กิเลสปุจฉา ปัญญาเฉลย
เจียระไนชีวติ ลำดบั ที่ ๑ กเิ ลสปจุ ฉา ปญั ญาเฉลย พิมพ์ครัง้ แรก กนั ยายน ๒๕๕๔ ขอ้ มลู ทางบรรณานกุ รมของสำนกั หอสมดุ แหง่ ชาติ พทุ ธทาสภิกขุ. กเิ ลสปุจฉา ปญั ญาเฉลย.-- กรุงเทพฯ : ปราณ, ๒๕๕๔. ๑๙๒ หน้า. ๑. พระธรรมโกศาจารย์ (เงอื่ ม อนิ ทปัญโญ), ๒๔๔๙-๒๕๓๖ I. ชื่อเรื่อง. ๒๙๔.๓๐๙๒๒ ISBN 978-616-7539-08-9 จดั พิมพโ์ ดย สำนักพิมพ์ปราณ ๙๕/๘ ซอยแกว้ อินทร์ ถนนกาญจนาภเิ ษก ตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ จังหวดั นนทบุร ี ๑๑๑๔๐ โทรศัพท ์ ๐-๒๑๙๕-๐๕๘๑ โทรสาร ๐-๒๑๙๕-๐๕๘๒ www.pranbooks.com เจ้าของ ผ้พู ิมพ์ผ้โู ฆษณา บริษัท ปราณ พับลิชช่งิ จำกัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชินวัฒน์ ชนะหมอก กรรมการผจู้ ดั การ สำนกั พมิ พ ์ เรงิ ฤทธ ์ิ ธชิ าญ ทป่ี รกึ ษาดา้ นกฎหมาย พนั ตำรวจตร ี อภเิ ษก ปศิ โน บรรณาธกิ ารบรหิ าร เทวัญกานต์ มุ่งปั่นกลาง บรรณาธิการฝ่ายใน ฐติ ริ ตั น ์ ศริ เิ มอื ง บรรณาธิการฝ่ายนอก รัฐวรรณ พัฒนรัชตอดุล ฝ่ายประสานงานสำนักพิมพ์ อาภรณ ์ พฒั นรชั ตอดลุ เลขานกุ ารกองบรรณาธกิ าร เยาวลกั ษณ ์ ลกู อนิ ทร ์ พสิ จู นอ์ กั ษร รวโี รจน์ คำสขุ , วชั รศิ ศรแี สงแกว้ คอมพวิ เตอร์ อโนชา พุธน้อย ฝ่ายศิลปกรรม แดนชัย วรรณศิริมงคล, ร่งุ นภา จิตจราด ภาพประกอบ เฉลิมชาติ เจริญดียิ่ง สำนักงาน บริษัท ปราณ พับลิชชิ่ง จำกัด ๙๕/๘ ซอยแก้วอินทร์ ถนนกาญจนาภิเษก ตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุร ี ๑๑๑๔๐ โทรศัพท ์ ๐-๒๑๙๕-๐๕๘๑ โทรสาร ๐-๒๑๙๕-๐๕๘๒ E-mail: [email protected] ราคา ๑๕๐ บาท
พุทธทาสนามท่านเพ้ียง ภผู า แตจ่ ิตวา่ งด่ังอา- กาศกวา้ ง ศตวรรษหนึง่ จ่งึ ปรา- กฏเกดิ คารวะพระผสู้ ร้าง สวสั ด์ิไว้วงศส์ ยาม คารวะพระผ้ผู ่านกาลเวลา พระผ้เู ปด ดวงตาสว่างไสว พระผจู้ ดุ ประทีปธรรมปักชำไว้ พระผู้ใช้วิชชาเปน็ อาวธุ คารวะสมณะแก้วผแู้ ผว้ ผอ่ ง พระผถู้ อ่ งโลกธรรมฉำ่ วิสุทธ์ิ พระผูเ้ ปร่ืองปรีชาศาสตราพุทธ พระผ้เู ป็นมนุษย์หนงึ่ มณี
คารวะพระผเู้ สกซงึ่ สวนโมกข์ ผ้เู ป็นโชคเปน็ ศักดาเปน็ ราศี เปน็ นกั คิดเป็นนักเขยี นเป็นกวี เป็นเมธีแห่งธรรมพระสัมมา คารวะครตู ้นคนสำคัญ ผู้แบ่งปนั ธรรมวโิ มกข์โลกศึกษา พระล่วงแล้วไม่ลาลบั กับเวลา ยังตรตู ราด้วยตัวตนแหง่ ผลงาน ว.วชริ เมธี ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ภาวนาศรมออกซฟอร์ด เมอื งออกซฟอร์ด ประเทศสหราชอาณาจกั ร
๓๐ มถิ ุนายน ๒๕๕๔ เร่ือง ขออนุญาตจัดพิมพ์หนงั สือ เรยี น คณุ เมตตา พานิช สง่ิ ที่สง่ มาด้วย ๑. อาร์ตเวริ ก์ “ถามชวี ติ กับท่านพทุ ธทาส ตอน ใช้ชวี ิตอย่างไร” ๑ ๒. ตน้ ฉบับ “ถามชวี ิตกับท่านพุทธทาส ตอน เข้าใจถกู ต้องหรอื ยัง” ๒ หนงั สอื ธรรมะเป็นหนงั สือทีช่ ว่ ยจรรโลงใจใหผ้ อู้ ่านคดิ ดี พดู ดี ทำดี ช่วยให้ สงั คมพฒั นาไปในทางทถ่ี กู ตอ้ ง ชว่ ยเยยี วยารกั ษาสงั คมทก่ี ำลงั เจบ็ ปว่ ยจากวฒั นธรรม บริโภคนิยม หากใครได้อ่านหนังสือธรรมะที่ดีแล้ว ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ ชีวติ ประจำวนั ได้ สำนกั พมิ พ์ปราณ เป็นสำนกั พิมพใ์ นเครือของบริษัท ปราณ พับลิชชง่ิ จำกดั พิมพ์หนังสือแนวธรรมะ จิตวิทยา และหนังสือที่เน้นจรรโลงใจให้สังคมสงบสุข มแี ตค่ วามดงี าม ตวั อยา่ งหนงั สอื ทส่ี ำนกั พมิ พจ์ ดั พมิ พ์ เชน่ ผลงานของทา่ น ว.วชริ เมธี เรอ่ื ง มองลกึ นกึ ไกล ใจกวา้ ง, ความทกุ ขม์ าโปรด ความสขุ โปรยปราย, คดิ ถกู โปรง่ ใส ใจสงู , คนดลใจ, ลายแทงแหง่ ความสขุ , หนง่ึ คนตาย ลา้ นคนต่ืน เปน็ ต้น ผมในนามตวั แทนของบรษิ ทั ปราณ พบั ลชิ ชง่ิ จำกดั เหน็ วา่ ควรจะสนบั สนนุ ให้มีการจัดพิมพ์หนังสือธรรมะหลากหลายมากขึ้น ในรูปแบบที่น่าสนใจสำหรับคน ทว่ั ไป เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ อ่ พทุ ธศาสนกิ ชนอยา่ งทว่ั ถงึ ดงั นน้ั จงึ มคี วามประสงคจ์ ะ ขอนำผลงานหนังสือของหลวงพอ่ พทุ ธทาสไปดำเนินการจดั พมิ พ์ดังมีรายช่อื ต่อไปน้ี ๑. ถามชวี ิตจากท่านพุทธทาส ตอน ใชช้ ีวติ อย่างไร ๓ หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมคำบรรยายของท่านพุทธทาสเกี่ยวกับเรื่องชีวิต ต้งั แต่เร่มิ ตน้ จนถงึ จุดสนิ้ สุด แล้วนำเสนอในรปู แบบของคำถาม คำตอบ โดยได้แบง่ ประเดน็ ออกเปน็ การเกิด การดำรงอยู่ ครอบครัว ความสขุ ความทกุ ข์ ความเจบ็ ไข้ ความตาย การปฏบิ ตั ธิ รรม และนพิ พาน ซง่ึ คำตอบเหลา่ นท้ี ำใหเ้ ราเขา้ ใจชวี ติ และรวู้ า่ ชีวิตจะดำเนนิ ไปอย่างไรจึงจะคุม้ ค่าที่สุด ๑ และ ๓ ภายหลังเปล่ยี นช่ือเปน็ “กิเลสปุจฉา ปญั ญาเฉลย” ๒ และ ๔ ภายหลงั เปลีย่ นชือ่ เป็น “พลกิ กะลาคว่ำใหห้ งาย”
หนงั สอื เลม่ น้ี สำนกั พมิ พไ์ ดจ้ ดั ทำอารต์ เวริ ก์ ไปบา้ งแลว้ ดงั ตวั อยา่ งอารต์ เวริ ก์ ท่แี นบมานี้ ๒. ถามชีวิตจากท่านพุทธทาส ตอน เขา้ ใจถูกตอ้ งหรอื ยัง ๔ หนงั สอื เลม่ นไ้ี ดร้ วบรวมคำบรรยายของทา่ นพทุ ธทาสเกย่ี วกบั เรอ่ื งความเชอ่ื ความจริง ความรู้ แล้วนำเสนอในรูปแบบของคำถาม คำตอบโดยได้แบ่งประเด็น ออกเปน็ การศึกษา กามารมณ์ การงาน การเงนิ ดี ช่ัว กรรม นรก สวรรค์ บญุ บาป ผี วิญญาณ ความเช่อื และวิทยาศาสตร์ ซ่ึงคำตอบต่างๆ เหลา่ นี้ทำใหเ้ ราเข้าใจโลก และชว่ ยใหแ้ ยกแยะได้ว่า สง่ิ ใดคอื ความดี ความจริง หรอื สิ่งใดเป็นแคส่ ิง่ หลอกลวง หนังสือเล่มนี้ อยู่ระหว่างการตรวจเนื้อหา เพื่อนำไปจัดอาร์ตเวิร์ก ดังนั้น จึงสง่ เป็นไฟล์ต้นฉบับมาให้ดูดงั ท่ีแนบมาน้ี จดุ ประสงค์ของการจัดพิมพ์ ๑. เพอ่ื ใหห้ นงั สอื ธรรมะทด่ี ไี ดก้ ระจายไปสสู่ งั คมในวงกวา้ ง ในรปู แบบใหมๆ่ ตอบโจทย์กบั ปญั หาของสังคมในปัจจุบัน ๒. เพ่อื จดั รูปเล่มหนังสอื ให้สวยงามน่าอ่าน ให้เข้าถึงผู้อา่ นทกุ เพศทกุ วัย ดงั นน้ั ผมจงึ กราบเรยี นมาเพอ่ื ขออนญุ าตนำผลงานของทา่ นอาจารยพ์ ทุ ธทาส- ภิกขไุ ปจัดพมิ พ์จำหน่าย โดยจะมอบหนังสือจำนวนหน่งึ หรือตามทธี่ รรมทานมลู นธิ ิ แจ้งความประสงค์มามอบให้กบั ธรรมทานมูลนิธิ เพอื่ กระจายหรือสง่ ตอ่ ใหก้ ับผู้อ่าน ที่สนใจต่อไป กราบเรียนมาดว้ ยความเคารพอยา่ งสงู (เทวญั กานต์ มุ่งป่ันกลาง) บรรณาธิการบริหารสำนกั พิมพ์ปราณ
ÊÒúÑÞ
“ ศีล คือ การบังคับตัวเองทางด้านกายและวาจาโดยเด็ดขาด โดยไม่มีช่องทางที่จะตามใจภูตผีปศาจเหลืออยู่อีกเลย สมาธิ คือ การบังคับตัวเองในด้านจิตใจโดยเด็ดขาด โดยไม่มีช่องทางที่จะตามใจกิเลส หรือเปดโอกาสให้กิเลสอีกเหมือนกัน ส่วน ปญญา น้ัน คือการทำลายรากเหง้าของกิเลส อันเป็นเหตุให้ตามใจตัวเองเสียโดยส้ินเชิง ไม่มีอะไรเหลืออยู่สำหรับจะงอกเงยเป็นการตามใจตัวเองได้อีกต่อไป ”
¡ÔàÅʻب©Ò »˜ÞÞÒà©Å พุทธทาสภิกขุ
¡ Ò Ã à ¡Ô ´
¡ Ò Ã à ¡Ô ´ ความเอย ความเกิด จงดูเถิด ยากเข็ญ เปน ไหนไหน เจ็บปวดทั้ง แมลกู เหมือนถกู ไฟ เพอื่ อะไร กนั แน ลองแกมา เกิดเพอ่ื กิน เพอ่ื เลน หรอื เพื่อหลับ หรือเพือ่ รบั มรดก กระมังหนา หรอื เกดิ เพียง เพ่อื เติบโต เชน โคลา สว นตูวา เกิดเพ่ือกอ บอ บุญเอย สิรวิ ยาส
ã ¤ à ·ÓãËŒàÃÒà¡Ô´ÁÒ áÅÐà¡Ô´ÁÒà¾è×ÍÍÐäà พูดอยางกำปนทุบดินกอน ไมมีทางผิดวาพระธรรมสราง เรามา เพื่อใหเรามีธรรม คุณจะฟงออก ชอบหรือไมชอบก็ตาม พระธรรมนี้สรางเรามาเพื่อใหเรามีธรรม สรางมนุษยมาเพื่อใหเรา มีธรรม เมื่อมีธรรมแลวก็จะไดแตกตางจากสัตว ฉะนั้น เขาจึงมี คำพูดมาแตโบราณดึกดำบรรพวา “ธรรมะนี้เพื่อความผิดแปลก แตกตางจากสตั ว” ถา ทอ งคาถานไ้ี วบ า งกจ็ ะดวี า “อาหารนทิ ทฺ า ภยเมถนุ จฺ ” การแสวงหาความสุขจากการกินอาหารก็ดี การแสวงหาความสุข จากเมถุนธรรมก็ดี และการรูจักขี้ขลาดตออันตราย รูจักหนีภัย กด็ ี “สามฺเมตปฺปสุภิ นรานํ” ๔ อยางนี้มีเสมอกันระหวางคน กับสัตว “ธมโฺ ม หิ เตสํ อธิโก วิเสโส” ธรรมะเทา น้นั ทจ่ี ะทำความ ผิดแปลกแตกตางระหวางคนกับสัตว “ธมฺเมน หีนา ปสุภิ สมานา” เมื่อเอาธรรมะออกไปเสียแลว คนก็เทากันกับสัตว มีใจความวา ธรรมะนี้ทำใหคนตางจากสัตว ธรรมะสรางคน ขึ้นมาผิดจากสัตวก็เพราะวา ตองการใหคนมีธรรมะอยางคน อยางมนุษย ¾Ø·¸·ÒÊÀÔ¡¢Ø ๕
เดี๋ยวนี้ เราก็เรียกตัวเองวาเปนคน หรือเปนมนุษย มัน ก็ตองมีธรรมะ ถาใครไมมีธรรมะก็ไมตางอะไรจากสัตว คำวา “ธรรมะ” ในที่นี้ก็หมายถึง ธรรมะสำหรับคน ธรรมะเพื่อมนุษย เพื่อคน ก็คือ รูวาเกิดมาทำไม แลวก็ทำไปใหถึงที่สุด จากพระธรรมเทศนาอบรมพระนิสิตฯ บวชภาคฤดรู อน เม่ือวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๓ ๖ ¡ÔàÅʻب©Ò »˜ÞÞÒà©ÅÂ
¡ Ò Ã àÇÕ¹NjÒ µÒÂà¡Ô´ ÁÕ¨ÃÔ§ËÃ×Í สำหรับเรื่องนี้เรายังเขาใจผิด เรื่องการเกิด การตาย ผูเกิด ผูตาย แตถาบุคคลนั้นรูเรื่องนิพพานแมโดยทางหลักวิชาแลว เรื่องนี้ไมเปนปญหา ชีวิตของมนุษยประกอบขึ้นดวยธาตุ ๖ ธาตุดวยกัน มา รวมกันเขาพอดีก็เปนชีวิต ธาตุเหลานั้นคือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ วิญญาณธาตุ และอากาศธาตุ ธาตุเหลานี้กำลัง เลื่อนไหลไป หรือเกิด ๆ ดับ ๆ ตลอดเวลา ซึ่งจะหาสิ่งที่เปน “ตัวเรา” “ของเรา” ไมพบเลย เกี่ยวกับเรื่องธาตุตางๆ ตรงกับธาตุในวิทยาศาสตร แต เรียกชื่อผิดกันไป เชน คำวา ธาตุดิน หมายถึงคุณสมบัติแหง ความเปนของแข็ง, คำวา ธาตุน้ำ หมายถึงสิ่งซึ่งเปนคุณสมบัติ ของการไหล ธาตุลม หมายถึงคุณสมบัติของสิ่งซึ่งเปนการระเหย ลอยตวั , ธาตไุ ฟหมายถงึ อณุ หภมู ใิ นหลกั วทิ ยาศาสตร ธาตทุ ง้ั สน่ี ้ี ตามศัพทเรียกวารูปธาตุ สวนวิญญาณธาตุนั้น แปลวาธาตุที่สามารถรับรูอารมณ ภายนอก ที่เปนรูปธาตุทั้งหลายเหลานั้น และตัวมันเอง จัดเปน นามธาตุ ซึ่งในวิทยาศาสตรไมมี และเชนเดียวกัน อากาศธาตุ ¾Ø·¸·ÒÊÀÔ¡¢Ø ๗
ในทน่ี ห้ี มายถงึ ทว่ี า งไมม อี ะไรเลย ซง่ึ เรากเ็ รยี กวา ทว่ี า งนน้ั มอี ยู คอื ท่ีๆซ่งึ รา งกายเราแทนทอี่ ยเู ดยี๋ วนี้ เรากน็ บั ไปอีกธาตหุ นงึ่ ในทาง วิทยาศาสตรเรียกสุญญากาศ vacuum ไมเรียกวาเปนธาตุตาม ความหมายทางวัตถุ ตอบปญ หาแกนิสิตจฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลยั กลมุ ศกึ ษาพทุ ธศาสตรและประเพณี ส.จ.ม. ณ วดั ปทุมคงคา ครง้ั ที่ ๒ เมื่อวนั ที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๐๓ ๘ ¡ÔàÅʻب©Ò »˜ÞÞÒà©ÅÂ
Ë Ò ¡Í´ÕµªÒµÔ¡ÒÃàÇÕ¹NjÒµÒÂà¡Ô´äÁ‹ÁÕ¨ÃÔ§ ·ÓäÁÂѧ¾ºÍÂً㹤ÓÊ͹¢Í§¾Ãоط¸Í§¤ คำสอนของพระพุทธเจาที่กลาวถึงอดีตชาตินั้นก็มีอยูบาง แต มิไดมากมายเหมือนคัมภีรชาดก หรือคัมภีรอรรถกถา ที่ตกแตง รอยกรองกันขึ้นในหนหลัง คืออดีตชาติโดยทางเนื้อหนัง ที่ตาย เขาโลงแลวจึงเกิดอีก แลวมีเรื่องอื่นอีกนั้น มันก็เปนเรื่องที่เขา กลาวกันอยูกอนพระพุทธเจา นอกคำสั่งสอนของพระพุทธเจา กม็ ี ในคมั ภรี อ ปุ นษิ ทั ของพวกพราหมณก ก็ ลา วอยา งน้ี พทุ ธบรษิ ทั อยาไปตู ไปผูกขาดมาเปนของตนหรือเปนของพระพุทธเจาเลย มันควรจะเขารูปเดิมที่วา ถาตองการที่จะเกิดดีก็ทำใหดี ทำอยางนั้นๆ ทำใหดีจะไดเกิดดี เทานี้ก็พอ นี่เรียกวาเตรียม ชาตินี้ไวสำหรับการเกิดดี แตคำวา “ชาติ”ของเรามันละเอียดถี่ยิบ กวานั้น เกิดตัวกูครั้งนี้ใหจดจำไวศึกษาใหดี ปฏิบัติใหดี สำหรับ จะมีผลดีแกการเกิดตัวกูครั้งหลัง ๆ วนั หนง่ึ ๆเกดิ ตวั กู-ของกกู ค่ี รง้ั ๆกน็ บั วา ชาตหิ นง่ึ ๆ ฉะนน้ั ในปเดียวก็มีไดหลายรอยชาติหลายพันชาติ กวาจะตายก็มีตั้ง หลายหมื่นหลายแสนชาติ เวียนวายหลายหมื่นชาติตามแบบนี้ แลว กจ็ ะพบความจรงิ ทจ่ี ะหลดุ พน ออกไปจากวฏั ฏสงสารได ฉะนน้ั หลักที่วามันเนื่องกันนี้ เรายอมรับวาเกิดตัวกูชาตินี้มันก็มีผล ¾Ø·¸·ÒÊÀÔ¡¢Ø ๙
เกี่ยวโยงไปถึงการเกิดตัวกูชาติหนา คือครั้งหลังๆ การเกิดตัวกู- ของกูครั้งนี้จะมีผลเกี่ยวโยงไปถึงการเกิดตัวกู - ของกูครั้งหลัง ๆ วันหนึ่งก็มีหลายๆครั้ง ฉะนั้นการที่มีผลกรรมสืบตอถึงกันมันก็ มีได พระพุทธเจาทานไมคัดคานเรื่องชาติ หรือการเวียนวาย ในชาติตามแบบที่เขากลาวอยูกอน ทานยอมรับเอามาเปนคำสอน ในพระพทุ ธศาสนานก้ี แ็ ตเ พยี งวา ใหท ำไวใ หด จี ะไดไ ปเกดิ ชาตใิ หม ที่ดี ชาติชนิดนั้นมันยังไกลนัก ยังไมเปนปญหา มันมีตอเมื่อ ตายแลว แตวาชาติที่เปนปญหาคุกคามอยูเดี๋ยวนี้ที่นี่ แตละวันๆ ไมรกู ีช่ าตนิ ่ี ควรจะจัดการกนั กอน เพราะมันคุกคามเราเหลือเกิน จงทำใหการเกิดตัวกู - ของกูในครั้งนี้ใหมีประโยชนแกการเกิด ตวั กู-ของกใู นครง้ั หลงั นม่ี นั จะไดเ ปน การเวยี นวา ยทด่ี ขี น้ึ ๆจนกวา จะหมดปญ หา แลว เรากไ็ มไ ดป ฏเิ สธเรอ่ื งอดตี ชาติ หรอื เรอ่ื งอะไร ตางๆ แลวก็เชื่อยิ่งกวาเชื่อ เห็นจริงยิ่งกวาจริง สันทิฏฐิโกจริง อกาลิโกจริง แตตองในคำอธิบายอยางนี้ ไมใชคำอธิบายเพอเจอ ไมม ปี ระโยชน แลว กไ็ มร สู กึ วา เปน โทษเปน ภยั อะไร ใครจะใหอ ภยั หรอื ไมใหอภัยก็ไมม คี วามหมายแกเ รา จากบรรยายธรรมในลักษณะถาม -ตอบในวาระทหี่ นง่ึ ณ ลานหินโคง สวนโมกขพลาราม ไชยา เมอ่ื วันลออายุ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๒๓ ๑๐ ¡ÔàÅʻب©Ò »˜ÞÞÒà©ÅÂ
· Ó ä Á ¡ÒÃàÇÕ¹NjÒ µÒÂà¡Ô´ ¨Ö§à»š¹·Ø¡¢ อุปมาที่จำงายๆถือวาทั้งหมดของพวกเรานี้เปนชาวนา ก็พูด เรอ่ื งทำนาเปน อปุ มาวา เราอยากจะทำนา แลว เรากท็ ำนา แลว เราก็ ไดข า วเปลอื ก ไดข า วเปลอื กแลว กอ็ ยากจะทำนาอกี แลว กท็ ำนาอกี แลวก็ไดขาวเปลือกอีก แลวก็อยากจะทำนาอีก แลวก็ทำนาอีก แลวก็ไดขาวเปลือกอีก แลวก็อยากจะทำนาอีก นี้คือ วงกลม ของกิเลส ของกรรม และของวิบาก การอยากทำนาเหมือนกับกิเลส ถาอยากดวยความโงเขลา แลวก็ยิ่งเปนกิเลสโดยตรง พอทำนาก็เปนกรรม คือการกระทำ แลวก็มีผลกรรม คือการไดขาวเปลือกมา เรียกวาเวียนวายอยูใน วัฏฏสงสารแหงการทำนา แลวเมื่อไรมันจะจบจะสิ้น มันจบสิ้น ไมได ถามันยังมีตัวตน ที่ยังเปนตัวเปนตนยึดถือเปนตัวตนอยู มันตองกินอาหาร มันก็ตองทำไปอยางนี้ แตวาใจความสำคัญมันไมไดอยูที่ตรงนี้ มันอยูที่วามีความ ทุกข หรือไมมีความทุกข ถามีความทุกขแลวก็ใหถือวาเปนเรื่อง เสียหาย รีบแกไขเสียอยาใหมันมีความทุกข ถาจะทำนา ก็อยา ทำนาดว ยกิเลส อยา มกี เิ ลสที่เปน เหตุให ทำนา แตใ หม ีสติปญ ญาที่รสู ิง่ ทงั้ ปวงตามทเี่ ปน จรงิ แลวเปนเครือ่ ง ¾Ø·¸·ÒÊÀÔ¡¢Ø ๑๑
ชี้บอกวาทำนา ถาทำก็ทำดวยสติปญญา ก็ตองไมทำดวยกิเลส แลวไดขา วเปลอื กมาก็ไมยึดมน่ั ถอื มนั่ ไมหลงใหลดว ยอำนาจของ กิเลส มนั ก็เหมอื นกบั ไมไดมา ในที่สดุ มันกเ็ หมือนกบั ไมไ ดทำนา ไมไ ดเ ปน ทาสของกเิ ลสทเ่ี ปน เหตใุ หท ำนา มนั กอ็ ยอู ยา งเหมอื นกบั วา ไมไ ดท ำนา อยางนีก้ ไ็ มมคี วามทกุ ข ถากิเลสหรืออวิชชามีมาก มันทำไปดวยกิเลส เมื่ออยาก จะทำมันก็เปนทุกขเสียแลว เมื่อทำอยูก็เปนทุกข ไดขาวเปลือก มามนั กเ็ ปน ทกุ ข ยดึ ถอื หนกั หนว งหนกั อง้ึ อยใู นจติ ใจ คนจนกเ็ ปน ทุกขตามแบบคนจน คนรวยก็เปนทุกขตามแบบคนรวย นี่เพราะ ยึดมั่นดวยอำนาจของกิเลส เราจงพจิ ารณาดใู หด วี า การเวยี นวา ยตายเกดิ นน้ั โดยแทจ รงิ แลวตองเปนเรื่องของกิเลส ถาไมเปนเรื่องของกิเลสแลวมันไม เวียนวายตายเกิด ไมเรียกวาเวียนวายตายเกิด มันก็เวียนวาย ตายเกิดอยางภาษาคน ตายแลวเขาโลงไป แลวมาเกิดใหม แลว เขาโลงอีก แลวเกิดใหมอีก ถาไมมีกิเลสไปหลงใหลเอาเปนตัว เปนตนวาเปนคน มันก็ไมมีการเวียนวายตายเกิด ดสู ตั วเ ดรจั ฉาน มนั ไมไ ดห ลงใหลยดึ ถอื วา เวยี นวา ยตายเกดิ มันก็ตายและเกิดไปตามธรรมชาติ ไมมีความมั่นหมายเปน ตัวกูตาย ตัวกูเกิด ตัวกูเกิดมา ตาย เกิด ตาย เกิด เปนตัวกู อยูคนเดียวอยางนี้ จากธรรมโฆษณข องพทุ ธทาส ชุด “อะไรคืออะไร” หมวดที่ ๔ ชมุ นุมธรรมบรรยาย อนั ดบั ที่ ๓๗.ค บนพน้ื แถบสีนำ้ เงิน ๑๒ ¡ÔàÅʻب©Ò »˜ÞÞÒà©ÅÂ
· Ó Í‹ҧäà ¨Ö§¨ÐËÂØ´¡ÒÃàÇÕ¹NjÒµÒÂà¡Ô´ การที่จะหยุดเวียนวายตายเกิดเสียไดก็คือการทำลายตัวกูเสีย ตามวิธีของพุทธศาสนาไมไดมุงหมายวาใหตัวกูนี้ไปเปนอัตตา ท่ีดที ี่ใหญ แลว ไปรวมกับบรมอัตตา ซึ่งเปน ลทั ธินอกพทุ ธศาสนา ที่เรียกวาฮินดู ทีนี้เราจะมาหยุดความโงหลงวาอัตตา ตัวเราวาของเรา เสียใหไดที่นี่และเดี๋ยวนี้ อยาใหมีตัวนี้เปนตัวเวียนวายตายเกิด แลว มนั กห็ ยดุ เวยี นวา ยตายเกดิ จะเปน อะไรอยกู ไ็ ด จะเปน ชาวนา ที่ทำนาอยูก็ได อยามีตัวตนที่เปนที่ตั้งแหงความยึดถือวา กูทำนา แลว กก็ ไู ดข า ว แลว กก็ อู ยากรวยอกี กกู ท็ ำนาอกี ถา มตี วั กอู ยา งน้ี อยใู นจติ ใจ เปน ความรสู กึ ของอปุ าทานแลว กเ็ รยี กวา มกี ารเวยี นวา ย ตายเกิดในวัฏฏสงสารอยูในการทำนานั้นเอง ทีนี้ถาเปนลูกศิษยของพระพุทธเจาจริง ๆ ทำนาอมตะกัน เสียบาง ศึกษาใหรูวามันไมมีตัวกูอะไรที่เปนตัวตนอยางนั้น มัน มแี ตน าม รปู คอื กายกบั ใจ สามารถคดิ นกึ อะไรได คดิ นกึ ผดิ ไป มันก็เกิดการปรุงแตงเปนตัวตน ก็หนักอึ้งอยู คิดนึกใหถูกตอง มันก็ไมรูสึกเปนตัวตน มันก็เบาสบาย เราอยาใหมีตัวตนอยางนี้ มันก็จะไมมีอะไรเวียนวาย แมวาจะตองทำนา จะตองไดขาว ¾Ø·¸·ÒÊÀÔ¡¢Ø ๑๓
จะเกย่ี วขา ว แลว กท็ ำนาอกี ทำไปเถอะ มนั กไ็ มเ ปน การเวยี นวา ย อยูในวัฏฏะแหงการทำนา ถาชาวนาคนไหนทำไดอยางที่กลาวมานี้ ก็เปนลูกศิษยที่ แทจริงของพระพุทธเจา ยิ่งกวาคนที่เปนพระเปนเณรอยูตามวัด ตามวา แตไมรูจักทำจิตใจใหหมดความยึดถือวาตัวกูวาของกู ฉะนน้ั อาตมาจงึ ถอื วา เรอ่ื งไมเ วยี นวา ยตายเกดิ น้ี เปน เรอ่ื ง สำหรบั ทกุ คน แมท อ่ี ยูท่บี า นทเ่ี รอื น จะทำไร ทำนาคา ขายทำงาน อยางใดก็ตาม ขอใหอยาทำไปดวยความยึดมั่นถือมั่นเปนตัวตน แลวก็เวียนวายอยูในการกระทำและในผลของการกระทำ คือ ศึกษาใหรู ใหมีจิตใจสะอาด สวาง สงบ ปราศจากความโงหลง วาเปนตัวตน วาเปนของตน แลวทำอะไรก็ทำไป มันจะไมเปน การกระทำทเ่ี ปน ความยดึ มน่ั ถอื มน่ั ไมเ ปน กรรม ไมเ ปน ผลกรรม ไมเปนกิเลสนี้ก็ทำไปได จากธรรมโฆษณของพุทธทาส ชุด “อะไรคอื อะไร” หมวดที่ ๔ ชุมนุมธรรมบรรยาย อันดบั ท่ี ๓๗.ค บนพืน้ แถบสนี ำ้ เงนิ ๑๔ ¡ÔàÅʻب©Ò »˜ÞÞÒà©ÅÂ
¤ ¹ µÒÂáÅŒÇà¡Ô´ãËÁ‹ËÃ×ÍäÁ‹ ¶ŒÒäÁ‹¶Ö§¹Ô¾¾Ò¹¨Ðä»à¡Ô´·Õèã´ ทว่ี า ตายไปแลว เกดิ ใหมห รอื ไมน ้ี กไ็ ดพ ดู ไวใ นบรรยายครง้ั หนง่ึ วา เกิดนั้นหมายความวาอยางไร การเกิดจากทองแมครั้งหนึ่ง แลว ตายไป ไปเผา ไปฝง ครง้ั หนง่ึ นน้ั มนั ไมใ ชค วามเกดิ ทแ่ี ทจ รงิ เปนความเกิดทางรางกายตามที่ชาวโลกเขาพูดกัน ความเกิดที่แทจริงหมายถึงเกิดทางจิตใจ ที่เกิดเปนกิเลส ตณั หา เปน ตวั กขู องกขู น้ึ ในจติ ใจครง้ั หนง่ึ เรยี กวา เกดิ ครง้ั หนง่ึ แลว มันก็ดับไป เมื่อเรื่องนั้นเสร็จแลวมันก็เกิดอีก เพราะวาเชื้อของ กเิ ลสตณั หายงั ไมส น้ิ รปู เสยี ง กลน่ิ รส สมั ผสั ภายนอกกเ็ ขา มา แวดลอ มอยเู รอ่ื ย เพราะฉะนน้ั จงึ เกดิ เรอ่ื ย เอาเกดิ อยา งนก้ี นั ดกี วา เปนเรื่องการดับทุกขโดยตรง แลวเกิดเรื่อย เราตองทำจนไมให มนั เกดิ ถา จติ ยงั ไมถ งึ นพิ พาน คอื วา ไมห มดกเิ ลสตณั หา วนั หนง่ึ ๆ ก็ตอ งเกิดเรื่อย ไมรูวา สกั กส่ี บิ ครงั้ กีร่ อยครงั้ มันเกิดเรือ่ ย จะไปเกิดในที่ใดนั้น มันเกิดตามที่ความคิดเกิดขึ้นอยางไร ถาในขณะนี้บุคคลนั้นไดมีความคิดนอมคิดไปในทางต่ำเหมือนกับ จติ ใจของสตั ว คนนน้ั กเ็ กดิ เปน สตั วแ ลว ฉะนน้ั จงึ วา ไปเกดิ เปน สัตว ไปเกิดในโลกของสัตวในภูมิของสัตวทั้งๆ ที่รูปรางกายนี้ เหมือนคน ทีนี้ความคิดเปนไปในทางสูงเหมือนกับคน ก็เกิดเปน ¾Ø·¸·ÒÊÀÔ¡¢Ø ๑๕
คนอกี มาเกดิ เปน คนอกี หรอื วา ความคดิ ไปลมุ หลงในทางกามคณุ อันเปนทิพย มันก็เกิดเปนเทวดา อยางนี้จึงเรียกวาภูมินั้นภูมินี้ กามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ คือภูมิของจิตใจ ที่มัน เปนไดแกคนทุกคน แลวแตวาสิ่งแวดลอมหรือการศึกษา หรือ การอบรมนี้มันจะมีอยูอยางไร ฉะนั้น ตอบไดวาที่แทจริงโดยหลักธรรมะนั้น มันจะเกิด ใหมอ ยเู รอ่ื ยตลอดเวลาทก่ี เิ ลสตณั หายงั อยู ทว่ี า กเิ ลสตณั หายงั อยู คือยังไมนิพพาน แลวมันจะตองไปเกิดในที่ใดที่หนึ่งตามตัณหา พาไป มีกิเลสตัณหาอยางสัตว ก็เปนสัตว มีกิเลสตัณหาอยาง คนก็เปนคน มีกิเลสตัณหาอยางเทวดา ก็เปนเทวดา มีกิเลส ตัณหาอยางละเอียดชั้นสูงสุดก็เปนอยางพรหม ก็เกิดเปนพรหม ทีน้ถี า ในทางต่ำมีความทุกขเรารอ นอยูในใจ มกี ิเลสตณั หาอยางต่ำ มันก็เกิดเปนสัตวนรกบาง เดรัจฉานบาง เปรตบาง อสุรกายบาง ทั้งที่รางกายอยูในรูปที่เรียกกันวาคน เขาจึงเรียกวาภูมิของจิต แลวแตวาจิตตั้งอยูในภูมิไหน มันก็เกิดในภูมินั้น ตอบปญหาผพู พิ ากษา รุน ๒๕๐๔ ณ หองบรรยายเนติบัณฑติ ยสภา พ.ศ.๒๕๐๔ ๑๖ ¡ÔàÅʻب©Ò »˜ÞÞÒà©ÅÂ
ติดตามผลงานของ ว. ว ชิ ร เ ม ธี พร้อมทั้งประวัติและภารกิจอย่างละเอียดได้ที่ www.dhammatoday.com http://www.facebook.com/v.vajiramedhi http://twitter.com/vajiramedhi บุคคลหรือองคก์ รใดสนใจสั่งซ้ือหนังสอื เล่มนี้จำนวนมากในราคาพเิ ศษ เพอื่ แจกจา่ ยในงานสาธารณกุศลต่าง ๆ หรือบริจาคให้วดั ห้องสมดุ โรงเรียน เด็กและเยาวชน โปรดติดต่อ บริษทั ปราณ พับลิชชิ่ง จำกัด ๙๕/๘ ซอยแก้วอินทร์ ถนนกาญจนาภิเษก ตำบลเสาธงหนิ อำเภอบางใหญ่ จงั หวัดนนทบรุ ี ๑๑๑๔๐ โทรศพั ท ์ ๐-๒๑๙๕-๐๕๘๑ โทรสาร ๐-๒๑๙๕-๐๕๘๒ E-mail: [email protected] www.pranbooks.com
กิเลสปุจฉา ปัญญาเฉลย
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: