ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เรื่อง การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 5 รายวชิ าชีววทิ ยา 2 รหัสวชิ า ว30242 ชุดที่ 1 เร่ือง การศึกษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล โดย นายรักไทย แบบอย่าง ครูชานาญการ โรงเรียนธาตุศรีนคร สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33
ก คำนำ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เร่ือง การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ชดุ ท่ี 1 เร่อื ง การศกึ ษาพนั ธุศาสตรข์ องเมนเดล จัดทำข้นึ เพ่ือใชเ้ ปน็ ส่ือการเรียนรสู้ ำหรับปรับปรุงและพัฒนา ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นของนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ในรายวชิ าชีววทิ ยา 2 รหัสวิชา ว30242 ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนธาตุศรนี คร ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษา ขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สาระท่ี 1 สิ่งมชี วี ิตกบั กระบวนการดำรงชีวิต ชุดกิจกรรมชดุ น้ี มีเนื้อหาเก่ยี วกับวิธกี ารศกึ ษาทางด้านพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล และคำศัพทท์ าง พนั ธุศาสตรท์ นี่ ักเรียนควรรูจ้ ัก โดยชดุ กิจกรรมนมี้ งุ่ เนน้ ให้นักเรยี นได้ศึกษา ค้นคว้า และสรา้ งองค์ความรู้ ดว้ ยตนเอง รวมทงั้ มีกจิ กรรมทสี่ ่งเสริมใหน้ ักเรยี นร้จู ักการทำงานดว้ ยกระบวนการกลุ่ม ซ่ึงเปน็ ทกั ษะท่ี สำคัญและจำเปน็ ตอ่ การดำรงชวี ติ ผู้จัดทำขอขอบพระคณุ ผู้อำนวยการโรงเรยี นธาตุศรนี คร ผูเ้ ช่ียวชาญ และคณะครโู รงเรยี น ธาตุศรนี ครทกุ ท่านที่ให้ขอ้ แนะนำและข้อเสนอแนะตา่ ง ๆ จนทำใหช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชุดน้ีสำเร็จลลุ ว่ งไปไดด้ ้วยดี และหวงั เป็นอย่างยิ่งว่าชดุ กิจกรรมน้ีจะมปี ระโยชน์ตอ่ นักเรยี น ชว่ ยให้ นักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจในเนอื้ หาที่เรยี นมากข้นึ รวมท้งั มีประโยชนต์ ่อครผู ู้สอนและผู้ท่ีสนใจ รกั ไทย แบบอย่าง
สารบัญ ข เรื่อง หน้า 1. คำนำ ก 2. สารบัญ ข 3. คำชี้แจงในการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์สำหรับครูผู้สอน 1 4. คำชี้แจงในการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรส์ ำหรับนกั เรียน 2 5. ขั้นตอนการเรยี นรู้ดว้ ยชุดกจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ 3 6. ผลการเรียนรูแ้ ละจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4 7. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5 8. บตั รคำสั่ง 8 9. บตั รเนอื้ หา 9 10. บัตรกจิ กรรมที่ 1.1 ระดมความคดิ …พิชติ คำตอบ 15 11. บัตรกจิ กรรมท่ี 1.2 ถกู หรือผิด…คดิ ให้ดี 17 12. บตั รกจิ กรรมที่ 1.3 เน้ือคู่ของฉนั …ใครกันนะ 19 13. แบบทดสอบหลังเรียน 20 14. บรรณานกุ รม 23 15. ภาคผนวก 24 25 15.1 แบบบนั ทกึ คะแนน 26 15.2 บัตรเฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน 27 15.3 บตั รเฉลยกิจกรรมท่ี 1.1 ระดมความคิด…พชิ ติ คำตอบ 29 15.4 บัตรเฉลยกิจกรรมท่ี 1.2 ถูกหรือผดิ …คดิ ใหด้ ี 31 15.5 บตั รเฉลยกจิ กรรมที่ 1.3 เนือ้ คขู่ องฉนั …ใครกนั นะ 32 15.6 บตั รเฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน
1 คาชีแ้ จงในการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาหรับครูผ้สู อน 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม รายวิชา ชวี วทิ ยา 2 รหัสวชิ า ว30242 สำหรบั นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 มที ้ังหมด 12 ชุด 2. ชุดกิจกรรมน้เี ปน็ ชดุ ท่ี 1 เร่ือง การศึกษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล 3. ศกึ ษาคู่มอื การใชช้ ุดกิจกรรมให้เขา้ ใจอย่างชดั เจน 4. จดั เตรียมวัสดุอุปกรณ์ในชุดกิจกรรมให้ครบถ้วน 5. ก่อนการใช้ชดุ กิจกรรม ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพอื่ วัดความรู้พื้นฐานก่อนเรียน 6. จดั กิจกรรมการเรยี นการสอนตามคมู่ ือการใชช้ ดุ กจิ กรรม ครูตอ้ งกำกับดูแลนักเรียนอย่าง ใกล้ชดิ ขณะจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน 7. เม่ือนกั เรียนศกึ ษาชุดกิจกรรมชดุ น้ีเสรจ็ แล้ว ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน เพ่ือ ประเมินความก้าวหนา้ ทางการเรยี น 8. การจดั ช้นั เรยี น จัดให้นกั เรียนน่งั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยคละความสามารถ เก่ง ปานกลาง และอ่อน คุณครูเข้าใจแล้วนะครับ
2 คาชีแ้ จงในการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาหรับนกั เรียน 1. ชดุ กจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม รายวิชา ชวี วทิ ยา 2 รหสั วชิ า ว30242 สำหรบั นักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 มที ้ังหมด 12 ชดุ 2. ชดุ กิจกรรมนี้เป็นชดุ ที่ 1 เรื่อง การศึกษาพันธศุ าสตร์ของเมนเดล 3. อา่ นคำชีแ้ จงในการใช้ชุดกิจกรรม ลำดบั ขั้นตอนในการเรียนรู้โดยใชช้ ุดกจิ กรรม ผลการเรยี นรู้ และจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ใหเ้ ข้าใจ 4. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 10 ข้อ เพื่อตรวจสอบพนื้ ฐานความรู้ แลว้ บันทกึ คะแนนลง ในใบบันทึกผลคะแนน 5. ศกึ ษาชดุ กจิ กรรมด้วยความตัง้ ใจ โดยปฏิบตั ิตามขน้ั ตอนทกี่ ำหนดไวใ้ นบตั รคำสั่ง 6. ทำแบบทดสอบหลงั เรียน จำนวน 10 ขอ้ แล้วบันทึกคะแนนลงในใบบนั ทึกผลคะแนน 7. ในการทำกจิ กรรมแต่ละกจิ กรรม และแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น ขอให้นักเรียนทำ ดว้ ยความตง้ั ใจและมคี วามซื่อสตั ยต์ ่อตนเองโดยไมด่ ูเฉลยคำตอบก่อนโดยเดด็ ขาด เพราะการดเู ฉลย กอ่ นจะทำใหน้ ักเรยี นไม่ทราบพัฒนาการทางการเรยี นรขู้ องนกั เรียนอยา่ งแทจ้ ริง เพื่อน ๆ เข้าใจตรงกนั นะครับ
3 ข้นั ตอนการเรียนรู้ด้วยชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1. อ่านคำชแ้ี จงในการใช้ชดุ กิจกรรม 2. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ไม่ผ่านเกณฑ์ 3. ศกึ ษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้โดยปฏบิ ตั ิกิจกรรม 3.1 ศึกษาบตั รคำสง่ั 3.2 ศกึ ษาบตั รเนื้อหา 3.3 ทำบัตรกิจกรรม 4. ทำแบบทดสอบหลังเรยี น การประเมนิ ผล 5. ศึกษาชุดกิจกรรมชุดต่อไป ผา่ นเกณฑ์ 80 %
4 การศึกษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล ผลการเรียนรู้ สบื ค้นขอ้ มูล วเิ คราะห์ อภปิ ราย อธิบาย และสรปุ การคน้ พบกฎการถ่ายทอดทางพันธกุ รรม ของเมนเดล จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกเหตผุ ลท่ที ำให้การศึกษาทางด้านพันธุศาสตร์ของเมนเดลประสบความสำเร็จได้ 2. อธิบายวธิ กี ารทดลองการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของเมนเดลได้ 3. บอกความหมายของคำศัพท์ทางพนั ธศุ าสตร์ได้ 4. สรปุ ความหมายของคำศัพท์ทางพันธุศาสตรแ์ ละวธิ ีการศกึ ษาทางดา้ นพันธุศาสตร์ ของเมนเดลได้
5 แบบทดสอบก่อนเรียน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สรปุ ความหมายของคำศัพท์ทางพันธศุ าสตร์และวิธีการศึกษาทางดา้ น พันธุศาสตรข์ องเมนเดลได้ คำชี้แจง ใหเ้ ลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดยี ว จากตัวเลือก 1 2 3 หรอื 4 1. เมนเดล เลอื กศึกษาการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมจากสิง่ มชี ีวติ ในข้อใด 1. Pisum sativum L. 2. Arachis hypogaea L. 3. Vigna Unguiculata H. 4. Psophocarpus tetragonolobus L. 2. เมนเดลเลอื กใช้ถั่วลันเตาในการศกึ ษาทางด้านพันธุศาสตร์ เพราะถ่ัวลันเตามคี วามเหมาะสมหลาย ประการ ยกเว้นข้อใด 1. ถั่วลันเตามอี ายสุ ้นั และปลกู งา่ ย 2. ถั่วลนั เตาเจรญิ เตบิ โตเรว็ และมผี ลดก 3. ถ่วั ลนั เตามหี ลายพันธ์ุ และมลี กั ษณะแตกต่างกันอยา่ งชัดเจน 4. ถั่วลันเตาเป็นดอกไมส่ มบูรณเ์ พศ ทำใหส้ ามารถควบคุมการผสมพนั ธ์ุได้ตามความต้องการ 3. เมนเดลได้ทำการทดลองนำถว่ั ลนั เตาตน้ ฝักสเี หลอื งผสมกับตน้ ฝักสเี ขียว ปรากฏวา่ ได้ลกู ออกมาเป็น ฝกั สีเขยี วทั้งหมด เมนเดลเรยี กลักษณะฝกั สเี ขยี วที่ปรากฏออกมาใหเ้ ห็นในรุ่นลูกวา่ อย่างไร 1. recessive trait 2. dominant trait 3. recessive gene 4. dominant gene 4. เมนเดลเรยี กหนว่ ยทีค่ วบคมุ การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรมจากพ่อแมส่ ู่ลกู หลานวา่ “แฟกเตอร์ (factor)” ในปจั จุบันคำวา่ “แฟกเตอร์” หมายถึงข้อใด 1. โครโมโซม 2. DNA 3. RNA 4. ยีน
6 5. ลกั ษณะท่ีปรากฏออกมาให้เห็น เช่น ตน้ สงู ต้นเตี้ย ดอกสขี าว หรอื ดอกสแี ดงนั้น ตรงกับคำศพั ท์ ทางพนั ธศุ าสตร์ในข้อใด 1. แอลลีล 2. จีโนไทป์ 3. ฟโี นไทป์ 4. ลักษณะเด่น 6. จากผลการทดลองของเมนเดล เมอ่ื นำถั่วลนั เตาฝกั สีเขียวผสมกับถวั่ ลนั เตาฝักสีเหลอื ง จะไดร้ นุ่ ลูก ออกมาเป็นฝักสเี ขยี วท้ังหมด และเม่ือนำรนุ่ ลูกฝกั สีเขียวผสมกันเอง จะไดล้ ูกออกมามีท้งั ฝกั สเี ขียว และฝักสีเหลอื ง โดยคดิ อตั ราสว่ น ฝักสีเขียว: ฝักสีเหลือง มคี า่ ประมาณเท่าใด 1. 1: 1 2. 2: 1 3. 3: 1 4. เปน็ ไปไดท้ ้งั 3 ขอ้ 7. ขอ้ ใดจัดเปน็ ฮอมอไซกัสโดมิแนนท์ a. tt b. GG c. Tt d. Gg e. TT f. gg 1. a และ f 2. b และ e 3. c และ d 4. a, b, e และ f 8. ข้อใดจดั เป็นลักษณะเด่นไม่สมบรู ณ์ 1. การแสดงออกมาทั้งสองลกั ษณะ เช่น หม่เู ลือด AB 2. การผสมพนั ธุต์ น้ สูงกบั ต้นเตี้ย แล้วได้ลูกออกมาเป็นต้นสูงท้ังหมด 3. การผสมพันธุด์ อกไม้สีแดงกบั ดอกไมส้ ีขาว แล้วไดล้ ูกออกมาเปน็ ดอกสชี มพู 4. ขอ้ 1 และ 3 ถูก 9. จากการทดลองของเมนเดล ข้อใดกลา่ วถูกต้องเกี่ยวกับรนุ่ F2 1. รุ่นพ่อแม่ และเป็นการผสมพันธใุ์ นครั้งแรก 2. รุ่นลกู ซึ่งเกดิ จากการผสมพนั ธุก์ ันของรุน่ พอ่ แม่ 3. รนุ่ หลาน ซึง่ เกิดจากการผสมพันธุก์ นั ของรุ่นลูกรุ่นที่ 1 4. รุน่ ทเ่ี กดิ จากการนำเอารุ่นพ่อแม่มาผสมพนั ธ์กุ บั ร่นุ ลูกรุน่ ที่ 1
7 10. การผสมพันธร์ุ ะหว่างตน้ ที่มีฟโี นไทป์เด่นกับต้นทมี่ ีฟโี นไทป์ด้อย เพื่อตอ้ งการทราบวา่ ตน้ ลักษณะ เดน่ นั้นเป็นลักษณะพนั ธแ์ุ ท้หรือพันธ์ุทาง เรยี กการทดลองนวี้ า่ อย่างไร 1. test cross 2. back cross 3. karyotype 4. dihybrid cross ไปตรวจคาตอบกนั เลยครับเพ่ือน ๆ
8 บัตรคาสั่ง ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ปฏิบัติตามขน้ั ตอนตอ่ ไปนี้ 1. ศึกษาบัตรความรู้ เรื่อง การศึกษาพนั ธศุ าสตร์ของเมนเดล แลว้ ร่วมกนั อภิปราย ถาม-ตอบ ภายในกลุ่มจนเข้าใจทกุ คน 2. ทำบัตรกจิ กรรมท่ี 1.1 ระดมความคิด…พิชติ คำตอบ เป็นกิจกรรมกลุ่ม ทกุ คนตอ้ งให้ ความร่วมมือในการทำกิจกรรม 3. ทำกิจกรรมท่ี 1.2 ถกู หรอื ผิด…คิดใหด้ ี และกจิ กรรมที่ 1.3 เน้อื ค่ขู องฉนั …ใครกนั นะ เป็นกิจกรรมเด่ียว นกั เรยี นแต่ละคนต้องทำดว้ ยตนเอง ห้ามลอกกนั เพ่ือประสิทธิภาพของการเรียนรู้ เพื่อน ๆ ต้องปฏบิ ัตติ ามบตั รคาสั่ง อย่างเคร่งครัดนะครับ
9 บตั รเนื้อหา เรื่อง การศึกษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล คาชี้แจง: ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาบตั รเนื้อต่อไปนี้ เกรเกอร์ โยฮัน เมนเดล (Gregor Johann Mendel) เป็นพระชาวออสเตรยี ได้ทำการทดลองทางชวี วทิ ยา เมื่อ ปี ค.ศ. 1856 การทดลองได้กระทำข้นึ ภายในสวนบริเวณวัด ในกรุงบรูนน์ (Brunn) ซึง่ เมนเดลบวชอยู่ เมนเดล ทดลองปลกู ผกั หลายชนิด โดยเฉพาะอย่างย่ิงถั่วลนั เตาซ่งึ มีลักษณะแตกตา่ ง กันอย่างเหน็ ได้ชัดเจน เมนเดลทำการทดลองอยถู่ งึ 7 ปี จงึ พบ กฎเกณฑก์ ารถ่ายทอดลกั ษณะต่าง ๆ ข้นึ มา ในปี ค.ศ. 1865 เขาจงึ ได้รายงานผลการทดลอง ซึ่งเกย่ี วข้องกับ ภาพที่ 1.1 เกรเกอร์ โยฮนั เมนเดล การผสมพันธุ์ตน้ ถ่ัว ให้แก่ท่ีประชมุ Natural History ท่ีมา (คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั Society ในกรงุ บรูนน์ ผลงานของเขาได้รบั การตีพมิ พ์ เผยแพรอ่ อกไปท่ัวทวปี ยุโรปและอเมริกาในปตี ่อมา เทคโนโลยรี าชมงคล, ม.ป.ป. : ออนไลน์) แต่ไม่มีผูใ้ ดให้ความสนใจ ในปี ค.ศ. 1900 นักชีววิทยา 3 ท่าน คือ ฮโู ก เดอฟรีส์ (Hugo de Vries) ชาวฮอลแลนด์ คาร์ล เอรชิ คอรเ์ รนส์ (Karl Erich Correns) ชาวเยอรมนั และเอริช แชร์มาค ฟอน ไซเซเนกก์ (Erich Tschermak Von Seysenegg) ชาวออสเตรียได้ทำการทดลองเชน่ เดยี วกบั เมนเดล โดยใช้พืชชนดิ อ่ืน ๆ อกี หลายชนดิ ผลท่ีได้จากการทดลองก็มีลกั ษณะเดยี วกับเมนเดล ทำให้ชื่อเสยี งของ เมนเดลเร่มิ โดง่ ดงั ข้ึนและได้ชื่อว่าเปน็ บิดาแหง่ วชิ าพนั ธศุ าสตร์ อืม…แล้วทาไมเมนเดลต้องเลือก ศึกษาถ่ัวลนั เตานะ อยากรู้จังเลย
10 เมนเดลไดต้ ัดสนิ ใจเลือกถ่วั ลันเตา (Pisum sativum L.) เป็นพืชทดลอง เนื่องจากมลี กั ษณะที่ เหมาะสมหลายประการ ดังนี้ 1. ถว่ั ลนั เตามีอายุส้นั ปลกู ง่าย มีผลดก เจริญเตบิ โตเรว็ 2. ถ่ัวลนั เตามหี ลายพนั ธุ์ มลี กั ษณะทแี่ ตกตา่ งกันอยา่ งชัดเจน และสามารถหาถ่วั ลันเตาพนั ธแุ์ ท้ สำหรบั ทดลองได้ง่าย 3. ดอกถั่วลนั เตาเปน็ ดอกสมบูรณ์เพศ และมีกลบี ดอกปิดกลุ่มเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย ปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ รณจู ากดอกอื่นเข้าผสมกบั เซลลไ์ ข่ ดงั น้นั ในธรรมชาติจึงมีการผสมภายในดอกเดียวกัน (self-pollination) ได้ลูกท่เี ป็นพันธุ์แท้ (pure line) ลกั ษณะเชน่ นีจ้ ึงเหมาะต่อการควบคมุ การทดลอง ท่สี ามารถควบคมุ ใหเ้ กดิ การผสมข้าม (cross-pollination) ไดง้ า่ ย ภาพท่ี 1.2 ดอกถว่ั ลนั เตา ที่มา (นิพนธ์ ศรนี ฤมล, มปป. : ออนไลน์) แล้วเมนเดลทาการทดลองอย่างไรคะ เมนเดลคดั เลอื กลกั ษณะของถว่ั ลนั เตา 7 ลกั ษณะท่ีแตกตา่ งกันอย่างชดั เจน เพ่ือทำการศึกษา ตามการทดลองทีว่ างไว้ ลักษณะทั้ง 7 น้ี ได้แก่ ความสงู ของลำต้น รปู ร่างของฝัก รูปร่างของเมลด็ สขี องเมล็ด ตำแหน่งของดอก สขี องดอก และสีของฝกั ดงั แสดงในตารางท่ี 1.1
11 ตารางท่ี 1.1 ลกั ษณะตา่ ง ๆ ของถว่ั ลันเตา ที่มา (นิพนธ์ ศรนี ฤมล, มปป. : ออนไลน)์ เมนเดล ทำการคดั เลอื กต้นพ่อและตน้ แม่ท่ีเปน็ พนั ธุ์แท้และมลี กั ษณะที่แตกตา่ งกนั แล้วนำมา ผสมกันและพิจารณาการผสมกนั ทีละลกั ษณะ เช่น ลกั ษณะสีของฝกั เมนเดลได้ถา่ ยละอองเรณูของ ถ่วั ลันเตาตน้ ที่ออกฝักสีเขียวไปผสมกบั ตน้ ถ่วั ท่ีออกฝกั สีเหลอื ง ตน้ ถัว่ ลนั เตาท่ีนำมาผสมกนั นเ้ี รียกวา่ ร่นุ พอ่ แม่ (parental generation) หรอื ร่นุ P จากการผสมพันธ์จุ ะได้ต้นใหมจ่ ำนวนมากเป็นรนุ่ ลูก (first filial generation) หรือรุ่น F1 ซง่ึ ออกฝกั สีเขยี วทง้ั หมด แม้วา่ การผสมจะสลับตน้ พ่อและต้นแม่ ก็ตาม กจ็ ะได้รุ่น F1 ออกมามีลกั ษณะเชน่ เดยี วกัน ดังภาพที่ 1.3 ภาพท่ี 1.3 การผสมพนั ธถ์ุ วั่ ลันเตาได้รุ่น F1 ออกฝกั สีเขียว ท่ีมา (ดดั แปลงจาก นิพนธ์ ศรีนฤมล, มปป. : ออนไลน์)
12 ต่อมาเมนเดลนำเมลด็ ท่ีเกิดจากการผสมพันธ์ุภายในดอกเดียวกันของรุน่ F1 ไปปลกู ไดร้ นุ่ หลาน (second filial generation) หรอื รุ่น F2 โดยพบวา่ รุน่ F2 มที ัง้ ต้นที่ออกฝักสีเขียว และออกฝักสีเหลือง คิดเปน็ อตั ราส่วนระหวา่ ง ฝกั สีเขียว: ฝักสีเหลือง เทา่ กับ 2.82: 1 หรือประมาณ 3: 1 ดงั ภาพท่ี 1.4 ภาพท่ี 1.4 การผสมพันธุถ์ ั่วลันเตาในรนุ่ F1 ไดร้ ุ่น F2 ที่มา (ดัดแปลงจาก นิพนธ์ ศรีนฤมล, มปป. : ออนไลน)์ จากผลการทดลอง เมนเดลได้สรปุ วา่ ลักษณะต่าง ๆ ของถวั่ ลนั เตาจะตอ้ งมหี น่วยควบคมุ เมนเดล เรยี กหนว่ ยควบคมุ ลักษณะเหลา่ นวี้ ่า แฟกเตอร์ (factor) ซงึ่ อยเู่ ปน็ คู่และจะถา่ ยทอดจากพ่อแม่ไปสู่ลกู เชน่ ลกั ษณะฝกั สเี ขยี วพนั ธแุ์ ท้ จะมแี ฟกเตอร์ควบคุมลกั ษณะฝักสีเขียว 2 แฟกเตอร์ และลกั ษณะฝัก สีเหลือง 2 แฟกเตอร์ รนุ่ F1 แม้ว่าจะมีลักษณะฝักสเี ขียวก็มแี ฟกเตอร์ควบคุมลักษณะ 2 แฟกเตอร์ คอื แฟกเตอร์ควบุคมลักษณะฝกั สีเขยี วและแฟกเตอร์ควบคุมลักษณะฝักสีเหลือง แตจ่ ะมีลกั ษณะของ แฟกเตอรใ์ ดแฟกเตอร์หน่งึ ปรากฏออกมา ลกั ษณะที่แสดงออกในรุน่ F1 จะเปน็ ลักษณะเด่น (dominant trait) เช่น ลักษณะฝักสีเขยี ว และลกั ษณะทไี่ มแ่ สดงออกในรุ่น F1 แตแ่ สดงออกในรุน่ F2 เปน็ ลกั ษณะดอ้ ย (recessive trait) เชน่ ลักษณะฝักสเี หลอื ง เป็นต้น ต่อมานักวิทยาศาสตรไ์ ดเ้ ปล่ียน คำวา่ แฟกเตอร์ มาใชค้ ำว่า ยีน (gene) แทน เป็นไงคะเพ่อื น ๆ พอจะเขา้ ใจเก่ียวกบั การทดลอง ของเมนเดลกนั หรือยงั เพ่ือใหเ้ พื่อน ๆ มีความเขา้ ใจ เก่ียวกบั พนั ธุศาสตร์มากข้ึน เราไปเรียนรู้คาศพั ท์ ทางพนั ธุศาสตร์ท่ีควรรู้จกั กนั ก่อนนะคะ
13 อืม…คาศพั ทท์ างพนั ธุศาสตร์ท่ีเราควรรู้จกั มีอะไรบา้ งนะ คาศัพท์ทางพนั ธุศาสตร์ทค่ี วรรู้จกั 1. ยนี (gene) คือ ลักษณะทางพันธกุ รรมซ่งึ เป็นส่วนหน่งึ ของโครโมโซม โครโมโซมของคนมี 23 คู่ และมยี ีนอยปู่ ระมาณ 50,000 ยนี ยีนเหลา่ นี้จะกระจายอย่ใู นโครโมโซมแตล่ ะคู่และควบคมุ การ ถ่ายทอดลักษณะไปสู่ลูกได้ประมาณ 50,000 ลกั ษณะ 2. แอลลีล (allele) คอื ยีนทเ่ี ข้าคู่กัน เชน่ ยีน G เปน็ ยนี ทเ่ี ข้าคกู่ ับ G หรอื g และยีน g เป็นยนี ทเี่ ข้าคู่กบั g หรอื G ดังน้ันยนี G และ g จะเป็นแอลลลี ต่อกัน 3. ฮอมอโลกัสโครโมโซม (homologous chromosome) คือ โครโมโซมทเี่ ปน็ คู่ทเี่ หมือนกัน มยี นี ทีค่ วบคุมลกั ษณะเดยี วกันอยบู่ นตำแหนง่ เดยี วกนั บนโครโมโซมท่ีเปน็ คู่กัน 4. โลคัส (locus) คือ ตำแหน่งของยนี ท่ีอยูบ่ นโครโมโซม โดยยนี ที่เปน็ แอลลลี กันจะอยู่ทโี่ ลคัส เดียวกัน ที่โลคัสหน่ึง ๆ นั้น อาจมียนี ทเ่ี ปน็ แอลลลี กนั มากกว่า 2 แบบก็ได้ 5. จีโนไทป์ (genotype) คือ ยีนท่ีควบคุมลักษณะของสิ่งมีชวี ิต เช่น TT, tt, Tt 6. ฟีโนไทป์ (phenotype) คือ ลักษณะทีป่ รากฏออกมาให้เห็น ซง่ึ เป็นผลจากการแสดงออกของ จโี นไทป์น่ันเอง เช่น TT, Tt มีจโี นไทปต์ ่างกันแตม่ ีฟโี นไทปเ์ หมือนกนั คอื เปน็ ตน้ สงู ท้ังคู่ 7. ฮอมอไซกสั จีโนไทป์ (homozygous genotype) คอื จโี นไทป์ที่มยี ีน 2 ยีนท่เี หมือนกนั เช่น GG หรอื gg จีโนไทป์ท่ีมลี กั ษณะเช่นน้ี เรียกวา่ พันธแุ์ ท้ แบ่งเป็น 2 ชนดิ คือ 7.1 ฮอมอไซกสั โดมิแนนท์ (homozygous dominant) คอื จโี นไทปท์ ีม่ ยี นี เดน่ ทั้งหมด เช่น GG, หรือ TT เปน็ ตน้ 7.2 ฮอมอไซกสั รเี ซสสพี (homozygous recessive) คือ จโี นไทป์ที่มียนี ด้อยท้ังหมด เชน่ gg หรือ tt เปน็ ตน้ 8. เฮเทอโรไซกัสจีโนไทป์ (heterozygous genotype) คือ จีโนไทป์ทีม่ ยี นี 2 แอลลลี ที่ตา่ งกัน มาเขา้ คู่กัน เชน่ Gg หรือ Tt เป็นต้น จีโนไทป์ทีม่ ีลักษณะเช่นน้ี เรียกว่า พันธทุ์ าง 9. ลักษณะเด่น (dominant trait) คือ ลกั ษณะท่แี สดงออกเมื่อเป็นฮอมอไซกัสโดมแิ นนท์ และ เฮเทอโรไซกสั
14 10. ลกั ษณะด้อย (recessive trait) คอื ลกั ษณะท่ีถกู ข่มเม่ืออยูใ่ นรปู ของเฮเทอโรไซกสั และจะ แสดงออกเมื่อเป็นฮอมอไซกัสรีเซสสีพ 11. ลกั ษณะเด่นสมบูรณ์ (complete dominant) คือ การข่มของลกั ษณะเดน่ ต่อลักษณะด้อย เปน็ ไปอยา่ งสมบรู ณ์ ทำใหฟ้ โี นไทปข์ องฮอมอไซกสั โดมแิ นนท์และเฮเทอโรไซกสั เหมอื นกนั เชน่ TT จะมฟี โี นไทป์เหมือนกับ Tt ทุกประการ 12. ลักษณะเด่นไมส่ มบูรณ์ (incomplete dominant) เป็นการขม่ กนั อย่างไม่สมบูรณ์ ทำให้ เฮเทอโรไซกสั ไม่เหมือนกับฮอมอไซกสั โดมแิ นนท์ เช่น การผสมดอกไม้สีแดงกบั ดอกไม้สีขาวได้ดอกไม้ สชี มพู แสดงวา่ แอลลลี ที่ควบคมุ ลักษณะดอกสแี ดงข่มแอลลลี ทคี่ วบคุมลกั ษณะดอกสีขาวได้ไม่สมบรู ณ์ 13. ลกั ษณะเด่นร่วม (co-dominant) เป็นลกั ษณะทแี่ อลลีลแตล่ ะตัวมีลกั ษณะเด่นดว้ ยกันท้งั คู่ ขม่ กนั ไมล่ ง ทำให้ฟโี นไทปข์ องเฮเทอโรไซกสั แสดงออกมาท้ังสองลกั ษณะ เช่น หมูเ่ ลือด AB ท้ังแอลลีล IA และแอลลลี IB จะแสดงออกในหมู่เลือดทง้ั คู่ 14. เทสต์ครอส (test cross) เปน็ การผสมระหว่างต้นที่มฟี ีโนไทปเ์ ดน่ กับตน้ ทีม่ ีฟีโนไทป์ด้อย เพอื่ ต้องการทราบว่าตน้ ลกั ษณะเดน่ นั้นเป็นลักษณะพนั ธ์ุแทห้ รือพันธท์ุ าง ถา้ หากต้นท่ผี สมซง่ึ เปน็ ลกั ษณะด้อยนน้ั เปน็ พ่อแม่ จะเรียกวา่ การผสมแบบแบคครอส (back cross) เพ่ือน ๆ จาได้ทุกคาหรือยังครับ
15 บตั รกจิ กรรมท่ี 1.1 ระดมความคดิ …พชิ ิตคาตอบ สมาชิกในกลุ่ม 1………………………………………………….....................ช้นั ………..เลขที่…………. 2………………………………………………….....................ช้นั ………..เลขที่…………. 3………………………………………………….....................ช้นั ………..เลขที่…………. 4………………………………………………….....................ช้นั ………..เลขที่…………. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ บอกเหตุผลท่ีทำให้การศกึ ษาทางดา้ นพนั ธุศาสตร์ของเมนเดลประสบความสำเร็จได้ คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิด แลว้ ตอบคำถามในประเด็นท่ีกำหนดให้ ตอ่ ไปนี้ (5 คะแนน) “เมนเดลประสบความสำเร็จในการศกึ ษาพันธศุ าสตรโ์ ดยการทดลองผสมพนั ธุ์ถั่วลันเตาเพราะเหตุใด” ……แ…น…วค…ำ…ต…อ…บ…………………………………………………………………………………………………………………………… ……1…. …เม…น…เ…ดล…ร…จู้ …ักเ…ล…ือก…ช…น…ิด…ขอ…ง…พ…ชื …มา…ท…ำ…กา…ร…ท…ด…ลอ…ง…โ…ดย…พ…ชื …ท…่ีน…ำม…า…ท…ด…ลอ…ง…ค…ือถ…ัว่ …ล…ัน…เต…า…ซ…ึง่ ม…ี…………… …………ข…้อด…หี …ล…า…ยป…ร…ะ…กา…ร……ได…แ้ …ก…่ ………………………………………………………………………………………………… …………1….1……อา…ย…สุ …้นั …ป…ล…ูกง…่า…ย…ให…ล้…กู …ห…ล…าน…ม…า…ก………………………………………………………………………………… …………1….2……มีล…ัก…ษ…ณ…ะ…แ…ตก…ต…่า…งก…ัน…อ…ย…่าง…ช…ดั เ…จ…น…แล…ะ…ม…หี …ลา…ย…ล…กั ษ…ณ…ะ……………………………………………………… …………1….3……ผส…ม…พ…นั …ธ…์ภุ า…ย…ใน…ด…อ…ก…เด…ีย…วก…นั ………………………………………………………………………………………… ……2…. …เม…น…เ…ดล…ร…จู้ …ักก…า…ร…วา…งแ…ผ…น…ใน…ก…า…รท…ด…ล…อ…ง…เช…น่ …………………………………………………………………………… …………2….1……เล…อื …กศ…ึก…ษ…า…กา…ร…ถ…า่ ย…ท…อ…ดล…กั …ษ…ณ…ะ…ข…อง…ถ…่วั …ลนั…เ…ตา…แ…ต…่ล…ะล…ัก…ษ…ณ…ะ…ก่อ…น……เม…ื่อ…เข…า้ …ใจ…ห…ล…กั ก…า…ร………… ………………ถ…่า…ย…ท…อด…ล…กั …ษ…ณ…ะ…น้นั……ๆ…แ…ล…ว้ …เข…า…จึง…ไ…ด้ศ…ึก…ษ…า…กา…ร…ถ…า่ ย…ท…อ…ดส…อ…ง…ล…กั ษ…ณ…ะ…ไ…ป…พร…้อ…ม…ๆ…ก…นั……………
16 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………2….2……ใน…ก…าร…ผ…ส…มพ…ัน…ธ…์ุจ…ะ…ใช…้พ…อ่ …แม…่พ…ัน…ธ…ุแ์ ท…้…ใน…ล…กั …ษ…ณ…ะ…ตร…ง…กัน…ข…้า…ม…ม…า…ทำ…ก…า…รผ…ส…ม…พ…นั …ธุ์ ……………… ……………………เพ…่อื …ศ…ึกษ…า…ร…ุ่นล…กู …ท…่ีเก…ิด…ม…า…………………………………………………………………………………………… ……………2….3……ศกึ…ษ…า…ล…กั ษ…ณ…ะ…ต…่า…ง …ๆ…ท…่ีเก…ดิ …ข…น้ึ …ใน…ร…ุน่ ล…กู ……แล…้ว…บ…ัน…ท…ึกไ…ว้…………………………………………………… ……………2….4……นำ…ร…่นุ …ลกู…ม…า…ผ…สม…พ…นั …ธ…ก์ุ นั…เ…อ…งเ…พ…ื่อศ…ึก…ษ…า…ลัก…ษ…ณ…ะ…ข…อ…งร…นุ่ …ห…ลา…น…ท…เี่ ก…ดิ …ข…ึน้ …แ…ล…ว้ บ…นั …ท…ึก…ไว…้ ………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
17 บัตรกจิ กรรมท่ี 1.2 ถูกหรือผดิ …คดิ ให้ดี ชอ่ื -สกุล..................................................................ชนั้ .............เลขที่........... จดุ ประสงค์การเรียนรู้ อธิบายวิธีการทดลองการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมของเมนเดลได้ คำช้แี จง จงทำเคร่ืองหมาย √ หนา้ ข้อความทก่ี ล่าวถกู และทำเครือ่ งหมาย X หนา้ ข้อความ ทก่ี ล่าวผดิ (ข้อละ 1 คะแนน) …………….1. เมนเดลได้รับการยกย่องใหเ้ ป็นบดิ าแหง่ วชิ าพันธุวิศวกรรม …………….2. เมนเดลเลือกใช้ถว่ั ลันเตาเปน็ พชื ทดลองเพราะถว่ั ลนั เตามีอายุยืนยาว …………….3. ดอกถวั่ ลันเตา จัดเปน็ ดอกสมบรู ณเ์ พศ …………….4. ในธรรมชาติดอกถวั่ ลันเตาจะเกิดการผสมพนั ธกุ์ ันภายในดอกเดียวกัน (self-pollination) …………….5. ลักษณะสขี องดอกถ่วั ลันเตาท่ีเมนเดลศึกษา มี 2 สี คือ สีม่วงกบั สีเหลือง …………….6. ลกั ษณะของถว่ั ลนั เตาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนที่เมนเดลเลือกศึกษามี 9 ลกั ษณะ …………….7. เมื่อนำถั่วลนั เตาฝกั สีเขยี วผสมพนั ธ์ุกับถั่วลันเตาฝักสีเหลือง จะได้ลกู ออกมาเปน็ ฝกั สีเขยี ว ทั้งหมด …………….8. ถวั่ ลันเตาร่นุ ลกู เมนเดลเรยี กว่า ร่นุ F1 …………….9. ลักษณะของถ่วั ลันเตาท่ีไม่สามารถแสดงออกในรุ่นลกู เมนเดลเรยี กวา่ ลักษณะด้อย …………….10. ยีนดอ้ ยสามารถแสดงออกได้เมอ่ื เข้าคู่กับยนี เด่น
18 …………….11. ลักษณะของถวั่ ลันเตาที่แตกต่างกันในแตล่ ะคู่ทผ่ี สมกนั ในรุ่นพอ่ แมจ่ ะปรากฏจะปรากฏ ให้เห็นในร่นุ หลาน ในอัตราส่วนประมาณ 3: 1 …………….12. เมนเดล เรยี กหนว่ ยที่ควบคุมลกั ษณะตา่ ง ๆ ของถ่วั ลันเตาวา่ “ยีน”
19 บตั รกจิ กรรมท่ี 1.3 เนื้อคู่ของฉัน…ใครกนั นะ ชื่อ-สกุล..................................................................ชน้ั .............เลขท่.ี .......... จุดประสงค์การเรียนรู้ บอกความหมายของคำศัพท์ทางพนั ธศุ าสตร์ได้ คำชี้แจง จงนำอักษรหนา้ ข้อความทอ่ี ยู่ด้านลา่ งมาเติมหน้าข้อทีม่ ีความสัมพันธ์กัน (ข้อละ 1 คะแนน) …………….1. ลกั ษณะท่ีปรากฏออกมาใหเ้ หน็ เช่น สูง เต้ยี สขี าว สเี หลือง …………….2. ยีนทค่ี วบคุมลกั ษณะของสิง่ มชี วี ติ เชน่ GG, gg, Gg …………….3. ลกั ษณะที่แสดงออกมาให้เหน็ ในรนุ่ ลกู ท้ังหมด …………….4. ยนี ที่เข้าคกู่ ัน …………….5. ลักษณะท่ีถูกข่มเมอื่ อยู่ในสภาพเฮเทอโรไซกสั …………….6. จโี นไทป์ทม่ี ียีน 2 ยีนทเี่ หมอื นกัน …………….7. สิง่ ท่ีควบคุมลกั ษณะการถา่ ยทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแมไ่ ปส่ลู กู หลาน …………….8. จโี นไทปท์ ่มี ยี นี 2 แอลลลี ทตี่ ่างกันมาเข้าคกู่ ัน เชน่ Gg …………….9. ดอกไมส้ ีแดงผสมพนั ธุ์กบั ดอกไมส้ ขี าว ได้ดอกไม้สีชมพู …………….10. ลักษณะท่ีแอลลลี แตล่ ะตัวมีลกั ษณะเด่นด้วยกนั ทง้ั คู่ ข่มกันไมล่ ง เชน่ หม่เู ลือด AB A. gene B. allele C. genotype D. phenotype E. dominant trait F. heterozygous genotype G. recessive trait H. locus I. incomplete dominant J. homozygous genotype K. co-dominant L. test cross
20 แบบทดสอบหลงั เรียน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สรุปความหมายของคำศัพทท์ างพันธุศาสตร์และวธิ ีการศึกษาทางด้าน พนั ธศุ าสตรข์ องเมนเดลได้ คำช้ีแจง ใหเ้ ลือกคำตอบที่ถูกต้องท่สี ุดเพยี งข้อเดยี ว จากตวั เลอื ก 1 2 3 หรือ 4 1. เมนเดลเรยี กหน่วยทคี่ วบคมุ การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมจากพ่อแม่สลู่ กู หลานวา่ “แฟกเตอร์ (factor)” ในปจั จบุ ันคำวา่ “แฟกเตอร”์ หมายถงึ ข้อใด 1. โครโมโซม 2. DNA 3. RNA 4. ยีน 2. ข้อใดจดั เปน็ ฮอมอไซกัสโดมิแนนท์ a. tt b. GG c. Tt d. Gg e. TT f. gg 1. a และ f 2. b และ e 3. c และ d 4. a, b, e และ f 3. จากผลการทดลองของเมนเดล เมอ่ื นำถั่วลันเตาฝกั สีเขียวผสมกบั ถ่ัวลนั เตาฝักสเี หลอื ง จะไดร้ ุ่นลูก ออกมาเปน็ ฝักสีเขียวทั้งหมด และเม่ือนำรุน่ ลูกฝกั สเี ขยี วผสมกันเอง จะไดล้ ูกออกมามีทงั้ ฝกั สีเขยี ว และฝักสีเหลือง โดยคดิ อตั ราสว่ น ฝักสเี ขียว: ฝักสีเหลอื ง มคี า่ ประมาณเท่าใด 1. 1: 1 2. 2: 1 3. 3: 1 4. เป็นไปไดท้ ัง้ 3 ข้อ 4. เมนเดล เลือกศึกษาการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมจากสิ่งมีชวี ติ ในข้อใด 1. Pisum sativum L. 2. Arachis hypogaea L. 3. Vigna Unguiculata H. 4. Psophocarpus tetragonolobus L.
21 5. เมนเดลไดท้ ำการทดลองนำถ่วั ลนั เตาตน้ ฝักสเี หลืองผสมกับตน้ ฝกั สีเขียว ปรากฏวา่ ได้ลูกออกมาเป็น ฝักสเี ขียวทง้ั หมด เมนเดลเรยี กลกั ษณะฝกั สเี ขยี วที่ปรากฏออกมาใหเ้ ห็นในรุ่นลูกวา่ อย่างไร 1. recessive trait 2. dominant trait 3. recessive gene 4. dominant gene 6. เมนเดลเลือกใช้ถ่ัวลันเตาในการศึกษาทางด้านพนั ธศุ าสตร์ เพราะถวั่ ลนั เตามีความเหมาะสมหลาย ประการ ยกเวน้ ข้อใด 1. ถ่ัวลนั เตามอี ายสุ นั้ และปลูกงา่ ย 2. ถวั่ ลนั เตาเจรญิ เตบิ โตเรว็ และมผี ลดก 3. ถวั่ ลันเตามหี ลายพนั ธุ์ และมีลักษณะแตกตา่ งกันอยา่ งชัดเจน 4. ถั่วลนั เตาเป็นดอกไม่สมบูรณเ์ พศ ทำให้สามารถควบคุมการผสมพันธ์ุได้ตามความตอ้ งการ 7. การผสมพันธุ์ระหวา่ งต้นท่ีมีฟีโนไทป์เด่นกบั ตน้ ที่มีฟีโนไทปด์ ้อย เพอ่ื ต้องการทราบวา่ ตน้ ลักษณะ เดน่ น้นั เปน็ ลักษณะพนั ธ์ุแท้หรือพันธ์ุทาง เรียกการทดลองนวี้ ่าอยา่ งไร 1. test cross 2. back cross 3. karyotype 4. dihybrid cross 8. จากการทดลองของเมนเดล ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเกีย่ วกับรุน่ F2 1. ร่นุ พอ่ แม่ และเป็นการผสมพันธ์ุในครงั้ แรก 2. รนุ่ ลูก ซึง่ เกดิ จากการผสมพนั ธุ์กนั ของรนุ่ พ่อแม่ 3. รุ่นหลาน ซึง่ เกิดจากการผสมพันธกุ์ ันของร่นุ ลกู ร่นุ ท่ี 1 4. รุน่ ทีเ่ กิดจากการนำเอารุ่นพอ่ แม่มาผสมพันธ์กุ ับรุน่ ลกู ร่นุ ท่ี 1 9. ลกั ษณะท่ีปรากฏออกมาใหเ้ หน็ เช่น ตน้ สงู ต้นเต้ีย ดอกสขี าว หรือดอกสแี ดงนน้ั ตรงกับคำศพั ท์ ทางพันธศุ าสตร์ในข้อใด 1. แอลลลี 2. จีโนไทป์ 3. ฟโี นไทป์ 4. ลักษณะเด่น
22 10. ข้อใดจัดเป็นลักษณะเด่นไมส่ มบรู ณ์ 1. การแสดงออกมาท้งั สองลักษณะ เชน่ หมู่เลอื ด AB 2. การผสมพันธุ์ต้นสูงกบั ตน้ เตี้ย แลว้ ได้ลูกออกมาเป็นตน้ สูงท้ังหมด 3. การผสมพันธด์ุ อกไมส้ ีแดงกบั ดอกไม้สีขาว แล้วไดล้ กู ออกมาเป็นดอกสชี มพู 4. ข้อ 1 และ 3 ถูก
23 บรรณานุกรม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล. (ม.ป.ป.). การศกึ ษาพันธุกรรมของเมนเดล. สบื คน้ เมื่อวนั ท่ี 3 กันยายน 2556, จาก http://www.electron.rmutphysics.com/science- news/index.php?option=com_content&task=view&id=693&Itemid=4 นิพนธ์ ศรนี ฤมล . (ม.ป.ป.). ลักษณะการถา่ ยทอดทางพันธุกรรม. สืบค้นเม่ือวนั ที่ 3 กนั ยายน 2556, จาก http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?id=75579 ประสงค์ หลำสะอาด และจิตเกษม หลำสะอาด. (2544) ค่มู ือชีววทิ ยา ม. 6 เล่ม 6 ว 045. กรุงเทพฯ: พฒั นาศึกษา. วชิ าการ.ดอทคอม. (2556). การศึกษาพนั ธศุ าสตร์ของเมนเดล. สบื ค้นเมือ่ วนั ที่ 3 กนั ยายน 2556, จาก http://www.vcharkarn.com/lesson/1292 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2554). หนงั สือเรียน รายวชิ าเพ่ิมเตมิ ชีววิทยา เล่ม 4 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4-6. กรุงเทพฯ: สกสค. ลาดพรา้ ว. สมพงศ์ จนั ทรโ์ พธิศ์ รี. (ม.ป.ป.). คู่มอื เตรยี มสอบ ชีวิตกับสง่ิ แวดล้อม สิ่งมชี ีวติ กบั กระบวนการ ดำรงชวี ติ ม. 6 ชว่ งชนั้ ที่ 4 (ม. 4-5-6). กรงุ เทพฯ: ไฮเอ็ดพบั ลชิ ช่งิ .
ภาคผนวก
25 แบบบนั ทึกคะแนน ชุดกจิ กรรมท่ี 1 เร่ือง การศึกษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล ช่ือ-สกุล………………………………………………………………………….ชั้น…………เลขท…ี่ …… แบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบหลังเรยี น ขอ้ คำตอบ ข้อ คำตอบ ขอ้ คำตอบ ขอ้ คำตอบ 16 16 27 27 38 38 49 49 5 10 5 10 คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนท่ไี ด…้ ……..คะแนน คะแนนที่ได…้ ……..คะแนน หมายเหตุ แบบทดสอบหลงั เรียน ตอ้ งผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 แบบบนั ทกึ คะแนนจากบตั รกิจกรรม บัตรกจิ กรรม คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ 1.1 ระดมความคดิ …พชิ ติ คำตอบ 5 1.2 ถกู หรือผิด…คดิ ใหด้ ี 12 1.3 เนอ้ื คูข่ องฉัน…ใครกนั นะ 10 เป็นไงครับเพือ่ น ๆ พอใจกบั ผลคะแนนของตวั เองหรือเปลา่ ครับ
26 บัตรเฉลย แบบทดสอบก่อนเรียน ข้อ คำตอบ ข้อ คำตอบ 1 1 63 2 4 72 3 2 83 4 4 93 5 3 10 1
27 เฉลย บตั รกจิ กรรมที่ 1.1 ระดมความคดิ …พชิ ิตคาตอบ สมาชิกในกลุ่ม 1………………………………………………….....................ช้นั ………..เลขท่ี…………. 2………………………………………………….....................ช้นั ………..เลขท่ี…………. 3………………………………………………….....................ช้นั ………..เลขท่ี…………. 4………………………………………………….....................ช้นั ………..เลขที่…………. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ บอกเหตุผลที่ทำให้การศกึ ษาทางดา้ นพันธศุ าสตรข์ องเมนเดลประสบความสำเรจ็ ได้ คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ระดมความคิด แล้วตอบคำถามในประเดน็ ที่กำหนดให้ ตอ่ ไปน้ี (5 คะแนน) “เมนเดลประสบความสำเรจ็ ในการศกึ ษาพันธุศาสตร์โดยการทดลองผสมพันธุ์ถว่ั ลันเตาเพราะเหตุใด” ……แ…น…ว…ค…ำต…อ…บ…………………………………………………………………………………………………………………………… ……1….…เ…มน…เ…ด…ลร…ูจ้ …ัก…เล…ือ…กช…น…ดิ …ข…อ…งพ…ชื …ม…าท…ำ…ก…าร…ท…ด…ล…อง…โ…ด…ย…พชื…ท…่ีน…ำ…ม…าท…ด…ล…อง…ค…ือ…ถ…่วั ล…นั …เต…า…ซ…ึ่ง…ม…ี ………… …………ข…้อ…ดหี…ล…า…ย…ปร…ะ…ก…าร……ได…แ้ …ก…่ ………………………………………………………………………………………………… …………1….1……อ…าย…สุ …้ัน…ป…ล…กู …งา่ …ย…ใ…ห…ล้ ูก…ห…ล…า…นม…า…ก………………………………………………………………………………… …………1….2……ม…ีลกั…ษ…ณ…ะ…แ…ต…กต…า่ …ง…กัน…อ…ย…่าง…ช…ดั …เจ…น…แ…ละ…ม…ีห…ล…าย…ล…กั …ษ…ณ…ะ…………………………………………………… …………1….3……ผ…สม…พ…ัน…ธ…์ภุ …าย…ใ…นด…อ…ก…เด…ยี …ว…กนั………………………………………………………………………………………… ……2….…เ…มน…เ…ด…ลร…จู้ …ัก…กา…ร…วา…ง…แผ…น…ใ…น…กา…ร…ท…ดล…อ…ง…เ…ช่น…………………………………………………………………………… …………2….1……เล…ือ…ก…ศึก…ษ…า…ก…าร…ถ…่าย…ท…อ…ด…ล…ักษ…ณ…ะ…ข…อ…งถ…่ัว…ล…ันเ…ต…าแ…ต…่ล…ะ…ลัก…ษ…ณ…ะ…ก…่อ…น…เม…ื่อ…เข…้า…ใจ…ห…ล…กั …กา…ร………… …………………ถ…า่ ย…ท…อ…ดล…กั …ษ…ณ…ะ…น…้นั …ๆ…แ…ล…ว้ …เ…ขา…จ…งึ ไ…ด…ศ้ ึก…ษ…า…ก…าร…ถ…า่ ย…ท…อ…ด…ส…อง…ล…ัก…ษณ……ะไ…ป…พ…รอ้…ม…ๆ……ก…ัน…………
28 ………………………22………..32………………ศใเ………พนกึ ………่ือกษศา………ารึกล………ผษกั ส………าษม………รณพนุ่ ………ะนัล………ตกูธ………่า์จุทงะ………่ีเกใๆ………ชิด้พ………ทมอ่ี่าเ………กแ………ดิ ม………ข่พ้นึ ………นั ใ………ธน์ุแ………รทุน่ ………้ลใ………ูกน………ลแ………กั ลษ………้วณบ………ันะ………ตท………รกึ ………งไกว………ัน้ ………ข………้าม………………ม………าท………ำ………ก………าร………ผ………สม………พ………นั ………ธ………ุ์ ……………………………………………………… ………2….4……น…ำ…รนุ่…ล…กู …ม…าผ…ส…ม…พ…นั …ธ์กุ …ัน…เอ…ง…เพ…่ือ…ศ…ึก…ษา…ล…ัก…ษ…ณ…ะ…ขอ…ง…รุ่น…ห…ล…า…น…ทเี่…ก…ดิ ข…้ึน……แล…้ว…บ…นั …ทึ…กไ…ว…้ …………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
29 เฉลย บัตรกจิ กรรมที่ 1.2 ถูกหรือผดิ …คดิ ให้ดี ช่ือ-สกุล..................................................................ชนั้ .............เลขท.่ี .......... จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ อธิบายวธิ กี ารทดลองการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของเมนเดลได้ คำช้ีแจง จงทำเครอื่ งหมาย √ หน้าขอ้ ความท่กี ล่าวถูก และทำเครอื่ งหมาย X หนา้ ข้อความ ทก่ี ลา่ วผดิ (ข้อละ 1 คะแนน) …………….1. เมนเดลได้รับการยกยอ่ งให้เป็นบิดาแห่งวชิ าพันธุวิศวกรรม …………….2. เมนเดลเลอื กใช้ถัว่ ลันเตาเป็นพืชทดลองเพราะถั่วลันเตามีอายยุ นื ยาว ………√…….3. ดอกถั่วลันเตา จดั เปน็ ดอกสมบรู ณ์เพศ ………√…….4. ในธรรมชาตดิ อกถ่ัวลนั เตาจะเกดิ การผสมพนั ธุ์กนั ภายในดอกเดียวกัน (self-pollination) …………….5. ลกั ษณะสขี องดอกถว่ั ลันเตาที่เมนเดลศึกษา มี 2 สี คอื สมี ่วงกับสเี หลอื ง …………….6. ลกั ษณะของถว่ั ลนั เตาท่ีแตกต่างกนั อย่างชดั เจนที่เมนเดลเลือกศึกษามี 9 ลักษณะ ………√…….7. เม่อื นำถ่วั ลันเตาฝกั สีเขียวผสมพันธก์ุ ับถ่วั ลันเตาฝักสีเหลอื ง จะได้ลูกออกมาเป็นฝักสีเขยี ว ทงั้ หมด ………√…….8. ถั่วลันเตารุน่ ลกู เมนเดลเรียกวา่ ร่นุ F1 ………√…….9. ลักษณะของถ่วั ลันเตาที่ไมส่ ามารถแสดงออกในรนุ่ ลูก เมนเดลเรยี กวา่ ลักษณะดอ้ ย …………….10. ยีนดอ้ ยสามารถแสดงออกได้เมอื่ เข้าค่กู ับยนี เดน่
30 ………√…….11. ลกั ษณะของถว่ั ลันเตาที่แตกต่างกนั ในแต่ละคู่ที่ผสมกนั ในรนุ่ พอ่ แม่จะปรากฏจะปรากฏ ให้เหน็ ในรุ่นหลาน ในอตั ราส่วนประมาณ 3: 1 …………….12. เมนเดลเรยี กหน่วยทค่ี วบคุมลกั ษณะตา่ ง ๆ ของถว่ั ลนั เตาวา่ “ยีน”
31 เฉลย บัตรกจิ กรรมที่ 1.3 เนื้อคู่ของฉัน…ใครกนั นะ ช่ือ-สกุล..................................................................ชน้ั .............เลขที.่ .......... จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ บอกความหมายของคำศัพท์ทางพนั ธุศาสตร์ได้ คำชแี้ จง จงนำอักษรหน้าข้อความท่ีอยู่ดา้ นลา่ งมาเติมหน้าข้อทมี่ ีความสัมพนั ธ์กนั (ขอ้ ละ 1 คะแนน) ………D…….1. ลักษณะที่ปรากฏออกมาใหเ้ หน็ เชน่ สูง เตีย้ สขี าว สเี หลือง ………C…….2. ยนี ทค่ี วบคมุ ลักษณะของสิง่ มีชวี ติ เช่น GG, gg, Gg ………E…….3. ลกั ษณะที่แสดงออกมาใหเ้ ห็นในรุ่นลกู ทั้งหมด ………B…….4. ยนี ทีเ่ ขา้ ค่กู นั ………G…….5. ลักษณะท่ีถกู ขม่ เมอื่ อยูใ่ นสภาพเฮเทอโรไซกสั ………J…….6. จีโนไทป์ทม่ี ยี ีน 2 ยีนทีเ่ หมอื นกนั ………A…….7. สิง่ ที่ควบคุมลักษณะการถา่ ยทอดทางพนั ธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่ลกู หลาน ………F…….8. จโี นไทป์ทีม่ ียนี 2 แอลลลี ที่ต่างกนั มาเข้าคกู่ ัน เช่น Gg ………I…….9. ดอกไม้สีแดงผสมพันธก์ุ บั ดอกไม้สีขาว ไดด้ อกไมส้ ชี มพู ………K…….10. ลักษณะที่แอลลลี แต่ละตัวมลี กั ษณะเด่นด้วยกันท้งั คู่ ข่มกันไมล่ ง เช่น หมเู่ ลอื ด AB A. gene B. allele C. genotype D. phenotype E. dominant trait F. heterozygous genotype G. recessive trait H. locus I. incomplete dominant J. homozygous genotype K. co-dominant L. test cross
32 บัตรเฉลย แบบทดสอบหลงั เรียน ข้อ คำตอบ ข้อ คำตอบ 1 4 64 2 2 71 3 3 83 4 1 93 5 2 10 3
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: