Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

64

Published by adumsba, 2021-09-03 05:55:05

Description: 64

Search

Read the Text Version

ผังกระบวนกำรให้บริกำรยืมหนังสือ (ห้องสมดุ ) รับบัตรสมาชกิ เพื่อ Scan Barcode เจา้ หน้าท่ีตรวจสอบ ข้อมลู สมาชิก ไม่มรี ายการคา้ งสง่ หนังสือ มีหนงั สอื เกินกาหนด/เกนิ จานวน ทารายการยมื ผ่านระบบ VTLS ที่จะยมื แจง้ ผ้ใู ชบ้ ริการวา่ ไม่ สามารถยมื ได้ ประทบั ตราวันกาหนดส่ง ลบสัญญาณแม่เหล็ก สิ้นสดุ การ ให้บรกิ าร คนื บตั รและหนังสือให้ผใู้ ช้บริการ ให้ผูใ้ ช้บรกิ ารประเมิน ความพงึ พอใจในการให้บรกิ าร คมู่ ือนักศกึ ษาใหม่ 51

ผังกระบวนกำรใหบ้ รกิ ำรคืนหนงั สอื รบั หนงั สือเพื่อ Scan Barcode เจ้าหน้าท่ี ตรวจสอบ ข้อมูลวนั กาหนดส่ง เจา้ หนา้ ที่ Scan Barcode หนงั สอื เจ้าหน้าที่ Scan Barcode หนงั สอื ที่ผใู้ ชบ้ รกิ าร ทผี่ ใู้ ช้บริการ นาหนังสือมาคืน นาหนงั สอื มาคืน (กรณีสง่ หนงั สอื ตามกาหนด) (กรณเี กินกาหนดสง่ ) ประทับตราส่งหนงั สือ เพ่มิ สัญญาณแม่เหล็ก ระบบจะทาการแจ้งว่ามีค่าปรับ สมาชิกชาระค่าปรับ ตามทร่ี ะบบแจง้ ไว้ ให้ผู้ใชบ้ ริการประเมิน เจา้ หนา้ ทอ่ี อกใบเสร็จ ความพึงพอใจในการใหบ้ รกิ าร ใหก้ ับสมาชกิ เจ้าหน้าทน่ี าหนังสอื ข้นึ รถเข็น สนิ้ สดุ การ เตรียมขนึ้ ช้ันให้บรกิ าร ให้บรกิ าร คู่มอื นกั ศึกษาใหม่ 52

แบบฟอรม์ คำร้องขอสอบ กรณขี ำดสอบปลำยภำค คู่มอื นักศกึ ษาใหม่ 53

ภำคผนวก ข. ขอ้ บังคับ กฎระเบยี บ ประกำศ คู่มอื นกั ศกึ ษาใหม่ 54

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 55

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 56

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 57

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 58

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 59

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 60

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 61

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 62

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 63

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 64

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 65

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 66

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 67

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 68

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 69

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 70

ระเบียบมหำวิทยำลัยรำชภัฏพระนคร ว่ำด้วยกำรประเมนิ ผลกำรศกึ ษำระดับอนปุ รญิ ญำปรญิ ญำตรี และปรญิ ญำตร(ี ตอ่ เนอื่ ง) พ.ศ. ๒๕๔๘ เพ่ือให้การประเมินผลการศึกษาสาหรับนักศึกษาระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี และปริญญา ตรี(ต่อเน่ือง) ดาเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับข้อบังคับสภามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครว่า ด้วยการจัดการศึกษาระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี และปริญญาตรี (ต่อเน่ือง) อาศัยอานาจตามความใน มาตรา ๑๘(๒) และมาตรา ๒๒(๑) แหง่ พระราชบัญญัตมิ หาวทิ ยาลยั ราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ มหาวิทยาลัยราช ภฏั พระนคร จงึ กาหนดระเบียบเพอ่ื เปน็ แนวปฏิบตั ิไวด้ งั นี้ ข้อ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครว่าด้วยการประเมินผล การศึกษาระดบั อนุปริญญาปรญิ ญาตรี และปรญิ ญาตรี (ตอ่ เนื่อง) พ.ศ. ๒๕๔๘” ขอ้ ๒ ระเบียบน้ีให้ใช้สาหรับการประเมินผลการศึกษาระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี และ ปริญญาตร(ี ต่อเน่ือง) นับจากวันทีป่ ระกาศเป็นตน้ ไป ขอ้ ๓ บรรดาระเบยี บ ประกาศ หรือคาสงั่ อืน่ ใด ซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบยี บน้ีใหใ้ ช้ระเบยี บนี้ แทน ขอ้ ๔ ในระเบยี บน้ี “มหำวิทยำลัย” หมายความวา่ มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร “สภำมหำวิทยำลัย” หมายความว่า สภามหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร “อธกิ ำรบดี” หมายความว่า อธกิ ารบดีมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร “นักศกึ ษำภำคปกติ” หมายความว่า นักศกึ ษาท่ีศึกษาเต็มเวลาในวันทที่ าการ ปกติ “นักศึกษำภำคพิเศษ” หมายความว่า นักศึกษาที่เข้าศึกษาตามโครงการการ จดั การศกึ ษาเพอื่ ปวงชน หรือนักศกึ ษาทีเ่ ขา้ ศึกษาตามโครงการอ่ืนใดทไ่ี มใ่ ช่นกั ศึกษาภาคปกติ “ภำคกำรศกึ ษำปกติ” หมายความวา่ ภาคการศึกษาต้นและภาคการศกึ ษาปลาย “ ภำคกำรศึกษำฤดูร้อน” หมายความวา่ ภาคการศึกษาหลงั ภาคการศึกษาปลาย “อำจำรยท์ ปี่ รกึ ษำ” หมายความวา่ อ าจ ารย์ ท่ี ม ห าวิท ย าลั ย แต่ งตั้ ง โด ย คาแนะนาของคณบดเี พ่ือให้ทาหน้าทีแ่ นะนานักศกึ ษาและใหค้ าปรึกษาด้านการเรยี นและด้านอนื่ ๆ คมู่ ือนกั ศกึ ษาใหม่ 71

“ศูนย์บรกิ ำรกำรศึกษำ” หมายความวา่ ศูนย์บริการการศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนคร ทต่ี ั้งอย่ภู ายนอกมหาวทิ ยาลัย ขอ้ ๕ การประเมินผลการศึกษา ให้มีการประเมินผลการศึกษาในรายวิชาต่างๆ ตามหลักสูตร โดยการวัดผลจะต้องทา ตลอดภาคการศึกษาด้วยวิธีต่างๆ เช่น การสอบย่อย การรายงาน การทางานกลุ่ม การสอบกลางภาค และ มกี ารสอบปลายภาคเรียน โดยคดิ คะแนนเกบ็ ระหว่างภาคให้อยู่ในระหวา่ งรอ้ ยละ ๕๐ ถงึ ๘๐ เว้นแตร่ ายวิชาทก่ี าหนดใหป้ ระเมินในลกั ษณะอ่นื นอกจากการสอบปลายภาค ๕.๑ ผู้มีสิทธ์ิสอบปลายภาค ๕.๑.๑ นกั ศึกษาจะต้องมเี วลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นท้ังหมดของ รายวิชานั้นจึงจะมีสิทธ์ิเข้าสอบปลายภาค ในกรณีท่ีนักศึกษามีเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ต้องยื่นคา ร้อง ขอมีสิทธ์ิสอบพร้อมหลักฐานแสดงเหตุจาเป็นของการขาดเรียน โดยย่ืนที่สานักส่งเสริมวิชาการและ งานทะเบียนกอ่ นสอบปลายภาค ๓ สัปดาห์ เพอ่ื ให้มหาวิทยาลัยพิจารณาสิทธิ์ในการเข้าสอบ นักศึกษา ท่มี ีเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ ๖๐ จะหมดสิทธ์สิ อบ ๕.๑.๒ ในกรณีท่ีนักศึกษามีเวลาเรียนในรายวิชาใดน้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลา เรียนท้ังหมดจะไม่มีสิทธิ์สอบในรายวิชาน้ัน นักศึกษาจะต้องย่ืนคาร้องขอยกเลิกการลงทะเบียนเรียน รายวิชาน้ันก่อนสอบปลายภาค ๒ สปั ดาห์ หากไม่ดาเนินการใดๆให้ผู้สอนส่งผลการเรียนเป็น “E” หรือ “F” แล้วแต่กรณี ๕.๒ การประเมินผลการศกึ ษารายวิชาตา่ งๆตามหลักสูตรมี ๒ ระบบ ดงั น้ี ๕.๒.๑ ระบบค่าระดับคะแนน แบ่งเป็น ๘ ระดับ ระดับคะแนน ควำมหมำย คำ่ ระดับคะแนน A ดีเยี่ยม ๔.๐ B+ ดีมาก ๓.๕ B ดี ๓.๐ C+ ดพี อใช้ ๒.๕ C พอใช้ ๒.๐ D+ อ่อน ๑.๕ D อ่อนมาก ๑.๐ E ตก ๐.๐ ระบบน้ีใชส้ าหรับการประเมนิ ผลรายวชิ าท่เี รียนตามหลักสูตร ระดับคะแนนทถ่ี อื ว่าสอบได้ ต้องไม่ต่ากว่า “D” ถ้านักศึกษาได้ระดับคะแนนในรายวิชาใดต่ากว่า ต้องลงทะเบียนและเรียนใหม่จนกว่า จะสอบได้ กรณีวิชาเลือกถ้าได้ระดับคะแนนต่ากว่า “D” สามารถเปล่ียนไปเลือกเรียนรายวิชาอื่นได้ ส่วน การประเมินผลรายวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และรายวิชาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ถ้าได้ระดับ คมู่ อื นกั ศึกษาใหม่ 72

คะแนนต่ากว่า “C” ถือว่าสอบตก นักศึกษาจะต้องลงทะเบียนและเรียนใหม่ ถ้าได้รับการประเมินผลต่า กว่า “C” เปน็ คร้ังทสี่ อง ถอื ว่าพ้นสภาพเปน็ นกั ศึกษา กรณีที่นักศึกษาขอลงทะเบียนรายวิชาเลือกอื่นแทนรายวิชาเลือกที่สอบไม่ผ่าน รายวิชาท่ี สอบไมผ่ า่ นจะได้รบั การบันทึกผลการเรยี นเป็น “E” ๕.๒.๒ ระบบไมม่ ีคา่ ระดบั คะแนน กาหนดสัญลักษณก์ ารประเมนิ ผลดงั น้ี ผลกำรศึกษำ ระดบั กำรประเมนิ ผา่ นดีเย่ียม PD (Pass with Distinction) ผา่ น P (Pass) ไมผ่ า่ น F (Fail) ระบบคะแนนน้ีใช้สาหรับการประเมินผลรายวิชาท่ีหลักสูตรบังคับให้เรียนเพิ่มตามข้อกาหนด เฉพาะ และรายวิชาที่สภามหาวทิ ยาลัยกาหนดให้เรยี นเพิม่ รายวิชาที่ได้ผลประเมิน “ F ” นักศึกษาต้องลงทะเบียนและเรียนใหม่จนกว่าจะสอบ ได้ รายวิชาทไ่ี ดร้ ับการยกเว้นการศกึ ษา ใหไ้ ดผ้ ลการประเมินเป็น “P” ข้อ ๖ สัญลักษณ์อ่ืน มดี งั น้ี Au (Audit)ใช้สาหรับการลงทะเบยี นเพ่อื ร่วมฟัง โดยไม่นับหน่วยกติ W (Withdraw)ใช้สาหรับการบันทึกรายวิชาที่ได้รับอนุมัติให้ยกเลิกรายวิชาน้ัน โดยต้อง ดาเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนกาหนดสอบปลายภาคไม่น้อยกว่า ๒ สัปดาห์ และใช้ในกรณีที่นักศึกษาลาพัก การศึกษาหรือถูกส่ังใหพ้ กั การศึกษาหลังจากลงทะเบยี นเรยี นในภาคการศึกษานนั้ แล้ว I (Incomplete) ใช้สาหรับการบันทึกการประเมินผลในรายวิชาท่ีนักศึกษายังทางาน ไม่สมบูรณ์เมื่อส้ินภาคการศึกษาหรือใช้สาหรับบันทึกรายวิชาที่นักศึกษาขาดสอบ นักศึกษาที่ได้ “I” ต้อง ดาเนินการขอรับการประเมินผล เพ่ือเปลี่ยนระดับคะแนนให้เสร็จส้ินในภาคการศึกษาถัดไป การเปล่ียน ระดับคะแนน “I”ใหด้ าเนินการ ดังนี้ (๑) กรณีนักศึกษายังทางานไม่สมบูรณ์ ไม่ติดต่อผู้สอนหรือไม่สามารถส่งงานได้ ตาม เวลาที่กาหนดให้ผู้สอนพิจารณาผลงานท่ีค้างอยู่เป็นศูนย์ และส่งผลการประเมินผลการศึกษาจากคะแนนที่ มีอยูภ่ ายในภาคการศกึ ษาถดั ไป (๒) กรณีนักศึกษาขาดสอบ และมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้สอบหรือมหาวิทยาลัย อนุญาตให้สอบแต่ไม่มาสอบภายในภาคการศึกษาถัดไป นายทะเบียนจะเปล่ียนผลการศึกษาเป็น “E” หรือ “F” โดยอตั โนมัติ (๓) นกั ศกึ ษาที่ไดร้ ับผลการเรยี นเป็น “I” ในภาคการศึกษาสุดท้ายและดาเนินการแก้ “I” ในภาคการศึกษาถดั ไปตอ้ งชาระคา่ ธรรมเนียมการรักษาสถานภาพการเปน็ นักศึกษา ค่มู อื นักศึกษาใหม่ 73

ข้อ ๗ การหาค่าระดับคะแนนเฉล่ีย ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจาภาค และค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ให้คิดเป็นเลขทศนิยม 2 ตาแหน่ง โดยไม่ปัดเศษ สาหรับรายวิชาที่ยังมีผลการศึกษาเป็น “I” ไม่นาหน่วยกิตมารวมเป็นตัวหาร เฉลีย่ ๗.๑ กรณีที่สอบตกทั้งรายวิชาเลือกและรายวิชาบังคับ ให้นาหนว่ ยกิตของรายวิชาที่สอบตก มาคิดคา่ ระดับคะแนนเฉล่ียสะสม ๗.๒ กรณีท่ีนักศึกษาลงทะเบียนเรียนวิชาซ้ากับรายวิชาท่ีสอบได้แล้ว หรือเรียนวิชาท่ีระบุ ไว้ ในหลักสูตรท่ีเทียบเท่า ให้นับหน่วยกิตและค่าระดับคะแนนเฉพาะรายวิชาท่ีลงทะเบียนครั้งแรก เท่านัน้ ข้อ ๘ นักศึกษาท่ีเข้าศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรี (ต่อเน่ือง) จะลงทะเบียนเรียนรายวิชาซ้า กบั รายวิชาท่ีศึกษามาแล้วในระดับอนุปรญิ ญาไม่ได้ หากลงทะเบียนซ้าให้เว้นการนับหน่วยกิตเพื่อพิจารณา วิชาเรียนครบตามหลกั สูตรทกี่ าลังศึกษาอยู่ ข้อ ๙ นักศึกษาท่ีทุจริตในการสอบ เม่ือนักศึกษากระทาผิดหรือร่วมกระทาผิดระเบียบการ สอบให้คณะกรรมการที่สภาวิชาการแตง่ ตั้งพิจารณาโทษนักศึกษาที่กระทาผิดระเบียบการสอบแล้วรายงาน ผลการพิจารณาต่อมหาวิทยาลัยเพ่ือดาเนินการลงโทษและแจ้งโทษให้ทุกฝ่ายทเ่ี กี่ยวข้องทราบ โดยมีแนว ทางการพจิ ารณาโทษดังต่อไปน้ี ๙.๑ ถ้าเป็นความผิดประเภททุจริต เช่น สง่ กระดาษคาตอบให้เพ่ือน สอบแทนกัน หรือ คัดลอกคาตอบจากเอกสาร ให้ลงโทษโดยให้ได้รับ “E” หรือ “F” ในรายวิชาท่ีกระทาผิดระเบียบการสอบ ส่วนรายวิชาอ่ืนที่นักศึกษาผู้นั้นลงทะเบียนเรียนไว้ให้ได้ผลการสอบตามที่สอบได้จริง และให้พิจารณาสั่ง พกั การศกึ ษานกั ศึกษาผู้นน้ั ๑ ภาคการศึกษาเป็นอย่างนอ้ ยในภาคการศึกษาถัดไป หรืออาจให้พ้นสภาพ การเป็นนักศกึ ษาก็ได้ ๙.๒ ถ้าเป็นความผดิ ประเภทส่อเจตนา เช่น การเปิดโอกาสให้เพ่ือนลอกคาตอบ การโน้ต ย่อเข้าห้องสอบ แต่ยังไม่มีโอกาสลอกคาตอบ ให้ลงโทษโดยให้ได้รับ “E” หรือ “F” ในรายวิชาท่ีกระทา ผดิ ระเบียบการสอบ และอาจพิจารณาสงั่ พกั การศึกษานักศกึ ษาผู้นนั้ ได้ไมเ่ กิน ๑ ภาคการศึกษา ๙.๓ ถ้าเป็นความผิดอย่างอื่นตามท่ีระบุไว้ในข้อปฏิบัติของนักศึกษาในการสอบ ให้ลงโทษ ตามควรแกค่ วามผดิ นั้น แต่จะตอ้ งไม่เกินกวา่ ระดับโทษตา่ สดุ ของความผิดประเภททุจริต ๙.๔ ถ้านักศึกษากระทาผิดหรือร่วมกระทาผิดอื่นๆที่เก่ียวกับการสอบให้คณะกรรมการ พจิ ารณาโทษนักศึกษาที่กระทาผิดระเบียบการสอบเป็นผู้พิจารณาเสนอการลงโทษต่อมหาวิทยาลัยตามควร แก่ความผดิ นั้น ๙.๕ การให้พักการศึกษาของนักศึกษาตามคาส่ังของมหาวิทยาลัย ให้เริ่มเมื่อส้ินสุดภาค การศึกษาที่กระทาผิดนั้นโดยให้มีระยะเวลาการลงโทษต่อเน่ืองกัน ท้ังนี้ให้นับระยะเวลาท่ีถูกส่ังพัก การศึกษาเขา้ เป็นระยะเวลาการศกึ ษา ข้อ ๑๐ นักศึกษาท่ีถกู ส่ังพักการศึกษาจะต้องชาระค่าธรรมเนียมการรักษาสถานภาพนักศึกษา ทุกภาคการศึกษาทีพ่ กั การศึกษา คู่มือนกั ศึกษาใหม่ 74

ข้อ ๑๑ ผทู้ ่ีสาเร็จการศึกษาตามหลกั สูตร ต้องมีคุณสมบัติครบถว้ นทุกข้อ ดงั นี้ ๑๑.๑ มีความประพฤติดี ๑๑.๒ สอบได้ในรายวิชาต่างๆ ครบถ้วนตามท่ีหลักสูตร และสภามหาวิทยาลัยกาหนด รวมทัง้ การผา่ นเกณฑ์ตามข้อกาหนดตา่ งๆของมหาวทิ ยาลยั ๑๑.๓ ไมต่ ดิ คา้ งระดบั คะแนน “E”“F”และ “I”ในรายวชิ าทล่ี งทะเบยี นเรียน ๑๑.๔ ไดค้ ่าระดับคะแนนเฉลย่ี สะสมไม่ต่ากวา่ ๒.๐๐ ๑๑.๕ ผ่านการประเมินความสามารถทางทักษะภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ คอมพวิ เตอร์ตามเกณฑท์ ่ีทางมหาวทิ ยาลยั กาหนด ๑๑.๖ มเี วลาเรียนตามทก่ี าหนดไวใ้ นระเบียบว่าดว้ ยการจดั การศึกษาดงั นี้ นกั ศึกษำภำคปกติ หลกั สตู รอนปุ ริญญา (๓ ปี) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๕ ภาคการศึกษาปกติ และ ไมเ่ กนิ ๖ ปกี ารศกึ ษา หลักสูตรปรญิ ญาตรี (๔ ป)ี ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๖ ภาคการศึกษาปกติ และ ไม่เกนิ ๘ ปกี ารศกึ ษา หลักสูตรปริญญาตรี (ต่อเน่ือง) ใช้เวลาศึกษา ไม่น้อยกว่า ๔ ภาคการศึกษาปกติ และไม่เกิน ๔ ปีการศกึ ษา หลักสูตรปรญิ ญาตรี (๕ ปี) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๘ ภาค การศึกษาปกติ และ ไม่เกิน ๑๐ ปีการศึกษา หลักสตู รปริญญาตรี (๖ ป)ี ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๑๐ ภาคการศึกษาปกติ และ ไม่เกนิ ๑๒ ปีการศึกษาหรือเทยี บเทา่ นักศึกษำภำคพิเศษ หลกั สูตรอนุปรญิ ญา (๓ ป)ี ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๘ ภาคการศึกษา และ ไม่เกนิ ๖ ปีการศกึ ษา หลักสตู รปริญญาตรี (๔ ปี) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๑๐ ภาคการศึกษา และ ไมเ่ กนิ ๘ ปีการศึกษา หลักสูตรปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) ใช้เวลาศึกษา ไม่น้อยกว่า ๖ ภาคการศึกษา และ ไม่เกนิ ๔ ปกี ารศึกษา หลกั สูตรปรญิ ญาตรี (๕ ป)ี ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๑๓ ภาคการศึกษา และ ไมเ่ กิน ๑๐ ปีการศึกษา หลกั สตู รปริญญาตรี (๖ ป)ี ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๑๕ ภาคการศึกษา และ ไม่เกนิ ๑๒ ปกี ารศกึ ษา ค่มู อื นักศกึ ษาใหม่ 75

ขอ้ ๑๒ การพน้ สภาพการเปน็ นกั ศกึ ษา นักศึกษาภาคปกติและนักศึกษาภาคพิเศษ จะพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา เม่ืออยู่ในเกณฑ์ ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ดงั ต่อไปนี้ ๑๒.๑ ผลการประเมินได้คะแนนเฉล่ียสะสมต่ากว่า ๑.๖๐ เมื่อส้ินภาคการศึกษาปกติ ภาคท่ี ๒ และเมื่อส้นิ ภาคการศึกษาท่ี ๓ สาหรบั นกั ศกึ ษาภาคพิเศษ นบั ตั้งแต่เรมิ่ เขา้ เรยี น ๑๒.๒ ผลการประเมินได้คะแนนเฉลี่ยสะสมต่ากว่า๑.๘๐ เม่ือส้ินภาคการศึกษาปกติ ภาคที่ ๔ ที่ ๖ ที่ ๘ สาหรับนักศึกษาภาคปกติ และเมื่อสิ้นภาคการศึกษาที่ ๖ ท่ี ๙ ท่ี ๑๒ สาหรับ นักศึกษาภาคพเิ ศษ ๑๒.๓ ลงทะเบียนเรียนครบตามทห่ี ลักสูตรกาหนดแต่ยงั ได้ค่าระดับคะแนนเฉลย่ี สะสม ตา่ กวา่ ๑.๘๐ ๑๒.๔ไม่ผ่านการประเมินรายวิชาการเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ การฝึก ประสบการณว์ ชิ าชพี และสหกิจศกึ ษาเป็นคร้งั ท่ี ๒ ๑๒.๕ เป็นผู้ขาดคุณสมบัตกิ ารเปน็ นักศึกษา ๑๒.๖ นักศึกษาใหม่ที่เข้าศึกษาในภาคการศึกษาแรกไม่ลงทะเบียนเรียนภายในเวลาที่ มหาวทิ ยาลัยกาหนด ๑๒.๗ นักศึกษาท่ีไม่ลงทะเบียนเรียนภายในเวลาที่มหาวิทยาลัยกาหนด โดยไม่ได้ ยน่ื คารอ้ งขอลาพกั การศึกษา และชาระค่าธรรมเนยี มการรกั ษาสถานภาพการเป็นนกั ศึกษา ๑๒.๘ นักศึกษาท่ีใช้เวลาศึกษาเกินกว่าระยะเวลาการศึกษาท่ีมหาวิทยาลัยกาหนด ในขอ้ ๑๑.๖ ๑๒.๙ นักศึกษาท่ีกระทาผิดวินัยนักศึกษาตามระเบียบมหาวิทยาลัยว่าด้วยวินัย นักศกึ ษา ทั้งนี้การนับภาคการศึกษาที่เรียนให้นับรวมภาคการศึกษาที่มีการรักษาสภาพนักศึกษา หรือ ใหพ้ ักการศกึ ษาด้วย ข้อ ๑๓ เม่ือนักศึกษาเรียนได้จานวนหน่วยกิตครบตามที่กาหนดไว้ในหลักสูตรแล้ว และได้ค่า ระดับคะแนนเฉล่ียต้ังแต่ ๑.๘๐ แต่ไม่ถึง ๒.๐๐ ให้เลือกเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมเพื่อทาค่าระดับคะแนนเฉล่ีย สะสมให้ถึง ๒.๐๐ ทั้งนี้ ต้องอยู่ในระยะเวลาที่กาหนดตามข้อ ๑๑.๖และต้องได้รับความเห็นชอบจาก อาจารยท์ ีป่ รึกษา นักศึกษาที่เรียนครบตามหลักสูตรในระดับปริญ ญ าตรีผ่านเกณ ฑ์ ตามข้อกาหนด ของ หลกั สูตร และของสภามหาวทิ ยาลยั แต่ได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ากวา่ ๒.๐๐ อาจขอรบั อนุปรญิ ญา ได้ ทั้งนตี้ ้อง ได้ค่าระดบั คะแนนเฉลีย่ สะสมสงู กวา่ ๑.๘๐ ขอ้ ๑๔ ผู้สาเร็จการศึกษา จะได้รับเกยี รตินิยมตอ้ งมคี ณุ สมบตั ิดังนี้ ๑๔.๑ คณุ สมบัตดิ ้านการศึกษาของนกั ศกึ ษาท่ีมีสทิ ธิไ์ ด้รับปริญญาเกียรตินยิ ม คูม่ ือนักศึกษาใหม่ 76

๑๔.๑.๑ สอบได้รายวิชาเฉพาะด้าน ไม่ต่ากว่า “C” ตามระบบค่าระดับคะแนน หรือ ไมไ่ ด้ “F“ ตามระบบไมม่ คี ่าระดับคะแนน ๑๔.๑.๒ สอบได้รายวิชาในหมวดวิชาอ่ืนๆไม่ต่ากว่า “C” และอาจได้รับผลการ ประเมินบางรายวชิ าในระดบั คะแนน “D” ได้ไม่เกิน ๒ รายวิชา ๑๔.๑.๓ ไมเ่ คยเรยี นซา้ รายวิชาใดเพอ่ื เปลี่ยนค่าระดับคะแนนเฉลีย่ สะสม ๑๔.๑.๔ ไม่เคยเรียนซ้าเพื่อนับหน่วยกิตในรายวิชาท่ีได้ลงทะเบียนเรียนโดยไม่นับ หน่วยกิต (Audit) มาก่อน ๑๔.๑.๕ ได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสม ๓.๖๐ ขึ้นไปสาหรับเกียรตินิยมอันดับหน่ึง และได้ค่าระดบั คะแนนเฉลยี่ สะสม ๓.๒๕ ข้ึนไป สาหรบั เกยี รตินิยมอันดบั สอง กรณีศึกษาในระดับปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) ต้องได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ย ตามเกณฑ์ในวรรคแรกท้งั ในระดบั อนุปริญญาหรอื เทียบเท่าและในระดบั ปริญญาตรี (ตอ่ เนอ่ื ง) ๑๔.๑.๖ เรียนจบภายในกาหนดเวลาไม่เกินจานวนปีท่ีระบุไว้ในหลักสูตรนักศึกษา ภาคปกติที่ลงทะเบียนเรียนภาคฤดูร้อนตอ่ จากภาคการศึกษาสดุ ทา้ ยของหลักสูตร ไม่มีสิทธไิ์ ด้รับเกยี รตินยิ ม ๑๔.๒ คุณสมบัติด้านคุณธรรม จริยธรรม นักศึกษาที่จะได้รับปริญญาเกียรตินิยมจะต้อง เป็นผมู้ ีความประพฤติดี และไมเ่ คยถกู ลงโทษทางวินยั ตลอดระยะเวลาท่ศี ึกษาในมหาวิทยาลัย ขอ้ ๑๕ รำงวลั กำรเรยี นดี นักศึกษาท่ีมีสิทธ์ิได้รับรางวัลการเรียนดี จะต้องมีค่าระดับคะแนนเฉล่ียสูงสุดแต่ละ สาขาวิชาทงั้ นต้ี อ้ งมคี ะแนนเฉลี่ยสะสมไมต่ ่ากวา่ ๓.๖๐ และต้องมคี ุณสมบัติตามข้อ ๑๔.๒ ข้อ ๑๖ ให้คณะกรรมการทม่ี หาวิทยาลัยแต่งตัง้ เปน็ ผอู้ นุมตั ผิ ลการประเมินผลการศึกษา ขอ้ ๑๗ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ และเป็นผู้วินิจฉัยช้ีขาดในกรณีท่ีมีปัญหา จากการใช้ระเบยี บนี้ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๑ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๔๘ (รองศาสตราจารย์เปรอื่ ง กิจรัตน์ภร) อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร คมู่ ือนักศกึ ษาใหม่ 77

ระเบยี บมหำวิทยำลัยรำชภฏั พระนคร ว่ำดว้ ยกำรยกเวน้ กำรศกึ ษำรำยวชิ ำในหมวดวชิ ำศกึ ษำท่ัวไป สำหรับนักศึกษำระดบั ปริญญำตรี (ตอ่ เน่ือง) พ.ศ. 2560 --------------------------------- เพ่ืออนุวัตตามความในมาตรา ๑๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพมิ่ เติม ประกอบกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรอ่ื ง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับ ปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๘ ท่ีกาหนดโครงสร้างหลักสูตรระดับปริญญาตรใี ห้สถาบันอุดมศึกษายึดถือเป็นแนว ปฏิบตั ใิ นการ จดั การศกึ ษา อาศัยอานาจตามความในมาตรา 31 (9) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 ข้อ 33 และข้อ ๒๓.2 แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับ อนุปริญญา ปรญิ ญาตรี และปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) พ.ศ. ๒๕๔๘ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครจึง วางระเบียบไวด้ ังตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ว่าด้วยการยกเว้น การศึกษารายวชิ าในหมวดวิชาศกึ ษาทว่ั ไป สาหรบั นกั ศึกษาระดับปรญิ ญาตรี (ตอ่ เนอ่ื ง) พ.ศ. 2560” ข้อ ๒ ระเบียบน้ีให้ใช้บังคับกับนักศึกษาท่ีเข้าศึกษาตั้งแต่ภาคการศึกษาท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕ 59 เป็นต้นไป ขอ้ ๓ ใหย้ กเลกิ ระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร วา่ ดว้ ยการยกเว้นการศึกษารายวชิ า ในหมวดวชิ าศกึ ษาท่ัวไป สาหรับนกั ศึกษาระดับปริญญาตรี (ต่อเนอ่ื ง) พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๔ ในระเบียบนี้ “นักศึกษาระดับปริญญาตรี (ต่อเน่ือง)” หมายความว่า ผู้ที่สาเร็จการศึกษาระดับ ประกาศนียบัตร วชิ าชีพชนั้ สูงหรือเทยี บเทา่ หรือระดบั อนปุ รญิ ญาหรอื เทียบเท่า “สถาบันอุดมศึกษาอื่น” หมายความว่า สถาบันอุดมศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอน ระดบั หลังช้ันมัธยมศกึ ษาตอนปลายซ่งึ มหี ลกั สูตรการเรียนการสอนไมต่ า่ กว่าระดับอนุปรญิ ญาหรือเทยี บเท่า “การยกเว้นการศึกษา” หมายความว่า การนาหน่วยกิตของรายวิชาในหมวดวิชาศึกษา ทวั่ ไปทเ่ี คยศกึ ษาในหลกั สตู รของมหาวทิ ยาลัยหรือของสถาบนั อุดมศึกษาอืน่ มาใชโ้ ดยทไ่ี ม่ตอ้ งศกึ ษารายวิชา นั้นอีก และหมายความรวมถึงการเทียบเนื้อหาของรายวิชาระหว่างหลักสูตรของมหาวิทยาลัยกับหลักสูตร ของสถาบนั อุดมศึกษาอื่นท่ไี ด้ศึกษามาแลว้ หรือการศกึ ษานอกระบบ การศกึ ษาตามอธั ยาศัย การฝกึ อาชีพ หรอื จากประสบการณ์การทางาน คมู่ อื นักศึกษาใหม่ 78

ข้อ ๕ ผูม้ ีสทิ ธขิ อยกเวน้ การศึกษา ต้องเปน็ ผู้ทม่ี คี ณุ สมบตั ิขอ้ ใดข้อหนง่ึ ดงั ต่อไปน้ี (๑) เคยศกึ ษาหรอื สาเร็จการศกึ ษาจากมหาวิทยาลัย (๒) สาเรจ็ การศึกษาจากสถาบันอดุ มศึกษาอื่น (๓) ผ่านการศกึ ษาอบรมทม่ี ีเนื้อหาและจานวนช่วั โมงเทียบไดก้ ับรายวชิ าที่จะขอยกเว้นการศึกษา ขอ้ ๖ เงอ่ื นไขในการยกเว้นการศกึ ษา (๑) เป็นผู้ท่ีสาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงหรือระดับอนุปริญญา ท่ีเข้าศกึ ษา ในหลักสูตรปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) จะได้รับการยกเว้นการศึกษาได้ จานวนไม่เกิน ๑๒ หน่วยกิต และจะตอ้ งเลือกเรยี นในหมวดวชิ าศึกษาท่ัวไปอีก จานวนไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๘ หน่วยกติ ดงั น้ี (ก) กลมุ่ วชิ าบังคับ ใหเ้ ลือกเรยี น จานวน ๑๕ หน่วยกติ คอื - กลุ่มวิชาภาษา ให้เลือกเรียน ๑ รายวิชา จานวน ๓ หน่วยกิต โดยไม่ให้ซ้ากับรายวิชาท่ี ไดศ้ กึ ษามาแล้ว - กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ให้เลือกเรียน ๒ รายวิชา จานวน ๖ หน่วยกิต โดย ไมใ่ ห้ซา้ กบั รายวชิ าทไี่ ดศ้ กึ ษามาแล้ว - กล่มุ วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เลือกเรียน ๑ รายวิชา จานวน ๓ หนว่ ยกติ - กลมุ่ วิชาสหวทิ ยาการ ให้เลอื กเรยี น ๑ รายวชิ า จานวน ๒ หนว่ ยกติ - กล่มุ วชิ าพลานามัย ให้เลือกเรียน ๑ รายวิชา จานวน ๑ หนว่ ยกิต (ข) กลุ่มวิชาเลือก ให้เลือกเรยี น ๑ รายวิชา จานวน ๓ หน่วยกิต (๒) กรณีที่ได้ศึกษาครบทุกรายวิชาในกลุ่มวิชาใดๆ ให้เลือกเรียนรายวิชาในกลุ่ม วิชาท่เี หลอื เพ่อื ให้จานวนหน่วยกิตครบจานวน ๑๘ หนว่ ยกติ (๓) รายวิชาที่ได้รับการยกเว้นการศึกษา ให้บันทึกไว้ในระเบียนการศึกษาของ นกั ศึกษา โดยใช้ อักษรยอ่ “P” (Pass) ในชอ่ งระดบั คะแนน ข้อ 7 ให้คณะกรรมการที่อธิการบดีแต่งตั้ง เป็นผู้มีอานาจพิจารณาเพ่ือเสนออนุมัติการ ยกเวน้ การศึกษา ข้อ 8 ใหอ้ ธิการบดเี ปน็ ผูร้ ักษาการตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วนั ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕60 (รองศาสตราจารยเ์ ปรอ่ื ง กจิ รัตน์ภร) รกั ษาราชการแทน อธกิ ารบดีมหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร ค่มู อื นกั ศกึ ษาใหม่ 79

ระเบียบมหำวิทยำลัยรำชภัฏพระนคร วำ่ ด้วยกำรยกเวน้ กำรศกึ ษำรำยวชิ ำในหมวดวชิ ำศึกษำทว่ั ไป สำหรับนักศกึ ษำระดับปรญิ ญำตรี (ตอ่ เนอื่ ง) พ.ศ. 2563 .................................................. เพื่ออนุวัตตามความในมาตรา ๑๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิม่ เติม ประกอบกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับ ปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๘ ท่ีกาหนดโครงสร้างหลักสูตรระดับปริญญาตรใี ห้สถาบันอุดมศึกษายึดถือเป็นแนว ปฏบิ ัติในการจัดการศกึ ษา อาศัยอานาจตามความในมาตรา 31 (9) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 ข้อ 33 และข้อ ๒๓.2 แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับ อนุปริญญา ปริญญาตรี และปริญญาตรี (ต่อเน่ือง) พ.ศ. ๒๕๔๘ อธิการบดมี หาวิทยาลยั ราชภัฏพระนครจึง วางระเบยี บไวด้ ังตอ่ ไปน้ี ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ว่าด้วยการยกเว้น การศึกษารายวชิ าในหมวดวชิ าศกึ ษาท่ัวไป สาหรบั นักศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี (ต่อเนือ่ ง) พ.ศ. 2563” ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับกับหลักสูตรพัฒนาหรือหลักสูตรปรับปรุงในปี พ.ศ. 2564 เป็น ต้นไป ข้อ 3 ในระเบยี บนี้ “นักศึกษาระดับปริญญาตรี (ต่อเน่ือง)” หมายความว่า ผู้ท่ีสาเร็จการศึกษาระดับ ประกาศนยี บตั ร วิชาชีพชนั้ สูงหรือเทยี บเท่า หรอื ระดบั อนปุ รญิ ญาหรอื เทียบเท่า “สถาบันอุดมศึกษาอ่ืน” หมายความว่า สถาบันอุดมศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอน ระดับหลังชนั้ มัธยมศึกษาตอนปลายซงึ่ มหี ลกั สูตรการเรยี นการสอนไมต่ ่ากว่าระดับอนุปริญญาหรือเทียบเทา่ “การยกเว้นการศึกษา” หมายความว่า การนาหน่วยกิตของรายวิชาในหมวดวิชาศึกษา ทว่ั ไปทเี่ คยศกึ ษาในหลกั สตู รของมหาวทิ ยาลัยหรือของสถาบนั อุดมศึกษาอื่นมาใช้โดยท่ีไม่ต้องศกึ ษารายวชิ า น้ันอีก และหมายความรวมถึงการเทียบเนื้อหาของรายวิชาระหว่างหลักสูตรของมหาวิทยาลัยกับหลักสูตร ของสถาบนั อดุ มศึกษาอื่นท่ไี ด้ศึกษามาแล้ว หรือการศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอธั ยาศัย การฝึกอาชีพ หรอื จากประสบการณ์การทางาน ขอ้ 4 ผ้มู ีสทิ ธิขอยกเวน้ การศกึ ษา ตอ้ งเปน็ ผู้ทีม่ คี ุณสมบตั ิข้อใดข้อหน่ึงดังต่อไปน้ี (๑) เคยศึกษาหรอื สาเร็จการศกึ ษาจากมหาวทิ ยาลัย (๒) สาเรจ็ การศกึ ษาจากสถาบันอุดมศกึ ษาอ่นื (๓) ผ่านการศึกษาอบรมท่ีมีเนื้อหาและจานวนช่ัวโมงเทียบได้กับรายวิชาที่จะขอยกเว้น การศกึ ษา ค่มู อื นกั ศึกษาใหม่ 80

ขอ้ 5 เง่ือนไขในการยกเวน้ การศกึ ษา (๑) เป็นผู้ที่สาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงหรือระดับอนุปริญญาท่ี เข้าศึกษา ในหลักสูตรปริญญาตรี (ต่อเน่ือง) จะได้รับการยกเว้นการศึกษาได้ จานวนไม่เกิน ๑๒ หน่วยกิต และจะต้องเลอื กเรียนในหมวดวิชาศึกษาท่ัวไปอีก จานวนไม่นอ้ ยกว่า ๑๘ หนว่ ยกิต ดงั นี้ (ก) กลุ่มวิชาบังคบั ให้เลือกเรียน จานวน ๑๕ หน่วยกิต คอื - กลุ่มวิชาภาษา ให้เลือกเรียน ๑ รายวิชา จานวน ๓ หน่วยกิต โดยไม่ให้ซ้า กับรายวชิ าท่ีไดศ้ กึ ษามาแล้ว - กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ให้เลือกเรียน ๒ รายวิชา จานวน ๖ หน่วยกิต โดยไม่ให้ซา้ กับรายวิชาทไี่ ดศ้ กึ ษามาแล้ว - กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เลือกเรียน ๑ รายวิชา จานวน ๓ หนว่ ยกิต - กลุม่ วิชาสหวทิ ยาการ ใหเ้ ลือกเรยี น ๑ รายวชิ า จานวน ๒ หนว่ ยกิต - กลมุ่ วิชาพลานามัย ให้เลอื กเรียน ๑ รายวชิ า จานวน ๑ หน่วยกติ (ข) กล่มุ วชิ าเลือก ให้เลือกเรียน ๑ รายวิชา จานวน ๓ หนว่ ยกิต (๒) กรณีท่ีได้ศึกษาครบทุกรายวิชาในกลุ่มวิชาใดๆ ให้เลือกเรียนรายวิชาในกลุ่มวิชาที่ เหลอื เพ่อื ใหจ้ านวนหนว่ ยกติ ครบจานวน ๑๘ หนว่ ยกติ (๓) รายวิชาที่ได้รับการยกเว้นการศึกษา ให้บันทึกไว้ในระเบียนการศึกษาของนักศึกษา โดยใช้ อักษรยอ่ “P” (Pass) ในช่องระดบั คะแนน ข้อ 8 ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการตามระเบียบน้ี มีอานาจส่ังการในการออกระเบียบ ประกาศหรือแนวปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับระเบยี บ และเปน็ ผูว้ นิ จิ ฉยั ช้ีขาดในการณที ี่มปี ญั หาจากการใชร้ ะเบยี บนี้ ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕63 (รองศาสตราจารย์เปร่ือง กจิ รัตน์ภร) รักษาราชการแทน อธกิ ารบดีมหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร คู่มอื นกั ศกึ ษาใหม่ 81

ระเบียบมหำวิทยำลัยรำชภฏั พระนคร ว่ำดว้ ยกำรโอนผลกำรศึกษำและกำรยกเว้นกำรศกึ ษำรำยวิชำ พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของมาตรา ๑๕ วรรค ๓ แห่งพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ ที่กาหนดให้มีการเทียบโอนผลการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และ การศึกษาตามอัธยาศัย และอาศัยอานาจตามความในมาตรา๑๘(๒)แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราช ภัฏ พ.ศ.๒๕๔๗ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร จึงกาหนดระเบียบว่าด้วยการโอนผลการศึกษาและการ ยกเว้นการศึกษารายวชิ า พ.ศ.๒๕๔๘ ดงั ตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า \"ระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ว่าด้วยการโอนผลการศึกษา และการยกเวน้ การศึกษารายวิชาพ.ศ.๒๕๔๘ ข้อ ๒ ระเบียบนีใ้ หม้ ผี ลใชบ้ งั คับสาหรบั นักศึกษาทีเ่ ขา้ ศกึ ษาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๔๘ เป็นตน้ ไป ข้อ ๓ บรรดาระเบียบ คาสั่งใดที่เกี่ยวกับการโอนผลการศึกษาและการยกเว้นการศึกษารายวิชา ซึง่ ขัดหรือแยง้ กับระเบยี บนี้ใหใ้ ชร้ ะเบยี บนี้แทน ข้อ ๔ ในระเบียบน้ี “มหำวทิ ยำลัย” หมายความว่า มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร “อธกิ ำรบดี” หมายความวา่ อธกิ ารบดมี หาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร “นกั ศึกษำภำคปกติ” หมายความวา่ นกั ศึกษาท่ศี ึกษาเต็มเวลาในวันท่ีทาการปกติ “นกั ศึกษำภำคพิเศษ” หมายความวา่ นักศึกษาที่เข้าศึกษาตามโครงการการจัด การศึกษาเพอื่ ปวงชนหรือนักศกึ ษาท่ีเขา้ ศึกษาตามโครงการอื่นใดท่ีไมใ่ ช่นกั ศึกษาภาคปกติ \"มหำวิทยำลยั อนื่ \" หมายความว่า มหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอ่ืนท่ีมี การจัดการเรียนการสอนระดับหลังช้ันมัธยมศึกษาตอนปลายหลักสูตรไม่ต่ากว่าระดับอนุปริญญาหรือ เทยี บเทา่ ท่สี ภามหาวทิ ยาลยั รบั รอง \"กำรโอนผลกำรศึกษำ\" หมายความว่า การนาหน่วยกิตและค่าระดับคะแนนของ ทุกรายวิชาที่เคยศึกษาจากหลักสูตรสถาบันราชภัฏหรือหลักสูตรมหาวิทยาลยั ราชภฏั มาใช้โดยไม่ต้องศึกษา รายวิชาน้ันอีก \"กำรยกเวน้ กำรศกึ ษำรำยวิชำ\" หมายความว่า การนาหน่วยกิตของรายวิชาที่เคยศึกษา ในหลักสูตรสถาบันราชภัฏหรือหลักสูตรมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครมาใช้โดยไม่ต้องศึกษารายวิชานั้นอีก และหมายความรวมถึงการเทียบเนื้อหาของรายวชิ าระหว่างหลักสูตรของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร กับ หลักสูตรของสถาบัน คมู่ ือนักศกึ ษาใหม่ 82

