Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 19. ภาพพจน์โวหาร

19. ภาพพจน์โวหาร

Published by krutuenjit14, 2020-05-30 10:08:11

Description: 19. ภาพพจน์โวหาร

Search

Read the Text Version

โวหารภาพพจน์ โดย... ครเู ตอื นจิตต์ ศรีอนันต์ กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย โรงเรียนปทมุ วไิ ล

คำนำ เมื่อเราอ่านงานเขียนบทร้อยกรอง เราจะซาบซ้ึงไปกับความงามของภาษาและเน้ือ เรอ่ื งด้วยถ้อยคาทีท่ าใหเ้ กดิ ภาพ ดว้ ยการเปรียบเทียบอย่างมีศิลปะ อันเกิดจาการเรียบเรียงถ้อยคา ท่ีไพเราะและสามารถสะท้อนภาพให้ฉายขึ้นในจิตใจของผู้อ่านได้ เพราะผู้เขียนใช้โวหารภาพพจน์ ในงานเขยี นนนั้ ๆ ซึง่ ภาพพจนท์ ี่ดจี ะชว่ ยสร้างพลังความคิดและภาพในใจของผู้อ่านให้กระจ่างแจ่ม ชัดขึ้น เราจะสามารถอ่านงานเขียนร้อยกรองได้อย่างมีอรรถรส และเข้าใจเร่ืองได้อย่างดี ถ้าเรามี ความรู้ความเข้าใจเรื่อง โวหารภาพพจน์ หนังสือเล่มนี้จึงเป็นส่ือที่จะช่วยให้ผู้ที่ศึกษาเข้าใจเรื่อง โวหารภาพพจนไ์ ดเ้ ปน็ อย่างดี ครเู ตือนจิตต์ ศรีอนันต์

โวหารภาพพจน์ คาถามในข้อสอบ - ข้อใดใช้วธิ กี ารเปรยี บเทียบแบบอปุ ลักษณ์ - ข้อใดไม่ใชภ่ าพพจน์ชนิดบุคคลวัด - ขอ้ ใดไม่แสดงภาพความขดั แยง้ - ขอ้ ใดไมใ่ ช้ภาพพจน์ - ข้อใดกวใี ช้กลวิธพี รรณนาต่างกบั ขอ้ อื่น โวหารภาพพจน์ คอื การใชถ้ อ้ ยคาเพอ่ื ก่อให้เกิดภาพด้วยการใชก้ ลวธิ ตี า่ ง ๆ ที่แปลกออกไปดังน้ี

๑. อปุ มา เชน่ สูงระหงทรงเพรยี วเรยี วรดู งามละม้ายคลา้ ยอูฐกะหลาปา๋ - การเปรยี บเทยี บวา่ สง่ิ หนง่ึ เหมอื นกับอกี สิ่งหนงึ่ พิศแตห่ ัวตลอดเทา้ ขาวแต่ตา - คาสงั เกต ทงั้ สองแก้มกลั ยาด่งั ลกู ยอ เหมอื น เสมือน ประดุจ ดุจดั่ง ดั่ง เฉก เชน่ ราวกับ ค้วิ เก่งเหมอื นกงเขาดีดฝ้าย เพียง เพีย้ ง ปาน ประหนึ่ง อยา่ ง ปนู พ่าง เลห่ ์ ฯลฯ จมกู ละมา้ ยคลา้ ยพรา้ ขอ หกู ลวงดวงพกั ตร์หกั งอ เช่น ลาคอโตตันส้นั กลม - สวยเหมอื นนางฟา้ สองเตา้ ห้อยตุงดังถุงตะเครยี ว - เงียบราวกบั ป่าช้า โคนเหีย่ วแหง้ รวบเหมือนบวบตม้ - ร้องไห้ปานใจจะขาด เสวยสลายาจกุ พระโอษฐ์อม - ชนเหมือนลิง มันนา่ เชยนา่ ชมนางเทวี - ดีใจเหมือนปลากระดไ่ี ดน้ า้ (ระเด่นลนั ได แต่งโดย พระมหามนตรี (ทรัพย)์ )

๒. อปุ ลักษณ์ - อุปลกั ษณ์มีการละคาเช่อื ม “คอื เป็น” ไวร้ ะหวา่ งคา - การเปรยี บเทยี บวา่ สิ่งหน่ึงเป็นอีกสง่ิ หนึง่ เช่น - พรมหญ้า - คาสงั เกต - ทะเลหมอก คอื เป็น (ที่ใชเ้ ปรียบเทยี บ) - เพชรน้าคา้ ง - พลอยน้าฝน เชน่ - พลอยนา้ ค้าง - เงินคอื พระเจา้ - ชวี ิตคอื การต่อสู้ ศตั รูคือยากาลัง - ครคู อื แม่พิมพข์ องชาติ - ชาวนาเป็นกระดูกสันหลงั ของชาติ

๓. อตพิ จน์ / อธพิ จน์ เช่น องค์ อรเอย เลขแตม้ - การกลา่ วเกินจรงิ (Over แบบมากกว่าจริง) เอียงอกเทออกอ้าง จารึก พอฤา เมรุชุบสมทุ รดนิ ลง อยูร่ อ้ นฤาเห็น เช่น - ร้อนตับจะแตก อากาศจกั จารผจง - คิดถึงใจจะขาด โฉมแม่หยาดฟ้าแยม้ - ฉนั หวิ ไส้จะขาดแล้วนะ - เหน่อื ยสายตวั แทบขาด ถอดความ : - แม้จะเอาชา้ งมาฉดุ ฉนั กไ็ ม่ไป กวีจะเอียงอกเทความรู้สึกในอกออกมาแมจ้ ะใชเ้ ขา พระสุเมรเุ ปน็ ปากกาจุ่มน้าในมหาสมุทรแลว้ ละลาย ดินเปน็ หมกึ และใช้อากาศเปน็ แผ่นกระดาษเพ่ือเขยี น ข้อความ ก็ยงั ไมอ่ าจพรรณนาความรกั ความอาลัยท่มี ี ต่อนางได้ครบถ้วนนางจะทกุ ข์โศกเพียงใดก็ไมร่ ไู้ ด้

๔. อวพจน์ - การกล่าวนอ้ ยกว่าความจรงิ (Over แบบนอ้ ยกว่าจรงิ ) เช่น - มีทองเทา่ หนวดกุ้ง นอนสะดงุ้ จนเรือนไหว - จะเป็นความถามไถในบรุ ิน เงนิ เทา่ ปกี ร้นิ กไ็ ม่มี

๕. นามนยั - การนาจุดเดน่ ของส่ิงนนั้ มาเรียกแทนความหมายท้งั หมด เช่น - เกา้ อี้ แทนความหมาย ตาแหนง่ “เกา้ อหี้ วั หนา้ พรรคกาลงั สั่นคลอน” - ฉตั ร แทนความหมาย พระมหากษัตรยิ ์ “ว่านครรามนิ ทร์ ผลดั แผน่ ดินเปล่ยี นราชย์ เยยี วววิ าทชิงฉัตร เพ่อื กษตั ริยส์ องสู้ บร่ ่างรู้เหตผุ ล ควรยาตรพลไปเยือน” (ลลิ ิตเลงพ่าย)

๖. สัญลกั ษณ์ - การนาสิง่ หนึ่งมาแทนอกี ส่ิงหน่ึง ซึง่ เปน็ การแทนอยา่ งเปน็ สากล ทุกคนมกั เขา้ ใจตรงกนั เช่น - สขี าว แทน ความบรสิ ทุ ธ์ิ - สีดา แทน ความชั่วรา้ ย - นกพริ าบ แทน สันตภิ าพ - ดอกกุหลาบ แทน ความรกั

๗. บคุ คลวตั /ิ บคุ คลสมมตุ ิ - การกลา่ วถึงส่ิงที่ไมใ่ ช่มนษุ ยใ์ ห้ทากริยาอาการหรือแสดงความรูส้ กึ ได้เหมือนกบั มนุษย์ เช่น มองชมิ องทะเล เห็นลมคล่นื เหจ่ บู หนิ บางคร้งั มันบา้ บิ่น กระแทกหินดงั ครืนครืน ทะเลไม่เคยหลบั ใหล ใครตอบได้ไหมไฉนจึงตนื่ บางครงั้ ยังสะอื้น ทะเลมันตน่ื อยรู่ ่าไป

๘. สทั พจน์ ไผซ่ อออ้ เอยี ดเบียดออด ลมลอดไลเ่ ล้ยี วเรียวไผ่ - การใชค้ าเลยี นเสยี ง ออดแอดแอดออดยอดไกว แพใบไล้นา้ ลาคลอง เชน่ บัดเดี๋ยวดงั หงา่ งเหงง่ วงั เวงแวว่ สะดงุ้ แล้วเหลียวแลชะแง้หา เห็นโยคีขีร่ งุ้ พุ่งออกมา ประคองพาขึ้นไปยังบรรพต

๙. ปฏิพากย์ - การกลา่ วให้ภาพที่ขัดแย้งกัน เช่น - น้ารอ้ นปลาเปน็ นา้ เยน็ ปลาตาย - รกั ยาวให้บ่ัน รกั สัน้ ให้ต่อ - ถึงมเี พ่อื นก็เหมอื นพไ่ี ม่มีเพอื่ น - ยิง่ รีบ ยง่ิ ชา้ เพราะไม่เหมือนนุชนาฏทมี่ าดหมาย มีเพ่อื นเล่นกไ็ มเ่ หมอื นกับเพื่อนตาย มเี พือ่ นชายกไ็ ม่เหมอื นกบั เพอื่ นชม

๑๐. ปฏิปจุ ฉา คาถามทไ่ี มต่ ้องการคาตอบ อาจเรยี กไดว้ ่า - คาถามเชิงวาทศิลป์ - คาถามเชงิ วรรณศิลป์ เช่น พระเชษฐาให้สารไปกีค่ รั้ง เขายงั ไมจ่ ากหมนั หยา จนสลัดตดั การวิวาห์ ศึกตดิ พาราก็เพราะใคร เหน็ จะรักเมียจรงิ ยงิ่ กวา่ ญาติ ไหนจะคลาดจากเมืองหมนั หยาได้

๑๑. อปุ มานทิ ัศน์ การใชเ้ ปรียบเทียบดว้ ยเรือ่ งราว เช่น นิทานเรื่อง คนตาบอดคลาชา้ ง เป็นอปุ มานิทศั น์ชี้ให้เห็นว่า คนที่มีประสบการณ์หรอื ภมู หิ ลงั ตา่ งกนั ย่อม มีความสามารถในการรบั รู้ความเชอื่ และทศั นคติตา่ งกัน

เจ้าของหนังสือ

โรงเรยี นปทมุ วไิ ล ตาบลบางปรอก อาเภอเมอื งปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี สานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต ๔


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook