หน้า ๑ ๖ ตลุ าคม ๒๕๖๔ เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๔๕ ง ราชกจิ จานุเบกษา ระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรี วำ่ ดว้ ยกำรขอพระรำชทำนเคร่อื งรำชอสิ ริยำภรณ์อนั เปน็ ทเี่ ชดิ ชูยิง่ ชำ้ งเผือก และเคร่อื งรำชอิสริยำภรณ์อนั มีเกยี รตยิ ศยงิ่ มงกุฎไทย พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย กฎหมำยว่ำด้วยเครื่องรำชอิสริยำภรณ์อันเป็นท่ี เชิดชูยิ่งช้ำงเผือกและกฎหมำยว่ำด้วยเครื่องรำชอิสริยำภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ได้บัญญัติไว้ ซึ่งพระรำชอำนำจของพระมหำกษัตริย์ท่ีจะพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์แก่ผู้กระทำควำมดี ควำมชอบเป็นประโยชน์แก่รำชกำรหรือสำธำรณชน ซึ่งนอกจำกกำรพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ ตำมท่ีทรงพระรำชดำริเห็นสมควรแล้ว รัฐบำลได้วำงระเบียบในกำรขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ เป็นหลักเกณฑ์กลั่นกรองให้ไดม้ ำซึ่งบคุ คลผู้สมควรได้รบั กำรเสนอขอพระรำชทำนเครือ่ งรำชอิสริยำภรณ์ อย่ำงแท้จริงเพื่อประกอบพระรำชดำริอีกทำงหนึ่ง ซ่ึงระเบียบดงั กล่ำวได้ใช้บังคับมำระยะหนึ่ง สมควรปรับปรงุ ให้มีควำมเหมำะสมและสอดคล้องกับสภำวกำรณ์ท่ีเปล่ียนแปลงไป ทั้งนี้ สำนักนำยกรัฐมนตรี ได้นำควำมกรำบบังคมทูลพระกรุณำทรงทรำบฝ่ำละอองธุลีพระบำทแล้ว ทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำ โปรดกระหมอ่ มพระรำชทำนพระบรมรำชำนุญำต อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๑ (๘) แห่งพระรำชบัญญตั ิระเบียบบรหิ ำรรำชกำรแผน่ ดนิ พ.ศ. ๒๕๓๔ นำยกรัฐมนตรีโดยควำมเห็นชอบของคณะรฐั มนตรี จึงวำงระเบียบไว้ ดงั ต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรี ว่ำด้วยกำรขอพระรำชทำน เครื่องรำชอิสริยำภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้ำงเผือกและเครื่องรำชอิสริยำภรณ์อันมีเกียรติยศย่ิงมงกุฎไทย พ.ศ. ๒๕๖๔” ข้อ ๒ ระเบียบนีใ้ ห้ใช้บังคับตัง้ แตว่ ันถดั จำกวนั ประกำศในรำชกิจจำนเุ บกษำเป็นต้นไป ข้อ ๓ ใหย้ กเลิก (๑) ระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์อันเป็นท่ี เชิดชูยงิ่ ชำ้ งเผือกและเคร่อื งรำชอสิ รยิ ำภรณ์อันมีเกียรตยิ ศย่ิงมงกฎุ ไทย พ.ศ. ๒๕๓๖ (๒) ประกำศคณะปฏิรูปกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็น ประมุข ฉบับที่ ๓๓ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรขอพระรำชทำน เคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์อันเป็นท่ีเชิดชูย่ิงช้ำงเผือกและเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์อันมีเกียรติยศย่ิ งมงกุฎไทย พ.ศ. ๒๕๓๖ ลงวนั ที่ ๓๐ กันยำยน พทุ ธศกั รำช ๒๕๔๙ (๓) ระเบียบสำนกั นำยกรัฐมนตรี ว่ำด้วยกำรขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสรยิ ำภรณ์อันเปน็ ท่ี เชดิ ชูย่งิ ช้ำงเผือกและเคร่อื งรำชอสิ รยิ ำภรณอ์ นั มีเกยี รติยศย่ิงมงกฎุ ไทย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒
หน้า ๒ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๕ ง ราชกจิ จานุเบกษา ข้อ ๔ ในระเบยี บนี้ “เคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์” หมำยควำมว่ำ เคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้ำงเผือก ตำมกฎหมำยว่ำด้วยเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้ำงเผือก หรือเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ อันมีเกียรติยศย่ิงมงกุฎไทยตำมกฎหมำยว่ำด้วยเครื่องรำชอิสริยำภ รณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย แล้วแตก่ รณี “ข้ำรำชกำรกำรเมือง” หมำยควำมว่ำ บุคคลซึ่งเป็นหรือถือว่ำเป็นข้ำรำชกำรกำรเมือง ตำมกฎหมำยวำ่ ด้วยระเบียบขำ้ รำชกำรกำรเมืองหรือกฎหมำยอื่น “ข้ำรำชกำร” หมำยควำมว่ำ ข้ำรำชกำรซ่งึ มีตำแหน่งหรอื เงินเดอื นประจำ ยกเว้นข้ำรำชกำร กำรเมือง และให้หมำยควำมรวมถึงพนักงำนส่วนท้องถิ่นตำมกฎหมำยว่ำด้วยระเบียบบรหิ ำรงำนบุคคล สว่ นท้องถ่ินดว้ ย “หน่วยงำนของรัฐ” หมำยควำมว่ำ กระทรวง ทบวง ส่วนรำชกำรระดับกรมท่ีขึ้นตรงต่อ นำยกรัฐมนตรี สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงำนเลขำธิกำรวุฒิสภำ หน่วยงำนธุรกำร ของศำลยุติธรรม ศำลปกครอง ศำลรัฐธรรมนูญ สำนักงำนอัยกำรสูงสุด องค์กรอิสระตำมกฎหมำย กรุงเทพมหำนคร และให้หมำยควำมรวมถงึ สภำกำชำดไทยด้วย “องค์กรอิสระตำมกฎหมำย” หมำยควำมถงึ องค์กรอสิ ระตำมรัฐธรรมนญู และองค์กำรของรัฐ ที่เปน็ อสิ ระ “ผู้ช่วยรัฐมนตรี” หมำยควำมถึง กรรมกำรผู้ช่วยรัฐมนตรีตำมระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรี วำ่ ด้วยคณะกรรมกำรผชู้ ว่ ยรัฐมนตรี ข้อ ๕ ระเบียบน้ีให้ใช้บังคับแก่รำชกำรส่วนกลำง รำชกำรส่วนภูมิภำค รำชกำร ส่วนท้องถิ่น รัฐวิสำหกิจ องค์กำรมหำชน องค์กำรของรัฐ หรือหน่วยงำนอื่นของรฐั ที่มกี ฎหมำยจดั ต้งั รวมท้ังบุคคลท่ีกำหนดไวใ้ นระเบียบนี้ ยกเว้นส่วนรำชกำรในพระองค์ตำมกฎหมำยว่ำดว้ ยระเบยี บบรหิ ำร รำชกำรในพระองค์ ข้อ ๖ ให้นำยกรัฐมนตรีรักษำกำรตำมระเบียบน้ี ในกรณีที่มีปัญหำในกำรปฏิบัติ ตำมระเบียบนี้ ให้สำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรีเสนอนำยกรัฐมนตรีเพ่ือวินิจฉัย คำวินิจฉัย ของนำยกรฐั มนตรใี หถ้ อื เป็นทีส่ ดุ ในกำรนี้ สำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรีอำจเสนอคณะกรรมกำรตำมข้อ ๑๙ เพ่ือพิจำรณำ ดว้ ยก็ได้ หมวด ๑ บททวั่ ไป ข้อ ๗ เครื่องรำชอิสรยิ ำภรณ์เป็นเครื่องหมำยแห่งเกียรติยศ ซึ่งพระมหำกษัตรยิ ์ทรงพระกรุณำ โปรดเกล้ำโปรดกระหม่อมพระรำชทำนแก่ผู้กระทำควำมดีควำมชอบเป็นประโยชน์แก่รำชกำร
หน้า ๓ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๕ ง ราชกจิ จานุเบกษา หรือสำธำรณชน ตำมที่ทรงพระรำชดำริเห็นสมควร เพ่ือเป็นบำเหน็จควำมชอบและเคร่ืองหมำยเชิดชู เกยี รตยิ ศอยำ่ งสูงแก่ผู้ได้รบั พระรำชทำน เม่ือทรงพระกรณุ ำโปรดเกล้ำโปรดกระหมอ่ มพระรำชทำนเคร่อื งรำชอสิ รยิ ำภรณใ์ ห้แก่บุคคลใด ให้สำนกั เลขำธิกำรคณะรัฐมนตรปี ระกำศในรำชกิจจำนเุ บกษำต่อไป ข้อ ๘ ในกำรพิจำรณำเสนอขอพระรำชทำนเครอ่ื งรำชอิสริยำภรณใ์ ด ชั้นตรำใด แก่บุคคลใด นอกจำกจะต้องพิจำรณำตำมตำแหน่ง ระดับ ชั้น ช้ันยศ และกำหนดระยะเวลำที่จะขอพระรำชทำน เครอื่ งรำชอสิ ริยำภรณ์ตำมบญั ชที ำ้ ยระเบยี บน้ีแลว้ ให้พจิ ำรณำโดยรอบคอบว่ำบคุ คลนนั้ เปน็ ผูป้ ระพฤตดิ ี มีควำมจงรักภักดีและมีทัศนคติท่ีดีต่อพระมหำกษัตริย์ผู้ทรงไว้ซึ่งพระรำชอำนำจท่ีจะพระรำชทำน เคร่อื งรำชอสิ ริยำภรณ์ และไดก้ ระทำควำมดีควำมชอบเป็นประโยชนแ์ ก่รำชกำรหรอื สำธำรณชนจนถงึ ขนำด ควรไดร้ ับกำรเสนอขอพระรำชทำนเครอื่ งรำชอิสรยิ ำภรณ์ ทง้ั น้ี เพอื่ ใหบ้ ุคคลทไี่ ดร้ บั พระรำชทำนมคี วำม ภำคภูมิใจในเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ที่ได้รับพระรำชทำนอย่ำงแท้จริง และเพ่ือให้เคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ เปน็ เคร่อื งหมำยเชิดชูเกยี รติยศอย่ำงสูงดว้ ย ขอ้ ๙ กำรเสนอขอพระรำชทำนเครอ่ื งรำชอิสริยำภรณ์ประจำปีใหข้ อพระรำชทำนในโอกำส พระรำชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษำ เว้นแต่กำรเสนอขอพระรำชทำนกรณีที่มีควำมจำเป็นรีบด่วน ตำมข้อ ๒๒ กำรเสนอขอพระรำชทำนให้แก่ผู้แทนทำงกำรทูตของต่ำงประเทศและชำวต่ำงประเทศ ตำมข้อ ๒๓ และกำรเสนอขอพระรำชทำนให้แก่ผู้วำยชนม์ตำมข้อ ๒๔ ให้เสนอขอพระรำชทำนได้ ตำมครำวแห่งควำมชอบและตำมเหตุกำรณเ์ ป็นกรณี ๆ ไป เพื่อประโยชน์ในกำรพิจำรณำเสนอขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ในโอกำส นอกเหนือจำกท่ีกำหนดในวรรคหน่ึง คณะรัฐมนตรีอำจกำหนดวิธีกำรสำหรับหน่วยงำนของรัฐ หรือผู้เสนอขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ตำมข้อ ๑๔ เฉพำะโอกำสเช่นว่ำนั้น แต่จะกำหนด หลกั เกณฑ์หรอื คณุ สมบตั ิบุคคลให้แตกต่ำงไปจำกระเบียบนี้มไิ ด้ ขอ้ ๑๐ ให้สำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรีกำหนดวิธีกำรเสนอขอพระรำชทำนและรับรอง คุณสมบัติของบุคคลที่พึงได้รับกำรพิจำรณำเสนอขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ รำยกำร และจำนวนเอกสำรประกอบกำรเสนอขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอสิ ริยำภรณ์ แล้วแจง้ เวยี นให้หน่วยงำน ของรัฐหรอื บุคคลตำมขอ้ ๑๔ ทรำบและถือปฏิบตั ิ หมวด ๒ กำรเสนอขอพระรำชทำน ขอ้ ๑๑ กำรเสนอขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ให้เร่ิมจำกเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ อันมีเกียรติยศย่ิงมงกุฎไทยและเครื่องรำชอิสริยำภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้ำงเผือกสลับกัน เว้นแต่ จะได้กำหนดไวเ้ ปน็ อยำ่ งอ่นื ในระเบียบนี้ โดยมชี ้ันตรำตำมลำดบั ดังน้ี
หน้า ๔ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๕ ง ราชกิจจานุเบกษา (๑) ชน้ั ท่ี ๗ เหรียญเงินมงกุฎไทย (๒) ชน้ั ท่ี ๗ เหรยี ญเงินช้ำงเผือก (๓) ชน้ั ที่ ๖ เหรียญทองมงกฎุ ไทย (๔) ชนั้ ท่ี ๖ เหรยี ญทองชำ้ งเผอื ก (๕) ชน้ั ท่ี ๕ เบญจมำภรณ์มงกุฎไทย (๖) ชั้นที่ ๕ เบญจมำภรณช์ ้ำงเผอื ก (๗) ช้นั ท่ี ๔ จัตุรถำภรณม์ งกฎุ ไทย (๘) ชนั้ ที่ ๔ จตั ุรถำภรณ์ช้ำงเผือก (๙) ชั้นที่ ๓ ตรติ ำภรณ์มงกฎุ ไทย (๑๐) ชน้ั ท่ี ๓ ตริตำภรณ์ช้ำงเผอื ก (๑๑) ชน้ั ท่ี ๒ ทวตี ิยำภรณม์ งกุฎไทย (๑๒) ชั้นที่ ๒ ทวตี ิยำภรณช์ ้ำงเผอื ก (๑๓) ชน้ั ท่ี ๑ ประถมำภรณ์มงกุฎไทย (๑๔) ช้ันท่ี ๑ ประถมำภรณ์ช้ำงเผอื ก (๑๕) ชัน้ สูงสุด มหำวชิรมงกฎุ และ (๑๖) ชั้นสงู สดุ มหำปรมำภรณช์ ้ำงเผอื ก กำรเสนอขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ปีติดกันหรือกรณีอ่ืนใดที่ไม่เป็นไปตำม หลักเกณฑท์ ่กี ำหนดในระเบียบนี้ จะกระทำมไิ ด้ ขอ้ ๑๒ นอกจำกท่ีกำหนดไว้ในหมวด ๔ แล้ว บุคคลท่ีพึงได้รับกำรพิจำรณำเสนอ ขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณจ์ ะต้องมีคณุ สมบตั แิ ละไมม่ ีลกั ษณะต้องหำ้ ม ดังน้ี (๑) เปน็ ผู้มสี ญั ชำติไทย (๒) เป็นผู้ประพฤติดี และปฏิบัติงำนรำชกำรหรือปฏิบัติงำนท่ีเป็นประโยชน์แก่สำธำรณชน ดว้ ยควำมอตุ สำหะ ซ่อื สตั ย์ และเอำใจใส่ต่อหนำ้ ท่ีอยำ่ งดยี ิง่ (๓) เป็นผ้ดู ำรงตำแหนง่ ตำมหลักเกณฑ์ท่ีกำหนดในบญั ชีท้ำยระเบียบน้ี (๔) เป็นผู้ไม่เคยมีพระบรมรำชโองกำรหรือทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำโปรดกระหม่อม พระรำชทำนพระบรมรำชำนุญำตให้เรียกคืนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ เว้นแต่ได้รับพระรำชทำนคืน ในภำยหลงั (๕) เป็นผู้ไม่เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพำกษำถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับ ควำมผดิ ที่ไดก้ ระทำโดยประมำท หรือควำมผดิ ลหุโทษ (๖) เปน็ ผทู้ ่ีไมอ่ ยู่ในระหวำ่ งถกู กล่ำวหำวำ่ (ก) กระทำผิดวินัยอย่ำงร้ำยแรงและถูกต้ังกรรมกำรสอบสวน หรืออยู่ระหว่ำงพิจำรณำ โทษทำงวินยั หรืออยู่ระหวำ่ งอุทธรณ์คำส่ังลงโทษทำงวินัย
หน้า ๕ ๖ ตลุ าคม ๒๕๖๔ เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๔๕ ง ราชกิจจานเุ บกษา (ข) กระทำควำมผิดทำงอำญำและอยู่ระหว่ำงสอบสวนของพนักงำนสอบสวน หรอื อยูร่ ะหวำ่ งกำรดำเนินคดีอำญำในศำล หรือไดม้ ีคำพิพำกษำแลว้ แต่คดยี ังไมถ่ งึ ที่สดุ เว้นแต่พนกั งำน อัยกำรรับแก้ต่ำงคดีน้ัน หรือเป็นควำมผิดท่ีได้กระทำโดยประมำท หรือควำมผิดลหโุ ทษ หรือควำมผิด ทม่ี โี ทษปรบั สถำนเดียว (ค) กระทำควำมผิดและอยู่ระหว่ำงกำรไต่สวนตำมกฎหมำยประกอบรัฐธรรมนูญว่ำด้วย กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต หรืออยู่ระหว่ำงกำรไต่สวนข้อเท็จจริงตำมกฎหมำยว่ำด้วย มำตรกำรของฝ่ำยบรหิ ำรในกำรป้องกนั และปรำบปรำมกำรทุจรติ บุคคลตำมวรรคหนึ่งต้องรับรองว่ำเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตำมระเบียบนี้ เพ่ือให้หน่วยงำน ของรัฐหรือบคุ คลตำมขอ้ ๑๔ ดำเนนิ กำรพิจำรณำเสนอขอพระรำชทำนเครอ่ื งรำชอิสริยำภรณใ์ ห้แก่ตน ตอ่ ไป ขอ้ ๑๓ กำรเสนอขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ประจำปี ให้หน่วยงำนของรัฐ หรือบุคคลตำมข้อ ๑๔ ดำเนินกำรจัดทำเอกสำรกำรเสนอขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ โดยแยกเอกสำรเป็นกำรเสนอขอพระรำชทำนให้แก่ผู้ท่ีปฏิบัติหน้ำที่ในปัจจุบัน และผู้ซ่ึงพ้นจำก กำรปฏบิ ัตหิ นำ้ ทีเ่ พรำะเกษียณอำยุ และใหเ้ ป็นไปตำมลำดับชนั้ ตรำเคร่ืองรำชอสิ รยิ ำภรณ์ คือชนั้ ตำ่ กวำ่ สำยสะพำย และช้ันสำยสะพำย แล้วส่งให้สำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรีก่อนวันพระรำชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษำไมน่ อ้ ยกวำ่ เกำ้ สบิ วัน ภำยหลังจำกที่ได้ส่งเอกสำรกำรเสนอขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ประจำปีไปยัง สำนักเลขำธิกำรคณะรฐั มนตรีแล้ว หำกหน่วยงำนของรัฐหรอื บคุ คลตำมข้อ ๑๔ เห็นว่ำมีบุคคลท่ไี ดร้ บั แต่งต้ังให้ดำรงตำแหน่ง ระดับ ชั้น ช้ันยศ สูงข้ึน หรือได้รับเงินเดือนข้ันสูงของตำแหน่งท่ีดำรงอยู่ และมีคุณสมบัตอิ ่ืนครบตำมหลกั เกณฑ์ท่ีจะขอพระรำชทำนเครอ่ื งรำชอสิ ริยำภรณ์ชัน้ สำยสะพำยประจำปี ก็ให้ส่งเอกสำรเพ่ิมเติมไปยังสำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรีก่อนวันพระรำชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษำได้ แต่ตอ้ งไมน่ อ้ ยกวำ่ หกสิบวนั ข้อ ๑๔ ให้หัวหน้ำหน่วยงำนของรัฐและบุคคลดังต่อไปนี้เป็นผู้เสนอรำยช่ือและรับรอง คุณสมบัติและคุณลักษณะตำมข้อ ๘ และข้อ ๑๒ ของบุคคลท่ีสมควรได้รับกำรเสนอขอพระรำชทำน เครื่องรำชอสิ ริยำภรณต์ ำมบัญชที ำ้ ยระเบียบนี้ (๑) นำยกรัฐมนตรี สำหรบั รฐั มนตรี และผู้ชว่ ยรฐั มนตรี (๒) ประธำนสภำผู้แทนรำษฎร สำหรับสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร ประธำนคณะกรรมำธิกำร สำมญั ประจำสภำผแู้ ทนรำษฎร และข้ำรำชกำรรัฐสภำฝำ่ ยกำรเมอื งประจำสภำผูแ้ ทนรำษฎร (๓) ประธำนวุฒิสภำ สำหรับสมำชิกวุฒิสภำ ประธำนคณะกรรมำธิกำรสำมัญประจำวฒุ สิ ภำ และขำ้ รำชกำรรฐั สภำฝำ่ ยกำรเมอื งประจำวฒุ ิสภำ (๔) รฐั มนตรีเจำ้ สังกัด สำหรบั ขำ้ รำชกำรกำรเมืองในสงั กดั
หน้า ๖ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๕ ง ราชกิจจานเุ บกษา (๕) ผู้ว่ำรำชกำรกรุงเทพมหำนคร สำหรับข้ำรำชกำรกำรเมืองและผู้ดำรงตำแหน่ง ทำงกำรเมืองในกรงุ เทพมหำนคร (๖) ปลัดกระทรวง ปลัดทบวง หัวหน้ำส่วนรำชกำรระดับกรมท่ีขึ้นตรงต่อนำยกรัฐมนตรี ผู้บัญชำกำรตำรวจแห่งชำติ สำหรับข้ำรำชกำร ลูกจ้ำงประจำของส่วนรำชกำร พนักงำนรำชกำร และเจำ้ หน้ำทีใ่ นสงั กัด (๗) ปลัดกระทรวงมหำดไทยหรือปลัดกรงุ เทพมหำนคร สำหรับผู้บรหิ ำรทอ้ งถ่ิน สมำชิกสภำ ท้องถ่ิน ผู้ปฏิบัติงำนในหน่วยงำนตำมกฎหมำยจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พนักงำนส่วนท้องถิน่ ลูกจำ้ งประจำ และผู้ปฏบิ ตั งิ ำนตำมกฎหมำยว่ำด้วยลักษณะปกครองท้องท่ี แล้วแตก่ รณี (๘) เลขำธกิ ำรสำนักงำนศำลยุติธรรม เลขำธกิ ำรสำนักงำนศำลปกครอง เลขำธิกำรสำนกั งำน ศำลรัฐธรรมนูญ สำหรับข้ำรำชกำรตุลำกำร ดะโต๊ะยุตธิ รรม ผู้พิพำกษำสมทบ ผู้ดำรงตำแหน่งในศำล นน้ั ๆ และขำ้ รำชกำรหรือเจำ้ หนำ้ ทีใ่ นศำลน้ัน ๆ แลว้ แต่กรณี (๙) อยั กำรสูงสดุ สำหรับข้ำรำชกำรฝ่ำยอยั กำรและเจ้ำหน้ำที่ในสังกดั (๑๐) ประธำนองค์กรอสิ ระตำมกฎหมำย สำหรับผ้ดู ำรงตำแหนง่ ในองคก์ รอิสระนั้น ๆ (๑๑) เลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร เลขำธกิ ำรวฒุ สิ ภำ สำหรับข้ำรำชกำรหรือเจ้ำหน้ำทใี่ นสงั กดั และผปู้ ฏบิ ัตงิ ำนให้แกค่ ณะกรรมำธิกำรสำมญั ประจำสภำน้นั ๆ แลว้ แตก่ รณี (๑๒) เลขำธิกำรหรือหัวหน้ำหน่วยธุรกำรขององค์กรอิสระตำมกฎหมำย สำหรับข้ำรำชกำร พนักงำน และเจำ้ หนำ้ ท่ีในหน่วยธรุ กำรขององค์กรอิสระนัน้ ๆ (๑๓) หวั หนำ้ หนว่ ยงำนของรัฐนอกจำก (๖) สำหรับบคุ คลหรอื พนักงำนในสงั กดั (๑๔) บุคคลตำม (๕) (๖) (๗) โดยควำมเห็นชอบของรัฐมนตรีหรือผู้มีอำนำจกำกับดูแล ตำมกฎหมำย สำหรับผ้บู รหิ ำรสูงสุด พนักงำนหรือเจำ้ หน้ำทรี่ ฐั วสิ ำหกจิ องค์กำรมหำชน องค์กำรของรัฐ หน่วยงำนอื่นของรัฐท่ีมีลักษณะอย่ำงเดียวกัน และสถำบันอุดมศึกษำของรัฐ ในสังกัดหรือในกำกับ แล้วแต่กรณี (๑๕) บุคคลตำม (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐) (๑๑) (๑๒) (๑๓) (๑๔) สำหรับรำชบัณฑิต และกรรมกำรตำมกฎหมำยท่ีทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับ หน่วยงำนนัน้ ข้อ ๑๕ ให้หัวหน้ำส่วนรำชกำรที่มีฐำนะเป็นกรม ซึ่งจะดำเนินกำรเสนอขอพระรำชทำน เคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ให้แก่บุคคลตำมข้อ ๑๔ (๖) ที่รับรองคุณสมบัติของตนเองแล้ว แต่งต้ัง คณะกรรมกำรขึ้นคณะหน่ึง ทำหน้ำท่ีรวบรวมและตรวจสอบรำยชื่อ เอกสำร และหลักฐำนต่ำง ๆ แล้วพิจำรณำคุณสมบัติและกล่ันกรองควำมดีควำมชอบตำมท่ีกำหนดในระเบียบนี้ พร้อมท้ังรับรองว่ำ เป็นบคุ คลท่สี มควรไดร้ บั กำรเสนอขอพระรำชทำนเครือ่ งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ ก่อนส่งเรื่องไปยงั ผู้เสนอรำยชอ่ื ตำมข้อ ๑๔ (๖)
หน้า ๗ ๖ ตลุ าคม ๒๕๖๔ เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๕ ง ราชกิจจานเุ บกษา ให้หัวหน้ำส่วนรำชกำรระดับกระทรวง ทบวง แต่งตั้งคณะกรรมกำรขึ้นอีกคณะหน่ึง เพ่ือทำหน้ำที่พิจำรณำกลั่นกรองและรับรองอีกช้ันหน่ึง ก่อนเสนอไปยังผู้เสนอรำยชื่อตำมข้อ ๑๔ (๖) เพอ่ื พิจำรณำรับรองแลว้ สง่ ใหส้ ำนักเลขำธิกำรคณะรฐั มนตรีตอ่ ไป กำรเสนอขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอสิ รยิ ำภรณ์ใหแ้ ก่บคุ คลตำมขอ้ ๑๔ (๘) (๙) (๑๐) (๑๑) (๑๒) (๑๓) (๑๔) และ (๑๕) ให้นำควำมในวรรคหน่งึ และวรรคสองมำใช้บังคบั โดยอนโุ ลม ข้อ ๑๖ ให้ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดและปลัดกรุงเทพมหำนครซ่ึงจะดำเนินกำรเสนอ ขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ให้แก่ผู้บริหำรท้องถ่ิน สมำชิกสภำท้องถิ่น ผู้ปฏิบัติงำน ตำมกฎหมำยจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พนักงำนส่วนท้องถิ่น ลูกจ้ำงประจำ และผู้ปฏิบัติงำน ตำมกฎหมำยว่ำด้วยลักษณะปกครองท้องท่ีในเขตจังหวัดหรือท้องท่ีของตน ที่รับรองคุณสมบัติ ของตนเองแล้ว แต่งตั้งคณะกรรมกำรข้ึนคณะหน่ึง ทำหน้ำท่ีรวบรวมตรวจสอบรำยช่ือ เอกสำร และหลักฐำนตำ่ ง ๆ แลว้ พจิ ำรณำคุณสมบัติ คุณลักษณะ และกลนั่ กรองควำมดคี วำมชอบตำมท่กี ำหนด ในระเบียบน้ี พร้อมทั้งรับรองว่ำเป็นบุคคลที่สมควรได้รับกำรเสนอขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ แลว้ เสนอไปยังปลัดกระทรวงมหำดไทยหรือสำนักเลขำธกิ ำรคณะรัฐมนตรี แลว้ แตก่ รณี ขอ้ ๑๗ ภำยใต้บังคับข้อ ๘ และข้อ ๑๒ บุคคลผู้มีคุณสมบัติและคุณลักษณะครบถ้วน และได้รับกำรเสนอขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ประจำปี ต้องดำรงตำแหน่งอยู่ในวันพระรำชพิธี เฉลมิ พระชนมพรรษำของปที ีข่ อพระรำชทำน ยกเวน้ กรณีดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งข้ำรำชกำรกำรเมือง สมำชิกรัฐสภำ หรือข้ำรำชกำรรัฐสภำ ฝ่ำยกำรเมือง ต้องมีระยะเวลำกำรดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหน่ึงติดต่อกันมำแล้วไม่น้อยกว่ำ หน่งึ รอ้ ยยสี่ ิบวัน นบั ตง้ั แต่วนั ที่ดำรงตำแหนง่ หลงั จำกวนั พระรำชพิธีเฉลมิ พระชนมพรรษำของปที ผ่ี ่ำนมำ จนถงึ วนั พระรำชพธิ ีเฉลิมพระชนมพรรษำของปีท่ีจะขอพระรำชทำน (๒) ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งข้ำรำชกำรกำรเมือง สมำชิกรัฐสภำ หรือข้ำรำชกำรรัฐสภำ ฝ่ำยกำรเมืองหลำยตำแหน่งหรือหลำยคร้ัง ต้องมีระยะเวลำกำรดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง หรือหลำยตำแหน่งรวมกันมำแล้วไม่น้อยกว่ำหน่ึงร้อยแปดสิบวัน นับตั้งแต่วันท่ีดำรงตำแหน่งหลังจำก วันพระรำชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษำของปีที่ผ่ำนมำ จนถึงวันพระรำชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษำของปี ทจ่ี ะขอพระรำชทำน (๓) ผู้ซ่ึงพ้นจำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ีเพรำะเกษียณอำยุ และมีคุณสมบัติที่จะได้รับกำรพิจำรณำ เสนอขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณอ์ ยูก่ ่อนกำรพ้นจำกกำรปฏิบตั ิหน้ำที่ (๔) เป็นผู้เคยมีลักษณะต้องห้ำมตำมข้อ ๑๒ (๖) ซึ่งต่อมำปรำกฏผลกำรสอบสวน ไต่สวน หรือมีคำพพิ ำกษำถงึ ทีส่ ดุ แล้วว่ำไมม่ คี วำมผิด (๕) เป็นผู้มีผลงำนควำมดีควำมชอบอยำ่ งยิ่งเฉพำะที่กำหนดในบญั ชที ้ำยระเบยี บน้ี ขอ้ ๑๘ ในกำรนับระยะเวลำเพ่ือเสนอขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ตำมระเบียบนี้ หำกเปน็ ผู้มกี รณีดังตอ่ ไปนใ้ี นปใี ด ให้เพ่มิ กำหนดระยะเวลำกำรขอพระรำชทำนอกี กรณลี ะหนงึ่ ปี
หน้า ๘ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๔๕ ง ราชกจิ จานุเบกษา (๑) เปน็ ผู้ถูกลงโทษทำงวนิ ยั (๒) เปน็ ผ้มู ผี ลกำรประเมินกำรปฏิบตั ิรำชกำรหรอื กำรปฏบิ ัติงำนตำมภำรกิจท่กี ฎหมำยกำหนด ต่ำกว่ำระดับดี เว้นแต่เป็นกำรขอพระรำชทำนตำมหลักเกณฑ์ที่กำหนดระยะเวลำดำรงตำแหน่ง หรอื ระยะเวลำเลอ่ื นชน้ั ตรำเกินกวำ่ หำ้ ปบี ริบูรณ์ ให้พจิ ำรณำผลกำรประเมินดงั กลำ่ วในระยะเวลำหำ้ ปี หมวด ๓ กำรพิจำรณำเสนอขอพระรำชทำน ขอ้ ๑๙ ให้มีคณะกรรมกำรพจิ ำรณำกำรเสนอขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ประจำปี ประกอบด้วย (๑) นำยกรฐั มนตรหี รอื รองนำยกรัฐมนตรี เปน็ ประธำนกรรมกำร ที่ได้รบั มอบหมำย (๒) รองนำยกรัฐมนตรี เปน็ กรรมกำร (๓) รัฐมนตรีท่ีนำยกรัฐมนตรแี ต่งตง้ั จำนวนหำ้ คน เป็นกรรมกำร (๔) เลขำธิกำร ก.พ. เปน็ กรรมกำร (๕) เลขำธิกำรคณะรฐั มนตรี เป็นกรรมกำร และเลขำนกุ ำร (๖) ขำ้ รำชกำรในสำนกั เลขำธกิ ำรคณะรฐั มนตรคี นหนึง่ เปน็ กรรมกำร ท่เี ลขำธกิ ำรคณะรัฐมนตรมี อบหมำย และผชู้ ว่ ยเลขำนกุ ำร (๗) ผอู้ ำนวยกำรกองอำลกั ษณ์ เปน็ กรรมกำร และเครอ่ื งรำชอิสรยิ ำภรณ์ และผูช้ ว่ ยเลขำนกุ ำร สำนกั เลขำธกิ ำรคณะรฐั มนตรี ให้คณะกรรมกำรตำมวรรคหน่ึง มีหน้ำที่และอำนำจในกำรพิจำรณำเสนอขอพระรำชทำน เคร่อื งรำชอิสรยิ ำภรณท์ ุกชน้ั ตรำแก่บคุ คลทส่ี มควรขอพระรำชทำน ให้ประธำนกรรมกำรตำมวรรคหนึ่งมีอำนำจแต่งตั้งคณะอนุกรรมกำรหรือคณะทำงำน เพอื่ กลน่ั กรอง ตรวจสอบ หรอื ดำเนนิ กำรอืน่ ตำมท่ปี ระธำนกรรมกำรมอบหมำย ข้อ ๒๐ เม่ือสำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรีได้รับเอกสำรกำรเสนอขอพระรำชทำน เครื่องรำชอิสริยำภรณ์ประจำปีแล้ว ให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ประวัติกำรได้รับพระรำชทำน เครื่องรำชอิสริยำภรณ์ และเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ท่ีสมควรขอพระรำชทำนตำมระเบียบน้ีหรือ ตำมหลกั เกณฑท์ ก่ี ำหนดในบัญชีทำ้ ยระเบยี บน้ี แล้วเสนอคณะกรรมกำรตำมขอ้ ๑๙ เพอื่ พิจำรณำต่อไป ขอ้ ๒๑ เมื่อคณะกรรมกำรตำมขอ้ ๑๙ พจิ ำรณำเสรจ็ แลว้ ใหส้ ำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรี เสนอรำยช่ือบุคคลพร้อมท้ังช้ันตรำเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ที่สมควรขอพระรำชทำนให้นำยกรัฐมนตรี พิจำรณำ เม่ือนำยกรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว ให้สำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรีเสนอรำยช่ือไปยัง
หน้า ๙ ๖ ตลุ าคม ๒๕๖๔ เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๔๕ ง ราชกจิ จานุเบกษา สำนักพระรำชวังเพื่อนำควำมกรำบบังคมทูลพระกรุณำขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ หำกทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำโปรดกระหม่อมพระรำชทำนแลว้ ใหป้ ระกำศในรำชกิจจำนุเบกษำต่อไป ข้อ ๒๒ ในกรณีที่มีควำมจำเป็นรีบด่วนซ่ึงไม่อำจเรียกประชุมคณะกรรมกำรตำมข้อ ๑๙ ให้สำนักเลขำธกิ ำรคณะรัฐมนตรเี สนอรำยช่ือบุคคลผู้สมควรได้รับกำรเสนอขอพระรำชทำนตำมท่กี ำหนด ไว้ในระเบียบนี้ตอ่ นำยกรฐั มนตรโี ดยไมต่ ้องเสนอคณะกรรมกำรตำมขอ้ ๑๙ เม่ือนำยกรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว ให้สำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรีเสนอรำยชื่อไปยัง สำนักพระรำชวังเพื่อนำควำมกรำบบังคมทูลพระกรุณำขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ หำกทรงพระกรณุ ำโปรดเกลำ้ โปรดกระหมอ่ มพระรำชทำนแลว้ ให้ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำต่อไป หมวด ๔ กำรเสนอและกำรพิจำรณำกำรเสนอขอพระรำชทำนแก่บคุ คลบำงประเภท ขอ้ ๒๓ กำรเสนอขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ให้แก่ผู้แทนทำงกำรทูตของต่ำงประเทศ และชำวต่ำงประเทศ ใหเ้ สนอขอพระรำชทำนได้เม่อื ผนู้ น้ั ได้กระทำคุณประโยชน์แก่ประเทศไทยเปน็ อย่ำงยงิ่ โดยให้หนว่ ยงำนของรฐั ท่ีไดร้ บั ประโยชน์หรือเกยี่ วข้องมำกทส่ี ุดเป็นผู้พิจำรณำเสนอขอพระรำชทำน ในกำรเสนอขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ตำมวรรคหน่ึง ให้หน่วยงำนของรัฐท่ีเสนอ ขอพระรำชทำนแจ้งกระทรวงกำรต่ำงประเทศและสำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรีเพ่ือพิจำรณำ ควำมเหมำะสมของช้ันตรำเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ท่ีเสนอขอพระรำชทำนตำมลำดับ โดยพิจำรณำ ตำมหลกั เกณฑท์ กี่ ำหนดในบญั ชีทำ้ ยระเบยี บน้ี ภำยในบังคับธรรมเนียมปฏิบัติระหว่ำงประเทศ เมื่อกระทรวงกำรต่ำงประเทศพิจำรณำ เห็นสมควรเสนอขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ใดและช้ันตรำใดแล้ว ให้กระทรวงกำรต่ำงประเทศ ทำบทำมรัฐบำลที่ชำวต่ำงประเทศน้ันถือสัญชำติว่ำจะขัดข้องกำรขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ ดังกล่ำวหรือไม่ หำกไม่ขัดข้อง ให้หน่วยงำนของรัฐท่ีเสนอขอพระรำชทำนแจ้งผลกำรพิจำรณำ ไปยังสำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรี เพ่ือนำเสนอนำยกรัฐมนตรีพิจำรณำ เม่ือนำยกรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว ใหส้ ำนกั เลขำธิกำรคณะรัฐมนตรเี สนอรำยช่ือไปยงั สำนกั พระรำชวงั เพื่อนำควำมกรำบบังคมทลู พระกรณุ ำ ขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ หำกทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำโปรดกระหม่อมพระรำชทำนแล้ว ใหป้ ระกำศในรำชกจิ จำนุเบกษำต่อไป ในกรณีน้ี มิให้นำควำมในข้อ ๑๑ วรรคสอง ข้อ ๑๒ ข้อ ๑๓ ข้อ ๑๘ ข้อ ๑๙ และข้อ ๒๐ มำใช้บงั คบั ข้อ ๒๔ กำรเสนอขอพระรำชทำนเคร่อื งรำชอสิ ริยำภรณใ์ ห้แก่ผวู้ ำยชนม์ ให้หน่วยงำนของรฐั ทไ่ี ดร้ บั ประโยชน์หรอื เกี่ยวข้องมำกทส่ี ุดเสนอขอพระรำชทำนได้เมอื่ ผูว้ ำยชนมไ์ ดเ้ คยกระทำคุณประโยชน์ เป็นอย่ำงย่ิง โดยให้ส่งเอกสำรไปยังสำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรีเพ่ือนำเสนอนำยกรัฐมนตรีพิจำรณำ เมื่อนำยกรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว ให้สำนักเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรีเสนอรำยชื่อไปยังสำนักพระรำชวัง
หน้า ๑๐ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๕ ง ราชกจิ จานุเบกษา เพื่อนำควำมกรำบบังคมทูลพระกรุณำขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ หำกทรงพระกรุณำ โปรดเกล้ำโปรดกระหม่อมพระรำชทำนแลว้ ใหป้ ระกำศในรำชกิจจำนเุ บกษำต่อไป ในกรณีนี้ มิให้นำควำมในข้อ ๑๑ วรรคสอง ข้อ ๑๒ ข้อ ๑๓ ข้อ ๑๘ ข้อ ๑๙ และข้อ ๒๐ มำใชบ้ ังคับ บทเฉพำะกำล ข้อ ๒๕ ให้ประธำนกรรมกำรและกรรมกำรท่นี ำยกรฐั มนตรีแตง่ ตั้งในคณะกรรมกำรพิจำรณำ กำรเสนอขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ช้ันสำยสะพำย ตำมระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรี ว่ำด้วยกำรขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์อันเป็นท่ีเชิดชูย่ิงช้ำงเผือกและเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. ๒๕๓๖ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม ซ่ึงดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันท่ี ระเบียบนใี้ ช้บงั คบั ปฏิบัติหน้ำที่ประธำนกรรมกำรและกรรมกำรในคณะกรรมกำรพิจำรณำกำรเสนอขอ พระรำชทำนเครื่องรำชอสิ รยิ ำภรณป์ ระจำปตี ำมระเบยี บนี้ จนกวำ่ จะมกี ำรแตง่ ตง้ั กรรมกำรตำมขอ้ ๑๙ (๓) ประกำศ ณ วนั ที่ 29 กนั ยำยน พ.ศ. ๒๕๖๔ พลเอก ประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชำ นำยกรฐั มนตรี
-๑- บญั ชี ๑ การขอพระราชทานเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณใ์ หแ้ กร่ ฐั มนตรี ลำดบั ตำแหน่ง เครอื่ งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เง่ือนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑ นำยกรัฐมนตรี ทข่ี อพระรำชทำน กำรเลือ่ นช้ันตรำ ลำดบั ๒ - ๔ ๒ รองนำยกรัฐมนตรี เร่ิมต้นขอ เลือ่ นได้ถงึ ๑. เริม่ ขอพระรำชทำน ม.ว.ม. ตอ้ งมรี ะยะเวลำ ม.ว.ม. ม.ป.ช. ๒. ได้ ม.ว.ม. ขอ ม.ป.ช. กำรดำรงตำแหนง่ ๓ รัฐมนตรีวำ่ กำรกระทรวง ๓. ขอพระรำชทำนไดท้ ุกปี ติดตอ่ กนั ไม่น้อยกว่ำ หรอื ทบวง ๓๐ วัน นับตั้งแต่วนั ที่ หรือรัฐมนตรปี ระจำ ม.ว.ม. ม.ป.ช. ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน ม.ว.ม. ดำรงตำแหน่งจนถึง สำนักนำยกรัฐมนตรี ๒. ได้ ม.ว.ม. ขอ ม.ป.ช. วนั กอ่ นวนั พระรำชพธิ ี ๓. ขอพระรำชทำนไดท้ ุกปี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ของปที ่ีจะขอพระรำชทำน ป.ช. ม.ป.ช. ๑. เริ่มขอพระรำชทำน ป.ช. ๒. ได้ ป.ช. ขอ ม.ว.ม. ๓. ได้ ม.ว.ม. ขอ ม.ป.ช. ๔. ขอพระรำชทำนไดท้ กุ ปี ๔ รฐั มนตรชี ว่ ยวำ่ กำรกระทรวง ป.ม. ม.ป.ช. ๑. เรมิ่ ขอพระรำชทำน ป.ม. หรือทบวง ๒. ได้ ป.ม. ขอ ป.ช. ๓. ได้ ป.ช. ขอ ม.ว.ม. ๔. ได้ ม.ว.ม. ขอ ม.ป.ช. ๕. ขอพระรำชทำนได้ทกุ ปี
-๒- บญั ชี ๒ การขอพระราชทานเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณใ์ หแ้ กข่ า้ ราชการการเมอื ง ผู้ชว่ ยรัฐมนตรี ผู้แทนการค้าไทย กรรมการประสานงานสภาผแู้ ทนราษฎร และกรรมการประสานงานวุฒสิ ภา ลำดับ ตำแหน่ง เครอ่ื งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เงอื่ นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ที่ขอพระรำชทำน กำรเล่ือนชน้ั ตรำ เริ่มตน้ ขอ เล่ือนไดถ้ ึง ๑ เลขำธกิ ำรนำยกรัฐมนตรี ท.ม. ม.ป.ช. ปีเว้นปี ๑. ลำดับ ๑ - ๑๒ ๒ รองเลขำธกิ ำรนำยกรัฐมนตรี ต.ช. ม.ว.ม. ปเี ว้นปี ตอ้ งมรี ะยะเวลำ กำรดำรงตำแหนง่ ฝ่ำยกำรเมอื ง ตดิ ต่อกันมำแล้ว ๓ ทป่ี รึกษำนำยกรฐั มนตรี ต.ช. ป.ช. ๑. ต.ช. - ป.ม. ปีเวน้ ปี ไม่นอ้ ยกว่ำ ๙๐ วัน หรอื ดำรงตำแหน่ง ๒. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกวำ่ หลำยตำแหนง่ รวมกัน ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ป.ช. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๑๒๐ วัน ๔ ทีป่ รึกษำรองนำยกรัฐมนตรี ต.ม. ป.ม. นบั ตงั้ แต่วันที่ดำรงตำแหน่ง ปีเวน้ ปี จนถึงวันก่อนวันพระรำชพิธี ๕ ทป่ี รึกษำรัฐมนตรี หรือ ต.ม. ท.ช. ปเี วน้ ปี เฉลิมพระชนมพรรษำ ท่ปี รกึ ษำรัฐมนตรปี ระจำ ของปีทจ่ี ะขอพระรำชทำน สำนกั นำยกรัฐมนตรี และให้ขอได้เฉพำะผทู้ ่ี ได้รบั เงินเดอื นหรอื ๖ โฆษกประจำสำนกั นำยกรฐั มนตรี ต.ม. ป.ช. ปเี วน้ ปี ค่ำตอบแทนเป็นรำยเดือน จำกงบประมำณแผน่ ดนิ ๗ รองโฆษกประจำสำนักนำยกรฐั มนตรี ต.ม. ป.ม. ปีเวน้ ปี ๒. ลำดบั ๑๓ ตอ้ งมีระยะเวลำ ๘ ประจำสำนกั เลขำธกิ ำร จ.ช. ท.ม. ปีเวน้ ปี กำรดำรงตำแหน่ง นำยกรฐั มนตรี ตดิ ต่อกันมำแล้ว ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๙๐ วัน ๙ เลขำนกุ ำรรัฐมนตรวี ำ่ กำร ต.ม. ท.ช. ปเี ว้นปี นบั ต้งั แต่วนั ท่ดี ำรงตำแหน่ง กระทรวง หรือทบวง จนถึงวนั ก่อนวนั พระรำชพิธี หรือเลขำนุกำรรฐั มนตรี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ประจำสำนกั นำยกรฐั มนตรี ของปที ี่จะขอพระรำชทำน ๓. ลำดับ ๓ - ๔ ๑๐ ผู้ชว่ ยเลขำนุกำรรัฐมนตรวี ่ำกำร ต.ม. ท.ม. ปเี วน้ ปี กำรเรม่ิ ต้นขอพระรำชทำน กระทรวง หรือทบวง ชั้นสำยสะพำย จะตอ้ ง ๑๑ ผู้ช่วยรฐั มนตรี ต.ม. ป.ช. ๑. ต.ม. - ป.ม. ปเี ว้นปี ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษำฯ ๒. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ ๑ ปี (๑๒ เดือน) ของปีท่ีจะ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ช. ขอพระรำชทำน
-๓- ลำดบั ตำแหน่ง เครื่องรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เงอื่ นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ที่ขอพระรำชทำน กำรเลอ่ื นชน้ั ตรำ ๑๒ ผู้แทนกำรค้ำไทย เร่มิ ตน้ ขอ เลอ่ื นได้ถึง ๑. ต.ม. - ป.ม. ปีเวน้ ปี ๑๓ กรรมกำรประสำนงำน ต.ม. ป.ช. ๒. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ สภำผู้แทนรำษฎร หรอื กรรมกำรประสำนงำนวฒุ ิสภำ ๓ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ป.ช. ที่ดำรงตำแหนง่ สมำชกิ สภำผู้แทนรำษฎร ท.ม. ม.ป.ช. ๑. ท.ม. - ท.ช. ทกุ ปี หรอื สมำชกิ วฒุ สิ ภำ ๒. ท.ช. - ป.ช. ปเี วน้ ปี ๓. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกว่ำ ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ๔. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกว่ำ ๓ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ม.ป.ช.
-๔- บัญชี ๓ การขอพระราชทานเคร่อื งราชอสิ ริยาภรณ์ให้แก่ผูด้ ารงตาแหนง่ ในรฐั สภา ลำดบั ตำแหน่ง เคร่ืองรำชอิสรยิ ำภรณ์ เงื่อนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ท่ีขอพระรำชทำน กำรเลือ่ นชน้ั ตรำ ๑ ประธำนรฐั สภำ ๒ ประธำนสภำผแู้ ทนรำษฎร เริ่มต้นขอ เลื่อนไดถ้ งึ ทกุ ปี ๑. ลำดับ ๔ - ๗ ๓ ประธำนวฒุ สิ ภำ ม.ว.ม. ม.ป.ช. ๔ รองประธำนสภำผู้แทนรำษฎร หรอื ม.ว.ม. ม.ป.ช. ทุกปี ต้องมีระยะเวลำ ม.ว.ม. ม.ป.ช. กำรดำรงตำแหน่ง รองประธำนวุฒิสภำ ป.ช. ม.ป.ช. ๕ ผนู้ ำฝำ่ ยค้ำนในสภำผ้แู ทนรำษฎร ป.ม. ม.ป.ช. ทกุ ปี ตดิ ต่อกนั มำแลว้ ๖ ประธำนคณะกรรมำธิกำรสำมัญ ท.ม. ม.ป.ช. ไม่นอ้ ยกว่ำ ๙๐ วนั ประจำสภำผแู้ ทนรำษฎร หรือ ท.ม. ม.ป.ช. ทกุ ปี นบั ตั้งแตว่ นั ที่ดำรงตำแหน่ง ประจำวฒุ สิ ภำ ต.ม. ป.ช. จนถึงวันก่อนวนั พระรำชพิธี ๗ สมำชิกสภำผแู้ ทนรำษฎร หรอื สมำชกิ วุฒสิ ภำ ต.ม. ท.ช. ทุกปี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ของปีทีจ่ ะขอพระรำชทำน ๘ ท่ีปรึกษำประธำนรฐั สภำ ต.ม. ท.ช. ทป่ี รึกษำรองประธำนรฐั สภำ ๑. ท.ม. - ป.ม. ทกุ ปี ๒. ลำดับ ๘ - ๑๕ ทป่ี รึกษำประธำนสภำผู้แทนรำษฎร หรือท่ปี รึกษำประธำนวฒุ ิสภำ ๒. ป.ม. - ป.ช. ปเี ว้นปี ตอ้ งมรี ะยะเวลำ ๙ ที่ปรึกษำรองประธำน ๓. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ กำรดำรงตำแหนง่ สภำผู้แทนรำษฎร หรอื ทปี่ รึกษำรองประธำนวุฒสิ ภำ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ติดต่อกันมำแลว้ ๑๐ ทป่ี รึกษำผ้นู ำฝ่ำยค้ำน ๔. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกวำ่ ไม่นอ้ ยกวำ่ ๙๐ วัน ในสภำผแู้ ทนรำษฎร ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ม.ป.ช. หรอื ดำรงตำแหน่ง ๑. ท.ม. - ป.ช. ปีเวน้ ปี หลำยตำแหน่งรวมกัน ๒. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกวำ่ มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ ๑๒๐ วนั นับตัง้ แตว่ ันทีด่ ำรงตำแหน่ง ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ม.ว.ม. จนถึงวนั ก่อนวนั พระรำชพธิ ี ๓. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ เฉลิมพระชนมพรรษำ ของปที จ่ี ะขอพระรำชทำน ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ม.ป.ช. ๑. ต.ม. - ป.ม. ปเี ว้นปี และให้ขอได้เฉพำะผทู้ ี่ ๒. ได้ ป.ม. มำแล้วไมน่ อ้ ยกวำ่ ไดร้ ับเงินเดอื น จำกงบประมำณแผ่นดิน ๓ ปบี ริบูรณ์ ขอ ป.ช. ตำมกฎหมำยว่ำด้วย ระเบียบขำ้ รำชกำรรัฐสภำ ปีเวน้ ปี ๓. ลำดบั ๘ กำรเรมิ่ ตน้ ขอพระรำชทำน ชน้ั สำยสะพำย จะต้อง ปีเว้นปี ดำรงตำแหนง่ ทป่ี รึกษำฯ มำแล้วไมน่ ้อยกวำ่ ๑ ปี
-๕- ลำดับ ตำแหน่ง เครอื่ งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เงอ่ื นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ทข่ี อพระรำชทำน กำรเล่อื นชัน้ ตรำ ๑๑ โฆษกประธำนสภำผแู้ ทนรำษฎร ปีเว้นปี (๑๒ เดือน) ของปีทจ่ี ะ โฆษกประธำนวุฒสิ ภำ เริ่มตน้ ขอ เลื่อนไดถ้ งึ ขอพระรำชทำน หรือโฆษกผู้นำฝ่ำยคำ้ น ต.ม. ท.ช. ปเี ว้นปี ๔. ลำดับ ๑๖ - ๑๙ ในสภำผู้แทนรำษฎร ตอ้ งมรี ะยะเวลำ ปีเวน้ ปี กำรดำรงตำแหนง่ ๑๒ เลขำนกุ ำรประธำนรฐั สภำ ต.ม. ท.ช. ตดิ ตอ่ กนั มำแล้ว เลขำนุกำรรองประธำนรัฐสภำ ปเี วน้ ปี ไม่น้อยกว่ำ ๑๒๐ วัน เลขำนุกำรประธำนสภำผู้แทนรำษฎร นบั ตัง้ แต่วนั ทีด่ ำรงตำแหน่ง หรือเลขำนุกำรประธำนวฒุ สิ ภำ จนถึงวนั ก่อนวันพระรำชพธิ ี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ๑๓ เลขำนกุ ำรรองประธำน จ.ช. ท.ม. ของปีทจี่ ะขอพระรำชทำน สภำผ้แู ทนรำษฎร ไม่น้อยกวำ่ ๖๐ วนั เลขำนุกำรรองประธำนวฒุ สิ ภำ และใหข้ อไดเ้ ฉพำะผไู้ ด้รบั หรอื เลขำนุกำรผ้นู ำฝำ่ ยค้ำน ค่ำตอบแทนเปน็ รำยเดอื น ในสภำผแู้ ทนรำษฎร จำกงบประมำณหมวด ค่ำตอบแทน ๑๔ ผู้ชว่ ยเลขำนกุ ำรประธำนรัฐสภำ จ.ม. ท.ม. ผู้ช่วยเลขำนุกำรรองประธำนรฐั สภำ ผชู้ ว่ ยเลขำนกุ ำรประธำนสภำ ผแู้ ทนรำษฎร หรือผชู้ ว่ ยเลขำนุกำรประธำนวุฒสิ ภำ ๑๕ ผชู้ ว่ ยเลขำนุกำรรองประธำนสภำ จ.ม. ต.ช. ปเี วน้ ปี ผแู้ ทนรำษฎร ผ้ชู ว่ ยเลขำนกุ ำรรองประธำนวุฒิสภำ หรือผู้ชว่ ยเลขำนกุ ำรผ้นู ำฝำ่ ยคำ้ น ในสภำผูแ้ ทนรำษฎร ๑๖ ท่ปี รกึ ษำประจำ บ.ม. ท.ช. ปีเวน้ ปี คณะกรรมำธิกำรสำมัญ ปเี ว้นปี ปเี วน้ ปี ๑๗ ผ้ชู ำนำญกำรประจำ บ.ม. ท.ม. ปเี วน้ ปี คณะกรรมำธิกำรสำมัญ ๑๘ นกั วชิ ำกำรประจำ บ.ม. ต.ม. คณะกรรมำธกิ ำรสำมญั ๑๙ เลขำนุกำรประจำ บ.ม. จ.ม. คณะกรรมำธิกำรสำมญั
-๖- บัญชี ๔ การขอพระราชทานเครอื่ งราชอิสรยิ าภรณ์ให้แก่ขา้ ราชการการเมอื งในกรงุ เทพมหานคร ลำดับ ตำแหน่ง เครื่องรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เงือ่ นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑ ผู้ว่ำรำชกำรกรงุ เทพมหำนคร ท่ขี อพระรำชทำน กำรเลื่อนชัน้ ตรำ ปีเวน้ ปี ๑. ลำดบั ๑ - ๒ เรม่ิ ต้นขอ เล่อื นได้ถงึ ปีเว้นปี ต้องมรี ะยะเวลำ ท.ช. ม.ป.ช. ปีเว้นปี กำรดำรงตำแหน่ง ปเี ว้นปี ตดิ ต่อกนั มำแล้ว ๒ รองผวู้ ำ่ รำชกำรกรุงเทพมหำนคร ต.ช. ป.ช. ปเี ว้นปี ไมน่ ้อยกว่ำ ๙๐ วัน นับตงั้ แตว่ ันที่ดำรงตำแหน่ง ๓ เลขำนุกำรผู้วำ่ รำชกำรกรงุ เทพมหำนคร ต.ม. ท.ช. ปเี ว้นปี จนถึงวนั ก่อนวนั พระรำชพิธี ปเี ว้นปี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ๔ ผู้ชว่ ยเลขำนกุ ำร ต.ม. ท.ม. ของปที จี่ ะขอพระรำชทำน ปีเวน้ ปี ผู้ว่ำรำชกำรกรุงเทพมหำนคร ๒. ลำดับ ๓ - ๘ ต้องมีระยะเวลำ ๕ ประธำนที่ปรึกษำ ต.ช. ป.ม. กำรดำรงตำแหนง่ ติดต่อกนั มำแลว้ ของผ้วู ่ำรำชกำรกรุงเทพมหำนคร ไม่นอ้ ยกวำ่ ๙๐ วนั หรือดำรงตำแหนง่ ๖ ทปี่ รึกษำของผวู้ ่ำรำชกำร ต.ม. ท.ช. หลำยตำแหนง่ รวมกนั กรุงเทพมหำนคร บ.ม. จ.ช. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๑๒๐ วนั นบั ตง้ั แต่วนั ที่ดำรงตำแหนง่ ๗ เลขำนุกำรประธำนสภำ จนถึงวันก่อนวนั พระรำชพิธี กรงุ เทพมหำนคร เฉลิมพระชนมพรรษำ ของปีที่จะขอพระรำชทำน ๘ เลขำนกุ ำรรองประธำนสภำ บ.ม. จ.ช. และใหข้ อได้เฉพำะผทู้ ี่ กรุงเทพมหำนคร ได้รับเงนิ เดอื นตำมกฎหมำย ว่ำด้วยระเบยี บบรหิ ำร รำชกำรกรงุ เทพมหำนคร ๓. ลำดับ ๕ กำรเรม่ิ ตน้ ขอพระรำชทำน ช้นั สำยสะพำย จะต้อง ดำรงตำแหน่งทปี่ รึกษำฯ มำแลว้ ไม่นอ้ ยกวำ่ ๑ ปี (๑๒ เดอื น) ของปีที่ จะขอพระรำชทำน
-๗- บญั ชี ๕ การขอพระราชทานเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ให้แก่สมาชิกสภากรงุ เทพมหานคร และสมาชกิ สภาเขตกรุงเทพมหานคร ลำดบั ตำแหน่ง เครอ่ื งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เงือ่ นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ท่ขี อพระรำชทำน กำรเลอื่ นชั้นตรำ ๑ ประธำนสภำกรงุ เทพมหำนคร ปีเว้นปี ๑. ลำดับ ๑ ๒ รองประธำนสภำกรุงเทพมหำนคร เรม่ิ ตน้ ขอ เลอื่ นได้ถึง ปีเวน้ ปี ตอ้ งมรี ะยะเวลำ ๓ สมำชกิ สภำกรงุ เทพมหำนคร ต.ช. ป.ม. ปีเวน้ ปี กำรดำรงตำแหนง่ ๔ ประธำนสภำเขตกรุงเทพมหำนคร ปีเวน้ ปี ติดตอ่ กนั มำแล้ว ๕ สมำชกิ สภำเขตกรงุ เทพมหำนคร ต.ม. ท.ช. ปเี วน้ ปี ไม่น้อยกว่ำ ๙๐ วัน นบั ต้ังแตว่ นั ที่ดำรงตำแหน่ง จ.ม. ท.ช. จนถึงวนั ก่อนวนั พระรำชพิธี เฉลมิ พระชนมพรรษำ จ.ม. ท.ม. ของปีที่จะขอพระรำชทำน บ.ช. ท.ม. ๒. ลำดบั ๒ - ๕ ตอ้ งมีระยะเวลำ กำรดำรงตำแหน่ง ติดต่อกนั มำแล้ว ไมน่ ้อยกวำ่ ๑๒๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ดำรงตำแหนง่ จนถึงวนั ก่อนวนั พระรำชพธิ ี เฉลิมพระชนมพรรษำ ของปที จ่ี ะขอพระรำชทำน
-๘- บญั ชี ๖ การขอพระราชทานเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์ให้แก่ผ้บู ริหารทอ้ งถน่ิ สมาชกิ สภาท้องถิน่ และผปู้ ฏิบตั ิงานในหนว่ ยงานตามกฎหมายจดั ตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ลำดบั ตำแหนง่ เครอ่ื งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เง่อื นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ท่ีขอพระรำชทำน กำรเลื่อนช้นั ตรำ เร่ิมต้นขอ เลื่อนไดถ้ งึ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ๑. เริม่ ขอพระรำชทำน ๑. ตอ้ งดำรงตำแหน่งใด ๑ นำยกองค์กำรบริหำรส่วนตำบล ร.ท.ช. จ.ช. ตำมตำแหน่ง ตำแหนง่ หน่ึง ๒ รองนำยกองค์กำรบรหิ ำรสว่ นตำบล ร.ท.ม. จ.ม. ๒. ขอพระรำชทำนเลอ่ื นชัน้ ตรำ หรอื หลำยตำแหนง่ บ.ม. ตำมลำดบั โดยเว้นระยะเวลำ ตดิ ตอ่ กันมำไม่นอ้ ยกวำ่ ๓ เลขำนุกำรนำยกองค์กำรบรหิ ำรส่วนตำบล ร.ง.ช. ๓ ปีบรบิ รู ณ์ หรอื ๔ ประธำนสภำองคก์ ำรบริหำรสว่ นตำบล ร.ท.ช. จ.ม. ๒.๑ ดำรงตำแหนง่ ลำดับ ได้ดำรงตำแหน่งใด ตำแหนง่ หน่ึง ๕ รองประธำนสภำองคก์ ำรบรหิ ำรส่วนตำบล ร.ท.ม. จ.ม. ๑-๗, ๙-๑๔, ๑๖-๒๕, หรือหลำยตำแหนง่ มำแล้ว บ.ม. ๒๗-๔๕ และ ๔๖ มเี วลำรวมกนั ไมน่ ้อยกวำ่ ๖ เลขำนุกำรสภำองคก์ ำรบริหำรสว่ นตำบล ร.ง.ม. บ.ช. ตำแหน่งใดตำแหน่งหน่ึง ๕ ปีบรบิ รู ณ์ นับตง้ั แต่ หรือหลำยตำแหน่ง วันที่ไดด้ ำรงตำแหนง่ ๗ สมำชกิ สภำองคก์ ำรบรหิ ำรส่วนตำบล ร.ง.ช. ป.ม. ตอ่ เนอ่ื งกนั เปน็ เวลำ จนถึงวันกอ่ นวนั ท.ม. ไมน่ ้อยกวำ่ ๓ ปี พระรำชพิธีเฉลมิ องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวัด จ.ม. บรบิ รู ณ์ ๘ นำยกองค์กำรบริหำรสว่ นจงั หวดั ต.ม. ๙ รองนำยกองค์กำรบริหำรสว่ นจงั หวดั จ.ช. ๑๐ ท่ปี รึกษำนำยกองค์กำรบริหำรสว่ นจังหวดั บ.ม. ๒.๒ ดำรงตำแหน่งลำดับ ๑-๗, ๙-๑๔, ๑๖-๒๕, ๑๑ เลขำนุกำรนำยกองค์กำรบรหิ ำร บ.ม. จ.ช. พระชนมพรรษำของปที ่ี สว่ นจังหวดั จะขอพระรำชทำน ๒๗-๔๕ และ ๔๖ ๑๒ ประธำนสภำองค์กำรบริหำร ไม่นอ้ ยกว่ำ ๖๐ วัน สว่ นจังหวดั ต.ม. ท.ช. ตำแหนง่ ใดตำแหนง่ หนึง่ ยกเวน้ ลำดบั ๘, ๑๕ ๑๓ รองประธำนสภำองคก์ ำรบริหำร หรอื หลำยตำแหน่ง และ ๒๖ สว่ นจงั หวัด จ.ช. ท.ม. ไมต่ ่อเนอ่ื งกัน มเี วลำ ๒. ลำดับ ๓, ๖, ๑๐-๑๑, ๑๔ สมำชกิ สภำองคก์ ำรบรหิ ำร รวมกนั ไม่นอ้ ยกวำ่ ๑๗-๒๐, ๒๔-๒๕, ส่วนจงั หวัด จ.ม. ท.ม. ๕ ปบี ริบรู ณ์ ๒๘-๒๙, ๓๕-๓๖, ๔๒ เมอื งพทั ยา ๒.๓ ตำแหน่งลำดบั ๘, ๑๕ และ ๔๓ ให้ขอได้ ๑๕ นำยกเมอื งพัทยำ ต.ม. ป.ม. และ ๒๖ เฉพำะผมู้ ีตำแหนง่ ท.ม. ขอพระรำชทำน ตำมกฎหมำยนั้น ๆ ๑๖ รองนำยกเมอื งพัทยำ จ.ช. จ.ม. ต.ม. - ท.ม. ทกุ ป,ี เท่ำนั้น บ.ช. ท.ม. - ป.ม. ปเี วน้ ปี กรณีมผี ู้ดำรงตำแหน่ง ๑๗ ประธำนท่ีปรกึ ษำนำยกเมอื งพทั ยำ บ.ม. หลำยคน ให้พจิ ำรณำ ๑๘ ท่ปี รกึ ษำนำยกเมืองพทั ยำ บ.ม. ๑๙ เลขำนกุ ำรนำยกเมืองพัทยำ บ.ม. จ.ช. คัดเลือกผมู้ ผี ลงำนดเี ด่น ๒๐ ผชู้ ว่ ยเลขำนุกำรนำยกเมอื งพทั ยำ บ.ม. จ.ม. เพยี งตำแหนง่ ละ ๑ คน ๒๑ ประธำนสภำเมืองพทั ยำ ต.ม. ท.ช. เทำ่ นัน้ ๒๒ รองประธำนสภำเมืองพทั ยำ จ.ช. ท.ม.
ลำดับ ตำแหนง่ -๙- เง่ือนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ กำรเล่อื นชน้ั ตรำ ๒๓ สมำชกิ สภำเมอื งพทั ยำ เครื่องรำชอสิ รยิ ำภรณ์ ๒๔ เลขำนกุ ำรประธำนสภำเมืองพัทยำ ทข่ี อพระรำชทำน ๒๕ ผชู้ ่วยเลขำนกุ ำรประธำนสภำ เรม่ิ ต้นขอ เลื่อนไดถ้ ึง เมอื งพัทยำ จ.ม. ท.ม. เทศบาล บ.ม. จ.ช. ๒๖ นำยกเทศมนตรีเทศบำลนคร บ.ม. จ.ม. ๒๗ รองนำยกเทศมนตรเี ทศบำลนคร ๒๘ ทปี่ รกึ ษำนำยกเทศมนตรี ต.ม. ป.ม. เทศบำลนคร จ.ช. ท.ม. ๒๙ เลขำนุกำรนำยกเทศมนตรี บ.ม. จ.ม. เทศบำลนคร ๓๐ ประธำนสภำเทศบำลนคร บ.ม. จ.ช. ๓๑ รองประธำนสภำเทศบำลนคร ๓๒ สมำชิกสภำเทศบำลนคร ต.ม. ท.ช. ๓๓ นำยกเทศมนตรีเทศบำลเมือง จ.ช. ท.ม. ๓๔ รองนำยกเทศมนตรเี ทศบำลเมอื ง จ.ม. ท.ม. ๓๕ ทป่ี รึกษำนำยกเทศมนตรี จ.ช. ท.ช. เทศบำลเมือง จ.ม. ต.ช. ๓๖ เลขำนุกำรนำยกเทศมนตรี บ.ม. บ.ช. เทศบำลเมือง ๓๗ ประธำนสภำเทศบำลเมือง บ.ม. จ.ม. ๓๘ รองประธำนสภำเทศบำลเมอื ง ๓๙ สมำชกิ สภำเทศบำลเมือง จ.ช. ท.ม. ๔๐ นำยกเทศมนตรีเทศบำลตำบล จ.ม. ต.ช. ๔๑ รองนำยกเทศมนตรเี ทศบำลตำบล บ.ช. ต.ช. ๔๒ ท่ีปรึกษำนำยกเทศมนตรี จ.ม. ท.ม. เทศบำลตำบล บ.ช. ต.ม. ๔๓ เลขำนุกำรนำยกเทศมนตรี บ.ม. บ.ช. เทศบำลตำบล ๔๔ ประธำนสภำเทศบำลตำบล บ.ม. บ.ช. ๔๕ รองประธำนสภำเทศบำลตำบล ๔๖ สมำชกิ สภำเทศบำลตำบล จ.ม. ต.ช. บ.ช. ต.ม. บ.ม. ต.ม.
- ๑๐ - บญั ชี ๗ การขอพระราชทานเครื่องราชอสิ ริยาภรณใ์ หแ้ ก่ตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ลำดับ ตำแหน่ง เครอ่ื งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เงอ่ื นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑ ประธำนศำลรัฐธรรมนญู ที่ขอพระรำชทำน กำรเลอ่ื นช้นั ตรำ ๒ ตุลำกำรศำลรัฐธรรมนญู ๓ ทปี่ รึกษำประธำนศำลรัฐธรรมนูญ เร่ิมตน้ ขอ เลอ่ื นไดถ้ งึ ทุกปี ๑. ลำดบั ๑ - ๒ ม.ว.ม. ม.ป.ช. ๔ ที่ปรกึ ษำตลุ ำกำรศำลรฐั ธรรมนญู ป.ม. ม.ป.ช. ๑. ป.ม. - ป.ช. ปีตดิ กัน ต้องมีระยะเวลำ ๕ เลขำนกุ ำรประธำนศำลรฐั ธรรมนญู ๒. ป.ช. - ม.ป.ช. ปเี วน้ ปี กำรดำรงตำแหน่ง ๖ เลขำนุกำรตลุ ำกำรศำลรฐั ธรรมนญู ท.ม. ป.ช. ๑. ท.ม. - ป.ม. ปเี ว้นปี ตดิ ต่อกนั มำแล้ว ๒. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ ไม่นอ้ ยกว่ำ ๙๐ วนั ต.ช. ท.ช. นบั ตั้งแต่วนั ที่ดำรงตำแหนง่ ต.ช. ท.ช. ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ป.ช. จนถึงวันก่อนวันพระรำชพิธี ต.ม. ท.ม. ปีเวน้ ปี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ปีเวน้ ปี ของปที ี่จะขอพระรำชทำน ๒. ลำดับ ๓ - ๖ ปเี วน้ ปี ต้องมรี ะยะเวลำ กำรดำรงตำแหนง่ ติดต่อกันมำแล้ว ไม่น้อยกว่ำ ๑๒๐ วัน นบั ต้งั แต่วันท่ีดำรงตำแหนง่ จนถึงวนั ก่อนวนั พระรำชพิธี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ของปที จี่ ะขอพระรำชทำน กรณีมผี ู้ดำรงตำแหน่ง หลำยคน ใหพ้ จิ ำรณำ คัดเลอื กผมู้ ผี ลงำนดเี ดน่ เพียงตำแหน่งละ ๑ คน เท่ำนั้น ๓. ลำดับ ๓ กำรเรม่ิ ต้นขอพระรำชทำน ชั้นสำยสะพำย จะตอ้ ง ดำรงตำแหน่งทปี่ รึกษำฯ มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๑ ปี (๑๒ เดือน) ของปีท่ีจะ ขอพระรำชทำน
- ๑๑ - บญั ชี ๘ การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่กรรมการการเลือกต้ัง ลำดับ ตำแหนง่ เคร่ืองรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เงื่อนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑ ประธำนกรรมกำรกำรเลอื กต้งั ท่ขี อพระรำชทำน กำรเลือ่ นช้ันตรำ ๑. ลำดับ ๑ - ๒ เรมิ่ ต้นขอ เลือ่ นไดถ้ ึง ทุกปี ต้องมรี ะยะเวลำ ม.ว.ม. ม.ป.ช. กำรดำรงตำแหนง่ ตดิ ตอ่ กนั มำแล้ว ๒ กรรมกำรกำรเลือกตัง้ ป.ม. ม.ป.ช. ๑. ป.ม. - ป.ช. ปตี ดิ กนั ไม่น้อยกว่ำ ๙๐ วัน นบั ตั้งแตว่ ันทดี่ ำรงตำแหน่ง ๒. ป.ช. - ม.ป.ช. ปเี วน้ ปี จนถึงวนั ก่อนวนั พระรำชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษำ ๓ ทปี่ รกึ ษำประจำประธำนกรรมกำร ท.ม. ป.ม. ปีเวน้ ปี ของปที ี่จะขอพระรำชทำน กำรเลอื กตัง้ ๒. ลำดบั ๓ - ๖ ต้องมรี ะยะเวลำ ๔ ทีป่ รึกษำประจำกรรมกำรกำรเลือกตัง้ ต.ช. ท.ช. ปีเว้นปี กำรดำรงตำแหน่ง ติดต่อกันมำแลว้ ๕ เลขำนุกำรประจำประธำนกรรมกำร ต.ช. ท.ช. ปีเว้นปี ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๑๒๐ วนั กำรเลอื กตั้ง นบั ตั้งแต่วันทีด่ ำรงตำแหนง่ จนถึงวนั ก่อนวันพระรำชพิธี ๖ เลขำนกุ ำรประจำกรรมกำรกำร ต.ม. ท.ม. ปีเวน้ ปี เฉลมิ พระชนมพรรษำ เลือกต้ัง ของปที ่จี ะขอพระรำชทำน กรณีมผี ดู้ ำรงตำแหน่ง หลำยคน ใหพ้ จิ ำรณำ คดั เลอื กผู้มผี ลงำนดเี ดน่ เพยี งตำแหน่งละ ๑ คน เทำ่ นัน้ ๓. ลำดับ ๓ กำรเรม่ิ ตน้ ขอพระรำชทำน ชน้ั สำยสะพำย จะตอ้ ง ดำรงตำแหนง่ ทปี่ รึกษำฯ มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๑ ปี (๑๒ เดือน) ของปีที่จะ ขอพระรำชทำน
- ๑๒ - บญั ชี ๙ การขอพระราชทานเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณใ์ หแ้ ก่ผตู้ รวจการแผ่นดนิ ลำดับ ตำแหนง่ เคร่ืองรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เงื่อนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑ ประธำนผตู้ รวจกำรแผน่ ดิน ที่ขอพระรำชทำน กำรเล่อื นชัน้ ตรำ ๑. ลำดับ ๑ - ๒ เรมิ่ ต้นขอ เลอ่ื นได้ถึง ทกุ ปี ต้องมรี ะยะเวลำ ม.ว.ม. ม.ป.ช. กำรดำรงตำแหนง่ ตดิ ตอ่ กนั มำแล้ว ๒ ผตู้ รวจกำรแผ่นดิน ป.ม. ม.ป.ช. ๑. ป.ม. - ป.ช. ปีตดิ กัน ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๙๐ วนั ๓ ท่ปี รึกษำประธำนผูต้ รวจกำรแผ่นดนิ ท.ม. ๒. ป.ช. - ม.ป.ช. ปีเว้นปี นับต้ังแต่วนั ท่ีดำรงตำแหนง่ จนถึงวันก่อนวนั พระรำชพิธี ป.ม. ปีเวน้ ปี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ของปีท่จี ะขอพระรำชทำน ๔ ท่ีปรกึ ษำผ้ตู รวจกำรแผน่ ดิน ต.ช. ท.ช. ปเี ว้นปี ๒. ลำดับ ๓ - ๖ ๕ เลขำนกุ ำรประธำนผู้ตรวจกำร ต.ช. ท.ช. ปีเวน้ ปี ตอ้ งมีระยะเวลำ แผน่ ดนิ กำรดำรงตำแหน่ง ตดิ ตอ่ กันมำแล้ว ๖ เลขำนุกำรผู้ตรวจกำรแผ่นดนิ ต.ม. ท.ม. ปีเวน้ ปี ไมน่ ้อยกว่ำ ๑๒๐ วัน นับต้ังแต่วนั ทด่ี ำรงตำแหน่ง จนถึงวนั ก่อนวันพระรำชพธิ ี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ของปที จี่ ะขอพระรำชทำน กรณีมผี ดู้ ำรงตำแหนง่ หลำยคน ให้พจิ ำรณำ คัดเลือกผู้มผี ลงำนดเี ด่น เพียงตำแหนง่ ละ ๑ คน เท่ำนนั้ ๓. ลำดับ ๓ กำรเรม่ิ ตน้ ขอพระรำชทำน ช้ันสำยสะพำย จะตอ้ ง ดำรงตำแหนง่ ทป่ี รึกษำฯ มำแล้วไม่นอ้ ยกว่ำ ๑ ปี (๑๒ เดือน) ของปที ีจ่ ะ ขอพระรำชทำน
- ๑๓ - บัญชี ๑๐ การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่กรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ ลำดบั ตำแหน่ง เครือ่ งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เง่อื นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ที่ขอพระรำชทำน กำรเลอ่ื นช้ันตรำ ๑ ประธำนกรรมกำรป้องกนั ๑. ลำดบั ๑ - ๒ และปรำบปรำมกำรทจุ ริตแห่งชำติ เร่มิ ตน้ ขอ เล่อื นไดถ้ ึง ทกุ ปี ต้องมรี ะยะเวลำ ม.ว.ม. ม.ป.ช. กำรดำรงตำแหนง่ ๒ กรรมกำรปอ้ งกันและปรำบปรำม ติดตอ่ กนั มำแล้ว กำรทจุ รติ แหง่ ชำติ ป.ม. ม.ป.ช. ๑. ป.ม. - ป.ช. ปตี ิดกัน ไมน่ ้อยกวำ่ ๙๐ วนั ๒. ป.ช. - ม.ป.ช. ปเี วน้ ปี นับต้ังแต่วนั ทด่ี ำรงตำแหนง่ ๓ ที่ปรึกษำประธำนกรรมกำร จนถึงวันก่อนวันพระรำชพธิ ี ปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรทจุ ริต ท.ม. ป.ม. ปีเวน้ ปี เฉลิมพระชนมพรรษำ แห่งชำติ ของปที จี่ ะขอพระรำชทำน ต.ช. ท.ช. ปีเว้นปี ๔ ที่ปรึกษำกรรมกำร ๒. ลำดับ ๓ - ๖ ปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรทุจรติ ต.ช. ท.ช. ปเี ว้นปี ตอ้ งมรี ะยะเวลำ แหง่ ชำติ กำรดำรงตำแหน่ง ต.ม. ท.ม. ปีเว้นปี ติดตอ่ กนั มำแลว้ ๕ เลขำนุกำรประธำนกรรมกำร ไมน่ ้อยกวำ่ ๑๒๐ วนั ปอ้ งกันและปรำบปรำมกำรทุจริต นบั ตัง้ แต่วันที่ดำรงตำแหนง่ แห่งชำติ จนถึงวันก่อนวนั พระรำชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษำ ๖ เลขำนุกำรกรรมกำร ของปที จ่ี ะขอพระรำชทำน ปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรทจุ ริต กรณมี ผี ู้ดำรงตำแหน่ง แหง่ ชำติ หลำยคน ใหพ้ ิจำรณำ คัดเลอื กผมู้ ผี ลงำนดเี ดน่ เพียงตำแหนง่ ละ ๑ คน เท่ำนนั้ ๓. ลำดับ ๓ กำรเรม่ิ ต้นขอพระรำชทำน ช้ันสำยสะพำย จะต้อง ดำรงตำแหน่งท่ีปรกึ ษำฯ มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ ๑ ปี (๑๒ เดือน) ของปที ี่จะ ขอพระรำชทำน
- ๑๔ - บญั ชี ๑๑ การขอพระราชทานเคร่อื งราชอิสริยาภรณใ์ ห้แก่กรรมการตรวจเงนิ แผ่นดนิ และผู้วา่ การตรวจเงินแผน่ ดิน ลำดบั ตำแหน่ง เครื่องรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เงื่อนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑ ประธำนกรรมกำรตรวจเงนิ แผ่นดนิ ท่ขี อพระรำชทำน กำรเล่ือนชั้นตรำ ๑. ลำดบั ๑ - ๓ เร่มิ ตน้ ขอ เลื่อนได้ถงึ ทกุ ปี ต้องมีระยะเวลำ ม.ว.ม. ม.ป.ช. กำรดำรงตำแหนง่ ตดิ ตอ่ กันมำแลว้ ๒ กรรมกำรตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ป.ม. ม.ป.ช. ๑. ป.ม. - ป.ช. ปตี ดิ กนั ไมน่ ้อยกว่ำ ๙๐ วัน ๒. ป.ช. - ม.ป.ช. ปีเว้นปี นบั ต้งั แต่วนั ท่ดี ำรงตำแหน่ง จนถึงวนั ก่อนวนั พระรำชพธิ ี ๓ ผู้วำ่ กำรตรวจเงินแผน่ ดิน ป.ม. ม.ป.ช. ๑. ป.ม. - ป.ช. ปีตดิ กัน เฉลิมพระชนมพรรษำ ๒. ป.ช. - ม.ป.ช. ปเี วน้ ปี ของปที ี่จะขอพระรำชทำน ๔ ทีป่ รึกษำประธำนกรรมกำร ท.ม. ป.ม. ปีเวน้ ปี ๒. ลำดับ ๔ - ๙ ตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ต้องมรี ะยะเวลำ กำรดำรงตำแหน่ง ๕ ทปี่ รึกษำกรรมกำรตรวจเงินแผ่นดนิ ต.ช. ท.ช. ปเี ว้นปี ติดตอ่ กันมำแล้ว ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๑๒๐ วัน ๖ ทปี่ รึกษำผู้ว่ำกำรตรวจเงินแผ่นดนิ ต.ช. ท.ช. ปเี ว้นปี นับตง้ั แตว่ นั ทด่ี ำรงตำแหนง่ จนถึงวนั ก่อนวันพระรำชพิธี ๗ เลขำนกุ ำรประธำนกรรมกำร ต.ช. ท.ช. ปเี วน้ ปี เฉลิมพระชนมพรรษำ ตรวจเงนิ แผน่ ดิน ของปที ่ีจะขอพระรำชทำน กรณมี ผี ู้ดำรงตำแหนง่ ๘ เลขำนกุ ำรกรรมกำรตรวจเงินแผ่นดนิ ต.ม. ท.ม. ปเี วน้ ปี หลำยคน ใหพ้ ิจำรณำ คัดเลอื กผูม้ ผี ลงำนดเี ดน่ ๙ เลขำนกุ ำรผวู้ ่ำกำรตรวจเงินแผ่นดนิ ต.ม. ท.ม. ปีเวน้ ปี เพยี งตำแหน่งละ ๑ คน เทำ่ นัน้ ๓. ลำดับ ๔ กำรเรมิ่ ตน้ ขอพระรำชทำน ชัน้ สำยสะพำย จะต้อง ดำรงตำแหนง่ ที่ปรึกษำฯ มำแล้วไม่นอ้ ยกว่ำ ๑ ปี (๑๒ เดอื น) ของปที ี่จะ ขอพระรำชทำน
- ๑๕ - บัญชี ๑๒ การขอพระราชทานเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณใ์ ห้แก่กรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ ลำดับ ตำแหนง่ เครอ่ื งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เงอื่ นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ที่ขอพระรำชทำน กำรเลอื่ นชนั้ ตรำ ๑ ประธำนกรรมกำร ๑. ลำดบั ๑ - ๒ สิทธิมนษุ ยชนแหง่ ชำติ เรม่ิ ตน้ ขอ เล่ือนได้ถึง ทกุ ปี ตอ้ งมีระยะเวลำ ม.ว.ม. ม.ป.ช. กำรดำรงตำแหน่ง ๒ กรรมกำรสทิ ธิมนุษยชนแห่งชำติ ติดต่อกนั มำแลว้ ป.ม. ม.ป.ช. ๑. ป.ม. - ป.ช. ปตี ิดกัน ไมน่ ้อยกว่ำ ๙๐ วัน ๓ ท่ีปรกึ ษำประจำคณะกรรมกำร ๒. ป.ช. - ม.ป.ช. ปเี ว้นปี นับตง้ั แตว่ นั ท่ีดำรงตำแหนง่ สิทธิมนุษยชนแห่งชำติ จนถึงวนั ก่อนวนั พระรำชพธิ ี ต.ช. ท.ช. ปีเว้นปี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ๔ เลขำนกุ ำรประจำประธำน ของปที จี่ ะขอพระรำชทำน กรรมกำรสิทธิมนษุ ยชนแหง่ ชำติ ต.ช. ท.ช. ปีเวน้ ปี ๒. ลำดบั ๓ - ๕ ๕ เลขำนกุ ำรประจำกรรมกำร ต.ม. ท.ม. ปีเวน้ ปี ต้องมรี ะยะเวลำ สทิ ธิมนุษยชนแห่งชำติ กำรดำรงตำแหน่ง ตดิ ต่อกนั มำแล้ว ไมน่ ้อยกวำ่ ๑๒๐ วนั นับต้ังแต่วนั ท่ดี ำรงตำแหน่ง จนถึงวนั ก่อนวันพระรำชพธิ ี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ของปที ่ีจะขอพระรำชทำน กรณีมผี ดู้ ำรงตำแหนง่ หลำยคน ใหพ้ จิ ำรณำ คัดเลอื กผูม้ ผี ลงำนดเี ดน่ เพียงตำแหนง่ ละ ๑ คน เทำ่ นั้น
- ๑๖ - บญั ชี ๑๓ การขอพระราชทานเคร่อื งราชอิสริยาภรณใ์ หแ้ ก่กรรมการกิจการกระจายเสียง กจิ การโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแหง่ ชาติ ลำดับ ตำแหน่ง เครื่องรำชอิสรยิ ำภรณ์ เงื่อนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ท่ขี อพระรำชทำน กำรเลือ่ นชั้นตรำ เริม่ ต้นขอ เลือ่ นไดถ้ งึ ๑ ประธำนกรรมกำรกิจกำรกระจำยเสยี ง ป.ม. ม.ป.ช. ๑. ป.ม. - ม.ว.ม. ปีเว้นปี ๑. ลำดับ ๑ - ๒ ตอ้ งมีระยะเวลำ กิจกำรโทรทัศน์ และกิจกำร ๒. ได้ ม.ว.ม. มำแล้วไมน่ อ้ ยกวำ่ กำรดำรงตำแหน่ง โทรคมนำคมแห่งชำติ ๓ ปบี รบิ ูรณ์ ขอ ม.ป.ช. ติดตอ่ กันมำแล้ว ๒ กรรมกำรกจิ กำรกระจำยเสยี ง ท.ช. ม.ว.ม. ๑. ท.ช. - ป.ช. ปเี วน้ ปี ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๙๐ วนั กจิ กำรโทรทศั น์ และกจิ กำร โทรคมนำคมแห่งชำติ ๒. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกวำ่ นับตัง้ แตว่ ันท่ดี ำรงตำแหนง่ จนถึงวนั ก่อนวันพระรำชพธิ ี ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ม.ว.ม. เฉลิมพระชนมพรรษำ ๓ ทปี่ รกึ ษำประจำประธำนกรรมกำร ต.ช. ท.ช. ปเี ว้นปี ของปที ีจ่ ะขอพระรำชทำน กจิ กำรกระจำยเสียง กจิ กำรโทรทศั น์ ๒. ลำดับ ๓ - ๖ และกิจกำรโทรคมนำคมแหง่ ชำติ ตอ้ งมีระยะเวลำ กำรดำรงตำแหน่ง ๔ ท่ีปรึกษำประจำกรรมกำรกจิ กำร ต.ม. ท.ช. ปเี วน้ ปี ติดต่อกันมำแลว้ กระจำยเสียง กิจกำรโทรทศั น์ และ ไมน่ ้อยกว่ำ ๑๒๐ วนั กจิ กำรโทรคมนำคมแห่งชำติ นบั ตั้งแตว่ ันท่ดี ำรงตำแหน่ง จนถึงวนั ก่อนวันพระรำชพิธี ๕ เลขำนุกำรประธำนกรรมกำร ต.ช. ท.ช. ปีเวน้ ปี เฉลมิ พระชนมพรรษำ กจิ กำรกระจำยเสียง กจิ กำรโทรทศั น์ ของปีทจ่ี ะขอพระรำชทำน และกจิ กำรโทรคมนำคมแหง่ ชำติ กรณมี ผี ้ดู ำรงตำแหนง่ หลำยคน ให้พจิ ำรณำ ๖ เลขำนกุ ำรกรรมกำร ต.ม. ท.ม. ปีเว้นปี คดั เลือกผู้มผี ลงำนดเี ดน่ กจิ กำรกระจำยเสยี ง กิจกำรโทรทศั น์ เพียงตำแหนง่ ละ ๑ คน และกจิ กำรโทรคมนำคมแห่งชำติ เทำ่ น้ัน
- ๑๗ - บญั ชี ๑๔ การขอพระราชทานเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณใ์ ห้แก่ราชบัณฑิต และกรรมการตามกฎหมาย ทีท่ รงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแตง่ ตงั้ ลำดับ ตำแหน่ง เครื่องรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เงอ่ื นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑ รำชบณั ฑติ ที่ขอพระรำชทำน กำรเลอ่ื นช้ันตรำ ตอ้ งดำรงตำแหนง่ ๒ กรรมกำรตำมกฎหมำย เร่มิ ต้นขอ เลื่อนไดถ้ งึ รำชบัณฑติ กรรมกำร ทท่ี รงพระกรณุ ำ หรืออนกุ รรมกำร โปรดเกล้ำ บ.ม. ม.ป.ช. ๑. เริ่มขอพระรำชทำน บ.ม. แลว้ แต่กรณี มำแลว้ โปรดกระหม่อมแตง่ ต้งั ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๒ ปีบรบิ รู ณ์ ๒. กรณไี ด้ บ.ม. ขนึ้ ไป จนถึงวันก่อนวันพระรำชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษำ ต้องไดร้ ับพระรำชทำนเครือ่ งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ ของปีทีจ่ ะขอพระรำชทำน ไม่นอ้ ยกวำ่ ๖๐ วนั คร้งั หลงั สุดมำแล้วไม่น้อยกวำ่ ๕ ปีบริบรู ณ์ ๓. ขอพระรำชทำนเลอ่ื นช้ันตรำตำมลำดับ เว้นระยะเวลำไม่น้อยกวำ่ ๕ ปบี รบิ ูรณ์ จนถึง ม.ป.ช. บ.ม. ม.ป.ช. ๑. เริม่ ขอพระรำชทำน บ.ม. ๒. กรณไี ด้ บ.ม. ขึน้ ไป ตอ้ งได้รบั พระรำชทำนเคร่อื งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ ครั้งหลังสุดมำแล้วไมน่ อ้ ยกวำ่ ๕ ปบี รบิ ูรณ์ ๓. ขอพระรำชทำนเล่ือนชั้นตรำตำมลำดับ เวน้ ระยะเวลำไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปบี รบิ รู ณ์ จนถงึ ม.ป.ช. ๓ อนุกรรมกำร บ.ม. ม.ป.ช. ๑. เรม่ิ ขอพระรำชทำน บ.ม. ในคณะกรรมกำร ๒. กรณไี ด้ บ.ม. ขึ้นไป ทที่ รงพระกรุณำ ต้องได้รับพระรำชทำนเคร่อื งรำชอิสรยิ ำภรณ์ โปรดเกล้ำโปรดกระหมอ่ ม ครง้ั หลังสุดมำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ ๕ ปบี ริบูรณ์ แตง่ ต้งั ตำมกฎหมำย ๓. ขอพระรำชทำนเล่อื นชั้นตรำตำมลำดบั ๓.๑ บ.ม. - ป.ม. เวน้ ระยะเวลำ ไม่นอ้ ยกว่ำ ๕ ปีบรบิ รู ณ์ ๓.๒ ป.ม. - ม.ว.ม. เวน้ ระยะเวลำ ไม่นอ้ ยกว่ำ ๘ ปีบริบูรณ์ ๓.๓ ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ ๑๐ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ม.ป.ช.
- ๑๘ - บัญชี ๑๕ การขอพระราชทานเครอื่ งราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ข้าราชการ ยกเว้นท่ปี รากฏในบัญชีอ่ืน ลำดับ ตำแหน่ง เคร่อื งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เง่อื นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ประเภททว่ั ไป ที่ขอพระรำชทำน กำรเลอ่ื นชั้นตรำ ๑ ระดับปฏิบัตงิ ำน เริม่ ตน้ ขอ เลอ่ื นได้ถึง ๑. ต้องมีระยะเวลำ บ.ม. จ.ช. ๒ ระดับชำนำญงำน ๑. เริ่มขอพระรำชทำน บ.ม. รบั รำชกำรตดิ ตอ่ กัน ๓ ระดบั อำวุโส ต.ม. ต.ช. ๒. ได้รับเงนิ เดือนตำ่ กว่ำขนั้ ต่ำ มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๔ ระดับทักษะพิเศษ ท.ม. ท.ช. ๕ ปบี รบิ รู ณ์ นับตง้ั แต่ ของระดับชำนำญงำน วนั เริม่ เข้ำรับรำชกำร ประเภทวชิ าการ และดำรงตำแหน่งมำแล้ว จนถงึ วันกอ่ นวันพระรำชพิธี ๕ ระดับปฏิบตั กิ ำร ไม่น้อยกว่ำ ๑๐ ปีบริบรู ณ์ เฉลมิ พระชนมพรรษำ ขอ บ.ช. ของปีทจี่ ะขอพระรำชทำน ๓. ไดร้ ับเงินเดือนไมต่ ำ่ กวำ่ ขน้ั ตำ่ ไมน่ ้อยกว่ำ ๖๐ วัน ของระดบั ชำนำญงำน ขอ จ.ม. ๒. กำรนับระยะเวลำสำหรับ ๔. ไดร้ บั เงินเดอื นไมต่ ่ำกวำ่ ขนั้ ต่ำ ผทู้ ไ่ี ดร้ ับบรรจุกลับ ของระดบั ชำนำญงำน เข้ำรับรำชกำร ภำยหลงั และดำรงตำแหน่งมำแล้ว ทอี่ อกจำกรำชกำร ไม่นอ้ ยกว่ำ ๑๐ ปี บรบิ รู ณ์ เพอื่ ไปปฏิบตั ิงำนตำมท่ี ขอ จ.ช. คณะรฐั มนตรีอนมุ ัติ ในองคก์ ำรระหว่ำง ๑. เริม่ ขอพระรำชทำน ต.ม. ประเทศหรอื หน่วยงำนท่ี ๒. ดำรงตำแหน่งมำแล้ว มใิ ชห่ น่วยงำนของรัฐ ซงึ่ ใหน้ ับเวลำระหวำ่ งนั้น ไม่นอ้ ยกว่ำ ๕ ปบี ริบรู ณ์ สำหรบั กำรคำนวณ ขอ ต.ช. บำเหน็จบำนำญ ๑. เรม่ิ ขอพระรำชทำน ท.ม. เหมอื นเตม็ เวลำรำชกำร ๒. ดำรงตำแหน่งมำแล้ว ใหน้ บั ระยะเวลำตอ่ กันได้ ไม่น้อยกวำ่ ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ ท.ช. ท.ช. ป.ช. ๑. เริม่ ขอพระรำชทำน ท.ช. ๒. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกวำ่ ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ป.ม. ๓. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่นอ้ ยกว่ำ ๕ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. ต.ม. - -
- ๑๙ - ลำดบั ตำแหน่ง เคร่อื งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เง่อื นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๖ ระดับชำนำญกำร ท่ขี อพระรำชทำน กำรเลือ่ นช้นั ตรำ ๗ ระดบั ชำนำญกำรพิเศษ เรม่ิ ต้นขอ เลือ่ นไดถ้ งึ ๑. เรม่ิ ขอพระรำชทำน ต.ช. ต.ช. ท.ช. ๒. ได้รบั เงนิ เดือนไมต่ ำ่ กวำ่ ขน้ั ตำ่ ๘ ระดับเชี่ยวชำญ ของระดบั ชำนำญกำรพิเศษ ๙ ระดบั ทรงคณุ วุฒิ ขอ ท.ม. ที่ไดร้ บั เงินประจำตำแหนง่ ๓. ได้รบั เงินเดือนไม่ตำ่ กว่ำขั้นตำ่ ๑๓,๐๐๐ บำท ของระดับชำนำญกำรพิเศษ มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๕ ปี ๑๐ ระดบั ทรงคณุ วฒุ ิ ขอ ท.ช. ที่ไดร้ บั เงินประจำตำแหน่ง ๑๕,๖๐๐ บำท ท.ช. ป.ม. ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน ท.ช. ๒. ไดร้ ับเงนิ เดือนขน้ั สูง และได้ ท.ช. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ม. ท.ช. ป.ช. ๑. เร่มิ ขอพระรำชทำน ท.ช. ๒. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ม. ๓. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. - ม.ป.ช. ๑. เล่ือนช้ันตรำตำมลำดับ ไดท้ ุกปี จนถึง ป.ม. ๒. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ ๓ ปบี รบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. ๓. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ ๓ ปบี รบิ ูรณ์ ขอ ม.ว.ม. ๔. ได้ ม.ว.ม. มำแล้วไมน่ อ้ ยกว่ำ ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ ม.ป.ช. - ม.ป.ช. ๑. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๓ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ป.ช. ๒. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกว่ำ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ๓. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ม.ป.ช.
ลำดับ ตำแหนง่ - ๒๐ - เง่ือนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ประเภทอานวยการ กำรเล่ือนช้นั ตรำ เครอื่ งรำชอิสรยิ ำภรณ์ ๑๑ ระดับตน้ ทข่ี อพระรำชทำน ๑๒ ระดับสงู เริ่มตน้ ขอ เล่ือนไดถ้ งึ ประเภทบริหาร ท.ช. ป.ม. ๑. เรมิ่ ขอพระรำชทำน ท.ช. ๑๓ ระดบั ต้น ๒. ไดร้ บั เงินเดือนขน้ั สูง ของระดับชำนำญกำรพเิ ศษ ๑๔ ระดับสงู และได้ ท.ช. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ที่ได้รบั เงินประจำตำแหน่ง ๓ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ป.ม. ๑๔,๕๐๐ บำท - ม.ว.ม. ๑. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกวำ่ ๑๕ ระดบั สงู ๓ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ป.ม. ทไ่ี ดร้ ับเงินประจำตำแหน่ง ๒๑,๐๐๐ บำท ๒. ได้ ป.ม. มำแล้วไมน่ อ้ ยกวำ่ ๓ ปบี รบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. ๓. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ ๕ ปีบริบูรณ์ ขอ ม.ว.ม. - ม.ว.ม. ๑. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ป.ม. ๒. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ป.ช. ๓. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ ๕ ปบี ริบูรณ์ ขอ ม.ว.ม. - ม.ป.ช. ๑. เลื่อนชั้นตรำตำมลำดบั ไดท้ ุกปี จนถึง ป.ม. ๒. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๓ ปบี รบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. ๓. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๓ ปบี รบิ ูรณ์ ขอ ม.ว.ม. ๔. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๕ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ม.ป.ช. - ม.ป.ช. ๑. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. ๒. ได้ ป.ช. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ม.ว.ม. ๓. ได้ ม.ว.ม. มำแล้วไมน่ อ้ ยกว่ำ ๓ ปบี ริบูรณ์ ขอ ม.ป.ช.
- ๒๑ - ลำดบั ตำแหน่ง เครือ่ งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เงื่อนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ท่ขี อพระรำชทำน กำรเลอ่ื นช้ันตรำ เร่มิ ต้นขอ เลอื่ นได้ถึง ๑๖ ระดับสงู ป.ม. ม.ป.ช. ๑. เริ่มขอพระรำชทำน ป.ม. ท่ไี ดร้ บั เงนิ ประจำตำแหน่ง ๒. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๒๑,๐๐๐ บำท ดำรงตำแหนง่ ๒ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ช. - ปลัดกระทรวง ๓. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกว่ำ - หวั หนำ้ สว่ นรำชกำรที่มฐี ำนะเป็นกรม ๒ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ขึน้ ตรงตอ่ นำยกรฐั มนตรี ๔. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ หรอื ตำแหนง่ เทียบเทำ่ ๒ ปบี ริบูรณ์ ขอ ม.ป.ช.
- ๒๒ - บัญชี ๑๖ การขอพระราชทานเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณ์ให้แก่ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่งทมี่ ีใบอนุญาตประกอบวิชาชพี ลำดบั ตำแหน่ง เครอื่ งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เง่ือนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ท่ีขอพระรำชทำน กำรเล่อื นชั้นตรำ ๑ ตาแหนง่ ที่ไม่มวี ิทยฐานะ - ๑. ต้องมรี ะยะเวลำ รบั เงินเดือนอันดบั คศ. ๑ เรมิ่ ตน้ ขอ เลอื่ นได้ถงึ รับรำชกำรตดิ ตอ่ กนั ต.ม. - ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน ต.ช. มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ ๒ ตาแหน่งท่มี วี ทิ ยฐานะ ต.ช. ท.ช. ๒. ไดร้ บั เงินเดือนไม่ตำ่ กว่ำ ๕ ปบี ริบรู ณ์ นับต้งั แต่ ชำนำญกำร วนั เรม่ิ เข้ำรับรำชกำร ท.ช. - ขนั้ ต่ำของอนั ดบั คศ. ๓ จนถงึ วนั กอ่ นวนั พระรำชพิธี ตาแหนง่ ท่ีไม่มีวทิ ยฐานะ ขอ ท.ม. เฉลิมพระชนมพรรษำ รบั เงินเดือนอนั ดบั คศ. ๒ ท.ช. ป.ม. ๓. ได้รบั เงนิ เดอื นไม่ต่ำกวำ่ ของปีทจี่ ะขอพระรำชทำน ขัน้ ตำ่ ของอนั ดบั คศ. ๓ ไมน่ ้อยกวำ่ ๖๐ วนั ๓ ตาแหน่งที่มวี ทิ ยฐานะ มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๕ ปี ชำนำญกำรพเิ ศษ ขอ ท.ช. ๒. กำรนบั ระยะเวลำสำหรบั สำหรับผู้ดำรงตำแหนง่ ผ้ทู ไี่ ดร้ บั บรรจุกลบั - ครู - เขำ้ รับรำชกำร ภำยหลงั - ศกึ ษำนิเทศก์ ทอ่ี อกจำกรำชกำร - รองผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน ท.ช. เพ่อื ไปปฏบิ ตั งิ ำนตำมท่ี ตาแหนง่ ที่ไม่มวี ทิ ยฐานะ ๒. ได้รับเงินเดอื นขั้นสูง คณะรฐั มนตรอี นมุ ัติ รบั เงินเดอื นอันดับ คศ. ๓ ในองคก์ ำรระหวำ่ ง หรือไมต่ ำ่ กว่ำอันดับ คศ. ๓ ของอันดับ คศ. ๓ ประเทศหรอื หนว่ ยงำนท่ี และได้ ท.ช. มำแล้ว มใิ ช่หน่วยงำนของรัฐ ๔ ตาแหน่งที่มีวทิ ยฐานะ ไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปีบรบิ ูรณ์ ซึง่ ใหน้ ับเวลำระหวำ่ งน้นั ชำนำญกำรพิเศษ ขอ ป.ม. ในปที เี่ กษยี ณอำยุ สำหรบั กำรคำนวณ สำหรับผ้ดู ำรงตำแหน่ง รำชกำร บำเหนจ็ บำนำญ - ผู้บริหำรกำรศึกษำ เหมือนเตม็ เวลำรำชกำร - ผูอ้ ำนวยกำรสถำนศึกษำ ใหน้ บั ระยะเวลำต่อกนั ได้
- ๒๓ - ลำดับ ตำแหนง่ เคร่ืองรำชอิสรยิ ำภรณ์ เงื่อนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๕ ตาแหน่งท่ีมวี ทิ ยฐานะ ที่ขอพระรำชทำน กำรเลอ่ื นชัน้ ตรำ เชีย่ วชำญ เรมิ่ ตน้ ขอ เลอ่ื นไดถ้ งึ ๑. เร่มิ ขอพระรำชทำน ท.ช. ๖ ตาแหนง่ ท่ีมีวิทยฐานะ ท.ช. ป.ช. ๒. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกวำ่ เชี่ยวชำญพเิ ศษ ทไ่ี ดร้ ับเงนิ วทิ ยฐำนะ ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ป.ม. ๑๓,๐๐๐ บำท ๓. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๗ ตาแหน่งท่ีมวี ทิ ยฐานะ ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ช. เชีย่ วชำญพิเศษ ที่ได้รับเงินวทิ ยฐำนะ - ม.ป.ช. ๑. เลอื่ นชน้ั ตรำตำมลำดับ ๑๕,๖๐๐ บำท ไดท้ กุ ปี จนถงึ ป.ม. ๒. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่น้อยกว่ำ ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ป.ช. ๓. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่น้อยกว่ำ ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ม.ว.ม. ๔. ได้ ม.ว.ม. มำแล้วไม่น้อยกว่ำ ๕ ปบี รบิ ูรณ์ ขอ ม.ป.ช. - ม.ป.ช. ๑. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. ๒. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่น้อยกว่ำ ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ม.ว.ม. ๓. ได้ ม.ว.ม. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ม.ป.ช.
- ๒๔ - บัญชี ๑๗ การขอพระราชทานเคร่อื งราชอิสรยิ าภรณใ์ หแ้ กข่ ้าราชการและพนักงานส่วนท้องถนิ่ ลำดับ ตำแหน่ง เคร่อื งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เง่ือนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ประเภททวั่ ไป ทข่ี อพระรำชทำน กำรเลอื่ นช้ันตรำ ๑ ระดบั ปฏบิ ัตงิ ำน เร่มิ ตน้ ขอ เลอ่ื นได้ถงึ ตอ้ งมีระยะเวลำ ๒ ระดับชำนำญงำน บ.ม. จ.ช. ๑. เรม่ิ ขอพระรำชทำน บ.ม. รบั รำชกำรติดตอ่ กนั ๓ ระดับอำวุโส ๒. ไดร้ บั เงนิ เดอื นตำ่ กว่ำขั้นต่ำ มำแล้วไม่น้อยกว่ำ ประเภทวชิ าการ ๔ ระดับปฏิบัตกิ ำร ของระดบั ชำนำญงำน ๕ ปบี ริบูรณ์ นับตั้งแต่ และดำรงตำแหน่งมำแลว้ วนั เริม่ เขำ้ รับรำชกำร ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๑๐ ปบี ริบูรณ์ จนถึงวันก่อนวันพระรำชพิธี ขอ บ.ช. เฉลิมพระชนมพรรษำ ๓. ไดร้ บั เงินเดือนไมต่ ำ่ กว่ำขั้นต่ำ ของปที ่ีจะขอพระรำชทำน ของระดบั ชำนำญงำน ขอ จ.ม. ไมน่ ้อยกวำ่ ๖๐ วัน ๔. ไดร้ ับเงนิ เดอื นไมต่ ำ่ กว่ำขน้ั ตำ่ ของระดับชำนำญงำน และดำรงตำแหน่งมำแล้ว ไม่นอ้ ยกว่ำ ๑๐ ปี บรบิ รู ณ์ ขอ จ.ช. ต.ม. ต.ช. ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน ต.ม. ๒. ดำรงตำแหนง่ มำแล้ว ไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ ต.ช. ท.ม. ท.ช. ๑. เรมิ่ ขอพระรำชทำน ท.ม. ๒. ดำรงตำแหนง่ มำแล้ว ไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ท.ช. ต.ม. - -
- ๒๕ - ลำดับ ตำแหน่ง เครื่องรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เง่ือนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๕ ระดบั ชำนำญกำร ทีข่ อพระรำชทำน กำรเล่ือนชั้นตรำ ๖ ระดับชำนำญกำรพิเศษ เร่มิ ต้นขอ เล่อื นไดถ้ ึง ๑. เริ่มขอพระรำชทำน ต.ช. ๗ ระดับเชยี่ วชำญ ต.ช. ท.ช. ๒. ไดร้ บั เงนิ เดือนไมต่ ำ่ กวำ่ ขั้นต่ำ ประเภทอานวยการทอ้ งถิน่ ของระดับชำนำญกำรพิเศษ ๘ ระดบั ตน้ ขอ ท.ม. ๓. ไดร้ บั เงนิ เดือนไมต่ ำ่ กว่ำข้ันตำ่ ๙ ระดบั กลำง ของระดบั ชำนำญกำรพิเศษ มำแล้วไมน่ ้อยกวำ่ ๕ ปี ๑๐ ระดบั สงู ขอ ท.ช. ท.ช. - - ท.ช. ป.ช. ๑. เรมิ่ ขอพระรำชทำน ท.ช. ๒. ได้ ท.ช. มำแล้วไมน่ อ้ ยกว่ำ ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ป.ม. ๓. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่น้อยกวำ่ ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ช. ต.ช. ท.ช. ๑. เรม่ิ ขอพระรำชทำน ต.ช. ๒. ได้ ต.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปบี รบิ ูรณ์ ขอ ท.ม. ๓. ได้ ท.ม. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ท.ช. ท.ช. ป.ม. ๑. เริ่มขอพระรำชทำน ท.ช. ๒. ได้รับเงนิ เดือนข้ันสงู และ ได้ ท.ช. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๕ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ป.ม. ในปที เี่ กษียณอำยรุ ำชกำร ท.ช. ม.ว.ม. ๑. เรม่ิ ขอพระรำชทำน ท.ช. ๒. ได้ ท.ช. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ม. ๓. ได้ ป.ม. มำแล้วไมน่ อ้ ยกวำ่ ๓ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ป.ช. ๔. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ ๕ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ม.ว.ม.
ลำดบั ตำแหนง่ - ๒๖ - เงอื่ นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ประเภทบรหิ ารท้องถิ่น กำรเลอ่ื นชนั้ ตรำ เครอื่ งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ ๑๑ ระดับตน้ ท่ขี อพระรำชทำน ๑๒ ระดับกลำง เรม่ิ ตน้ ขอ เลือ่ นไดถ้ งึ ๑๓ ระดบั สงู ท.ม. ท.ช. ๑. เรม่ิ ขอพระรำชทำน ท.ม. ๒. ได้ ท.ม. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ท.ช. ท.ช. ป.ม. ๑. เร่มิ ขอพระรำชทำน ท.ช. ๒. ได้รับเงินเดือนข้ันสูง และ ได้ ท.ช. มำแล้วไม่น้อยกว่ำ ๕ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ป.ม. ในปีท่ีเกษยี ณอำยุรำชกำร ท.ช. ม.ว.ม. ๑. เริม่ ขอพระรำชทำน ท.ช. ๒. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ป.ม. ๓. ได้ ป.ม. มำแล้วไมน่ อ้ ยกว่ำ ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. ๔. ได้ ป.ช. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปีบริบูรณ์ ขอ ม.ว.ม.
- ๒๗ - บัญชี ๑๘ การขอพระราชทานเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณ์ใหแ้ ก่ขา้ ราชการทหาร ลำดับ ยศหรอื ตำแหน่ง เครอื่ งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เง่ือนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ท่ขี อพระรำชทำน กำรเลอ่ื นชนั้ ตรำ เริม่ ต้นขอ เลื่อนไดถ้ ึง ๑ บุคคลเข้ำทำหนำ้ ทีท่ หำร ร.ง.ม. - - ๑. ลำดบั ๑ เปน็ กำรชวั่ ครำว ต้องมีระยะเวลำ ๒ พลอำสำสมัคร ร.ง.ม. - - ปฏบิ ตั งิ ำนตดิ ต่อกนั มำแล้วไม่นอ้ ยกว่ำ ๓ สบิ ตรี จำ่ ตรี จำ่ อำกำศตรี ร.ง.ช. - - ๘ ปบี รบิ รู ณ์ ๔ สบิ โท จ่ำโท จำ่ อำกำศโท ร.ท.ม. - - นับตง้ั แตว่ ันเรม่ิ ปฏิบตั ิงำนจนถงึ วัน ๕ สบิ เอก จำ่ เอก จำ่ อำกำศเอก ร.ท.ช. - - ก่อนวันพระรำชพธิ ี เฉลมิ พระชนมพรรษำ ๖ - จำ่ สิบตรี พันจำ่ ตรี พนั จำ่ อำกำศตรี บ.ม. - จ่ำสบิ โท พนั จำ่ โท พันจำ่ อำกำศโท บ.ช. ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน บ.ม. ของปที ่จี ะขอพระรำชทำน - จำ่ สบิ เอก พันจ่ำเอก พนั จำ่ อำกำศเอก ๒. ได้ บ.ม. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ไม่น้อยกว่ำ ๖๐ วัน ๕ ปบี ริบรู ณ์ ขอ บ.ช. ๒. ลำดับ ๒ - ๒๒ ๗ จ่ำสบิ เอก พนั จำ่ เอก พนั จำ่ อำกำศเอก บ.ช. จ.ช. ๑. เรมิ่ ขอพระรำชทำน บ.ช. ต้องมีระยะเวลำ อัตรำเงนิ เดอื นจ่ำสิบเอกพเิ ศษ พันจ่ำเอกพิเศษ พนั จำ่ อำกำศเอกพเิ ศษ ๒. ได้ บ.ช. มำแล้วไมน่ ้อยกวำ่ รับรำชกำรตดิ ตอ่ กัน มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ ๕ ปบี ริบรู ณ์ ขอ จ.ม ๓. ได้ จ.ม. มำแล้วไม่น้อยกว่ำ ๕ ปบี ริบูรณ์ นับต้งั แต่ วันเรม่ิ เข้ำรับรำชกำร ๕ ปบี ริบรู ณ์ ขอ จ.ช. จนถงึ วันกอ่ นวนั พระรำชพธิ ี ๘ ร้อยตรี เรือตรี เรอื อำกำศตรี จ.ม. - - เฉลมิ พระชนมพรรษำ ๙ ร้อยโท เรือโท เรอื อำกำศโท จ.ช. - - ของปที ี่จะขอพระรำชทำน ไม่นอ้ ยกว่ำ ๖๐ วนั ๑๐ ร้อยเอก เรอื เอก เรืออำกำศเอก ต.ม. - - ๓. ผสู้ ำเร็จกำรศึกษำจำก ๑๑ พันตรี นำวำตรี นำวำอำกำศตรี ต.ช. - โรงเรียนทหำร - ให้นบั เวลำรำชกำร ๑๒ พันโท นาวาโท นาวาอากาศโท ต.ช. ท.ม. ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน ต.ช. ตง้ั แตว่ นั ข้ึนทะเบยี น ๒. ได้ ต.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ ทหำรกองประจำกำร ในระหวำ่ งท่กี ำลังศกึ ษำ ๕ ปีบริบูรณ์ ขอ ท.ม. อยใู่ นโรงเรียน ๑๓ พนั เอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก ท.ม. ท.ช. ๑. เรม่ิ ขอพระรำชทำน ท.ม. ๒. ได้ ท.ม. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ท.ช.
- ๒๘ - ลำดับ ยศหรอื ตำแหนง่ เครอ่ื งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เงอื่ นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ท่ีขอพระรำชทำน กำรเลอื่ นชั้นตรำ เร่ิมตน้ ขอ เล่ือนไดถ้ งึ ๑๔ พันเอก นำวำเอก นำวำอำกำศเอก ท.ช. - - ๔. เกณฑก์ ำรขอพระรำชทำน อตั รำเงินเดอื นพันเอกพเิ ศษ ที่กำหนดไวต้ ำมชั้นยศ นำวำเอกพเิ ศษ นำวำอำกำศเอกพิเศษ ให้รวมถงึ ว่ำทยี่ ศนน้ั ๆ ดว้ ย ๑๕ พันเอก นำวำเอก นำวำอำกำศเอก ท.ช. ป.ม. ๑. ดำรงตำแหนง่ บงั คับบญั ชำ ๕. กำรนบั ระยะเวลำสำหรับ อตั รำเงนิ เดือนพันเอกพเิ ศษ ผ้ทู ไ่ี ดร้ ับบรรจกุ ลบั นำวำเอกพิเศษ นำวำอำกำศเอกพเิ ศษ ๒. ได้ ท.ช. มำแล้วไมน่ อ้ ยกวำ่ เข้ำรับรำชกำร ภำยหลัง ๕ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ป.ม. ทอ่ี อกจำกรำชกำร ในปที เี่ กษยี ณอำยุรำชกำร เพื่อไปปฏิบตั ิงำนตำมท่ี ๑๖ พันเอก นำวำเอก นำวำอำกำศเอก ท.ช. ป.ม. ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน ท.ช. คณะรัฐมนตรีอนมุ ตั ิ อัตรำเงนิ เดอื นพันเอกพเิ ศษ ๒. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ ในองค์กำรระหว่ำง นำวำเอกพิเศษ นำวำอำกำศเอกพเิ ศษ ประเทศหรือหนว่ ยงำนท่ี รบั เงนิ เดอื นข้นั ตน้ ของพลตรี ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ม. พลเรอื ตรี พลอำกำศตรี ๓. รับเงินเดอื นข้ันตน้ ของพลตรี มใิ ช่หน่วยงำนของรฐั ซ่ึงให้นบั เวลำระหวำ่ งนนั้ พลเรอื ตรี พลอำกำศตรี สำหรับกำรคำนวณ มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ ๕ ปี บำเหนจ็ บำนำญ ๑๗ พนั เอก นำวำเอก นำวำอำกำศเอก ท.ช. ป.ม. ๑. เริ่มขอพระรำชทำน ท.ช. เหมอื นเตม็ เวลำรำชกำร อตั รำเงนิ เดอื นพันเอกพเิ ศษ นำวำเอกพิเศษ นำวำอำกำศเอกพิเศษ ๒. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกว่ำ ใหน้ ับระยะเวลำตอ่ กนั ได้ - รบั เงินเดอื นขนั้ ตน้ ของพลตรี ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ม. พลเรือตรี พลอำกำศตรี - ดำรงตำแหน่งรอง, เสนำธิกำร, รองเสนำธิกำรของหน่วยงำนท่ีมี ผบู้ ังคับบญั ชำต้งั แต่ช้ันยศ พลตรี พลเรอื ตรี พลอำกำศตรี ขึ้นไป หรอื - ดำรงตำแหน่งผู้บังคบั กำรกรม, ผู้บังคบั กำรจงั หวัดทหำรบก, ผู้บงั คบั หมวดเรอื , ผบู้ ังคับกองบิน, ผชู้ ่วยทูตฝำ่ ยทหำร, ผู้ช่วยทตู ฝ่ำยทหำรบก, ผชู้ ่วยทตู ฝำ่ ยทหำรเรือ, ผชู้ ่วยทูตฝ่ำยทหำรอำกำศ, ตลุ ำกำร พระธรรมนญู รองหวั หน้ำสำนักงำน ศำลมณฑลทหำร, ตลุ ำกำร พระธรรมนญู ฝ่ำยศำลทหำรสงู สุด,
- ๒๙ - ลำดบั ยศหรอื ตำแหนง่ เครือ่ งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เงือ่ นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ที่ขอพระรำชทำน กำรเลอ่ื นชัน้ ตรำ ตุลำกำรพระธรรมนูญรองหวั หนำ้ ศำลทหำรกลำง, เร่ิมตน้ ขอ เล่อื นได้ถึง ตุลำกำรพระธรรมนูญรองหวั หนำ้ ศำลทหำรกรุงเทพ, ผอู้ ำนวยกำรกองอยั กำรศำลทหำร กรุงเทพ, ผูอ้ ำนวยกำรกอง อยั กำรฝ่ำยอุทธรณแ์ ละฎกี ำ หรือ - ดำรงตำแหน่งผูอ้ ำนวยกำรกอง, นำยทหำรฝ่ำยเสนำธกิ ำร หรอื ตำแหน่งที่เรียกช่ืออยำ่ งอ่ืน ซึ่งเทียบเทำ่ ตำแหนง่ ดังกลำ่ ว ๑๘ พันเอก นำวำเอก นำวำอำกำศเอก ท.ช. ป.ช. ๑. เริม่ ขอพระรำชทำน ท.ช. อตั รำเงนิ เดอื นพนั เอกพเิ ศษ ๒. ได้ ท.ช. มำแล้วไมน่ อ้ ยกวำ่ นำวำเอกพิเศษ นำวำอำกำศเอกพิเศษ ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ป.ม. - เงนิ เดอื นข้ันตน้ ของพลตรี ๓. ได้ ป.ม. มำแล้วไมน่ อ้ ยกวำ่ พลเรอื ตรี พลอำกำศตรี ๓ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ป.ช. - ดำรงตำแหนง่ รองเจ้ำกรม, รองผบู้ ัญชำกำรกองพล, รองผบู้ ญั ชำกำรกองเรือ, รองผบู้ ัญชำกำรกองพลบนิ หรอื ตำแหนง่ เทียบเทำ่ ท่คี ุมกำลงั ตำมที่กระทรวงกลำโหมและสำนัก เลขำธิกำรคณะรฐั มนตรีพิจำรณำ ๑๙ พลตรี พลเรือตรี พลอำกำศตรี - ม.ว.ม. ๑. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกวำ่ ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ป.ม. ๒. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. ๓. ได้ ป.ช. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ ม.ว.ม.
- ๓๐ - ลำดับ ยศหรอื ตำแหนง่ เครอ่ื งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เงื่อนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๒๐ พลโท พลเรือโท พลอำกำศโท ทขี่ อพระรำชทำน กำรเลื่อนชน้ั ตรำ ๒๑ พลเอก พลเรอื เอก พลอำกำศเอก เรมิ่ ตน้ ขอ เลือ่ นได้ถงึ ๑. ได้ ป.ม. มำแล้วไมน่ อ้ ยกว่ำ - ม.ป.ช. ๓ ปบี ริบูรณ์ ขอ ป.ช. ๒๒ ปลัดกระทรวงกลำโหม ผบู้ ญั ชำกำรทหำรสูงสดุ ๒. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่น้อยกวำ่ ผู้บญั ชำกำรทหำรบก ๓ ปบี ริบูรณ์ ขอ ม.ว.ม. ผู้บญั ชำกำรทหำรเรือ ผู้บญั ชำกำรทหำรอำกำศ ๓. ได้ ม.ว.ม. มำแล้วไมน่ ้อยกวำ่ ๕ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ม.ป.ช. - ม.ป.ช. ๑. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่น้อยกว่ำ ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. ๒. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ๓. ได้ ม.ว.ม. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ม.ป.ช. ป.ม. ม.ป.ช. ๑. เร่มิ ขอพระรำชทำน ป.ม. ๒. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๒ ปบี ริบูรณ์ ขอ ป.ช. ๓. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๒ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ๔. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกว่ำ ๒ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ม.ป.ช.
- ๓๑ - บญั ชี ๑๙ การขอพระราชทานเคร่ืองราชอิสรยิ าภรณ์ให้แก่ข้าราชการตารวจ ลำดบั ยศหรือตำแหน่ง เครื่องรำชอิสรยิ ำภรณ์ เง่อื นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑ พลตำรวจ ทข่ี อพระรำชทำน กำรเลือ่ นชัน้ ตรำ ๒ สิบตำรวจตรี ๑. ต้องมรี ะยะเวลำ ๓ สบิ ตำรวจโท เรมิ่ ตน้ ขอ เลือ่ นไดถ้ ึง - รับรำชกำรติดต่อกนั ๔ สิบตำรวจเอก ร.ง.ม. - มำแล้วไมน่ อ้ ยกวำ่ ๕ จำ่ สิบตำรวจ ร.ง.ช. - - ๕ ปบี รบิ รู ณ์ นับต้งั แต่ ร.ท.ม. - วนั เร่มิ เข้ำรบั รำชกำรจนถึง ๖ - จ่ำสบิ ตำรวจ ร.ท.ช. - - วันกอ่ นวนั พระรำชพธิ ี อตั รำเงนิ เดือนจำ่ สบิ ตำรวจพิเศษ บ.ม. บ.ช. เฉลมิ พระชนมพรรษำ - ดำบตำรวจ - ของปที จี่ ะขอพระรำชทำน บ.ช. จ.ช. ไม่นอ้ ยกวำ่ ๖๐ วัน ๗ รอ้ ยตำรวจตรี ๑. เร่มิ ขอพระรำชทำน บ.ม. ๘ รอ้ ยตำรวจโท จ.ม. - ๒. ได้ บ.ม. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๒. ผูส้ ำเร็จกำรศึกษำจำก ๙ รอ้ ยตำรวจเอก จ.ช. - โรงเรียนตำรวจ ๑๐ พนั ตำรวจตรี ต.ม. - ๕ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ บ.ช. ใหน้ บั เวลำรำชกำร ๑๑ พันตำรวจโท ต.ช. - ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน บ.ช. ต้งั แต่วนั เริม่ เข้ำรบั รำชกำร ต.ช. ท.ม. ๒. ได้ บ.ช. มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ ตำรวจในระหว่ำงทีก่ ำลัง ๑๒ พนั ตารวจเอก ศกึ ษำอย่ใู นโรงเรยี น ท.ม. ท.ช. ๕ ปีบริบูรณ์ ขอ จ.ม ๓. ได้ จ.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ ๓. เกณฑก์ ำร ขอพระรำชทำน ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ จ.ช. ที่กำหนดไวต้ ำมชัน้ ยศ - ให้รวมถึงว่ำทย่ี ศน้ัน ๆ ดว้ ย - ๔. กำรนบั ระยะเวลำสำหรบั ผูท้ ไี่ ดร้ บั บรรจกุ ลบั - เข้ำรับรำชกำร ภำยหลัง ทอี่ อกจำกรำชกำร - เพ่อื ไปปฏิบตั งิ ำนตำมท่ี คณะรฐั มนตรีอนมุ ัติ ๑. เร่มิ ขอพระรำชทำน ต.ช. ในองค์กำรระหว่ำง ๒. ได้ ต.ช. มำแล้วไม่น้อยกวำ่ ประเทศหรือหนว่ ยงำนท่ี มใิ ชห่ นว่ ยงำนของรฐั ๕ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ท.ม. ซงึ่ ให้นบั เวลำระหวำ่ งนน้ั ๑. เรมิ่ ขอพระรำชทำน ท.ม. ๒. ได้ ท.ม. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๕ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ท.ช.
- ๓๒ - ลำดบั ยศหรอื ตำแหน่ง เคร่อื งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เงื่อนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ทข่ี อพระรำชทำน กำรเลอื่ นชั้นตรำ ๑๓ พันตำรวจเอก สำหรบั กำรคำนวณ อตั รำเงนิ เดอื นพนั ตำรวจเอกพเิ ศษ เรมิ่ ตน้ ขอ เลือ่ นได้ถึง - บำเหน็จบำนำญ ท.ช. - เหมือนเตม็ เวลำรำชกำร ๑๔ พันตำรวจเอก ใหน้ บั ระยะเวลำตอ่ กนั ได้ อตั รำเงินเดอื นพนั ตำรวจเอกพเิ ศษ ท.ช. ป.ม. ๑. ดำรงตำแหนง่ บงั คบั บญั ชำ ๒. ได้ ท.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ ๕ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ป.ม. ในปที ่เี กษียณอำยุรำชกำร ๑๕ พนั ตำรวจเอก ท.ช. ป.ม. ๑. เริม่ ขอพระรำชทำน ท.ช. อตั รำเงนิ เดือนพันตำรวจเอกพเิ ศษ ๒. ได้ ท.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ รบั เงินเดือนขั้นตน้ ของพลตำรวจตรี ๓ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ป.ม. ๓. รับเงนิ เดือนข้นั ตน้ ของพลตำรวจตรมี ำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ ๕ ปี ๑๖ พนั ตำรวจเอก ท.ช. ป.ม. ๑. เริ่มขอพระรำชทำน ท.ช. อัตรำเงนิ เดือนพนั ตำรวจเอกพเิ ศษ - ๒. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกวำ่ - รบั เงินเดือนขน้ั ต้นของพลตำรวจตรี ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ป.ม. - ดำรงตำแหนง่ รองผูบ้ งั คบั กำร ม.ว.ม. ๑. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ ๑๗ พลตำรวจตรี ๓ ปบี ริบูรณ์ ขอ ป.ม. ๒. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกว่ำ ๓ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ป.ช. ๓. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่น้อยกวำ่ ๕ ปบี ริบูรณ์ ขอ ม.ว.ม. ๑๘ พลตำรวจโท - ม.ป.ช. ๑. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ป.ช. ๒. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ ๓ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ๓. ได้ ม.ว.ม. มำแล้วไม่นอ้ ยกว่ำ ๕ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ม.ป.ช.
- ๓๓ - ลำดับ ยศหรือตำแหน่ง เครอ่ื งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เง่ือนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑๙ พลตำรวจเอก ท่ขี อพระรำชทำน กำรเล่อื นชั้นตรำ ๒๐ ผู้บญั ชำกำรตำรวจแห่งชำติ เริม่ ตน้ ขอ เลือ่ นไดถ้ งึ ๑. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่น้อยกว่ำ - ม.ป.ช. ๓ ปบี รบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. ๒. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ๓. ได้ ม.ว.ม. มำแล้วไมน่ อ้ ยกว่ำ ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ม.ป.ช. ป.ม. ม.ป.ช. ๑. เรมิ่ ขอพระรำชทำน ป.ม. ๒. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่น้อยกว่ำ ๒ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ป.ช. ๓. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่น้อยกวำ่ ๒ ปีบริบูรณ์ ขอ ม.ว.ม. ๔. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ ๒ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ม.ป.ช.
- ๓๔ - บัญชี ๒๐ การขอพระราชทานเครื่องราชอิสรยิ าภรณ์ให้แก่ขา้ ราชการตลุ าการศาลยตุ ธิ รรม ลำดบั ตำแหน่ง เคร่ืองรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เง่อื นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑ ผชู้ ว่ ยผ้พู พิ ำกษำ ทข่ี อพระรำชทำน กำรเลอื่ นช้นั ตรำ ๒ ข้ำรำชกำรตลุ ำกำร ชัน้ ๑ ๑. ต้องมีระยะเวลำ ๓ ข้ำรำชกำรตลุ ำกำร ชนั้ ๒ เร่มิ ต้นขอ เลื่อนไดถ้ ึง ๑. เร่มิ ขอพระรำชทำน ต.ม. รับรำชกำรตดิ ตอ่ กนั ต.ม. ต.ช. ๒. ได้ ต.ม. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๔ ข้ำรำชกำรตลุ ำกำร ชน้ั ๓ ๕ ปบี รบิ ูรณ์ ต.ช. ท.ม. ๕ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ต.ช. นบั ตั้งแต่วันเรม่ิ ๕ ข้ำรำชกำรตลุ ำกำร ช้นั ๔ ข้นึ ไป เข้ำรบั รำชกำรจนถงึ ท.ม. ม.ว.ม. ๑. เรม่ิ ขอพระรำชทำน ต.ช. วันกอ่ นวันพระรำชพธิ ี ๒. ได้ ต.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ เฉลิมพระชนมพรรษำ ของปีท่จี ะขอพระรำชทำน ๕ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ท.ม. ไม่นอ้ ยกวำ่ ๖๐ วนั ๑. เริ่มขอพระรำชทำน ท.ม. ๒. ตำแหน่ง ๒. ได้ ท.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ ผู้พพิ ำกษำอำวุโส ขอพระรำชทำน ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ ท.ช. ตำมเกณฑท์ ด่ี ำรงอยู่ ๓. ได้ ท.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ กอ่ นกำรดำรงตำแหน่ง ผพู้ ิพำกษำอำวุโส ๓ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ป.ม. ๔. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่น้อยกวำ่ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ช. ๕. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ท.ช. ม.ป.ช. ๑. เรมิ่ ขอพระรำชทำน ท.ช. ๒. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ม. ๓. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ป.ช. ๔. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกว่ำ ๓ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ๕. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไมน่ ้อยกวำ่ ๕ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ม.ป.ช. - ม.ป.ช. ๑. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ ๓ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ป.ช. ๒. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ๓. ได้ ม.ว.ม. มำแล้วไมน่ ้อยกวำ่ ๓ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ม.ป.ช.
- ๓๕ - บญั ชี ๒๑ การขอพระราชทานเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณใ์ ห้แก่ข้าราชการตลุ าการศาลปกครอง ลำดับ ตำแหนง่ เครือ่ งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เง่ือนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ทีข่ อพระรำชทำน กำรเลื่อนช้ันตรำ เรมิ่ ต้นขอ เล่อื นได้ถงึ ๑ ประธำนศำลปกครองสงู สดุ ม.ว.ม. ม.ป.ช. ทุกปี ๑. ลำดบั ๑ - ๓ ๒ รองประธำนศำลปกครองสงู สุด ม.ว.ม. ม.ป.ช. ตอ้ งมีระยะเวลำ ปีเว้นปี กำรดำรงตำแหนง่ หรือประธำนแผนก ตดิ ตอ่ กันมำแลว้ ในศำลปกครองสูงสุด ไม่นอ้ ยกวำ่ ๙๐ วัน ๓ ตลุ ำกำรหัวหนำ้ คณะศำลปกครองสงู สุด ป.ม. ม.ป.ช. ปเี ว้นปี นับต้ังแตว่ ันทด่ี ำรงตำแหนง่ จนถึงวนั ก่อนวนั พระรำชพธิ ี ตุลำกำรศำลปกครองสงู สดุ เฉลมิ พระชนมพรรษำ ๔ อธิบดีศำลปกครองชนั้ ตน้ ท.ช. ม.ป.ช. ๑. เริม่ ขอพระรำชทำน ท.ช. ของปีท่จี ะขอพระรำชทำน ๒. ได้ ท.ช. มำแล้วไมน่ ้อยกวำ่ ๒. ลำดับ ๔ - ๖ รองอธบิ ดีศำลปกครองชน้ั ต้น ตุลำกำรหวั หน้ำแผนกในศำลปกครอง ๓ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ป.ม. ตอ้ งมีระยะเวลำรบั รำชกำร ช้นั ต้น ๓. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ติดต่อกนั มำแลว้ ไม่นอ้ ยกว่ำ ๓ ปี บรบิ ูรณ์ ขอ ป.ช. ๕ ปบี ริบูรณ์ นับตัง้ แต่ ๔. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ วนั เรมิ่ เข้ำรบั รำชกำร ๓ ปบี รบิ ูรณ์ ขอ ม.ว.ม. จนถึงวันก่อนวันพระรำชพิธี ๕. ได้ ม.ว.ม. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ เฉลิมพระชนมพรรษำ ของปที จ่ี ะขอพระรำชทำน ๓ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ม.ป.ช. ไมน่ ้อยกว่ำ ๖๐ วัน ๕ ตลุ าการหวั หนา้ คณะศาลปกครองช้นั ต้น ท.ม. ม.ป.ช. ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน ท.ม. ๓. ลำดับ ๔ - ๖ กำรนับ ตลุ าการศาลปกครองชัน้ ต้น ๒. ได้ ท.ม. มำแล้วไมน่ ้อยกวำ่ ระยะเวลำรบั รำชกำร ปฏิบัตงิ ำนสำหรับ ๓ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ท.ช. ตลุ ำกำรศำลปกครองช้ันต้น ๓. ได้ ท.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกว่ำ ใหน้ ับระยะเวลำที่เคยเป็น ขำ้ รำชกำร พนักงำน ๓ ปี บรบิ รู ณ์ ขอ ป.ม. ๔. ได้ ป.ม. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ รฐั วิสำหกจิ พนกั งำน ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ป.ช. องค์กำรของรฐั หรือ ๕. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ หนว่ ยงำนอืน่ ของรัฐ ๓ ปีบริบูรณ์ ขอ ม.ว.ม. มำรวมกับระยะเวลำ ๖. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ รับรำชกำรในตำแหนง่ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ม.ป.ช. ตลุ ำกำรศำลปกครอง ชนั้ ต้น หรือตลุ ำกำร ๖ ตุลำกำรประจำศำลปกครองชน้ั ตน้ ต.ช. ท.ม. ๑. เรมิ่ ขอพระราชทาน ต.ช. ประจำศำลปกครอง ๒. ได้ ต.ช. มาแลว้ ไมน่ ้อยกว่า ช้นั ต้นเป็นเวลำไมน่ อ้ ยกว่ำ ๓ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ท.ม. ๑ ปี (๑๒ เดอื น) ของ ปที จี่ ะขอพระรำชทำน
- ๓๖ - บัญชี ๒๒ การขอพระราชทานเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณใ์ ห้แก่ดะโตะ๊ ยุติธรรม และผูพ้ ิพากษาสมทบ ลำดับ ตำแหน่ง เครอื่ งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เง่ือนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑ ดะโตะ๊ ยุติธรรม ที่ขอพระรำชทำน กำรเลอ่ื นชน้ั ตรำ ตอ้ งดำรงตำแหนง่ ๒ ผู้พิพำกษำสมทบ เริ่มตน้ ขอ เล่อื นได้ถงึ ๑. เรม่ิ ขอพระรำชทำน ต.ช. ดะโตะ๊ ยุตธิ รรม ต.ช. ท.ม. ๒. ได้ ต.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ตดิ ตอ่ กนั มำแล้วไมน่ อ้ ยกว่ำ ๕ ปบี ริบรู ณ์ ๕ ปบี ริบูรณ์ ขอ ท.ม. นบั ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรณุ ำ โปรดเกลำ้ โปรดกระหม่อม ให้ดำรงตำแหนง่ จนถงึ วนั กอ่ นวันพระรำชพธิ ี เฉลิมพระชนมพรรษำ ของปีที่จะขอพระรำชทำน ไม่นอ้ ยกวำ่ ๖๐ วัน จ.ม. ต.ช. ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน จ.ม. ต้องดำรงตำแหนง่ ๒. เลอ่ื นตำมลำดับชน้ั ตรำ ผู้พพิ ำกษำสมทบ มำเปน็ เวลำรวมกัน โดยมรี ะยะเวลำดำรง ตำแหน่งผพู้ พิ ำกษำสมทบ ไม่น้อยกวำ่ ๔ ปีบริบูรณ์ นับตง้ั แตว่ นั ทีท่ รงพระกรณุ ำ ในกำรขอพระรำชทำน โปรดเกล้ำโปรดกระหมอ่ ม แตล่ ะชั้นตรำ ให้ดำรงตำแหนง่ จนถงึ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๔ ปีบริบรู ณ์ วนั กอ่ นวันพระรำชพธิ ี ก่อนวันพระรำชพธิ ี เฉลมิ พระชนมพรรษำ เฉลิมพระชนมพรรษำ ของปที ีจ่ ะขอพระรำชทำน ของปีท่ีจะขอพระรำชทำน ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๖๐ วัน ไมน่ ้อยกว่ำ ๖๐ วัน
- ๓๗ - บัญชี ๒๓ การขอพระราชทานเครือ่ งราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ขา้ ราชการอยั การ ลำดับ ตำแหน่ง เคร่ืองรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เง่อื นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๑ ข้ำรำชกำรอยั กำร ชัน้ ๑ ที่ขอพระรำชทำน กำรเล่อื นช้นั ตรำ ๒ ข้ำรำชกำรอัยกำร ชน้ั ๒ ๑. ตอ้ งมีระยะเวลำ ๓ ขำ้ รำชกำรอัยกำร ชนั้ ๓ เร่ิมตน้ ขอ เลอ่ื นได้ถงึ ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน ต.ม. รับรำชกำรตดิ ต่อกัน ต.ม. ต.ช. ๒. ได้ ต.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ มำแล้วไมน่ อ้ ยกว่ำ ๔ ขำ้ รำชกำรอยั กำร ชน้ั ๔ ๕ ปีบริบรู ณ์ ๕ ปบี รบิ ูรณ์ ขอ ต.ช. นบั ต้งั แตว่ นั เรม่ิ ๕ ขำ้ รำชกำรอยั กำร ชัน้ ๕ - ๖ เขำ้ รบั รำชกำรจนถงึ ต.ช. ท.ม. ๑. เริ่มขอพระรำชทำน ต.ช. วนั ก่อนวนั พระรำชพิธี ๒. ได้ ต.ช. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกวำ่ เฉลิมพระชนมพรรษำ ๕ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ท.ม. ของปีทจี่ ะขอพระรำชทำน ไม่น้อยกว่ำ ๖๐ วัน ท.ม. ป.ช. ๑. เรมิ่ ขอพระรำชทำน ท.ม. ๒. ได้ ท.ม. มำแล้วไม่น้อยกวำ่ ๒. ตำแหนง่ อยั กำรอำวโุ ส ๕ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ท.ช. ขอพระรำชทำน ๓. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกว่ำ ตำมเกณฑท์ ด่ี ำรงอยู่ ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ป.ม. ก่อนกำรดำรงตำแหนง่ ๔. ได้ ป.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ อยั กำรอำวุโส ๓ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ป.ช. ท.ช. ม.ว.ม. ๑. เริ่มขอพระรำชทำน ท.ช. ๒. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไม่นอ้ ยกวำ่ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ม. ๓. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่นอ้ ยกวำ่ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ช. ๔. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกว่ำ ๓ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ท.ช. ม.ป.ช. ๑. เร่มิ ขอพระรำชทำน ท.ช. ๒. ได้ ท.ช. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ป.ม. ๓. ได้ ป.ม. มำแล้วไมน่ อ้ ยกวำ่ ๓ ปบี รบิ รู ณ์ ขอ ป.ช. ๔. ได้ ป.ช. มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ ๓ ปีบริบรู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ๕. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ ๕ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ม.ป.ช.
- ๓๘ - ลำดับ ตำแหน่ง เครื่องรำชอิสรยิ ำภรณ์ เงือ่ นไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ๖ ขำ้ รำชกำรอยั กำร ช้ัน ๗ ข้นึ ไป ท่ีขอพระรำชทำน กำรเลอ่ื นชั้นตรำ เริ่มต้นขอ เลอ่ื นไดถ้ งึ ๑. ได้ ป.ม. มำแล้วไม่น้อยกวำ่ - ม.ป.ช. ๓ ปบี ริบรู ณ์ ขอ ป.ช. ๒. ได้ ป.ช. มำแล้วไม่นอ้ ยกว่ำ ๓ ปีบรบิ รู ณ์ ขอ ม.ว.ม. ๓. ได้ ม.ว.ม. มำแลว้ ไม่น้อยกวำ่ ๓ ปีบรบิ ูรณ์ ขอ ม.ป.ช.
- ๓๙ - บัญชี ๒๔ การขอพระราชทานเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณใ์ หแ้ ก่ผ้ปู ฏิบตั ิงานตามกฎหมายวา่ ด้วยลกั ษณะปกครองท้องที่ ลำดบั ตำแหน่ง เคร่อื งรำชอิสรยิ ำภรณ์ เงื่อนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ทข่ี อพระรำชทำน กำรเลอื่ นชน้ั ตรำ ๑ แพทยป์ ระจำตำบล สำรวัตรกำนัน เรม่ิ ต้นขอ เลอื่ นไดถ้ ึง หรอื ผู้ชว่ ยผูใ้ หญ่บำ้ น ร.ง.ช. ร.ท.ช. ๑. เร่มิ ขอพระรำชทำนตำมตำแหน่ง ตอ้ งดำรงตำแหนง่ ใด ๒ ผู้ใหญบ่ ้ำน ๓ กำนัน ๒. ขอพระรำชทำนเล่ือนช้ันตรำ ตำแหน่งหนง่ึ หรือ ตำมลำดบั ชน้ั ตรำ โดยเวน้ ระยะเวลำ หลำยตำแหนง่ ติดตอ่ กนั ร.ง.ช. บ.ช. ๒.๑ ดำรงตำแหนง่ ลำดับ ๑ - ๓ มำแลว้ ไม่นอ้ ยกว่ำ ตำแหนง่ ใดตำแหน่งหนงึ่ หรือ ๓ ปีบริบูรณ์ หรือ ร.ท.ช. จ.ช. หลำยตำแหน่งตอ่ เนื่องกัน ไดด้ ำรงตำแหน่งใด เป็นเวลำไมน่ อ้ ยกว่ำ ๓ ปี ตำแหน่งหน่ึงหรอื บริบรู ณ์ หลำยตำแหน่งมำแล้ว ๒.๒ ดำรงตำแหนง่ ลำดับ ๑ - ๓ มเี วลำรวมกนั ไมน่ ้อยกว่ำ ตำแหนง่ ใดตำแหนง่ หน่ึงหรือ ๕ ปีบริบรู ณ์ นับตัง้ แตว่ ันที่ หลำยตำแหน่งมำแล้ว ไดด้ ำรงตำแหนง่ จนถงึ มีเวลำรวมกนั ไมน่ ้อยกวำ่ ๕ ปี วนั ก่อนวนั พระรำชพธิ ีเฉลิม บรบิ รู ณ์ พระชนมพรรษำของปี ท่ีจะขอพระรำชทำน ไม่นอ้ ยกว่ำ ๖๐ วนั
- ๔๐ - บัญชี ๒๕ การขอพระราชทานเครื่องราชอสิ ริยาภรณใ์ ห้แก่ลกู จ้างประจาของส่วนราชการ ลำดับ ตำแหนง่ เครอ่ื งรำชอสิ รยิ ำภรณ์ เง่ือนไขและระยะเวลำ หมำยเหตุ ท่ขี อพระรำชทำน กำรเลื่อนช้ันตรำ เริ่มตน้ ขอ เลอ่ื นไดถ้ ึง ๑ ลกู จ้ำงประจำ บ.ม. จ.ม. ๑. เร่ิมขอพระรำชทำน บ.ม. ๑. ต้องมีระยะเวลำปฏิบัติงำน ซง่ึ ไดร้ บั เงนิ ค่ำจำ้ ง ๒. ได้ บ.ม. มำแลว้ ไมน่ ้อยกว่ำ ติดต่อกนั มำแล้วไม่น้อยกว่ำ ตงั้ แต่อตั รำเงินเดอื นขน้ั ต่ำ ๕ ปบี ริบูรณ์ ขอ บ.ช. ๘ ปีบรบิ ูรณ์ นับต้งั แต่ ของขำ้ รำชกำรพลเรือนระดบั ปฏบิ ตั กิ ำร ๓. ได้ บ.ช. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ วนั เร่ิมจ้ำง จนถึงวันก่อน แตไ่ ม่ถึงขั้นต่ำของอตั รำเงนิ เดอื น ๕ ปบี ริบูรณ์ ขอ จ.ม. วนั พระรำชพิธีเฉลิม ขำ้ รำชกำรพลเรือน พระชนมพรรษำของปี ระดบั ชำนำญกำร ทจ่ี ะขอพระรำชทำน ๒ ลกู จำ้ งประจำ บ.ช. จ.ช. ๑. เริม่ ขอพระรำชทำน บ.ช. ไม่น้อยกว่ำ ๖๐ วนั ซง่ึ ไดร้ ับเงนิ ค่ำจ้ำง ๒. ต้องเป็นลูกจ้ำงประจำของ ตัง้ แตอ่ ัตรำเงินเดอื นข้ันต่ำ ๒. ได้ บ.ช. มำแล้วไมน่ อ้ ยกว่ำ ของขำ้ รำชกำรพลเรือน ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ จ.ม. สว่ นรำชกำรตำมระเบยี บ ระดบั ชำนำญกำรขึน้ ไป กระทรวงกำรคลังว่ำดว้ ย ๓. ได้ จ.ม. มำแล้วไมน่ ้อยกว่ำ ๕ ปีบริบรู ณ์ ขอ จ.ช. ลูกจำ้ งประจำของ สว่ นรำชกำร และหมำยควำมรวมถึง ลูกจำ้ งประจำสังกดั หนว่ ยธรุ กำรของรัฐสภำ ศำล องคก์ รอิสระ ตำมรฐั ธรรมนญู ทเ่ี ป็น ส่วนรำชกำร และ ลูกจ้ำงประจำของรำชกำร สว่ นทอ้ งถิ่น แตไ่ มห่ มำยควำมถึง ลูกจำ้ งเงินทุนหมนุ เวียน ๓. ตอ้ งเป็นลูกจ้ำงประจำทมี่ ี ช่ือและลกั ษณะงำน ซง่ึ เคยเทียบไดก้ บั ลูกจ้ำง โดยตรงหมวดฝมี อื ขน้ึ ไป หรอื ลกู จำ้ งประจำ ท่ีมชี ่อื และลักษณะ เหมอื นข้ำรำชกำร
Search