อุดมศึกษาอื่นที่ได้ศึกษามาแล้ว และ/หรือการศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย การฝึก อาชพี หรือ จากประสบการณ์การทางาน \"กำรประเมนิ ผล\" หมายความว่า การสอบภาคทฤษฎี หรือการสอบสัมภาษณ์ หรือการ สอบภาคปฏิบัติในรายวิชา หรือการนาเสนอแฟ้มสะสมผลงาน หรือการนาเสนอโครงงาน วิธีใดวิธีหน่ึงหรือหลายวิธีตาม ประกาศของมหาวิทยาลัย โดยมีเน้ือหาสาระความยากง่ายเทียบได้ไม่น้อยกว่ารายวิชาในหลักสูตรของมหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนคร ข้อ ๕ ผู้มสี ทิ ธ์ขิ อโอนผลการศึกษาต้องเปน็ ผู้ที่มีคณุ สมบตั ขิ ้อใดข้อหน่ึงต่อไป (๑) ผู้ที่เคยศกึ ษาในหลกั สูตรสถาบันราชภัฏหรอื ในหลักสูตรมหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร มาแลว้ และยังไม่สาเรจ็ การศกึ ษาหรือสาเร็จการศึกษาแลว้ กลับเข้ามาศึกษาในระดับเดิมอกี (๒) ผทู้ ีเ่ คยศกึ ษาอบรมในรายวชิ าใดรายวิชาหนงึ่ ตามหลกั สูตรสถาบันราชภัฏหรือหลักสูตร (๓) ผู้ท่ขี อย้ายสถานศึกษามาจากมหาวิทยาลัยราชภฏั อื่น (๔) ผู้ที่เปลี่ยนสถานภาพจากนักศึกษาภาคปกติเป็นนักศึกษาตามโครงการอ่นื ท่ีใช้หลักสูตร ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครหรือผู้ที่ศึกษาตามโครงการอ่ืนท่ีใช้หลักสูตรของมหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนคร แล้วเปล่ยี นสถานภาพเปน็ นกั ศึกษาภาคปกติ (๕) ผู้ท่ีสาเร็จการศึกษาโปรแกรมวิชาน้ันในระดับอนุปริญญาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนครแล้วเข้าศึกษาโปรแกรมวชิ านั้นในระดบั ปริญญาตรี ข้อ ๖ เงอ่ื นไขในการโอนผลการศกึ ษา (๑) ผู้ขอโอนต้องมีสภาพการเป็นนักศึกษาภาคปกติหรือนักศึกษาภาคพิเศษตามโครงการ อน่ื อยา่ งใดอย่างหน่ึง (๒) ผู้ขอโอนต้องไม่เคยถูกสั่งให้ออกจากสถานศึกษาตามระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร วา่ ดว้ ยการจดั การศกึ ษาระดบั อนปุ รญิ ญาปรญิ ญาตรี และปริญญาตร(ี ตอ่ เน่ือง) (๓) การโอนต้องโอนท้ังหมดทุกรายวิชาท่ีเคยศึกษามา โดยไม่จากัดจานวนหน่วยกิตท่ีขอ โอนผลการศกึ ษา (๔) การรับย้าย ต้องไมม่ ีรายวิชาทผ่ี ลการเรยี นเป็น “I” (Incomplete) ข้อ ๗ ผู้มีสิทธิ์ขอยกเว้นการศึกษารายวิชา ต้องเป็นผู้ท่ีมีคุณสมบัติข้อใดข้อหน่ึงต่อไปน้ี (๑) ผู้ท่ีสาเร็จการศึกษาหรือเคยศึกษาจากสถาบันราชภัฏหรือมหาวิทยาลัยราชภัฏ (๒) ผทู้ ่ีสาเร็จการศกึ ษาหรือเคยศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาอ่นื เขา้ มาศึกษาในมหาวิทยาลัย ราชภฏั พระนคร (๓) ผู้ที่ผา่ นการศึกษาอบรมในรายวิชาใดวิชาหน่ึงตามหลักสูตรมหาวทิ ยาลัยราชภัฏ (4) ผทู้ ่ศี ึกษาจากการศึกษานอกระบบ และหรือการศึกษาตามอัธยาศัย (๕) ผู้ท่ีมีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการปฏิบัตงิ านหรอื การบริหารจัดการ และการประกอบอาชีพท่ีเทียบได้ในรายวิชาหรือสาขาวิชานั้นๆ จากหน่วยงานต่างๆ ท้ังในสถาบันการศึกษาหรือสถาน ประกอบการ ขอ้ ๘ เง่ือนไขในการยกเวน้ การศึกษารายวิชา (๑) ต้องเปน็ รายวิชาที่ไดร้ บั คะแนนไมต่ ่ากวา่ C คู่มือนักศกึ ษาใหม่ 83

(๒) การขอยกเว้นการศึกษาของผู้ศึกษาจากการศึกษานอกระบบ และ/หรือ การศึกษาตามอัธยาศัย การฝึกอาชีพ หรือจากประสบการณ์การทางาน ให้อธิการบดีแต่งต้ัง คณะกรรมการกาหนดวธิ กี ารประเมนิ ผลเพ่ือขอยกเวน้ การศึกษารายวชิ า และจัดทาเปน็ ประกาศของ มหาวทิ ยาลยั (๓) ผู้สาเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีมาแล้ว และเข้าศึกษาในระดับอนุปริญญาหรือ ปริญญาตรีในอีกโปรแกรมวิชาหนึ่ง ให้ยกเว้นการศึกษารายวิชาในหมวดวิชาการศึกษาทั่วไปท้ังหมด โดย ไม่นาเงือ่ นไขขอ้ ๘ (๑) และข้อ ๙ มาพจิ ารณา (๔) จานวนหน่วยกิตที่ได้รับการยกเว้นการศึกษา รวมแล้วต้องไม่เกินสามในสี่ของจานวน หน่วยกิตซึ่งกาหนดไว้ในโปรแกรมวิชาหรือสาขาที่กาลังศึกษาในมหาวิทยาลัย และเมื่อได้รับการยกเว้นแล้ว ตอ้ งมเี วลาศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยไมน่ อ้ ยกว่า ๒ ภาคการศกึ ษาปกติ (๕) รายวิชาที่ได้รับการยกเว้นการศึกษาให้บันทึกไว้ในระเบียนการศึกษาของนักศึกษา โดยใช้อักษรยอ่ \"P\" ในช่องระดับคะแนน สว่ นผู้ท่ีได้รบั การยกเวน้ ผลการศึกษาตามข้อ ๘ (๓) ให้นบั หน่วย กิตหมวดวิชาการศึกษาท่ัวไป รวมในเกณฑ์การสาเร็จการศึกษา โดยไม่ต้องบันทึกผลการศึกษาเป็น รายวชิ า ข้อ ๙ รายวิชาท่ีจะนามาโอนผลการศึกษาหรอื ยกเวน้ การศึกษารายวิชา ต้องสอบได้ หรือได้ศกึ ษา ฝึกอบรมมาแล้วไม่เกิน ๑๐ ปี นับถึงวันที่เข้าศึกษา โดยเร่ิมนับจากวันสาเร็จการศึกษาหรือภาคการศึกษา สดุ ทา้ ยทีม่ ีผลการศึกษา หรือวนั สดุ ท้ายทีศ่ กึ ษาอบรม ข้อ ๑๐ ผู้ที่จะขอโอนผลการศึกษาและยกเว้นผลการศึกษารายวิชา ต้องกระทาให้เสร็จสิ้นภายใน ภาคการศึกษาแรกของการศึกษาตามหลักสูตร และต้องไม่เคยได้รับการพิจารณาการโอนผล การศึกษา หรือยกเว้นการศกึ ษารายวิชามากอ่ น ข้อ ๑๑ การนับจานวนภาคการศึกษาของผู้ท่ีได้รับการโอนผลการศึกษา หรือยกเว้นการศึกษา รายวิชา ใหถ้ ือเกณฑ์ดังนี้ (๑) นักศึกษาภาคปกติ และนักศึกษาตามโครงการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาบุคลากรใน ท้องถิน่ (กศ.พท.) ให้นับจานวนหนว่ ยกติ ได้ไมเ่ กิน ๒๒ หนว่ ยกติ เปน็ ๑ ภาคการศกึ ษา (๒) ผู้ท่ีศึกษาอบรมตามโครงการอ่ืนท่ีใช้หลักสูตรของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครให้นับ จานวนหนว่ ยกติ ไดไ้ ม่เกิน ๑๒ หน่วยกติ เปน็ ๑ ภาคการศกึ ษา (๓) การโอนผลการศึกษาของนักศึกษาตามข้อ ๕ (๑) ให้นับเฉพาะภาคการศึกษาที่เคย ศึกษาและมีผลการศึกษา นักศึกษาตามข้อ ๕ (๓) (๔)และ (๕) ให้นับจานวนภาคการศึกษาต่อเนอื่ งกนั ข้อ ๑๒ การขอโอนผลการศึกษาหรือขอยกเว้นการศึกษารายวิชา ต้องชาระค่าธรรมเนียมตาม ระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ว่าด้วยการเก็บเงินค่าธรรมเนียมในการโอนผลการศึกษาและการ ยกเวน้ การศึกษารายวชิ า พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๑๓ ให้คณะกรรมการที่อธิการบดีแต่งตั้ง เป็นผู้มีอานาจพิจารณาอนุมัติการโอนผล การศึกษา หรอื การยกเว้นการศกึ ษารายวิชา ข้อ ๑๔ ผู้ได้รับการโอนผลการศึกษาไม่เสียสิทธิ์ที่จะได้รับปริญญาเกียรตินิยม แต่ผู้ที่ได้รับการ ยกเว้นการศึกษารายวิชา ไม่มีสิทธิ์ได้รับปริญญาเกียรตินิยม ทั้งนี้ โดยให้เป็นไปตามคุณสมบัติของผู้ได้รับ เกียรตินิยมตามระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครว่าด้วยการประเมินผลการศึกษาระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี และปริญญาตรี(ต่อเนอื่ ง) พ.ศ. ๒๕๔๘ คมู่ ือนักศึกษาใหม่ 84

ข้อ ๑๕ การโอนผลการศึกษาและการยกเว้นการศึกษารายวิชาที่ดาเนินการไปแล้วก่อน ประกาศใช้ระเบียบฉบับนี้ให้เป็นไปโดยสมบูรณ์ ส่วนการดาเนินการต่อไปใหเ้ ป็นไปตามระเบียบฉบับนี้ ข้อ ๑๖ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการตามระเบียบน้ี มีอานาจส่ังการในการออกระเบียบประกาศ หรือแนวปฏบิ ัติเกี่ยวกบั ระเบยี บ และเปน็ ผ้วู นิ ิจฉัยชี้ขาดในกรณีที่มีปัญหาจากการใชร้ ะเบยี บนี้ ประกาศ ณ วันท่ี ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ (รองศาสตราจารย์เปรือ่ ง กิจรัตนภ์ ร) อธกิ ารบดีมหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร คู่มอื นักศกึ ษาใหม่ 85

ระเบียบมหำวทิ ยำลยั รำชภฏั พระนคร วำ่ ดว้ ยวนิ ัยนกั ศกึ ษำ พ.ศ. ๒๕๔๘ ..................................................... ด้วยสภามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เห็นสมควรวางระเบียบว่าด้วยวินัยนักศึกษา เพ่ือเป็น การส่งเสริมและพัฒนานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครให้เป็นผู้มีความประพฤติดี มีวินัย มีคุณธรรม และจริยธรรมอนั ดงี าม อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๘ (๒) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ สภามหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนครจงึ วางระเบียบไวด้ งั น้ี ข้อ ๑ ระเบียบน้ี เรียกว่า “ระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘” ขอ้ ๒ ระเบยี บน้ีใหใ้ ช้ ต้งั แตว่ นั ถัดจากวนั ประกาศเปน็ ตน้ ไป ข้อ ๓ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คาส่ัง หรือ ประกาศอื่นใด ที่ขัดหรือแย้งกับระเบียบน้ี ให้ใช้ ระเบียบนี้แทน ขอ้ ๔ ในระเบยี บนี้ “มหาวิทยาลัย” หมายความวา่ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร “อธิการบดี” หมายความวา่ อธิการบดมี หาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร “อาจารย์” หมายความว่า ผู้สอนหรือผู้บรรยายประจาในรายวิชาต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร รวมถงึ อาจารย์พิเศษ และอาจารยท์ ีป่ รึกษากจิ กรรมนักศึกษาด้วย “เจา้ หนา้ ท”ี่ หมายความว่า ข้าราชการและลูกจ้างของมหาวิทยาลัยราช ภฏั พระนคร รวมถงึ พนกั งานเจ้าหน้าทใี่ นความหมายของขา้ ราชการฝา่ ยปกครองด้วย “นกั ศึกษา” หมายความวา่ นักศกึ ษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดา มารดา หรือผู้ท่ีแสดงตนเป็นผู้ปกครอง นกั ศกึ ษาทม่ี หาวิทยาลยั เชอ่ื ถือ “วนิ ัย” หมายความว่า วินัยนกั ศึกษาตามระเบียบนี้ ข้อ ๕ นักศึกษาต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยวินัยนักศึกษาโดยเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนถือว่ามี ความผดิ จะตอ้ งไดร้ ับโทษตามท่กี าหนดไว้ในระเบยี บนี้ ข้อ ๖ วนิ ัยนักศกึ ษา ไดแ้ ก่ (๑) ปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบียบ ข้อบงั คับ ประกาศ คาสั่ง ของมหาวทิ ยาลยั โดยเครง่ ครัด (๒) ประพฤติตนเป็นสุภาพชน ต้องไม่ประพฤติในสิ่งท่ีจะนามาซึ่งความเส่ือมเสียแก่ ตนเอง บดิ า มารดา ผู้ปกครอง และมหาวทิ ยาลัย (๓) ไม่สบู บหุ รีใ่ นทส่ี าธารณะและเขตหวงห้าม (4) แต่งกายสุภาพเรียบรอ้ ยตามระเบยี บท่ีมหาวทิ ยาลยั กาหนด คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 86

(5) ต้องแสดงบัตรประจาตัวนักศึกษาได้ทันทีในขณะที่ติดต่อหน่วยงานทุกหน่วยใน มหาวิทยาลยั หรอื เมื่ออาจารย์ และ/หรอื เจ้าหน้าท่ขี อตรวจสอบ (6) แสดงคารวะต่ออาจารย์ และไม่แสดงกิริยามารยาทอันไม่สมควร ต้องเชื่อฟังคา ตักเตือนของอาจารยห์ รือเจา้ หนา้ ท่ขี องมหาวิทยาลยั ทีป่ ฏิบัติหนา้ ทโี่ ดยชอบ (7) อยู่ในมหาวิทยาลัยไม่เกินเวลาที่มหาวิทยาลัยกาหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจาก มหาวทิ ยาลยั เป็นกรณี ๆ ไป (8) ไมม่ ีไว้ในครอบครองซึ่งภาพและสอื่ ท่ีลามกอนาจาร ไมจ่ ดั ทาและไม่จัดพิมพ์ หรือ มีไว้ในครอบครองซึ่งส่ิงพิมพ์ สิ่งแสดงหรือสิ่งท่ีใช้ในการเก็บข้อมูลด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ส่ิงเขียน และ/หรือ กล่าวถอ้ ยคา หรอื กระทาการอื่นใดอันอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผูอ้ น่ื หรอื มหาวทิ ยาลัย (9) ไมก่ ระทาการทจุ ริตใด ๆ อันกอ่ ให้เกิดความเส่ือมเสยี แก่มหาวทิ ยาลยั หรือกระทา ทุจริตในการสอบหรอื พยายามกระทาการเช่นวา่ นั้น (10) ให้ความร่วมมือ ไม่กล่าวข้อความอันเป็นเท็จ ไม่ปกปิดความจริงต่อผู้มีอานาจ สอบสวนวินัยนักศกึ ษาทีม่ หาวิทยาลัยแต่งตั้ง (11) ไม่เสพสุราหรือของมึนเมา ไม่เสพ หรือมีไว้ในครอบครองซ่ึงส่ิงเสพติดต้องห้าม ตามกฎหมาย (12) ไมป่ ระพฤติผิดในทางช้สู าวเป็นท่ีเส่ือมเสียศีลธรรมอยา่ งรา้ ยแรง (13) ไมเ่ ลน่ การพนนั หรอื มีส่วนเก่ียวข้อง หรือสนบั สนุนการพนนั ใด ๆ (14) ไม่พกพาหรือมีไวใ้ นครอบครองซงึ่ อาวธุ วตั ถรุ ะเบิด หรือสง่ิ ผดิ กฎหมาย (15) ไม่ลักทรัพย์ ไม่ยักยอกทรัพย์ ไม่ฉ้อโกงทรัพย์ ไม่ชิงทรัพย์ ไม่ปล้นทรัพย์ ไม่ กรรโชกทรพั ย์ ไมร่ ดี ทรัพย์ หรอื ทาลายทรัพยส์ นิ ของผู้อ่นื และ/หรอื ของมหาวทิ ยาลยั (16) ไม่เป็นผู้ก่อการทะเลาะวิวาท หรือทาร้ายผู้อื่น หรือยุยงให้เกิดเหตุวุ่นวาย รา้ ยแรงขึ้นในมหาวิทยาลัย หรอื ก่อให้เกดิ ความแตกแยกความสามัคคีของนักศึกษาและสว่ นรวม (๑๗) ไม่กระทาผิดคดีอาญาถึงต้องโทษจาคุก เว้นแต่กระทาความผิดโดยประมาท หรือลหุโทษ (18) ไมก่ ระทาผดิ ในกรณอี ืน่ ๆ ที่นามาซง่ึ ความเสอื่ มเสียแกม่ หาวทิ ยาลัย ข้อ ๗ การกระทาผิดวินัยร้ายแรง หมายความว่า การประพฤติตนไม่เหมาะสมอย่างย่ิงแก่ สภาพของการเป็นนักศึกษา และกระทาการใด ๆ โดยมีผลต่อความเสียหายแก่ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ตามข้อ ๖ (๑๑), ๖(๑๒), ๖(๑๓), ๖(๑๔), (๑๕), ๖(๑๖),๖(๑๗) และ/หรือ ๖(๑๘) ข้อ ๘ การลงโทษนักศึกษาให้อยู่ในดุลพินิจของอธิการบดี หรือผู้ที่อธิการบดีมอบหมายให้ ดาเนนิ การตามความเหมาะสม ดังตอ่ ไปน้ี (๑) ว่ากล่าวตักเตอื น (2) ทาทัณฑ์บนเป็นลายลักษณ์อักษร และ/หรือ บาเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวมของ มหาวิทยาลยั (3) ให้พักการศกึ ษาและ/หรอื ตัดสทิ ธปิ ระโยชน์ทพ่ี งึ ได้ (4) ชะลอการออกใบแสดงผลการศึกษา ใบปริญญาบตั รหรอื ใบรับรองใด ๆ (5) ให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาโดยให้ลาออก หากไม่ปฏิบัติตาม มหาวิทยาลัยจะ ประกาศใหพ้ ้นสภาพการเป็นนักศกึ ษา คมู่ ือนักศึกษาใหม่ 87

ข้อ ๙ โทษการว่ากลา่ วตกั เตอื น ใช้สาหรับนกั ศึกษาทกี่ ระทาผิดวนิ ยั ไม่ร้ายแรงหรือกระทาโดย ประมาท ตามความเหมาะสมแกก่ รณี ข้อ ๑๐ โทษการทาทัณฑ์บน และ/หรือ บาเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวมของมหาวิทยาลัย ใช้ สาหรับนักศึกษาท่ีได้กระทาผิดซ้า หรือทานองเดียวกับที่เคยถูกลงโทษว่ากล่าวตักเตือนมาแล้ว และ มหาวิทยาลัยเห็นว่านักศึกษาผู้นั้นรู้สานึกในการกระทาความผิด การทาทัณฑ์บน หรอื บาเพ็ญประโยชน์ต่อ ส่วนรวมของมหาวิทยาลัยให้ทาเป็นลายลักษณ์อักษร และให้เชิญบิดา มารดา หรือผู้ปกครองมารับทราบ พรอ้ มทง้ั แจง้ หน่วยงานที่เก่ียวขอ้ งทราบ ข้อ ๑๑ โทษให้พักการศึกษาและ/หรือตัดสิทธิประโยชน์ที่พึงได้ ใช้สาหรับนักศึกษาท่ีกระทา ผิดวินัยร้ายแรงหรือเคยได้รับการทาทัณฑ์บนมาแล้ว แต่เห็นว่าสามารถกลับตัวเป็นผู้ประพฤติปฏิบัติดีได้ การลงโทษให้พักการศึกษาและ/หรือตัดสิทธิประโยชน์ท่ีพึงได้ให้ทาเป็นลายลักษณ์อักษรและให้เชิญบิดา มารดา หรือผู้ปกครองมารับทราบ พร้อมท้งั แจง้ หน่วยงานท่ีเกย่ี วข้องทราบ ข้อ ๑๒ โทษชะลอการออกใบแสดงผลการศึกษา ใบปริญญาบัตร หรือใบรับรองใด ๆ ใช้ สาหรับนักศึกษาท่ีกระทาผิดวินัยร้ายแรง หรือเคยถูกลงโทษให้พักการศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ภาค การศึกษา ข้อ ๑๓ โทษให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา ใช้สาหรับนักศึกษาท่ีกระทาความผิดวินัยร้ายแรง หรือเคยถูกลงโทษให้พักการศึกษามาแล้ว ไม่น้อยกว่า ๒ ภาคการศึกษา และเห็นว่าไม่สามารถกลับตัว ประพฤติตนเปน็ คนดีได้อีกแลว้ ข้อ ๑๔ การลงโทษตามข้อ ๘ (๒) ถึง ข้อ ๘ (๕) มหาวิทยาลัยต้องแต่งตั้งคณะกรรมการ สอบสวน ไม่น้อยกว่า ๓ คน และควรมีอาจารย์แนะแนว หรือนักจิตวิทยารวมอยู่ อย่างน้อย ๑ คน เป็นท่ี ปรึกษา เพอื่ ดาเนินการสอบสวนให้ไดข้ อ้ เทจ็ จริงปรากฏเปน็ ท่แี นช่ ัด แล้วเสนอตอ่ มหาวทิ ยาลัย ข้อ ๑๕ ให้คณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั นกั ศกึ ษา ตามขอ้ ๑๔ มีอานาจหน้าที่ดังนี้ (๑) พิจารณาสอบสวนนักศึกษาทีก่ ระทาความผิด โดยดาเนินการ (ก) เรียกตรวจและรวบรวมพยาน และ/หรือ หลักฐานต่างๆ อันเก่ียวข้อง กบั การกระทาผิดวนิ ยั (ข) เรียกพบและสอบสวนนักศึกษาท่ีกระทาผิดวินัย หรือถูกกล่าวหาว่า กระทาผิด หรอื มีส่วนเก่ยี วข้องกบั การกระทาผิด หรอื ผู้อน่ื ทีเ่ หน็ วา่ เกย่ี วข้องกับการกระทาผิด (๒) ให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยนักศึกษาตามข้อ ๑๔ ดาเนินการสอบสวนและ เสนอรายงานการสอบสวน พร้อมโทษท่ีจะลงแก่นักศึกษาต่อมหาวิทยาลัย เพื่อให้ผู้มีอานาจตามข้อ ๘ พจิ ารณา มีคาสัง่ ลงโทษต่อไป ขอ้ ๑๖ การอทุ ธรณค์ าสัง่ ลงโทษ (๑) นกั ศึกษาที่ถูกลงโทษ มีสิทธ์ิยื่นอุทธรณ์ต่อมหาวิทยาลัยภายใน ๑๕ วัน นับแต่ วนั ท่ีมหาวิทยาลัยสั่งลงโทษ (๒) การยื่นอุทธรณใ์ ห้กระทาเพื่อตนเอง และดว้ ยตนเองเทา่ น้ัน (๓) ถ้านักศึกษาไม่ยื่นอุทธรณ์คาสั่งลงโทษภายในระยะเวลาตาม (๑) ให้คาสั่ง ลงโทษเป็นทส่ี นิ้ สุด (๔) ถ้านักศกึ ษาย่นื อุทธรณค์ าส่ังลงโทษภายในระยะเวลาตาม (๑) ใหม้ หาวทิ ยาลัย แตง่ ต้ังคณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์ และให้นาความในขอ้ ๑๔ และข้อ ๑๕ มาใชบ้ ังคบั กบั คณะกรรมการ การพจิ ารณาอทุ ธรณโ์ ดยอนโุ ลม คมู่ ือนักศึกษาใหม่ 88

ข้อ ๑๗ การพจิ ารณาวินจิ ฉัยอทุ ธรณ์ (๑) เม่ือคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เสนอรายงานต่อมหาวิทยาลัยแล้วให้ อธิการบดพี ิจารณาอุทธรณ์โดยมีอานาจสัง่ ยกอุทธรณ์ ลดโทษ หรอื ยกโทษตามแตก่ รณี (๒) คาสั่งของอธิการบดใี หเ้ ป็นท่สี ิน้ สดุ (๓) เมื่ออธิการบดีสั่งการเป็นประการใดแล้ว ให้แจ้งหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทราบ เพอ่ื ดาเนนิ การตอ่ ไป ข้อ ๑๘ ในกรณีท่ีนักศึกษากระทาผิดวินัยก่อนวันประกาศใช้ระเบียบนี้ และการดาเนินการ ทางวินยั ยงั ไม่เสร็จส้ิน ให้ใช้ระเบียบนใ้ี นการพจิ ารณาดาเนินการเฉพาะส่วนทเี่ ปน็ คุณแกน่ ักศึกษา ข้อ ๑๙ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ี และมีอานาจออกประกาศ หรือ คาสัง่ ใด ๆ เพ่ือประโยชนใ์ นการปฏบิ ัติตามระเบียบนี้ ในกรณีที่มีปัญหาเก่ยี วกับการปฏิบตั ิตามระเบียบน้ี ให้อธิการบดมี ีอานาจตีความและวนิ ิจฉัยชี้ ขาด ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ พลอากาศเอก(วีระ กจิ จาทร) นายกสภามหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร ค่มู อื นกั ศึกษาใหม่ 89

ประกำศมหำวิทยำลัยรำชภัฏพระนคร เรอื่ ง แนวปฏิบัติของนักศึกษำเก่ียวกับกำรสอบปลำยภำค _________________ เพ่ือให้กระบวนการสอบดาเนินไปด้วยความเรียบร้อยมหาวิทยาลัยจึงออกประกาศเร่ืองแนว ปฏิบัตขิ องนักศกึ ษาเกีย่ วกบั การสอบไวด้ ังน้ี ข้อ ๑ สิทธิใ์ นกำรสอบปลำยภำค ๑.๑ นักศึกษาต้องมีเวลาเรยี นในรายวิชานนั้ ๆไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด ๑.๒ ในกรณีที่นักศึกษามีเวลาเรียนในรายวิชาใดน้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรียน ทั้งหมดจะไม่มีสิทธิ์สอบในรายวิชานั้น นักศึกษาจะต้องย่ืนคาร้องขอยกเลิกการลงทะเบียนเรียนรายวิชานั้น กอ่ นสอบปลายภาค ๒ สัปดาห์ หากไม่ดาเนนิ การใดๆให้ผู้สอนส่งผลการเรียนเปน็ “E”หรอื “F”แลว้ แตก่ รณี ข้อ ๒ กำรปฏบิ ัตติ นของนักศกึ ษำในกำรเข้ำสอบ ๒.๑ นักศึกษาต้องแต่งกายให้เรียบร้อยตามระเบียบและข้อบังคับของมหาวิทยาลัยนักศึกษา ผ้ใู ดฝา่ ฝืนจะไม่อนญุ าตใหเ้ ขา้ สอบ ๒.๒ นักศึกษาต้องแสดงหลักฐานบัตรประจาตวั นักศึกษาต่อกรรมการควบคุมการสอบทุก คร้ัง นักศึกษาที่ไม่มีหลักฐานดังกล่าวให้ขอการรับรองการเป็นนักศึกษาจากอาจารย์ผู้สอนหรืออาจารย์ที่ สามารถใหก้ ารรับรองได้ ๒.๓ นักศึกษาที่เข้าห้องสอบสายเกินกว่า๑๕ นาทีจะหมดสิทธิ์สอบและนักศึกษาจะออก นอกห้องสอบได้เม่ือการสอบผ่านไปแลว้ ๓๐ นาที ๒.๔ นักศึกษาต้องปฏิบัติตามคาส่ังกรรมการควบคุมการสอบโดยเคร่งครัด ๒.๕ ห้ามนาตารา เอกสาร โน้ตย่อ สูตรต่างๆ เคร่ืองคิดเลข กระดาษ หรือ อุปกรณ์อื่นๆ ตลอดจนเครื่องมือส่ือสารทุกประเภทติดตัวเข้าไปในห้องสอบเว้นแต่จะได้รับอนุญำตจากอาจารย์ประจา วิชาหรอื อาจารยก์ ากับห้องสอบ ๒.๖ ห้ามนาข้อสอบ และกระดาษคาตอบออกจากหอ้ งสอบ ๒.๗ ห้ามนักศึกษาทาปฏิกิริยาที่ส่อไปในทางทุจริตในการสอบโดยเด็ดขาดและต้อง ระมดั ระวัง ไม่ให้นกั ศกึ ษาคนอนื่ มีโอกาสคัดลอกคาตอบ ๒.๘ ถ้านักศึกษาฝ่าฝืนแนวปฏิบัติข้อหนึ่งข้อใดดังกล่าวจะถูกทาโทษทางวินัยตาม ระเบยี บของมหาวิทยาลัย ขอ้ ๓ แนวปฏิบัติเกย่ี วกบั กำรขำดสอบปลำยภำค กรณีท่ีนักศึกษามีสิทธ์ิสอบแต่ขาดสอบปลายภาคหรือไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องสอบให้ นักศึกษายื่นคาร้องขอสอบพร้อมหลักฐำนที่เป็นลำยลักษณ์อักษรและชัดเจน ที่สานกั ส่งเสริมวิชาการ และงานทะเบยี นอย่างช้าทส่ี ุดภายใน ๑๕ วนั นับแต่วนั เปิดภาคเรยี นถดั ไป การพจิ ารณาคาร้องให้อยู่ใน ดุลยพินิจของคณะกรรมการวชิ าการ คมู่ ือนกั ศกึ ษาใหม่ 90

นักศึกษาสามารถยื่นคาร้องขอสอบพร้อมหลักฐำนที่เป็นลำยลักษณ์อักษรที่ชัดเจนได้ใน กรณีใดกรณหี นง่ึ ต่อไปนเี้ ทา่ น้นั ๓.๑ เจ็บป่วยหนักหรือเข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่ เชื่อถือได้ โดยมใี บรบั รองแพทยร์ ะบวุ ่าเปน็ การปว่ ยทท่ี าใหไ้ มส่ ามารถมาสอบได้ ๓.๒ ประสบอุบัติเหตุทาให้ได้รับบาดเจ็บ หรือต้องอยู่ในท่ีเกิดเหตุเพื่อแก้ไขปัญหา ๓.๓ บิดามารดาหรือผู้ปกครองซึ่งให้ความอุปการะทางการเงินของนักศึกษาเจ็บป่วยอย่างหนัก หรือประสบอบุ ตั เิ หตุร้ายแรง หรือเสยี ชีวติ ๓.๔ นักกีฬาทีมชาติที่ต้องไปแข่งขันต่างประเทศหรือนักศึกษาที่ได้รับทุนแลกเปลี่ยนท่ี ต้องเดินทางไปต่างประเทศในช่วงการสอบ หรือมีภารกิจที่ต้องไปปฏิบัติตามคาส่ังของหน่วยงานให้ยื่นคาร้อง ทันทีทท่ี ราบว่าต้องเดนิ ทาง ๓.๕ เป็นเหตุสดุ วิสัยและจะตอ้ งนาหลกั ฐานท่เี ปน็ ทางการมาแสดง ขอ้ ๔ บทลงโทษนักศึกษำท่ที ุจรติ กำรสอบ นกั ศกึ ษาท่ที ุจรติ การสอบ มหาวทิ ยาลัยไดก้ าหนดบทลงโทษไวด้ งั น้ี ๔.๑ ถ้าเป็นความผิดประเภททุจริตร้ายแรง เช่น ส่งกระดาษคาตอบให้เพ่ือน สอบแทนกัน หรอื คัดลอกคาตอบจากเอกสาร ให้ลงโทษโดยให้ได้รับ “E” หรอื “F” ในรายวิชาทีก่ ระทาผดิ ระเบียบการสอบ และให้พิจารณา ส่ังพักการศึกษานักศึกษาผู้นั้น ๑ ภาคการศึกษาเป็นอย่างน้อยในภาคการศึกษาถัดไป หรืออาจให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาก็ได้ ๔.๒ ถ้าเป็นความผิดประเภทส่อเจตนา เช่น การเปิดโอกาสให้เพ่ือนลอกคาตอบ การ โน้ตย่อเข้าห้องสอบแต่ยังไม่มีโอกาสลอกคาตอบ ให้ลงโทษโดยให้ได้รับ“E” หรือ “F” ในรายวิชาที่กระทา ผดิ ระเบียบการสอบ และอาจพิจารณาสง่ั พักการศกึ ษานักศึกษาผู้นั้นได้ไม่เกิน ๑ ภาคการศึกษา หรอื ให้อยู่ใน ดุลยพินิจของมหาวทิ ยาลัย ๔.๓ ถ้าเป็นความผิดอย่างอ่ืนตามท่ีระบุไว้ในข้อปฏิบัติของนักศึกษาในการสอบ ให้ลงโทษ ตามควรแก่ความผิดน้ัน แต่จะต้องไม่เกินกว่าระดับโทษต่าสุดของความผิดประเภ ททุจริต ๔.๔ ถ้านักศึกษากระทาผิดหรือร่วมกระทาผิดอ่ืนๆท่ีเก่ียวกับการสอบให้คณะกรรมการ พจิ ารณาโทษนักศึกษาท่ีกระทาผิดระเบียบการสอบเป็นผู้พิจารณาเสนอการลงโทษตอ่ มหาวิทยาลัยตามควร แกค่ วามผิดน้นั ๔.๕ การให้พักการศึกษาของนักศึกษาตามคาสั่งของมหาวิทยาลัย ให้เริ่มเม่ือสิ้นสุดภาค การศึกษาท่ีกระทาผิดนั้นโดยให้มีระยะเวลาการลงโทษต่อเนื่องกัน ท้ังนี้ให้นับระยะเวลาท่ีถูกสั่งพัก การศึกษาเขา้ เปน็ ระยะเวลาการศกึ ษาดว้ ย ๔.๖ นักศกึ ษาทถี่ กู สั่งพกั การศึกษาจะต้องชาระคา่ ธรรมเนยี มการรกั ษาสถานภาพนกั ศึกษา ทุกภาคการศกึ ษาท่ีพกั การศกึ ษา จึงประกาศมาเพอื่ ทราบและถือปฏิบตั ิโดยเคร่งครดั ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ (รองศาสตราจารย์เปร่อื ง กิจรัตน์ภร) อธกิ ารบดมี หาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร คมู่ ือนกั ศกึ ษาใหม่ 91

ระเบยี บเกยี่ วกบั คำ่ ธรรมเนยี มกำรศึกษำ คู่มอื นกั ศกึ ษาใหม่ 92

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 93

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 94

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 95

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 96

คมู่ ือนกั ศึกษาใหม่ 97

ประกำศมหำวทิ ยำลัยรำชภัฏพระนคร เร่อื ง กำหนดอัตรำคำ่ ธรรมเนียมกำรศึกษำ สำหรับนักศกึ ษำ ท่เี ข้ำรับกำรศกึ ษำตง้ั แตภ่ ำคกำรศกึ ษำท่ี ๑ ปีกำรศึกษำ ๒๕๕๘ ----------------------------------------------------------------------------------------------------- เพื่อให้การดาเนินการเก็บเงินค่าธรรมเนียมการศึกษา ของนักศึกษาภาคปกติ ภาค กศ.พบ. (โครงการจัดการศึกษาสาหรับพัฒนาบุคลากร) และภาค กศ. พท. (โครงการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนา บคุ ลากรส่วนท้องถนิ่ ) เหมาะสมยงิ่ ขนึ้ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓๑ (๑) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ และข้อ ๖ แห่งระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครว่าด้วย การเก็บเงินค่าธรรมเนียมการศึกษา พ.ศ.๒๕๕๗ จงึ ออกประกาศไว้ ดังตอ่ ไปน้ี ข้อ ๑ ให้มหาวิทยาลัยเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าลงทะเบียน สาหรับ นักศึกษาของภาคปกติ ภาค กศ.พบ. (โครงการจัดการศึกษาสาหรับพัฒนาบุคลากร) และภาค กศ.พท. (โครงการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาบุคลากรส่วนท้องถิ่น) ที่เข้ารับการศึกษาตั้งแต่ภาคการศึกษาที่ ๑ ปี การศึกษา ๒๕๕๘ เป็นต้นไป จึงกาหนดอัตราค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าลงทะเบียน หรือค่าลงทะเบียน จากนกั ศกึ ษา ดังน้ี ๑.๑ คำ่ ธรรมเนียมแรกเข้ำ ค่ำธรรมเนียมแรกเขำ้ อตั รำค่ำธรรมเนียม (บำท) ภำคปกติ ภำค กศ.พบ. ภำค กศ.พท. คา่ ข้ึนทะเบียนเป็นนักศึกษาใหม่ ๕๐๐ ๕๐๐ ๕๐๐ คา่ ปฐมนเิ ทศและปัจฉิมนเิ ทศ ๗๐๐ ๗๐๐ ๗๐๐ ค่าตรวจสขุ ภาพ ๕๐๐ ๕๐๐ ๕๐๐ ค่าคมู่ ือนกั ศึกษา ๕๐๐ ๕๐๐ ๕๐๐ ค่าบตั รประจาตัวนักศึกษา ๓๐๐ ๓๐๐ ๓๐๐ คา่ ประกันของเสยี หาย ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ค่าประกนั อุบตั เิ หตุ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ รวม ๔,๕๐๐ ๔,๕๐๐ ๔,๕๐๐ คู่มอื นกั ศกึ ษาใหม่ 98

๑.๒ ค่ำลงทะเบยี นเหมำจำ่ ยเป็นรำยภำคกำรศึกษำ ค่ำลงทะเบยี นเหมำจ่ำยเปน็ รำยภำคกำรศึกษำ อตั รำคำ่ ลงทะเบียน (บำท) ภำคปกติ ภำค กศ.พบ. ภำค กศ.พท. ๑. หลกั สูตรครศุ าสตรบัณฑิต (ค.บ.) ๑๑,๐๐๐ - - ๒. หลกั สตู รเทคโนโลยบี ณั ฑติ (ทล.บ.) ๑๒,๐๐๐ ๑๔,๐๐๐ ๑๓,๐๐๐ ๓. หลกั สตู รนิติศาสตรบัณฑิต (น.บ.) ๑๒,๐๐๐ ๑๔,๐๐๐ ๑๓,๐๐๐ ๔. หลกั สตู รนเิ ทศศาสตรบัณฑิต (นศ.บ.) ๑๑,๐๐๐ ๑๓,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ ๕. หลกั สตู รบรหิ ารธุรกิจบัณฑติ (บธ.บ.) ๑๑,๐๐๐ ๑๓,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ - เฉพาะสาขาวิชาการจัดการธรุ กิจสายการ ๓๐,๐๐๐ ๓๕,๐๐๐ ๓๒,๕๐๐ บิน ๖. หลักสตู รบัญชบี ัณฑติ (บช.บ.) ๑๑,๐๐๐ ๑๓,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ ๗. หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบณั ฑติ (รป.บ.) ๑๑,๐๐๐ ๑๓,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ ๘. หลกั สตู รรฐั ศาสตรบณั ฑติ (ร.บ.) ๑๑,๐๐๐ ๑๓,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ ๙. หลักสตู รวทิ ยาศาสตรบณั ฑิต (วท.บ.) ๑๒,๐๐๐ ๑๔,๐๐๐ ๑๓,๐๐๐ - เฉพาะสาขาวิชาการจดั การโลจสิ ติกส์ ๒๒,๐๐๐ ๒๖,๐๐๐ ๒๔,๐๐๐ ๑๐. หลกั สูตรศิลปบัณฑติ (ศล.บ.) ๑๑,๐๐๐ ๑๓,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ ๑๑. หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑติ (ศศ.บ.) ๑๑,๐๐๐ ๑๓,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ ๑๒. หลักสตู รเศรษฐศาสตรบัณฑิต (ศ.บ.) ๑๑,๐๐๐ ๑๓,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ ๑๓. หลักสตู รสถาปัตยกรรมบัณฑิต (สถ.บ.) ๑๓,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐ ๑๔,๐๐๐ ขอ้ ๒ ประกาศน้ีให้ใช้บังคับเฉพาะกับนักศึกษาท่ีเรียนภายในระยะเวลาการศึกษาตามท่ี มหาวิทยาลัยกาหนด บรรดาประกาศ แนวปฏิบัติ หรือคาส่ังอ่ืนใดท่ีขัดแย้งกับประกาศนี้ให้ใช้ประกาศนี้ แทน ข้อ ๓ ใหอ้ ธกิ ารบดี เปน็ ผรู้ ักษาการตามประกาศน้ี ประกาศ ณ วนั ที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ (รองศาสตราจารย์ ดร.พงศ์ หรดาล) อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร คู่มอื นักศกึ ษาใหม่ 99

ประกำศมหำวทิ ยำลัยรำชภัฏพระนคร เรือ่ ง กำหนดอตั รำค่ำธรรมเนยี มกำรศกึ ษำ สำหรับนักศกึ ษำ สำขำวชิ ำวิศวกรรมพลังงำน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ เพื่อให้การดาเนินการเก็บเงินค่าธรรมเนียมการศึกษา ของนักศึกษาภาคปกติ ภาค กศ.พบ. (โครงการจัดการศึกษาสาหรับพัฒนาบุคลากร) และภาค กศ. พท. (โครงการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนา บคุ ลากรส่วนท้องถิ่น) เหมาะสมยงิ่ ขนึ้ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓๑ (๑) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ และข้อ ๖ แห่งระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครว่าด้วย การเก็บเงินค่าธรรมเนียมการศึกษา พ.ศ.๒๕๕๗ จึงออกประกาศไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ใหม้ หาวทิ ยาลัยเรียกเก็บเงนิ ค่าธรรมเนยี มแรกเข้าและค่าลงทะเบยี น สาหรับ นกั ศกึ ษา สาขาวิชาวศิ วกรรมพลงั งาน ของภาคปกติ ภาค กศ.พบ. (โครงการจัดการศึกษาสาหรับพฒั นา บุคลากร) และภาค กศ.พท. (โครงการจดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาบุคลากรสว่ นท้องถ่)ิ จงึ กาหนดอัตรา คา่ ธรรมเนยี มแรกเขา้ และค่าลงทะเบียน หรือค่าลงทะเบียนจากนักศึกษา ดังนี้ ๑.๑ ค่ำธรรมเนยี มแรกเข้ำ คำ่ ธรรมเนียมแรกเข้ำ อัตรำคำ่ ธรรมเนียม (บำท) ภำคปกติ ภำค กศ.พบ. ภำค กศ.พท. ค่าขึน้ ทะเบียนเป็นนักศึกษาใหม่ ๕๐๐ ๕๐๐ ๕๐๐ คา่ ปฐมนิเทศและปจั ฉิมนิเทศ ๗๐๐ ๗๐๐ ๗๐๐ ค่าตรวจสขุ ภาพ ๕๐๐ ๕๐๐ ๕๐๐ คา่ ค่มู ือนกั ศกึ ษา ๕๐๐ ๕๐๐ ๕๐๐ ค่าบัตรประจาตวั นักศึกษา ๓๐๐ ๓๐๐ ๓๐๐ ค่าประกนั ของเสียหาย ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ คา่ ประกนั อุบัตเิ หตุ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ รวม ๔,๕๐๐ ๔,๕๐๐ ๔,๕๐๐ คมู่ อื นกั ศกึ ษาใหม่ 100


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook