Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Unit 2

Unit 2

Published by cheat11_utt, 2019-11-16 03:22:48

Description: เครื่องเจียระไนลับคมตัดและงานลับคมตัด

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 2 เครื่องเจยี ระไนแบบลบั คมตัด และงานลับคมตัด

15 เคร่ืองเจียระไนแบบลบั คมตดั และงานลับคมตัด เครอ่ื งเจียระไนลบั แบบคมตดั เป็นเครื่องมอื กลขนั้ พืน้ ฐานชนดิ หนึ่งที่มปี ระโยชนแ์ ละสามารถ ทางานได้อยา่ งกว้างขวาง เชน่ ใช้สาหรบั ลบั คมตัดต่างๆของเครอ่ื งมือตัดไดแ้ กม่ ดี กลงึ มีดไสดอกสว่าน และยังสามารถเจียระไนตกแต่งชิน้ งานตา่ งๆ ไดโ้ ดยควรคานึงถงึ เรื่องความปลอดภยั ขณะใชง้ าน 1 ชนิดของเครอ่ื งเจยี ระไนลบั แบบคมตดั เครื่องเจยี ระไนแบบลับคมตดั โดยทวั่ ๆ ไป แบ่งออกเป็น 2 ชนดิ คอื เคร่ืองเจยี ระไนแบบลับ คมชนิดตัดต้งั โตะ๊ และเคร่อื งเจยี ระไนแบบลบั คมตัดชนดิ ตง้ั พื้น เครื่องเจยี ระไนแบบลบั คมตดั ชนดิ ตัง้ โตะ๊ (Bench Grinder) เครอื่ งเจยี ระไนชนดิ นจี้ ะยดึ ติด อยู่กับโต๊ะเพือ่ เพมิ่ ความสูงและสะดวกในการใช้งาน รูปที่ 2.1 เคร่ืองเจียระไนแบบลับคมตดั ชนดิ ตัง้ โต๊ะ ทม่ี า http://www.plumbersurplus.com/images/prod/6/DeWALT-DW756-rw-63181- 18201.jpg เครอื่ งเจยี ระไนแบบลบั คมตดั ชนิดต้ังพนื้ ( Pedestal Grinder) เป็นเครอื่ งเจียระไนแบบลับคม ตดั ทมี่ ีขนาดใหญ่กวา่ แบบตงั้ โต๊ะมีสว่ นทเ่ี ปน็ รากฐาน เพอ่ื ใชย้ ึดตดิ กบั พน้ื ทาให้เครอ่ื งเจยี ระไนมคี วาม ม่นั คงแขง็ แรงกว่าเคร่อื งเจียระไนแบบลับคมตัดชนดิ ต้ังโต๊ะ งานเครอื่ งมือกลเบื้องต้น (2100-1007)

16 รูปท่ี 2.2 เคร่ืองเจยี ระไนแบบตง้ั พ้นื ท่มี า http://www.wuthardwares.com/index.php?cPath=32 2 สว่ นประกอบของเครอ่ื งเจียระไนแบบลบั คมตัดและหน้าท่ี โดยทว่ั ๆ ไปเครอื่ งเจียระไนแบบลบั คมตัดชนดิ ต้งั พนื้ จะมีส่วนประกอบดังนี้ - มอเตอร์ (Motor) - ลอ้ หินเจยี ระไน (Grinding Wheel) - ฝาครอบลอ้ หิน (Wheel Guard) - แผน่ กระจกนริ ภยั (Safety Glass) - แท่นรองรบั งาน (Tool Rest) - ถังนา้ หลอ่ เยน็ (Water Pot) - สวติ ชเ์ ครอื่ ง (Switch) - ฐานเครือ่ ง (Base) ล้อหนิ เจยี ระไน แผน่ กระจกนริ ภยั สวิตชเ์ ครือ่ ง แผน่ กระจกนริ ภยั ฝาครอบล้อหิน มอเตอร์ ฝาครอบล้อหิน (Wheel Guard) มอเตอร์ (Wheel Guard) ฐานเคร่อื ง (Base) ฐานเครอื่ ง (Base) ฝาครอบลอ้ หิน ถงั นา้ หล่อเยน็ (Wheel Guard) มอเตอร์ ฐแทาน่นเรคอรงือ่ รงบั (Bงาaนse) มอเตอร์ ฐานเครื่อง (Base) รูปท่ี 2.3 แสดงสว่ นประกอบของเคร่อื งเจียระไนตงั้ พ้ืน ที่มา จากหนังสือ Shop Theory หน้า 387 งานเคร่ืองมอื กลเบือ้ งตน้ (2100-1007)

17 2.1 มอเตอร์ (Motor) เปน็ สว่ นสาคญั ของเคร่อื งเจยี ระไนแบบลบั คมตัด ทาหน้าทส่ี ง่ กาลงั ให้ ลอ้ หินเจียระไนหมนุ เครือ่ งเจียระไนแบบลบั คมตดั มีมอเตอรเ์ ปน็ รปู ทรงกระบอก โดยปลายแกนเพลา ทง้ั สองข้างใชจ้ บั ยดึ ลอ้ หนิ เจียระไน มอเตอรส์ ่วนใหญ่จะใชแ้ รงดนั ไฟฟ้า 220 โวลต์ หรือ 380 โวลต์ รูปที่ 2.4 มอเตอร์เครอื่ งเจียระไน ทมี่ า http://www.finelinehair.com/home/bench_grinder.htm 2.2 ลอ้ หนิ เจียระไน (Grinding Wheel) จะมีอยู่ 2 ลกั ษณะ คอื ล้อหนิ เจียระไนชนดิ หยาบและ ลอ้ หนิ เจียระไนชนิดละเอียด จะยดึ ติดอยูอ่ ยา่ งละขา้ งของแกนมอเตอร์โดยจะมีลอ้ หนิ เจยี ระไนชนดิ หยาบเพือ่ เจียระไนหยาบชว่ ยให้เจยี ระไนได้เร็วข้ึน และอกี ข้างหนึ่งจะใชจ้ บั ยดึ ลอ้ หินเจยี ระไนชนิด ละเอียดเพอ่ื ใชเ้ จียระไนผิวเรียบเพือ่ เปน็ การเจียระไนข้นั สดุ ท้าย ในการเลือกใช้ล้อหนิ เจียระไนจะต้อง เลือกลอ้ หินเจยี ระไนใหต้ รงกบั ชนิดวสั ดขุ องมดี ตดั ท่ีจะนามาลบั เพราะวสั ดทุ ามดี ตดั มีหลายประเภท เช่น เหลก็ รอบสงู (High Speed Steel) คารไ์ บด์หรือมดี เลบ็ (Carbide Tipped) 8 X ¾ X 1-1/4 ( ตวั เลขแสดงขนาดของล้อหิน) รปู ที่ 2.5 ลอ้ หนิ เจียระไน ทม่ี า http://www.9engineer.com/cnc_main/How_to_choose_the_Grinding_ Wheel_on_yor_Process.pdf การเลือกลอ้ หินเจียระไนลับคมตัดตอ้ งคานึงถงึ ขนาดของลอ้ หนิ เจยี ระไนดว้ ยว่าเครอ่ื งเจยี ระไนระบุ ให้ใช้ล้อหนิ ขนาดเท่าใดส่ิงที่ตอ้ งทราบก็คอื งานเครื่องมือกลเบ้ืองตน้ (2100-1007)

18 - ขนาดเส้นผ่าศูนยก์ ลางโตนอกของลอ้ หินเจียระไน - ความกวา้ งของหนา้ ล้อหนิ เจียระไน - ขนาดเสน้ ผ่าศนู ย์กลางรใู นของล้อหินเจียระไน ฉลากบอกรายละเอยี ด ปลอกพลาสตกิ เมด็ หิน ขนาดลอ้ หิน ปลอก พลาสติก รปู ที่ 2.6 สว่ นตา่ ง ๆ ของลอ้ หนิ เจยี ระไน ทีม่ า http://www.northerntool.com/images/product/images/35525_lg.jpg 2.3 ฝาครอบล้อหนิ (Wheel Guard) เป็นฝาครอบลอ้ หนิ เจยี ระไนทง้ั สองข้างเพ่ือปอ้ งกัน อนั ตรายจากล้อหินเจยี ระไน ส่วนใหญจ่ ะทาดว้ ยเหลก็ เหนียวข้ึนรูป ฝาครอบลอ้ หิน แทน่ รองรบั งาน รูปท่ี 2.7 ฝาครอบล้อหินเจียระไนและแทน่ รองรับงาน ทม่ี า http://www.northerntool.com/images/product/images/152100_lg.jpg 2.4 แผ่นกระจกนิรภัย (Safety Glass) จะตดิ ตัง้ ไว้ท้ังสองขา้ งของล้อหินเจียระไนเพือ่ ปอ้ งกัน เศษโลหะกระเด็นเข้าตาของผปู้ ฏบิ ัตงิ านเพราะผู้ปฏบิ ตั งิ านตอ้ งมองในขณะลบั เคร่อื งมอื ตัด งานเครอื่ งมอื กลเบือ้ งตน้ (2100-1007)

19 กระจกนิรภยั รูปที่ 2.8 กระจกนริ ภยั ทม่ี า http://www.northerntool.com/images/product/images/ 2.5 แทน่ รองรบั งาน (Tool Rest) ทาหนา้ ท่รี องรับงานซงึ่ จบั ด้วยมอื และยงั ช่วยทาหน้าท่ี ประคองมอื ผปู้ ฏิบัติงานด้วย ส่วนใหญท่ าดว้ ยเหลก็ หล่อขึ้นรูปหรือเหลก็ เหนียว ควรตรวจสอบระยะ หา่ งอยู่เสมอ ควรมีระยะหา่ งมากสุดไมเ่ กนิ 2-3 มลิ ลเิ มตร ถา้ มีระยะห่างมากชิ้นงานอาจจะหลุดลงไป ในช่องทาให้เกดิ อันตรายได้ ลอ้ หนิ เจียระไนอาจจะแตกกระเด็นโดนผู้ปฏิบตั ิงานในขณะปรบั ระยะ หา่ งระหว่างแท่นรองรับงานจะต้องปิดสวติ ชใ์ ห้ล้อหยุดนงิ่ ก่อน เมื่อตงั้ ระยะห่างเรียบร้อยแลว้ ตอ้ ง ทาการทดสอบโดยการหมนุ ด้วยมือกอ่ น เพอื่ ปอ้ งกนั กรณลี ้อหนิ เจียระไนแกวง่ มากระแทกกบั แท่น รองรับงาน 2.6 ถังนา้ หล่อเย็น (Water Pot) ในขณะที่เจยี ระไนลับคมตัดมีดชนดิ ต่างๆ หรอื เจยี ระไน ช้นิ งานจะมคี วามรอ้ นเกดิ ข้ึน มดี ตดั หรือชนิ้ งานจะทาใหร้ ้อนมือและจะทาใหโ้ ครงสรา้ งวสั ดขุ องมีด ตัดเปล่ียนไป จาเป็นจะตอ้ งมีการระบายความร้อนโดยการจุ่มลงในน้าแลว้ แกวง่ ไปมาเพื่อเปน็ การ ระบายความรอ้ นไดเ้ รว็ ขนึ้ ตัวระบายความรอ้ นสาหรบั เครอื่ งเจยี ระไนแบบลับคมตัดนยิ มใชน้ า้ ธรรม ดาไมจ่ าเปน็ ตอ้ งใช้น้าหลอ่ เย็นเพราะจะทาให้ล้อหินเจียระไนท่ือเรว็ ตอ้ งแต่งหน้าลอ้ หนิ เจยี ระไนบอ่ ย ข้ึนทาให้สนิ้ เปลอื ง 2.7 สวิตชเ์ ครอื่ ง (Switch) มไี วเ้ พ่ือควบคมุ เคร่ืองเพ่ือใช้สาหรับปดิ เปดิ และในเครือ่ งเจียระไน เครอ่ื งหน่งึ อาจจะมสี วติ ช์เพ่มิ เติมมากขึน้ กไ็ ด้เพ่ือเปน็ การเพ่ิมความปลอดภยั แกผ่ ูป้ ฏบิ ตั ิงาน 2.8 ฐานเครื่อง (Base) อยสู่ ่วนลา่ งสดุ ของเคร่อื งมหี น้าทร่ี องรบั สว่ นตา่ งๆ ของเคร่อื งทัง้ หมด ทาจากเหลก็ หล่อใช้ยดึ ตดิ กบั พนื้ หรือโตะ๊ 3 เคร่อื งมอื วดั ทใ่ี ช้ตรวจสอบงานลับคมตัด เครอ่ื งมือและอุปกรณต์ า่ ง ๆ ทใ่ี ช้ในการลับคมตัดของเครื่องมอื ตดั ชนิดตา่ ง ๆเช่น การลับ งานเครือ่ งมือกลเบ้ืองต้น (2100-1007)

20 มดี กลึง มีดไส และลับดอกสวา่ น จาเปน็ จะตอ้ งมเี ครอื่ งมอื และอุปกรณ์อ่นื ๆ ทส่ี าคญั เพ่มิ เตมิ อกี ดังนี้ 3.1 ใบวดั มุม (Angle Protractor) เปน็ เคร่อื งมอื วัดมุมสาหรบั วัดมมุ ของเครือ่ งมือตดั เชน่ มีดกลงึ มีดไส ใบวัดมุมสามารถวัดมุมไดต้ งั้ แต่ 0-180 องศา ใบบอกขนาด สเกล บอกองศา มมุ ก้านใบวดั มมุ ขีดช้ตี าแหน่ง สกรปู รบั ลอ็ ค รปู ท่ี 2.9 ใบวดั มมุ และลกั ษณะการวัด ทีม่ า http://www.northerntool.com/images/product/images/ 3.2 เกจวดั มมุ ดอกสวา่ น(Drill Point Gage) เป็นเกจสาหรับใชว้ ดั มมุ และความยาวคมตดั ของ ดอกสว่าน รูปที่ 2.10 เกจวดั มุมดอกสวา่ น ทม่ี า http://www.fisherlamco.com.au/products/measuring_I.htm#inside งานเครอื่ งมือกลเบ้อื งตน้ (2100-1007)

21 4 การใช้และการบารงุ รักษาเคร่อื งเจยี ระไนแบบลับคมตดั 4.1 เตรยี มเครอื่ งมือตดั หรอื ช้นิ งานทตี่ อ้ งการเจียระไนใหพ้ ร้อม ศกึ ษาวิธีการ และหลักการ ทางานให้เข้าใจก่อนลงมือปฏบิ ตั ิ 4.2 ตรวจสอบความพรอ้ มและความเรยี บร้อยของเครอ่ื งเจยี ระไนแบบลับคมตัดท่จี ะใช้ เช่น ตรวจสอบระบบไฟฟา้ สายไฟฟ้าและล้อหินเจียระไนว่ามรี อยแตกรา้ วหรือไม่ ลอ้ หินทือ่ หรือไม่ ระยะห่างแทน่ รองรบั งานเหมาะสมหรอื ไม่ 4.3 เปดิ สวติ ชต์ า่ งๆ ตามขัน้ ตอนใหเ้ คร่ืองหมนุ 4.4 ทาการลบั มดี ตดั หรอื ชน้ิ งานทเ่ี ตรยี มไวต้ ามขน้ั ตอนทไ่ี ดศ้ กึ ษามา 4.5 เมอ่ื ทางานเสร็จกป็ ดิ สวิตชใ์ หเ้ รียบรอ้ ย 4.6 ทาความสะอาดหลงั เลกิ ใชง้ านพรอ้ มตรวจดูความเรยี บรอ้ ยของเครื่อง 4.7 หม่ันตรวจสอบดูความเรยี บร้อยของเครอื่ งให้เรียบรอ้ ยทุกจุด ใหอ้ ยใู่ นสภาพดพี รอ้ มจะใช้ งานเสมอ หากเกดิ การชารุดเสียหายควรทาการจัดซอ่ มใหใ้ ช้งานไดด้ ี 4.8 ตรวจดลู อ้ หินเจยี ระไนว่ามีรอยรา้ วหรอื รอยบ่ินหรือไม่ เมือ่ ลอ้ หนิ เจียระไนทื่อไมค่ มจะ ตอ้ งทาการแตง่ หนา้ หนิ เจยี ระไนใหม่ 4.9 ควรดแู ลรกั ษามอเตอร์ คอยตรวจสอบเสยี งของมอเตอร์ ว่ามเี สยี งดงั ผิดปกตหิ รือไม่ 4.10 จะตอ้ งตรวจสอบระยะหา่ งของแท่นรองรบั งานเปน็ ประจาโดยใหม้ ีระยะห่างมากสุด ไม่ ควรเกิน 3 มลิ ลเิ มตร เพอื่ ป้องกันชิน้ งานหรอื เครื่องมอื ตดั หลดุ เขา้ ไปในระหวา่ งลอ้ หิน อาจจะทา ให้ลอ้ หนิ แตกหรอื แทน่ รองรับงานอาจแตกหักทาใหเ้ กดิ ความเสยี หายได้ 4.11 หลังจากเลกิ ใชง้ านทกุ ครงั้ ควรปดิ สวิตชแ์ ละทาความสะอาดเครอื่ ง 5 ความปลอดภัยในการใช้เคร่ืองเจยี ระไนแบบลับคมตดั 5.1 ตรวจสอบความพรอ้ มของเครอ่ื งเจียระไนก่อนเปดิ เครือ่ งใช้งานทกุ ครงั้ เชน่ ตรวจสอบ ระบบไฟฟ้า ลอ้ หินเจยี ระไน ฝาครอบล้อหินเจยี ระไนฯลฯ เปน็ การตรวจสอบวา่ อุปกรณต์ ่างๆดงั กลา่ ว อย่ใู นสภาพทพี่ ร้อมจะใชง้ านและมีความปลอดภยั หรอื ไม่ 5.2 การแตง่ กายต้องรดั กมุ ไม่ผกู เนคไท ผมไม่ยาวรงุ รัง 5.3 ตอ้ งสวมแวน่ ตานิรภัยทกุ ครั้งเมื่อปฏบิ ตั ิงาน 5.4 จะตอ้ งมกี ระจกนริ ภัยและอยใู่ นสภาพพรอ้ มที่จะใชง้ านเพ่ือป้องกันเศษโลหะกระเดน็ เข้า ตา 5.5 ต้องปรบั ระยะหา่ งแท่นรองรบั งานใหอ้ ยูใ่ นระยะห่างไม่เกิน 3 มิลลเิ มตร ปอ้ งกนั ช้นิ งาน หลดุ เข้าไปขัดกับล้อหินเจยี ระไน ลอ้ หนิ เจยี ระไนอาจจะแตกกระเดน็ โดนผู้ปฏิบัตงิ านได้ 5.6 เมื่อล้อหินเจียระไนทื่อหรอื เกดิ รอยบิ่น จะตอ้ งทาการแต่งหนา้ ลอ้ หนิ เจยี ระไนใหม่มิ ฉะนนั้ ผูป้ ฏบิ ัตงิ านจะต้องออกแรงกดชิน้ งานที่นามาลบั มากขน้ึ เพราะหนิ ท่ือ อาจจะทาให้พลาดไป งานเครอื่ งมอื กลเบ้ืองต้น (2100-1007)

22 โดนล้อหินเจียระไน ทาใหเ้ กิดอบุ ัติเหตไุ ด้ 5.7 หา้ มใช้ผา้ จบั เคร่อื งมอื ตัดหรอื ช้นิ งานท่ีนามาเจยี ระไน เพราะอาจจะตดิ เข้าไปในลอ้ หิน เจยี ระไนทก่ี าลังหมนุ และทาใหม้ อื ติดเขา้ ไปด้วยทาใหเ้ กิดอันตรายได้ 5.8 ในขณะเรมิ่ เปิดสวติ ช์เครื่องเพอื่ ปฏบิ ตั งิ านจะตอ้ งระมดั ระวงั ไมย่ นื ตรงกับล้อหนิ เจยี ระไน เพราะในชว่ งทเ่ี รมิ่ เปดิ เครื่องใหม่ๆ ลอ้ หนิ เจียระไนจะมแี รงเหว่ียงมาก ถา้ ล้อหนิ เจียระไนเกดิ รอยแตก รา้ วอยกู่ ่อนอาจกระเด็นออกมาถูกผ้ปู ฏิบตั งิ านทาใหเ้ กดิ อบุ ัตเิ หตไุ ด้ 5.9 เครื่องเจยี ระไนแบบลบั คมตัดทุกเคร่ือง จะต้องมกี ารตดิ ตง้ั สายดนิ เพอื่ ป้องกันไฟฟา้ ดดู ผูป้ ฏิบตั งิ าน 6 มีดกลึง (Tool bits) เน่ืองจากเครื่องมอื ตัดมีมากมายหลายประเภท เชน่ มีดกลึง มีดไส ดอกสวา่ น แต่ละประเภท ยังมรี ปู ทรงและลกั ษณะการใชง้ านท่ีแตกตา่ งกันอีก เช่น มดี กลงึ ปาดหนา้ มีดกลึงปอก มีดกลงึ เกลียว และมีดกลงึ ขึ้นรปู ตา่ ง ๆ ดังนน้ั วธิ กี ารลบั จงึ ตอ้ งลับตามรูปแบบของเครอ่ื งมอื ตดั แตล่ ะชนิดตามท่ี ต้องการ ซง่ึ ในที่นี้จะบอกกลา่ วเฉพาะทสี่ าคัญ ๆ คือ มีดกลึง ซึ่งเป็นเครอ่ื งมอื แปรรูปชน้ิ งาน เพื่อให้ ช้นิ งานมรี ปู รา่ งและขนาดได้พกิ ดั ตามแบบสงั่ งานวัสดุทามีดกลงึ สาหรับใชใ้ นงานกลงึ ปัจจุบนั มหี ลาย ชนิด เช่น เหลก็ รอบสูง (High Speed Steel) ซ่งึ เปน็ มดี กลึงทนี่ ิยมใช้งานโดยทว่ั ไปและมีดกลึงทที่ า จากคารไ์ บด์ (Carbide Tipped) ซง่ึ เปน็ โลหะท่มี คี วามแข็งสูงมากเหมาะสาหรับการกลึงข้ึนรปู ชน้ิ งานทเ่ี ป็นโลหะแข็ง หรืองานกลึงผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรม เช่น เหลก็ หลอ่ เหล็กกลา้ ผสม มีดกลึง มีคมตัดเป็นมมุ ต่างๆ ท่ีเหมาะสาหรับการนาไปใช้กบั ชนิ้ งานท่ีเปน็ วสั ดทุ ่ีสอดคลอ้ งกนั เมือ่ คมมดี กลึง ทื่อแล้วตอ้ งเจยี ระไนใหค้ มและได้มมุ ทีต่ อ้ งการสาหรับการใชง้ านต่อไป 7 วัสดุท่ีใช้ทามีดกลึง 7.1 เหลก็ รอบสูง (High Speed Steel) เปน็ เหลก็ กล้าผสมสามารถรกั ษาคมไว้ได้จนอณุ หภูมิ สงู ถึง 650 องศาเซลเซยี ส เหลก็ รอบสงู มสี ว่ นประกอบต่างๆ กันแบง่ ออกเป็น 3 ประเภทหลกั คือ - เหลก็ รอบสูงชนดิ 18-4-1 (High Speed Steel 18-4-1) มีส่วนผสมของทังสเตน 18% โครเมยี ม 4% และวาเนเดยี ม 1% - โมลิบดนี มั ไฮสปีดสตลี (Molybdenum High Speed Steel) เป็นเหลก็ รอบสูงทใี่ ชโ้ มลบิ ดนี มั ผสมแทนทังสเตนบางสว่ น ส่วนผสมที่นิยมใชค้ อื ทงั สเตน 6% โมลิบดนี ัม 6% โครเมียม 4% วาเนเดียม 2% - ซปุ เปอรไ์ ฮสปดี สตีล (Supper High Speed Steel) มโี คบอลต์ผสมเพิ่มข้นึ อกี ประมาณ 2-15% ทงั สเตน 20% โครเมยี ม 4% วาเนเดยี ม 2% และโคบอลต์ 12% งานเคร่อื งมอื กลเบอ้ื งตน้ (2100-1007)

23 7.2 สเตลไลต์ (Stelite) ใช้เป็นมีดเล็บ มสี ่วนผสมของทังสเตนประมาณ 12-15% โครเมยี ม 15-3% โคบอลต์ 40-50% คารบ์ อน 1-4% และมคี ารไ์ บดข์ องธาตอุ ืน่ ๆอีกประมาณ 1% คงความแขง็ ไว้ ได้จนอุณหภมู สิ งู ถงึ ประมาณ 950 องศาเซลเซียส 7.3 ทงั สเตนคารไ์ บด์ (Tungsten Carbide)ใช้เป็นมีดเล็บ เป็นวสั ดทุ ี่สังเคราะห์มาจากทังสเตน กบั คารบ์ อนทนความรอ้ นโดยไมเ่ สยี คมจนอุณหภูมสิ งู ประมาณ 1200 องศาเซลเซียส เหมาะสาหรับ กลงึ งานทเ่ี ปน็ เหล็กหล่อไมเ่ หมาะกับการกลึงเหล็กกล้า อัตราส่วนทีเ่ หมาะสมคอื ทงั สเตน คาร์ไบด์ 82% ไทตาเนียมคาร์ไบด์ 10% และโคบอลต์ 8% 7.4 เพชร (Diamond) ใช้เปน็ มดี เล็บสาหรบั กลงึ งานเบาๆทีต่ อ้ งการขนาดท่ีเทยี่ งตรงมากหรอื ใช้สาหรบั ตดั งานทม่ี ีความแขง็ มาก จนไมส่ ามารถตัดด้วยวสั ดุอื่นได้ 7.5 เซรามิก(Ceramic) ใช้เปน็ มีดเลบ็ ทนความเร็วตดั ให้สงู กวา่ วสั ดชุ นดิ อืน่ ๆและทนแรงอดั ได้สงู แต่เปราะมาก 8 มุมต่างๆ ของมีดกลึง มดี กลงึ ทีจ่ ะนาไปใชง้ าน จะตอ้ งมกี ารลบั คมตัดมีดกลงึ เสยี กอ่ น ซง่ึ ส่วนทถ่ี ูกลับออกไปจะทา ให้เกดิ เปน็ มุมข้ึนดงั รูปท่ี 2.11 มุมคายเศษ มุมฟรดี า้ นหนา้ มุมฟรีดา้ นขา้ ง มมุ ตัง้ ปลายมีด มมุ ตง้ั มดี มมุ รวมปลายมดี รูปท่ี 2.11 แสดงมุมของมีดกลงึ ทม่ี า รปู ภาพโดยผู้เรียบเรยี ง งานเคร่อื งมอื กลเบอื้ งตน้ (2100-1007)

24 8.1 มมุ คายเศษ (Rake Angle) มุมนีจ้ ะเป็นมุมทล่ี บั ลงมาใหล้ าดต่าลงจากปลายมดี กลงึ สาหรับให้เศษกลงึ ไหลออกไดส้ ะดวกยง่ิ ขน้ึ ขณะคมมีดกลึงตัดเฉือนชนิ้ งาน 8.2 มมุ ฟรดี ้านหน้า (Front Relief Angle) มมุ นี้เป็นมมุ ท่ีลับเพือ่ ไมใ่ ห้ผวิ ด้านหนา้ ของมดี กลึงเสียดสกี บั ผวิ งานขณะกลงึ 8.3 มมุ ฟรดี า้ นข้าง (Side Relief Angle) มุมน้เี ปน็ มุมที่ลบั เพอ่ื ไม่ใหผ้ วิ ด้านข้างของมีด กลึง เสยี ดสีกับผวิ งานขณะกลงึ 8.4 มุมตั้งมีด (Side Cutting Edge Angle) เป็นมุมทลี่ ับให้คมตัดเอยี งทามมุ กับข้างของตัวมดี เพอื่ ให้มดี กลึงเดินตัดเนอื้ วัสดไุ ดส้ ะดวกมแี รงต้านน้อยขนาดของมมุ น้ี จะขึ้นอยู่กบั ชนิดของวสั ดทุ ใ่ี ช้ ทามีดและวสั ดุงาน 8.5 มมุ ตงั้ ปลายมีด (Front Cutting Edge Angle) เปน็ มมุ ทล่ี บั เพ่อื ไมใ่ ชผ้ วิ ด้านหนา้ ของคม ตดั ของมดี กลงึ เสยี ดสกี ับผิวงานในขณะกลึงงาน 8.6 มมุ รวมปลายมีด เปน็ มุมที่เกดิ จากการลบั มุมตง้ั มดี และมมุ ตั้งปลายมีดของมีดกลึงมมุ ของมดี กลึงแตล่ ะมุมจะแตกต่างกนั ไปตามวสั ดุท่จี ะกลงึ และขนึ้ อยู่กบั วสั ดทุ จี่ ะนามาใชก้ ลึงสาหรบั ใน ทน่ี ีจ้ ะกลา่ วถงึ มดี กลงึ ท่ที าดว้ ยเหล็กรอบสงู ดังแสดงในตารางท่ี 2.1 ตารางที่ 2.1 แสดงมุมของมดี High Speed Steel ท่เี หมาะสมกับวัสดุ ค่ามมุ ต่างๆของมีด High Speed Steel ที่เหมาะสมกับวัสดุของงาน วสั ดุ มมุ คาย มุมฟรีหน้า มมุ ฟรีข้าง มมุ ปลายมดี เหล็กคาร์บอน 15 8 12 62 เหลก็ คาร์บอนปานกลาง 12 8 10 68 เหลก็ คาร์บอนสูง 8 8 10 74 เหล็กหลอ่ 58 8 77 ทองเหลอื ง 0 8 10 75 บรอนซ์ 0 8 10 62 อะลมู เิ นยี ม 35 8 12 65 ที่มา หนังสอื ทฤษฎเี ครอ่ื งมือกล 1 ทศพล สงั ข์อยุทธ์ หน้า 163 งานเครื่องมอื กลเบื้องต้น (2100-1007)

25 9 การลบั มดี กลงึ ปอกผวิ มีดกลงึ ปอกผวิ เปน็ มีดกลงึ อกี ชนิดหน่งึ ทาจากวสั ดแุ ข็งทนความร้อน ใช้กลงึ ปอกผิวชนิ้ งาน ให้มขี นาดเล็กลงได้อยา่ งรวดเรว็ มดี กลึงปอกผิวตา่ งจากมดี กลงึ ชนดิ อน่ื ๆ ตรงมมุ คมตดั ดงั นั้นต้อง ลบั มุมคมตัดให้ถูกต้องตามแบบ 60 º มมุ ตง้ั มดี (  ) 90 º มมุ ตง้ั ปลายมีด (  n ) 30º มุมรวมปลายมีด ( ) มมุ ฟรดี า้ นหนา้ ( n ) 8 º มมุ คาย( ) 14 º 8º มุมฟรดี ้านขา้ ง( ) รปู ท่ี 2.12 แสดงรูปร่างและมุมคมตัดมดี กลึงปอกผิว ทมี่ า รปู ภาพโดยผเู้ รยี บเรยี ง การลบั มีดกลงึ ปอกผวิ มี 5 ขน้ั ตอน ขน้ั ท่ี 1 ลบั มมุ ต้งั มดี (  ) 60 องศา ข้ันท่ี 2 ลับมมุ ฟรดี ้านข้าง ( ) 8 องศา ข้ันท่ี 3 ลบั มุมตง้ั ปลายมดี (  n ) 30 องศา ได้มุมรวมปลายมดี ( ) 90 องศา ขั้นท่ี 4 ลบั มุมฟรดี ้านหนา้ ( n ) 8 องศา ขัน้ ท่ี 5 ลับมุมคาย ( ) 14 องศา 10 การลับมดี กลงึ ปาดหนา้ มดี กลงึ ปาดหนา้ เป็นมีดกลงึ ชนิดหนง่ึ ในจานวนมดี กลึงหลายๆ ชนิดทาจากวัสดทุ ม่ี คี วามแขง็ แรงทนต่อความรอ้ นไดส้ งู ใช้ในการกลงึ ปาดหนา้ ผวิ งานกลงึ บ่าฉาก กลงึ ลบมมุ ตา่ งๆ ได้ มีดกลึงปาด หน้าจะแตกตา่ งไปจากมดี กลงึ ชนดิ อื่นๆ ตรงคา่ ของมมุ คมตดั ดงั น้ันจะต้องรับมมุ คมตัดต่างๆ ให้ถูก ตอ้ งตามแบบ งานเครอื่ งมอื กลเบ้อื งต้น (2100-1007)

26 มมุ รวมปลายมดี ( ) 80 º มมุ ตง้ั ปลายมีด(  n ) 10 º 14 º มมุ คาย( ) มุมฟรีด้านหนา้ ( ) 8º มุมฟรีด้านข้าง ( ) 8º n รูปท่ี 2.13 แสดงรปู ร่างและมมุ มดี กลึงปาดหนา้ ท่มี า รูปภาพโดยผู้เรยี บเรยี ง การลับมีดกลงึ ปาดหน้ามี 4 ข้ันตอน ขั้นท่ี 1 ลับมมุ ฟรดี า้ นขา้ ง ( ) 8 องศา ขน้ั ที่ 2 ลบั มุมตง้ั ปลายมีด (  ) 10 องศา ได้มมุ รวมปลายมดี ( ) 80 องศา n ข้ันท่ี 3 ลับมุมฟรีดา้ นหนา้ ( n ) 8 องศา ข้ันท่ี 4 ลับมุมคาย( ) 14 องศา 11 การลับมีดไส มีวธิ กี ารลับเช่นเดยี วกบั การลับมดี กลึงปาดหนา้ มดี กลงึ ปอกผวิ มดี กลงึ เกลียว สามเหลี่ยม จะ แตกตา่ งกนั ตรงคา่ ของมุมคมตดั เท่านั้น งานเครื่องมือกลเบอื้ งตน้ (2100-1007)

27 มมุ ตง้ั มดี (  ) 80 º 90 º 10 º มุมรวมปลายมีด ( ) มมุ ตง้ั ปลายมีด(  n ) มุมคาย ( ) 14º มุมฟรดี า้ นหนา้ ( n ) 5º 5º มมุ ฟรดี ้านข้าง ( ) รูปที่ 2.14 แสดงรปู ร่างและมมุ ของมดี ไส ทมี่ า รปู ภาพโดยผเู้ รยี บเรยี ง การลบั มดี ไสผวิ ราบมี 5 ข้นั ตอน ขน้ั ท่ี 1 ลับมมุ ตง้ั มดี (  ) 80 องศา ขั้นที่ 2 ลบั มมุ ฟรดี า้ นขา้ ง ( ) 5 องศา ขัน้ ท่ี 3 ลับมุมตัง้ ปลายมีด (  n ) 10 องศา ไดม้ มุ รวมปลายมดี ( ) 90 องศา ขั้นท่ี 4 ลับมมุ ฟรีด้านหนา้ ( n ) 5 องศา ขั้นที่ 5 ลบั มมุ คาย ( ) 15 องศา 12 การลับดอกสว่าน ดอกสวา่ นมคี วามจาเปน็ มากในงานชา่ ง ดงั นั้น ช่างทกุ คนควรจะต้องลับดอกสวา่ นเป็นเพอ่ื ที่ จะได้ลบั ดอกสวา่ นมาใช้งานได้ถกู ต้องเมอ่ื ดอกสว่านไมค่ ม มมุ จิก หรือมมุ รวมปลายดอกสว่านท่ใี ช้ งานทว่ั ๆ ไปจะมีมมุ รวม 118 องศา งานเคร่ืองมอื กลเบ้ืองตน้ (2100-1007)

28 8 º-12 º 59 º 59 º มุมหลบ มมุ จิก 30 º 120º-135 º มุมลมิ่ มมุ คายหรือมมุ เอยี ง ดอกสว่านรอ่ งปิด ของรอ่ งสว่าน รปู ที่ 2.15 มมุ ต่างๆของดอกสว่าน ท่มี า รปู ภาพจากหนังสืองานเคร่อื งมอื กลเบอ้ื งตน้ ชลอ การทวี หน้า 43 การลบั ดอกสว่านจะตอ้ งเอยี งใหแ้ กนของดอกสว่านทามมุ กบั หนา้ หินเจียระไนโดยทวั่ ไป มีมมุ 59 องศา เมื่อลบั สองด้านกจ็ ะมมี มุ รวมปลายดอกสวา่ นเท่ากับ 118 องศา รปู ที่ 2.16 แสดงวธิ ลี ับดอกสวา่ น ทีม่ า http://www.cptc.ac.th/work/research/download/5 งานเครือ่ งมือกลเบื้องต้น (2100-1007)

29 ขั้นตอนการลับดอกสว่าน 4 ขั้นตอน ขน้ั ที่ 1 ลับมมุ คมตดั ดา้ นท่ี 1 ให้ไดม้ ุม 59 องศา ข้ันที่ 2 ลบั มมุ คมตัดด้านที่ 2 ให้ได้มมุ 59 องศา ข้ันท่ี 3 ลับมุมฟรดี า้ นที่ 1 ใหไ้ ดม้ มุ 12 องศา ขั้นท่ี 4 ลบั มมุ ฟรดี ้านท่ี 2 ใหไ้ ดม้ มุ 12 องศา รูปท่ี 2.17 วิธีการวดั มมุ และวัดความยาวคมตดั ดอกสวา่ น ทมี่ า รูปภาพโดยผู้เรยี บเรยี ง งานเคร่ืองมอื กลเบอื้ งต้น (2100-1007)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook