2.4 พฒั นาครูและบคุ ลากรใหม้ ี 47 ความเชยี่ วชาญทางวิชาชพี จ้านวนชัว่ โมงทคี่ รแู ละบุคลากรได้รบั การอบรมพฒั นาทางวชิ าชพี ๐. ๑2 10 - 40 ชว่ั โมง ๒. ๑. 41 - 70 ชวั่ โมง 71 - 100 ช่วั โมง ๑๒. 101 - 130 ชวั่ โมง 131 - 160 ชวั่ โมง จากแผนภมู ิ พบวา่ ครูและบคุ ลากรส่วนใหญ่ได้เข้ารับการอบรมพฒั นา วิชาชพี และพัฒนาตนเองอยใู่ นช่วง 10 – 40 ชวั่ โมง มากถงึ 12 คน และ ในชว่ ง 41 – 70 ชว่ั โมง มากถึง 12 คน จากจา้ นวนครแู ละบุคลกรทังหมด 27 คน 2.5 จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพ การจดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพ และสงั คมท่ีเออื ต่อการจัดการเรียนรู้ 1. การจดั บรรยากาศภายในหอ้ งเรยี นเรียน/อาคารเรยี น หอ้ งเรยี นควรมีอากาศ อยา่ งมคี ุณภาพ ถา่ ยเทสะดวก มแี สงสวา่ งเพียงพอและสมา้่ เสมอทว่ั ห้อง โตะ๊ เก้าอมี ีขนาด เหมาะสมกบั วัย นา้ หนกั เบาใหเ้ ด็กเคล่ือนยา้ ยได้โดยสะดวก ใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์ใน การตกแต่งห้องเรยี นใหส้ วยงาม เลือกสรรวัสดุอุปกรณแ์ ละสือ่ การเรียนร้ทู ่ีมี ความสรา้ งสรรค์ ทนทาน หลากหลายมาใชง้ าน โดยค้านงึ ถงึ ความคุ้มค่าและ ความทนทาน มีการจดั ระบบการวางวสั ดอุ ปุ กรณใ์ หเ้ ดก็ หยิบใชไ้ ด้โดยสะดวก มี การตรวจสอบความสะอาด ความพรอ้ มในการใชง้ านของวสั ดอุ ปุ กรณ์และสื่อ อยา่ งสม่้าเสมอ เลือกสถานทใ่ี นการเรียนรูใ้ หเ้ หมาะกับลักษณะของกจิ กรรม เชน่ กจิ กรรมทสี่ งบอยไู่ กลจากกจิ กรรมทีใ่ ช้เสยี ง กิจกรรมท่ตี ้องการแสงสวา่ งอยู่ ใกล้กบั หนา้ ตา่ ง เป็นตน้ จดั การจราจรทงั ในและนอกหอ้ งเรยี นให้สะดวกต่อการ เคลื่อนไหวของเด็กขณะท้ากจิ กรรม สงิ่ สา้ คญั คือสรา้ งบรรยากาศในห้องเรียนให้ อบอุ่น เป็นมิตร และเตม็ ไปดว้ ยความรักความเมตตา 2. การจัดสภาพแวดล้อมภายนอกหอ้ งเรยี น จัดอาคารสถานท่แี ละบริเวณโรงเรียน ให้สะอาด ปลอดภัย สวยงาม สร้างบรรยากาศให้ปลอดโปร่ง สบายใจ ใกล้ชิด ธรรมชาติ และกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมในชุมชน มีเครื่องเล่นสนามท่ีตังใน ต้าแหน่งท่ีปลอดภัย อยู่ในสภาพดี เคร่ืองเล่นควรท้าจากวัสดุธรรมชาตทิ ่ีหาได้ ง่ายในท้องถ่ิน จัดบริเวณส้าหรับเล่นให้มีความหลากหลายทังในร่มและ กลางแจ้ง มีพืนผิวแตกต่างกัน เช่น หญ้า ดิน ปูน ไม้ โดยค้านึง ถึงความ ปลอดภัยและการดูแลรักษา มีสถานท่ีประกอบอาหารเป็นสัดส่วน สะอาด จัด สถานทแี่ ละเครือ่ งใช้ในการรบั ประทานอาหารให้สะอาด และสวยงาม จดั น้าด่ืม ให้พอเพียงให้เด็กด่ืมได้โดยสะดวก มีห้องส้วมเพียงพอ โดยให้มีขนาดและ ต้าแหน่งท่ีตังที่เหมาะสมกับวยั ของเด็ก ดูแลให้สะอาดถูกสุขลักษณะ มีอปุ กรณ์ และสถานท่ีสะอาดและเหมาะสมในการท้าความสะอาดร่างกาย เช่น ล้างมือ
48 ล้างหน้า แปรงฟัน รวมทังจัดถังขยะให้เพียงพอและเหมาะสมกับการใช้งาน และดูแลรกั ษา การจดั สภาพแวดล้อมทางสังคม 1. บุคลกิ ภาพของครู บคุ ลกิ ภาพของครชู ่วยเสริมบรรยากาศในการเรยี นรูใ้ ห้เกิดขนึ ในห้องได้เป็นอย่างดี ครูควรยิมแยม้ แจ่มใส มีกิรยิ ามารยาทแบบไทย แต่งกาย เหมาะสมกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ใช้ภาษาถูกต้องชัดเจน เต็มใจตอบคา้ ถามของ เด็ก พูดกับเด็กด้วยเสียงนุ่มนวลเป็นมิตร และพูดชีแจงเหตุผลแก่เด็กด้วย น้าเสยี งปกติ 2. การจัดการชันเรียนของครู ครูควรใส่ใจดูแลให้เด็กอยู่รว่ มกนั ในห้องเรยี นอย่าง มีความสุข พร้อมทังเรียนรู้สิทธิและหน้าที่ของตนด้วย จึงต้องมีการจัดท้า ข้อตกลงร่วมกัน แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ มีแนวทางปฏบิ ัตเิ มื่อเด็กไม่ท้าตาม ขอ้ ตกลง และแกไ้ ขปญั หาเม่อื มขี ้อขัดแย้งเกดิ ขึนในห้องเรยี น 3. การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครูกับเด็ก ความสัมพันธอ์ ันดีระหว่างครูกับเด็ก ชว่ ยเสริมสร้างให้เด็กรู้สกึ อบอุ่น ปลอดภัย สรา้ งความม่ันใจในตนเอง และเกิด ความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง ครูควรสร้างความสัมพันธ์กับเด็กด้วยท่าทาง เช่น ยิม สัมผัส ทักทายและพูดคุยกับเด็กทังเมื่อเด็กมาถึง ขณะรับประทานอาหาร เตรียมตัวท้ากิจกรรม หรือเด็กลากลับบา้ น ดูแลเด็กท่ีมีปญั หาสุขภาพ ไม่สบาย หรือต้องการกา้ ลังใจ รับฟังเมื่อเด็กพูดด้วย ใหโ้ อกาสเดก็ ท่ีต้องการพูดคยุ กบั ครู ตอบเมอื่ เด็กถาม และยอมรับการช่วยเหลือของเด็ก 4. การสรา้ งความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งผู้ปกครองและโรงเรียน ครูมบี ทบาทสา้ คัญยงิ่ ใน การสนับสนนุ และสง่ เสริมใหเ้ กดิ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผปู้ กครองกบั โรงเรียน ครู จึงควรสร้างความสัมพันธ์กับผู้ปกครองด้วยการจัดท้าป้ายนิเทศซ่ึงมีสาระ เก่ียวกับเด็ก ผู้ปกครอง ชุมชน และโรงเรียน จัดท้าจดหมายข่าวถึงผู้ปกครอง กระตุ้นให้ผู้ปกครองแลกเปล่ียนเรียนรู้กับทางโรงเรยี น สนับสนุนให้ผู้ปกครอง เย่ียมชันเรียนของบุตรหลาน จัดประชุมสัมมนาระหว่างผู้ปกครองและครู รวมทงั เปิดโอกาสใหผ้ ู้ปกครองได้ทา้ งานอาสาสมัครรว่ มกับทางโรงเรยี น 2.6 จดั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ สถานศกึ ษาไดน้ า้ ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการบริหารสถานศกึ ษามาใช้ ซ่ึง เพื่อสนบั สนุนการบริหารจัดการและ ประกอบด้วยงานด้านตา่ ง ๆ ดังนี จดั การเรยี นรู้ 1. งานระบบเครอื ขา่ ย (Network Administration) ดูแลทางดา้ นระบบเครอื ข่าย ระบบ Security และ Server ดแู ลทางดา้ นการใหบ้ รกิ ารอนิ เตอร์เนต็ ของโรงเรยี น ดแู ลระบบเครือข่ายต่างๆในโรงเรียนทังหมด เช่น Office ต่างๆ ในโรงเรียน ห้อง lab โรงอาหาร Minimart ห้องพักครู ฯลฯ 2. งานซ่อมบ้ารงุ (PC Support and Maintenance) ติดตงั ดูแลและซ่อมบ้ารงุ คอมพวิ เตอร์ทังหมดที่ใชใ้ นโรงเรียน บริการตดิ ตัง ซอ่ มแซมอุปกรณเ์ สริมตา่ งๆ เชน่ เครอ่ื งพิมพ์ หมึกพมิ พ์ ฯลฯ 3. งานสารสนเทศ (Information and Application Development) ดูแลระบบ MAS SCHOOL ซง่ึ เปน็ ระบบข้อมูลสารสนเทศของโรงเรยี นทใี่ ช้
49 ในหน่วยงานตา่ งๆท่ใี ชผ้ า่ นระบบเครอื ขา่ ยของโรงเรียน เชน่ ขอ้ มลู บคุ ลากร และนกั เรียนทังหมด ขอ้ มูลคะแนนทังหมดของนักเรียน ขอ้ มลู การเงนิ ขอ้ มลู การขาด ลามาสายของครูและนักเรียน ฯลฯ จัดการอบรมให้กับบุคลากร ในเรื่องท่ีเก่ยี วกบั การใชง้ านสารสนเทศของ โรงเรยี น 4. งานพฒั นาเว็บไซต์ น้าเสนอขอ้ มลู ข่าวสารตา่ งๆของโรงเรียนผา่ นทางเว็บไซต์ และ Facebook สร้างชอ่ งทางเพ่อื เชือ่ มความสมั พนั ธ์ระหวา่ งนกั เรยี น ครู ผูป้ กครอง ศษิ ย์ เกา่ โรงเรยี นผา่ นทางเวบ็ ไซต์ พฒั นาโปรแกรมเพอ่ื ใชใ้ นการบรหิ ารจัดการของโรงเรยี นผา่ นเวบ็ ไซตข์ อง โรงเรียน จุดเดน่ สถานศกึ ษามกี ารบรหิ ารและการจดั การอยา่ งเป็นระบบ สถานศึกษาได้ใชเ้ ทคนิคการประชุมทห่ี ลากหลายวธิ ี เช่น การประชมุ แบบมีส่วนร่วม การประชุมระดมสมอง การประชุมกล่มุ เพ่ือใหท้ ุกฝา่ ยมีส่วนรว่ มในการก้าหนดวสิ ัยทัศน์ พันธ กจิ เป้าหมาย ที่ชดั เจน มีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการจดั การศกึ ษา แผนปฏิบตั กิ ารประจ้าปี ที่สอดคล้องกับผลการจัด การศกึ ษา สภาพปัญหา ความตอ้ งการพฒั นา และนโยบายการปฏิรปู การศึกษาทม่ี งุ่ เนน้ การพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณภาพตาม มาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษาครูผู้สอนสามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ มีการด้าเนินการนิเทศ ก้ากับ ติดตามประเมินผล การด้าเนินงาน และจัดท้ารายงานผลการจัดการศึกษา และโรงเรียนได้ใช้กระบวนจัยในการ รวบรวมขอ้ มูล เพ่ือใชเ้ ป็นฐานในการวางแผนพฒั นาคณุ ภาพสถานศึกษา จุดควรพฒั นา 1. เปิดโอกาสใหผ้ ปู้ กครองได้มสี ว่ นร่วมในการเสนอความคดิ เหน็ ในการจดั การศึกษาเพือ่ พฒั นาผเู้ รยี น ๒. สร้างเครือขา่ ยความร่วมมอื ของผู้มสี ่วนเกย่ี วข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรยี นให้มคี วามเขม้ แข็ง มีส่วนร่วม รบั ผิดชอบตอ่ ผลการจดั การศกึ ษา และการขบั เคลอ่ื นคุณภาพการจดั การศกึ ษา มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั ระดบั คุณภาพ: ..........ด.ี ......... กระบวนการพฒั นา สถานศึกษาด้าเนินการสง่ เสรมิ ให้ครจู ัดการเรียนการสอนทเี่ น้นผู้เรยี นเป็นส้าคัญโดยการด้าเนินงาน/กิจกรรมอย่าง หลากหลาย ได้แก่ งานหลักสูตรมีการประชุมปฏิบัติการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา พัฒนาสู่ประชาคมอาเซียนและ มาตรฐานสากล มกี ารบูรณาการภาระงาน ชินงาน โดยทุกระดบั ชนั จัดท้าหน่วยบูรณาการอาเซียน เศรษฐกิจพอเพียงปรับ โครงสร้างรายวิชา หน่วยการเรยี นรู้ สัดส่วนคะแนนแตล่ ะหนว่ ยก้าหนดคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ทสี่ อดคลอ้ งกับหนว่ ยการ เรยี นรู้ มกี ารวิเคราะห์ผเู้ รยี นรายบุคคล โดยน้าขอ้ มลู และผลจากการวิเคราะห์มาออกแบบการเรยี นรู้ทหี่ ลากหลายและวาง แผนการจัดการเรียนรู้ทีต่ อบสนองความแตกต่างระหว่างบคุ คล ใช้ส่ือเทคโนโลยที ี่ทันสมัยและภูมปิ ัญญาท้องถ่ินมาบูรณา การในการจัดการเรียนรู้ มกี ารวัดประเมินผลท่ีเน้นการพัฒนาการเรยี นรขู้ องผ้เู รยี นอย่างต่อเน่ือง ให้ข้อมลู ย้อนกลับไปยัง ผู้เรียนรวมทังให้ค้าแนะน้า ค้าปรึกษาแก่นักเรียนเป็นรายบุคคลด้วยความเสมอภาคส่งเสริมให้ครูใช้ผลจากการประเมิน ผู้เรียนมาท้างานวิจัยเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในวิชาท่ีตนรับผิดชอบ มีการจัดบุคลากรปฏิบัติหน้าท่ีตรงตามความรู้
50 ประสบการณ์และความถนัด และจัดการเรียนการสอนในวิชาที่ได้รับอย่างเต็มเวลาและความสามารถ สนับสนุนให้ครู จัดการเรยี นการสอนท่ีสรา้ งโอกาสให้นักเรยี นทุกคนมสี ่วนร่วม ไดล้ งมือปฏิบตั จิ ริงจนสรปุ ความรู้ไดด้ ้วยตนเอง จดั การเรยี น การสอนที่เน้นทักษะการคิด เช่น จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงาน ครูมีการมอบหมายหน้าท่ีให้นักเรียนจัดป้ายนิเทศ และ บรรยากาศตามสถานทีต่ ่าง ๆ ทังภายในห้องเรียนและนอกหอ้ งเรยี น ครูใช้ส่อื การเรียนการสอน นวัตกรรมและเทคโนโลยี ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินมีการประเมินคุณภาพและประสิทธภิ าพของสือ่ การสอนทใี่ ช้ ครูทกุ คนทา้ งานวิจัยในชันเรียนปีการศกึ ษา ละ ๑ เร่ือง มีโครงการที่ส่งเสริมให้ครูได้ทุกกลุ่มสาระพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างสม้่าเสมอเพ่ือน้าความรู้และ ประสบการณ์มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน มีการยกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรครทู ี่เป็นแบบอย่างท่ีดีในการจัดการ เรยี นการสอนและพฒั นาตนเองอยู่เสมอ มีสวัสดกิ ารบ้ารงุ ขวญั และก้าลังใจให้แก่ครู ผลการดาเนินงาน จากการดา้ เนนิ งาน/โครงการ/กจิ กรรมอย่างหลากหลาย เพ่ือพฒั นาให้ครูการจดั การเรียนการสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเปน็ ส้าคัญ ส่งผลใหค้ รูผสู้ อนมีแผนการจดั การเรียนรู้ทมี่ ีเปา้ หมายคุณภาพผเู้ รียนทังดา้ นความรู้ทักษะกระบวนการ สมรรถนะ และคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ครูผสู้ อนมีการวิเคราะห์ผเู้ รียนเป็นรายบุคคลเป็นระดบั เด็กอ่อน ปานกลาง และเก่ง ท้าให้ ครผู ู้สอนสามารถออกแบบและจดั การเรียนรู้ท่ตี อบสนองตอ่ ความแตกต่างบุคคล มกี ารสอนเสริมความรู้ใหผ้ ู้เรียนกลุม่ ปาน กลางและกลมุ่ เก่ง มกี ารสอนซอ่ มเสรมิ ผเู้ รียนกลมุ่ ออ่ น มีการใช้ส่อื เทคโนโลยที แี่ ละนา้ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิน่ มาบูรณาการในการ จัดการเรียนรู้ในแต่ละวิชา มีการวัดประเมินผลจากสภาพความเป็นจริงที่มุ่งเน้นพัฒนาการของผู้เรียนด้วยวิธีการ หลากหลาย ครูทุกคนยังมีงานวิจัยในชันเรียนและน้าผลของงานวิจัยนันไปพัฒนาการเรียนการสอน ส่งผลให้การจัดการ เรียนการสอนของครคู รอบคลมุ ทักษะกระบวนการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเดน็ พิจารณา ผลการประเมิน ๓.๑ จดั การเรียนรผู้ า่ นกระบวนการ การเรยี นรู้ผ่านกระบวนการคดิ และปฏิบัติจริงและนาไปประยกุ ตใ์ ช้ คิดและปฏิบัติจรงิ และนา้ ไป ประยกุ ตใ์ ช้ ๑. เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา การน้าความรไู้ ปประยุกตใ์ ช้ ๒. เป็นการเรียนการสอนทเี่ ปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ๓. ผ้เู รียนสร้างองคค์ วามร้แู ละจดั ระบบการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ๔. ผูเ้ รียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน มกี ารสร้างองคค์ วามรู้ การสรา้ งปฎิสมั พันธ์ ร่วมกนั และรว่ มมือกันมากกว่าการแข่งขนั ๕. ผู้เรียนได้เรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการท้างาน และการแบ่ง หนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบ ๖. เป็นกระบวนการสรา้ งสถานการณ์ใหผ้ ู้เรยี นอา่ น พูด ฟัง คดิ ๗. เป็นกจิ กรรมการเรยี นการสอนเน้นทักษะการคดิ ขันสูง ๘. เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูล, ข่าวสาร, สารสนเทศ, และ หลักการส่กู ารสรา้ งความคดิ รวบยอดความคดิ รวบยอด ๙. ผสู้ อนจะเปน็ ผู้อ้านวยความสะดวกในการจัดการเรยี นรู้ เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นเป็นผ้ปู ฏิบตั ิ ด้วยตนเอง ๑๐.ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของ ผเู้ รยี น โรงเรียนบา้ นบุพราหมณ์ได้นามาประยกุ ต์ใช้ ดังนี้ 1. การเรียนรู้ผ่านการท้างาน โดย จัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมผู้เรียนให้เกิด
51 พฒั นาการทุกด้าน ไมว่ ่าจะเป็นการเรียนรูเ้ นือหาสาระ การฝึกปฏิบัตจิ ริง ฝึกฝน ทักษะทางสงั คม ทักษะชวี ิต ทักษะวชิ าชีพการพัฒนาทกั ษะการคิด 2. การเรยี นรผู้ า่ นโครงงาน เปน็ การจดั การเรียนร้ทู ีเ่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สา้ คัญรปู แบบหน่งึ ที่เป็นการให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงในลักษณะของการศึกษา ส้ารวจ ค้นคว้า ทดลอง ประดิษฐ์คิดค้น โดยครูเปล่ียนบทบาทจากการเป็นผู้ให้ความรู้ เป็นผู้ อ้านวยความสะดวกหรือผ้ใู ห้ค้าแนะน้า ท้าหนา้ ท่ีออกแบบกระบวนการเรยี นรใู้ ห้ ผู้เรียนท้างานเป็นทีม กระตุ้น แนะน้า และให้ค้าปรึกษา เพ่ือให้โครงการส้าเร็จ ลลุ ่วง ประโยชน์ทไ่ี ด้ส้าหรับครูทน่ี อกจากจะเป็นการพัฒนาคุณภาพด้านวิชาชีพ แล้ว ยังช่วยให้เกิดการท้างานแบบรว่ มมือกับเพ่อื นครูดว้ ยกัน รวมทังโอกาสที่จะ ได้สร้างสัมพันธ์ทีด่ ีกับนกั เรียนด้วย 3. การเรยี นร้ผู ่านกิจกรรม ในการยดึ หลักการให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง การเรียนโดยการปฏิบัติจริง และปฏิบัติเพ่ือให้เกิดการเรียนรู้และแก้ปัญหาได้ ในเนือหาทุกขนั ตอนของการเรยี นรู้ เปน็ การเรียนรู้ด้วยตนเอง ทกุ คนในกลุม่ เปน็ ผู้ ปฏิบัติ คุณครูเป็นพี่เลียงและเทรนเนอร์ แต่กิจกรรมที่น้ามาใช้นีต้องมี ประสิทธิภาพในการเรียนรู้เนือหานันๆ มีจุดมุ่งหมาย สนุก และน่าสนใจ ไม่ ซา้ ซากจนกอ่ ให้เกิดความเบื่อหนา่ ย 4. การเรียนรู้ผ่านการแก้ปัญหา เป็นรูปแบบการเรียนอีกรูปแบบหนึ่งท่ีเน้นผู้เรียน เป็นศูนย์กลาง และรู้จกั การท้างานร่วมกนั เป็นทมี ของผเู้ รยี น โดยผสู้ อนมีส่วนร่วม นอ้ ยแต่กท็ า้ ทายผู้สอนมากทสี่ ดุ 5. การเรยี นรู้ผา่ นกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์หรือวธิ วี ิจยั การเรียนรู้ทเี่ นน้ การวิจยั ถอื ได้วา่ เป็นหัวใจของบัณฑติ ศึกษา เพราะเป็นการเรยี นทีเ่ นน้ การแสวงหาความรู้ ดว้ ยตนเองของผู้เรียนโดยตรง เป็นการพัฒนากระบวนการแสวงหาความรู้ และ การทดสอบความสามารถทางการเรียนร้ดู ้วยตนเองของผูเ้ รียน ๓.๒ ใชส้ อ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศ 1. วัสดุ ครภุ ณั ฑ์ ส้านักงาน/เคร่อื งคอมพิวเตอร์ เคร่ืองอดั สา้ เนา เหมาะสมเพียงพอ และแหลง่ เรียนรู้ท่ีเอือต่อการเรียนรู้ 2. อัตราสว่ นนกั เรียนต่อคอมพิวเตอร์เพียงพอต่อคน้ ควา้ หาความรู้ 3. มสี อื่ นวัตกรรมการเรียนการสอน และการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศทีเ่ ออื ตอ่ ผเู้ รยี นได้เรียนรดู้ ้วยตนเอง 4. จัดห้องสมุดให้มรี ะบบบรหิ ารจัดการทรพั ยากรสารสนเทศท่ีทันสมัยสอดคล้องกับ ความต้องการของผู้เรียน เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และสร้างนิสัยรักการอ่าน อยา่ งยงั่ ยนื ผู้เรียนสามารถเข้าถึงสารสนเทศไดอ้ ย่างรวดเรว็ เออื ใหผ้ ู้เรียนเรียนรู้ด้วย ตนเองและเรยี นร้แู บบมีส่วนรว่ ม ๓.๓ มีการบริหารจัดการชันเรยี นเชิง การบรหิ ารจัดการชนั เรยี น เปน็ วิธกี ารดา้ เนินการใหช้ นั เรียนได้อยใู่ นสภาพ บวก ความพร้อมทีจ่ ะดา้ เนนิ การเรียนการสอนให้เปน็ ไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพ่อื ใหเ้ กิด ประสทิ ธิผลในการเรียนรขู้ องผู้เรียนอยา่ งแท้จรงิ ความสา้ คัญของการบรหิ ารจดั การชนั เรียนท่ีมตี อ่ ผ้เู รียน ดงั ต่อไปนี 1. ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ ความอบอนุ่ ในขณะอยู่ในชนั เรยี น และมีความสุขในขณะท่ี มกี ารเรียนการสอน 2. ช่วยใหส้ ง่ เสรมิ สนับสนนุ บรรยากาศแห่งการเรียนรู้ใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุด ทัง
52 ๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผ้เู รยี น ในเวลาเรยี นปกติและนอกเวลาเรียน อยา่ งเป็นระบบและนา้ ผลมาพัฒนา 3. ชว่ ยใหผ้ ู้เรียนและผู้สอนไดม้ ปี ฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งกนั ตามธรรมชาตขิ องรายวชิ า ผเู้ รียน นันๆ ๓.๕ มกี ารแลกเปลี่ยนเรยี นรแู้ ละให้ ข้อมูลปอ้ นกลับเพื่อปรบั ปรงุ และ 4. ช่วยสง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี นได้ตระหนักในเรอ่ื งของวินัยในชันเรยี น พัฒนาการจัดการเรยี นรู้ 5. ช่วยป้องกนั สงิ่ รบกวนทเี่ ป็นสภาพแวดลอ้ มภายนอกท่มี ีต่อการเรยี นการสอน และการท้ากจิ กรรมต่างๆของผู้เรียน สถานศึกษามีการตรวจสอบและประเมนิ ความรคู้ วามเข้าใจของผเู้ รยี นอยา่ ง เปน็ ระบบและมีประสทิ ธิภาพ ๑. ประเมินผู้เรียนจากสภาพจรงิ ๒. มขี ันตอนตรวจสอบและประเมนิ อยา่ งเป็นระบบ ๓. ใชเ้ ครอ่ื งมือและวธิ ีการวัดและประเมนิ ผลที่เหมาะสมกับเปา้ หมายและ การ จัดการเรยี นการสอน ๔. นกั เรียนและผู้มสี ่วนเกี่ยวข้องมสี ่วนร่วมในการวัดและประเมนิ ผล ๕. ใหข้ ้อมูลยอ้ นกลบั แก่ผเู้ รียนและผเู้ รยี นน้าไปใช้พฒั นาตนเอง สถานศึกษามชี มุ ชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวชิ าชีพระหวา่ งครูและผู้เกี่ยวขอ้ งเพอื่ พัฒนาและปรับปรงุ การจัดการเรยี นรู้ ครูและผ้เู ก่ียวข้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนร้แู ละ ให้ขอ้ มลู สะท้อนกลบั เพอ่ื พฒั นาและปรับปรงุ การจดั การเรยี นรู้ จดุ เด่น ครูมคี วามตงั ใจ มงุ่ มน่ั ในการพฒั นาการสอน โดยจัดกจิ กรรมใหน้ ักเรียนได้เรยี นรโู้ ดยการคิด ไดป้ ฏบิ ตั จิ ริง มกี ารให้ วธิ ีการและแหล่งเรียนรู้ทีห่ ลากหลาย ใหน้ ักเรยี นแสวงหาความรู้จากส่ือเทคโนโลยดี ้วยตนเองอยา่ งต่อเน่ือง นกั เรยี นมีส่วน ร่วมในการจัดบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่เอือต่อการเรียนรู้ และผลงานวิจัยในชันเรียนของครูทุกคน ได้รับการตรวจ ประเมินพร้อมทงั ให้ค้าแนะน้าจากคณะกรรมการวจิ ัยของเขตพืนท่กี ารศกึ ษา จุดควรพัฒนา ควรให้คณะครูทุกคนได้รับการอบรมการพัฒนาศักยภาพของด้านการท้างานวิจัยในเร่ืองนวัตกรรม เพ่ือพัฒนา คุณภาพดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ พร้อมทังพัฒนาในเรอ่ื งหลกั สูตรโดยการเพ่ิมเตมิ เกี่ยวกบั หลักสูตรบรู ณาการท้องถิ่น ให้เห็นเด่นชัดในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ยิ่งขึน เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับท้องถิ่นรักในท้องถิ่นสามารถน้าไป ปฏิบัตใิ นชีวติ ประจา้ วนั ได้ นอกจากนีควรพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ให้ผเู้ รียนรู้จกั ประยุกต์ใชส้ ื่อเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ ให้มีประสิทธิภาพเกดิ ประโยชนต์ อ่ การแสวงหาความรู้ ยกระดบั ผลสัมฤทธข์ิ องผเู้ รยี น
53 ผลการประเมนิ ภาพรวม ระดับการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน คา่ เป้าหมาย ผลการประเมนิ บรรลเุ ป้าหมาย ระดับ 3 ดี ระดับ ๓ ดี มาตรฐาน / ประเดน็ การพิจารณา ระดับ 3 ดี ระดับ 3 ดี มาตรฐานท่ี ๑ คุณภาพของผู้เรียน รอ้ ยละ ๘๐ ร้อยละ ๘๕ ได้ระดบั ดีขึนไป ๑.๑ ผลสมั ฤทธทิ์ างวชิ าการของผูเ้ รียน รอ้ ยละ ๘๐ ได้ระดับดขี ึนไป ๑) ความสามารถในการอา่ น การเขียน การสอ่ื สารและ ไดร้ ะดบั ดขี นึ ไป รอ้ ยละ ๘๓ ร้อยละ ๘๐ การคดิ คา้ นวณ ได้ระดับดขี ึนไป ได้ระดบั ดขี ึนไป ๒) มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ ร้อยละ ๘๐ ร้อยละ 80 ได้ระดับดีขนึ ไป อภปิ รายและแลกเปลยี่ นความคิดเห็น และแก้ปญั หา รอ้ ยละ ๘๐ ได้ระดบั ดขี ึนไป ๓) มคี วามสามารถในการสรา้ งนวตั กรรม ไดร้ ะดับดขี ึนไป ร้อยละ 97 รอ้ ยละ ๘๐ ๔) มคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและ ได้ระดบั ดีขึนไป ได้ระดับดีขนึ ไป การสอื่ สาร ระดบั 4 ดเี ย่ียม ร้อยละ ๘๐ รอ้ ยละ ๙๐ ๕) มผี ลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา ไดร้ ะดบั ดขี ึนไป ไดร้ ะดับดขี นึ ไป ร้อยละ ๙๐ รอ้ ยละ ๙๘ ๖) มคี วามรู้ ทกั ษะพนื ฐาน และเจตคติทด่ี ีตอ่ งานอาชพี ได้ระดบั ดีขนึ ไป ร้อยละ ๙๐ ไดร้ ะดบั ดีขึนไป ๑.๒ คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงคข์ องผเู้ รียน ไดร้ ะดบั ดีขึนไป ระดับ 4 ดีเยยี่ ม ๑) การมคี ุณลกั ษณะและคา่ นิยมทดี่ ตี ามที่สถานศกึ ษา ร้อยละ ๙๐ ก้าหนด ไดร้ ะดบั ดีขึนไป ร้อยละ ๙๐ ๒) ความภมู ใิ จในทอ้ งถ่นิ และความเปน็ ไทย ได้ระดบั ดขี ึนไป ระดบั 4 ดีเยีย่ ม ๓) การยอมรบั ท่ีจะอยรู่ ว่ มกนั บนความแตกต่างและ ร้อยละ ๙๐ หลากหลาย ระดบั 4 ดีเยี่ยม ได้ระดับดขี นึ ไป ๔) สุขภาวะทางรา่ งกายและจติ สังคม ระดบั 4 ดเี ยีย่ ม รอ้ ยละ ๙๐ ไดร้ ะดับดีขึนไป มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการของ ระดับ ๔ ดเี ยย่ี ม ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา รอ้ ยละ ๙๐ 2.1 มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกจิ ได้ระดับดขี ึนไป ทีส่ ถานศกึ ษากา้ หนดชัดเจน 2.2 มีระบรหิ ารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา ระดับ 4 ดเี ยี่ยม 2.3 ดา้ เนนิ งานพัฒนาวชิ าการท่เี น้นคณุ ภาพผู้เรยี นรอบดา้ น ตามหลักสตู รสถานศกึ ษา และทกุ กลมุ่ เป้าหมาย ระดับ 4 ดีเยี่ยม ระดบั 4 ดีเยีย่ ม ระดับ ๔ ดีเยย่ี ม
54 มาตรฐาน / ประเด็นการพจิ ารณา คา่ เป้าหมาย ผลการประเมิน บรรลเุ ป้าหมาย 2.4 พัฒนาครแู ละบคุ ลากรให้มีความเช่ียวชาญทางวชิ าชพี ระดับ 4 ดีเยย่ี ม 2.5 จดั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสังคมทเี่ อือตอ่ การ ระดับ 4 ดเี ยย่ี ม จัดการเรยี นรอู้ ยา่ งมคี ณุ ภาพ ระดับ ๔ ดเี ยี่ยม 2.6 จัดระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่ือสนับสนนุ การบริหาร ระดับ ๔ ดเี ยี่ยม จัดการและจดั การเรียนรู้ ระดับ 4 ดเี ยย่ี ม มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทีเ่ นน้ ผเู้ รียน ระดับ 4 ดีเยย่ี ม เปน็ สาคัญ ระดับ 3 ดี ๓.๑ จัดการเรียนรผู้ ่านกระบวนการคดิ และปฏบิ ัตจิ รงิ และนา้ ไป ระดับ ๓ ดี ประยกุ ตใ์ ช้ รอ้ ยละ 8๐ ๓.๒ ใชส้ อ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศและแหลง่ เรยี นรทู้ เี่ ออื ตอ่ การ ไดร้ ะดับดีขนึ ไป รอ้ ยละ 8๐ เรียนรู้ ไดร้ ะดบั ดีขนึ ไป ๓.๓ มีการบรหิ ารจัดการชันเรียนเชงิ บวก รอ้ ยละ 8๐ ไดร้ ะดบั ดีขนึ ไป ร้อยละ 8๐ ๓.๔ ตรวจสอบและประเมนิ ผู้เรียนอยา่ งเป็นระบบและนา้ ผลมา ได้ระดบั ดีขนึ ไป พฒั นาผ้เู รียน รอ้ ยละ 8๐ ๓.๕ มีการแลกเปลย่ี นเรยี นร้แู ละให้ข้อมลู ป้อนกลบั เพอื่ ไดร้ ะดบั ดีขึนไป ร้อยละ 8๐ ปรบั ปรุงและพัฒนาการจดั การเรยี นรู้ ได้ระดับดขี นึ ไป ร้อยละ 8๐ ได้ระดบั ดีขนึ ไป ร้อยละ 8๐ ได้ระดับดขี นึ ไป รอ้ ยละ 8๐ ไดร้ ะดับดีขึนไป ร้อยละ 8๐ ไดร้ ะดบั ดีขึนไป แนวทางการพัฒนา 1. ครคู วรพฒั นานวัตกรรมจากผลงานทางวชิ าการให้หลากหลายมากย่งิ ขนึ และปรับปรุงใหส้ อดคลอ้ งกบั เนือหาของ หลกั สตู รท่ีมีการพัฒนาเปล่ยี นแปลงใหท้ นั สมยั อยู่เสมอ และสอดคล้องกับศกั ยภาพของผู้เรียนแต่ละคน เพือ่ ให้สามารถน้าไปใช้ ในการจดั การประสบการณ์การเรยี นร้ไู ด้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 2. สถานศึกษา สง่ เสรมิ ใหค้ รบู รู ณาการการเรียนการสอนให้ผู้เรยี นสามารถเรยี นรว่ มกนั ได้อย่างมีความสุข โดยไดร้ ับความรู้ และทกั ษะท่ีจา้ เป็นตามวยั อย่างเท่าเทียมกัน 3. สถานศกึ ษา สง่ เสรมิ พัฒนาและสร้างความร้คู วามเข้าใจให้ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา เขา้ ใจเกย่ี วกับระบบประกนั คุณภาพภายในท่ีเชื่อมโยงกับการดา้ เนินงานตามสภาพจริง และส่งเสริมแนวความคดิ เร่อื งการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาท่ีมุง่ การ พฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ให้เกิดขึนกบั ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา เพ่ือพัฒนาสถานศกึ ษาให้เป็นองคก์ รแหง่ การ เรียนรู้ จนเป็นวัฒนธรรมคณุ ภาพในการงานปกติของสถานศกึ ษา 4. ผเู้ รียนควรได้รับการพัฒนาทักษะทางด้านการคดิ รู้จกั ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ โดยการจดั กิจกรรมให้ ผ้เู รียนรจู้ ักแยกแยะข้อมลู ข่าวสาร รบั รูป้ ัญหา และสถานการณ์รอบตวั สามารถหาทางเลอื กและตัดสินใจแกป้ ัญหาใน สถานการณ์ต่างๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 5. ผเู้ รียนควรได้รับการพัฒนาให้มผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนในทุกวิชาใหส้ งู ขึน โดยครรู ว่ มกันวิเคราะห์หาจดุ ทค่ี วรพัฒนา และรว่ มกนั วางแผนพัฒนากิจกรรมการเรยี นการสอนดว้ ยวธิ ที ่ีหลากหลาย จัดให้มกี ารสอนเสรมิ และขอความร่วมมือกบั ผปู้ กครองในการติดตามผลการเรียนของผู้เรยี นอยา่ งตอ่ เนื่อง
55 6. สถานศึกษาควรสง่ เสริมให้ชุมชนมีความเข้มแขง็ ทางวิชาการ โดยการจดั กระบวนการเรยี นรรู้ ว่ มกับบุคคล ครอบครัว ชมุ ชน ฯลฯ สง่ เสรมิ ความเขม้ แขง็ ของชมุ ชนโดยการจดั กระบวนการเรยี นรู้ภายในชมุ ชน สง่ เสริมใหช้ มุ ชนมีการจดั การศกึ ษา อบรม และรจู้ ักเลอื กสรรภูมิปัญญาและวิทยาการต่างๆ พัฒนาชมุ ชนใหส้ อดคล้องกบั สภาพปัญหาและความต้องการ รวมทังหา วธิ กี ารสนับสนนุ ให้มกี ารแลกเปล่ียนประสบการณร์ ะหว่างชมุ ชน
56 ส่วนท่ี 3 สรปุ ผล แนวทางการพฒั นา และความตอ้ งการการชว่ ยเหลือ ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาถือเป็นข้อมูลสารสนเทศส้าคัญท่ีสถานศึกษาจะต้องน้าไปวิเคราะห์ สงั เคราะหเ์ พื่อสรุปนา้ ไปสกู่ ารเชื่อมโยงหรือสะท้อนภาพความส้าเร็จกับแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา (๓-๕ ป)ี และนา้ ไปใช้ในการวางแผนพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษาดงั นนั จากผลการดา้ เนนิ งานของสถานศกึ ษาสามารถ สรุปผลการประเมินในภาพรวมของจุดเด่นจุดควรพัฒนาของแต่ละมาตรฐานพรอ้ มทังแนวทางการพัฒนาในอนาคตและ ความต้องการการช่วยเหลอื ได้ดังนี 1. จุดเด่น 2. จุดควรพฒั นา ●ด้านคณุ ภาพของผเู้ รียน ●ดา้ นคุณภาพของผูเ้ รียน ๑) ผ้เู รยี นมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นสงู ขนึ มีผลการ 1) ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นของนักเรียนในกลุ่ม ประเมินระดับชาติสูงขึนเมื่อเทียบกับปีท่ีผ่านมา และ สาระภาษาองั กฤษ และคณิตศาสตร์ ยังไมบ่ รรลเุ ป้าหมาย นักเรียนกล้าแสดงออกร่าเริงแจ่มใส สุขภาพกายแข็งแรง 2) ผเู้ รยี นบางสว่ นควรไดร้ บั การพฒั นาในด้านการ และเปน็ ผู้มีคณุ ธรรม จริยธรรมตามที่สถานศึกษากา้ หนด ๒) ผู้เรียนอ่านหนังสือออกและอ่านคล่อง รวมทัง คิดวิเคราะห์ สามารถเขียนเพื่อการสื่อสารได้ทุกคน สามารถใช้ เทคโนโลยีในการแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองส่งผลให้ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี ๓) ผ้เู รยี นมีสขุ ภาพร่างกายแข็งแรง มสี มรรถภาพ ทางกายและน้าหนัก ส่วนสูงตามเกณฑ์มีระเบียบวินัยจน เป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษาเป็นที่ยอมรับของชุมชน โดยรอบในเร่ืองความมีวินัยเคารพกฎกติการะเบียบของ สงั คม
57 1. จุดเด่น (ตอ่ ) 2. จดุ ควรพฒั นา (ต่อ) ●ดา้ นกระบวนการบริหารและการจัดการ ●ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ ๑) ผู้บริหารมีความตังใจมคี วามมุ่งม่ัน มหี ลักการ ๑) ควรเปดิ โอกาสใหผ้ ู้ปกครองได้มีสว่ นรว่ มในการเสนอ บริหารและมีวิสัยทัศน์ที่ดีในการบริหารงานสามารถเป็น ความคิดเห็นในการจัดการศึกษาเพือ่ พัฒนาผเู้ รียนมากขนึ แบบอย่างท่ีดีในการท้างานและคณะกรรมการบริหาร ๒) ควรสรา้ งเครือข่ายความรว่ มมือกบั ผ้มู สี ่วนเกยี่ วข้อง โรงเรียนมีความตงั ใจและมคี วามพรอ้ มในการปฏิบตั ิหน้าท่ี ในการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้มีความเขม้ แข็ง มสี ่วนรว่ ม ตามบทบาท รบั ผิดชอบตอ่ ผลการจัดการศึกษาและการขับเคลื่อนคุณภาพ ๒) โรงเรียนมีการบริหารและการจัดการอย่าง การจัดการศึกษา เป็นระบบโรงเรียนได้ใช้เทคนิคการประชุมท่ีหลากหลาย วธิ ีเช่นการประชุมแบบมีสว่ นร่วมการประชุม ระดมสมอง การประชุมกลุ่มเพ่ือให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการก้าหนด วิสัยทัศน์พันธกิจเป้าหมายท่ีชัดเจนมีการปรับแผนพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจ้าปีที่ สอดคล้องกับผลการจัดการศึกษาสภาพปัญหาความ ตอ้ งการพัฒนาและนโยบายการปฏิรูปการศึกษาที่มุ่งเน้น การพัฒนาใหผ้ ู้เรยี นมีคุณภาพตามมาตรฐานหลักสูตรของ สถานศึกษาครูผู้สอนสามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมี คุณภาพมีการด้าเนินการนิเทศก้ากับติดตามประเมินผล การดา้ เนินงานและจดั ท้ารายงานผลการจดั การศึกษาและ โรงเรยี นได้ใช้กระบวนวิจัยในการรวบรวมข้อมูลมาใช้เป็น ฐานในการวางแผนพฒั นาคณุ ภาพสถานศึกษา
1. จดุ เดน่ (ต่อ) 58 ●ดา้ นกระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรยี น 2. จดุ ควรพัฒนา (ต่อ) เป็นสาคัญ ●ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนทเี่ น้นผู้เรียนเป็น ๑) ครพู ฒั นาตนเองอยเู่ สมอมคี วามตงั ใจ มุ่งมน่ั ในการ สาคัญ ปฏิบัติหน้าท่ีอย่างเตม็ เวลาและความสามารถ ๒) ครจู ัดกจิ กรรมให้นกั เรยี นแสวงหาความรจู้ ากสอ่ื ๑) ครูควรจัดกจิ กรรมเน้นให้ผู้เรียนได้มคี วามสามารถในการ เทคโนโลยีดว้ ยตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง คดิ วิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์อย่างหลากหลายและ ๓) ครูให้นักเรยี นมีสว่ นรว่ มในการจดั บรรยากาศ ใชแ้ หลง่ เรียนร้ใู นการพัฒนาตนเอง สภาพแวดล้อมที่เออื ต่อการเรยี นรู้ ๒) ครูควรจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในระดับชันป.๑–ป.๓ให้ ๔) ครูจัดกจิ กรรมให้นกั เรยี นเรียนรจู้ ากการคิดได้ปฏิบตั ิ ส า ม า ร ถ น้ า เส น อ อ ภิ ป ร า ย แ ล ะ แ ล ก เป ล่ี ย น เรี ย น รู้ อ ย่ า ง จรงิ ดว้ ยวธิ ีการและแหล่งเรียนรทู้ ่ีหลากหลาย สมเหตสุ มผลและมีทักษะในการแก้ปญั หาตามสถานการณ์ได้ อย่างเหมาะสม ๓) ครูควรจดั กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในระดับชันม.๑–ม.๓ให้มี พฤติกรรมทัศนคตทิ ่ีดตี อ่ ความเป็นไทย ไมห่ ลงใหลกับคา่ นยิ ม ต่างชาติจนเกิดการลอกเลียนแบบทา้ ใหล้ ืม วฒั นธรรมอันดงี ามของไทย ๔) ครูควรจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ตัวชีวัดตามหลักสูตร การศึกษาขันพืนฐานและฝึกให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์หา ความรู้จากแหลง่ เรยี นรสู้ ่อื เทคโนโลยใี ห้มากขึนและพัฒนาส่ือ แหล่งเรียนรู้จัดเตรยี มหอ้ งปฏิบัติ การใหอ้ ยใู่ นสภาพดีและพร้อมใช้งานเสมอ ๕) ครูควรวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีที่ หลากหลายตามสภาพจริงสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้ และธรรมชาติวชิ า ๖) ครูควรน้าภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัด กิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้ ๗) ครูควรให้ข้อมูลย้อนกลับแก่นักเรียนทันทีเพ่ือนักเรียน นา้ ไปใช้พัฒนาตนเอง
59 3. แนวทางการพฒั นาในอนาคต ๑) การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเนน้ การพฒั นาผเู้ รียนเปน็ รายบุคคลใหช้ ดั เจนขนึ ๒) การสง่ เสรมิ ให้ครเู หน็ ความส้าคัญของการจัดการเรยี นรู้โดยเน้นผู้เรยี นเป็นสา้ คญั การจดั ท้าการวจิ ยั ในชันเรยี น เพอื่ พฒั นาผเู้ รยี นใหส้ ามารถเรยี นรไู้ ดเ้ ตม็ ศักยภาพ ๓) การพัฒนาบุคลากรโดยส่งเข้ารับการอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในงานท่ีได้รับมอบหมายติดตามผลการน้าไปใช้ และผลท่เี กดิ กบั ผูเ้ รียนอย่างตอ่ เนือ่ ง ๔) การพฒั นาสถานศกึ ษาให้เป็นสงั คมแห่งการเรยี นรขู้ องชุมชน 4. ความต้องการและการช่วยเหลือ ๑) การพฒั นาครผู ูส้ อนในการจดั กิจกรรมการเรยี นร้ทู สี่ อดคล้องกับการพฒั นาผเู้ รียนในศตวรรษที่๒๑ ๒) การสรา้ งข้อสอบท่ีสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู้ตามแนวทางของการประเมนิ O-NET และ PISA
60 ภาคผนวก
Search