1TCP/IP และอินเทอรเ์ น็ต ชัน้ ส่ือสารเน็ตเวริ ์ก (Network Layer)(TCP/IP AND INTERNET) 2 ชัน้ ส่ือสารเน็ตเวริ ์ก มีหน้าที่ในการสง่ มอบข้อมลู ในลกั ษณะ Host-to-Host และ สามารถกําหนดหรือวางเส้นทางแพก็ เก็ตข้อมลู สง่ ผา่ นไปยงั อปุ กรณ์เร้าเตอร์หรือสวิตซ์ ภายในชนั้ ส่อื สารเน็ตเวริ ์ก นอกจาก TCP/IP ท่ีสนบั สนนุ โปรโตคอลหลกั อยา่ ง IP แล้ว ยงั บรรจุ ไปด้วยโปรโตคอลอื่นๆ อีก เช่น ARP, RARP, ICMP และ IGMP เป็นต้น โปรโตคอล TCP/IP (TCP/IP Protocol) โปรโตคอล TCP/IP (TCP/IP Protocol)3 4 การบริการเช่ือมต่อการส่ือสาร (Connection Service) 1. การบริการแบบ Connection-oriented ของชดุ โปรโตคอล TCP/IP โปรโตคอล ในชดุ โปรโตคอล TCP/IP นนั้ จะมีการบริการการเช่ือมตอ่ การสือ่ สารระหวา่ งต้นทางและ TCP จะกําหนดช่วงเวลา (Session) สําหรับการติดตอ่ ยืนยนั การสง่ -รับข้อมลู ระหวา่ ง ปลายทาง 2 แบบ คือการบริการแบบ Connectionless และ แบบ Connection oriented คอมพิวเตอร์ทงั้ 2 เครื่องเชน่ เดียว กบั การทํางานของโปรโตคอล Session ในรูปแบบ OSI ซงึ่ สว่ นในรูปแบบ OSI จะให้ความสําคญั เฉพาะบริการแบบ Connection - oriented เทา่ นนั้ ทําให้โปรโตคอล TCP เป็นโปรโตคอลท่ีมีความ นา่ เช่ือถือ(Reliable) เพราะให้ความแน่นอนวา่ แพ็กเกจข้อมลู ที่ถกู สง่ ออกไปจากต้นทางจะไปถงึ ยงั ปลายทาง อยา่ งเป็นลาํ ดบั และไมม่ ีความ ผิดพลาด หรือสญู หายของข้อมลู
โปรโตคอล TCP/IP (TCP/IP Protocol) โปรโตคอล IP (Internet Protocol)5 6 2. การบริการแบบ Connectionless ของโปรโตคอล จะมีลกั ษณะแบบเดียวกบั โปรโตคอล IP (Internet Protocol) เป็นกลไกการสง่ ข้อมลู ที่ใช้โปรโตคอล โปรโตคอล UDP (User Datagram Protocol) คือโปรโตคอลจะมีหน้าท่ีควบคมุ การสง่ – รับ TCP/IP ในลกั ษณะคอนเน็กชน่ั เลส คือ ไมร่ ับประกนั การสง่ ข้อมลู วา่ จะถงึ จดุ หมายปลายทาง ข้อมลู โดยไมม่ ีการรอคอย หรือการยืนยนั การตอบรับข้อมลู จากปลายทาง ทําให้บริการแบบนี ้ หรือไม่ การทํางานของโปรโตคอล IP ไมม่ ีความซบั ซ้อน หากพบปัญหาจากข้อมลู ท่ีสง่ ให้ความนา่ เชื่อถือน้อยกวา่ แตก่ ็ทําให้การส่อื สาร ข้อมลู รวดเร็วยิ่งขนึ ้ ถ้าไมม่ ีความผิดพลาด โปรโตคอล IP จะกําจดั ข้อมลู ชดุ นนั้ หากข้อมลู สามารถผา่ นไปได้ ก็จะปลอ่ ยให้ชนั้ ส่ือสารท่ีอยู่ เกิดขนึ ้ ในการสง่ -รับข้อมลู เหนือกวา่ ทําหน้าที่ตรวจสอบความถกู ต้องของข้อมลู ตอ่ ไป โดยโปรโตคอล IP จะทําหน้าที่เพียง นําสง่ ข้อมลู ไปยงั ปลายทางด้วยหมายเลขไอพีแอดเดรส โปรโตคอล IP (Internet Protocol) IP Datagram7 8 หากต้องการความน่าเชื่อถือในการสง่ ข้อมลู ไปยงั ปลายทาง โปรโตคอล IP จะทํางาน แพก็ เกต็ ในชัน้ ส่ือสารของ IP จะเรียกว่า ดาต้าแกรม ซงึ่ ประกอบไปด้วย 2 สว่ น ควบคไู่ ปกบั โปรโตคอลท่ีมีเครื่องมือในการตรวจสอบข้อมลู วา่ สง่ ถงึ ปลายทางหรือไม่ คือ หลกั ๆ คือ สว่ นของเฮดเดอร์และสว่ นข้อมลู โดยเฮดเดอร์จะเร่ิมจากตําแหน่งไบต์ที่ 20 จนถงึ โปรโตคอล TCP ตวั อยา่ งเชน่ การสง่ จดหมาย หากเป็นการสง่ แบบปกติ จะไมม่ ีการรับประกนั 60 และบรรจดุ ้วยข้อมลู สําคญั ที่ใช้สําหรับเลือกเส้นทาง (Routing) และการสง่ มอบข้อมลู วา่ จดหมายจะถงึ มือผ้รู ับหรือไม่ เนื่องจากอาจมีการตกหลน่ หรือสญู หายระหวา่ งทาง ดงั นนั้ รายละเอียดสาํ คญั ของไอพีดาต้าแกรม หากต้องการสง่ จดหมายที่มีความน่าเชื่อถือมากขนึ ้ อาจเลอื กวธิ ีการสง่ แบบลงทะเบียน ซงึ่ Version เป็นหมายเลขเวอร์ชนั ของโปรโตคอล ท่ีใช้งานในปัจจบุ นั คือ เวอร์ชนั 4 (IPv4) จะมีการรับรองวา่ จดหมายจะสง่ ถงึ มือผ้รู ับอยา่ งแนน่ อน ดงั นนั้ IP เปรียบเสมือนการสง่ จดหมายแบบธรรมดาและ TCP คือการสง่ จดหมายแบบลงทะเบียน และเวอร์ชนั 6 (IPv6) Header Length (HLEN) เป็นฟิ ลด์ขนาด 4 บิตท่ีใช้กําหนดขนาดของเฮดเดอร์ ด้วยการระบเุ ป็นจํานวน 4 เทา่ ของไบต์ โดยขนาดของเฮดเดอร์สามารถมีได้ตงั้ แต่ 20 ถงึ 60 ไบต์
IP Datagram IP Datagram9 10 Type of Service (TOS) ใช้เป็นข้อมลู สาํ หรับเราเตอร์ในการตดั สนิ ใจเลอื กการเราต์ Flags ใช้ในกรณีที่มีการแยกดาต้าแกรม ข้อมลู ในแตล่ ะดาต้าแกรม แตใ่ นปัจจบุ นั ไมไ่ ด้มีการนําไปใช้งานแล้ว Fragment offset ใช้ในการกําหนดตําแหน่งข้อมลู ในดาต้าแกรมที่มีการแยกสว่ น เพ่ือให้ Length ความยาวทงั้ หมดเป็นจํานวนไบต์ของดาต้าแกรม ซงึ่ ด้วยขนาด 16 บติ ของฟิ ลด์ สามารถนํากลบั มาเรียงตอ่ กนั ได้อยา่ งถกู ต้อง จะหมายถงึ ความยาวสงู สดุ ของดาต้าแกรม คือ 65535 byte (64k) แตใ่ นการสง่ ข้อมลู จริง ข้อมลู จะถกู แยกเป็นสว่ นๆตามขนาดของ MTU ท่ีกําหนดในลงิ ค์เลเยอร์ และนํามารวมกนั Time to live (TTL) กําหนดจํานวนครัง้ ท่ีมากท่ีสดุ ที่ดาต้าแกรมจะถกู สง่ ระหวา่ ง hop อีกครัง้ เม่ือสง่ ถงึ ปลายทาง แอพพลเิ คชน่ั สว่ นใหญ่จะมีขนาดของดาต้าแกรมไมเ่ กิน 512 (การสง่ ผา่ นข้อมลู ระหวา่ งเน็ตเวริ ์ค) เพ่ือป้ องกนั ไมใ่ ห้เกิดการสง่ ข้อมลู โดยไมส่ นิ ้ สดุ โดย byte เม่ือข้อมลู ถกู สง่ ไป 1 hop จะทําการลดคา่ TTL ลง 1 เมื่อคา่ ของ TTL เป็น 0 และข้อมลู ยงั ไมถ่ งึ ปลายทาง ข้อมลู นนั้ จะถกู ยกเลกิ และเราเตอร์สดุ ท้ายจะสง่ ข้อมลู ICMP แจ้งกลบั Identification เป็นหมายเลขของดาต้าแกรมในกรณีที่มีการแยกดาต้าแกรมเมื่อข้อมลู สง่ มายงั ต้นทางวา่ เกิด time out ในระหวา่ งการสง่ ข้อมลู ถงึ ปลายทางจะนําข้อมลู ที่มี identification เดียวกนั มารวมกนั Protocol ระบโุ ปรโตคอลท่ีสง่ ในดาต้าแกรม เชน่ TCP ,UDP หรือ ICMP Header checksum ใช้ในการตรวจสอบความถกู ต้องของข้อมลู ในเฮดเดอร์ Source IP address หมายเลข IP ของผ้สู ง่ ข้อมลู IP Datagram IP Datagram11 12 Destination IP address หมายเลข IP ของผ้รู ับข้อมลู Option เป็นสว่ นเพิ่มเตมิ ในกรณีต้องการกําหนดหน้าท่ีเพิ่มเติมให้กบั ไอพี ดาต้าแกรม โดยหน้าท่ีเพิ่มเตมิ เหลา่ นีไ้ ด้แก่ การควบคมุ เส้นทาง เวลา การจดั การ และวาง แนวทาง ไอพีดาต้าแกรม (IP Datagram)
การกาํ หนดตาํ แหน่งท่อี ยู่ใน IPv4 (IPv4 Addressing) การกาํ หนดตาํ แหน่งท่อี ยู่ใน IPv4 (IPv4 Addressing)13 14 TCP/IP จะกําหนดท่ีอยดู่ ้วยไอพีแอดเดรส โดยไอพีแอดเดรส คือ ชดุ ตวั เลขฐานสองขนาด ไอพีแอดเดรสจะประกอบด้วย 4 ไบต์ หรือ 4 ออคเทต (32 บติ ) 32 บิตท่ีใช้กําหนดที่อยขู่ องโฮสต์ โดยแตล่ ะ 32 บิตของไอพีแอดเดรสจะถกู แบง่ ออกเป็น 2 สว่ น โดยในชดุ ของหมายเลขไอพี จะมีฟิ ลด์ 3 ฟิ ลด์ คือ คือ NetID และ HostID ถกู ออกแบบมาเพ่ือใช้สําหรับการหาเส้นทาง • แอดเดรสในสว่ นของ NetID จะชีร้ ะบุเครือข่าย (Physical Network) ที่คอมพิวเตอร์ - ประเภทของคลาส (Class) เช่ือมตอ่ - สว่ นที่ใช้เป็นหมายเลขเครือขา่ ย (Network Address) • แอดเดรสในสว่ นของ HostID จะชีร้ ะบุตาํ แหน่งของอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ที่เช่ือมตอ่ - สว่ นท่ีใช้เป็นหมายเลขเคร่ือง (Host Address) กบั เครือขา่ ย Network ID and Node ID concepts การแทนค่าไอพแี อดเดรสแบบเลขฐานสองและฐานสบิ (Binary and Dotted Decimal Notation)15 16 IP Address ขนาด 32 bit จะเป็นไปตามข้อกําหนดของ IPv4 จํานวน bit ดงั กลา่ ว สามารถแทนเลขหมายหรือ address ของอปุ กรณ์ได้ประมาณ 4 พนั ล้านเครื่อง หรือเทา่ กบั 232 (4,294,967,296) แตไ่ มไ่ ด้นํามาใช้งานทงั้ หมดเน่ืองจากมีการสงวนไว้ใช้งานเฉพาะอยา่ ง และด้วยขนาด 32 bit ของ IP Address ทําให้ยากตอ่ การจดจํา จงึ มีการแทนเคร่ืองหมายในรูป แบบของเลขฐานสบิ และใช้จดุ ทศนิยมคน่ั ระหวา่ งตวั เลขแตล่ ะชดุ ดงั รูป IP Address ในรูปแบบเลขฐานสอง และฐานสบิ ที่มีจดุ ทศนิยมคนั่ ระหวา่ งตวั เลขแตล่ ะชดุ
การจัดสรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส การจัดสรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส (Classful Addressing)(Classful Addressing) 1817 Class A เป็นแนวคดิ ในการแบง่ คลาสออกเป็น 5 ชนิดโดยแตล่ ะคลาสที่ออกแบบมาจะรองรับ ความต้องการที่แตกตา่ งกนั แล้วแตอ่ งค์กรปัจจบุ นั คลาส A และคลาส B ถกู นํามาใช้จนเตม็ การจดั สรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส แล้ว เหลอื แต่ คลาส C ท่ียงั มีการใช้งานอยู่ คลาส D ถกู สงวนไว้สาํ หรับเป็นมลั ตคิ ลาสต์ (Classful Addressing) แอดเดรส และคลาส E ถกู สงวนไว้ใช้งานในอนาคต 20Network Class Range Ex. จงแปลงเลขฐานสองต่อไปนี้ 0 1 0 1 1 1 0 1 เป็ นเลขฐานสบิClass A 0.0.0.0 ถงึ 127.255.255.255 27 26 25 24 23 22 21 20 จากโจทยจ์ ะได้ 128 64 32 16 8 4 2 1 64 + 16 + 8 +4 +1Class B 128.0.0.0 ถงึ 191.255.255.255 0 1 0 1 1 1 0 1 = 93Class C 192.0.0.0 ถงึ 223.255.255.255Class D 224.0.0.0 ถงึ 239.255.255.255Class E 240.0.0.0 ถงึ 247.255.255.255จาํ นวนเครือข่าย = 2NetID-2 จาํ นวนโฮสต์ในแต่ละเครือข่าย = 2HostID-2 การจัดสรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส (Classful Addressing)19 Class A คลาส A จะมีสว่ นของหมายเลขเครือขา่ ย (NetID) ขนาด 7 บิต - บติ แรกจะเป็นคา่ คงท่ี คือ 0 เพ่ือใช้แทนวา่ เป็นคลาส A - จํานวนเครือขา่ ยที่สามารถมีได้ เทา่ กบั 126 (27-2) เครือขา่ ย - ออคเทตแรกท่ีมีคา่ เป็น 0 (00000000) และ 127 (01111111) จะถกู สงวนไว้ - แตล่ ะเครือขา่ ยสามารถมีจํานวนโฮสต์ได้ถงึ (224-2) โฮสต์ - สามารถนําไปใช้งานกบั องค์กรหรือหน่วยงานที่มีขนาดใหญ่ ท่ีจําเป็นต้องมี โฮสต์จํานวนมาก
การจัดสรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส การจัดสรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส (Classful Addressing) (Classful Addressing) 2221 Ex. จงแปลงเลขฐานสองต่อไปนี้ 1 0 1 1 1 1 1 1 เป็ นเลขฐานสบิ Class B คลาส B จะมีสว่ นของหมายเลขเครือขา่ ย (NetID) ขนาด 14 บติ 27 26 25 24 23 22 21 20 จากโจทยจ์ ะได้ 128 64 32 16 8 4 2 1 128 + 32 + 16 + 8 + - 2 บติ แรกจะเป็นคา่ คงที่ คือ 10 เพื่อใช้แทนวา่ เป็นคลาส B 1 0 1 1 1 1 1 1 4 + 2 + 1 = 191 - จํานวนเครือขา่ ยที่สามารถมีได้ เทา่ กบั (214-2) เครือขา่ ย - ออคเทตแรกท่ีมีคา่ เป็น 128 (10000000) และ 191 (10111111) จะถกู สงวนไว้ - แตล่ ะเครือขา่ ยสามารถมีจํานวนโฮสต์ได้ถงึ (216-2) โฮสต์ - เหมาะสมกบั การนําไปใช้งานกบั องค์กรขนาดกลาง เชน่ สถาบนั การศกึ ษา หนว่ ยงานของรัฐ หรือเอกชน การจัดสรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส การจัดสรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส (Classful Addressing) (Classful Addressing)23 24 Class C Class C คลาส C จะมีสว่ นของหมายเลขเครือขา่ ย (NetID) ขนาด 21 บิต - 3 บิตแรกจะเป็นคา่ คงที่ คือ 110 เพื่อใช้แทนวา่ เป็นคลาส C - จํานวนเครือขา่ ยที่สามารถมีได้ เทา่ กบั (221-2) เครือขา่ ย - ออคเทตแรกที่มีคา่ เป็น 192 (11000000) และ 223 (11011111) จะถกู สงวนไว้ - แตล่ ะเครือขา่ ยสามารถมีจํานวนโฮสต์ได้ 254 (28-2) โฮสต์ - เหมาะสมกบั การนําไปใช้งานกบั องค์กรขนาดเลก็
การจดั สรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส การจัดสรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส (Classful Addressing) (Classful Addressing)25 26 Ex. จงแปลงเลขฐานสองต่อไปนี้ 1 1 1 1 1 1 1 0 เป็ นเลขฐานสบิ Class D 27 26 25 24 23 22 21 20 จากโจทยจ์ ะได้ คลาส D จะไมม่ ีการกําหนดหมายเลขเครือขา่ ย และถกู สงวนไว้สําหรับเป็นมลั ติคาสต์ 128 64 32 16 8 4 2 1 128 + 64 +32 + 16 + 1 1 1 1 1 1 1 0 8 + 4 + 2 = 254 - 4 บติ ในออคเทตแรกจะเป็นคา่ คงท่ี คือ 1110 เพื่อใช้แทนวา่ เป็นคลาส D - แอดเดรสเริ่มต้น คือ 224 (11100000) และแอดเดรสสดุ ท้าย คือ 239 (11101111) การจดั สรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส การจัดสรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส (Classful Addressing) (Classful Addressing)27 28 Class E Network Class Range คลาส E จะไมถ่ กู นํามาใช้ โดยจะถกู สงวนไว้ใช้งานในอนาคต Class A 0.0.0.0 ถงึ 127.255.255.255 - 4 บติ ในออคเทตแรกจะเป็นคา่ คงที่ คือ 1111 เพ่ือใช้แทนวา่ เป็นคลาส E - แอดเดรสเริ่มต้น คือ 240 (11110000) และแอดเดรสสดุ ท้าย คือ 255 (11111111) Class B 128.0.0.0 ถงึ 191.255.255.255 Class C 192.0.0.0 ถงึ 223.255.255.255 Class D 224.0.0.0 ถงึ 239.255.255.255 Class E 240.0.0.0 ถงึ 247.255.255.255 Class เลขนําหน้า จาํ นวนเครือข่าย จาํ นวนโฮสต์สูงสุด ต่อหน่ึงเครือข่าย Class A Class B 0 - 127 126 Address (7Bits) 16,777,214 Address (24Bits) Class C 128 - 191 16,382 Address (14Bits) 65,534 Address (16Bits) 192 - 223 2,097,152 Address (14Bits) 254 Address (8Bits)
การจดั สรรไอพแี อดเดรสแบบใช้คลาส การแบ่งเครือข่ายย่อย (Subnetting) (Classful Addressing) 3029 จะพบวา่ เมื่อได้รับไอพีแอดเดรสมาแล้ว เครือขา่ ยจะมีเพียง 1 ฟิ สคิ ลั เน็ตเวิร์กเทา่ นนั้ จะไมส่ ามารถแบง่ กลมุ่ เป็นเครือขา่ ยยอ่ ยๆ ได้ ซง่ึ จดั เป็นเครือขา่ ยท่ีหายากมากสําหรับการ เนื่องจากไอพีแอดเดรสถกู แบง่ เป็น 2 สว่ นประกอบกนั คือ หมายเลขเครือข่าย และ รองรับจํานวนโฮสต์มากกวา่ 60,000 โฮสต์ เช่น ในกรณีที่หน่วยงานหนง่ึ ได้ไอพีแอดเดรสคลาส หมายเลขโฮสต์ ทําให้งา่ ยตอ่ การออกแบบระบบ โดยในการสง่ แพก็ เก็ตข้อมลู บนเครือขา่ ย B และทําให้ไมส่ ามารถจดั กลมุ่ โฮสต์เข้าด้วยกนั เน่ืองจากโฮสต์ทกุ โฮสต์อยรู่ ะดบั เดียวกนั เร้าเตอร์จะพิจารณาเลอื กเส้นทางเฉพาะสว่ นของหมายเลขเครือขา่ ยเทา่ นนั้ โดยโฮสต์หรือ แนวทางในการแก้ปัญหา คือ จําเป็นต้องแบง่ เครือขา่ ยออกเป็นเครือขา่ ยยอ่ ยหรือ อุปกรณ์ท่มี ีหมายเลขเครือข่ายชุดเดียวกันจะอย่บู นเครือข่ายเดยี วกันหรือเรียกว่าอยู่บน การทําซบั เน็ต ด้วยการแบง่ สว่ นของเครือขา่ ยให้มีขนาดเลก็ ลง เช่น ต้องการที่จะแบง่ เครือขา่ ย เน็ตเวริ ์กเดียวกัน สว่ นหน้าท่ีของการสง่ แพก็ เก็ตบนเครือขา่ ยเดียวกนั จะเป็นหน้าท่ีของชนั้ ของมหาวทิ ยาลยั ออกเป็นเครือขา่ ยยอ่ ยตามคณะตา่ งๆ สื่อสารดาต้าลงิ ค์ การแบ่งเครือข่ายย่อย (Subnetting) ซับเน็ตมาสก์ (Subnet Mask)31 32 การทําซบั เน็ตมาสก์จะดําเนินการควบคไู่ ปกบั การทําซบั เน็ต โดยซบั เน็ตมาสก์เป็น กระบวนการท่ีบอกให้รู้วา่ เครือขา่ ยที่ใช้งานอยนู่ นั้ มีการแบง่ เป็นซบั เน็ต มีบิตท่ียืมไปเพ่ือ ดําเนินการแบง่ ซบั เน็ตจํานวนก่ีบิต และใช้ตําแหนง่ ใดเพ่ือระบเุ ป็นหมายเลขเครือขา่ ยยอ่ ย ปกติคา่ ของซบั เน็ตจะมีการระบไุ ว้แล้ว เรียกวา่ ค่าดฟี อลต์ (Default) หากไมม่ ีการทําซบั เน็ต คา่ ของซบั เน็ตมาสก์จะเป็นคา่ ดีฟอลต์ ดงั นี ้ Class Subnet Mask (Binary) Dotted-Decimal CIDR A 11111111 00000000 00000000 00000000 255.0.0.0 /8 B 11111111 11111111 00000000 00000000 C 11111111 11111111 11111111 00000000 255.255.0.0 /16 255.255.255.0 /24 Default subnet mask แบบ Classful
การจัดสรรไอพแี อดเดรสแบบไม่ใช้คลาส การจัดสรรไอพแี อดเดรสแบบไม่ใช้คลาส (Classless Addressing) (Classless Addressing) 3433 CIDR Notation (Classless Inter-Domain Routing) ในปัจจบุ นั มีการใช้งานอินเตอร์เน็ตสงู ขนึ ้ และการใช้แอดเดรสแบบ Classful Addressing CIDR อา่ นวา่ ไซเดอร์ (CI-DER) เป็นการแทนคา่ ในรูปแบบใหมท่ ่ีใช้สําหรับการมาสกิง้ มีข้อจํากดั อยมู่ าก และกอ่ ให้เกิดการใช้งานไอพีแอดเดรสอยา่ งไมม่ ีประสทิ ธิภาพ คือทําให้ สญู เสยี ไอพีแอดเดรสไปจํานวนมาก จงึ ได้มีแนวทางในการจดั สรรไอพีแอดเดรสแบบ ด้วยการเพ่ิมสญั ลกั ษณ์ “ / (Slash) “ แล้วตามด้วยขนาดของมาสก์ เช่น ไอพีแอดเดรส Classless Addressing ด้วยการมงุ่ เน้นจํานวนโฮสต์ท่ีต้องการใช้งานจริงเป็นสําคญั โดยไมม่ ี 128.10.0.0 ประกอบด้วย NetID ในสว่ นของ 16 บติ แรก และ HostID ใน 16 บิตหลงั การแบง่ แอดเดรสออกเป็นคลาส คือ การจดั สรรจํานวนไอพีแอดเดรสให้เหมาะสมกบั จํานวนท่ี ดงั นนั้ การแทนแอดเดรส ในรูปแบบของ CIDR สามารถเขียนได้ดงั นี ้128.10.0.0/16 ซงึ่ จะทําให้ นําไปใช้งานจริง เราสามารถทราบวา่ มาสก์ของแอดเดรสนีค้ ืออะไร 128.10.0.0 + NetID CIDR 128.10.0.0/16ตวั อย่าง ท่1ี ตวั อย่าง ท่1ี จากหมายเลข IP 194.17.10.0/27 จงหา วธิ ีคดิ 1. จํานวน Subnet จากโจทย์ IP 194.17.10.0/27 2. ในแตล่ ะ Subnet จงหา /27 แปลงเป็ นเลขฐาน 2 ถกู ยืมมา 3 bit 2.1 หมายเลข Network Address หรือ Subnet Address (คือตวั เดียวกนั ) 11111111.11111111.11111111.111/00000 2.2 Broadcast Address 2.3 ชว่ งหมายเลข IP ท่ีใช้งานได้ จากสตู รจํานวน Subnet = 2n โดยที่ n คือ bit ที่ยืม (bit 1) 3. หาหมายเลข Subnet mask แทนคา่ จากสตู ร จะได้ จํานวน Subnet = 23 = 8 subnet
ตัวอย่าง ท่1ี ตวั อย่าง ท่1ีจากโจทย์ IP 194.17.10.0/27 วธิ ีคดิ /27 แปลงเป็ นเลขฐาน 211111111.11111111.11111111.111/00000 จากโจทย์ IP 194.17.10.0/27Subnet maskถ้าดจู ากตารางคํานวณ /27 แปลงเป็ นเลขฐาน 2 บติ ท่เี หลือ 5 bitจะได้255.255.255.224 11111111.11111111.11111111.111/00000ตัวอย่าง ท่1ี จากสูตรจาํ นวน host/subnet = 2n โดยท่ี n คือ bit ท่ีเหลือ (bit 0) แทนคา่ จากสตู ร จะได้ จํานวน Subnet = 25 = 32 host/subnet ตวั อย่าง ท่1ี IP Broadcast Address (IP ตัวสุดท้ายของแต่ละ Subnet)
ตัวอย่าง ท่1ี หมายเหตุช่วงหมายเลข IP ที่ใชง้ านได้ - สตู รทวั่ ไปในการหาจํานวน subnet ที่จะเกิดขนึ ้ คือ 2n โดยท่ีคา่ n นนั้ ก็คือจํานวน host bit ท่ีถกู ยืมมาเป็ น subnet bit ที่เราหาได้มาจาก การเทียบ subnet maskตัวอย่าง ท่2ี แตถ่ ้าใช้สอบวชิ า network พืน้ ฐาน , สอบ ccna หรือ ใช้งาน กบั product ที่ไมใ่ ชข่ อง cisco สตู รท่ีใช้ในการหา subnet ก็คือ 2n-2Ex2. IP 10.10.10.0/13 เป็น IP ท่ีนําไป set ให้ host ได้หรือไม่ ที่ต้องหกั ออกไป 2 เพราะวา่ จะต้องตดั subnet แรก กบั subnet สดุ ท้ายออกไป เพราะตดิ เร่ือง zero subnet และ all 1s subnetวธิ ีคดิ - แตถ่ ้าใช้สอบ certify ตงั้ แต่ CCNP ขนึ ้ ไป หรือ ใช้งาน กบั product ของ cisco ซงึ่ ใช้ ios ลา่ สดุ สตู รท่ีใช้ในการหา subnet ก็คือ 2n เหมือนกบั อนั แรกเลยจากโจทย์ /13 แปลงเป็นเลขฐาน 2 ที่ไมต่ ้องมีการตดั subnet แรก และ subnet สดุ ท้ายออกไป ก็เพราะวา่ ปัจจบุ นั ios ของ cisco ท่ีใช้อยใู่ นอปุ กรณ์ ตงั้ แตเ่ วอร์ชน่ั 12.0 ขนึ ้ ไป มีคําสง่ั ip subnet zero ซง่ึ จะทําให้ใช้งาน ip ท่ี11111111.11111/000. 00000000.00000000 อยใู่ น subnet แรกได้และ พวก ip ท่ีอยใู่ น subnet สดุ ท้ายนนั้ ด้วย rfc ใหมๆ่ ก็กําหนดให้ สามารถใช้งานได้เชน่ กนัจากสตู รจํานวน Subnet = 2n โดยท่ี n คือ bit ท่ียืม (bit 1) ตวั อย่าง ท่2ีแทนคา่ จากสตู ร จากโจทย์ IP 10.10.10.0/13จะได้ จํานวน Subnet = 25 = 32 Subnet /13 แปลงเป็นเลขฐาน 2สตู รหา Host/Subnet = 2n 11111111.11111/000. 00000000.00000000แทนคา่ จากสตู ร โดยท่ี n คือ bit ที่เหลือ (bit 0) Subnet mask ถ้าดจู ากตารางคํานวณ จะได้ 255.255.255.248จะได้ จํานวน Host/Subnet = 23 = 8 Host
ตัวอย่าง ท่2ี 10.10.10.0 อยใู่ นช่วงนี ้ การคาํ นวณหาแอดเดรสซับเน็ตจากโจทย์ IP 10.10.10.0/13 46นํามาเขียนเป็นหมายเลข IP Address ได้ดงั นี ้10.0.0.0 – 10.7.255.255 การคํานวณหาแอดเดรสซบั เน็ต จะใช้ประโยชน์จากซบั เน็ตมาสก์และไอพี10.8.0.0 – 10.15.255.255 แอดเดรส โดยความยากงา่ ยในการคํานวณจะขนึ ้ อยกู่ บั คา่ ซบั เน็ตมาสก์วา่ เป็นคา่ ดีฟอลต์ หรือ เป็นคา่ ท่ีกําหนดเอง (Custom Subnet Mask) 1. การมาสก์แบบ Boundary-Level เป็นวธิ ีการตงั้ คา่ ซบั เน็ตมาสก์ตามคา่ ดีฟอลต์ของแตล่ ะ คลาส จะทําด้วยการกําหนดบิตเป็น 1 หรือ 0 ทงั้ หมดในแตล่ ะออคเทต ดงั นนั้ คา่ ที่เป็นไปได้ ตรงกบั เลขฐานสบิ คือ 0 หรือ 255 เทา่ นนั้IP 10.10.10.0/13 นําไป set ให้host ได้หรือไม่ตอบ ได้ การคาํ นวณหาแอดเดรสซับเน็ต การคาํ นวณหาแอดเดรสซับเน็ต47 48 2. การมาสก์แบบ Nonboundary-Level เป็นกรณีท่ีการมาสก์ไมไ่ ด้กําหนดเป็น 255 หรือ 0 Ex. Octed 1 Octed 2 Octed 3 Octed 4 ซง่ึ เป็นการกําหนดซบั เน็ตมาสก์แบบ Custom วธิ ีนีเ้ป็นตวั กําหนดจํานวนซบั เน็ต และจํานวน โฮสต์เองตามความเหมาะสม ดงั นนั้ ในการหาแอดเดรสซบั เน็ตจะมีความแตกต่างจากวิธีแรก IP Address 45 . 123 . 21 . 8 ดว้ ยการนําตําแหน่งออคเทตของมาสก์ทีม่ ีค่านอกเหนือจากไปเทียบบิตต่อบิตกบั ไอพีแอดเดรส ดว้ ยโอเปอร์เรชนั่ AND ซบั เน็ต Mask 255 . 192 . 0 . 0 0 AND 0 = 0 Subnetwork Address 45 . 64 . 0 . 0 0 AND 1 = 0 1 AND 0 = 0 123 = 0 1 1 1 1 0 1 1 AND 1 AND 1 = 1 192 = 1 1 0 0 0 0 0 0 64 = 0 1 0 0 0 0 0 0 ดงั นนั้ IP Address 45.123.21.8 ท่ีมีคา่ mask เป็น 255.192.0.0 จะมี Address Subnet คือ 45.64.0.0
การคาํ นวณ IP Address 50 ตารางช่วยคาํ นวณ เมื่อเราได้หมายเลข IP Address มา 1 ชดุ สงิ่ ท่ีจะบอกได้จาก IP Address ที่ได้มาคือ49 • Subnet Mask คือ อะไร • Network IP คือ อะไร 123 แปลงเป็นเลขฐาน 2 • Broadcast IP คือ อะไร 11111111 • Range host IP ท่ีสามารถนํามาใช้งานได้ มี IP อะไรบ้าง 27 26 25 24 23 22 21 20 • จํานวน Subnet , จํานวน hosts / Subnet 128 64 32 16 8 4 2 1 0 11 110 11 0 + 64 + 32 + 16 + 8 + 0 + 2 + 1 = 123 ( 0 1 1 1 1 0 1 1 )2Subnet Mask คืออะไร 51 วธิ ีการหา Subnet Mask 52เป็น Parameter ที่ระบคุ วบคกู่ บั หมายเลข IP Address หน้าที่ของ Subnet Mask คือช่วยใน /30 หมายถงึ mask 30 bits แรกแยกวา่ สว่ นใดภายในหมายเลข IP Address เป็น Network Address และสว่ นใดเป็นหมาย /27 หมายถงึ mask 27 bits แรกเลข Host Address ให้ทําการแปลง mask bit ที่กําหนดให้ เป็นคา่ Subnet MaskNetwork Class Subnet Mask วธิ ีการก็คือ bits ท่ีอยหู่ น้าตวั mask ให้แทนด้วยเลข 1 bits ที่อยหู่ ลงั ให้แทนด้วยเลข 0 Class A 255.0.0.0 Class B 255.255.0.0 Class C 255.255.255.0
วธิ ีการหา Subnet Mask 53 วธิ ีการหา Subnet Mask 54Ex. /30 จากโจทย์ คําตอบท่ีได้คือ /30 255.255.255.252/30 แปลงเป็นเลขฐาน 2 ได้ดงั นี ้ แตถ่ ้ามีตารางชว่ ย เราจะสามารถคํานวณหรือหา IP ได้เร็วขนึ ้11111111.11111111.11111111.111111/00 255 . 255 . 255 . 252111111/00 แปลงเป็นเลขฐาน 10 ได้ดงั นี ้(1 x 27) + (1 x 26) + (1 x 25) + (1 x 24) + (1 x 23) + (1 x 22) + (0 x 21) + (0 x 20)จะได้คา่ คือ 252วธิ ีการหา Subnet Mask 55 วธิ ีการหา Subnet Mask 56Ex. /27 Ex. /20/27 แปลงเป็นเลขฐาน 2 /20 แปลงเป็นเลขฐาน 211111111.11111111.11111111.111/00000 11111111.11111111.1111/0000.00000000จากโจทย์ คําตอบท่ีได้คือ /27 255.255.255.224 จากโจทย์ คําตอบที่ได้คือ /20 255.255.240.0
วธิ ีการหา Network IP และ Broadcast IP 57 วธิ ีการหา Network IP และ Broadcast IP 58Network IP คืออะไร Ex.1 192.168.22.50/30คือ IP ตวั แรกของ Subnet ปกตจิ ะนําไปใช้ประกาศเร่ืองของ จากโจทย์ /30 เม่ือแปลงเป็น Subnet Mask จะได้ 255.255.255.252Router จะไมส่ ามารถ set ให้กบั อปุ กรณ์หรือเครื่อง PC ได้ ขนั้ ตอ่ ไปหาวา่ จํานวน IP ตอ่ Subnet จากสตู ร หาจํานวน IP ตอ่ SubnetBroadcast IP คืออะไร 2n โดย n คือ bit ท่ีเหลอื (bit 0)คือ IP ตวั สดุ ท้ายของ Subnet ปกตจิ ะทําหน้าท่ี Broadcast จาก 11111111.11111111.11111111.111111/00ให้อปุ กรณ์ที่อยใู่ นวงเดียวกนั จะไมส่ ามารถ set ให้กบั อปุ กรณ์หรือเคร่ือง PC ได้ นําคา่ แทนในสตู รก็จะได้ 22 = 4 สรุปคือ จํานวน IP ตอ่ Subnet คือ 4 ตวัวธิ ีการหา Network IP และ Broadcast IP 59 วธิ ีการหา Network IP และ Broadcast IP 60 เทคนิค นํามาเขียนเป็นหมายเลข IP Address ได้ดงั นี ้ 192.168.22.0 – 192.168.22.3 192.168.22.4 – 192.168.22.7 192.168.22.50 192.168.22.8 – 192.168.22.11จาก 11111111.11111111.11111111.111111/00 ----------------------------------------เทียบตารางจะได้ 22 192.168.22.48 – 192.168.22.51ดงั นนั้ /30 จํานวน IP ในแตล่ ะ Subnet ท่ีเป็นไปได้คือ ----------------------------------------0-3 , 4-7,….,252-255 192.168.22.252 – 192.168.22.255
วธิ ีการหา Network IP และ Broadcast IP 61 62 จากโจทย์ 192.168.22.50/30 วธิ ีการหา Network IP และ Broadcast IP ตอบ 1. Network IP คือ 192.168.22.48 เทคนิคการหา IP ตัวแรกของ Subnet หรือ Network IP จากโจทย์ 192.168.22.50/30 2. Broadcast IP คือ 192.168.22.51 192.168.22.48 – 192.168.22.51 3. Range hosts IP ที่สามารถนําไปใช้งานได้ หรือจํานวน hosts Per Subnet คือ 192.168.22.49 – 192.168.22.50 วธิ ีการหา Network IP นอกเหนือจากการเขียนตามด้านบนแล้วยงั หาได้โดยวิธีการ นํามา set เป็น host ได้ 2 IP ปกตทิ ําได้โดยการนําเอา Subnet Mask มา AND กบั IP Address ท่ีให้มา หรือ หมายถงึ Address Subnet นน่ั เองวธิ ีการหา Network IP และ Broadcast IP 63 64 Ex.2 192.168.5.33/27 IP Address ใดบ้างท่สี ามารถนํามาใช้งานได้ ก.192.168.5.5 วธิ ีการหา Network IP และ Broadcast IP ข.192.168.5.32 ค.192.168.5.40 จากโจทย์ 192 .168.5.33/27 Subnet Mask จะได้ 255.255.255.224 ง.192.168.5.63 เม่ือดจู ากตาราง IP ตอ่ Subnet ก็จะเป็น 32 จ.192.168.5.75 ใช้วิธีลดั หา IP ตวั แรกก็จะได้ Network IP คือ 192 .168.5.32 และ Broadcast IP คือ 192 .168.5.63 คําตอบจงึ เป็นข้อ ค. 192.168.5.40
วธิ ีการหา Host ต่อ Subnet 65 วธิ ีการหาจาํ นวน Subnet 66การหาจาํ นวน host ต่อ Subnet จากคา่ Subnet Mask ท่ีให้มา จะใช้สตู ร 2n -2 การหาจาํ นวน Subnet จากคา่ Subnet Mask ในปัจจบุ นั ทกุ subnet สามารถใช้ได้ทงั้ หมดโดย n คือ bits ที่อยหู่ ลงั ตวั Mask สว่ นเลข 2 ที่ลบออกไปคือ Network IP และ Broadcast IP เนื่องจากเทคโนโลยีท่ีใช้มีการเพ่ิม IP Subnet Zero ไว้อยแู่ ล้ว โดยใช้สตู ร 2n โดย n คือ bitsEX.3 /30 11111111.11111111.11111111.111111/00 ท่ีอยหู่ น้าตวั Mask ถงึ ตําแหน่ง . (dot) ท่ีใกล้ท่ีสดุ หรือตําแหน่งท่ีระบไุ ว้หรือ 255.255.255.252จํานวน hosts/Subnet = 2n -2 = 22 -2 = 4-2 = 2 EX.4 /30 11111111.11111111.11111111.111111/00 หรือ 255.255.255.252จาํ นวนโฮสต์ต่อซับเน็ต = 2n - 2 จํานวน Subnet = 2n = 26 = 64 จาํ นวน Subnet = 2n เครือข่ายไอพภี ายใน (Private IP Network) Network Address Translation (NAT)67 68 เป็ นช่วงหมายเลขช่วงหน่ึงทสี่ งวนไว้สาํ หรับใช้งานภายใน ไม่ยุ่งเก่ียวกับเครือข่าย เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนหมายเลขไอพีแอดเดรส โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อทํา ภายนอก เรียกว่า ไพรเวทไอพีเน็ตเวริ ์ก (Private IP Network) โดยจะใช้งานภายในองค์กร การมลั ติเพลก็ ซ์จราจรจากเครือขา่ ยภายใน ให้สามารถออกไปยงั เครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตได้ ไมไ่ ด้เช่ือมตอ่ กบั อินเทอร์เน็ต และมีอปุ กรณ์เครือขา่ ย เชน่ เร้าเตอร์หรือ เกตเวย์ทําการกนั หลักการทาํ งานของ NAT คือ จะทําการแปลงหมายเลขไพรเวตไอพีมาเป็นไอพีแอดเดรส หมายเลขไอพีภายในไว้ ไมใ่ ห้เช่ือมโยงไปยงั เครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต จริง เพ่ือให้เครือขา่ ยภายในสามารถตดิ ตอ่ กบั อนิ เทอร์เน็ตได้ NAT มีหลายประเภท และมีลักษณะการทาํ งานท่แี ตกต่างกัน ดังนี้ นอกจากนีย้ งั มี loopback address ซงึ่ เป็นหมายเลขไอพีพิเศษ สําหรับทดสอบหรือหา ข้อผิดพลาด โดยแพก็ เก็กที่สง่ ด้วย loopback address จะไมม่ ีการข้ามเครือขา่ ย แตจ่ ะ Private IP NAT Public IP ย้อนกลบั มายงั เคร่ืองท่ีสง่ เองสาํ หรับ loop back ที่นิยมใช้ คือ หมายเลข 127.0.0.1
Network Address Translation (NAT)Private Network Public Network Network Address Translation (NAT)69Private NetworkPublic Network 70 1. NAT แบบสแตตกิ (Static NAT) 2. NAT แบบไดนามกิ (Dynamic NAT) หลกั การของ NAT แบบสเตติก คือ จะจบั ครู่ ะหวา่ ง Private IP กบั Public IP แบบ หลกั การของ NAT แบบไดนามิก จะตา่ งจากแบบสเตตกิ ตรงที่ การแปลง Private IP มา หนง่ึ ตอ่ หนงึ่ (one-to-one) เช่น คอมพิวเตอร์ IP เบอร์ 192.168.32.10 เมื่อเชื่อมตอ่ เป็น Public IP ที่จดทะเบียน จะจบั คแู่ บบไดนามิกด้วยการหมนุ เวียนชนิดไมต่ ายตวั โดยจะได้ อนิ เทอร์เน็ตผา่ น NAT จะได้ Public IP หมายเลข 213.18.123.110 เสมอซงึ่ จะเห็นวา่ Private IP ชว่ งแบบไมซ่ ํา้ กนั NAT แบบสเตตกิ ไมไ่ ด้ช่วยประหยดั หมายเลขไอพีจริงแตอ่ ยา่ งใดการจบั คแู่ บบตายตวั ระหวา่ ง Ex. คอมพิวเตอร์ที่ใช้ไอพีแอดเดรส 192.168.32.10 Private IP กบั Public IP จะทําให้บคุ คลภายนอกสามารถเข้าถงึ เครือขา่ ยเพื่อเข้าถงึ การ เมื่อมีการเชื่อมตอ่ อินเทอร์เน็ตผา่ น NAT เบอร์ไอพีที่ได้สามารถมีคา่ ภายในช่วง ใช้งานภายเคร่ืองคอมพิวเตอร์ภายในเครือขา่ ยได้ 213.18.123.100 ถงึ 213.18.123.150 ซงึ่ ไอพีแอดเดรสที่ได้แตล่ ะครัง้ อาจเป็นเบอร์ใดเบอร์ หนง่ึ ท่ีอยใู่ นชว่ งการ NAT แบบไดนามิก เป็นความปลอดภยั แนวทางหนง่ึ ในการปิ ดบงั โฮสต์ Router/NAT ภายในเครือขา่ ย เพื่อป้ องกนั บคุ คลภายนอกเข้ามาตรวจสอบค้นหาร่องรอยจากโฮสต์ภายในได้ แตก่ าร NAT แบบไดนามิกก็ยงั ไมช่ ่วยประหยดั หมายเลขไอพี Network Address Translation (NAT) Network Address Translation (NAT)71 72 Dynamic NAT 3. NAT แบบโอเวอร์โหลดดงิ้ (Overloading NAT) Router/NAT หลกั การของ NAT แบบโอเวอร์โหลดดงิ ้ คือ เม่ือคอมพิวเตอร์บนเครือขา่ ยภายในต้องการ เชื่อมตอ่ อินเทอร์เน็ต จะถกู แปลงมาเป็น Public IP เพียงหมายเลขเดียว แตจ่ ะมีหมายเลขพอร์ต ที่แตกตา่ งกนั ดงั นนั้ ด้วยหลกั การนี ้ ทําให้สามารถประหยดั หมายเลขไอพีได้มาก เนื่องจากเครือขา่ ยภายในทงั้ หมด จะใช้หมายเลขไอพีจริงเพียงหมายเลขเดียวเท่านนั้ ใน การเช่ือมตอ่ กบั อนิ เทอร์เน็ต Ex. คอมพิวเตอร์ท่ีใช้ไอพีแอดเดรส 192.168.32.10 เมื่อมีการเช่ือมตอ่ อินเทอร์เน็ตผา่ น NAT เบอร์ไอพีที่ได้คือ 213.18.123.100:101 สว่ นคอมพิวเตอร์ไอพีแอดเดรส 192.168.32.11 เม่ือเช่ือมตอ่ อินเทอร์เน็ตผา่ น NAT เบอร์ไอพีที่ ได้ คือ 213.18.123.100:102
Network Address Translation (NAT)Private Network Public Network Network Address Translation (NAT)73Private Network Public Network 74 Overloading NAT 4. NAT แบบโอเวอร์แลปปิ้ง (Overlapping) เทคนิคของ NAT แบบโอเวอร์แลปปิ ง้ จะถกู นํามาใช้ในกรณีที่เครือขา่ ยภายในมีการนํา Public IP Router/NAT มาใช้ ซงึ่ ไอพีแอดเดรสนนั้ เป็นของเครือขา่ ยอื่น หรือมีการเปล่ียน ISP รายใหมท่ ําให้ได้รับ หมายเลข ไอพีท่ีจดทะเบียนใหมแ่ ทนที่หมายเลขไอพีเดิม แตไ่ มต่ ้องการคอนฟิ ก Network Address Translation (NAT) หมายเลขไอพีภายในเครือขา่ ยทงั้ หมด และด้วยเทคนิคการ NAT แบบโอเวอร์แลปปิ ง้ ก็จะแปลง Public IP ที่เป็นหมายเลขเดมิ มาเป็น Public IP ที่ได้จดทะเบียนไว้ เพื่อให้สามารถติดตอ่ กบั75 อนิ เทอร์เน็ตได้ Ex. คอมพิวเตอร์มีหมายเลขภายใน 237.16.32.10 เม่ือมีการเชื่อมตอ่ อินเทอร์เน็ตผา่ น NAT Overloading NAT จะได้หมายเลข Public IP เป็น 213.18.123.103 Router/NAT โปรโตคอลอ่ืนๆ ในชัน้ ส่ือสารเน็ตเวริ ์ก (Other Protocols In The Network Layer) 76 นอกจากโปรโตคอล IP ท่ีเป็นโปรโตคอลสาํ คญั ในชนั้ สื่อสารเน็ตเวริ ์กแล้ว ชนั้ สอ่ื สารนีย้ งั สนบั สนนุ โปรโตคอลอื่นๆ เช่น ARP, RARP, ICMP 1. โปรโตคอล ARP (Address Resolution Protocol) จะทํางานร่วมกบั โปรโตคอล IP ด้วยการแปลงไอพีแอดเดรสมาเป็นแมคแอดเดรส ซง่ึ จะถกู ใช้งานเม่ือคอมพิวเตอร์ต้นทาง ต้องการทราบแมคแอดเดรส เครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางเมื่อโฮสต์หรือเร้าเตอร์ต้องการค้นหา ฟิ สคิ ลั แอดเดรสบนเครือขา่ ย จะมีการตรวจสอบข้อมลู ดงั กลา่ วจากหน่วยความจําแคชของ ARP ก่อนวา่ ไอพีแอดเดรสนีต้ รงกบั แมคแอดเดรสของเครื่องปลายทางเคร่ืองใด หากค้นพบ สามารถ นําข้อมลู ไปใช้ได้ทนั ที
โปรโตคอลอ่ืนๆ ในชัน้ ส่ือสารเน็ตเวริ ์ก โปรโตคอลอ่ืนๆ ในชัน้ ส่ือสารเน็ตเวริ ์ก (Other Protocols In The Network Layer) (Other Protocols In The Network Layer) 7877 กลไกการทาํ งานของ ARP กลไกการทาํ งานของ ARP 2.1 เฉพาะเครื่องที่มี IP Address ตรงกบั ที่ระบใุ น ARP Packet จะตอบกลบั มาด้วย ARP การทํางานของ ARP เป็นเรื่องไมซ่ บั ซ้อน มีเพียง 2 ขนั้ ตอนเทา่ นนั้ คือ Packet เช่นกนั โดยใส่ MAC Address และ IP Address ของตนเองเป็นผ้สู ง่ และใส่ 1.1 เครื่องที่ต้องการสอบถาม MAC Address สง่ ARP packet เรียกวา่ ARP Request MAC Address และ IP Address ของเคร่ืองท่ีสง่ มาเป็นผ้รู ับ packet ที่ตอบกลบั นีเ้รียกวา่ ซงึ่ บรรจุ IP , MAC Address ของตนเอง และ IP Address ของเคร่ืองท่ีต้องการทราบ MAC ARP Reply Address สว่ น MAC Address ปลายทางนนั้ จะถกู กําหนดเป็น FF:FF:FF:FF:FF:FF ซง่ึ เป็น Broardcast Address เพื่อให้ ARP packet ถกู สง่ ไปยงั เคร่ืองทกุ เคร่ืองท่ีอยใู่ นเน็ตเวริ ์คเดียวกนั ARP Request จะถกู สง่ ไปยงั เครื่องทกุ เคร่ืองในเน็ตเวริ ์ค ARP Reply จะถกู ตอบกลบั มาจากเครื่องที่มี IP Address เพ่ือบอก MAC Address ของตนเอง โปรโตคอลอ่ืนๆ ในชัน้ ส่ือสารเน็ตเวริ ์ก โปรโตคอลอ่ืนๆ ในชัน้ ส่ือสารเน็ตเวริ ์ก (Other Protocols In The Network Layer) (Other Protocols In The Network Layer)79 80 2. โปรโตคอล RARP (Reverse Address Resolution Protocol) จะมีการทํางานท่ี 4. โปรโตคอล IGMP (Internet Group Message Protocol) สามารถแบง่ ออกเป็น คล้ายกบั โปรโตคอล ARP แตจ่ ะทํางานในลกั ษณะตรงกนั ข้าม ด้วยการแปลงแมคแอดเดรสมา 2 ชนิด คือ แบบยนู ิคาสตงิ ้ (Unicasting) และมลั ตคิ าสตงิ ้ (Multicasting) โดยยนู ิคาสติง้ เป็นการ เป็ นไอพีแอดเดรส สอื่ สารระหวา่ งฝ่ ายสง่ และฝ่ ายรับเป็นการสอื่ สารแบบหนงึ่ ตอ่ หนง่ึ (one to one communication) ในบางครัง้ จําเป็นต้องมีการสง่ เมสเสจเดียวกนั นีไ้ ปยงั ผ้รู ับหลายๆ คน หรือ 3. โปรโตคอล ICMP (Internet Control Message Protocol) เป็นกลไกท่ีใช้โดย หลายๆ กลมุ่ ดงั นนั้ จงึ จําเป็นต้องสง่ ข้อมลู ด้วยวิธีมลั ตคิ าสติง้ ซง่ึ เป็นการสื่อสารแบบหนง่ึ ตอ่ เร้าเตอร์และโหนด เพื่อรายงานความผิดพลาดท่ีเกิดขนึ ้ กลบั ไปยงั โฮสต์ฝ่ ายสง่ รับทราบ โดยไอพี กลมุ่ (one to many communication) ดาต้าแกรมที่สง่ ไปยงั เครือขา่ ยผา่ นไปยงั เร้าเตอร์ตา่ งๆ และเร้าเตอร์ไมส่ ามารถสง่ ข้อมลู เหลา่ นนั้ ไปยงั ปลายทางได้ อนั เนื่องมาจากเกิดปัญหาบางประการขนึ ้ มา ปัจจบุ นั ได้มีแอปพลเิ คชนั มากมายที่ใช้สําหรับเพ่ือการนี ้แตอ่ ยา่ งไรก็ตาม ไอพีก็สนบั สนนุ วธิ ีการสง่ แบบมลั ติคาสตงิ ้ เช่น หมายเลขไอพีแบบมลั ตคิ าสต์ท่ีใช้ในอนิ เทอร์เน็ตโปรโตคอล คลาส D โดย 4 บติ แรก (High-OrderBit) ที่เร่ิมต้นด้วย 1110 จะใช้กําหนดกลมุ่ ของโฮสต์มลั ติ คาสต์ และด้วยการสง่ ข้อมลู แบบมลั ตคิ าสต์บนเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต ก็จะทําให้ข้อมลู เพียงชดุ เดียวท่ีมาจากฝ่ ายสง่ จะมาถงึ กลมุ่ ผ้รู ับหลายๆ คน หรือเป็นกลมุ่ สมาชิกได้ด้วยการสง่ ข้อมลู ผา่ น เครือขา่ ยเพียงครัง้ เดียว ทําให้ลดแบนด์วดิ ธ์ลงได้มาก
การส่งข่าวสารบนเครือข่าย ไอพเี วอร์ช่ัน 6 (IPv6)81 82 คําศพั ท์ที่นํามาใช้เพื่อการสง่ ขา่ วสารบนเครือขา่ ย ประกอบด้วย IPv6 คืออะไร ? หมายเลข IP address ที่เราใช้กนั ทกุ วนั นี ้คือ Internet Protocol version 4 (IPv4) ซง่ึยนู ิคาสต์ (Unicast) สง่ ขา่ วสารไปยงั โหนดใดโหนดหนง่ึ บนเครือขา่ ยโดยเฉพาะ ใช้เป็นมาตรฐานในการสง่ ข้อมลู ในเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตตงั้ แตป่ ี ค.ศ. 1981 ทงั้ นีก้ ารขยายตวัมลั ติคาสต์ (Multicast) กระจายขา่ วสารไปยงั โหนดใดโหนดหนงึ่ บนเครือขา่ ยท่ีเป็น ของเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตในช่วงที่ผา่ นมามีอตั ราการเตบิ โตอยา่ งรวดเร็ว นกั วจิ ยั เริ่มพบวา่สมาชิกเดียวกนั จํานวนหมายเลข IP address ของ IPv4 กําลงั จะถกู ใช้หมดไป ไมเ่ พียงพอกบั การใช้งาน อนิ เทอร์เน็ตในอนาคต และหากเกิดขนึ ้ ก็หมายความวา่ เราจะไมส่ ามารถเช่ือมตอ่ เครื่อขา่ ยเข้ากบับรอดคาสต์ (Broadcast) เผยแพร่ขา่ วสารไปยงั ทกุ ๆ โหนดบนเครือขา่ ย ระบบอนิ เทอร์เน็ตเพ่ิมขนึ ้ ได้อีก ดงั นนั้ คณะทํางาน IETF (The Internet Engineering Task Force) ซง่ึ ตระหนกั ถงึ ปัญหาสําคญั ดงั กลา่ ว จงึ ได้พฒั นาอนิ เทอร์เน็ตโพรโตคอลรุ่นใหมข่ นึ ้ คือ รุ่นท่ีหก (Internet Protocol version 6; IPv6) เพื่อทดแทนอนิ เทอร์เน็ตโพรโตคอลรุ่นเดมิ ไอพเี วอร์ช่ัน 6 (IPv6) ไอพเี วอร์ช่ัน 6 (IPv6)83 84 วัตถุประสงค์ของ IPv6 ประวัติ IPv6 เพ่ือปรับปรุงโครงสร้างของตวั โพรโตคอล ให้รองรับหมายเลขแอดเดรส IPv6 ถกู เริ่มใช้มาเป็นเวลาหลายปี แล้ว เพียงแตไ่ มไ่ ด้ใช้กนั อยา่ งแพร่หลาย ในประเทศ จํานวนมาก และปรับปรุงคณุ ลกั ษณะอ่ืนๆ อีกหลายประการ ทงั้ ในแงข่ องประสทิ ธิภาพและ เกาหลี และญ่ีป่ นุ ได้มีการใช้ IPv6 ในเครือขา่ ย ISP หลายแหง่ ในประเทศไทยยงั ไมม่ ีการใช้ ความปลอดภยั รองรับระบบแอพพลเิ คชน่ั (application) ใหมๆ่ ท่ีจะเกิดขนึ ้ ในอนาคต และเพ่ิม IPv6 ในเชิงพาณิชย์ มีแตใ่ นเครือขา่ ยทดสอบของหน่วยงานวิจยั และมหาวทิ ยาลยั ตา่ งๆ” ประสทิ ธิภาพในการประมวลผลแพ็กเก็ต (packet) ให้ดีขนึ ้ ทําให้สามารถตอบสนองตอ่ การ ประโยชน์หลกั ของ IPv6 และเป็นเหตผุ ลสาํ คญั ของการเริ่มใช้ IPv6 ได้แก่ จํานวน IP address ที่ ขยายตวั และความต้องการใช้งานเทคโนโลยีบนเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตในอนาคตได้เป็นอยา่ งดี เพ่ิมขนึ ้ อยา่ งมากมายมหาศาลเมื่อเปรียบเทียบกบั จํานวน IP address เดมิ ภายใต้ IPv4 IPv4 address มี 32 บิต ในขณะที่ IPv6 address มี 128 บติ ความแตกตา่ งของจํานวน IP address มีมากถงึ 296 เทา่ เปรียบเทียบรูปแบบของ IPv6 และ IPv4 address
ไอพเี วอร์ช่ัน 6 (IPv6) ไอพเี วอร์ช่ัน 6 (IPv6)85 86 การเขียนเลข IPv4 เชน่ 192.168.1.1 มาจากเลขฐานสองจํานวน 32 บิต ซงึ่ เวลาอ้างถงึ การเร่ิมใช้ IPv6 IP address จะใช้วธิ ีเปลี่ยนเป็นเลขฐานสบิ โดยแบง่ เลขฐานสอง 32 บิต ออกเป็นช่วง ๆ ละ 8 การนํา IPv6 มาใช้ ควรจะเป็นไปอยา่ งคอ่ ยเป็นคอ่ ยไป เน่ืองจากการปรับเปลี่ยน บติ 4 ช่วง แล้วจงึ แปลงเลขฐานสอง 8 บติ เป็นเลขฐานสบิ แตล่ ะช่วงคน่ั ด้วย “.” อนิ เทอร์เน็ตโพรโตคอลจะสง่ ผลกระทบตอ่ เครือขา่ ยทวั่ โลกที่เช่ือมตอ่ กนั อยู่ ดงั นนั้ การ11000000 10101000 00000001 000000001 192.168.1.1 ปรับเปล่ียนไปสเู่ ครือขา่ ย IPv6 ล้วน อาจใช้ระยะเวลานาน เพราะเหตนุ ี ้ทาง IETF จงึ เสนอ ทางออกเพื่อช่วยในการทํางานร่วมกนั ระหวา่ ง IPv4 และ IPv6 ในระหวา่ งท่ีเครือขา่ ยบางแหง่ เร่ิม แสดงแอดเดรสของ IPv4 มีการปรับเปลี่ยนในช่วงแรก การใช้งาน IPv6 อาจอยใู่ นวงแคบ ดงั นนั้ ต้องใช้เทคนิคเพ่ือ เชื่อมตอ่ เครือขา่ ยที่เป็น IPv6 เข้ากบั เครือขา่ ย IPv4 หรือเครือขา่ ย IPv6 อื่น เทคนิคการทํางาน การเขียนเลข IPv6 ประกอบด้วยเลขฐานสองจํานวน 128 บิต โดยใช้เลขฐาน 16 แทน ร่วมกนั ระหวา่ ง IPv4 และ IPv6 แบง่ ออกเป็น 3 ประเภทด้วยกนัฐาน 10 เพราะ 4 บิตของเลขฐานสองแปลงเป็นเลขฐาน 16 ได้ 1 หลกั พอดี ดงั นนั้ เลข IP ก็จะเป็นเลขฐาน 16 จํานวน 32 หลกั และเพื่อให้สงั เกตได้งา่ ยจงึ ใช้ “:” คนั่ แตล่ ะ 4 หลกั ของเลขฐาน 16 3ffe : ffff : 0100 : f101 : 0210 : 94ff : fee3 : 9566แสดงแอดเดรสของ IPv6 เทคนิคการแปลง IPv4 เป็ น IPv6 เทคนิคการแปลง IPv4 เป็ น IPv687 88 1. การทาํ dual stack โพรโตคอลของการใช้สแตก็ คู่ จะทําใด้โฮสต์สามารถใช้งานได้ทงั้ IPv4 2. Tunneling เป็นการตดิ ตอ่ กนั ระหวา่ งโฮสต์ IPv6 2 ตวั ต้นทางกบั ปลายทาง แตจ่ ะต้อง และ IPv6 โดยในการทํางานจะมีการสง่ แพก็ เก็ตออกไปถามโฮสต์ปลายทางวา่ ใช้ IP เวอร์ชนั สง่ แพ็กเก็ตผา่ น IPv4 ดงั นนั้ เม่ือสง่ แพก็ เก็ตผา่ น IPv4 จะต้องใช้แอด็ เดรสของ IPv4 ด้วย ไหน ซง่ึ โฮสต์ต้นทางจะต้องสง่ แพก็ เก็ตออกไปถาม DNS(Domain Name System)ก่อน ถ้า โดยแพก็ เก็ตจะต้องถกู เอน็ แคปซเู ลต เป็น IPv4 ก่อน แล้วจงึ เดินทางผา่ น IPv4 ได้ DNS สง่ แอดเดรสเป็น IPv4 มาแสดงวา่ โฮสต์ต้นทางจะต้องสง่ แพ็กเก็ตเป็น IPv4 และถ้า DNS เม่ือออกจากเครือขา่ ย IPv4 แล้วจงึ ดีแคปซเู ลตเป็น IPv6 เหมือนเดิม สง่ แอดเดรสเป็น IPv6 มาแสดงวา่ โฮสต์ต้นทางจะต้องสง่ แพ็กเก็ตเป็น IPv6 ไปยงั ปลายทาง
เทคนิคการแปลง IPv4 เป็ น IPv6 ไอพเี วอร์ช่ัน 6 (IPv6)89 90 3. Header Translation การตดิ ตอ่ ระหวา่ ง IPv6 กบั IPv4 จะต้องมีการเปล่ยี นโครงสร้างของ ต้องการข้อมูลเพ่มิ เตมิ เก่ยี วกับบริการ IPv6 ของISP ต่างๆ ในประเทศไทย จะหา เฮดเดอร์ทงั้ หมดโดยใช้ตวั แปลงเฮดเดอร์ ซง่ึ จะทําหน้าที่แปลงเฮดเดอร์ IPv6 เป็น IPv4 ได้จากท่ไี หน? เวบไซต์เหลา่ นีใ้ ห้ข้อมลู เกี่ยวกบั ความก้าวหน้าและบริการด้าน IPv6 ของ ISP แตล่ ะแหง่ ดงั นี ้ CAT : http://web.ipv6.cattelecom.com InternetThailand : http://www.v6.inet.co.th CS-Loxinfo : http://www.ipv6.loxinfo.net.th TRUE (AsiaInfonet) : http://www.v6.trueinternet.co.th NECTEC : http://www.ipv6.nectec.or.th ไอพเี วอร์ช่ัน 6 (IPv6) สรุป91 92 อนิ เทอร์เน็ตโพรโตคอล IPv6 มีข้อดที ่เี หนือกว่าอนิ เทอร์เน็ตโพรโตคอล IPv4 ดังนี้ TCP/IP จะกําหนดท่ีอยดู่ ้วยไอพีแอดเดรส โดยไอพีแอดเดรสคอื ชดุ ตวั เลขฐานสองขนาด 32 บติ (IPv4) ท่ีใช้กําหนดที่อยขู่ องโฮสต์ ซงึ่ มีความสาํ คญั ตอ่ กลไกในการสอื่ สารจากโฮสต์หนงึ่ มีจํานวนหมายเลขอ้างอิงบนเครือขา่ ยหรือไอพีแอดเดรสท่ีมากกวา่ ไปยงั อีกโฮสต์หนง่ึ ในระบบสอ่ื สาร มีรูปแบบเฮดเดอร์ของตวั โพรโตคอลท่ีเรียบงา่ ยและยืดหยนุ่ กวา่ ทําให้ประสทิ ธิภาพดีขนึ ้ ใน หลาย ๆ ด้าน ไอพแี อดเดรส จะถกู แบง่ ออกเป็น 2 สว่ นด้วยกนั คือ NetID และ HostID โดย NetID จะชี ้ สนบั สนนุ แนวคดิ การค้นหาเส้นทางแบบลาํ ดบั ชนั้ สง่ ผลให้ตารางการค้นหาเส้นทางใน ระบเุ ครือขา่ ยท่ีคอมพิวเตอร์เช่ือมตอ่ ในขณะที่ HostID จะชีร้ ะบตุ ําแหน่งของอปุ กรณ์ เครือขา่ ยแบก็ โบนมีขนาดเลก็ สนบั สนนุ การสร้างคณุ ภาพของบริการ (Quality of Service, QoS) ไอพีแอดเดรสเป็นเพียงลอจิคอลแอดเดรส ซงึ่ ไมใ่ ช่เป็นหมายเลขที่ใช้อ้างอิงโฮสต์หนงึ่ โฮสต์ใด สนบั สนนุ การตดิ ตงั้ ปรับแตง่ ระบบแบบอตั โนมตั ิ (Serverless Autoconfiguration) การ จริงๆ แตก่ ารอ้างองิ ถงึ ตําแหน่งจริงๆ ของโฮสต์จะใช้หมายเลขแมคแอดเดรสบนการ์ดเครือขา่ ย ปรับเปล่ยี นแอดเดรส (Renumbering) การเช่ือมตอ่ หลายผ้ใู ห้บริการ (Multihoming) และ ซง่ึ เป็นฟิ สคิ ลั แอดเดรส Plug-and-Play สนบั สนนุ กลไกการรักษาความปลอดภยั บนพืน้ ฐานของ IPSec (IP Security) สนบั สนนุ การสอื่ สารด้วยไอพีแบบเคลอ่ื นท่ี (Mobile IP) มีการปรับปรุงความสามารถในการ ตดิ ตอ่ แบบมลั ตคิ าสต์ (Multicast)
สรุป สรุป93 94 เพ่ือให้ไอพีแอดเดรสงา่ ยตอ่ การอา่ นและจดจํา จงึ มีการแทนเคร่ืองหมายในรูปแบบของ การทาํ ซับเน็ต คือการแบง่ สว่ นเครือขา่ ยออกเป็นเครือขา่ ยยอ่ ยๆ ดงั นนั้ จงึ ต้องมีการแบง่ ไอพีเลขฐานสบิ และใช้จดุ ทศนิยมเป็นตวั คน่ั ระหวา่ งไบต์ แอดเดรสออกเป็น 3 ระดบั ด้วยกนั คือ 1) NetID ใช้ระบไุ ซต์, 2) SubNetID ใช้ระบฟุ ิ สคิ ลั ซบั เน็ตเวริ ์ก 3) หมายเลขโฮสต์ รูปแบบของคลาสที่ใช้งานมีอยู่ 5 คลาสด้วยกนั คือ คลาส A, B, C, D และ E Class A สามารถมีจํานวนเครือขา่ ย 126 เครือขา่ ย และมีจํานวนโฮสต์เชื่อมตอ่ มากถงึ ซับเน็ตมาสก์หรือมาสกงิ้ เป็นกระบวนการที่บอกให้รู้วา่ เครือขา่ ยของเราได้มีการแบง่ เป็น16,777,214 โฮสต์ โดย Class A มีจํานวนเครือขา่ ยน้อย แตม่ ีโฮสต์เช่ือมตํ่าจํานวนมาก ซบั เน็ต มีบิตที่ใช้แบง่ ซบั เน็ตจํานวนก่ีบติ และใช้ตําแหนง่ ใดเพื่อระบเุ ป็นหมายเลขเครือขา่ ยยอ่ ย Class B สามารถมีจํานวนเครือขา่ ย 16,382 เครือขา่ ย และมีจํานวนโฮสต์เชื่อมตอ่ มากถงึ65,534 โฮสต์ โดย Class B มีจํานวนเครือขา่ ยและมีโฮสต์เช่ือมตอ่ จํานวนปานกลาง คา่ ของซบั เน็ตมาสก์ในแตล่ ะคลาส ปกตจิ ะมีการระบคุ า่ ใว้อยแู่ ล้ว ซงึ่ เรียกวา่ คา่ Default Class C สามารถมีจํานวนเครือขา่ ย 2,097,150 เครือขา่ ย และมีจํานวนโฮสต์เชื่อมตอ่ 254 หลกั การจดั สรรไอพีแอดเดรสแบบ Classless จะไมม่ ีการแบง่ แอดเดรสออกเป็นคลาสเหมือนโฮสต์ โดย Class C มีจํานวนเครือขา่ ยมาก แตม่ ีโฮสต์เช่ือมตอ่ น้อย แบบ Classful แตจ่ ะมงุ่ ประเดน็ ไปท่ีการจดั สรรจํานวนไอพีแอดเดรส ให้เหมาะสมกบั จํานวน โฮสต์ท่ีต้องการนําไปใช้งานจริงๆ เป็นหลกั เพื่อให้การจดั สรรเป็นไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ และยงั คงเหลือหมายเลขไอพีสําหรับบริการแกล่ กู ค้ารายอื่นๆ ได้ตอ่ ไป สรุป สรุป95 96 CIDR (CI-DER) เป็นการแทนคา่ ท่ีใช้สาํ หรับการทํามาสกิง้ ด้วยการเพิ่มสญั ลกั ษณ์ / (Slash) ไอพีแอดเดรสทงั้ คลาส A, B และ C จะมีชดุ แอดเดรสอยกู่ ลมุ่ หนงึ่ ท่ีสงวนไว้ใช้งานบนแล้วตามด้วยขนาดของมาสก์ เชน่ 128.211.0.16/28 เครือขา่ ยภายในท่ีเรียกวา่ Private IP โดยเครือขา่ ยท่ีใช้งานหมายเลขเครือขา่ ยภายในเหลา่ นี ้ จะไมส่ ามารถเช่ือมโยงเข้ากบั เครือขา่ ยภายนอกอยา่ งอินเทอร์เน็ตได้ ถงึ แม้หลกั การโดยทว่ั ไป การคาํ นวณหาแอดเดรสซับเน็ต จะใช้ประโยชน์จากซบั เน็ตมาสก์และไอพีแอดเดรส ทงั้ นี ้ ของเครือขา่ ย Private IP คือการเชื่อมโยงเครือขา่ ยภายในที่ไมส่ ามารถเข้าถงึ เครือขา่ ยภายนอกความยากงา่ ยในการคํานวณขนึ ้ อยกู่ บั คา่ ซบั เน็ตมาสก์วา่ เป็นคา่ ดีฟอลต์ หรือเป็นคา่ ซบั เน็ต อยา่ งอนิ เทอร์เน็ตได้ แตก่ ็มีกระบวนการอินเตอร์เฟซที่เรียกวา่ NAT (Network Addressมาสก์ ที่กําหนดขนึ ้ เอง Translation) ซง่ึ จะแปลง Private IP มาเป็น Public IP (IP Address จริง) เพื่อให้เครือขา่ ย ภายในสามารถติดตอ่ กบั อินเทอร์เน็ตได้ การมาส์แบบ Nonboundary-Level เป็นการกําหนดคา่ ซบั เน็ตมาสก์แบบ Custom วิธีนีจ้ ะใช้คา่ ซบั เน็ตมาสก์เป็นตวั กําหนดจํานวนซบั เน็ต และจํานวนโฮสต์ขนึ ้ เองตามความเหมาะสม NAT มีอยหู่ ลายประเภทด้วยกนั ซงึ่ ประกอบด้วย NAT แบบสเตตกิ ไดนามิก โอเวอร์โหลดดิง้ดงั นนั้ ในการหาแอดเดรสซบั เน็ตจงึ มีขนั้ ตอนการหาที่ยงุ่ ยากกวา่ ซงึ่ จะใช้โอเปอเรชนั่ AND และโอเวอร์แลปปิ ง้ โดย NAT แบบโอเวอร์โหลดดิง้ จะเป็นวธิ ีท่ีสามารถประหยดั หมายเลขไอพีได้ในการเปรียบเทียบบิตตอ่ บติ ระหวา่ งไอพีแอดเดรสและซบั เน็ตมาสก์
สรุป สรุป97 98 หมายเลขไอพี 127.0.0.1 เป็น Loopback Address ที่นํามาใช้สําหรับทดสอบหรือหาข้อผิด IPv4 ที่ใช้งานอยใู่ นปัจจบุ นั ใกล้จะเตม็ หมดแล้ว ดงั นนั้ จงึ ต้องมีการวางแผนเพ่ือนํา IPv6 มาพลาดโดยแพ็กเก็กที่สง่ ด้วย Loopback Address นีจ้ ะไมม่ ีการสง่ ข้ามไปยงั เครือขา่ ยอ่ืนๆ แตจ่ ะ ใช้งานในอนาคต ทงั้ นี ้IPv6 จะมีขนาดแอดเดรส 128 บิต ซง่ึ มากกวา่ IPv4 ถงึ 4 เทา่ ตวั ทําให้ย้อนกลบั มายงั ตนเอง รองรับอตั ราการใช้งานท่ีเตบิ โตอยา่ งตอ่ เน่ืองในอนาคตได้ โปรโตคอล ARP จะทําหน้าที่ในการแปลงไอพีแอดเดรสมาเป็นแมคแอดเดรส คณุ ลกั ษณะสาํ คญั ของ IPv6 ที่แตกตา่ งไปจาก IPv4 คือ ขนาดของแอดเดรส รูปแบบของ โปรโตคอล RARP จะทําหน้าที่ในการแปลงแมคแอดเดรสบนการ์ดเครือขา่ ยมาเป็นไอพี เฮดเดอร์ สว่ นขยายของเฮดเดอร์ การสนบั สนนุ ข้อมลู ออดิโอและวิดีโอ และสว่ นขยายไปยงั โปร-แอดเดรส โตคอล โปรโตคอล ICMP จะใช้สาํ หรับรายงานข้อผิดพลาดไปยงั โฮสต์ฝ่ ายสง่ เพ่ือให้รับทราบถงึปัญหาที่เกิดขนึ ้ โครงสร้าง IPv6 มีการแบง่ ออกเป็น 2 สว่ นหลกั ๆ ด้วยกนั คือ Base Header และ Payload โปรโตคอล IGMP จะสนบั สนนุ วิธีการสง่ ข้อมลู แบบมลั ติคาสตงิ ้ ด้วยการสง่ ข้อมลู ชดุ เดียว ทงั้ นีใ้ นสว่ นของ Payload ยงั ประกอบไปด้วยสว่ นขยายของเฮดเดอร์ (ซงึ่ อาจมีหรือไมม่ ีก็ได้)ไปยงั กลมุ่ ผ้รู ับปลายทางท่ีเป็นกลมุ่ สมาชิกเดียวกนั ทําให้ลดแบนด์วดิ ธ์บนเครือขา่ ยลงได้อยา่ ง และตามด้วยข้อมลูมากเนื่องจาก สง่ ข้อมลู ผา่ นเครือขา่ ยเพียงครัง้ เดียว แบบฝึ กหดั คร้งั ที่ 9 สรุป 10099 จากโจทย์ IPv6 จะรองรับแอดเดรส 3 ประเภทด้วยกนั ดงั นีค้ ือ ยนู ิคาสต์ มลั ติคาสต์ และเอนนีคาสต์ 1. /18 , /24 , / 25 จงหา Subnet Maskเพื่อชว่ ยให้การอ้างองิ แอดเดรสของ IPv6 งา่ ยขนึ ้ จงึ มีการแทนคา่ ไอพีแอดเดรสของ IPv6 ในรูป 2. กําหนดให้ IP Address 192 .168.5.33/20 จงหาแบบของเลขฐานสบิ หก โดยมีการแบง่ ออกเป็น 8 กลมุ่ แตล่ ะกลมุ่ มีขนาด 16 บติ และใช้เครื่อง Network IP และ Broadcast IPหมาย “:” (Colon) ในการแบง่ สว่ นของแตล่ ะกลมุ่ 3. จากข้อ 2 IP address ใดบ้างท่ีสามารถนํามาใช้งานได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: