Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชาติพันธุ์ในจีน....ชนเผ่าแมนจู

ชาติพันธุ์ในจีน....ชนเผ่าแมนจู

Published by สุดาวรรณ ปัญญามี, 2018-10-11 06:48:14

Description: บอกถึงประวัติความเป็นมาของชนเผ่าแมนจู วัฒนธรรมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาษา ความเป็นอยู๋ ทรงผมและการแต่งกาย เป็นต้น....

Keywords: แมนจู

Search

Read the Text Version

中 国 的 少 数 民族…

1 กลุ่มชาตพิ นั ธ์ุในประเทศจีน…… …..中国的少数民族 ประเทศจีนเป็นดินแดนที่มีความหลากหลายทางชาติพนั ธุ์มาถึงปัจจุบนั กลุ่มผชู้ ุมนุมประทว้ งต่อตา้ นการก่อการร้ายในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ 1949 รัฐบาลจีนไดส้ ารวจและยนื ยนั วา่ ประเทศ จีนมีชนเผา่ ตา่ ง ๆ อาศยั อยู่ดว้ ยกนั 56 ชนเผา่ ไดแ้ ก่ ฮนั่ 汉族 จว้ ง 壮族 แมนจู 满族 หุย 回族 เม้ียว 苗族 อุยกรู ์ 维吾尔族 ถู่จีอา 土家族 ยี 彝族 มองโกล 蒙古族 ทิเบต 藏族 ปูใหย่ 布依族 ตง 侗族 เยา้瑶族 เกาหลี 朝鲜族 ไป๋ 白族 ฮาหนี 哈尼族 คาซกั 哈萨克族 ลี 黎族 ไต 傣族เช 畲族 ลีสู่ 傈僳族 กะเหล่า 仡佬族 ตงเซียง 东乡族 เกาชานหรือชนพ้ืนเมืองในไตห้ วนั 高山族 ละหุ 拉祜族 สุย 水族 วา้ 佤族 นาคีหรือนาซี 纳西族 เชียง 羌族 ถู่ 土族 มูเลา 仫佬族 ซีเป๋ อ 锡伯族 คีจีซ 柯尔克孜族 ตาเออร์ 达斡尔族 จิงป่ อ 景颇族 เหมาหนาน 毛南族 ซาลาร์ 撒拉族 ปลางหรือปะหล่อง 布朗族 ทาจิก 塔吉克族 อาชาง 阿昌族 ปมู ี 普米族 อีเวงกิ 鄂温克族 นู่ 怒族 จิง 京族 จิโน 基诺族 เตอองั 德昂族 โปหนาน 保安族 รัสเซีย 俄罗斯族 ยเู กอร์ 裕固族 อุซเบก 乌孜别克族 มอนปา 门巴族โอโรเชน 鄂伦春族 เตอรุง 独龙族 ตาตาร์ 塔塔尔族 เหอเจิน้ 赫哲族 โลปา 珞巴族 โดยชนเผา่ ท้งั หมดน้ีมีชนเผา่ ฮน่ั (汉族) เป็นกลุ่มท่ีมีประชากรมากที่สุด 1,200 ลา้ นคน คิดเป็ นร้อยละกลุ่มชนเผา่ หุย (回族) ประมาณ 10 ลา้ นคน กลุ่มชนเผา่ แมนจู (滿族) ประมาณ 10 ลา้ นคนและกลุ่มชนเผา่ อุยกู(维吾尔族) ประมาณ 10 ลา้ นคน ของคนชนกลุ่ม นอ้ ย (少数民族) จีนมีเขตปกครองตนเองโดยชนกลุ่ม5เขต ซ่ึงมีฐานะเทียบเทา่ กบั มณฑล ประกอบดว้ ย เขตปกครองตนเองกวางสี (ชนเผา่ จว้ ง) เขตปกครองตนเองซินเจียง(ชนเผา่ อุยกรู ์) เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย (ชนเผา่ หุย) เขตปกครองตนเองทิเบต (ชนเผา่ ทิเบต) และเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน (ชนเผา่ มองโกเลีย)

2ชนเผ่าแมนจูแมนจู 满族 ชนเผ่าแมนจูหรือหมนั จู่ กระจายอยู่ตามทอ้ งท่ีต่างๆของทวั่ ประเทศจีน โดยเฉพาะมณฑลเหลียวหนิงมีจานวนมากท่ีสุด ชนชาติแมนจูใชภ้ าษาแมนจู ซ่ึงอยใู่ นตระกลู ภาษาAltaic เน่ืองจากไดอ้ ยอู่ าศยัปะปนกบั ชนชาติฮนั่ เป็ นเวลานาน และมีการติดต่อไปมาหาสู่กนั อยา่ งใกลช้ ิด ปัจจุบนั ชนชาติแมนจูนิยมจึงเคยชินกับการใช้ภาษาฮนั่ มีแต่หมู่บา้ นที่อยู่ตามเขตชายแดนจานวนน้อยที่ยงั คงใช้ภาษาแมนจูอยู่บ้างนอกจากน้ีก็มีผสู้ ูงอายบุ างคนท่ียงั พดู ภาษาแมนจไู ด้ ชนชาติแมนจูนบั ถือศาสนาส่าหมนั ท่ีมีเทพเจา้ หลายองค์ ชนชาติแมนจูเป็นชนชาติท่ีมีประวตั ิอนั ยาวนานชนชาติหน่ึง สืบยอ้ นหลงั ไปไดถ้ ึง 2000 กวา่ ปีก่อนบรรพบุรุษของชนชาติแมนจูดารงชีวติ อยใู่ นพ้ืนท่ีกวา้ งใหญ่ลุ่มบริเวณตอนกลางและตอนตน้ ของแม่น้าเฮยหลุงเจียงและลุ่มแม่น้าอูซูหลี่เจียงซ่ึงต้งั อยทู่ างเหนือของภเู ขาฉางไป๋ ซานในภูมิภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือของจีนมาโดยตลอด ศตวรรษที่12 ชนชาติแมนจูซ่ึงสมยั น้นั ยงั เรียกวา่ ชนชาติ “ วเี่ จิน”ไดส้ ถาปนาราชวงศจ์ ินข้ึน ค.ศ1583 หนูเอ่อร์ฮาชื่อไดร้ วมชนเผา่ ต่างๆเป็นเอกภาพ จดั ต้งั ระบบ “8ธง” และสร้างภาษาแมนจขู ้ึน เม่ือค.ศ.1635 ต้งั ช่ือของชนชาติตนว่าเป็ น “แมนจู” เม่ือค.ศ.1636 หวงไท่จี๋ซ่ึงเป็ นบุตรชายของนูเอ่อร์ฮาชื่อข้ึนครองราชย์ เปล่ียนช่ือประเทศเป็ น “ชิง” ค.ศ.1644 ทหารราชวงศ์ชิงบุกเข้ากาแพงเมืองจีน ราชวงศ์ชิงกลายเป็ นราชวงศศ์ กั ดินาท่ีเป็ นเอกภาพและมีรัฐบาลกลางครองอานาจราชวงศส์ ุดทา้ ยของจีน ภายหลงั การปฏิวตั ิซิงไห่ ค.ศ.1911 จึงไดต้ ้งั ช่ือของชนชาติแมนจูเป็ น”หมนั จู๋”อย่างเป็ นทางการ ชนชาติแมนจูไดส้ ร้างคุณูปการอนั ใหญ่หลวงในการรวมจีนเป็ นเอกภาพ ขยายอาณาเขตดินแดนของจีนให้กวา้ งขวางออกไปและการพฒั นาเศรษฐกิจและวฒั นธรรม

3ประวตั คิ วามเป็ นมาของชนเผ่าแมนจู แผน่ ดินมงั กรกวา้ งใหญไ่ พศาล เป็นตน้ ธารของอารยธรรม เป็นแหล่งกาเนิดวฒั นธรรม ลทั ธิประเพณี ศาสนา เป็ นอ่คู วามรู้และวทิ ยาการท่ีสาคญั ของโลกต้งั แต่สมยั โบราณจนสมยั ปัจจุบนั ส่ิงต่างๆเหล่าน้ีมีอิทธิพลตอ่ ประเทศต่างๆ ท้งั ใกลเ้ คียงและห่างไกล แผน่ ดินจีนผา่ นยคุ สมยั มายาวนานหลายพนั ปี ต้งั แต่ยคุ ก่อนระบบจกั รพรรดิ (2,300 ปี ก่อน) เป็นยคุ ท่ีเริ่มเกิดชนชาติฮนั่ ๆข้ึนมา เกิดดินแดนจงหงวน (จงหงวนคือ ดินแดนลุ่มแมน่ ้าฮวงโหตอนกลางและตอนล่างอนั เป็ นศูนยก์ ลางอารยธรรมจีน ซ่ึงไดแ้ ก่บริเวณมณฑลเหอเป่ ย ส่านซี ซานซี เหอหนนั หูเป่ ย อนัฮุย ซนั ตง และและเจียงซู) เกิดภาษาจีน ตวั อกั ษรจีน วฒั นธรรมจีน เกิดลทั ธิของจ๊ือ จนมาถึงยคุ สมยัจกั รพรรดิ นบั ต้งั แต่จิ๋นซีฮ่องเตเ้ ริ่มรวบรวมอาณาจกั รจีนได้ รวมแผน่ ดินจงหงวนหลายแผน่ ดินใหเ้ ป็นหน่ึงเดียว ต้งั แตน่ ้นั มาแผน่ ดินจีนกส็ ลบั สบั เปลี่ยนกนั ระหวา่ งสงบสุขกบั สงคราม สลบั กนั ระหวา่ งความเป็ นหน่ึงเดียวของแผน่ ดินกบั การแบง่ เป็นก๊กเป็นเหล่า สลบั ระหวา่ งปลายพกู่ นั เขียนอกั ษรจีนกบั ล่ิมเลือดปลายดาบอยรู่ ะหวา่ งความเป็นกบั ความตาย และนรกกบั สวรรค์ เกิดราชวงศท์ ่ียงิ่ ใหญ่ข้ึนมากมาย ผลดั กนั ปกครองแผน่ ดิน ราชวงศฮ์ น่ั ซ่ึงเป็นปฐมแห่งราชวงศ์ ยคุ สามก๊กซ่ึงประเทศเริ่มแตกเป็นเส่ียงๆ เร่ิมรวมชาติไดอ้ ีกคร้ังในสมยั ราชวงศถ์ งั จนมาถึงยคุ แห่งความสับสนและวนุ่ วาย เกิดการอพยพยา้ ยถิ่นคร้ังใหญ่ และเร่ิมกลบั มารวมกนั ไดอ้ ีกคร้ังในสมยั ราชวงศห์ มิง ในระหวา่ งยคุ แห่งความยง่ิ ใหญ่ของราชวงศข์ องชนชาติฮนั่ เหล่าน้นั อาณาจกั รจีนถูกรุกรานอยา่ งไม่หยดุ หยอ่ นจากชนเผา่ อ่ืน โดยเฉพาะจากทางดา้ นเหนือ ไมว่ า่ จะเป็น มองโกล แมนจู เหลียว ซ่ีตานซ่ึงเป็นชนเผา่ นอกด่านทางด่านเหนือ กระทง่ั จงหงวนระส่าระส่าย เกิดการอพยพโยกยา้ ยของชาวฮนั่ จากจงหงวนไปสู่ดินแดนทิศใต้ ท้งั กวางโจว กวางสี กวางตุง้ เกิดเป็นจีนฮกเก้ียน จีนกวางตุง้ แตจ้ ิ๋ว บรรพบุรุษของคนไทยเช้ือสายจีนหลาย ๆ ทา่ นรวมท้งั ผม กเ็ กิดข้ึนในยคุ สมยั น้ี ทางดา้ นเหนือเกิดการผสมผสานกนั ของอารยธรรมของชนเผา่ นอกด่านกบั จีนฮนั่ เกิดเป็ นวฒั นธรรมแบบผสมผสาน เกิดเป็นภาษาจีนแมนดาริน ซ่ึงรับเอาภาษาชนเผา่ นอกด่านมาผสม ในขณะเดียวกนั กลบั เป็นจีนฮน่ั ที่อพยพมาทางใต้ ที่สามารถรักษาวฒั นธรรมของจีนฮนั่ แทไ้ วไ้ ดม้ ากกวา่

4โดยเฉพาะในแง่ของภาษา มีความเชื่อวา่ ภาษาจีนแคะกค็ ือภาษาจีนโบราณเม่ือเกือบสองพนั ปี ก่อนนนั่ เอง แต่ในขณะเดียวกนั จีนทางใตก้ ม็ ีการผสมผสานวฒั นธรรมกบั ชาวเยว่ ์ ชาวลาว ท่ีอยใู่ นภูมิภาคทางใตม้ าก่อนการโยกยา้ ยสลบั เปล่ียนถิ่นฐานเหล่าน้ีมีส่วนสาคญั ที่ทาใหอ้ ารยธรรมจีนเผยแพร่ไปกวา้ งไกลในภมู ิภาคน้ีท้งั ในเอเชียกลาง เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ และดินแดนอื่น ๆ ท่ีไกลโพน้ ออกไป หน่ึงในชนเผา่ ท่ีมารุกรานอาณาจกั รจีนน้นั มีชนเผา่ หน่ึงท่ีโดดเด่น ชนเผา่ น้นั ผกู พนั ธ์กบั อารยธรรมจีน เคยมีดินแดนท่ียง่ิ ใหญ่ มีอาณาจกั รของตนเอง อยทู่ างทิศเหนือของแผน่ ดินจีน เคยมารบ ผลดั กนั แพ้กนั ชนะมาตลอดระยะเวลานบั พนั ปี จนทา้ ยท่ีสุดแลว้ ไดป้ กครองใตห้ ลา้ ไดค้ รองแผน่ ดินจีน มีอิทธิพล และกดชาวฮน่ั ไวภ้ ายใตอ้ านาจ เป็นระยะเวลาเกือบสามศตวรรษ และเป็นราชวงศส์ ุดทา้ ยที่ไดป้ รกครองประเทศจีน ชนเผา่ น้นั คือ ชาว \"หน่ีวเ์ จิน\" หรือ\"จิน\" หรือ \"ชิง\" หรือ \"แมนจ\"ู นนั่ เอง ชนเผ่าแมนจู

5การก่อต้งั รัฐแมนจู รัฐแมนจูสถาปนาโดย นู่เอ๋อร์ฮาช่ือ ในตน้ พุทธศตวรรษที่ 22 โดยเร่ิมแรก นู่เอ๋อร์ฮาชื่อเป็ นขนุ นางของราชวงศห์ มิง ครองท่ีดินทางตะวนั ออกเฉียงเหนือ หรือมณฑลแมนจูเรียในปัจจุบนั นู่เอ๋อร์ฮาชื่อต้งั ตนเป็นจกั รพรรดิไทจ่ ู่ และต้งั รัฐแมนจูข้ึนใน พ.ศ. 2152 พระองคเ์ ร่งสร้างเศรษฐกิจ แรงงาน และเทคโนโลยขี องรัฐโดยการจบั ชาวจีนท่ีอาศยั ในแมนจูเรียมาเป็นทาส พ.ศ. 2168 จกั รพรรดิไทจ่ ู่ สถาปนาเมืองเส่ินหยาง (沈阳/瀋陽) แตใ่ นปี ต่อมา พระองคท์ รงไดร้ ับบาดเจบ็ จากการรบกบั แมท่ พั หมิง และสวรรคตในปี เดียวกนัความสาเร็จท่ีสาคญั ส่ิงหน่ึงของพระองคค์ ือการต้งั ระบบกองธง ซ่ึงเป็นระบบในการแบ่งสายการปกครองออกเป็ นส่วนๆ มีประโยชน์ท้งั ทางดา้ นการปกครองและการทหาร โดยแรกเริ่มน้นั มี 8 กองธง ผสู้ ืบบลั ลงั กจ์ ากจกั รพรรดิไท่จู่ คือ หวงไท่จี๋ หรือจกั รพรรดิไท่จง พระองคไ์ ดท้ รงต้งั กองธงแรกที่เป็ นชาวฮนั่ ข้ึน และไดม้ ีการนาระบบธรรมเนียมการปกครองแบบราชวงศ์หมิงมาปรับใช้บางส่วน แต่ก็ยงั ให้สิทธิพิเศษกบั หน่วยปกครองของแมนจูเองโดยระบบโควตา เม่ือลิงตนั ข่าน มหาข่านองคส์ ุดทา้ ยของมองโกลสิ้นพระชนม์ลงระหว่างเดินทางไปทิเบตในพ.ศ. 2177 บุตรของเขานาม เอเจยข่าน ไดส้ วามิภกั ด์ิต่อกองทพั แมนจูและมอบตราประจาพระองค์ของอดีตจกั รพรรดิหยวนให้จกั รพรรดิไท่จง ใน พ.ศ. 2179จกั รพรรดิไท่จงเปล่ียนชื่อรัฐแมนจูเป็ น อาณาจกั รตา้ ชิง (แปลวา่ บริสุทธ์ิ) โดยหมายที่จะขยายอาณาเขตไปนอกแมนจูเรีย พระองค์ทรงชนะมองโกเลียใน เกาหลี และครอบครองพ้ืนที่ลุ่มแม่น้าอาร์มู หรือมณฑลเฮหลงเจียงในปัจจุบนั นู่เอ๋อร์ฮาชื่อ ผ้สู ถาปนารัฐแมนจู

6วฒั นธรรมของชาวแมนจู วฒั นธรรมของชาวหน่ียเ์ จินหรือชาวแมนจู วถิ ชี ีวติ ของชาวแมนจู ในสมัยโบราณเมื่อสองพันปี ก่อนน้ัน มี ลกั ษณะคลา้ ยกบั ชนเผ่านอกด่านอ่ืน ๆ ท่ีอยู่ทางทิศเหนือของจีน คืออาศยั อยตู่ ามทุ่งหญา้ ในภูมิประเทศท่ีมีอากาศค่อนขา้ งหนาว บริเวณเขตท่ีเรียกวา่ ทุ่งหญา้ สเตปป์ (Steppe) คือเป็ นที่ราบทุ่งหญา้ กวา้ งใหญ่ไม่มีตน้ ไม้ มีสภาพอากาศแห้งแล้ง เป็ นพ้ืนท่ีก่ึงทะเลทราย ทุ่งหญา้ สเตปป์ ทางตอนเหนือของทวีปเอเชียเม่ือพนั ปี ก่อนโนน้ เป็นท่ีอยอู่ าศยั ของชนเผา่ นบั ร้อยเผ่า ท้งั มองโกล ฮนั (ฮนั ไม่ใช่ฮน่ั ) ซี่ตาน แมนจู กระจายอยู่ทว่ั บริเวณ ชาวเผา่ เหล่าน้ีดารงชีวิตอยดู่ ว้ ยการเล้ียงสัตว์ เช่น มา้ ววั แกะ และเร่ร่อนพเนจรยา้ ยถิ่นฐานไปเรื่อย นิยมพกั อาศยั อยใู่ นกระโจมท่ีเรียกวา่ เกอร์ซ่ึงง่ายต่อการเคล่ือนยา้ ย เนื่องจากการเปล่ียนถิ่นฐานบ่อย ทาให้พวกน้ีมีอารยธรรมท่ีไม่พฒั นา คือค่อนขา้ งลา้ หลงั กว่าชาวจีนฮน่ั ท่ีอยู่ทางใต้ แต่กระน้ันชาวเผ่าเหล่าน้ัน โดยเฉพาะแมนจู ก็ไดม้ ีการติดต่อสื่อสารใกลช้ ิดและรับวฒั นธรรมจากจีนดว้ ย

7 ภาษาท่ใี ช้ของชนเผ่าแม่นจู ภาษาแมนจู ซ่ึงอยใู่ นตระกลู ภาษา Altaic มีอกั ษรของตนเอง ปัจจุบนั มีผใู้ ชน้ อ้ ยมาก ๆ เพราะถูกกลืนโดยภาษาจีนแมนดาริน ทาใหใ้ นปัจจุบนั มีผพู้ ดู ไดน้ อ้ ยมาก ๆ จนวิตกกงั วลกนั วา่ จะสูญพนั ธุ์ในเร็วๆน้ี ชนชาติท่ีมีภาษาและอกั ษรเป็นของตนเอง ยอ่ มเป็นการรับประกนั วา่ ชนชาติน้นั มีวฒั นธรรมที่มีพฒั นาการมายาวนาน และมีววิ ฒั นาการสูงส่ง เพราะภาษาเป็นตวั แทนบอกถึงทุกส่ิงทกุ อยา่ ง ท้งั อตั ลกั ษณ์วถิ ีชีวติ และพฒั นาการทางสังคมอนั ยาวนานของชนชาติน้นัภาษาแมนจู แสดงถึงการดารงอยขู่ องเผา่ พนั ธุ์แมนจูอยา่ งสาคญั ยงิ่ ลกั ษณะตัวอกั ษรของแมนจู

8ทรงผม ทรงผมผชู้ าย ทรงผมตามประเพณีของชาวแมนจู คือ โกนคร่ึงหวั ดา้ นหนา้ และไวผ้ มแบบหางเปี ยขา้ งหลงั รวบเป็นเส้นเดียวและยาว เรียกวา่ \"เป้ี ยนซือ\" (辮子) หรือ \"ซอนโกโฮ\" ในภาษาแมนจู ตน้ กาเนิดของทรงผมน้ีคาดวา่ น่าจะมาจากขอ้ สนั นิษฐานวา่ ชาวแมนจนู ิยมใชม้ า้ เยอะ ทรงผมน้ีช่วยในการเคล่ือนไหวบนมา้ และเวลายงิ ธนู เส้นผมจะไม่ปกหนา้ ถกั เปี ยพนั คอเอาไวใ้ หค้ วามอบอุ่นกบั ลาคอ ส่วนโกนดา้ นหนา้ มีสองทฤษฎี คือไมใ้ หม้ าปลิวปิ ดตา หรือทาใหใ้ ส่หมวกเหล็กสะดวก (แบบทรงผมซามูไร) การไว้ผมเปี ยรูปแบบต่างๆของชาวแมนจูการไว้เปี ยของพลทหารแมนจูการโกนครึ่งหวั ด้านหน้า หางเปี ยของชาวแมนจู (สังเกตจากด้านหลงั )

9 ทรงผมผู้หญงิ ส่วนสตรีชาวแมนจจู ะไวท้ รงผมท่ีแตกต่างออกไปท่ีเรียกวา่ \"เหลียง ปาโตว\" สตรีชาวแมนจูนิยมผมทรงสูงๆใหญๆ่ ใส่ดอกไมด้ อกโต ทรงผมของหญิงชาวแมนจแู บ่งเป็ น 2 แบบ คือ ทรงสองแกละทรงหมวกปี กกวา้ ง ทรงสองแกละน้นั เร่ิมจากการหวผี มไปไวด้ า้ นหลงั จากน้นั แบ่งเป็ นสองส่วน ส่วนล่างถึงลาคอ แลว้ แบง่ ผมออกเป็นสองช่อยกสูง ตอนท่ีพบั น้นั ชโลมน้ายาจดั ทรงผมพร้อมกบั จดั ใหเ้ รียบ ยกสูงข้ึนเล็กนอ้ ย แลว้ พบั จากน้นั รวมกนั เป็นช่อเดียว แลว้ ยอ้ นกลบั ไปดา้ นหนา้ ใชเ้ ชือกมดั ใหแ้ น่นจากโคนผมจากน้นั สอดแถบเหลก็ สาหรับจดั ทรง แลว้ นาเส้นผมพนั รอบแถบเหลก็ น้นั ไว้ ใหเ้ ป็นรูปตวั T แลว้ คอ่ ยประดบั ดว้ ยดอกไม้ ลูกปัด และพหู่ อ้ ยหรือตุง้ ติ้ง ภายหลงั ในสมยั เสียนเฟิ งฮอ่ งเต้ (ก่อนสมยั ซูสีไทเฮา) ผมทรงน้ีก็ค่อยๆมีขนาดใหญข่ ้ึน แกละท้งั สองขา้ งกม็ ีขนาดใหญข่ ้ึนเรื่อยๆ จึงนาแถบรูปพดั สีดามาประดบั ให้ปี กผมท้งั สองขา้ งกวา้ งข้ึน แลว้ เรียกวา่ ฉีโถว หรือ กวนจวง ซ่ึงเรารู้จกั กนั ในนาม ตา้ ลาเช่อ การไว้ทรงผมของสตรีช้ันสูง (แบบทรงหมวกปี กกว้าง) การไว้ผมทรงสองแกละ

10 เครื่องแต่งกายของชนเผ่าแมนจู เคร่ืองแต่งกาย แบบด้งั เดิมของชาวแมนจูประกอบดว้ ย หม่ากวา้ (เส้ือกก๊ั ตวั ส้นั ท่ีสวมทบั ชุดยาว)ขน่ั เจียน (เส้ือกก๊ั แขนกุด) ซนั (เส้ือ) ผาว (เส้ือคลุมยาว) เชิ้นอี (เส้ือช้นั ใน) ฉ่างอี (เส้ือยาวผา่ ขา้ ง) ทา่ วคู่(กางเกง) เป็นตน้ เส้ือและเส้ือคลุมยาวรู้จกั กนั ในช่ือเรียกปัจจุบนั วา่ กี่เพา้ (ฉีผาว) ซ่ึงเป็นเคร่ืองแตง่ กายท่ีสะทอ้ นความเป็นชาวแมนจูมากที่สุด ในช่วงทศวรรษท่ี 1930 หญิงชายชาวแมนจจู ะสวมเส้ือคลุมยาวทรงกระบอกหนา้ กวา้ งแขนกวา้ ง ก่ีเพา้ ของสตรียาวถึงน่อง ประดบั ดว้ ยลวดลายดอกไมห้ รือตน้ หญา้ อยา่ งงดงาม กี่เพา้ ของบุรุษยาวถึงขอ้ เทา้ ไม่ประดบั ลวดลาย หลงั จากทศวรรษที่ 1940 ดว้ ยอิทธิพลของกระแสเครื่องแตง่ กายสมยั นิยมแบบใหม่จากท้งั ในและต่างประเทศ ก่ีเพา้ ของบุรุษจึงถูกยกเลิกไป ส่วนกี่เพา้ ของสตรีปรับจากแขนกวา้ งเป็นแขนแคบ ทรงกระบอกปรับเป็ นทรงเขา้ รูป เก็บชายเส้ือ และความยาวปรับยาวถึงขอ้ เทา้ การแต่งกายของชนเผ่าแมนจู เคร่ืองแต่งกายของชาวแมนจูและบรรพบุรุษของพวกเขาไดเ้ ป็นส่วนหน่ึงที่สร้างความหลากหลายแก่วฒั นธรรมการแตง่ กายของชนชาติจีน ชุดกี่เพา้ และเส้ือกกั๊ แขนกุดที่เป็ นท่ีรู้จกั กนั อยา่ งดีน้นั ไดร้ ับความนิยมแพร่หลายในกลุ่มชาวจีนในยคุ ใกลแ้ ละยคุ ใหม่ ท้งั ยงั กลายเป็นตวั แทนเคร่ืองแตง่ กายตามแบบฉบบั ของชาวจีนโดยปริยาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook