดสอบ และสระ -
สปั ดาหท์ ่ี เนอ้ื หา กิจกรรม เคร่ืองมือ ครั้งที่ 2 - สอนตามปกติ - แบบฝึกอ่าน คาที่ประสมสระ - -อธบิ ายวิธีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ และสระ - สัปดาหท์ ี่ 5 ครง้ั ที่ 1 - สอนตามปกติ - แบบฝึกอา่ น คาที่ประสมสระ เ- -อธิบายวธิ ีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ และสระ แ- คร้งั ท่ี 2 - สอนตามปกติ - แบบฝึกอ่าน คาท่ปี ระสมสระ เ- และสระ แ- -อธิบายวธิ ีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ สัปดาหท์ ี่ 6 ครง้ั ท่ี 1 - สอนตามปกติ - แบบฝึกอา่ น คาท่ปี ระสมสระ โ- -อธิบายวิธีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ สระ ไ- , ใ- ครั้งท่ี 2 - สอนตามปกติ - แบบฝึกอา่ น คาทป่ี ระสมสระ โ- -อธบิ ายวธิ ีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ สระ ไ- , ใ- สปั ดาหท์ ่ี 7 ครั้งที่ 1 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อ่าน คาที่ประสมสระ- และสระ เ - -อธิบายวิธกี ารอ่านประสมคา - แบบทดสอบ สปั ดาหท์ ่ี 8 ครั้งท่ี 2 - สอนตามปกติ - แบบฝึกอ่าน คาที่ประสมสระ - -อธบิ ายวธิ ีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ และสระ เ - - สอนตามปกติ - แบบฝึกอ่าน ครั้งท่ี 1 -อธบิ ายวิธกี ารอา่ นประสมคา - แบบทดสอบ คาที่ประสมสระ เ - และสระ - อ
สปั ดาหท์ ่ี เนอ้ื หา กิจกรรม เครื่องมือ ครั้งที่ 2 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อ่าน คาท่ปี ระสมสระ เ - -อธบิ ายวิธีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ และสระ - อ สปั ดาหท์ ่ี 9 ครง้ั ที่ 1 - สอนตามปกติ - แบบฝึกอา่ น คาทีป่ ระสมสระ เ- อ -อธบิ ายวธิ กี ารอ่านประสมคา - แบบทดสอบ และสระ เ - ย ครง้ั ท่ี 2 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อา่ น คาทป่ี ระสมสระ เ- อ -อธิบายวิธีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ และสระ เ - ย สปั ดาหท์ ่ี 10 ครั้งที่ 1 คาท่ีประสมสระโ - และสระ เ - อะ - สอนตามปกติ - แบบฝึกอ่าน คร้ังท่ี 2 - อธบิ ายวิธีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ คาท่ปี ระสมสระโ- และสระ เ - อะ - สอนตามปกติ - แบบฝึกอา่ น - อธบิ ายวธิ ีการอา่ นประสมคา - แบบทดสอบ สัปดาหท์ ี่ 11 ครง้ั ท่ี 1 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อา่ น คาที่ประสมสระเ-ยะ - อธิบายการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ และสระ –วะ , เ-อ ครั้งท่ี 2 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อา่ น คาที่ประสมสระเ-ยะ - อธบิ ายการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ และสระ –วะ , เ-อ
2. ในการสอนทุกสปั ดาห์ ผวู้ จิ ยั ได้ดาเนนิ การใชว้ ิธีการประเมินทเ่ี น้นผู้เรียนเปน็ สาคัญ ดงั น้ี การสงั เกตการสอนของครู การสนทนาพดู คุยกบั นกั เรยี น การอา่ นสะกดของนักเรยี นการตรวจ แบบฝกึ หดั แบบมีข้อมีขอ้ เสนอแนะ และขอ้ คดิ เห็น 3. วธิ ีการสอนทงั้ ใน 11 สปั ดาห์ ผู้วิจยั ไดด้ าเนินการสอนดงั ต่อไปน้ี ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูทบทวนการประสมคา ทมี่ ีพยญั ชนะต้น สระ ตวั สะกดและรปู วรรณยุกต์ โดยครเู ขยี นคา และให้นักเรยี นออกไปเขยี นแสดงการกระจายคาตอ่ ไปนี้ คา พยญั ชนะต้น สระ ตวั สะกด รูปวรรณยกุ ต์ วา่ ว ว - ว - ตลาด ตล - ด - - น - ปน้ั ป - บ - หลบั หล ขั้นสอน 1. ครอู ภิปรายเกีย่ วกบั หลักในการประสมคา ดว้ ยสระตา่ งๆวา่ ประสมสระใดบา้ ง ทีม่ ีตอ่ สะกด แลว้ รูปสระจะเปล่ยี นรปู หรอื เรยี กว่าสระลดรปู 2. ครูยกตัวอยา่ งคาทป่ี ระสมด้วยสระ - เช่นคาวา่ กะ ก + = กะ ครอู ธิบายถึงคาที่ ประสม สระ - ทีไ่ มม่ ตี ัวสะกด จะยงั คงรปู สระ - ไว้ดงั เดิม และถ้าประสมสระ - และมี ตวั สะกด จะเปลย่ี นรปู จากสระ - เป็นไม้หันอากาศ เชน่ ก + + บ = กบั 3. ครอู ภิปรายเกี่ยวกบั การประสมคาดว้ ยสระต่างๆ ตามตารางการสอนท่ีได้กาหนดไวท้ งั้ 11 สปั ดาห์ 4. ใหน้ ักเรียนทาแบบฝึกหดั และอา่ นสะกดคา ข้ันสรปุ 1. ครูและนกั เรียนช่วยกันอภิปรายสรปุ เกี่ยวกบั การประสมคาท่มี ีสระตา่ งๆ ทงั้ ทาทม่ี ีตวั สะกด และไม่มีตวั สะกด 2. ครใู หน้ ักเรียนทาแบบฝึกหัดโดยการอา่ นสะกดคา 3. ตรวจแบบทดสอบโดยการเขยี นขอ้ เสนอแนะและข้อคิดเหน็ 9. เครอื่ งมือท่ใี ช้ในการวจิ ัย 1. เคร่ืองมือท่ีใช้ในการสอนหมายถงึ สื่อ วสั ดุ อุปกรณ์
2. เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ประกอบด้วย 2.1 แบบบันทกึ ประจาสปั ดาห์ของครู หมาย ถงึ การทค่ี รูสงั เกตพฤติกรรมการสอน ของครูและพฤติกรรมการเรยี นรูข้ องนกั เรียน จากน้ันมาทาการจดบันทกึ สรปุ ประจาสปั ดาห์ สัปดาหล์ ะ 1 คร้งั โดยครอบคลมุ 4 ประเดน็ ดังนี้ การสงั เกตการสอนของครู การสนทนาพดู คยุ กับนักเรยี น การตรวจเช็คการอา่ นในแตล่ ะครงั้ ของนกั เรยี นในตาราง โดยมกี ารควบคมุ การเรียนการสอนทงั้ หมด 24 คร้ัง 2.2 แบบตารางดาเนนิ การสอนของครู 11 สัปดาห์ = 2 / สปั ดาห์ 2.3 แบบทดสอบแบบฝึกอา่ นสะกดคา 2.4 แบบตารางคะแนนในการอ่านสะกดคาของนักเรียนแตล่ ะคน 2.5 ได้นาแบบฝกึ อ่านสะกดคามาวิเคราะหผ์ ลการเรียนรู้ 10. ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู 10.1 พฤติกรรมการเรียน จากแบบสงั เกตซ่ึงผู้วจิ ัยบันทึกในเคร่ืองมือ การวิเคราะหต์ อนน้ี ผู้วจิ ยั ได้นาแบบ ตารางการบันทกึ พฤติกรรมของครทู จ่ี ดบันทกึ ไว้มาสงั เคราะหส์ รปุ เปน็ จานวน 11 ครงั้ โดยไดท้ าเป็น ตารางการบนั ทกึ ดงั น้ี บันทกึ สปั ดาหท์ ่ี บันทึกพฤตกิ รรมการสอนของครูและการเรียนของนักเรียน 1 ก่อนเรยี น หลงั เรียน ครใู หน้ ักเรียนอา่ นคา ตามแบบฝกึ ครใู หน้ ักเรียนอ่านซา้ คาเดิมหลงั จากการ อ่าน เป็นคาที่ประสมดว้ ยสระ - , - อธิบายเกี่ยวกบั เน้ือหาทีเ่ รยี น นกั เรียน มตี วั สะกดและไม่มตี วั สะกด สามารถอ่านออกได้อย่างคลอ่ งแคลว่ นกั เรยี นอา่ นไดแ้ ตไ่ มค่ ลอ่ งแคลว่ 2 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นคา ตามแบบฝึก ครใู ห้นกั เรียนอ่านซ้า คาเดิมหลงั จากการ อ่าน เปน็ คาที่ประสมด้วย สระ - , - อธบิ ายเกี่ยวกับเน้ือหาทีเ่ รยี น นักเรียน นักเรียนอ่านได้ สามารถอ่านออกได้อยา่ งคลอ่ งแคลว่ 3 ครใู หน้ กั เรียนอ่านคาถาม แบบฝึก ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นซา้ คาที่ประสมด้วยสระ อา่ นเป็นคาทป่ี ระสมดว้ ยสระ - , - -,-หลงั จากท่ีครไู ดส้ อนนักเรียนสว่ นใหญ่ นกั เรียนอา่ นแต่ไมค่ ลอ่ ง สามารถอา่ นได้ดี
บันทกึ สปั ดาหท์ ี่ บันทึกพฤติกรรมการสอนของครูและการเรยี นของนกั เรยี น 4 ก่อนเรียน หลังเรยี น ครใู ห้นกั เรียนอ่านแบบฝกึ ทป่ี ระสม ครูใหน้ ักเรียนอา่ นแบบฝึกอา่ นทป่ี ระสม ด้วยสระ - , - นักเรยี น 3 คนอา่ น ด้วยสระ - , - หลังจากครอู ธบิ ายการอา่ น ได้ แต่นักเรียนอกี คนยังอา่ นไมค่ ลอ่ ง ออกเรยี งของการประสมกบั สระ - ,- นักเรียนท้งั 4 คน สามารถอา่ นได้อย่าง คล่องแคล่ว 5 ครูใหน้ ักเรียนอา่ นแบบฝกึ ทป่ี ระสม ครูให้นักเรียนอ่านแบบฝึกอ่านทปี่ ระสม ด้วยสระ เ - , แ - นักเรียนยงั อา่ นได้ ด้วยสระ เ - , แ - หลงั จากครูอธบิ าย ไม่คล่องแคล่ว การอา่ นออกเสียงของการประสมดว้ ย สระเ - , แ - นกั เรียนสามารถอ่านออก เสยี งได้อย่างถูกต้อง 6 ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นออกแบบฝกึ ที่ ครใู หน้ ักเรยี นอ่านแบบฝกึ อ่านทปี่ ระสม ประสมดว้ ยสระ โ- , ไ- , ใ- ดว้ ยสระ โ- , ไ- , ใ- หลังจากครไู ดอ้ ธิบาย นักเรียนท้งั หมดอ่านออกเสยี งได้ ถึงหลกั วธิ ใี นการอา่ น นกั เรียนทุกคนอา่ น ชัดเจน , ถกู ตอ้ ง ได้ถูกตอ้ ง 7 ครูให้นกั เรียนอ่านแบบฝึกอ่านท่ี ครูใหน้ ักเรียนอ่านแบบฝึกอ่านทป่ี ระสม ประสมด้วยสระ เ - , - อ นกั เรยี น ด้วยสระ เ - , - อ หลงั จากท่ีครูสอนและ ท้ังหมดอา่ นไดแ้ ต่ยงั ตอ้ งสะกดคา อธิบายหลกั ในการอ่านออกเสียง อา่ นยังไมค่ ล่องเทา่ ท่คี วร นักเรียนทุกคนอ่านไดด้ มี าก 8 ครใู ห้นกั เรียนอา่ นแบบฝกึ อา่ นท่ี ครใู ห้นักเรยี นอา่ นแบบฝกึ อา่ นทปี่ ระสม ประสมด้วยสระ เ - อ , เ - ย ด้วยสระ เ - อ , เ - ย หลงั จากที่ครูได้ นักเรยี นบางคนยงั ตอ้ งสะกดคาทลี ะ สอนและ คาอ่านยงั ไมค่ ล่องเท่าทค่ี วร อธิบายหลกั ในการอา่ นคาทป่ี ระสมกบั สระ เ - อ , เ - ย นักเรยี นทุกคนอา่ นได้ คลอ่ งแคลว่ ดมี าก
บันทึกสัปดาห์ท่ี บันทึกพฤตกิ รรมการสอนของครูและการเรยี นของนกั เรยี น 9 ก่อนเรียน หลงั เรียน 10 ครใู หน้ กั เรยี นอ่านแบบฝกึ อ่านท่ี ครูให้นกั เรียนอ่านแบบฝกึ อ่านทป่ี ระสม 11 ประสมดว้ ย - ว , เ - , แ - ด้วยสระ - ว , เ - , แ - อีกครง้ั นกั เรยี นบางคนยงั อา่ นได้ หลงั จากทคี่ รูอธิบายการอ่านสะกดคาที่ ไม่คลอ่ ง ประสมดว้ ยสระ - ว , เ - , แ - นักเรียน ทุกคนอา่ นได้คลอ่ ง แคล่วดีมาก ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นแบบฝึกอา่ นท่ี ครใู หน้ กั เรียนอ่านแบบฝกึ อ่านทป่ี ระสม ประสมสระ โ - และสระ ดว้ ยสระ โ - และสระ เ – อ หลงั จากที่ เ – อ นกั เรยี นบางคนยังอ่านไม่ ครูอธบิ ายหลกั การอา่ นคาทีป่ ระสมดว้ ย ถูกตอ้ ง สระโ - และสระ เ – อ นกั เรยี นทกุ คน อ่านออกเสยี งได้อย่างถกู ตอ้ งชัดเจนมาก ขึ้น ครใู หน้ กั เรียนอ่านแบบฝึกอา่ นท่ี ครใู ห้นกั เรียนอ่านแบบฝกึ อ่านอีกครัง้ ประสมดว้ ยสระ โ - และสระ เ – หลงั จากทค่ี รอู ธบิ ายถงึ หลกั ในการอา่ นคา อ นกั เรยี นสว่ นใหญ่ยงั อา่ นออกเสยี ง ทป่ี ระสมดว้ ยสระ เ - ยะ , - วะ เ – ไมถ่ กู ต้อง อ นกั เรยี นทกุ คนอา่ นไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน 10.2 ผลการเรยี น การวิเคราะห์ตอนน้ี ผู้วิจัยได้นาคะแนนในการอ่านสะกดคาที่ประสมด้วยสระต่างๆ คะแนน จากแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียน มีดงั นี้ แบบตารางบันทึกการให้คะแนนในการอ่านสะกดคา แบบบันทึกการอา่ นประสมสระ คะแนน ( 10 ) ก่อนเรียน หลังเรียน 1. คาทป่ี ระสมสระ - , - 6 10 2. คาทป่ี ระสมสระ - , - 6 10 3. คาทป่ี ระสมสระ - , - 6 10 4. คาที่ประสมสระ - , - 6 10 5. คาที่ประสมสระ เ - , แ - 5 10 6. คาที่ประสมสระ โ- , ไ- , ใ- 5 10 7. คาที่ประสมสระ - , เ - 6 10 8. คาที่ประสมสระ เ - , - อ 6 10 9. คาท่ปี ระสมสระ เ - อ , เ - ย 5 10
แบบบันทกึ การอา่ นประสมสระ คะแนน ( 10 ) 10. คาทป่ี ระสมสระ - ว , เ - , แ - ก่อนเรียน หลังเรียน 11. คาท่ปี ระสมสระ โ - , เ – อ 4 10 12. คาที่ประสมสระ - , - 5 10 รวมคา่ เฉลย่ี 4 10 53.33 100.00 แบบตารางบนั ทกึ การให้คะแนนในการอ่านสะกดคา แบบบันทกึ การอา่ นประสมสระ คะแนน ( 10 ) กอ่ นเรียน หลังเรยี น 1. คาทป่ี ระสมสระ - , - 5 10 2. คาท่ีประสมสระ - , - 5 10 3. คาทป่ี ระสมสระ - , - 5 10 4. คาทป่ี ระสมสระ - , - 6 10 5. คาทป่ี ระสมสระ เ - , แ - 6 10 6. คาที่ประสมสระ โ- , ไ- , ใ- 7 10 7. คาทป่ี ระสมสระ - , เ - 7 10 8. คาที่ประสมสระ เ - , - อ 7 10 9. คาทป่ี ระสมสระ เ - อ , เ - ย 58 10. คาทป่ี ระสมสระ - ว , เ - , แ - 4 10 11. คาทป่ี ระสมสระ โ - , เ – อ 4 10 12. คาทป่ี ระสมสระ โ - และสระ เ – อ 5 9 รวมค่าเฉลี่ย 55.00 97.50
คะแนน เกณฑ์ 80 - 100 ดมี าก * เกณฑค์ ะแนนหลังเรียน 70 - 79 ดี 60 - 69 พอใช้ 50 - 59 แก้ไข * เกณฑ์คะแนนก่อนเรยี น 40 - 49 ปรับปรงุ ผลการวิเคราะห์คะแนนจากตารางสรปุ ไดว้ ่าก่อนเรยี น นักเรียนสามารถอ่านสะกดคาอย่ใู น เกณฑ์ 53.33 , 55.00 คอื ต้องมีการแกไ้ ขและคะแนนหลงั เรียน นักเรียนสามารถอา่ นสะกดคาอยูใ่ น เกณฑ์ 97.350 , 100.00 คอื ดมี าก 11. สรุปผล จากผลในการวิจัยในเรื่องการพฒั นาทกั ษะในด้านการอา่ นของนกั เรยี น ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 ซึง่ มจี านวนนักเรยี น 2 คน เดก็ ชายคตี าภัทร ปันเซ และเด็กหญงิ นรากร สนุ นั ทสริ ชิ าติพบว่ามี ปัญหาในดา้ นทกั ษะการอ่านสะกดคา ผวู้ ิจัยจึงได้ทดสอบโดยใชแ้ บบทดสอบการอ่านสะกดคาที่ประสม สระต่างๆ ใหน้ ักเรยี นไดฝ้ กึ อ่าน ในขั้นแรกคือกอ่ นเรยี น นักเรียนสามารถอา่ นคาทก่ี าหนดให้ไดอ้ ยใู่ น เกณฑ์ 53.33 , 55.00 จากเกณฑ์ รอ้ ยละ 80 ผลคอื ยงั ต้องมกี ารแกไ้ ข ดงั น้ันครจู งึ ใช้แนวการสอน และเทคนิคต่างๆ ในการทจ่ี ะใหน้ ักเรยี นมีความเขา้ ใจในทักษะในด้านการอ่านสะกดคา และได้ให้ เพือ่ นๆ ในห้องไดม้ สี ว่ นร่วมในการแนะนาหลกั และวธิ ีในการอ่านสะกดคา หลงั จากนน้ั ครไู ด้ใช้ชดุ แบบทดสอบชดุ เดมิ ให้นักเรียนได้ฝกึ ทดลองอา่ นสะกดคาอกี ครั้งหนึง่ ผลปรากฎว่านักเรยี นมีผลสมั ฤทธ์ิ ในดา้ นการอา่ นสะกดคาโดยคดิ เป็นรอ้ ยละ 100.00 , 97.50 แสดงว่านักเรยี นมีการพัฒนาทักษะในดา้ น การอา่ นทด่ี ขี ้ึน 12. ข้อคิดท่ไี ดจ้ ากการวิจัย 1. จะชว่ ยใหผ้ วู้ จิ ยั ทราบวา่ ในการทาวจิ ัยเรอ่ื งการพฒั นาทักษะในด้านการอา่ น ด้วยวิธีการ ประเมนทเี่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคญั มปี ญั หาในการวจิ ัยว่าเปน็ อยา่ งไรบา้ ง 2. เพ่ือสรปุ ผลการประเมนิ แลว้ จะไดม้ ีการพฒั นาใหต้ รงกบั การพัฒนาทักษะการอ่านไดอ้ ย่าง รวดเร็ว
งานวจิ ยั ในช้ันเรยี น ช่อื ผ้วู จิ ยั นางสาวการะเกต ทองแยม้ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชว่ งชั้นที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1/2 ชื่อเรอื่ ง การพฒั นาทักษะในดา้ นการอา่ น สภาพปัญหา ในวิชาภาษาไทย เปน็ ทกั ษะขน้ั พนื้ ฐานในการอ่านออกเขียนได้ในทกุ ๆ วชิ า ถา้ ผ้สู อนสามารถ ฝกึ ฝนทกั ษะในดา้ นการอา่ น ให้ผู้เรยี นมีความเขา้ ใจในทกั ษะนี้ ปญั หาผลการเรียนของผเู้ รยี นใน ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1/2 กจ็ ะลดลง จากผลการวดั ผลประเมนิ ผลในระดบั ชั้น ผู้วจิ ัยจงึ มคี วาม คิดเห็นวา่ ทกั ษะพืน้ ฐานในด้านการอา่ นนี้ จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งดว่ น จึงจดั ให้มกี ารเสรมิ ทักษะในการอา่ นสะกดคาขน้ึ ทางเลือกท่ีคาดวา่ จะแก้ปัญหา 1. วธิ ีการสอนเรียนปนเล่น ( เกม / กจิ กรรม / ใบงาน / ใบความรู้ ) 2. วิธีการสอนด้วยการฝกึ ฝนด้วยตนเองจากการอา่ นแบบฝกึ อา่ น กิจกรรมต่างๆ ในทกุ ชวั่ โมง ท่สี อน จดุ ประสงคก์ ารวิจัย เพือ่ ปรบั พื้นฐานและเพอื่ เป็นการเพ่มิ พนู ทกั ษะในดา้ นการอา่ น ระยะเวลาในการดาเนนิ งาน เดอื นพฤษภาคม - กันยายน ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน 1. เตรยี มใบงาน / ใบคาสงั่ / กิจกรรม / เกมเกี่ยวกับทกั ษะในด้านการอ่าน 2. ปรบั แผนการสอนใหส้ อดคลอ้ งกบั งานวิจยั 3. สอดแทรกใบงาน / ใบคาสง่ั / กจิ กรรม / เกมที่เก่ียวขอ้ งกบั ทักษะในด้านการอ่าน 4. เน้นให้ผเู้ รยี นฝึกคิดคานวณสมา่ เสมอ เม่อื มเี วลาวา่ ง 5. คัดเลือกนกั เรยี นทม่ี ปี ัญหาในทักษะด้านการอ่าน 6. ทดสอบความก้าวหน้า และพัฒนาผูเ้ รียนเป็นระยะๆ 7. รวบรวมเอกสาร และสรปุ ผลการวิจัย
วันท่ี 7-9 พฤษภาคม 2562 เขา้ รับการอบรมโครงการพฒั นาคณุ ภาพครโู รงเรียนเอกชนเพ่อื ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น
วนั ท่ี 12-14 มิถนุ ายน 2562 เขา้ รบั การอบรม STEM TO STEAM
วนั ท่ี29-30 มิถุนายน 2562 เข้ารบั การอบรมครูแกนนาคุณธรรม
วันที่ 19-21 เมษายน 2562 เขา้ ร่วมอบรมครูพีเ่ ล้ยี งสะเตม็ ศกึ ษา ณ สานักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาแมฮ่ ่องสอน เขต 1
วนั ท่ี 14-16มนี าคม 2563 เขา้ ร่วมอบรมครพู เี่ ลย้ี งสะเตม็ ศึกษาระดับประถมศกึ ษาตอนปลาย ณ สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาแม่ฮอ่ งสอน เขต 1
วนั ท่ี 18-20 พฤษภาคม 2562 ปฏิบัติธรรมวดั ป่าบา้ นใหม่
วันที่ 12 มกราคม 2563 เขา้ รว่ มการอบรมพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายนอก
วันที่ 22 พฤศจกิ ายน 2562 เข้าร่วมการอบรมการประเมินภาษเี งนิ ได้ทดี่ ินและส่งิ ปลกู สรา้ ง
เปน็ วทิ ยากรครแู กนนาคุณธรรมในโรงเรยี น
Search