โครงการแก้มลิง.compressed

โครงการแกม้ ลิง จัดทำโดยนำงสำว พมิ ชนก พธุ เหยี ง รหสั นสิ ติ 60560818นำงสำว พมิ พรรณ โนชยั รหสั นิสติ 60560825นำงสำว ภทั รศยำ ใจดี รหัสนิสิต 60560832นำงสำว ภำวิณยี ์ งิ้วสงู รหสั นิสิต 60560849นำงสำว มะลิวัลย์ หอมแพงไว้ รหัสนิสติ 60560863นำงสำว มำลัยวรรณ จันทร์เขยี ว รหัสนิสติ 60560870นำงสำว เมธินี เพง็ สวย รหสั นิสติ 60560887นำงสำว ยนิ ดี เทียนงเู หลือม รหัสนิสิต 60560900นำงสำว ยพุ ำรัตน์ นมุ่ นวล รหสั นสิ ติ 60560917นำงสำว รจนำ ยะพนั ธ์ รหัสนิสติ 60560924 กลุ่ม 22รำยงำนเล่มน้เี ปน็ ส่วนหน่งึ ของวชิ ำสำรสนเทศศำสตรเ์ พ่อื กำรศึกษำคน้ คว้ำ (001221)ภำคเรยี นท่ี 1 ปีกำรศกึ ษำ 2560

โครงการแกม้ ลิง จัดทำโดยนำงสำว พมิ ชนก พธุ เหยี ง รหสั นสิ ติ 60560818นำงสำว พมิ พรรณ โนชยั รหสั นิสติ 60560825นำงสำว ภทั รศยำ ใจดี รหัสนิสิต 60560832นำงสำว ภำวณิ ีย์ ง้วิ สงู รหสั นิสิต 60560849นำงสำว มะลวิ ัลย์ หอมแพงไว้ รหัสนสิ ติ 60560863นำงสำว มำลัยวรรณ จนั ทร์เขยี ว รหัสนสิ ติ 60560870นำงสำว เมธินี เพง็ สวย รหสั นิสิต 60560887นำงสำว ยนิ ดี เทียนงเู หลือม รหัสนิสติ 60560900นำงสำว ยุพำรัตน์ นมุ่ นวล รหสั นสิ ติ 60560917นำงสำว รจนำ ยะพนั ธ์ รหัสนิสิต 60560924 กลุ่ม 22รำยงำนเลม่ นี้เปน็ สว่ นหน่งึ ของวชิ ำสำรสนเทศศำสตรเ์ พ่อื กำรศึกษำค้นคว้ำ (001221)ภำคเรยี นท่ี 1 ปกี ำรศกึ ษำ 2560

กชอ่ื หวั ข้อรายงาน โครงกำรแก้มลิง พุธเหียง รหัสนิสติ 60560818ผู้ดาเนนิ งาน นำงสำว พมิ ชนก นำงสำว พิมพรรณ โนชัย รหัสนิสติ 60560825 นำงสำว ภทั รศยำ ใจดี รหัสนสิ ติ 60560832 นำงสำว ภำวิณีย์ ง้ิวสงู รหสั นสิ ิต 60560849 นำงสำว มะลวิ ลั ย์ หอมแพงไว้ รหัสนสิ ิต 60560863 นำงสำว มำลยั วรรณ จันทรเ์ ขียว รหัสนิสติ 60560870 นำงสำว เมธินี เพง็ สวย รหัสนสิ ติ 60560887 นำงสำว ยนิ ดี เทียนงเู หลอื ม รหสั นิสิต 60560900 นำงสำว ยพุ ำรัตน์ นุ่มนวล รหสั นิสิต 60560917 นำงสำว รจนำ ยะพันธ์ รหสั นิสิต 60560924รายวชิ า สำรสนเทศเพ่ือกำรศกึ ษำค้นควำ้ (001221)ปีการศึกษา 2560………………………………………………………………………............................................................................ บทคดั ย่อ กำรจดั ทำโครงงำนนมี้ ีจดุ ประสงคเ์ พอื่ ศึกษำ ท่ีมำและควำมสำคัญ วิธีดำเนินโครงกำรและประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ำกโครงกำรแก้มลิง ซ่ึงเปน็ โครงกำรในพระรำชดำรขิ องพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวรชั กำลที่ 9 ท่ใี ชใ้ นกำรแก้ไขปญั หำนำ้ ท่วมในเขตพ้ืนทีก่ รงุ เทพมหำนครและปริมณฑลจำกกำรเกิดสภำวะน้ำท่วมหนัก โดยคน้ ควำ้ ขอ้ มูลจำกหอสมดุ มหำวิทยำลยั นเรศวร จำกหนังสือท่ีเก่ียวกับโครงกำรแก้มลิงและวทิ ยำนพิ นธ์โครงกำรแก้มลิง

ขTitle Kaem Ling ProjectName Miss Pimchanok pudheang 60560818 Miss Pimpan Nochai 60560825 Miss Patsaya Jaidee 60560832 Miss Pawinee Ngewsoong 60560849 Miss Maliwan Hompangwai 60560863 Miss Malaiwan Jankhiaw 60560870 Miss Methinee Phengsuai 60560887 Miss Yindee Tianngulhuam 60560900 Miss Yuparat Numnuan 60560917 Miss Rodjana Yapan 60560924Course Information Science for Study and Research (001221)Academic year 2017………………………………………………………………………………………………………………………………………… Abstract The main purpose of establishing Kam Ling project includes researching of Theroyal project Kam Ling in the aspects of backgroud, significance, and implmentation ofthe royal project which invented by His Majestry King Bhumibol Adulyadej of Thailand asa solution of flooding disaster in Bankok metropolitan region. The research was donethrough gathering and analysis of relevant books and theses of the royal project KamLing.

ค กิตติกรรมประกาศ รำยงำนเรอ่ื ง โครงกำรแกม้ ลงิ เล่มนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยควำมกรุณำจำกอำจำรย์ผู้สอนรำยวิชำสำรสนเทศศำสตร์เพ่ือกำรศึกษำค้นคว้ำ ที่ให้คำปรึกษำ คำแนะนำ แนวคิด ตลอดจนแก้ ไขข้อบกพร่องตำ่ งๆ มำโดยตลอด จนโครงกำรเลม่ นี้เสรจ็ สมบรูณ์ คณะผู้จัดทำจึงขอกรำบขอบพระคุณเป็นอยำ่ งสงู ขอกรำบขอบพระคุณคณุ พ่อ คณุ แม่ และผปู้ กครอง ท่ใี หค้ ำปรกึ ษำในเร่ืองต่ำงๆ รวมทั้งเป็นกำลังใจที่ดีเสมอมำ ขอขอบคุณเจำ้ หน้ำทหี่ อสมดุ มหำวิทยำลยั นเรศวร ทช่ี ว่ ยสละเวลำค้นหำส่อื ท่นี ำมำใช้ประกอบโครงกำรแก้มลงิ เลม่ นี้ สุดท้ำยนีข้ อขอบใจเพอ่ื นๆ ทกุ คนที่ชว่ ยใหค้ ำแนะนำตำ่ งๆ เก่ียวกับรำยงำนเล่มนี้ จนทำให้รำยงำนเล่มนีส้ ำเรจ็ ลุลว่ งไปได้ ผจู้ ดั ทำ กล่มุ 22 19 พฤศจิกำยน 2560

ง สารบัญ หน้าบทคัดย่อ................................................................................................................................... ..........กAbstract.............................................................................................................................................ขกติ ติกรรมประกำศ...............................................................................................................................คสำรบญั ................................................................................................................................................งสำรบัญรปู ภำพ…………………………………………………………………………………………………………………..…จบทท่ี 1 บทนำ วตั ถุประสงค์..........................................................................................................................1 ประโยชนท์ คี่ ำดวำ่ จะไดร้ บั ....................................................................................................1บทที่ 2 หลกั กำรและทฤษฎี ลกั ษณะและวิธีกำรของโครงกำรแก้มลิง................................................................................3 ประเภทและขนำดของแกม้ ลิง...............................................................................................5 ควำมจำเป็นในกำรดำเนนิ โครงกำรแก้มลิง............................................................................6 ประโยชน์อันเน่ืองมำจำกโครงกำรแก้มลงิ .............................................................................6 ตวั อยำ่ งโครงกำรทุง่ ทะเลหลวง (แก้มลงิ ) จงั หวัดสโุ ขทยั .....................................................7บทที่ 3 วิธีกำรดำเนนิ โครงกำร อปุ กรณแ์ ละวัสดทุ ี่ใชใ้ นกำรศกึ ษำ.......................................................................................15 ขน้ั ตอนกำรดำเนินงำน........................................................................................................15บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ โครงกำร.........................................................................................................16บทที่ 5 สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำร..................................................................................................17เอกสำรอำ้ งองิ ....................................................................................................................................ฉประวตั ผิ ้ดู ำเนินโครงกำร………………………………………………………………………………………………..…….19

จ สารบัญรปู ภาพ หน้ารูปภำพท่ี 2.1 แผนภำพแสดงแนวพระรำชดำริแก้มลิง.........................................................................4รูปภำพที่ 2.2 รชั กำลท่ี9 ทรงประทำนพระรำชดำริแก่ขำ้ รำชกำรที่เขำ้ เฝำ้ .........................................5รูปภำพท่ี 2.3 แผนทีแ่ สดงขอบเขตทต่ี ้ังโครงกำรทงุ่ ทะเลหลวง...........................................................8รปู ภำพท่ี 2.4 แปลงโครงกำรท่งุ ทะเลหลวง (แกม้ ลิง)..........................................................................9รูปภำพท่ี 2.5 ขอบเขตคนั ดินรอบพ้ืนท่โี ครงกำรทง้ั 4 ด้ำน................................................................10รปู ภำพที่ 2.6 พ้นื ท่สี ่งนำ้ ของโครงกำรทุง่ ทะเลหลวง (แก้มลิง)...........................................................12รูปภำพที่ 2.7 แผนที่แสดงสภำพกำรใช้น้ำปจั จุบันของพน้ื ท่ีท่อี ยูโ่ ดยรอบทะเลหลวง.........................13รูปภำพท่ี 2.8 องค์ประกอบระบบสง่ นำ้ จำกโครงกำรทุ่งทะเลหลวง ...................................................14

1 บทที่ 1 บทนา1.1 ความเป็นมาของโครงการ ในปัจจบุ นั พระรำชกรณียกจิ ของพระบำทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหำภูมิ อดุลยเดช มีควำมสำคัญอย่ำงมำกต่อกำรแกไ้ ขปัญหำหรอื กำรส่งเสริมควำมเป็นอยู่ที่ดีของคนในสังคมไทย ให้คนไทยมีควำมเปน็ อยู่ท่ีดีขน้ึ ซงึ่ พระรำชกรณียกิจของพระบำทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหำภูมิอดุลยเดชนั้นเป็นส่วนที่ช่วยให้วิถีชีวติ ของประชำชนชำวไทยดขี น้ึ ในหลำยๆด้ำน โดยพระองค์ทรงมีพระรำชดำริเก่ียวกับโครงกำรตำ่ งๆ และพระรำชทำนแนวพระรำชดำริแกป่ ระชำชนชำวไทย พระองคท์ รงงำนหนกั ตลอด 70 ปี ด้วยกำรเสดจ็ เยือนประชำชนในท้องถ่ินตำ่ งๆในประเทศไทย เพื่อเข้ำใจปัญหำในแต่ละพ้ืนท่ีจนเกิดโครงกำรในพระรำชดำรติ ำ่ งๆข้ึนมำ โครงกำรแก้มลงิ เป็นหนง่ึ ในโครงกำรพระรำชดำรขิ องพระบำทสมเดจ็ พระปรมินทรมหำภูมิพลอดลุ ยเดช เกีย่ วกับกำรแก้ปัญหำอทุ กภัยทเ่ี กดิ ขนึ้ ในกรุงเทพมหำนคร เม่ือปี พ.ศ. 2538 จึงมีพระรำชดำริ\"โครงกำรแกม้ ลงิ \" ข้ึน เม่ือวนั ที่ 14 พฤศจกิ ำยน พ.ศ.2538 โดยใหจ้ ัดหำสถำนทีเ่ ก็บกักนำ้ ตำมจดุ ต่ำงๆ ในกรุงเทพมหำนคร เพอ่ื รองรับน้ำฝนไวช้ ่วั ครำว เม่ือถงึ เวลำท่ีคลองพอจะระบำยนำ้ ได้จึงค่อยระบำยน้ำจำกส่วนท่ีกกั เก็บไว้ออกไป จงึ สำมำรถลดปัญหำน้ำท่วมได้ ดงั นน้ั กลุ่มของข้ำพเจำ้ จงึ จดั ทำกำรศึกษำโครงกำรแก้มลิงนข้ี ้ึนมำเพอื่ ศกึ ษำทม่ี ำและควำมสำคัญของโครงกำร ลักษณะของโครงกำร วิธีกำรดำเนินกำรโครงกำรและประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จำกโครงกำร1.2 วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อศึกษำทีม่ ำและควำมสำคัญของโครงกำรแกม้ ลิง 2. เพอ่ื ศึกษำลกั ษณะของโครงกำรแก้มลงิ 3. เพ่อื ศึกษำวธิ ีกำรดำเนนิ กำรโครงกำรแกม้ ลงิ 4. เพ่ือศกึ ษำประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับจำกโครงกำรแก้มลิง1.3 ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ 1. ไดท้ รำบที่มำและควำมสำคญั ของโครงกำรแก้มลงิ 2. ไดท้ รำบลักษณะของโครงกำรแกม้ ลงิ 3. ไดท้ รำบวิธีกำรดำเนนิ กำรโครงกำรแกม้ ลิง 4. ไดท้ รำบประโยชนท์ ่ีได้รับจำกโครงกำรแกม้ ลิง1.4 ขอบเขตการดาเนนิ โครงการ กำรศกึ ษำโครงกำรแกม้ ลิงในพระรำชดำริ ไดศ้ ึกษำเร่อื ง ควำมเป็นมำของโครงกำร วิธดี ำเนินกำรประเภทและประโยชนข์ องโครงกำรแกม้ ลงิ รวมท้ังตวั อย่ำงโครงกำรทงุ่ ทะเลหลวง จ.สุโขทัย

21.5 ข้ันตอนการดาเนินงาน ได้รับหวั ขอ้ จำกอำจำรย์แล้วมีกำรสำรวจจำนวนข้อมูลสำรสนเทศ แบง่ หนำ้ ทีใ่ นสว่ นกำรทำรูปเลม่ ทำสไลด์นำเสนอ และทำแอนิเมชนั คน้ หำขอ้ มูลจำกแหล่งสำรสนเทศต่ำงๆ เชน่ ห้องสมุดและเว็บไซต์ที่เก่ียวข้อง เรียบเรียงเนอ้ื หำ เตรียมกำรนำเสนอ แผนกำรดำเนินงำนข้ันตอนกำร ระยะเวลำที่ดำเนินโครงกำรดำเนนิ งำน ตลุ ำคม พฤศจกิ ำยน สัปดำห์ สปั ดำห์ สปั ดำห์ สปั ดำห์ สปั ดำห์ สปั ดำห์ สปั ดำห์ สัปดำห์ ท่ี 1 ที่ 2 ที่ 3 ท่ี 4 ที่ 1 ท่ี 2 ท่ี 3 ท่ี 41.แบ่งหน้ำท่ีของสมำชกิ ในกลุ่ม2.หำขอ้ มลูเก่ียวกับโครงกำรแก้มลงิ3.ทำสไลด์นำเสนอและแอนิเมชนั4.นำเสนอ

3 บทท่ี 2 หลกั การและทฤษฎี โครงกำรแก้มลิงเปน็ โครงกำรในพระรำชดำรขิ องพระบำทสมเดจ็ พระเจ้ำอยู่หัว รัชกำลท่ี 9 ที่ใช้ในกำรแก้ปญั หำนำ้ ท่วมพ้ืนที่ในเขตกรงุ เทพมหำนครและปริมณฑลจำกกำรเกิดสภำวะน้ำท่วมหนักท่ีลุ่มแมน่ ้ำเจำ้ พระยำเมอ่ื พ.ศ. 2538 เนอื่ งจำกฝนตกหนกั ท่ีลมุ่ แม่น้ำตอนบน น้ำไหลหลำกท่วมลุ่มแม่น้ำยมและแมน่ ำ้ น่ำน พรอ้ มปริมำณน้ำทล่ี ้นเขอ่ื นสริ กิ ติ ์ิทำให้นำ้ ท่วมบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้ำพระยำตอนล่ำงรวมถึงเขตกรงุ เทพมหำนครและปริมณฑลนำนกวำ่ 2 เดือน พระบำทสมเด็จพระเจำ้ อย่หู วั รชั กำลที่ 9 จึงโปรดเกล้ำให้เจ้ำหนำ้ ท่ีที่ดูแลปัญหำน้ำท่วมเข้ำเฝ้ำเมอ่ื วันท่ี 14 พฤศจกิ ำยน พ.ศ.2538 เพอ่ื รบั พระรำชทำนแนวพระรำชดำริป้องกันน้ำท่วมโดยเปรียบกับพฤตกิ รรมกำรกนิ อำหำรของลงิ ทช่ี อบเก็บกล้วยไวท้ ่แี ก้มสองข้ำงแลว้ ค่อยๆดุนกล้วยมำกินในภำยหลัง ตำมควำมตอนหนง่ึ ในพระรำชดำรขิ องพระบำทสมเด็จพระเจำ้ อย่หู ัวทไี่ ดพ้ ระรำชทำนไว้เพื่อป้องกันน้ำท่วมในพ้นื ท่ีกรุงเทพมหำนครและปริมณฑลเม่อื วันที่ 14 พฤศจิกำยน พ.ศ.2538 “ ลงิ โดยทวั่ ไป ถำ้ เรำส่งกล้วยให้ลิงกจ็ ะรบี ปอกเปลือกแลว้ เอำเข้ำปำกเค้ียวๆ แล้วเอำไปเก็บที่แกม้ จะกนิ กล้วยเขำ้ ไปไว้ทีก่ ระพุงแก้มไดเ้ กอื บทั้งหวี โดยเอำไปเก็บไว้ท่ีแก้มก่อนแล้วจะนำออกมำเค้ียวและกลนื กินเข้ำไปภำยหลงั ด้วยพฤติกรรมกำรนำเอำกลว้ ยหรืออำหำรมำสะสมไว้ท่ีกระพุ้งแก้มก่อนกำรกลืนน้ี จึงเป็นพฤตกิ รรมตัวอย่ำงท่ีนำมำใช้ในกำรระบำยน้ำท่วมออกจำกพื้นที่น้ำท่วมขังบริเวณทิศตะวันออกและทศิ ตะวันตกของแม่นำ้ เจำ้ พระยำ.. ”2.1 ลกั ษณะและวิธกี ารของโครงการแกม้ ลิง 2.1.1 วิธกี ารของโครงการแกม้ ลิง 1) ดำเนนิ กำรระบำยน้ำออกจำกพน้ื ทตี่ อนบนให้ไหลไปตำมคลองในแนวเหนอื -ใต้ลงคลอง พัก น้ำขนำดใหญท่ ่บี ริเวณชำยทะเล เช่น คลองชำยทะเลของฝั่งตะวันออก ซึ่งจะทำหน้ำท่ีเป็นบ่อ เกบ็ นำ้ ขนำดใหญ่ คอื แกม้ ลงิ ต่อไป 2) เม่ือระดับนำ้ ทะเลลดต่ำลงกว่ำระดับน้ำในคลอง กท็ ำกำรระบำยนำ้ จำกคลองดังกล่ำวออก ทำงประตูระบำยน้ำ โดยใช้หลักกำรทฤษฎแี รงโน้มถ่วงของโลก (Gravity Flow) ตำมธรรมชำติ 3) สบู น้ำออกจำกคลองทท่ี ำหนำ้ ที่ แกม้ ลิง น้ี ใหร้ ะบำยออกในระดับต่ำที่สุดออกสู่ ทะเล เพื่อ จะไดท้ ำใหน้ ำ้ ตอนบนคอ่ ยๆ ไหลมำเองตลอดเวลำส่งผลใหป้ รมิ ำณนำ้ ท่วมพ้ืนที่ลดน้อยลง 4) เมอื่ ระดบั น้ำทะเลสูงกวำ่ ระดบั น้ำในลำคลองใหท้ ำกำรปิดประตูระบำยน้ำ เพ่ือป้องกันมิให้ นำ้ ยอ้ นกลบั โดยยึดหลักน้ำไหลทำงเดยี ว (One Way Flow)

4 รปู ภำพท่ี 2.1 แผนภำพแสดงแนวพระรำชดำริแก้มลิง 2.1.2 หลกั การ 3 ประเดน็ ท่ีโครงการแก้มลิงจะสามารถมีประสิทธิภาพบรรลุผลสาเร็จตามแนว พระราชดาริ คือ 1. กำรพิจำรณำสถำนที่ที่จะทำหนำ้ ทเี่ ปน็ บอ่ พกั และวธิ ีกำรชักน้ำท่วมไหลเขำ้ สูบ่ อ่ พกั นำ้ 2. เสน้ ทำงน้ำไหลทส่ี ะดวกตอ่ กำรระบำยนำ้ เขำ้ สแู่ หล่งทที่ ำหนำ้ ทบ่ี ่อพักนำ้ 3. กำรระบำยนำ้ ออกจำกบอ่ พกั นำ้ อย่ำงตอ่ เน่ือง 2.1.3 การจัดหาและการออกแบบแก้มลงิ เพ่ือชะลอน้าทว่ ม วตั ถุประสงค์หลักของกำรดำเนินกำรโครงกำรแกม้ ลิง ให้มีกำรชะลอนำ้ หรือพ้ืนท่ีเกบ็ กกั น้ำ ก็เพื่อลดหรอื ชะลออัตรำกำรไหลของน้ำผิวดิน ทเี่ กดิ จำกกำรไหลที่เพ่ิมขนึ้ โดยกำรใชพ้ นื้ ทร่ี ะบำยน้ำก่อนปล่อยใหไ้ หลลงสู่ระบบ ระบำยนำ้ สำธำรณะ ในกำรพิจำรณำออกแบบพ้นื ที่ชะลอนำ้ หรอื พน้ื ทเ่ี ก็บกักน้ำ จะต้องทรำบปริมำตรน้ำผิวดินที่จะเก็บกักและอัตรำกำรไหลผิวดินที่มำกท่ีสุดท่ีจะยอมให้ปล่อยออกได้ในช่วงเวลำฝนตก ปริมำตรทเ่ี กบ็ กกั ควรจะเป็นปริมำตรนำ้ ท่ีเพิ่มขนึ้ เมอ่ื พืน้ ที่ระบำยน้ำไดร้ บั กำรพัฒนำแลว้ ในกำรจดั หำพื้นที่แก้มลิง ทส่ี ำคัญทส่ี ดุ ของกำรจัดหำพนื้ ทีช่ ะลอนำ้ หรอื พืน้ ที่เก็บกกั นำ้ คือจะต้องพยำยำมจดั หำพืน้ ท่ีเก็บกักใหพ้ อเพยี ง เพอ่ื ทีจ่ ะได้ควบคุมอัตรำกำรไหลออกจำกพนื้ ท่ีชะลอน้ำเหนือ พ้ืนท่ีเกบ็ กักน้ำไมใ่ ห้เกินอัตรำกำรไหลออกที่มำกท่สี ดุ ทจี่ ะไม่ก่อให้เกิดปัญหำกำรท่วมขังในระบบระบำยน้ำสำธำรณะหรอื พืน้ ที่ตำ่

5 สำนักกำรระบำยน้ำได้ดำเนนิ กำรจดั หำพ้นื ท่ีรองรบั และเกบ็ กกั นำ้ เพ่ือป้องกันน้ำท่วม (แก้มลิง)เพื่อเพมิ่ ประสทิ ธิภำพของกำรระบำยน้ำ ในพื้นที่กรุงเทพมหำนคร โดยใช้เกบ็ กกั น้ำฝนชงั่ ครำวก่อนระบำยลง ระบบระบำยน้ำสำธำรณะ ซงึ่ ในช้นั แรกจะทำกำรจัดหำพืน้ ฝ่งั พระนคร โดยมีเป้ำหมำยในกำรจัดหำพ้นื ท่ีเกบ็ กักน้ำปรมิ ำตร 13 ลำ้ น ลบ.ม. ปจั จบุ ันสำนกั กำระบำยนำ้ ได้จดั หำพื้นที่แก้มลงิ ได้จำนวน 20 แหง่ และมคี วำมสำมำรถในกำรเก็บกักนำ้ ได้ 10,062,525 ลบ.ม. ส่วนในพ้ืนท่ที ำงด้ำนฝัง่ ธนบรุ จี ะมคี ลองเปน็ จำนวนมำก โดยคลองส่วนใหญ่เหน็ คลองตำมแนวตะวนั ออกตะวันตก ซึง่ ระบำยนำ้ ออกทำงด้ำนแมน่ ำ้ เจ้ำพระยำ แต่ในช่วงฤดูน้ำหลำกจำกทำงเหนอื น้ำในแมน่ ำ้ เจ้ำพระยำจะมรี ะดับสูงขึ้น จงึ ควรใชค้ ลองหลกั ท่ีมีอยนู่ ั้นเป็นแก้มลิง โดยทำกำรสรำ้ งสถำนสี ูบนำ้ และประตรู ะบำยน้ำเพิ่มเตมิ เพ่อื ชว่ ยในกำรเก็บกักและระบำยนำ้ ออกส่ทู ะเล รปู ภำพที่ 2.2 รชั กำลท่ี9 ทรงประทำนพระรำชดำรแิ ก่ขำ้ รำชกำรทเ่ี ข้ำเฝำ้2.2 ประเภทและขนาดของแกม้ ลงิ 2.2.1 แกม้ ลิงขนาดใหญ่ (Retarding Basin) คือ สระน้ำหรือบึงขนำดใหญ่ ที่รวบรวมน้ำฝนจำกพ้นื ที่บริเวณนน้ั ๆ โดยจะกักเก็บไว้เปน็ ระยะเวลำหน่ึงกอ่ นทีจ่ ะระบำยลงส่ลู ำน้ำ กำรจัดสร้ำงพื้นท่ีชะลอน้ำหรือพน้ื ทเี่ กบ็ กักน้ำจะมีหลำยประเภท คือ เขื่อน อ่ำงเก็บน้ำ ฝำย ทุ่งเกษตรกรรม เป็นต้น ลัก ษณะสิ่งก่อสร้ำงเหลำ่ นจี้ ะมจี ะมีวตั ถปุ ระสงค์อน่ื ประกอบดว้ ย เชน่ เพอ่ื กำรชลประทำน เพื่อกำรประมง เป็นต้น 2.2.2 แกม้ ลงิ ขนาดกลาง เป็นพ้นื ท่ีชะลอนำ้ ทีม่ ขี นำดเลก็ กว่ำ ไดม้ ีกำรก่อสร้ำงในระดับลุ่มน้ำ ส่วนใหญ่จะเปน็ พืน้ ทีธ่ รรมชำติ เชน่ หนอง บึง คลอง เปน็ ตน้

6 2.2.3 แก้มลิงขนาดเล็ก (Regulating Reservoir) คือแก้มลิงท่ีมีขนำดเล็กกว่ำ อำจเป็นพื้น ท่ีสำธำรณะ สนำมเดก็ เล่น ลำนจอดรถ หรือสนำมในบ้ำน ซงึ่ ตอ่ เขำ้ กบั ระบบระบำยน้ำหรือคลองแก้มลิงที่อยใู่ นพ้นื ทเ่ี อกชน เรียกวำ่ “แกม้ ลงิ เอกชน“ สว่ นท่อี ยใู่ นพื้นที่ของรำชกำรและรัฐวิสำหกิจ จะเรียกว่ำ“แก้มลิงสำธำรณะ”2.3 ความจาเป็นในการดาเนนิ โครงการแกม้ ลงิ 2.3.1 กำรเปล่ยี นแปลงกำรใชท้ ่ดี ิน จำกลกั ษณะธรรมชำติ มำเป็นพื้นที่พัฒนำ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งพ้นื ท่ีของกรงุ เทพมหำนคร ทำใหป้ รมิ ำณและอัตรำกำรไหลสงู สดุ ของนำ้ ผิวดินในพื้นท่เี พิม่ ขึน้ 2.3.2 ปริมำตรและอตั รำกำรไหลของน้ำผิวดินทเ่ี พมิ่ ขนึ้ ของพ้ืนท่ีทึบน้ำ จะก่อให้เกิดปัญหำน้ำท่วมทำงดำ้ นท้ำยนำ้ หรอื ที่ตำ่ เพม่ิ มำกขน้ึ ปญั หำนำ้ ท่วมท่ีเกดิ ขนึ้ จงึ ขยำยตวั เพมิ่ ขึ้น ไปทำงด้ำนเหนือนำ้ 2.3.3 ขนำดของคลองและควำมจเุ ก็บกกั ทำงระบำยน้ำเป็นประกำรสำคัญ เพรำะมีขนำดเล็กกว่ำควำมสำมำรถในกำรรองรบั ปรมิ ำณ และอัตรำกำรไหลสงู สุดของนำ้ ผิวดนิ ทีเ่ พิม่ ข้ึนเพรำะกำรรุกล้ำคูคลองและพืน้ ท่สี ำธำรณะ2.4 ประโยชน์อนั เนอ่ื งมาจากโครงการแกม้ ลงิ ประเทศไทยเปน็ ประเทศที่อย่ใู นเขตมรสมุ มฝี นตก และมปี รมิ ำณน้ำฝนสูงในแต่ละปี ด้วยข้อนี้จึงทำใหป้ ระเทศไทยเกดิ ปัญหำอทุ กภัยในหลำยพืน้ ท่ี ทอ่ี ยู่บรเิ วณรำบลุ่มด้วยสำเหตนุ ้ีจึงทำให้เกิด โครงกำรแก้มลิงขึน้ โครงกำรแก้มลิง เป็นโครงกำรตำมแนวพระรำชดำริของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดลุ ยเดช เป็นโครงกำรท่ีช่วยในเร่อื งของกำรบรหิ ำรจดั กำรนำ้ ที่ทว่ มขงั ในหลำยๆพื้นท่ี โดยจะมีกำรสร้ำงอำ่ งเก็บนำ้ หรือเขื่อน ข้นึ เพอื่ ให้เปน็ ทรี่ องรับน้ำฝน หรือรองรับนำ้ ในหน้ำนำ้ เพื่อไม่ให้เกิดกำรไหลไปยังทำงระบำยน้ำโดยทันทีซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหำกำรระบำยน้ำออกไม่ทัน ทำให้น้ำท่วมขังในพ้ืนท่ีลุ่มประชำชนในบรเิ วณนั้นเกดิ ควำมเดอื ดร้อนไดร้ บั ควำมเสยี หำย กำรสรำ้ งอำ่ งเก็บน้ำน้ันจะเป็นกำรกักเก็บนำ้ เอำไว้ก่อน เพ่ือชะลอนำ้ รอใหค้ ลองทีเ่ ป็นทำงระบำยน้ำหลักมีกำรระบำยน้ำออกไปบ้ำงแล้ว และสำมำรถรับนำ้ ท่จี ะทำกำรระบำยออกจำกอ่ำงเกบ็ นำ้ ได้ จึงค่อยๆระบำยออกมำสูค่ ลองทีเ่ ปน็ ทำงระบำยน้ำดว้ ยเหตุนีจ้ งึ ช่วยลดปญั หำนำ้ ท่วมขังไดใ้ นระดบั หนึง่ และนอกจำกโครงกำรแก้มลิงจะช่วยบรรเทำในเรื่องของน้ำทว่ มขงั แลว้ พระองคท์ รงได้ผสำนแนวคดิ ในกำรอนรุ กั ษ์น้ำและสิ่งแวดล้อมเข้ำไปด้วย กล่ำวคือยำมเม่อื พกั นำ้ ไว้ในอำ่ งเก็บน้ำน้ันจะมกี ำรบำบัดน้ำเสยี ไปด้วย เมือ่ น้ำถกู ปล่อยไปยังคลองต่ำงๆ น้ำเสียก็จะถกู เจอื จำงลงก่อนที่จะปล่อยลงสูท่ ำงระบำยน้ำตำมธรรมชำติ หรือทะเล ส่งผลทำให้น้ำไม่เน่ำเสีย หรือมกี ำรเจือจำงลงนน้ั เอง ประโยชน์โดยรวมท่ีจ ะได้รับจำกโครงกำ รแก้มลิง มีดังนี้ คือ กำร ระบำยน้ำลงสู่ทะเลมีประสิทธิภำพมำกย่ิงขึน้ ช่วยลดปัญหำน้ำท่วมขงั ใหม้ ีระยะส้ันลงเพื่อประชำชนจะได้รับผลกระทบจำกปัญหำอุทกภยั นอ้ ยที่สุด ชว่ ยลดควำมสูญเสียพืชผลทำงกำรเกษตรท่ีส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจภำยในประเทศ ชว่ ยลดคำ่ ใช้จำ่ ยในกำรบรู ณะ ซ่อมแซมสำธำรณูปโภคบริโภคตำ่ งๆ และชว่ ยให้ประชำชนมนี ้ำใชอ้ ุปโภคบริโภค เม่ือยำมท่ีเกิดควำมแห้งแลง้

72.5 ตัวอย่างโครงการท่งุ ทะเลหลวง (แก้มลิง) จังหวัดสุโขทัย 2.5.1 ความเป็นมาของโครงการ ตำมพระรำชดำริพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั ฯ ทีไ่ ด้พระรำชทำนไว้เมอ่ื วนั ท่ี 12 ธันวำคม 2535ในกำรบรู ณำกำรแก้ไขปญั หำนำ้ ทว่ ม-น้ำแล้งซ้ำซำก ของจังหวัดสุโขทัยแบบยั่งยืนนั้น จะต้องมีกำรดำเนินกำรบริหำรจัดกำรน้ำ เชน่ กำรก่อสรำ้ งเขอ่ื นเก็บกักน้ำขนำดใหญแ่ ละอำ่ งเก็บนำ้ ในลำน้ำสำขำของแม่น้ำยม กำรผันน้ำระหว่ำงลมุ่ นำ้ กำรขุดลอกแมน่ ้ำ คูคลอง หนอง และบงึ เพือ่ กักเก็บน้ำ และระบำยนำ้ ในชว่ งฤดฝู นและผนั น้ำจำกแม่นำ้ ปงิ มำใชใ้ นพื้นท่ีแหง้ แลง้ และจำกกำรพิจำรณำโดยกรมชลประทำนปรำกฎว่ำ พน้ื ท่ที ุ่งทะเลหลวง (แกม้ ลงิ ) เป็นหนง่ึ ในแนวทำงท่จี ะช่วยบรรเทำปัญหำอุทกภัย และควำมเสียหำย จำกน้ำท่วมในจงั หวดั สุโขทัยได้ เน่ืองจำกฝัง่ ขวำของแม่นำ้ ยมระหว่ำงอำเภอศรีสำโรงถึงอำเภอเมอื ง มีสภำพเปน็ ท่ีลมุ่ ในฤดูฝนมนี ำ้ ท่วมเป็นบริเวณกวำ้ งใหญ่ยำวประมำณ 20 กม. และกว้ำง 5 กม. หำกปรบั ปรงุ ทงุ่ ทะเลหลวงเป็นพ้ืนท่ีรับนำ้ ถำวรในลกั ษณะแก้มลิงจะสำมำรถรับนำ้ ที่ไหลบำ่ จำกแม่น้ำยม และน้ำจำกเทือกเขำฝ่ังตะวันตก ก่อนระบำยลงแม่น้ำในพนื้ ที่ตอนล่ำงของตังเมืองสุโขทัย พร้อมปรับใช้เป็นคลองส่งน้ำเพื่อกำรเกษตรได้ในอนำคต (คณะวศิ วกรรมศำสตร์ มหำวทิ ยำลัยนเรศวร,2549) 2.5.2 วตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายของโครงการ 1. เพ่ือเปน็ แหล่งเกบ็ กักน้ำถำวรในลกั ษณะแกม้ ลงิ โดยใชห้ ลักกำรในกำรตัดยอดปรมิ ำณน้ำหลำกและเกบ็ กักปริมำณน้ำที่มปี รมิ ำณมำกในฤดฝู น เพ่อื กำรบรรเทำปัญหำอุทกภัยของชมุ ชนเมืองสุโขทัย โดยจะรบั นำ้ จำกนำ้ ยมทไี่ หลบำ่ ลน้ ตลง่ิ ฝั่งขวำ น้ำห้วยท่ำแพ น้ำแมม่ อก ที่ไหลหลำกจำกอำเภอสวรรคโลกและนำ้ แมร่ ำพัน ทไี่ หลบำ่ จำกอำเภอด่ำนลำนหอย และไหลมำรวมกนั บรเิ วณที่ลุ่มที่เรียกวำ่ “ทะเลหลวง” 2. เพื่อเปน็ แหลง่ เกบ็ กักน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และกำรเกษตรกรรมในฤดูแล้ง ทำให้รำษฎรสำมำรถประกอบอำชีพในฤดแู ล้ง และลดกำรยำ้ ยถิ่นฐำนของรำษฎรเขำ้ สชู่ ุมชนเมอื ง 3. เพือ่ เป็นแหล่งน้ำสำรองในกำรผลิตน้ำประปำในเขตอำเภอเมืองสโุ ขทัย 4. เพื่อเป็นแหลง่ เพำะและขยำยพนั ธ์สุ ตั วน์ ้ำ ให้รำษฎรมรี ำยได้จำกกำรจับสตั วน์ ้ำ 5. เพ่ือเปน็ แหลง่ วิจัยและทดลองด้ำนวิชำกำรเกษตร และเป็นศูนย์ถ่ำยทอดเทคโนโลยีด้ำนกำรเกษตร อกี ท้ังเป็นแหลง่ สำธิตโครงกำรตวั อย่ำงตำมแนวทฤษฎีใหม่ 6. เพื่อเป็นแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วและสถำนท่ีพักผ่อนหย่อนใจ ของประชำนในจังหวัดสุโขทัยและจงั หวดั ใกล้เคียง 2.5.3 ลกั ษณะของโครงการ พ้ืนทแี่ ก้มลงิ และเกบ็ กักน้า ตั้งอยูร่ ะหวำ่ งทำงหลวงหมำยเลข 12 (ถนนจรดวิถี) กับทำงเล่ียงเมืองสำยสโุ ขทัย-ตำก ตำบลบ้ำนกลว้ ย อำเภอเมือง จงั หวดั สุโขทัย มำตรำส่วน 1:50,000 ระวำงหมำยเลข 49431 ครอบคลุมพ้นื ท่ี 7,070 ไร่ เก็บกักน้ำ 4,500 ไร่พ้นื ที่คนั ก้นั นำ้ และใช้สอย 2,570 ไร่

8 ระดบั นำ้ ตำ่ สุด +45.50 ม.รทก. ควำมจุ 7.2 ลำ้ น ลบ.ม. ระดับนำ้ เก็บกัก +49.00 ม.รทก. ควำมจุ 32.4 ลำ้ น ลบ.ม. ระดบั นำ้ สงู สดุ +50.00 ม.รทก. ควำมจุ 34.4 ลำ้ น ลบ.ม.รูปภำพท่ี 2.3 แผนทีแ่ สดงขอบเขตทีต่ ัง้ โครงกำรทงุ่ ทะเลหลวง ท่ีมำ: คณะวศิ วกรรมศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั นเรศวร(2549)

9 รปู ภำพที่ 2.4 แปลงโครงกำรท่งุ ทะเลหลวง (แก้มลิง)ท่มี ำ: คณะวิศวกรรมศำสตร์ มหำวทิ ยำลัยนเรศวร(2549)

10รูปภำพท่ี 2.5 ขอบเขตคันดินรอบพน้ื ทโ่ี ครงกำรทั้ง 4 ด้ำนทีม่ ำ: คณะวศิ วกรรมศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั นเรศวร(2549)

11คลองรับน้าเข้าแก้มลงิ ทะเลหลวง จำกแมน่ ้ำ มี 2 สำย คือ คลองนำงนำค และคลองตำโฮ่ คลองนำงนำคไหลลงส่คู ลองเตว็ด เมอ่ื บรรจบกับคลองตำโฮ่แลว้ เปน็ คลองทำงไม้-วังทองแดงไหลลงสู่แก้มลิงทะเลหลวงอยูใ่ นเขตตำบลทับผง้ึ และตำบลวงั ใหญ่ อำเภอศรีสำโรงคลองระบายน้าออกจากทะเลหลวงลงแมน่ า้ ยม ผ่ำนเขตตำบลบ้ำนกล้วย ตำบลยำงซำ้ ยและไหลลงลำน้ำยมทีต่ ำบลปำกพระพน้ื ที่รับประโยชน์ ดำ้ นกำรเกษตรกรรมครอบคลุมพื้นที่โครงกำร 17,000 ไร่ พ้ืนที่ชลประทำนสุทธิจำนวน 13,000 ไร่ บรเิ วณขอบทะเลหลวงฝัง่ ทศิ ตะวนั ตกและทศิ ใต้ และริมคลองระบำยน้ำออกจำกแก้มลงิ ทะเลหลวง ต้ังอยู่ในเขตตำบลบ้ำนกล้วยและตำบลปำกแคว อำเภอเมืองสุโขทัย ตำบลยำงซ้ำยและตำบลปำกพระ อำเภอกงไกรลำศ ส่วนพื้นทีร่ ับประโยชนด์ ้ำนกำรบรรเทำอุทกภัยอยใู่ นเขตชุมชนเทศบำลเมอื งสุโขทยั นอกจำกนี้ยังเป็นชุมชนรมิ แมน่ ้ำยมตั้งแต่บำ้ นเกำะวงษ์เกียรต์ิลงไปตำมลำน้ำยมจนถึงบ้ำนปำกพระ(คณะวิศวกรรมศำสตร์ มหำวิทยำลัยนเรศวร,2549)

12รูปภำพที่ 2.6 พนื้ ที่ส่งน้ำของโครงกำรทงุ่ ทะเลหลวง (แก้มลงิ ) ท่มี ำ: คณะวศิ วกรรมศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั นเรศวร(2549)

13รปู ภำพท่ี 2.7 แผนทีแ่ สดงสภำพกำรใชน้ ้ำปัจจุบันของพ้นื ทท่ี อ่ี ยู่โดยรอบทะเลหลวง ทีม่ ำ: คณะวิศวกรรมศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั นเรศวร(2549)

14รูปภำพท่ี 2.8 องคป์ ระกอบระบบสง่ นำ้ จำกโครงกำรทงุ่ ทะเลหลวง ท่มี ำ: คณะวศิ วกรรมศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั นเรศวร(2549)

15 บทท่ี 3วิธีดาเนนิ โครงการ3.1 อุปกรณแ์ ละวัสดทุ ใ่ี ชใ้ นการศึกษา 3.1.1 แหลง่ สำรสนเทศ 3.1.1.1 หนังสอื เก่ียวกบั โครงกำรแก้มลิง 3.1.1.2 เว็บไซต์เกยี่ วกบั โครงกำรแกม้ ลิง 3.1.2 โนต้ บคุ 3.1.3 โปรแกรม Microsoft word 3.1.4 กระดำษ A4 3.1.5 ปำกกำ ดนิ สอ ไฮไลท์3.2 ข้นั ตอนการดาเนนิ งาน 3.2.1 คณะผศู้ ึกษำไดร้ บั หัวขอ้ โครงกำรจำกอำจำรย์ 3.2.2 คณะผศู้ กึ ษำร่วมกันประชมุ ตัง้ สมมตุ ิฐำนและส่ิงท่ีคำดว่ำจะไดร้ ับ 3.2.3 คณะผศู้ กึ ษำรว่ มกนั วำงแผนวเิ ครำะห์หวั ขอ้ เรื่องตำมวตั ถปุ ระสงค์ 3.2.4 คณะผศู้ ึกษำรำยงำนควำมคบื หน้ำแก่อำจำรย์ 3.2.5 คณะผู้ศกึ ษำได้ศึกษำค้นคว้ำและเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นข้นั ตอนของกำรเก็บรวบรวมข้อมูล ที่เกยี่ วข้องกบั โครงกำรเพือ่ มำวิเครำะหแ์ ละสรปุ เนือ้ หำทีส่ ำคญั เพอื่ นำมำจัดทำโครงกำร 3.2.6 คณะผู้ศึกษำจดั ทำส่ือเพ่ือใชส้ ำหรับศกึ ษำและรำยงำนต่ออำจำรย์ 3.2.7 คณะผู้ศึกษำนำเสนอผลงำนตอ่ อำจำรย์

16 บทที่ 4ผลการดาเนนิ โครงการ จำกกำรสืบค้นและรวบรวมข้อมูลของโครงกำรแก้มลิงท่ีเป็นโครงกำรในพระรำชดำริของพระบำทสมเดจ็ พระปรมินทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช หรือ ในหลวง รัชกำลที่ 9 ทรงห่วงใยประชำชนท่ีต้องประสบกบั ปญั หำน้ำท่วม จงึ ไดพ้ ระรำชทำนพระรำชดำริโครงกำรแกม้ ลงิ ตำมแนวทำงกำรบริหำรจัดกำรด้ำนน้ำท่วมล้น โดยมีหน่วยงำนต่ำงๆ สน องพระรำชดำ ริตำมวิธีท่ีเหมำะสมในแต่ละสภำพท้องที่วตั ถุประสงค์หลกั ของกำรดำเนนิ กำรโครงกำรแก้มลงิ ให้มีกำรชะลอนำ้ หรือพน้ื ที่เก็บกักน้ำ ก็เพ่ือลดหรือชะลออตั รำกำรไหลของนำ้ ผวิ ดิน ท่ีเกดิ จำกกำรไหลทเี่ พ่ิมขน้ึ โดยกำรใชพ้ ้นื ท่ีระบำยน้ำก่ อนปล่อยให้ไหลลงสรู่ ะบบ ระบำยน้ำสำธำรณะ ในกำรพิจำรณำออกแบบพ้ืนทชี่ ะลอน้ำหรือพนื้ ท่ีเก็บกักน้ำ จะต้องทรำบปรมิ ำตรนำ้ ผิวดินทจ่ี ะเกบ็ กกั และอตั รำกำรไหลผิวดินท่มี ำกที่สุดที่จะยอมให้ปล่อยออกได้ในช่วงเวลำฝนตก พระองคท์ รงได้ผสำนแนวคดิ ในกำรอนรุ ักษน์ ้ำและสิ่งแวดลอ้ มเข้ำไปด้วย กลำ่ วคือ ยำมเมื่อพักน้ำไว้ในอ่ำงเก็บน้ำนัน้ จะมีกำรบำบดั น้ำเสยี ไปด้วย เมือ่ นำ้ ถกู ปล่อยไปยงั คลองต่ำงๆ น้ำเสียก็จะถูกเจือจำงลงกอ่ นที่จะปลอ่ ยลงสู่ทำงระบำยนำ้ ตำมธรรมชำติ หรอื ทะเล สง่ ผลทำใหน้ ำ้ ไม่เนำ่ เสีย หรือมีกำรเจือจำงลงนน้ั เอง ผลของกำรดำเนินกำร โครงกำรท่งุ ทะเลหลวง (แกม้ ลงิ ) จังหวดั สุโขทยั เปน็ กำรบรูณำกำรแก้ไขปญั หำนำ้ ทว่ ม-นำ้ แล้งซ้ำซำก ของจังหวดั สโุ ขทัยแบบย่งั ยนื จะตอ้ งมีกำรดำเนนิ กำรบริหำรจดั กำรน้ำ เช่นกำรก่อสรำ้ งเขือ่ นเกบ็ กกั นำ้ ขนำดใหญ่และอำ่ งเก็บน้ำในลำนำ้ หำกปรบั ปรงุ ทงุ่ ทะเลหลวงเป็นพ้ืนที่รับน้ำถำวรในลักษณะแกม้ ลงิ จะสำมำรถรบั น้ำที่ไหลบำ่ จำกแม่น้ำยม และน้ำจำกเทือกเขำฝ่ังตะวันตก ก่อนระบำยลงแม่น้ำในพ้ืนทีต่ อนลำ่ งของตัวเมอื งสโุ ขทัย โครงกำรแก้มลิงที่ทงุ่ ทะเลหลวง ในจังหวัดสุโขทัยนั้นบรรลุวัตถปุ ระสงคท์ ่ีจะบรรเทำปญั หำอทุ กภัยของชุมชนเมืองสุโขทัย เป็นแหล่ งน้ำสำรองในกำรผลิตน้ำประปำในเขตอำเภอเมอื งสโุ ขทยั และเป็นแหลง่ เกบ็ กักนำ้ เพ่อื อุปโภคบริโภค และกำรเกษตรกรรมในฤดูแล้ง ทำให้รำษฎรสำมำรถประกอบอำชพี ในฤดูแล้งได้ โครงกำรแก้มลิงเปน็ กำรระบำยน้ำลงสูท่ ะเลมปี ระสทิ ธิภำพมำกยิ่งข้ึน ช่วยลดปัญหำน้ำท่วมขังให้มรี ะยะสนั้ ลงเพือ่ ประชำชนจะได้รับผลกระทบจำกปัญหำอุทกภยั นอ้ ยทส่ี ุด ชว่ ยลดควำมสูญเสียพืชผลทำงกำรเกษตรท่สี ่งผลกระทบตอ่ ระบบเศรษฐกิจภำยในประเทศและช่วยให้ประชำชนมีน้ำใช้อุปโภคบริโภคเมื่อยำมที่เกิดควำมแห้งแล้ง

17 บทท่ี 5สรปุ ผลของโครงการ จำกกำรท่ีกลุ่มไดศ้ กึ ษำคน้ คว้ำ เก่ียวกับโครงกำรแก้มลิง อันเป็นโครงกำรในพระรำชดำริของพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทำให้ได้ทรำบว่ำ โครงกำรแก้มลิงนั้นเป็นโครงกำรท่ีสรำ้ งข้นึ มำเพื่อขจัดปญั หำของประชำชนชำวไทย ทป่ี ระสบปญั หำอทุ กภยั ขัง โดยบริเวณที่เกิดอุทกภัยน้ันมกั จะเกดิ ขึ้นบริเวณทรี่ ำบลุ่มแม่น้ำ บรเิ วณท่เี ปน็ แอ่งกระทะ ซึ่งจำทำให้ประชำชนท่ีอำศัยอยู่บริเวณนี้ไดร้ ับควำมเสียหำยท้ังทีอ่ ยู่อำศยั เรือ่ งสำธำรนูปโภค รวมไปถงึ กำรทำกำรเกษตร อันเป็นอำชีพหลักของประชำชน สง่ ผลใหเ้ กดิ ปัญหำทำงด้ำนเศรษฐกิจของประเทศอีกดว้ ย ด้วยปญั หำเหล่ำน้ีจึงได้เกิดโครง กำรแกม้ ลิงขน้ึ เพ่ือชว่ ยบรรเทำปญั หำอทุ กภยั ดังกล่ำว ใหป้ ระชำชนมีควำมกินดี อยดู่ ี จำกกำรที่ได้ศึกษำได้รวบรวมข้อมูลของโครงกำ รแก้มลิง ทำให้ได้ทรำบถึงควำมเป็นมำควำมสำคญั ของโครงกำร และประโยชนข์ องโครงกำรแกม้ ลิงน้ี โดยกลุ่มเรำได้ทำกำรศึกษำ ค้นคว้ำจำกหนังสอื พระรำชกรณยี กิจของพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช และหนังสือที่เก่ียวกับโครงกำรแกม้ ลิง จำกหลำกหลำยแหล่งที่มำ เพื่อนำมำวิเครำะห์ สังเครำะห์ และเรียบเรียงเน้ือหำข้อมูลข้ึนใหม่ เพอ่ื ใหง้ ำ่ ยตอ่ กำรศกึ ษำ โดยกลมุ่ เรำได้พบปญั หำในกำรศึกษำคน้ ควำ้ ในหอสมดุ คอื เนอื้ หำในหนังสือมขี ้อมูลน้อย ไมม่ หี นงั สอื ทเี่ ขียนเกีย่ วกับโครงกำรแก้มลิงเต็มเล่ม ทำให้ข้อมูลที่ได้มำไม่ละเอียดมำก ต้องค้นควำ้ ขอ้ มลู จำกเวบ็ ไซต์เพม่ิ เตมิ รำยงำนเล่มนสี้ ำมำรถนำไปเปน็ แนวทำงกำรศกึ ษำค้นคว้ำต่อยอดได้ และสำมำรถนำไปศึกษำควำมรเู้ กีย่ วกบั โครงกำรแก้มลิงอันเป็นโครงกำรในพระรำชดำรขิ องพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิ-พลอดลุ ยเดช พระมหำกษัตริยข์ องประเทศไทย รชั กำลท่ี 9

18 เอกสารอ้างอิงกระทรวงวทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (2554). พระบดิ าแห่งเทคโนโลยีของไทย พระบิดาแห่งนวัตกรรม ไทย. กรุงเทพฯ : กระทรวงวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี.นภันต์ เสวิกุล. (2549). ยา่ งพระบาททยี่ าตรา. ม.ป.ท : ม.ป.พ.มลู นธิ ิชยั พัฒนำ. ทฤษฏีการแก้ไขปัญหาน้าทว่ มอันเนอ่ื งมาจากพระราชดาริตามแนวทางการบริหาร จัดการดา้ นน้าทว่ มลน้ . สืบค้นเมอื่ 20 ตลุ ำคม 2560. จำก : http://www.chaipat.or.th/ site_content/มูลนิธิปดิ ทองหลังพระ สบื สำนแนวพระรำชดำริ สถำบันสง่ เสริมและพฒั นำกิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบ สำนแนวพระรำชดำริ. โครงการแกม้ ลิง. สืบค้นเมือ่ 20 ตลุ ำคม 25660. จำก : http://www.pidthong.org/knowledge-detail.php?id=14&parent_id=1#วรกำนต์ จุฑำนนทแ์ ละคณะ. (2556). ดนิ น้า ลม ไฟ สมดลุ ส่ิงแวดล้อมอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ. กรงุ เทพฯ : บริษัท โกลเด้นท์ ไทม์ พริน้ ตง้ิ จำกดั .สมบัติ ชื่นชูกลน่ิ คณะวิศวกรรมศำสตร์ มหำวทิ ยำลัยนเรศวร และกรมชลประทำน กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์. (2549). การศึกษาผลกระทบสง่ิ แวดล้อมโครงการทุ่งทะเลหลวง (แก้มลิง) จังหวัด สุโขทัย. ม.ป.ท. : ม.ป.พ.สำนกั งำนคณะกรรมกำรพิเศษเพ่อื ประสำนงำนโครงกำรอันเน่ืองมำจำกพระรำชดำริ (สำนกั งำน กปร.). โครงกำรแกม้ ลิง. สบื คน้ เม่ือ 15 พฤศจิกำยน 2560, จำก http://km.rdpb.go.th/Knowledge/View/28

19ประวัตผิ ้ดู าเนินโครงการชื่อ นำงสำวพมิ ชนก พุธเหียงรหสั นสิ ิต 60560818ภูมิลำเนำ ที่อยู่ 53/2 หมู่ 11 ตำบลมะเขอื แจ้ อำเภอเมือง จังหวดั ลำพูน 51000ประวตั ิกำรศกึ ษำ -โรงเรยี นสว่ นบุญโญปถัมภ์ ลำพนู -ปจั จุบนั กำลังศกึ ษำระดบั ปริญญำตรชี นั้ ปที ี่ 1 -คณะพยำบำลศำสตร์ มหำวิทยำลัยนเรศวรE-mail: [email protected]ชื่อ นำงสำวพิมพรรณ โนชัยรหัสนิสิต 60560825ภมู ิลำเนำ ทอี่ ยู่ 233 หมู่ ตำบลวเิ ชตนคร อำเภอแจห้ ม่ จงั หวดั ลำปำง 52120ประวตั ิกำรศึกษำ -โรงเรียนแจห้ ม่ วทิ ยำ -ปจั จุบันกำลงั ศึกษำระดับปรญิ ญำตรชี น้ั ปที ่ี 1 -คณะพยำบำลศำสตร์ มหำวิทยำลยั นเรศวร E-mail: [email protected]

20ชื่อ นำงสำวภัทรศยำ ใจดีรหัสนสิ ิต 60560832ภมู ิลำเนำ ทอ่ี ยู่ 230 หมู่ 4 ตำบลดอนศรชี ุม อำเภอดอกคำใต้ จงั หวัดพะเยำประวตั ิกำรศกึ ษำ -โรงเรยี นดอกคำใต้วทิ ยำคม -ปัจจบุ ันกำลงั ศึกษำระดับปรญิ ญำตรีชัน้ ปที ี่ 1 -คณะพยำบำลศำสตร์ มหำวทิ ยำลัยนเรศวร E-mail: [email protected]ชื่อ นำงสำวภำวิณีย์ ง้ิวสูงรหสั นิสิต 60560849ภูมลิ ำเนำ ที่อยู่ 103 หมู่ 12 ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปรำกำร จังหวดั เชียงใหม่ 50320ประวัติกำรศึกษำ -โรงเรียนไชยปรำกำร -ปัจจุบันกำลังศกึ ษำระดับปรญิ ญำตรชี นั้ ปที ี่ 1 -คณะพยำบำลศำสตร์ มหำวิทยำลัยนเรศวรE-mail: [email protected]

21ชื่อ นำงสำวมะลวิ รรณ หอมแพงไว้รหสั นสิ ติ 60560863ภมู ิลำเนำ ทอ่ี ยู่ 128 หมู่ 13 ตำบลนำกลำง อำเภอนำกลำง จงั หวัดหนองบัวลำภู 39170ประวตั กิ ำรศกึ ษำ -โรงเรียนคำแสนวทิ ยำสรรค์ -ปัจจุบนั กำลงั ศกึ ษำระดบั ปริญญำตรชี ั้นปีที่ 1 -คณะพยำบำลศำสตร์ มหำวทิ ยำลัยนเรศวรE-mail: [email protected]ชื่อ นำงสำวมำลยั วรรณ จนั ทร์เขยี วรหัสนสิ ติ 60560870ภูมลิ ำเนำ ทอ่ี ยู่ 37/5 หมู่ 3 ตำบลหว้ ยออ้ อำเภอลอง จงั หวัดแพร่ 54150ประวัตกิ ำรศึกษำ -โรงเรยี นลองวทิ ยำ -ปจั จบุ ันกำลงั ศึกษำระดบั ปริญญำตรชี ั้นปที ี่ 1 -คณะพยำบำลศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั นเรศวรE-mail: [email protected]

22 ชื่อ นำงสำวเมธินี เพง็ สวย รหัสนิสติ 60560887 ภมู ิลำเนำ 66 หมู่1 ตำบลสขุ เดอื นห้ำ อำเภอเนนิ ขำม จังหวัดชยั นำท 17130 ประวัติกำรศึกษำ -โรงเรียนหนั คำพทิ ยำคม -ปัจจบุ ันกำลงั ศึกษำระดบั ปรญิ ญำตรชี นั้ ปที ่ี 1 -คณะพยำบำลศำสตร์ มหำวทิ ยำลัยนเรศวร E-mail: [email protected] ชื่อ นำงสำวยินดี เทียนงเู หลอื ม รหสั นิสติ 60560900 ภูมลิ ำเนำ ท9ี่ 1 หมู่1 ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเฉลมิ พระเกียรติ จังหวัดนครรำชสมี ำ 30000 ประวัติกำรศึกษำ -โรงเรียนสรุ นำรีวิทยำ -ปจั จุบนั กำลังศึกษำระดบั ปริญญำตรีชนั้ ปที ่ี 1 -คณะพยำบำลศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั นเรศวรE-mail: [email protected]

23ช่ือ นำงสำวยพุ ำรัตน์ นมุ่ นวลรหสั นสิ ติ 60560917ภมู ลิ ำเนำ ที่อยู่152 หมู่5 ตำบล รอ่ งกำศ อำเภอ สูงเมน่ จังหวดั แพร่ประวัติกำรศึกษำ -โรงเรียนนำรีรตั น์จังหวดั แพร่ -ปัจจบุ นั กำลังศกึ ษำระดบั ปรญิ ญำตรชี น้ั ปที ่ี 1 -คณะพยำบำลศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั นเรศวรE-mail: [email protected]ชื่อ นำงสำวรจนำ ยะพนั ธ์รหสั นสิ ติ 60560924ภมู ิลำเนำ ที่อยู่ 267/1 หม1ู่ ตำบลลอ้ มแรด อำเภอเถนิ จงั หวดั ลำปำง 52160ประวตั ิกำรศกึ ษำ -โรงเรียนเถินวทิ ยำ -ปัจจบุ ันกำลังศึกษำระดับปริญญำตรีชน้ั ปีท่ี 1 -คณะพยำบำลศำสตร์ มหำวิทยำลยั นเรศวร E-mail: [email protected]