Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 4350 การทรงงาน

4350 การทรงงาน

Description: 4350 การทรงงาน

Search

Read the Text Version

จากการด�ำเนินงานการแก้ไขปัญหาน้�ำท่วม สภาพนำ้� ทว่ ม ปี ๒๕๕๓ หาดใหญ่ ตามกรอบระยะเวลาตามแผนงาน ๑๐ ปี (ปี ๒๕๔๔ - ๒๕๕๓) ไดถ้ กู ทดสอบประสทิ ธภิ าพหลงั แลว้ เสรจ็ ทนั ที เพราะต่อมาในปลายปี ๒๕๕๓ เกดิ พายุดเี ปรสชันถล่ม เขา้ พนื้ ทขี่ องจงั หวดั สงขลา ปรมิ าณนำ�้ ไหลบา่ สงู ถงึ ๑,๖๒๕ ลูกบาศ์กเมตร/วินาที ซึ่งสูงกว่าการรองรับปริมาณน�้ำของ ระบบการแก้ไขปญั หานำ้� ท่วม แต่หากประเมินผลสำ� เรจ็ จาก การรบั มอื ในปี ๒๕๕๓ ภายใตภ้ าพเหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ แมจ้ ะ มีมวลนำ�้ มากกว่า ระดบั น�ำ้ ทว่ มลกึ และกนิ พน้ื ท่ีกวา้ งกว่า แต่จากจ�ำนวนวันท่ีน้�ำท่วมขังและอัตราการลดลงของน้�ำ สามารถระบายน้ำ� ไดเ้ รว็ กว่าเดิม ชว่ ยลดความเสยี หายต่อ ทรัพย์สนิ และชีวิตของประชาชนได้ดียิง่ ขึ้น = = 930.00 ,623.50 . ./ เปรยี บเทียบปริมาณน�้ำฝน-น�ำ้ ท่าลุ่มน�้ำคลองอู่ตะเภา ปริมาณฝน น�้ำทา่ และความเสยี หายจากอทุ กภยั พ้ืนทเี่ ทศบาลนครหาดใหญ่ ่กอสร้างคลอง ร.๑ ๒๕๔๔ - ๒๕๕๐ ปี ๒๕๕๒ ปี ๒๕๕๓ ปี ๒๕๕๔ รายการ ปี ๒๕๓๑ ปี ๒๕๔๓ ชว่ งที่ ๑ ช่วงที่ ๒ (๓๐ ต.ค. - (๓๐ ธ.ค. ๕๔ - ๑ พ.ย.) ๒ ม.ค. ๕๕) (๖ - ๘ พ.ย.) (๒๐ - ๒๒ พ.ย.) ๔๗๘.๖ ๓๕๑.๘ ฝนสะสม ๒ วนั ๓๑๕.๑ ๔๖๒.๘ ๓๑๔.๘ ๒๕๘ ๔๘๓.๓ ๓๗๕.๐ ฝนสะสม ๓ วนั ๑,๖๒๓.๕๐ ๑,๑๔๕.๐๐ น�้ำท่า (ลบ.ม./วนิ าท)ี _ ๕๙๗.๕ ๓๗๒.๔ ๓๕๓ ๑๐,๔๙๐.๐๐ * ความเสีย (ลา้ นบาท) นำ้� ท่วม น้�ำไมท่ ว่ ม สภาพน�้ำทว่ ม ๘๓๙ ๙๗๐.๘๕ ๘๙๔.๑ ๙๗๖.๘ เมืองหาดใหญ่ เมอื งหาดใหญ่ ๔,๐๐๐๐ ๑๔,๐๐๐๐ ๑๘๐ ๖๐ น�ำ้ ทว่ มเมืองหาดใหญ่ น้�ำท่วมเมืองหาดใหญ่ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 97 เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน

โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชด�ำริ ในสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ “...ที่ฉันท�ำฟาร์มตัวอย่างน้ีเพ่ือสอนชาวบ้าน ให้สะสมอาหารเพ่ิมข้ึนจะได้ไม่มีปัญหาเร่ืองอาหารการ กินและท�ำฟาร์มตวั อย่าง อยา่ งที่ ๒ คือตอ้ งการใหท้ ุกๆ คนทขี่ า้ พเจา้ พบปะไดม้ อี าชพี มที างทำ� มาหากนิ คอื รบั เขา เข้ามา แล้วจ่ายเงินให้เขาเป็นลูกจ้างในฟาร์ม เวลา เดียวกันเขาก็เห็นวิธีเลี้ยงเป็ดเลี้ยงแกะเล้ียงอะไรทั้ง หลายอยา่ ง ได้เงนิ และได้ค่าจ้างทกุ วัน ข้าพเจ้ากบ็ อกว่า ตอ้ งการคนงานมากๆ เพ่อื ใหเ้ ขาเหลา่ นี้ได้มีงานทำ� ...” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชด�ำริให้จัดต้ังฟาร์มตัวอย่างตามพระราชด�ำริขึ้น เพือ่ เปน็ แหลง่ จ้างแรงงาน โดยใหร้ าษฎรท่ีไมม่ ที ีด่ ินทำ� การเกษตร รวมทง้ั ราษฎรในพ้ืนทแี่ ละบริเวณใกล้เคียง มรี ายได้สามารถเลีย้ ง ตนเองและครอบครัว และเปน็ แหลง่ ผลิตอาหาร เป็นธนาคารอาหารชมุ ชน (Food Bank) ในเขตพื้นทีภ่ าคใต้ มี ๒๕ แหง่ ดังนี้ - จังหวัดพัทลุง ม ี ๑ แห่ง - จังหวดั ปัตตานี มี ๑๑ แหง่ - จังหวัดสงขลา ม ี ๒ แหง่ - จังหวัดนราธวิ าส มี ๑๑ แห่ง 98 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพ่ือประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน

ฟาร์มตัวอยา่ งฯ บา้ นครองชพี ต�ำบลนาปะขอ อำ� เภอบางแก้ว จังหวดั พัทลงุ ท�ำให้เกษตรกรมีแหล่งเรียนรู้ และฝึก อาชีพ เมื่อราษฎรเข้ามาศึกษาการท�ำอาชีพใน โครงการแล้วก็จะน�ำความรู้ที่ได้รับไปประกอบ อาชีพในพื้นท่ตี นเอง และขยายผลไปสู่ราษฎรจำ� นวนหลายร้อยครัวเรือน ทำ� ให้ราษฎรมีความเปน็ อยู่ที่ดีขึ้น ฟารม์ ตวั อย่างฯ บา้ นสปี าย อ�ำเภอยะหร่งิ จังหวดั ปตั ตานี เป็นท่ีจัดแสดงการเกษตร เพ่ือให้ราษฎรและหน่วยงานต่างๆ สามารถเข้าเยี่ยมชม พร้อมท้ังสามารถขนส่งผลผลิตได้ รวมท้ังอนรุ ักษ์ปา่ ในพืน้ ทีโ่ ครงการ เพ่อื เป็นแหล่งศกึ ษาทางนิเวศวิทยาของนักเรยี น นักศกึ ษาในพนื้ ท่ี ฟารม์ ตัวอย่างฯ บ้านโคกปาฆาบอื ซา อ�ำเภอเมอื ง จงั หวัดนราธิวาส มกี ารดำ� เนนิ กจิ กรรมตา่ งๆ มกี จิ กรรม อาทิ สวนสตั วป์ า่ มกี ารเลยี้ งสตั วต์ า่ งๆ เชน่ ไกป่ า่ ไก่ต๊อก ไก่งวง ด้านการเกษตร มีแปลงปลูกพืช ผกั ไมผ้ ล และพชื ไรป่ ลอดภยั จากสารพษิ และพืน้ ที่บางส่วนปลูกยางพาราเปน็ พชื หลักแซมด้วยสบั ปะรด กลว้ ย และสรา้ งโรงเรอื น เพาะเห็ด และงานประมง เลี้ยงปลาในบ่อดินและกระชัง ซึ่งผลผลิตที่ได้เพียงพอแก่การบริโภค และบางส่วนส่งเข้าไปจ�ำหน่ายยัง ตลาดตวั เมอื ง อกี ด้วย ฟารม์ ตัวอยา่ งฯ บา้ นท่าขา้ ม - บา้ นกลาง อำ� เภอปะนาเระ จงั หวดั ปัตตานี ราษฎรมีรายได้จากการจัดจ้างแรงงาน และเป็น ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเกษตรท่ีถูกต้อง ท�ำให้ราษฎร ในบริเวณใกล้เคียงได้รับความรู้และสามารถสร้างรายได้เล้ียง ครอบครัวได้ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 99 เพือ่ ประโยชน์สุขแหง่ มหาชน

โครงการฟื้นฟแู ละอนุรักษ์ป่าท่งุ ทะเลอันเนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ จงั หวัดกระบ่ี เสด็จฯ ไปทรงติดตามผลการด�ำเนนิ งานโครงการฯ เมือ่ วนั ท่ี ๒๐ เมษายน ๒๕๔๓ ปา่ ทงุ่ ทะเล เปน็ สว่ นหนงึ่ ของปา่ สงวนแหง่ ชาตปิ า่ เกาะกลาง มเี นอ้ื ทท่ี งั้ หมด ๒๒,๑๘๑ ไร่ เดมิ เปน็ ทุ่งหญ้ากว้างสลบั กบั แนวปา่ ด้วยสภาพพ้นื ที่ทมี่ ีลักษณะเปน็ ท่รี าบตดิ ทะเลและมหี าดทราย ที่ทอดยาว สวยงาม จงึ มีราษฎร นายทนุ เข้ามาบุกรกุ ท�ำลายป่าจนมีสภาพเสอื่ มโทรม เพื่อเข้าทำ� ประโยชน์ ครอบครองที่ดิน แต่ยังมีราษฎรกลุ่มหน่ึงท่ีมีความผูกพันและรักธรรมชาติ จึงร่วมกัน ตอ่ ต้านการบกุ รุกครอบครองท่ีดินของนายทนุ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรง พระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทถึงปัญหาจึงทรงรับ พน้ื ทป่ี า่ ทงุ่ ทะเลไวเ้ ปน็ โครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ เมื่อวันที่ ๒๒ กนั ยายน ๒๕๓๗ เพอื่ การฟื้นฟูและอนุรักษ์ ป่าไม้ สัตว์ป่า และสัตว์น�้ำ ตลอดจนรักษาไว้ซ่ึงระบบ นิเวศวิทยาของปา่ ทุ่งทะเล ตอ่ มาเม่ือวนั ที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๔๓ ไดเ้ สดจ็ พระราชด�ำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกฎุ ราชกมุ าร ทรงตดิ ตามผลการดำ� เนนิ งานโครงการ ฟื้นฟแู ละอนุรกั ษ์ป่าทุง่ ทะเลฯ ณ บ้านปากคลอง หมูท่ ี่ ๓ 100 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพื่อประโยชน์สขุ แหง่ มหาชน

ต�ำบลเกาะกลาง อ�ำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ และทรงมีพระราชด�ำริให้ อนรุ กั ษแ์ ละฟน้ื ฟสู ภาพปา่ ชายเลนทม่ี อี ยใู่ หค้ งความอดุ มสมบรู ณ์ ใหม้ กี ารศกึ ษา วจิ ยั ศกึ ษาทดลอง และขยายพนั ธส์ุ ตั วน์ ำ�้ ทคี่ าดวา่ จะเปน็ สตั วน์ ำ�้ ทะเลเศรษฐกจิ ท่ีดีในอนาคต เช่น ปลาเก๋า เป็นต้น รวมท้ังให้จ้างประชาชนที่อาศัยท�ำกิน อยเู่ ดมิ ในพน้ื ที่ เปน็ คนงาน หรอื ลกู จา้ งในหนว่ ยงานทปี่ ฏบิ ตั ใิ นโครงการฯ ดว้ ย เมือ่ วนั ท่ี ๒ ตุลาคม ๒๕๕๐ ทรงมพี ระราชดำ� รัสให้จัดตงั้ โครงการ ศลิ ปาชพี ทงุ่ ทะเล เพอ่ื พฒั นาทกั ษะ และสง่ เสรมิ อาชพี ดา้ นการทอผา้ (กก่ี ระทบ) ให้กบั ราษฎร ผลส�ำเร็จจากการด�ำเนินงาน ท�ำให้พ้ืนท่ีป่าทุ่งทะเลท่ีเคยถูกบุกรุก จนเส่ือมโทรม เนื้อที่ประมาณ ๔,๒๐๐ ไร่ ได้รับการฟื้นฟูและป้องกันรักษา จนกลับมามีความอุดมสมบูรณ์ มีปริมาณสัตว์ป่าเพิ่มข้ึน เช่น หมูป่า ลิงแสม เสอื ปลา พงั พอน ฯลฯ สตั ว์เลื้อยคลาน เช่น เตา่ นา แย้ งกู ะปะ งูเขียว เป็นต้น นอกจากน้ียังพบนกนานาชนิด เช่น นกกระเด็น นกออก นกเปล้า นกกวัก นกปรอด เหยย่ี ว รวมทงั้ นกทะเลต่างๆ และนกอพยพ ดา้ นสตั วน์ ำ�้ จดั ตงั้ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาและอนรุ กั ษพ์ นั ธป์ุ ปู า่ ทงุ่ ทะเล โดยเพาะพันธุ์ปูทะเล ปลอ่ ยสู่ทะเลตามธรรมชาติ ดังน้ี ปงี บ ปมู า้ ปทู ะเล รวม ประมาณ ระยะตัวออ่ น ระยะเกาะ ระยะปเู ล็ก ระยะตัวออ่ น ระยะเกาะ ระยะปูเลก็ ๒๕๔๖- ๙๑๘,๖๒๖,๔๘๓ ๔,๑๔๘,๓๕๐ ๑,๙๕๕,๒๙๖ ๒๓๙,๘๖๔,๕๘๕ ๑,๙๕๐,๐๐๐ ๓๖๔,๕๐๒ ๑,๐๑๕,๐๖๕,๔๗๒ ๒๕๕๔ การส่งเสริมอาชีพในโครงการศิลปาชีพทุ่งทะเลให้แก่ราษฎร (การทอ ผ้ากี่กระทบ) สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า ๑๐,๐๐๐ - ๓๐,๐๐๐ บาท (ตามความ สามารถ) ตลอดทง้ั การสง่ เสรมิ อาชพี ตามภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ (การจกั สานเตยปาหนนั , การเลย้ี งผง้ึ โพรง, การเลย้ี งสตั วป์ า่ เปน็ ตน้ ) ทำ� ใหร้ าษฎรมอี าชพี เสรมิ เพม่ิ ขนึ้ สรา้ ง รายไดใ้ หแ้ กค่ รอบครวั เฉล่ียประมาณ ๘๕,๐๐๐ - ๑๐๕,๐๐๐ บาท/ปี อีกท้ังมีการปลูกสร้างจิตส�ำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ให้ แก่เยาวชนในบรเิ วณรอบๆ พื้นที่โครงการฯ อยา่ งต่อเน่อื ง ทำ� ใหป้ ระชาชนมีความ เขา้ ใจ มเี ครอื ขา่ ยอาสาสมคั รปกปอ้ งดแู ลรกั ษาปา่ และหวงแหนทรพั ยากรธรรมชาติ ในทอ้ งถน่ิ มากขน้ึ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 101 เพอ่ื ประโยชน์สขุ แหง่ มหาชน

โครงการระบบระบายน�้ำพรโุ ต๊ะแดงอนั เน่ืองมาจากพระราชดำ� ริ จังหวดั นราธิวาส “ให้บริหารจัดการน้�ำในพื้นท่ีป่าพรุโต๊ะแดงโดยเอื้อ ประโยชน์แกป่ ่าและไม่เกดิ ผลกระทบต่อชุมชน” สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำ� ริ เม่อื วันท่ี ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓ ณ โครงการพฒั นาพื้นทด่ี ินเปรีย้ วจดั บ้านโคกอิฐ-โคกใน อำ� เภอตากใบ จังหวดั นราธวิ าส “ป่าพรุโต๊ะแดง” มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ สภาพน�้ำจากพรโุ ต๊ะแดงไหลขา้ มคนั กั้นน้ำ� ชายขอบป่าพรโุ ต๊ะแดง “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เป็นพรุน้�ำจืด ขนาดใหญข่ องประเทศ สภาพปา่ ยงั คงความอดุ มสมบรู ณ์ มคี วามหลากหลายของสภาพพชื และสัตว์น�ำ้ ครอบคลมุ พ้ืนท่ีประมาณ ๑๒๕,๖๒๕ ไร่ ในเขตอ�ำเภอเมือง นราธิวาส อ�ำเภอตากใบ อ�ำเภอสุไหงปาดี และอ�ำเภอ สุไหงโก-ลก จงั หวัดนราธิวาส พนื้ ที่พรโุ ต๊ะแดง มีสภาพปญั หาหลกั ๆ คือ ๑) บุกรุกที่ดินเพ่ือท�ำกิน เน่ืองจากมีการ ขยายตัวของชุมชนและความต้องการใช้ประโยชน์ใน การขุดลอกคลองเพ่อื ระบายน�้ำออกจากพืน้ ทปี่ า่ พรโุ ตะ๊ แดง ทดี่ ินราษฎรทอ่ี ย่โู ดยรอบขอบพรโุ ต๊ะแดง ๒) ไฟไหม้ป่าพรุ ซึ่งเคยเกิดข้นึ อย่างรนุ แรงและเป็นวงกว้างในปี ๒๕๔๑ และปี ๒๕๔๔ โดยมีสาเหตุหลัก คอื ในช่วง ฤดูแล้งเมอ่ื น้ำ� ในพรุแหง้ ราษฎรจะจดุ ไฟเผาป่าพรเุ พือ่ เขา้ ไปใชป้ ระโยชน์ในปา่ พรุ 102 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพือ่ ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน

การดำ� เนนิ การแกไ้ ขปญั หาในพน้ื ที่ โดยใชม้ าตรการดา้ นการบรหิ ารจดั การนำ�้ และดา้ นสง่ิ กอ่ สรา้ งควบคกู่ นั ไป ประกอบดว้ ย มาตรการด้านการบรหิ ารจัดการน้�ำ โดยการกำ� หนดเกณฑ์รกั ษาระดับน้�ำเพื่อปอ้ งกันไฟไหมป้ ่าพรโุ ต๊ะแดงในช่วงฤดแู ลง้ และการจัดการน้�ำในชว่ งฤดฝู นเพอ่ื ป้องกันน�ำ้ จากพรโุ ตะ๊ แดงไหลขา้ มคันกัน้ น�ำ้ เข้าทว่ มพนื้ ท่ีการเกษตร และบา้ นเรอื นราษฎร มาตรการด้านส่ิงก่อสร้าง เพื่อป้องกันน้�ำจากพรุโต๊ะแดงไหลข้ามคันก้ันน้�ำเข้าพ้ืนที่ โดยเสริมคันก้ันน�้ำชายขอบ พรุโต๊ะแดง รวมท้ังพิจารณาขุดลอกคลองท่ีระบายน้�ำออกจากพื้นที่พรุ และปรับปรุงระบบระบายน้�ำบริเวณรอบขอบพรุโต๊ะแดง เพ่อื ให้สามารถระบายนำ�้ ไดร้ วดเรว็ ยิ่งขึ้น งานพัฒนา สมดลุ สง่ิ แวดลอ้ มเพ่ือชวี ติ ๑. บริหารจัดการน้ำาในป่าพรุโต๊ะแดง เพื่อป้องกันไฟไหม้ป่า ● กาำ หนดการเกบ็ กักนา้ำ ในป่าพรฝุ ่งั ตะวนั ตกท่ีระดบั +๑.๕๐๐ ม.รทก. และพรุ ลดจาำ นวนตน้ ไมย้ นื ตาย และลดผลกระทบเรอ่ื งน้ำาทว่ ม ฝงั่ ตะวนั ออกทร่ี ะดบั +๑.๒๐๐ ม.รทก. ตามความลาดเอยี ง ๒. จัดทำาขอบเขตการใช้พื้นที่พรุให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ● ช่วงฤดแู ล้ง หากมนี ำ้าน้อย ใหน้ าำ น้าำ จากคลองปาเสมัสเข้ามาเติมในป่าพรุ ปัจจุบัน ● ช่วงก่อนฤดฝู น ค่อยๆ พรอ่ งนา้ำ ออกจากพรเุ ดอื นละ ๒๐ เซนตเิ มตร เพอ่ื ให้ ๓. วางแผนการสรา้ งจติ สำานึกให้แกร่ าษฎร พรุเป็นแก้มลงิ รองรบั ปรมิ าณนำา้ ฝนที่จะตกหนักเดือนพฤศจกิ ายน ● ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทางภมู ศิ าสตรแ์ ละการตรวจสอบสภาพพนื้ ท่ี เพอ่ื ให้ บรหิ ารจัดการปา่ พรุไดต้ ามสภาพท่ีเกดิ ขน้ึ จริง ● ให้ราษฎรเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าและตระหนักถึงผลกระทบ ท่เี กิดจากไฟไหมแ้ ละการบุกรกุ นำา้ เพอ่ื ปา่ และคน ๑. ดำาเนนิ การเสริมคนั ก้ันนำา้ ● เสรมิ คนั กนั้ นา้ำ ชายขอบพรุบรเิ วณชว่ งบา้ นโคกอฐิ - โคกโน - โคกกแุ ว ตำาบล ๒. ดำาเนนิ การกอ่ สรา้ งอาคารบังคบั น้าำ พร่อน ถึงบ้านปลักปลา ตาำ บลโฆษติ อาำ เภอตากใบ ความยาว ๗,๕๐๐ เมตร ๓. ดำาเนนิ การก่อสร้างทาำ นบซองช่วั คราว และ Check Dam ๔. ดำาเนนิ การทาำ แนวเขตปา่ ● ขุดลอกคลองที่ระบายนาำ้ ออกจากพรุ เพือ่ ใหร้ ะบายนำ้าออกไดร้ วดเร็วขนึ้ ● ก่อสรา้ งอาคารบังคับนา้ำ ๓ แห่ง บริเวณคลองโต๊ะแดง คลองมว่ งยาง และ คลองชา้ งลอด เพ่อื ใหส้ ามารถบรหิ ารจัดการน้ำาระหว่างพรตุ อนบนและตอน ลา่ งซง่ึ มรี ะดับพืน้ ทตี่ ่างกันไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ ● ก่อสร้างทำานบซองชั่วคราวบริเวณท่อลอดถนน และก่อสร้างฝายชะลอ ความชุ่มชนื้ (Check Dam) เพื่อรักษาความชุ่มชน้ื ใหม้ ีอยู่ตลอดเวลา และ เปน็ แนวทางปอ้ งกนั ไฟไหม้ปา่ พรุ ● ทาำ แนวเขตปา่ ดว้ ยการขดุ คนู า้ำ เปน็ แนวขอบปา่ หรอื ปลกู ตน้ ไม้ เพอ่ื กนั เขตปา่ ไม่ให้ประชาชนบกุ รุก และเปน็ แนวป้องกนั ไฟปา่ ผลจากการบริหารจัดการน�้ำในพ้ืนที่ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 103 ป่าพรุโต๊ะแดง สามารถป้องกันและบรรเทาการ เกิดไฟไหม้ได้ และช่วยลดน�้ำท่วมในเขตบ้านโคก เพอื่ ประโยชน์สขุ แหง่ มหาชน กระท่อม บ้านโคกยาง บ้านโคกกูแว และบ้าน ทุ่งนาหว่าน ต�ำบลพร่อน อ�ำเภอตากใบ จังหวัด นราธวิ าส จ�ำนวน ๓๕๐ ครัวเรือน ๑,๔๐๐ คน และพน้ื ท่กี ารเกษตร จำ� นวน ๒,๕๐๐ ไร่

104 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน

สว่ นท่ี ๓ การขยายผลส่ปู ระชาชน เมนทู ีโ่ ดดเดน่ ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ทัง้ ๖ แห่ง “...ดา้ นหนงึ่ กเ็ ปน็ จดุ ประสงคข์ องศนู ยศ์ กึ ษาฯ เปน็ สถานทสี่ ำ� หรบั คน้ ควา้ วจิ ยั ในทอ้ งที่ เพราะวา่ แตล่ ะ ทอ้ งทส่ี ภาพฝนฟา้ อากาศและประชาชน ในทอ้ งทต่ี า่ งๆ กนั ก็มลี กั ษณะแตกต่างกันมากเหมอื นกัน...” “...การใหก้ ารศกึ ษานน้ั กลา่ วสน้ั ๆ โดยความ หมายรวบยอดคือการช่วยให้บุคคลค้นพบวิธีด�ำเนิน ชีวิตที่ถูกต้องเหมาะสมไปสู่ความเจริญและความสุข ตามอตั ภาพ... ” พระราชดำ� รัส วันท่ี ๑๙ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๒๒ “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระ ราชด�ำริ” ได้จัดตั้งข้ึนจ�ำนวน ๖ แห่งในท่ัวทุกภูมิภาคของ ประเทศ โดยมรี ปู แบบการขยายผลแนวคดิ การดำ� เนนิ งานตลอด ระยะเวลากว่า ๓๐ ปี คือ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 105 เพ่อื ประโยชนส์ ขุ แห่งมหาชน

ศูนย์ศกึ ษาการพฒั นาอนั เนอื่ งมาจากพระราชด�ำรทิ ี่อยู่ในทกุ ภาค ของประเทศไทย ศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาหว้ ยฮอ่ งไคร้ฯ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านฯ ศนู ย์ศกึ ษาการพฒั นาเขาหนิ ซ้อนฯ ศูนยศ์ กึ ษาการพัฒนาอ่าวค้งุ กระเบนฯ ศนู ยศ์ ึกษาการพฒั นาห้วยทรายฯ ศนู ย์ศกึ ษาการพฒั นาพิกุลทองฯ 106 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน

แนวคดิ ศนู ย์ศึกษาการพัฒนาอันเนอ่ื งมาจากพระราชด�ำริ ทอ่ี ย่ใู นทกุ ภมู ิภาคของประเทศไทย ๑. เป็นองค์ความรู้ ศึกษาและพัฒนา ที่ผ่านการศึกษา ทดลอง ทดสอบแล้ววา่ สามารถใชป้ ฏบิ ัตกิ บั พ้นื ทข่ี องภูมิภาคนัน้ ๆ ได้อยา่ งไดผ้ ล ๒. เปน็ พพิ ิธภัณฑธ์ รรมชาตทิ ี่มีชีวติ ค�ำนงึ ถึงภูมปิ ระเทศ ภูมิสงั คม เปน็ สถานทท่ี ีร่ วบรวมสิ่งมคี ่าต่างๆ สำ� หรับการประกอบอาชพี รวมทั้งความรู้ ประสบการณ์ทม่ี ีความเปลย่ี นแปลงเคลอื่ นไหว และมีประโยชนแ์ ก่ราษฎร ๓. ทรงคัดเลือกพื้นท่ีจัดต้ังศูนย์ฯ ด้วยพระองค์เองเพื่อเป็นตัวแทน ของภมู ภิ าค เป็นตัวอย่างทเ่ี กษตรกรสามารถน�ำไปปฏบิ ัตไิ ด้ ๔. เป็นตัวอย่างของการบริหารงานในแบบบูรณาการ (Integrated Development) โดยรวมเอากจิ กรรมและการดำ� เนนิ งานของแตล่ ะหนว่ ยงานเขา้ ไว้ดว้ ยกนั ๕. เป็น “ระบบบริการเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว” (One Stop Services) เกษตรกรสามารถเข้าไปศึกษาและขอรับบริการได้ ท�ำให้ประหยัดท้ังเวลาและ คา่ ใชจ้ า่ ย ๔,๓๕๐ การทรงงาน 107 เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน

๖. เป็นรูปแบบการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ต้ังแต่เร่ิมกระบวนการคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหา เน้นการ พัฒนาใหป้ ระชาชนมีความเปน็ อยแู่ บบพออยู่พอกิน มรี ายไดท้ ีแ่ น่นอน จนในท่ีสุดสามารถพึง่ ตนเองได้ การด�ำเนินงานศึกษา ทดลอง วิจัยของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ทั้ง ๖ แห่ง ที่ผ่านมา ได้มุ่งเน้นการศึกษา ทดลอง วิจัยและพัฒนาให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ตามแนวพระราชด�ำริ เร่ิมต้ังแต่การศึกษาวิจัยข้ันพ้ืนฐาน ไปจนถงึ การศกึ ษาตอ่ ยอดขยายผลการพฒั นาไปสปู่ ระชาชน ปจั จบุ นั มผี ลการศกึ ษา วจิ ยั รวม ๑,๒๐๔ โครงการ เปน็ โครงการศกึ ษา วจิ ัยท่สี ้ินสุดแล้ว จ�ำนวน ๑,๐๖๒ โครงการ, โครงการศึกษา วิจัยทีอ่ ยรู่ ะหว่างด�ำเนนิ งาน ๑๔๒ โครงการ และโครงการศกึ ษาวจิ ัย ท่ีมผี ลสำ� เร็จ สามารถน�ำไปพัฒนาไปสกู่ ารจัดทำ� เป็นบัญชหี ลักเพอื่ การเผยแพร่ อบรมและขยายผลใหก้ ับประชาชนได้แลว้ จ�ำนวน ๙๓ โครงการ ทัง้ นี้ สามารถจำ� แนกรายชื่อหลกั สูตร/องค์ความรใู้ นบญั ชีหลกั ของแต่ละศูนย์ศกึ ษาฯ ไดด้ ังนี้ ศูนยศ์ กึ ษาฯ จำ� นวนโครงการ จ�ำนวนโครงการ จ�ำนวนโครงการศกึ ษา โครงการศึกษา วิจยั ศึกษา วิจัย ศึกษา วิจยั ทสี่ น้ิ สดุ วจิ ัยที่อยู่ระหวา่ ง ท่มี ผี ลส�ำเรจ็ สามารถ (โครงการ) ด�ำเนนิ งาน น�ำไปเผยแพร่และ (โครงการ) (โครงการ) ขยายผลได้ (โครงการ) ๑. เขาหินซอ้ น ๑๒๗ ๑๓ ๒. พิกุลทอง ๒๙๑ ๑๑๔ ๖๔ ๑๓ ๒๒๗ ๑๗ ๓. อา่ วคงุ้ กระเบน ๑๕๑ ๑๔๓ ๘ ๔. ภพู าน ๓๑๖ ๓๐๘ ๑๖ ๑๙๓ ๘ ๕. หว้ ยฮอ่ งไคร้ ๒๓๓ ๗๗ ๑๙ ๖. หว้ ยทราย ๘๖ ๑,๐๖๒ ๔๐ ๑,๒๐๔ ๙ ๒๐ รวม ๑๔๒ ๘ ๙๓ 108 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพื่อประโยชน์สุขแหง่ มหาชน

ศนู ยศ์ กึ ษาการพัฒนาเขาหนิ ซ้อนอนั เน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ตำ� บลเขาหนิ ซ้อน อ�ำเภอพนมสารคาม จงั หวดั ฉะเชิงเทรา “ปา่ หาย น้ำ� แหง้ ดนิ เลว ก็พฒั นาได้” เดิมเร่ิมแรก มีผู้ใหญ่บ้านถวายที่ดินให้เพ่ือสร้าง พระต�ำหนัก แต่พระองค์ได้พระราชทานพระราชด�ำริให้ สร้างเป็นสถานีที่ศึกษาเก่ียวกับการเกษตร ดังพระราชด�ำรัส เมื่อวันท่ี ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ ความว่า “...ประวัตมิ ีวา่ ตอนแรกมที ดี่ นิ ๒๖๔ ไร่ ท่ผี ้ใู หญ่ บา้ นใหเ้ พอ่ื สรา้ งตำ� หนกั ในปี ๒๕๒๒ ทเ่ี ชงิ เขาหนิ ซอ้ นใกล้ วัดเขาหินซ้อน ตอนแรก ก็ต้องค้นคว้าว่าที่ตรงนั้นคือตรง ไหน กพ็ ยายามสบื ถามกไ็ ดพ้ บบนแผนทพี่ อดี อยมู่ มุ บนของ ระวางของแผนท่ี จงึ ตอ้ งต่อแผนท่ี ๔ ระวาง ส�ำหรับให้ได้ ทราบวา่ สถานท่ีตรงน้นั อย่ตู รงไหน กเ็ ลยถามผู้ท่ีใหท้ น่ี นั้ นะ ถ้าหากไม่สรา้ งตำ� หนัก แต่ว่าสรา้ งเป็นสถานท่ีทจี่ ะศกึ ษาเก่ยี วกับการเกษตรจะเอาไหม เขากบ็ อกยนิ ดี ก็เคยเริ่มท�ำ ในที่น้ัน...” การขยายผลองค์ความรู้ ดำ� เนินงานทดลองวิจยั ของศูนย์ฯ รวม ๑๑๓ เรอื่ ง ได้ด�ำเนินการแลว้ เสรจ็ จ�ำนวน ๙๙ เรื่อง มีบัญชีหลักงาน วิชาการที่มาขยายผลสู่เกษตรกร จ�ำนวน ๑๓ เรอ่ื ง ไดแ้ ก่ สภาพพน้ื ท่ีศนู ยศ์ ึกษาการพฒั นาเขาหนิ ซอ้ นฯ ในอดตี สภาพพน้ื ทศี่ ูนย์ศึกษาการพฒั นาเขาหนิ ซ้อนฯ ปี ๒๕๓๘ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 109 เพื่อประโยชน์สขุ แหง่ มหาชน

๑. การปลูกยางพารา ๒. การเพาะเหด็ เศรษฐกจิ ครบวงจร ๓. การปลูกข้าวขาวดอกมะลิ ๑๐๕ ๔. หญ้าแฝกเพ่อื การอนรุ ักษด์ ินและนำ้� ในระบบเกษตรย่งั ยืนในสภาพไร่นา ๕. การเพ่ิมผลผลติ มันสำ� ปะหลงั ๖. การผลิตและใชป้ ระโยชน์จากปุ๋ยหมกั ๗. เกษตรทฤษฎีใหม่ ๘. การใชห้ มากดิบในการถ่ายพยาธไิ ก่พนื้ เมือง ๙. การแปรรปู ผลติ ภัณฑ์สมุนไพร ๑๐. การเลี้ยงกบในบอ่ ซเี มนต์ และกระชงั ๑๑. การจกั สานจากเสน้ ใยพืช ๑๒. การเลี้ยงเปด็ ไข่ปากน�้ำ ๑๓. การปลูกมะนาวนอกฤดใู นบ่อซีเมนต์ ผลส�ำเร็จจากงานศึกษาทดลองได้น�ำไปเผยแพร่ขยายผลสู่ประชาชนในพื้นที่ เพ่ือท�ำการฟื้นฟูสภาพของดิน โดยเน้น การปรับปรุงและฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติของดินและน้�ำให้มีความสมบูรณ์ เพื่อให้เกษตรกรสามารถน�ำไปใช้ประกอบอาชีพได้ อย่างย่ังยืน จดุ เดน่ ผลสำ� เร็จ งานผลิตข้าวครบวงจร มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวขาวดอกมะลิ ๑๐๕ เพ่ือใช้เป็นเมล็ดพันธุ์และแปรสภาพเป็นข้าวบรรจุถุงจ�ำหน่าย โดยจัดท�ำแปลง เรียนร้ผู ลติ ข้าวพันธ์ุหลกั การเพ่ิมผลผลิตมันส�ำปะหลัง มีการจัดการดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์เพื่อการปลูกมัน ส�ำปะหลังและเพิ่มผลผลติ ของมันสำ� ปะหลัง หญ้าแฝกเพ่ือการอนุรักษ์ดินและน�้ำศึกษาเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ หญ้าแฝกกับคันดินท่ีมีผลต่ออัตราการชะล้างพังทลายของดิน โดยผลิตหญ้าแฝกได้ปีละ ๙๐๐,๐๐๐ กลา้ 110 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพือ่ ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน

การพัฒนาพันธุ์ข้าวประจ�ำศูนย์ฯ เขาหินซ้อน โดยการรวบรวมพนั ธข์ุ า้ วทอ้ งถน่ิ และปลูกประเมินลกั ษณะ พันธ์ุขา้ ว จ�ำนวน ๘ พันธ์ุ พบว่าพันธขุ์ า้ วหลวงใหผ้ ลผลิต มากทส่ี ดุ ๕๕๓ กิโลกรมั /ไร่ การปรบั ปรงุ วสั ดุส�ำหรับเพาะ เห็ดเศรษฐกจิ การเพาะเห็ดสกลุ นางรม โดยมีการปรับปรงุ สูตรอาหาร ๓ สูตรในการเพาะเห็ดให้เกษตรกรได้เลือก ซง่ึ ทั้ง ๓ สูตรใหผ้ ลผลิตใกลเ้ คียงกัน การขยายผลสู่ราษฎร - ส่งเสรมิ การปลกู ไม้ผลพนั ธุ์ดไี มใ่ ช้สารเคมี - สง่ เสรมิ และพฒั นาพนั ธบ์ุ อนสี จำ� นวน ๕๐ พนั ธ์ุ สำ� หรบั คดั เลอื กพนั ธใ์ุ หมๆ่ เพ่ือขยายผลสูเ่ กษตรกร - ส่งเสริมการปลกู สบู่ดำ� - สง่ เสรมิ อาชีพเพาะเลย้ี งเหด็ เศรษฐกจิ ครบวงจร - ส่งเสรมิ เกษตรกรเพ่อื ผลติ เมล็ดพนั ธ์พุ ืชสมนุ ไพรบรรจุซอง ปัจจุบนั ได้จดั ตัง้ ศนู ย์เรียนรทู้ ้งั หมด ๒๘ แหง่ ของความส�ำเรจ็ และท�ำหน้าท่ี เป็นเครือขา่ ยกระจายในระดับพนื้ ท่ี โดยในปี ๒๕๕๕ มีผ้สู นใจเขา้ มาเย่ียมชมศกึ ษาดงู าน ทัง้ สิน้ ๑๑๓,๓๕๙ คน ๔,๓๕๐ การทรงงาน 111 เพ่ือประโยชน์สขุ แห่งมหาชน

ศูนย์ศึกษาการพฒั นาอา่ วคุง้ กระเบนอันเนือ่ งมาจากพระราชดำ� ริ ตำ� บลคลองขุด อำ� เภอทา่ ใหม่ จงั หวดั จันทบรุ ี “การพัฒนาจากยอดเขาสทู่ อ้ งทะเล” ด�ำเนินการศกึ ษา ทดลอง วิจยั และมกี ารศกึ ษาทดลอง ๑๕๑ เรื่อง อย่รู ะหวา่ งด�ำเนนิ การ ๘ เรอื่ ง แล้วเสร็จ ๑๔๓ เรอ่ื ง โดยมีบญั ชีหลกั งานวชิ าการทน่ี ำ� มาขยายผล จำ� นวน ๑๖ เร่อื ง ได้แก่ ๑. การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติท้องทะเล ๒. การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติปา่ ชายเลน ๓. การอนรุ กั ษท์ รัพยากรปา่ ไม้และสตั ว์ป่า ๔. การเลยี้ งกงุ้ ทะเลในระบบปิด ๕. การเพาะและอนุบาลปลาการ์ตนู ๖. การผลติ ปุย๋ หมกั จากดนิ เลนนากุง้ ๗. การปรับปรงุ บ�ำรุงดนิ การป้องกันโรคพืช ๘. การเพาะเหด็ เศรษฐกจิ และแมลงโดยชีววธิ ี ๙. การผลติ ผกั ปลอดภัยสารพษิ ในพน้ื ทด่ี นิ ทราย ๑๐. การผลติ ไม้ดอกในพื้นทดี่ ินทราย ๑๑. การผลิตไม้ผลเศรษฐกิจปลอดภัยสารพษิ ๑๒. การเพาะเลย้ี งหนอนแมลงวันเพื่อทดแทนโปรตนี จากอาหารสตั ว์ ๑๓. การแปรรปู สตั ว์น้ำ� เพอื่ เพ่มิ รายได้ ๑๔. การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร ๑๕. การแปรรปู สมนุ ไพร ๑๖. การเลย้ี งและแปรรูปผลิตภณั ฑจ์ ากผงึ้ และชนั โรง 112 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพือ่ ประโยชน์สขุ แห่งมหาชน

ผ ลสำ� เรจ็ จากงานศกึ ษาทดลองไดน้ ำ� ไปสกู่ ารขยายผล เพอื่ พฒั นาอาชพี ดา้ นการประมงและการเกษตรในพนื้ ทด่ี นิ ชายฝง่ั ทะเล ของจังหวดั จันทบุรี เป็นศูนยส์ าธิต ศกึ ษาทดลอง วิจยั พัฒนาและอนรุ ักษ์สภาพแวดลอ้ ม การบ�ำบดั นำ้� เสยี จากการเลีย้ งกุ้ง กลุ าด�ำ การอนรุ กั ษ์ ฟ้ืนฟูปา่ ชายเลนตามแนวทางการพัฒนาจากยอดเขาสูท่ ้องทะเลเพ่ือรกั ษาสมดลุ ของระบบนเิ วศ จดุ เดน่ ผลส�ำเรจ็ ด้านอนุรกั ษ์และฟนื้ ฟทู รพั ยากรชายฝง่ั ทรัพยากรธรรมชาติ - รว่ มมือในการอนุรกั ษฟ์ ืน้ ฟูใหม้ ีสภาพทส่ี มบรู ณ์ ปจั จบุ นั มปี า่ บก ๑๑,๓๗๐ ไร่ มพี ันธุพ์ ชื ๔๔ ชนดิ สตั วป์ า่ ๘๐ ชนดิ แมลง ๑๑๖ ชนดิ และจากเดิมทม่ี ปี ่าชายเลนเพียง ๖๑๐ ไร่ สามารถเพิ่มพ้ืนท่ปี า่ ชายเลนเป็น ๑,๓๐๐ ไร่ มคี วามหลากหลายของ พนั ธ์ุไมถ้ งึ ๔๙ ชนดิ และจากการสำ� รวจความหลากหลายของนกในปี ๒๕๓๘ ทีม่ เี พยี ง ๓๔ ชนิด ปจั จุบนั พบว่ามีเพมิ่ มากขนึ้ เป็น ๑๒๘ ชนดิ - อนุรักษ์หญ้าทะเลมีพ้ืนท่ีรวม ๖๑๗ ไร่ สัตว์น้�ำวัยอ่อนจึงมีแหล่งอาหาร และท่ีหลบภัย มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น�้ำชายฝั่ง มากกว่าปีละ ๒๐ ล้านตวั การสรา้ งทอ่ี ยู่อาศยั ของสตั วท์ ะเล (ปะการงั เทียม) เพ่ือสร้างสมดุล ของระบบนเิ วศชายฝง่ั ตลอดจนสง่ เสรมิ ใหก้ าร อนุรักษป์ ะการงั ธรรมชาติและหอยมอื เสอื - เพิ่มประชากรปูม้า โดยจัดท�ำธนาคารปูม้าและส่งเสริมให้ชาวประมงรวบรวมปูไข่แก่ ปีละ ๑,๕๐๐ ตัว มาฝากไว้ท่ี ธนาคารเพอื่ ให้ลูกปมู ้าหลายล้านตัวมชี วี ิตอยใู่ นธรรมชาติ - เพาะพันธปุ์ ลาการ์ตูนเพือ่ จ�ำหนา่ ย และปล่อยคนื สูท่ ะเล สามารถเพาะพันธุ์ได้ ๖ ชนิด คอื พันธ์ุสายปล้อง พันธง์ุ านมา้ พันธม์ุ ะเขอื เทศ พนั ธ์แุ กม้ หนาม พันธเุ์ บอร์คลู า่ และพนั ธ์ดุ ำ� ด้านการจัดการระบบชลประทานนำ�้ เคม็ - ด้านเพาะเลี้ยงสัตว์น้�ำชายฝั่ง อ่าวคุ้งกระเบน มีสภาพเป็นอ่าวปิด ราษฎรนิยมการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาด�ำ อย่างหนาแน่น ท�ำให้มีปริมาณน้�ำทิ้งถูกระบายออกสู่อ่าวคุ้ง กระเบนในปริมาณท่ีสูง ท�ำให้เกิดการระบาดของโรคในสัตว์ น้�ำที่เพาะเลี้ยง สร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกร ระบบ ชลประทานน้�ำเค็มซึ่งเร่ิมด�ำเนินการเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็น ระบบทชี่ ว่ ยรกั ษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มชายฝง่ั ซง่ึ จากการตรวจ คณุ ภาพนำ้� ในอ่าวคุ้งกระเบน เปรยี บเทยี บกบั คณุ ภาพน้�ำทะเล ๔,๓๕๐ การทรงงาน 113 เพอื่ ประโยชน์สุขแหง่ มหาชน

ชายฝง่ั เดอื นละครงั้ พบว่าคณุ ภาพน้ำ� ทะเลในอา่ วคุ้งกระเบนมคี ณุ ภาพดีและ อยใู่ นเกณฑ์มาตรฐาน - ด้านการส่งเสริม พัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น�้ำชายฝั่งจัดสรร พน้ื ทีป่ า่ ชายเลนเส่ือมโทรมรอบอา่ วคุ้งกระเบน จำ� นวน ๙๒๘ ไร่ พฒั นาเป็น พื้นที่เพาะเล้ียง สัตว์น้�ำชายฝั่ง เพ่ือให้มีอาชีพและฐานะความเป็นอยู่ที่ดีข้ึน สง่ เสรมิ การเลย้ี งกงุ้ ทะเล ไดม้ กี ารดำ� เนนิ การศกึ ษาทดลอง วจิ ยั การเพาะเลยี้ ง ในรูปแบบที่สามารถใช้ทรัพยากรในท้องถ่ินด้วยความเรียบง่ายและประหยัด เป็นที่ต้องการของเกษตรกรในพ้ืนท่ี โดยจัดตั้งกลุ่มชาวประประมงพ้ืนบ้าน โดยปี ๒๕๕๕ ไดผ้ ลติ และปลอ่ ยพนั ธส์ุ ตั วน์ ำ้� ชายฝง่ั เชน่ กงุ้ แชบว๊ ย หอยหวาน ปลากะพงขาว จำ� นวนกวา่ ๕.๕ ล้านตวั การขยายผลสรู่ าษฎร - ขยายผลการฟื้นฟูอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้�ำด้วยระบบชลประทาน น้ําเค็มท้ังกุ้งกุลาด�ำและกุ้งขาวแวนาไม ส่งเสริมและฟื้นฟูอาชีพการเล้ียงสัตว์น้�ำ ใหแ้ ก่เกษตรกรในพ้ืนท่ขี ยายผลโครงการ - ส่งเสริมการจัดกองทุนหมุนเวียนเพื่อการแปรรูปผลิตภัณฑ์ประมงใน การจัดท�ำตะแกรงตากอาหารทะเล และจัดซื้อวัตถุดิบ เช่น ปลาหลังเขียว ปูม้าปู ทะเล แมงกะพรนุ เคร่ืองเทศ และเครอ่ื งปรงุ รส รวมถงึ วสั ดบุ รรจภุ ณั ฑ์ เปน็ ตน้ ไดจ้ ดั ตงั้ ศนู ยเ์ รยี นรดู้ า้ นการเกษตรและดา้ นการแปรรปู จำ� นวน ๒๙ กลมุ่ มีการฝึกอบรมเกษตรกรกว่า ๒,๐๐๐ คนต่อปี และเยาวชนกว่า ๕๐๐ คนต่อปี โดยปี ๒๕๕๕ มีผ้สู นใจมาศกึ ษาเยีย่ มชมจ�ำนวน ๗๑๓,๗๓๐ คน 114 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชน์สขุ แหง่ มหาชน

ศูนยศ์ กึ ษาการพัฒนาห้วยทรายอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ อำ� เภอชะอำ� จังหวดั เพชรบุรี “ฟ้นื ดิน คนื ป่า พัฒนาคุณภาพชวี ิต” การขยายผลองค์ความรู้ ดำ� เนินการศึกษา ทดลอง วจิ ัย จำ� นวนทง้ั สิ้น ๘๖ เร่ือง อยรู่ ะหวา่ งดำ� เนนิ การ ๙ เรื่อง แลว้ เสร็จ ๗๗ เรือ่ ง โดยไดน้ �ำไป ขยายผลสู่ประชาชนโดยจัดท�ำเป็นเอกสารองค์ความรู้เพื่อการเผยแพร่ จ�ำนวน ๓๒ เร่ือง และจัดท�ำเป็นบัญชีหลักงานวิชาการที่ นำ� มาขยายผลจ�ำนวน ๘ เรือ่ ง ไดแ้ ก่ ๑. การปลูกพืชปลอดภยั จากสารพิษ ๕. การเลี้ยงแพะเนอ้ื และแพะนม ๒. เกษตรผสมผสานและทฤษฎใี หม่ ๖. การเล้ยี งไก่เขียวหว้ ยทราย ๓. การปรบั ปรงุ บ�ำรงุ ดนิ /หญ้าแฝกเพ่อื การอนรุ ักษ์ดินและน้�ำ ๗. การเล้ยี งกบนา ๔. การเลีย้ งโคนมและโคขนุ ๘. การเพาะเหด็ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 115 เพือ่ ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน

ผลส�ำเร็จจากการศึกษาทดลองและสาธิต เพ่ือการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม ด้วยการปลูกป่าและจัดหา แหลง่ นา้ํ โดยจดั ใหร้ าษฎรทที่ ำ� กนิ อยเู่ ดมิ ไดม้ สี ว่ นรว่ มในการดแู ลรกั ษาปา่ ไมใ้ หไ้ ดป้ ระโยชนจ์ ากปา่ ไม้ และไมท่ ำ� ลาย ปา่ อีกต่อไป รวมทั้งพัฒนาการใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝกในการปรบั ปรงุ ดนิ ทีแ่ ขง็ เปน็ ดานเพอ่ื การปลูกพืช จดุ เดน่ ผลส�ำเรจ็ l การปรับปรุงดินที่แข็งเป็นดานเพื่อการปลูกไม้ยืนต้นโดยใช้ หญ้าแฝกตามแนวพระราชด�ำริ พบว่าการปลูกหญ้าแฝกเป็นปัจจัยส�ำคัญ ในการปรับปรุงดินแข็ง เป็นดานให้เป็นดินที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต ได้ในลักษณะค่อยเปน็ -คอ่ ยไป โดยเฉพาะการชอนไชของรากจะทำ� ให้เกดิ รู พรุน ช่วยลดความหนาแน่นรวมของดนิ ท่สี ูงให้ต่าํ ลงจนพชื ตา่ งๆ สามารถ ขึ้นอย่ไู ด้ l การสร้างระบบกระจายความชุ่มช้ืนตามแนวพระราชด�ำริ ฝายชะลอความเรว็ ของนาํ้ ใหไ้ หลลงไปสเู่ บอ้ื งลา่ ง สงั เกตไดจ้ ากการกดั เซาะ ตามร่องนาํ้ ต่างๆ ลดลง นอกจากนย้ี ังมตี ะกอนดินและเศษก่ิงไมท้ ส่ี ะสม เพิ่มขนึ้ ในแตล่ ะปีแทรกเขา้ ไปอยใู่ นผนงั ของ ฝาย นา้ํ จะซมึ ลงไปในดนิ ชา้ ๆ ทงั้ นเ้ี นอ่ื งจากพนื้ ดนิ บรเิ วณฝายมคี วามชมุ่ ชน้ื สะสมมากขน้ึ ในแตล่ ะปี ซง่ึ สงั เกตไดจ้ าก การทมี่ ีพืชจำ� พวกหญา้ ขน้ึ อย่รู อบๆ เป็นการชะลอการไหลของน�้ำ l การสรา้ งคนั ดินกัน้ นํ้า (Terracing) เปน็ การเลือกพนื้ ท่ีรับนํา้ และทำ� การขยายให้กวา้ งและลึก เพ่ือเพ่ิม ปริมาณในการกกั เก็บ โดยดนิ ทข่ี ุดขึ้นจะตอ้ งไม่ไปขวางทางนํ้าท่ีจะไหลเข้ามาตามธรรมชาติ l การสรา้ งคนั ดนิ เบนนา้ํ (Division) เปน็ การเชอื่ มตอ่ คนั ดนิ กนั้ นา้ํ ทสี่ ามารถเชอ่ื มตอ่ กนั ไดเ้ ปน็ แนวขวาง ทางน้ําในพ้ืนที่ บริเวณใดเป็นพ้ืนท่ีตํ่าให้ใช้ดินถมเสริมข้ึนเป็นคันดิน บริเวณใดเป็นพ้ืนที่สูงให้ใช้วิธีขุดร่อง ท�ำการ จัดระดับให้นํ้าไหลถ่ายเทเข้าหากัน เม่ือมีการจัดสร้างโดยการวางระดับในระยะท่ีเหมาะสม ท�ำให้เกิดความชุ่มช้ืน กระจายครอบคลุมพ้นื ทีม่ ากขน้ึ มผี ลเกือ้ กูลกบั การปลูกป่าเพอ่ื ฟ้นื ฟสู ภาพปา่ 116 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน

l การบริหารจัดการนํ้าและการพัฒนาแหล่งน้ําด้วยระบบ เครือ ข่ายอ่างเก็บน้ําตามแนวพระราชด�ำริ ระบบเครือข่ายอ่างเก็บน้ําเป็นการผัน นา้ํ จากอา่ งเกบ็ นาํ้ ทม่ี ปี รมิ าณมากมาชว่ ยเหลอื อา่ งเกบ็ นาํ้ ทม่ี ปี รมิ าณนอ้ ยกวา่ เปน็ การใชน้ าํ้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สามารถขยายพน้ื ทช่ี ว่ ยเหลอื ทางการเกษตร ไดเ้ ปน็ วงกว้างและทัว่ ถึง รวมถงึ การฟนื้ ฟสู ภาพธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ มใน พน้ื ท่ีได้อีกด้วย l การฟื้นฟูสภาพป่าไม้บนพื้นท่ีภูเขาด้วยระบบป่าเปียก หรือ ป่าภูเขา โดยจัดต้ังสถานีสูบนํ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ สูบน้ําจากระบบ ชลประทานของระบบเครือข่ายอ่างเก็บน้ําส่งขึ้นไปบนเขาเสวยกะปิในระดับ ที่สูงท่ีสุดเทา่ ทจี่ ะสามารถสง่ ไปได้ และไดส้ รา้ งบอ่ พกั นํ้าไว้ ณ จดุ ท่สี ามารถ ส่งน้ําขึ้นไปพร้อมกับสร้างระบบท่อให้นํ้าไหลลงมาทางด้านล่าง มีการติดต้ัง หวั จ่ายแบบสปรงิ เกอรเ์ ปน็ ระบบกระจายนา้ํ เพือ่ สร้างความชุ่มชืน้ ให้แกพ่ ้นื ท่ี ท่ีต้องการ จากความส�ำเร็จของระบบดังกล่าวได้ขยายออกไปท�ำการฟื้นฟู สภาพป่าไม้ท่ีบริเวณเขารังแร้งและเขาบ่อขิง โดยท�ำการติดตั้งระบบสูบน้ํา ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และระบบท่อจ่ายนํ้าในบริเวณพ้ืนท่ีดังกล่าว ซึ่งผล จากการด�ำเนินการ ท�ำให้พื้นท่ีป่าบริเวณภูเขาท้ังสามแห่งฟื้นสภาพกลับมา อดุ มสมบรู ณ์อกี ครงั้ การขยายผลสพู่ น้ื ที่ - ดำ� เนนิ การจดั พน้ื ทส่ี าธติ ภายในศนู ย์ โดยจดั ทำ� เปน็ จดุ ถา่ ยทอดเทคโนโลยแี ละการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ตาม หลกั เศรษฐกจิ พอเพียง เปน็ สถานีการเรียนรู้ในแต่ละเรือ่ ง เช่น งานพฒั นาดินท่แี ข็งเปน็ ดาน งานพฒั นาที่ดนิ (หญ้าแฝก) งานพชื ผกั ผสมผสาน งานปศุสัตว์ งานเพาะเล้ยี งขยายพันธุ์ สัตวป์ า่ (สวนสัตว)์ - ด�ำเนนิ การสง่ เสรมิ เกษตรกรในพน้ื ทห่ี มู่บา้ นรอบศนู ยฯ์ จำ� นวน ๒๙ หมบู่ า้ น ๔,๗๑๙ ครวั เรือน สนบั สนนุ เกษตรกรท่ีได้ตั้งเป้าหมายไว้ให้เป็นเกษตรกรตัวอย่าง ปัจจุบันมีเกษตรกรจ�ำนวน ๗๗ ราย ซึ่งสามารถเป็นเกษตรกร ตัวอย่างได้ - ดำ� เนนิ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ โดยการสนบั สนนุ ปจั จยั การผลติ เชน่ พนั ธพ์ุ ชื ไดแ้ ก่ พรกิ หวั เรอื หว้ ยทราย มะเขอื เทศสดี า กระเจย้ี บเขยี วมรกต มะรมุ อนิ เดยี พระราชทาน และพนั ธส์ุ ตั ว์ ไดแ้ ก่ สนบั สนนุ พนั ธป์ุ ลา ไกเ่ ขยี วหว้ ยทราย ไกง่ วง เปด็ เทศลกู ผสม - อนุรักษ์และฟ้นื ฟสู ภาพปา่ ไม้ เพาะเล้ยี งและขยายพนั ธส์ุ ตั วป์ ่า ๖๒ ชนดิ รวมจำ� นวน ๑,๒๐๗ ตัว และ เป็นแหล่งเรยี นรศู้ กึ ษาธรรมชาติใหก้ บั นกั เรยี น นกั ศึกษา เยาวชน โดยในปี ๒๕๕๕ มีผู้สนใจเขา้ เย่ียมชมและศึกษาดูงาน ภายในศูนย์ฯ จำ� นวน ๖๔,๙๔๐ ราย ๔,๓๕๐ การทรงงาน 117 เพ่อื ประโยชน์สุขแหง่ มหาชน

ศนู ย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอนั เน่อื งมาจากพระราชดำ� ริ อ�ำเภอเมอื ง จังหวัดสกลนคร “ฟืน้ ดิน คนื ป่า พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ” การขยายผลองค์ความรู้ ดำ� เนินการศกึ ษา ทดลอง วิจยั และมีผลการศึกษาทดลอง ๓๑๖ เรอ่ื ง อยู่ระหว่างด�ำเนินการ ๘ เร่ือง แลว้ เสร็จ ๓๐๘ เรื่อง โดยมีบัญชีหลกั งานวชิ าการท่ีน�ำมาขยายผลจำ� นวน ๑๙ เร่ือง ไดแ้ ก่ ๑. สายธารแหง่ ชีวติ ๑๐. การเลย้ี งปลานลิ แดงรว่ มกบั เปด็ บาบาลลี กู ผสมในบอ่ ครวั เรอื น ๒. การเล้ียงโคเน้ือภูพาน ๑๑. การเลีย้ งปลาดกุ ในบ่อซเี มนต์ ๓. การเล้ียงไก่ด�ำภพู าน ๑๒. เกษตรทฤษฎใี หม่ ๔. การเล้ยี งสกุ รภูพาน ๑๓. การจัดการดินเคม็ เพอื่ ปลูกข้าว ๕. การปลกู ข้าวพนั ธ์ุสกลนคร ๑๔. การจดั การดินลูกรงั เพ่อื เพิม่ ผลผลิตพืช ๖. การปลูกขา้ วขาวพนั ธด์ุ อกมะลิ ๑๐๕ ๑๕. การเพาะเห็ดเศรษฐกจิ และเห็ดพื้นเมอื ง ๗. ลิ้นจ่ี นพ. ๑ ๑๖. การปลูกยางพารา ๘. การเล้ียงสตั วป์ กี เพ่อื ควบคุมศตั รพู ชื สวนไมผ้ ล ๑๗. หมอ่ นพันธสุ์ กลนครและไหมพันธ์ุนางตยุ่ ๙. การผลิตวนุ้ เส้นจากถ่ัวเขียว ๑๘. การแปรรปู ผลิตภณั ฑ์จากพชื สมนุ ไพร ๑๙. การผลติ ผา้ ยอ้ มคราม 118 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพือ่ ประโยชน์สขุ แหง่ มหาชน

ผลสำ� เรจ็ จากงานศกึ ษาทดลองไดน้ ำ� ไปขยายผลสปู่ ระชาชนในพน้ื ที่ เพอื่ แกไ้ ขปญั หาความแหง้ แลง้ ความยากจน และการ ขาดความมนั่ คงในการประกอบอาชพี รวมทงั้ รายไดข้ องราษฎร เพอ่ื จดั หารปู แบบการพฒั นาทเี่ หมาะสมกบั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ซึ่งมสี ภาพภูมิประเทศและทรพั ยากรธรรมชาติ ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณที ี่แตกต่างไปจากภาคอน่ื จุดเด่นผลสำ� เร็จ โคเน้อื ภูพาน สบื สายพนั ธ์ุมาจากโคในกลุ่ม Japanese Black ซ่ึงเปน็ ๑ ใน ๔ สายพันธุ์หลักของโควากิวท่ีมีการเลี้ยงกันในประเทศญี่ปุ่น และถือได้ ว่าเป็นสายพันธุ์ท่ีมีศักยภาพในการผลิตเน้ือโคขุนท่ีดีที่สุด โดยเน้ือโคที่ได้จาก การขุนมีความนมุ่ เปน็ พิเศษมากกวา่ โคสายพันธ์ุอนื่ และพบวา่ ไขมนั ท่ีแทรกเป็น ไขมนั ทด่ี แี ละมสี ว่ นประกอบของกรดไขมนั โอเมกา้ ๓ และโอเมกา้ ๖ เพอ่ื ผลติ เนอื้ คณุ ภาพสงู ปจั จุบนั สามารถขยายพันธไุ์ ด้ และได้เนอื้ โคขนุ คุณภาพทม่ี ีเนอ้ื และ ไขมันใกล้เคียงกับเน้ือโคจากประเทศญี่ปุ่น การเล้ียงโคเนื้อภูพานมีต้นทุน ประมาณ ๕,๐๐๐ - ๙,๐๐๐ บาท แม่โคจะใหล้ กู ปีละ ๑ ตัว เกษตรกรสามารถจำ� หนา่ ยลกู โคได้ตวั ละ ๑๕,๐๐๐ บาท และจ�ำหน่าย โคเนื้อภพู าน ราคาตัวละ ๖๐,๐๐๐ บาท ไกด่ ำ� ภูพาน มลี กั ษณะขนด�ำ หนังดำ� กระดกู ดำ� สามารถเลยี้ งในระบบโรงเรอื นแบบงา่ ยๆ หรือเล้ียงปล่อยตามธรรมชาติ ได้ ไมต่ อ้ งเพม่ิ ตน้ ทนุ สามารถสรา้ งรายไดม้ ากกวา่ การเลย้ี งไกท่ วั่ ไป ๒ - ๓ เทา่ ตวั โดยไกด่ ำ� ภพู าน ราคาตวั ละ ๒๐๐ - ๒๕๐ บาท ไกเ่ น้ือ ราคาตวั ละ ๑๐๐ - ๑๒๐ บาท สุกรภูพาน พัฒนาจากจุดเด่นของสุกร ๓ สายพันธุ์ คือ พันธุ์เหมยซาน พันธุ์พื้นเมือง และพันธุ์ดูร็อกเจอร์ซ่ี มีขนาด กะทัดรัด ให้ลูกดก เล้ียงง่าย มันน้อยและเนื้อแดง ทนต่อโรค สามารถน�ำไปเล้ียงแบบปล่อยธรรมชาติ โดยการเลี้ยงเพศเมีย ๒ ตัว ต้นทุน ๒๔,๐๐๐ บาท ได้ลูกปีละ ๖๐ ตัว ราคาตัวละ ๑,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท มูลสุกรขายได้เป็นเงิน ๑,๕๐๐ บาท/ปี ไดก้ ำ� ไรสทุ ธิ ๓๗,๕๐๐ บาท สามารถแปรรปู เปน็ เน้อื สดเพื่อจำ� หน่าย ได้ตัวละ ๔,๐๐๐ - ๕,๐๐๐ บาท นอกจากนี้ สามารถเล้ยี งเพือ่ ผลิตลกู หมเู พื่อท�ำหมูหันท่มี คี วามเหมาะสมไดเ้ ฉลยี่ คอกละ ๑๒ - ๑๕ ตัว ลูกสกุ รภพู าน สามารถขายได้ตวั ละ ๖๐๐ - ๗๐๐ บาท ๔,๓๕๐ การทรงงาน 119 เพ่ือประโยชน์สขุ แหง่ มหาชน

พันธุ์ข้าวที่เหมาะสมในพ้ืนท่ีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ข้าวพันธุ์สกลนคร เป็นพันธุ์ขา้ วเหนียว คุณภาพข้าวสุก เหนยี ว นมุ่ และมกี ล่นิ หอม เป็นข้าวไมไ่ วตอ่ ช่วงแสง ปลกู ไดท้ งั้ ในสภาพนาดอน นาชลประทาน และสภาพไร่ ขา้ วพนั ธ์สุ กลนคร นาด�ำ นาหวา่ น ๒,๖๑๗ บาท/ไร่ ต้นทุน ๓,๓๑๖ บาท/ไร ่ ๓,๘๐๙ บาท/ไร่ ก�ำไร ๖,๔๗๖ บาท/ไร ่ ขา้ วพันธ์ุดอกมะลิ ๑๐๕ เปน็ ข้าวเจ้ามกี ลนิ่ หอม ชนิดไวตอ่ ช่วงแสง ทนแลง้ ได้ดีพอควร ทนตอ่ สภาพดนิ เปร้ียวและดินเคม็ ขา้ วพนั ธุด์ อกมะลิ ๑๐๕ นาด�ำ นาหวา่ น ๓,๓๖๑ บาท/ไร่ ต้นทุน ๕,๒๓๑ บาท/ไร่ ๒,๙๕๙ บาท/ไร่ กำ� ไร ๓,๙๘๕ บาท/ไร่ การขยายผลสู่พืน้ ที่ ได้ขยายผลสู่ราษฎร ได้น�ำผลส�ำเร็จมาพัฒนาเป็นหลักสูตรการฝึกอบรม จำ� นวน ๓๖ หลักสูตร โดยมีพื้นท่ีเป้าหมายหมู่บ้านรอบศนู ย์ ๒๒ หมู่บ้าน ปจั จบุ นั ได้ พัฒนาตัวอย่างเกษตรกรในพื้นท่ีเป้าหมายให้เป็นศูนย์เรียนรู้ฯ ส�ำหรับการถ่ายทอด องค์ความรู้และเทคโนโลยี และสามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ในภาคตะวันออก เฉยี งเหนอื ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ มีผ้สู นใจทเ่ี ปน็ นักเรยี น นักศกึ ษา ประชาชน ทั่วไป และเจ้าหน้าท่ขี องรฐั เขา้ เยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ รวม ๗๑,๖๘๖ คน จากการขยายผลดังกลา่ วท�ำใหร้ าษฎรไดน้ ำ� ความรู้จากการฝึกอบรมไปปรบั ใช้ใน การด�ำรงชีพ ท�ำให้ราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ท่ีดีขึ้น มีรายได้เสริมจากหลักสูตรฝึก อบรมดา้ นอาชีพเพม่ิ มากข้นึ 120 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพื่อประโยชน์สขุ แห่งมหาชน

ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาหว้ ยฮอ่ งไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำ� ริ อำ� เภอดอยสะเกด็ จังหวดั เชียงใหม่ “ต้นทางเปน็ ป่าไม้ ปลายทางเปน็ ประมง ระหว่างทางเป็นเกษตรกรรม” การขยายผลองคค์ วามรู้ ดำ� เนินการศึกษา ทดลอง วิจยั ๒๓๓ เรอ่ื ง อยรู่ ะหวา่ งการ วิจยั ๔๐ เร่ือง แล้วเสร็จ ๑๙๓ เรอื่ ง โดยมบี ญั ชีหลักงานวชิ าการที่มี การนำ� ไปขยายผล จำ� นวน ๒๐ เรื่อง ไดแ้ ก่ ๑. การพัฒนาพ้นื ท่ตี ้นน�ำ้ ด้วยฝายเกบ็ กกั ตน้ น�ำ้ ล�ำธาร ๒. การเพาะเลี้ยงปลานิลในกระชัง ๓. การเลย้ี งปลาดุกบิ๊กอยุ ในบ่อซเี มนตก์ ลม ๔. การเล้ยี งปลากดหลวงในบ่อซีเมนตก์ ลมระบบนำ้� ไหลผา่ น ๕. การเพาะเลี้ยงและขยายพันธก์ุ บ (กบนา) ๖. การเพาะเล้ยี งและขยายพันธุ์กบ (กบบูลฟร็อก) ๗. เทคนิคและวิธกี ารเพาะเห็ด ๘. การเลี้ยงไกพ่ ้นื เมืองพันธุป์ ระดหู่ างด�ำ ๙. การเลีย้ งสุกรลกู ผสมเหมยซาน ๑๐. การเล้ียงแพะนม ๑๑. การปลูกผกั ปลอดภยั จากสารพษิ ๑๒. การปลกู และขยายพนั ธสุ์ ม้ โอ (พันธุข์ าวใหญ่ ผลส�ำเร็จจากการศึกษาทดลอง น�ำไปสู่การเป็น พนั ธุข์ าวทองดี) ศูนย์กลางรูปแบบการพัฒนาด้านต่างๆ ท่ีเหมาะสมกับสภาพ ๑๓. การจดั การดนิ ตืน้ เพ่อื การผลิตผกั อนิ ทรีย์ พน้ื ทภ่ี าคเหนอื เปน็ พนื้ ทพ่ี ฒั นาใหเ้ ปน็ แหลง่ ตน้ นา้ํ ลำ� ธาร ทมี่ กี าร ๑๔. การฟื้นฟูดนิ ด้วยป๋ยุ หมกั และน�้ำหมักชีวภาพ ตัดไม้ท�ำลายป่าท�ำให้เกิดสภาพแห้งแล้งและมีไฟป่า ด�ำเนินการ เพื่อการผลิตพืช ปลูกไม้ ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง คอื มไี มใ้ ชส้ อย ไมผ้ ล และ ๑๕. ระบบนเิ วศลุ่มน้�ำท่ียัง่ ยนื ไมเ้ ศรษฐกิจ ซึง่ นอกจากจะได้ประโยชนจ์ ากไม้ท้งั ๓ อยา่ งน้ีแล้ว ๑๖. พชื อาหารสัตว์ในพนื้ ท่ปี ่าโปรง่ ยังอ�ำนวยประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินและน้ําเพ่ือคงความชุ่มชื้น ๑๗. การปลูกหญา้ แฝกในพื้นที่ล่มุ นำ�้ เอาไว้ อันเป็นประโยชน์อย่างท่ี ๔ โดยเนน้ การพฒั นาพนื้ ทต่ี ้นนา้ํ ๑๘. เกษตรทฤษฎใี หม่ ล�ำธารใหไ้ ด้ผลอย่างสมบรู ณ์ และเผยแพรแ่ กร่ าษฎร ให้สามารถ ๑๙. การผลติ ไมด้ อกนอกฤดู นำ� ไปปฏบิ ัติไดด้ ้วยตนเอง ๒๐. การปลูกพชื ไร้ดนิ ระบบไฮโดรโปนกิ ส์ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 121 เพอ่ื ประโยชน์สุขแห่งมหาชน

จุดเด่นผลสำ� เร็จ การเลีย้ งกบบูลฟรอ็ กโดยวิธีเกษตรธรรมชาติ ลักษณะท่ัวไปของกบบูลฟร็อก เป็นกบขนาดกลางถึงขนาด ใหญ่ มีถ่ินก�ำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือทางด้านตะวันออกของประเทศ สหรัฐอเมริกาเร่ือยไปจนถึงตอนกลางของประเทศ ต่อมามีการน�ำไป เลย้ี งแพรก่ ระจายทางดา้ นตะวนั ตกของประเทศ กบชนดิ นจ้ี งึ มชี อ่ื สามญั ว่ากบบลู ฟร็อก หรอื กบกระทงิ ตน้ ทุนในการเลยี้ งกบบลู ฟร็อก ทุนการเล้ียงตอ่ กบ ๑ ตวั ราคาท่ขี ายไดต้ ่อ ๑ ตวั นาํ้ หนักกบโดยเฉลี่ย ระยะเวลาในการเล้ยี ง ๑๔.๙๙ บาท ๒๔ บาท ๒๐๐ - ๒๕๐ กรัม ๘ เดอื น ๓๖.๖๖ บาท ๔๕ - ๕๐ บาท ๓๐๐ - ๓๕๐ กรัม ๑๒ เดือน ๗๗.๒๙ บาท ๓๐๐ - ๕๐๐ บาท ๔๐๐ - ๕๐๐ กรัม ๑๘ เดอื น การอนุรกั ษ์นิเวศลมุ่ นา้ํ อยา่ งยั่งยืน การพัฒนาให้คนอยกู่ บั ป่าได้อยา่ งเกอื้ กลู เป็นรูปแบบการพฒั นาทีเ่ ชื่อมโยง “ต้นทางเป็นป่าไม้ปลายทางเป็นประมง ระหว่างทางเป็นเกษตรกรรม และอ่ืนๆ ที่ เก่ียวข้อง” การจัดการทรพั ยากรลมุ่ นํ้า แหลง่ ตน้ นา้ํ ลำ� ธาร ตามแนวพระราชดำ� ริ คอื การพฒั นาปา่ ๓ วธิ ี คอื ๑. การปลูกไม้ ๓ อย่าง ไดป้ ระโยชน์ ๔ อยา่ ง ๒. การปลูก ป่าในใจคน และ ๓. การใช้ประโยชน์ ทรัพยากรป่าไม้แบบวนเกษตร ท�ำให้ปริมาณ น�้ำฝนเพ่ิมขึน้ และอัตราการระเหยของน้�ำลดลง ฝายต้นนํา้ ล�ำธารเพอื่ การฟืน้ ฟูนเิ วศลุม่ นํา้ “ฝายต้นน้ําล�ำธาร” ตามแนวพระราชด�ำริ คือ สิ่งก่อสร้างข้ึนขวางกั้นร่องนํ้าร่องห้วยขนาดเล็กบนพ้ืนที่ต้นน้ําล�ำธารท่ี มีสภาพเส่ือมโทรม เพื่อท�ำหน้าท่ีในการช่วยชะลอการไหลหลากและความรุนแรงในการไหลของน้ําให้ช้าลง และช่วยกักตะกอน หนา้ ดนิ ไมใ่ ห้สูญเสยี ไปทบั ถมบริเวณพ้ืนทลี่ ุม่ นํ้าตอนล่าง ซ่งึ ความชมุ่ ช้ืนทเ่ี กดิ ข้ึนบนพืน้ ทตี่ น้ นาํ้ จะช่วยในการฟน้ื ฟูระบบนิเวศลุ่มน้ํา และเปน็ วิธกี ารอนุรักษด์ ินและนํ้าวิธีการหนึ่ง เดิมเฉล่ีย ปี ๒๕๒๗-๒๕๕๔ ปจั จุบัน ปี ๒๕๕๕ ปรมิ าณฝน (มิลลเิ มตร) ๑,๑๔๒.๒๐ ๑,๓๒๗.๘๐ อัตราการระเหย (มิลลม้ิ ตร/ป)ี จำ� นวนวนั ทฝ่ี นตก (วัน/ป)ี ๑,๓๖๕.๕๐ ๑,๐๕๙.๖๐ ๔,๓๕๐ การทรงงาน ๘๐ - ๙๐ ๑๐๐ - ๑๑๐ 122 เพื่อประโยชน์สุขแหง่ มหาชน

การเล้ยี งปลาระบบน้าํ ผ่าน เปน็ การศกึ ษาวางระเบยี บบรหิ ารเกยี่ วกบั การจบั ปลาในอา่ งเกบ็ นาํ้ รวมทงั้ เทคนคิ ควบคมุ การ จบั ปลาเพอื่ ใหร้ าษฎรไดร้ บั ประโยชนจ์ ากปลาในอา่ ง เกบ็ น้าํ อย่างแทจ้ รงิ เพื่อที่จะมีการสง่ เสรมิ การเลีย้ ง ปลาท�ำประมง โดยไม่เอาเปรียบกัน ไม่ท�ำลายพันธุ์ ปลาและท�ำให้เกิดการสูญพันธุ์ และยังสามารถใช้ เปน็ แนวทางปฏบิ ตั สิ ำ� หรบั อา่ งเกบ็ นา้ํ แหง่ อนื่ ๆ ตอ่ ไป วิธีการดำ� เนนิ การแบง่ เป็น ๒ รูปแบบ คอื การเลยี้ งปลาในบ่อซเี มนต์ และการเล้ียงปลาในกระชงั ซง่ึ พบวา่ การเล้ียงปลา กดหลวงในบ่อซีเมนต์กลบระบบน้ําผ่าน จากการด�ำเนินการเลี้ยงในระยะเวลา๑๒๘ วัน ท�ำให้ได้ปลากดหลวงขนาดนํ้าหนักเฉลี่ย ๕๒๒.๓๔ กรมั ความยาวเฉลย่ี ๓๕.๗๐ เซนตเิ มตร อตั ราการรอดตายรอ้ ยละ ๙๖.๕ ปลากดหลวงมอี ตั ราการรอดตายสงู สามารถ เล้ยี งในบ่อซเี มนตก์ ลบระบบนา้ํ ผา่ นตลอดได้ การเพาะเหด็ เศรษฐกจิ ในถงุ พลาสติก โดยการผลติ เชอื้ บรสิ ทุ ธ์ิ (นา้ํ เชอื้ ) การผลติ หัวเช้ือของเมล็ดธัญพืช (หัวเช้ือ) การผลิตก้อนเช้ือ และการเปิดดอก (ก้อนเช้ือเห็ด) ซ่ึงเป็นการท�ำแบบ ครบวงจร ซ่ึงเกษตรกรสามารถน�ำไปปรับใช้หรือ ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การผลิตเห็ดใน โรงเรือนเปิดดอก ขนาด ๔ x ๖ เมตร มตี น้ ทนุ ระหว่าง ๕,๐๐๐ - ๑๒,๐๐๐ บาท แล้วแตช่ นดิ ของเห็ด เมือ่ เก็บผลผลติ ขายสตู่ ลาด สามารถทำ� ก�ำไรเมื่อหักคา่ ใช้จา่ ยแลว้ อย่รู ะหวา่ ง ๔,๐๐๐ - ๘,๕๒๐ บาท การขยายผลสรู่ าษฎร จัดทำ� หลักสตู รฝกึ อบรมถ่ายทอดเทคโนโลยี จ�ำนวน ๒๘ มีผูเ้ ขา้ รบั การฝึกอบรมทง้ั หมด ๒๔๗ รนุ่ จำ� นวน ๙,๑๑๒ ราย ซ่ึงหลกั สตู ร ทไ่ี ดร้ ับความสนใจมากตามล�ำดับ ดงั น้ี อนั ดบั ๑ คือ หลักสูตรฝายตน้ น้ําล�ำธารเพอ่ื การอนรุ กั ษ์และพัฒนาท่ีย่งั ยืน อันดับ ๒ คือ หลักสตู รการเล้ยี งปลาเพอ่ื ยังชพี อันดับ ๓ คอื หลักสตู รการเพาะเล้ียงกบและขยายพนั ธ์กุ บ อนั ดบั ๔ คอื หลักสูตรการเพาะเหด็ เศรษฐกิจ อนั ดบั ๕ คือ หลักสูตรการท�ำและการใชป้ ยุ๋ อนิ ทรีย์เพอื่ ลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร ในปี ๒๕๕๕ มผี สู้ นใจเข้าศึกษาดูงานและเยยี่ มชม จำ� นวน ๘๓๓ คณะ ๗๑,๘๑๐ ราย ๔,๓๕๐ การทรงงาน 123 เพ่ือประโยชนส์ ขุ แห่งมหาชน

ศนู ยศ์ กึ ษาการพัฒนาพกิ ุลทองอนั เนือ่ งมาจากพระราชด�ำริ อ�ำเภอเมอื ง จงั หวัดนราธิวาส “ปา่ พรุเส่อื มโทรม สะสมดนิ เปรย้ี ว แกล้งดนิ อยา่ งเดียว พัฒนาได้ยง่ั ยืน” การขยายผลองคค์ วามรู้ ด�ำเนนิ การศึกษา ทดลอง วิจัยในด้าน ผลสำ� เรจ็ จากงานศกึ ษาทดลองไดน้ ำ� ไปขยายผล ตา่ งๆ ทงั้ หมด ๒๙๑ เรอ่ื ง อยรู่ ะหวา่ งการดำ� เนนิ สู่ประชาชนในพื้นที่ เพ่ือการแก้ปัญหาดินเพรุ และพัฒนา การ ๖๔ เร่ือง และด�ำเนินการแล้วเสร็จ ๒๒๗ ดนิ อินทรีย์และดิน ทม่ี ปี ญั หาอืน่ ๆ ในพื้นทพ่ี รุ เพ่ือน�ำมาใช้ เรื่อง โดยมีบัญชีหลักงานวิชาการที่น�ำมาขยาย ประโยชนท์ างดา้ นการเกษตร รวมท้ังแสวงหาแนวทางและ ผลจ�ำนวน ๑๗ เรื่อง ไดแ้ ก่ วิธีการพัฒนาทั้งทางด้านการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ และ การเกษตรอุตสาหกรรมท่ีมีความเหมาะสมสอดคล้องกับ ๑. การแกล้งดิน สภาพพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้เป็นต้นแบบแห่งความส�ำเร็จให้ ๒. การปรับปรุงดินเปร้ยี วจดั เพ่อื ปลกู ข้าวหอมกระดงั งา กบั พนื้ ท่อี ่นื ๆ ๓. การปลกู ปาลม์ น้�ำมันในพืน้ ทพี่ รุ ๔. การทำ� การเกษตรทฤษฎีใหม่ในพ้นื ท่ดี ินเปร้ียวจัด ๕. การผลติ อาหารขน้ ส�ำหรบั ไก่ ๖. การผลติ อาหารขน้ สำ� หรับแพะ ๗. การเล้ยี งปลาหมอไทยในบ่อดนิ พืน้ ท่ดี นิ เปรี้ยวจัด ๘. การเลยี้ งปลานลิ ในบ่อพ้ืนทีด่ ินเปรยี้ วจัด ๙. การปลกู และแปรรปู ไม้เสมด็ ขาวในพืน้ ท่พี รุ ๑๐. การปลกู และแปรรูปปาลม์ สาคู ๑๑. แนวทางการฟนื้ ฟูป่าพรุ ๑๒. การปลูกสละแซมในสวนยางพารา ๑๓. การเพาะเห็ดฟางดว้ ยขีเ้ ลื่อยไม้ยางพารา ๑๔. การเพาะเหด็ สกุลนางรมดว้ ยขเ้ี ล่อื ยไมย้ างพารา ๑๕. การท�ำบญั ชีครัวเรือนในพ้นื ทดี่ นิ เปรี้ยว ๑๖. การใช้หญา้ แฝกพนั ธ์ุสงขลา ๓ เพ่อื ขึ้นรปู ผลติ ภณั ฑ์ ๑๗. การท�ำผลติ ภณั ฑส์ มุนไพรไลย่ งุ ในพ้นื ทพี่ รุ 124 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอื่ ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน

จุดเด่นผลสำ� เรจ็ การขุดยกร่องดนิ พรเุ พ่อื ปลูกพชื ไร่ พชื ผัก ไมผ้ ล โดยการรกั ษาหน้าดิน ให้หนาขึ้น ให้เปิดหน้าดินออกก่อนแล้วท�ำการขุดยกร่อง น�ำหน้าดินเดิมมาเสริม บนรอ่ ง และจะต้องไมข่ ุดช้ันดินทีม่ ีสารซ่ึงเป็นต้นก�ำเนิดใหเ้ กดิ กรด (ไพไรต์ : Fes) ข้ึนมาและรักษาระดับน้ําในท้องร่องให้อยู่เหนือพ้ืนดินที่มีสารซ่ึงเป็นต้นก�ำเนิดให้ เกดิ กรด การส่งเสริมการปลูกข้าวทนเปรี้ยว ได้แก่ พันธุ์ข้าวทนดินเปร้ียว ๑๐ สายพันธ์ุ ลูกแดง อลั ซมั ดลู ละห์ ข้าวเขียวดอนทราย รวงยาง ข้าวขาว ชอ่ จำ� ปา ช้องนาง ขาวนอ้ ย กระดังงาและส่ีรวง ซึ่งสายพนั ธ์เุ หลา่ น้ีเป็นข้าวไวแสง เหมาะส�ำหรับปลกู นาปี เป็นที่นยิ มของประชาชนในพ้นื ท่ี และสามารถพัฒนาเปน็ ข้าวสายพันธป์ุ ระจำ� ถนิ่ ได้ พลังงานทางเลือก (ไบโอดีเซล) มีโรงงานสกัดและแปรรูปนํ้ามันปาล์ม ด�ำเนินการในปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ในช่วงแรก ใช้วิธีทอดผลปาล์มในกระทะ ใช้เคร่ืองหิน แรงคน ต่อมาพัฒนาเคร่ืองแยกผลปาล์ม ทะลายและการทอดผลปาล์มภายใต้ระบบ สญุ ญากาศ ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๔๔ น�ำนํา้ มันปาลม์ ดิบมาทดลองผลติ น้าํ มันไบโอดีเซลเพ่ือใชเ้ ป็นพลังงานทดแทน การเลี้ยงปลาในกระชัง โดยปลาที่เล้ียงต้องทนกรดได้ดีและมีความเหมาะสมส�ำหรับเล้ียงในกระชัง ได้แก่ ปลาแรด ปลาบู่ และปลาหมอไทย เป็นตน้ การเลือกท่เี ลยี้ งควรเลือกบรเิ วณทม่ี ีการไหลเวียนของกระแสนํ้าได้ดี และหลกี เลีย่ งบรเิ วณทมี่ กี าร ปลอ่ ยของเสีย การเลี้ยงควรจะหลกี เลี่ยงการเลี้ยงในฤดฝู นหรอื ฤดูนํ้าหลาก โดยเริ่มเลย้ี งหลังจากหมดฤดฝู น จนถึงเขา้ ฤดูฝนของปี ถัดไปจงึ เริม่ จบั ปลาได้ การขยายผลส่รู าษฎร l ด�ำเนินการสนับสนนุ การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำ� ริ ไดแ้ ก่ โครงการสง่ เสริมการปลูกมะนาว โครงการส่งเสริมการ ปลูกข้าว โครงการส่งเสริมการปลูกพืชไร่ พืชผัก โครงการจัดฝึกอบรมส่งเสริมและอนุรักษ์ บอนสีในโครงการเกษตรเพ่ืออาหาร กลางวนั ของโรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดน และโรงเรยี นประถมศึกษา l ขยายผลการปลูกพืชผัก การปลูกยางพาราการเพาะเห็ดฟางกองเต้ีย และการเพาะเห็ดในถุงพลาสติกด้วยวัสดุ เหลอื ใช้ในท้องถิน่ เพอ่ื ไปสง่ เสริมสนับสนนุ และให้ความรู้แก่เกษตรกรในพ้ืนทีเ่ ปา้ หมายในการพัฒนาอาชีพและเพ่มิ รายได้ l สง่ เสรมิ การเลย้ี งปลาดว้ ยอาหารพน้ื บา้ นรว่ มกบั อาหารเมด็ แกเ่ กษตรกรในพน้ื ทห่ี มบู่ า้ นบรเิ วณรอบศนู ย์ พนื้ ทศ่ี นู ยส์ าขา ในปี ๒๕๕๕ มีผู้สนใจเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ของศูนย์ฯ จ�ำนวน ๑,๘๗๒ ราย และมีผู้สนใจเข้าศึกษา ดงู านและเยยี่ มชมศูนยฯ์ จำ� นวน ๔๐,๐๙๐ ราย ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชน์สขุ แห่งมหาชน 125

126 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน

เศรษฐกจิ พอเพียง : กระบวนการต้นนำ�้ กลางนำ้� ปลายนำ้� “คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมือ่ มีความโลภนอ้ ย กเ็ บยี ดเบยี นคนอ่นื นอ้ ย ถ้าทกุ ประเทศมี ความคดิ อันนี้ไม่ใชเ่ ศรษฐกจิ มคี วามคิดวา่ ทำ� อะไรต้องพอ เพียง หมายความว่า พอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่าง มาก คนเรากอ็ ย่เู ยน็ เปน็ สุข พอเพยี งน้อี าจจะมีมาก อาจจะมี ของหรูหราก็ได้แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอ่ืน ต้องให้พอ ประมาณตามอตั รา พดู จากพ็ อเพยี ง ทำ� อะไรกพ็ อเพยี ง ปฏบิ ตั ิ ตนกพ็ อเพยี ง” พระราชด�ำรสั พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว เม่อื วนั ท่ี ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ คิดพอเพียง สมดุลต้นน้�ำ จากนยิ ามของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มไิ ดห้ มายความเพยี งแคบ่ คุ คลพง่ึ ตนเองได้ (Self-Suf- ficiency) แต่เศรษฐกิจพอเพียง หรือ Sufficiency Economy มีความหมายกว้างมากกว่า เพราะเศรษฐกิจ พอเพียงไม่ใช่แนวทางส�ำหรับปรับใช้ได้เฉพาะบุคคล หรือเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่การหยุดอยู่กับท่ี แตเ่ ศรษฐกจิ พอเพยี งใชไ้ ดท้ งั้ กบั บคุ คล กลมุ่ ชมุ ชน องคก์ ร ทงั้ ภาครฐั และภาคธรุ กจิ และทส่ี ำ� คญั การคดิ อยา่ ง พอเพียงเป็นการคิดอย่างมีความเป็นพลวัต สามารถปรับเปล่ียนพัฒนาได้ตามเหตุผลสอดคล้องเหมาะสมกับ สถานการณ์ทเ่ี ปลี่ยนแปลงไป ๔,๓๕๐ การทรงงาน 127 เพ่อื ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน

แนวทางในการดำ� รงชวี ิต มีการพฒั นาใน ๓ ระดับ คือ ระดับท่ีหนึ่ง - เป็นเศรษฐกิจพอเพียง แบบพื้นฐานท่ีเน้นความพอเพียงในระดับบุคคลและ ครอบครัว คือ การท่ีสมาชิกในครอบครัวมีพอกิน มีอาหาร สามารถสนองความต้องการพื้นฐานหรือ ปัจจยั ส่ีของครอบครัว พึ่งตนเองได้ ระดบั ทสี่ อง - เปน็ เศรษฐกจิ พอเพยี งแบบ ก้าวหน้า คือ ยกระดับความพอเพียงเป็นระดับกลุ่ม มีการรวมตัว ท้ังความคิด ความร่วมมือ รักษาผล ประโยชน์ภายในชมุ ชน มกี ารเรยี นรแู้ ลกเปลยี่ น และ แกไ้ ขปัญหาร่วมกันสร้างความเขม้ แข็งในชมุ ชน ระดับท่สี าม - เป็นเศรษฐกจิ พอเพียงแบบกา้ วไกล ระดบั สร้างเครือข่าย เนน้ ความร่วมมือ ระหว่างชุมชน กลุ่ม องค์กร เอกชน หรือธุรกิจภายนอก โดยประสานงานให้ได้รับประโยชน์ร่วมกัน ทุกฝ่าย ขยายผล เปรียบเสมือนกลางนำ�้ มลู นธิ ิชัยพัฒนา และสำ� นกั งาน กปร. ในฐานะหน่วยงานหลกั ในการประสานการด�ำเนินงานโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ตระหนักถึงความส�ำคัญของกระบวนการเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง และมงุ่ มนั่ ใหเ้ กดิ มติ คิ วามรขู้ องเศรษฐกจิ พอเพยี งทเี่ ขม้ ขน้ และปฏิบตั ิไดห้ ลากหลาย จงึ ได้จัดให้มกี ารประกวดผลงานตามปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงขน้ึ เปน็ คร้งั แรก ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ เพ่อื คน้ หาผทู้ ่ี ได้น้อมน�ำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในมิติต่างๆ โดยจัดแบ่ง เปน็ ๕ ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นประชาชนทว่ั ไป ดา้ นเกษตรทฤษฎใี หม่ ดา้ นธรุ กจิ ขนาดใหญ่ ดา้ นธุรกิจขนาดกลาง และดา้ นธรุ กิจขนาดยอ่ ม รวมทั้งสิ้น ๑,๑๕๖ ราย มีผูช้ นะเลิศไดร้ ับรางวลั ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยู่หวั จ�ำนวน ๕ ราย 128 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชน์สุขแห่งมหาชน

และในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๓ โดยความรว่ มมอื ของภาคเี ครอื ข่าย ไดแ้ ก่ มลู นธิ ชิ ยั พฒั นา ส�ำนกั งาน กปร. กระทรวง มหาดไทย สำ� นกั งบประมาณ กองทพั ไทย ได้จัดการประกวดผลงานตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ครั้งท่ี ๒ โดยมุ่งเน้นการ นอ้ มนำ� หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชใ้ นหนว่ ยงานภาครฐั ทง้ั ในระดบั กรม และองคก์ รภาครฐั ในสว่ นภมู ภิ าค ทง้ั โรงเรยี น โรงพยาบาล องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำบล ฯลฯ แบ่งการประกวดเปน็ ๑๐ ประเภท คอื ๑) ประชาชนในพนื้ ท่ีห่างไกลและกันดาร ๒) ประชาชน ทั่วไป ๓) ชุมชนเศรษฐกิจพอเพยี ง ๔) เกษตรกรทฤษฎีใหม่ ๕) กลุม่ เกษตรทฤษฎีใหม่ ๖) หนว่ ยงาน/องคก์ รภาครฐั ในสว่ นภูมิภาค ๗) หน่วยงาน/องค์กรภาครัฐในส่วนกลาง ๘) ธุรกิจขนาดใหญ่ ๙) ธุรกิจขนาดกลาง ๑๐) ธุรกิจขนาดย่อม โดยมีผู้ส่งผลงาน เขา้ รว่ มประกวดฯ จ�ำนวนรวมทั้งสิ้น ๑,๖๔๔ ราย มีผชู้ นะเลิศ ๑๐ ราย ซึง่ เปน็ ตวั อย่างการขยายผล ดังนี้ ปลายน�ำ้ : ตัวอยา่ งความส�ำเรจ็ ประเภทประชาชนในพน้ื ทห่ี า่ งไกลและกนั ดาร คณุ คอสหมะ๊ แลแมแน ตำ� บลจะแนะ อ�ำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เป็นคนท่ีมีความใฝ่รู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรต่างๆ ตลอดเวลา มีความ คดิ ริเริ่มสรา้ งสรรคใ์ นการพฒั นาอย่างตอ่ เนอื่ งตลอดเวลา น�ำภมู ปิ ญั ญาในทอ้ งถน่ิ มา ใช้โดยการไปฝึกเรียนปักผ้าคลุมผมจากผู้สูงอายุในหมู่บ้านและถ่ายทอดให้แก่คนใน หมู่บ้าน น�ำความรู้ด้านบัญชีที่เรียนมาประยุกต์ใช้กับการบริหารจัดการกลุ่ม เป็น ตัวกลางในการประสานกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือช่วยเหลือชุมชน ท�ำให้สมาชิกมี รายได้เลีย้ งตนเองได้ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 129 เพอ่ื ประโยชน์สุขแหง่ มหาชน

ประเภทประชาชนท่วั ไป คุณสมพงษ์ พรผล ต�ำบลทา่ อยู่ อำ� เภอตะกัว่ ทุ่ง จังหวัดพังงา มีความมุ่งมั่น ขยัน เป็นผู้น�ำทางปัญญาท่ีสร้างแรง บันดาลใจให้ชุมชนลุกข้ึนมาเรียนรู้และค้นหาทางออกเพ่ือให้ พงึ่ พาตนเองจนสรา้ งความเขม้ แขง็ ใหช้ มุ ชน โดยใชท้ รพั ยากรทม่ี อี ยใู่ นชมุ ชนรวมกลมุ่ เกษตรกรทำ� สวนยาง ปจั จุบันสามารถผลิตยางแผน่ ท่มี ีคณุ ภาพดชี ้นั ๑ เป็นทตี่ ้องการของตลาด และสามารถ กำ� หนดราคายางแผ่นได้เอง ประเภทชมุ ชนเศรษฐกิจพอเพียง ชมุ ชนบ้านดอกบัว ตำ� บลบ้านต่นุ อ�ำเอเมอื ง จงั หวัดพะเยา อาชพี หลักของชุมชนบา้ นดอกบวั คอื การท�ำนา ท�ำสวน ปลกู หญ้า เลย้ี งสัตว์ ส�ำหรับ นอกฤดูกาลท�ำนา ชาวบ้านบัวได้ใช้เวลาว่างประกอบอาชีพเสริมหัตถกรรมจักสานเข่งไม้ไผ่ เป็นอาชีพที่ท�ำให้ประชากรในหมู่บ้านมีรายได้มาก มีผลิตภัณฑ์เด่นของหมู่บ้าน ได้แก่ ข้าว หญ้าแพงโกล่า ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ (เข่ง) ผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา เป็นต้น ซ่ึงสอดคล้องกับ วิถีชีวิตและทรัพยากรในท้องถิ่นโดยใช้ต้นไผ่ที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติมาท�ำสุ่มไก่ เข่ง ออกจ�ำหน่าย รวมกันเป็นกลุ่มจักสาน เขง่ ข้ึน ซ่งึ ชว่ ยสร้างรายไดเ้ สริมใหก้ ับชาวบา้ นบวั เปน็ อยา่ งดี ประเภทเกษตรกรทฤษฎใี หม่ คุณเปรยี วจนั ทร์ ตะ๊ ต้นยาง ต�ำบลเชงิ เค่ียน อำ� เภอเทงิ จังหวดั เชยี งราย เริ่มท�ำเกษตรทฤษฎีใหม่ ปี ๒๕๔๒ แรงงานในครอบครวั ๕ คน จา้ งงาน ๕ คน มพี นื้ ที่ ๒๓ ไร่ (ทพ่ี กั อาศยั และโรงเรอื น ๓ ไร่ นาขา้ ว ๑ ไร่ สระนำ�้ ๓ ไร่ ปลกู ไมผ้ ล ๖ ไร่ ปลกู พชื ผกั ๗ ไร่ ปา่ ไมใ้ ชส้ อย ๓ ไร่ ใชภ้ มู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ทรพั ยากรธรรมชาติ และเทคนคิ ทางการ เกษตรในแบบตา่ งๆ มาผสมผสานกนั อยา่ งลงตวั สามารถดำ� เนนิ ชวี ติ ตนเองและครอบครวั ให้ มีความพอเพียง อย่ใู นศีลธรรมอนั ดงี าม และสามารถด�ำรงชวี ิตอยไู่ ด้อยา่ งมีความสุข 130 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชน์สขุ แหง่ มหาชน

ประเภทกลมุ่ เกษตรทฤษฎใี หม่ กลุ่มเกษตกรท�ำสวนบ้านถ้ำ� ต�ำบลบ้านถ�ำ้ อำ� เภอดอกค�ำใต้ จงั หวัดพะเยา จัดตง้ั เมื่อวันท่ี ๑๑ มนี าคม ๒๕๔๒ เปน็ กลมุ่ เกษตรกรจดทะเบยี นเปน็ นติ บิ คุ คล (พ.ศ. ๒๕๔๗) มสี มาชกิ ๑๓๙ ราย ทำ� เกษตรทฤษฎีใหม่ จำ� นวน ๖๐ ราย ท่ีเหลอื ทำ� การเกษตรแบบ ผสมผสาน มีอาคารส�ำนักงานและท่ีดินเป็นของกลุ่ม รวมกลุ่มเพ่ือผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ข้าวกล้อง อินทรีย์ ปลอ่ ยสินเช่อื ใหส้ มาชกิ กยู้ ืม คิดอตั ราดอกเบย้ี ทีต่ ำ่� ชว่ ยเหลอื สมาชกิ ใหม้ คี วามเป็นอยทู่ ่ี ดขี นึ้ พงึ่ ตนเองได้ มกี ารบรหิ ารกลมุ่ ครบถ้วนท้ัง ๕ ก ได้แก่ กรรมการ กิจกรรม กองทุน กตกิ า การจัดการ ประเภทหน่วยงาน/องคก์ รภาครฐั ในสว่ นกลาง ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธ.ก.ส.ได้ก่อต้ังเม่ือ พ.ศ. ๒๔๙๐ และมีแนวคิดการน้อมน�ำปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงมาใชต้ ั้งแต่ปี ๒๕๓๐ บรู ณาการแนวทางการบรหิ ารองค์กรภายใตก้ รอบการบริหาร และการกำ� กบั ดแู ลองคก์ รท่ดี ี ๙ ประการ ได้แก่ การ สรา้ งสรรคค์ ณุ ภาพ การประหยดั คมุ้ คา่ การรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม การรว่ มคดิ รว่ มทำ� เปดิ เผย โปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต เสมอภาคเป็นธรรม ส�ำนึกรับผิดชอบ และสนับสนุนการเรียนรู้ เน้นการสร้างเครือข่ายชุมชนที่มีความม่ันคง ท่ัวองค์กรส่วนกลางและสาขาท่ัวประเทศ สามารถเป็นกำ� ลงั ขับเคลอ่ื นความพอเพียงสเู่ กษตรกรและชมุ ชนตน้ แบบ และขยายความรู้ ใหช้ ุมชนเข้มแขง็ พ่ึงพาตนเองได้ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 131 เพ่อื ประโยชน์สขุ แหง่ มหาชน

ประเภทหนว่ ยงาน/องคก์ รภาครัฐ ในสว่ นภูมภิ าค ส�ำนกั งานเทศบาลตำ� บลปลายพระยา ต�ำบลปลายพระยา อำ� เภอปลายพระยา จงั หวัดกระบี่ มีการใชท้ รัพยากรทางการบรหิ ารและการพฒั นาอย่างประหยดั คุม้ คา่ เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ โดยเทศบาลไดใ้ ชง้ บประมาณเพอื่ สรา้ งความเขม้ แขง็ ของชมุ ชนดา้ นการ พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ มากกวา่ รอ้ ยละ ๗๐ มเี งนิ ทนุ หมนุ เวยี นของกลมุ่ เพอ่ื การเพมิ่ ทนุ ของ กลมุ่ จากผลการดำ� เนนิ งานใหม้ เี งนิ ทนุ ขยายตวั ขน้ึ และสามารถพง่ึ ตนเองไดอ้ ยา่ งคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป “ระเบิดจากข้างใน” ใช้ชีวิตด้วยความสามคั คี การลด ละ เลิกอบายมุข การ สรา้ งจติ สาธารณะให้แกเ่ จ้าหนา้ ท่แี ละชมุ ชนรว่ มกนั ท�ำประโยชน์สาธารณะ ประเภทธรุ กิจขนาดใหญ่ บรษิ ทั บางจากปโิ ตรเลยี ม จำ� กดั (มหาชน) แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรงุ เทพฯ เพอ่ื มงุ่ พฒั นาธรุ กจิ ดว้ ยการสรา้ งวฒั นธรรมในการดำ� เนนิ ธรุ กจิ ทค่ี ำ� นงึ ถงึ สงิ่ แวดลอ้ ม และสังคม เป็นผู้น�ำด้านพลังงานทดแทนด้วยการริเริ่มการผลิตและส่งเสริมการจ�ำหน่ายน�้ำมัน แก๊สโซฮอล์และน�้ำมนั ไบโอดีเซล ชว่ ยลดการน�ำเข้านำ�้ มนั จากตา่ งประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนให้ยั่งยืน โดยประสานเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจ เพอ่ื ใหก้ ารสรา้ งประโยชนเ์ ปน็ ไปอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง(CSR-in-Process) อาทิ การพฒั นาธรุ กจิ ปั๊มชุมชน เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน มีวิธีการส่งเสริมการตลาด โดยน�ำ ผลติ ภณั ฑ์ของชุมชนมาเปน็ ของสมนาคุณผใู้ ชน้ ้�ำมนั ท่สี ถานบี รกิ ารน้�ำมัน เปน็ การสร้าง งานและรายได้ภายในชมุ ชน 132 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน

ประเภทธรุ กิจขนาดกลาง บรษิ ัท บาธรมู ดไี ซน์ จ�ำกัด แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรงุ เทพฯ เนน้ พัฒนาบุคลากรทางด้านจิตใจ และคุณธรรมอย่างตอ่ เนื่อง มี ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและมกี จิ กรรมเพอื่ สงั คม โดยผบู้ รหิ ารและพนกั งาน มสี ่วนรว่ มอยา่ งสมำ่� เสมอ วางแผนงานด้านการตลาดเพื่อสร้าง Global Brand ในอนาคต โดยเป็นผู้น�ำ ด้านนวตั กรรมสินค้าในห้องน�ำ้ ๑ ใน ๕ ของโลก ซงึ่ การได้รบั การรบั รองจากสถาบนั ท่ีมี ชือ่ เสยี งระดับโลก มีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพ่ือคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ จะได้ออกแบบ ผลิตภัณฑท์ ที่ ันสมัยและสอดคลอ้ งความต้องการความพึงพอใจของลกู คา้ และมีการเลอื ก ตลาดเปา้ หมาย ประเภทธรุ กจิ ขนาดย่อม บรษิ ทั พรทพิ ย์ (ภูเก็ต) จ�ำกดั ต�ำบลรัษฎา อำ� เภอเมอื ง จงั หวัดภเู กต็ มภี มู คิ มุ้ กนั ทางเศรษฐกจิ ทมี่ ขี นาดการลงทนุ เหมาะสม ไมเ่ นน้ การทำ� ธรุ กจิ เพอ่ื กำ� ไรอยา่ ง เดียว ใชก้ �ำลงั แรงงานภายในทอ้ งถนิ่ ไมเ่ กนิ ๕๐ คน เน้นพนักงานมีคุณภาพ ความรคู้ วามสามารถ ขยายการลงทนุ และกจิ การจากเงนิ ภายใน ออกแบบผลิตภัณฑแ์ ละการใหบ้ รกิ ารด้วยตนเอง มีวิสัยทัศน์การด�ำเนินธุรกิจ เน้นคุณภาพการผลิตและ ให้บริการ เน้นในเรื่องวัตถุดิบใช้กับภูมิปัญญาท้องถ่ินเป็นการลด คา่ ใชจ้ า่ ย มกี ารวเิ คราะหต์ ลาด (ชอ่ งทางจำ� หนา่ ย) ประเมนิ ผแู้ ขง่ ขนั ส�ำรวจความพึงพอใจของลูกค้าแต่ละกลุ่มท้ังชาวไทยและ ชาวตา่ งประเทศ มีการเพม่ิ ประสิทธภิ าพการบริหารจดั การ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 133 เพื่อประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน

134 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน

โครงการพฒั นาแหลง่ น�ำ้ อันเน่ืองมาจากพระราชดำ� ริ …เพราะน้ำ� คือชวี ิต... พระราชด�ำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เม่ือวันท่ี ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ ความวา่ “...หลักส�ำคัญว่า ต้องมีน�้ำ น้�ำบริโภคและน้�ำใช้ น�้ำเพ่ือการเพาะปลูก เพราะชีวิตอยู่ท่ีนั่น ถ้ามีน�้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน�้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้า คนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้า ไมม่ นี ำ้� คนอยไู่ ม่ได.้ .” เปน็ สง่ิ ทยี่ ำ�้ ใหเ้ หน็ วา่ ทรงใหค้ วามสำ� คญั กบั นำ�้ ตอ่ การ ดำ� รงชวี ติ และความอยรู่ อดของชวี ติ ไมว่ า่ จะเปน็ มนษุ ย์ สตั ว์ และ พชื จนเปรยี บได้ดั่งว่า “นำ�้ คอื ชีวติ ” ทรงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่า พระองค์ทรงเป็นปราชญ์ในเรื่องน�้ำของแผ่นดิน อย่างแท้จริง ตลอดระยะเวลา ๖๗ ปีของการครองราชย์ ได้พระราชทานแนวพระราชด�ำริในการพัฒนา แหล่งน�้ำซ่ึงก่อให้เกิดโครงการพัฒนาแหล่งน�้ำท่ัวประเทศกว่า ๒,๙๐๐ โครงการ เพ่ือแก้ไขปัญหาการ ขาดแคลนน้�ำ ปัญหาน้�ำท่วม และปัญหาน้�ำเสีย ซ่ึงล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของราษฎร และนอกจากโครงสร้างพ้ืนฐานแล้ว ทสี่ ำ� คญั ไมน่ ้อยกว่ากนั กค็ อื “การบรหิ ารจดั การน�ำ้ ” ๔,๓๕๐ การทรงงาน 135 เพอ่ื ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน

๑. ฝนหลวง : ลดภัยแลง้ แก้สมดุล เป็นการบริหารจัดการน้�ำเหนือพ้ืนดินโดยการกระตุ้นปฏิกิริยาทางเคมีของ ไอน้�ำในอากาศให้รวมตัวกันเป็นเมฆฝนและกลั่นเป็นหยดน้�ำฝนตกลงมาเป็นแหล่งน้�ำ ส�ำหรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ต้ังแต่ปี ๒๔๙๘ โครงการ “ฝนหลวง” ได้ ชว่ ยแกป้ ญั หาภัยแลง้ ในประเทศมาอย่างต่อเน่ืองและเห็นผลชดั เจน ดงั เช่นในปี ๒๕๕๕ เม่ือประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งขยายวงกว้างไปท่ัวประเทศ พ้ืนที่ได้รับประโยชน์ จากโครงการฝนหลวงมีมากถงึ ๒๑๔ ลา้ นไร่ 136 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน

๒. ปา่ ไม้ : แหลง่ สะสมนำ�้ สร้างสมดลุ ปา่ ดิบเขา ปา่ เบญจพรรณ จากฝนหยดแรกท่ีตกลงสู่ผืนป่า ท�ำให้เกิด ปา่ เตง็ รัง การเริ่มต้นของสมดุลธรรมชาติ (ความชุ่มช้ืนที่เกิดข้ึน) ป่าต้นน�้ำล�ำธารคอยดูดซับและค่อยๆ ปลดปล่อยหยดน้�ำ เกบ็ กกั นำ้� ได้ ๑.๕ ล้านลูกบาศกเ์ มตร เก็บกกั นำ�้ ได้ ๖ แสนลูกบาศก์เมตร เก็บกักนำ้� ได้ ๓ แสนลูกบาศก์เมตร สู่พ้ืนที่เบ้ืองล่างสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับทรัพยากร ต่อพื้นท่ีตารางกิโลเมตร ต่อพ้นื ท่ตี ารางกิโลเมตร ต่อพ้นื ที่ตารางกโิ ลเมตร ธรรมชาติ ป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง เป็นแหล่งกักเก็บน�้ำทีดีเยี่ยม และโดยท่ัวไปน�้ำจะถูก ปลดปล่อยลงสู่ล�ำธารเป็นน�้ำท่า คิดเป็นร้อยละ ๒๓ ของ คา่ ฝนเฉลีย่ ทัง้ ปี (ข้อมลู จากส�ำนักอนรุ กั ษ์และจดั การตน้ น้ำ� กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั วป์ า่ และพันธ์ุพชื ) ๔,๓๕๐ การทรงงาน 137 เพื่อประโยชน์สขุ แหง่ มหาชน

๓. ฝายชะลอความชุ่มชื้น : สร้างน้�ำให้ ผืนปา่ เปน็ สง่ิ กอ่ สรา้ งขวาง หรอื กนั้ ทางนำ�้ ซง่ึ ปกติ มกั จะกน้ั ลำ� หว้ ยลำ� ธารขนาดเลก็ ในบรเิ วณทเ่ี ปน็ ตน้ นำ้� หรอื พนื้ ทที่ มี่ คี วามลาดชนั สงู ชว่ ยชะลอการไหลของนำ้� ให้ช้าลง และกักเก็บตะกอนไม่ใหไ้ หลลงไปทบั ถมล�ำน�ำ้ ฝายผสมผสาน ตอนลา่ ง ซงึ่ เปน็ วธิ กี ารอนรุ กั ษด์ นิ และนำ�้ ไดม้ ากวธิ กี าร หนึง่ นอกจากน้ี ยงั ช่วยการกระจา่ ยความช่มุ ชื้นใหแ้ ก่ บรเิ วณโดยรอบอกี ด้วย ฝายกึ่งถาวร ๔. อา่ งเก็บนำ้� : แหล่งส�ำรองนำ�้ สรา้ งชีวติ ๓. อา่ งฯ หว้ ยใหญ่ ๖. อา่ งฯ คลองลำ� กง ๒. อา่ งฯ ห้วยนำ�้ กอ้ ๗. อ่างฯ ห้วยเล็ง ๔. อา่ งฯ ห้วยปา่ เลา ๕. อา่ งฯ หว้ ยนา ๑. อ่างฯ ห้วยหนิ เขือ่ นป่าสักชลสทิ ธ์ิ 138 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน

เป็นแหล่งน�้ำผิวดินประเภทหน่ึงท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชด�ำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปด�ำเนินงานเพ่ือช่วย เหลือราษฎรที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน�้ำส�ำหรับอุปโภค - บริโภค และ ท�ำการเกษตรดังเช่นท่ีทรงห่วงใยเร่ืองปริมาณน�้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธ์ิซึ่งต่อไป อาจไม่พอ จึงมีพระราชประสงค์ให้เข่ือนเก็บกักน้�ำได้มากกว่านี้ ดังพระราชด�ำริ ตอนหน่ึงความวา่ “...ควรพิจารณาวางโครงการเก็บกักน�้ำตอนบนของล�ำน�้ำสาขาแม่น้�ำป่าสักไว้ให้มาก เพื่อใช้ด้านการเกษตรและ ปอ้ งกันอทุ กภัย เนื่องจากน้�ำเหนือเขื่อนปา่ สกั มีมาก ใหพ้ ิจารณาจัดเกบ็ ให้ เหมาะสม...” พระราชด�ำรัส เมือ่ วนั ท่ี ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗ ๕. หญ้าแฝก : ลดการพงั ทลายของดนิ “...หญ้าแฝกเปน็ พชื ทม่ี รี ากลึก แผก่ ระจายลงไปในดนิ ตรงๆ เปน็ แผง เหมือนก�ำแพง ชว่ ยกรองตะกอนดิน และรกั ษาหนา้ ดินได้ดี จงึ ควรน�ำมาศึกษา และทดลองปลกู ...” พระราชดำ� รัส เม่อื วนั ท่ี ๒๐ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕ หน่วยงานต่างๆ และเกษตรกรได้น้อมน�ำแนวพระราชด�ำรัสนี้มาปฏิบัติ โดยหญ้าแฝกได้พิสูจน์แล้วว่าช่วยยึดหน้าดินไม่ให้พังทลายและสร้างความชุ่มชื้น ให้แก่ดิน ทั้งยังสามารถน�ำใบมาใช้ประโยชน์เป็นวัสดุคลุมดินและงานหัตถกรรม อกี ด้วย ๖. เขื่อน : แหล่งกกั เก็บน�้ำ สรา้ งสมดลุ ชีวิต เปน็ การเกบ็ กกั นำ้� โดยการกอ่ สรา้ งเขอ่ื น เชน่ เขอ่ื นปา่ สกั ชลสทิ ธ์ิ จังหวดั ลพบรุ ี เขือ่ นขุนดา่ นปราการชล จงั หวัดนครนายก เปน็ ตน้ เพ่ือนำ� มาใช้ประโยชน์ในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพ่ือการเพาะปลูกในช่วง ขาดแคลนฝน และเก็บกกั นำ�้ ทม่ี ีปรมิ าณมากในชว่ งน้�ำหลาก ซง่ึ สามารถ ปอ้ งกนั และบรรเทาปญั หานำ�้ ทว่ มในพน้ื ทต่ี อนลา่ งรวมถงึ กรงุ เทพมหานคร ได้เปน็ อยา่ งดี ๔,๓๕๐ การทรงงาน 139 เพ่อื ประโยชน์สุขแหง่ มหาชน

๗. ทฤษฎใี หม่ : การจดั การดินและน้�ำอยา่ งยงั่ ยืน ๓๐:๓๐:๓๐:๑๐ ในการบริหารจัดการดินและน�้ำ ๓๐% ๕ ไร่ ๓๐% ๕ ไร่ ตามแนวพระราชด�ำริทฤษฎีใหม่น้ัน องค์ ๑๐% ๒ ไร่ ๓๐% ๓ ไร่ ประกอบส�ำคัญอย่างหนึ่งของพ้ืนที่เกษตร คอื สระเกบ็ นำ้� เพอ่ื เกบ็ นำ้� ฝนสำ� หรบั นำ� มาใช้ ในการเกษตร ซึ่งตามหลักแล้วต้องด�ำเนิน การคิดเป็น ๓๐% ของพื้นที่ แต่สัดส่วนน้ี สามารถปรับได้ตามสภาพของพ้ืนท่ี เช่น หากพื้นที่เกษตรอยู่ในเขตท่ีมีปริมาณน้�ำฝน เพียงพอส�ำหรับใช้อุปโภคบริโภคในรอบปี การจดั สรรพนื้ ทอี่ าจจะไมถ่ งึ ๓๐% และสระ เกบ็ นำ้� ทสี่ มบรู ณแ์ บบตามหลกั ขอทฤษฎใี หม่ จะตอ้ งมนี �้ำเขา้ มาเติมจากแหลง่ นำ�้ อน่ื ดว้ ย ๘. แกม้ ลงิ : การบริหารจดั การนำ้� เพื่อชุมชน เป็นการขุดคลองระบายน้�ำภายในบริเวณพื้นท่ีลุ่มให้สามารถระบาย นำ้� ออกจากพนื้ ทลี่ มุ่ หรอื พน้ื ทท่ี มี่ นี ำ�้ ทว่ มขงั อยเู่ ปน็ ประจำ� เพอ่ื แกไ้ ขปญั หาอทุ กภยั และสนบั สนนุ พนื้ ทเี่ พาะปลกู รวมถงึ การกอ่ สรา้ งประตรู ะบายนำ้� เพอื่ ควบคมุ การ เกบ็ กักน้�ำในคลอง และปอ้ งกนั น้ำ� ท่วมจากบรเิ วณด้านนอกไม่ให้ไหลยอ้ นเขา้ ไป ในพืน้ ท่ี เชน่ โครงการแกม้ ลงิ ภาพฝีพระหัตถ์โครงการแกม้ ลิง ๙. คนั ก้ันน�้ำ : บรรเทาน้�ำหลากอยา่ งเหมาะสม เป็นหนึ่งในระบบการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้�ำท่วมพื้นที่ชุมชนและ เขตเศรษฐกิจ ตัวอยา่ งทีเ่ หน็ ได้ชดั คอื พระราชด�ำริในการสร้างระบบป้องกันน�ำ้ ท่วม ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยการสร้างคันก้ันนำ�้ สำ� หรบั ใช้ปอ้ งกันน�ำ้ ในเขตพนื้ ท่เี พาะ ปลูกนอกคันก้ันน้�ำมิให้ไหลเข้าสู่พ้ืนที่ชุมชนภายในคันกั้นน�้ำ มีความยาวทั้งสิ้น ๗๔ กโิ ลเมตร โดยใชแ้ นวถนนเดมิ เปน็ สว่ นใหญป่ ระกอบดว้ ยการปรบั ปรงุ ถนนหทยั ราษฎร์ ถนนนิมิตใหม่และถนนก่ิงแก้วจนถึงถนนบริเวณสถานตากอากาศบางปู จังหวัด 140 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพือ่ ประโยชน์สุขแหง่ มหาชน

สมุทรปราการ ซ่ึงก่อสร้าง แลว้ เสร็จตง้ั แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๒๗ คันกั้นน�้ำที่ตัดผ่านคลองมี อาคารบังคับน้�ำ จ�ำนวน ๓๐ แห่ง ปิดและเปดิ ในแนวดงิ่ ๒๐ แห่ง กับท่อลอดคันกั้นน�้ำท่ีมี บานปดิ และเปิดได้ ๑๐ แหง่ ๑๐. ทางนำ้� ผา่ น : ลดน้ำ� หลากและช่วยภยั แลง้ เป็นการควบคุมการไหลของน้�ำท่ีอาจจะเข้าท่วมตัวเมือง โดยการขยายทางน�้ำหรือเปิดทางน้�ำในจุดท่ีผ่านทางหลวงหรือ ทางรถไฟ และการปรบั ปรงุ ขดุ ลอกทางนำ�้ ตามธรรมชาติ ใหส้ ามารถ ระบายน้�ำได้อย่างเพียงพอ เช่น ทางทิศตะวันออกของถนนสาย บางกะป-ิ บางนา (คลองหนองบอน คลองสาหรา่ ย คลองปลัดเปรียง คลองชวดลากข้าว คลองลาดกระบงั และคลองสายอนื่ ๆ) ท่ีผา่ นมา พบว่าทางน้�ำผ่านน้ีสามารถบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัยท่ีจะ เกดิ ขน้ึ ให้กบั พ้นื ท่ใี นเขตเศรษฐกิจที่สำ� คญั ได้ ๑๑. กงั หนั นำ�้ ชัยพฒั นา : แกน้ ำ�้ เสียเปน็ นำ้� ใส เป็นการเติมออกซิเจนในน้�ำเสียด้วยเครื่องกลเติม อากาศที่ผิวน�้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย หรือ “กังหันน้�ำชัยพัฒนา” ซ่ึงมีใบพัดเคล่ือนน้�ำและซองรับน้�ำให้สาดกระจายเป็นฝอยเพื่อ ให้สัมผัสอากาศได้อย่างท่ัวถึง และเกิดฟองอากาศซึ่งจะจมตาม น้ำ� ลงไปก่อใหเ้ กิดการถ่ายเทออกซเิ จนในน�้ำเสยี ๔,๓๕๐ การทรงงาน 141 เพอื่ ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน

ประตนู ำ�้ คลองลัดโพธ์ิ แมน่ ้�ำเจา้ พระยา ๑๒. คลองลดั โพธิ์ : ลดทางนำ้� เร่งระบายนำ�้ ท่วม คลองลัดโพธ์ิ เมอื่ วนั ท่ี ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้มพี ระราชด�ำริ “…ให้พิจารณาใช้คลองลัดโพธ์ิ จังหวัดสมุทรปราการ เปน็ ทางลดั ระบายนำ�้ เหนอื ซงึ่ จะทำ� ใหช้ ว่ ยระบายนำ�้ ไดเ้ รว็ เพราะ ระยะทางส้ันเพียง ๖๐๐ เมตร ก็ออกทะเลหากวันใดมีน้�ำทะเล ขึ้นสูงกป็ ดิ ประตไู ม่ให้นำ้� ทะเลเขา้ มา...” โครงการคลองลดั โพธอิ์ นั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ จงั หวดั สมทุ รปราการ ประตู ๔ บาน ระบายน้�ำสงู สุด ๕๐๐ ลบ.ม./วินาที ช่วยร่นระยะทางการระบายน�้ำของล�ำน้�ำเจ้าพระยา จากระยะทาง ๑๘ กโิ ลเมตร เหลอื ๖๐๐ เมตร หรอื จาก ๘ ชว่ั โมง เหลอื ๑๐ นาที ซง่ึ เปน็ การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการระบายนำ�้ ของแมน่ ำ้� เจา้ พระยา ช่วงน้�ำหลาก สามารถช่วยลดผลกระทบน�้ำท่วมต่อพื้นท่ีริมแม่น้�ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยนับต้ังแต่ ปี ๒๕๔๙ โครงการประตูระบายน�้ำคลองลัดโพธ์ิอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน�้ำของ แมน่ ำ้� เจ้าพระยาได้ ๑๓. ปา่ ชายเลน : สมดุลธรรมชาติ เพ่ิมสมบรู ณ์สู่ทอ้ งทะเล ปา่ ชายเลนทำ� หนา้ ทเี่ ปน็ แหลง่ บำ� บดั นำ้� เสยี ดว้ ยวธิ ธี รรมชาติ กอ่ นปลอ่ ยลงสทู่ ะเลซงึ่ ปา่ ชายเลนจะสามารถกรองและดดู ซบั มวลสาร และส่งิ สกปรกตา่ งๆ ออกจากนำ้� เสีย จนกลาย เป็นน�้ำที่มีคุณภาพดี ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบ นิเวศน์ชายฝั่ง จนสามารถปล่อยลงทะเลได้ อยา่ งปลอดภยั “...ปัญหาสำ� คญั คอื เรอ่ื งส่งิ แวดลอ้ ม เรอ่ื งน�้ำเสยี กบั ขยะ ไดศ้ ึกษามาแล้วเหมือนกันท�ำไม่ยากนัก ในบางเทคโนโลยี ท�ำได้แล้วในเมอื งไทยเองกท็ ำ� ได.้ .. แลว้ กต็ ้องทำ� การเวยี นซ�้ำ การกรองนำ�้ ใหท้ �ำนำ�้ น้ันไม่ใหโ้ สโครก แลว้ ปล่อยนำ�้ ลงมา ที่ เป็นที่ท�ำการเพาะปลูก... หลังจากน้ันท่ีเหลอื ก็จะลงทะเลโดยไมท่ ำ� ใหน้ ำ้� นัน้ เสีย...” พระราชด�ำรัสพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัว เมอื่ วันที่ ๑๓ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๓ 142 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอื่ ประโยชนส์ ขุ แห่งมหาชน

รักษ์น้ำ� สรา้ งชวี ิต ตามแนวพระราชด�ำริ เพ่อื เผยแพร่พระปรีชาสามารถและพระมหากรุณาธคิ ุณในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ที่ได้พระราชทานพระราชด�ำริใน การพฒั นาแหลง่ นำ�้ เพอื่ ชว่ ยเหลอื พสกนกิ รใหม้ ปี จั จยั พน้ื ฐานในการประกอบอาชพี ยงั ผลใหป้ ระชาชนจำ� นวนมากสามารถยกระดบั คณุ ภาพชีวติ และประสบความส�ำเร็จในการประกอบอาชพี เกษตรกรรมอย่างเปน็ รูปธรรม ส�ำนกั งาน กปร. รว่ มกบั กรมชลประทาน จึงได้จัดการประกวดผลงานการบริหารจัดการโครงการพัฒนาแหล่งน้�ำขนาดเล็กตามแนวพระราชด�ำริข้ึนในปี ๒๕๕๔ จนได้ ต้นแบบของการบริหารจดั การน้�ำท่ดี ีจากผู้ท่ีไดร้ างวลั ชนะเลิศระดับประเทศและระดบั ภาค ไดแ้ ก่ รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ กลุ่มผู้ใชน้ ำ้� โครงการอา่ งเก็บน้�ำหว้ ยตนุ่ ตามพระราชดำ� ริ จังหวดั พะเยา จัดต้ังอย่างเป็นทางการในปี ๒๕๔๗ มีสมาชิกจ�ำนวน ๑,๐๘๙ คน ด�ำเนินการบริหารจัดการน้�ำด้วยตนเอง อย่างเปน็ รปู แบบทช่ี ดั เจน ด้วยการคิด ร่วมทำ� และร่วมรับประโยชน์ พร้อมด้วยการสนับสนุนจากชลประทาน และองคก์ รปกครอง ส่วนท้องถิ่น ท�ำให้สมาชิกได้รับการจัดสรรน้�ำอย่างทั่วถึง และสามารถประกอบ อาชีพ ตลอดจนด�ำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้หลากหลาย ทั้งการปลูกพืช เล้ียงสัตว์ การประมง และผลติ น้�ำประปาเพ่ือการอปุ โภค บรโิ ภค ปจั จบุ นั ชาวบา้ นหว้ ยหมอ้ ซง่ึ เปน็ สมาชกิ กลมุ่ ผใู้ ชน้ ำ�้ ฯ ในพนื้ ทน่ี ้ี มคี วามเปน็ อยทู่ ่ดี ีขึ้น มรี ายได้จากการประกอบอาชีพที่หลากหลาย สามารถสร้างรายไดเ้ ลีย้ ง ครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ท่ีดี จนมีได้รายได้เฉล่ีย ๒๘,๙๔๐ บาทต่อคนต่อปี (ข้อมูล จปฐ. ปี ๒๕๕๔) รางวลั ชนะเลศิ ภาคเหนอื กลุม่ บริหารการใชน้ ำ้� ชลประทาน อา่ งเกบ็ น้�ำแมท่ านอนั เน่ืองมาจากพระราชดำ� ริ จงั หวัดลำ� ปาง จากการรวมกลุ่มผู้ใช้น�้ำขั้นพื้นฐาน จนพัฒนาข้ึนเป็นกลุ่มบริหารการใช้น้�ำชลประทาน เม่ือปี ๒๕๓๑ และมีสมาชิก ๑,๑๒๒ คน เปน็ สิง่ ยำ�้ ให้เห็นถงึ ความสำ� เรจ็ ของการมีรูปแบบการบรหิ ารจดั การทีด่ ี เช่น ในยามทป่ี รมิ าณนำ้� น้อย สมาชิกกลุ่มผูใ้ ช้ นำ้� จะเลอื กปลกู พชื ทใ่ี ชน้ ำ�้ นอ้ ย เชน่ ถว่ั เหลอื ง กระเทยี ม เปน็ ตน้ ส่งผลให้สมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้�ำฯ มีน้�ำใช้ตามเวลาและปริมาณที่ ต้องการ สามารถประกอบอาชีพต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย เชน่ การเกษตรแบบผสมผสาน การเลย้ี งสตั ว์ การประมง และ การทำ� ประปาหมบู่ า้ น ทำ� ใหส้ มาชกิ กลมุ่ มรี ายไดเ้ ฉลยี่ จำ� นวน ๔๒,๙๗๓ บาทต่อคนตอ่ ปี (รายได้เฉลีย่ ของหมู่บ้านแม่กัวะ ข้อมลู จปฐ. ปี ๒๕๕๔) ความร่วมแรงร่วมใจของสมาชกิ กลุ่ม เป็นสว่ นส�ำคัญย่งิ ท่ที �ำให้กลมุ่ ฯ ไดก้ ลายเป็นตน้ แบบสำ� หรับกลมุ่ ผใู้ ชน้ �้ำอื่นๆ นำ� ไป ประยุกตห์ รือปฏบิ ตั ิตามเพือ่ สร้างความเป็นอย่ทู ีด่ ีข้นึ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 143 เพ่อื ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน

รางวลั ชนะเลิศภาคกลาง กลุ่มบริหารการใช้น้�ำอ่างเก็บน้�ำช่องกล�่ำล่าง อันเนื่องมาจาก พระราชดำ� ริ จังหวดั สระแกว้ ผลแห่งการท�ำงานร่วมกันในเชิงบูรณาการของสมาชิก กลุ่มฯ ซ่ึงต้ังขึ้นตั้งแต่ปี ๒๕๒๕ และปัจจุบันมีสมาชิก ๗๙ คน ท�ำให้สามารถใช้น้�ำชลประทานที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้การก�ำกับดูแลของคณะกรรมการบริหารกลุ่มที่มีศักยภาพ มคี วามคดิ ทกี่ า้ วหนา้ ในการวางแผนการเพาะปลกู จดั สรรการใชน้ ำ�้ ที่เป็นธรรม กำ� กับติดตามอยา่ งต่อเนื่อง มี การเก็บข้อมูลพ้ืนที่การเพาะปลูกและพืช ที่ปลูกในแต่ละช่วงฤดูกาล รวมทั้งติดตาม ประเมินผลภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต อย่างต่อเน่ืองและสม่�ำเสมอ ส่งผลให้ ราษฎรในพ้ืนท่ีเกิดความพึงพอใจในการใช้ น้�ำเพ่ือประกอบอาชีพเกษตรกรรม และมี ครอบครัวที่เป็นสุขอยู่ในพื้นท่ีท�ำกินของตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยมีรายได้เฉลี่ย จ�ำนวน ๔๐,๘๘๗ บาทต่อคนต่อปี (รายงานข้อมลู จปฐ. ปี ๒๕๕๔) รางวลั ชนะเลศิ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ กลมุ่ บรหิ ารการใชน้ ้ำ� ชลประทานอา่ งเกบ็ น้ำ� ห้วยมว่ ง จังหวดั กาฬสนิ ธุ์ มลี กั ษณะเดน่ คอื ความเปน็ ชาวภไู ทดำ� ทม่ี คี วามสมั พนั ธใ์ นลกั ษณะ ของความเป็นเครือญาติกัน ท�ำให้กลุ่มเกิดความสามัคคี ความเข้มแข็ง เป็นพ้ืนฐานท่ีส�ำคัญของพลังกลุ่มในการขับเคล่ือนกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะ เปน็ การมโี ครงสรา้ งและการแบง่ บทบาทหนา้ ทท่ี ช่ี ดั เจน รวมทงั้ การกำ� หนด แผนการจัดสรรน้�ำและกฎระเบียบท่ีสามารถบังคับใช้ได้จริง โดยก�ำหนด สทิ ธกิ ารใชน้ ้�ำ หลกั เกณฑก์ ารแบ่งนำ�้ และจำ� นวนวนั หากผูใ้ ดฝา่ ฝนื จะมีการปรับ ผลจากความร่วมแรงรว่ มใจ ตลอดจนการบริหารจดั การท่ีดขี องกล่มุ ฯ ได้สง่ ผลให้เกิดประโยชนท์ ีเ่ ป็นรูปธรรม ทำ� ใหช้ าวบา้ นห้วยมว่ งมชี ีวติ ความเป็นอยูท่ ดี่ ี โดยมีรายไดเ้ ฉลีย่ จ�ำนวน ๔๙,๑๗๒ บาทตอ่ คนตอ่ ปี (ขอ้ มูล จปฐ. ปี ๒๕๕๔) 144 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพือ่ ประโยชนส์ ขุ แห่งมหาชน

รางวลั ชนะเลิศภาคใต้ กลมุ่ สง่ เสรมิ การใชน้ ำ้� ตามทฤษฎีใหมโ่ ครงการระบบสง่ นำ้� บา้ นทงุ่ โพธิ์ อนั เนือ่ งมาจากพระราชดำ� ริ จังหวดั สงขลา พัฒนาจากกลุ่มผู้ใช้น้�ำธรรมดา มีสมาชิก ๔๓ ราย ในพน้ื ท่ี ๒๐ ไร่ สร้างเครอื ขา่ ยกลุ่มอาชีพยอ่ ยอีก ๑๓ กล่มุ ครอบคลมุ สมาชิกเกือบท้ังหมู่บ้าน แต่ละกลุ่มต่างพึ่งพาอาศัยกัน มีแนวความคิด ไปในทางเดียวกัน มีการพัฒนารูปแบบการใช้น�้ำ การพัฒนาแหล่งน้�ำ ต้นทุนให้เพ่ิมข้ึน ท�ำให้กลุ่มเกษตรกรในหมู่บ้านมีรายได้เฉลี่ยจ�ำนวน ๗๖,๓๘๗ บาทตอ่ คนตอ่ ปี (จากรายงานขอ้ มลู จปฐ. ปี ๒๕๕๔) และ มรี ายไดเ้ สรมิ เฉลย่ี ปลี ะ ๔๐,๐๐๐ บาท นอกเหนอื จากรายไดจ้ ากยางพารา ทสี่ ำ� คญั คอื การมสี ว่ นรว่ มและการรว่ มมอื กนั ภายใตก้ ารนำ� ของประธาน ซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้านที่ทุกคนยอมรับ และผู้น�ำชุมชนที่เข็มแข็งคือ ผู้ใหญ่บา้ น ๔,๓๕๐ การทรงงาน 145 เพื่อประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน

146 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook