บทท่ี 1 ประเภทและการใชห้ นงั สือราชการภาษาองั กฤษ 1. ประเภทของหนังสือราชการภาษาองั กฤษ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และระเบียบสานัก นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยงานสารบรรณ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2548 ภาคผนวก 4 หนงั สือราชการภาษาองั กฤษ แบ่ง ออกไดเ้ ป็ น 2 ประเภท คือ หนงั สือที่ลงช่ือและหนงั สือท่ีมิตอ้ งลงชื่อ (สานกั งานปลดั สานกั นายกรัฐมนตรี 2526, 2548) 1.1 หนังสือทล่ี งช่ือ มี 3 ชนิด ไดแ้ ก่ 1.1.1 หนงั สือราชการที่เป็นแบบพิธี (First Person Formal Note) 1.1.2 หนงั สือราชการท่ีไม่เป็นแบบพธิ ี (First Person Informal Note) 1.1.3 หนงั สือกลาง (Third Person Note หรือ Note Verbale) 1.2 หนังสือทม่ี ติ ้องลงชื่อ มี 2 ชนิด ไดแ้ ก่ 1.2.1 บนั ทึกช่วยจา (Aide-Memoire) 1.2.2 บนั ทึก (Memorandum) แผนภูมิท่ี 1.1 แผนภูมสิ รุปประเภทของหนังสือราชการภาษาองั กฤษ หนังสือราชการภาษาอังกฤษ หนงั สือที่ลงช่ือ หนงั สือท่ีมติ ้องลงชื่อ หนงั สือราชการ หนงั สือราชการ หนงั สือกลาง ที่เป็นแบบพธิ ี ท่ีไมเ่ ป็นแบบพิธี แบบท่ีใช้ในการตดิ ตอ่ ทางการทตู บนั ทกึ ชว่ ยจา บนั ทกึ ระหวา่ งสว่ นราชการไทยกบั สว่ น ราชการตา่ งประเทศหรือ องคก์ ารระหวา่ งประเทศ แบบท่ีใช้ในการตดิ ตอ่ ระหวา่ ง สว่ นราชการไทยกบั หนว่ ยงานทว่ั ไป 1
2. การใช้หนังสือราชการภาษาองั กฤษ ระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยงานสารบรรณ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2548 ภาคผนวก 4 หนงั สือราชการภาษาองั กฤษ กาหนดการใชห้ นงั สือ ราชการแต่ละประเภทไวด้ งั ต่อไปน้ี (สานกั งานปลดั สานกั นายกรัฐมนตรี 2526, 2548) 2.1 หนังสือทล่ี งช่ือ 2.1.1 หนังสือราชการทเ่ี ป็ นแบบพธิ ี (First Person Formal Note) มี 2 แบบ คือ แบบที่ใชใ้ นการ ติดต่อทางการทูตระหวา่ งส่วนราชการไทยกบั ส่วนราชการต่างประเทศหรือองคก์ ารระหว่างประเทศ และ แบบที่ใช้ในการติดต่อระหว่างส่วนราชการไทยกบั หน่วยงานทวั่ ไป เป็ นหนงั สือที่เขียนโดยใชส้ รรพนาม บุรุษที่ 1 และตอ้ งลงช่ือ โดยปกติหวั หนา้ ส่วนราชการจะเป็นผลู้ งช่ือเอง ใชใ้ นเรื่องราชการสาคญั เช่น เร่ืองที่ เกี่ยวกบั นโยบายสาคญั ของรัฐบาล เร่ืองท่ีเป็นการแสดงอธั ยาศยั ไมตรี เรื่องท่ีขอความช่วยเหลือหรือขอความ สะดวกเป็นพเิ ศษ เป็นตน้ โดยปกติหนงั สือที่ส่วนราชการไทยใชต้ ิดต่อกบั หน่วยงานเอกชน จะเป็ นหนงั สือราชการที่ไม่ เป็ นแบบพิธี (First Person Informal Note) แต่ถา้ เป็ นเร่ืองราชการสาคญั เช่น เร่ืองที่เกี่ยวกบั นโยบายต่อ กิจการน้นั ๆ หรือกรณีท่ีเห็นเหมาะสม จะใชห้ นงั สือราชการท่ีเป็นแบบพธิ ีดว้ ยก็ได้ 2.1.2 หนังสือราชการทีไ่ ม่เป็ นแบบพิธี (First Person Informal Note) มีแบบเดียว แต่ใชไ้ ดใ้ น 2 กรณี คือ ส่วนราชการไทยมีไปถึงส่วนราชการต่างประเทศหรือองคก์ ารระหวา่ งประเทศ และส่วนราชการ ไทยมีไปถึงหน่วยงานเอกชน เป็นหนงั สือที่เขียนโดยใชส้ รรพนามบุรุษที่ 1 และตอ้ งลงช่ือ ใชส้ าหรับเร่ืองที่ มีความสาคญั ลดหลนั่ มาจากหนงั สือราชการท่ีเป็ นแบบพิธี (First Person Formal Note) เช่น การสืบถาม ขอ้ ความ หรือขอทราบขอ้ เทจ็ จริงบางประการ ซ่ึงยงั ไม่ถึงข้นั ท่ีจะตอ้ งทาเป็ นหนงั สือราชการท่ีเป็ นแบบพิธี หรือการทาบทามขอความเห็นอยา่ งไม่เป็ นทางการ หรือการร้องขอความช่วยเหลือในเร่ืองราชการ เป็ นตน้ นอกจากน้นั อาจใช้หนงั สือประเภทน้ีติดต่อกบั ส่วนราชการต่างประเทศ หรือองคก์ ารระหวา่ งประเทศ ใน กรณีท่ีประสงคจ์ ะเนน้ ความสัมพนั ธ์ส่วนบุคคล 2.1.3 หนังสือกลาง (Third Person Note หรือ Note Verbale) คือ หนงั สือราชการที่ใชส้ รรพ นามบุรุษท่ี 3 และประทบั ตราช่ือส่วนราชการ โดยหัวหน้าส่วนราชการระดบั กองหรือผูท้ ี่หัวหน้าส่วน ราชการระดบั กรมข้ึนไปมอบหมาย เป็ นผูร้ ับผดิ ชอบลงชื่อย่อกากบั ตรา โดยปกติหนงั สือประเภทน้ี ถา้ เป็ น เร่ืองสาคญั ควรจะไดร้ ับความเห็นชอบจากหวั หนา้ ส่วนราชการระดบั กรมข้ึนไปหรือผทู้ ่ีมอบหมาย ก่อนลง ชื่อย่อกากบั ตรา หนงั สือน้ีจะใช้สาหรับเร่ืองท่ีมีลกั ษณะเป็ นเรื่องประจาวนั (routine) แต่จะมีผลผูกพนั เช่นเดียวกนั กบั หนงั สือ First Person Formal Note และ First Person Informal Note หนงั สือประเภทน้ีเป็ น หนงั สือท่ีส่วนราชการไทยใชต้ ิดต่อกบั ส่วนราชการต่างประเทศหรือองคก์ ารระหวา่ งประเทศ โดยทว่ั ไปให้ เขียนจากหน่วยงานถึงหน่วยงาน แตใ่ นบางกรณีอาจเขียนจากตาแหน่งถึงตาแหน่งก็ได้ ในหลกั การใหถ้ ือเป็นแนวปฏิบตั ิวา่ หนงั สือที่มีมาถึงเป็นประเภทใด ก็พึงตอบเป็นประเภทน้นั 2
2.2 หนังสือทม่ี ิต้องลงช่ือ 2.2.1 บันทึกช่วยจา (Aide-Memoire) คือ หนังสือท่ีใช้สาหรับยืนยนั ขอ้ ความในเรื่องที่ได้ สนทนา เช่น ช้ีแจงขอ้ เทจ็ จริง ขอร้องเรื่องต่าง ๆ หรือประทว้ งดว้ ยวาจาหรือแสดงท่าทีใหอ้ ีกฝ่ ายหน่ึงทราบ โดยปกติใชย้ นื่ ใหแ้ ก่อีกฝ่ ายหน่ึง หรืออาจส่งไปโดยมีหนงั สือนาส่งกไ็ ด้ 2.2.2 บันทึก (Memorandum) คือ หนงั สือท่ีใชส้ าหรับแถลงรายละเอียดหรือแสดงขอ้ เทจ็ จริง ใหค้ วามเห็นหรือโตแ้ ยง้ หรือแสดงทา่ ที โดยปกติใชย้ น่ื ใหแ้ ก่อีกฝ่ ายหน่ึง หรืออาจส่งไปโดยมีหนงั สือนาส่ง ก็ได้ 3
ตารางท่ี 1.1 สรุปการใช้หนังสือราชการภาษาอังกฤษ 2.1 หนังสือทล่ี งช่ือ ผ้รู ับหนังสือ สรรพนาม การลงชื่อ/ หมายเลข ชนิด การใช้หนังสือ แทนผู้เขียน ผู้ลงชื่อ หนังสือ ตวั อย่าง 2.1.1 แบบที่ 1 ใชใ้ นการติดต่อ ส่วนราชการ สรรพนาม ตอ้ งลงช่ือ 1 และ 2 ทเี่ ป็ น ทางการทูตระหวา่ งส่วน ตา่ งประเทศ บุรุษท่ี 1 โดยปกติ แบบพธิ ี ราชการไทยกบั ส่วน หวั หนา้ ส่วน ราชการตา่ งประเทศหรือ องคก์ าร ราชการลงช่ือ องคก์ ารระหวา่ งประเทศ ระหวา่ ง เอง อาทิ ประเทศ เร่ืองราชการสาคญั เช่น เรื่องท่ีเก่ียวกบั นโยบายสาคญั ของ รัฐบาล เร่ืองท่ีเป็นการแสดง อธั ยาศยั ไมตรี เร่ืองที่ขอความ ช่วยเหลือหรือขอ ความสะดวกเป็ น พเิ ศษ เป็นตน้ แบบท่ี 2 ใชใ้ นการติดต่อ หน่วยงาน สรรพนาม ตอ้ งลงชื่อ 1 และ 2 ระหวา่ งส่วนราชการไทย ทวั่ ไป บุรุษที่ 1 (โดยปกติ กบั หน่วยงานทวั่ ไป หวั หนา้ ส่วน ใชใ้ นเรื่องตา่ งๆ สรรพนาม ราชการลงชื่อ บุรุษท่ี 1 เอง) เช่นเดียวกบั แบบที่ 1 อาจใชต้ ิดตอ่ กบั หน่วยงาน ตอ้ งลงช่ือ (โดยปกติ หน่วยงานเอกชนใน เอกชน หวั หนา้ ส่วน เรื่องราชการสาคญั 4
ชนิด การใช้หนังสือ ผ้รู ับหนังสือ สรรพนาม การลงช่ือ/ หมายเลข หนังสือ แทนผ้เู ขียน ผู้ลงช่ือ ราชการลงช่ือ ตัวอย่าง เอง) เช่น เรื่องท่ีเกี่ยวกบั นโยบายต่อกิจการ น้นั ๆ หรือกรณีที่เห็น เหมาะสม 2.1.2 1) ส่วนราชการไทยมีไป ส่วนราชการ สรรพนาม ตอ้ งลงช่ือ 3 และ 4 ทไี่ ม่เป็ น ถึงส่วนราชการ ตา่ งประเทศ บุรุษท่ี 1 แบบพธิ ี ตา่ งประเทศหรือองคก์ าร ระหวา่ งประเทศ องคก์ าร 2) ส่วนราชการไทยมีไป ระหวา่ ง ถึงหน่วยงานเอกชน ประเทศ ใชส้ าหรับเร่ืองที่มี หน่วยงาน ความสาคญั ลดหลนั่ เอกชน มาจากหนงั สือ ราชการท่ีเป็ นแบบพธิ ี เช่น การสืบถาม ขอ้ ความ หรือขอ ทราบขอ้ เทจ็ จริง บางประการ การทาบทามขอ ความเห็นอยา่ งไม่ เป็ นทางการ การร้องขอความ ช่วยเหลือในเรื่อง ราชการ เป็ นตน้ กรณีท่ีประสงคจ์ ะ เนน้ ความสัมพนั ธ์ ส่วนบุคคล 5
ชนิด การใช้หนังสือ ผ้รู ับหนังสือ สรรพนาม การลงชื่อ/ หมายเลข หนังสือ แทนผ้เู ขียน ผ้ลู งชื่อ ตวั อย่าง 2.1.3 ส่วนราชการไทยใช้ ส่วนราชการ สรรพนาม ประทบั ตราช่ือ 5 และ 6 หนังสือ ติดต่อกบั ส่วนราชการ ต่างประเทศ บุรุษท่ี 3 ส่วนราชการ กลาง ตา่ งประเทศหรือองคก์ าร โดยหวั หนา้ ระหวา่ งประเทศ องคก์ าร ส่วนราชการ ระหวา่ ง ระดบั กองหรือ โดยทวั่ ไป เขียนจาก ประเทศ ผทู้ ่ีหวั หนา้ ส่วน หน่วยงานถึง ราชการระดบั หน่วยงาน แตใ่ นบาง กรมข้ึนไป กรณีอาจเขียนจาก มอบหมาย เป็น ตาแหน่งถึงตาแหน่งก็ ผรู้ ับผดิ ชอบลง ได้ ชื่อกากบั ตรา ใชส้ าหรับเร่ืองท่ีมี ลกั ษณะเป็นเร่ือง ประจาวนั (routine) และมีผลผกู พนั เช่นเดียวกบั 2.1.1 และ 2.1.2 6
2.2 หนังสือทม่ี ิต้องลงชื่อ ผ้รู ับหนังสือ สรรพนาม การลงช่ือ/ หมายเลข ชนิด การใช้หนังสือ แทนผู้เขียน ผ้ลู งช่ือ ตัวอย่าง หนังสือ 2.2.1 ใชย้ นื ยนั ขอ้ ความใน - - ไม่ลงช่ือ 7 และ 8 บนั ทกึ เร่ืองท่ีไดส้ นทนา เช่น ช่วยจา ช้ีแจงขอ้ เทจ็ จริง ขอร้องเรื่องตา่ งๆ ประทว้ งดว้ ยวาจา หรือแสดงทา่ ทีให้ อีกฝ่ ายทราบ โดย ปกติใชย้ น่ื ใหแ้ ก่อีก ฝ่ ายหน่ึง หรืออาจ ส่งไปโดยมีหนงั สือ นาส่ง 2.2.2 ใชแ้ ถลงรายละเอียด - - ไม่ลงชื่อ 9 และ 10 บันทกึ หรือแสดงขอ้ เทจ็ จริง ใหค้ วามเห็นหรือ โตแ้ ยง้ หรือแสดง ท่าที โดยปกติใชย้ น่ื ใหแ้ ก่อีกฝ่ ายหน่ึง หรืออาจส่งไปโดยมี หนงั สือนาส่ง 7
บทที่ 2 สว นประกอบของหนงั สอื ราชการภาษาองั กฤษ รายละเอยี ดเกี่ยวกบั สวนประกอบของหนังสอื ราชการภาษาองั กฤษแตล ะชนดิ น้ัน ไดกําหนดไวใน ภาคผนวก 4 ของระเบยี บสาํ นักนายกรฐั มนตรีวาดว ยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ดงั ตอ ไปน้ี หนังสอื ราชการภาษาอังกฤษท่เี ปนแบบพิธี (First Person Formal Note) และหนงั สอื ราชการภาษาอังกฤษท่ีไมเปน แบบพิธี (First Person Informal Note) มสี ว นประกอบดังน้ี 1. เลขที่ ใหร ะบหุ มายเลขประจาํ ของสว นราชการเจาของเรอื่ ง ทับเลขทะเบียนหนังสือออกท่วั ไป หลงั No. 2. สวนราชการเจาของหนงั สอื ใหร ะบุชอ่ื สว นราชการเจาของหนงั สือพรอมสถานทีต่ ้งั หมายเลขโทรศพั ทแ ละหมายเลข โทรสาร (ถา ม)ี เพือ่ ประโยชนในการติดตอ 3. วนั เดือนป ใหร ะบตุ ัวเลขของวันท่ี (โดยไมต อ งมี st, nd, rd หรือ th) ชือ่ เตม็ ของเดอื น ตามดวย B.E. และ ตวั เลขของปพ ุทธศักราชในกรณีท่มี ีหนังสอื ถึงหนวยงานท่ีอยใู นตา งประเทศ ใหเ พ่มิ ตัวเลขปครสิ ตศักราชไว ภายในวงเล็บตอทา ยตัวเลขปพ ทุ ธศักราชดวย 4. คําขึน้ ตน ใหใ ชคาํ ขน้ึ ตน ตามตําแหนงของผูรบั หนังสือ ตามท่ีปรากฏในตารางท่ี 3.1 หรือตารางที่ 3.2 (ดู บทท่ี 3) 5. ขอ ความ ใหลงสาระสาํ คัญของเร่อื งใหชดั เจนและเขาใจงา ย สําหรบั หนังสอื ราชการท่เี ปนแบบพิธี ให ขน้ึ ตน ดวย I have the honour to …. ถา จะมปี ระเดน็ ของเร่ือง หรือ Subject ใหจ ัดพมิ พไวกึ่งกลางของ หนงั สอื กอ นเรมิ่ ตนขอความ และจะขดี เสนใตกไ็ ด 6. สงิ่ ที่สงมาดว ย ถามสี ่ิงทีส่ งมาดวย ใหใชเครือ่ งหมายมหัพภาค (period) 5 ตําแหนง นําหนาบรรทัดที่ระบถุ งึ ส่งิ ท่ีสง มาดว ยในขอความ 1
7. คําลงทา ย ใหใ ชคําลงทายตามตําแหนง ของผรู บั หนังสอื ตามท่ีปรากฏในตารางที่ 3.1 หรือตารางที่ 3.2 (ดู บทท่ี 3) 8. ลงชอื่ ใหลงลายมือชอ่ื เจาของหนงั สอื และพมิ พช ื่อเต็มของผูลงชอ่ื ไวใ ตล ายมือชอ่ื ในกรณีทีผ่ ลู งชอ่ื เปน ผูมียศ และหรือบรรดาศักด์ิ ใหพิมพยศและหรอื บรรดาศกั ดข์ิ องผลู งชื่อไวหนาช่ือ 9. ตาํ แหนง ใหล งตําแหนงของเจาของหนงั สือ ถาเปน การลงช่ือแทนกรณีรกั ษาราชการแทน รักษาการแทน รกั ษาการในตําแหนง หรือปฏิบตั ริ าชการแทน ทําการแทน ใหวางรูปดงั นี้ 9.1 กรณีรักษาราชการแทน รักษาการแทน รกั ษาการในตําแหนง ใหพมิ พช ่ือและตําแหนงของ ผูท ่ีลงช่อื แทนตามดวยคําวา Acting และตําแหนงของหัวหนา สว นราชการน้ัน ๆ ตัวอยาง ...........................(ลงชอื่ )………………... Saroj Chavanaviraj Deputy Permanent Secretary Acting Permanent Secretary 9.2 กรณีปฏิบัติราชการแทน ทําการแทน มีวิธีการลงตําแหนงผูลงชื่อไดหลายแบบ สวน ราชการสามารถเลอื กใชไดต ามความเหมาะสม ไดแ ก 9.2.1 พมิ พชือ่ และตําแหนงของผูท่ีลงช่ือแทน ตามดวยคาํ วา for และตําแหนง ของหัวหนา สวนราชการนัน้ ๆ ตวั อยาง ...........................(ลงชื่อ)….…………... Saroj Chavanaviraj Deputy Permanent Secretary for Permanent Secretary 9.2.2 พมิ พช อ่ื และตาํ แหนงของหวั หนา สว นราชการไวเม่อื ผลู งช่อื แทนลงชือ่ แลว เขยี น for เติมหนา ชอื่ หวั หนาสว นราชการนั้น ๆ 2
ตัวอยา ง ...........................(ลงช่อื )….…………... for M.R. Thep Devakula Permanent Secretary 9.2.3 พมิ พต าํ แหนง ของหวั หนาสวนราชการ โดยมี for อยหู นา ตาํ แหนงน้ัน ๆ ตัวอยาง ...........................(ลงชอื่ )….…………... for Permanent Secretary 10. ช่ือ ตําแหนง และสถานทข่ี องผรู ับ ใหพ มิ พช ่อื ตาํ แหนง และสถานทข่ี องผูรับไวดา นลางมมุ ซายของหนา แรก ชิดแนวก้นั หนา โดยไมต อ งมีจุลภาค (comma) หรอื มหพั ภาค (period) เมื่อจบบรรทดั และไมตอ งขีดเสน ใตช่ือเมอื งหรือชอ่ื ประเทศ (ชือ่ ประเทศใหใชตามทกี่ ําหนดไวในราชกิจจานเุ บกษาหรอื ตามความนิยม) หากมีรหสั ไปรษณยี (Post Code) กใ็ หใสดว ย ท้งั น้ใี หอยูในดลุ พินิจวา จะลงรายละเอียดเพยี งใดทีจ่ ะสามารถติดตอ ได หนงั สือกลาง (Third Person Note หรอื Note Verbale) มีสว นประกอบท่ีเปนรายละเอียด ดงั นี้ 1. เลขท่ี ใหระบุหมายเลขประจาํ ของสว นราชการเจาของเรอื่ ง ทบั เลขทะเบยี นหนังสอื ออกทว่ั ไป หลัง No. 2. ขอความ ใหลงสาระสําคัญของเร่ืองใหช ัดเจนและเขา ใจงาย การขึ้นตน ขอ ความ โดยท่ัวไปใหเขียน จากสถานทถี่ งึ สถานที่ และตามดวยวลีวา and has the honour to …. ตัวอยา ง The Ministry of Foreign Affairs presents its compliments to the British Embassy and has the honour to …. 3
ในกรณที ี่จะเพ่ิมความสาํ คัญของหนังสือข้นึ ไปอีกระดับหน่งึ หรือในกรณที มี่ ธี รรมเนียมปฏิบตั ิ เฉพาะทอ งถนิ่ ฯลฯ อาจเขียนจากตาํ แหนง ถึงตาํ แหนง ก็ได ตวั อยาง The Ambassador of Thailand presents his compliments to the Minister of Foreign Affairs of …. หนังสือกลางควรใชเฉพาะสรรพนามบุรุษท่ี 3 เทา นน้ั และไมค วรมีขอความทเี่ ขียนจากสถานท่ี ถงึ ตําแหนง หรือจากตําแหนงถึงสถานท่ี 3. สิง่ ทส่ี งมาดวย ถา มสี ่งิ ทีส่ ง มาดวย ใหใชเคร่ืองหมายมหัพภาค (period) 5 ตําแหนง นําหนาบรรทัดทร่ี ะบุ ถงึ สงิ่ ทส่ี ง มาดว ยในขอ ความ 4. คําลงทา ย ใหใชคําลงทายดังน้ี .....(ชือ่ สว นราชการหรอื ตาํ แหนง เจา ของหนังสอื )….. avails itself of this opportunity to renew (หรอื to extend ในการติดตอครัง้ แรก) to .….(ช่อื สวนราชการหรอื ตาํ แหนงผูร บั หนงั สือ)….. the assurances of its (highest/high) consideration. ในกรณีท่ีใชภาษาตางประเทศอื่น ทม่ี ิใชภาษาองั กฤษ หากหนังสอื ทีส่ งมามคี าํ ลงทา ยกใ็ หมี คาํ ลงทา ยตอบ หากไมม คี ําลงทายกไ็ มจ ําเปนตอ งมคี ําลงทา ยตอบ 5. สว นราชการเจา ของหนังสอื ใหร ะบชุ ่อื สวนราชการเจาของหนงั สอื พรอมสถานทตี่ งั้ 6. ตราชอื่ สว นราชการ ใหประทับตราชอ่ื สว นราชการเจาของหนงั สอื ดวยหมึกแดง และใหผ รู ับผิดชอบลงลายมอื ชื่อยอ กํากบั ตรา 7. วนั เดอื นป ใหระบุตัวเลขของวันที่ (โดยไมตองมี st, nd, rd หรือ th) ชื่อเต็มของเดอื น แลวตามดวย B.E. และตวั เลขของปพ ุทธศกั ราช ในกรณีท่ีมหี นงั สอื ถงึ หนวยงานทีอ่ ยูในตางประเทศ ใหเพ่มิ ตัวเลข ปครสิ ตศักราชไวภ ายในวงเล็บตอ ทายตัวเลขปพทุ ธศกั ราชดวย 8. ช่อื สถานท่หี รอื ตาํ แหนง ของผูรบั ใหพ ิมพชือ่ สถานทห่ี รือตําแหนงของผรู บั ไวด า นลา งมมุ ซายของหนาแรกชิดแนวก้ันหนา โดยไมตองมจี ลุ ภาค (comma) หรอื มหัพภาค (period) เมอื่ จบบรรทดั 4
บนั ทึกชวยจํา (Aide-Memoire) บนั ทกึ ชว ยจาํ เปน หนังสือท่ไี มม เี ลขท่ี ไมมีคําข้นึ ตนและคาํ ลงทาย ไมตอ งประทบั ตรา ไมตอ ง ลงชื่อและไมใ ชสรรพนามบุรุษท่ี 1 และท่ี 2 มีสวนประกอบทีเ่ ปนรายละเอยี ด ดังนี้ 1. AIDE-MEMOIRE ใหพิมพคาํ วา AIDE-MEMOIRE กลางหนา กระดาษ 2. ขอความ ใหล งสาระสาํ คญั ของเร่ืองใหชดั เจนและเขา ใจงาย 3. ส่งิ ทสี่ งมาดว ย ถามีส่งิ ท่สี ง มาดว ย ใหใ ชเคร่ืองหมายมหพั ภาค (period) 5 ตาํ แหนง นาํ หนา บรรทัดท่รี ะบุ ถึงสิ่งที่สง มาดวยในขอ ความ 4. สว นราชการเจา ของหนงั สอื ใหระบุชอ่ื สวนราชการเจาของหนงั สอื พรอมสถานที่ตัง้ 5. วันเดอื นป ใหร ะบุตัวเลขของวนั ท่ี (โดยไมตองมี st, nd, rd หรือ th) ช่ือเต็มของเดอื น แลว ตามดวย B.E. และตวั เลขของปพุทธศกั ราช ในกรณที ีม่ ีหนงั สือถงึ หนวยงานที่อยูในตางประเทศ ใหเพมิ่ ตัวเลข ปค รสิ ตศักราชไวภายในวงเลบ็ ตอ ทา ยตัวเลขปพทุ ธศักราชดว ย 5
บนั ทึก (Memorandum) บนั ทึกเปนหนงั สอื ที่ไมมเี ลขที่ ไมม ีคาํ ข้นึ ตนและคาํ ลงทาย ไมตองประทับตรา ไมตอ งลงชอ่ื และไมใชส รรพนามบุรุษท่ี 1 และที่ 2 มสี วนประกอบท่ีเปนรายละเอยี ดดงั น้ี 1. MEMORANDUM ใหพ ิมพค าํ วา MEMORANDUM ไวก ลางหนากระดาษ 2. ขอ ความ ใหลงสาระสําคญั ของเรอื่ งใหช ดั เจนและเขาใจงาย 3. ส่ิงท่สี งมาดวย ถา มสี ่ิงทีส่ งมาดวย ใหใชเ คร่ืองหมายมหัพภาค (period) 5 ตําแหนง นําหนา บรรทัดท่ีระบุ ถึงสง่ิ ท่สี ง มาดวยในขอ ความ 4. สวนราชการเจา ของหนงั สอื ใหร ะบชุ ่ือสว นราชการเจาของหนงั สือพรอมสถานทีต่ งั้ 5. วันเดอื นป ใหร ะบตุ ัวเลขของวันที่ (โดยไมต อ งมี st, nd, rd หรอื th) ชอื่ เต็มของเดอื น แลว ตามดว ย B.E. และตัวเลขของปพุทธศักราช ในกรณีท่ีมีหนงั สือถึงหนว ยงานทีอ่ ยูในตางประเทศใหเพม่ิ ตัวเลข ปค รสิ ตศกั ราชไวภายในวงเล็บตอทา ยตอ เลขปพทุ ธศกั ราชดวย 6
บทท่ี 3 คาํ ขน้ึ ตน คาํ ลงทา ย ชื่อตําแหนงและสถานทข่ี องผูรบั ในหนังสือราชการภาษาอังกฤษ ภาคผนวก 4 ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดว ยงานสารบรรณ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2548 (สํานกั นายกรัฐมนตรี 2526, 2548) ไดกําหนดเกี่ยวกับคําขึ้นตน คําลงทาย ชื่อตําแหนงและสถานท่ีของผูรับซ่ึงใชใน หนงั สือราชการภาษาอังกฤษ โดยแบงเปน (1) คาํ ขึ้นตน คําลงทา ย ชอ่ื ตําแหนงและสถานทข่ี องผูรับ ซึ่งใชในหนงั สือราชการภาษาอังกฤษที่เปนแบบพิธี (ดังปรากฏในตารางท่ี 3.1) และ (2) คําข้ึนตน คาํ ลงทา ย ช่ือตําแหนงและสถานทีข่ องผูรบั ซ่ึงใชในหนังสือราชการภาษาอังกฤษท่ีไมเปนแบบพิธี (ดงั ปรากฏในตารางท่ี 3.2) ตอไปนี้ 1
ตารางท่ี 3.1 คาํ ข้ึนตน คําลงทาย ตาํ แหนง และสถาน ลาํ ดับท่ี ถงึ คําข้นึ ตน คําลงทา ย 1 ประธานาธิบดี Excellency, Accept, Excellency, the assurances of my highest consideration. 2 นายกรัฐมนตรี Excellency, Accept, Excellency, the assurances of my highest consideration. 3 รัฐมนตรี Excellency, Accept, Excellency, the assurances of my highest consideration. 2
นท่ีของผูรับ ซึง่ ใชในหนังสือราชการท่ีเปน แบบพธิ ี ชอ่ื ตําแหนง และสถานทีข่ องผูรบั หมายเหตุ His Excellency - ถาผูรบั เปน สตรี ใหเ ปลี่ยน Mr. ……(Name)……. His Excellency เปน Her President of … (Country)… Excellency และเปลี่ยนคาํ นํา (City) (Post Code) หนา นามเปน Madam และ (Country) ถาเปน คณะบคุ คลใหใช Sirs, His Excellency หรือ Madams, แลวแตกรณี Mr. …..(Name)….. ยกเวน ลาํ ดบั ท่ี 14 กรณมี ี Prime Minister of ….(Country)… หนังสือไปถงึ เอกชนใหเปล่ยี น (City) (Post Code) Mr. เปน Ms. (Country) His Excellency - ถาผูรบั มียศทางทหาร เชน Mr. …..(Name)….. General หรือคาํ นําหนา อ่ืน เชน Prime Minister of ….(Country)… Dr. ก็ใหใชแทน Mr. หรือ (City) (Post Code) Madam ได (Country) 2
ลําดบั ท่ี ถงึ คําขึ้นตน คาํ ลงทาย 4 เอกอคั รราชทตู Excellency, Accept, Excellency, the assurances of my highest consideration. 5 เอกอคั รราชทูต Excellency, Accept, Excellency, ทม่ี บี รรดาศกั ด์ิ the assurances of my highest consideration. 6 อปุ ทูต ad hoc Sir, Accept, Excellency, the assurances of my highest consideration. 3
ชอ่ื ตําแหนง และสถานทีข่ องผรู ับ หมายเหตุ His Excellency Mr. ……(Name)……. - สาํ หรับประเทศทมี่ ีการ Ambassador Extraordinary and กาํ หนดบรรดาศักด์ิ Plenipotentiary of … (Country)… นําหนาชือ่ เชน Sir Embassy of….(Country)…. …………………. (City) (Post Code) ………………….. (Country) His Excellency Sir. …..(Name)….. Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary of ….(Country)… Embassy of …..(Country)…. (City) (Post Code) (Country) Mr…….(Name) Charge d’ Affaires of ….(Country) Embassy of ….(Country)… (City) (Post Code) (Country) 3
ลําดบั ท่ี ถึง คาํ ขึ้นตน คาํ ลงทาย 7 อปุ ทตู ad interim Sir, Accept, Sir, the assurances of my high consideration. 8 กงสุลใหญ Sir, Accept, Sir, กงสุลใหญกติ ติมศกั ดิ์ the assurances of my highest consideration. 9 กงสลุ Sir, Accept, Sir, กงสลุ กิตตมิ ศกั ด์ิ the assurances of my highest consideration. 4
ช่อื ตาํ แหนง และสถานทขี่ องผูรบั หมายเหตุ Mr…….(Name) Charge d’ Affaires a.i. of ….(Country)…… * สําหรับการจา หนาซอง Embassy of ….(Country)… ถงึ กงสุลใหญก ิตตมิ ศักด์ิ (City) (Post Code) ใช Honourary (Country) Consul-General Mr…….(Name) of….(Country)…. Consul-General of ….(Country)……* ** สาํ หรบั การจาหนา ซอง The Consulate-General of …(Country)… ถงึ กงสลุ กิตตมิ ศกั ดิใ์ ช (City) (Post Code) (Country) Honourary Consul of…..(Country)…. Mr…….(Name) Consul-General of ….(Country)……** The Consulate-General of …(Country)… (City) (Post Code) (Country) 4
ลําดับที่ ถึง คาํ ขึ้นตน คําลงทาย Sir, Very truly yours, 10 กงสุลกติ ตมิ ศักด์ิ หรอื ของไทย Yours very truly, 11 เลขาธิการ Excellency, Accept, Excellency, สหประชาชาติ the assurances of my highest consideration. 12 หวั หนาองคก าร Sir, Accept, Sir, ระหวา งประเทศ the assurances of my highest consideration. 5
ช่ือ ตาํ แหนง และสถานท่ขี องผูรบั หมายเหตุ Mr…….(Name) Consul of ….(Country)…… Embassy of ….(Country)… (City) (Post Code) (Country) His Excellency Mr. …(Name)….. Secretary-Genreal The United Nations (City) (Post Code) (Country) Mr…….(Name) …..(Title)…. …(Organisation)… (City) (Post Code) (Country) 5
ลําดับท่ี ถึง คําขนึ้ ตน คําลงทา ย Sir, Very truly yours, 13 องคการ บริษทั หรือ หรือคณะบคุ คล Yours very truly, 14 เอกชน Sir, Very truly yours, หรอื Yours very truly, 6
ชอ่ื ตําแหนง และสถานท่ีของผรู บั หมายเหตุ (Division) (Organisation) (Address) (City) (Post Code) (Country) Mr. …(Name)….. ……(Title)…..of ….(Organisation)…. (City) (Post Code) (Country) 6
ตารางท่ี 3.2 คาํ ขน้ึ ตน คาํ ลงทาย ตาํ แหนง และสถานท ลําดับท่ี ถงึ คําข้นึ ตน คําลงทา ย Yours sincerely 1 ประธานาธบิ ดี Dear Mr. President, หรอื 2 นายกรฐั มนตรี Dear Mr. Prime Miniser, Sincerely yours Yours sincerely หรือ Sincerely yours 3 รัฐมนตรี Dear Mr. Minister, Yours sincerely หรือ Sincerely yours 7
ที่ของผรู ับ ซ่ึงใชในหนังสือราชการที่ไมเ ปน แบบพิธี ช่ือ ตาํ แหนง และสถานท่ีของผูรับ หมายเหตุ y, His Excellency - ถา ผูรับเปนสตรี ให Mr. ……(Name)……. 1. เปลี่ยนคําขึ้นตน จาก s, President of … (Country)… Dear Mr. เปน (City) (Post Code) Dear Madam (Country) 2. เปลยี่ นคํา y, His Excellency His Excellency Mr. …..(Name)….. เปน Her Excellency s, Prime Minister of ….(Country)… 3. เปล่ยี นคํานําหนา นาม (City) (Post Code) จาก Mr. เปน Madam (Country) และถาเปนคณะบคุ คลให ใช Sirs, หรอื Madams y, His Excellency แลว แตก รณี ยกเวน ลําดับ Mr. …..(Name)….. ท่ี 14 กรณีมีไปถึงเอกชน s, Prime Minister of ….(Country)… เปลย่ี น Mr. เปน Ms. (City) (Post Code) (Country) 7
ลําดับท่ี ถงึ คาํ ขึ้นตน คําลง 4 เอกอคั รราชทูต Dear Mr. Ambassador, Yours s หร Sincerel 5 เอกอัครราชทูต Dear Mr. Ambassador, Yours s ทม่ี บี รรดาศักด์ิ หรือ Dear Sir…(Name), หร Sincerel 6 อุปทูต ad hoc Dear Mr. Charge d’Affaires, Yours s หร Sincerel 8
งทา ย ช่ือ ตําแหนง และสถานทข่ี องผูรับ หมายเหตุ sincerely, หรอื His Excellency - ถา ผูรับมีตาํ แหนงหรอื ยศ ly yours, Mr. ……(Name)……. จะใชคําข้ึนตนวา Ambassador Extraordinary and Dear กับยศ หรอื ตาํ แหนง sincerely, Plenipotentiary of … (Country)… และอาจตามดวยชอื่ สกุลก็ได หรือ Embassy of….(Country)…. เชน Dear General Smith, ly yours, (City) (Post Code) (Country) sincerely, His Excellency หรอื Sir. …..(Name)….. ly yours, Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary of ….(Country)… Embassy of …..(Country)…. (City) (Post Code) (Country) Mr…….(Name) Charge d’ Affaires of ….(Country) Embassy of ….(Country)… (City) (Post Code) (Country) 8
ลําดบั ท่ี ถึง คําข้ึนตน คําลง Yours s 7 อปุ ทูต ad interim Dear Mr. Charte d’Affaires, หร 8 กงสุลใหญ Dear Mr. Consul-General, Sincerel กงสุลใหญกติ ตมิ ศักดิ์ Yours s หร 9 กงสุล Dear Mr. Consul, กงสุลกิตติมศักดิ์ Sincerel Yours s หร Sincerel 9
งทา ย ชื่อ ตาํ แหนง และสถานทีข่ องผูรบั หมายเหตุ sincerely, หรอื Mr…….(Name) ly yours, Charge d’ Affaires a.i. of ...(Country)…… sincerely, หรือ Embassy of ….(Country)… ly yours, (City) (Post Code) sincerely, หรอื (Country) ly yours, Mr…….(Name) * สําหรบั การจา หนา ซองใช Consul-General of ….(Country)……* Honourary Consul-General of The Consulate-General of…(Country)… (City) (Post Code) (Country) Mr…….(Name) ** สาํ หรับการจาหนา ซองใช Consul-General of ….(Country)……** Honourary Consul of The Consulate-General of…(Country)… (City) (Post Code) (Country) 9
ลําดับที่ ถงึ คาํ ข้นึ ตน คาํ ลง Dear Mr. Consul, Yours s 10 กงสุลกิตติมศกั ดิ์ หร ของไทย Sincerel 11 เลขาธิการ Dear Mr. Secretary-General, Yours s สหประชาชาติ หร Sincerel 12 หัวหนาองคก าร Dear Mr. ….(Title)…., Yours s หร Sincerel 10
งทาย ชอื่ ตาํ แหนง และสถานทขี่ องผรู ับ หมายเหตุ sincerely, หรอื Mr…….(Name) ly yours, Consul of ….(Country)…… Embassy of ….(Country)… sincerely, (City) (Post Code) หรอื (Country) ly yours, His Excellency Mr. …(Name)….. sincerely, Secretary-General หรือ The United Nations ly yours, (City) (Post Code) (Country) Mr…….(Name) …..(Title)…. …(Organisation)… (City) (Post Code) (Country) 0
ลําดับท่ี ถึง คาํ ขึ้นตน คาํ ลงทา ย Sir, Yours sincerely, 13 องคการ บริษทั หรือ หรือคณะบคุ คล Sincerely yours, 14 เอกชน Dear Mr…….., Yours sincerely, หรือ Sincerely yours, 11
ชือ่ ตาํ แหนง และสถานที่ของผรู ับ หมายเหตุ (Organisation) (Address) (City) (Post Code) (Country) Mr. …(Name)….. ……(Title)…..of ….(Organisation)…. (City) (Post Code) (Country) 1 37
บทท่ี 4 หนงั สือราชการของสว นราชการประจําตางประเทศ ภาคผนวก 5 ทายระเบยี บสาํ นักนายกรฐั มนตรีวาดว ยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ไดม กี ารกําหนดเลขทีห่ นังสือ ออกและการออกหนังสอื ราชการของสว นราชการทปี่ ระจาํ ในตา งประเทศไวดังรายละเอียดซึ่งแบงแยกตาม หัวขอ ตอไปนคี้ อื หนังสอื ราชการไทย หนังสือราชการภาษาองั กฤษ และรายละเอียดรหัสตัวเลขประจําของ เจาของเรือ่ ง หนังสอื ราชการไทย รายละเอียดของหนงั สือราชการไทยเกยี่ วกบั การกาํ หนดเลขท่ีออกหนงั สอื การออกหนงั สือภายนอก และการออกหนังสอื ประทับตรา (สาํ นักนายกรฐั มนตรี 2526, 2548) มดี ังนี้ 1. การกาํ หนดเลขท่ีหนังสือออก การกาํ หนดเลขท่หี นังสอื ออกของหนังสือราชการ ซึ่งไดแก หนังสือภายนอก (ตามระเบียบขอ 11.1) หนังสือภายใน (ตามระเบียบขอ 12.2) และหนังสือประทับตรา (ตามระเบียบขอ 14.1) หลังคําวา ที่ ของหนังสือแตละประเภท ใหใชรหัสตัวเลข 5 ตัว แทนรหัสตัวพยัญชนะและเลขประจําของเจาของเร่ือง โดยมีหลกั เกณฑดงั นี้ 1.1 ตัวเลขสองตัวแรก หมายถึงช่ือประเทศหรือดินแดนที่มีคณะผูแทนตั้งอยู ถาคณะผูแทน แหงใดมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศอ่ืนนอกจากประเทศท่ีคณะผูแทนนั้นตั้งอยู ในการออกหนังสือใน ฐานะคณะผแู ทนของเขตอาณานัน้ ใหใชเ ลขรหสั เดียวกันกบั ประเทศท่ีคณะผูแทนนั้นต้ังอยู ในการกําหนด ตวั เลขระเบียบงานสารบรรณ ใหย ึดหลักการเรียงตามตวั อกั ษรในภาษาอังกฤษ เชน สาธารณรัฐอารเจนตินา (Argentine Republic) ตัวเลข 01 เครือรัฐออสเตรเลีย (Commonwealth of Australia) ตัวเลข 02 นิวซีแลนด (New Zealand) ตวั เลข 36 ราชอาณาจักรนอรเวย (Kingdom of Norway) ตัวเลข 37 สหรัฐอเมริกา (United States of America) ตัวเลข 56 สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Socialist Republic of Vietnam) ตัวเลข 57 เปน ตน 1.2 ตัวเลขตัวที่ 3 หมายถงึ คณะผูแ ทน ซงึ่ ไดแ กสว นราชการในตา งประเทศท่ีไดรับการจัดตั้ง เปน สถานเอกอคั รราชทูต คณะผแู ทนถาวรไทยประจําองคก ารระหวางประเทศและสถานกงสลุ ใหญ โดยใช ตวั เลขเรียงตามลาํ ดบั ดงั นี้ 1
(1) สถานเอกอัครราชทูต 0 (2) คณะทูตถาวรประจาํ องคการสหประชาชาติ 1 (3) คณะผูแทนถาวรไทยประจาํ องคการการคา โลก 2 (4) สถานกงสุลใหญหรอื สาํ นักงานการคา และเศรษฐกจิ ไทย 3 ในกรณีทมี่ สี ถานกงสุลใหญหลายแหงในประเทศเดยี วกัน ใหใชตัวเลข ต้งั แต 3 เรยี งตามลําดบั ตัวอักษรในภาษาองั กฤษ ตัวอยาง สถานเอกอคั รราชทตู ณ กรุงวอชงิ ตนั 560 คณะทตู ถาวรแหง ประเทศไทยประจาํ สหประชาชาติ ณ นครนิวยอรก 561 สถานกงสลุ ใหญ ณ นครชคิ าโก 563 สถานกงสุลใหญ ณ นครลอสแอนเจลสี 564 สถานกงสุลใหญ ณ นครนิวยอรก 565 สถานเอกอคั รราชทตู ณ กรงุ เบริ น 520 คณะทตู ถาวรแหงประเทศไทยประจาํ สํานักงานสหประชาชาติ ณ นครเจนวี า 521 คณะผแู ทนถาวรไทยประจําองคการการคา โลก 522 1.3 ตวั เลขตัวที่ 4 และ 5 หมายถึง หนว ยงานของสว นราชการตา ง ๆ ทีส่ งไปประจํา ในประเทศน้ัน ๆ เชน กระทรวงการตางประเทศ 01 สํานักนายกรัฐมนตรี สาํ นักงานที่ปรึกษาฝายการเมอื งและความม่ันคง 02 สํานกั งานผูด ูแลนกั เรียนในตางประเทศ 03 สาํ นกั งานที่ปรึกษาฝายเศรษฐกจิ (ดานการลงทุน) 04 กระทรวงอตุ สาหกรรม สํานกั งานทป่ี รกึ ษาดานอตุ สาหกรรม 14 เนอ่ื งจากคณะผูแทนถาวรไทยประจําองคการการคา โลก ไมม ีหนวยงานของสวน ราชการอ่ืน นอกจากกระทรวงพาณิชย จงึ ใหใ ชตัวเลขตวั ท่ี 4 และ 5 เปน 00 ในกรณีท่ีมีหนวยงานของสวนราชการเดียวกันสังกัดคณะผูแทนเดียวกันมากกวา 1 แหง หวั หนา คณะผูแทนกาํ หนดเลขรหสั สาํ หรับหนวยงานน้ันไมเกินสองตําแหนง โดยใหใสจุดหลังเลขตัวท่ี 5 แลว ตอดว ยเลขรหสั ทก่ี าํ หนดดังกลา ว จากหลักเกณฑการกําหนดเลขที่หนังสือออกดังกลาว ตัวอยางเลขที่หนังสือออกของสวน ราชการประจําตา งประเทศตอไปน้ี มคี วามหมายดงั นี้ 2
(1) ท่ี 56009 ตัวเลข 56 คอื ประเทศสหรัฐอเมรกิ า ตัวเลข 0 คอื สถานเอกอคั รราชทูต ณ กรงุ วอชงิ ตัน ตวั เลข 09 คอื สํานกั งานพาณิชยในตางประเทศ ซึง่ ไมเ ปนหนว ยงานสังกดั กระทรวงการตางประเทศ แตเปนหนวยงานสงั กัดกระทรวง พาณชิ ย ดงั นั้น รหสั ตวั เลข 56009 จึงเปน หนงั สอื ราชการของสาํ นกั งานพาณชิ ยป ระจําประเทศ สหรัฐอเมรกิ า ซง่ึ เปน หนวยงานของสวนราชการอน่ื (กระทรวงพาณิชย) แตสง ไปประจํา อยูในสงั กดั สถานเอกอัครราชทูต ณ กรงุ วอชงิ ตนั (2) ท่ี 56401 ตัวเลข 56 คอื ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวเลข 4 คอื สถานกงสุลใหญ ณ นครลอสแอนเจลสี ตัวเลข 01 หนว ยงานของกระทรวงการตา งประเทศ ดงั นัน้ รหัสตวั เลข 56401 จงึ เปน หนังสือราชการของสถานกงสุลใหญ ณ นครลอสแอนเจ ลีส ซ่งึ ตงั้ อยูที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เปนหนวยงานของกระทรวงการตางประเทศ (3) ท่ี 52200 ตวั เลข 52 คอื ประเทศสมาพันธรฐั สวิส ตัวเลข 2 คือคณะผแู ทนถาวรไทยประจาํ องคการการคาโลก ตวั เลข 00 คือหนว ยงานสงั กัดกระทรวงพาณิชย ดังนั้น รหสั ตัวเลข 52200 จึงเปนหนงั สือราชการของคณะผูแทนถาวรไทยประจําองคก าร การคา โลก สงั กัดกระทรวงพาณิชย และตั้งอยทู ีป่ ระเทศสมาพนั ธรัฐสวิส 1.4 หากมีการเปล่ียนแปลงโดยยุบคณะผูแทนหรือหนวยงานประจําตางประเทศของสวน ราชการใดในประเทศใด ใหปลอ ยตัวเลขน้ันวาง หากมกี ารต้งั คณะผูแ ทนขนึ้ ใหมในประเทศท่ยี งั มิไดม กี ารกาํ หนดตวั เลขรหัสประเทศตามขอ 1.1 ใหกระทรวงการตางประเทศแจง ผรู ักษาการตามระเบียบเพอ่ื กาํ หนดตวั เลขรหสั ประเทศ ในกรณที ี่มีการต้งั หนว ยงานประจาํ ตา งประเทศของสวนราชการใดขน้ึ ใหมและยังมิไดมีการ กําหนดตวั เลขรหัสประจําสําหรับหนวยงานน้ัน ๆ ตามขอ 1.3 ใหกระทรวงเจาสังกัดของสวนราชการนั้น แจงผูรักษาการตามระเบียบเพ่ือกําหนดตวั เลขรหัสของหนว ยงานนั้น การกําหนดตวั เลขรหัสประเทศหรอื ตัวเลขรหัสของหนวยงานตามวรรคสองและวรรคสาม ใหผูรักษาการตามระเบียบกําหนดโดยใชตัวเลขลําดับถัดไปจากตัวเลขที่กําหนดไวแลวแจงเวียนใหสวน ราชการตาง ๆ ทราบและถอื ปฏบิ ัติ ในกรณีทกี่ ระทรวง ทบวง หรอื สวนราชการที่ไมส ังกัดสํานักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือ ทบวง ประสงคจะกําหนดรหัสตัวเลขใหหนวยงานของรัฐวิสาหกิจในตางประเทศในสังกัดใหแจงผูรักษา 3
การตามระเบียบเพ่อื พจิ ารณากําหนด โดยใชต วั เลขท่ี 4 และ 5 เรม่ิ จาก 51 เรยี งไปตามลาํ ดบั แลว แจงเวยี นให สว นราชการทเี่ กี่ยวขอ งทราบและถือปฏิบตั ิ 1.5 ใหผูรักษาการตามระเบียบปรับปรุงเลขประจําของเจาของเร่ืองใหเปนไปตามลําดับ ตัวอกั ษรในภาษาองั กฤษ และตามกฎหมายวาดว ยการปรบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม ทุกๆ 5 ป โดยถือเอาป พุทธศกั ราชท่ีลงทา ยดวยเลข 5 และเลข 0 เปนหลกั (โปรดดูรายละเอยี ดรหสั ตวั เลขทง้ั หมด ตามท่ีระบุไวในภาคผนวก 5 ทายระเบียบ ที่หัวขอรายละเอียด รหสั ตวั เลขประจาํ ของเจา ของเรื่อง ซ่งึ จะไดน ําเสนอในบทนต้ี อไป) 2. การออกหนังสอื ภายนอก ใหใชหลักการตามที่กําหนดไวในระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ขอ 11 วาดว ยหนงั สอื ภายนอก 2.1 หนังสอื ท่ีออกในนามคณะผูแทน ไดแก หนังสือของสถานเอกอัครราชทูต คณะทูตถาวร ประจําองคการสหประชาชาติ คณะผูแทนถาวรไทยประจําองคการการคาโลก สถานกงสุลใหญหรือ สาํ นกั งานการคา และเศรษฐกิจไทย มีรายละเอยี ดการออกหนังสือดงั น้ี สวนราชการเจาของหนังสอื ใหลงชื่อคณะผูแ ทน และโดยปกตใิ หลงท่ีตัง้ ไวดวย เลขทะเบยี นหนังสือสง ใหลงเลขทะเบยี นของคณะผแู ทน เรียงตามลาํ ดับของ หนงั สอื ติดตอกัน ไปตลอดปปฏิทนิ สว นราชการเจา ของเรือ่ ง ใหลงหนวยงานยอยท่ีทําเรอื่ ง เชน แผนกหรือฝายหรือสวนราชการที่ เปน เจา ของเร่ืองนน้ั และลงหมายเลขโทรศพั ท โทรสาร (ถา ม)ี การลงช่อื และตาํ แหนง หวั หนาคณะผูแทนเปน ผลู งชือ่ ในหนังสอื ของคณะผแู ทนทกุ กรณี แตจะ มอบหมายโดยทาํ เปนหนงั สือ ใหห วั หนา สาํ นกั งานอ่ืนที่ประจําในตางประเทศ หรือขาราชการหรอื เจา หนาท่ี ที่ประจาํ สํานักงานนน้ั ลงช่อื แทนก็ได ในกรณีท่ีมีการมอบหมายใหลงชื่อแทน ใหลงตําแหนงของผูลงชื่อ และใชค าํ วา แทน แลว ใหลงตําแหนง ของเจาของหนังสอื ตอ ทา ยคําดงั กลา ว การมอบหมายใหลงชื่อแทน ผูมอบจะตองคํานึงถึงความเหมาะสม ขอบเขตหนาท่ีและความ รับผิดชอบ ของผูรับมอบ รวมตลอดถึงการอํานวยความสะดวก ความรวดเร็วในการปฏิบัติราชการเปน สําคญั 2.2 หนังสอื ที่ออกในนามของสวนราชการนนั้ ๆ เอง มรี ายละเอยี ดการออกหนังสอื ดงั นี้ สวนราชการเจา ของหนงั สือ ใหล งชื่อสว นราชการนั้นๆ และโดยปกตใิ หล งท่ตี งั้ ไวด วย เลขทะเบียนหนังสอื สง ใหล งเลขทะเบยี นของสาํ นักงานทีอ่ อกหนงั สอื น้ัน 4
สวนราชการเจาของเรื่อง ใหลงหนวยยอยท่ีทําเร่ือง ในกรณีไมมีหนวยยอยใหลงเฉพาะ หมายเลขโทรศัพท โทรสาร (ถา ม)ี การลงชอื่ และตาํ แหนง หวั หนา สํานกั งานอ่ืนท่ีประจําในตางประเทศ เปน ผลู งชอื่ หนังสือที่ออก ในนามของสว นราชการท่ีอยูในความรับผิดชอบ เฉพาะเร่ืองที่มิใชนโยบายระดับสูง นโยบายสําคัญ หรือ เรื่องท่ีมีนัยสําคัญเกี่ยวกับความสัมพันธระหวางประเทศ เปนตน หัวหนาสํานักงานอ่ืนที่ประจําใน ตางประเทศจะมอบหมายโดยทําเปน หนงั สอื ใหขา ราชการ หรอื เจา หนาทีท่ ่ปี ระจาํ สาํ นักงานนั้นลงชื่อแทนก็ ได ในการลงชอื่ แทนใหลงตําแหนงของผูลงช่ือ และใชคําวา แทน แลวใหลงตําแหนงของเจาของหนังสือ ตอทา ยคําดังกลาว การมอบหมายใหลงช่ือแทน ผูมอบจะตองคํานึงถึงความเหมาะสม ขอบเขตหนาท่ีและความ รับผิดชอบ ของผูรับมอบ รวมตลอดถึงการอํานวยความสะดวก ความรวดเร็วในการปฏิบัติราชการเปน สําคัญ 3. การออกหนังสอื ประทับตรา สว นราชการทีก่ ระทรวง ทบวง กรมหรอื สาํ นักงานสง ไปปฏบิ ัติงานประจําในตา งประเทศ ออก หนังสือประทับตราในเรื่องที่ไมสําคัญ ตามท่ีกําหนดไวในระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยงานสาร บรรณ พ.ศ. 2526 ขอ 13 วาดวยหนังสือประทับตรา ในนามของสวนราชการนั้น ๆ ได หนังสือประทับตรา เปนหนังสือทใี่ ชเฉพาะกรณที ี่ไมใชเ รอ่ื งสําคัญ เชน การขอรายละเอยี ดเพม่ิ เติม การสง สาํ เนาหนงั สือ ส่ิงของ เอกสาร หรอื บรรณสาร การตอบรับทราบทไ่ี มเกยี่ วกบั ราชการสาํ คญั หรอื การเงนิ เปนตน มีรายละเอียดการ ออกหนังสอื ดงั น้ี เลขทะเบียนหนังสือสง ใหใชรหัสตามท่ีกําหนดในภาคผนวก 5 ทายระเบียบ ทับดวยเลข ทะเบียนหนงั สือออกของสวนราชการที่ออกหนังสือนนั้ ชอ่ื สวนราชการเจาของหนังสอื ใหลงช่ือสว นราชการน้ัน ๆ เชน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุง วอชิงตนั สํานักงานผูดแู ลนักเรยี นในตางประเทศ ณ กรุงลอนดอน ตราทปี่ ระทบั ใหใชตราครุฑ มีลกั ษณะและขนาดเชนเดียวกับตราช่ือสวนราชการตามแบบท่ี 27 ทายระเบยี บ แตร ะหวางวงนอกและวงในใหมีอักษรไทยชื่อสวนราชการนั้น ๆ เชนเดียวกับช่ือสวนราชการ เจาของหนังสอื อยขู อบลา งของตรา ในกรณที ีใ่ ชภาษาตา งประเทศ ใหใ ชอกั ษรโรมันแทนอกั ษรไทย วัน เดอื น ป ใหล งวนั เดอื นปท ่ีออกหนงั สอื และลงชือ่ ยอ กาํ กบั ตรา โดยผมู ีอํานาจลงนาม ไดแก หัวหนาสํานักงานอ่ืนที่ประจําในตางประเทศ หรอื ผูท่ีไดร บั มอบหมายจากหวั หนาคณะผูแ ทน สว นราชการเจา ของเรอ่ื ง ถา ไมมีหนว ยยอ ย ใหลงเฉพาะหมายเลขโทรศัพท โทรสาร หรือที่ตั้ง ของสว นราชการเจาของเรื่องโดยใหลงตําบลที่อยตู ามความจาํ เปน แลแขวงไปรษณีย (ถา ม)ี 5
การลงชือ่ และตําแหนง หวั หนาสํานกั งานอ่ืนทีป่ ระจาํ ในตางประเทศ หรือผูท่ีไดรับมอบหมาย จากหวั หนาคณะผแู ทน เปน ผลู งช่อื ยอ กาํ กับตราในหนังสอื ประทับตรา หนงั สอื ราชการภาษาอังกฤษ หนังสอื ราชการภาษาองั กฤษใหใ ชต ามหลักเกณฑท กี่ ําหนดวา ดวยหนงั สอื ราชการภาษาอังกฤษ ใน ภาคผนวก 4 ทายระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ยกเวนรหัสเลขประจําของ เจาของเรื่องใหเปนไปตามที่กําหนดไวตามท่ีระบุแลวขางตน (หรือขอ 1 ของภาคผนวก 4 ทายระเบียบ) กลาวคือ เปลยี่ นรหัสตวั เลขจากกระทรวง/กรม เปนประเทศ/หนว ยงาน รายละเอยี ดรหสั ตัวเลขประจาํ ของเจา ของเร่ือง ภาคผนวก 5 ทา ยระเบียบสํานกั นายกรัฐมนตรวี าดวยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 มีการกําหนดเลขที่ หนงั สือออกของสว นราชการที่ประจําในตางประเทศ เปนรหัสตัวเลข 5 ตัว (สํานักนายกรัฐมนตรี 2526) ดงั รายละเอียดตอ ไปนี้ 1. ตวั เลขสองตวั แรก หมายถึงชอ่ื ประเทศหรือดนิ แดนท่ีมีคณะผูแทนตัง้ อยู โดยเรียงตามตัวอักษร ในภาษาอังกฤษ ดงั น้ี สาธารณรฐั อารเจนตินา (Argentine Republic) 01 เครอื รฐั ออสเตรเลยี 02 สาธารณรัฐออสเตรยี (Commonwealth of Australia) สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ (Republic of Austria) 03 ราชอาณาจกั รเบลเยย่ี ม (People’s Republic of Bangladesh) สหพันธส าธารณรฐั บราซิล (Kingdom of Belgium) 04 เนการาบรูไนดารสุ ซาลาม (Federative Republic of Brazil) ราชอาณาจกั รกมั พูชา (Negara Brunei Darussalam) 05 แคนาดา (Kingdom of Cambodia) สาธารณรฐั ชิลี (Canada) 06 สาธารณรฐั ประชาชนจีน (Republic of Chile) สาธารณรัฐเช็ก (People’s Republic of China) 07 ราชอาณาจกั รเดนมารก (Czech Republic) (Kingdom of Denmark) 08 09 10 11 12 13 6
สาธารณรัฐอาหรับอยี ิปต (Arab Republic of Egypt) 14 สาธารณรัฐฝรั่งเศส (French Republic) 15 สหพนั ธสาธารณรัฐเยอรมนี (Federal Republic of Germany) 16 สาธารณรัฐเฮลเลนิก (Hellenic Republic) 17 สาธารณรฐั ฮังการี (Republic of Hungary) 18 สาธารณรฐั อินเดีย (Republic of India) 19 สาธารณรัฐอินโดนีเซยี (Republic of Indonesia) 20 สาธารณรัฐอสิ ลามอิหราน (Islamic Republic of Iran) 21 สาธารณรัฐอิรกั (Republic of Iraq) 22 รฐั อสิ ราเอล (Republic of Israel) 23 สาธารณรัฐอิตาลี (Republic of Italy) 24 ญีป่ ุน (Japan) สาธารณรัฐเคนยา (Republic of Kenya) 25 สาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) รฐั คูเวต (State of Kuwait) 26 สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Lao People’s Democratic Republic) 27 มาเลเซยี (Malaysia) 28 สหรฐั เมก็ ซิโก (United Mexican States) 29 ราชอาณาจกั รโมรอ็ กโก (Kingdom of Morocco) 30 สหภาพพมา (Union of Myanmar) 31 ราชอาณาจักรเนปาล (Kingdom of Nepal) 32 ราชอาณาจักรเนเธอรแ ลนด (Kingdom of the Netherlands) 33 นิวซีแลนด (New Zealand) 34 ราชอาณาจักรนอรเวย (Kingdom of Norway) 35 รัฐสุลตา นโอมาน (Sultanate of Oman) 36 สาธารณรฐั อสิ ลามปากีสถาน (Islamic Republic of Pakistan) 37 สาธารณรัฐฟลปิ ปนส (Republic of the Philippines) 38 สาธารณรฐั โปแลนด (Republic of Poland) 39 สาธารณรฐั โปรตุเกส (Republic of Portugal) 40 41 42 7
โรมาเนยี (Romania) 43 44 สหพันธรฐั รัสเซยี (Russian Federation) 45 46 ราชอาณาจักรซาอดุ อี าระเบยี (Kingdom of Saudi Arabia) 47 48 สาธารณรฐั เซเนกัล (Republic of Senegal) 49 50 สาธารณรฐั สงิ คโปร (Republic of Singapore) 51 สาธารณรัฐแอฟรกิ าใต (Republic of South Africa) 52 53 ราชอาณาจกั รสเปน (Kingdom of Spain) 54 55 สาธารณรฐั สงั คมนิยมประชาธิปไตยศรลี งั กา (Democratic Socialist Republic of Sri 56 Lanka) 57 58 ราชอาณาจกั รสวเี ดน (Kingdom of Sweden) 59 สมาพันธรฐั สวิส (Swiss Confederation) สาธารณรฐั ตุรกี (Republic of Turkey) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส (United Arab Emirates) สหราชอาณาจกั รบริเตนใหญและไอรแลนด (United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland) เหนอื สหรฐั อเมริกา (United States of America) สาธารณรฐั สงั คมนยิ มเวียดนาม (Socialist Republic of Vietnam) ราชอาณาจักรบาหเ รน (Kingdom of Bahrain) รฐั กาตาร (State of Qatar) 2. ตัวเลขตัวท่ี 3 หมายถึง คณะผูแทน ซ่ึงไดแกสวนราชการในตางประเทศที่ไดรับการจัดตั้งเปน สถานเอกอัครราชทูต คณะผูแทนถาวรไทยประจําองคการระหวางประเทศและสถานกงสุลใหญ โดยใช ตัวเลขเรยี งตามลาํ ดับ ดังนี้ สถานเอกอัครราชทูต 0 คณะทตู ถาวรประจําองคก ารสหประชาชาติ 1 คณะผแู ทนถาวรไทยประจาํ องคก ารการคาโลก 2 สถานกงสุลใหญห รือสํานกั งานการคาและเศรษฐกจิ ไทย 3 ในกรณที ีม่ สี ถานกงสลุ ใหญหลายแหงในประเทศเดียวกันใหใ ชตัวเลขต้ังแต 3 เรยี งตามลาํ ดบั ตวั อกั ษรในภาษาองั กฤษ 8
3. ตวั เลขตัวที่ 4 และ 5 หมายถงึ หนว ยงานของสว นราชการตาง ๆ ท่สี ง ไปประจําในประเทศน้ัน ๆ โดยกําหนดใหใชด งั นี้ กระทรวงการตางประเทศ 01 สํานกั นายกรฐั มนตรี สาํ นกั งานทป่ี รึกษาฝา ยการเมอื งและความม่ันคง 02 สาํ นกั งานผูด ูแลนักเรียนในตางประเทศ 03 สาํ นกั งานทปี่ รึกษาฝายเศรษฐกิจ (ดานการลงทุน) 04 กระทรวงกลาโหม 05 สํานักงานผชู วยทูตฝา ยทหาร กระทรวงการคลัง สํานกั งานทป่ี รึกษาเศรษฐกิจและการคลงั 06 สํานักงานที่ปรึกษาการศุลกากร 07 กระทรวงเกษตรและสหกรณ สาํ นักงานทปี่ รึกษาการเกษตรตา งประเทศ 08 กระทรวงพาณชิ ย 09 สํานักงานพาณชิ ยในตา งประเทศ สํานักงานสงเสริมการคาในตางประเทศ 10 กระทรวงแรงงานและสวสั ดิการสงั คม 11 สํานกั งานแรงงานในตา งประเทศ กระทรวงวทิ ยาศาสตร เทคโนโลยีและสงิ่ แวดลอ ม สาํ นกั งานทป่ี รึกษาดา นวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 12 กระทรวงศึกษาธกิ าร สํานกั งานคณะผแู ทนถาวรไทยประจําองคการการศึกษาวิทยาศาสตร 13 และวัฒนธรรมแหง สหประชาชาติ กระทรวงอุตสาหกรรม สาํ นกั งานที่ปรึกษาดา นอุตสาหกรรม 14 เน่ืองจากคณะผูแทนถาวรไทยประจําองคการการคาโลก ไมมีหนวยงานของสวนราชการอ่ืน นอกจากกระทรวงพาณชิ ย จงึ ใหใชต ัวเลขตวั ที่ 4 และ 5 เปน 00 9
ในกรณีทม่ี ีหนวยงานของสวนราชการเดียวกันสังกัดคณะผูแทนเดียวกันมากกวา 1 แหง หัวหนา คณะผแู ทนกําหนดเลขรหสั สําหรบั หนวยงานนั้นไมเกินสองตําแหนง โดยใหใสจุดหลังเลขตัวท่ี 5 แลวตอ ดว ยเลขรหัสที่กาํ หนดดังกลาว ตัวอยา งเลขทีห่ นังสอื ออกของสวนราชการประจําตา งประเทศ ประเทศสหรฐั อเมริกา 56 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรงุ วอชงิ ตัน หนว ยงานของกระทรวงการตางประเทศ 56001 สํานกั งานท่ปี รึกษาฝา ยการเมืองและความมั่นคง 56002 สํานกั งานผูดแู ลนักเรียนในตา งประเทศ 56003 สาํ นกั งานผูชว ยทูตฝายทหาร 56005 สํานักงานพาณชิ ยในตา งประเทศ 56009 คณะทตู ถาวรแหง ประเทศไทยประจําสหประชาชาติ ณ นครนวิ ยอรก 56101 สถานกงสุลใหญ ณ นครชิคาโก 56301 สถานกงสุลใหญ ณ นครลอสแอนเจลีส 56401 สถานกงสลุ ใหญ ณ นครนิวยอรก 56501 ประเทศสมาพันธรัฐสวิส 52 สถานเอกอคั รราชทตู ณ กรงุ เบิรน หนว ยงานของกระทรวงการตา งประเทศ 52001 คณะทตู ถาวรแหงประเทศไทยประจาํ สํานักงานสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา 52101 คณะผูแทนถาวรไทยประจาํ องคก ารการคา โลก 52200 10
บทท่ี 5 หลกั เกณฑก์ ารพิมพห์ นงั สือราชการภาษาองั กฤษ และการจ่าหนา้ ซอง รายละเอียดเกี่ยวกบั การพิมพ์หนังสือราชการภาษาองั กฤษ ครอบคลุมหลกั เกณฑ์การพิมพ์ การ จ่าหน้าซอง และมาตรฐานกระดาษและซอง ตามที่กาหนดไวใ้ นระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรี ว่าดว้ ยงาน สารบรรณ พ.ศ. 2526 หลกั เกณฑ์การพมิ พ์หนังสือราชการภาษาองั กฤษ ระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ภาคผนวก 4 ขอ้ 4 ไดใ้ ห้คาอธิบาย เก่ียวกบั การพมิ พห์ นงั สือราชการภาษาองั กฤษ (สานกั นายกรัฐมนตรี 2526) ดงั น้ี การพิมพ์ หมายถึง การพิมพ์โดยทว่ั ไปด้วยเคร่ืองพิมพด์ ีด แต่ถา้ หากจะใช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ก็ สามารถทาได้ โดยใหป้ รับระยะพิมพไ์ ดต้ ามความเหมาะสมและสวยงาม การพิมพห์ นงั สือราชการภาษาองั กฤษ มีหลกั เกณฑก์ ารพมิ พด์ งั น้ี 1. การพิมพห์ นงั สือราชการภาษาองั กฤษให้ใชก้ ระดาษตราครุฑ ถา้ มีขอ้ ความมากกวา่ 1 หนา้ หนา้ ตอ่ ไปใหใ้ ชก้ ระดาษไมต่ อ้ งมีตราครุฑ แต่ใหม้ ีคุณภาพเช่นเดียวหรือใกลเ้ คียงกบั แผน่ แรก 2. การพิมพห์ วั ขอ้ ตา่ ง ๆ ใหเ้ ป็นไปตามแบบท่ีกาหนดไวใ้ นระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยงาน สารบรรณ พ.ศ. 2526 คาอธิบาย 5 การกาหนดตวั เลขสาหรับใชเ้ ป็นหวั ขอ้ 3. การพมิ พ์ 1 หนา้ กระดาษขนาด เอ 4 โดยปกติใหพ้ ิมพ์ 25 บรรทดั บรรทดั แรกของกระดาษควรอยู่ ห่างจากขอบกระดาษดา้ นบนประมาณ 3-5 เซนติเมตร 4. การก้นั ระยะในการพมิ พ์ 4.1 ในบรรทดั หน่ึงใหต้ ้งั จงั หวะเคาะของพมิ พด์ ีดไว้ 70 จงั หวะเคาะ 4.2 ใหก้ ้นั ระยะห่างจากขอบกระดาษดา้ นซา้ ยมือประมาณ 3 เซนติเมตร เพ่ือความสะดวกในการ เก็บเขา้ แฟ้ ม 4.3 ตวั อกั ษรสุดทา้ ยควรห่างจากขอบกระดาษดา้ นขวาไม่นอ้ ยกวา่ 2 เซนติเมตร 5. ถ้าคาสุดท้ายของบรรทัดมีหลายพยางค์ไม่สามารถพิมพ์จบคาในบรรทัดเดียวกันได้ให้ใช้ เครื่องหมายยตั ิภงั ค์ (-) ระหวา่ งพยางค์ 6. การยอ่ หนา้ ซ่ึงใชใ้ นกรณีที่จบประเด็นแลว้ จะมีการข้ึนขอ้ ความใหม่ ใหเ้ วน้ ห่างจากระยะก้นั หนา้ 10 จงั หวะเคาะ 1
7. การเวน้ บรรทดั โดยท่วั ไปจะต้องเวน้ บรรทดั ให้ส่วนสูงสุดของตวั พิมพ์และส่วนต่าสุดของ ตวั พิมพไ์ มท่ บั กนั 8. การเวน้ วรรคเม่ือจบประโยค โดยทว่ั ไปเวน้ 2 จงั หวะเคาะ 9. การพิมพห์ นังสือท่ีมีหลายหน้า ตอ้ งพิมพเ์ ลขหน้า โดยให้พิมพต์ วั เลขหน้ากระดาษไวร้ ะหว่าง เครื่องหมายยตั ิภงั ค์ (-) ที่ก่ึงกลางด้านบนของกระดาษ ห่างจากขอบกระดาษด้านบนลงมาประมาณ 3 เซนติเมตร 10. การพิมพห์ นงั สือที่มีความสาคญั และมีจานวนหลายหนา้ ให้พิมพค์ าต่อเนื่องของขอ้ ความท่ีจะ ยกไปพิมพห์ นา้ ใหม่ไวด้ า้ นล่างทางมุมขวาของหนา้ น้นั ๆ แลว้ ตามดว้ ยมหพั ภาค (period) 3 ตาแหน่ง โดย ปกติใหเ้ วน้ ระยะห่างจากบรรทดั สุดทา้ ย 2 บรรทดั และควรจะตอ้ งมีขอ้ ความของหนงั สือเหลือไปพิมพใ์ น หนา้ สุดทา้ ยอยา่ งนอ้ ย 2 บรรทดั ก่อนพิมพค์ าลงทา้ ย 11. การพิมพร์ ายละเอียดและระยะห่างระหวา่ งบรรทดั 11.1 หนังสือราชการภาษาอังกฤษทเี่ ป็ นแบบพธิ ี โดยปกติใหต้ ้งั เครื่องพมิ พด์ ีดโดยใชร้ ะยะบรรทดั พมิ พเ์ ท่ากบั 1 ½ 11.1.1 เลขที่ ใหร้ ะบุหมายเลขประจาของส่วนราชการเจา้ ของเร่ืองหลงั No. โดยเวน้ 1 ตวั อกั ษร ทบั เลขทะเบียนหนงั สือออกทวั่ ไป โดยวางตาแหน่งชิดก้นั หนา้ 11.1.2 ส่วนราชการเจา้ ของหนงั สือ วางตาแหน่งอยดู่ า้ นซา้ ยของครุฑในระดบั ประมาณเทา้ ครุฑ และเวน้ ระยะห่างเทา้ ครุฑพองาม ตวั สุดทา้ ยใหช้ ิดก้นั หลงั หากช่ือส่วนราชการเจา้ ของหนงั สือยาวและตอ้ ง พมิ พห์ ลายบรรทดั ใหร้ ะยะห่างกนั 1 บรรทดั 11.1.3 วนั เดือนปี ใหเ้ ร่ิมพมิ พว์ นั เดือนปี ท่ีกลางหนา้ ห่างจากบรรทดั ชื่อสถานท่ีราชการเจา้ ของ หนงั สือ 3 บรรทดั 11.1.4 คาข้ึนตน้ ใหร้ ะบุคาข้ึนตน้ ห่างจากบรรทดั วนั เดือนปี 3 บรรทดั 11.1.5 ขอ้ ความ การข้ึนตน้ ขอ้ ความใหย้ อ่ หนา้ 10 ตวั อกั ษร และบรรทดั ของขอ้ ความในหนงั สือ ใหพ้ มิ พห์ ่างกนั 1 บรรทดั การข้ึนตน้ ขอ้ ความ ใหพ้ มิ พห์ ่างจากบรรทดั คาข้ึนตน้ 1 บรรทดั 11.1.6 คาลงทา้ ย ใหพ้ มิ พห์ ่างจากบรรทดั สุดทา้ ยของขอ้ ความ 1 บรรทดั 11.1.7 ช่ือและตาแหน่งผลู้ งนาม ใหพ้ ิมพช์ ื่อผูล้ งนามห่างจากบรรทดั สุดทา้ ยของคาลงทา้ ย 4-6 บรรทดั อยเู่ ย้อื งมาทางดา้ นซา้ ยของครุฑ สาหรับตาแหน่งผลู้ งนามน้นั ใหพ้ ิมพห์ ่างจากบรรทดั ช่ือผลู้ งนาม 1 บรรทดั โดยให้อยู่ระหวา่ งกลางช่ือผูล้ งนามในกรณีตาแหน่งผลู้ งนามตอ้ งพิมพเ์ กินกวา่ 1 บรรทดั ให้พิมพ์ ระยะห่างกนั 1 บรรทดั 11.1.8 ชื่อ ตาแหน่ง หรือสถานท่ีของผรู้ ับ ให้พิมพไ์ วด้ า้ นล่างมุมซ้ายของหนา้ แรก ชิดแนวก้นั หนา้ ทุกบรรทดั โดยไม่ตอ้ งมีจุลภาค (comma) หรือมหพั ภาค (period) เม่ือจบบรรทดั โดยใหพ้ ิมพร์ ะยะห่าง กนั 1 บรรทดั 2
11.2 หนังสือราชการภาษาอังกฤษทไ่ี ม่เป็ นพธิ ี โดยปกติใหต้ ้งั เครื่องพิมพด์ ีดใชร้ ะยะบรรทดั พิมพเ์ ท่ากบั 1 11.2.1 เลขที่ ให้ระบุหมายเลขประจาของส่วนราชการเจา้ ของเร่ืองหลงั No. โดยเวน้ 1 ตวั อกั ษร ทบั เลขทะเบียนหนงั สือออกทวั่ ไป โดยวางตาแหน่งชิดก้นั หนา้ 11.2.2 ส่วนราชการเจา้ ของหนงั สือ วางตาแหน่งอยดู่ า้ นซา้ ยของครุฑในระดบั ประมาณเทา้ ครุฑ และเวน้ ระยะห่างเทา้ ครุฑพองาม ตวั สุดทา้ ยใหช้ ิดก้นั หลงั หากชื่อส่วนราชการเจา้ ของหนงั สือยาวและ ตอ้ งพิมพห์ ลายบรรทดั ใหร้ ะยะห่างกนั 1 บรรทดั 11.2.3 วนั เดือนปี ให้เริ่มพิมพว์ นั เดือนปี ที่กลางหน้าห่างจากบรรทดั ช่ือสถานท่ีราชการ เจา้ ของหนงั สือ 3 บรรทดั 11.2.4 คาข้ึนตน้ ใหร้ ะบุคาข้ึนตน้ ห่างจากบรรทดั วนั เดือนปี 3 บรรทดั 11.2.5 ขอ้ ความ การข้ึนตน้ ขอ้ ความให้พิมพ์ห่างจากบรรทดั คาข้ึนตน้ 2 บรรทดั และย่อ หนา้ 10 ตวั อกั ษร สาหรับบรรทดั ของขอ้ ความในหนงั สือ ให้พิมพห์ ่างกนั 1 บรรทดั การข้ึนยอ่ หนา้ ใหม่แต่ ละยอ่ หน้า ให้พิมพห์ ่างกนั 2 บรรทดั ในกรณีที่ขอ้ ความส้ันประมาณ 15 บรรทดั หรือนอ้ ยกว่า 15 บรรทดั อาจต้งั เคร่ืองพมิ พด์ ีดใหร้ ะยะบรรทดั พิมพเ์ ท่ากบั 1 ½ และพิมพข์ อ้ ความห่างจากบรรทดั คาข้ึนตน้ 1 บรรทดั ขอ้ ความระหวา่ งบรรทดั และระหวา่ งยอ่ หนา้ ห่างกนั 1 บรรทดั 11.2.6 คาลงทา้ ย ใหพ้ ิมพอ์ ยหู่ ่างจากบรรทดั สุดทา้ ยของขอ้ ความลงมา 2 บรรทดั 11.2.7 ช่ือและตาแหน่งผลู้ งนาม ใหพ้ ิมพช์ ่ือผลู้ งนามห่างจากบรรทดั สุดทา้ ยของคาลงทา้ ย 4-6 บรรทดั อยู่เย้ืองมาทางดา้ นซ้ายของครุฑ สาหรับตาแหน่งผลู้ งนามน้นั ให้พิมพห์ ่างจากบรรทดั ชื่อผูล้ ง นาม 1 บรรทดั โดยใหอ้ ยรู่ ะหวา่ งกลางช่ือผลู้ งนามในกรณีตาแหน่งผลู้ งนามตอ้ งพิมพเ์ กินกวา่ 1 บรรทดั ให้ พิมพร์ ะยะห่างกนั 1 บรรทดั 11.2.8 ช่ือ ตาแหน่ง หรือสถานท่ีของผูร้ ับ ให้พิมพ์ชื่อ ตาแหน่งและสถานที่ของผรู้ ับไว้ ดา้ นล่าง มุมซ้ายของหน้าแรก ชิดแนวก้นั หน้าทุกบรรทดั โดยไม่ตอ้ งมีจุลภาค (comma) หรือมหัพภาค (period) เมื่อจบบรรทดั โดยใหพ้ ิมพร์ ะยะห่างกนั 1 บรรทดั 11.3 หนังสือกลาง โดยปกติใหต้ ้งั เครื่องพมิ พด์ ีดใชร้ ะยะบรรทดั พมิ พเ์ ทา่ กบั 1 11.3.1 เลขที่ ให้ระบุหมายเลขประจาของส่วนราชการเจา้ ของเรื่องหลงั No. โดยเวน้ 1 ตวั อกั ษร ทบั เลขทะเบียนหนงั สือออกทวั่ ไป โดยวางตาแหน่งชิดก้นั หนา้ 11.3.2 ข้อความ การข้ึนต้นข้อความ ให้พิมพ์ห่างจากบรรทดั ท่ีระบุเลขที่ 6 บรรทัด (ระยะห่างอาจจะมากกวา่ น้ี ถา้ มีขอ้ ความส้ัน) และยอ่ หนา้ 10 ตวั อกั ษร โดยพิมพข์ อ้ ความห่างกนั 1 บรรทดั แต่ละยอ่ หน้าให้พิมพห์ ่างกนั 2 บรรทดั อยา่ งไรก็ตามในกรณีที่ขอ้ ความส้ันประมาณ 15 บรรทดั หรือน้อย 3
กวา่ 15 บรรทดั อาจต้งั เครื่องพิมพด์ ีดให้ระยะบรรทดั พิมพเ์ ท่ากบั 1 ½ และพิมพข์ อ้ ความระหว่างบรรทดั และระหวา่ งยอ่ หนา้ ห่างกนั 1 บรรทดั 11.3.3 ชื่อส่วนราชการเจา้ ของหนงั สือ พิมพอ์ ยหู่ ่างจากบรรทดั สุดทา้ ยของขอ้ ความ 2-6 บรรทดั อยเู่ ย้อื งมาทางดา้ นซา้ ยของครุฑ หากช่ือส่วนราชการเจา้ ของหนงั สือยาวและตอ้ งพิมพห์ ลายบรรทดั ใหร้ ะยะห่างกนั 1 บรรทดั 11.3.4 วนั เดือนปี ใหว้ างตาแหน่งวนั เดือนปี ระหวา่ งกลางช่ือและสถานท่ีต้งั ของหน่วยงาน เจา้ ของหนงั สือระยะห่างกนั 1 บรรทดั 11.3.5 ช่ือ ตาแหน่ง หรือสถานท่ีของผรู้ ับ ใหพ้ ิมพช์ ิดแนวก้นั หนา้ ดา้ นล่างมุมซา้ ยโดยไม่ ตอ้ งมีจุลภาค (comma) หรือมหพั ภาค (period) เมื่อจบบรรทดั สาหรับช่ือเมืองให้พิมพต์ วั ใหญ่ท้งั หมด โดย ใหพ้ มิ พร์ ะยะห่างกนั 1 บรรทดั 11.4 บนั ทกึ ช่วยจาและบนั ทกึ โดยปกติใหต้ ้งั เครื่องพิมพด์ ีดใชร้ ะยะบรรทดั พิมพเ์ ทา่ กบั 1 11.4.1 ให้พิมพค์ าวา่ AIDE-MEMOIRE หรือ MEMORANDUM ไวต้ อนบน ก่ึงกลาง หนา้ กระดาษ ใหอ้ ยตู่ ่ากวา่ ตราครุฑ 3 บรรทดั (ถา้ ระยะบรรทดั พิมพเ์ ท่ากบั 1 ½ ใหพ้ ิมพอ์ ยตู่ ่ากวา่ ตราครุฑ 2 บรรทดั ) 11.4.2 ขอ้ ความ การข้ึนตน้ ขอ้ ความ ให้อยหู่ ่างจากบรรทดั ท่ีระบุคาวา่ AIDE-MEMOIRE หรือ MEMORANDUM 3 บรรทดั (ถา้ ระยะบรรทดั พิมพ์เท่ากบั 1 ½ ให้อยู่ห่างจากบรรทดั ท่ีระบุคาว่า AIDE-MEMOIRE หรือ MEMORANDUM 2 บรรทดั ) และยอ่ หนา้ 10 ตวั อกั ษร โดยพิมพข์ อ้ ความห่างกนั 1 บรรทดั แต่ละยอ่ หนา้ ใหพ้ มิ พห์ ่างกนั 2 บรรทดั ในกรณีที่ขอ้ ความส้ันประมาณ 15 บรรทดั หรือนอ้ ยกวา่ 15 บรรทดั อาจต้งั เคร่ืองพิมพด์ ีดให้ระยะบรรทดั เท่ากบั 1 ½ และพิมพข์ อ้ ความระหวา่ งบรรทดั และระหวา่ งยอ่ หนา้ ห่างกนั 1 บรรทดั 11.4.3 ช่ือส่วนราชการเจา้ ของหนงั สือ พิมพอ์ ยหู่ ่างจากบรรทดั สุดทา้ ยของขอ้ ความ 2-6 บรรทดั อยเู่ ย้อื งมาทางดา้ นซา้ ยของครุฑ หากช่ือส่วนราชการเจา้ ของหนงั สือยาวและตอ้ งพิมพห์ ลายบรรทดั ใหร้ ะยะห่างกนั 1 บรรทดั 11.4.4 วนั เดือนปี ให้วางตาแหน่งวนั เดือนปี ต่อจากบรรทดั ชื่อและสถานท่ีต้ังของ หน่วยงานเจา้ ของหนงั สือ โดยอยหู่ ่าง 1 บรรทดั และอยรู่ ะหวา่ งกลางชื่อหน่วยงานเจา้ ของหนงั สือและสถาน ท่ีต้งั โดยกะระยะพองาม 4
การจ่าหน้าซองหนังสือราชการภาษาองั กฤษ ดว้ ยภาคผนวก 4 ของสานกั นายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ไม่ไดก้ าหนดวธิ ีการจ่า หนา้ ซองของหนงั สือราชการภาษาองั กฤษไวเ้ ป็ นการเฉพาะ การจ่าหนา้ ซองหนงั สือราชการภาษาองั กฤษจึง ยึดถือปฏิบตั ิตามขอ้ 45 (ซ่ึงมีตวั อย่างตามแบบท่ี 15 ทา้ ยระเบียบ) และ ขอ้ 28 ของระเบียบสานัก นายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ดงั มีรายละเอียดดงั ตอ่ ไปน้ี “ขอ้ 45 การจ่าหนา้ ซองให้ปฏิบตั ิตามแบบท่ี 15 ทา้ ยระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรีว่าดว้ ย งานสาร บรรณฯ (ดูภาพการจ่าหน้าซองประกอบ) ซ่ึงได้กาหนดการจ่าหน้าซองโดยแบ่งซองออกเป็ น 9 ส่วน ส่วนบนดา้ นซ้ายจะเป็ นตราครุฑ และถ้าหากเป็ นหนงั สือราชการด่วน ด่วนมาก ด่วนท่ีสุด แลว้ แต่กรณี ที่ ดา้ นเทา้ ซา้ ยของตวั ครุฑ ขนาดตราที่ประทบั เป็ นขนาด 32 พอยต์ ดว้ ยหมึกสีแดง ดา้ นใตต้ วั ครุฑจะพิมพช์ ื่อ ส่วนราชการที่ออกหนงั สือ ที่ ให้กรอกรหสั ประจาส่วน ราชการและเลขหนงั สือออก ในตาแหน่งส่วนกลาง ของซองท่ีแบ่งไวใ้ ห้พิมพค์ าข้ึนตน้ (ตามตารางคาข้ึนตน้ ลงทา้ ย) ช่ือผูร้ ับ สถานที่ และที่ต้งั รหัสไปรษณีย์ ของผรู้ ับหนงั สือน้นั ๆ” สาหรับหนงั สือท่ีตอ้ งปฏิบตั ิใหเ้ ร็วกวา่ ปกติ ใหป้ ฏิบตั ิตามขอ้ 28 “ขอ้ 28 หนงั สือท่ีตอ้ งปฏิบตั ิให้เร็วกวา่ ปกติ เป็ นหนงั สือท่ีตอ้ งจดั ส่งและดาเนินการทางสารบรรณ ดว้ ยความรวดเร็วเป็นพเิ ศษ แบง่ เป็น 3 ประเภทคือ 28.1 ด่วนที่สุด (URGENT) ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีปฏิบตั ิในทนั ทีที่ไดร้ ับหนงั สือน้นั 28.2 ด่วนมาก (IMMEDIATE) ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีปฏิบตั ิโดยเร็ว 28.3 ด่วน (PRIORITY) ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีปฏิบตั ิเร็วกวา่ ปกติ เทา่ ท่ีจะทาได้ ให้ระบุช้ันความเร็วดว้ ยตวั อกั ษรสีแดงขนาดไม่เล็กกว่าตวั พิมพ์โป้ ง 32 พอยต์ ให้เห็นไดช้ ัดบน หนงั สือและบนซอง ตามท่ีกาหนดไวใ้ นแบบท่ี 1 แบบท่ี 2 แบบท่ี 3 และแบบท่ี 15 ทา้ ยระเบียบสานัก นายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยงานสารบรรณฯ โดยใหร้ ะบุคาวา่ ด่วนที่สุด ด่วนมาก หรือ ด่วน สาหรับหนงั สือตาม ขอ้ 28.1 ขอ้ 28.2 และขอ้ 28.3 แลว้ แตก่ รณี ในกรณีที่ตอ้ งการให้หนงั สือส่งถึงผูร้ ับภายในเวลาที่กาหนด ให้ระบุคาว่า ด่วนภายใน แลว้ ลงวนั เดือนปี และกาหนดเวลาท่ีตอ้ งการให้หนงั สือน้นั ไปถึงผรู้ ับกบั ให้เจา้ หนา้ ที่ส่งถึงผรู้ ับซ่ึงระบุบนหน้าซอง ภายในเวลาที่กาหนด” ดว้ ยเหตุท่ีวิธีปฏิบตั ิในการจ่าหนา้ ซองหนงั สือราชการที่จดั ส่งทางไปรษณีย์ และคาอธิบาย 8 การ จ่าหนา้ ซอง ฯ ไดถ้ ูกยกเลิกตามหนงั สือสานักนายกรัฐมนตรีที่ นร ๑๓๐๕/ว ๑๖๐๗ ลงวนั ที่ ๓ มีนาคม ๒๕๔๑ และกาหนดใหใ้ ชว้ ธิ ีปฏิบตั ิในการจา่ หนา้ ซองหนงั สือราชการท่ีจดั ส่งทางไปรษณีย์ ดงั เอกสารท่ีแจง้ มาใหม่พร้อมตวั อย่างการจ่าหนา้ ซองหนงั สือราชการ ท้งั น้ีเพื่อใหห้ นงั สือราชการท่ีส่งโดยทางไปรษณียถ์ ึง ปลายทางดว้ ยความรวดเร็วและสอดคลอ้ งกบั ระเบียบ กสท. วา่ ดว้ ยบริการรับชาระค่าฝากส่งเป็ นรายเดือน 5
สาหรับส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่ไดย้ กเลิกการลงลายมือช่ือหรือรอยประทบั ตราลายมือช่ือของ เจา้ หนา้ ท่ีผรู้ ับผดิ ชอบในการฝากส่งและตาแหน่งกากบั ท่ีมุมล่างซา้ ยของดา้ นจา่ หนา้ วธิ ีปฏิบตั ิในการจ่าหนา้ ซองของหนงั สือราชการภาษาองั กฤษ จึงควรยดึ ถือปฏิบตั ิตามวธิ ีปฏิบตั ิใน การจา่ หนา้ ซองของหนงั สือราชการที่จดั ส่งทางไปรษณีย์ โดยอาจแยกไดเ้ ป็น 2 กรณีคือ 1. การจ่าหนา้ ซองหนงั สือราชการที่จดั ส่งทางไปรษณียธ์ รรมดาทวั่ ไป ส่งโดยใชบ้ ริการไปรษณีย์ ด่วนพเิ ศษ (EMS) ส่งโดยลงทะเบียน หรือไปรษณียภณั ฑต์ ่างประเทศ ใหป้ ฏิบตั ิดงั น้ี 1.1 ให้ระบุชื่อและที่อยขู่ องหน่วยงานผฝู้ ากส่งไวท้ ี่มุมบนซา้ ยดา้ นจ่าหนา้ บริเวณดา้ นขา้ งหรือ ใตค้ รุฑ และเหนือเลขที่หนงั สือ 1.2 ในกรณีที่เป็ นการจดั ส่งโดยมีขอ้ ตกลงกบั การสื่อสารแห่งประเทศไทย ขอชาระค่าฝากส่ง เป็ นรายเดือน ใหม้ ีขอ้ ความ “ชาระค่าฝากส่งเป็ นรายเดือนใบอนุญาตท่ี.../... ชื่อท่ีทาการฝากส่ง” ในกรอบ ส่ีเหล่ียมผืนผา้ แนวนอน ขนาด 2 × 4 เซนติเมตร ท่ีมุมบนขวาดา้ นจ่าหนา้ ในกรณีที่เป็ นไปรษณียภ์ ณั ฑ์ ต่างประเทศ ให้ใชข้ อ้ ความ “POSTAGE PAID PERMIT NO. (เลขท่ีใบอนุญาต) ชื่อที่ทาการท่ีฝากส่ง” (ดู ภาพการจา่ หนา้ ซองประกอบ) 2. สาหรับวธิ ีปฏิบตั ิในการจ่าหนา้ ซองหนงั สือราชการที่จดั ส่งทางไปรษณียธ์ รรมดาเพื่อให้สามารถ ใชไ้ ดก้ บั เครื่องคดั แยกจดหมายของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ใหป้ ฏิบตั ิดงั น้ี 2.1 คุณลกั ษณะซอง 2.1.1 เป็ นซองมาตรฐาน ขนาดซี 6 และขนาดดีแอล ตามท่ีกาหนดในระเบียบสานัก นายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 จดั ทาดว้ ยกระดาษปอนดข์ าว น้าหนกั ไม่นอ้ ยกวา่ 80 กรัม ตอ่ ตารางเมตร 2.1.2 เป็ นซองขนาดซี 6 และขนาดดีแอล ที่มีช่องใส่รหัสไปรษณีย์ พิมพด์ ้วยสีแดงส้ม (Warm Red U) จานวน 5 ช่อง ท่ีมุมล่างดา้ นขวาของซอง ตามขอ้ กาหนดของการส่ือสารแห่งประเทศไทย 2.1.3 หากหน่วยงานใดยงั คงมีซองแบบเดิม (ที่ไม่มีช่องใส่รหัสไปรษณีย์ ตามขอ้ 2.1.2 ขา้ งตน้ ) เหลืออยู่ และมีความจาเป็ นตอ้ งนามาใชส้ ่งทางไปรษณ๊ย์ อาจใชซ้ องดงั กล่าวได้ แต่จะตอ้ งจ่าหนา้ โดยการพิมพห์ รือผนึกป้ ายจ่าหนา้ เท่าน้นั 2.2 การเตรียมซองเพื่อส่งทางไปรษณีย์ 2.2.1 ใชพ้ ้ืนท่ีดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั ซองตามท่ีกาหนด (ดูภาพการจา่ หนา้ ซองประกอบ) 2.2.2. ให้ระบุช่ือและที่อยขู่ องหน่วยงานผูฝ้ ากส่งไวท้ ี่มุมบนดา้ นจ่าหนา้ บริเวณดา้ นขา้ ง ครุฑ และเหนือเลขท่ีหนงั สือ 2.2.3 ในกรณีท่ีเป็นการจดั ส่งโดยมีขอ้ ตกลงกบั การส่ือสารแห่งประเทศไทยขอชาระค่าฝาก ส่งเป็ นรายเดือน ให้มีขอ้ ความ “ชาระค่าฝากส่งเป็ นรายเดือน ใบอนุญาตที่.../...ช่ือท่ีทาการที่ฝากส่ง” ใน กรอบสี่เหลี่ยมผนื ผา้ แนวนอน ขนาด 2 × 4 เซนติเมตร ที่มุมบนขวาดา้ นจา่ หนา้ ในหรณีท่ีเป็ นไปรษณียภ์ ณั ฑ์ ต่างประเทศ ใหใ้ ชข้ อ้ ความ “POSTAGE PAID PERMIT NO. (เลขท่ีใบอนุญาต) ชื่อที่ทาการที่ฝากส่ง” 6
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159