Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นางสาวสุพรรณษา บริหาร 63120613101 (เคมี) - ระบบสุริยะ

นางสาวสุพรรณษา บริหาร 63120613101 (เคมี) - ระบบสุริยะ

Published by fong.doogdig, 2021-03-13 08:59:22

Description: หนังสือเล่มนี้จัดเป็นส่วนหนึ่งในรายวิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ศึกษา (SE 13601) โดยในเล่มนี้จัดทำในเรื่องระบบสุริยะจักรวาลเพื่อให้ผู้ที่ได้พบมีความรู้และความเข้าใจในเรื่องของระบบสุริยะจักรวาล ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น น่าค้นหาเป็นอย่างมาก
การจัดทำในครั้งนี้ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เนื้อหาที่จัดทำมานั้นจะเกิดประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่านและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้

Keywords: ระบบสุริยะ

Search

Read the Text Version

ก คำนำ หนงั สือเล่มน้ีจดั เป็นส่วนหน่ึงในรายวิชา นวตั กรรมและเทคโนโลยที างวิทยาศาสตร์ศึกษา (SE 13601) โดยในเล่มน้ีจดั ทาในเร่ืองระบบสุริยะจกั รวาลเพื่อใหผ้ ทู้ ่ีไดพ้ บมีความรู้และความเขา้ ใจ ในเรื่องของระบบสุริยะจกั รวาล ซ่ึงเป็นเรื่องที่น่าต่ืนเตน้ น่าคน้ หาเป็นอยา่ งมาก การจดั ทาในคร้ังน้ี ผูจ้ ดั ทาหวงั เป็ นอย่างยิ่งว่า เน้ือหาท่ีจดั ทามาน้ันจะเกิดประโยชน์แก่ ผอู้ ่านทุกท่านและสามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภยั มา ณ ที่น้ี ผจู้ ดั ทา นางสาวสุพรรณษา บริหาร

ข สำรบัญ หน้ำ คำนำ……………………………………………………………………………………….…… ก สำรบญั ...……………………………………………………………………………………….. ข ระบบสุริยะ ระบบสุริยะ..................................................................................................................... 1 ดาวเคราะห์...................................................................................................................... 2 การจดั ประเภททของดาวเคราะห์.................................................................................... 2 ดวงอาทิตย.์ ..................................................................................................................... 4 ดาวพุธ............................................................................................................................. 6 ดาวศุกร์........................................................................................................................... 8 โลก................................................................................................................................. 11 ดาวองั คาร....................................................................................................................... 14 ดาวพฤหสั ....................................................................................................................... 17 ดาวเสาร์.......................................................................................................................... 19 ดาวยเู รนสั ....................................................................................................................... 21 ดาวเนปจูน...................................................................................................................... 24 บรรณำนุกรม................................................................................................................................ 26

1 ระบบสุริยะ คือระบบดาวที่มีดาวฤกษเ์ ป็นศูนยก์ ลาง และมีดาวเคราะห์ (Planet) เป็นบริวาร โคจรอยู่โดยรอบ เมื่อสภาพแวดล้อมเอ้ืออานวย ต่อการดารงชีวิต สิ่งมีชีวิตก็จะเกิดข้ึนบน ดาวเคราะห์เหล่าน้นั หรือ บริวารของดาวเคราะห์เองท่ีเรียกวา่ ดวงจนั ทร์ (Satellite) นกั ดาราศาสตร์ เชื่อว่า ในบรรดาดาวฤกษ์ท้งั หมดกว่าแสนลา้ นดวงในกาแลกซ่ีทางช้างเผือก ตอ้ งมีระบบสุริยะท่ี เอ้ืออานวยชีวิตอยา่ ง ระบบสุริยะท่ีโลกของเราเป็นบริวารอยูอ่ ยา่ งแน่นอน เพียงแต่ว่าระยะทางไกล มากเกินกวา่ ความสามารถในการติดตอ่ จะทาไดถ้ ึง ที่โลกของเราอยู่เป็ นระบบที่ ประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ (The sun) เป็ นศูนย์กลาง มีดาวเคราะห์ (Planets) 8 ดวง เรียงตามลาดับ จากในสุดคือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหสั ดาวเสาร์ ดาวยเู รนสั ดาวเนปจูน ชื่อของดาวเคราะห์ท้งั 8 ดวงยกเวน้ โลก ถูกต้งั ชื่อตามเทพของชาวกรีก เพราะเช่ือว่าเทพ เหล่าน้นั อยบู่ นสรวงสวรรค์ และเคารพบชู าแต่โบราณกาล ในสมยั โบราณจะรู้จกั ดาวเคราะห์เพียง 5 ดวงเท่าน้นั (ไม่นบั โลกของเรา) เพราะสามารถเห็นได้ ดว้ ยตาเปล่าคือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวองั คาร ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ประกอบกับดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ รวมเป็ น 7 ทาให้เกิดวนั ท้ัง 7 ใน สัปดาห์น่ันเอง และดาวท้ัง 7 น้ีจึงมีอิทธิกับดวงชะตาชีวิตของคนเราตามความเช่ือถือทาง โหราศาสตร์ ส่วนดาวเคราะห์อีก 3 ดวงคือ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน ดาวพลูโต ถูกคนพบภายหลงั แต่นกั ดาราศาสตร์ก็ต้งั ช่ือตามเทพของกรีก เพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกนั นนั่ เอง

2 ดำวเครำะห์ (Planets) ดาวเคราะห์ หมายถึง ดาวที่ไม่มีแสงสวา่ งในตวั เอง แต่สะทอ้ นแสงอาทิตยส์ ่องเขา้ ไปตาเรา ดาวเคราะห์แต่ละดวงมีขนาดและจานวนดวงจนั ทร์บริวารไม่เท่ากนั อยู่ห่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็ น ระยะทางต่างกัน โดยหมุนรอบตวั เองโคจรรอบดวงอาทิตยด์ ้วยความเร็วต่างกนั ไปจากการศึกษา เรื่องราวเกี่ยวกบั ดาวเคราะห์โดยใชโ้ ลกเป็นหลกั ในการแบง่ ดาวเคราะห์ เป็ นดาวที่ไม่มีแสงในตัวเอง ไม่เหมือนกับดวงอาทิตย์ หรือดาวฤกษ์ ซ่ึง สามารถส่องสว่างดว้ ยตนเองได้ แต่เราสามารถมองเห็นดาวเคราะห์ได้ เน่ืองจากการท่ีดาวเคราะห์ สะทอ้ นแสงจากดวงอาทิตย์เขา้ สู่ตาของเราน่ันเอง แมด้ าวเคราะห์ในระบบสุริยะจกั รวาลของเรา จะมีถึง 8 ดวง แต่เราสามารถมองเห็นได้ ด้วยตาเปล่า เพียง 5 ดวงเท่าน้ัน คือ ดาวพุธ, ดาวศุกร์, ดาวองั คาร, ดาวพฤหัส และดาวเสาร์ ซ่ึงชาวโบราณเรียกดาวเคราะห์ท้งั ห้าน้ีว่า \"The Wandering Stars\" หรือ \"Planets\" ในภาษากรีก และเรียกดวงอาทิตย์ และดวงจนั ทร์ ท้งั สองดวงว่า \"The Two Great Lights\" ซ่ึงเมื่อรวมกนั ท้งั หมด 7 ดวง จะเป็นที่มาของชื่อวนั ใน 1 สปั ดาห์ นน่ั เอง กำรจดั ประเภททของดำวเครำะห์ สามารถแบง่ ออกเป็นกล่มุ ๆ ไดด้ งั น้ี 1. แบ่งตำมลกั ษณะทำงกำยภำพ - ดำวเครำะห์ช้ันใน (Inner or Terrestrial Planets): จะเป็ นกลุ่มดาวเคราะห์ท่ีอยู่ใกลด้ วง อาทิตยม์ ากกวา่ อีกกลุ่ม เป็นดาวเคราะห์ที่เยน็ ตวั แลว้ มากกวา่ ทาใหม้ ีผิวนอกเป็นของแขง็ เหมือนผิว โลกของเรา จึงเรียกว่า Terrestrial Planets (หมายถึง \"บนพ้ืนโลก\") ไดแ้ ก่ ดาวพุธ (Mercury), ดาว ศุกร์ (Venus), โลก (Earth) และดาวอังคาร (Mars) ซ่ึงจะใช้แถบของดาวเคราะห์น้อย (Asteroid Belt) เป็นแนวแบ่ง

3 - ดำวเครำะห์ ช้ันนอก (Outer or Jovian Planets): จะเป็ นกลุ่มดาวเคราะห์ท่ีอยู่ไกล ดวงอาทิตยม์ ากกว่าอีกกลุ่ม เป็ นดาวเคราะห์ที่เพิ่งเย็นตวั ทาให้มีผิวนอกปกคลุมด้วยก๊าซเป็ น ส่วนใหญ่เหมือนพ้ืนผิวของดาวพฤหัส ทาให้มีชื่อเรียกว่า Jovian Planets (Jovian มาจากคาว่า Jupiter-like หมายถึง คลา้ ยดาวพฤหัส) ไดแ้ ก่ ดาวพฤหัส (Jupiter), ดาวเสาร์ (Saturn), ดาวยูเรนัส (Uranus), และดาวเนปจูน (Neptune) 2. แบ่งตำมวงทำงโคจรดงั นี้ คือ - ดำวเครำะห์วงใน (Interior planets) หมายถึง ดาวเคราะห์ท่ีอยู่ใกลด้ วงอาทิตยม์ ากกว่า โลก ไดแ้ ก่ ดาวพธุ และดาวศกุ ร์ - ดำวเครำะห์วงนอก (Superior planets) หมายถึง ดาวเคราะห์ท่ีอยู่ถัดจากโลกออกไป ไดแ้ ก่ ดาวองั คาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยเู รนสั และดาวเนปจูน 3. แบ่งตำมลกั ษณะพืน้ ผิว ดังนี้ - ดำวเครำะห์ก้อนหิน ไดแ้ ก่ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และดาวองั คาร ท้งั 4 ดวงน้ีมีพ้ืนผิวแขง็ เป็นหิน มีช้นั บรรยากาศบางๆ ห่อหุม้ ยกเวน้ ดาวพธุ ที่อยใู่ กลด้ วงอาทิตยท์ ่ีสุดไม่มีบรรยากาศ - ดำวเครำะห์ก๊ำซ ไดแ้ ก่ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน จะเป็ นก๊าซ ทว่ั ท้ังดวง อาจมีแกนหินขนาดเล็กอยู่ภายใน พ้ืนผิวจึงเป็ นบรรยากาศท่ีปกคลุมด้วยก๊าซมีเทน แอมโมเนีย ไฮโดรเจน และฮีเลียม ภาพแสดงการหมนุ ของดาวเคราะหแ์ ตล่ ะดวง

4 ดวงอาทิตยเ์ ป็ นดาวฤกษ์ท่ีสาคญั ในระบบสุริยะ เป็ นดาวฤกษ์ สีเหลือง มีอายุเกือบ 5,000 ลา้ นปี อยู่ห่าจากโลกของ เราประมาณ 150 ลา้ นกิโลเมตร แสงจากดวงอาทิตยใ์ ชเ้ วลาเดินทางมายงั โลกเพียง 8.3 นาที หรือ 499 วินาทีเท่าน้ัน พลงั งานจานวนมหาศาล ในดวงอาทิตยไ์ ดม้ าจากการ เปล่ียนก๊าซไฮโดรเจนเป็ น ฮีเลียมท่ีอุณหภูมิประมาณ 15 ลา้ นเคลวิน หรือประมาณ 27 ลา้ นองศา ฟาเรนไฮต์ ดวงอาทิตย์มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่มากกว่าโลกของเรา 109 เท่า มีปริมาตร 1,300,000 เทา่ ของโลก และมีมวลมากกวา่ โลกของเรา 333,434 เท่า กาลิเลโอเป็นคนแรกที่พิสูจน์ให้ เห็นว่าดวงอาทิตยห์ มุนรอบตวั เอง และจากการศึกษาของนักดาราศาสตร์ทาให้ทราบว่า การหมุน รอบตวั เองของดวงอาทิตยใ์ นบริเวณเส้นศูนยส์ ูตรจะมีความเร็วกวา่ ท่ีบริเวณข้วั เหนือและข้วั ใต้

5 ส่วนประกอบของดวงอำทติ ย์ ดวงอาทิตย์เป็ นกลุ่มแก๊สขนาดใหญ่ เนื่องจากมวลของแก๊สมีขนาดมหาศาล ทาให้มี ความดนั ท่ีแกนกลางสูงมาก ทาใหส้ ามารถเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบรวมตวั (นิวเคลียร์ฟิ วชนั ) ได้ อย่างต่อเนื่อง พลงั งานที่ไดท้ าให้บริเวณแกนกลางของดวงอาทิตยม์ ีอุณหภูมิกว่า ๑๕ ลา้ นเคลวิน พลงั งานความร้อนที่ไดท้ าให้เกิดกระบวนการต่อเนื่องต่าง ๆ มากมาย โดยส่วนใหญ่จะถูกดูดกลืน โดยแก๊ซในดวงอาทิตยเ์ อง ส่งผลให้บริเวณผิวนอกของดวงอาทิตยม์ ีอุณหภูมิเหลือเพียงประมาณ ๖๐๐๐ เคลวิน และทาให้แสงแดดมีการกระจายความเขม้ ใกลเ้ คียงกบั การแผร่ ังสีของวตั ถุดาที่ ๖๐๐๐ เคลวนิ

6 สัญลกั ษณ์ ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่ใกลด้ วงอาทิตยม์ ากท่ีสุด ช่ือของดาวเคราะห์ คือ Mercury เป็นช่ือ ในภาษาโรมนั โดยเป็ นชื่อของผสู้ ่งสารของพระเจา้ ซ่ึงมีความรวดเร็ว เนื่องจากดาวพุธปรากฏและ หายไปอยา่ งรวดเร็วในช่วงเชา้ หรือช่วงค่านนั่ เอง ดาวพุธเป็ นดาวเคราะห์ดวงที่อยู่ใกลด้ วงอาทิตยท์ ี่สุด จึงเคลื่อนรอบดวงอาทิตยเ์ ร็วที่สุด โดยใช้เวลาเพียง 87.969 วนั ในการคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ดาวพุธหมุนรอบตวั เองในทิศทาง เดียวกบั การเคลื่อนรอบดวงอาทิตย์ คือ จากทิศตะวนั ตกไปทิศตะวนั ออก หมุนรอบตวั เองรอบละ 58.6461 วนั เมื่อพิจารณาจากคาบของการหมุนรอบตวั เอง และคาบการเคล่ือนท่ีรอบดวงอาทิตย์ จะพบว่า ระยะเวลากลางวนั ถึงกลางคืนบนดาวพุธยาวนานถึง 176 วนั ซ่ึงยาวนานที่สุดในระบบ สุริยะ

7 ข้อมูลจำเพำะของดำวพุธ ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ โดยเฉลี่ย 57.90 ลา้ นกิโลเมตร(0.387 a.u.) ใกลส้ ุด 45.90 ลา้ นกิโลเมตร (0.306 a.u.) ไกลสุด 69.70 ลา้ นกิโลเมตร (0.467 a.u.) Eccentricity 0.206 คาบการหมนุ รอบตวั เอง 58.6461 วนั คาบการหมนุ รอบดวงอาทิตย์ 87.969 วนั บนโลก ดว้ ยความเร็ว 47.87 กิโลเมตรต่อ วินาที ระนาบโคจร (Inclination) 7:00:15.5 องศา แกนเอียงกบั ระนาบโคจร 0 องศา มวล 3.33x1026กรัม หรือ 0.055 เท่าของโลก เส้นผา่ นศูนยก์ ลาง 4,878 กิโลเมตร (โลก 12,756 กิโลเมตร ที่เสน้ ศนู ย์ สูตร) แรงโนม้ ถว่ ง 0.38 เทา่ ของโลก ความเร็วหลดุ พน้ 4.25 กิโลเมตรต่อวนิ าที ความหน่าแน่น 1 ต่อ 5.44 เม่ือเทียบกบั น้า ความสวา่ งสูงสุด -1.9

8 สญั ลกั ษณ์ เป็ นช่ือเทพธิดาแห่งความงาม (Venus) เนื่องจากเป็ นดาวเคราะห์ท่ีสว่างที่สุดเม่ือมองจาก โลกและสังเกตเห็นไดง้ ่าย แมว้ ่าความเป็ นจริงแลว้ ดาวดวงน้ีจะไม่สามารถมีส่ิงมีชีวิตอาศยั อยู่ได้ เนื่องจากอุณหภูมิเฉลี่ยสูงมากก็ตาม แต่คร้ังหน่ีงนกั วิทยาศาสตร์เคยเชื่อว่าดาวศุกร์มีส่ิงมีชีวิตอาศยั อยู่ ดาวศุกร์ ดาวเคราะห์ที่อยหู่ ่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็ นลาดบั ท่ีสอง มีขนาดใกลเ้ คียงกบั โลก จึง ช่ือว่าเป็ น \"ฝาแฝดโลก\" ดาวศุกร์มีวงโคจรอยู่ช้ันในเช่นเดียวกับดาวพุธ จึงทาให้เราสามารถ มองเห็นดาวศุกร์ไดเ้ ช่นเดียวกบั ดาวพุธคือ ทางดา้ นทิศตะวนั ตกหลงั อาทิตยล์ บั ของฟ้าไปแลว้ สูง ประมาณ 45 องศา เรียกว่าดาวศุกร์น้ีว่า \"ดาวประจาเมือง\" และดา้ นทิศตะวนั ออกก่อนดวงอาทิตย์

9 ข้ึน เรียกว่า \"ดาวรุ่ง\" หรือ \"ดาวประกายพรึก\" ซ่ึงเราสามารถมองเห็น เป็ นดาวเด่นอยู่บนทอ้ งฟ้า สวยงามมาก ชาวกรีกโบราณจึงยกใหด้ าวศุกร์แทน เทพวีนสั เทพแห่งความงาม เม่ือมองดว้ ยกลอ้ ง โทรทรรศน์จะเห็นลกั ษณะของดาวศกุ ร์เวา้ แหวง่ เป็นเส้ียวคลา้ ยกบั ดวงจนั ทร์เช่นกนั ดาวศุกร์เป็ นดาวเคราะห์มีขนาดเล็กกว่าโลกเล็กน้อย จึงไดช้ ื่อว่าเป็ นดาวฝาแฝดกับโลก เป็นดาวเคราะห์ที่ปรากฏสวา่ งท่ีสุด สวา่ งรองจากดวงอาทิตยแ์ ละดวงจนั ทร์ ถา้ เห็นทางทิศตะวนั ตก ในเวลาค่าเรียกว่า ดาวประจาเมือง และถ้าเห็นทางทิศตะวนั ออกในเวลาก่อนรุ่งอรุณ เรียกว่า ดาวประกายพรึก ดาวศุกร์เป็ นดาวเคราะห์ที่เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกอย่างรุนแรง เพราะมี บรรยากาศหนาทึบดว้ ยคาร์บอนไดออกไซด์ ดาวศุกร์จึงร้อนมาก อุณหภูมิพ้นื ผิวเฉล่ียสูงกวา่ ดาวพุธ ดาวศุกร์มีโอกาสเขา้ มาใกลโ้ ลกที่สุด ใกลก้ วา่ ดาวพธุ ซ่ึงนกั ดาราศาสตร์ยคุ โบราณเขา้ ใจผิดคิดวา่ อยู่ ใกลโ้ ลกที่สุด ลกั ษณะพิเศษของดาวศุกร์คือ หมุนรอบตวั เอง 1 รอบใชเ้ วลานานกว่าการเคล่ือนที่ รอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ และถ้าเราอยู่บนดาวศุกร์เวลา 1 วนั จะไม่ยาวเท่ากับเวลาท่ีดาวศุกร์ หมุนรอบตวั เอง 1 รอบ นี่คือลกั ษณะพิเศษที่ดาวศุกร์ไม่เหมือนดาวเคราะห์ดวงใดๆ นอกจากน้ี ดาวศุกร์ยงั หมุนตามเขม็ นาฬิกาหรือหมุนจากทิศตะวนั ออกไปทิศตะวนั ตก ในขณะที่เคลื่อนที่รอบ ดวงอาทิตย์จากทิศตะวนั ตกไปทิศตะวนั ออก ดาวศุกร์จึงหมุนสวนทางกับดาวเคราะห์ดวงอ่ืน และหมุนสวนทางกับการเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์ ดาวศุกร์หมุนรอบตวั เองรอบละ 243 วนั แต่ 1 วนั ของดาวศุกร์ยาวนานเท่ากบั 117 วนั ของโลก เพราะต้งั แต่ดวงอาทิตยข์ ้ึนจนถึงดวงอาทิตยต์ ก ยาวนาน 58.5 วนั ของโลก ดาวศุกร์เคล่ือนรอบดวงอาทิตยร์ อบละ 225 วนั 1 ปี ของดาวศุกร์จึง ยาวนาน 225 วนั ของโลก

10 ข้อมูลจำเพำะของดำวศุกร์ ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ โดยเฉลี่ย 108.2 ลา้ นกิโลเมตร(0.723 a.u.) ใกลส้ ุด 107.4 ลา้ นกิโลเมตร (0.718 a.u.) ไกลสุด 109 ลา้ นกิโลเมตร (0.728 a.u.) Eccentricity 0.007 คาบการหมุนรอบตวั เอง 243.16 วนั หมุนกลบั ทิศกบั โลก คาบการหมุนรอบดวงอาทิตย์ 224.701 วนั บนโลก ดว้ ยความเร็ว 35.02 กิโลเมตร ต่อวินาที ระนาบโคจร (Inclination) 3:23:39.8 องศา แกนเอียงกบั ระนาบโคจร 178 องศา มวล 4.870x1027 กรัม หรือ 0.815 เทา่ ของโลก เส้นผา่ นศนู ยก์ ลาง 12,104 กิโลเมตร (โลก 12,756 กิโลเมตร ที่เสน้ ศูนย์ สูตร) แรงโนม้ ถ่วง 0.903 เท่าของโลก ความเร็วหลุดพน้ 10.36 กิโลเมตรต่อวนิ าที ความหน่าแน่น 1 ต่อ 5.25 เม่ือเทียบกบั น้า ความสวา่ งสูงสุด -4.4

11 สัญลกั ษณ์ โลก เป็นดาวเคราะห์สีน้าเงิน ซ่ึงเป็นท่ีอยอู่ าศยั ของมวลมนุษยแ์ ละสรรพส่ิงมีชีวิตท้งั หลาย โลกอยู่ห่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็ นลาดบั ท่ี 3 ในจานวน ดาวเคราะห์ท้งั หมด ในระบบสุริยะ มีพ้ืนผิว ส่วนใหญ่ปกคลมุ ไปดว้ ยน้าถึง 2 ใน 3 ของพ้นื โลก จึงไดช้ ื่อวา่ เป็นดาวเคราะหแ์ ห่งพ้ืนน้า โลก เป็ นชื่อของเทพเจา้ แห่งโลก ชื่อ \"จีอา\" (Gaea) เป็ นดาวเคราะห์ที่มนุษยเ์ ราอาศยั อยู่ มีพ้ืนผิวที่ปกคลุมดว้ ยน้ากวา่ 70% มีช้นั บรรยากาศและอุณหภูมิท่ีเหมาะสมท่ีทาใหส้ ิ่งมีชีวิตเช่นเรา อาศยั อยู่ได้ และเน่ืองจากเรายงั ไม่เคยพบสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกโลกและมนุษยเ์ รายงั ไม่เคยอาศยั ดาว ดวงอื่นนอกโลก นักวิทยาศาสตร์จึงพยายามศึกษาโลกเพื่อเป็ นแบบอย่างในการศึกษาดาวเคราะห์ ตอ่ ไป

12 ข้อมูลเกย่ี วกบั โลก โลกมีอายปุ ระมาณ 4,700 ปี โลกไม่ไดม้ ีรูปร่างกลมโดยสิ้นเชิง เส้นรอบวงที่เสน้ ศนู ยส์ ูตร ยาว 40,077 กิโลเมตร (24,903 ไมล)์ และที่ข้วั โลกยาว 40,009 กิโลเมตร (24,861 ไมล)์ โครงสร้ำงภำยในเปลือกโลก การโคจรรอบดวงอาทิตยข์ องโลกในลกั ษณะที่แกนเอียงทาใหเ้ กิดฤดูกาลต่างๆ ข้ึนบนโลก ซ่ึงสามารถสังเกตไดโ้ ดยพิจารณา ณ ตาแหน่งใดตาแหน่งหน่ึงบนโลก จะพบว่าพลงั งานความร้อน ที่ซีกโลกเหนือได้รับจากดวงอาทิตย์จะไม่เท่ากันตลอดปี ดงั น้ันจึงทาให้เกิดฤดูกาลต่าง ๆ เช่น ในเดือนมิถุนายน ข้วั โลกเหนือจะหันเขา้ หาดวงอาทิตย์ ซีกโลกเหนือจะไดร้ ับความร้อนมากกว่า เดือนอ่ืนๆ และจะเป็ นฤดูร้อน ตรงขา้ มกบั เดือนธันวาคมซ่ึงข้วั โลกเหนือหันออกจากดวงอาทิตย์ แสงอาทิตย์ท่ีตกลงมาบนโลกจะเฉมาก ซ่ึงจะไม่ร้อนมากเหมือนที่แสงตกลงมาตรงๆ ดังน้ัน ในช่วงน้ีจะเป็ นฤดูหนาว ส่วนในเดือนกันยายนและมีนาคม โลกหันด้านข้างเขา้ หาดวงอาทิตย์ จะไม่ร้อนหรือหนาวเหมือนเดือนมิถุนายนหรือธนั วาคม ในช่วงเดือนกนั ยายนจึงเป็นฤดูใบไมร้ ่วง และเดือนมีนาคมโลกอบอุ่นข้นึ จึงเป็นฤดูใบไมผ้ ลิ

13 สาหรับประเทศ ซ่ึงมีลกั ษณะภูมิประเทศใกลเ้ ส้นศูนยส์ ูตรของโลก ปกติจะเป็ นเขตร้อน แต่เน่ืองจากลมมรสุมพดั ผ่านเป็ นประจาฤดูกาลจึงเปลี่ยนไปจากบริเวณอื่น ๆ ของโลก กล่าวคือ จะไม่มีฤดูใบไมร้ ่วงและฤดูใบไม้ผลิ แต่จะมีฤดูฝน ฤดูหนาว และฤดูร้อน โดยจะเกิดข้ึนในช่วง ประมาณดงั น้ี ฤดูร้อน เร่ิมต้งั แตเ่ ดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ฤดฝู น เร่ิมต้งั แตเ่ ดือนมิถนุ ายนถึงเดือนตุลาคม ฤดูหนำว เริ่มต้งั แตเ่ ดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกมุ ภาพนั ธ์

14 สัญลกั ษณ์ ดาวอังคารเป็ นช่ือของเทพเจ้าแห่งสงครามและการเกษตร มักรู้จักกันในนามของ \"ดำวแดง\" (The Red Planets) ซ่ึงมกั จะมีนิยายวิทยาศาสตร์มากมายที่กล่าวถึงดาวดวงน้ี โดยเฉพาะ เม่ือกล่าวถึงสิ่งมีชีวติ ที่อาศยั อยบู่ นดาวองั คาร ดาวองั คาร ดาวเคราะหอ์ นั ดบั ที่ 4 ในระบบสุริยะ เม่ือมองดว้ ยกลอ้ งโทรทรรศน์จะเห็นเป็น ดวงสีแดง ชาวกรีกและโรมนั จะยกให้เป็ นเทพแห่งสงคราม ดาวองั คารมีลกั ษณะหลายอย่างคลา้ ย โลกมากคอื 1 วนั บนดาวองั คารมี 24 ชว่ั โมงใกลเ้ คยี งกนั มีแกนเอียงทามมุ 24 องศาใกลเ้ คียงกบั โลก ทาให้มีฤดูกาล 4 ฤดูคล้ายกัน แต่ 1 ปี ของดาวอังคารยาวนานกว่าโลกเกือบสองเท่าจึงทาให้ นกั วิทยาศาสตร์สนใจดาวองั คารเป็นพเิ ศษและเช่ือวา่ ตอ้ งมีสิ่งมีชีวติ อาศยั อยู่

15 โครงสร้ำงของดำวองั คำร เปลือกช้นั นอกของดาวองั คารเป็นช้นั ของหิน มีสีแดงเพราะเป็ นออกไซดข์ องเหล็ก (สนิม เหล็ก) พ้ืนผิวเป็ นที่ราบส่วนใหญ่ มีก้อนหินเล็กกระจดั กระจ่ายไปทั่ว ช้ันกลางจะเป็ นช้ันของ หินซิลิเกต แกนกลางเป็นโลหะแขง็

16 ภูเขาไฟโอลิมปัส (Olympus) เป็นภูเขาไฟท่ีสูงที่สุดในระบบสุริยะ มีความสูง 25 กิโลเมตร สูงเป็น 3 เทา่ ของยอดเขาเอเวอร์เรสบนโลก รอบฐานกวา้ ง 600 กิโลเมตร ร่องรอยบนท่ีราบของดาวองั คารลกั ษณะคลา้ ยกบั วา่ เคยมีน้าในอดีต ที่ ข้ัวเห นื อ แ ล ะ ใต้ข อ งด าวอังค ารจะ ป ราก ฏ เป็ น ข้ัวน้ าแ ข็ งข อ ง คาร์บอนไดออกไซด์ ซ่ึงจะขยายตวั มากข้ึนเม่ือดาวองั คารหนั ข้วั น้นั ออกจาก ดวงอาทิตย์ ปริศนารูปหนา้ คนที่ยานอวกาศไวกิ้งถา่ ยภาพไวไ้ ด้ หุบเหวมาริเนอร์ เป็ นหุบเหวขนาดใหญ่กวา้ งขนาดเท่ากับความกวา้ งของ ทวีปอเมริกาเหนือ กวา้ งราว 4,700 กิโลเมตร ลึก 2-7 กิโลเมตร เป็ นหุบเหว เหยยี ดยาวผา่ กลางดาวองั คารบริเวณเส้นศนู ยส์ ูตร บรรยำกำศบนดำวอังคำร มีบรรยากาศท่ีเบาบางมากใช้หายใจไม่ได้ ประกอบด้วย คาร์บอนไดออกไซด์ 95% ไนโตรเจน 2.7% อาร์กอน 1.6% ออกซิเจนและไอน้า 0.7% บรรยากาศ ของดาวอังคารแปรปรวนมาก กระแสลมแรงและทาให้เกิดฝ่ ุนคลุ้งไปทั่วท้ังดาวอังคารนาน หลายเดือน ซ่ึงบางคร้ังสามารถมองเห็นเป็นแถบมืดครอบคลุมดาวองั คารไดจ้ ากโลก อุณหภูมิของดำวอังคำร อยู่ระหว่าง +25 องศาเซลเซียสในเวลากลางวนั ถึง -120 องศา เซลเซียสในเวลากลางคนื บริวำรของดำวอังคำร มีอยู่ 2 ดวงเป็ นดาวขนาดเล็ก นักวิทยาศาสตร์คิดว่าคงเป็ นสะเก็ด ดาวเคราะหน์ อ้ ยที่ถกู สนามแรงโนม้ ถ่วงของดาวองั คารจบั ไว้

17 สญั ลกั ษณ์ ดาวพฤหัสบดีเป็นช่ือของเทพเจา้ Jupiter (หรือ Zeus) ซ่ึงเป็นราชาของเทพเจา้ ท้งั ปวง และ ดาวพฤหัส ก็เป็ นดาวเคราะห์ท่ีใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจกั รวาลของเรา มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 11 เทา่ ของโลก มีระบบดาวบริวารของตนเองไม่ต่ากวา่ 16 ดวง ดาวพฤหัส เป็ นดาวเคราะห์ท่ีอยู่ห่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็ นอันดบั ที่ 5 และเป็ นดาวเคราะห์ ดวงใหญ่ท่ีสุดในระบบสุริยะ มีมวลมากกว่าโลกกว่า 317 เท่า แต่มีขนาดใหญ่กว่าโลก 1,400 เท่า หากดาวพฤหสั มีมวลมากกวา่ อีก 100 เท่า ดาวพฤหสั ก็จะกลายเป็นดาวฤกษข์ นาดเลก็ ๆไดเ้ ลย ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ เป็นดาวเคราะห์ก๊าซยกั ษ์ โคจรห่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็ นลาดบั ที่ 5 ถดั จากดาวองั คาร มีเส้นผ่านศูนยก์ ลาง 142,984 กิโลเมตร มีเน้ือสารมากที่สุด และมากกว่าดาวเคราะห์ทุกดวงรวมกนั มีมวลราว 318.1 เท่าของโลก ใชเ้ วลา ในการหมุนรอบตวั เองเร็วมากประมาณ 9 ชั่วโมง 55 นาที หรือ 10 ชัว่ โมงต่อ 1 รอบ แต่ใช้เวลา โคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใชเ้ วลานานถึง 12 ปี ของโลก ดว้ ยความเร็ว 13.06 กิโลเมตรต่อวินาที ดาวพฤหสั จะเคลื่อนท่ีชา้ ๆ ผา่ นกลุ่มดาวจกั รราศีไดป้ ระมาณปี ละ 1 กลุ่ม

18 ดาวพฤหัสอยู่ห่างจากโลก 5.2 หน่วยดาราศาสตร์หรือประมาณ 780 ล้านกิโลเมตร แรงดึงดูดที่ผิวของดาวพฤหสั สูงกวา่ โลก 2.64 เท่า นนั่ หมายถึงวา่ ถา้ อยบู่ นโลกเราหนกั 50 กิโลกรัม แต่ถา้ ไปอยู่บนดาวพฤหัสบดี จะมีน้าหนักถึง 132 กิโลกรัม ดาวพฤหัสบดีมีดวงจนั ทร์เป็ นบริวาร ขณะน้ีถึง 16 ดวง แต่ถา้ ใช้กลอ้ งโทรทศั น์ส่องดูแลว้ จะเห็นดวงจนั ทร์บริวารขนาดใหญ่ 4 ดวง แต่ละดวงจะโตกวา่ ดวงจนั ทร์ของโลกเรา ดวงจนั ทร์ท้งั 4 ดวง ส่องกลอ้ งพบโดย กาลิเลโอ บิดาวชิ า ดาราศาสตร์ภาคสังเกตการณ์ชาวอิตาลีเมื่อปี พ.ศ. 2153 (ค.ศ.1610) จึงไดช้ ื่อวา่ ดวงจนั ทร์กาลิเลียน เรียงตามลาดบั ระยะห่างจากดาวพฤหัส คือ ไอโอ (lo) ยุโรปา (Europa) แกนิมีด (Ganymede) และ คลั ลิสโต (Callisto) ดวงท่ีใหญ่ท่ีสุดคือแกนิมีด (Ganymedq aze) บรรยากาศของดาวพฤหัสมีลักษณะเป็ นแถบกวา้ งหลายแถบ ระหว่างแถบเป็ นรอยมืด เรียกว่า เข็มขดั ขนานไปกบั แนวเส้นศูนยส์ ูตร ซ่ึงแถบกวา้ งน้ีแทท้ ่ีจริงแลว้ คือ แถบเมฆท่ีหนาทึบ ทอดตวั ยาวออกไป เคลื่อนที่หมุนวนไปรอบตวั ดวง มีองค์ประกอบเป็ นธาตุไฮโดรเจนและฮีเลียม ไม่มีพ้ืนผิวแข็งแต่มีแกนใจกลางขนาดเล็กเป็ นหินแข็ง บรรยากาศมีอตั ราส่วนเหมือนกันมากกบั บรรยากาศของดวงอาทิตย์ ใตเ้ ส้นศูนยส์ ูตรไปทางซีกใต้จุดน้ีคือพายุหมุนวนดว้ ยความเร็วสูงเป็ น ลกั ษณะเด่นที่ปรากฎเห็นมานานแลว้

19 สัญลกั ษณ์ ดาวเสาร์เป็ นช่ือของเทพเจ้าแห่งการเกษตร ชื่อ Saturn เป็ นดาวเคราะห์ท่ีมีวงแหวนท่ี สวยงาม ซ่ึงประกอบดว้ ยฝ่นุ และน้าแขง็ นบั ร้อยวงเลยทีเดียว ดาวเสาร์เป็ นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่เป็ นท่ี 2 รองจากดาวพฤหัส โคจรห่างจากดวงอาทิตย์ เป็ นลาดบั ท่ี 6 ถดั จากดาวพฤหสั เป็ นดาวเคราะห์ที่สวยงามที่สุด เพราะปรากฏมีวงแหวนลอ้ มรอบ ตวั ดวง เมื่อส่องดูดว้ ยกลอ้ งโทรทรรศน์มีสีค่อนขา้ งเหลือง จะเคลื่อนตวั ช้าๆ ผ่านไปยงั กลุ่มดาว จกั รราศี ดาวเสาร์มีเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางโดยเฉลี่ยประมาณ 119,871 กิโลเมตร หรือประมาณ 9 เท่าของ โลก โคจรอยู่ห่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็ นระยะทางเฉล่ีย 9.54 หน่วยดาราศาสตร์ แสงจากดวงอาทิตย์ ตอ้ งใชเ้ วลาเดินทาง 1 ชว่ั โมง 15 นาที จึงจะถึงดาวเสาร์ ใชเ้ วลาโคจรรอบดวงอาทิตยน์ านถึง 29.46 ปี ของโลก ด้วยอัตราความเร็ว 9.64 กิโลเมตรต่อวินาที และหมุนรอบตวั เอง 1 รอบกินเวลา 10 ชว่ั โมง 40 นาที ซ่ึงเร็วมากทาให้ดาวเสาร์มีลกั ษณะป่ องในแนวเส้นศูนยส์ ูตร และสามารถเห็นได้ ชดั เจนเม่ือมองดว้ ยกลอ้ งโทรทรรศนจ์ ากโลก

20 ข้อมูลจำเพำะของดำวเสำร์ ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ โดยเฉล่ีย 1,427 ลา้ นกิโลเมตร(9.539 a.u.) ใกลส้ ุด 1,347 ลา้ นกิโลเมตร (9.008 a.u.) ไกลสุด 1,507 ลา้ นกิโลเมตร (10.069 a.u.) Eccentricity 0.056 คาบการหมนุ รอบตวั เอง 10 ชว่ั โมง 13 นาที 59 วินาที คาบการหมุนรอบดวงอาทิตย์ 29.46 ปี บนโลก ดว้ ยความเร็ว 9.60 กิโลเมตรต่อวินาที ระนาบโคจร (Inclination) 2:29:21.6 องศา แกนเอียงกบั ระนาบโคจร 26:44 องศา มวล 586.5 x 1024 Kg. หรือ 95.17 เท่าของโลก เสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง 119,871 กิโลเมตร (74,500 ไมล)์ หรือ 9 เท่าของโลก (โลก 12,756 กิโลเมตร ท่ีเส้นศนู ยส์ ูตร) แรงโนม้ ถ่วง 1.16 เท่าของโลก ความเร็วหลุดพน้ 32.26 กิโลเมตรต่อวินาที ความหนาแน่น 687 kg/CBM หรือ 1 ต่อ 0.71 เมื่อเทียบกบั น้า ความสวา่ งสูงสุด -0.3 ถึง +0.8 ข้ึนอยรู่ ะนาบวงแหวนท่ีหันเขา้ หาโลก อณุ หภมู ิของเมฆช้นั บนสุด -170 องศาเซลเซียส หมำยเหตุ: Eccentricity เป็นค่าคงทีของวงโคจรท่ีบอกวา่ วงโคจรน้นั รีมากหรือนอ้ ย หาไดจ้ าก ระยะห่างของจุดโฟกัสท้ังสองหารด้วยความยาวของแกนหลัก ซ่ึงวงกลมจะมีค่า Ecc = 0 และ พาลาโบลา่ จะมีค่า Ecc = 1 Inclination มุมเอียงที่ระนาบการโคจรของดาวเคราะห์หรือดาวหาง ทากบั ระนาบ อิคลิปติค มีหน่วยเป็น องศา

21 ดาวยเู รนสั เป็นดาวเคราะห์ท่ีถูกคน้ พบ เม่ือปี พ.ศ. 2324 (ค.ศ.1781) โดย William Herschel ชาวองั กฤษ เป็ นดาวเคราะห์ท่ีมีวงแหวนคลา้ ยดาวเสาร์แต่ค่อนขา้ งจางมาก และเป็ นดาวเคราะห์ ดวงเดี ยว ใน ระบ บ สุ ริ ยะจักรวาล ที่ ห มุ น รอบ ตัวเอ ง โดยทิ ศต้ ังฉ าก กับ แน วการเค ล่ื อน ที่ รอ บ ดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ช้นั นอกดวงต่อไปถดั จากดาวเสาร์ ไดแ้ ก่ ดาวยเู รนสั ดาวยเู รนสั เป็นดาวเคราะห์ ท่ีใหญ่เป็นที่สามในระบบสุริยะ มนั มีลกั ษณะเลือนลาง จะตอ้ งมองดูดว้ ยกลอ้ งโทรทศั น์เท่าน้นั จึง สามารถมองเห็น เราเคยคิดว่ามนั เป็ นดาวฤกษ์ ในปี 1781 William Herschel ไดใ้ ช้กลอ้ งโทรทศั น์ คน้ พบว่า ดาวยเู รนสั เป็นดาวเคราะห์ เขาเห็นแผน่ กลมสีเขยี วที่ไมม่ ีรอย ต่อมานกั ดาราศาสตร์ไดพ้ บ ดาวบริวารห้าดวง ในปี 1977 ไดม้ ีการพบวงแหวนของดาวยูเรนัส ถึงแมว้ ่านักดาราศาสตร์จะใช้ กลอ้ งโทรทศั น์ขนาดใหญ่ที่สุด แต่เขาก็ยงั ไม่สามารถคน้ หาอะไรไดม้ ากมายนักเก่ียวกบั ดาวยูเรนัส ในปี 1986 ยานอวกาศวอยาเจอร์2 ไดบ้ ินผา่ นดาวยเู รนสั และไดส้ ่งภาพท่ีชดั เจนของดาวยเู รนสั และ วงแหวนตลอดจนดาวบริวารของมันกลับมายงั พ้ืนโลก ในที่สุดเราก็ได้ความรู้เพ่ิมข้ึนเกี่ยวกับ ดาวยเู รนสั

22 โลกของนำ้ ภาพของดาวยูเรนัสจากยานอวกาศได้อธิบายว่า ทาไมนักดาราศาสตร์จึงไม่สามารถ มองเห็นดาวยูเรนสั ไดม้ ากนกั ดาวยเู รนสั ท้งั ดวงปกคลุมดว้ ยหมอกสีเขียวแก่ ยานวอยาเจอร์ไดพ้ บ กลุ่มควนั สองสามกลุ่มใตห้ มอก แสดงให้เห็นว่าลมกาลงั พดั รอบๆ ดาวยเู รนัสในอตั ราความเร็วถึง 440 ไมล์ต่อชว่ั โมง บรรยากาศประกอบดว้ ยแก๊สไฮโดรเจน ฮีเลียม และมีเทน นกั ดาราศาสตร์บาง คนคิดว่าพ้ืนผิวของดาวยูเรนัสปกคลุมด้วยมหาสมุทรท่ีร้อนเหมือนกับดาวจูปิ เตอร์และดาวเสาร์ แต่ประกอบดว้ ยน้าร้อนแทนที่จะเป็นแก๊ส ที่ใจกลางของดาวยเู รนสั จะมีแกนกอ้ นหินเลก็ ๆ ด้ำนในของดำวยูเรนสั ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นได้มากนักบนดาวยูเรนัส แต่นักดาราศาสตร์ได้พบ สิ่งประหลาดอย่างหน่ึงเก่ียวกบั ดาวยเู รนสั คือดาวยูเรนัสจะเอียงขา้ ง แกนของมนั จะเอียงเพื่อว่าข้วั ของมนั จะต้งั เกือบอยู่ในทิศทางเดียวกบั การเคล่ือนไหวของดาวยเู รนัส ไม่มีดาวเคราะห์ดวงใดที่มี ลกั ษณะดงั กล่าว เหตุผลท่ีดาวยูเรนัสมีการเอียงมากอาจเป็ นเพราะว่าคร้ังหน่ึงเคยถูกกระแทกโดย ดาวเคราะห์นอ้ ย ในขณะที่ดาวยเู รนสั หมุนรอบดวงอาทิตย์ ข้วั ขา้ งหน่ึงจะช้ีไปทางดวงอาทิตย์ ข้วั ท่ี ช้ีไปทางดวงอาทิตยจ์ ะเห็นแสงสวา่ งของเวลากลางวนั เป็นเวลา 22 ปี แลว้ ดา้ นน้ีจะหมุนไปดา้ นตรง ขา้ มกบั ดวงอาทิตยอ์ ยใู่ นความมืดอีก 22 ปี ยานวอยาเจอร์พบว่าข้วั มืดจะอบอุ่นกว่าข้วั ท่ีมีแสงสวา่ ง เลก็ นอ้ ยไมม่ ีใครรู้วา่ เป็นเพราะเหตุใด

23 ข้อมูลจำเพำะของดำวยเู รนสั ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ 2,870,972,200 ก.ม. 19.19126393 A.U. หมนุ รอบตวั เอง 0.71833 วนั (หมุนกลบั หลงั ) หมนุ รอบดวงอาทิตย์ 83.74740682 ปี เส้นผา่ นศูนยก์ ลาง 51,118 ก.ม. (4.007 เท่าของโลก) ปริมาตร 52 เทา่ ของโลก มวล 8.6849 x1025 ก.ก. ความหนาแน่น 1300 ก.ก./ม3 ความเร่งที่พ้ืนผิว 869 ซ.ม./วินาที2 ความเร็วเฉลี่ย 6.8352 ก.ม./วินาที ความเร็วการผละหนี 21.29 ก.ม./วนิ าที ความรีของวงโคจร 0.04716771 ความเอียงระนาบวงโคจร 0.76986 องศา ความเอียงของแกนหมุน 97.86 องศา อุณหภูมิช้นั บรรยากาศ 76 องศาเคลวิน ก๊าซในช้นั บรรยากาศ H2, He, CH4

24 ดาวเนปจูนเป็ นดาวเคราะห์ท่ีถูกค้นพบ เม่ือปี พ.ศ. 2389 (ค.ศ.1846) โดย Johann Galle และ Heinrich D'Arrest เป็ นดาวเคราะห์ที่ไกลที่สุดที่มีการส่งยานไปสารวจ (โดย Voyager) ซ่ึงนกั วทิ ยาศาสตร์คาดวา่ อาจมีมหาสมุทรขนาดมหึมาปกคลุมผิวดาวดวงน้ีอยู่ การหมุนรอบของดาวเนปจูนมีลกั ษณะผิดปกติ บางคนคิดว่าจะตอ้ งมีดาวเคราะห์ดวงใหญ่ อีกดวงหน่ึงที่ไม่เป็นที่รู้จกั อาจอยู่ถดั จากดาวเนปจูน แรงโนม้ ถ่วงของมนั อาจจะดึงไปที่ดาวเนปจูน จึงทาให้การหมุนของมนั เปล่ียนแปลง ในปี 1846 ชาวเยอรมนั ชื่อ Johann Galle ไดพ้ บดาวเนปจูน ด้วยกล้องโทรทัศน์ขนาดใหญ่ มันอยู่ในตาแหน่งท่ีนักดาราศาสตร์คนอ่ืนได้ระบุไว้ก่อนแล้ว ดาวเคราะหน์ ้ีมีสีน้าเงิน มีชื่อวา่ ดาวเนปจูนตามช่ือเทพเจา้ แห่งทะเลโรมนั ดาวเนปจูนโตเกือบเท่าดาวยูเรนัส มนั เป็ นดาวเคราะห์ท่ีใหญ่เป็ นอนั ดบั ส่ีในระบบสุริยะ มนั อยู่ห่างไกลจากโลกมาก จึงทาให้มองเห็นสลวั มาก ดาวเนปจูนมนั ดูคลา้ ยกบั ดาวฤกษ์ สิ่งท่ีเรารู้ ท้ังหมดก็คือ ดาวเคราะห์ดวงน้ีมองเห็นจากโลก ก็เหมือนกับดาวยูเรนัส มีมหาสมุทร น้าที่ลึก ลอ้ มรอบแกนหิน ซ่ึงอยู่ใจกลางของดาวเนปจูน บรรยากาศของดาวเนปจูนไม่เต็มไปด้วยหมอก เหมือนกับดาวยูเรนัส กล้องโทรทัศน์ขนาดใหญ่แสดงให้เห็นแถบกลุ่มควันขาวที่หมุนรอบ ดาวเนปจูน บรรยากาศจะเยน็ มาก กลุ่มควนั ประกอบด้วยมีเทนที่แข็ง บางคร้ังกลุ่มควนั เหล่าน้ี จะกระจายออกและปกคลมุ ดาวเนปจูนท้งั ดวง อาจมีลมพดั จดั บนดาวเนปจูน ลมเกิดจากอากาศร้อน ท่ีลอยข้ึน ลมเยน็ พัดเขา้ ไปแทนที่ บนดาวเนปจูนความร้อนต้องมาจากภายในเพ่ือทาให้ลมพัด

25 ในเดือนสิงหาคม ปี 1989 ยานวอยาเจอร์ 2 ไดไ้ ปถึงดาวเนปจูน มนั บินผ่านและส่งภาพและการวดั กลบั มายงั พ้ืนโลก ตอ่ จากน้นั ยานวอยาเจอร์ 2 จะบินออกจากระบบสุริยะต้งั แต่ไดอ้ อกจากโลกไป ส่วนโค้งและดำวบริวำรของดำวเนปจูน หลังจากที่ได้มีการค้นพบว่า ดาวยูเรนัสมีวงแหวน คนเร่ิ มมองหาวงแหวนรอบๆ ดาวเนปจูน เขาใช้กล้องโทรทัศน์มองดูดาวเนปจูนเม่ือมันเคล่ือนใกล้ดาวฤกษ์ ถ้าดาวเนปจูน มีวงแหวนมนั ก็จะผ่านดา้ นหนา้ ของดาวฤกษ์ วงแหวนแต่ละวงจะตดั แสงของดาวฤกษช์ วั่ ขณะหน่ึง ในปี 1981 นักคณิตศาสตร์คนหน่ึงได้เห็นการริบหร่ืของดาวฤกษ์ ต้ังแต่น้ันคนบางคนได้เห็น การริบหรื่แต่บางคนไม่เห็นอะไรเลย บางทีดาวเนปจูนอาจมีวงแหวนท่ีเป็ นชิ้นส่วนท่ีแตกออก เป็นชิ้นๆ มนั อาจมีส่วนโคง้ ส้ันๆ แทนที่จะเห็นวงแหวนท้งั วง ส่วนโคง้ จะหมุนรอบดาวเนปจูน

26 บรรณำนุกรม ดำวเครำะห์. [ม.ป.ป.]. สืบคน้ เมื่อ 21 กุมภาพนั ธ์ 2564, จาก http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/sakaew/rungaroon_k/star/sec04p01.html. ดำวเครำะห์ในระบบสุริยะ. (2562). สืบคน้ เมื่อ 21 กุมภาพนั ธ์ 2564, จาก https://ngthai.com/science/23134/planets/2/. ระบบสุริยะจักรวำล. (2559). สืบคน้ เมื่อ 21 กุมภาพนั ธ์ 2564, จาก https://guru.sanook.com/7270/.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook