1 แนวปฏบิ ตั ทิ ี่ดี Best Practice 1. ชื่อผลงาน “เพียงดนิ สันป่าเปา หวั ใจชุมชนแหง่ การเรยี นรู้” ชื่อเจา้ ของผลงาน นายณัฐเชษฐ์ โพธ์ทิ อง กศน.ตาบลสนั ปา่ เปา อาเภอสันทราย จงั หวดั เชยี งใหม่ 2. ความเปน็ มาและความสาคัญ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเพียงดินสันป่าเปา เริ่มจากในปี พ.ศ. 2551 คนในชุมชนสันป่าเปาเร่ิม ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพ และส่ิงแวดล้อม จึงไดจ้ ัดตง้ั กลมุ่ ผู้ปลกู ผักปลอดภัยตาบลสนั ปา่ เปาขน้ึ โดยกลุ่มได้ เน้นถ่ายทอดความรู้ด้านการปลูกผักปลอดภัยและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้แก่คนในชุมชน และได้ ปลูกผักปลอดภัยเพื่อจาหน่ายให้แก่คนในชุมชน โดยมีหน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุนการดาเนินงานของ กลุ่มมาโดยตลอด ได้แก่ ศนู ย์ กศน.อาเภอสันทราย เทศบาลตาบลสันป่าเปา, การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย, สานักงานเกษตรอาเภอสันทราย, สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอสันทราย, สานักงานพัฒนาท่ีดินจังหวัด เชียงใหม่, สานักวจิ ัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้าน อารักขาพืช จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น ภายหลังได้จัดต้ังศูนย์เรียนรู้และกลุ่มย่อย ภายใต้ชุมชนสันป่าเปาอีก หลายกลุ่ม เช่น ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนตาบลสันป่าเปา กลุ่มท่องเท่ียวชุมชนตาบลสันป่าเปา กลุ่มเกษตร อินทรีย์ เน้นการปลูกพืชผักสวนครัว ดั้งน้ันเพ่ือให้เกิดความคล่องตัวในการบริการงาน จึงได้จัดต้ังวิสาหกิจ ชมุ ชนกลุ่มเพียงดินสันป่าเปาขึ้น ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 เพื่อทาหน้าที่สร้างอัตลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ ของชุมชน โดยเนน้ เป็นศูนย์เรยี นรู้ และจาหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชน และดาเนินกิจการดา้ นการท่องเทยี่ วของ ชุมชน 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ ใหช้ มุ ชนมคี วามกา้ วหน้าด้านการทอ่ งเทีย่ วเชงิ เกษตรปลอดสารพษิ 2. เพอ่ื เปน็ ศูนยก์ ลางการเรยี นรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3. เพอ่ื สนบั สนนุ การเกดิ งานสรา้ งรายไดใ้ หก้ ับชมุ ชน 4. เป้าหมาย 4.1 เชงิ ปริมาณ สมาชกิ กลุ่ม จานวน 80 คน 4.2 เชงิ คณุ ภาพ - ชุมชนมีความกา้ วหน้าดา้ นการท่องเท่ยี วเชิงเกษตรปลอดสารพิษ เกิดการพัฒนาทยี่ งั่ ยืน - มศี นู ย์การเรียนรเู้ พื่อถา่ ยทอดความรู้และจาหนา่ ยผลิตภัณฑข์ องชมุ ชนท่ีหลากหลายและมี คุณภาพ - มีฐานการเรยี นรใู้ นการขบั เคล่ือนศูนยก์ ารเรียนร้ตู ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ด้าน การศกึ ษา (ศรร.) - ชมุ ชนมีเรายได้ มีคุณภาพชีวิตทดี่ ีข้ึน ใช้ชีวิตอยูใ่ นสังคมได้อยา่ งมีความสขุ แนวปฏิบัติที่ดี BEST PRACTICE กศน.ตำบลสันปำ่ เปำ
2 5. กิจกรรมทดี่ าเนนิ การและประสบความสาเรจ็ ทีไ่ ด้รบั การพจิ ารณาวา่ เปน็ แนวปฏบิ ัตทิ ี่ดี (Best Practice) วสิ าหกิจชมุ ชมกลมุ่ เพียงดินสนั ปา่ เปาไดร้ บั การสนับสนุนจากเครอื ขา่ ยภาครัฐต่างๆ โดยจดั กิจกรรมการทอ่ งเทย่ี วเชิงเกษตรวิถีชุมชนสุขภาพ พรอ้ มต้อนรับนกั ท่องเทีย่ วใหไ้ ดเ้ ขา้ มาเรียนรู้ ทดลอง และ เปดิ ใจการทอ่ งเทยี่ วเชิงเกษตรและวิถีชมุ ชนสขุ ภาพ ซง่ึ ไมห่ า่ งจากตัวเมืองมาก เนื่องจากพ้นื ท่ีดงั กลา่ วเปน็ พนื้ ท่ี กึ่งเมืองก่ึงชนบท หา่ งกนั เพียง 9 กิโลเมตร ทาใหเ้ ดนิ ทางไดง้ ่าย กอปรกับวิถีชาวสวนชาวนาแบบด้ังเดมิ ของทน่ี ี่ จากการปลกู ผกั สวนครัวแบบอนิ ทรีย์และปลูกขา้ วแบบอนิ ทรีย์ ทาให้เหน็ ถงึ การอนุรกั ษ์ ตอ่ ยอด และถา่ ยทอด จติ วญิ ญาณวิถีชาวสวนและชาวนาภายในพ้ืนท่ีไว้ไดอ้ ย่างเตม็ เป่ียม เมือ่ ชาวบา้ นและการอยรู่ ว่ มกนั ของชุมชนเขม็ แขง็ ขึน้ จึงได้มกี ารขอทนุ วจิ ัยเพม่ิ เติมเพ่อื นารอ่ ง การท่องเท่ียวเชิงเกษตรและวิถีชมุ ชนสขุ ภาพขึน้ ภายใตก้ ารสง่ เสริมจากสานักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อจดั ทาทริป 2 วัน 1 คืนให้กบั นักทอ่ งเทยี่ วไดซ้ ึมซบั กบั วถิ ี ชาวสวนและชาวนาใน บริบทใหม่ท่ีเพิ่มเติมมูลค่าและคณุ ค่าของผลิตภณั ฑ์ชมุ ชนให้มากขึน้ โปรแกรมการท่องเทย่ี ว 2 วัน 1 คนื ทรปิ ทอ่ งเท่ียวแบบย่งั ยืนชาวบา้ น เครือขา่ ย และทีมวจิ ัย ภายในพื้นทไ่ี ดอ้ อกแบบเส้นทางและรูปแบบการท่องเท่ียว 2 วนั 1 คนื ออกเปน็ 4 ส่วน ไดแ้ ก่ เรยี นรู้ ลงมอื ผอ่ นคลาย วฒั นธรรม ซงึ่ แตล่ ะส่วนมรี ายละเอยี ดกจิ กรรมดังน้ี เรียนรู้ : วถิ ีเกษตรจากศูนย์เกษตรผสมผสาน ด้วยกิจกรรมชมสวนหมอ่ น ชมิ มะพร้าวน้าหอมท่ี ปลูกภายในพนื้ ทีไ่ ปจนถึงการเข้าใจในพธิ ีทาขวัญขา้ วผ่านการบอกเล่าจากผู้สูงอายุภายในพนื้ ท่ี ลงมอื : เกบ็ ธรรมชาติที่เปน็ พชื ผกั และสมนุ ไพรสขุ ภาพมาจัดการเป็นมอื้ อาหาร เช่น ยาปืนนกไส้ แกงผกั กะสงั ใส่ปลาแห้ง และเม่อื อม่ิ ท้องแล้ว ยงั มีกิจกรรมเกีย่ วขา้ วให้ไดล้ องทา เพ่อื เขา้ ใจวิถชี มุ ชนสนั ป่าเปา ได้อยา่ งลกึ ซึ้ง ผอ่ นคลาย : ด้วยบ้านพกั แบบโฮมสเตยข์ องชาวบ้านภายในพน้ื ท่ี ซึ่งเป็นการช่วยกระจายรายไดส้ ู่ ชุมชนได้แบบยง่ั ยนื วัฒนธรรม : นง่ั สามล้อพ่วงข้างชมความเปน็ มาของสนั ป่าเป่า ผ่านสถานที่ศกั ดส์ิ ิทธ์ิหลายแห่ง เชน่ นา้ บ่อทพิ ย์ วดั ต้นสาร ต้นเปาเก่าแก่แห่งวดั สันตน้ เปา เปน็ ต้น แสดงให้เหน็ ถงึ พลังชาวบ้าน ครอื ขา่ ย ในการขบั เคล่อื นวถิ ชี ุมชนให้ทกุ คนมโี อกาสได้บริหาร จัดการทรพั ยากรในพนื้ ทีข่ องตนเอง เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความภาคภูมิใจในส่งิ ที่สรา้ งข้นึ มาด้วยน้ามือของตนเอง ไมใ่ ช่ แค่วิถี แต่เป็นชีวิตของชาวบ้านทุกคน การท่องเท่ียวนีเ้ ป็นการนาเสนอดว้ ยการชจู ดุ เดน่ ในสิ่งทีช่ มุ ชนมี โดยไม่ พยายามสร้างสิง่ ใดทีไ่ ม่ใช่ตวั ตนของคนในชมุ ชน เพราะสงิ่ น้ันจะไม่ย่ังยนื และถาวร เน่อื งจากเมือ่ สรา้ งแลว้ สิง่ ท่ี ตามมาคอื ผดู้ ูแลหรอื รับชว่ งตอ่ ซึ่งไมม่ ี แตถ่ ้าเปน็ สิง่ ที่มีอยใู่ นชมุ ชนดั้งเดมิ อยู่แลว้ สามารถจัดการไดอ้ ยา่ ง ทนั ทว่ งทีด้วยกาลังของชาวบา้ นทที่ าใหก้ ารท่องเท่ียวน้เี ปน็ การท่องเท่ยี ววิถีชุมชนอยา่ งแท้จรงิ ปจั จุบนั วิสาหกิจชุมชนกลมุ่ เพยี งดนิ สันปา่ เปา ภายใตก้ ารบรหิ ารโดยคุณลาวลั เบี้ยไธสง ซง่ึ เปน็ ประธานกลุม่ วสิ าหกจิ ชุมชนสันป่าเปา ได้จัดกจิ กรรมการเรียนร้อู ยา่ งตอ่ เนื่อง มีจานวนสมาชิกกลุม่ เพ่ิมมากข้นึ มกี ารพัฒนาศกั ยภาพของสมาชกิ กลุ่มอยู่ตลอดเวลา โดยได้รบั การสนับสนุนจากหนว่ ยงานภาคีเครือขา่ ยต่างๆ มกี ารฝกึ อบรมใหค้ วามรูแ้ ก่สมาชกิ กลมุ่ ประชาชนในชุมชน เป้นการสร้างสงั คมให้แขม้ แขง็ ยั่งยนื กลายเปน็ ศนู ยก์ ลางการถ่ายทอดความรสู้ ชู่ ุมชน ซึง่ เป็นแหล่งเรยี นรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยนอ้ มนาหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ อีกทั้งยงั ใชศ้ ูนยเ์ รียนรู้ เป็นฐานการเรยี นร้ใู นการขบั เคลอ่ื น ศูนยก์ ารเรียนร้ตู ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดา้ นการศกึ ษา (ศรร.) เปน็ ศนู ยเ์ รยี นรูท้ างการเกษตร ประจาตาบลสนั ปา่ เปา ศนู ย์บรกิ ารและถา่ ยทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจาตาบล ศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน แนวปฏิบตั ิที่ดี BEST PRACTICE กศน.ตำบลสนั ป่ำเปำ
3 วิสาหกจิ ชมุ ชนกลุ่มเพียงดนิ สนั ป่าเปา ยังมกี ารพฒั นาต่อยอดผลติ ภัณฑข์ องสมาชิกกลุ่มและของ คนในชมุ ชน ผลติ ภัณฑ์ที่มีความโดดเดน่ คือ ผลติ ภัณฑ์ “ชาเชยี งดา” ซงึ่ ไดร้ ับรางวลั The Best Of Sha รวม ไปถงึ กาดเพยี งดิน กาดที่จาหนา่ ยสนิ คา้ ผกั ผลไมป้ ลอดสารพษิ ผลิตภณั ฑอ์ ่ืนๆ ของสมาชกิ กลุ่มและของคนใน ชุมชน การท่องเที่ยวเชิงเกษตรอนิ ทรยี ์ ทุกกิจกรรม ทุกโครงการ เกดิ ขึ้นได้ โดยการไดร้ ับความรว่ มมอื จาก สมาชิกกล่มุ ชุมชน และภาคีเครือข่ายหน่วยงานตา่ งๆ กศน.อาเภอสันทรายเองก็เป็นส่วนสาคญั ในการดาเนินงานรว่ มกันแบบบูรณาการเข้าด้วยกนั ช่วยกนั สรา้ งอาชพี สรา้ งแหล่งเรยี นรู้ เพอ่ื มอบความรู้ความสุขใหก้ ับสังคม ชุมชน และจะมีการพัฒนาตอ่ ยอด และเดนิ หน้าต่อไป ภายใตส้ ถานการณข์ องสงั คมที่มีการเปลีย่ นแปลงอยูต่ ลอดเวลา 6. ประโยชนท์ ่ีไดร้ ับ 6.1 ระดับบุคคล คนในชมุ ชนมอี าชีพและรายได้จากการท่องเทยี่ วเชิงเกษตรปลอดสารพิษ การจาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์ทมี่ ีอยู่ภายในกลุ่มวิสาหกิจชมุ ชน เกิดการสร้างอาชพี และการไดร้ บั ความรเู้ พ่อื พัฒนา ศักยภาพของตนเอง 6.2 ระดบั องค์กร ชมุ ชนกลายเป็นศูนย์กลางของการเรยี นรู้ ทาให้ชุมชนมีความเข้มแขง็ สามคั คี เป็นหน่ึงอันเดียวกัน สามารถปรับตัวและจัดการปัญหาในเร่ืองสาคัญต่างๆ ของตนได้อย่างเหมาะสม โดย สามารถท่ีจะรบั มอื กับความเปล่ยี นแปลง ท้งั ปจั จยั ที่เกดิ จากภายในและภายนอกไดด้ ้วยตวั ของชุมชน 7. ปัจจยั ทีน่ าไปสู่ความสาเรจ็ 1. สมาชกิ กลุ่มและชมุ ชนมกี ารวางแผนการดาเนนิ งานร่วมกันอยา่ งเป็นระบบและต่อเนือ่ ง 2. สมาชิกกลมุ่ และชุมชนมีความเข้มแข็ง สามัคคี สามารถพฒั นางานเพ่อื ต่อยอดงานในชุมชนได้ 3. สมาชิกกลุ่มและชุมชนมีความใฝ่เรียนรู้ พร้อมเปิดรับความรู้ใหม่ๆ และพัฒนาศักยภาพของ ตนเอง 4. สมาชิกกลุ่มและชุมชนมีความสามารถในการปรับตัวและจัดการปัญหาในเร่ืองต่างๆ พร้อม รับมือกบั ความเปลย่ี นแปลงชองสงั คม สถานการณป์ จั จบุ ัน 5. สมาชกิ กลุ่มและชุมชน ไดร้ ับการสนบั สนุนจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายต่างๆ ท่ีมีเป้าหมายใน การดาเนนิ งานรว่ มกนั เพื่อสรา้ งงานสร้างอาชีพ สร้างรายไดท้ ่ีมนั่ คง พัฒนาคณุ ภาพชวี ิตใหก้ ับคนในชมุ ชน แนวปฏิบัตทิ ด่ี ี BEST PRACTICE กศน.ตำบลสันปำ่ เปำ
4 8. รปู ภาพประกอบการดาเนินงาน แนวปฏิบัตทิ ี่ดี BEST PRACTICE กศน.ตำบลสนั ป่ำเปำ
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: