Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความปลอดภัยและทักษาในห้องปฎิบัติการ

ความปลอดภัยและทักษาในห้องปฎิบัติการ

Published by rodjana_nungning, 2019-01-19 22:40:23

Description: บทที่ 1 ความปลอดภัยและทักษะในห้องปฎิบัติการ

Search

Read the Text Version

เคมี เลม� 1 บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบตั กิ ารเคมี 1 1 | ความปลอดภยั และทักษะในปฏบิ ตั กิ ารเคมี goo.gl/qLLZJW สงวนสิทธ์โิ ดยดสัดสแวปทล.ง หหา้ รมือเจผา้ ยหแนพา่ รย่ ทา้ ซ้า หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้าเครอื่ งแก�วทีใ่ ช�ท่วั ไปในหอ� งปฏิบตั ิการสําหรบั การเรยี นระดับมธั ยมศกึ ษา เช�น บีกเกอร� ขวดรูปกรวย กระบอกตวง สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรือจา้ หนา่ ยคาํ ถามสําคัญ ดัดแปลง1. การทําปฏบิ ัติการเคมใี ห�เกดิ ความปลอดภยั ตอ� งคาํ นึงถึงเร่ืองใดบา� ง 2. อปุ กรณใ� นหอ� งปฏิบตั ิการมีอะไรบา� ง เพราะเหตุใดจงึ ตอ� งเลือกและใช�ใหเ� หมาะสม 3. เพราะเหตุใดการรายงานการวัดปริมาณจงึ ตอ� งมีหนว� ยกาํ กบั และคํานงึ ถงึ เลขนยั สําคญั สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัตกิ ารเคมี เคมี เล�ม 1 2 จดุ ประสงคก� ารเรียนร�ู 1. ระบคุ วามเปน� อนั ตรายของสารเคมจี ากสญั ลกั ษณแ� ละขอ� มลู บนฉลากสารเคมี 2. อธิบายข�อปฏิบัติเบอ้ื งตน� และการปฏบิ ตั ติ นท่ีแสดงถึงความตระหนักในการทําปฏิบตั กิ าร หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้าเคมี เพื่อให�มีความปลอดภัยทั้งต�อตนเอง ผู�อื่น และสิ่งแวดล�อม และเสนอแนวทางแก�ไข เม่อื เกิดอบุ ตั ิเหตุ 3. เลือกและใช�อุปกรณ�หรือเครื่องมือในการทําปฏิบัติการ และวัดปริมาณต�าง ๆ ได�อย�าง เหมาะสม สงวนสทิ ธ์ิโดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ย4. อ�านค�าปรมิ าณจากการวัดโดยแสดงเลขนัยสําคญั ทถ่ี กู ตอ� ง 5. ระบหุ นว� ยวัดปริมาณตา� ง ๆ ของสาร 6. เปลี่ยนหนว� ยวัดให�เปน� หนว� ยในระบบเอสไอด�วยการใชแ� ฟกเตอร�เปลย่ี นหนว� ย ดัดแปลง หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซ้า7. นาํ เสนอแผนการทดลอง ทดลอง และเขียนรายงานการทดลอง ตรวจสอบความรู�ก�อนเรยี น สงวนสทิ ธโ์ิ ดย สสวท. หรอื จ้าหนา่ ย1. ใสเ� ครอ่ื งหมาย หนา� ขอ� ความทถ่ี กู ตอ� ง และเครอ่ื งหมาย หนา� ขอ� ความทไ่ี มถ� กู ตอ� ง ดัดแปลง……. 1.1 ถ�านักเรียนทําขวดบรรจุสารเคมีตกแตกและสารเคมีหกเป�อนโต�ะ นักเรียน ต�องกันเพื่อน ๆ ออกจากบรเิ วณนน้ั และแจ�งอาจารย�ผ�ูดูแลการทดลอง ……. 1.2 วธิ จี ดุ ตะเกยี งแอลกอฮอลท� าํ โดยการเอยี งตะเกยี งตอ� ไฟจากตะเกยี งแอลกอฮอลอ� น่ื ……. 1.3 สารละลายที่มสี มบัตเิ ป�นกรดจะเปล่ยี นสีกระดาษลิตมัสจากแดงเป�นน้าํ เงิน ……. 1.4 ควรสวมถุงมือ และใช�ผ�าป�ดปาก ป�ดจมูก เมื่อต�องใช�สารเคมีที่มีสัญลักษณ� ความเป�นอนั ตรายรปู หวั กะโหลกไขว� ……. 1.5 หลอดหยดเปน� อุปกรณท� ี่ใชใ� นการถา� ยเทสารปรมิ าณน�อย ๆ ……. 1.6 การตวงปริมาตรน้ํา สามารถใช�ถ�วยตวงของเหลวสําหรับทําขนมแทนการตวง ดว� ยบีกเกอร�ได� สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทักษะในปฏิบตั กิ ารเคมี 3 2. จบั คู�รปู อปุ กรณก� บั ชอ่ื ใหถ� กู ตอ� ง สงวนสิท………ธ………โ์ิ ชกง...ดย222...ด123สบกเดั ทสรกี แอะเวกรบปม�ออทอรกลส�ม.ตงเิงวตงวอหหรน�้ารสมือทิเจผธา้ ย์ิโหซจขดแนพย………า่………ดรยส...ัด่ สท222แ...ว้า876ปทซปกบลรเว�ิ.า้ปะเงรจตตกตหหตน� �า้าร�มือกิ เาจผ้ายหแคฉญนพ่ารย่ ทา้ ซ้า ……. 2.4 กรวยกรอง ……. 2.9 ถว� ยระเหยสาร ……. 2.5 หลอดทดลอง สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทกั ษะในปฏบิ ตั กิ ารเคมี เคมี เลม� 1 4 3. จากรูปต�อไปนี้ อุปกรณ�ใดใช�ในการวัดปริมาณสาร หห้ารมือเจผา้ ยขหแนพ่ารย่ ท้าซ้า สงวนสทิ ธกงโิ์ ดยดสดั สแวปทล.ง จ ค ช สงวนสทิ ธซิโ์ ดยดสัดสแวปทล.ง หหา้รมอื เจผา้ ยหฉแนพ่ารย่ ทา้ ซ้า ญ สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เลม� 1 บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏิบัตกิ ารเคมี 5 การทดลองถอื เปน� หวั ใจของการศกึ ษาคน� ควา� ทางเคมที ส่ี ามารถนาํ ไปสก�ู ารคน� พบและความรใ�ู หม� ทางเคมี นอกจากนี้การปฏิบัติการทดลองยังสามารถช�วยให�นักเรียนเกิดความรู�และความเข�าใจใน บทเรียนได�ดียิ่งขึ้น การทดลองทางเคมีสําหรับนักเรียนนิยมทําในห�องปฏิบัติการ โดยมีข�อควรปฏิบัติ และควรหลกี เลย่ี งทเ่ี กย่ี วขอ� งกบั ความปลอดภยั ในการทาํ ปฏบิ ตั กิ าร การจดั การเกย่ี วกบั อบุ ตั เิ หตจุ าก ห้ามเผยแพร่ ท้าซา้สารเคมี ความเท่ียงความแมน� หน�วยวัด และวิธกี ารทางวิทยาศาสตร� การทําปฏิบัติการเคมไี ด�อย�างปลอดภยั จะต�องคาํ นึงถงึ เรื่องใดบา� ง 1.1 ความปลอดภยั ในการทํางานกับสารเคมี สงวนสิทธโ์ิ ดย สสวท. หรือจา้ หนา่ ยการทําปฏิบัติการเคมีส�วนใหญ�ต�องมีความเกี่ยวข�องกับสารเคมี อุปกรณ�และเครื่องมือต�าง ๆ ซง่ึ ผท�ู าํ ปฏบิ ตั กิ ารตอ� งตระหนกั ถงึ ความปลอดภยั ของตนเอง ผอ�ู น่ื และสง่ิ แวดลอ� ม โดยผท�ู าํ ปฏบิ ตั กิ าร ควรทราบเกี่ยวกับประเภทของสารเคมีที่ใช� ข�อควรปฏิบัติในการทําปฏิบัติการเคมี และการกําจัด สารเคมที ใี่ ชแ� ลว� หลังเสร็จสิ้นปฏบิ ตั กิ าร เพอ่ื ใหส� ามารถทาํ ปฏิบัตกิ ารเคมไี ด�อย�างปลอดภัย ดัดแปลง หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซ้า1.1.1 ประเภทของสารเคมี สารเคมีมีหลายประเภท แต�ละประเภทมีสมบัติแตกต�างกัน สารเคมีจึงจําเป�นต�องมีฉลากที่มี ข�อมูลเกี่ยวกับความเป�นอันตรายของสารเคมีเพื่อความปลอดภัยในการจัดเก็บ การนําไปใช� และการ กาํ จดั โดยฉลากของสารเคมที ใี่ ช�ในห�องปฏบิ ัตกิ ารควรมีขอ� มลู ดงั นี้ 1. ชื่อผลิตภัณฑ� สงวนสทิ ธโิ์ ดย สสวท. หรอื จ้าหน่าย2. รูปสญั ลกั ษณ� แสดงความเป�นอนั ตรายของสารเคมี 3. คาํ เตือน ข�อมลู ความเปน� อันตราย และขอ� ควรระวัง 4. ขอ� มูลของบริษทั ผู�ผลติ สารเคมี ดัดแปลงตัวอยา� งของฉลาก แสดงดังรปู 1.1 รูป 1.1 ตวั อยา� งฉลากของกรดไฮโดรคลอรกิ และแอมโมเนีย สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทกั ษะในปฏบิ ัติการเคมี เคมี เลม� 1 6 บนฉลากบรรจุภัณฑ�มีสัญลักษณ�แสดงความเป�นอันตรายที่สื่อความหมายได�ชัดเจนเพื่อให� ผู�ใช�สังเกตได�ง�าย สัญลักษณ�แสดงความเป�นอันตรายมีหลายระบบ ในที่นี้จะกล�าวถึง 2 ระบบ ที่ มีการใช�กนั อยา� งแพร�หลาย คอื Globally Harmonized System of Classification and Labelling of Chemicals (GHS) ซึ่งเป�นระบบที่ใช�สากล และ National Fire Protection Association ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้าHazard Identification System (NFPA) เปน� ระบบทใ่ี ชใ� นสหรฐั อเมรกิ า ซง่ึ สญั ลกั ษณท� ง้ั สองระบบน้ี สามารถพบเหน็ ได�ท่วั ไปบนบรรจุภณั ฑ�สารเคมี ในระบบ GHS จะแสดงสัญลกั ษณใ� นสเี่ หลยี่ มกรอบสแี ดง พืน้ สขี าว ลักษณะดังรูป 1.2 สงวนสิทธโ์ิ ดยดสดั สแวปทล.ง หรือจ้าหนา่ ย หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซ้าสารทก่ี ดั กรอ� น สารทเ่ี ปน� อนั ตราย สารไวไฟ สารทเ่ี ปน� อนั ตราย สารทเ่ี ปน� อนั ตราย ตอ� สขุ ภาพ ถงึ ชวี ติ ตอ� สง่ิ แวดลอ� ม รปู 1.2 ตวั อยา� งสัญลกั ษณแ� สดงความเป�นอนั ตรายในระบบ GHS สงวนสทิ ธิโ์ ดย สสวท. หรอื จา้ หน่ายตรวจสอบความเข�าใจ ดดั แปลงจากฉลากของกรดไฮโดรคลอรกิ และแอมโมเนยี สารเคมที ง้ั สองมอี นั ตรายตามระบบ GHS อยา� งไรบา� ง สําหรับสัญลักษณ�แสดงความเป�นอันตรายในระบบ NFPA จะใช�สีแทนความเป�นอันตรายใน ดา� นตา� ง ๆ ไดแ� ก� สแี ดงแทนความไวไฟ สนี าํ้ เงนิ แทนความเปน� อนั ตรายตอ� สขุ ภาพ สเี หลอื งแทนความ วอ� งไวในการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี โดยใสต� วั เลข 0 ถงึ 4 เพอ่ื ระบรุ ะดบั ความเปน� อนั ตรายจากนอ� ยไปหามาก และชอ� งสขี าวใชใ� สอ� กั ษรหรอื สญั ลกั ษณท� แ่ี สดงสมบตั ทิ เ่ี ปน� อนั ตรายดา� นอน่ื ๆ ดงั ตวั อยา� งในรปู 1.3 สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทกั ษะในปฏิบตั กิ ารเคมี 7 หา้ มเผยแพร่ ท้าซา้กรดไฮโดรคลอรกิแอมโมเนยี รูป 1.3 สัญลักษณค� วามเปน� อันตรายในระบบ NFPA ของกรดไฮโดรคลอริกและแอมโมเนยี ตรวจสอบความเข�าใจ สงวนสทิ ธโิ์ ดย สสวท. หรอื จ้าหนา่ ยจากสัญลักษณ์ความเป็นอันตรายในระบบ NFPA ของกรดไฮโดรคลอริกและ แอมโมเนีย สารเคมีใดเป�นอันตรายมากกว�ากันในด�านความไวไฟ ความเป�นอันตรายต�อ สขุ ภาพ และความว�องไวในการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซา้กิจกรรมเสนอแนะ สงวนสทิ ธ์ิโดย สสวท. หรอื จา้ หน่ายใหน� กั เรยี นสบื คน� ขอ� มลู ฉลากสารเคมใี นหอ� งปฏบิ ตั กิ ารของโรงเรยี น จากนน้ั อภปิ ราย รว� มกนั วา� เหมอื นหรอื แตกตา� งจากฉลากในระบบ GHS และ NFPA หรอื ไม� อยา� งไร นอกจากฉลากและสญั ลกั ษณแ� สดงความเปน� อนั ตรายตา� ง ๆ ทป่ี รากฏบนบรรจภุ ณั ฑข� องสารเคมี ดัดแปลงแล�ว สารเคมีทกุ ชนิดยังต�องมเี อกสารความปลอดภยั (safety data sheet, SDS) ซ่งึ มีข�อมูลเก่ยี วกับ ความปลอดภยั ในการใชส� ารเคมอี ยา� งละเอียด เชน� สมบตั แิ ละองคป� ระกอบของสารเคมี ความเป�น อันตราย การปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน� กจิ กรรมเสนอแนะ ให�นักเรียนสืบค�นข�อมูลเอกสารความปลอดภัยของสารเคมีแล�วระบุข�อมูลเบื้องต�น เช�น การปอ� งกนั ตนเอง (personal protection) การปฐมพยาบาล (first aid measures) สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี เคมี เล�ม 1 8 1.1.2 ขอ� ควรปฏบิ ตั ใิ นการทาํ ปฏิบัตกิ ารเคมี การทําปฏิบัติการเคมีให�เกิดความปลอดภัยนอกจากต�องทราบข�อมูลของสารเคมีที่ใช�แล�ว ผท�ู าํ ปฏบิ ตั กิ ารควรทราบเกย่ี วกบั การปฏบิ ตั ติ นเบอ้ื งตน� ทง้ั กอ� น ระหวา� ง และหลงั ทาํ ปฏบิ ตั กิ าร ดงั ตอ� ไปน้ี กอ� นทาํ ปฏิบตั กิ าร ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้า1) ศึกษาขั้นตอนหรือวิธีการทําปฏิบัติการให�เข�าใจ วางแผนการทดลอง หากมีข�อสงสัยต�อง สอบถามครผู �สู อนก�อนท่ีจะทาํ การทดลอง 2) ศกึ ษาข�อมลู ของสารเคมที ใ่ี ชใ� นการทดลอง เทคนิคการใชเ� คร่ืองมือ วสั ดอุ ปุ กรณ� ตลอดจน วิธีการทดลองท่ถี กู ตอ� งและปลอดภยั สงวนสิทธ์โิ ดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ย3) แต�งกายให�เหมาะสม เชน� สวมกางเกงหรือกระโปรงยาว สวมรองเท�ามดิ ชดิ สน� เตย้ี คนทมี่ ี ผมยาวควรรวบผมใหเ� รยี บรอ� ย หลีกเล่ยี งการสวมใสเ� ครอื่ งประดับและคอนแทคเลนส� ขณะทาํ ปฏิบัติการ ดัดแปลง หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซ้า1) ข�อปฏบิ ตั โิ ดยท่ัวไป 1.1 สวมแว�นตานิรภัย สวมเสื้อคลุมปฏิบัติการที่ติดกระดุมทุกเม็ด ควรสวมถุงมือเมื่อ ต�องใช�สารกัดกร�อนหรือสารที่มีอันตราย ควรสวมผ�าป�ดปากเมื่อต�องใช�สารเคมีที่มีไอระเหย และทํา สงวนสิทธิโ์ ดยดสัดสแวปทล.ง หรอื จ้าหน่ายปฏบิ ตั ิการในทซี่ งึ่ มอี ากาศถ�ายเทหรือในตดู� ดู ควนั ดงั รูป 1.4 รูป 1.4 การแต�งกายเพือ่ ทาํ ปฏิบตั ิการทีใ่ ชส� ารกัดกรอ� น สารทมี่ ีอนั ตราย หรือสารทม่ี ไี อระเหย 1.2 ห�ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม หรือทํากิจกรรมอื่น ๆ ที่ไม�เกี่ยวข�องกับการ ทาํ ปฏบิ ตั ิการ สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทที่ 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี 9 1.3 ไมท� าํ การทดลองในหอ� งปฏบิ ตั กิ ารตามลาํ พงั เพยี งคนเดยี ว เพราะเมอ่ื เกดิ อบุ ตั เิ หตขุ น้ึ จะไมม� ีใครทราบและไม�อาจช�วยไดท� ันทว� งที หากเกดิ อบุ ัตเิ หตุในห�องปฏบิ ัติการ ตอ� งแจ�งใหค� รผู ู�สอน ทราบทนั ทที กุ คร้ัง 1.4 ไม�เล�นและไม�รบกวนผู�อน่ื ในขณะที่ทําปฏบิ ตั กิ าร ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้า1.5 ปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีการอย�างเคร�งครัด ไม�ทําการทดลองใด ๆ ที่นอกเหนือ จากที่ได�รับมอบหมาย และไม�เคลื่อนย�ายสารเคมี เครื่องมือ และอุปกรณ�ส�วนกลางที่ต�องใช�ร�วมกัน นอกจากไดร� ับอนญุ าตจากครูผสู� อนเทา� นน้ั 1.6 ไม�ปล�อยให�อุปกรณ�ใหค� วามร�อน เช�น ตะเกียงแอลกอฮอล� เตาแผ�นให�ความร�อน (hot plate) ทํางานโดยไม�มีคนดูแล และหลังจากใชง� านเสร็จแล�วให�ดับตะเกยี งแอลกอฮอลห� รอื ป�ด สงวนสทิ ธโ์ิ ดย สสวท. หรือจา้ หนา่ ยเครอ่ื งและถอดปลั๊กไฟออกทนั ที แล�วปลอ� ยไวใ� หเ� ยน็ กอ� นการจัดเกบ็ เม่อื ใช�เตาแผน� ใหค� วามร�อนต�อง ระวังไม�ให�สายไฟพาดบนอปุ กรณ� 2) ข�อปฏิบัตใิ นการใช�สารเคมี 2.1 อา� นชือ่ สารเคมบี นฉลากใหแ� นใ� จก�อนนําสารเคมีไปใช� ดดั แปลง หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซา้2.2 การเคลอ่ื นยา� ย การแบง� และการถา� ยเทสารเคมตี อ� งทาํ ดว� ยความระมดั ระวงั โดยเฉพาะ อยา� งยง่ิ สารอนั ตราย และควรใชอ� ปุ กรณ� เชน� ชอ� นตกั สารและบกี เกอรท� แ่ี หง� และสะอาด การเทของเหลว จากขวดบรรจสุ ารใหเ� ทดา� นตรงขา� มฉลาก เพอ่ื ปอ� งกนั ความเสยี หายของฉลากเนอ่ื งจากการสมั ผสั สารเคมี 2.3 การทําปฏกิ ริ ิยาของสารในหลอดทดลอง ตอ� งหันปากหลอดทดลองออกจากตวั เอง และผอ�ู ่นื เสมอ สงวนสิทธิโ์ ดย สสวท. หรอื จา้ หนา่ ย2.4 ห�ามชิมหรือสูดดมสารเคมีโดยตรง ถ�าจําเป�นต�องทดสอบกลิ่นให�ใช�มือโบกให�ไอ ของสารเขา� จมกู เพยี งเลก็ นอ� ย 2.5 การเจือจางกรด ห�ามเทน้ําลงกรดแต�ให�เทกรดลงน้ํา เพื่อให�น้ําปริมาณมากช�วย ถ�ายเทความร�อนที่เกิดจากการละลาย ดดั แปลง2.6 ไม�เทสารเคมีทเี่ หลือจากการเทหรอื ตักออกจากขวดสารเคมีแลว� กลับเข�าขวดอย�าง เด็ดขาด ใหเ� ทใสภ� าชนะทง้ิ สารทจ่ี ดั เตรยี มไว� 2.7 เม่อื สารเคมีหกในปริมาณเลก็ นอ� ยให�กวาดหรอื เชด็ แล�วทิง้ ลงในภาชนะสาํ หรับทิ้ง สารที่เตรียมไวใ� นหอ� งปฏิบตั กิ าร หากหกในปรมิ าณมากใหแ� จ�งครูผ�สู อน หลังทาํ ปฏบิ ัตกิ าร 1) ทําความสะอาดอุปกรณ� เครื่องแก�ว และวางหรือเก็บในบริเวณที่จัดเตรียมไว�ให� รวมทั้ง ทําความสะอาดโตะ� ทาํ ปฏบิ ตั กิ าร 2) กอ� นออกจากหอ� งปฏบิ ตั กิ ารใหถ� อดอปุ กรณป� อ� งกนั อนั ตราย เชน� เสอ้ื คลมุ ปฏบิ ตั กิ าร แวน� ตา นริ ภยั ถงุ มอื สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัติการเคมี เคมี เล�ม 1 10 1.1.3 การกําจดั สารเคมี สารเคมที ใ่ี ชแ� ล�วหรอื เหลอื ใช�จากการทําปฏบิ ัตกิ ารเคมี จาํ เปน� ตอ� งมกี ารกําจัดอย�างถูกวธิ ี เพอื่ ใหเ� กดิ ความปลอดภัยตอ� สิ่งแวดล�อมและส่ิงมชี วี ิต การกําจัดสารเคมแี ต�ละประเภท สามารถปฏิบตั ไิ ด�ดงั นี้ หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้า1) สารเคมที เ่ี ปน� ของเหลวไมอ� นั ตรายทล่ี ะลายนาํ้ ไดแ� ละมี pH เปน� กลาง ปรมิ าณไมเ� กนิ 1 ลติ ร สามารถเทลงอา� งนาํ้ และเปด� นํ้าตามมาก ๆ ได� 2) สารละลายเขม� ขน� บางชนดิ เชน� กรดไฮโดรคลอรกิ โซเดยี มไฮดรอกไซด� ไมค� วรทง้ิ ลงอา� งนาํ้ หรอื ทอ� นาํ้ ทนั ที ควรเจอื จางกอ� นเทลงอา� งนาํ้ ถา� มปี รมิ าณมากตอ� งทาํ ใหเ� ปน� กลางกอ� น 3) สารเคมที เ่ี ปน� ของแขง็ ไมอ� นั ตราย ปรมิ าณไมเ� กนิ 1 กโิ ลกรมั สามารถใสใ� นภาชนะทป่ี ด� มดิ ชดิ สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรือจา้ หนา่ ยพรอ� มทง้ั ตดิ ฉลากชอ่ื ใหช� ดั เจน กอ� นทง้ิ ในทซ่ี ง่ึ จดั เตรยี มไว� 4) สารไวไฟ ตวั ทาํ ละลายทไ่ี มล� ะลายนาํ้ สารประกอบของโลหะเปน� พษิ หรอื สารทท่ี าํ ปฏกิ ริ ยิ า กบั นาํ้ หา� มท้งิ ลงอา� งนํา้ ใหท� ิง้ ไว�ในภาชนะทที่ างหอ� งปฏบิ ตั ิการจัดเตรียมไว�ให� ดัดแปลง ห้ามเผยแพร่ ท้าซา้ร�หู รอื ไม� ในการทําปฏิบัติการเคมีเพื่อให�เกิดความปลอดภัยและเป�นมิตรต�อส่ิงแวดล�อมนั้น สามารถทาํ ไดห� ลายวธิ ี เชน� ออกแบบการทดลองทไ่ี มก� อ� ใหเ� กดิ ของเสยี ทเ่ี ปน� อนั ตราย เลอื กใช� สงวนสทิ ธโ์ิ ดย สสวท. หรือจา้ หน่ายสารเคมแี ละปฏิกริ ิยาเคมีทป่ี ลอดภัยและมีความคม�ุ คา� ในการใช�พลงั งาน ใช�อุปกรณท� ดแทน สําหรับทําปฏิบัติการแบบย�อส�วน เพื่อเป�นการลดการใช�สารเคมีและพลังงาน อีกทั้งยัง ดัดแปลงสามารถลดปริมาณของเสียท่ีเกิดขึ้นไดอ� กี ดว� ย สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เลม� 1 บทท่ี 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัตกิ ารเคมี 11 แบบฝก� หดั 1.1 1. พจิ ารณาขอ� มลู บนฉลากของโซเดยี มไฮดรอกไซด� และวงกลมเพอ่ื ระบสุ ว� นทแ่ี สดงขอ� มลู Sodiuหmา้ มเผยแพร่ ท้าซา้ตอ� ไปน้ี 1. ชื่อผลิตภัณฑ� 2. รูปสัญลักษณ� แสดงความเป�นอันตรายของสารเคมี 3. คําเตือน ข�อมูลความเป�นอันตราย และข�อควรระวัง สงวนสิทธ์โิ ดย สสวท. หรอื hจyDา้dAหrNoนGx่าEiยdRe, solidCausessevereskinburnsandeyedamage. ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้าPREVENTION Do not breathe dust. Wash skin and eyes thoroughly after handling. Wear protective gloves and clothing, and eye and face protection. RESPONSE IIff sinwaelyleosw:eRdin:sReincsaeumtioouustlhy.wDiothNwOaTteinrdfourcesevvoemrailtimngin. utes. Remove contact lenses, if present and easy to do. Continue rinsing. IwIffiiitnnhhswakaliented(r:o/sRrhehomawoirev)r:e.TWpaekaersshooncffotinmotamfrmeesidnhiaaatteierdlayncaldolltkhceoiennpgtabcmoefmionrfaeotrertdeaubcslleeo.tfhoirnbg.reRainthseingsk. in สงวนสิทธ์โิ ดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ยImmediatelycalladoctororothermedicalpersonnel. STORAGE Store locked up. Keep container tightly closed. DISPOSAL Dispose of contents to an EPA permitted facility. ดัดแปลง2. พิจารณาตัวอย�างฉลากสารเคมีต�อไปนี้ SAF-T-DATATM System 2.5 L Nitric Acid, FLAMMABILITY REACTIVITY 69.0 - 70.0% U5432.2500 2.51 HEALTH CONTACT 4 0 3 4Ammonia solution 25% EXTREME NONE SEVERE EXTREME LABORATORY PROTECTIVE EQUIPMENT G&OSGHGIELLEDS L&ABAPCROOANT HVOENOTD PGRLOOPVEER STORAGE COLOR WHITE แอมโมเนีย กรดไนทริก สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบตั กิ ารเคมี เคมี เล�ม 1 12 โพแทPสoเtซasยี sมiuเmปอpรeแ rมmงaกnาgเaนnตateKMnO4 Mw 244.28 mp 962 ํC Mw 1M5w81.5084.04 mmpp5500Cํ ํC เป�นพิษเมื่อกลืนกิน หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้าXn R: 20-25 ขนาดบรรจุ 100 กรมั S: 45 อาจเกิดการลุกไหมถ า สัมผัสสารท่ีเปนเชอื้ ไฟ Mfg. Date............... เปนอนั ตรายเมอื่ กลนื กนิ แสบรอนเมื่อสัมผสั ผวิ หนัง, ตา แบเรียมคลอไรด� โพแทสเซียมเปอร�แมงกาเนต สงวนสทิ ธโ์ิ ดย สสวท. หรือจา้ หน่ายHEALTHSodium sulfate n Copper(II)nitrate FLAMMABILITY REACTIVITYโซเดียมซัลเฟต คอปเปอร( II)ไนเทรต PEQROUTIPEMCETNIVTE 1 Formula 1N4a22.S0O4 4 Catalog No. HEALTH 1 Formula 1C8u7(N.5o43)2 Catalog No. 0 F.W. 450g. 3097170 FLAMMABILITY 0 F.W. 250g. 3091250 0 Quantity REACTIVITY 3 Quantity 0 R: - technical P.D. 1206-271 PEQROUTIPEMCETNIVTE 1 R: 8-22-38 AR P.D. 1205-097 S: 22-24/25 S: 28 ดัดแปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้าโซเดียมซัลเฟต คอปเปอร�(II)ไนเทรต โพแทสเซยี มไฮดรอกไซด LPbe(aNdO3N)2itrate Potassiuดmา งhคyลdี roxide CSMoAWlSu::b31i3l0i1t0y.92:935-7240-8g/l at 20 C KOH สงวนสิทธิโ์ ดย สสวท. หรอื จ้าหนา่ ยทำใหเกดิแผลไหมเมื่อสมัผสัผวิหนงั,ตา 301 Mbpw15362.101Cํ mp 50 ํC เมอื่ กลืนกินมผี ลตอระบบทางเดนิ อาหาร OXI5D.1IZER R: 35 S: 26-37/39-45 ขนาดบรรจุ 350 กรมั Mfg. Date .............................................. ดัดแปลง2.1 สารเคมีใดไม�ควรวางใกล�เปลวไฟ 2.2 สารเคมีใดเป�นพิษต�อสิ่งแวดล�อม 2.3 สารเคมีใดมีฤทธิ์กัดกร�อนผิวหนัง โพแทสเซียมไฮดรอกไซด� เลด(II)ไนเทรต 2.4 เมื่อสัมผัสกับโซเดียมซัลเฟต ควรปฏิบัติอย�างไร 2.5 สารละลายเลด(II)ไนเทรต (Pb(NO₃)₂) เขม� ขน� รอ� ยละ 10 โดยมวลตอ� ปรมิ าตร ทเ่ี หลอื จากการทดลอง 5 มลิ ลิลติ ร ควรท้ิงอยา� งไร สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เลม� 1 บทที่ 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏิบตั กิ ารเคมี 13 3. จากรปู ผท�ู าํ ปฏบิ ตั กิ ารควรปรบั ปรงุ สง่ิ ใดบา� ง เพอ่ื ใหเ� กดิ ความปลอดภยั ในการทาํ ปฏบิ ตั กิ าร เคมี สงวนสทิ ธ์ิโดยดสัดสแวปทล.งหห้ารมอื เจผา้ ยหแนพ่ารย่ ท้าซ้า หหา้รมอื เจผา้ ยหแนพา่ รย่ ทา้ ซา้ สงวนสทิ ธโิ์ ดยดสดั สแวปทล.ง สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏิบตั ิการเคมี เคมี เล�ม 1 14 1.2 อบุ ตั เิ หตุจากสารเคมี ในการทําปฏิบัตกิ ารเคมีอาจเกดิ อุบัตเิ หตตุ �าง ๆ จากการใชส� ารเคมีได� ซง่ึ หากผูท� าํ ปฏิบัติการมี ความรใ�ู นการปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน� จะสามารถลดความรนุ แรงและความเสยี หายที่เกดิ ขนึ้ ได� โดยการ ปฐมพยาบาลเบอ้ื งต�นจากอบุ ตั เิ หตจุ ากการใชส� ารเคมี มีขอ� ปฏิบัตดิ ังน้ี ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้าการปฐมพยาบาลเมอ่ื ร�างกายสัมผสั สารเคมี 1. ถอดเสอื้ ผ�าบริเวณทีเ่ ปอ� นสารเคมอี อก และซับสารเคมีออกจากรา� งกายใหม� ากท่สี ดุ 2. กรณีเปน� สารเคมีท่ลี ะลายนา้ํ ได� เชน� กรดหรอื เบส ให�ล�างบริเวณทสี่ ัมผัสสารเคมีดว� ยการ เปด� น้ําไหลผา� นปริมาณมาก สงวนสทิ ธ์ิโดย สสวท. หรอื จ้าหนา่ ย3. กรณเี ป�นสารเคมที ี่ไม�ละลายนาํ้ ใหล� �างบริเวณทส่ี มั ผสั สารเคมีดว� ยน้ําสบู� 4. หากทราบว�าสารเคมีที่สัมผัสร�างกายคือสารใด ให�ปฏิบัติตามข�อกําหนดในเอกสารความ ปลอดภัยของสารเคมี ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้ากรณีทีร่ �างกายสมั ผสั สารเคมีในปรมิ าณมากหรอื มีความเขม� ขน� สูง ให�ปฐมพยาบาลเบ้อื งต�นแล�วนาํ สง� แพทย� การปฐมพยาบาลเม่ือสารเคมเี ขา� ตา ตะแคงศีรษะโดยให�ตาด�านที่สัมผัสสารเคมีอยู�ด�านล�าง ล�างตาโดยการเป�ดน้ําเบา ๆ ไหลผ�าน สงวนสิทธโ์ิ ดย สสวท. หรอื จา้ หนา่ ยดั้งจมูกใหน� ้ําไหลผ�านตาข�างทโ่ี ดนสารเคมี ดังรปู 1.5 พยายามลมื ตาและกรอกตาในนา้ํ อย�างน�อย 10 นาที หรอื จนกวา� แน�ใจวา� ชะล�างสารออกหมดแล�ว ระวังไม�ใหน� ้าํ เข�าตาอกี ข�างหนงึ่ แล�วนําส�งแพทย� ดดั แปลงทันที รปู 1.5 การปฐมพยาบาลเมอ่ื สารเคมีเขา� ตา สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏบิ ัติการเคมี 15 การปฐมพยาบาลเมอ่ื สดู ดมแก�สพษิ 1. เมอ่ื มแี กส� พษิ เกดิ ขน้ึ ตอ� งรบี ออกจากบรเิ วณนน้ั และไปบรเิ วณทม่ี อี ากาศถา� ยเทสะดวกทนั ที 2. หากมีผู�ที่สูดดมแก�สพิษจนหมดสติหรือไม�สามารถช�วยเหลือตนเองได� ต�องรีบเคลื่อนย�าย ออกจากบรเิ วณน้นั ทนั ที โดยท่ผี ชู� �วยเหลือต�องสวมอุปกรณป� อ� งกนั ที่เหมาะสม เช�น หนา� กากป�องกนั หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซ้าแกส� พิษ ผา� ปด� ปาก 3. ปลดเสื้อผ�าเพื่อให�ผู�ประสบอุบัติเหตุหายใจได�สะดวกขึ้น หากหมดสติให�จับนอนคว่ําและ ตะแคงหน�าไปด�านใดดา� นหน่ึง เพื่อป�องกนั โคนล้ินกีดขวางทางเดนิ หายใจ 4. สังเกตการเตน� ของหวั ใจและการหายใจ หากวา� หวั ใจหยุดเตน� และหยุดหายใจให�นวดหัวใจ และผายปอดโดยผทู� ี่ผ�านการฝก� แตไ� ม�ควรใชว� ธิ ีเปา� ปาก (mouth to mouth) แลว� นําส�งแพทยท� นั ที สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรอื จา้ หน่ายการปฐมพยาบาลเม่ือโดนความรอ� น แช�น้ําเย็นหรือป�ดแผลด�วยผ�าชุบน้ําจนหายปวดแสบปวดร�อน แล�วทายาขี้ผึ้งสําหรับไฟไหม� และนาํ้ ร�อนลวก หากเกิดบาดแผลใหญ�ให�นําสง� แพทย� ดัดแปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้ากรณที ีส่ ารเคมีเข�าปากให�ปฏบิ ตั ติ ามคาํ แนะนาํ ตามเอกสารความปลอดภัย แลว� นําสง� แพทย�ทุกกรณี สงวนสทิ ธ์โิ ดย สสวท. หรือจา้ หนา่ ยแบบฝก� หดั 1.2 1. ให�นักเรียนระบุวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต�นที่เหมาะสม เมื่อเกิดอุบัติเหตุต�อไปนี้ในห�อง ดดั แปลงปฏิบัติการ 1.1 สารละลายกรดกระเด็นถูกผิวหนัง 1.2 สัมผัสกับเม็ดโซเดียมไฮดรอกไซด� 1.3 ไอน้ําร�อนจากอ�างน้ําร�อนสัมผัสร�างกาย 1.4 เศษแก�วจากหลอดทดลองที่แตกบาดมือ 1.5 เมื่อใช�มือสัมผัสโต�ะในห�องปฏิบัติการ แล�วเกิดอาการแสบร�อน สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี เคมี เลม� 1 16 2. สบื คน� ขอ� มลู safety data sheet ของ 1-naphthyl methylcarbamate ซง่ึ เปน� ยาฆา� แมลง ในกลุ�มคาร�บาเมต (carbaryl insecticide) ที่นํามาใช�ในการกําจัดแมลงศัตรูพืชเพื่อ ตอบคําถามต�อไปน้ี หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซา้2.1 วิธีเก็บรักษา 2.2 วธิ ีปฐมพยาบาล เม่ือสมั ผสั ผวิ หนัง 1.3 การวดั ปริมาณสาร สงวนสทิ ธโิ์ ดย สสวท. หรือจา้ หนา่ ยในปฏบิ ตั กิ ารเคมจี าํ เปน� ตอ� งมกี ารชง่ั ตวง และวดั ปรมิ าณสาร ซง่ึ การชง่ั ตวง วดั มคี วามคลาดเคลอ่ื น ทอ่ี าจเกดิ จากอปุ กรณท� ใ่ี ช� หรอื ผท�ู าํ ปฏบิ ตั กิ าร ทจ่ี ะสง� ผลใหผ� ลการทดลองทไ่ี ดม� คี า� มากกวา� หรอื น�อยกว�า คา� จริง ความนา� เชื่อถือของขอ� มลู สามารถพิจารณาได�จาก 2 ส�วนดว� ยกัน คอื ความเท่ยี ง (precision) ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้าและ ความแมน� (accuracy) ของขอ� มลู โดยความเทย่ี ง คอื ความใกลเ� คยี งกนั ของค�าท่ีได�จากการวัดซํ้า สว� นความแมน� คอื ความใกลเ� คยี งของคา� เฉลย่ี จากการวดั ซาํ้ เทยี บกบั คา� จรงิ ดงั แสดงในรปู 1.6 ก) ความเทีย่ งและความแม�นตํ่า ข) ความเทีย่ งตา่ํ ความแม�นสงู สงวนสทิ ธิโ์ ดยดสัดสแวปทล.ง หรอื จา้ หนา่ ยค) ความเทย่ี งสงู ความแมน� ต่าํ ง) ความเทย่ี งและความแม�นสูง ค�าจริง คา� ทไี่ ด�จากการวดั คา� เฉล่ีย รปู 1.6 ความแตกตา� งของความเที่ยงและความแม�น สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทักษะในปฏบิ ัติการเคมี 17 จากรูป 1.6 จะเห็นว�า ก) ข�อมูลมีการกระจายตัวมากและมีค�าเฉลี่ยที่ไม�ใกล�เคียงกับค�าจริง ส�วน ข) ข�อมูลมีการกระจายตัวมากถึงแม�ว�าอาจให�ค�าเฉลี่ยใกล�เคียงกับค�าจริง ก็จัดเป�นข�อมูลที่มี ความนา� เช่อื ถอื น�อย รวมท้งั ค) ขอ� มลู มกี ารกระจายตัวน�อยแตม� คี �าเฉล่ียไม�ใกล�เคยี งกับคา� จริง จงึ ยัง ถอื ว�าเปน� ข�อมลู ทม่ี คี วามนา� เชื่อถือนอ� ยเช�นกัน สําหรับ ง) ข�อมูลมีการกระจายตวั นอ� ยและมคี �าเฉลย่ี ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซา้ใกล�เคยี งกบั คา� จรงิ จึงเป�นขอ� มลู ท่นี า� เชื่อถอื ความเที่ยงและความแม�นของข�อมูลท่ีได�จากการวัดขึ้นอย�ูกับทักษะของผู�ที่ทําการวัดและ ความละเอียดของอุปกรณ�ที่ใช� อุปกรณ�การวัดที่ใช�โดยทั่วไปในปฏิบัติการเคมี ได�แก� อุปกรณ�วัด ปริมาตร และอุปกรณ�วัดมวล ซึ่งมีระดับความละเอียดของอุปกรณ�และวิธีการใช�ที่แตกต�างกัน สงวนสทิ ธิ์โดย สสวท. หรอื จา้ หน่ายการแบง� กล�ุมอุปกรณว� ัดปรมิ าตร ไดแ� ก� บีกเกอร� ขวดรปู กรวย กระบอกตวง ปเ� ปตต� บวิ เรตต� และขวดกาํ หนดปรมิ าตร โดยใชค� วามแม�นเปน� เกณฑ� จะสามารถแบ�งกลมุ� ได�อย�างไร 1.3.1 อปุ กรณว� ัดปรมิ าตร ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้าอุปกรณ�วัดปริมาตรสารเคมีท่เี ป�นของเหลวท่ใี ช�ในห�องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร�มีหลายชนิด แตล� ะชนดิ มขี ดี และตวั เลขแสดงปรมิ าตรทไ่ี ดร� บั การตรวจสอบมาตรฐานและกาํ หนดความคลาดเคลอ่ื น ที่ยอมรับได� บางชนิดมีความคลาดเคลื่อนน�อย บางชนิดมีความคลาดเคลื่อนมาก ในการเลือกใช�ต�อง คาํ นงึ ถงึ ความเหมาะสมกบั ปรมิ าตรและระดบั ความแมน� ทต่ี อ� งการ อปุ กรณว� ดั ปรมิ าตรบางชนดิ ทน่ี กั เรยี น ไดใ� ชง� านในการทําปฏิบัติการทางวทิ ยาศาสตรท� ี่ผา� นมา เชน� บกี เกอร� ขวดรูปกรวย กระบอกตวง เปน� สงวนสิทธิ์โดย สสวท. หรอื จ้าหนา่ ยอปุ กรณ�ทีไ่ ม�สามารถบอกปริมาตรได�แม�นมากพอสาํ หรับการทดลองในบางปฏิบัติการ บีกเกอร� บกี เกอร� (beaker) มีลักษณะเปน� ทรงกระบอกปากกว�าง มขี ดี บอกปริมาตรในระดับมิลลลิ ิตร มี ดัดแปลงหลายขนาด ดงั รปู 1.7 รปู 1.7 บีกเกอร� สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏิบัตกิ ารเคมี เคมี เลม� 1 18 รรหู� �หู รรือือไไมม� � บีกเกอร� มาจากคําว�า beak แปลว�า จะงอยปากนก เนอ่ื งจากทีบ่ ริเวณขอบบกี เกอร�มี ลักษณะคล�ายจะงอยปากของนก ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซา้0 200 50 150 100 100 150 50 สงวนสิทธิ์โดย สสวท. หรือจ้าหน่ายขวดรปู กรวย ขวดรปู กรวย (erlenmeyer flask) มลี กั ษณะคลา� ยผลชมพ�ู มขี ดี บอกปรมิ าตรในระดบั มลิ ลลิ ติ ร ดัดแปลง ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้ามีหลายขนาด ดงั รปู 1.8 สงวนสทิ ธ์โิ ดย สสวท. หรือจ้าหน่ายรูป1.8ขวดรูปกรวย ดัดแปลงกระบอกตวง กระบอกตวง (measuring cylinder) มลี กั ษณะเปน� ทรงกระบอก มีขดี บอกปริมาตรในระดับ มิลลิลติ ร มีหลายขนาด ดังรปู 1.9 รปู 1.9 กระบอกตวง สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบตั ิการเคมี 19 นอกจากน้ยี งั มีอุปกรณ�ทสี่ ามารถวดั ปรมิ าตรของของเหลวได�แม�นมากกว�าอุปกรณข� �างต�น โดย มีท้ังท่เี ป�นการวดั ปรมิ าตรของของเหลวที่บรรจุอยภู� ายใน และการวัดปริมาตรของของเหลวทถ่ี �ายเท เชน� ป�เปตต� บิวเรตต� ขวดกําหนดปริมาตร หา้ มเผยแพร่ ท้าซา้ปเ� ปตต� ป�เปตต� (pipette) เป�นอุปกรณ�วัดปริมาตรที่มีความแม�นสูง ซึ่งใช�สําหรับถ�ายเทของเหลว ปเ� ปตตท� ใ่ี ชก� นั ทว่ั ไปมี 2 แบบ คอื แบบปรมิ าตรซง่ึ มกี ระเปาะตรงกลาง มขี ดี บอกปรมิ าตรเพยี งคา� เดยี ว และแบบใช�ตวง มีขีดบอกปริมาตรหลายค�า ดังรูป 1.10 (ขั้นตอนการใช�งานป�เปตต�สามารถดูได�ที่ ภาคผนวก) สงวนสทิ ธิ์โดยดสดั สแวปทล.ง หรือจ้าหนา่ ย หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้ารูป1.10ปเ� ปตตแ� บบต�างๆ สงวนสทิ ธิ์โดย สสวท. หรอื จ้าหน่ายตรวจสอบความเข�าใจ ดัดแปลงในหอ� งปฏบิ ตั กิ ารมปี เ� ปตตแ� บบใชต� วงขนาด 5 มลิ ลลิ ติ ร และ 10 มลิ ลลิ ติ ร และมปี เ� ปตต� แบบปริมาตรขนาด 5 มิลลิลิตร และ 25 มิลลิลิตร หากต�องการของเหลวปรมิ าตรตอ� ไปน้ี ตอ� ง เลอื กปเ� ปตตแ� บบใดและขนาดปริมาตรใด 1. 2.50 มิลลิลิตร 2. 5.00 มิลลิลิตร 3. 25.00 มิลลิลิตร สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทักษะในปฏบิ ตั ิการเคมี เคมี เล�ม 1 20 บิวเรตต� บวิ เรตต� (burette) เปน� อปุ กรณส� าํ หรบั ถา� ยเทของเหลวในปรมิ าตรตา� ง ๆ ตามตอ� งการ มลี กั ษณะ เป�นทรงกระบอกยาวทม่ี ีขดี บอกปรมิ าตร และมอี ปุ กรณค� วบคุมการไหลของของเหลวทเี่ รยี กว�า ก�อก ปด� เปด� (stop cock) ดังรูป 1.11 (ขั้นตอนการใชง� านบิวเรตต�สามารถดูได�ท่ีภาคผนวก) สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หห้ารมือเจผา้ ยหแนพ่ารย่ ทา้ ซ้า ก�อกปด� เปด� ดัดแปลง ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้ารปู 1.11 บิวเรตต� ขวดกาํ หนดปริมาตร สงวนสทิ ธโิ์ ดย สสวท. หรือจ้าหน่ายขวดกําหนดปริมาตร (volumetric flask) เปน� อุปกรณส� าํ หรับวดั ปรมิ าตรของของเหลวท่บี รรจุ ภายใน ใชส� ําหรบั เตรียมสารละลายทตี่ �องการความเข�มขน� แนน� อน มีขีดบอกปริมาตรเพียงขดี เดียว มจี กุ ปด� สนทิ ขวดกาํ หนดปริมาตรมีหลายขนาด ดงั แสดงในรปู 1.12 (ข้ันตอนการใชข� วดกําหนด ดัดแปลงปริมาตร สามารถดไู ด�ที่ภาคผนวก) รปู 1.12 ขวดกาํ หนดปริมาตรขนาดต�าง ๆ สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทที่ 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏิบตั กิ ารเคมี 21 การใช�อุปกรณ�วัดปริมาตรเหล�านี้ให�ได�ค�าท่ีน�าเชื่อถือจะต�องมีการอ�านปริมาตรของของเหลว ให�ถูกวิธี โดยต�องให�สายตาอยู�ระดับเดียวกันกับระดับส�วนโค�งของของเหลว โดยถ�าส�วนโค�งของ ของเหลวมีลักษณะเว�า ให�อ�านปริมาตรที่จุดต่ําสุดของส�วนโค�งนั้น แต�ถ�าส�วนโค�งของของเหลวมี ลักษณะนูน ให�อ�านปริมาตรที่จุดสูงสุดของส�วนโค�งนั้น แสดงดังรูป 1.13 การอ�านค�าปริมาตรของ หา้ มเผยแพร่ ท้าซา้ของเหลวใหอ� า� นตามขีดบอกปรมิ าตรและประมาณคา� ทศนิยมตาํ แหนง� สดุ ท�าย สงวนสทิ ธิโ์ ดย สสวท. หรอื จ้าหน่ายรูป 1.13 การอา� นปริมาตรของของเหลว ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้าตรวจสอบความเขา� ใจ 1. จากรูป ปริมาตรของของเหลวในกระบอกตวงมีค�าเท�าใด สงวนสิทธ์โิ ดยดสดั สแวปทล.ง หรอื จ้าหนา่ ย2. ปริมาตรเริ่มต�นและปริมาตรสุดท�ายจากการถ�ายเทของเหลวด�วยบิวเรตต� เป�นดังรูป ของเหลวที่ถ�ายเทได�มีปริมาตรเท�าใด ปริมาตรเรม่ิ ต�น ปรมิ าตรสดุ ทา� ย สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทกั ษะในปฏิบตั ิการเคมี เคมี เล�ม 1 22 อุปกรณ�วัดปริมาตรบางชนิด เช�น ป�เปตต�แบบปริมาตร ขวดกําหนดปริมาตร มีขีดบอก ปริมาตรเพียงขีดเดยี ว อุปกรณ�ประเภทนี้ออกแบบมาเพ่ือให�ใช�ในการถ�ายเทหรือบรรจขุ องเหลวท่มี ี ปริมาตรเพยี งค�าเดยี วตามท่รี ะบบุ นอุปกรณ� ดังนั้นผใู� ช�จึงจําเปน� ต�องพยายามปรบั ระดับของเหลวให� ตรงกบั ขีดบอกปรมิ าตร ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้าการบนั ทกึ ค�าปรมิ าตรให�บันทกึ ตามขนาดและความละเอียดของอปุ กรณ� เช�น ป�เปตต�มีความ ละเอียดของค�าปริมาตรถึงทศนิยมตําแหน�งที่สอง ดังนั้นปริมาตรของเหลวที่ได�จากการใช�ป�เปตต� ขนาด 10 มิลลลิ ติ ร บนั ทึกคา� ปริมาตรเปน� 10.00 มิลลลิ ติ ร 1.3.2 อปุ กรณ�วัดมวล สงวนสิทธิ์โดย สสวท. หรอื จ้าหน่ายเครื่องชั่ง เป�นอุปกรณ�สําหรับวัดมวลของสารทั้งที่เป�นของแข็งและของเหลว ความน�าเชื่อถือ ของคา� มวลทว่ี ดั ไดข� น้ึ อยก�ู บั ความละเอยี ดของเครอ่ื งชง่ั และวธิ กี ารใชเ� ครอ่ื งชง่ั เครื่องชั่งที่ใช�ในห�อง ปฏิบัติการเคมีโดยทั่วไปมี 2 แบบ คือ เครื่องชั่งแบบสามคาน (triple beam) และเครอ่ื งชง่ั ไฟฟา� (electronic balance) ซง่ึ มสี ว� นประกอบหลกั ดงั รปู 1.14 จานช่งั ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้าตุ�มนํ้าหนัก เขม็ ช้ี สกรูสําหรบั ตาํ แหนง� สมดุล คานช่งั สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรอื จ้าหนา่ ยปรับสมดลุ ดัดแปลงจานชัง่ ก. เครือ่ งช่ังแบบสามคาน ลูกน้าํ จอแสดงผล ปุม� ปรบั ศูนย� ปุม� เปด� -ปด� ข. เครือ่ งชง่ั ไฟฟา� รูป 1.14 ส�วนประกอบของเครื่องชั่งแบบสามคานและเคร่ืองช่งั ไฟฟา� สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เลม� 1 บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทักษะในปฏิบัตกิ ารเคมี 23 ปจ� จบุ นั เครอ่ื งชง่ั ไฟฟา� ไดร� บั ความนยิ มมากขน้ึ เนอ่ื งจากสามารถใชง� านไดส� ะดวกและหาซอ้ื ไดง� า� ย ตวั เลขทศนยิ มตาํ แหนง� สดุ ทา� ยซง่ึ เปน� คา� ประมาณของเครอ่ื งชง่ั แบบสามคานมาจากการประมาณของผช�ู ง่ั ขณะทท่ี ศนยิ มตาํ แหนง� สดุ ทา� ยของเครอ่ื งชง่ั ไฟฟา� มาจากการประมาณของอปุ กรณ� (ขน้ั ตอนการใชง� าน เครื่องช่งั ไฟฟ�า สามารถดไู ดท� ภี่ าคผนวก) ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้ากจิ กรรม 1.1 การทดลองวัดปริมาตรโดยใช�อุปกรณ�ชนิดต�าง ๆ และ การวัดมวลโดยใช�เคร่ืองชง่ั จุดประสงค�การทดลอง สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ย1. ฝก� ใชเ� คร่ืองชง่ั และเครื่องแก�ววดั ปริมาตรบางชนิด 2. เปรยี บเทยี บความแมน� ในการวดั ปรมิ าตรของกระบอกตวงและป�เปตต� วสั ดุ อุปกรณ� และสารเคมี ดดั แปลง หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซ้า1. น้ํา 2. เทอรม� อมิเตอร� 3. บกี เกอร�ขนาด 100 mL 4. บีกเกอรข� นาด 250 mL สงวนสิทธ์โิ ดย สสวท. หรือจ้าหน่าย5. ป�เปตตข� นาด 25 mL 6. กระบอกตวงขนาด 25 mL 7. เครอ่ื งชัง่ วิธีทดลอง ดัดแปลง1. เทนาํ้ กล่ันปริมาตร 200 mL ลงในบีกเกอรข� นาด 250 mL วัดอณุ หภูมิของนา้ํ บันทกึ ผล 2. ชัง่ มวลของบีกเกอร�ขนาด 100 mL บันทึกผล 3. หามวลของนา้ํ 25 mL 3 ครง้ั ดังน้ี ครง้ั ท่ี 1 ปเ� ปตตน� าํ้ 25 mL ลงในบกี เกอรข� นาด 100 mL ชง่ั มวลรวมของนาํ้ และบกี เกอร� บันทึกผล และคํานวณมวลของน้าํ 25 mL บนั ทกึ ผล ครั้งที่ 2 ป�เปตต�น้ํา 25 mL ลงในบีกเกอร�เดิม ชั่งมวลรวมของน้ํา 50 mL และบีกเกอร� บนั ทึกผล และคํานวณมวลของนา้ํ 25 mL ที่เติมครั้งท่ี 2 บนั ทึกผล ครั้งที่ 3 ป�เปตต�น้ํา 25 mL ลงในบีกเกอร�เดิม ชั่งมวลรวมของน้ํา 75 mL และบีกเกอร� บนั ทึกผล และคาํ นวณมวลของน้าํ 25 mL ทเ่ี ติมคร้งั ท่ี 3 บนั ทกึ ผล สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏบิ ตั ิการเคมี เคมี เล�ม 1 24 4. คาํ นวณค�ามวลเฉล่ียของนํ้าทไี่ ด�จากการป�เปตต� 3 ครงั้ บันทกึ ผล 5. นําคา� มวลเฉล่ยี ของนํ้าในขอ� 4 มาคํานวณปริมาตรของน้าํ ดว� ยสตู ร d = m หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้าของนาํ้ (mL) V เม่อื d เป�นความหนาแนน� ของนาํ้ (g/mL) m เปน� มวลของน้าํ (g) และ V เปน� ปริมาตร 6. ทาํ การทดลองซา้ํ ในขอ� 1–5 โดยเปลยี่ นป�เปตตเ� ป�นกระบอกตวงขนาด 25 mL 7. นําคา� ปริมาตรของนํ้าทีค่ ํานวณไดจ� ากการใชป� เ� ปตต�และกระบอกตวง มาเปรียบเทียบ ความแม�นของการวัดจากการใชอ� ุปกรณ�ตา� งชนดิ กนั สงวนสทิ ธิ์โดย สสวท. หรอื จา้ หนา่ ย1.3.3 เลขนัยสําคัญ ดัดแปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซา้คา� ท่ีไดจ� ากการวดั ด�วยอปุ กรณก� ารวัดตา� ง ๆ ประกอบด�วยตวั เลขและหน�วย โดยค�าตวั เลขท่ี วดั ไดจ� ากอปุ กรณแ� ตล� ะชนดิ อาจมคี วามละเอยี ดไมเ� ทา� กนั ซง่ึ การบนั ทกึ และรายงานคา� การอา� นต�อง แสดงจาํ นวนหลกั ของตวั เลขท่ีสอดคลอ� งกับความละเอียดของอุปกรณ� สงวนสทิ ธิ์โดยดสดั สแวปทล.ง หรอื จา้ หน่ายจากรูป 1.15 อุณหภมู ทิ ่ีอ�านได�จากเทอร�มอมิเตอรท� ั้งสอง มคี า� เทา� ใด รูป 1.15 การวดั อณุ หภมู นิ ้าํ สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เลม� 1 บทท่ี 1 | ความปลอดภัยและทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี 25 จากรูป 1.15 อุณหภูมิจากเทอร�มอมิเตอร�แบบดิจิทัลอ�านได�เท�ากับ 26.22 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิจากเทอร�มอมิเตอร�ตําแหน�งของของเหลวอยู�ที่ขีดบอกอุณหภูมิ 26 ซึ่งการบันทึก และรายงานค�าต�องมีการประมาณค�าในตําแหน�งสุดท�ายด�วยเพ่ือให�สอดคล�องกับความละเอียดของ ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้าอปุ กรณ� ดงั นน้ั อาจบนั ทกึ อณุ หภมู ทิ ไ่ี ดเ� ปน� 26.0 องศาเซลเซยี ส โดยตวั เลขทกุ ตวั ถอื วา� มคี วามสาํ คญั และจาํ นวนหลกั ของตวั เลขทง้ั หมด เรยี กวา� เลขนยั สาํ คญั (significant figure) ดงั นน้ั คา� ทไ่ี ดจ� ากการวดั อุณหภูมิด�วยเทอร�มอมิเตอร�แบบดิจิทัลและเทอร�มอมิเตอร�มีเลขนัยสําคัญ 4 และ 3 ตัว ตามลําดับ สงวนสิทธโ์ิ ดย สสวท. หรือจ้าหน่ายการนับเลขนยั สาํ คญั ของข�อมลู มีหลักการ ดงั น้ีการนบั เลขนัยสําคญั 1. ตวั เลขท่ไี ม�มีเลขศนู ยท� ง้ั หมดนับเป�นเลขนัยสาํ คญั เชน� 1.23 มีเลขนัยสําคญั 3 ตัว ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้า6.02 มเี ลขนยั สาํ คัญ 2. เลขศูนย�ทอ่ี ยรู� ะหว�างตวั เลขอนื่ นบั เปน� เลขนัยสาํ คญั เช�น 3 ตัว 72.05 มเี ลขนยั สําคัญ 4 ตวั 3. เลขศนู ยท� ี่อยู�หนา� ตวั เลขอ่ืน ไม�นบั เปน� เลขนยั สาํ คัญ เช�น 0.25 มีเลขนยั สําคัญ 2 ตัว สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรอื จา้ หนา่ ย4. เลขศนู ยท� อ่ี ย�ูหลังตัวเลขอ่ืนที่อย�ูหลงั ทศนยิ ม นบั เปน� เลขนยั สาํ คัญ เชน� 0.025 มเี ลขนัยสําคญั 2 ตัว 0.250 มีเลขนัยสาํ คัญ 3 ตัว 0.0250 มเี ลขนยั สาํ คญั 3 ตวั ดดั แปลง100 อาจมเี ลขนยั สําคัญเป�น 1 2 หรือ 3 ตัวก็ได� 5. เลขศนู ยท� ่ีอยห�ู ลังเลขอ่นื ทไ่ี มม� ที ศนยิ ม อาจนบั หรอื ไมน� ับเป�นเลขนยั สาํ คญั กไ็ ด1� เช�น เนอ่ื งจากเลขศนู ยใ� นบางกรณีอาจมคี �าเปน� ศนู ยจ� ริง ๆ จากการวัด หรอื เปน� ตวั เลขทีใ่ ช�แสดงให� เห็นว�าค�าดงั กลา� วอยู�ในหลักร�อย 6. ตวั เลขทแ่ี มน� ตรง (exact number) เปน� ตวั เลขทท่ี ราบคา� แนน� อนมเี ลขนยั สาํ คญั เปน� อนนั ต� เชน� คา� คงท่ี เชน� π = 3.142… มเี ลขนยั สําคัญเป�นอนันต� คา� จากการนับ เช�น ปเ� ปตต� 3 คร้งั เลข 3 ถือว�ามีเลขนยั สําคญั เปน� อนันต� ค�าจากการเทียบหน�วย เช�น 1 วัน มี 24 ชั่วโมง ทั้งเลข 1 และ 24 ถือว�ามีเลขนัยสําคัญ เป�นอนันต� 1Chang, R. (2010). Chemistry (10th ed). New York: the McGraw-Hill. สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทที่ 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏิบัตกิ ารเคมี เคมี เล�ม 1 26 7. ขอ� มลู ทม่ี คี า� นอ� ย ๆ หรอื มาก ๆ ใหเ� ขยี นในรปู ของสญั กรณว� ทิ ยาศาสตร2� โดยตวั เลขสมั ประสทิ ธ์ิ ทกุ ตวั นบั เปน� เลขนยั สาํ คญั เชน� 6.02 × 10²³ มเี ลขนัยสาํ คญั 3 ตวั 1.660 × 10-²⁴ มเี ลขนัยสําคญั 4 ตัว ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซา้คา� ตัวเลข 100 ในตัวอย�างข�อ 5 สามารถเขยี นในรูปของสัญกรณว� ทิ ยาศาสตร� แลว� แสดงเลขนยั สาํ คญั ไดอ� ยา� งชัดเจน เชน� 1 × 10² มีเลขนัยสาํ คญั 1 ตวั 1.0 × 10² มีเลขนยั สําคญั 2 ตัว สงวนสิทธิโ์ ดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ยการนาํ ค�าตวั เลขที่ไดจ� ากการวัดมาคํานวณจะตอ� งคํานงึ ถงึ เลขนัยสาํ คญั ของผลลพั ธ� โดยการ1.00 × 10² มเี ลขนยั สาํ คัญ 3 ตวั คาํ นวณสว� นใหญ�เกย่ี วข�องกับตวั เลขที่ไดจ� ากอุปกรณ�ทแี่ ตกตา� งกันท้ังหน�วยและความละเอยี ด ดังนั้น ต�องมกี ารตัดตัวเลขในผลลัพธด� �วยการปด� เศษ ดงั ต�อไปน้ี ดัดแปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซา้การปด� ตวั เลข การป�ดตวั เลข (rounding the number) พจิ ารณาจากตัวเลขท่อี ยถ�ู ัดจากตาํ แหน�งทต่ี อ� งการ ดงั นี้ 1. กรณีที่ตวั เลขถดั จากตาํ แหน�งท่ตี อ� งการมคี �าน�อยกว�า 5 ใหต� ดั ตัวเลขทอี่ ย�ูถดั ไปท้ังหมด เชน� สงวนสิทธโิ์ ดย สสวท. หรอื จา้ หนา่ ย5.7432 ถา� ตอ� งการเลขนยั สําคัญ 2 ตัว ปด� เปน� 5.7 ถา� ต�องการเลขนยั สาํ คัญ 3 ตัว ป�ดเปน� 5.74 2. กรณที ต่ี วั เลขถดั จากตาํ แหนง� ทต่ี อ� งการมคี า� มากกวา� 5 ใหเ� พม่ิ คา� ของตวั เลขตาํ แหนง� สดุ ทา� ย ทต่ี อ� งการอกี 1 เชน� ดัดแปลง3.7892 ถ�าต�องการเลขนัยสาํ คญั 2 ตัว ปด� เป�น 3.8 ถา� ต�องการเลขนยั สําคัญ 3 ตวั ป�ดเป�น 3.79 3. กรณที ีต่ วั เลขถดั จากตําแหน�งท่ีตอ� งการมคี า� เทา� กับ 5 และมีตัวเลขอนื่ ที่ไมใ� ช� 0 ต�อจากเลข 5 ให�เพ่มิ ค�าของตัวเลขตาํ แหน�งสุดท�ายทตี่ อ� งการอีก 1 เช�น 2.1652 ถ�าตอ� งการเลขนยั สําคัญ 3 ตวั ปด� เป�น 2.17 กรณที ่ีตวั เลขถัดจากตาํ แหนง� ทตี่ อ� งการมีค�าเทา� กบั 5 และมี 0 ต�อจากเลข 5 ใหพ� จิ ารณาโดย ใช�หลกั การในขอ� 4 2สญั กรณว� ิทยาศาสตร� (scientific notation) คอื การเขียนตัวเลขในรปู ของสัมประสิทธิ์ (A) คูณกบั เลขยกกาํ ลงั ฐานสิบ (10n) มีรูปทั่วไปเป�น A × 10n เมอ่ื 1 ≤ A < 10 และ n เป�นเลขจํานวนเตม็ บวกหรอื ลบ สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เลม� 1 บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทักษะในปฏิบัติการเคมี 27 4. กรณีที่ตัวเลขถัดจากตําแหน�งที่ต�องการมีค�าเท�ากับ 5 และไม�มีเลขอื่นต�อจากเลข 5 ต�อง พิจารณาตัวเลขท่อี ยหู� นา� เลข 5 ดงั นี้ 4.1 หากตวั เลขทีอ่ ยู�หนา� เลข 5 เปน� เลขค่ี ให�ตวั เลขดงั กล�าวบวกคา� เพ่มิ อกี 1 แลว� ตดั ตวั เลข ตง้ั แตเ� ลข 5 ไปทงั้ หมด เชน� 0.635 ถา� ตอ� งการเลขนัยสําคญั 2 ตวั ปด� เปน� 0.64 ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้า4.2 หากตัวเลขที่อยู�หน�าเลข 5 เป�นเลขคู� ให�ตัวเลขดังกล�าวเป�นตัวเลขเดิม แล�วตัดตัวเลข ตัง้ แต�เลข 5 ไปทั้งหมด เชน� 0.645 ถา� ตอ� งการเลขนัยสาํ คัญ 2 ตัว ป�ดเปน� 0.64 สําหรับการคํานวณหลายขั้นตอน การป�ดตัวเลขของผลลัพธ�ให�ทําในขั้นตอนสุดท�ายของการ คํานวณ การบวกและการลบ สงวนสทิ ธโิ์ ดย สสวท. หรอื จ้าหน่ายในการบวกและลบ ผลลพั ธท� ่ไี ด�จะมีจํานวนตัวเลขทีอ่ ย�ูหลงั จุดทศนยิ มเท�ากบั ขอ� มูลทม่ี ีจาํ นวน ตวั เลขทีอ่ ย�หู ลงั จุดทศนยิ มน�อยทีส่ ุด ดงั ตัวอย�าง ตวั อยา� ง 1 ดดั แปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้า1.2 + 3.45 + 6.789 มีผลลัพธเ� ท�าใด วิธที าํ 1.2 + 3.45 + 6.789 = 11.439 ผลลัพธ�ที่ได�ต�องป�ดเป�น 11.4 ซึ่งมีตัวเลขหลังจุดทศนิยม 1 ตําแหน�ง ตามจํานวนที่มีเลขหลัง สงวนสทิ ธ์ิโดย สสวท. หรอื จา้ หนา่ ยจุดทศนิยมน�อยที่สดุ คอื 1.2 ตัวอย�าง 2 ดดั แปลง31.5 − 12.35 + 27.27 มผี ลลัพธ�เทา� ใด วิธีทํา 31.5 − 12.35 + 27.27 = 46.42 ผลลัพธ�ที่ได�ต�องป�ดเป�น 46.4 ซึ่งมีตัวเลขหลังจุดทศนิยม 1 ตําแหน�ง ตามจํานวนที่มีเลขหลัง จุดทศนิยมน�อยทีส่ ดุ คือ 31.5 ตรวจสอบความเข�าใจ ชั่งมวลของสารได� 76.98 และ 34.9 กรัม ตามลําดับ ผลรวมของมวลสารเป�นเท�าใด สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทกั ษะในปฏิบตั ิการเคมี เคมี เลม� 1 28 การคูณและการหาร ในการคูณและการหาร ผลลัพธ�ที่ได�จะมีจํานวนเลขนัยสําคัญเท�ากับข�อมูลที่มีเลขนัยสําคัญ นอ� ยทส่ี ุด ดังตัวอยา� ง ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้าตัวอย�าง 3 2.279 × 6.51 มผี ลลพั ธเ� ท�าใด วิธที ํา 2.279 × 6.51 = 14.83629 สงวนสทิ ธิโ์ ดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ยผลลพั ธ�ทีไ่ ด�ตอ� งป�ดเปน� 14.8 ซึง่ มเี ลขนยั สําคัญ 3 ตัว ตามจาํ นวนทม่ี เี ลขนยั สําคัญนอ� ยทส่ี ุด คือ 6.51 ดัดแปลง ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้าตัวอย�าง 4 7.44 × 4.3 ÷ 2.48 มผี ลลพั ธ�เทา� ใด สงวนสทิ ธโ์ิ ดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ยวธิ ีทํา 7.44 × 4.3 ÷ 2.48 = 12.9 ผลลัพธ�ที่ได�ต�องป�ดเป�น 13 ซึ่งมีเลขนัยสําคัญ 2 ตัว ตามจํานวนที่มีเลขนัยสําคัญน�อยที่สุด คือ 4.3 ดัดแปลงตรวจสอบความเขา� ใจ ปรอทปริมาตร 20.00 มิลลิลิตร จะมีมวลเท�าใด เมื่อปรอทมีความหนาแน�นเท�ากับ 1.36 กรัมต�อมิลลิลิตร สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทที่ 1 | ความปลอดภยั และทักษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี 29 การคาํ นวณท่เี กย่ี วขอ� งกับตวั เลขทแ่ี ม�นตรง การคาํ นวณไมต� อ� งพจิ ารณาเลขนัยสาํ คัญของตัวเลขทแี่ มน� ตรง ดงั ตวั อยา� ง หา้ มเผยแพร่ ท้าซา้ชัง่ นํ้าปรมิ าตร 10.0 มิลลิลิตร 3 ครง้ั ทอี่ ณุ หภูมิ 25 องศาเซลเซยี ส ไดม� วลเป�น 10.01 9.98ตัวอย�าง 5 และ 10.02 กรมั มวลเฉลีย่ ของนํ้าเปน� เท�าใด สงวนสิทธิ์โดย สสวท. หรอื จา้ หนา่ ยวธิ ีทํา= 10.01 + 9.98 + 10.02 มวลเฉล่ยี ของน้าํ 3 = 10.0033 ดดั แปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้าในขน้ั แรกเป�นการหาผลรวม ผลลพั ธ�ท่ไี ดจ� ะมีตวั เลขหลงั จดุ ทศนิยม 2 ตําแหน�ง ทาํ ให�มเี ลขนยั สาํ คญั 4 ตัว เมื่อหารด�วย 3 ซง่ึ เป�นตัวเลขท่ีแมน� ตรงท่ไี มน� าํ มาพิจารณาเลขนยั สําคัญ ดงั น้ันผลลัพธท� ่ี ไดจ� ากการหารต�องป�ดเศษเปน� 10.00 กรมั ซ่งึ มเี ลขนัยสาํ คัญ 4 ตัว ดงั น้นั มวลเฉลย่ี ของนาํ้ เทา� กับ 10.00 กรัม สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรอื จ้าหนา่ ยตรวจสอบความเขา� ใจ ใหน� ักเรียนพิจารณาขอ� มลู ทไ่ี ดจ� ากกิจกรรม 1.1 แล�วตอบคําถามตอ� ไปนี้ ดัดแปลง1. ปรมิ าตรของนาํ้ จากการปเ� ปตตแ� ละการใชก� ระบอกตวง ควรบนั ทกึ ดว� ย เลขนยั สาํ คญั กต่ี วั 2. มวลของนํา้ ทชี่ ่ังด�วยเครื่องชัง่ ควรบนั ทกึ ด�วยเลขนัยสําคญั กต่ี ัว 3. ความหนาแนน� ของน้าํ ทคี่ ํานวณได� ควรบนั ทกึ ดว� ยเลขนยั สําคัญกต่ี วั 4. การบันทึกผลและการคํานวณของนักเรียน สอดคล�องกับหลักการเกี่ยวกับเลข นัยสาํ คัญ หรอื ไม� หากไม�สอดคล�องใหแ� ก�ไขให�ถกู ตอ� ง สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทักษะในปฏบิ ตั ิการเคมี เคมี เล�ม 1 30 แบบฝก� หดั 1.3 1. อา� นปริมาตรของของเหลว จากรูปตอ� ไปน้ี สงวนสิทธิโ์ ดย สสวท. หห้ารมือเจผ้ายหแนพา่ รย่ ท้าซ้า2. อ�านค�าปริมาตรของของเหลวในบิวเรตต�ที่มีปริมาตรเท�ากันในมุมมองที่แตกต�างกันได� ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซา้เทา� ใด และคา� ทอี่ �านไดใ� นแต�ละขอ� ถูกต�องหรือไม� เพราะเหตุใด สงวนสทิ ธ์โิ ดยดสดั สแวปทล.ง หรอื จา้ หน่าย3. วิธีการในแตล� ะข�อต�อไปนี้ สามารถวัดปรมิ าตรน้ําทต่ี อ� งการได�แม�นหรอื ไม� เพราะเหตุใด 3.1 ตวงนาํ้ โดยใชก� ระบอกตวงขนาด 100 มลิ ลลิ ติ ร ครง้ั ละ 100.00 มลิ ลลิ ติ ร 2 ครง้ั และ 50.00 มิลลิลิตร 1 ครั้ง จะได�นา้ํ ปริมาตร 250.00 มิลลลิ ิตร 3.2 ไขนาํ้ จากบวิ เรตตท� บ่ี รรจนุ าํ้ เรม่ิ ตน� ทข่ี ดี บอกปรมิ าตรเลข 0 มาถงึ ขดี บอกปรมิ าตร เลข 20 จะได�นาํ้ ปริมาตร 20.00 มลิ ลลิ ิตร 3.3 เตมิ นาํ้ ลงในขวดกาํ หนดปรมิ าตรขนาด 100 มลิ ลลิ ติ ร ปรบั ใหพ� อดกี บั ขดี บอกปรมิ าตร เมื่อเทน้ําออกใสบ� ีกเกอรจ� ะได�น้าํ ปริมาตร 100.00 มลิ ลิลติ รพอดี สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เลม� 1 บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทักษะในปฏิบัติการเคมี 31 1.4 หนว� ยวัด การระบหุ น�วยของการวัดปริมาณต�าง ๆ ในชีวิตประจาํ วันไม�วา� จะเป�นความยาว มวล อุณหภมู ิ อาจแตกตา� งกันในแต�ละประเทศ เช�น การระบนุ ํ้าหนกั เป�นกิโลกรมั ปอนด� หรือ การระบสุ �วนสงู เป�น เซนติเมตร ฟตุ ซึง่ ทาํ ให�ไมส� ะดวกในการเปรยี บเทยี บหรือส่ือสารใหเ� ข�าใจตรงกนั และในบางกรณี หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซา้อาจนาํ ไปส�คู วามเข�าใจผดิ ที่ทําให�เกิดความเสียหายได� ดงั นั้น เพอ่ื ใหก� ารสอ่ื สารข�อมูลจากการวัดเปน� ทีเ่ ขา� ใจตรงกนั จึงมกี ารตกลงร�วมกนั ใหม� ีหน�วยมาตรฐานสากลขึ้น 1.4.1 หน�วยในระบบเอสไอ ในป� พ.ศ. 2503 ทป่ี ระชมุ นานาชาติวา� ด�วยการ ชง่ั และการวดั (The General conference on Weights สงวนสิทธโิ์ ดย สสวท. หรอื จ้าหนา่ ยand Measures) ไดต� กลงใหม� หี นว� ยวดั สากลขน้ึ เรยี กวา� ร�ูหรอื ไม� ระบบหน่วยวัด ระหว่างประเทศ หรือเรียกย�อ ๆ ว�า SI units เปน� คาํ ยอ� จากภาษา หน�วยเอสไอ (SI units) ซึ่งเป�นหนว� ยทด่ี ดั แปลงจาก ฝรง่ั เศส คาํ วา� Système international หนว� ยในระบบเมทรกิ ซ� โดยหนว� ยเอสไอแบง� เปน� หนว� ย d'unités ดดั แปลง หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซา้พน้ื ฐาน (SI base units) มี 7 หนว� ย แสดงดงั ตาราง 1.1 ซง่ึ เปน� หนว� ยทไ่ี มข� น้ึ ตอ� กนั และสามารถนาํ ไปใชใ� นการกาํ หนดหนว� ยอน่ื ๆ ไดแ� ละหนว� ยเอสไออนพุ นั ธ� (Derived SI units) ซง่ึ เปน� หนว� ยอน่ื ๆ ทม่ี คี วามสมั พนั ธก� นั ทางคณติ ศาสตรข� องหน�วยเอสไอพ้ืนฐาน ตวั อยา� งแสดงดงั ตาราง 1.2 สงวนสทิ ธิโ์ ดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ยตาราง 1.1 หน�วยเอสไอพื้นฐาน ปริมาณ ชื่อหน�วย สัญลักษณ�ของหน�วย มวล กิโลกรัม (kilogram) kg เมตร (meter) m ดดั แปลงความยาว วินาที (second) s เคลวิน (kelvin) K เวลา โมล (mole) mol อุณหภูมิ ปริมาณของสาร กระแสไฟฟ�า แอมแปร� (ampere) A ความเข�มแห�งการส�องสว�าง แคนเดลลา (candela) cd สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภัยและทกั ษะในปฏิบตั กิ ารเคมี เคมี เลม� 1 32 ตาราง 1.2 ตัวอย�างหน�วยเอสไออนุพันธ� ปริมาณ ชื่อหน�วย สัญลักษณ�ของหน�วย ปริมาตร ลูกบาศก�เมตร (cubic meter) m³ mol/m³ ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซา้ความเข�มข�นโมลต�อลูกบาศก�เมตร kg/m³ (mol per cubic meter) ความหนาแน�น กิโลกรัมต�อลูกบาศก�เมตร (kilogram per cubic meter) สงวนสทิ ธ์ิโดย สสวท. หรอื จ้าหน่ายหน�วยนอกระบบเอสไอ นอกจากหนว� ยในระบบเอสไอแล�ว ในทางเคมียงั มีหนว� ยอ่นื ท่ไี ดร� ับ การยอมรับและมีการใช�กันอยา� งแพร�หลาย ตวั อย�างดังตาราง 1.3 ดัดแปลง ห้ามเผยแพร่ ท้าซา้ตาราง 1.3 ตัวอย�างหน�วยนอกระบบเอสไอที่ใช�ในทางเคมี ปริมาณ ชื่อหน�วย สัญลักษณ� ค�าที่เทียบกับ ของหน�วย หน�วยเอสไอพื้นฐาน ปริมาตร ลิตร (liter) L หรือ l 1 L = 10-³ m³ สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ยมวลกรัม (gram) g 1 g = 10-³ kg ดัดแปลงความดันดอลตัน (dalton) Da 1 Da = 1.66 × 10-²⁷ kg หนว� ยมวลอะตอม u (unified atomic mass unit) 1 u = 1 Da bar บาร� (bar) 1 bar = 10-⁵ Pa mmHg มิลลิเมตรปรอท 1 mmHg = 133.32 Pa (millimeter of mercury) atm 1 atm = 1.013 × 10-⁵ Pa บรรยากาศ (atmospheric pressure) (1 atm ~ 1 bar) ความยาว อังสตรอม (ångström) Å 1 Å = 10-¹⁰ m พลังงาน แคลอรี (calorie) cal 1 cal = 4.2 J อุณหภูมิ องศาเซลเซียส °C °C = K − 273 (degree celsius) สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เลม� 1 บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบตั ิการเคมี 33 ตรวจสอบความเขา� ใจ 1. ลวดแมกนีเซียมหนา 0.1 มิลลิเมตร สามารถเขียนแสดงความหนาให�อยู�ในรูปสัญกรณ� วทิ ยาศาสตรใ� นหนว� ยเอสไอไดเ� ปน� เทา� ใด ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้า2. ปรมิ าตรนาํ้ ทไ่ี ดจ� ากปเ� ปตต� 10.00 ลกู บาศกเ� ซนตเิ มตร สามารถเขยี นแสดงปรมิ าตรให�อยู� ในรูปสัญกรณ�วิทยาศาสตร�ในหน�วยเอสไอได�เป�นเท�าใด สงวนสทิ ธ์โิ ดย สสวท. หรือจา้ หนา่ ยในทางวทิ ยาศาสตร�การคาํ นวณเกี่ยวกบั ปรมิ าณต�าง ๆ อาจจําเปน� ตอ� งมีการเปลย่ี นหน�วยให� อยู�ในหนว� ยที่เหมาะสมโดยไมท� าํ ให�ค�าของปรมิ าณเปลย่ี นแปลง เช�น ในทางเคมีนยิ มระบุพลงั งาน ในหนว� ยแคลอรี ในขณะที่หน�วยเอสไอของพลงั งานคือจูล ดังนัน้ นกั เคมจี งึ จําเปน� ตอ� งเปล่ียนหนว� ย พลงั งานระหว�างแคลอรแี ละจูลเพอ่ื ให�เหมาะสมกับการใชง� าน การเปลยี่ นหน�วยทําไดห� ลายวิธี ในท่นี ี้ ดดั แปลง หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซา้จะใช�วธิ ีการเทียบหนว� ย ซ่งึ ต�องใช�แฟกเตอรเ� ปลี่ยนหน�วย 1.4.2 แฟกเตอรเ� ปลย่ี นหนว� ย แฟกเตอรเ� ปลย่ี นหนว� ย (conversion factors) เปน� อตั ราสว� นระหวา� งหนว� ยทแ่ี ตกตา� งกนั 2 หนว� ย สงวนสทิ ธ์ิโดย สสวท. หรอื จา้ หนา่ ยจากความสมั พันธพ� ลงั งาน 1 cal = 4.2 J ท่มี ีปรมิ าณเทา� กนั ตวั อย�างการหาแฟกเตอรเ� ปลยี่ นหนว� ยเป�นดังน้ี เมือ่ ใช� 1 cal หารท้งั สองขา� งจะได�เป�น 1 cal = 4.2 J 1 cal 1 cal ดัดแปลง1 = 4.2 J 1 cal หรือถ�าใช� 4.2 J หารทง้ั สองข�างจะไดเ� ป�น 1 cal = 4.2 J 4.2 J 4.2 J 1 cal = 1 4.2 J 1 cal 4.2 J ดงั นน้ั แฟกเตอรเ� ปลย่ี นหนว� ยเขียนได�เป�น 4.2 J หรือ 1 cal สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏบิ ัติการเคมี เคมี เล�ม 1 34 ในทางคณิตศาสตร�เมื่อคณู ปริมาณดว� ย “1” จะทําใหค� า� ของปริมาณเดิมไมเ� ปลี่ยนแปลง และ แฟกเตอรเ� ปลี่ยนหน�วย 1 cal และ 4.2 J ก็มคี �าเท�ากับ 1 ดังนั้นจงึ สามารถนาํ แต�ละแฟกเตอร� 4.2 J 1 cal เปลี่ยนหน�วยไปใช�ในการเปล่ียนหน�วยของปริมาณที่วัดจากหน�วยหน่ึงไปเป�นหน�วยอ่ืนโดยปริมาณ พลงั งาน = 20 cal × 4.2 J หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซา้ไม�เปลี่ยนแปลง สําหรับตัวอย�างแฟกเตอร�เปลี่ยนหน�วยนี้ ใช�เปลี่ยนหน�วยจูลให�เป�นแคลอรีหรือ1 cal แคลอรใี ห�เป�นจูล ตามลาํ ดับ เชน� พลงั งาน 20 cal สามารถเปลี่ยนเปน� หนว� ยจลู ได�ดังน้ี สงวนสิทธโ์ิ ดย สสวท. หรือจ้าหน่ายวิธกี ารเทียบหนว� ย= 84 J วธิ กี ารเทยี บหนว� ย (factor label method) ทาํ ไดโ� ดยการคณู ปรมิ าณในหนว� ยเรม่ิ ตน� ดว� ย แฟกเตอรเ� ปลย่ี นหนว� ยทม่ี หี นว� ยทต่ี อ� งการอยด�ู า� นบน ตามสมการ หนว� ยท่ีตอ� งการ ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้าปรมิ าณและหน�วยทีต่ �องการ = ปรมิ าณและหนว� ยเร่มิ ต�น× หนว� ยเร่ิมต�น สงวนสิทธโิ์ ดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ยตัวอยา� ง 6 สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ มวล 20 กรัม ความหนาแน�น 1.18 กรัมต�อลูกบาศก�เซนตเิ มตร มปี รมิ าตรเท�าใด ดดั แปลงวิธีทาํ ปริมาตรของกรดไฮโดรคลอริก = 20 g solution × 1 cm³ solution 1.18 g solution = 16.95 cm³ คําตอบตอ� งมเี ลขนัยสําคญั 2 ตัว ดงั นน้ั สารละลายกรดไฮโดรคลอริกมปี ริมาตร 17 ลกู บาศก� เซนตเิ มตร สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทท่ี 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบตั กิ ารเคมี 35 แบบฝก� หดั 1.4 1. จงแสดงวิธกี ารเปลยี่ นหน�วยไปเป�นหน�วยใหม�ทต่ี �องการในแต�ละขอ� ต�อไปนี้ หา้ มเผยแพร่ ท้าซา้ข�อที่ ปริมาณและหน�วยเริ่มต�น หน�วยใหม�ที่ต�องการ 1.1 59.2 cm dm 1.2 1.8 kg mg 1.3 2,800 mL dm³ kg/dm³ สงวนสทิ ธโ์ิ ดย สสวท. หรือจ้าหน่าย1.4 3.2 g/mL 2. น้ําบริสุทธิ์ปริมาตร 50.0 ลูกบาศก�เซนติเมตร ที่อุณหภูมิ 20.5 องศาเซลเซียสมีมวล ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้าเท�าใด เมอื่ ความหนาแนน� ของนํ้าทอ่ี ุณหภูมิ 20.5 องศาเซลเซยี ส เท�ากับ 0.998099 กรัม ต�อลกู บาศก�เซนตเิ มตร 3. สารละลายกรดซลั ฟว� รกิ เขม� ขน� รอ� ยละ 24 โดยมวล มคี วามหนาแนน� 1.2 กรมั ตอ� ลกู บาศก� เซนตเิ มตร ถา� สารละลายกรดซลั ฟว� รกิ 200 ลกู บาศกเ� ซนตเิ มตร จะมกี รดซลั ฟว� รกิ กี่กรัม สงวนสทิ ธ์โิ ดย สสวท. หรือจ้าหน่าย4. ถ�าทองเหลือง 12 กรัม ต�องใช�ทองแดง 9.0 กรัม มีต�นทุนราคาของทองแดงกิโลกรัมละ 200 บาท หากตอ� งการทองเหลือง 300 กรมั ตอ� งซื้อทองแดงกบี่ าท ดดั แปลง1.5 วธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร� การทาํ ปฏบิ ตั กิ ารเคมนี อกจากตอ� งมกี ารวางแผนการทดลอง การทาํ การทดลอง การบนั ทกึ ขอ� มลู การสรปุ และวิเคราะห�ขอ� มูล การนําเสนอขอ� มูล และการเขยี นรายงานการทดลองที่ถูกต�อง แลว� ตอ� ง คาํ นงึ ถงึ วิธกี ารทางวิทยาศาสตร� ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร� และจิตวทิ ยาศาสตร� วธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร� (scientific method) เปน� กระบวนการศกึ ษาหาความรท�ู างวทิ ยาศาสตร� ท่ีมแี บบแผนขน้ั ตอน โดยภาพรวมสามารถทาํ ไดด� ังนี้ 1. การสงั เกต เปน� จดุ เรม่ิ ต�นของการไดข� อ� มลู เกี่ยวกับสิ่งทีต่ อ� งการศกึ ษา โดยอาศยั ประสาท สัมผัสทั้ง 5 คือ การมองเห็น การฟ�งเสยี ง การได�กลนิ่ การรบั รส และการสมั ผสั จากขอ� มลู ดังกลา� วจะ นําไปสู�ข�อสงสัยหรือตั้งเป�นคําถามที่ต�องการคําตอบ ดังนั้นการสังเกตจึงเป�นทักษะที่สําคัญที่ก�อ ให�เกดิ การเรียนรข�ู องผ�เู รยี น สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทกั ษะในปฏบิ ตั ิการเคมี เคมี เลม� 1 36 2. การตัง้ สมมตฐิ าน เปน� การคาดคะเนคําตอบของคําถามหรอื ป�ญหา โดยมีพ้ืนฐานจากการ สงั เกต ความร�ู หรือประสบการณเ� ดิม โดยทั่วไปสมมติฐานจะเขยี นในรปู ของข�อความทแี่ สดงเหตุและ ผลท่เี กิดขึ้น หรอื อีกนยั หนึง่ จะเปน� ความสมั พนั ธ�ของตวั แปรต�นและตัวแปรตาม 3. การตรวจสอบสมมตฐิ าน เปน� กระบวนการหาคาํ ตอบของสมมตฐิ าน โดยมกี ารออกแบบ ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้าการทดลองใหม� ีการควบคมุ ปจ� จยั ต�าง ๆ ทมี่ ีผลตอ� การทดลอง รวมถงึ ข้ันตอนการทดลองทีช่ ดั เจน 4. การรวบรวมข�อมูลและวิเคราะห�ผล เป�นการนําข�อมูลที่ได�จากการสังเกต การตรวจสอบ สมมติฐาน มารวบรวม วเิ คราะห� และอธิบายขอ� เท็จจริง 5. การสรปุ ผล เปน� การสรุปความรหู� รอื ข�อเทจ็ จรงิ ทไ่ี ด�จากการตรวจสอบสมมติฐาน และมีการ เปรียบเทยี บกับสมมตฐิ านทต่ี ัง้ ไวก� อ� นหนา� สงวนสทิ ธโิ์ ดย สสวท. หรอื จ้าหน่ายทงั้ นี้ ในการศึกษาหาความรท�ู างวทิ ยาศาสตร�นั้นไมม� ีรูปแบบทตี่ ายตัว โดยอาจมรี ายละเอยี ดท่ี แตกต�างกนั ขนึ้ อยูก� ับคาํ ถาม บรบิ ท หรือวิธกี ารท่ใี ชใ� นการสํารวจตรวจสอบ การเรียนการสอนวิทยาศาสตรข� องนักเรียนในระดบั ชน้ั ตา� ง ๆ ท่ผี �านมาน้ันมกี ารทดลองและ ดดั แปลง หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซ้ากิจกรรม ทส่ี ง� เสริมใหไ� ด�ใชว� ธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร�ศึกษาหาความรู� นกั เรยี นลองพิจารณาสถานการณ� ต�อไปนว้ี า� เก่ียวข�องกับวิธกี ารทางวทิ ยาศาสตร�อยา� งไร ตรวจสอบความเข�าใจ สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรือจา้ หนา่ ยนักเรียนคนหนึ่งดื่มนํ้าอัดลมแล�วพบว�าน้ําอัดลมที่แช�เย็นมีความซ�ามากกว�าน้ําอัดลมที่ ไม�แชเ� ยน็ จงึ เกิดความสงสยั วา� เพราะเหตุใดจึงเปน� เชน� นนั้ จากการที่นักเรียนสังเกตว�า เมื่อดื่มน้ําอัดลมที่แช�เย็นแล�วรู�สึกว�ามีความซ�ามากกว�า ดัดแปลงน้ําอัดลมที่ไม�แช�เย็น นักเรียนคิดว�า ความเข�มข�นของกรดคาร�บอนิกที่อยู�ในน้ําอัดลมเป�น สาเหตใุ หน� าํ้ อดั ลมมคี วามซา� จงึ ตง้ั สมมตฐิ านวา� \"นาํ้ อดั ลมทแ่ี ชเ� ยน็ จะมคี วามเขม� ขน� ของกรด คารบ� อนกิ มากกวา� นาํ้ อดั ลมทไ่ี มแ� ชเ� ยน็ \" จงึ วางแผนการทดลองโดยการวดั คา� pH ของนาํ้ อดั ลม ทเ่ี พง่ิ เปด� ขวดทง้ั ทแ่ี ชเ� ยน็ และไมแ� ชเ� ยน็ เมอ่ื นกั เรยี นทาํ การทดลองตามแผนการทดลองท่วี างไว� พบวา� นา้ํ อดั ลมที่แชเ� ย็นมคี า� pH เท�ากับ 2 และน้ําอดั ลมที่อุณหภูมหิ อ� งมคี า� pH เทา� กบั 3 ซึง่ สอดคลอ� งกบั สมมตฐิ านที่ตง้ั ไว� นักเรียนจึงสรปุ ผลการทดลองว�า นา้ํ อดั ลมท่ีแชเ� ย็นมคี วาม เขม� ขน� ของกรดคารบ� อนิกมากกว�าจงึ มีความซา� มากกวา� นา้ํ อัดลมทีไ่ มแ� ช�เยน็ จากตัวอย�างสถานการณข� �างตน� จงตอบคาํ ถามต�อไปนี้ 1. การออกแบบการทดลองสอดคลอ� งกับสมมตฐิ านทต่ี งั้ ไว�หรือไม� อยา� งไร สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เลม� 1 บทที่ 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏิบัตกิ ารเคมี 37 2. การสรุปผลการทดลองสอดคล�องกับข�อเท็จจริงท่ีได�จากการตรวจสอบสมมติฐาน หรอื ไม� อยา� งไร 3. สมมตฐิ านทต่ี ง้ั ไว� สอดคลอ� งกบั สง่ิ ทส่ี งั เกตไดว� า� นาํ้ อดั ลมทแ่ี ชเ� ยน็ มคี วามซา� มากกวา� นาํ้ อดั ลมทไ่ี มแ� ชเ� ยน็ หรอื ไม� อยา� งไร ห้ามเผยแพร่ ท้าซา้4. ถา� นกั เรยี นตอ� งการออกแบบการทดลองเพอ่ื ตอบคาํ ถามวา� เพราะเหตใุ ด เมอ่ื ดม่ื นาํ้ อดั ลมทแ่ี ชเ� ยน็ จงึ รส�ู กึ วา� มคี วามซา� มากกวา� นาํ้ อดั ลมทไ่ี มแ� ชเ� ยน็ นกั เรยี นคดิ วา� ควรมขี อ� มลู ใด เพม่ิ เตมิ บา� ง สงวนสิทธโ์ิ ดย สสวท. หรือจา้ หนา่ ยนอกจากวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตรแ� ลว� การเขยี นรายงานการทดลองเปน� สง่ิ สาํ คญั เชน� กนั เพราะ นอกจากจะชว� ยใหผ� ท�ู าํ การทดลองมขี อ� มลู ไวอ� า� งองิ แลว� รายงานยงั เปน� เครอ่ื งมอื สอ่ื สารทผ่ี อ�ู น่ื สามารถ นาํ ไปศกึ ษาและปฏบิ ตั ติ ามได� โดยหวั ขอ� ทค่ี วรมใี นรายงานการทดลองมดี งั นี้ ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้า2. จดุ ประสงค�1. ช่ือการทดลอง5. วธิ ีการทดลอง 6. ผลการทดลอง 3. สมมตฐิ านและการกาํ หนดตัวแปร 7. อภิปรายและสรปุ ผลการทดลอง 4. อุปกรณแ� ละสารเคมี นักเรียนสามารถฝ�กการออกแบบการทดลองและเขียนรายงานการทดลอง ได�จากกิจกรรม สงวนสิทธโ์ิ ดย สสวท. หรอื จ้าหน่ายตอ� ไปน้ี กจิ กรรม 1.2 การออกแบบและทดลองเปรยี บเทียบความแมน� ใน การวดั ปริมาตรนา้ํ ด�วยกระบอกตวงท่ีมขี นาดตา� งกัน ดดั แปลงจุดประสงคก� ารทดลอง 1. ออกแบบและทดลองเปรยี บเทยี บความแมน� ในการวดั ปรมิ าตรนาํ้ ดว� ยกระบอกตวงทม่ี ขี นาด ตา� งกนั 2. นาํ เสนอการออกแบบการทดลองและเขยี นรายงานการทดลอง วธิ ที ดลอง 1. ออกแบบและนาํ เสนอการออกแบบการทดลอง เปรียบเทียบความแม�นในการวดั ปริมาตร นาํ้ ด�วยกระบอกตวงทม่ี ขี นาดตา� งกนั สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทที่ 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏิบัติการเคมี เคมี เลม� 1 38 2. ทาํ การทดลองเพ่ือเปรยี บเทียบความแม�นในการวัดปรมิ าตรน้ําดว� ยกระบอกตวงทีม่ ีขนาด ต�างกนั 3. เขยี นรายงานการทดลอง ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซา้การศึกษาความร�ทู างวิทยาศาสตร�ตอ� งอาศัยทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร� (scientific process skill) และจิตวิทยาศาสตร� (scientific mind) โดยมีรายละเอียดดังนี้ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร� เปน� ความสามารถและความชาํ นาญในการคิดเพ่อื ค�นหา สงวนสทิ ธ์โิ ดย สสวท. หรอื จ้าหน่ายความรู�และแก�ไขป�ญหา โดยทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรป� ระกอบด�วย 14 ทกั ษะ คอื การ สงั เกต การวดั การลงความเหน็ จากขอ� มลู การจาํ แนกประเภท การหาความสมั พนั ธข� องสเปซกบั เวลา การใชจ� าํ นวน การจัดกระทําและสอื่ ความหมายขอ� มูล การพยากรณ� การตง้ั สมมติฐาน การกาํ หนด นยิ ามเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร การกาํ หนดและควบคมุ ตวั แปร การทดลอง การตคี วามหมายขอ� มลู และลงขอ� สรปุ ดดั แปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้าและการสร�างแบบจําลอง จติ วทิ ยาศาสตร� เปน� ความรส�ู กึ นกึ คดิ พฤตกิ รรมหรอื ลกั ษณะนสิ ยั ทเ่ี ปน� ผลมาจากประสบการณ� และการเรียนรู� ซึ่งมีอิทธิพลต�อความคิด การตัดสินใจ หรือพฤติกรรมของบุคคลต�อความรู�หรือ สิ่งที่มีความเกี่ยวข�องกับวิทยาศาสตร� เช�น ความอยากรู�อยากเห็น การใช�วิจารณญาณ ความใจกว�าง ความซอ่ื สตั ย� ความมง�ุ มน่ั อดทน ความรอบคอบ การเหน็ ความสาํ คญั และคณุ คา� ของวทิ ยาศาสตร� สงวนสทิ ธโิ์ ดย สสวท. หรอื จา้ หน่ายการทน่ี ักเรียนมีเจตคติทดี่ ตี �อวิทยาศาสตร� เหน็ คณุ คา� ของการเรยี นวิทยาศาสตร� ย�อมจะทาํ ให� มีความฝ�กใฝ�ในการเรยี นรู�วิทยาศาสตร�และมกี ารนาํ ความรไ�ู ปใชป� ระโยชนอ� ยา� งถกู ต�องเหมาะสม ดัดแปลงตรวจสอบความเข�าใจ จากการทํากิจกรรมออกแบบและทดลองเปรียบเทียบความแม�นในการวัดปริมาตร นาํ้ ด�วยกระบอกตวงท่ีมีขนาดตา� งกัน นักเรียนได�ใชท� ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ� ละ จติ วทิ ยาศาสตรใ� ดบ�าง สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทท่ี 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี 39 การศึกษาความรู�ทางวิทยาศาสตร�นั้น นอกจากการเรียนรู�อย�างเป�นระบบตามวิธีการทาง วิทยาศาสตร� โดยอาศัยทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร�และจิตวิทยาศาสตร�แล�วนั้น ผู�เรียน ยังต�องคํานึงถึงจริยธรรมซึ่งเกี่ยวข�องกับความถูกต�องในการศึกษาวิทยาศาสตร�ที่มีต�อตนเอง ผู�อื่น และสิ่งแวดล�อม ตัวอย�างจริยธรรมทางวิทยาศาสตร� เช�น ความซื่อสัตย�ในการรายงานข�อมูลทาง หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซา้วิทยาศาสตร� การวิเคราะห�และแปลความหมายข�อมูลอย�างอิสระบนพื้นฐานของข�อมูลที่มีอยู� โดย ไม�ใหข� �อมลู จากแหล�งภายนอกมีอทิ ธพิ ลตอ� การวิเคราะห�และการตีความ การอา� งองิ แหล�งของขอ� มูล ต�าง ๆ อย�างเหมาะสม ความรับผิดชอบต�อสังคมหรือสภาพแวดล�อม ความรู�และทักษะปฏิบัติการตา� ง ๆ ที่ไดศ� กึ ษาในบทเรยี นน้เี ปน� พ้ืนฐานสาํ คัญในการเรยี นร�ู วิชาเคมบี ทอน่ื ๆ ตอ� ไป สงวนสทิ ธิโ์ ดย สสวท. หรอื จ้าหน่ายสรปุ เน้อื หาภายในบทเรียน ดัดแปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้าการทาํ ปฏบิ ตั กิ ารใหป� ลอดภยั ผท�ู าํ ปฏบิ ตั กิ ารตอ� งทราบเกย่ี วกบั ประเภทของสารเคมที ใ่ี ช� วธิ ปี ฏบิ ตั กิ ารทดลอง ขอ� ควรปฏบิ ตั ใิ นการทาํ ปฏบิ ตั กิ ารเคมแี ละการกาํ จดั สารเคมี รวมถงึ ตอ� ง มคี วามรแ�ู ละสามารถปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน� เพอ่ื ลดความรนุ แรงและความเสยี หายทเ่ี กดิ ขน้ึ ได� ความน�าเชื่อถือของข�อมูลจากการทําปฏิบัติการเคมี พิจารณาได�จากความเที่ยงและ สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรือจ้าหน่ายความแม�น ซึ่งขึ้นกับทักษะของผู�ทําปฏิบัติการในการวัดปริมาณสารและความละเอียดของ เครื่องมือและอุปกรณ�ที่ใช� การบอกปริมาณของสารอาจระบุอยู�ในหน�วยต�าง ๆ ดังนั้นเพื่อ ให�เกิดความเข�าใจที่ตรงกันจึงมีการกําหนดหน�วยในระบบเอสไอให�เป�นหน�วยสากลโดยการ เปลี่ยนหน�วยเพื่อให�เป�นหน�วยสากลสามารถทําได�ด�วยการใช�แฟกเตอร�เปลี่ยนหน�วย ดัดแปลงการทําปฏิบัติการเคมีต�องมีการวางแผนการทดลอง การทําการทดลอง การบันทึก ข�อมูล สรุปและวเิ คราะห� นําเสนอข�อมูล และการเขียนรายงานการทดลองที่ถูกต�อง โดยการ ทําปฏิบัติการเคมีต�องคํานึงถึงวิธีการทางวิทยาศาสตร� ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร� จิตวิทยาศาสตร� และจรยิ ธรรมทางวทิ ยาศาสตร� สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี เคมี เลม� 1 40 แบบฝ�กหัดทา� ยบท 1. แปลความหมายของสัญลักษณ�แสดงความเป�นอันตราย ในระบบ GHS ต�อไปนี้ และถ�า นักเรียนต�องใช�สารเคมีเหล�านี้ในการทําปฏิบัติการจะต�องใช�อุปกรณ�ป�องกันเพิ่มเติมใด ห้ามเผยแพร่ ท้าซา้นอกจากเสอ้ื คลมุ ปฏบิ ตั ิการ ข�อที่ สัญลักษณ� การแปลความหมายของสัญลักษณ� อุปกรณ�ป�องกัน สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ย1.1 เพิ่มเติม ดัดแปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซ้า1.2 1.3 สงวนสิทธโ์ิ ดย สสวท. หรอื จา้ หนา่ ย1.4 ดดั แปลง1.5 1.6 สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทท่ี 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัตกิ ารเคมี 41 2. เติมเครื่องหมาย หน�าข�อความที่ถูกต�อง และเติมเครื่องหมาย หน�าข�อความที่ ไม�ถูกต�อง ……. 2.1 สามารถใช�แวน� สายตาทดแทนแวน� นิรภัยในการทาํ ปฏบิ ัติการเคมีได� ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้า……. 2.2 ควรถอดรองเทา� ก�อนเขา� หอ� งปฏบิ ัติการเคมเี สมอ ……. 2.3 การทดสอบปฏิกิริยาเคมีในหลอดทดลองไม�ควรหันปากหลอดทดลองไปทางที่ มีคน ……. 2.4 เมอ่ื สัมผสั บีกเกอร�หรือภาชนะที่รอ� น ควรใชย� าสฟี �นทาบริเวณท่ีสัมผสั ของร�อน ……. 2.5 หลงั ทาํ การทดลอง ควรทาํ ความสะอาดอุปกรณ� และโต�ะใหส� ะอาดกอ� นออกจาก สงวนสิทธโ์ิ ดย สสวท. หรอื จา้ หน่ายหอ� งปฏิบตั กิ ารเคมี ……. 2.6 ถ�าทําสารเคมีหกบนเครื่องชั่ง ควรทําความสะอาดทันทีโดยไม�จําเป�นต�องป�ด เครอ่ื งชง่ั ……. 2.7 การวาดกราฟแสดงความสัมพันธ�ของข�อมูล เป�นวิธีหนึ่งในการนําเสนอข�อมูล ดดั แปลง ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้าเพื่อวิเคราะหผ� ล ……. 2.8 ควรสวมเสื้อคลุมปฏิบัติการทุกครั้งที่ทําการทดลอง เพื่อป�องกันสารเคมีหกรด ถูกร�างกาย ……. 2.9 เอกสารความปลอดภัยเป�นเอกสารทีบ่ อกสมบตั ิ อันตราย และการปฐมพยาบาล สงวนสิทธโิ์ ดย สสวท. หรอื จ้าหนา่ ยของสารเคมแี ตล� ะชนิด ……. 2.10 การห�ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มในห�องปฏิบัติการเคมี เป�นการป�องกัน ดดั แปลงไม�ใหไ� ดร� ับอุบตั ิเหตจุ ากการกลืนกินสารเคมี สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

บทท่ี 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ตั ิการเคมี เคมี เลม� 1 42 3. จากรปู ใหน� กั เรยี นระบวุ า� บคุ คลใดบา� งทป่ี ฏบิ ตั ไิ มถ� กู หลกั ความปลอดภยั ในหอ� งปฏบิ ตั กิ าร พร�อมระบุวา� บุคคลน้ันปฏบิ ัตติ วั ไม�ถูกต�องในเร่อื งใด สงวนสิทธโ์ิ ดย สสวท. หห้ารมอื เจผา้ ยหแนพา่ รย่ ท้าซ้าA ดัดแปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซา้EC D B coffee F G สงวนสทิ ธิโ์ ดย สสวท. หรือจ้าหน่าย4. เตมิ เคร่ืองหมาย ดัดแปลงถูกต�อง หนา� ขอ� ความท่ถี ูกต�อง และเคร่อื งหมาย หนา� ข�อความที่ไม� ……. 4.1 ขา� งขวดนาํ้ ดม่ื ยห่ี อ� หนง่ึ ระบวุ า� ปรมิ าตรนาํ้ ภายในขวดเทา� กบั 0.6 ลติ ร หมายความ วา� น้าํ ดื่มในขวดนั้นมีนาํ้ ปริมาตร 600 มิลลิลติ ร ……. 4.2 ใชป� เ� ปตตแ� บบปรมิ าตรขนาด 10 ลกู บาศกเ� ซนตเิ มตร ปเ� ปตตส� ารละลาย A ถา� ยลง ในบกี เกอร� สารละลาย A ในบกี เกอรม� ปี รมิ าตรเทา� กบั 10.00 มลิ ลลิ ติ ร ……. 4.3 สารละลาย B ในขวดกาํ หนดปรมิ าตรขนาด 250 มลิ ลลิ ติ ร หมายความวา� เมอ่ื เท สารละลาย B ออกมาใสบ� กี เกอรส� ามารถวดั ปรมิ าตรไดเ� ทา� กบั 250 มลิ ลลิ ิตร สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เล�ม 1 บทที่ 1 | ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏิบัติการเคมี 43 ……. 4.4 ในการไขสารละลายออกจากบิวเรตต� จะอ�านเลขทศนิยมของปริมาตรของ สารละลายได� 2 ตําแหนง� เสมอ ……. 4.5 เมื่อตวงสารละลาย C โดยใชก� ระบอกตวงใหม� ีปรมิ าตร 100.00 มลิ ลลิ ิตร แลว� ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซา้เทใสใ� นบีกเกอรข� นาด 250 มิลลิลิตร จะสามารถอา� นปรมิ าตรของสารละลาย C ได�เท�ากบั 100.00 มิลลลิ ิตร 5. ถ�าใช�อุปกรณ� 3 ชนิด ตวงน้ําปริมาตร 15.00 มิลลิลิตร แล�วชั่งด�วยเครื่องชั่ง โดยแต�ละ อุปกรณ� ทาํ การทดลองซ้ํา 5 ครงั้ ไดข� อ� มลู การทดลองดังตอ� ไปนี้ สงวนสิทธ์ิโดย สสวท. หรือจา้ หนา่ ยครัง้ ท่ี 1อปุ กรณ� A มวลนํ้าทชี่ ั่งได� (g) อปุ กรณ� C ดัดแปลง ห้ามเผยแพร่ ท้าซา้215.12อุปกรณ� B 15.02 315.09 14.88 14.86 414.98 14.93 15.37 สงวนสิทธ์โิ ดย สสวท. หรอื จ้าหนา่ ย514.9514.92 15.20 15.02 15.12 15.41 14.81 หมายเหตุ ทาํ การตวงนาํ้ ทอ่ี ณุ หภมู ิ 30.0 องศาเซลเซยี ส นาํ้ มคี วามหนาแนน� 0.995646 กรมั ตอ� มลิ ลลิ ติ ร ให�นักเรียนเขียนกราฟความสัมพันธ�โดยแกน x เป�นครั้งที่ชั่ง และแกน y เป�นมวลน้ําที่ ดัดแปลงชั่งได� (g) และตอบคาํ ถามตอ� ไปนี้ 5.1 อปุ กรณใ� ดมีความเที่ยงมากทีส่ ดุ 5.2 อปุ กรณ�ใดมีความแม�นมากที่สุด 5.3 ถ�าต�องใช�อุปกรณ�ในการทําการทดลอง เพื่อให�ได�ความถูกต�องมากที่สุด ควรเลือก อปุ กรณ�ใด พรอ� มทั้งให�เหตุผล สถาบันส�งเสริมการสอนวิทยาศาสตร�และเทคโนโลยี

เคมี เลม่ 1 ภาคผนวก 207 ขน้ั ตอนการใชง้ านอปุ กรณว์ ดั ปรมิ าณสาร ขน้ั ตอนการใชป้ เิ ปตต์ 1. กอ่ นใชป้ ิเปตตต์ อ้ งกลั้วด้วยของเหลวที่จะใชบ้ รรจ ุ จากน้ันใช้มอื ขา้ งทีไ่ ม่ถนัดบบี อากาศออกจาก หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซา้ ลูกยาง แล้วน�ำ ลกู ยางไปสวมที่ปลายบนของปเิ ปตต ์ จากนนั้ จมุ่ ปลายปเิ ปตตล์ งในของเหลวท่จี ะ วดั ปริมาตรโดยใหป้ ลายปเิ ปตตอ์ ยตู่ �ำ่ กวา่ ระดบั ของของเหลว 2. ค่อย ๆ คลายมือที่บีบลูกยางเพื่อดูดของเหลวเข้ามาในปิเปตต์ โดยให้ปลายปิเปตต์จุ่มอยู่ใน ของเหลวตลอดเวลาที่ทำ�การดูด และให้ดูดของเหลวขึ้นมาในปิเปตต์จนเลยขีดบอกปริมาตร สงวนสทิ ธโ์ิ ดย สสวท. หรือจา้ หน่าย บนก้านปิเปตต์ประมาณ 1 เซนติเมตร ดึงลูกยางออกแล้วใช้นิ้วชี้ของมือข้างที่ถนัดปิดปลายบน ปเิ ปตตใ์ หแ้ นน่ โดยทนั ที ระวงั อยา่ ใหข้ องเหลวไหลเขา้ ลกู ยาง 3. จับก้านปิเปตต์ด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลาง แล้วยกปิเปตต์ขึ้นให้พ้นจากของเหลว ใช้กระดาษ ช�ำ ระซบั หยดของเหลวทเ่ี กาะอยภู่ ายนอกของปเิ ปตตใ์ หแ้ หง้ ดดั แปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซา้4. จบั ปเิ ปตตใ์ หต้ ง้ั ตรงในแนวดง่ิ แลว้ คอ่ ย ๆ ผอ่ นนว้ิ ชท้ี ป่ี ดิ ปเิ ปตต์ เพอ่ื ใหข้ องเหลวทเ่ี กนิ ขดี บอกปรมิ าตร ไหลออกไป จนกระทงั่ สว่ นโคง้ ของของเหลวอย่ตู รงตำ�แหน่งขดี บอกปรมิ าตรพอดี แลว้ จึงใช้นวิ้ ช้ี ปดิ ใหแ้ นน่ 5. ถา่ ยเทของเหลวลงในภาชนะทเ่ี ตรยี มไว้ โดยจบั ปเิ ปตตใ์ หต้ ง้ั ตรงในแนวดง่ิ แลว้ ปลอ่ ยนว้ิ ชใ้ี หข้ องเหลว ไหลลงตามแรงโน้มถ่วงจนหมด แล้วแตะปลายปิเปตต์กับข้างภาชนะ โดยไม่เขย่า หรือเคาะ สงวนสทิ ธโิ์ ดย สสวท. หรือจ้าหนา่ ย ปิเปตต์กับข้างภาชนะที่รองรับ ทั้งนี้ปิเปตต์ที่ใช้งานในระดับมัธยมศึกษาส่วนใหญ่เป็นแบบที่ ไมต่ ้องเป่าของเหลวทีเ่ หลือคา้ งอยทู่ ่ปี ลายปิเปตต์ ขน้ั ตอนการใชง้ านบวิ เรตต์ ดดั แปลง1. ก่อนใชบ้ วิ เรตต์ตอ้ งกล้วั ดว้ ยของเหลวที่จะใชบ้ รรจุ จากนัน้ ให้ใช้ขาตง้ั และทจ่ี บั ยดึ บิวเรตต์ให้อยู่ ในแนวตง้ั 2. กอ่ นจะบรรจขุ องเหลวใสบ่ วิ เรตตน์ น้ั ตอ้ งตรวจสอบกอ่ นวา่ กอ๊ กปดิ เปดิ อยใู่ นต�ำ แหนง่ ทป่ี ดิ จากนน้ั บรรจุของเหลวหากไม่ชำ�นาญอาจเทผ่านกรวยแก้ว การบรรจุของเหลวใส่บิวเรตต์นั้นจะไม่ทำ� เหนือระดับสายตา เนื่องจากของเหลวอาจกระเด็นเข้าตาได้ แล้วปรับก๊อกปิดเปิดให้ของเหลว ไหลออกจากบิวเรตต์เพ่ือไลฟ่ องอากาศออกจากปลายบวิ เรตต์ใหห้ มด 3. บนั ทกึ สเกลเรม่ิ ตน้ บนบวิ เรตต ์ แลว้ เปดิ กอ๊ กปดิ เปดิ เพอ่ื ถา่ ยของเหลวจากบวิ เรตตล์ งในภาชนะอน่ื ตามปริมาตรที่ต้องการ อ่านสเกลของของเหลวที่เหลือ ปริมาตรของของเหลวที่ถ่ายออกเท่ากับ ผลต่างของสเกลสุดท้ายและสเกลเริ่มต้น การอ่านสเกลบนบิวเรตต์อ่านได้ทศนิยม 2 ตำ�แหน่ง และทศนยิ มต�ำ แหนง่ ทส่ี องเปน็ ไดต้ ง้ั แต่ 0-9 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ภาคผนวก เคมี เลม่ 1 208 การใชง้ านขวดก�ำ หนดปรมิ าตร 1. บรรจสุ ารทท่ี ราบปรมิ าณแนน่ อนลงในขวดก�ำ หนดปรมิ าตร โดยอาจใชก้ รวยกรองหรอื ปเิ ปตตต์ าม ความเหมาะสม ห้ามเผยแพร่ ท้าซ้า2. เตมิ ตวั ท�ำ ละลายลงไปใหม้ ปี รมิ าตร 2 ใ น 3 ข องขวดก�ำ หนดปรมิ าตรแลว้ หมนุ วนขวดก�ำ หนดปรมิ าตร ใหส้ ารละลายผสมกนั 3. เตมิ ตวั ท�ำ ละลายจนถงึ ขดี บอกปรมิ าตร ปดิ จกุ และคว�ำ่ ขวดขน้ึ ลงใหส้ ารละลายผสมกนั ขน้ั ตอนการใชเ้ ครอ่ื งชง่ั แบบสามคานและขอ้ ควรระวงั สงวนสิทธ์โิ ดย สสวท. หรอื จา้ หน่าย1. ติดตงั้ เครื่องชัง่ บนโตะ๊ เครือ่ งชงั่ หรอื โตะ๊ ที่แข็งแรงและหน้าโต๊ะอย่ใู นแนวระนาบ หลกี เล่ยี งบรเิ วณ ทอ่ี าจถกู ฝน ความรอ้ นจากแสงแดด และแรงลม รวมทง้ั หลกี เลย่ี งบรเิ วณทอ่ี ณุ หภมู เิ ปลย่ี นแปลง และมแี รงสน่ั สะเทอื น 2. พิจารณาส่วนประกอบของเครื่องชั่งว่ามีจำ�นวนคานชั่งเท่าใด แต่ละคานชั่งใช้แทนมวลกี่กรัม ดัดแปลง หา้ มเผยแพร่ ท้าซา้ ชง่ั มวลไดส้ งู สดุ และละเอยี ดทส่ี ดุ กก่ี รมั 3. ดูสมดุลของคาน โดยสังเกตจากเข็มปลายคานทางขวามือว่าชี้ที่เลข 0 ตรงตำ�แหน่งสมดุลหรือไม่ ในขณะทต่ี มุ้ น�ำ้ หนกั ทกุ อนั ทอ่ี ยบู่ นคานชง่ั อยทู่ ข่ี ดี 0 กรมั ในกรณที ค่ี านยงั ไมส่ มดลุ จะตอ้ งหมนุ สกรู สำ�หรับปรับมวลที่อยู่ทางด้านซ้ายสุดของคานจนกระทั่งเข็มชี้อยู่ทีต่ �ำ แหนง่ ศนู ย์ 4. ควรชั่งสารในภาชนะ เช่น ขวดชั่งสาร บีกเกอร์ กระจกนาฬิกา และวางภาชนะไว้ตรงกึ่งกลาง สงวนสทิ ธิโ์ ดย สสวท. หรอื จา้ หนา่ ย ของจานชัง่ 5. การชง่ั มวลของวตั ถตุ อ้ งปรบั เครอ่ื งชง่ั ใหส้ มดลุ โดยการเลอ่ื นตมุ้ น�ำ้ หนกั บนคานชง่ั จนเขม็ ชท้ี เ่ี ลข 0 ตรงตำ�แหน่งสมดุล ผลรวมของมวล ณ ตำ�แหน่งที่ตุ้มน้ำ�หนักแขวนอยู่บนคานชั่งแต่ละอันจะ เปน็ มวลของวตั ถทุ ต่ี อ้ งการชง่ั ดดั แปลง6. เมอ่ื ชง่ั เสรจ็ และบนั ทกึ ขอ้ มลู เรยี บรอ้ ยแลว้ ตอ้ งเลอ่ื นตมุ้ น�ำ้ หนกั กลบั ไปทต่ี �ำ แหนง่ 0 กรมั ตามเดมิ น�ำ วตั ถทุ ช่ี ง่ั ออกจากจานใหห้ มด แลว้ จงึ ท�ำ ความสะอาดเครอ่ื งชง่ั สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เคมี เล่ม 1 ภาคผนวก 209 ขน้ั ตอนการใชเ้ ครอ่ื งชง่ั ไฟฟา้ และขอ้ ควรระวงั 1. ตดิ ตง้ั เคร่ืองชั่งบนโต๊ะเครอ่ื งชัง่ หรือโต๊ะท่แี ขง็ แรงและหน้าโตะ๊ อยู่ในแนวระนาบ หลีกเลีย่ งบรเิ วณ ที่อาจถกู ฝน ความรอ้ นจากแสงแดด และแรงลม รวมทงั้ หลกี เล่ียงบริเวณทีอ่ ณุ หภมู เิ ปลย่ี นแปลง และมแี รงสน่ั สะเทอื น ห้ามเผยแพร่ ทา้ ซ้า2. ปรบั ต�ำ แหนง่ ของลกู น�ำ้ ใหอ้ ยตู่ รงกลางเครอ่ื งหมายวงกลม หา้ มเคลอ่ื นยา้ ยเครอ่ื งชง่ั หลงั ปรบั ต�ำ แหนง่ ของลกู น�ำ้ 3. เปดิ เครอ่ื งชง่ั กอ่ นการใชง้ านอยา่ งนอ้ ย 30 นาที หรอื ตามขอ้ ก�ำ หนดในคมู่ อื 4. ไม่ชงั่ สารทม่ี มี วลมากกวา่ มวลสงู สดุ ท่รี ะบบุ นเคร่อื งช่งั หรือในค่มู ือ สารทตี่ ้องการชั่งควรมีอณุ หภูมิ ใกล้เคยี งหรอื เท่ากับอณุ หภูมหิ ้อง สงวนสิทธิ์โดย สสวท. หรือจา้ หน่าย5. ควรชั่งสารในภาชนะ เช่น ขวดชั่งสาร บีกเกอร์ กระจกนาฬิกา และวางภาชนะไว้ตรงกึ่งกลาง ของจานชง่ั 6. การชง่ั สารทม่ี สี มบตั กิ ดั กรอ่ นหรอื สารทร่ี ะเหยงา่ ย ควรใชภ้ าชนะทป่ี ดิ สนทิ 7. หากมสี ารเคมหี กบนเคร่อื งชั่ง ปิดเครอื่ งชงั่ และต้องท�ำ ความสะอาดทนั ท ี (ศึกษาวิธีการทำ�ความ ดดั แปลง หา้ มเผยแพร่ ทา้ ซา้ สะอาดจากคมู่ อื ) สงวนสิทธ์โิ ดยดสัดสแวปทล.ง หรือจ้าหนา่ ย8. หมน่ั ดแู ลรกั ษาความสะอาดของเครอ่ื งชง่ั และควรคลมุ เครอ่ื งชง่ั เพอ่ื ปอ้ งกนั ฝนุ่ ละออง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook