Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือความปลอดภัยKSS

คู่มือความปลอดภัยKSS

Published by Guset User, 2022-06-28 08:19:06

Description: คู่มือความปลอดภัยKSS

Search

Read the Text Version

บริษทั เกาสุ แพคกงิ้ (ศรีราชา) อนิ ดสั ตรี้ จากดั KAOSU PACKING (SRIRACHA) INDUSTRY CO.,LTD. 533/44 หมู่ 1 ตำบลหนองขำม อำเภอศรีรำชำ จงั หวดั ชลบุรี โทร. 038-340230-3 แฟกซ์. 038-340234 533/44 MOO1 , TUMBON NONGKARM, AMPHUR SRIRACHA, CHONBURI, THAILAND TEL : (038) 340230-3 FAX : (038) 340234

นโยบายความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน ดว้ ยบริษทั เกำสุ แพคกิ้ง (ศรีรำชำ) อินดัสตร้ี จำกดั มีควำมห่วงใยต่อชีวิตและสุขภำพของ พนกั งำน ดงั น้นั จึงเห็น สมควรให้มีกำรดำเนินงำนดำ้ นควำมปลอดภยั อำชีวอนำมยั และสภำพแวดลอ้ มใน กำรทำงำนควบคูไ่ ปกบั หนำ้ ที่ ประจำของพนกั งำนจึงไดก้ ำหนดนโยบำยไว้ ดงั น้ี 1.บริษทั กำหนดให้ควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนถือเป็ นหนำ้ ที่รับผิดชอบอนั ดบั แรกในกำรปฏิบตั ิงำน ของพนกั งำนทุกคน 2.บริษทั ตอ้ งปฏิบตั ิตำมกฎหมำย ข้อบงั คบั ระเบียบ และมำตรฐำนท่ีเกี่ยวข้องกบั ควำมปลอดภยั อำชีวอนำมยั และสภำพแวดลอ้ มในกำรทำงำนอยำ่ งเคร่งครัด 3.บริ ษัทป้องกันกำรเกิดอุบัติเหตุ อันตรำย และควำมเจ็บป่ วยจำกกำรทำงำนของพนักงำน จำกกำรดำเนินกิจกำรของบริษทั 4.บริษทั จะสนบั สนุนและส่งเสริมใหม้ ีกำรปรับปรุงสภำพแวดลอ้ ม และวิธีปฏิบตั ิงำนท่ีปลอดภยั อยำ่ ง ตอ่ เนื่องตลอดจนกำรใชอ้ ุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรำยที่เหมำะสม รวมถึงกำรรักษำไวซ้ ่ึงสุขภำพอนำมยั ท่ีดี ของพนกั งำนทุกคน 5.บริษทั จะสนบั สนุนและส่งเสริมให้มีกิจกรรมควำมปลอดภยั ต่ำง ๆ ที่จะช่วยกระตุน้ จิตสำนึกดำ้ น ควำมปลอดภยั ของพนกั งำนท้งั ในงำนและนอกงำน ไดแ้ ก่ กำรอบรม จูงใจ ประชำสมั พนั ธ์ 6.บริษทั กำหนดให้ผูบ้ งั คบั บญั ชำทุกระดบั จะต้องกระทำตนให้เป็ นแบบอย่ำงที่ดี เป็ นผูน้ ำ อบรม สงั่ สอน และกระตุน้ จิตสำนึกใหพ้ นกั งำนปฏิบตั ิงำนดว้ ยวธิ ีที่ปลอดภยั 7.บริษทั กำหนดให้พนักงำนทุกคนตอ้ งคำนึงถึงควำมปลอดภยั ของตนเอง เพื่อนร่วมงำน ตลอดจน ทรัพยส์ ินของบริษทั เป็นสำคญั ตลอดเวลำท่ีปฏิบตั ิงำน บริษทั ฯจึงทำกำรประกำศใหพ้ นกั งำนทรำบโดยทว่ั กนั ประกำศ ณ วนั ที่ 1 มิถุนำยน 2564 ก

สารบญั 1 2 1.วตั ถุประสงค์การอบรมดา้ นความปลอดภยั 3 2.คาศพั ท์เกย่ี วกบั ความปลอดภยั 4 3.สาเหตุของการเกดิ อุบตั เิหตุและการเจบ็ ป่วยจากการทางาน 5 4.การสูญเสยี สบื เนอ่ื ง จากการเกดิ อุบตั เิหตุ 6 5.ขนั้ ตอนการรายงานอุบตั เิหตุ 7 6.หลกั 3E ในการป้องกนั อุบตั เิหตุ 7.กฏกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบรหิ าร จดั การ 11 และดาเนนิ การด้านความปลอดภยั อาชวี อนามยั 12 และสภาพแวดลอ้ มในการทางานเกย่ี วกบั ความร้อน 14 แสงสว่าง เสยี ง พ.ศ. 2559 16 17 หมวดท่ี 1 ความร้อน 18 หมวดที่ 2 แสงสว่าง 20 หมวดที่ 3 เสยี ง 21 หมวดที่ 4 อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภยั ส่วนบุคคล 22 8.ความปลอดภยั ในการใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้ า 27 9.ความปลอดภยั ในการทางานบนทส่ี ูง 28 10.ความปลอดภยั ในการใชน้ งั่ ร้าน 30 11.ความปลอดภยั ในการทางานทอ่ี บั อากาศ 12.หนา้ ทคี่ วามรบั ผดิ ชอบของพนกั งาน / ผูร้ บั เหมา 13.ทฤษฎกี ารเกดิ เพลงิ ไหม้ 14.วธิ กี ารใชถ้ งั ดบั เพลงิ 15.วธิ ปี ฏบิ ตั ติ วั เมอ่ื พบเหตุเพลงิ ไหม้ 16.ระเบยี บขอ้ บงั คบั ของความปลอดภยั ในการทางาน 17.ป้ายเตอื นและสญั ลกั ษณ์ความปลอดภยั ข 18.ความปลอดภยั เกย่ี วกบั สารเคมี 19.7 โรคทเ่ีกดิ จากการทางาน

1.เพ่ือควบคมุ ให้เกิดระเบียบในการ กวัตาถรปุอรบะสรงมค์ ปฏิบตั งิ าน ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อม ในการทางาน 2.เพื่อปอ้ งกนั การเกิดอบุ ตั ิเหตจุ าก การทางาน 3.เพอ่ื ให้ผ้ปู ฏิบตั ิงานมีความรู้ ความ เข้าใจ เก่ียวกบั ความปลอดภยั ในการ ทางาน 4.เพอ่ื ให้ผ้ปู ฏิบตั ิงานตระหนกั ึง ความปลอดภยั ในการทางาน 5.เพื่อให้ผ้ปู ฏิบตั ิงานเข้าใจวธิ ีการ ทางานทีึ่ กู ต้องและปลอดภยั 6.เพ่ือลดความเสียหายท่ีอาจเกิดขน้ จากอบุ ตั ิเหตใุ นการทางาน 1

Incident อุบตั ิการณ์ เหตกุ ารณ์ที่ไมพ่ งึ ประสงค์ให้ เกิดข้ึน ซ่ึงเมอ่ื เกิดข้ึนแล้วมีผลทา ให้เกิดอุบตั ิเหตุ(accident)หรือ เหตกุ ารณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ (near miss) อAุบcตั cิเiหdตeุ nt เหตกุ ารณ์ท่ีไม่พงึ ประสงค์ให้ เกิดข้ึน อย่างไม่ต้ังใจในเวลาและ สถานที่แห่งหน่ึง โดยไม่ทราบ ล่วงหน้าและส่งผลกระทบต่อคน 2 สิ่งแวดล้อม และทรัพย์สิน

1 มักเกิดกับบุคคลท่ีเข้ าทางานใหม่ สภาพจิตใจของผ้ ูปฏิบัติงานไม่ อย่ ูใน ข า ด ค ว า ม รู้ ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ใ น สภาวะปกติ ขาดความตัง้ ใจในการ กระบวนการปฏบิ ตั งิ านและการทางาน ทางานไม่ สามารถควบคุมอารมณ์ ของเคร่ื องมือเคร่ื องจักร จึงเป็ น ในขณะทางานได้ เช่ น ต่ืนเต้นง่าย สาเหตใุ ห้เกดิ อุบัตเิ หตไุ ด้ ขวัญอ่อน ตกใจง่าย ผ้ ู ป ฏิ บั ติ ง า น ข า ด ค ว า ม ต ร ะ ห นั ก ใ น 5 เร่ืองความปลอดภัย มีพฤติกรรมใน ก า ร ท า ง า น ท่ี ไ ม่ เ ห ม า ะ ส ม เ ช่ น เคร่ืองมือเคร่ืองจักรท่ีใช้ชารุด การใช้ หยอกล้ อกัน ใช้ เคร่ื องมือในการ เคร่ืองมือไม่เหมาะสมกับประเภทของ งานหรือปราศจาคอุปกรณ์ ป้ องกัน ทางานท่ไี ม่ถูกต้อง อันตราย รวมถึงไม่มีการบารุงรักษา เคร่ืองมือตามระยะเวลาท่กี าหนด 3 สภาพแวดล้ อมในการปฏิบัติงานท่ ี ไม่ สภาพร่ างกายของผู้ปฏิบัติงานขาด ปลอดภัย เช่น แสงสว่างไม่เพียงพอ มี ค ว า ม พ ร้ อ ม ใ น ก า ร ท า ง า น เ ช่ น อ่อนเพลีย เม่ือยล้า มึนเมา ขาดการ เสียงดังเกินมาตรฐานกาหนด หรือมี พั ก ผ่ อ น ท่ี เ พี ย ง พ อ ห รื อ มี โ ร ค ส่ิ ง กี ด ข ว า ง ท า ง เ ดิ น ส่ ง ผ ล ต่ อ ประจาตวั ซ่งึ ก่อให้เกดิ อุบตั ิเหตไุ ด้ ประสิทธิภาพในการทางานลดลงและ 3 สามารถก่อให้เกดิ อันตรายได้

การสญู เสียสืบเน่ืองจาก การเกิดอุบัติเหตุ 1.การสูญเสียทางตรง เป็ นผลกระทบท่ี เกิดกับร่างกายและทรัพย์สินที่เก่ียวกับ ผู้ได้รับบาดเจ็บโดยตรง นอกจากน้ี อาจทาให้ผู้อื่ นได้ รับบาดเจ็ บหรือ อันตรายด้วย ❑ ได้รับบาดเจ็บ พิการ หรือเสยี ชีวติ ❑ อปุ กรณ์ เคร่ืองมือ เคร่ืองจกั ร หรือทรัพย์สินเสยี หาย ❑ คา่ รักษาพยาบาล ❑ คา่ ทาขวญั ❑ คา่ ทาศพ 2.การสูญเสียทางอ้อม เป็ นผลกระทบ ด้านอื่นๆ ❑ สญุ เสยี เวลาการทางานของผ้บู าดเจ็บ ❑ สญู เสียขวญั กาลงั ใจในการทางาน ❑ สญู เสียเวลาในการจดั หาบคุ ลากรมาทางานแทน ผ้บู าดเจบ็ ❑ คา่ ใช้จ่ายในการซอ่ มแซมเครื่องจกั ร ❑ สนิ ค้าได้รับความเสียหาย ❑ กระบวนการผลติ ขดั ข้อง ❑ ผลผลติ ช้าลง ❑ สญู เสียช่ือเสยี ง 4

ขั้นตอนการรายงานอุบตั ิเหตใุ นงาน 1 พนักงานผู้ประสบเหตุหรือพนักงาน ผู้เห็นเหตุการณ์ แจ้งหัวหน้ างาน หรือ จป.วชิ าชีพ 2 หวั หน้างานแจ้งจป.วชิ าชีพ หรือ ฝ่ ายบุคคล 3 หัวหน้ างาน จป.วิชาชีพ นาพนักงาน ผู้ประสบเหตุ นาส่งห้องพยาบาลประจา บริษัท 4 พยาบาล ปฐมพยาบาลเบือ้ งต้น ตรวจสอบ ประเมินความรุนแรงของอุบัติเหตุ รว่มกับ จป.วชิ าชพี 5 ❑ ึ้าบาดเจ็บเลก็ น้อยให้การปฐมพยาบาล ยงั ห้องปฐมพยาบาล ❑ ึ้าบาดเจ็บระดบั ปานกลางึงร้ายแรง ให้จป.วิชาชีพนาสง่ โรงพยาบาล 6 จป.วชิ าชีพ ร่วม คณะกรรมการความปลอดภยั ประชุมสอบสวนหาสาเหตุของอุบตั เิ หตุ กาหนด มาตรการป้องกันไม่ให้เกดิ เหตุซา้ เขียนบันทกึ ใบรายงานอุบตั เิ หตุ รายงานผู้บริหารหรือนายจ้าง 5

หลัก 3E ในอกาุบรัตป้ อิเหงตกันุ E ตัวแรก คือ Engineering การใช้ ความร้ ู ด้ านวิศวกรรมศาตร์ ในการคาน วณ ต่างๆ การออกแบบเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับการใช้งาน สามารึทางานได้ อย่างมีความปลอดภยั รวมึงการวางผงั โรงงาน ระบบไฟฟา้ การระบายอากาศ E ตัวที่สอง คือ Education คือ การให้ ความรู้ การฝกอบรม เกี่ยวกับการ ป้องกันอุบัติเหตุ การสร้ างเสริมความปลอดภัย รวมึงกฏระเบียบต่างๆ ด้านความปลอดภัยท่ี ผู้ปฏิบัติงาน ต้ องปฏิบัติตาม เพ่ือให้ สามารึ ทางานได้อย่างปลอดภยั E ตัวท่ีสาม คือ Enforcement การกาหนดขนั้ ตอนการทางานอย่างปลอดภยั รวมึง มาตรการควบคุม พร้อมทงั้ ประกาศให้ผู้ปฏิบตั ิงาน ทกุ คนรับทราบ หากมีผ้ฝู ่าฝืน หรือไม่ปฏิบตั ิตามจะ มีการลงโทษ เพ่ือให้เกิดสานก และหลีกเล่ียงการ 6 กระทาท่ีไม่ึกู ต้องหรือก่อให้เกิดอนั ตราย

กฎกระทรวง ลักษณะการทางาน กาหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ แ ล ะ ด า เ นิ น ก า ร ด้ า น ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย งานเบา คือ ลักษณะงานท่ีใช้ อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการ แรงน้อยหรือใช้กาลังงานท่ีทาให้ ทางานเก่ียวกับความร้อน แสงสว่าง เกิดก าร เ ผ า ผล า ญอ าหา ร ใน เสียง พ.ศ. 2559 ร่างกายไม่เกนิ 200 กิโลแคลอรี่ต่อ ช่ัวโมง เช่ น งานเขียนหนังสื อ เป็ นต้น งานปานกลาง คือ ลกั ษณะ งานท่ีใช้ แรงปานกลางหรื อใช้ กาลงั งานทที่ าให้เกดิ การเผาผลาญ อาหารในร่างกายไม่เกิน 200-350 กิโลแคลอร่ีต่อชั่วโมง เช่น งานยก ลาก ดนั เป็ นต้น งานหนัก คือ ลักษณะงานท่ี ใช้ แรงมากหรื อใช้ กาลังงานท่ีทา ใ ห้ เ กิด ก า ร เ ผ า ผ ล า ญ อ า ห า ร ใ น ร่างกายเกิน 350 กิโลแคลอร่ีต่อ ชั่วโมง เช่น งานเจาะไม้เนื้อแข็ง เป็ นต้น 7

หมวด 1 ความร้อน ลกู จ้างทางานในลักษณะ ลกู จ้างทางานในลักษณะ ลกู จ้างทางานในลักษณะ งานเบา งานปานกลาง งานหนัก ต้องมีมาตรฐานระดับความรอ้ น ต้องมีมาตรฐานระดับความรอ้ น ต้องมีมาตรฐานระดับความรอ้ น ไมเ่ กินค่าเฉล่ีย ไมเ่ กินค่าเฉลี่ย ไม่เกินค่าเฉล่ีย 34 32 30 องศาเซลเซียส องศาเซลเซยี ส องศาเซลเซยี ส ❖ นำยจำ้ งตอ้ งจดั ใหม้ ีสถำนประกอบ กิจกำรมีควำมเขม้ ของแสงสวำ่ งให้ เพียงพอต่อกำรทำงำนไม่ต่ำกว่ำ มำตรฐำน ตำมกฏกระทรวงตลอด หมวด 2ระยะเวลำกำรทำงำน ❖ ในกรณีที่ต้องทำงำนในสถำนท่ี แสงสว่างมืด ทึบ แคบ นำยจ้ำงต้องจัดให้ ลู ก จ้ำ ง ส ว ม ห ม ว ก นิ ร ภัย ท่ี มี 8 อุปกรณ์ส่องแสงสวำ่ ง

หมวด 3 เสียง ❑ นำยจำ้ งตอ้ งควบคุมระดับเสียงที่ลูกจำ้ ง ไดร้ ับเฉลี่ยตลอดเวลำกำรทำงำนในแต่ละ วนั ไม่ใหเ้ กิน มำตรฐำนท่ีไดก้ ำหนดไว้ ❑ ในบริเวณท่ีมีระดบั เสียงเกินมำตรฐำนที่ กำหนด นำยจำ้ งตอ้ งจดั ให้มีเครื่องหมำย เตื อ น ใ ห้ใ ช้อุ ป กรณ์ คุ้ม ครอ ง คว ำ ม ปลอดภยั ส่วนบุคคลติดไวใ้ หช้ ดั เจน ❑ ในกรณีที่สภำวะกำรทำงำน มีเสียงเฉล่ีย ตลอดเวลำ กำรทำงำน 8 ชั่วโมง ต้งั แต่ 85 dB(A) ข้ึนไป นำยจ้ำงต้องจัดทำ มำตรกำรอนุรักษก์ ำรไดย้ นิ 9

หมวกนิรภัย อุปกรณห์คมุ้มวคดรอ4ง (Safety Helmet) ความปลอดภัย ส่วนบคุ คล ใช้สาหรับปอ้ งกนั ศีรษะที่เกิดจากการ กระแทก หรือมีสงิ่ ของตกหลน่ ในขณะ ปฏบิ ตั ิงาน แว่นตานิรภัย ปล๊ักลดเสียง (Safety Glasses) (Ear Plugs) ใช้สาหรับปอ้ งกนั ดวงตาจากเศษฝ่ นุ เศษ ใช้ สาหรับป้องกันหูจากการรั บ โลหะ สารเคมีท่ีอาจโดนดวงตาในขณะ สัม ผั ส เ สี ย ง ที่ ดัง ม า ก ก ว่ า ป ก ติ ใ น ปฏิบตั งิ าน พนื ้ ที่ปฏิบตั ิงาน เป็นเวลานาน ถงุ มอื นิรภัย เข็ดขัดนิรภัย (Safety Gloves) (Safety Harness) ใช้สาหรับปอ้ งกนั มือจากของมีคม ความ ใช้ สาหรั บการทางานบนท่ี สูง เพื่อ ร้อน การสมั ผสั สารเคมี ท่ีอาจระคาย ป้องกันไม่ให้ ผ้ ูปฏิบัติงาน ตกลงมา เคืองหรือบาดเจบ็ ได้ ด้านล่าง หากเกิดอบุ ตั ิเหตุ 10 รองเท้านิรภัย (Safety Shoes) ใช้สาหรับปอ้ งกนั อนั ตรายจากการทางานใน พนื ้ ที่เส่ียงตอ่ การกระแทกหรือึกู สิ่งของท่ีมี นา้ หนกั มากตกใสเ่ ท้า

ความปลอดภัย ไฟฟ้า เป็นพลงั งานรูปหน่ึงท่ีสามารถเปลี่ยน ในการใช้ พลังงานเป็ นรู ปแบบอื่นได้ มีคุณสมบัติ คล้ายคลึงกับอิ เล็กตรอนหรื อโปรตอนซ่ึ ง อุปกรณ์ไฟฟ้ า ก่อให้เกิดพลงั งานอ่ืน เช่น ความร้อน แสง สวา่ ง การเคลื่อนที่ ชนิดของพลงั งานไฟฟ้า ความรู้ทวั่ ไปเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า พลงั งานไฟฟ้าแบ่งเป็น 2 ชนิด ใหญ่ๆ คอื 1.ไฟฟ้าสถิตย์ เกิดจากการเสียดสีของวตั ถุ 2 ชนิด โดยพลงั งานไฟฟ้าจะเก็บอยู่ในวตั ถุ เช่น การใชแ้ ท่งอาพนั ถูกบั วตั ถุ 2.ไฟฟ้ ากระแส เกิ ดจากการไหลของ อิเลก็ ตรอนภายในตวั นาไฟฟ้า จากที่หน่ึงไป ยงั อีกที่หน่ึง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 2.1 ไฟฟ้ากระแสตรง 2.2 ไฟฟ้ากระแสสลบั แผงไฟ ที่ใช้งานท่ัวไป 1.แผงไฟจะต้องต่อหลกั ดนิ อย่างถูกต้องและแน่นหนา 2.สายไฟจะต้องเป็ นสายฉนวน 2 ช้ัน 3.ปลก๊ั ไฟทุกตวั จะต้องต่อผ่านสวทิ ซ์ตดั ไฟอตั โนมัติ 4.แผงไฟทุกแผงจะต้องมีการตรวจสอบทุกวนั โดยช่าง ไฟฟ้า 5.เมื่อเลกิ ใช้งาน จะต้องปิ ดสวทิ ซ์ท่ีแผงจ่ายไฟทนั ที 6.ถ้าพบอปุ กรณ์ไฟฟ้าชารุดต้องหยุดใช้งาน 11 แจ้งช่างไฟแก้ไขทันที

ความปลอดภัย ในการทางานบนท่ีสงู การกระทาที่ไมป่ ลอดภัยในการทางานบนที่สงู 1.พ้ืนที่ปฏิบตั ิงานที่สูงต้งั แต่ 2 เมตรข้ึนไป และเป็นที่ เปิ ดมีอนั ตรายต่อการพลดั ตก ผคู้ วบคุมงานตอ้ ง ออกแบบและจดั เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ป้องกนั การพลดั ตก ของผปู้ ฏิบตั ิงานก่อนเริ่มงาน ❑ 1.1 จดั ทาราวกนั ตกความสูงประมาณ 90-110 ซม. ป้องกนั การพลดั ตกในบริเวณท่ีมีผปู้ ฏิบตั ิงานเขา้ ใช้ พ้ืนท่ี ❑ 1.2 จดั ทา Platform หรือนง่ั ร้านสาหรับพ้ืนท่ี ปฏิบตั ิงาน หา้ มปี นป่ าย ยนื หรือ เดินในท่ีที่ไม่ได้ จดั ไวใ้ ห้ 2.พ้ืนท่ีปฏิบตั ิงานที่สูงต้งั แต่ 4 เมตร ข้ึนไป และเป็นท่ี เปิ ดมีอนั ตรายต่อการพลดั ตกควรปฏิบตั ิเพ่ิม ดงั น้ี ❑ 2.1 ตรวจสอบใหม้ ีการใชอ้ ุปกรณ์ ป้องกนั การพลดั ตกจากที่สูง และจดั ทาท่ียดึ ตรึงไวก้ บั ส่วนหน่ึงของโครงสร้าง ❑ 2.2 ผปู้ ฏิบตั ิงานตอ้ งใชเ้ ขม็ ขดั นิรภยั ร่วมกบั สายช่วยชีวิตหรือจุดเกี่ยวท่ีมน่ั คงแขง็ แรงในขณะ ปฏิบตั ิงาน ❑ 2.3 จดั ทามาตรการป้องกนั การกระเดน็ ตกหล่น ของวสั ดุ หรือพลดั ตกของผปู้ ฏิบตั ิงาน โดยใชแ้ ผง ก้นั ผา้ ใบ หรือตาข่ายปิ ดก้นั โดยมีวิศวกรควบคุม งาน เป็นผกู้ าหนดวิธีการจดั ทา 12

ความปลอดภัย ในการทางานบนท่ีสงู 3.พ้ืนที่ปฏิบตั ิงานท่ีเป็นบ่อ ถงั ที่อาจทาใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิงาน พลดั ตกลงไปได้ ผคู้ วบคุมงานตอ้ งจดั ทาร้ัวก้นั ที่มี ความสูง ประมาณ 90-110 เซนติเมตร 4.พ้ืนท่ีปฏิบตั ิงานบนที่สูง ถา้ มีช่องเปิ ด (Block out) ตอ้ ง จดั ทาฝาปิ ดหรือร้ัวก้นั และติดป้ายเตือนใหเ้ ห็นชดั โดย ❑ 4.1 ช่องเปิ ดขนาดไม่เกิน 0.80*0.80 เมตร ตอ้ ง จดั ทาฝาปิ ดท่ีแขง็ แรง รับน้าหนกั ผปู้ ฏิบตั ิงานได้ ❑ 4.2 ช่องเปิ ดขนาดใหญ่กวา่ 0.80*0.80 เมตร ตอ้ ง จดั ทาราวกนั ตกท่ีแขง็ แรง และทาสีขาว-แดง 5.พ้ืนที่ปฏิบตั ิงานที่ต่างระดบั กนั อาจมีวสั ดุตกหล่น ตอ้ ง ปิ ดก้นั เขตพ้ืนท่ีดา้ นล่างดว้ ยธงราวขาว-แดง หรือ อุปกรณ์ปิ ดก้นั ชวั่ คราว โดยแสดงคาเตือนหรือหา้ ม ไม่ใหผ้ ทู้ ี่ไม่เกี่ยวขอ้ งผา่ นเขา้ -ออก 6.พ้ืนท่ีปฏิบตั ิงานชวั่ คราว เช่น นง่ั ร้าน หา้ มนาวสั ดุ อุปกรณ์มาจดั เกบ็ หรือวาง เนื่องจากไม่ไดอ้ อกแบบเพื่อ รองรับน้าหนกั ของวสั ดุอุปกรณ์น้นั ๆ 7.การลาเลียงเศษวสั ดุเหลือใชล้ งจากท่ีสูงตอ้ งจดั ทาราง ปล่อง หรือเครื่องมือลาเลียงลงมา หา้ มโยนหรือทิ้งลงมา โดยเดด็ ขาด 8.ผคู้ วบคุมงานตอ้ งตรวจสอบใหจ้ ดั เกบ็ ทาความสะอาด ในพ้ืนที่การทางานบนที่สูงอยเู่ สมอ 13

ความปลอดภัย 1 ในการใช้น่ังร้าน 2 1.ในการปฏบิ ัติงานทีม่ ีความสูงต้ังแต่ 2 เมตรขึน้ ไป ควร 3 6 4 จัดทาอุปกรณ์ยึดโยง เพื่อเก่ียวคล้องเข็มขัดนิรภัย ให้แก่ ผู้ปฏบิ ัตงิ านได้ และต้องจัดให้มีน่ังร้านท่ีได้มาตรฐานก่อน 7 เริ่มงาน เพ่ือให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถนาไปใช้งานได้อย่าง ปลอดภัย 2.น่ังร้านที่สูง 21 เมตรขนึ้ ไป ต้องได้รับการออกแบบ โครงสร้างการรับน้าหนัก โดยวิศวกรรมโยธาท่ีได้ รับ ใบอนุญาตเป็ นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม(กว.) ตามที่ สภาวศิ วกรกาหนด 3.พืน้ ทป่ี ฏบิ ัติงานของนั่งร้านต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 35 ซม. 4.พื้นที่รองรับขาต้ังและข้อต่อของน่ังร้าน ต้องมีความ แข็งแรงพอที่จะรับน้าหนักของน่ังร้านชนิดน้ันๆ ได้ และ อยู่ในสภาพท่ีดีมคี วามมนั่ คง ไม่ส่ันคลอนขณะปฏิบัติงาน และควรผ่านการตรวจสอบจากวศิ วกรรมที่มีความชานาญ อยู่เสมอ 5.ต้ องตรวจสอบอุปกรณ์ น่ังร้ านทุกคร้ั งก่ อนเริ่ มใช้ งาน หากอปุ กรณ์ชารุด ห้ามนาออกมาใช้อย่างเดด็ ขาด 6.พืน้ ทางเดินต้องวางและยดึ อย่างมนั่ คงกบั โครงสร้าง ของนั่งร้าน 7.พืน้ นั่งร้านต้องใช้ไม้เนื้อแขง็ สภาพสมบูรณ์ไม่ผกุ ร่อน และ ไม่ควรใช้เหลก็ ทมี่ นี า้ หนักมากมาใช้เป็ นพืน้ นั่งร้าน 14

8 8.เสาคา้ ยนั น่ังร้านต้องต้งั ให้ได้ฉากกบั แนวระดับ 9 9.ชิ้นส่วนของนั่งร้านทยี่ ื่นจากตัวน่ังร้านต้องไม่เกนิ 15-20 ซม. 10 10.นั่งร้านทสี่ ูงกว่า 2 เมตร ต้องมีราวกนั ตก โดยมีความสูง 11 13 จากพืน้ น่ังร้านแต่ละช้ันไม่ต่ากว่า 90 เซนติเมตร และสูงไม่เกิน 110 เซนตเิ มตร ทกุ ช้ันของน่ังร้าน 14 15 11.ต้องจัดทาแผ่นก้นั เท้าสูง 10 ซม. เพ่ือป้องกนั วสั ดุตกหล่น หรืออาจมเี ศษวสั ดุกระเดน็ ตกลงไปบริเวณขอบอาคารได้ 12.ในกรณที พ่ี ืน้ นั่งร้านล่ืน หรือน่ังร้านชารุด ต้องทาการแก้ไข ทันที ก่อนปฏิบัติงาน ต้องมีผู้ตรวจสอบดูแลให้พื้นท่ีนั่งร้านอยู่ ในสภาพพร้อมใช้งนเสมอ 13.โครงนั่งร้านต้องมีการยึดโยงค้ายัน เพื่อป้องกันไม่ให้ น่ังร้านเอยี งหรือล้ม ในกรณที ต่ี ้องทางานใกล้สายไฟทไ่ี ม่มฉี นวน หุ้ม หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต้องดาเนินการจัดให้มีการหุ้มฉนวนที่ เหมาะสม 14.ต้องมีการตรวจสอบสภาพน่ังร้านทุกสัปดาห์พร้ อมมี ใบตรวจและติดประกาศ การตรวจสอบท่ีบริเวณทางขึน้ ลงของ น่ังร้านทกุ ชุด 15.นั่งร้านท่มี ีความสูงต้ังแต่ 6 เมตรขึน้ ไปและติดต้ังใกล้กบั ถนน หรือทางเดินสาธารณะ ผู้ควบคุมงานต้องพจิ ารณาใช้ผ้าใบ กนั ฝ่ ุน หรือตาข่ายกรองแสง (Shading net) ปิ ดหุ้มนั่งร้าน ท้งั หมด 15

กฎกระทรวง กาหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดาเนินการ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมใน การทางานในที่อับอากาศ พ.ศ.2562 ที่อับอากาศ คือ ที่ซ่งมีทางเข้ าออกจากัดและ ไม่ได้ ออกแบบสาหรับเป็ นสึานท่ีทางานอย่างต่อเนื่องเป็ น ประจาและมีสภาพอนั ตรายหรือมีบรรยากาศอนั ตราย เช่น อโุ มงค์ ึา้ บ่อ หลมุ ห้องใต้ดิน ห้องนิรภยั ึังนา้ มนั ึงั หมกั ึงั ไซโล ท่อ เตา ภาชนะ หรือสิ่งอื่นมีลกั ษณะคล้ายกนั ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการปฏิบตั ิงานในที่อบั อากาศ มีดงั น้ี 1.จดั ให้มีป้ายเตือน “ที่อบั อากาศ อนั ตราย หา้ มเขา้ ” มีขนาดมองเห็น ไดช้ ดั เจน ติดไวบ้ ริเวณทางเขา้ ออก ท่ีอบั อากาศ 2.ผปู้ ฏิบตั ิงานตอ้ งไดร้ ับการฝึกอบรมความปลอดภยั ในการทางานใน ที่อบั อากาศ 3.ห้ามผูป้ ฏิบตั ิงานท่ีเป็ นโรคเก่ียวกบั ทางเดินหายใจ โรคหวั ใจ หรือ โรคอ่ืนที่แพทยเ์ ห็นวา่ เป็ นอนั ตรายในการเขา้ ไปในที่อบั อากาศโดย เด็ดขาด 4.จดั ใหม้ ีการตรวจวดั และบนั ทึกผลการตรวจวดั และประเมินสภาพ อากาศในที่อบั อากาศท้งั ก่อน และระหวา่ งปฏิบตั ิงาน 5.สวมใส่อุปกรณ์คุม้ ครองความปลอดภยั ส่วนบุคคลสาหรับ ปฏิบตั ิงานในท่ีอบั อากาศทุกคร้ัง 6.จดั ใหม้ ีแผนการปฏิบตั ิงาน แผนการป้องกนั อนั ตรายท่ีอาจเกิดข้ึน และแผนช่วยเหลือผปู้ ฏิบตั ิงานในกรณีฉุกเฉิน 7.ปิ ดก้นั บริเวณพ้นื ท่ีอบั อากาศเพ่อื ไมใ่ หบ้ ุคคลใดเขา้ ไปในบริเวณ น้นั เพ่ือป้องกนั การตกลงไปในท่ีอบั อากาศ 8.จดั ใหม้ ีบริเวณทางเดิน หรือทางเขา้ ออกใหส้ ะดวกและปลอดภยั การทางานในพืน้ ทอ่ี บั อากาศต้องผ่านการฝึ กอบรม หลกั สูตร ความปลอดภัยในการทางานในทอ่ี บั อากาศ ซ่ึงมี 4 ผู้ได้แก่ 1.ผอู้ นุญาต 2.ผคู้ วบคุม 3.ผชู้ ่วยเหลือ 4.ผปู้ ฏิบตั ิงาน 16

หน้าท่ีความรับผดิ ชอบ ของพนักงาน/ผูป้ ฏิบตั ิงาน/ผูร้ ับเหมา 2 1 ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านต้องรายงาน สภาพการทางานที่ไม่ ปลอดภยั เครื่องมือเครื่องจกั ร ผ้ปู ฏิบตั ิงานต้องทางาน และอปุ กรณ์ค้มุ ครองความ 3 ด้วยความตระหนกั และ มีจิตสานกด้านความ ปลอดภยั ส่วนบคุ คลท่ีชารุด ผ้ปู ฏบิ ตั ิงานต้อง ต่อผ้คู วบคมุ งาน เอาใจใส่และปฏิบตั ติ าม ปลอดภยั อย่เู สมอ กฏข้อบงั คบั ด้านความ 5 4 ปลอดภยั ในการ ทางาน หากผ้ปู ฏิบตั งิ านมี ความคดิ เหน็ ด้านความ ผ้ปู ฏบิ ตั ิงานต้องให้ความ 6 ปลอดภยั สามารึเสนอแนะ ร่วมมือในการปฏบิ ตั ิตาม ต่อผ้คู วบคมุ งานได้ ข้อบงั คบั ด้านความ ปลอดภยั ผ้ปู ฏิบตั งิ านต้องสวมใส่ อปุ กรณ์ค้มุ ครองความปลอดภยั สว่ นบคุ คลและแตง่ กายให้ 7 8 เหมาะสมกบั งาน ตลอด ผ้ปู ฏิบตั งิ านต้องไม่ ผ้ปู ฏิบตั งิ านต้องศกษา ระยะเวลาปฏบิ ตั งิ าน อนั ตรายของงานที่ปฏิบตั ิ เพอ่ื ปอ้ งกนั อบุ ตั ิเหตทุ ่ี เส่ียงกบั การทางานที่ไม่ อาจเกิดขน้ กบั ตนเอง เข้าใจ ทกุ คนต้องเข้าใจึง และผ้อู ่ืน การทางานท่ีปลอดภยั ก่อน เริ่มปฏิบตั งิ าน 17

ทฤษฎีการเกิดเพลิงไหม้ การสันดาปเป็ นปฏิกิริยาการรวมตัวกันของ เชือ้ เพลิงกบั ออกซิเจนอย่างรวดเร็วพร้อมเกิดการลุกไหม้ และคายความร้ อน ในการเผาไหม้ส่วนใหญ่จะไม่ใช้ ออกซิเจนล้วนๆ แต่จะใช้อากาศแทนเน่ืองจากอากาศมี ออกซเิ จนอยู่ 21%โดยปริมาณ หรือ 23%โดยนา้ หนกั การแบ่งประเภทของเช้ือเพลิง การเผาไหม้ทเ่ี กดิ จากเชื้อเพลงิ ธรรมดา โดยทว่ั ไป เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า พลาสติก ฯลฯ การเผาไหม้ที่เกดิ จากเชื้อเพลิงท่ีเป็ นสารไอโดรคาร์บอนทุกชนิด เช่น ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซหุงต้ม (LPG) น้ามันท่ใี ช้กับรถยนต์ยาง มะตอย พาราฟิ น ตัวทาลายต่าง ๆ เป็ นต้น การเผาไหม้ท่ีเกิดจากกระแสไฟฟ้าท่ีเกดิ จากอาร์คสปาร์ค การใช้ ไฟฟ้าเกินกาลัง เม่ือเกิดการเผาไหม้ยังมีกระแสไฟฟ้าอยู่ใน อปุ กรณ์ไฟฟ้าน้ัน การเผาไหม้ ที่เกิดจากพวกโลหะที่ลุกไหม้ และให้ ความร้ อน สูง พวกวตั ถุระเบดิ พวกทท่ี าปฏกิ ริ ิยากบั นา้ ได้ เช่น แมกนีเซียม (Magnesium) , โซเดียม (Sodium) , ไทเทเนียม (Titanium) , โปรแตสเซียม (Potassium) เป็ นต้น เป็ นการเผาไหม้ทเ่ี กดิ จาก คราบนา้ มนั หมู นา้ มนั พืชหรือใน ปล่องระบายควนั ในห้องครัว 18

การแบ่งประเภทของถังดับเพลิง ถงั ดบั เพลิงประเภทน้ีบรรจุผงเคมีแหง้ และอดั กา๊ ซ ไนโตรเจนท่ีสามารถระงบั ปฏิกิริยาเคมีของการเกิด เพลิงไหมอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ เหมาะสาหรับการ ดบั เพลิงประเภท A, B และ C 1. ถงั ดบั เพลงิ ชนดิ ผงเคมแี ห้ง (Dry Chemical Extinguishers) 2. ถังดบั เพลงิ ชนดิ นา้ ยาเหลวระเหย HCFC-123 สารดบั เพลิงชนิดสารเคมีเหลวที่มีความเยน็ จดั เม่ือ (Halotron Extinguishers) ฉีดออกมาจะเป็นไอระเหย สามารถดบั เพลิงไหม้ ไดท้ ้งั ประเภท A, B, C ไม่ทิง้ คราบสกปรกหลงั การใชง้ าน เหมาะกบั การใชง้ านในหอ้ งอุปกรณ์ คอมพวิ เตอร์ ออฟฟิ ต ภายในถงั ดบั เพลิงจะบรรจุโฟมที่เมื่อฉีดออกมาแลว้ จะ 3. ถังดบั เพลงิ ชนิดนา้ ยาโฟม (Foam Extinguishers) เป็นฟองโฟ ใชด้ บั เพลิงประเภท A และ B ไดด้ ี แต่ไม่ สามารถใชด้ บั เพลิงประเภท C ได้ เน่ืองจากโฟมมี ส่วนผสมของน้าเป็นส่ือนาไฟฟ้า เหมาะสาหรับ ภาคอุตสาหกรรมท่ีเก่ียวกบั เช้ือเพลิงและสารระเหยติดไฟ 4. ถังดบั เพลงิ ชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ถั ง ดั บ เ พ ลิ ง ป ร ะ เ ภ ท น้ี จ ะ บ ร ร จุ ก๊ า ซ (Carbon Dioxide (CO2) Extinguishers) คาร์บอนไดออกไซด์ สามารถใช้ดบั เพลิงไดท้ ้งั ประเภท B และ C เหมาะสาหรับโรงงานที่มีไลน์ การผลิตขนาดใหญ่ โรงอาหาร หอ้ งเก็บอุปกรณ์ อิเลก็ ทรอนิกส์ ไม่ทิง้ คราบสกปรก ถงั ดบั เพลิงชนิดน้าเหมาะสาหรับการดบั เพลิงไหม้ 19 ประเภท A เพื่อลดอุณหภูมิความร้อนของเช้ือเพลิงท่ี เป็นวตั ถุของแขง็ อยา่ ง ไม้ กระดาษ พลาสติก ผา้ โดย 5.ถงั ดบั เพลงิ ชนดิ นา้ (Water Extinguishers) บรรจุน้าธรรมดาและกา๊ ซเอาไว้ เหมาะสาหรับการใช้ ดบั เพลิงในอาคารท่ีพกั อาศยั เรือ เป็นตน้

วิธีการใช้ถังดับเพลิง ดงึ ดงึ สลกั นิรภยั ออกจากคนั บีบ โดยให้นวิ ้ ทงั้ ส่ีที่เหลือจบั ใต้คนั บีบด้านล่าง และหวิ ้ เคร่ืองดบั เพลงิ ในแนวตงั้ ไปยงั ตาแหน่งของเพลงิ ไฟโดยให้ยืนห่าง ออกจากเพลิงไฟในระยะ 3-4 เมตร ในตาแหน่งทางเหนือของทิศทางลม จากนนั้ จงทาการปลดสลดั นิรภยั ปลด สายหวั ฉีดออกจากตวั เคร่ืองดบั เพลงิ และเลง็ ปลาย ปลด สายฉีดไปยงั บริเวณฐานของเชือ้ เพลงิ โดยจบั ปลายสายฉีด ให้แนน่ อยา่ ให้หลดุ มือ กด กด เล็งปลายสายเครื่องดบั เพลิงไปยงั ฐานของเพลิง พร้อมกดคนั บีบ ผงเคมีในเคร่ืองจะพน่ ออกมาจาก หวั ฉีด ควรบีบคนั บีบเต็มแรงอยา่ งตอ่ เน่ืองจนสดุ ส่าย ปลายสายไปมาในแนวนอน(ซ้าย-ขาว)ยงั ฐานของ ส่าย เพลิงไฟ เพอ่ื ให้เคมีปกคลมุ ได้ทวั่ ทงั้ บริเวณท่ีเกิดเพลิง ไหม้ ย่อตวั ลงเลก็ น้อยเพอื่ หลบควนั ไฟ และความร้อน เข้าทางเหนือลมฉีดจากทิศทางใกล้ไปไกล ใช้ความ ระมดั ระวงั ให้การดบั ไฟ 20

วธิ ีฏบิ ตั ติ วั เวลาเจอเหตุไฟไหม้ ตัง้ สติ ไม่ต่ืนตระหนก โทรแจ้ง ฝ่ ายบุคคลหรือ จป. ใช้ถังดบั เพลิง ควบคุมเพลงิ ไหม้เบอื้ งต้น ดงึ /กด สัญญาณเตือนไฟไหม้ อพยพ อพยพหนีไฟรวมตวั ท่ีจุดรวมพล 21

ระเบยี บข้อบงั คับ 1.ผู้ปฏิบัติงานต้องสวมใส่ ความปลอดภัย อุปกรณ์ คุ้มครองความ ในการทางาน ปลอดภัยส่วนบุคคลขณะ ปฏบิ ัตงิ านตลอดเวลา กลุ่ม กลุ่ม อุปกรณ์ อุปกรณ์ ปกป้องศรีษะ ปกป้องใบหน้า และดวงตา กลุ่ม กลุ่ม อุปกรณ์ อุปกรณ์ ปกป้องลาตัว ปกป้องแขน และมือ กลุ่ม กลุ่ม อุปกรณ์ อุปกรณ์ ปกป้องขา ปกป้องการตก และเท้า 22

อุปกรณ์ป้ องกันศีรษะ รองเท้านิรภัย/ อุปกรณ์ป้ องกัน รองเท้าห้มุ ส้น ดวงตาและใบหน้า หมวกนิรภัย ส วมใ ส่ เพื่ อ ในหน่วยงานบังคับให้ สวมใ ส่ แ ว่ น ต า นิ ร ภัย ส ว ม ใ ส่ เ พ่ื อ ปอ้ งกนั วสั ดตุ กหรือกระเด็นใส่ รองเท้านิรภัย โดยขน้ อยู่กับ ป้องกันฝ่ ุน เศษวัสดุปลิวเข้ า ศีรษะ ซง่ ศีรษะและสมองเป็น ประเภทและลกั ษณะของงาน ดวงตา โดยแว่นตานิรภัยจะ ส่วนท่ีบอบบางมาก เน่ืองจาก โดยึ้ าเป็นรองเท้านิรภัยจะ แต ก ต่ าง จ า กแ ว่ น ธ ร ร ม ด า มีผิวหนังที่ห่อหุ้มด้ านนอก ประกอบด้ วยเหล็กครอบที่ เพราะว่าบริ เวณด้ านข้ างจะมี บางกว่าอวัยวะส่วนอ่ืน เม่ือ บริเวณนวิ ้ เท้าในส่วนฝ่าเท้าจะ แผ่นพลาสติกย่ืนปิ ดด้ านข้ างรับ เ กิ ด ก า ร ก ร ะ ท บ ก ร ะ เ ทื อ น กับใบหน้ า แต่แว่นนิรภัยไ ม่ แม้เพียงเล็กน้อย อาจจะมีผล มีแผน่ เหล็กรองพนื ้ อีกชนั้ หนง่ สามารึใช้ ป้องกันสะเก็ ดจาก การเจีย แต่งชิน้ งานได้เนื่องจาก ึงขนั้ พกิ ารและเสียชีวิตได้ สะ เ ก็ ด สา ม า ร ึ แท ร ก ผ่ า น ดวงตาได้ 2 พนักงานทุกคนต้องสวมใส่ อุปกรณ์ ค้ ุมครองความปลอดภั ย ส่ วนบุคคลเฉพาะงานตามท่ี บริษัทกาหนด 3 ห้ามหยอกล้อเล่นกัน ในขณะ ปฏบิ ตั งิ านหรืออยู่ในพนื้ ท่ีทางาน 4 ห้ามผู้ปฏิบัติงานด่ืนสุรา เคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ทุกชนิด ใ น พื้น ท่ี ป ฏิ บั ติ ง า น โ ด ย เดด็ ขาด 5 ผู้ปฏบิ ตั งิ านต้องแต่งกายรัดกุม 23

6. กรณีทางานเช่ือม ผู้ปฏิบัติงานต้อง ปฏิบัติตามกฏระเบียบ ข้อบังคับ เร่ื อง ความปลอดภยั ในการทางานเช่อื ม ➢ ต้ อง ใ ส่ กร ะ บัง หน้ าเ ชื่ อ ม ึุงมื อเ ช่ื อ ม ปลอกแขนกนั สะเก็ดไฟ ➢ ต้องตรวจสอบสายไฟเชื่อม หรือต้เู ชื่อมไม่ให้ อยใู่ กล้บริเวณท่ีมีนา้ ขงั ➢ จัดพืน้ ท่ี ให้มีอากาศึ่ายเทขณะที่ทางาน เช่ือม ➢ มีผ้ายางกนั สะเก็ดไฟรองขณะทาการเจีย 7. กรณีทางานตัดด้วยแก๊ส ผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัตติ ามกฏระเบยี บข้อบังคับ เร่ืองความปลอดภยั ในการทางานตดั ด้วยแก๊ส ➢ ต้องตรวจสอบสายถงั ลมและแก๊สทกุ ครัง้ ➢ ติดตงั้ อปุ กรณ์ปอ้ งกนั ไฟย้อนกลบั (Flashback arrestor) ➢ การตดั ต่อท่อลมแก๊ส หวั ปรับความดนั ต้องใช้อปุ กรณ์รัดท่อก๊าซ (Hose Clamping Device) ➢ การใช้ถงั แก๊ส ต้องวางตงั้ ตรงและมดั ยดึ ด้วยวสั ดแุ ข็งแรง 8. กรณีทางานเจีย ผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามกฏ ระเบยี บ ข้อบงั คับเร่ืองความปลอดภยั ในการทางานเจยี ➢ ต้องใส่อุปกรณ์กาบังใบหน้า เช่น กระบงั หน้า ➢ เมื่อเลิกใช้งานหรือไม่ใช้งาน แล้วต้องึอดปลก๊ั ทกุ ครงั้ ➢ มีแผงกนั้ ประกายไฟกระเดน็ ➢ มีผ้ ายางกันสะเก็ดไฟรอง ขณะทาการเจีย 24

9. ผู้ฏิบัติงานต้องปฏิบัตติ ามกฎระเบียบ ข้อบังคับเร่ือง ความปลอดภยั ในการขนย้ายส่งิ ของด้วยปัน้ จ่ัน ❑ ต้องมกี ารตรวจสอบสภาพปัน้ จน่ั ก่อนการใช้งาน ❑ ห้ามอยใู่ กล้สงิ่ ของขณะทีม่ กี ารยกของ ❑ ต้องมกี ารปิดล้อมบริเวณที่ยกของหนกั ขณะทาการยก 10. ผู้ฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับ เร่ืองความปลอดภยั ในการใช้เคร่ืองจกั รกลหนัก ❑ ต้องตรวจสอบสภาพเคร่ืองจกั รกอ่ นเริ่มปฏบิ ตั งิ านทกุ วนั ❑ หากพบวา่ มคี วามเสี่ยงต่อการเกิดอบุ ตั ิเหตุ ต้องหยดุ เครื่องจกั รทนั ที ❑ ห้ามปฏิบตั ิงานเกินความสามารึของเครื่องจกั ร ❑ ห้ามยกของทิง้ ไว้หลงั เลกิ งาน 25

11. ห้ามผู้ปฏบิ ัตงิ านพกพาอาวุธเข้ามาในพนื้ ท่ีปฏบิ ตั งิ าน 12. ห้ามผู้ปฏบิ ตั งิ าน จุดไฟบริเวณพนื้ ท่ปี ฏิบตั งิ าน ยกเว้นกรณีท่ีได้รับอนุญาตในการประกอบการทางาน ท่ีใช้ความร้อน เช่น งานตัดโลหะ 13. ผู้ปฏบิ ัตงิ านต้องสูบบุหร่ีในบริเวณพืน้ ท่ีท่จี ัดเตรียม ไว้ให้เท่านัน้ 14. ห้ามพนักงานพกพา บุหร่ี ไฟแช็ค เข้ามาในบริเวณโรงงาน เดด็ ขาด 15. กรณืทางานในท่ีอับอากาศ ผู้ปฏิบัติงานต้ องปฏิบัติตาม กฎระเบยี บ ข้อบงั คบั เร่ืองความปลอดภยั ในสถานท่อี ับอากาศ ➢ ต้องได้รับอนญุ าตก่อนที่จะปฏิบตั งิ านในพืน้ ที่อบั อากาศ ➢ ตรวจวดั ปริมาณออกซเิ จนและแก๊สพษิ ในพืน้ ที่อบั อากาศ ➢ พนกั งานต้องใสอ่ ปุ กรณ์ปอ้ งกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คลสาหรับท่ีอบั อากาศ 16. ผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบ ข้อบังคับเร่ืองความ ปลอดภยั ในการทางานบนท่สี ูง 17. ผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบ ข้อบังคับเร่ืองความ ปลอดภยั ในการใช้น่ังร้าน 18. ผู้ปฏิบัตงิ านต้องรักษาความสะอาด พนื้ ท่ปี ฏบิ ัตงิ าน 19. ผู้ปฏิบัติงานมีหน้าท่ีในการปฏิบัติงานให้เกิดความปลอดภัยแก่ ตนเอง และผู้อ่นื 20. ผู้ปฏิบัติงานต้องรายงานอุบัติเหตุท่ีเกิดขึน้ ทุกครัง้ ตามขัน้ ตอนท่ี กาหนดไว้ 21. ผู้ปฏิบัตงิ านต้องผ่านการฝึ กอบรมเร่ืองความปลอดภยั ในการ 26กทางานขนั้ พนื้ ฐานก่อนเข้าปฏบิ ตั งิ าน

ผูป้ ฏิบตั ิงานทกุ คนต้องสังเกตุ และปฏิบตั ิตามป้ ายห้าม ป้ ายเตือนอย่างเคร่งครัด ป้ ายสัญลักษณ์ความปลอดภัย (SAFETY SIGNS) 27

ความปลอดภัยเกี่ยวกับสารเคมี สารเคมอี นั ตรายคอื สารทอ่ี าจก่อให้เกดิ อนั ตรายต่อ ชวี ติ และทรพั ย์สนิ ได้ ซง่ึ อาจก่อให้เกดิ การกดั กร่อน เกดิ การเผา ไหม้ หรอื ลุกตดิ ไฟ การระเบดิ การออกซไิ ดซ์ หรอื ปฏกิ ริ ยิ า กบั น้า อันตรายจากสารเคมี อนั ตรำยที่เกิดจำกสำรเคมีต่อสุขภำพร่ำงกำยเกิด ได้ 2 ลกั ษณะ คือ ❑ กำรเกิดอนั ตรำยเฉียบพลนั เช่นกำรสูดดมสำรเคมีแลว้ เกิดอำกำรระคำยเคืองกัดกร่อนหรือถึงข้นั หมดสติ ในทนั ที ❑ กำรเกิดอนั ตรำยแบบเร้ือรัง เช่น กำรก่อให้เกิดอำกำร แพส้ ำรเคมีบำงชนิด กำรเกิดมะเร็ง กำรทำใหพ้ ิกำรแต่ กำเนิด ป้ายแสดงถงึ อนั ตรายของสารเคมี ตามมาตรฐาน NFPA ป้ายแสดงถึงอนั ตรายของสารเคมี จะบ่งบอกใหท้ รำบถึงควำม รุนแรงของสำรเคมี ตำมมำตรฐำน NFPA (National Fire Protection Association) ซ่ึงป้ำยจะมีลกั ษณะเป็นสี่เหลี่ยม รูปขำ้ วหลำมตดั (diamond sign) แบ่งเป็น 4 ส่วน มองดูเห็นเป็นรูปส่ีเหล่ียมขำ้ ว หลำมตดั 4 รูปติดกนั ดงั รูป โดยในแตล่ ะรูปสี่เหลี่ยมเล็ก จะแบ่ง ออกเป็น 4 สี โดย สีแดงอยดู่ ำ้ นบนสุด สีน้ำเงินอยดู่ ำ้ นซำ้ ย สี เหลืองอยดู่ ำ้ นขวำ และสีขำวอยดู่ ำ้ นล่ำงของรูปสี่เหลี่ยม ซ่ึงแต่ละสี มีควำมหมำย ดงั แสดงในตำรำง 28

การใช้และการจดั เกบ็ สารเคมี มี ก า ร จั ด เ ก็ บ อ ย่ า ง ควรแบ่งสารเคมีมาใช้ ึกู วิธีและเก็บไว้ในท่ี เทา่ ที่จาเป็น ปลอดภยั กาจดั ภาชนะที่ใช้แล้ว ห้ ามสูบบุหรี่ ดื่มหรือ อยา่ งึกู ต้อง รั บประท านอาหา ร ขณะใช้สารเคมี ภาชนะท่ีใช้ควรมีป้าย มีมาตรการการจดั เก็บ หรื อฉลากบอกชนิด ส า ร เ ค มี ท่ี ห ก รั่ ว ไ ห ล ของสารเคมี อยา่ งึกู วิธี ก า ร เ ค ลื่ อ ย ย้ า ย เ ลื อ ก ใ ช้ อุ ป ก ร ณ์ ป้อ ง กั น สารเคมีควรทาด้ วย อั น ต ร า ย ส่ ว น บุ ค ค ล ท่ี ความระมดั ระวงั เหมาะสมกบั ชนดิ ของสารเคมี 29

โรคที่เกิดจากการทางาน โรคจากตะกวั ่ โรคจากฝ่ นุ ซิลิกา้ โรคจากภาวะทอี่ บั อากาศ โรคจากแรใ่ ยหิน โรคทเี่ กิดจากฝ่ นุ PM2.5 โรคจากการสารประกอบตะกวั ่ โรคจากพษิ ศตั รูพชื 30


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook