Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มที่ 7 เรื่อง การสร้างงานนำเสนอ

เล่มที่ 7 เรื่อง การสร้างงานนำเสนอ

Published by cherry mearmungkaw, 2022-08-23 11:00:19

Description: เล่มที่ 7 เรื่อง การสร้างงานนำเสนอ

Search

Read the Text Version

1 รปู แบบการจัดการเรียนโครงงาน เพื่อพฒั นากระบวนการคดิ เชิงออกแบบ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เล่มท่ี 7 เรือ่ ง การสรา้ งงานนำเสนอ ว่าทร่ี อ้ ยตรีชัยยุทธ ถนอมวงษ์ ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพเิ ศษ โรงเรยี นเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนเุ คราะห)์ สงั กัดเทศบาลเมืองกาญจนบรุ ี กรมสง่ เสรมิ การปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ กระทรวงมหาดไทย

ก คำนำ การจัดทำรูปแบบการจัดการเรียนโครงงาน เพื่อพัฒนากระบวนการคิดเชิงออกแบบ กลุ่มสาระ การเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เล่มนี้จัดทำขึน้ เพื่อให้นักเรียนเข้าใจ เห็น คณุ ค่าตระหนกั ในคุณค่าของความร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ่ีใช้ในชวี ิตประจำวัน ใชค้ วามรู้และ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพ แสดงความ ชื่นชม ยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น เข้าใจผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบของ การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ต่อสิ่งแวดล้อมและต่อบริบทอื่น ๆ และศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำโครงงาน หรอื สร้างช้ินงานตามความสนใจ โดยใช้รปู แบบการจดั การเรยี นโครงงาน เพื่อพฒั นากระบวนการคดิ เชิงออกแบบ กลุ่มสาระ การเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 มจี ำนวน 7 เลม่ ดังน้ี เล่มท่ี 1 เรือ่ ง โครงงานการคิดเชงิ ออกแบบ เลม่ ที่ 2 เรอ่ื ง โครงงานเพ่ือพฒั นากระบวนการคิดเชงิ ออกแบบ เล่มที่ 3 เรอื่ ง คุณค่าของโครงงานและลกั ษณะของโครงงานทดี่ ี เลม่ ท่ี 4 เรอ่ื ง ผลกระทบของ โครงงานการคิดเชิงออกแบบและการประเมินผลโครงงาน เลม่ ท่ี 5 เรือ่ ง ความหมายและวตั ถุประสงคข์ องการนำเสนองาน เล่มที่ 6 เรอ่ื ง เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนำเสนองาน เล่มที่ 7 เรอื่ ง การสร้างงานนำเสนอ ผจู้ ัดทำหวงั เป็นอย่างยิง่ ว่ารูปแบบการจดั การเรียนโครงงาน เพ่ือพัฒนากระบวนการคดิ เชิง ออกแบบ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 น้จี ะพฒั นาการ เรียนของนักเรยี น ใหม้ ีความรคู้ วามเขา้ ใจ และผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษาขนึ้ ไป ขอขอบพระคุณ นางสาวภรดิ า บ่อพืชน์ ตำแหน่งผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนเุ คราะห์) และผู้ที่เกย่ี วข้องทกุ ทา่ นทใ่ี หค้ ำแนะนำในการจัดทำรูปแบบการจดั การ เรียนโครงงาน เพอื่ พัฒนากระบวนการคิดเชิงออกแบบ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ นี้ วา่ ทีร่ อ้ ยตรชี ัยยทุ ธ ถนอมวงษ์

ข สารบญั เร่ือง หนา้ คำนำ ......................................................................................................................................... ก สารบัญ ...................................................................................................................................... ข คำแนะนำการใชง้ านสำหรับครู ................................................................................................. ค คำแนะนำการใชง้ านสำหรับนักเรยี น ........................................................................................ ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ............................................................................................................... 1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น .............................................................................................................. 2 ใบความรทู้ ่ี 1 .......................................................................................................................... 4 ใบความรู้ท่ี 2 .......................................................................................................................... 10 กิจกรรมท่ี 1 ............................................................................................................................. 16 กจิ กรรมที่ 2 ............................................................................................................................. 17 แบบทดสอบหลังเรียน............................................................................................................... 18 ภาคผนวก ................................................................................................................................ 20 เฉลยกิจกรรมที่ 1 ................................................................................................................... 21 เฉลยกิจกรรมท่ี 2 ................................................................................................................... 22 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น................................................................................ 23 บรรณานุกรม ........................................................................................................................... 24

ค คำแนะนำการใช้งานสำหรบั ครู รูปแบบการจดั การเรยี นโครงงาน เพอ่ื พฒั นากระบวนการคดิ เชิงออกแบบ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เล่มท่ี 7 เรอื่ ง การสร้างงานนำเสนอ ควรปฏบิ ัติ ดงั นี้ 1. ครศู ึกษารปู แบบการจดั การเรียนโครงงาน เพ่ือพัฒนากระบวนการคดิ เชงิ ออกแบบ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 น้ีให้เขา้ ใจก่อนการใชง้ าน 2. ครชู ้แี จงให้นกั เรียนเข้าใจวธิ กี ารใช้รูปแบบการจดั การเรียนโครงงาน เพื่อพฒั นากระบวน การคดิ เชิงออกแบบ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 3. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เม่ือเริ่มใช้รปู แบบการจดั การเรียนโครงงาน เพอ่ื พัฒนากระบวนการคดิ เชิงออกแบบ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษา ปที ่ี 3 ในแตล่ ะเล่มและครเู ป็นผูต้ รวจ 4. ครูคอยแนะนำและให้คำปรกึ ษาขณะนกั เรียนศกึ ษาใบความรูแ้ ละฝกึ ปฏบิ ัติตามตัวอย่าง รูปแบบการจดั การเรียนโครงงาน เพ่อื พฒั นากระบวนการคดิ เชงิ ออกแบบ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 5. ครูทบทวนความรู้แก่นักเรยี นทุกครั้งกอ่ นหมดเวลาตามท่ีกำหนด 6. ครูให้นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี นทกุ คร้งั เม่ือจบรปู แบบการจัดการเรียนโครงงาน เพื่อพฒั นากระบวนการคิดเชิงออกแบบ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยม ศกึ ษาปที ่ี 3 ในแต่ละเลม่ แล้วสง่ ใหค้ รตู รวจ 7. ครปู ระเมนิ นกั เรียนตามพฤติกรรมการเรียนรู้ตามสภาพจรงิ พรอ้ มบันทึกผลทุกครงั้ ครแู จ้งผลการเรียนกบั นกั เรยี นทกุ ครั้ง เมือ่ ทำกจิ กรรมการเรียนร้เู รียบร้อยแล้ว

ง คำแนะนำการใช้งานสำหรับนกั เรยี น รปู แบบการจัดการเรยี นโครงงาน เพ่ือพัฒนากระบวนการคิดเชงิ ออกแบบ กลุ่มสาระการ เรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 เลม่ ที่ 7 เรอ่ื ง การสร้างงานนำเสนอ ควร ปฏิบัติดังน้ี 1. นักเรียนศึกษาคำแนะนำการใช้รูปแบบการจัดการเรียนโครงงาน เพื่อพัฒนากระบวนการคิด เชิงออกแบบ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่มนี้ให้เข้าใจ กอ่ นการใช้งาน 2. นักเรียนฟังคำช้ีแจงการใช้รูปแบบการจัดการเรยี นโครงงาน เพ่อื พัฒนากระบวนการคิดเชิง ออกแบบ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากครูให้เข้าใจ วธิ กี ารใช้งานก่อนลงมือศกึ ษาด้วยตนเอง 3. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนทุกคร้งั เมอ่ื เริ่มใช้รปู แบบการจดั การเรียนโครงงาน เพื่อพัฒนา กระบวนการคิดเชิงออกแบบ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้ว สง่ ใหค้ รูตรวจ 4. นกั เรียนศึกษาเน้อื หาสาระจากใบความรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ัตติ ามตวั อย่าง ทำกิจกรรมด้วยความ ตัง้ ใจ โดยมคี รคู อยแนะนำและให้คำปรึกษาเสรจ็ แลว้ ส่งใหค้ รูตรวจ 5. นักเรียนทบทวนความรู้ท่ไี ดร้ ับทุกคร้ังกอ่ นหมดเวลา 6. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นทกุ คร้งั เม่อื จบรูปแบบการจดั การเรียนโครงงาน เพื่อ พัฒนากระบวนการคิดเชิงออกแบบ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ในแต่ละเลม่ แลว้ สง่ ให้ครตู รวจ

1 จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) 1. อธิบายความหมายของการสร้างงานนำเสนอดว้ ยคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 2. บอกผลทเ่ี กิดจากการใช้คอมพิวเตอรช์ ว่ ยสรา้ งสรรคช์ ิน้ งานได้ 3. บอกจิตสำนกึ ทด่ี ใี นการใชค้ อมพิวเตอร์เพอ่ื ช่วยสร้างชน้ิ งานได้ 4. อธิบายรูปแบบการนำเสนอขอ้ มูลโดยใชค้ อมพวิ เตอร์ได้ ดา้ นทักษะกระบวน (P) 1. การแก้ปัญหา 2. การให้เหตผุ ล 3. การสอ่ื ความหมาย คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1. ความรบั ผดิ ชอบ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน

2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เลม่ ท่ี 7 เรือ่ ง การสรา้ งงานนำเสนอ คำชีแ้ จง ให้นักเรียนทำเครอื่ งหมาย × หน้าคำตอบท่ีถูกต้องที่สดุ 1. ในการจดั แสดงโครงงานนน้ั ขอ้ ใดสำคญั ท่ีสุดท่ีควรพิจารณาอนั ดบั แรก ก. ดึงดดู ความสนใจผูเ้ ข้าชม ใชส้ ีที่สดใส ข. ใช้ข้อความกะทัดรัด ชดั เจน และเขา้ ใจงา่ ย ค. มรี ปู ภาพประกอบ โดยจดั วางอย่างเหมาะสม ง. ทุกอยา่ งตอ้ งถกู ต้อง ไม่มกี ารสะกดผิดหรอื อธิบายหลักการทีผ่ ิด 2. แนวทางสำคญั ในการทำสอื่ นำเสนอขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง ก. มีตวั หนงั สอื น้อย ข. มเี ฉพาะประเด็นสำคัญ ค. ตัวหนังสอื สเี ขม้ ชัดเจน อ่านง่าย ง. ใช้ effect มาออกแบบนำเสนอให้มาก 3. เหตผุ ลท่ีต้องเขยี นอา้ งอิงและบรรณานกุ รมขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งทส่ี ุด ก. แสดงมารยาททางวิชาการ ข. ให้เกียรตแิ กเ่ จ้าของผลงาน ค. เพ่ิมความนา่ เช่ือถอื ของงานทท่ี ำ ง. เพือ่ ใหผ้ ทู้ ่ีสนใจติดตามความรู้เพมิ่ เตมิ จากแหลง่ ข้อมูลได้ 4. ขอ้ ใดไม่ใช่จุดเนน้ สำคัญของหลักการพืน้ ฐานของการนำเสนอผลงาน ก. การดึงดดู ความสนใจ ข. โปรแกรมสำเร็จรูป ค. ความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ง. ความชัดเจนและความกระชับของเนือ้ หา 5. ข้อใดไม่ใช่วตั ถุประสงค์ของการนำเสนอ ก. การประชมุ ข. การรายงาน ค. การส่งมอบงาน ง. การประชาสัมพันธ์

3 6. ข้อใดไมใ่ ช่ลักษณะการนำเสนองานทด่ี ี ก. ไมค่ ำนงึ ถงึ ผ้ชู ม ข. มีเนอื้ หาสาระทีด่ ี ค. วตั ถปุ ระสงค์ที่ชดั เจน ง. มรี ปู แบบการนำเสนอทเี่ หมาะสม 7. โปรแกรมในข้อใดเปน็ การนำเสนอแบบ Slide Presentation ก. Microsoft Excel ข. Microsoft Word ค. Microsoft FrontPage ง. Microsoft PowerPoint 8. โปรแกรม Microsoft PowerPoint เปน็ โปรแกรมประเภทใด ก. โปรแกรมกราฟฟกิ ส์ ข. โปรแกรมประมวลคำ ค. โปรแกรมนำเสนอขอ้ มูล ง. โปรแกรมตารางการคำนวณ 9. องค์ประกอบหลกั ของกิจกรรมท่จี ดั ว่าเปน็ โครงงานคอมพวิ เตอรต์ อ่ ไปน้ีข้อใดไมถ่ กู ตอ้ ง ก. เป็นกิจกรรมท่ีเกีย่ วข้องกบั การเขยี นโปรแกรม ข. เปน็ กิจกรรมทเี่ กีย่ วขอ้ งกับซอฟต์แวร์ หรอื ฮารด์ แวร์ ค. ผู้เรยี นเป็นผ้วู างแผนในการศกึ ษา คน้ คว้า และพฒั นา ง. ผู้เรียนเปน็ ผู้เลือกเร่ือง ตามความสนใจและระดบั ความรคู้ วามสามารถ 10. ข้อใดไมใ่ ช่ปัจจัยหลักท่ที ำให้การพฒั นาโครงงานประสบผลสำเร็จ ก. ประชมุ ระดมความคิดในระหวา่ งผ้รู ่วมโครงงานเสมอ ข. สมาชิกทกุ คนในกลุ่มการทำโครงงานมีมนษุ ยสัมพันธ์ดี ค. ดำเนนิ การโดยยึดตารางเวลาตามแผนปฏบิ ัตงิ านทีว่ างไว้ ง. รายงานความก้าวหน้าของโครงงานตอ่ ครูทป่ี รกึ ษาตามเวลาที่กำหนด

4 ใบความรูท้ ่ี 1 เร่อื ง การสร้างงานนำเสนอด้วยคอมพิวเตอรอ์ ย่างมีจิตสำนกึ การสรา้ งงานนำเสนอดว้ ยคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์เปน็ เทคโนโลยที ี่มบี ทบาท ตอ่ สังคมมนุษยเ์ ป็นอยา่ งมาก สามารถนำเขา้ มา ชว่ ยอำนวยความสะดวกในการทำงานของมนษุ ย์ ได้แทบทุกสาขาอาชีพ การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ ในงานนน้ั ตอ้ งมกี ารวางแผนเพราะคอมพิวเตอร์ ไมส่ ามารถทำงานไดโ้ ดยตรง แต่ต้องมีการใช้ ชุดคำสัง่ ในการควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ การใชค้ อมพิวเตอรช์ ว่ ยสร้างชิ้นงานนั้น ผู้สรา้ งจะต้องมีวตั ถุประสงค์ในการสร้างเสมอ ภาพ : คอมพิวเตอรเ์ ป็นเทคโนโลยีท่ีมคี วามสำคัญต่อมนษุ ย์ ซงึ่ วตั ถุประสงค์นนั้ เพอื่ แก้ปัญหาอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ แหล่งท่ีมา : http://www.mut.ac.th วัตถปุ ระสงคน์ ี้จะเกดิ จากการที่ผสู้ รา้ งสรรคช์ ิ้นงานได้พบกับปญั หาหรือเห็นปัญหาที่อยู่รอบตวั ใน ชวี ติ ประจำวัน นอกจากการสร้างชิน้ งานเพื่อแกป้ ญั หาแล้ววัตถปุ ระสงคใ์ นการสร้างชิ้นงานเพอื่ สรา้ งทางเลือกใหม่ๆ ใหก้ ับผ้ใู ชง้ านหรอื แนวทางของการสร้างช้นิ งานจะเกิดจากการสร้าง นวัตกรรมใหม่ๆ เปน็ การสร้างเพ่มิ เตมิ จากสงิ่ เดิมท่มี ีอยู่และประการสุดท้ายเป็นการสร้างชิ้นงาน เพ่อื ความประสงคข์ องผ้สู ร้างเอง การใช้คอมพวิ เตอรใ์ นการสรา้ งช้ินงาน คอมพวิ เตอร์สามารถทำไดต้ ง้ั แตง่ านง่ายๆ โดยใชแ้ ค่เพียงคอมพวิ เตอร์กับซอฟต์แวร์ ประยกุ ต์ไปจนถึงการเขียนโปรแกรมระดับสูงเพ่ือควบคมุ การทำงานของฮารด์ แวร์ และการใช้งาน ในสถานการณ์ตา่ งๆ รวมถงึ สามารถสร้างชนิ้ งานทใี่ ช้งบประมาณเพยี งเล็กนอ้ ย โดยใชซ้ อฟต์แวร์ เทา่ ท่ีมอี ยู่แล้ว จนถึงการลงทุนระดบั สงู ที่ตอ้ งการใชง้ บประมาณในการซ้อื ฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ เพอ่ื การพัฒนาเป็นการเฉพาะ ภาพ : คอมพวิ เตอร์สามารถทำได้ต้ังแต่งานง่ายๆ ไปจนถึงงานทย่ี าก แหล่งท่ีมา : http://www.mut.ac.th

5 การใช้คอมพิวเตอร์เพอ่ื ช่วยสรา้ งชิน้ งานในระดบั มธั ยมศกึ ษา 1. ควรเปน็ การสร้างชน้ิ งานในแนวทางสรา้ งสรรค์ มีจิตสำนกึ ทดี่ ีทางดา้ นสังคมและ สิง่ แวดลอ้ ม 2. มีกระบวนการวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ มขี ั้นตอนทช่ี ดั เจน 3. ใชห้ ลักการโครงงานคอมพิวเตอรเ์ ขา้ มาช่วย คือ ควรเปน็ กิจกรรมอสิ ระที่ผ้เู รียน สามารถเลอื กศึกษาตามความสนใจ โดยใช้ทกั ษะและความสามารถท่มี ีอยู่เริ่มทางดา้ น คอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวรใ์ นการแกป่ ัญหาต่างๆ ผู้เรียนจะตอ้ งวางแผนดำเนินงาน ศึกษา คน้ คว้าความรู้เพ่ิมเติม เพื่อนำความร้แู ละทกั ษะมาพฒั นาโปรแกรมหรอื อุปกรณ์ท่ีเกีย่ วข้อง โดยยึดหลักการทำโครงงาน ดังน้ี 1) เปน็ กิจกรรมทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับซอฟต์แวร์และเครือ่ งคอมพิวเตอร์ 2) ผูเ้ รยี นเปน็ ผู้ริเร่มิ และเลอื กเร่ืองที่ศกึ ษา ค้นควา้ พฒั นาชิน้ งานด้วยตนเอง 3) ผเู้ รียนเป็นผู้เกบ็ รวบรวมหรือประดษิ ฐค์ ดิ คน้ ช้ินงานดว้ ยตนเองตามความ สนใจ และระดบั ความรูค้ วามสามารถ 4) ผเู้ รยี นเปน็ ผูว้ างแผนในการศกึ ษา สรุปเพ่ือสรา้ ง ผลงาน และเสนอผล การศึกษาดว้ ยตนเองโดยมีผ้สู อนเปน็ ที่ ปรกึ ษา ภาพ : คอมพิวเตอรส์ ามารถทำได้ตั้งแต่งานง่ายๆ ไปจนถึงงานทยี่ าก แหลง่ ที่มา : http://www.mut.ac.th

6 ผลทีเ่ กิดจากการใช้คอมพิวเตอรช์ ่วยสร้างสรรคช์ ิ้นงาน การใช้คอมพวิ เตอรก์ ับมนุษยย์ คุ ทีเ่ ทคโนโลยีและคอมพิวเตอรเ์ ข้ามามบี ทบาทกับชวี ติ มนษุ ย์มากขึ้น และการพฒั นาของคอมพวิ เตอร์นั้น มีความรวดเรว็ มากและมปี ระสทิ ธิภาพ เทยี บเทา่ หรือดกี วา่ การทำงานของมนษุ ย์ ซ่งึ เห็นได้ว่าในต่างประเทศใช้หนุ่ ยนตท์ ำงานแทน มนุษย์เพราะหุน่ ยนตท์ ำงานไดด้ ีกว่า ไมม่ เี หนื่อย และไมเ่ ส่ียงอนั ตรายเหมือนกับการใชม้ นุษย์ การสร้างงานนำเสนอด้วยคอมพิวเตอรม์ ีประโยชน์ในหลายๆ ดงั น้ี 1. ด้านธุรกิจการค้า ใช้เก็บข้อมูลบัญชี รายช่ือลกู ค้า การคำนวณ การจดั ทำบญั ชี และ ในองคก์ รธุรกจิ ใช้ประกอบการทำงาน สรา้ ง ผลงาน เช่น การสร้างแผนภมู ชิ นดิ ตา่ งๆ ไมว่ ่าจะ เปน็ แผนภมู ิวงกลม แผนภูมแิ ท่งเพือ่ นำเสนอใน การประชมุ 2. ด้านความบนั เทงิ การนำคอมพวิ เตอร์ มาใช้ดา้ นความบันเทิง เช่น การประยกุ ต์ใช้ คอมพิวเตอร์ในงานภาพยนตร์ประเภทต่างๆ ท่พี บเห็นในปัจจบุ นั เชน่ ภาพยนตรก์ าร์ตนู ภาพ : คอมพิวเตอรเ์ ปน็ เทคโนโลยีที่มีความสำคญั ต่อมนษุ ย์ แหล่งท่ีมา : http://www.mut.ac.th ภาพยนตร์ประเภทนิยายวิทยาศาสตร์ ภาพยนตร์ทใี่ ชเ้ ทคนิคพเิ ศษต่างๆ ซงึ่ ภาพยนตร์ใน แต่ละประเภทนน้ั มกี ารนำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยใน การออกแบบ และสร้างภาพเคล่ือนไหวมากขนึ้ เนือ่ งจากเป็นวธิ ที ่สี ะดวก รวดเรว็ และงา่ ยกว่าวิธี อนื่ ๆ นอกจากน้ีภาพทีไ่ ดย้ ังดสู มจรงิ มากข้ึน เชน่ ภาพยานอวกาศทปี่ รากฏในภาพยนตร์ การใช้ คอมพิวเตอรก์ ราฟกิ ช่วยใหภ้ าพที่อยใู่ นจินตนาการ ของมนษุ ย์สามารถนำออกมาทำให้ปรากฏเปน็ จรงิ ภาพ : การนำคอมพิวเตอร์มาใชด้ า้ นความบนั เทิง การจำลองการทำงาน เช่น จำลองการขบั รถ แหลง่ ที่มา : http://www.mut.ac.th การขบั เคร่ืองบิน การนำคอมพิวเตอร์มาใชก้ บั ภาพยนตรน์ ้นั ได้กลายเปน็ สง่ิ ทีส่ ำคัญมากอยา่ งหนึง่ ไมว่ ่าจะเปน็ การทำ Animation หรือ การทำ Special Effect ต่างๆ เนอ่ื งจากภาพบางภาพไมส่ ามารถสรา้ งใหเ้ กดิ ขนึ้ ไดจ้ ริง เชน่ ภาพลูกไฟท่ี เกดิ จากการระเบิด ยานอวกาศ เรือสำราญขนาดใหญ่ พายุ ระเบดิ ปรมาณู ในการสร้างภาพวัตถทุ ี่ ไม่มรี ปู ร่างแนน่ อน มีลักษณะทฟี่ ุ้งกระจาย พลว้ิ ไหว มกี ารไหล หรอื มลี ำแสงที่กระจายออกมาให้ เกดิ ขนึ้ ไดอ้ ย่างเหมือนจริง

7 3. ด้านการศึกษา คอมพิวเตอร์ สามารถช่วยนักเรียนในการสืบค้นผ่านระบบ อินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นเรื่องไม่ยากหากผู้เรียน ต้องการเขียนรายงานเกี่ยวกับอวกาศผู้เรียน สามรถเข้าไปในที่สารานุกรมออนไลน์ หรือต้ัง หัวเรอื่ ง ใชค้ ำคน้ หาในอินเทอร์เนต็ เพ่ือเข้าถึง ข้อมูลที่จะนำมาใช้ในการเขียนรายงาน นอกจากนี้ยังใช้โปรแกรมประมวลคำในการ ทำงาน พิมพ์ข้อความ สามารถแทรกรูปภาพ จัดภาพอย่างสวยงามเพื่อพิมพ์ออกมาเป็น รายงาน หรือจะใช้เอกสารอิเลก็ ทรอนิกส์พิมพ์ แล้วส่งให้ครูทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ สะดวกรวดเร็ว ประหยัดกระดาษและหมึกพิมพ์ เป็นระบบที่ไม่สูญหายสามารถจัดเก็บได้ไม่ เปลืองเนอ้ื ทีอ่ กี ด้วย สำหรบั ครูผสู้ อนกส็ ามารถใช้โปรแกรม ภาพ : การนำคอมพวิ เตอร์มาใชด้ า้ นการศกึ ษา คอมพิวเตอรใ์ นการจัดการเรยี นการสอน โดย แหลง่ ท่ีมา : http://www.mhsict.org ใชส้ ื่อคอมพวิ เตอร์ สื่อมัลติมเี ดีย ส่ือออนไลน์ ซึง่ สอ่ื เหล่าน้มี ขี ้อความ รูปภาพ เสยี ง ภาพเคล่ือนไหว และเสียงดนตรี หรือการใช้โปรแกรม ประมวลผลการเรียน การนำเสนอผลการเรียนผ่านทางอินเทอร์เนต็ ซึง่ มีโปรแกรมอรรถประโยชน์ ที่จำเป็นกับครูและนักเรยี นมากมาย ในการจดั การเรียนการสอนจะทำใหค้ รผู ู้สอนสามารถวเิ คราะห์ ผู้เรยี นเพ่อื ออกแบบและพัฒนาระบบการสอนได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ตรงกับวัตถปุ ระสงค์และ ความต้องการของผู้เรียน ภาพ : การนำคอมพิวเตอรม์ าใชด้ ้านการศกึ ษา แหลง่ ที่มา : http://www.mhsict.org

8 4. ทางด้านการแพทย์ ในปจั จบุ ันน้ี คอมพวิ เตอร์เป็นเคร่อื งมอื ที่ชว่ ยอำนวยความ สะดวกอยา่ งยงิ่ ในดา้ นการแพทย์ เร่ิมตงั้ แต่ การรักษาพยาบาลทว่ั ไป ปัจจบุ ันโรงพยาบาล นิยมใช้คอมพิวเตอร์ในการทำทะเบยี นคนไข้ ด้านการบริหารการแพทยอ์ าจใช้คอมพวิ เตอร์ วางแผนและควบคุมการปฏิบตั ิงานท้งั ระดบั ชาติ ระดบั ภูมภิ าคและระดบั โรงพยาบาล ในดา้ น การปฏบิ ตั งิ านเครื่องมอื การแพทย์ในปจั จบุ นั หลายอย่างใชเ้ ครือ่ งคอมพิวเตอรข์ นาดตา่ งๆ เป็นส่วนประกอบสำหรับควบคุมการปฏบิ ตั งิ าน ของเคร่ืองเหล่าน้ัน เช่น เคร่ืองเอกซเรย์ คอมพวิ เตอร์ เคร่อื งปฏิบตั ิการทดลองตา่ งๆ เชน่ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เป็นตน้ แมใ้ น ด้านการวนิ ิจฉัยโรค ในต่างประเทศกม็ ีการใช้ คอมพิวเตอร์ช่วยบันทึกไว้ว่าอาการต่างๆ ภาพ : การนำคอมพวิ เตอร์มาใช้ด้านการศกึ ษา จะเกิดจากโรคอะไรได้บ้าง นอกจากนี้ใน แหลง่ ที่มา : http://www.mhsict.org การศกึ ษาและวจิ ัยทางการแพทย์กส็ ามารถใช้คอมพิวเตอร์ช่วยได้หลายด้าน ตัวอยา่ งทส่ี ำคญั คอื การใช้หุน่ รถยนตค์ อมพิวเตอร์แทนคนในการศึกษาอาการโรค การตอบสนอง วิธกี ารรกั ษา เชน่ ในด้านโรคหัวใจแบบต่างๆ ถ้าสงั่ ว่าล้ินหัวใจปดิ ไม่สนิท กแ็ สดงอาการของการที่ลิน้ หัวใจปิดไม่สนิท และถ้าฉดี ยาให้กแ็ สดงอาการตอบสนองให้นักศึกษาได้ศกึ ษาผลการฉดี ยา เปน็ ตน้ ภาพ : การนำคอมพิวเตอร์มาใชท้ างดา้ นการแพทย์ แหลง่ ที่มา : http://www.mhsict.org

9 จิตสำนกึ ที่ดใี นการใช้คอมพิวเตอร์เพ่ือชว่ ยสรา้ งช้ินงาน 1. ใชท้ รพั ยากรอยา่ งคมุ้ ค่า ทรัพยากรในความหมายของระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ หมายถึง ฮารด์ แวร์ ระบบส่อื สาร และข้อมูลตา่ งๆ ต้องรู้จกั ใชใ้ ห้เกิดประโยชนส์ งู สดุ กับตนเอง และผอู้ นื่ เชน่ การสืบคน้ ขอ้ มูลต้องใชท้ ้ังระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละระบบสื่อสารซงึ่ มีคา่ ใชจ้ ่าย หลายด้าน เชน่ ค่าเสอ่ื มของอุปกรณ์ ค่าเช่าสญั ญาณระบบสื่อสาร 2. ไม่คดั ลอกงานผอู้ นื่ การคัดลอกงานผู้อน่ื ถอื ว่าเป็นการกระทำทน่ี ่าละอายอย่างมาก และมคี วามผดิ ตามพระราชบัญญัติทรัพยส์ นิ ทางปัญญามโี ทษท้งั จำและปรับ ในการสืบค้น ข้อมูลต่างๆ นักเรยี นต้องสืบคน้ จากแหล่งขอ้ มูลหลายๆ แหล่ง แลว้ นำขอ้ มลู มาสรปุ เป็นงาน ของนักเรยี น ไมใ่ ชค่ ัดลอกมาวางในแฟม้ เอกสารโดยตรง และต้องอ้างองิ ดว้ ยว่าได้ข้อมลู มาจาก ทใี่ ด เช่น จากเว็บไซต์ชอ่ื อะไร ถา้ เปน็ ขอ้ มูลจากหนังสือต้องบอกข้อมูลบรรณานุกรมของหนังสือ ได้แก่ ชือ่ หนงั สอื ชื่อผแู้ ตง่ ชือ่ สำนักพมิ พ์ สถานท่ที ผี่ ลติ หนังสือ และรหสั ประจำหนงั สือ หนงั สอื ทใ่ี ช้อ้างองิ ตอ้ งมีขอ้ มูลบรรณานกุ รมทกุ เล่มเพือ่ ให้เกยี รติแก่เจ้าของผลงาน 3. ใชค้ ำสภุ าพ ถา้ เขา้ ไปห้องสนทนาต่างๆ จะพบวา่ การโต้ตอบหรือการถามและตอบ คำถามมกั มีการใชค้ ำท่ีแปลกๆ เชน่ งะ่ อ่ะ คำเหล่านี้ถึงแมจ้ ะไมถ่ งึ กบั เปน็ คำทไ่ี ม่สุภาพ แต่ก็ ทำให้ภาษาไทยของเราผิดเพีย้ นไป หรอื เรียกว่า ภาษาวิบตั ิ 4. ไมส่ ร้างความเสยี หายตอ่ ผอู้ ื่น การสร้างความเสียหายตอ่ ผอู้ ื่น เช่น การนำภาพของ ผูอ้ ืน่ มาตดั ตอ่ หรอื แอบถ่ายภาพท่เี ป็นส่วนตวั ของผู้อ่ืนมานำเสนอในเว็บไซต์ การวพิ ากษว์ ิจารณ์ งานของผอู้ น่ื ในทางเสือ่ มเสีย ซึง่ มคี วามผิดในขอ้ หาหมนิ่ ประมาทได้ ภาพ : การใชค้ อมพิวเตอร์เพื่อสร้างชน้ิ งานตอ้ งมีจิตสำนกึ ท่ดี ีเพือ่ ไมใ่ หเ้ กดิ ความเสียหายตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น แหล่งท่ีมา : http://www.news.rmutt.ac.th

10 ใบความร้ทู ี่ 2 เร่ือง รูปแบบการนำเสนอข้อมลู โดยใช้คอมพิวเตอร์ รูปแบบการนำเสนอขอ้ มูลโดยใช้คอมพิวเตอร์ รูปแบบการนำเสนอขอ้ มูลโดยใชค้ อมพวิ เตอร์ปัจจบุ ันทน่ี ยิ มใช้กันมี 2 รูปแบบ คอื 1. การนำเสนอแบบ Web page คือ รูปแบบการนำเสนอท่ใี ช้บนอินเทอร์เน็ต การนำเสนอ แบบนี้สามารถสร้างการเชื่อมโยงท่สี ลับซับซอ้ นระหวา่ งสว่ นต่างๆ ตลอดจนสามารถสร้างการ เชอ่ื มโยงเอกสารทีต่ า่ งรูปแบบกนั ได้แตต่ อ้ งใชเ้ วลาในการจดั ทำมากกวา่ รปู แบบอ่ืนและผ้จู ดั ทำ ตอ้ งมีความรคู้ วามชำนาญในโปรแกรมทีใ่ ช้สรา้ งเวบ็ เพจ การนำเสนอแบบ Web page ปจั จบุ นั นยิ มใชร้ ปู แบบนม้ี ากในการนำเสนอต่อท่ีประชมุ เว็บเพจเป็นโปรแกรมทใ่ี ช้แสดงผล สว่ นโปรแกรมที่ใชส้ รา้ งเวบ็ เพจหรือแต่ละหนา้ นั้นมีวธิ กี าร สรา้ งไดห้ ลายวิธี ตงั้ แตว่ ิธีดงั้ เดิมทีส่ ุดคอื การเขียนดว้ ยภาษา HTML หรือโปรแกรมประเภท Software Tool เช่น Frontpage , Dreamweaver ข้อดขี องการนำเสนอแบบนีค้ ือ สามารถ สร้างความเชอื่ มโยง เอกสาร ท่สี ลับซบั ซอ้ นระหว่างสว่ นต่างๆ ของเอกสารที่นำเสนอ ภาพ : รปู แบบการนำเสนอทใ่ี ชบ้ นอินเทอร์เนต็ แหลง่ ท่ีมา : http://203.157.71.172/kmnew/index. ปัจจุบนั การออกแบบเว็บเพจเป็นทีแ่ พรห่ ลายมีผู้เขยี นเวบ็ เพจกนั มาก สว่ นใหญก่ าร ออกแบบเว็บเพจทำไดต้ ง้ั แต่ระดับผใู้ ช้อินเทอร์เนต็ เบื้องตน้ แต่การออกแบบเว็บเพจท่ีดีน้ัน จำเปน็ จะตอ้ งเขา้ ใจทง้ั ทางดา้ นเทคนคิ วธิ ีการเกี่ยวกบั การออกแบบ จนถงึ รูปแบบดา้ น องคป์ ระกอบของภาพ และสงิ่ ตา่ งๆ ทป่ี ระกอบกันอยู่ การออกแบบเวบ็ เพจทีด่ ีนั้นยอ่ มหมายถึง การนำเสนองานไดน้ ่าสนใจ การเขยี นเว็บเพจจึงนำมาซึ่งความเชือ่ ถือ และนำไปส่คู วามรสู้ กึ อยาก อ่านไม่เบอื่ งา่ ย

11 ภาพ : การนำเสนอแบบ Slide Presentation 2. การนำเสนอแบบ Slide Presentation แหล่งที่มา : http://qa.siam.edu/index.php เปน็ การนำเสนอโดยใช้โปรแกรมนำเสนอ ซง่ึ เป็น โปรแกรมทใี่ ช้งานง่าย มีรูปแบบการนำเสนอให้ เลอื กหลากหลายแบบ สามารถเรยี กใช้ตาราง แผนภมู ิหรอื รปู ภาพประกอบ สามารถตกแตง่ ดว้ ยสสี ันตัวอักษร สีพ้ืน ปรับเปลี่ยนรูปแบบ ฟอนต์ได้ตามต้องการ ในปจั จบุ ันสือ่ นำเสนอ รปู แบบสไลดด์ ิจทิ ัลมักจะสรา้ งดว้ ยโปรแกรมใน กลมุ่ Presentation เชน่ Microsoft PowerPoint, Office TLE Impress เทคนคิ การออกแบบสอื่ นำเสนอที่ดีควรมคี วามโดดเดน่ นา่ สนใจ เน้นความคิด “หน่งึ สไลด์ต่อหนึ่งความคดิ ” มกี ารสรุป ประเดน็ หรือสาระสำคญั โดยมีแนวทาง 3 ประการ ในการออกแบบ ได้แก่ 1) สอ่ื ความหมายได้รวดเรว็ ส่ือนำเสนอทีด่ ีต้องสามารถสอื่ ความหมายใหผ้ ู้ฟงั ผชู้ มได้ อย่างรวดเร็ว การออกแบบส่อื นำเสนอในประเด็นน้ีผอู้ อกแบบจะตอ้ งทราบกลุม่ เป้าหมาย เนอ้ื หา สาระทต่ี ้องการนำเสนอ สถานท่ี และเวลาทตี่ อ้ งการนำเสนอเพอื่ ประกอบการออกแบบสอ่ื เช่น กลมุ่ เปา้ หมายขนาดเลก็ สื่อควรมคี วามสำคญั กับผ้ฟู ังมากกว่าเน้ือหา สามารถนำเทคนิค หรือ Effect ต่างๆ ของโปรแกรมสรา้ งส่ือมาใชไ้ ด้อย่างเตม็ ท่ี กลมุ่ เปา้ หมายท่ีมีลกั ษณะโตต้ อบ เช่น การนำเสนอทางวิชาการ การบรรยาย หรอื ฝึกอบรม สือ่ นำเสนอควรให้ความสำคญั กบั เนื้อหา รวมทง้ั ยังสามารถนำเทคนิค หรือ Effect ตา่ งๆ ของโปรแกรมสรา้ งสอ่ื มาใชไ้ ด้อยา่ งเตม็ ทเี่ ชน่ กนั กล่มุ เปา้ หมายเฉพาะกิจ เช่น ผบู้ รหิ าร นักวชิ าการ ส่อื นำเสนอจะต้องใหค้ วามสำคญั กับเนื้อหา และตัวผนู้ ำเสนอเปน็ สำคัญ เนือ้ หาควรม่งุ เฉพาะเป้าหมายของการนำเสนอ ไม่เน้น Effect มากนกั กลมุ่ เปา้ หมายขนาดใหญ่ การนำเสนอมกั ใชค้ วามสำคัญกบั ผูบ้ รรยายมากกว่าเนือ้ หาท่ีนำเสนอ ดังนัน้ สือ่ นำเสนอไม่ควรเน้นท่ี Effect แต่ควรใหค้ วามสำคญั กบั ขนาดตวั อกั ษร สีตวั อกั ษร และ ลกั ษณะของสพี น้ื สไลด์ ภาพ : การนำเสนอแบบ Slide Presentation แหล่งท่ีมา : http://qa.siam.edu/index.php

12 2) การจัดเน้ือหาใหเ้ ปน็ ลำดบั ส่ือนำเสนอ ทดี่ ีควรมกี ารจดั ลำดับเนอ้ื หาเป็นลำดบั มีระเบยี บ ดงู ่าย ไม่สับสน สิ่งที่จะช่วยให้การออกแบบสื่อ นำเสนอทตี่ อ้ งการจดั ลำดับเน้ือหาให้เปน็ ระเบยี บ และดูงา่ ย คือ ภาพ : ส่ือนำเสนอท่ีดีควรจดั เนอ้ื หาเป็นลำดบั 2.1) รปู แบบเน้ือหา สื่อนำเสนอแต่ละ แหลง่ ที่มา : โรงเรยี นเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห)์ สไลดค์ วรหลีกเล่ียงการนำเสนอแบบย่อหน้า หากไมส่ ามารถหลกี เลี่ยงได้ควรใชเ้ ทคนคิ การเน้น แนวคดิ หลกั ในแตล่ ะ ยอ่ หนา้ ด้วยสที ่ีโดดเดน่ เช่น พ้นื หลงั สขี าว ตัวอกั ษรสีดำหรือสแี ดง เปน็ ต้น แตล่ ะสไลดเ์ น้อื หาไมค่ วรเกนิ 6 - 8 บรรทดั ควรสรุปเนื้อหาให้เปน็ หวั เรอ่ื งและหวั ข้อ โดยปกติจำนวนเพาเวอร์พอยท์แต่ละหน้าจอหรอื ท่ีเรยี กวา่ สไลด์ ทีใ่ ชใ้ นการนำเสนอ ขน้ึ อยูก่ ับเวลาในการนำเสนอ ซ่ึงมขี ้อแนะนำคือควรใชป้ ระมาณ 1-2 สไลดต์ อ่ นาที แตใ่ นบาง จงั หวะอาจใชม้ ากหรือนอ้ ยกว่านน้ั ได้ โดยการเรียงลำดับสไลด์ท้งั หมดนั้นเปน็ ส่งิ ทม่ี คี วามสำคัญ ผนู้ ำเสนอหลายคนไมค่ ำนึงถึงจุดนี้ทำให้เกดิ ปัญหา เช่น ผูฟ้ งั ไม่ทราบว่าบรรยายหวั ข้อใดบา้ ง ทำให้เชอื่ มโยงความสัมพันธข์ องเน้ือหาท่ฟี งั ไมไ่ ด้ ผู้ฟังเบ่ือเพราะไมร่ ู้ว่าเมือ่ ไรจะจบการนำเสนอ หรือเมอื่ มีการอ้างถึงเนื้อหาในบางสไลดก์ ็เสยี เวลาในการค้นหาว่าอยสู่ ไลดแ์ ผน่ ใด การออกแบบ การลำดับของสไลดใ์ นเพาเวอรพ์ อยท์ทเ่ี หมาะสม มีดังน้ี 2.1 จดั ทำสไลด์ตามลำดับของเนอ้ื หาหรอื การบรรยาย ไม่สลบั ไปสลบั มา 2.2 เรมิ่ สไลด์แรกด้วยการแสดงชอ่ื เรื่อง ทจ่ี ะนำเสนอพร้อมท้งั ชอื่ ของผนู้ ำเสนอและข้อมูล เพอื่ ตดิ ต่อ 2.3 สไลด์ถดั ไปควรบอกผู้ฟงั ว่าประโยชน์ ทจี่ ะได้รับจากการฟังคร้งั นี้ หรือแสดงวัตถปุ ระสงค์ ในการนำเสนอ 2.4 ตอ่ มาเปน็ สไลดท์ แ่ี สดงหวั ขอ้ ในการนำเสนอหลงั จากนั้นจะเปน็ สว่ นของเนอื้ หา ทเ่ี รยี งลำดับตามหวั ข้อทกี่ ำหนด 2.6 สไลดส์ ุดท้าย ควรเป็นการสรปุ /ทบทวน ภาพ : สอื่ นำเสนอทด่ี ีควรจดั เนอ้ื หาเป็นลำดับ แหล่งที่มา : โรงเรยี นเทศบาล 5 (กระดาษไทย เพอ่ื ยำ้ เนื้อหาสำคัญของการนำเสนอคร้ังน้ี อนุเคราะห์) 2.7 เพ่อื เป็นการป้องกันการสบั สน ควรใส่ หวั ขอ้ เร่อื งทุกสไลด์ และใส่หมายเลขสไลดเ์ พือ่ ช่วยให้ผูฟ้ ังอ้างองิ ได้

13 2.2) แบบอักษร การออกแบบข้อมูล ในหนา้ จอท่ที ำใหอ้ า่ นไดย้ าก ซ่งึ อาจเปน็ เพราะ การเลือกรูปแบบ และการกำหนดขนาด ตัวอักษรที่ไม่เหมาะสม หรือการเลือกใช้สี ระหว่างข้อความกับสีพน้ื ท่มี องเห็นได้ไม่ชดั เจน สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อประสิทธิภาพในการ รับรู้ของผู้ฟัง ผู้ออกแบบเพาเวอร์พอยท์ จึง ควรพิจารณาเลือกใช้รูปแบบตัวอักษรที่เป็น ภาพ : ส่ือนำเสนอทด่ี คี วรจัดเนอ้ื หาเป็นลำดบั แหล่งท่ีมา : http://designza.com/cartoon-template มาตรฐานอ่านได้ง่าย และมีขนาดใหญ่ต่อการ มองเหน็ ในระยะไกล ไมเ่ ลก็ จนเกนิ ไป รวมท้งั เลือกใชส้ พี ืน้ หลงั และสตี ัวอักษรทีต่ ดั กนั เพ่ือช่วยให้อา่ นขอ้ ความไดง้ า่ ย หรอื พ้นื หลังไมม่ ีลวดลาย มากเกินไปจนทำให้ลายตา เปน็ ตน้ การควบคมุ การแสดงขอ้ ความในแตล่ ะสไลด์ ควรให้ ความสำคัญกบั ขนาดตัวอักษร ดงั นี้ - เลือกใช้แบบอักษรทเ่ี หมาะสม ไมค่ วรใช้ตวั อกั ษรเกนิ 2 แบบในแตล่ ะ สไลด์ - ใชต้ ัวหนาหรือขดี เส้นใต้ในการเนน้ ข้อความดีกว่าใช้ตัวเอียงเพราะอา่ นไดง้ ่ายกว่า - ใช้ตัวอกั ษรขนาดใหญ่เพ่ือให้มองเหน็ ได้ง่าย เนอื้ หาควรใช้ 36 - 50 พอยต์ และหวั ขอ้ เร่ืองควรใช้ 60 พอยต์ - ควรใชร้ ูปแบบตัวอกั ษร ขนาด รวมท้งั สตี วั อกั ษรและพนื้ หลังแบบเดยี วกัน ตลอดทกุ สไลด์ - หลีกเล่ยี งพื้นหลงั ท่ียากตอ่ การอ่าน เชน่ เป็นภาพ มีลวดลาย หรือมีสี เหมอื นกับตัวอกั ษร - ใช้พ้นื หลงั ที่สีตัดกนั กับตวั อักษร เช่น พน้ื มดื ตัวอักษรสวา่ ง หรือตวั อกั ษรสว่าง พ้ืนมดื แต่สีตัดกันบางคูก่ ็ไมเ่ หมาะสม เช่น สีเขยี วกับสีแดงเพราะจะทำให้ผ้ชู มปวดตา - การใช้สีเพอ่ื การตกแตง่ มากเกินไป นอกจากทำให้เสยี เวลาในการผลติ แลว้ ยังจะ ทำให้น่ารำคาญต่อการอ่านดว้ ย ภาพ : การเลอื กใช้แบบอักษรให้เหมาะสมกับการนำเสนอ แหล่งท่ีมา : https://www.gotoknow.org/posts/377982

14 ภาพ : เลือกใช้ภาพใหม้ ีความสมั พันธ์กับเน้ือหา 3) สื่อนำเสนอต้องสะดุดตาและ แหลง่ ท่ีมา : http://www.cleverdrive.net น่าสนใจ สื่อนำเสนอที่ดีนั้นจะต้องมีจุดเด่น น่าสนใจ สามารถดึงดูดสายตาของผู้ดู ผู้ฟังได้ การเปลี่ยนสีภาพให้แตกตา่ งจากปกติ ซึ่งจุดเด่นนี้ได้มาจากขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่ ควรระวงั การเลือกใช้ภาพเปน็ พนื้ หลังสไลด์ หรือจากการใช้สีที่แตกต่างออกไป รวมถึงการ เพราะอาจจะทำให้ผู้ชมสนใจพนื้ สไลด์มากกวา่ เลือกใช้ภาพ การใช้ Effect ควบคุมการนำเสนอ เนือ้ หาทีต่ ้องการนำเสนอ หรืออาจทำใหผ้ ชู้ ม ท่ีเหมาะสมประกอบการนำเสนอ ไม่สนใจมองสไลด์เลยกไ็ ด้ เนอื่ งจากภาพทำให้ ตวั อักษรไมโ่ ดดเด่น ไม่น่ามอง หรอื อา่ นยาก 3.1) การใช้ภาพ เนอื่ งจากภาพจะช่วย ให้ผู้ชม ผู้ฟัง สามารถจดจำได้นานกว่าตัวอักษร ภาพประกอบควรสมั พันธ์กับเนอ้ื หา ดังนั้น การแปลงเนื้อหาให้เป็นรูปภาพก็เป็น ที่นำเสนอ หลายครง้ั ทผี่ ผู้ ลติ สอื่ เลือกใช้ เทคนิคหนึง่ ท่ีสามารถสร้างความน่าสนใจให้กับ ภาพประกอบหรือภาพตกแต่งสอื่ ทต่ี นผลิตข้นึ สื่อที่นำเสนอ การเลือกใช้ภาพก็ควรเลือกใช้ จากความน่ารัก สวยงาม หรือเปน็ สง่ิ ทีผ่ ผู้ ลติ ภาพที่มีลักษณะที่เหมาะสมกัน คือถ้าในสไลด์ เองชอบ เช่น ภาพดาราที่ชนื่ ชอบ โดยท่ีภาพ นั้นเลือกใช้ภาพถ่ายก็ควรใช้ภาพถ่ายกับทุก น้ันไม่มสี ว่ นเกี่ยวขอ้ งกบั ข้อความทก่ี ำลัง ภาพในสไลด์ แตถ่ า้ เลือกใชภ้ าพวาดก็ควรเลือก นำเสนอ ทำให้เกดิ ผลเสยี คือ ผ้รู ับสารสนใจ ภาพวาดทั้งสไลด์เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ และสงสัยในภาพประกอบทไี่ มเ่ ก่ียวขอ้ งนนั้ จน ภาพวาดผสมกับภาพถ่าย ใส่เทคนิคที่น่าสนใจ ลมื ใส่ใจเน้อื หา ให้กับภาพเพื่อสร้างจุดเด่น การเอียงภาพ การเว้นชอ่ งวา่ งรอบภาพ ภาพ : เลอื กใชภ้ าพให้มีความสมั พันธก์ ับเน้อื หา แหลง่ ท่ีมา : http://www.cleverdrive.net

15 3.2) การเลอื กใช้สี สจี ะเป็นภาพรวม ของสือ่ นำเสนอทีด่ มี าก แต่หากส่อื นัน้ เลอื กใช้ สีท่ีไม่เหมาะสม เชน่ ตัวอักษรสีเหลืองบนพ้ืนขาว หรอื ตัวอกั ษรน้ำเงนิ บนพื้นดำ ก็คงจะสร้าง ความไม่ประทับใจใหก้ บั ผู้ชม ผูฟ้ งั ได้แน่นอน ดงั นน้ั การเลือกใช้สีควรเลือกใช้สที ่ีตัดกนั ระหว่าง สีตัวอักษร สีวตั ถุ และสีพน้ื เช่น เลือกใชพ้ น้ื สไลด์เป็นสขี าวหรือสอี ่อนๆ สตี วั อกั ษรกค็ วรจะ ภาพ : เลอื กใช้ภาพให้มคี วามสมั พนั ธ์กับเนือ้ หา เป็นสดี ำ สีน้ำเงนิ เข็ม หรอื สีแดงเลือดหมู แตถ่ า้ แหล่งท่ีมา : http://www.cleverdrive.net เลือกใช้พ้ืนสไลด์เป็นสีเข็มก็ควรจะเลือกใช้ สีตัวอักษรทมี่ องเหน็ ไดช้ ดั เจน เชน่ สขี าว สีฟา้ ออ่ น สีเชียวอ่อน และควรหลกี เลี่ยงการใช้สีโทนรอ้ น เชน่ สีเหลืองสด สีแดงสด สเี ขยี วสด การเลอื กใช้สีนอกจากจะพิจารณาจากสพี นื้ สไลด์และสตี ัวอักษรแลว้ ยงั ตอ้ งพิจารณาถึง สีวัตถุ สแี ทง่ กราฟ หรือสขี องตารางให้เหมาะสมกับสีตวั อกั ษร และสีพ้นื สไลดด์ ว้ ย รวมท้งั การ เลอื กใช้สใี ดๆ ก็ควรเป็นสีในชดุ เดียวกนั สำหรบั สไลด์ทั้งหมด ไมค่ วรใชห้ น่ึงสไลดห์ นงึ่ ชดุ สี ภาพ : สพี ้นื หลงั เข้มสีตวั อกั ษรควรเปน็ สอี อ่ น สีพนื้ หลงั อ่อนสีตัวอกั ษรควรเป็นสีเขม้ แหลง่ ท่ีมา : http://www.thailibrary.in.th/2014/08/24/present-tips/ 3.3) การใช้ Effect ควบคมุ การนำเสนอ ไมค่ วรใส่ Effect มากเกินไป เพราะจะส่งผล ใหผ้ ้ชู ม ผ้ฟู งั สนใจ Effect มากกว่าเนือ้ หาทีน่ ำเสนอ หรืออาจไมส่ นใจการนำเสนอเลยกไ็ ด้ และ Effect ทีม่ ากนจี้ ะเป็นการรบกวนการจดจำ การอ่าน หรือการชมอยา่ งรนุ แรง เลอื กใช้ Effect ไมค่ วรเกิน 3 แบบ ในแต่ละสไลด์ควรเลือกใช้ Effect แสดงข้อความทเี่ ล่ือนจากขอบซ้ายมาขอบ ขวาของจอ เนอื่ งจากธรรมชาตกิ ารอา่ นของคนไทยจะอา่ นขอ้ ความจากกรอบบนลงมาและอ่าน จากดา้ นซ้ายไปด้านขวา

16 กจิ กรรมท่ี 1 คำช้ีแจง : ตอบคำถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกต้อง (1 ข้อ 1 คะแนน) 1. การนำคอมพิวเตอรม์ าใชใ้ นงานน้ันต้องมกี ารวางแผนเพราะอะไร ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ 2. การใช้คอมพิวเตอรช์ ่วยสรา้ งช้นิ งานน้นั มีวัตถปุ ระสงค์ในการสร้างเพือ่ อะไร ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ 3. การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างช้ินงานระดับมธั ยมศึกษาควรเปน็ การสร้างช้ินงานในแนวใด ____________________________________________________________________ 4. ถา้ นักเรียนต้องการใหช้ ิ้นงานที่สร้างขึ้นประสบความสำเร็จมากทส่ี ดุ การสร้างชิน้ งาน ควรเป็นในลกั ษณะใด ___________________________________________________ ____________________________________________________________________ 5. เพราะเหตุใดในปจั จุบนั จงึ มีการนำหุน่ ยนตม์ าใชง้ านแทนมนษุ ย์มากขน้ึ ____________________________________________________________________ 6. การสรา้ งงานนำเสนอด้วยคอมพวิ เตอรม์ ีประโยชน์ในหลายๆ ดา้ น ไดแ้ ก่อะไรบ้าง ____________________________________________________________________ 7. ในงานภาพยนตรไ์ ดน้ ำคอมพวิ เตอรม์ าประยกุ ตใ์ ช้ในการสร้างงานอยา่ งไร ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ 8. อธิบายประโยชนจ์ ากการนำคอมพิวเตอรม์ าใช้ในดา้ นการศึกษา 2 ข้อ ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ 9. ครผู ู้สอนไดร้ บั ประโยชน์อย่างไรจากการนำคอมพิวเตอรม์ าใช้ในการเรยี นการสอน ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________ 10. ในการใชค้ อมพิวเตอร์เพอ่ื ช่วยสรา้ งชิน้ งานต้องมีจิตสำนกึ ทดี่ ีไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง ____________________________________________________________________ ____________________________________________________________________

17 กิจกรรมท่ี 2 คำชแ้ี จง : ทำเครื่องหมาย หน้าขอ้ ความทีถ่ กู ต้อง และทำเคร่อื งหมาย  หนา้ ขอ้ ความ ทผี่ ิด (1 ขอ้ 1 คะแนน) ______ 1. ความชดั เจนและความกระชับของเน้อื หา คือส่งิ สำคัญในการนำเสนอ ______ 2. การนำเสนอแบบ Web page เปน็ การนำเสนอโดยใชโ้ ปรแกรมนำเสนอ ______ 3. สอ่ื นำเสนอทีด่ ี มีความโดดเด่น นา่ สนใจ จะเนน้ ความคิด ______ 4. ข้นั ตอนการนำเสนอบทเรยี นสำเรจ็ รูปมี 4 ขั้นตอน ______ 5. รปู แบบการนำเสนอข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่นี ยิ มใช้ในปัจจบุ ันมี 3 รูปแบบ ______ 6. การนำเสนอทใี่ ชบ้ นอินเทอร์เนต็ คือ การนำเสนอแบบ Web page ______ 7. “หน่งึ สไลด์ หนง่ึ ความคิด” เปน็ การนำเสนอแบบ Slide Presentation ______ 8. ความเหมาะสมกับกล่มุ เปา้ หมาย คือหลักการเลอื กใช้ซอฟแวรส์ ำเร็จรปู เพ่ือการ นำเสนองาน ______ 9. ทำความเข้าใจกบั งานทีเ่ ราต้องการนำเสนอ คอื หลักการเลอื กใช้ซอฟแวร์ สำเรจ็ รูปเพื่อการนำเสนองาน ______ 10. แนวทางสำคัญในการนำเสนองาน มี 2 ประการ คือ สอ่ื ความหมายได้รวดเรว็ และการจัดเนื้อหาให้เป็นลำดบั

18 แบบทดสอบหลงั เรยี น เลม่ ท่ี 7 เรื่อง การสร้างงานนำเสนอ คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นทำเครอ่ื งหมาย × หน้าคำตอบที่ถูกตอ้ งทส่ี ุด 1. เหตุผลที่ตอ้ งเขยี นอา้ งอิงและบรรณานุกรมขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งท่สี ุด ก. แสดงมารยาททางวิชาการ ข. ให้เกียรติแก่เจา้ ของผลงาน ค. เพ่ิมความน่าเชือ่ ถือของงานท่ีทำ ง. เพื่อให้ผ้ทู สี่ นใจติดตามความรู้เพิม่ เตมิ จากแหลง่ ข้อมูลได้ 2. ข้อใดไมใ่ ช่จุดเน้นสำคัญของหลักการพ้นื ฐานของการนำเสนอผลงาน ก. การดึงดดู ความสนใจ ข. โปรแกรมสำเร็จรูป ค. ความเหมาะสมกบั กลุ่มเปา้ หมาย ง. ความชัดเจนและความกระชบั ของเนื้อหา 3. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วัตถปุ ระสงค์ของการนำเสนอ ก. การประชมุ ข. การรายงาน ค. การส่งมอบงาน ง. การประชาสมั พันธ์ 4. ในการจัดแสดงโครงงานนนั้ ข้อใดสำคัญท่ีสุดทีค่ วรพจิ ารณาอนั ดบั แรก ก. ดงึ ดดู ความสนใจผูเ้ ข้าชม ใชส้ ที ่สี ดใส ข. ใช้ขอ้ ความกะทัดรัด ชดั เจน และเขา้ ใจงา่ ย ค. มีรปู ภาพประกอบ โดยจัดวางอยา่ งเหมาะสม ง. ทกุ อย่างต้องถูกต้อง ไม่มีการสะกดผิดหรืออธิบายหลักการทผี่ ิด 5. แนวทางสำคัญในการทำสื่อนำเสนอข้อใดกลา่ วถูกต้อง ก. มตี ัวหนังสอื น้อย ข. มเี ฉพาะประเดน็ สำคญั ค. ตัวหนงั สือสีเขม้ ชดั เจน อ่านงา่ ย ง. ใช้ effect มาออกแบบนำเสนอให้มาก

19 6. องคป์ ระกอบหลกั ของกิจกรรมทจ่ี ัดว่าเป็นโครงงานคอมพวิ เตอร์ต่อไปนี้ขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ ง ก. เปน็ กิจกรรมที่เกย่ี วขอ้ งกับการเขยี นโปรแกรม ข. เป็นกจิ กรรมท่ีเก่ยี วข้องกบั ซอฟตแ์ วร์ หรือ ฮารด์ แวร์ ค. ผเู้ รียนเป็นผูว้ างแผนในการศึกษา ค้นคว้า และพฒั นา ง. ผูเ้ รยี นเป็นผ้เู ลือกเร่อื ง ตามความสนใจและระดับความรู้ความสามารถ 7. ขอ้ ใดไม่ใช่ปัจจัยหลักท่ีทำใหก้ ารพฒั นาโครงงานประสบผลสำเรจ็ ก. ประชมุ ระดมความคิดในระหว่างผรู้ ว่ มโครงงานเสมอ ข. สมาชิกทุกคนในกล่มุ การทำโครงงานมมี นุษยสมั พนั ธ์ดี ค. ดำเนินการโดยยดึ ตารางเวลาตามแผนปฏิบัติงานท่ีวางไว้ ง. รายงานความก้าวหน้าของโครงงานตอ่ ครทู ป่ี รกึ ษาตามเวลาท่กี ำหนด 8. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะการนำเสนองานที่ดี ก. ไม่คำนงึ ถงึ ผู้ชม ข. มีเนอ้ื หาสาระท่ีดี ค. วตั ถุประสงคท์ ช่ี ดั เจน ง. มรี ปู แบบการนำเสนอท่ีเหมาะสม 9. โปรแกรมในข้อใดเป็นการนำเสนอแบบ Slide Presentation ก. Microsoft Excel ข. Microsoft Word ค. Microsoft FrontPage ง. Microsoft PowerPoint 10. โปรแกรม Microsoft PowerPoint เปน็ โปรแกรมประเภทใด ก. โปรแกรมกราฟฟกิ ส์ ข. โปรแกรมประมวลคำ ค. โปรแกรมนำเสนอข้อมูล ง. โปรแกรมตารางการคำนวณ

20 ภาคผนวก

21 เฉลยกจิ กรรมที่ 1 คำชแี้ จง : ตอบคำถามต่อไปนีใ้ หถ้ กู ตอ้ ง (1 ขอ้ 1 คะแนน) 1. การนำคอมพวิ เตอร์มาใชใ้ นงานน้ันตอ้ งมีการวางแผนเพราะอะไร __เ_พ_ร_า_ะ_ค_อ_ม_พ_ิว_เ_ต_อ_ร_์ไ_ม_ส่ _า_ม_า_ร_ถ_ท_ำ_ง_า_น_ไ_ด_โ้ ด_ย__ต_ร_ง_แ_ต_่ต_อ้_ง_ม_ีก_า_ร_ใ_ช_้ช_ดุ _ค_ำ_ส_ัง่_ใ_น_ก_า_ร_ค_ว_บ_ค_มุ_____ __ก_า_ร_ท_ำ_ง_า_น_ข_อ_ง_ค_อ_ม_พ__วิ _เต_อ_ร_์______________________________________________ 2. การใช้คอมพวิ เตอร์ช่วยสรา้ งชิน้ งานนน้ั มีวัตถปุ ระสงค์ในการสรา้ งเพือ่ อะไร __1_)_เ_พ_อื่ _แ_ก_ป้__ญั _ห_า_อ_ย_่า_ง_ใ_ด_อ_ย_่า_ง_ห_น_่ึง__2_)_ส_ร_้า_ง_ช_้ิน_ง_า_น_ใ_ห_ม_ๆ่__ส_ร_า้ _ง_เพ__มิ่ _เต_มิ__จ_า_ก_ส_ิ่ง_เด_ิม_ท__ม่ี _อี _ย_ู่ __ __3_)_ส_ร_า้ _ง_ช_้นิ _ง_า_น_เ_พ_อ่ื _ค_ว_า_ม_ป_ร_ะ_ส_ง_ค_ข์_อ__งผ_สู้__รา้_ง_เ_อ_ง________________________________ 3. การใชค้ อมพิวเตอร์เพ่อื สร้างช้นิ งานระดบั มธั ยมศึกษาควรเปน็ การสร้างชนิ้ งานในแนวใด __เ_ป_น็ _ไ_ป_ใ_น_แ_น_ว_ส_ร_้า_ง_ส_ร_ร_ค_์ ม__จี _ติ _ส_ำ_น_กึ _ท_่ดี _ที__าง_ด_้า_น_ส__งั ค__ม_แ_ล_ะ_ส_งิ่ _แ_ว_ด_ล_อ้ _ม_________________ 4. ถา้ นักเรยี นตอ้ งการใหช้ ิ้นงานทีส่ รา้ งขนึ้ ประสบความสำเร็จมากท่สี ุด การสร้างชิ้นงาน ควรเปน็ ในลักษณะใด __ม_กี_า_ร_ท_ำ_ง_า_น_ท_ม่ี__กี _ร_ะ_บ_ว_น_ก_า_ร__ม_ีก_า_ร_ว_าง_แ_ผ_น__ก_า_ร_ท_ำ_งา_น__อ_ย_า่ _งเ_ป_น็____ __ร_ะ_บ_บ__แ_ล_ะ_ม_ีข_น้ั __ต_อ_น_ท_ี่ช_ดั _เ_จ_น______________________________________________ 5. เพราะเหตใุ ดในปจั จุบันจึงมีการนำหนุ่ ยนต์มาใช้งานแทนมนุษย์มากข้นึ __เ_พ_ร_า_ะ_ห_นุ่ _ย_น_ต_์ท__ำ_งา_น_ไ_ด_้ด_ีก__วา่__ไ_ม_่ม_ีเ_ห_น_อ่ื _ย__แ_ล_ะ_ไ_ม_เ่ ส_ย่ี_ง_อ_นั__ต_ร_าย__เห_ม_อื__น_ก_ับ_ก_า_ร_ใ_ช_้ม_น_ุษ_ย_์____ 6. การสร้างงานนำเสนอด้วยคอมพวิ เตอรม์ ปี ระโยชน์ในหลายๆ ด้าน ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง __1_)_ด_้า_น_ธ_รุ_ก_จิ_ก_า_ร_ค_้า__2_)_ด_้า_น_ค_ว_า_ม_บ__ัน_เท__งิ _3_)_ด_า้_น_ก__าร_ศ_ึก__ษ_า_4_)__ด_้า_น_ก_า_ร_แ_พ_ท_ย_์__________ 7. ในงานภาพยนตรไ์ ดน้ ำคอมพวิ เตอรม์ าประยุกต์ใชใ้ นการสร้างงานอย่างไร __น_ำ_ม_า_ช_ว่ _ย_ใ_น_ก_า_ร_อ_อ_ก_แ_บ__บ_ส__รา้_ง_ภ_า_พ__เค_ล_่อื_น__ไห_ว__ห_ร_ือ_ก_า_ร_ท_ำ__S_p_e_c_i_al__E_ff_e_c_t_ต_่า_ง_ๆ__เช_น่____ __พ_า_ย_ุ _ห_ร_ือ_ก_า_ร_เ_ก_ิด_ร_ะ_เบ_ิด__ป_ร_ม_า_ณ_ู ___________________________________________ 8. อธิบายประโยชน์จากการนำคอมพิวเตอร์มาใชใ้ นด้านการศึกษา 2 ขอ้ __1_)_ส_ืบ_ค__น้ _ข_้อ_ม_ูล_ใ_น_ก_า_ร_ท_ำ_ร_า_ย_ง_า_น__2_) _น_ำ_ม_า_ส_ร_้า_ง_ช_ิ้น_ง_า_น_ใน__ก_า_ร_น_ำ_เส_น__อ_งา_น__ใน_ห__้อ_ง_เร_ีย_น_____ ____________________________________________________________________ 9. ครผู ู้สอนได้รับประโยชนอ์ ยา่ งไรจากการนำคอมพิวเตอรม์ าใช้ในการเรยี นการสอน __ส_า_ม_า_ร_ถ_น_ำ_ม_า_ส_ร_้า_ง_ส_อ่ื _ก_า_ร_เ_รยี_น__ก_า_ร_ส_อ_น__ซ_่ึง_ส_ื่อ_เห_ล__่าน__ม้ี _ีข_อ้ _ค_ว_า_ม__ร_ปู _ภ_า_พ__เส_ยี__ง__________ __ภ_า_พ_เ_ค_ล_อ่ื _น_ไ_ห_ว__แ_ล_ะ_เ_ส_ีย_ง_ด_น_ต_ร_ี _ท_ำ_ให__้ก_ร_ะ_ต_นุ้ _ค_ว_า_ม_ส_น_ใ_จ_ใ_น_ก_า_ร_เร_ีย_น__ข_อ_ง_น_ัก_เร_ีย_น__ได_้______ 10. ในการใชค้ อมพวิ เตอร์เพ่ือช่วยสร้างชน้ิ งานต้องมจี ิตสำนกึ ทด่ี ไี ดแ้ กอ่ ะไรบ้าง __1_)_ใ_ช_้ท_ร_ัพ_ย_า_ก_ร_อ_ย_า่_ง_ค_ุม้_ค__่า_2_)_ไ_ม_่ค_ัด_ล_อ__ก_งา_น__ผ_ูอ้ _ื่น__3_) _ใช__้ค_ำ_ส_ุภ_า_พ____________________ __4_)_ไ_ม_่ส_ร_า้ _ง_ค_ว_า_ม_เส_ีย__ห_า_ย_ต_่อ_ผ_ู้อ_นื่ ____________________________________________

22 เฉลยกิจกรรมที่ 2 คำช้ีแจง : ทำเคร่อื งหมาย หน้าขอ้ ความท่ีถูกต้อง และทำเครอื่ งหมาย  หนา้ ขอ้ ความ ทผี่ ดิ (1 ข้อ 1 คะแนน) ______ 1. ความชดั เจนและความกระชับของเนอ้ื หา คอื สิ่งสำคัญในการนำเสนอ ______ 2. การนำเสนอแบบ Web page เป็นการนำเสนอโดยใชโ้ ปรแกรมนำเสนอ ______ 3. สือ่ นำเสนอที่ดี มีความโดดเด่น นา่ สนใจ จะเน้นความคดิ ______ 4. ขัน้ ตอนการนำเสนอบทเรยี นสำเรจ็ รูปมี 4 ข้ันตอน ______ 5. รูปแบบการนำเสนอข้อมูลคอมพวิ เตอร์ท่นี ยิ มใชใ้ นปจั จบุ ันมี 3 รูปแบบ ______ 6. การนำเสนอทใ่ี ชบ้ นอนิ เทอร์เน็ต คอื การนำเสนอแบบ Web page ______ 7. “หนึง่ สไลด์ หน่งึ ความคิด” เปน็ การนำเสนอแบบ Slide Presentation ______ 8. ความเหมาะสมกบั กลมุ่ เป้าหมาย คอื หลักการเลอื กใชซ้ อฟแวร์สำเรจ็ รปู เพอื่ การ นำเสนองาน ______ 9. ทำความเข้าใจกับงานทเี่ ราต้องการนำเสนอ คือ หลักการเลือกใช้ซอฟแวร์ สำเร็จรูปเพอ่ื การนำเสนองาน ______ 10. แนวทางสำคัญในการนำเสนองาน มี 2 ประการ คือ ส่อื ความหมายได้รวดเรว็ และการจัดเนอ้ื หาให้เปน็ ลำดับ

23 เฉลยแบบทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบหลงั เรยี น ขอ้ คำตอบ ขอ้ คำตอบ 1. ง. 1. ข. 2. ค. 2. ข. 3. ข. 3. ก. 4. ข. 4. ง. 5. ก. 5. ค. 6. ก. 6. ก. 7. ง. 7. ข. 8. ค. 8. ก. 9. ก. 9. ง. 10. ข. 10. ค.

24 บรรณานกุ รม กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2560). ตวั ชว้ี ัดและหลักสูตรแกนกลาง กลมุ สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษา ขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พชมุ นุม สหกรณการเกษตรแหง ประเทศไทย จํากัด. โกสันต์ เทพสิทธทรากรณ.์ (2559). เทคโนโลยสี ารสนเทศ. กรุงเทพฯ : สำนกั พมิ พ์แม็ค. ครรชติ มาลยั วงศ.์ (2559). พจนานุกรมคอมพวิ เตอร์สำหรับเยาวชน. กรงุ เทพฯ : กองบริการสื่อ สารสนเทศ ศูนย์เทคโนโลยีอิเลก็ ทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนา วทิ ายาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม, ม.ป.ป. จฑุ าพร เรอื งฤทธ.์ิ (2559). คอมพวิ เตอรแ์ ละระบบปฏบิ ัตกิ ารเบ้อื งต้น. กรุงเทพฯ : วงั อกั ษร. วชริ าพร พมุ่ บานเย็น.(2560). เทคโนโลยสี ารสนเทศและคอมพวิ เตอร.์ กรุงเทพฯ : ซเี อด็ ยเู คชน่ั , วโิ รจน์ ทวีปวรเดช. (2560). ความรู้เบื้องต้นกับคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ. กรุงเทพฯ : โปรวิชั่น, สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (2560). หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ ท่ี 1-2. กรงุ เทพฯ : สถาบันสง่ เสริม การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook