Page |1 สารบญั 1 กล่าวต้อนรับผูเ้ ขา้ ร่วมเวทถี อดบทเรียนฯ 3 โดยนายภาคภมู ิ สุกใส ผจู้ ัดการโครงการฯ 2 ผลการดำเนนิ งานการยกระดับคุณภาพชีวิตในมติ กิ ารลดปจั จยั เส่ียง 3 ต่อสขุ ภาพ มคี วามปลอดภัยในการทำงาน ลดชอ่ งว่างความเหล่อื มลำ้ ในการเข้าถงึ บริการทางสขุ ภาพ และความเหล่อื มลำ้ ทางสงั คม 3 กลา่ วรายงาน โดย นายมนัส โกศล 5 ประธานสภาองคก์ ารลูกจ้างพฒั นาแรงงานแห่งประเทศไทย 4 ปาฐกถาพิเศษ “บทบาทและความร่วมมือภาครัฐ กับการยกระดบั 6 คณุ ภาพชีวิตในมิติการลดปัจจยั เสี่ยงตอ่ สุขภาพ มีความปลอดภัย ในการทำงาน ลดช่องว่างความเหลอ่ื มล้ำในการเขา้ ถึงบริการทางสขุ ภาพ และความเหลือ่ มล้ำทางสงั คม” โดย นายสชุ าติ ชมกล่ิน รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงแรงงาน 5 เวทีถอดบทเรียนการดำเนินงาน “การยกระดับคุณภาพชวี ิต 10 ในมิติการลดปจั จยั เส่ยี งตอ่ สุขภาพ มีความปลอดภยั ในการทำงาน ลดชอ่ งวา่ งความเหล่ือมล้ำในการเขา้ ถงึ บรกิ ารทางสขุ ภาพ และความเหลื่อมลำ้ ทางสังคม” 6 การสนทนากลมุ่ (Focus Group) เพอื่ แลกเปล่ียนแนวทาง 16 การดำเนินงานการยกระดบั คุณภาพชีวิตในมิตกิ ารลดปัจจยั เสย่ี งตอ่ สขุ ภาพ 7 ข้อเสนอเชิงนโยบายต่อการลดปัจจัยเสี่ยงตอ่ สุขภาพ มีความปลอดภยั 17 ในการทำงาน
Page |2 สรปุ การประชมุ การถอดบทเรยี นการดำเนินงาน “การยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติการลดปจั จยั เส่ยี งต่อสขุ ภาพ มีความปลอดภัยในการทำงาน ลดช่องวา่ งความเหลื่อมล้ำในการเข้าถงึ บรกิ ารทางสุขภาพ และความเหลื่อมล้ำทางสังคม” วนั เสาร์และอาทิตยท์ ่ี 20 – 21 มีนาคม พ.ศ.2564 ณ โรงแรมโนโวเทลมารีนา่ ศรรี าชา แอนด์ เกาะสชี ัง อ.ศรรี าชา จ.ชลบรุ ี จัดโดย สภาองคก์ ารลกู จา้ งพฒั นาแรงงานแห่งประเทศไทยและเครือขา่ ยประกันสงั คมคนทำงาน ภายใตก้ ารสนบั สนนุ จาก สำนกั งานกองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสริมสขุ ภาพ (สสส.) เมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 20 – 21 มีนาคม พ.ศ.2564 สภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงาน แห่งประเทศไทย เครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน และโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานและพัฒนา สถานประกอบการ (ครพส.) ได้จัดเวทีถอดบทเรียนการดำเนินงาน “การยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติการ ลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีความปลอดภัยในการทำงาน ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการ ทางสุขภาพและความเหลื่อมล้ำทางสังคม” ณ โรงแรมโนโวเทลมารีน่า ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส. สำนัก 9) สามารถสรปุ สาระสำคัญจากการประชุมได้รวม 6 ประเดน็ ประกอบดว้ ย ช่วงที่ 1 : กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมเวทีถอดบทเรียนฯ โดยนายภาคภูมิ สุกใส ผู้จัดการโครงการ ครพส. ช่วงที่ 2 : นำเสนอผลการดำเนินงานการยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติการลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีความปลอดภัยในการทำงานลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางสุขภาพและความ เหลือ่ มลำ้ ทางสังคม โดย อ.ศริ ศิ กั ด์ิ บัวชมุ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลสวุ รรณภมู ิ ช่วงท่ี 3 : กล่าวรายงาน โดย นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่ง ประเทศไทย ช่วงที่ 4 : ปาฐกถาพิเศษ “บทบาทและความร่วมมือภาครัฐ กับการยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติ การลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีความปลอดภัยในการทำงาน ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึง บริการทางสุขภาพและความเหลื่อมล้ำทางสังคม” โดย นายสุชาติ ชมกล่ิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง แรงงาน ช่วงที่ 5 : เวทีถอดบทเรียนการดำเนินงาน “การยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติการลดปัจจัยเสี่ยงตอ่ สุขภาพ มีความปลอดภัยในการทำงานลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางสุขภาพและ ความเหลือ่ มล้ำทางสงั คม”
Page |3 ช่วงที่ 6 : การสนทนากลุ่ม (Focus Group) เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานการยกระดบั คุณภาพชวี ิต ในมิติการลดปจั จัยเสีย่ งต่อสขุ ภาพ มคี วามปลอดภัยในการทำงานลดช่องวา่ งความเหลื่อมล้ำ ในการเขา้ ถึงบริการทางสขุ ภาพและความเหลอื่ มลำ้ ทางสงั คม มีรายละเอียดแตล่ ะประเดน็ ดงั นี้ (1) กล่าวตอ้ นรบั ผเู้ ขา้ ร่วมเวทีถอดบทเรียนฯ โดยนายภาคภูมิ สกุ ใส ผจู้ ดั การโครงการ ครพส. ในนามของโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานและพัฒนาสถานประกอบการ(ครพส.) ผมขอ ตอ้ นรบั ทกุ คนเข้ารว่ มการถอดบทเรยี นในคร้ังน้ี อยา่ งท่ีทราบกันดอี ยู่แล้วว่า เวลาพูดเร่อื งของสุขภาพ ท่ผี ่านมา จะเกี่ยวข้องกับการดูแล การรักษาเป็นหลัก แต่พอมาขับเคลื่อนภายใต้โครงการนี้ คือการตระหนักว่า การดูแล สขุ ภาพไมใ่ ห้เจบ็ ไขไ้ ดป้ ว่ ยจะดีกว่าการไปใชส้ ทิ ธริ ักษา โครงการมองวา่ การส่งเสริมสุขภาพในสถานประกอบการ ต้องนำไปสู่การตอบโจทยร์ ะยะยาว คือ เมื่อ แรงงานปลดระวางแลว้ สุขภาพต้องดี ไม่ป่วย ไม่ใช่ต้องถูกดูแลรักษาต่อในอนาคต ทำอย่างไรให้เร่ืองแบบนี้ถึง ภาครัฐ ใหม้ องเห็นร่วมกนั วา่ การดูแลสุขภาพเปน็ เรอื่ งที่ดี ประเทศไทยมีสถานประกอบการกว่า 3-4 แสนแห่ง โครงการนี้เฟสแรกมีโรงงานเข้าร่วม 22 แห่ง พอ มาระยะที่ 3 น้ี มี 32 โรงงานที่เข้าร่วม เป็นแค่ส่วนหน่ึงท่ีจะกระตุ้นให้เห็นว่ามีแรงงานกลุ่มหนึ่งที่อยาก ขับเคลื่อน ดังนั้นวันนี้อยากให้แรงงานสะท้อนเลยว่า นี้คือภารกิจในการเดินหน้าต่อ มีโรงงานนำร่องแล้ว ทำ อย่างไรจะให้มีโรงงานต้นแบบอื่นๆเพิ่มขึ้นด้วย เวทีนี้่จะสะท้อนให้ภาครัฐประกาศเป็นนโยบายในการส่งเสริม สขุ ภาพตอ่ ไป การรณรงค์ให้คนมีสุขภาพดีเป็นเรื่องของการปลุกจิตสำนึก ไม่สามารถบังคับได้ แต่ถ้ารณรงค์สร้าง แนวร่วมให้สุขภาพดี ครอบครัวจะดีตามมาด้วย ในอนาคตจึงอยากเห็นพี่น้องแรงงานเข้าถึงสิทธิ เสียเงินแล้ว ไม่ใช่ต้องมารักษาตนเอง ถ้ารัฐบาลประกาศเป็นนโยบายส่งเสริมสุขภาพ จะสามารถต่อยอดให้สำนักงาน ประกันสังคมเข้ามาดูแลตอ่ ได้อย่างไร เพราะหลายเรื่องเป็นผลมาจากการทำงานในโรงงานแม้ไม่ใช่อุบัติเหตุใน โรงงานโดยตรง แต่กเ็ กยี่ วเนื่องจากการทำงาน ทำอยา่ งไรให้เกดิ ความค้มุ ครองได้อย่างแท้จริง (2) นำเสนอผลการดำเนินงานการยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติการลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีความ ปลอดภัยในการทำงานลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบรกิ ารทางสุขภาพและความเหลื่อมล้ำทาง สังคม โดย อ.ศริ ศิ ักด์ิ บวั ชมุ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลสวุ รรณภูมิ ผลจากการดำเนินโครงการพัฒนาและสร้างเสริมสุขภาวะคนทำงานในสถานประกอบการในระยะ ที่ 1-2 (คพสก.) พบว่า 1. เกิดการหนุนเสริมศักยภาพผู้นำแรงงานจำนวน 1,411 คน ในพื้นที่เป้าหมาย 10 พื้นที่ ครอบคลุม 10 จงั หวดั ไดแ้ ก่ กรงุ เทพมหานคร สมุทรปราการ ปทมุ ธานี นนทบุรี ชลบรุ ี ระยอง พระนครศรีอยุธยา สระบรุ ี ปราจีนบุรี อ่างทอง ให้มีความรู้ การเข้าถึงสิทธิและบริการการคัดกรองโรค ทั้งที่เนื่องจากงานและไม่เนื่องจาก งาน และมีการส่งเสรมิ สขุ ภาพปอ้ งกันโรคอย่างตอ่ เน่อื ง
Page |4 2. เกิดสถานประกอบการต้นแบบจำนวน 22 แห่ง ที่มีนโยบาย มีระบบบริหารจัดการ ควบคุม กำกับ ดูแลด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน และมีการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค อย่างต่อเน่ือง มสี มาชิกแรงงานในสถานประกอบท่ีมีส่วนได้เสยี จากการดำเนินงานจำนวน 25,492 คน 3. เกิดชุดคู่มือ “การพัฒนาและสร้างเสริมสุขภาวะคนทำงานในสถานประกอบการ” สำหรับทีม ปฏบิ ัตกิ าร ทมี วทิ ยากร และผู้นำกลุ่มไดน้ ำไปใชใ้ นการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ทศั นคติ และทักษะเบื้องต้นใน การจัดการความเส่ยี งและสร้างความปลอดภัยในการทำงาน 4. มีการแต่งตั้งคณะกรรมการการส่งเสริมป้องกันโรคทั้งที่เนื่องจากงานและไม่เนื่องจากงานในสถาน ประกอบการ ภายใตส้ ำนกั งานประกนั สงั คม กระทรวงแรงงาน ต่อมาในปี 2563-65 ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก สสส.สำนัก 9 ให้ดำเนินโครงการยกระดับ คุณภาพชีวิตแรงงานและพัฒนาสถานประกอบการ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้แรงงานได้รับการยกระดับ คุณภาพชีวิต ในมิติการลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีความปลอดภัยในการทำงาน ลดช่องว่างความเหลื่อม ล้ำในการเข้าถงึ บรกิ ารทางสขุ ภาพและความเหลื่อมล้ำทางสงั คมท่ีเหมาะสม เพ่อื สขุ ภาวะของคนทำงานใน สถานประกอบการอย่างย่ังยืนและต่อเน่ือง ภายใตว้ ัตถุประสงค์ 1. เพื่อเสริมศักยภาพและสนับสนุนกระบวนการทำงานของผู้นำแรงงานและองค์กรเครือข่าย ในการ ขบั เคลือ่ นและรณรงคน์ โยบายสกู่ ารปฏิบัตเิ พื่อการยกระดบั คณุ ภาพชวี ิตแรงงาน 2. เพื่อพัฒนากิจกรรมของสถานประกอบการในการส่งเสริมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) 3. เพื่อพัฒนารูปแบบและวิธกี ารลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางสขุ ภาพ และความ เหลื่อมล้ำทางสังคม โดยผ่านกระบวนการความร่วมมือทั้งในส่วนของหน่วยงานภาครัฐ นายจ้างหรือเจ้าของ สถานประกอบการและองคก์ รแรงงานในสถานประกอบการ 4. เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางสุขภาพของแรงงาน ในมิติการลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ เพิม่ ประสทิ ธภิ าพการทำงาน ลดตน้ ทนุ /ลดคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นสุขภาพในสถานประกอบการ ผลการดำเนินงานโครงการฯ งวดที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2563 - 30 พฤศจิกายน 2563 มี รายละเอยี ดดังน้ี 1. ได้กลไกการอำนวยการและการปฏิบัติการ จำนวน 1 ชุด เพื่อกำกับและให้ข้อเสนอแนะในการ ดำเนินงานโครงการใหบ้ รรลุตามเปา้ หมายและวัตถปุ ระสงค์ทกี่ ำหนดไว้ 2. ไดผ้ นู้ ำจำนวน 172 คน ในพ้นื ทเ่ี ป้าหมายเข้ากระบวนการเสริมศกั ยภาพเพือ่ เปน็ คณะทำงาน 3. ได้สถานประกอบการทสี่ นใจเขา้ ร่วมดำเนนิ การ จำนวน 30 สถานประกอบการ 4. ไดข้ ้อมลู สถานการณ์พฤติกรรมทางสุขภาพของแรงงาน 5. เกิดข้อตกลงร่วม/มตทิ ี่ประชุมระหว่างโครงการฯ และเครือข่ายวิชาการ หน่วยงานภาครัฐ เกี่ยวกบั การสนบั สนนุ และส่งเสรมิ การเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมทางสขุ ภาพของแรงงาน
Page |5 ทั้งนี้พบปัญหาข้อจำกัดในการดำเนินงาน เนื่องจากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโค โรนา 2019 (โควิด - 19) ทั้งน้ีคณะทำงานโครงการฯ ได้มีการระบบสื่อสารออนไลน์เข้ามาช่วยในการ ประสานงาน การตดิ ตามผล (ระบบเอกสารอิเลก็ ทอรน์ คิ ระบบสอ่ื สารผา่ นช่องทาง line Facebook) (3) กล่าวรายงาน โดย นายมนสั โกศล ประธานสภาองคก์ ารลูกจา้ งพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย กระผม นายมนัส โกศล ในฐานะประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย และ ประธานเครอื ขา่ ยประกันสงั คม ต้องขอขอบคุณทา่ นรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงแรงงานทม่ี าเป็นเกยี รตใิ นเวทีคร้ัง น้ี พรอ้ มกับแขกผูเ้ กยี รติทา่ นอ่นื ๆ และรว่ มกล่าวปาฐกถาพเิ ศษเร่ือง “บทบาทและความร่วมมอื ภาครัฐกับการ ยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติการลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีความปลอดภัยในการทำงาน ลดช่องว่างความ เหล่ือมลำ้ ในการเขา้ ถงึ บรกิ ารทางสขุ ภาพและความเหลอื่ มลำ้ ทางสงั คม” โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานและพัฒนาสถานประกอบการ ได้รับการสนับสนุนจาก สสส. ให้มาดำเนินการกับพี่น้องในสถานประกอบการ รวม 32 สถานประกอบการ มีลูกจ้างกว่า 25,000 คนเข้าร่วม มวี ัตถุหลักๆคือ 1) เพ่ือเสรมิ ศกั ยภาพผู้นำแรงงาน 2) เพ่ือพัฒนากิจกรรมในสถานประกอบการเพื่อปอ้ งกันการ แพร่ระบาดโควิด 3) เพื่อพัฒนารูปแบบการลดช่องว่างการเข้าถึงสิทธิ 4) เพื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ด้านสุขภาพ ลดตน้ ทุนคา่ ใช้จา่ ย 5) เพือ่ ส่งเสรมิ แรงงานสัมพันธท์ ่ีดใี นระบบทวิภาคี มีเป้าหมายคือ ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคีเครือข่าย ได้รูปแบบลดช่องว่าง เกิดการ เปล่ยี นแปลงพฤตกิ รรมสุขภาพ เกดิ แรงงานสัมพันธท์ ดี่ ี
Page |6 การที่ท่านรัฐมนตรีได้เสียสละเวลามาในครั้งน้ี ถือว่าเป็นภาพสะท้อนถึงนโยบายรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา และในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 เรื่องการทำงานประเด็นสุขภาพ เพราะ หากมีความร่วมมือทุกฝ่ายก็จะนำไปสู่การลดต้นทุน ที่ผ่านมาเป็นการทำงานปลายน้ำ คือ เน้นการรักษา แต่ การส่งเสริมป้องกันโรคเพิ่งเกิดขึ้นมาตอนปี 2558 ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับที่ 4 โครงการนี้ถือเป็น โครงการทีด่ ี มีทั้งผู้แทนสถานประกอบการ สหภาพแรงงานมาร่วม สามารถต่อจิ๊กซอว์ให้สถานประกอบการใน โรงงาน เปน็ สถานพยาบาลเบ้อื งต้นเพือ่ ตรวจสขุ ภาพก่อนเขา้ โรงพยาบาล ทำให้สามารถปอ้ งกนั ได้เลยตง้ั แตต่ น้ บัดน้ีได้เวลาอนั สมควรแลว้ จึงขอเรียนเชญิ ทา่ นรฐั มนตรีกล่าวปาฐกถาในคร้ังน้ี (4) ปาฐกถาพิเศษ “บทบาทและความร่วมมือภาครัฐ กับการยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติการลดปัจจัย เสี่ยงต่อสขุ ภาพ มีความปลอดภยั ในการทำงาน ลดชอ่ งวา่ งความเหล่อื มลำ้ ในการเข้าถงึ บริการทางสขุ ภาพ และความเหลือ่ มลำ้ ทางสังคม” โดย นายสุชาติ ชมกล่ิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ผมเองมีความรู้สึกยินดีที่มาเข้าร่วมในเวทีถอดบทเรียน การยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติการลด ปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีความปลอดภัยในการทำงาน ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทาง สุขภาพ และความเหลอื่ มล้ำทางสงั คม ในครั้งนี้ ผมขอเรียนว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน นโยบายต่างๆที่ผมนำเสนอต้องนำเรียนเป็นขั้นตอนสู่คณะรัฐมนตรี กระทรวง
Page |7 แรงงานในยคุ ปัจจุบนั ให้ความสำคัญกับคณุ ภาพชีวติ พนี่ ้องแรงงานดุจคนในครอบครัวอย่างมาก ผมถือว่าพนี่ ้อง ผู้ใช้แรงงานเหมือนคนในครอบครัว สร้างความเจริญให้กับคนในประเทศไทย ไม่มีท่าน เศรษฐกิจก็ไม่เติบโต แถวหน้าในอาเซียน ในกระทรวงแรงงานให้นโยบายเรื่อง safety และ healthy Thailand เราจะมัวแต่รักษา ไมไ่ ด้ เราต้องปอ้ งกนั ก่อน พอถึงรกั ษาจะแกล้ ำบาก เรื่องที่ 1 ผมมีนโยบายทดลองให้ผู้สูงอายุ ในมาตรา 33 39 ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธ์ุฟรี นี่คือความรักความเป็นห่วงที่ผมมีต่อพี่น้องแรงงาน ให้แรงงานอายุ 50 ปีขึ้นไปได้รับ เพราะมีความเสี่ยงได้รับ เชื้อไข้หวัดใหญ่ พอเป็นไข้หวัดใหญ่ เวลารักษาจะลามมาที่ปอด ติดเชื้อในกระแสเลือด มีการเสียชีวิต จึงต้อง ป้องกันไวก้ ่อน ไมค่ วรละเลย จึงนำเรียนให้สำนักงานประกนั สงั คม ผ่านปลดั กระทรวงแรงงาน ท่ีผ่านมาก็ทำให้ ผ้มู าตรา 33 39 ได้รับไปแลว้ 2 แสนกว่าโดส ผมกำลังประเมินว่า หลังฉีดแล้วกลับไปเจ็บป่วยกี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าดีขึ้น ก็จะขยับลงมาที่อายุ 40 ปี แต่ ตอนนี้อยู่ระหว่างการประเมินความคุ้มค่าในเม็ดเงินที่จ่ายเป็นค่าวัคซีนว่าเป็นยังไง ถ้าผลลัพธ์ดีตามที่ตั้งไว้ จะ นำเสนอข้อมูลกับบอรด์ ประกันสงั คมในความค้มุ ค่า ต่อมานโยบายที่ 2 ผมมีนโยบายเรื่องการมีสถานพยาบาลหรือมุมในสถานประกอบการสำหรับ ผู้ประกันตนเป็นการเฉพาะ ที่ผ่านมาผมเคยเป็นพนักงานบริษัท เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ผมมีความรู้สึก เหมือนพวกท่านเวลาใช้สิทธิประกันสงั คม รสู้ ึกต่ำต้อย สถานพยาบาลตา่ งๆจะให้เรารอก่อน ผมคดิ ว่าไม่ถูกต้อง เพราะประกันสังคมได้รับเงินสมทบจากแรงงาน นายจ้าง รัฐบาล โรงพยาบาลในเครือประกันสังคม สามารถ ขยายกิจการต่อยอดจากเงินประกนั สังคมของพวกเรา ในส่วนน้ีผมได้นำเรียนเลขาธิการประกันสังคมเพื่อผลักดันให้เป็นนโยบาย ให้ 200 กว่าโรงพยาบาล ทำ smile corner ไปแจ้งเคาน์เตอร์ แล้วมีที่นั่งรอ นั่งพัก มีน้ำกิน แบบ VIP เพราะโรงพยาบาลที่กล่าวถึง คือ จำนวนแรงงานทีไ่ ปขึน้ ทะเบยี นเปน็ ผปู้ ระกนั ตน วันนี้มีโรงพยาบาลถึง 50 % กว่า 100 แห่ง ที่ทำแล้ว ผมได้ไปตรวจหลายโรงพยาบาล เช่น สมเด็จศรี ราชา กำลังทำมุมให้แล้ว ตึกใหม่ทำห้องให้เลย ผมอยากเห็นแบบเลาจน์สนามบิน เราลงชื่อไปน่ังรอ ถึงคิวเดิน ออกไปตรวจ แต่มาวันนี้ บางโรงพยาบาลยังเล็กอยู่ ก็พยายามทำมุมนี้ขึ้นมาแทน แต่โรงพยาบาลสร้างใหม่ใน เครือประกันสังคม ผมให้นโยบายแล้วว่า ทำให้เห็นหน่อย เราเป็นลูกค้ารายใหญ่ โรงพยาบาลได้รายได้จากเรา รายปตี อ้ งดูแลดุจ VIP เรื่องต่อมา วนั นี้ 264 โรงพยาบาลในเครือประกันสังคม เวลาพนักงานเกิดอบุ ัติเหตใุ นการทำงาน เช่น โดนอุปกรณ์หนีบมือ น้ำร้อนลวก โรงพยาบาลเฉพาะทางหายากมาก ผมจึงให้นโยบายเรื่องสร้างโรงพยาบาล ประกันสังคม เพ่ือเป็นแบบอย่างให้โรงพยาบาลในเครือ ได้มีการตั้งคณะทำงานแล้ว เชิญรองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลตำรวจมา เพราะมโี รงพยาบาลเป็นตนเอง ข้าราชการตำรวจหลักแสน ขา้ ราชการทหารหลักแสน มี โรงพยาบาลตนเอง ดังนั้นแรงงาน 11 ล้านคน ทำไมจะมีโรงพยาบาลตนเองไม่ได้ ก็ทำเหมือนโรงพยาบาล ตำรวจ เหมอื นโรงพยาบาลรฐั บาลทัว่ ไป แต่ตอ้ งมเี ฉพาะทาง เขน่ กระดูกหกั หรืออบุ ตั ิเหตจุ ากการทำงาน นี้คือแนวคิดของผม พี่น้องแรงงาน 11 ล้านคนมาตรา 33 2 ล้านคน มาตรา 39 เราอยากให้ ประกนั สังคม มีโรงพยาบาลเปน็ หนา้ เปน็ ตาพวกเรา ในความลดเหลือ่ มล้ำดา้ นสขุ ภาพต่างๆ
Page |8 ผมขอบคุณคณะที่ปรึกษา ที่มาจากกลุ่มผู้นำสหภาพแรงงานต่างๆ ลำพังตัวผมเองมาทำงาน แค่ 6 เดือน ถ้าไม่มีที่ปรึกษาคงทำงานยาก เช่น มาตรา 33 พี่มนัส โกศลไปยื่นหนังสือรัฐมนตรี ประชาชนได้ แต่ผู้ใช้ แรงงานมาตรา 33 ไม่ได้ จะเกิดความเหล่ือมล้ำ ทำให้ผมในฐานะผู้แทนรัฐบาล ทำหน้าท่ีดแู ลประชาชน กับท้ัง ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ก็ต้องทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความเท่าเทียมกัน นี้คือภารกิจที่ผม ได้รับขอ้ เสนอแนะจากสหภาพแรงงาน เรามีวงเงินกู้ 4 แสนล้านไม่มาก เราชนะได้ 7 พัน เรามีเม็ดเงินแค่นี้ พอผมไปประสานงานไปท่ี กระทรวงการคลัง ได้แนะนำว่า ใหใ้ ชม้ าตรฐานเราชนะ แตเ่ รามาดูในมาตรา 33 คัดกรองแล้วเหลือ 9 ล้านกวา่ คน ในกลุ่มนี้หลายคนถึงเงินเดือนสูง ก็ไม่มีเงินเก็บ เพราะมีรายจ่ายไม่แตกต่างกัน เช่น ค่าการศึกษาบุตร ค่า รถ ค่าทอ่ี ย่อู าศัย ผมไม่เคยมองว่าใครมีรายได้มากหรือน้อย ทำให้ในมาตรา 33 เป็นพี่น้องกัน ชื่อโครงการเรารักกัน กระทรวงการคลังอยากใช้เกณฑ์เดียวกัน ผมบอกว่าถ้าใช้เกณฑ์เดียวกัน จะไม่ได้ทุกคน ผมอยู่บริษัทเดียวกัน เงินเดือน 2.5 หมื่น แต่อีกคน 2.55 หมื่น รายได้รวมจะเกิน 3 แสนบาททันที ทำให้ไม่ได้รับ ทั้งที่เงินต่างแค่ 500 บาทตอ่ เดือน น้คี ือปญั หาของบรษิ ทั ที่จะเจอแน่นอน ผมเชิญผู้นำแรงงานมา ว่ามีเงินเท่านี้จะทำอย่างไร เขาเสนอขอให้เท่ากัน อย่าเสนอกลุ่มใดกลุ่มหน่ึง เทา่ นน้ั ทำใหต้ ้องตดั สินใจแบบน้ี เพ่ือทำให้เกิดอปุ สรรคน้อยสดุ ผมอยากเล่าวา่ นีค้ ือการให้ขอ้ แนะนำจากผู้นำ สหภาพแรงงาน เมื่อคืนผมกลับถึงบ้านเที่ยงคืน แต่รับปากพี่มนัส เลยนั่งรถจากกรุงเทพมาศรีราชา ผมมาทำงานวัน แรกเดือนสิงหาคม เกิดโควิดระบาด เป็นช่วงเยียวยา หลายคนตกงาน 8 ล้าน 10 ล้าน ผมให้ประกันสังคมดู ตัวเลขว่างงาน และจัดงาน job expo ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนต่างๆ ผมจัดมาเมื่อต้นตุลาคม บรรจุ งานแลว้ 9 แสนกวา่ อัตรา ต่อมามีการแพร่ระบาดเดือนธันวาคม 2563 แรงงานต่างด้าวเป็นจำเลยสังคม บริษัทต้องพึ่งพา แรงงานต่างด้าว คนไทยไม่ทำ เช่น งานอาหารทะเล เราเลยมีนโยบายแก้ปัญหาโควิด ก็สามารถควบคุมได้ ท่ี เราไปสนับสนุนเอาแรงงานขึ้นสู่บนดินให้หมด วันแรกมีนายจ้างเอาแรงงานจากสมุทรสาครมาปล่อยท่ี สมุทรปราการ เราเลยมีนโยบายขึ้นทะเบียนเร่งด่วน ออกใบอนุญาตทำงาน 2 ปี มีนายจ้างขึ้นทะเบียน 1.3 แสน มีลูกจ้าง 6 แสนกว่ารายขึ้นทะเบียน ถ้าเราจับ เขาจะสูญเสียธุรกิจ จับแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปดูแล ด่าน ปิดหมด ผลักดันกลบั ไมไ่ ด้ จึงต้องขึ้นทะเบียน และนายจ้างเสยี ค่าใช้จ่าย ตรวจโควิด ออกบัตรไปกอ่ น นำเข้าก็ ไมไ่ ด้ ตอ้ งแกป้ ญั หาไป ในวันนี้ก็ขอเล่าให้พี่น้องแรงงานทราบคร่าวๆ ถ้าเล่าการทำงานจะเล่าได้ทั้งวัน แก้ปัญหาทุกวัน ขอขอบคณุ ท่ีให้เกยี รติผมมาพดู เรื่องนี้ เราพยายามป้องกันดีกวา่ แก้ไข ผมกำลังให้ประกันสงั คม ทำ App ตา่ งๆ เตอื นเราเรือ่ งการป้องกนั โรคตา่ งๆ เตอื นทางโทรศัพท์ สดุ ท้ายนไี้ ด้เวลาอันสมควรผมขอเปิดเวทนี ้ี และขอใหก้ ารจดั งานคร้งั น้ีบรรลุผลตามต้องการ
Page |9
P a g e | 10 (5) เวทีถอดบทเรียนการดำเนินงาน “การยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติการลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีความปลอดภัยในการทำงาน ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางสุขภาพ และความ เหล่ือมลำ้ ทางสงั คม” ผู้ดำเนนิ รายการ นายธนกิจ สาโสภา อดีตประธานสมาพนั ธ์แรงงานฮอนด้าแหง่ ประเทศไทย ช่วงเช้าได้รับฟังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานว่าทำอะไรเพื่อคนงานบ้าง มองเรื่องการจัดการความ เหลื่อมล้ำโดยเฉพาะในผู้ประกันตนมาตรา 33 ภายใต้การดำเนินงานต่างๆ รวมทั้งพูดถึงองค์กรสถานพยาบาล ต่างๆที่จะมาดูแลคนทำงานในฐานะคนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เปรียบเทียบกับโรงพยาบาลตำรวจ ทหาร ยาสูบก็ มีโรงพยาบาลเป็นของตนเอง เหล่านี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ผลจากการสัมผัสกับผู้ใช้แรงงานก็ถือว่ามีความ พงึ พอใจในการดำเนินการเช่นกนั สำหรับในเวทีครั้งนี้ชื่อว่า เวทีถอดบทเรียนการดำเนินงาน “การยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติการลด ปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีความปลอดภัยในการทำงาน ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทาง สุขภาพ และความเหลือ่ มล้ำทางสังคม” เรื่องนี้มีเรื่องปัจจัยเสี่ยง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ทางสังคม ทาง สุขภาพ การเขา้ ถึงต่างๆ วันน้ีได้รับเกียรติจากวิทยากร 7 ท่าน ผมขอเริ่มต้นจากผู้แทนบริษัทก่อนว่า ในฐานะที่อยู่ใกล้ชิด คนงานมองเห็นอะไรท่เี ป็นปัจจัยเส่ยี งและควรนำเสนอตอ่ ภาครฐั บ้าง คนท่ี 1: นายจรี วัฒน์ เจรญิ ผล ตัวแทนบริษทั ไทยนิปปอนสตีลเอน็ จเิ นยี รง่ิ จริงๆแล้วผมเข้าร่วมโครงการนี้ในเฟส 2 บริษัททำเรื่องส่งเสริมสุขภาพอยู่แล้ว แต่รูปแบบอาจไม่ ต่อเนื่องกับสว่ นงานอื่นๆ เช่น สสส. ราชการ เป็นการดำเนินการภายในบริษัท ก่อนหน้านั้นทีม HR ดำเนินการ โดยตรง เป็นความเข้าใจภายใน เช่น ออกกำลังกาย กีฬาสี อาหาร แต่สิ่งที่พบคือไม่มีความต่อเนื่อง เชิญ
P a g e | 11 วิทยากรด้านนอกมา หมดกิจกรรมก็ไม่ได้ติดตาม ทำงานกับโครงการนี้ผ่านสหภาพแรงงานมาชักชวนและ ทำงานรว่ มกนั ส่วนบรษิ ัทกม็ อี ีกโครงการรว่ มกับ สสส.ด้วย ในช่วงเฟสแรก เราพบว่า พนักงานมีความเข้าใจเรื่องส่งเสริมสุขภาพค่อนข้างน้อย หรือการดูแล สุขภาพเป็นเรื่องไกลตัว เช่น โรค NCDs ทั้งนโยบายบริษัทเน้นเรื่องความปลอดภัย ความบาดเจ็บเป็นหลัก เรื่องสุขภาพที่พนักงานต้องเผชิญได้รับการส่งเสริมน้อย แต่พอเข้าโครงการ ก็มาทำงานบูรณาการร่วมกันมาก ขึ้น ทีมทำงานมาจากหลายๆส่วนของบริษัท ต่อมาพนักงานมีความตระหนักมากขึ้น แต่ยังไม่เทียบเท่ากับโรค จากการทำงานหรือบาดเจ็บ แต่ คปอ.หรือสหภาพแรงงานก็เอาไปสอ่ื สารตอ่ อยากฝากเรื่องกฎหมายเป็นหลักที่พูดเรื่องสุขภาพหลายตัว แต่หน่วยงานราชการยังมีความสัมพันธ์ น้อย เช่น การจัดห้องพยาบาลต่างๆ อาจต้องระบุคุณสมบัติต่างๆ และมีข้อบังคับชัดเจนมากกว่ายืดหยุ่น เช่น การให้สิทธิไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลมากกว่าต้องประจำในโรงงานได้ อยากเน้นไปที่การสร้างความเข้าใจให้ พนักงานเป็นหลัก การบูรณาการกฎหมายฉบับต่างๆ การยกระดับห้องพยาบาลในโรงงานให้เท่ากับ รพสต. หรืออนามัย เพราะตอนนี้มีพยาบาลอยู่แล้ว ควรกำหนดหน้าที่ให้ชัดเจนเลยในกฎหมาย เช่น ส่งเสริม ฟื้นฟู ดูแล รกั ษา ปกติเน้นการรักษาและฟื้นฟู แต่การปอ้ งกนั ยงั น้อยกว่า ควรแกไ้ ขปรับปรงุ ในส่วนน้ี คนที่ 2: นางสริ ิวนั ร่มฉัตรทอง เลขาธกิ ารสภาองคก์ ารนายจา้ งแหง่ ประเทศไทย วันนี้มาในฐานะสภาองค์การนายจ้าง เราทำงานร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะ แรงงานไทยหรือแรงงานข้ามชาติเราต้องดูแล การเน้นทำงานเรื่องความปลอดภัยเป็นงานง่าย ก่อนตระหนก ต้องตระหนักก่อน สำหรับนายจ้างเราเองพยายามให้ตระหนักเห็นความสำคัญของเรื่องอาชีวอนามัยอย่างย่ิง เราจะเสียมือดีๆไป 1 คน หากเจ็บป่วย ป่วยเป็น ป่วยตาย จะเกิดปัญหา ผลผลิตลดลง ภาพลักษณ์สถาน ประกอบการไม่ดี หากนายจ้างตระหนักแล้ว ไปแนะนำต่อว่านายจ้างจะทำอะไรได้บ้าง เราทำงานกับ ILO มีตัวอย่าง ความสำเร็จของประเทศต่างๆ เช่น สิงค์โปร์ นำมาแลกเปลี่ยน พี่เป็นอนุกรรมการประกันสังคมสมุทรปราการ ส่ิงที่เราเจอคือ คนพิการท่ีเกิดจากโรค NCDs เยอะมาก ดังนั้นประกันสังคมต้องเข้ามาแก้ไขป้องกันเรื่องนี้ ทำ โครงการขอทำมาตรการเชิงบวกในสถานประกอบการ เช่น วัดรอบเอว วัดเลือด ความดัน ใน 1 ปี มีอะไร พัฒนาการบ้าง ควรเป็น KPI ประเมนิ ผลงานและประเมนิ ผลการดูแลสขุ ภาพ ต่อมากรณีโควิด ในช่วงระยะหน้าเราจะเจอโรคภัยไข้เจ็บอะไรอีก เช่น เครียดกับเศรษฐกิจ เครียดกับ ระยะห่างจากสังคมในโรงงาน ควรเป็นเชิงรุกทั้งหมด เป็นเรื่องเครียดเรื่องสำคัญ นอกจากเรื่องอาชีวอนามัย ควรมศี าสตร์การใช้ชีวติ ให้มีความสขุ ในโรงงาน โง่ จน เจบ็ จะอยอู่ ย่างไร เพ่อื ขจดั ความทุกข์ในเรอื่ งน้ี โดยสรุปเน้นเรื่องมองสุขอนามัยในสถานประกอบการ การตระหนักรู้แต่ลูกจ้างก็ต้องให้ความร่วมมือ ด้วย คนที่ 3: นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย และ เครอื ข่ายประกันสังคมคนทำงาน รัฐบาลตั้งกองทุน UC ฉุกเฉิน ส่งโรงพยาบาลฟรี 3 วัน แต่รักษาเรื้อรังกลับไม่สามารถเข้าถึงความ ช่วยเหลือตามกฎหมายได้ ต้องไปออกทีวีขอรับความช่วยเหลือแทน นี้คือความเหลื่อมล้ำแล้ว ผมจะโยงไปยัง
P a g e | 12 อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรามุ่งเน้นไปที่ safety มากกว่า healthy แต่ละกฎกระทรวงต้อง บรู ณาการกนั มากกว่าน้ี จะมอบแตร่ างวัลไม่ไดแ้ ลว้ แตต่ อ้ งเน้นเรื่องสุขภาพดี คณุ ภาพชีวติ ที่ดขี น้ึ จะกลายเป็น มิตใิ หมท่ นั ที โครงการเฟสแรก คือ 22 โรงงานต้นแบบ เราเน้นที่มีสถานพยาบาลในโรงงานก่อนว่าจะทำอย่างไรให้ เป็นส่วนต้นน้ำก่อนไปรักษา ตอนนี้กองทุนประกันสังคม จ่ายไป 4 กรณีแรกเยอะมาก ใช้รักษาเยอะสุด ต่อมา ตอนน้มี ี 32 สถานประกอบการ จะเดนิ หนา้ ตอ่ ได้เลย คือ ใชผ้ ู้นำ ใช้ คปอ. ประธานสหภาพแรงงาน ทำอยา่ งไร ให้โรงงานมีมุมอาหาร เช่น โรงงานเบนซ์ มีมุมน้ำพริกผักให้ลูกจ้างทานฟรี เป็นสวัสดิการ โรงงานอื่นๆสามารถ นำไปใช้ต่อได้ ถ้าลดปัญหาสุขภาพได้ ต้นทุนค่าใช้จ่ายจะลดลง ต้นทุนนายจ้างก็ลด คำถามคือ รัฐจะช่วยอะไร นายจา้ งบา้ ง ถา้ ทำเร่อื งสขุ ภาพใหล้ กู จ้างดี ลาปว่ ยน้อย รฐั บาลจะลดภาษไี ดไ้ หม ต่อมาเรื่อง NCDs ต้องรักษาประกันสังคมล้วน ๆ แต่กองทุนเงินทดแทนเงินเหลือ 8 แสนล้าน เช่น ปวดหลัง ตีเป็น NCDs ต้องไปวินิจฉัยโรคก่อน เงินจึงเหลือเยอะ ทำอย่างไรจะบูรณาการกฎหมาย 2 ฉบับนี้ได้ กองทุนเงนิ ทดแทนรกั ษาเปน็ step ตามวงเงนิ สงู สุด 2 ล้านบาท มี 4 step นายจ้างใจดจี ่ายให้ ถา้ ไม่จ่ายก็เป็น หนี้เลย เราจะทำตรงนี้ ต่อยอดให้ได้ เช่น หมดเงินกองทุนทดแทน ใช้ประกันสังคมต่อได้ไหม เช่น ติดสารเคมี ตาบอด จา่ ยเงนิ ก้อน ตอ่ มาหมอไปดกู ารรักษาว่า บาดเจ็บจากในงาน ใช้ประกันสังคมไม่ได้ ไปกู้เงินมา เป็นหน้ี นีค้ ือความเหล่ือมล้ำ ตอ้ งมีการบริหารจดั การภายในบรษิ ทั และภาครฐั จะสนับสนนุ อยา่ งไร คนท่ี 4 : นายแพทยช์ าญวทิ ย์ ทระเทพ คณะกรรมการอุทธรณ์ สำนักงานประกนั สงั คม ถ้าเราพูดว่าเหลื่อมล้ำ ให้ดูที่ผลลัพธ์ด้านสุขภาพ เพราะกระบวนการทั้งหลายแตกต่างกันหมด ไป ดวู ่าอะไรต้องเท่า สุดทา้ ยอาจได้ผลไม่เท่ากนั ความเหล่ือมลำ้ ใหด้ ูว่า สุขภาพดีไหม คุณภาพชีวติ ดไี หมแทน ถ้าเรามาดูเรื่องการนอนโรงพยาบาล ข้าราชการนอน 5.8 วัน ประกันสังคมนอน 5.77 วัน สปสช. นอน 4.85 วัน แต่ละกองทุนอยากให้นอนน้อยที่สุด เพราะเป็นภาระ นี้คือความเหลื่อมล้ำ ผ่าท้องคลอด ข้าราชการใช้สิทธิ 69 % ประกนั สังคม 61 % สปสช. 39 % ดงั นัน้ ความเหล่อื มล้ำอย่าดสู ิทธปิ ระโยชน์ให้ดูผล แทน เพราะประกนั สงั คมกบั ข้าราชการใกลเ้ คยี งกนั ปี 2558 ไข้เลือดออกระบาด กทม. ป่วย 400 ต่อแสน ตาย 3 อยู่อุดรธานี ป่วย 72 ต่อแสน ตาย 0 ดังนั้นความเหล่ือมล้ำไม่ได้เกิดจากกองทุน เกิดจากนโยบายของผู้บริหารในแต่ละพื้นที่ ตอนผมเป็นผู้ตรวจเขต 8 ที่ไม่มีการป่วยเลย ผมสั่งการให้จัดการตั้งแต่ยุงมีน้อยเลย ถ้าจัดการหน้าฝนจะยากมากขึ้น ถามว่า นี่เป็น ความเหลอ่ื มลำ้ ไหม ให้ไปดูท่ผี ลลพั ธ์ ต่อมาถ้าท่านเป็นไส้ติ่งอักเสบ ใช้สิทธิประกันสังคมมีโอกาสจะไส้ติ่งแตก 35 % แต่ สปสช. ก็ไม่ แตกต่างกนั เลย ทกุ อย่างมีสิทธิประโยชน์หมด แต่ผลลัพธ์ดา้ นสขุ ภาพไม่ดี ถ้าท่านเป็นเนื้องอกมดลูก ข้าราชการ 25,000 คน ได้ผ่า 2,000 คน นอนรอ 59 วัน ประกันสังคม 30 บาท หนักกวา่ น้อี ีก อาจไม่ได้ผ่าเลย สิทธิประโยชนไ์ ม่ได้แปลว่า ได้รับ ไม่ปว่ ยก็ไม่ได้ใช้ ปี 2556 ประกันสงั คมเปน็ โรคหัวใจเพิ่มข้ึนทกุ ปี สิทธปิ ระโยชน์เพมิ่ ข้ึนทกุ ปี แต่คนยง่ิ ป่วยมากขึ้น โรค อื่นๆ เช่น สโตรกเพิ่มขึ้นปีละ 17 % ตับอักเสบเรื้อรังปีละ 15 % มะเร็งปีละ 11 % นี้คือประกันสังคมทั้งนั้น ค่าใช้จา่ ยโรคหลอดเลอื ดเพ่มิ ขน้ึ ปลี ะ 25 % ตบั อกี เสบปีละ 21 % โรคมะเรง็ ปีละ 16 %
P a g e | 13 เมอ่ื สิทธิประโยชนด์ ีไซนม์ าเพือ่ ปว่ ย คนก็ปว่ ยข้ึน สปส. กบั สปสช. ก็แขง่ กันเพม่ิ สทิ ธิประโยชน์ ยง่ิ เจ็บ หนกั ยง่ิ จา่ ยเยอะ แรงจงู ใจ คือ ป่วยหนัก ถึงได้สิทธิ ทำให้หนว่ ยโรงพยาบาลจึงตอ้ งลงทนุ เพมิ่ ดังนั้นต้องป้องกัน ส่งเสริม อันนี้คือทิศทางที่ถูกต้อง ต้องหยุดเรื่อง จ่ายตามป่วย เปลี่ยนเป็นจ่าย ตามสขุ ภาพทด่ี ขี ้ึน ที่สิงค์โปร์ ประชาชนอยากหาหมอผ่านมือถือมากกว่า สิทธิประโยชน์เบิกจาก app ทั้งหมด นัด โรงพยาบาลได้ ประกันสังคมพยายามแก้ไขปัญหาลูกจ้าง เรื่องร้องเรียนเยอะมาก เราพยายามแก้ไขโดยจ่ายให้ โรงพยาบาลที่มีเรื่องร้องเรียนน้อย พอเสนอแบบนี้ เรื่องร้องเรียนหายไปเลย ลดลงไปเกินครึ่ง เราบอกว่าจะ จา่ ยผลลพั ธ์การรักษา ตายน้อย-จะจ่ายมาก โรงพยาบาลที่ตายมากจาก 9 % เหลือ 4 % ความเหล่ือมล้ำให้โฟกัสไปที่คุณภาพชีวิต เมื่อก่อนป่วยไปหาหมอที่โรงพยาบาล เดี๋ยวนี้คนป่วยหา google ก่อน ในจีนมี app ที่วิเคราะห์โรค เอา app ไปซิงค์กับตู้จ่ายยาได้เลย ตอนน้ีโรงพยาบาลกรุงเทพเอา มาใช้แล้วจากจีน ถ้าไม่อยากออกจากบ้าน ก็มีโดรนเอายามาส่งที่ห้องได้ นี้เป็นกลไกการรักษาพยาบาล เปลี่ยนไป ทั่วโลกกำลังลดจำนวนเตียงลง มีตัวอย่างการใช้ข้อมูลจาก AI เอามารวมกับข้อมูลนักศึกษา แล้ว ทำนายได้วา่ นกั ศกึ ษาจะมแี นวโนม้ เป็นโรคอะไร ใครจะฆา่ ตวั ตายใน 2 สปั ดาห์ แม่นยำกวา่ หมอโรคจติ อกี อนั นี้ คอื อำนาจข้อมูล ประเทศสวีเดน ตอนนี้มีโรงพยาบาลใหญ่ 70 โรง ยุบห้องฉุกเฉินเหลือแค่ 4 โรง ที่เหลือไม่ต้อง เพราะ เขาดูความเสี่ยงแล้งว่าใครจะฉกุ เฉินบ้าง กไ็ ปรักษากอ่ นเลย น้คี ือการบรหิ ารจัดการสุขภาพท่ีแท้จริง ประเทศนอร์เวย์ลดคลินกิ ปฐมภูมิ จากเดิมมี 422 แห่ง ลดเหลือ 354 แห่ง สนับสนุน healthcare ส่ง ขอ้ มลู ไปทางมือถอื ใหป้ ้องกันตนเอง การลดความเหล่ือมล้ำจะเกิดขึ้นได้เมื่อข้อมูลสุขภาพของท่าน ข้อมูลความเสี่ยงสุขภาพอยู่ที่ตัวท่าน ปรับพฤติกรรมสขุ ภาพดว้ ยตัวท่านเอง และนี้จะทำใหเ้ กิดสุขภาพดี คุณภาพชีวิตที่ดี เท่าเทยี มกัน อย่ามองสิทธิ ประโยชน์ ให้มองผลลัพธ์ คนที่ 5 : นายวรานนท์ ปีติวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและ สภาพแวดล้อมในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน) บทบาทสถาบันความปลอดภัยเป็นองค์กรใหม่ เราเน้นงานวิชาการ ทำกฎหมายให้ง่าย ชี้นำสังคม ฟัง วิทยากรจะเลี้ยวไปที่ NCDs หลายคนน่าจะเกินครึ่งเป็น NCDs เป็นก็เป็น ยาก็มี ผมจำได้ว่าขึ้นเวทีกับ สสส. งานของท่านอาทิตย์ ประกันสังคมเมื่อให้สิทธิประโยชน์ตรวจสุขภาพ แต่ก็ต่ำมากไปใช้สิทธิ สมัยเอดส์มาใหมๆ่ คนไม่ไปตรวจก็กลัวเป็น ตายไปเลยดีกว่า อีกทั้งไปตรวจวันธรรมดาต้องลางานไป ต้องบริหารจัดการใหม่ ทำ อย่างไรให้หมอกับคนงานมาเจอกนั ได้จรงิ มากกว่า นานๆจะไดเ้ หน็ ข้อเรียกร้องสหภาพแรงงานเกยี่ วกบั สุขภาพความปลอดภัยในการทำงาน นานๆจะเหน็ เช่น ปรับปรุงห้องพยาบาล เพิ่มหมอ หรือขออุปกรณ์ปรับปรุงการทำงาน ที่ผ่านมามีแต่โบนัส สวัสดิการ ข้อ กฎหมายวางได้ คือ ส่วนหน่ึงของข้อตกลงสภาพการจ้าง คปอ.ในบริษัท สหภาพแรงงานเดินเข้าไปปรับปรุงได้ ใช้กลไกนีไ้ ด้ สร้างความตระหนักให้ลกู จ้างนายจ้างได้
P a g e | 14 กฎกระทรวงล่าสุดเรือ่ ง กำหนดมาตรฐานลูกจ้างในการตรวจสุขภาพในงานที่เสีย่ งเมื่อกันยายน 2563 น้ีคือกฎหมาย แต่เราไม่ตระหนกั ไม่สำนกึ มากกวา่ ลูกจ้างในกฎหมายความปลอดภัยไม่เหมือนกฎหมายคุ้มครองแรงงาน หมายถึง ไม่ต้องมีนิติสัมพันธ์ก็ ได้ เช่น นักเรียน นักศึกษา ที่ไปทำงาน ไม่มีข้อมูลถึงประกันสังคม ว่าน้ิวขาดกี่คน แต่เด็กเหล่านี้หลายหมื่นคน อยู่ในระบบการทำงาน ไม่ต้องพูดถึงแรงงานต่างด้าวอีก 2 ล้านกว่าคน ในโรงงานที่ยังเข้าไม่ถึงช่องว่างเหล่านี้ เด็กนักเรียนอายุ 16-17 ปีที่ทำงานโรงงาน กฎหมายไม่คุ้มครอง แต่การจ้างงานได้สร้างความไม่ปลอดภัยใน การทำงาน ดังนั้นทำอย่างไรให้ตระหนักก่อนเลย นายจ้างมีความรู้ความเข้าใจ แต่ลูกจ้างต้องเพิ่มเรื่องความ ตระหนักมากกวา่ นี้ คนท่ี 6 : นายนนั ทชยั ปัญญาสุรฤทธ์ิ ผู้ตรวจราชการสำนกั งานประกนั สังคม เรื่องของ line official กำลังดำเนินการอยู่ เป็นไปได้แน่นอนตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ว่า วงเงินพิจารณาในกรมไม่เกิน 50 ล้านบาทพิจารณาได้เลย เมื่อวันจันทร์ได้เชิญสภานายจ้าง ลูกจ้าง มา ประชุมเรื่องให้ความรู้เรื่องประกันสังคม และความปลอดภัยในการทำงาน 2,000 กว่ารุ่น กำหนดให้มีการ อบรมเรื่องโรค NCDs อย่างน้อย 1 ชั่วโมง แต่ประธานสภาบางแห่งไม่เอาด้วย หลายสภาไม่เอา ทั้งที่ชี้ให้เห็น อัตราการตาย ใครไม่เอาไมง่ อ้ แต่ตอ้ งทำ ผมดูแลเรื่องกองฝึกอบรม พวกเราขอเขียนประกันสังคมจังหวัดได้เลย 2 หม่ืนบาท อบรม 30 คน ตอ่ 5-6 ชม. ต่อมาคือสิทธิประโยชน์เพิ่มตลอด แต่การตรวจสุขภาพก็น้อย พยายามหาโมเดลในการทำงาน helping healthy harmless ประกันสังคมขอรับทุกความเห็นไปแก้ไข ใครสนใจเรื่องการส่งเสริมสุขภาพ ประสานงานไปทสี่ ำนกั งานประกันสังคมจังหวัดได้ คนที่ 7 : นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) สำนกั งานกองทนุ สนับสนุนการสรา้ งเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะทส่ี นับสนนุ งานนี้ บทบาทภารกจิ คือ สนบั สนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ คอื เร่ืองปอ้ งกนั ไม่ให้เกิด โรคภัย ดูเหมือนเป็นโรคเย็นๆ เพราะลดภาระค่าใช้จ่าย ดูแลตนเองยามแก่ ขอบเขตงาน สสส. เราใช้คำว่า สุขภาวะ สขุ ภาพทางกายมิตเิ ดียวไม่ได้ ตอ้ งมสี ขุ ภาพใจ สังคม จติ วิญญาณ กนิ ความหมายกว้าง เพ่ือทำใหค้ นมี ความสุข มสี ุขภาพดี เราถงึ นำด้วยคนทำงานมสี ุขภาพดี ความปลอดภัยในการทำงาน ทำไมตอ้ งตง้ั ชื่อยาว คอื สสส.ก็กำหนดด้วย ว่าเปน็ การลดความเหลอื่ มลำ้ ทางสขุ ภาพ ชอ่ งว่างนีส้ งู มาก จึงต้องช่วยกันลด เวลาเราพูดเรื่องสุขภาวะคนทำงาน วันนี้อาจพูด NCDs เป็นหลัก แต่ด้วยภารกิจ สสส. เรา จะพูดเหล้าบุหรี่มาก สอดแทรกในหลายๆโครงการ เพราะเราเอาเงินมาจากทุนนี้ ต่อมาเรื่องพนัน ก็มี สุขภาพจิต ความเครียด อาหารปลอดภยั การมสี ขุ ภาพทด่ี ใี นหลายๆมติ ิ ตนเองอย่สู ำนกั 9 เนน้ เรื่องแรงงานในระบบ นอกระบบ ทขี่ าดความค้มุ ครองตา่ งๆ มสี ำนัก 8 ทำเร่ือง องค์กร สสส.พยายามสนับสนุนงานในหลายๆทาง การผลักดันจากลูกจ้าง มีข้อติดขัดหลายอย่าง การผลักดัน จากนายจ้างจึงสำคัญ สสส.ยังสนับสนุนงานวิชาการ งานสื่อต่างๆ งานเป็นวิทยากร สุดท้ายคือ เครื่องมือ app ต่างๆ ทสี่ อดคล้องกบั สถานการณ์ในอนาคต
P a g e | 15 มีตัวอย่าง app คนพิการ monitor สถานะคนพิการที่ได้รับการจ้างงาน พอได้รับการจ้างงานแล้ว สุขภาพดีขึ้นไหม หรือหลักสูตรออนไลน์ต่างๆ เช่น เรื่องอาชีวอนามัยกับกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ปรับเครื่องมือ สขุ ภาพใหเ้ หมาะสม สสส.ยนิ ดีใหห้ น่วยงานต่างๆนำไปปรบั ใช้ สสส.คาดหวังกับโครงการนี้ 2-3 เรื่อง คือ คนจะสุขภาพดีต้องทำงานผ่านแกนนำ 160 คน จะส่งผ่าน ไปยงั คนอีก 1,600 ได้ต่อ เพือ่ ให้มีสขุ ภาพดขี ้ึน เช่น ดขี ึ้นดว้ ยรปู แบบใด แกนนำมคี ุณสมบัตอิ ย่างไร ในคนกลุ่ม นี้มีความรู้แค่ไหน อย่างไร รู้มากขึ้นไหม ทำการส่งผ่านความรอบรู้ไปยังพี่น้องเครือข่ายได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไร เพื่อนำไปขยายผลในพืน้ ท่อี น่ื ๆ ต่อมาเรื่องที่ 2 การผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายที่เกิดจากงานฐานราก ทั้งสุขภาพ หลักประกัน ความ คุ้มครองต่างๆ ทำข้อเสนอมาเลย มแี นวปฏิบัติอะไรทำให้เกดิ การคุ้มครองแรงงานมากขนึ้ มงี านวชิ าการรองรบั ต่อมาเรื่องที่ 3 สร้างนำซ่อม ต้นทุนจะเสียน้อยกว่า จะบอกนายจ้างอย่างไรว่าลงทุนเรื่องนี้ จะน้อย กว่าค่ารักษา ตัวเลขแคไ่ หนทีจ่ ะไปจงู ใจนายจ้างสว่ นน้ี ตวั เลขนีจ้ ะนำไปสกู่ ารขยายผลในอนาคต ความเหน็ จากผเู้ ข้าร่วมเวทปี ระชมุ คำถามที่ 1) แนวทางการส่งเสริมของ สำนักงานประกันสังคมจะมีแนวทางส่งเสริมสถาน ประกอบการอย่างไรบ้าง เพื่อส่งเสริมด้านสุขภาพ ส่วนใหญ่พนักงานและคนงานจะมีคุณภาพชีวิตตาม ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง มีความสนใจต่างกัน สถาน ประกอบการก็ส่งเสริมระดับหนึ่ง แต่ต้องมี นักวิชาการมาช่วย อบรมผู้นำไม่เพียงพอ ต้อง ส่งเสริมระยะยาว ติดตามผลตลอด ถึงมี app ไม่ สนใจก็ไม่เกิดประโยชน์ เช่น มีการจัดอาหารให้ โดยตรง แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะการส่งเสริมเพื่อ เปลีย่ นทัศนคตจิ ึงสำคญั เพ่ือนำไปสู่การเปล่ียนแปลง พฤติกรรม อยากเหน็ แนวทางภาครัฐ คำถามที่ 2) คนงานเวลาเกษียณอายุจะ หลุดจากมาตรา 33 ไปท่ี สปสช. ทำอย่างไรที่จะ สามารถใช้สิทธิในระบบเดิมต่อไปได้ เพราะตอนนี้ ผู้ประกันตนเป็นเพียงคนกลุ่มเดียวที่ต้องจ่ายเงินซื้อ ประกนั สุขภาพ คำตอบจากนายแพทย์ชาญวิทย์ ทระเทพ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว สำนักงานประกันสังคมทำงานวิจัยเรื่องการส่งเสริมสุขภาพแบบบูรณาการระหว่าง นายจา้ ง ลกู จา้ ง และประกนั สังคม ขอ้ เสนอของงาน คอื การสง่ เสรมิ สขุ ภาพปอ้ งกันโรค ถ้าทำแบบเหมารวมใส่ เสื้อสายเดี่ยวหมด ไม่ได้เรื่อง ต้องปรับให้เหมาะแต่ละคน สิ่งสำคัญที่สุด คือ ข้อมูลต้องนำมาบูรณาการรวมกนั
P a g e | 16 ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ไม่มีแพคเกจสง่ เสริมสุขภาพที่เกี่ยวกับการปอ้ งกันไข้เลือดดออก ผู้ประกันตน admit โรคน้ี สูงสุด ถ้าเป็นไข้เลือดออกส่งคนไปดูแค่ที่บ้าน แต่ไม่เคยดูที่โรงงานเลย ถ้าข้อมูลบูรณาการกัน จะลงไปตรวจ โรงงานทันที ถ้ามีกลไกนี้ ประกันสังคมก็ไม่ต้อง admit มากกว่านี้ ขณะเดียวกันผู้ประกันตนต้องมีข้อมูล สถานะสขุ ภาพตนเอง เส่ยี งอะไร และมีคำแนะนำรายบคุ คลสอดคลอ้ งกบั วถิ ีชวี ิต เหมาะกับแตล่ ะคน (6) การสนทนากล่มุ (Focus Group) เพอ่ื แลกเปลยี่ นแนวทางการดำเนินงานการยกระดับคุณภาพชวี ติ ใน มิติการลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีความปลอดภัยในการทำงานลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึง บริการทางสขุ ภาพและความเหล่ือมล้ำทางสังคม ผู้เข้าร่วมประชุมได้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เข้าร่วมโครงการ กับ กลุ่มที่เข้าร่วมประชุมแต่ไม่ได้เข้า ร่วมโครงการ (เป็นเฉพาะสมาชิกสภาองคก์ ารลูกจ้างพฒั นาแรงงานแหง่ ประเทศไทย) เพอ่ื ระดมความคิดเหน็ ใน กลุ่มเกี่ยวกับการทบทวนสถานการณ์การลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ ความปลอดภัยในการทำงาน ความเหลื่อม ล้ำในการเขา้ ถงึ บริการทางสุขภาพและความเหลื่อมลำ้ ทางสังคม โดยพบว่า กลมุ่ ที่ 1 : กล่มุ ท่เี ข้ารว่ มโครงการ - ก่อนเข้าร่วมโครงการ พบว่า ไม่มีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ, พนักงานไม่สนใจสุขภาพตนเอง, ขาด ความรว่ มมือระหว่างนายจ้างกบั สหภาพแรงงาน - ภายหลังเข้าร่วมโครงการแล้ว พบว่า เกิดชมรม/ กลุ่มทำกิจกรรมสุขภาพที่หลากหลายตามบริบท สถานประกอบการ , เกิดการทำงานเชิงรุกระหว่าง จป. -HR – พยาบาล , มีกิจกรรมสุขภาพมากขึ้น , มีการใช้ ข้อมูลทางสุขภาพมาสร้างกิจกรรมในสถานประกอบการ , พนักงานเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและมี แนวโน้มเพิ่มขึ้น , แรงงานสัมพันธ์อยู่ในระดับดีถึงดีมาก เมื่อมีกิจกรรรมส่งเสริมสุขภาพเข้ามาในสถาน ประกอบการ - ความเปลี่ยนแปลงเปน็ ผลมาจาก การมนี โยบาย , ความรว่ มมอื ในสถานประกอบการ , มที ีมทำงาน , มีข้อมลู สุขภาพ , กิจกรรมใหค้ วามรใู้ นการปรับเปลีย่ นพฤตกิ รรมสขุ ภาพ กล่มุ ที่ 2 : กลุ่มทเ่ี ข้าร่วมประชมุ แตไ่ มไ่ ดเ้ ขา้ รว่ มโครงการ - สถานการณ์ความปลอดภัยในสถานประกอบการ พบว่า อุปกรณ์ PPE ไม่เพียงพอ สภาพแวดล้อม ในโรงงานยังเออ้ื ใหเ้ กดิ ความเส่ยี งในการทำงาน - ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวมีการแก้ไขปัญหา โดยมีการอบรมให้ความรู้ที่แตกต่างกันตามลักษณะ งาน, อุปกรณ์ป้องกันมีบ้างไม่มีบ้าง แม้ว่าเสนอแล้วแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข , มีคณะกรรมการเข้าตรวจสอบ พน้ื ท่ีความเสี่ยงและมกี ารประเมินความเสี่ยง - สำหรับในเรื่องการลดโรค NCDs นั้น พบว่า บางสถานประกอบการมีการจัดทำกิจกรรมทางกาย เช่น ฟุตบอล ตะกร้อ เพื่อเสริมสร้างร่างกาย , การตรวจสขุ ภาพเพ่ือประเมินสุขภาพร่างกาย มีปัญหาได้รับการ แกไ้ ข น้ำหนักเกนิ มกี จิ กรรมมาแกไ้ จปญั หา , ดา้ นจิตใจ มีอบรมธรรมะ , ด้านโภชนาการ เช่น อาหารสุขภาพ มี ข้าวกลอ้ ง มีนโยบายคลนี ฟู้ด ตรวจประเมินจากกระทรวงสาธารณสุข
P a g e | 17 ทั้งนี้ในช่วงท้ายได้มีการระดมข้อเสนอเชิงนโยบายต่อการลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีความ ปลอดภัยในการทำงาน ลดชอ่ งว่างความเหล่อื มล้ำในการเขา้ ถงึ บรกิ ารทางสุขภาพ รวม 3 ขอ้ ดงั นี้ 1) การแก้ไขกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีว อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. 2549 ในข้อ 25 ที่กำหนดให้คณะกรรมการมีหน้าท่ี (1) พจิ ารณานโยบายและแผนงานดา้ นความปลอดภัยในการทำงาน รวมทงั้ ความปลอดภัยนอกงานเพือ่ ป้องกัน และลดการเกิดอุบัติเหตุ การประสบอันตราย การเจ็บป่วย หรือการเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญอันเนื่องจากการ ทำงาน หรือความไม่ปลอดภัยในการทำงานเสนอต่อนายจ้าง ให้แก้ไขใหม่ โดยรวมเรื่องของการส่งเสริม สขุ ภาพป้องกนั โรคอันไมเ่ กย่ี วเนอ่ื งจากการทำงานโดยตรง เขา้ มาในภารกจิ หนา้ ทขี่ องคณะกรรมการด้วย 2) การบูรณาการ พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 และ พ.ร.บ.เงินทดแทน พ.ศ.2537 เข้าเป็นฉบับ เดียวกัน หรือปรับสิทธิประโยชน์ให้เอื้อหรือสอดคล้องกัน โดยไม่นำไปสู่ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสิทธิและ ใช้สิทธิของผู้ประกันตนที่ต้องจ่ายเงินเองหรือต้องประสบความยากลำบากภายหลังการเป็นโรคที่วินิจฉัยว่าไม่ เกีย่ วเนื่องจากการทำงาน และไม่สามารถใชส้ ิทธิการรกั ษาโรคเรอื้ รังตามที่กำหนดไว้ได้ 3) การกำหนดให้เรื่อง การที่สถานประกอบการมีนโยบายหรือกลไกการส่งเสริมสุขภาพและป้องกัน โรค ต้องเป็นตัวช้ีวัดบังคับสำหรับสถานประกอบการที่ไดร้ ับรางวัลดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์ประจำปี ของกรม สวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน สรปุ โดย : บษุ ยรัตน์ กาญจนดิษฐ์ นักวชิ าการสถาบันสง่ เสริมภาคประชาสงั คม
P a g e | 18
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: