Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

744

Published by Guset User, 2021-12-15 05:00:18

Description: 744

Search

Read the Text Version

ทิศทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ สว่ นท่ี 3 ยทุ ธศาสตรก์ ารท�ำ งาน นอกเหนอื จากวถิ กี ารท�ำ งานตามรปู แบบการด�ำ เนนิ งานสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพของ สสส. แลว้ การด�ำ เนนิ งานของ สสส. ในระยะ 10 ปี ขา้ งหนา้ จะมแี นวทางขบั เคลอื่ นตามยทุ ธศาสตร์ เฉพาะ 5 ดา้ น คือ (1) การสนับสนนุ งานวชิ าการและรงั สรรค์นวตั กรรม (2) พัฒนาศกั ยภาพบคุ คล ชุมชนและองคก์ ร (3) สานเสริมพลงั เครอื ขา่ ย (4) พฒั นากลไกทางนโยบาย สังคมและสถาบัน (5) สือ่ สาร จดุ ประกาย ชีแ้ นะ สงั คม โดยการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ท้ัง 5 ด้านนี้ อยู่บนฐานของการบูรณาการ และการดำ�เนินงานตามยุทธศาสตร์หลัก คือยุทธศาสตร์ไตรพลัง ซ่ึงหมายถึงการบูรณาการ และสานพลังการขับเคล่ือนงานใน 3 ด้าน คือ พลังปัญญา พลังสังคม และพลังนโยบาย ซง่ึ จะชว่ ยคลค่ี ลายปญั หายากๆ และสรา้ งทางเลอื กการขบั เคลอ่ื นงานทม่ี โี อกาสบรรลผุ ลส�ำ เรจ็ ได้อยา่ งมีประสทิ ธิผล สว่ นท่ี 4 การจดั โครงสรา้ งแผนและกลไกสนบั สนนุ สสส. ได้จัดโครงสร้างแผนและกลไกสนับสนุนการทำ�งานที่เอ้ืออำ�นวยต่อการ บูรณาการระหวา่ งแผน โดย สสส. ได้จดั โครงสรา้ งแผนเป็น 4 กลุ่ม คอื (1) กลมุ่ แผนเชิงประเด็น (2) กลุม่ แผนเชิงพน้ื ท่ี (3) กลมุ่ แผนเชงิ องคก์ รและกล่มุ ประชากร (4) กลมุ่ แผนเชิงระบบ ซึ่งจะมีกลไกบูรณาการท้ังระหว่างแผนภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่มแผน ส่วนล่างสุดของ แบบทดลองแสดงถงึ กลไกสนับสนุนการท�ำ งาน ประกอบด้วย 5 กลไก คอื (1) การพัฒนาศกั ยภาพของบคุ ลากร สสส. และภาคีเครือข่าย (2) ระบบงบประมาณและการสนับสนนุ โครงการ (3) ระบบฐานข้อมลู และการจัดการความรู้ (4) การก�ำ กับ ติดตาม และการประเมินผล (5) การพัฒนาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศและดจิ ิทลั องคป์ ระกอบส�ำ คญั ทง้ั 4 สว่ น ในแบบจ�ำ ลองบา้ นทแ่ี สดงถงึ “ทศิ ทางและเปา้ หมาย ในระยะเวลา 10 ปี พ.ศ. 2565-2574 ของ สสส. ดงั กลา่ ว มคี วามหมายและสาระส�ำ คญั โดยสังเขป ดังน้ี 51

52 บทที่ 3 ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. 3.1.1 วสิ ยั ทัศน์ “ทุกคนบนแผ่นดินไทยมวี ถิ ีชีวิต สงั คม และสิง่ แวดล้อม ท่ีสนับสนุนต่อการมีสุขภาวะทดี่ ”ี ทุกคนบนแผ่นดินไทย หมายถึง คนทุกคนท่ีอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยไม่แบ่ง แยกเช้อื ชาติ สัญชาติ ศาสนา เพศสภาพ ความเชอื่ อดุ มการณท์ างการเมอื ง หรอื สถานะทาง เศรษฐกิจและสังคมอืน่ ใด การมีวิถีชีวิต สังคม และส่ิงแวดล้อม ท่ีสนับสนุนต่อการมีสุขภาวะที่ดี หมายถึง การที่บุคคลมีพฤติกรรมทางสุขภาพและวิถีชีวิตที่ส่งผลให้มีสุขภาพดี โดยมีสภาวะของ สังคมและสภาพแวดล้อม ซึ่งหมายรวมไม่เฉพาะส่ิงแวดล้อมทางกายภาพ แต่ครอบคลุม ถึงค่านิยม วัฒนธรรม จารีตประเพณี กฎหมาย นโยบาย และระบบสุขภาพโดยรวม ทีส่ นบั สนุนให้ทุกคนที่อาศยั บนแผ่นดินไทยมสี ขุ ภาวะดถี ้วนหน้า จากผลการทบทวนการดำ�เนินงานในรอบทศวรรษท่ีผ่านมาและนำ�มาวิเคราะห์ ถึงทิศทางท่ีควรมุ่งไปในทศวรรษหน้า พบว่าวิสัยทัศน์การดำ�เนินงานของ สสส. ในระยะ 10 ปี ข้างหน้า (พ.ศ.2565-2574) ยังควรมุ่งทิศทางของการสนับสนุนให้ “ทุกคนบนแผ่น ดินไทยมีวิถีชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่สนับสนุนต่อการมีสุขภาวะท่ีดี” ซ่ึงสอดคล้อง กับเจตนารมณ์และความมุ่งหมายของพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สขุ ภาพ พ.ศ. 2544 3.1.2 พนั ธกิจ “จดุ ประกาย กระตุ้น สาน และเสรมิ พลงั บุคคล ชุมชน และองคก์ รทุกภาคส่วน ให้มีขดี ความสามารถและ สรา้ งสรรคร์ ะบบสงั คมที่เออื้ ต่อการมีสุขภาวะท่ีดี” การก�ำ หนดพนั ธกจิ ของ สสส. พจิ ารณาโดยใชก้ รอบวตั ถปุ ระสงคต์ ามพระราชบญั ญตั ิ กองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ พ.ศ.2544 มาตรา 5(31) เพ่ือใหบ้ รรลจุ ุดมุ่งหมายของ สสส. ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และคุณค่าหลักรวมถึงรูปแบบการดำ�เนินงานสร้างเสริม สุขภาพของ สสส. (31)วัตถุประสงค์ ตามมาตรา 5 ในพระราชบญั ญตั กิ องทนุ สนบั สนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ พ.ศ.2544 มีรายละเอียดตามหวั ข้อ 2.1

ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทุนสนับสนนุ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ 3.2 ยทุ ธศาสตรก์ ารสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การกำ�หนดยุทธศาสตรใ์ นการดำ�เนนิ งานสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. ในระยะ 10 ปีข้างหน้า ให้ความสำ�คัญกับการบูรณาการการดำ�เนินงานภายใน สสส. ในทุกด้าน โดยมี ยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องเพ่ือส่งผลให้การขับเคลื่อนงานในทุกด้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังน้ี 53

54 บทท่ี 3 ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. 3.2.1 ยทุ ธศาสตร์หลัก ยุทธศาสตร์ “สานสามพลัง” ประกอบด้วย พลังปัญญา พลังทางสังคม และพลงั นโยบาย เปน็ ยทุ ธศาสตรห์ ลกั ส�ำ หรบั ขบั เคลอื่ นการเปลย่ี นแปลงและแกไ้ ขปญั หาดา้ น สุขภาพท่ีสำ�คัญในสังคมไทยอย่างสร้างสรรค์และเกิดผลลัพธ์ตามความมุ่งหวัง ยุทธศาสตร์ สานสามพลังประกอบดว้ ย (1) พลงั ปญั ญา การขยายพน้ื ทที่ างปญั ญา (Wisdom space) อยา่ งกวา้ งขวาง ในการสร้างเสริมสุขภาพให้บรรลุผลสำ�เร็จ โดยอาศัยองค์ความรู้ท่ี เกย่ี วขอ้ งในประเดน็ นน้ั ๆ จากทกุ ภาคสว่ น รว่ มกบั การพฒั นาองคค์ วาม รใู้ นเรอื่ งทเ่ี กย่ี วขอ้ งอยา่ งตอ่ เนอื่ ง เทา่ ทนั กบั สถานการณ์ และเหมาะสม กบั กลมุ่ เปา้ หมาย น�ำ ไปสกู่ ารก�ำ หนดแนวทางการขบั เคลอ่ื นงานทตี่ รง กับเป้าหมาย มโี อกาสบรรลผุ ลส�ำ เร็จและขยายผลไดอ้ ย่างรวดเร็ว (2) พลงั นโยบาย การขยายพื้นที่การมีส่วนร่วมในกระบวนการนโยบาย สาธารณะ (Space of participatory policy process) อย่างกว้างขวาง และเมื่อการผลักดันนโยบายเป็นผลสำ�เร็จ จะกอ่ ใหเ้ กดิ เปน็ กฎหมาย มาตรการ หรอื กลไกด�ำ เนนิ การทเ่ี ปน็ ทางการ ซ่งึ เป็นองคป์ ระกอบทีส่ ำ�คญั ด้านนโยบายสาธารณะ (Healthy policy) ของการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ และจะสง่ ผลกระทบในวงกวา้ งตอ่ สงั คมหรอื สิ่งแวดล้อมทเ่ี อือ้ ตอ่ การมีสขุ ภาวะของประชาชน (3) พลังสงั คม การขยายพน้ื ที่ทางสงั คม (Social space) อยา่ งกว้างขวาง โดยการระดมพลงั เครอื ขา่ ยทางสงั คมทมี่ บี ทบาทส�ำ คญั ในการท�ำ งาน การรณรงค์ และการเฝ้าระวงั ในประเดน็ งานสร้างเสรมิ สุขภาพนน้ั ๆ อยา่ งตอ่ เนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เกดิ การสานพลังและสรา้ งกระแสสงั คม ขนาดใหญ่ ที่จะช่วยหนุนเสริมและสร้างการเปล่ียนแปลงให้เกิดข้ึน ไดต้ ามทศิ ทางทมี่ ุง่ หวงั

ทศิ ทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทุนสนบั สนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ 3.2.2 ยทุ ธศาสตรเ์ ฉพาะ (1) สนบั สนนุ งานวชิ าการ (4) พฒั นาระบบกลไกทางนโยบาย และรงั สรรคน์ วตั กรรม สงั คม และสถาบนั มงุ่ ใหเ้ กดิ การพฒั นางานวชิ าการและ การสนับสนุนให้มีการพัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ ระบบและกลไกทางสังคมที่เอ้ือต่อการสร้าง เพ่ือช่วยให้มีชุดความรู้ แนวทางหรือวิธีการ สุขภาวะ ทั้งระบบและกลไกทางนโยบาย ท�ำ งานใหมๆ่ ทเ่ี หมาะสมกบั การปอ้ งกนั และ กลไกทางกฎหมาย กลไกที่เป็นทางการ แกไ้ ขปญั หาสขุ ภาพทซ่ี บั ซอ้ นและไมห่ ยดุ นง่ิ และกลไกทางสังคมอื่นๆ ที่เอื้อต่อการ สร้างเสริมสขุ ภาพ 2) พฒั นาศกั ยภาพบคุ คล ชมุ ชน 5) สอ่ื สาร จดุ ประกาย ชแ้ี นะ สงั คม และองคก์ ร ยุทธศาสตร์น้ีมุ่งสนับสนุนการ พัฒนากระบวนการเรียนรู้และ พั ฒ น า ศั ก ย ภ า พ บุ ค ค ล แ ล ะ อ ง ค์ ก ร ที่ ดำ�เนินงานสื่อสารสาธารณะ โดยเน้น ขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพด้านต่างๆ การพฒั นาศกั ยภาพในดา้ นการจดั การความรู้ ให้เท่าทันพลวัตของการเปลี่ยนแปลงท่ี ดา้ นการจัดระบบขอ้ มูล และด้านเทคโนโลยี ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ รวมท้ังให้มี ดิจิทัล ท่ีเหมาะสมกับบริบทการสื่อสารสมัย ขีดความสามารถในการทำ�งาน ท้ังที่เป็น ใหม่ ทงั้ ในส่วนของ สสส. และภาคเี ครอื ข่าย งานเฉพาะด้านและการบูรณาการงานสร้าง เพื่อกระตุ้น จุดประกาย และชี้แนะสังคม เสรมิ สขุ ภาพ ทงั้ ในระดบั พน้ื ท่ี ระดบั ประเทศ ซ่ึงท่ีนำ�ไปสู่การปรับพฤติกรรม รวมถึง ระดบั ภมู ิภาค และระดับโลก การเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานในสังคมและ ส่งิ แวดลอ้ ม ใหเ้ หมาะสมกับการมสี ขุ ภาวะ (3) สานเสรมิ พลงั เครอื ขา่ ย การประสานและส่งเสริมให้ เกิดการทำ�งานร่วมกันของภาคีและเครือ ข่ายต่างๆ รวมถึงสนับสนุนกิจกรรมเพ่ือ การพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งเชิง ระบบให้กับภาคีและเครือข่ายต่างๆ ท่ีร่วม ขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพ รวมไปถึง เครือข่ายภาคประชาชน ชุมชนและท้องถิ่น ท่รี ่วมขับเคลื่อนงานในระดับพน้ื ที่ 55

56 บทที่ 3 ทศิ ทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. 3.3 เปา้ หมายเชงิ ยทุ ธศาสตร์ การกำ�หนดเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ภายใต้ทิศทางและเป้าหมายระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2564-2573) ได้มีกระบวนการคัดเลือกจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงท่ีสำ�คัญ ทั้งในระดับนานาชาติและระดับชาติ ท่ีส่งผลต่อสุขภาวะและพฤติกรรมสุขภาพของคนไทย โดยคำ�นึงถึงความสอดคล้องของกฎหมาย ยุทธศาสตร์ และแผนระดับชาติ ตามทิศทาง การขับเคล่ือนงานด้านสุขภาพของประเทศ รวมถึงผ่านการรับฟังความคิดเห็นจาก ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เช่ียวชาญ และภาคีเครือข่าย จนสามารถสรุปเป็นเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ ท่ีสอดคล้องตามพันธกิจ การจุดประกาย กระตุ้น สาน และเสริมพลัง เพ่ือสนับสนุน การบรรลุเป้าหมายผลลพั ธ์ทางสุขภาพในระดบั ประเทศ อนึ่ง เพื่อให้การดำ�เนินงานสร้าง เสริมสุขภาพท่ีมุ่งการบรรลุเป้าหมายเชิง ยุทธศาสตร์ดังกล่าว มีแนวทางการขับ เคลื่อนท่ีต้ังอยู่บนหลักฐานและข้อมูลทาง วิชาการ สามารถติดตามวัดผลการดำ�เนิน งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม จึงได้นำ�กรอบการวิเคราะห์ห่วงโซ่ผลลัพธ์ (Chain of Outcome: CoO) มาใชว้ เิ คราะห์ เพื่อกำ�หนดขอบเขตและประเด็นที่เป็น จุดเน้นการขับเคลื่อนงานในแต่ละเป้าหมาย ดังแสดงในภาพท่ี 3.2

ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทุนสนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ ภาพท่ี 3.2 การวิเคราะห์ห่วงโซผ่ ลลัพธ์ (Chain of Outcome: CoO) 57

58 บทท่ี 3 ทศิ ทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. การวิเคราะห์ห่วงโซ่ผลลัพธ์ของการสร้างเสริมสุขภาพ จะเริ่มวิเคราะห์จากเป้า หมายการมสี ขุ ภาพดขี องบคุ คล ซงึ่ ตวั ก�ำ หนดสขุ ภาพทม่ี อี ทิ ธพิ ลมากตอ่ สขุ ภาพของแตล่ ะคน คือ พฤติกรรมส่วนบุคคลและสภาพแวดล้อมทางสังคม ซึ่งปัจจัยที่จะต้องใช้การขับเคล่ือน งานสร้างเสริมสุขภาพเพ่ือทำ�ให้เกิดข้ึนและส่งผลต่อพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อ สขุ ภาวะ ได้แก่ การมนี โยบายสาธารณะ (กฎหมาย มาตรการ กลไกบงั คบั ใช้กฎหมาย ฯลฯ) การปรบั เปลยี่ นระบบบรกิ ารทางสงั คมและสขุ ภาพ การเสรมิ ศกั ยภาพและสรา้ งความเขม้ แขง็ ขององค์กร ชุมชน การเสริมสร้างทักษะและความรอบรู้ด้านสุขภาพให้กับประชาชน ซงึ่ เป็นผลลัพธท์ ีค่ าดหวังใหเ้ กดิ ขึ้นจากการท�ำ งานร่วมกันของ สสส. ภาคเี ครอื ข่าย และโดย ความร่วมมือกับหนว่ ยงานหลกั รวมถงึ ทกุ ภาคสว่ นทเี่ กี่ยวข้อง เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่ได้มาจากกระบวนการข้างต้น แบ่งออกเป็น เป้าหมาย เชงิ ประเดน็ 7 เป้าหมาย และอกี 1 เป้าหมายเพ่อื รองรับตอ่ ปญั หาสุขภาพหรอื ปัจจยั เส่ยี ง ส�ำ คัญที่อาจเกดิ ข้ึนใหม่ในอนาคต โดยมรี ายละเอยี ดดงั นี้ เป้าหมายท่ี 1 ลดอัตราการบรโิ ภคยาสูบ การบริโภคยาสูบเป็นพฤติกรรมเสี่ยงสำ�คัญอันดับต้นท่ีส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งผลกระทบโดยตรงต่อผู้สูบบุหร่ี ครอบครัว ชุมชน และสาธารณะ โดยโทษของควันบุหร่ี มี 3 รูปแบบ คอื (1) ควันบหุ รี่มือหนง่ึ ก่อใหเ้ กิดการระคายเคอื งตอ่ ระบบทางเดินหายใจและ ทำ�ให้เนื้อปอดเสื่อมสมรรถภาพ ผลสะสมของควันบุรี่ในปอดอย่างต่อเนื่องจะทำ�ให้เกิด โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคถุงลมปอดโป่งพอง โรคมะเร็ง เป็นต้น (2) ควันบุหร่ีมือสองท่ีผู้สูบพ่นออกมาและฟุ้งกระจายในอากาศ ทำ�ให้ คนรอบขา้ งตอ้ งสดู ดมและรบั สารพษิ เขา้ ไปอยา่ งหลกี เลย่ี งไมไ่ ด้ และ (3) ควนั บหุ รมี่ อื สามเปน็ ควนั ทตี่ กคา้ งตามสถานทแ่ี ละสงิ่ ของทอี่ ยใู่ นสภาพแวดลอ้ มของการสบู บหุ ร่ี เชน่ เฟอรน์ เิ จอร์ เส้อื ผ้า เป็นต้น ซึ่งสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านการสัมผัสโดยตรง ดังนั้น การควบคุม การสูบบุหร่ีโดยการลดอัตราการสูบบุหรี่และยาสูบ ไม่เพียงส่งผลดีต่อตัวผู้สูบบุหร่ีเท่านั้น หากยงั ชว่ ยลดปจั จยั เสย่ี งจากพษิ ภยั บหุ ร่ี ใหก้ บั บคุ คลรอบขา้ ง ชมุ ชน และสงั คมโดยรวมอกี ดว้ ย ขอบเขตการด�ำ เนนิ งาน เปา้ หมายการลดอัตราการบริโภคยาสบู เพ่อื มงุ่ ลดปัจจัยเสยี่ งจากการบริโภคยาสูบ ท่ีส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทย โดยได้กำ�หนดขอบเขตและจุดเน้นการดำ�เนินงาน ทสี่ ำ�คัญไว้ดงั น้ี (1) ป้องกันผบู้ ริโภคยาสบู หนา้ ใหม่ การป้องกันผู้สูบหน้าใหม่เพื่อให้เกิดการเฝ้าระวังและรู้เท่าทันธุรกิจยาสูบท้ังทาง ตรงและทางอ้อม นอกจากช่วยลดผลกระทบทางสุขภาพต่อปัจเจกบุคคลโดยตรงแล้ว ยงั ส่งผลถึงเป้าหมายหลกั ในการลดอตั ราการบรโิ ภคยาสูบอย่างยง่ั ยนื เน่อื งจากหากสามารถ

ทิศทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ หยุดยั้งกลุ่มคนอายุน้อยที่ยังไม่เร่ิมสูบ จะช่วยลดผลกระทบทางสุขภาพที่จะเกิดขึ้นกับ บุคคลรอบขา้ ง ครอบครวั สงั คม และสิ่งแวดลอ้ มได้ในระยะยาว เพราะผลการศกึ ษาพบวา่ ผู้ท่ีเร่ิมบริโภคยาสูบตั้งแต่อายุน้อยๆ จะกลายเป็นคนติดยาสูบท่ีไม่สามารถเลิกได้โดยง่าย และมีพฤติกรรมใช้ยาสูบไปจนเกือบตลอดช่วงชวี ิต (2) ลด ละ เลิก การบรโิ ภคยาสบู ของผสู้ บู เดิม อัตราผู้เสียชีวิตเพราะบุหรี่ในประเทศไทย ยังมีสัดส่วนสูงเม่ือเทียบกับจำ�นวน ประชากรที่เสียชีวิตทั้งหมดในแต่ละปี แม้ว่าการดำ�เนินงานในปัจจุบันจะไม่สามารถลด จ�ำ นวนผบู้ รโิ ภคยาสบู รายเดมิ ไดม้ ากเทา่ ในอดตี แตย่ งั จ�ำ เปน็ ตอ้ งมกี ารด�ำ เนนิ งานเพอื่ ควบคมุ และลดอัตราการบริโภคยาสูบในกลุ่มผู้ที่ยังใช้ยาสูบ เพื่อลดการเจ็บป่วยของผู้สูบเองและ เปน็ การลดโอกาสการแพร่กระจายของควนั บหุ รม่ี ือสองอีกดว้ ย โดยเนน้ การดำ�เนินงานเชงิ พ้ืนที่และการจัดการกับปัจจัยทางสังคมและส่ิงแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง นอกจากน้ี ระบบริการ เพ่ือการเลิกบริโภคยาสูบสำ�หรับผู้ป่วยเรื้อรังและระบบบริการสุขภาพยังมีส่วนสำ�คัญต่อ การลดจ�ำ นวนผบู้ รโิ ภคยาสบู รายเดมิ โดยจะเนน้ การพฒั นาคณุ ภาพของระบบบรกิ ารเลกิ ยาสบู และสายเลิกบุหรี่ (3) สรา้ งสภาพแวดล้อมทีเ่ อื้อต่อการไมส่ บู บหุ รี่ โดยการสร้างสภาพแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคมที่เอื้อต่อการไม่สุบบุหร่ี เพื่อลดผลกระทบจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง เนื่องจากความเจ็บป่วยจากควันบุหรี่ มือสองเป็นผลเสียร้ายแรงท่ีเกิดกับบุคคลรอบข้างของผู้บริโภคยาสูบ ซึ่งก่อให้เกิด ความสูญเสียเช่นเดียวกันกับตัวผู้บริโภคยาสูบเอง รวมทั้งการสร้างศักยภาพให้แก่ ภาคีเครือข่ายในการเฝ้าระวังให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย ท้ังนี้ มาตรการสำ�คัญท่ีมุ่งลด ผลกระทบต่อบุคคลอ่ืนที่ไม่ได้มีพฤติกรรมการใช้ยาสูบ ได้แก่ การเพ่ิมเขตห้ามสูบบุหรี่ ในสถานที่และพ้ืนที่ต่างๆ ยังเป็นมาตรการท่ีช่วยจำ�กัดโอกาสการสูบบุหรี่อีกด้วย จึงเป็นมาตรการสำ�คัญทีจ่ ะสง่ ผลตอ่ การบรรลเุ ปา้ หมายในการลดการบริโภคยาสูบ (4) พัฒนาศักยภาพกลไกการควบคมุ ยาสบู การดำ�เนินงานเพื่อควบคุมยาสูบของประเทศไทยมีกลไกท้ังในเชิงกฎหมายและ นโยบายเกิดขึ้นแล้ว แต่ยังขาดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายและการขับเคลื่อน ให้กลไกดังกล่าวสามารถดำ�เนินงานให้ประสบความสำ�เร็จในการควบคุมยาสูบ ทั้งน้ี ในปัจจบุ นั มีหลายกลไกทเ่ี กยี่ วขอ้ งในเรอ่ื งนี้ แตย่ ังขาดการประสานและเชือ่ มโยงการท�ำ งาน ท่ีมีประสิทธิภาพ ท้ังระหว่างกลไกในส่วนกลางเอง และระหว่างกลไกในส่วนกลางกับระดับ จังหวัด ส่งผลให้กลไกการควบคุมยาสูบยังขาดความเข้มแขง็ จงึ เปน็ จดุ อ่อนส�ำ คัญทตี่ ้องเร่ง ปรับปรงุ และยกระดับการด�ำ เนนิ งาน เพราะเป็นกลไกสำ�คัญทจ่ี ะชว่ ยกระตุ้นและหนุนเสริม การบังคบั ใช้ทุกมาตรการตามกฎหมายให้บังเกดิ ผลในการควบคุมยาสูบไดอ้ ย่างกวา้ งขวาง 59

60 บทที่ 3 ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. เป้าหมายท่ี 2 ลดอัตราการบรโิ ภคเครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลแ์ ละส่งิ เสพติด การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และส่ิงเสพติดเป็นอีกหน่ึงปัจจัยเส่ียงสำ�คัญใน อนั ดบั ตน้ เช่นกัน ทีก่ อ่ ให้เกิดการตายก่อนวยั อันควร ทั้งจากอบุ ัติเหตุ และโรคไม่ติดตอ่ เรื้อรัง (NCDs) รวมท้งั ยงั ก่อใหเ้ กดิ การบาดเจ็บ พิการ หรือปัญหาสุขภาพจิตตามมา ซ่งึ มีผลกระทบ รนุ แรงตอ่ พฤตกิ รรมสขุ ภาพและการด�ำ เนนิ ชวี ติ ไมเ่ พยี งตอ่ ตวั ผบู้ รโิ ภคเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์ และส่ิงเสพติดเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อครอบครัวจากปัญหาความรุนแรง มีผลกระทบต่อ สาธารณะท่ีทำ�ให้สังคมและประเทศต้องสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ บั่นทอนประสิทธิภาพของ แรงงาน นอกเหนือไปจากการสญู เสยี งบประมาณของรัฐโดยตรงในการรกั ษาและบ�ำ บดั ผู้ติด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และส่ิงเสพติด ซ่ึงล้วนส่งผลเสียระยะยาวต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ ขอบเขตการดำ�เนนิ งาน เปา้ หมายการลดอตั ราการบรโิ ภคเครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลแ์ ละสงิ่ เสพตดิ มจี ดุ ประสงค์ เพ่ือลดพฤติกรรมเส่ียงท่ีเกิดจากการบริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์และสารเสพติดที่มี ผลกระทบต่อสุขภาพท้ังต่อผู้ดื่มและต่อคนรอบข้าง รวมถึงต่อสังคมโดยรวม โดยได้กำ�หนด ขอบเขตการดำ�เนินงานทสี่ ำ�คัญไวด้ งั น้ี ป(1ัจ)จปุบอ้ันงนกักนั ดนื่มักใดนม่ืกหลุ่มนเ้ายใาหวมช่แนลอะานยักุตด่ำ�กืม่ วแ่าบบ2อ0นั ปตีบรารยิบูรณ์ และวัยผู้ใหญ่ตอนต้นยัง มีสัดส่วนที่สูง แต่นักด่ืมไทยมีลักษณะการด่ืมหลากหลายและมีแนวโน้มการเปล่ียนแปลง เครอื่ งดืม่ โดยเบียร์กลายมาเป็นเครือ่ งด่มื แอลกอฮอล์ทนี่ ยิ มมากที่สุดในกลมุ่ นักด่ืมวัยหนมุ่ สาวและผู้หญงิ สง่ ผลให้อตั ราการดมื่ ในกลุ่มนกั ด่มื หญงิ อายุ 15 ปีข้ึนไป และนกั ดืม่ หน้าใหม่ มีแนวโน้มเพ่ิมข้ึน การป้องกันนักด่ืมหน้าใหม่ จึงเป็นเป้าหมายท่ีสำ�คัญ เพื่อมุ่งลดจำ�นวน ผเู้ สพตดิ เครอื่ งดม่ื แอลกอฮอลใ์ นระยะยาว นอกจากน้ี นักดื่มแบบอันตราย (Harmful drinker) ซึ่งหมายถึงผู้ท่ีมีความชุก ในการดืม่ มากกวา่ 5 วนั ต่อสปั ดาห์ และด่มื วันละมากกวา่ 5 ดืม่ มาตรฐาน โดยเน้นการน�ำ นวัตกรรมและการส่ือสารมาใชเ้ พอ่ื สง่ เสรมิ ให้เกิดการลดการด่มื ควบคู่ไปกับการสร้างสภาพ แวดล้อมและวัฒนธรรมปลอดแอลกอฮอล์ รวมทั้งการสนับสนุนให้เกิดความช่วยเหลือ ผูม้ ีปัญหาจากการดื่มเคร่ืองดืม่ แอลกอฮอล์นอกระบบบริการสุขภาพใหก้ ว้างยงิ่ ขึ้น ตลอดจน ระบบการรับส่งต่อผู้เข้ารบั การบ�ำ บดั ระหวา่ งระบบบรกิ ารสขุ ภาพกับชมุ ชนอีกด้วย (2) สรา้ งวฒั นธรรมและส่ิงแวดลอ้ มปลอดเหลา้ ธุรกิจเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์มักใช้กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ให้สินค้าและธุรกิจ

ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนบั สนุนการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ ของตน เพื่อให้ประชาชนมีทัศนคติเชิงบวก ต่อเหล้าเบียร์ว่าเป็นสินค้าปกติเป็นเครื่อง ดื่มท่ีทุกคนสามารถเข้าถึงและดื่มได้ ใช้เพื่อ เฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษเทศกาลต่างๆ ท้ังน้ี จากการประเมินผลการรณรงค์ ง ด เ ห ล้ า ใ น ช่ ว ง เ ท ศ ก า ล ท า ง ศ า ส น า โดยเฉพาะการรณรงค์ “งดเหลา้ เขา้ พรรษา” พบว่าได้รับการตอบรับสูงมากจากสังคม โดยรวม ดังน้ัน มาตรการรณรงค์ส่ือสาร ส ร้ า วั ฒ น ธ ร ร ม ก า ร ป ล อ ด เ ค ร่ื อ ง ดื่ ม แอลกอฮอล์ในช่วเทศกาล และงานบุญ ประเพณีต่างๆ จึงมีความสอดคล้องกับ สังคมไทย และสามารถนำ�หลักศาสนา มาช่วยรณรงค์ ลด ละ เลิก เครื่องด่ืม แอลกอฮอล์ไดอ้ กี ดว้ ย (3) เสริมศักยภาพกลไกการควบคุมเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ ภารกจิ ส�ำ คญั ของกลไกการควบคมุ เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล์ คอื การบงั คบั ใชก้ ฎหมาย และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ซ่ึงสำ�นักงานคณะกรรมการควบคุม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นกลไกส่วนกลางในการดำ�เนินการ โดยในส่วนภูมิภาคและ กรุงเทพมหานครมีคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์จังหวัด และคณะกรรมการ ควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานครเป็นกลไกดำ�เนินการ ท้ังนี้ กลไกการบังคับ ใชก้ ฎหมายในเรือ่ งนี้ มบี ทบาทสำ�คญั มากในการควบคมุ และจำ�กัด ทั้งการจำ�หนา่ ย การด่ืม และการโฆษณาตามเงือ่ นไขที่กฎหมายกำ�หนด ซงึ่ จะมีผลสนับสนุนการควบคุมการบริโภค เคร่ืองดมื่ แอลกอฮอลอ์ ยา่ งกว้างขวาง (4) ปอ้ งกันและควบคุมสง่ิ เสพตดิ อืน่ ปัจจบุ นั มสี ่ิงเสพตดิ ทท่ี �ำ ลายสขุ ภาพหลายรูปแบบ ทัง้ สารเสพตดิ ที่กอ่ ให้เกิดผลเสยี ต่อสุขภาพและแพร่หลายในหมู่วัยรุ่น และสิ่งเสพติดที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพ แวดลอ้ มทางสขุ ภาพ เชน่ ปญั หาเด็กติดเกม ปญั หาการพนนั ออนไลน์ เปน็ ต้น ซึง่ ลว้ นส่งผล ตอ่ คณุ ภาพชวี ติ และสขุ ภาพของประชาชนเนอ่ื งจากการใชเ้ วลาและรายไดห้ มดไปกบั กจิ กรรม ทีส่ ง่ ผลเสียตอ่ สขุ ภาพ โดยบทบาทของ สสส. และภาคเี ครอื ขา่ ย จะเน้นการผลักดันนโยบาย และการส่ือสารสงั คม โดยใหข้ ้อมลู จากงานศึกษาวิจัยเพ่ือผลกั ดนั นโยบายทจี่ ำ�เปน็ เพอื่ สร้าง ความตระหนกั ถงึ ผลเสยี ทย่ี งั ไมเ่ ป็นท่ีรบั รู้ 61

62 บทท่ี 3 ทิศทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. เป้าหมายที่ 3 เพ่มิ สัดสว่ นการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สขุ ภาพอย่างสมดุล การบริโภคอาหารท่ีไม่ได้สัดส่วนก่อให้เกิดภาวะโภชนาการทั้งขาดและเกิน ซง่ึ ก่อใหเ้ กิดโรคไม่ตดิ ต่อเร้อื รัง (NCDs) ทเี่ ป็นสาเหตหุ ลกั ของการเสยี ชีวติ ของประชากรโลก รวมถึงประชากรไทย โดยประเทศไทยมีผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรค NCDs เพ่ิมข้ึนจากร้อยละ 66 เป็นรอ้ ยละ 76 ในชว่ งเวลาเพียง 10 ปี (พ.ศ. 2547-2557) สาเหตหุ ลักเกิดจากโรคหัวใจและ หกลารอบดเรลิโอื ภดคทอม่ี าปี หจั าจรยั ทเสี่ไยี่มง่ไสด�ำ ้สคัดญั สจ่วานกภบาวระิโคภวคาอมาดหนั โาลรหปติ รสะงู เ(ภ32)ทอแนั ปม้งสี แาเลหะตนสุ ้ำ��ำ ตคาญั ลสมว่ านกหเนกงึ่ ินจไาปก และการบรโิ ภคอาหารรสจดั หรอื มไี ขมันสงู ขอบเขตการดำ�เนินงาน เป้าหมายการเพ่ิมสัดส่วนการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพอย่างสมดุล มจี ดุ ประสงคเ์ พอื่ สรา้ งเสรมิ พฤตกิ รรมการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสมใหแ้ กค่ นไทย ซง่ึ จะมสี ว่ นชว่ ยลด อตั ราการเกิดโรค NCDs โดยได้กำ�หนดขอบเขตการดำ�เนนิ งานท่สี �ำ คัญไวด้ ังนี้ (1) การเพิม่ สัดสว่ นประชากรทมี่ โี ภชนาการเหมาะสมตามชว่ งวัย โดยเน้นการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารตามหลักโภชนาการในแต่ละ ช่วงวัย ควบคู่กับการสร้างส่ิงแวดล้อมท่ีส่งเสริมการบริโภคอาหารตามหลักโภชนาการ เน่ืองจากปัจจุบันประชากรไทยโดยเฉพาะกลุ่มเด็กยังมีภาวะขาดสารอาหารเป็นจำ�นวนมาก แต่ในบางกลุ่มประชากรกลับมีแนวโน้มภาวะโภชนาการเกินท่ีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเมื่อประกอบ กับการมีพฤติกรรมเนือยน่ิง ก็จะย่ิงเพิ่มความเส่ียงต่อการเป็นโรค NCDs เช่น ภาวะอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เมทาบอลิซึมซินโดรม เป็นต้น ดังนั้น จึงต้องมุ่งเน้นการสร้าง ความรู้ ทักษะ และพฤติกรรมด้านการบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพ โดยการพัฒนาศักยภาพ แกนน�ำ และกระบวนการสอ่ื สารทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ รวมทง้ั สง่ เสรมิ ระบบเฝา้ ระวงั และคมุ้ ครอง ผู้บริโภคด้านคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารเพ่ือสื่อสารผลกระทบ และทำ�ให้ ประชาชนเทา่ ทันต่อสถานการณ์ด้านอาหาร (2) การเสริมสรา้ งคณุ ภาพและความปลอดภยั ของอาหาร โดยเนน้ พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารควบคกู่ บั การสรา้ งสงิ่ แวดลอ้ มทสี่ ง่ เสรมิ คณุ ภาพ และปลอดภยั สาเหตุสว่ นใหญ่ของการเจบ็ ป่วยจากการบริโภคอาหาร พบว่าเกิดจากอาหาร ที่ปนเปื้อนเช้ือจุลินทรีย์หรือสารเคมีทางการเกษตร ซ่ึงนอกจากจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ สขุ ภาพของผบู้ รโิ ภคแลว้ ยงั สง่ ผลกระทบตอ่ เศรษฐกจิ ของทง้ั ตวั เกษตรกรและของประเทศจาก การปฏเิ สธสนิ คา้ การเกษตรปนเปอ้ื นทส่ี ง่ ออกจากไทย ทงั้ นี้ การปนเปอื้ นของสารอนั ตรายใน ผลติ ภัณฑท์ เ่ี คยตรวจพบ ไดแ้ ก่ การตกค้างของสารเคมปี ้องกนั และก�ำ จดั ศตั รูพชื การตกค้าง ของยาในเนอื้ สตั ว์ การปนเปอ้ื นของสารพษิ จากเชอื้ รา รวมถงึ พบอาหารทม่ี คี ณุ ภาพไมต่ รงตาม (32)แผนงานการพัฒนาดชั นภี าระทางสุขภาพเพือ่ การพฒั นานโยบาย, รายงานภาระโรคและการบาดเจบ็ ของประชากรไทย พ.ศ. 2557, นนทบรุ :ี บรษิ ัท เดอะดราฟิ โกซิสเต็มส์ จำ�กดั ; 2560.

ทิศทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทุนสนับสนนุ การสรา้ งเสริมสุขภาพ มาตรฐาน เปน็ ตน้ จงึ จ�ำ เปน็ ตอ้ งพฒั นาระบบเฝา้ ระวงั และคมุ้ ครองผู้บรโิ ภคดา้ นคณุ ภาพและ ความปลอดภยั ของอาหาร และสง่ เสรมิ ระบบการบรหิ ารจดั การเพอ่ื การเขา้ ถงึ อาหารปลอดภยั ผ่านการขับเคล่ือนนโยบายสาธารณะ พัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรม รวมถึงสร้างความรู้ ความเขา้ ใจดา้ นการบรโิ ภคอาหารปลอดภัย (3) การเสริมสรา้ งความมั่นคงทางอาหาร เน้นหลักการผลิตท่ีเพียงพอการเข้าถึงและพ่ึงพาตนเองด้านอาหาร เพื่อสร้าง พฤติกรรมและส่ิงแวดล้อมที่ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร โดยองค์การอาหารและ การเกษตรแห่งสหประชาชาติ ไดน้ ิยามความม่ันคงทางอาหารว่าเป็นสถานการณท์ ่ีทุกคนใน ทุกเวลาสามารถเขา้ ถึงอาหารไดท้ ัง้ ดา้ นกายภาพ สังคม เศรษฐกจิ อย่างเพียงพอ ปลอดภยั มีคุณค่าทางโภชนาการและตรงกับความพึงพอใจของตนเองเพ่ือการมีสุขภาพ ท่ดี ี (FAO, 2008) โดยความมน่ั คงทางอาหารจะต้องมีองค์ประกอบส�ำ คัญ 4 ประการ ไดแ้ ก่ การมอี าหารเพยี งพอ (Food Availability) การเขา้ ถงึ อาหาร (Food Access) การใชป้ ระโยชน์ จากอาหาร (Food Utilization) และการมเี สถียรภาพด้านอาหาร (Food Stability) ดังน้นั จึงควรต้องมีการผลักดันนโยบายและสานเสริมพลังเครือข่ายเพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงทาง อาหาร โดยการส่งเสริมระบบผลิตอาหารท่ียั่งยืน รวมทั้งการสนับสนุนให้เกิดความเข้มแข็ง ตอ่ กระบวนการผลติ อาหาร อตุ สาหกรรมอาหาร 63

64 บทที่ 3 ทิศทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. เปา้ หมายที่ 4 เพม่ิ กจิ กรรมทางกาย กิจกรรมทางกาย (Physical Activity) หมายถึง การเคล่ือนไหวของร่างกาย โดยกล้ามเนื้อโครงร่าง (Skeletal Muscles) ที่ทำ�ให้เกิดการเผาผลาญพลังงานท่ีส่งผลต่อ สระุขดภับาพต่ำ�(ตราะมดนับิยปามานขกองลอางงค์กแาลระอรนะาดมับัยหโลนกัก) แบ่งได้เปน็ 3 ระดับตามการใชแ้ รงกาย ไดแ้ ก่ (Mild–Moderate-Vigorous) ซึ่งรวมอยู่ใน รปู แบบกิจกรรม 3 ประเภท ไดแ้ ก่ กิจกรรมทางกายท่เี กีย่ วขอ้ งกบั การท�ำ งาน กิจกรรมทาง กายท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั การเดินทาง และกจิ กรรมทางกายทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การนนั ทนาการและกีฬา (Work-Transport-Recreation) การมีกจิ กรรมทางกายทีเ่ พยี งพอ เป็นพฤติกรรมสุขภาพท่ี มีความสำ�คัญอย่างมากในการลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจาก กลุ่มโรคไม่ตดิ ต่อ (Non-communicable Diseases: NCDs) ขอบเขตการดำ�เนินงาน เปา้ หมายการเพม่ิ กจิ กรรมทางกายทเี่ พยี งพอ มจี ดุ ประสงคเ์ พอื่ สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ใหค้ นไทยมกี จิ กรรมทางกายทเ่ี พยี งพอในวิถชี วี ติ ปกติ โดยได้ก�ำ หนดขอบเขตการดำ�เนนิ งาน ทีส่ �ำ คัญไว้ดงั น้ี (1) การสนับสนุนและกระตุ้นให้ทุกคนมีกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอ (Active People) การมีกิจกรรมทางกายท่ีเพียงพอส่งผลต่อการป้องกันโรคและช่วยสร้างเสริม สุขภาพให้แข็งแรง ทั้งช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย ทำ�ให้สามารถลดภาวะเครียดจากการทำ�งาน จงึ นบั เปน็ ปจั จยั ทสี่ �ำ คญั ตอ่ การยกระดบั การมสี ขุ ภาวะของประชากรในสงั คม ดงั นน้ั จงึ มงุ่ เนน้ การสรา้ งองคค์ วามรแู้ ละถา่ ยทอดผา่ นการรณรงคแ์ ละกจิ กรรมอบรม เพอื่ สรา้ งความตระหนกั และเสรมิ สรา้ งทกั ษะและเพอื่ กระตนุ้ พฤตกิ รรมใหท้ กุ คนด�ำ เนนิ ชวี ติ ดว้ ยความกระฉบั กระเฉง และมกี จิ กรรมทางกายทีเ่ พยี งพอ การสง่ เสรมิ ใหค้ นกระฉบั เฉงผา่ นการสง่ เสรมิ ความรู้ ความตระหนกั และสรา้ งโอกาส เพอ่ื ใหบ้ คุ คลทกุ กลมุ่ และทกุ ชว่ งวยั มกี จิ กรรมทางกายอยา่ งเพยี งพอ โดยสง่ เสรมิ และกระตนุ้ ปจั จยั ภายในตวั บคุ คลใหม้ คี วามรอบรทู้ างกาย (Physical Literacy) และความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาพ (Health Literacy) ในการออกแบบและสรา้ งโอกาสในการมกี จิ กรรมทางกายในวถิ ชี วี ติ ทเ่ี หมาะ สมตามชว่ งวยั (2) การสรา้ งบรรทดั ฐานของสงั คมทก่ี ระฉบั กระเฉงไมเ่ นอื ยนง่ิ (Active Society) สังคมกระฉับกระเฉง เป็นการสร้างค่านิยมของสังคมท่ีเห็นและเข้าใจถึงประโยชน์ ของการมีกิจกรรมทางกาย และการยกระดับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิด บรรทัดฐานของสงั คมทก่ี ระฉับกระเฉงไมเ่ นอื ยน่งิ โดยการสรรสร้างปัจจัยเอ้อื และสนบั สนุน ให้เกิดการเช่ือมต่อระหว่างปัจจัยภายในตัวบุคคลและปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกอย่าง

ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ เหมาะสมตามบรบิ ทสงั คม กระทง่ั กลายเปน็ สงั คมสขุ ภาวะ (Healthy society) ทม่ี กี ารรบั รู้ ทราบถึงประโยชน์ และค่านิยมในการให้ความสำ�คัญกับการใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง ไมเ่ นือยน่งิ การสง่ เสริมการมีกิจกรรมทางกายทบ่ี ้าน (Fit from Home) ด้วยวธิ ีการออกก�ำ ลัง กายรูปแบบต่างๆ โดยการเผยแพร่และรณรงค์ที่มุ่งเป้าหมายให้เกิดการปรับตัวและปรับ เปลย่ี นวิธีคิดเพื่อการมีกิจกรรมทางกายในภาวะที่สภาพแวดล้อมบางประการอาจไม่เอื้อ (เช่น ช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ต้องจำ�กัดการเดินทาง) เป็นมาตรการสำ�คัญในการ กระตนุ้ ใหค้ นมกี จิ กรรมทางกาย สสส. และภาคจี ะเนน้ การพฒั นาระบบและนวตั กรรม ทจี่ ะชว่ ย สนบั สนนุ และกระตุ้นให้คนสามารถออกกำ�ลังกายได้อย่างเพียงพอโดยไม่ติดขัดกับ ข้อจำ�กัดดา้ นสถานท่ี เพอ่ื สนบั สนนุ ใหค้ นสว่ นใหญส่ ามารถมกี จิ กรรมทางกายอยา่ งเพยี งพอได้ แม้จะมีขอ้ จำ�กัดของสภาพแวดล้อม (3) การสรา้ งสภาพแวดลอ้ มทเ่ี ออ้ื ตอ่ การมกี จิ กรรมทางกาย (Active Environment) สภาพแวดล้อมในการมีกิจกรรมทางกายนับเป็นปัจจัยสำ�คัญต่อการมีกิจกรรม ทางกาย สถานการณ์สำ�คัญท่ีส่งผลให้สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย เช่น มลพิษทางอากาศจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-2019 ท่ีส่งผลกระทบต่อการดำ�เนินชีวิตของประชากรต้ังแต่ช่วงต้นปี 2563 เป็นต้น จึงต้องมีการทำ�งานร่วมกันระหว่างหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและ ภาคเอกชน ในการผลักดันให้เกิดนโยบายหรือแผนปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อสร้าง สภาพแวดลอ้ มทเ่ี อ้อื ต่อการมกี ิจกรรมทางกาย สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อกิจกรรมทางกาย เป็นการจัดการกระตุ้นจากภายนอก (Extrinsic factor) มุ่งเน้นการจัดการสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการมีกิจกรรมทางกาย ไม่ว่า จะเป็นการจัดการสภาพแวดล้อมในโรงเรียนท้ังโปรแกรมการเรียนการสอน สภาพแวดล้อม ฯลฯ การสง่ เสรมิ การสญั จรทเี่ ออื้ ตอ่ การใชช้ วี ติ อยา่ งกระฉบั กระเฉงส�ำ หรบั ประชากรทกุ กลมุ่ การสร้างผังเมืองท่ีเอ้ือต่อการมีกิจกรรมทางกายและนันทนาการ การส่งเสริมกิจกรรม ทางกายในสถานท่ีทำ�งาน และ ก า ร จั ด ก า ร ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ในชุมชนให้ประชาชนเข้าถึง การส่งเสริมกิจกรรมทางกายได้ อยา่ งเท่าเทียมและท่ัวถงึ 65

66 บทท่ี 3 ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. เป้าหมายท่ี 5 ลดอตั ราการตายจากอบุ ัติเหตทุ างถนน การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเป็นปัญหาสำ�คัญของทุกประเทศ ซึ่งปัจจัยเส่ียง ที่สำ�คัญประการหนึ่งของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรคือการเกิดอุบัติเหตุทางถนน การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรยังสัมพันธ์กับมิติหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจทั้งใน ระดับประเทศ เพราะเป็นเหตุให้ประชากรในวัยทำ�งานลดลง และในระดับครัวเรือนเพราะ อุบัติเหตุทางถนนจำ�นวนมากมีผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัวซ่ึงเป็นผู้หารายได้หลัก เลี้ยงครอบครัว โดยมีรายงานการศึกษาท่ีชี้ให้เห็นว่าอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย มักเกิดขึ้นกับกลุ่มวัยท่ีมีผลผลิตทางเศรษฐกิจสูง คือ ช่วงอายุระหว่าง 15-49 ปี(33) มีการคาดประมาณมูลค่าความสูญเสียจากการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางถนนในปี 2560 ของประเทศไทยว่า คิดเป็นเงินท้ังสิ้น 210,970 ล้านบาท(34) การป้องกันการเสียชีวิต ก่อนวัยอันควรจึงมผี ลกระทบสงู ตอ่ การพัฒนาประเทศ ทั้งชว่ ยเพ่ิม GDP ของประเทศ และ ลดความสญู เสียในหลายมติ ิ ขอบเขตการด�ำ เนินงาน เปา้ หมายการลดอตั ราการตายจากอบุ ตั เิ หตทุ างถนนมจี ดุ ประสงคเ์ พอ่ื ลดปจั จยั เสย่ี ง สำ�คัญที่เป็นสาเหตุการตายก่อนวัยอันควร และช่วยลดความสูญเสียทั้งด้านเศรษฐกิจและ สงั คมทั้งในระดบั ประเทศและระดบั ครัวเรอื น (1) ลดพฤติกรรมเสี่ยงตอ่ อบุ ัตเิ หตุทางถนนและสร้างพฤตกิ รรมความปลอดภัย เพ่มิ ข้ึน ผลการวิเคราะห์สถิติอุบัติเหตุทางถนน พบว่า เกินกว่าคร่ึงหน่ึงเกิดในกลุ่ม ผู้เปราะบางบนถนน (Vulnerable Road Users: VRUs) ได้แก่ ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ คนเดินเท้า และผู้ใช้จักรยาน สาเหตุสำ�คัญมาจากพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับข่ีเอง ซงึ่ พฤติกรรมเสี่ยงหลกั ยังคงหนีไม่พ้นเรือ่ ง ด่ืมแลว้ ขับ ขับรถเรว็ เกินกฎหมายก�ำ หนด รวมไป ถึงการสวมหมวกนิรภัยเม่ือขับขี่รถจักรยานยนต์ซ่ึงเป็นเคร่ืองป้องกันตนเอง แต่คนไทยก็ยัง สวมหมวกนิรภัยไม่ถึงครึ่ง รวมถึงการขาดความตระหนักถึงความเสี่ยงของกลุ่มผู้เปราะบาง บนถนนในขณะใชเ้ ส้นทาง ประเทศไทยมีกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในอัตราส่วนสูงกว่าผู้ใช้ยานพาหนะ ประเภทอ่ืน ถือเป็นกลุ่มเปราะบางในการใช้รถใช้ถนน เพราะเม่ือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ความสูญเสียและการเสียชีวิตจะเกิดกับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ และมีโอกาสสูงท่ีจะบาดเจ็บ สาหัส ถึงเสียชีวิตหรือพิการในผู้ท่ีไม่สวมหมวกนิรภัย การแก้ไขปัญหานี้ถือเป็นโจทย์ที่ มอียค่าวงาเมดทีย้าวทไมาย่ปสรูงะเสนบื่อผงจลาสกำ�มเรีป็จัจจอัยาอทื่นิ หปลัจาจยัยปครวะากมาเรหทล่ีท่ือำ�มใลหำ้�้กใานรกบาังรคเขับ้าใชถ้ึกงบฎรหิกมาารยขเนพสีย่งง (33)ขอ้ มูลจาก Institute for Health Metrics and Evaluation. Thailand. จาก http://www.healthdata.org/thailand (34)ณัชชา โอเจรญิ . 2559. อบุ ตั ิเหตทุ างถนน…ความเสียหายรา้ ยแรงตอ่ เศรษฐกจิ ไทย, สบื คน้ จาก https://tdri.or.th/2017/08/econ_ traffic_accidents/ เป็นการศึกษาจากพืน้ ท่กี ง่ึ เมอื งกงึ่ ชนบทในจังหวดั สระบรุ ี เพ่อื สะท้อนความเปน็ พน้ื ทตี่ ัวแทนของท้งั ประเทศได้ ดว้ ยการประเมินความสูญเสยี ทางเศรษฐกิจด้วยวธิ ี การทางเศรษฐศาสตร์

ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนับสนุนการสรา้ งเสริมสุขภาพ สาธารณะและระบบขนส่งมวลชนทางราง ทางเลือกการเดินทางทนี่ อ้ ยกวา่ รวมถึงตน้ ทุนใน การเดินทางที่แพงกว่า ทำ�ให้ประชาชนหันมาซื้อรถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางมากข้ึน จงึ จ�ำ เปน็ ตอ้ งพฒั นามาตรการหลายๆ ดา้ น ทจ่ี ะสนบั สนนุ การมพี ฤตกิ รรมการสวมหมวกนริ ภยั ก า ร มี พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร ขั บ ข่ี ท่ี ป ล อ ด ภั ย อ ย่ า ง ต่ อ เ น่ื อ ง ใ น ก ลุ่ ม ผู้ ใ ช้ ร ถ จั ก ร ย า น ย น ต์ และการมีระบบขนส่งมวลชนท่ที ัว่ ถงึ ปลอดภัยและเป็นธรรมส�ำ หรบั ทุกคน (2) การสร้างสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เอ้ือต่อความปลอดภัยในการใช้รถ และใชถ้ นน ขอ้ มลู การเสยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตทุ างถนน จากฐานขอ้ มลู บรู ณาการการเสยี ชวี ติ 3 ฐาน ในปี 2561-2563 พบวา่ พน้ื ทจี่ งั หวดั มอี ตั ราการเสยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตทุ างถนนตอ่ แสนประชากร สงู ในรอบ 3 ปี สว่ นใหญอ่ ยใู่ นพนื้ ทภ่ี าคตะวนั ออกและภาคกลาง และจากการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในระดับอำ�เภอทั่วประเทศ 878 อำ�เภอ การจัดการเชงิ รุกในพ้ืนท่ีเหล่าน้ีจงึ มสี ว่ นสำ�คัญที่จะ สง่ ผลตอ่ การลดลงของอบุ ตั เิ หตุ โดยกลมุ่ เสย่ี งตอ่ การเกดิ อบุ ตั เิ หตแุ ละการเสยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตุ ทางถนน กย็ งั คงเปน็ กลมุ่ วยั รนุ่ กลมุ่ ผใู้ ชร้ ถจกั รยานยนต์ กลมุ่ ผชู้ าย และกลมุ่ แรงงาน ตลอดจน การจัดการพนื้ ท่เี สย่ี งเพื่อลดอัตราการตายจากอุบัติเหตทุ างถนน ดังน้ัน การบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการใช้มาตรการทางสังคมจึงเป็นสิ่งสำ�คัญ ในการสร้างสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมท่ีปลอดภัย โดยครอบคลุมทั้งการจัดการจุดเสี่ยง ในแต่ละพน้ื ที่การจดั การยานพาหนะเส่ยี ง และระบบขนส่งสาธารณะ 67

68 บทท่ี 3 ทิศทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. เป้าหมายที่ 6 เพ่มิ สดั ส่วนผมู้ สี ขุ ภาพจิตสมบูรณ์ องค์การอนามัยโลกได้ประมาณการในปี 2560 ว่าทั้งโลกมีผู้ป่วยซึมเศร้าราว ร้อยละ 4.4 หรอื ราว 322 ล้านคน เฉพาะประเทศไทยคาดว่าจะมปี ระมาณ 2.9 ล้านคน(35) ขณะทผี่ ลส�ำ รวจความชกุ ของโรคทางจติ เวชโดยกรมสขุ ภาพจติ ในปี 2551 พบการเจบ็ ปว่ ยที่ เปน็ ปญั หามากทสี่ ดุ คอื การเสพตดิ เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ (Alcohol abuse) พบรอ้ ยละ 13.90 สว่ นภาวะซมึ เศรา้ (Majordepressiveepsode)พบรอ้ ยละ1.8โดยผปู้ ว่ ยภาวะซมึ เศรา้ สว่ นใหญ่ รอ้ ยละ 62 อย่ใู นวยั ท�ำ งาน (อายุ 25-59 ป)ี รอ้ ยละ 26.5 เปน็ วัยผูส้ งู อายุ และร้อยละ 11.5 เป็นเยาวชนอายุ 15 - 24 ปี แม้จะมีสัดส่วนน้อยกว่ากลุ่มวัยอื่น แต่เยาวชนเป็นกลุ่มที่มี แนวโน้มในการฆ่าตัวตายมากกว่ากลุ่มอ่ืน นอกจากนี้ ในช่วงการระบาดของโคโรนาไวรัส 2019 ทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ วถิ ชี วี ติ ในหลายดา้ น ทง้ั การมงี านท�ำ รายไดถ้ กู จ�ำ กดั กจิ กรรมตา่ งๆ ตลอดจนการสูญเสียบุคคลใกล้ชิด ล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต จากแนวโน้มและ สถานการณด์ งั กลา่ วจะเหน็ ไดว้ า่ ปญั หาสขุ ภาพจติ ก�ำ ลงั ทวคี วามรนุ แรง ดงั นน้ั การขบั เคลอ่ื น ภารกิจสร้างเสริมสุขภาพจิตเพื่อเพ่ิมสัดส่วนของผู้ท่ีสามารถดำ�รงภาวะสุขภาพจิตที่สมบูรณ์ จงึ มีความสำ�คัญ และถอื เป็นประเด็นทา้ ทายและมคี วามจ�ำ เป็นเรง่ ด่วนในสงั คมไทย ขอบเขตการดำ�เนินงาน เป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนผู้มีสุขภาพจิตสมบูรณ์มีจุดประสงค์เพ่ือก่อให้เกิดผลลัพธ์ ทางสขุ ภาพจติ ควบค่ไู ปกับการสร้างเสรมิ สุขภาพทางกาย โดยไดก้ �ำ หนดขอบเขตการด�ำ เนิน งานทส่ี ำ�คญั ไว้ ดงั น้ี (1) การสรา้ งพฤตกิ รรมและวิถีชีวิตที่สร้างเสรมิ ศักยภาพทางจิตของประชาชน โดยเน้นการพัฒนาองค์ความรู้และสนับสนุนนโยบายด้านสุขภาพจิตเพ่ือพัฒนา ศักยภาพทางจิต ด้วยการพัฒนางานวิจัย งานวิชาการ และองค์ความรู้ท่ีจำ�เป็นต่อการ พัฒนาศักยภาพทางจิตของประชาชนในแต่ละช่วงวัย รวมท้ังสนับสนุนให้เกิดการพัฒนา นวัตกรรมและระบบข้อมูลท่ีจำ�เป็นต่อการขับเคลื่อนงาน เพ่ือพัฒนาศักยภาพทางจิตของ ประชาชนผา่ นการสอื่ สาร การรณรงค์ และการประชาสมั พนั ธ์ ทเ่ี นน้ สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจ เพ่ือสร้างภูมิคุ้มกันและสามารถรับมือกับปัญหาด้านสุขภาพจิต ซ่ึงจะนำ�ไปสู่การสนับสนุน ให้เกิดการพัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายหรือนโยบายสาธารณะเพ่ือขับเคล่ือนการพัฒนา สุขภาพจิตให้มีความยั่งยืน และการสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการสร้างเสริมสุขภาพจิต ทส่ี มบรู ณ์ของประชาชนทุกชว่ งวัย พรอ้ มทง้ั รณรงค์ เผยแพรค่ วามรขู้ อ้ มลู ขา่ วสารทีส่ ่งเสรมิ ความเขา้ ใจและกระตนุ้ พฤตกิ รรมเกยี่ วกบั การสรา้ งเสรมิ สุขภาพจติ (35) กรมสุขภาพจติ , แผนพฒั นาสุขภาพจิตแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 1 (พ.ศ. 2561-2580).

ทศิ ทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สถานการณ์สุขภาพจิตของวัยรุ่นไทยยังมีความชุกของภาวะซึมเศร้าและ ความเสย่ี งฆา่ ตวั ตาย โดยเพศหญงิ จะมคี วามเสยี่ งเปน็ ภาวะซมึ เศรา้ มากกวา่ เพศชาย และยงั พบ ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะซึมเศร้าและความเสี่ยงจะฆ่าตัวตาย โดยวัยรุ่นท่ีมีความเสี่ยงจะ ฆ่าตัวตายมีโอกาสจะมีภาวะซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นท่ีไม่มีความเส่ียงจะฆ่าตัวตายถึงเกือบ สบิ เทา่ นอกจากนี้ กลมุ่ วยั ท�ำ งานอายุต้งั แต่ 15-59 ปี มีแนวโน้มการเจบ็ ปว่ ยและเสยี ชีวิต จากภาวะสุขภาพจิตสูงกว่ากลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ และมีอัตราการตายจากการทำ�ร้ายตัวเอง ท่ีเกิดจากความเครียดสูงซึ่งเกิดจากมาจากการทำ�งานและความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับ ดังนั้น จึงต้องมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพส่วนบุคคลให้มีความสามารถในการจัดการตนเอง และปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมเพอื่ สง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ ในประชากรทุกช่วง (2) การสรา้ งเสริมสภาพแวดลอ้ มทเ่ี ออื้ ต่อการสรา้ งเสรมิ สุขภาพจติ ทดี่ ี โดยการร่วมพัฒนานโยบายเพ่ือสร้างเสริมสุขภาพจิตท่ีดี รวมท้ังการเสริมพลังและ สรา้ งการมสี ว่ นรว่ มกบั ชมุ ชนและเครอื ขา่ ยในการท�ำ งาน เนอ่ื งจากสภาพแวดลอ้ มในปจั จบุ นั ทง้ั การเปลย่ี นแปลงของเศรษฐกจิ สงั คม และสภาพแวดลอ้ มอนั เกดิ จากการระบาดของไวรสั โซคมึ วเศิดร-1า้ 9ยง่ิ สเน่งผน้ ลยใ�้ำ หค้ควานมไทส�ำยคมญั ีคขวาอมงกเสา่ียรสงตรา้่องกเสารรเมิ กศิดกั คยวภาามพเคขอรียงสดภคาพวาแมวดวิตลอก้ มกทังวาลงสแงั คลมะทภชี่าวว่ ยะ เพิ่มภูมิคุ้มกันและความเข้มแข็งทางจิตใจในการรับมือกับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ ดงั น้นั สสส. จะร่วมกบั ภาคีเครอื ขา่ ยเพ่ือเสรมิ สรา้ งทักษะทางจิตใจในครอบครวั และเสริม พลงั และการมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชนในการพฒั นาระบบการจดั การสง่ิ แวดลอ้ มทมี่ ผี ลคกุ คามตอ่ สุขภาพจิตของสมาชิกภายในชุมชน รวมถึงสนับสนุนนโยบายหรือมาตรการที่ทุกภาคส่วนมี ส่วนรว่ มเพ่ือสง่ เสริมระบบป้องกนั และเฝา้ ระวงั การเกิดปัญหาด้านสขุ ภาพจิต 69

70 บทที่ 3 ทศิ ทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. เปา้ หมายท่ี 7 ลดผลกระทบต่อสุขภาพจากมลพิษทางส่ิงแวดล้อม มลพิษทุกชนิดเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำ�ร้ายสุขภาพทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง โดยเฉพาะในปัจจุบันองค์การอนามัยโลกได้ระบุว่า มลพิษทางอากาศโดยเฉพาะกลุ่ม PM 2.5 เป็นปัจจัยเสี่ยง 1 ใน 5 อันดับแรก (4 ปัจจัยเสี่ยงที่เหลือคือ พฤติกรรมการกิน การบริโภคยาสูบ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ) ที่ส่งผลให้เป็น โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โดยสาเหตุและแหล่งกำ�เนิดของมลพิษทาง อากาศที่สำ�คัญในไทย ได้แก่ ภาคการขนส่งและยานยนต์ ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร จากการเผาในที่โล่งและไฟในป่า ขอบเขตการดำ�เนินงาน เป้าหมายการลดมลพิษจากส่ิงแวดล้อมมีจุดประสงค์เพื่อหาแนวทางควบคุมและ ลดความเสี่ยงจากมลพิษท่ีส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยได้กำ�หนดขอบเขตการดำ�เนินงาน ทีส่ ำ�คัญไว้ ดังน้ี (1) การสร้างพฤติกรรมและวิถีชีวิตท่ีสัมพันธ์กับสภาพปัญหามลพิษทาง สิ่งแวดลอ้ ม โดยการสร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนให้เกิดนโยบาย เพอ่ื ลดผลกระทบต่อสขุ ภาพจากมลพษิ ทางส่ิงแวดลอ้ ม ท่เี น้นความร่วมมอื กับภาคเี ครอื ข่าย เพ่ือพัฒนาองค์ความรู้ท่ีเหมาะสมต่อการพัฒนาศักยภาพเพ่ือขับเคล่ือนพลังชุมชนและ องค์กรในทุกระดับ ท้ังในส่วนกลางและท้องถ่ิน โดยเน้นการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ผ่านกระบวนการสื่อสาร รณรงค์ สร้างความตระหนักรู้ เพื่อสร้างแนวคิด จิตสำ�นึก และศักยภาพส่วนบุคคลในการสร้างเสริมสุขภาพจากการลดผลกระทบของมลพิษทาง ส่ิงแวดล้อม ซึ่งจะนำ�ไปสู่การผลักดันให้เกิดข้อเสนอแนะเชิงนโยบายหรือการผลักดันให้ เกิดกฎหมายเพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการมลพิษทางส่ิงแวดล้อมที่ส่งผลกระทบ ทางสุขภาพของภาครัฐ (2) การสรา้ งระบบสงั คม วฒั นธรรม และจติ ส�ำ นกึ ทเ่ี ออื้ ตอ่ การรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม และมสี ่วนร่วมในการจดั การมลพิษสิง่ แวดลอ้ ม โดยการพฒั นาศกั ยภาพและขบั เคลอ่ื นพลงั ชมุ ชน การพฒั นาระบบบรกิ ารสนบั สนนุ และเครื่องมือป้องกันสุขภาพ และการพัฒนานโยบายและมาตรการเพ่ือจัดการส่ิงแวดล้อม เนื่องจากปจั จบุ นั ปัญหามลพษิ ทางอากาศเกดิ จากสาเหตุหลัก 2 ประการ ไดแ้ ก่ มนุษย์และ ธรรมชาติ โดยกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์เป็นส่วนสำ�คญั ทีก่ อ่ ใหเ้ กิดปัญหามลพิษทางอากาศ และมีตัวอย่างในหลายพื้นที่ที่การปรับเปล่ียนพฤติกรรมการผลิตทางการเกษตรจะช่วยลด การเผาลงได้ ดงั นนั้ การขบั เคลอื่ นเชงิ บรู ณาการทเี่ รมิ่ จากการสรา้ งความเขม้ แขง็ ดา้ นวชิ าการ เพื่อให้ได้ข้อมูลและชุดความรู้ที่เหมาะสมกับบริบทสังคมไทย นำ�มาใช้ในการส่ือสารรณรงค์ เพอ่ื สรา้ งจติ ส�ำ นกึ และการมสี ว่ นรว่ ม เพอื่ ผลกั ดนั ใหเ้ กดิ นโยบายสาธารณะจงึ เปน็ สว่ นส�ำ คญั

ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทุนสนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ ตอ่ การสรา้ งวฒั นธรรมและจติ ส�ำ นกึ ซงึ่ จะสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ สง่ิ แวดลอ้ มทเี่ ออื้ ตอ่ การมสี ขุ ภาพทด่ี ี นอกจากน้ี การลดปญั หามลพษิ จากสงิ่ แวดลอ้ มทส่ี ง่ กระทบตอ่ สขุ ภาพในพนื้ ทเี่ สยี่ ง ยังมีส่วนสำ�คัญต่อการทำ�งานในระยะแรก เน่ืองจากสถานการณ์คุณภาพอากาศและปัญหา หมอกควันในภาคเหนือที่พบมลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐาน คิดเป็นจำ�นวนวันมากกว่า รอ้ ยละ 20 ของทงั้ ปี และมจี �ำ นวนวันที่ฝ่นุ เกินคา่ มาตรฐานที่ 112 วัน ซ่ึงสัมพนั ธก์ ับฤดูกาล และปริมาณ PM 2.5 โดยภาคตะวันออกและภาคตะวันตกจะเกิดข้ึนทุกช่วงเดือนตุลาคม ถึงมีนาคมของทุกปีจากกิจกรรมทางการเกษตร ภาคเหนือ และภาคกลาง เกิดขึ้นทุกช่วง มกราคมถึงเมษายนของทุกปีจากการเผาในท่ีโล่งและมลพิษข้ามพรมแดน ภาคใต้เกิดข้ึน ทุกสิงหาคมถึงตุลาคมของทุกปีจากป่าพรุและมลพิษข้ามพรมแดน และกรุงเทพมหานคร เกิดขึ้นทุกพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี ดังนั้น การทำ�งานร่วมกับภาคีเครือข่าย เพอื่ เสรมิ พลงั การท�ำ งานในทกุ ภาคสว่ นของแตล่ ะพนื้ ทเ่ี สยี่ งจงึ มคี วามจ�ำ เปน็ ตอ่ การลดปญั หา มลพิษจากสง่ิ แวดลอ้ มทส่ี ง่ กระทบต่อสขุ ภาพ 71

72 บทท่ี 3 ทิศทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. เป้าหมายท่ี 8 ปัญหาสขุ ภาพอุบตั ใิ หม่และปจั จัยเสี่ยงอนื่ ปัจจุบันปัญหาสุขภาพท่ีอุบัติข้ึน ใหมม่ แี นวโนม้ เพม่ิ มากขน้ึ ดงั เชน่ การระบาด อย่างกว้างขวาง (Pandemic) ของโรค โควิด-19 นับเป็นกรณีตัวอย่างของปัญหา สุขภาพอุบัติใหม่ท่ีก่อให้เกิดผลกระทบ อย่างรุนแรงและยาวนาน ทั้งด้านสุขภาพ ด้านสังคมและด้านเศรษฐกิจ ท้ังในระดับ บุคคล ระดับครอบครัว ไปจนถึงระดับ ประเทศและระดับโลก ซ่ึงการเกิดข้ึนของ โรคติดเช้ืออุบัติใหม่คาดว่ามีสาเหตุจากการ เพิ่มข้ึนอย่างมากของเส้นทางคมนาคมและ ขยายขอบเขตออกไปยังพื้นท่ีห่างไกลต่างๆ ท่ัวโลกส่งผลให้มนุษย์และสัตว์ป่ามีโอกาส สัมผัสใกล้ชิดกันมากขึ้น ประกอบกับการ เดินทางท่องเท่ียวของมนุษย์ท่ีรวดเร็วและ เพ่ิมข้ึนอย่างมาก รวมถึงสภาพการอยู่อาศัย อย่างหนาแน่นของประชากร ในเมืองใหญ่ๆ เปน็ ปจั จยั ใหก้ ารระบาดของโรคมโี อกาสเปน็ ไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง(36) นอกจาก นน้ั การเปลย่ี นแปลงของสภาพแวดลอ้ มอยา่ ง รนุ แรง การเปลยี่ นแปลงของสภาพภมู อิ ากาศ (Climate change) รวมถึงความก้าวหน้า ในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่างๆอย่างก้าว กระโดด ก็อาจเป็นต้นเหตุทำ�ให้เกิดปัญหา สุขภาพใหม่ๆ หรือทำ�ให้ปัจจัยเส่ียงอ่ืนๆ ท่ีปัจจุบันยังไม่เป็นปัญหาสำ�คัญ แต่อาจ พลิกผันข้ึนมาเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบ รนุ แรงต่อสุขภาพของประชาชนในอนาคต (36)Baylor College of Medicine, Emerging Infectious Diseases, จาก https://www.bcm.edu/departments/molecular-virology-and-microbiolo- gy/emerging-infections-and-biodefense/emerging-infectious-diseases

ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนบั สนุนการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ ดังนัน้ เพื่อใหก้ ารก�ำ หนดเป้าหมายในระยะ 10 ปีขา้ งหนา้ มีความยดื หยุ่นในระดับ หนงึ่ จงึ ไดก้ �ำ หนดใหป้ ญั หาสขุ ภาพอบุ ตั ใิ หมแ่ ละปจั จยั เสยี่ งอนื่ ทอี่ าจพลกิ ผนั ขน้ึ มาเปน็ ปญั หา สำ�คัญในอนาคตเป็นเป้าหมายเพิ่มเติม จาก 7 เป้าหมายแรกที่ระบุประเดน็ ชัดเจน รวมกับ เป้าหมายบวก 1 เป็นประเด็นท่ีอาจได้รับการเสนอให้เป็นเป้าหมายสำ�คัญในอนาคต (เป็นเปา้ หมาย “บวก 1”) เพอื่ ให้ สสส. สามารถก�ำ หนดเป้าหมายส�ำ คญั ในการดำ�เนินงานท่ี ตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพใหม่หรือปัจจัยเสี่ยงสำ�คัญที่อาจเกิดข้ึนจากพลวัตทางเศรษฐกิจ สังคม การเมอื ง วฒั นธรรมสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี หรืออน่ื ๆ ในอนาคต ขอบเขตการดำ�เนนิ งาน ส�ำ หรบั เปา้ หมายปญั หาสขุ ภาพอบุ ตั ใิ หมแ่ ละปจั จยั เสย่ี งอน่ื สามารถก�ำ หนดขอบเขต การด�ำ เนินงานท่สี �ำ คัญเพ่ือมุง่ ใหเ้ กิดผลลัพธ์ทางสขุ ภาพท่ีดขี นึ้ ได้ ดังน้ี (1) การติดตามและเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพอุบัติใหม่และปัจจัยเส่ียง ท่ีส่งผลกระทบสูงต่อสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อมปัจจัยทางสังคมที่กำ�หนดสุขภาพ (Social Determinants of Health) ด้านต่างๆ มีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซ่ึงล้วนส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมการด�ำ เนนิ ชวี ิต และพฤตกิ รรมทางสขุ ภาพ โดยมีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงส�ำ คัญ ทีค่ วรมีการติดตามเฝา้ ระวังอยา่ งต่อเน่ือง ดังนี้ ‚ ด้านเศรษฐกิจ กรณีการเปล่ียนแปลงอำ�นาจทางเศรษฐกิจของประเทศที่มี อิทธิพลสูงในเวทีโลก การกำ�หนดกฎเกณฑ์การนำ�เข้าหรือส่งออกสินค้าของคู่ค้า รายใหญ่ของประเทศไทย รวมถึงการทำ�ข้อตกลงทางการค้าทั้งแบบพหุภาคีหรือ ทวิภาคี ลว้ นมีโอกาสสง่ ผลกระทบต่อสขุ ภาพท้ังทางตรงและทางออ้ ม ‚ ดา้ นสงั คม แนวโนม้ การเปลยี่ นแปลงเชงิ สงั คม ท้ังในระดับสากลและในระดับ ประเทศ โดยเฉพาะในสถานการณ์ท่ีเทคโนโลยีการสื่อสารปัจจุบันท่ีทำ�ให้ข้อมูล ต่างๆ มีการเผยแพร่อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ซ่ึงท่ีผ่านมา การเปลี่ยนแปลง เชิงสังคมดังกล่าว บางครั้งกลายเป็นประเด็นกระแสสังคมในประเทศไทย เช่น กระแสการเล่นสเกต็ บอร์ด การแกลง้ กันท่ที ำ�ใหเ้ กิดอนั ตราย ‚ ด้านส่ิงแวดล้อม ความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ ภาวะโลกร้อน ที่ทำ�ให้เกิดภาวะอากาศแบบสุดข้ัวในหลายพ้ืนที่ของโลก อาจส่งผลกระทบต่อแหล่งอาหารทางธรรมชาติ เช่น การระบาดของแมลงศัตรู พืชอย่างกวา้ งขวาง ภาวะแหง้ แลง้ รุนแรงทีท่ ำ�ลายพืชผลการเกษตรรวมถงึ กระทบ การเล้ียงปลาในกระชัง ภาวะทะเลอุ่นที่ทำ�ให้ปะการังฟอกขาวและสัตว์ทะเล 73

74 บทที่ 3 ทศิ ทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) ของ สสส. ลดจ�ำ นวนลง เปน็ ตน้ ซงึ่ สง่ ผลตอ่ ความมน่ั คงทางอาหาร และเปน็ ความเสยี่ งตอ่ ภาวะ ทพุ โภชนาการของกลมุ่ เปราะบาง หากการเขา้ ถงึ อาหารทม่ี คี ณุ ภาพตอ้ งมคี า่ ใชจ้ า่ ย มากขน้ึ นอกจากนนั้ ภาวะโลกรอ้ นยงั เปน็ ปจั จยั เสยี่ งทท่ี �ำ ใหร้ ะบบนเิ วศเปลย่ี นแปลง จนอาจส่งผลใหก้ ารระบาดของโรคต่างๆมเี พิม่ มากขึน้ โรคในอดีตทีเ่ คยควบคุมได้ แลว้ อาจกลับมาระบาดใหมไ่ ดอ้ กี ‚ ด้านเทคโนโลยี ในสภาวะปัจจุบันท่ีเทคโนโลยีดิจิทัลมีการพัฒนาแบบ ก้าวกระโดดและเป็นเทคโนโลยีท่ีมีการนำ�มาประยุกต์ใช้กับสินค้าและบริการอย่าง รวดเร็ว จึงมีโอกาสสูงมากในการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำ�เนินชีวิตทั้งในด้านบวก และดา้ นลบ ดงั เช่น เทคโนโลยี 5G ทจ่ี ะเข้ามามบี ทบาทท�ำ ให้อุตสาหกรรมสุขภาพ เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบอัจฉริยะ (Smart Healthcare) ซึ่งอาจส่งผลให้ การท�ำ งานตามแนวคดิ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพแบบเดมิ ไมป่ ระสบผลส�ำ เรจ็ เทคโนโลยี ยานยนต์ไร้คนขับท่ีอาจส่งผลช่วยลดปัจจัยเสี่ยงเดิมให้ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เช่น แม้ด่ืมสุราจนมึนเมาก็ยังสามารถเดินทางกลับบ้านได้โดยไม่เกิดอุบัติเหตุและ ความสูญเสยี ขณะท่ีปญั หาขา่ วสารทีไ่ ม่สมบรู ณ์ (Imperfect information) หรอื ข่าวปลอม (Fake news) รวมถึงการโฆษณาหลอกลวงที่มีเป็นจำ�นวนมากก็อาจ ก่อใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผิดและน�ำ ไปสูผ่ ลเสยี ตอ่ สุขภาพอย่างรา้ ยแรงได้ (2) การตอบสนองตอ่ ปัญหาสุขภาพอบุ ตั ใิ หม่และปจั จัยเสยี่ งอ่นื ปจั จยั เสย่ี งใหมๆ่ ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพสามารถเกดิ ขน้ึ ไดต้ ลอดเวลา ซงึ่ อาจเปน็ อปุ สรรคตอ่ การบรรลผุ ลลพั ธท์ างสขุ ภาพตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การตอบ สนองตอ่ ปญั หาไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และทนั ทว่ งทจี งึ มคี วามส�ำ คญั ตอ่ การบรรลเุ ปา้ หมายของ สสส. ดงั เชน่ สถานการณก์ ารระบาดของโรคโควดิ -19 ซง่ึ เปน็ ปญั หาสขุ ภาพอบุ ตั ใิ หมท่ ไ่ี มม่ กี ารเตรยี ม การเพอื่ รบั มอื และตอบสนองตอ่ ปัญหานมี้ ากอ่ น ซ่ึงเม่อื เกดิ ปญั หาการระบาดข้นึ กลไกการ ท�ำ งานทยี่ ดื หยนุ่ ของ สสส. รว่ มกบั ทนุ การท�ำ งานทเี่ กย่ี วขอ้ งในชว่ งทผ่ี า่ นมา ดงั เชน่ เครอื ขา่ ย การทำ�งานและรูปแบบการดูแลด้านสุขภาพที่มีลักษณะเฉพาะสำ�หรับประชากรกลุ่มเฉพาะ ตา่ งๆ กส็ ามารถน�ำ มาชว่ ยในการปรบั เปลยี่ นการท�ำ งานใหต้ อบสนองและสนบั สนนุ การแกไ้ ข ปญั หาได้เปน็ อย่างดี จากการถอดบทเรียนปัญหาของสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 พบว่า ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของประชาชนทั้งทางตรงต่อผู้ติดเช้ือเอง และทางอ้อมต่อกลุ่ม คนทุกช่วงวัยโดยเฉพาะในกลมุ่ เปราะบาง เช่น ผลกระทบท่เี กดิ กับเดก็ ทกุ กลุ่ม สถานะการ เงนิ ของครอบครวั โอกาสในการเรียน ความกังวลเรือ่ งการตดิ เชอ้ื ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพจาก

ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทุนสนับสนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ การผิดนดั หมายแพทย์ เป็นตน้ จะเหน็ ได้วา่ การเกิดปัญหาสขุ ภาพอุบัติใหม่ มโี อกาสสง่ ผลก ระทบทางสุขภาพต่อประชาชนในวงกว้าง และอาจใช้ระยะเวลานานในการฟื้นฟูสุขภาพให้ กลบั คนื สสู่ ภาพเดมิ การเตรยี มความพรอ้ มทงั้ ดา้ นองคค์ วามรแู้ ละการประมวลทนุ การท�ำ งาน เดมิ ทม่ี อี ยขู่ อง สสส.เพอื่ ใหส้ ามารถตอบสนองตอ่ การจดั การกบั ปญั หาสขุ ภาพอบุ ตั ใิ หมอ่ ยา่ ง เป็นระบบ จึงเป็นส่ิงสำ�คัญต่อการดำ�เนินงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่อการสร้างผลลัพธ์ ทางสขุ ภาพทด่ี ีให้แก่ประชาชน 75

76 บทที่ 4 โครงสรา้ งแผนและกลไกสนบั สนนุ การดำ�เนินงาน บทที่ 4 โครงสร้างแผนและ กลไกสนับสนุนการด�ำ เนินงาน

ทศิ ทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนับสนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ การสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพต้องสร้างความร่วมมือจากหลายภาคส่วน โดยมี สสส. เปน็ ศนู ยก์ ลางในการประสานความรว่ มมอื กบั ทกุ ภาคสว่ นเพอ่ื ใหเ้ กดิ ผลลพั ธท์ าง สุขภาพตามเป้าหมายท่ีต้ังไว้ ดงั น้ัน การบริหารจดั การให้เกิดประสิทธภิ าพในการขบั เคลอ่ื น ภารกิจสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพจึงมีความสำ�คัญและจำ�เป็นอย่างยิ่ง โดย สสส. ได้ถอดบทเรียนและนำ�มาพัฒนารูปแบบการดำ�เนินงาน รวมถึงพัฒนากลไกสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพการดำ�เนินงานให้มีความสะดวก รวดเร็ว และเอ้ืออำ�นวยให้สามารถทำ�งานร่วมกันได้จากทุกภาคส่วน ตามโครงสร้างและกลไก ดังต่อไปน้ี 77

78 บทท่ี 4 โครงสร้างแผนและกลไกสนับสนุนการด�ำ เนนิ งาน ภาพที่ 4.1 การจัดโครงสร้างแผนและวิธกี ารทำ�งาน

ทิศทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ 4.1 การจดั โครงสรา้ งแผนและวธิ กี ารท�ำ งาน การขับเคลอื่ นภารกจิ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ เพอ่ื มุ่งสู่การบรรลุผลลพั ธ์ทางสขุ ภาพ ตามเป้าหมายที่วางไว้ จำ�เป็นต้องออกแบบวิธีการดำ�เนินงานท่ีมีประสิทธิภาพ โดยเร่ิมจาก การจัดโครงสร้างแผนท่ีเน้นให้เกิดการบริหารจัดการท่ีเอ้ือต่อการประสานการทำ�งานใน แนวราบ ซึ่งเป็นวิธีการทำ�งานท่ีสำ�คัญของ สสส. โดย สสส. ได้จำ�แนกโครงสร้างแผนและ วิธีการทำ�งานออกเปน็ 4 กลมุ่ เพอื่ สนบั สนุนการบรู ณาการการท�ำ งานระหวา่ งแผน ดงั นี้ 1) แผนเชิงประเด็นเน้นการทำ�งานยุทธศาสตร์เชิงลึก พัฒนางานวิชาการและ นวตั กรรมใหท้ นั กบั ปจั จยั เสย่ี งทม่ี พี ลวตั และการเปลยี่ นแปลงตลอดเวลา โดยมเี ปา้ หมายหลกั เพอื่ ผลกั ดนั ใหเ้ กดิ นโยบายสาธารณะดา้ นการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพและควบคมุ ปจั จยั เสย่ี งอนั จะ ส่งผลกระทบกับประชากรในวงกว้าง 2) แผนเชิงกลุ่มประชากรและองค์กร เน้นการพัฒนาศักยภาพ พัฒนาเครือข่าย สร้างความเข้มแข็งให้กับประชากรกลุ่มเป้าหมายและเครือข่ายองค์กรสุขภาวะ เพื่อสร้าง การมสี ่วนร่วมในการพัฒนางานสรา้ งเสรมิ สุขภาพทเี่ หมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย 3) แผนเชงิ พ้นื ที่ เนน้ การสนับสนนุ ใหเ้ กิดเครือขา่ ยชมุ ชน พน้ื ทเี่ ข้มแขง็ มีขดี ความ สามารถในการแก้ปญั หาสุขภาพ เพ่อื ใหเ้ กิดกลไกการสรา้ งเสรมิ สุขภาพและลดปจั จยั เส่ียงท่ี ชมุ ชนเปน็ เจา้ ของ เป็นผดู้ ำ�เนินการใหส้ อดคล้องเหมาะสมกับกบั บรบิ ทของพืน้ ทแ่ี ละชุมชน 4) แผนเชิงระบบและกลไก เป็นกลุ่มแผนท่ีทำ�หน้าที่สนับสนุน ส่งเสริมให้เกิด การพัฒนาระบบกลไกทางสังคมและสุขภาพร่วมกับเจ้าภาพหลัก เพื่อให้เกิดการทำ�งานเชิง ระบบอนั จะทำ�ให้มีการทำ�งานทีต่ ่อเนื่อง แนวทางการบูรณาการการท�ำ งาน การขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. ไม่สามารถดำ�เนินงานอย่างมี ประสิทธิภาพได้เพียงลำ�พัง เน่ืองจากงานสร้างเสริมสุขภาพเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมส่วน บคุ คลทต่ี อ้ งอาศยั การสรา้ งองค์ความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาทกั ษะ ร่วมกบั การสร้างเสริม สภาพแวดล้อมทางสุขภาพให้เหมาะสมต่อการมีสุขภาวะท่ีดี เช่น การมีพ้ืนท่ีเอื้อต่อการ ออกกำ�ลังกาย การมีความสามารถเข้าถึงอาหารสุขภาพได้ การใช้ชีวิตโดยไม่มีปัจจัยเส่ียง ทางสุขภาพ เปน็ ต้น ซ่งึ งานทั้ง 2 ส่วน มีหนว่ ยงานหรือองค์กรรบั ผดิ ชอบและด�ำ เนินงานที่ เกี่ยวข้องอย่แู ล้ว แต่อาจยังไม่มกี ารมองถงึ ผลลพั ธร์ ว่ มกนั ในการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. จึง เปรยี บเสมอื นเปน็ คนกลางในการประสานความรว่ มมอื จากองคก์ รทเ่ี กย่ี วขอ้ งเพอ่ื สรา้ งใหเ้ กดิ กลไกในการขับเคลือ่ นและเสรมิ พลังการสร้างเสรมิ สุขภาพร่วมกบั ภาคส่วนต่างๆ 79

80 บทท่ี 4 โครงสรา้ งแผนและกลไกสนับสนุนการด�ำ เนนิ งาน นอกเหนอื จากการบูรณาการการทำ�งานกับภาคส่วนต่างๆ ท้งั ภาครฐั เอกชน และ ประชาสังคม ในรูปแบบของภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพแล้ว การจัดโครงสร้างแผนและวิธีการทำ�งานของ สสส. เป็น 4 กลุ่ม เพ่ือสร้างความเข้มแข็งใน การบูรณาการการทำ�งานสร้างเสริมสุขภาพภายใน สสส. เอง โดยส่งเสริมให้เกิดแนวทาง การเรียนรู้และแลกเปล่ียนแนวทางการทำ�งานเพ่ือสร้างผลลัพธ์และขยายผลการทำ�งานได้ อย่างก้าวกระโดด แม้ว่าการทำ�งานของโครงสร้างแผนทั้ง 4 กลุ่มจะแตกต่างกันเนื่องจาก ต้องส่งมอบผลผลิตและผลลัพธ์จากงานที่แตกต่างกัน เน่ืองจากสุขภาพเป็นองค์รวม ท่ีเกิดจากพฤติกรรมของบุคคล รวมท้ังสภาพแวดล้อมรอบตัวก็ยังส่งผลต่อสุขภาพเช่นกัน ดังน้ัน การทำ�งานเพ่ือสร้างเสริมสุขภาพจึงต้องอาศัยการทำ�งานร่วมกันทั้งในเชิงประเด็น ทางสุขภาพร่วมกับการทำ�งานในเชิงพ้ืนท่ีและกลุ่มประชากรเป้าหมาย โดยมีการนำ� ระบบงานต่างๆ เช่น การส่ือสาร นวัตกรรมทางสุขภาพ เป็นต้น เป็นเครื่องมือสนับสนุน การท�ำ งานใหเ้ กดิ การขยายผลและสรา้ งผลลพั ธท์ างสขุ ภาพไดใ้ นวงกวา้ ง แตผ่ ลลพั ธส์ ดุ ทา้ ยจาก การท�ำ งานของโครงสรา้ งแผนทงั้ 4 กลมุ่ จะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลลพั ธท์ างสขุ ภาพในภาพรวมไดอ้ ยา่ ง มีประสิทธิภาพมากข้นึ การทำ�งานนอทก่ีเนจ้นากกนาร้ี ทลดศิ คทวาางมแลเหะลเป่ือ้ามหลมำ้�าทยางรสะุขยภะา1พ0ซป่ึงี ป(พร.ะศเ.ด2็น5ค6ว5า-ม2เ5ห7ล4่ือ)มมลกี ้ำ�าทราวงาสงุขกภรอาพบ มสสหี สล.ายจปึงรไดะ้วเดา็นงหในลหักลกาายรมทติำ�ิงทานงั้ มทติ ี่ไทิม่กาง่อเใศหร้เษกฐิดกคจิ วาสมังเคหมล่ือสมง่ิ แลว้ำ�ดทลา้อสมุขภกาาพรจศากึ กษกาารฯขลับฯเคดลงั นื่อนนั้ งาน และเน้นการทำ�งานร่วมกับหน่วยงานของรัฐท่ีมภารกิจเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและ สภาพแวดล้อมทางสุขภาพ และภาคีเครือข่ายทั้งในภาคธุรกิจและภาคประชาสังคม ซึ่ง เป็นหลักการในการบูรณาการการทำ�งานร่วมกันที่ได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกัน ขบั เคลอื่ นการท�ำ งานสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพใหเ้ กดิ ผลลพั ธต์ ามเปา้ หมายหลกั ทสี่ �ำ คญั คอื การท�ำ ให้ คนไทยทุกคนมีสุขภาพดี ท้งั นี้ เพื่อใหเ้ กิดความชดั เจนในการสรา้ งผลลัพธ์ทางสุขภาพ สสส. จะมีการกำ�หนดทิศทางการทำ�งานร่วมกันระหว่างแผนแต่ละกลุ่มเพื่อสร้างผลลัพธ์สุขภาพ ภาพในระยะ 3 ปี ซึ่งจะถูกกำ�หนดไวใ้ นแผนหลัก 3 ปี ของ สสส. ทส่ี อดคลอ้ งกับแนวโน้ม สถานการณ์ และนโยบายในขณะนนั้

ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทุนสนับสนนุ การสร้างเสริมสุขภาพ 4.2 กลไกสนบั สนนุ การด�ำ เนนิ งาน กลไกสนับสนุนการดำ�เนินงานสำ�คัญเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน ภารกจิ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ มดี งั นี้ 4.2.1 การพฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากรของ สสส. และภาคเี ครอื ขา่ ย เพ่ือใหบ้ ุคลากรทดี่ ำ�เนินงานด้านการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพทงั้ บุคลากรของ สสส. และ ภาคีเครือข่าย เป็นนักสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพมืออาชีพ สสส. จึงได้วางแนวทาง การพัฒนาศักยภาพบคุ ลากรไวด้ งั น้ี (1) การพฒั นาบคุ ลากรตามกรอบแนวทางการพฒั นานกั สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพมอื อาชพี (Health Promotion Enabler Development Roadmap) ที่สอดคล้องกับทิศทางและเป้าหมายระยะ 10 ปี ของ สสส. อย่างเป็นระบบ และต่อเน่ือง เพ่ือสร้างและพัฒนาบุคลากร สสส. และภาคีเครือข่ายให้มีความรู้ ความสามารถสูง มีทักษะการปฏิบัติงานท่ีจำ�เป็นในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพ มีทัศนคติ กรอบความคดิ และทักษะเพ่อื การทำ�งานในยุคดิจิทลั และศตวรรษที่ 21 ตลอดจน มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการปฏิบัติงาน (2) การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรท่ีส่งเสริมให้บุคลากรและภาคีเครือข่าย มวี ถิ กี ารท�ำ งานแบบ สสส. (Brand Attribute) ประกอบด้วย 2 ค่านิยมหลัก (Core value) คือ จิตสาธารณะ (Public mind) และสำ�นึกใส่ใจสุขภาพ (Health conscious) ที่เสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรม ตลอด จนสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และพัฒนาตนเองของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง และสามารถท�ำ งานร่วมกันได้อย่างมีความสุข 81

82 บทที่ 4 โครงสร้างแผนและกลไกสนับสนนุ การด�ำ เนนิ งาน 4.2.2 ระบบงบประมาณและการ 1 การท�ำ งานเชิงรกุ สนับสนุนโครงการ รูปแบบและวิธีการขับเคล่ือนงาน สร้างเสริมสุขภาพตามภารกิจของ สสส. ภายใต้ข้อบังคับกองทุนสนับสนุนการสร้าง เสริมสุขภาพว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ จัดสรรเงินเพ่ือการดำ�เนินงานสร้างเสริมสุข ภาพ พ.ศ. 2562 สามารถแบง่ วิธีการด�ำ เนนิ งานออกเป็น 3 รปู แบบ ได้แก่ 4.2.2.1 การสนบั สนุนทุนใหแ้ กภ่ าคี เป็นวิธีการดำ�เนินงานสร้างเสริม สุ ข ภ า พ โ ด ย ก า ร ส นั บ ส นุ น ทุ น ใ ห้ แ ก่ ภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคล หรือนิติบุคคลท้ังภาครัฐและ ภาคเอกชน เพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายในการดำ�เนิน งานสร้างเสริมสุขภาพที่สอดคล้องตาม แผนการดำ�เนินงานประจำ�ปี โดยมีประเภท กิจกรรมที่จะขอรับการสนับสนุนทุน ได้แก่ การพฒั นาและปฏบิ ตั กิ าร การศกึ ษาวจิ ยั และ การประเมินผล การอปุ ถมั ภก์ ิจกรรม ทั้งน้ี ประเภทของข้อเสนอท่ีจะ ขอรับการสนับสนุนทุนเพ่ือการดำ�เนินงาน สรา้ งเสริมสขุ ภาพใหก้ บั ภาคี สามารถด�ำ เนิน การได้ 2 รูปแบบ คอื (1) การทำ�งานเชิงรุก หวังผลเชิงยุทธศาสตร์ เป็นข้อเสนอท่ี สสส. และภาคี ท่ีเกี่ยวข้องร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ และค้นหาแนวทางท่ีจะพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาท่ีมี ผลกระทบต่อสุขภาวะของประชาชนร่วมกันในลักษณะพันธมิตรหรือหุ้นส่วนการสร้างเสริม สุขภาพ (Partnership) รวมถึงการจัดประชุมเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและองค์กร ทกุ ภาคส่วนไดเ้ ข้ามามีส่วนร่วมในการด�ำ เนินการแก้ไขประเดน็ ปญั หาท่ีเปน็ เป้าหมาย

ทิศทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนับสนุนการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ 4.2.2.2 การสนบั สนนุ ทนุ รว่ มกบั ภาคี 2 การประกาศเปดิ รบั ท่ัวไป เปน็ วธิ ดี �ำ เนนิ งานสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ จากภาคีหรือประชาชน รปู แบบใหมท่ เ่ี กดิ ขน้ึ จากการปรบั ทศิ ทางการ ทีส่ นใจ ท�ำ งานของ สสส. ในชว่ งปี 2562 โดยเปน็ การ ผนึกกำ�ลังร่วมกับภาคีเครือข่ายท้ังภาครัฐ และภาคเอกชนเพอ่ื เพม่ิ ทรพั ยากรและโอกาส ในการสนับสนุนให้แก่ผู้รับทุนรายย่อย เพื่อ ให้เกิดการดำ�เนินงานหรือการจัดกิจกรรม สร้างเสริมสุขภาพท่ีขยายลงไปสู่ประชาชน ในชมุ ชนต่างๆ อยา่ งกวา้ งขวางยงิ่ ข้ึน 4.2.2.3 การให้บริการหรือปฏิบัติ ภารกจิ โดยสว่ นงานภายในส�ำ นกั งาน เป็นวิธีการดำ�เนินงานสร้างเสริม สขุ ภาพที่ สสส. ไดค้ ดิ รเิ รมิ่ และพฒั นามาอยา่ ง ต่อเน่ืองเพ่ือแก้ไขปัญหาและลดข้อจำ�กัด ในบางภารกิจท่ีไม่สามารถค้นหาภาคีเครือ ข่ายท่ีเหมาะสมมาดำ�เนินภารกิจนั้นได้ หรือ การดำ�เนินภารกิจนั้นอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ เหมาะสมเทา่ กบั การใหส้ ว่ นงานภายใน สสส. เปน็ ผใู้ ห้บริการหรอื ปฏบิ ตั ิภารกจิ นัน้ เอง (2) การประกาศเปดิ รับทัว่ ไปจากภาคหี รอื 83 ประชาชนท่ีสนใจ โดย สสส. และคณะ กรรมการบริหารแผนท่ีเก่ียวข้องจะร่วมกัน กำ�หนดประเด็นและช่วงเวลาท่ีจะประกาศ เปิดรับข้อเสนอจากภาคีหรือประชาชน ท่ีสนใจ เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้มีโอกาสยื่น ข้อเสนอเข้ามาขอรับการสนับสนุนทุนเพ่ือ เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยในการด�ำ เนนิ งานสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพตามประเดน็ ท่ีตนเองสนใจ

84 บทที่ 4 โครงสร้างแผนและกลไกสนบั สนนุ การดำ�เนินงาน 4.2.3 ระบบฐานข้อมูลและการจัดการความรู้ ระบบฐานข้อมลู การจัดการความรู้ สสส. มุ่งพัฒนาระบบฐานข้อมูล สสส. ม่งุ พัฒนาการจัดการความรู้ ที่สอดคล้องและเช่ือมโยงกับทิศทางและ ขององค์กรเพ่ือสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ เป้าหมายระยะ 10 ปี ของ สสส. รวมทั้ง โดยมีวัฒนธรรมการเรียนรู้ และเช่ือมโยง ทิศทางจากยุทธศาสตร์และแผนระดับชาติ ผลลัพธ์การจัดการความรู้ให้การยกระดับ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อและส่งผ่านข้อมูล และพัฒนางานสร้างเสริมสุขภาพ ด้วยการ ระหว่างกันท้ังข้อมูลจากการดำ�เนินงาน เก็บ รวบรวม ใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ ภายใน สสส. และขอ้ มลู จากแหลง่ ภายนอก บรู ณาการเข้ากับงานประจ�ำ ด้วยการด�ำ เนนิ ท่ีสำ�คัญ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ สสส. งานเพอ่ื ยกระดบั องคก์ ร ยกระดบั การท�ำ งาน สามารถกำ�หนดนโยบายและบริหารจัดการ และยกระดับบุคลากรด้วยระบบการจัดการ ที่ต้ังอยู่บนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ ความรู้ มุ่งผลสัมฤทธิ์ มีความโปร่งใส ยืดหยุ่นและ คล่องตัวสูง ดว้ ยการน�ำ นวตั กรรมเทคโนโลยี ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) และระบบ การทำ�งานแบบดิจิทัลมาใช้ในการบริหาร และสนับสนุนการตัดสินใจ ตลอดจนการ พัฒนาข้อมูลเปิดภาครัฐ (Government open data) ที่ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึง แบ่งปัน และใช้ประโยชน์ได้ รวมทั้งการนำ� องคค์ วามรใู้ นแบบสสาขาวชิ าเขา้ มาประยกุ ต์ เพ่ือวิเคราะห์และสร้างคุณค่าในการตอบ สนองกบั สถานการณไ์ ด้อย่างทนั ท่วงที

ทิศทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสริมสุขภาพ 4.2.4 การก�ำ กบั ติดตาม และการประเมินผล (37) กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเป็นองค์กรของรัฐท่ีจัดต้ังขึ้นตาม พระราชบัญญัติเฉพาะท่ีกำ�หนดให้จัดเก็บเงินบำ�รุงกองทุนในอัตราร้อยละ 2 จากผู้เสียภาษี สุราและยาสูบโดยไม่ต้องผ่านการจัดสรรงบประมาณ จึงต้องมีการตรวจสอบจากสำ�นักงาน การตรวจเงินแผ่นดินและต้องมีการรายงานผลประจำ�ปีต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา รวมท้ังมีการกำ�กับดูแลจากคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน (กพม.) และคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน นอกจากนี้ พระราชบัญญัติ กองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ พ.ศ. 2544 ไดก้ �ำ หนดใหม้ คี ณะกรรมการประเมนิ ผล เพอื่ ก�ำ กบั ตดิ ตาม และประเมนิ ผลการด�ำ เนนิ งานของกองทนุ ทเ่ี ปน็ อสิ ระจากคณะกรรมการ กองทุนฯ โดยได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี เพื่อทำ�หน้าที่ประเมินผลสัมฤทธิ์ใน การด�ำ เนนิ งานของ สสส. เปน็ ประจ�ำ ทกุ ปี อกี ดว้ ย อนงึ่ สสส. ได้จดั ให้มกี ลไกก�ำ กบั ตดิ ตาม และประเมนิ ผลเป็นการภายในของ สสส. เอง โดยแบง่ ออกเปน็ 3 ระดบั ไดแ้ ก่ ระดบั องคก์ ร ระดบั แผนหลกั ระดบั แผนงานและโครงการ ซึ่งในแต่ละระดับจะมีกลไกในการกำ�กับติดตามที่แตกต่างกันไปตามประเภทของงานและ งบประมาณที่ใช้ 4.2.5 การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจทิ ัล (38) สสส. ได้นำ�เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการยกระดับประสิทธิภาพการทำ�งานและ การให้บริการแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพ่ือมุ่งสู่องค์การท่ีมีขีดสมรรถนะสูงในการบริหาร งานและการดำ�เนินงานที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ โปร่งใสยืดหยุ่น คล่องตัว กระชับ และทันสมัย บนพน้ื ฐานของขอ้ มลู และหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ รวมทงั้ การเกบ็ ขอ้ มลู การท�ำ งานเพอ่ื วเิ คราะห์ และประเมินผลสัมฤทธิ์ในการดำ�เนินงาน โดยการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและ ดิจิทัลเป็นการดำ�เนนิ งานภายใต้แผนปฏิบัตกิ ารดจิ ทิ ลั ทีจ่ ัดท�ำ ขึ้นเปน็ ประจ�ำ ทกุ 3 ปี ที่มกี าร วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันเพ่ือนำ�ไปสู่การออกแบบสถาปัตยกรรมในการนำ�ระบบดิจิทัล มาใชง้ าน โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ปรบั เปลย่ี นไปสกู่ ารเปน็ องคก์ รดจิ ทิ ลั ทมี่ งุ่ พฒั นาวฒั นธรรม และขีดความสามารถของบุคลากรและขององค์กรดา้ นดจิ ิทัลในภาพรวม (37)ตามพระราชบัญญตั กิ องทุนสนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ พ.ศ. 2544 และข้อบังคับกองทุนสนบั สนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ วา่ ดว้ ยหลักเกณฑแ์ ละวิธกี าร 85 จัดสรรเงินเพอื่ ด�ำ เนนิ งานสร้างเสรมิ สุขภาพ พ.ศ. 2562 (38)ตามแผนปฏิบัตกิ ารดิจิทลั สสส. พ.ศ. 2563-2565

86 บทที่ 5 โครงสร้างแผนการดำ�เนินงาน บทท่ี 5 โครงสรา้ งแผนการด�ำ เนินงาน การวางโครงสรา้ งแผนการด�ำ เนนิ งานมคี วามส�ำ คญั ตอ่ การก�ำ หนดผลลพั ธเ์ ปา้ หมาย จากการดำ�เนินงานสรา้ งเสริมสขุ ภาพ โดยมีการวางโครงสรา้ งแผนแลยุทธศาสตร์ ดังน้ี

ทิศทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทุนสนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ ภาพท่ี 5.1 โครงสรา้ งแผนการดำ�เนินงานของ สสส. 87

88 บทที่ 5 โครงสร้างแผนการด�ำ เนินงาน 5.1 โครงสรา้ งแผนการด�ำ เนนิ งาน ตามข้อบังคับกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพว่าด้วยหลักเกณฑ์และ วิธีการจัดสรรเงินเพ่ือการดำ�เนินงานสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ.2562(39) ระบุนิยามความหมาย ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับการด�ำ เนนิ งานของกองทนุ ดังน้ี 5.1.1 ทิศทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี ห ม า ย ถึ ง เ อ ก ส า ร ที่ ชี้ ทิ ศ ท า ง แ ล ะ เ ป้ า ห ม า ย ข อ ง ก อ ง ทุ น ซึ่ ง จ ะ แ ส ด งรายละเอียดของวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย และยุทธศาสตร์ ในระยะเวลา 10 ปี โดยเป็นเอกสารหลักสำ�หรับการจัดทำ�แผนหลัก และแผนการดำ�เนินงานประจำ�ปี ในการจัดทำ�ทิศทางและเป้าหมายของกองทุนคณะกรรมการกองทุนฯ จะแต่งต้ัง คณะอนุกรรมการเพื่อดำ�เนินการศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำ�ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม ของคณะกรรมการบริหารแผน ภาคี และบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวาง ก่อนเสนอ คณะกรรมการกองทุนฯ พจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบ 5.1.2 แผนหลกั (Master plan) หมายถึง แผนการด�ำ เนินงานของ สสส.ตามมาตรา 21 (1) ท่ีจัดท�ำ ขนึ้ ตามทิศทาง และเป้าหมายของ สสส. ซึ่งจะแสดงรายละเอียดของเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ วัตถุประสงค์ ตัวช้ีวัด แผน และกรอบงบประมาณในระยะเวลา 3 ปี เป็นเอกสารหลักสำ�หรับการจัด ทำ�แผนการดำ�เนินงานประจำ�ปี โดยแผนหลักจะมีการจัดทำ�ทุก 3 ปี และอาจทบทวนให้ สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ทุกปี เว้นแต่ในปีสุดท้ายของเอกสารทิศทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี สสส. จะชะลอการจัดทำ�แผนหลักไว้จนกว่าเอกสารทิศทางและเป้าหมาย ของ สสส.ระยะต่อไปจะแล้วเสร็จ ทั้งน้ี การจัดทำ�แผนหลัก ผู้จัดการและผู้บริหาร สสส. จะร่วมกันพัฒนาสาระสำ�คัญของแผนหลักผ่านกระบวนการจัดประชุม รับฟังความคิดเห็น และขอ้ เสนอแนะ จากคณะกรรมการบรหิ ารแผนและภาคที เี่ กย่ี วขอ้ ง กอ่ นเสนอคณะกรรมการ กองทุนฯ พิจารณาเหน็ ชอบภายในเดือนสิงหาคมของปีทพ่ี ิจารณา 5.1.3 แผนการด�ำ เนินงานประจ�ำ ปี หมายถึง แผนการดำ�เนินงานของ สสส.ตามมาตรา 21 (2) ท่ีจัดทำ�ขึ้นตาม แผนหลัก ซ่ึงจะแสดงรายละเอียดของเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ วัตถุประสงค์ ตัวชี้วัด แผนกลุ่มงาน และงบประมาณภายในระยะเวลา 1 ปี รวมทั้งกรอบวงเงินงบประมาณ รายจ่ายประจำ�ปีที่จัดทำ�ข้ึนตามข้อบังคับกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพว่าด้วย การงบประมาณ การเงิน และทรัพย์สินของกองทุน พ.ศ. 2562 โดยการจัดทำ� แผนการดำ�เนินงานประจำ�ปี ผู้จัดการและผู้บริหาร สสส. จะร่วมกันพัฒนาสาระสำ�คัญ ของแผนการดำ�เนินงานประจำ�ปี ผ่านกระบวนการจัดประชุม รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการบริหารแผนและภาคีที่เก่ียวข้อง ก่อนเสนอ คณะกรรมการกองทนุ ฯ พจิ ารณาเห็นชอบภายในเดือนสิงหาคมของทกุ ปี (39)เอกสารขอ้ บงั คับกองทนุ สนบั สนุนการสรา้ งเสริมสุขภาพวา่ ด้วยหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารจดั สรรเงนิ เพื่อการด�ำ เนนิ งานสรา้ งเสริมสุขภาพ พ.ศ.2562

ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทุนสนับสนนุ การสร้างเสริมสุขภาพ 89

90 บทท่ี 5 โครงสรา้ งแผนการด�ำ เนินงาน 5.2 กระบวนการวางแผนยทุ ธศาสตรข์ อง สสส. การก�ำ หนดวตั ถปุ ระสงค์ เป้าประสงค์ และแผนการดำ�เนินงานของ สสส. จ�ำ เปน็ ต้องเช่ือมโยงกับภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการสานและเสริมพลังร่วมกับหน่วยงาน ท่ีรับผิดชอบโดยตรง รวมถึงภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดเครือข่ายการดำ�เนินงานที่เข้มแข็ง นำ�ไปสู่การบรรลุเป้าหมายท่ีเห็นชอบร่วมกัน กระบวนการวางแผนยุทธศาสตร์ของ สสส. มีกระบวนการดังน้ี 5.2.1 การใชอ้ งคค์ วามรู้ ในการทบทวนเปา้ หมายร่วม หากยังไม่มีเป้าหมายร่วม ต้องมีการวิเคราะห์ประโยชน์ร่วมและประโยชน์ เฉพาะของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง (Stakeholder analysis) ที่มีความสอดคล้องกับทิศทาง และเป้าหมายระยะ 10 ปี ท้ังในมิติของด้านเศรษฐศาสตร์ การเมือง และสังคม ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาวะ ก่อนกำ�หนดเป้าหมายร่วมที่มีความเชื่อมโยงกับผลลัพธ์หลักตามที่ ต้องการ 5.2.2 การทบทวนยทุ ธศาสตร์ รว่ มกันกับผูร้ บั ผิดชอบ เพ่ือทำ�ความเข้าใจบทบาทและพันธกิจของผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วน รวมทั้ง ทรัพยากรตลอดจนแผนปฏิบัติงานของผู้รับผิดชอบน้ัน หากยังไม่มียุทธศาสตร์การดำ�เนิน งานจะมีการก�ำ หนดยุทธศาสตรร์ ว่ มโดยพิจารณาจากกฎหมาย นโยบาย สถานการณ์ ข้อมลู วชิ าการ หรอื องคค์ วามรจู้ ากผทู้ ม่ี ปี ระสบการณ์ เพอ่ื ใชป้ ระกอบกนั ในการก�ำ หนดยทุ ธศาสตร์ 5.2.3 การวเิ คราะห์ยทุ ธศาสตร์และแผนระดบั ชาติท่ีเก่ยี วข้อง เพ่ือหาช่องว่างของการดำ�เนินงานด้านสุขภาวะ (Gap analysis) ที่สอดคล้อง กับบทบาทของ สสส. รวมทั้งการวิเคราะห์ความสอดคล้องและความเชื่อมโยงการทำ�งาน เพอื่ สนับสนุนผลลพั ธ์ในภาพรวมของประเทศ 5.2.4 การจดั ทำ�แผนของกองทุน ประกอบดว้ ย การจัดท�ำ แผนหลกั 3 ปี และแผนการด�ำ เนนิ งานประจ�ำ ปี ให้มคี วาม สอดคลอ้ งเชอื่ มโยงกบั ทศิ ทางและเปา้ หมายระยะ 10 ปี และตอบสนองกบั ทศิ ทาง ยทุ ธศาสตร์ แผนการดำ�เนินงานของประเทศในภาพรวม การดำ�เนินงานเพื่อตอบสนองเป้าหมาย หรือ ผลลัพธ์หลักน้ัน ต้องการการบูรณาการการทำ�งานและการสนับสนุนจากทุกแผนภายใน สสส. แผนทเี่ ปน็ เจา้ ภาพหลกั จงึ ตอ้ งมกี ารวเิ คราะหก์ ารจดั ท�ำ แผนทท่ี างเดนิ รวมถงึ ออกแบบ การบรู ณาการการทำ�งานระหวา่ งแผนด้วย

ทศิ ทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ 5.2.5 การวเิ คราะหเ์ พ่อื จดั ท�ำ แผนท่ีนำ�ทาง (Roadmap) ร่วมกับแผนงานอ่ืนๆ ที่เป็นเจ้าภาพร่วม โดยคำ�นึงถึงขอบเขตการทำ�งานในแต่ละ แผนตามตวั แบบการทำ�งานระดับองคก์ รของ สสส. (Thai Health Working Model) 5.2.6 บูรณาการการทำ�งานในระดบั องค์กร โดยการกำ�หนดแนวทางการทำ�งาน ขอบเขต และตัวชี้วัดร่วมในการดำ�เนินงานท่ี ต้องการการบูรณาการและการสนบั สนนุ จากหลายสว่ นงาน 91

92 บรรณานกุ รม บรรณานกุ รม Department of Health, New York State. (2020). The New York State Prevention Agenda 2019-2024. Retrieved from Department of Health, New York State: https://www.health.ny.gov/prevention/prevention_agenda/2019-2024/docs/ship/ overview.pdf Government Offices of Sweden. (2018, May 31). Public Health Policy to be more Equitable. Retrieved from Government Offices of Sweden: https://www.government. se/articles/2018/05/public-health-policy-to-be-more-equitable/ IQAir AirVisual. (2020). 2019 World Air Quality Report Region & City PM2.5 Ranking. Ministry of Health, Singapore. (n.d.). Healthy Living Master Plan. Retrieved from Ministry of Health, Singapore: https://www.moh.gov.sg/resources-statistics/reports/ the-healthy-living-master-plan Ministry of Social Affairs and Health. (2011). Socially Sustainable Finland 2020: Strategy for Social and Health Policy. National Health Service. (2019). The NHS Long Term Plan - a summary. Post Today. (2564, มกราคม 28). ไทยรง้ั ท่ี 4 ประเทศทร่ี บั มอื โควดิ ไดด้ ที ส่ี ดุ ในโลก. Retrieved from Post Today: https://www.posttoday.com/world/643912 Public Health Agency of Canada. (2019). 2019-20 Departmental Plan: Public Health Agency of Canada. Tada Ratchagit. (2562, มกราคม 18). กลบั มาอกี ครง้ั กบั ฝนุ่ PM 2.5 HR ควรมมี าตรการปอ้ งกนั และรบั มอื ใหก้ บั พนกั งานอยา่ งไร. Retrieved from HR Note: https://th.hrnote.asia/tips/ th-190118-whatshoulddoforpm25/ Victoria State Government. (2019, November 5). Victorian Public Health and Well- being Plan 2019-2023. Retrieved from Victoria State Government: https://www2. health.vic.gov.au/about/health-strategies/public-health-wellbeing-plan

ทิศทางและเปา้ หมาย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) กองทนุ สนับสนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ World Health Organization. (2020, May 13). World Health Statistics 2020: Monitoring Health for the SDGs. Retrieved from World Health Organization: https://www.who. int/publications/i/item/9789240005105 Xiaodong, T., Liu, X., & Haiyan, S. (2017). Healthy China 2030: A Vision for Health Care. ScienceDirect, 112-114. กองยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนงาน. (2562). การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560. กองยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนงาน. (2563). สถติ สิ าธารณสขุ พ.ศ. 2562. นนทบรุ :ี ส�ำ นกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ . กองยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนงาน กรมสขุ ภาพจติ . (2562). แผนพฒั นาสขุ ภาพจติ แหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 1 (พ.ศ. 2561 - 2580). ณชั ชา โอเจรญิ . (2560, สงิ หาคม 11). อบุ ตั เิ หตทุ างถนน…ความเสยี หายรา้ ยแรงตอ่ เศรษฐกจิ ไทย. Retrieved from TDRI: https://tdri.or.th/2017/08/econ_traffic_accidents/ เดลนิ วิ ส.์ (2561, ธนั วาคม 20). WHO เผยไทยตาย จยย.อนั ดบั 1 ของโลก ‘อบุ ตั เิ หตทุ างถนน’ไต่ ลงอนั ดบั 9. Retrieved from เดลนิ วิ ส:์ https://www.dailynews.co.th/economic/683587 นติ ยา พรมกนั ทา และคณะ. (2562). รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ โครงการส�ำ รวจสถานะของเปา้ หมายการพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื ในบรบิ ทประเทศไทยและทางเลอื กมาตรการทางเศรษฐกจิ สงั คม และ กฎหมาย ส�ำ หรบั เปา้ หมายท่ี 3 สรา้ งหลกั ประกนั วา่ คนมชี วี ติ ทม่ี สี ขุ ภาพดแี ละสง่ เสรมิ สวสั ดภิ าพ ส�ำ หรบั คนในทกุ วยั . ปยิ วฒั น์ เกตวุ งศา, บรรณาธกิ ารโดย กรกนก พงษป์ ระดษิ ฐ.์ (2563). ฟน้ื กจิ กรรมทางกายใน ประเทศไทยหลงั วกิ ฤตโิ ควดิ -19. นนทบรุ :ี ภาพพมิ พ.์ วษิ ณุ อรรถวานชิ . (2562). ตน้ ทนุ ของสงั คมไทยจากมลพษิ ทางอากาศและมาตรการรบั มอื . สถาบนั วจิ ยั เพอ่ื การพฒั นาประเทศไทย. (2563). รายงานโครงการ ศกึ ษาวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ทศิ ทาง แนวโนม้ ในอนาคต 10 ปี ดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม ทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภาพ. 93

94 บรรณานุกรม สยามรฐั ออนไลน.์ (2563, กมุ ภาพนั ธ์ 18). ลดมายาคต.ิ Retrieved from สยามรฐั ออนไลน:์ https:// siamrath.co.th/n/133319 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต.ิ (2563). แผนแมบ่ ทเฉพาะกจิ ภายใต้ ยทุ ธศาสตรช์ าตอิ นั เปน็ ผลมาจากสถานการณโ์ ควดิ -19 พ.ศ. 2564-2565. ส�ำ นกั งานพฒั นานโยบายสขุ ภาพระหวา่ งประเทศ. (2560). รายงานภาระโรคและการบาดเจบ็ ของ ประชากรไทย พ.ศ. 2557. นนทบรุ :ี บรษิ ทั เดอะกราฟโิ กซสิ เตม็ ส์ จ�ำ กดั . ส�ำ นกั งานพฒั นานโยบายสขุ ภาพระหวา่ งประเทศ. (2560). รายงานภาระโรคและการบาดเจบ็ ของ ประเทศไทย พ.ศ. 2557. ส�ำ นกั งานสถติ แิ หง่ ชาต.ิ (2561). การส�ำ รวจพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารของประชากร พ.ศ. 2560. กรงุ เทพมหานคร: ส�ำ นกั งานสถติ แิ หง่ ชาต.ิ สำ�นักงานสถิติแห่งชาติ. (2561). การสำ�รวจพฤติกรรมการสูบบุหร่แี ละการด่มื สุราของประชากร พ.ศ. 2560. นนทบรุ :ี บรษิ ทั พมิ พด์ กี ารพมิ พ์ จ�ำ กดั . ส�ำ นกั โรคไมต่ ดิ ตอ่ กรมควบคมุ โรค. (2561). รายงานผลการส�ำ รวจพฤตกิ รรมเสย่ี งโรคไมต่ ดิ ตอ่ และการ บาดเจบ็ พ.ศ. 2561. กรงุ เทพมหานคร: ส�ำ นกั พมิ พอ์ กั ษรกราฟฟคิ แอนดด์ ไี ซน.์




Share
Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook