1 รูปแบบการจัดการเรยี น วทิ ยาการคำนวณดว้ ยแนวทาง New Normal แบบบรู ณาการเสริมสร้างสมรรถนะนักเรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่ 1 เร่ือง การออกแบบ และการเขียนอัลกอริทึม วา่ ทรี่ อ้ ยตรชี ัยยทุ ธ ถนอมวงษ์ ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพิเศษ โรงเรยี นเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนเุ คราะห)์ สังกัดเทศบาลเมอื งกาญจนบรุ ี กรมส่งเสริมการปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ก คำนำ รูปแบบการจดั การเรยี นวิทยาการคำนวณด้วยแนวทาง New Normal แบบบูรณาการเสริมสร้าง สมรรถนะนักเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 โดยดำเนินการ จัดทำให้สอดคลอ้ งตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้ีวัด กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าและสามารถเรียนรู้และฝึกทักษะได้ด้วยตนเอง ถือว่ามีบทบาทต่อการเรียนและการทำงานใน ปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพื่อให้การเรยี นการสอนที่เปน็ ไปอย่างมปี ระสิทธิภาพผู้รายงานจึงได้จัดทำส่อื ชุด นี้ขึ้นมา ซึ่งหวังว่าจะส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียนโดยตรงเกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคุณลักษณะ อันพึงประสงคแ์ ละมีเจตคติทีด่ ีต่อการเรียน ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารูปแบบการจัดการเรียนวิทยาการคำนวณด้วยแนวทาง New Normal แบบบูรณาการเสริมสร้างสมรรถนะนักเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 นี้จะพัฒนาการเรียนของนักเรียน ให้มีความรู้ความเข้าใจ และผ่านเกณฑ์การ ประเมินคณุ ภาพการศึกษาขน้ึ ไป ขอขอบพระคณุ นางสาวภริดา บ่อพชื น์ ตำแหน่งผูอ้ ำนวยการสถานศกึ ษา โรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนเุ คราะห์) และผู้ท่เี ก่ียวข้องทกุ ทา่ นทใ่ี ห้คำแนะนำในการจดั ทำรูปแบบการจัดการ เรียนวิทยาการคำนวณด้วยแนวทาง New Normal แบบบูรณาการเสริมสร้างสมรรถนะนักเรียน กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 เล่มน้ี ว่าทีร่ ้อยตรีชัยยทุ ธ ถนอมวงษ์
ข สารบญั เรื่อง หนา้ คำนำ ...............................................................................................................................ก สารบญั ............................................................................................................................ข คำชี้แจง ...........................................................................................................................ค คำแนะนำการใชง้ านสำหรับครู .......................................................................................ง คำแนะนำการใช้งานสำหรับนักเรียน............................................................................... จ คำแนะนำการใช้งานสำหรับนักเรียน............................................................................... ฉ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ .....................................................................................................1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน ....................................................................................................2 ใบความรูท้ ี่ 1 เร่อื ง แนวคิดเชิงนามธรรม........................................................................4 กจิ กรรมที่ 1 เรอื่ ง แนวคิดเชงิ นามธรรม .........................................................................6 ใบความร้ทู ี่ 2 เรอ่ื ง อัลกอรทิ มึ เบอ้ื งต้น...........................................................................8 กิจกรรมที่ 2 เรอ่ื ง อัลกอริทมึ เบ้ืองต้น ............................................................................10 ใบความรู้ที่ 3 เรือ่ ง การเขียนอลั กอริทมึ ด้วยภาษาธรรมชาติ .........................................12 กจิ กรรมที่ 3 เร่อื ง อัลกอริทึมเบอ้ื งต้น ............................................................................14 ใบความรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง การเขียนอลั กอริทึมดว้ ยรหัสจำลอง................................................15 กิจกรรมท่ี 4 เรอื่ ง การเขียนอัลกอรทิ ึมด้วยรหสั จำลอง..................................................17 ใบความรูท้ ี่ 5 เรอ่ื ง การเขียนอัลกอรทิ มึ ดว้ ยผังงาน .......................................................18 กจิ กรรมที่ 5 เรอื่ ง การเขยี นอลั กอริทึมด้วยรหสั จำลอง..................................................22 แบบทดสอบหลังเรยี น.....................................................................................................23 ภาคผนวก .......................................................................................................................25 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น............................................................................................26 เฉลยกิจกรรมท่ี 1 เร่ือง แนวคิดเชงิ นามธรรม.................................................................28 เฉลยกิจกรรมที่ 2 เร่ือง อัลกอรทิ ึมเบื้องต้น....................................................................29 เฉลยกิจกรรมท่ี 3 เรือ่ ง อัลกอรทิ มึ เบื้องตน้ ....................................................................31 เฉลยกิจกรรมท่ี 4 เรื่อง การเขยี นอัลกอรทิ ึมดว้ ยรหัสจำลอง .........................................32 เฉลยกิจกรรมที่ 5 เร่ือง การเขยี นอลั กอรทิ มึ ด้วยรหัสจำลอง .........................................33 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น.............................................................................................34 บรรณานกุ รม ..................................................................................................................35
ค คำชี้แจง รปู แบบการจัดการเรียนวิทยาการคำนวณดว้ ยแนวทาง New Normal แบบบรู ณาการเสรมิ สรา้ ง สมรรถนะนกั เรียน กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 พัฒนาขึน้ มา เพ่ือแหลง่ ความรู้ของนักเรียน ส่งเสริมใหน้ กั เรียนเข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาทพี่ บใน ชวี ติ จริงอยา่ งเป็นข้ันตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม รูปแบบการจัดการเรียนวทิ ยาการคำนวณดว้ ยแนวทาง New Normal แบบบรู ณาการ เสริมสร้าง สมรรถนะนกั เรียน กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทั้งหมด 4 เล่ม ดังน้ี เลม่ ท่ี 1 เร่อื ง การออกแบบและการเขยี นอลั กอริทึม เล่มท่ี 2 เรอ่ื ง การออกแบบและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น เล่มที่ 3 เรอื่ ง การจดั การข้อมลู สารสนเทศ เลม่ ท่ี 4 เร่ือง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
ง คำแนะนำการใช้งานสำหรับครู รูปแบบการจดั การเรยี นวิทยาการคำนวณดว้ ยแนวทาง New Normal แบบบรู ณาการ เสรมิ สร้างสมรรถนะนักเรียน กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษา ปีที่ 1 เล่มท่ี 1 เรอื่ ง การออกแบบและการเขียนอลั กอริทมึ ควรปฏิบัติ ดงั นี้ 1. ครศู กึ ษารปู แบบการจัดการเรยี นวทิ ยาการคำนวณดว้ ยแนวทาง New Normal แบบ บูรณาการเสริมสร้างสมรรถนะนกั เรียน กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยม ศกึ ษาปีที่ 1 เล่มท่ี 1 เรอื่ ง การออกแบบและการเขียนอลั กอริทึม เล่มนี้ให้เข้าใจก่อนการใช้งาน 2. ครชู ้ีแจงใหน้ กั เรียนเข้าใจวธิ กี ารใช้รปู แบบการจดั การเรียนวทิ ยาการคำนวณด้วยแนว ทาง New Normal แบบบูรณาการเสรมิ สร้างสมรรถนะนกั เรยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 เลม่ ที่ 1 เรื่อง การออกแบบและการเขียนอลั กอริทมึ 3. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนทกุ ครั้งเมื่อเริ่มใชร้ ูปแบบการจัดการเรียนวทิ ยาการ คำนวณด้วยแนวทาง New Normal แบบบูรณาการเสริมสร้างสมรรถนะนักเรียน กลมุ่ สาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ ที่ 1 เรอ่ื ง การออกแบบและการเขยี น อลั กอรทิ มึ ในแตล่ ะเล่มและครเู ปน็ ผูต้ รวจ 4. ครูแนะนำและให้คำปรึกษาขณะนกั เรียนศกึ ษาใบความรู้และฝึกปฏิบัติตามกิจกรรม ในรูปแบบการจดั การเรียนวิทยาการคำนวณด้วยแนวทาง New Normal แบบบูรณาการเสรมิ สร้าง สมรรถนะนกั เรยี น กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 เล่มท่ี 1 เร่ือง การออกแบบและการเขียนอลั กอริทมึ 5. ครทู บทวนความรแู้ กน่ ักเรียนทกุ ครั้งก่อนหมดเวลาตามทก่ี ำหนด 6. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เมอื่ จบการเรียนรู้ในรูปแบบการจัดการเรียน โดยใชช้ ุดกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตรอ์ อนไลน์ เพื่อพัฒนากระบวนการคิดเชิงออกแบบ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 เลม่ ท่ี 1 เร่ือง การออกแบบและการเขียน อัลกอรทิ มึ ในแตล่ ะเลม่ แลว้ สง่ ให้ครูตรวจ 7. ครูประเมินนกั เรียนตามพฤติกรรมการเรียนรตู้ ามสภาพจริง พรอ้ มบนั ทกึ ผลทกุ คร้งั ครูแจง้ ผลการเรียนกับนกั เรยี นทกุ ครั้ง เมื่อทำกจิ กรรมการเรียนรูเ้ รียบรอ้ ยแล้ว
จ คำแนะนำการใช้งานสำหรับนกั เรยี น รูปแบบการจดั การเรยี นโดยใช้รูปแบบการจัดการเรยี นวิทยาการคำนวณด้วยแนวทาง New Normal แบบบรู ณาการเสรมิ สร้างสมรรถนะนักเรยี น กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ ท่ี 1 เร่ือง การออกแบบและการเขยี นอลั กอริทึม ควรปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ 1. นักเรยี นศกึ ษาคำแนะนำการใช้งานรูปแบบการจัดการเรียนวิทยาการคำนวณดว้ ยแนว ทาง New Normal แบบบรู ณาการเสริมสร้างสมรรถนะนกั เรยี น กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ ท่ี 1 เรื่อง การออกแบบและการเขยี นอลั กอรทิ ึม เล่มนีใ้ ห้ เข้าใจก่อนการใชง้ าน 2. นกั เรยี นฟงั คำชีแ้ จงการใช้รูปแบบการจัดการเรียนวิทยาการคำนวณดว้ ยแนวทาง New Normal แบบบูรณาการเสริมสร้างสมรรถนะนักเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 เล่มท่ี 1 เรื่อง การออกแบบและการเขยี นอัลกอรทิ มึ จากครูให้ เข้าใจวธิ กี ารใช้งานกอ่ นลงมอื ศึกษาด้วยตนเอง 3. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนทกุ คร้ังเมื่อเริม่ ใชร้ ูปแบบการจัดการเรียนวทิ ยาการ คำนวณดว้ ยแนวทาง New Normal แบบบรู ณาการเสรมิ สรา้ งสมรรถนะนกั เรยี น กลมุ่ สาระการ เรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 เลม่ ท่ี 1 เรือ่ ง การออกแบบและการเขียน อัลกอริทึม แลว้ สง่ ให้ครูตรวจ 4. นกั เรยี นศกึ ษาเนอ้ื หาสาระจากใบความรแู้ ละฝึกปฏบิ ัตติ ามตัวอย่าง ทำกิจกรรมดว้ ย ความตัง้ ใจ โดยมคี รคู อยแนะนำและใหค้ ำปรึกษาเสร็จแลว้ สง่ ให้ครตู รวจ 5. นกั เรียนทบทวนความรทู้ ี่ได้รบั ทกุ คร้งั กอ่ นหมดเวลา 6. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนทุกคร้ัง หลังการศึกษารูปแบบการจัดการเรียน วิทยาการคำนวณด้วยแนวทาง New Normal แบบบูรณาการเสริมสร้างสมรรถนะนักเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 เล่มที่ 1 เร่อื ง การ ออกแบบและการเขียนอลั กอริทมึ แลว้ สง่ ให้ครูตรวจ
ฉ มาตรฐานและตวั ชี้วดั สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาที่พบในชีวติ จรงิ อย่าง เป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และ การแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รูเ้ ทา่ ทันและมจี ริยธรรม ตัวชว้ี ัด ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอลั กอรทิ มึ ที่ใชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมเพ่ือแก้ปัญหาหรอื อธบิ ายการทำงานที่ พบในชวี ติ จรงิ ว 4.2 ม.1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพอ่ื แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หรือ วิทยาศาสตร์ สาระสำคัญ อลั กอรทิ ึม (algorithm) เป็นระเบยี บวิธีหรือขนั้ ตอนวธิ ที ีด่ ำเนนิ การด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อ ใช้ในการแกป้ ัญหาตา่ ง ๆ อยา่ งมีระบบ มีลำดับขน้ั ตอนตั้งแต่ต้นจนกระท่งั ได้ผลลัพธ์ ซึ่งสามารถ เขียนได้หลายรูปแบบ การเลือกใชต้ อ้ งเลือกใช้ขนั้ ตอนวิธที ี่เหมาะสม กระชับและรดั กุม สาระการเรียนรู้ 1. แนวคิดเชิงนามธรรม 2. อัลกอรทิ มึ เบื้องต้น 3. การเขียนอลั กอริทึมดว้ ยภาษาธรรมชาติ 4. การเขียนอัลกอริทมึ ดว้ ยรหสั จำลอง 5. การเขยี นอลั กอริทมึ ด้วยผังงาน
1 จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) 1. นกั เรียนอธบิ ายแนวคดิ เชงิ นามธรรมได้ 2. นักเรยี นอธิบายอลั กอริทมึ เบือ้ งต้นได้ 3. นักเรยี นเขยี นอัลกอริทมึ ดว้ ยภาษาธรรมชาติได้ 4. นกั เรียนเขียนอัลกอรทิ มึ ด้วยรหัสจำลองได้ 5. นักเรยี นเขยี นอัลกอริทึมดว้ ยผังงานได้ ดา้ นทกั ษะกระบวน (P) 1. การแก้ปัญหา 2. การใหเ้ หตผุ ล 3. การสอื่ ความหมาย คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1. ความรบั ผดิ ชอบ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
2 แบบทดสอบก่อนเรียน เล่มท่ี 1 เรื่อง การออกแบบและการเขียนอัลกอริทมึ คำชีแ้ จง ทำเครอื่ งหมาย ทบั ตัวอักษร ก ข ค หรือ ง ตรงกับอกั ษรที่ถูกที่สดุ 1. ข้อใดไมใ่ ชข่ น้ั ตอนการแก้ปญั หา ก. การแจง้ ปญั หาใหผ้ ้ดู ูแลตรวจสอบปรบั ปรุงระบบ ข. การวิเคราะหแ์ ละกำหนดรายละเอยี ดของปญั หา ค. การเลือกเครือ่ งมือและออกแบบขนั้ ตอนวธิ ีการแกป้ ัญหา ง. การดำเนนิ การแกป้ ญั หา 2. ขอ้ ใดกลา่ วถึงแนวคดิ เชิงนามธรรมได้ถกู ต้องท่ีสดุ ก. แนวคิดที่ใชแ้ ก้ปัญหาเฉพาะทางสังคมศาสตร์ ข. แนวคดิ ทีใ่ ชแ้ ก้ปญั หาเฉพาะโจทยป์ ัญหาทางคณติ ศาสตร์ ค. แนวคดิ ที่ไม่สามารถจับต้องได้ และยากที่จะทำความเขา้ ใจ ง. แนวคิดทแ่ี กป้ ัญหาอย่างเปน็ ระบบ แยกแยะรายละเอียดความสำคญั ของปัญหา แต่ละประเดน็ 3. ข้อใดชว่ ยใหค้ อมพวิ เตอรท์ ำงานไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและประมวลผลคำส่ังตามลำดบั ก. Ram ข. Rom ค. อลั กอริทมึ ง. การตดิ ตั้งไฟรว์ อลล์ 4. ขอ้ ใดกลา่ วถึงภาษาธรรมชาติ ก. INPUT color ข. ภาษาประดิษฐ์ ค. นำเขา้ ขอ้ มลู นำ้ หนัก ง. ยุคของภาษาแอสเซมบลี 5. คำนวณ พ้ืนท่ีวงกลม = Tr” เป็นการเขียนอัลกอริทึมในรปู แบบใด ก. รหสั จำลอง ข. ภาษาธรรมชาติ ค. ภาษาตา่ งประเทศ ง. ภาษาคอมพวิ เตอร์ 6. คำนวณผลตา่ งระหว่างจำนวนแรกและจำนวนท่ีสอง เขยี นอลั กอรทิ ึมดว้ ยรหัสจำลองได้ ตรงกับขอ้ ใด ก. COMPUTE area = width x length ข. COMPUTE area = 0.5 x height x base ค. COMPUTE difference = number1 + number2 ง. COMPUTE difference = number 1 - number2
3 7. การเขียนผงั งานจะตอ้ งอ้างอิงจากกระบวนการทางคอมพวิ เตอร์ตรงตามขอ้ ใด ก. รับขอ้ มูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ ข. การแสดงผลลัพธ์ รับข้อมลู การประมวลผล ค. การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ รับข้อมูล ง. การนำขอ้ มูลเขา้ การประมวลผล การนำข้อมลู ออก 8. สัญลกั ษณน์ ้มี ีความหมายตรงกับข้อใด ก. การเรม่ิ ตน้ ข. การรับ – ส่งข้อมลู ค. การตดั สนิ ใจ ง. การประมวลผล 9. การตรวจสอบผลรวมของนำ้ หนกั ของผลไม้ 2 ชนิด มากกว่าหรือเท่ากบั 10 กิโลกรมั ซึ่งเขยี นอัลกอริทมึ ด้วยรหัสจำลองได้ตรงกับข้อใด ก. INPUT fruit1 ข. OUTPUT totalweight ค. IF total weight > = 10 THEN ง. COMPUTE totalweight = fruit1 + fruit2 10. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของการเขยี นผังงาน ก. แยกแยะปัญหาไดง้ ่าย ข. ทำความเขา้ ใจโปรแกรมได้งา่ ย ค. ไมค่ ่อยมขี ้อผิดพลาด ง. แสดงลำดบั ขน้ั ตอนการทำงานชัดเจน
4 ใบความรู้ท่ี 1 เรอื่ ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม การออกแบบการแก้ปญั หาโดยนำแนวคดิ เชงิ นามธรรมมาประยกุ ต์ใชจ้ ะทำให้การแกป้ ญั หา มปี ระสิทธภิ าพ มากข้ึนในบทน้ีจะกลา่ วถึงกระบวนการ ในการพจิ ารณา รายละเอียดของปัญหา ซงึ่ จะนำไปสูว่ ิธกี ารแก้ปญั หา “ในชีวิตประจำวันเราคงเคยพบกับปญั หาท่ีไม่รูว้ ่าจะ แกไ้ ขหรอื ดำเนนิ การอยา่ งไร นน่ั อาจเปน็ เพราะเรายังไมเ่ ข้าใจ ปญั หาดี เชน่ ตอ้ งเดนิ ทางไปสถานทแ่ี หง่ หนงึ่ ดว้ ยรถโดยสาร เราอาจตอบวา่ ไมเ่ คยไปจะไปไดอ้ ย่างไร” “หากพจิ ารณารายละเอยี ด ต่อไปว่าสถานท่นี นั้ อยทู่ ใ่ี ด มีสถานที่ ใดบ้างทีอ่ ยู่ใกล้เคียง ทำให้เรานึกออกว่าจะสามารถเดนิ ทางไปได้ หลงั จาก น้ันจะตอ้ งหาขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ ว่ามรี ถโดยสารใดผ่านบา้ ง แตถ่ ้ารถนนั้ ไม่ผ่าน บา้ นเราจะทำอยา่ งไร ต้องเดินทางไปต่อรถทีใ่ ด ราคาคา่ โดยสารเป็น เท่าใด” การพิจารณารายละเอียดของปัญหาการเดินทางของ นักเรยี น ทำให้เข้าใจเง่ือนไขท่เี กยี่ วข้องและทำให้ทราบ ประเดน็ ทสี่ ำคัญเพอ่ื ไปส่วู ิธีการแก้ปญั หาท่ีมปี ระสิทธภิ าพ
5 1. แนวคิดเชิงนามธรรม 1.1 แนวคิดเชงิ นามธรรม (abstract thinking หรือ abstraction) เปน็ องค์ประกอบหนง่ึ ของ แนวคดิ เชงิ คำนวณ (computational thinking) ซงึ่ ใชก้ ระบวนการคดั แยกคุณลักษณะทสี่ ำคญั ออก จากรายละเอียดปลกี ยอ่ ยในปัญหา หรืองานทก่ี ำลังพิจารณา เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่จี ำเปน็ และเพียงพอใน การแกป้ ญั หา ในการแก้ปัญหาหนึ่งอาจมีวิธกี ารแก้ปญั หาไดห้ ลายวิธี ขึ้นอยูก่ ับการมองปัญหา การมองเหน็ รายละเอียดเป้าหมายของโจทย์ปัญหา และประสบการณ์ของผูแ้ กป้ ญั หาดงั ตัวอยา่ งตอ่ ไปนี้ ตวั อย่าง คำวา่ Good ในภาษาองั กฤษรปู แบบต่าง ๆ Good Good Good GOOD Good good คำว่า Good แตล่ ะตัวมรี ูปแบบทีต่ า่ งกนั ขึน้ อยกู่ ับประสบการณท์ ่ผี ู้เขยี นแต่ละคนมีจากตวั อย่าง จะเห็นรายละเอียดท่ีต่างกัน เช่น สี รูปแบบอักษร (font) อักษรตัวพิมพ์ใหญ่หรือตัวพิมพ์เล็กและ รายละเอยี ดอ่ืน ๆ เชน่ การขดี เส้นใต้ การเอียงของตัวอักษรโดยรปู แบบทแี่ ต่ละคนมีอยถู่ า้ จะถา่ ยทอด ให้ผูอ้ น่ื รับรู้ เขา้ ใจทกุ อย่างแทบจะเปน็ ไปไมไ่ ด้ และอาจจะไมม่ คี วามจำเป็นที่ผู้อ่นื รายละเอียดท้ังหมด ในทีน่ หี้ ากผู้รับขอ้ มูลตอ้ งการทราบว่าคำนีป้ ระกอบไปด้วยอักขระใดบ้าง โดยไม่สนใจประเภทของ อกั ษร ตัวพมิ พใ์ หญ่หรอื ตวั พิมพ์เลก็ คำวา่ Good ทุกตวั ในตารางต่างกม็ ีองค์ประกอบเชงิ นามธรรม เดยี วกนั คอื เป็นคำทีป่ ระกอบด้วยอักขระ G, o, o, d แต่ในบางสถานการณอ์ าจจะสื่อว่าขอ้ มลู ดังกลา่ ว เป็นเพยี งอกั ขระภาษาอังกฤษ 4 ตวั หรอื เป็นคำภาษาองั กฤษเพียงหนง่ึ คำ 2. การใชแ้ นวคดิ เชิงนามธรรมเพื่อแกป้ ญั หา ปัญหาทก่ี ำลังพิจารณาอยู่นั้นอาจประกอบไปดว้ ยรายละเอียดจำนวนมาก ทง้ั ท่จี ำเป็นและไม่ จำเปน็ ต่อการแก้ปญั หา ลองพิจารณาปญั หาในสถานการณ์สมมติดังตวั อย่างต่อไปน้ี จากภาพใหน้ ักเรียนคดั กรองรายละเอียดของคำว่า Good เมอื่ ระบุความตอ้ งการท่แี ตกตา่ งกันดงั น้ี ❍ ข้อมูลประกอบด้วยอักขระใดบ้าง แตล่ ะอกั ขระเป็นอกั ษรตัวพิมพ์เลก็ หรือตัวพมิ พใ์ หญ่ และมสี ีอะไร ❍ ข้อมูลประกอบดว้ ยอกั ขระใดบ้าง แตล่ ะอกั ขระประกอบด้วยสีอะไร ❍ ขอ้ มูลประกอบดว้ ยอักขระใดบ้าง ❍ ข้อมูลประกอบด้วยอักขระกตี่ ัว ❍ ข้อมูลประกอบด้วยคำก่คี ำ
6 กจิ กรรมท่ี 1 เรอ่ื ง แนวคิดเชงิ นามธรรม คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามทีก่ ำหนดให้ถูกต้อง ข้อท่ี 1-3 1…. ใ…ห…น…ัก…เร…ียน…ส…ร…ุป…คว…า…ม…ห…มา…ย…ข…อง…แ…น…วค…ิด…เช…ิง…น…าม…ธ…ร…รม……มา…ใ…หเ…ข…าใ…จ…………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……. 2. ใหนกั เรียนพจิ ารณารูปตอ่ ไปนี้ และวเิ คราะห์วาประเด็นใดเป็นลักษณะทั่วไป หรือลักษณะเฉพาะ ที่ทำใหรูวารูปเหลานีจ้ ดั อยู่ในประเภทเดยี วกนั ลักษณะทว่ั ไป ลกั ษณะเฉพาะ 3. ใหนักเรียนสรปุ องคประกอบเชิงนามธรรมของรูปภาพจากขอ 2 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..………………………………………………………………
7 คำชแี้ จง ให้นักเรยี นพจิ ารณาสถานการณ์ต่อไปน้วี ่ามีสง่ิ ใดเป็นขอ้ มลู ทีจ่ ำเป็นและไมจ่ ำเปน็ ตอ่ การแก้ปัญหาและแสดงวธิ ีในการหาคำตอบ ข้อที่ 4-5 4…….……ให……้น……ัก……เร……ยี ……น……ลา……ก……เส……น้ ……ต……รง……ผ……่า……นจ……ุด……ท……ุก……จดุ……โ……ด……ยใ……ช……้จำ……น……ว……น……เส……น้ ……ท……ี่ลา……ก……น……้อย……ท……่ีส……ดุ ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….. 5. มสี ้ม 5 กิโลกรัม มีอง่นุ 7 กิโลกรมั นำ้ มนั งา 2 กโิ ลกรมั ชมพู่ 4 กิโลกรัม รวมมี ผลไม้ ท้ังหมด กี่กโิ ลกรมั ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..………………………………………………………………
8 ใบความร้ทู ่ี 2 เรอื่ ง อลั กอรทิ ึมเบอ้ื งตน้ ความหมายของอัลกอริทมึ (Algorithm) อัลกอรทิ มึ (Algorithm) คอื ระเบยี บวิธีหรือขนั้ ตอนวธิ ีทด่ี ำเนินการได้ด้วยคอมพวิ เตอร์ เพอ่ื ใช้ในการแก้ไขปญั หา โดยเปน็ กระบวนการแกไ้ ขปัญหาท่สี ามารถอธิบายเปน็ ข้นั ตอนทีช่ ัดเจน ข้อมูล ที่ต้องนำเขา้ และผลลพั ธ์ทไี่ ดจ้ ากการนำเขา้ ข้อมูล รวมท้งั การดำเนนิ การตามขั้นตอนและจากข้อมลู การนำเข้านั้น อลั กอริทึมต้องสามารถแกไ้ ขปัญหาโดยท่ัวไป กลา่ วคือ ต้องไม่เป็นข้ันตอน วิธเี พอื่ การ แกไ้ ขปญั หาเฉพาะเจาะจงกรณีหน่งึ กรณีใด คณุ สมบัติของอัลกอริทมึ 1. มคี วามถกู ต้อง ความถูกตอ้ งเป็นคณุ สมบัติข้อแรกท่จี ะต้องพจิ ารณานน่ั คือเมอ่ื ทำงานตาม อัลกอริทึมแลว้ จะต้องได้ผลลัพธท์ ีถ่ กู ต้อง ซ่ึงถ้าผลลัพธท์ ี่ไดจ้ ากอลั กอรทิ ึมไม่ถกู ตอ้ ง จะถือวา่ ไมใ่ ช่ อัลกอรทิ มึ ท่ีดี โดยทไ่ี ม่จำเปน็ ตอ้ งพจิ ารณาคุณสมบัติข้ออน่ื ๆ 2. ใช้เวลาในการปฏิบตั งิ านน้อยที่สุด 3. ส้ันกระชบั มีเฉพาะข้นั ตอนท่จี ำเปน็ เท่านนั้ 4. ใช้เน้ือทใี่ นหน่วยความจำนอ้ ยท่ีสดุ เน้ือท่ใี นหนว่ ยความจำจะถูกใช้สำหรบั เก็บคา่ ของตัว แปรและเก็บคำสง่ั ท่ใี ช้ในการทำงาน ดงั นน้ั ถา้ อลั กอริทึมยาวเกนิ ความจำเปน็ จะทำให้ใช้เนอ้ื ท่มี าก และถ้ามตี ัวแปรมากเกินความจำเปน็ ก็จะทำให้เสียเน้อื ที่ในหน่วยความจำไปดว้ ย 5. มคี วามยดื หยุ่นในการใช้งาน 6. ใช้เวลาในการพฒั นานอ้ ยที่สดุ เมือ่ นำอัลกอรทิ ึมไปแปลงเปน็ โปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ แลว้ จะต้องใชเ้ วลานอ้ ยทสี่ ุด 7. ง่ายต่อการทำความเขา้ ใจ
9 เครอื่ งมือชว่ ยในการเขียนอลั กอรทิ มึ การเขยี นอัลกอริทมึ เป็นการวางแผนเก่ยี วกับการแกป้ ัญหา โดยจะอธบิ ายการทำงานที่ชดั เจนเพอ่ื เป็น แนวทางในการเขยี นโปรแกรม ช่วยใหก้ ารเขียนโปรแกรมทำได้ง่ายขึ้น ชว่ ยให้โปรแกรมมีขอ้ ผดิ พลาด นอ้ ยลง นอกจากนี้ยงั ชว่ ยตรวจสอบการทำงานของโปรแกรม ทำใหท้ ราบข้นั ตอนการทำงานของ โปรแกรมได้อยา่ งรวดเรว็ โดยไมต่ อ้ งดจู ากโปรแกรมจรงิ ในการเขียนอัลกอริทึมมเี ครอ่ื งมือชว่ ยในการเขียนท่นี ิยมใช้ 3 แบบ คอื 1. บรรยาย (narrative description) 2. ผังงาน (flowchart) 3. รหัสเทยี ม (pseudo code) ในการแกป้ ญั หาต่าง ๆ อาจมีวิธกี ารแกป้ ัญหา หลายวธิ ี สามารถเลือกข้ันตอนวิธีการแก้ปญั หาที่ตา่ งกัน ออกไป ข้นั สุดทา้ ยผลลัพธ์ทไี่ ด้อาจเหมอื นหรอื แตกต่างกัน ซงึ่ การแก้ปัญหาแบบอลั กอริทึมนนั้ จะเปน็ การแก้ที่มลี ำดบั หรอื วิธีการแกไ้ ขปญั หาใดปญั หาหนึง่ อยา่ งเป็น ข้นั ตอน และชัดเจน
10 กิจกรรมที่ 2 เร่ือง อลั กอริทึมเบ้ืองตน้ คำช้ีแจง ให้นักเรยี นตอบคำถามท่กี ำหนดให้ถกู ตอ้ ง 1….…อ…ัลก…อ…ร…ทิ …มึ ม…ีค…ว…าม…เ…กี่ย…ว…ข…้อ…งก…บั …ค…อ…มพ…วิ …เต…อ…ร…์อ…ย่า…ง…ไร………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………..………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2…………….……………ก……………าร……………เ……ข………ยี……………น……………อ……………ลั ……ก………อ……………ร……………ิท……………มึ ……ม………ีก……………่ีร……………ูป……………แ……บ……………บ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….…….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3…. …ให…น้ …ัก…เร…ียน…บ…อ…ก…คณุ……สม…บ…ัต…ขิ …อง…อ…ลั …ก…อร…ทิ …มึ …ม…า …3…ข…อ้ ……..……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….…….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….…….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
11 4. จากแผนที่ตน้ ขา้ ว ตอ้ งการเดินทางจากจุดเรมิ่ ตน้ เพือ่ ไปยงั จุดสิน้ สดุ ต้นข้าวตอ้ งเดินทางอย่างไร ได้บ้าง (เดินทางโดยรถยนต์, เดินทางโดยรถฟ, เดินทางโดยการเดนิ เทา้ ) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….…….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………………… 5. จากข้อ 3 หากต้นข้าวขบั รถยนตแ์ ละต้องใช้เวลาในการเดนิ ทางนอ้ ยทีส่ ดุ นักเรียนคิดว่าต้นข้าวควร เดนิ ทางอย่างไร (กำหนดให้ตน้ ข้าวจะต้องหยดุ รถเพื่อรอสัญญาณฟจราจรทกุ แยกอย่างน้อย 30 วนิ าท)ี ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….…….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….…….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
12 ใบความรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง การเขียนอลั กอรทิ ึมด้วยภาษาธรรมชาติ ภาษาธรรมชาติ คือ รูปแบบ ภาษาทมี่ นษุ ยเ์ ขา้ ใจ หรือเป็นภาษามนุษยท์ ีใ่ ช้ สอ่ื สารกนั มีรปู แบบภาษาท่ไี มแ่ น่นอนตายตวั และเปน็ ไปตามธรรมชาตขิ อง มนษุ ยต์ ามเช้ือชาติ เชน่ ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ภาษาจีน เป็นตน้ การติดตอ่ ส่งั งานคอมพวิ เตอร์ ภาษาคอมพิวเตอร์เป็นภาษาประดิษฐ์ เพ่ือให้สามารถทำความ เข้าใจภาษามนุษย์โดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งเกี่ยวกับการติตต่อส่ือสารด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ของมนษุ ย์ เป็นการประยกุ ตใ์ ชภ้ าษาศาสตรแ์ ละเคร่อื งคอมพิวเตอร์เขา้ ด้วยกนั โดยจะหาวิธใี หค้ อมพิวเตอร์ สามารถเข้าใจความหมายของประโยด เขา้ ใจเร่ือง ของคำ และความหมายของคำหลักไวยากรณข์ อง ประโยด ภาษาธรรมชาติจริง ๆ ลว้ นเปน็ ภาษาทีย่ อม ใหค้ อมพิวเตอร์รับคำส่งั โดยไมค่ ำนงึ ถึงรปู แบบหรอื หลกั ไวยากรณ์ของภาษาเหมือนกบั โปรแกรมภาษา อ่นื ๆ ทีต่ อ้ งการมขี ้นั ตอนในการใช้คำสั่ง เช่น การใช้ ภาพ : ภาษาคอมพิวเตอรเ์ ป็นภาษาประดษิ ฐ์ คำสงั่ ใหเ้ คร่ืองจักรทำงาน เป็นต้น ทีม่ า : https://computersolve.com/ 1. ภาษาคอมพวิ เตอร์ ภาษาคอมพวิ เตอร์ คอื โปรแกรมหรือชดุ คำสัง่ ทโี่ ปรแกรมเมอร์เขยี นเพื่อใช้สัง่ งานตาม รปู แบบ และโครงสรา้ งของภาษา ภาษาคอมพวิ เตอร์มกี ารพัฒนาเช่นเดยี วกบั คอมพิวเตอร์ สามารถแบง่ ออก เป็นยุคหรอื เปน็ ร่นุ ของภาษา (Generation) ซึง่ ในยคุ หลงั มีการพัฒนาภาษาให้มีความ สะดวกในการ อ่านและเขยี นใหง้ ่ายขน้ึ กว่าภาษาในยุคแรก เนื่องจากจะมี โครงสรา้ งภาษาใกลเ้ คียงกับภาษาองั กฤษ ภาษาคอมพิวเตอร์ สามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 5 ยุค ดงั น้ี 1. ยคุ ของภาษาเครือ่ ง (Machine language) 2. ยุคของภาษาแอสเซมบลี (Assembly language) 3. ยคุ ของภาษาชน้ั สูง (High level language) 4. ยคุ ของภาษาขน้ั สงู มาก (Very high level language) 5. ยุคของภาษาธรรมชาติ (National language)
13 ระดบั ของภาษา การใช้งานคอมพิวเตอรซ์ ึ่งเป็นเคร่อื งมือทางอิเล็กทรอนิกสท์ ำงานตามทต่ี ้องการ จำเปน็ ตอ้ งมีการกำหนดภาษาสำหรับใช้ติดต่อสัง่ งานกับคอมพิวเตอร์ ภาษาคอมพิวเตอร์สามารถแบ่ง ได้ 3 ระดับ ได้แก่ ภาษาระดับต่ำ ภาษาระดับกลาง และภาษาระดบั สงู - ภาษาระดับต่ำ เปน็ ภาษาที่มนุษย์ทำความเข้าใจได้ยาก เหมาะแกก่ ารเขยี นโปรแกรม ควบคมุ ฮาร์ดแวรซ์ ่งึ จะทำงานไดโ้ ดยตรงและรวดเร็ว แต่ไมเ่ หมาะแกก่ ารใชพ้ ัฒนาโปรแกรม ตัวอยา่ ง ภาษา ระดบั ต่ำ เช่น ภาษาเคร่อื ง ภาษาแอสเซมบลี เปน็ ต้น - ภาษาระดบั กลาง เปน็ ภาษาท่ีมีลกั ษณะแบบโครงสรา้ ง สามารถใช้บนเครื่องท่3ี ความเรว็ แตกต่างกนั โดยไม่ต้องดดั แปลง ภาษาระดับกลางเป็นการนำขอ้ ดีของภาษาระดบั ตำ่ กับ ภาษาระดบั สูงมาพัฒนา ดังนนั้ ภาษาระดบั กลางจงึ เปน็ ท่นี ยิ มใช้กันอย่างแพร่หลาย - ภาษาระดับสงู เป็นภาษาทีเ่ ขา้ ใจได้ง่ายมกี ารใชค้ ำสง่ั เปน็ ภาษาอังกฤษ ซึง่ มลี ักษณะ ใกลเ้ คยี งกบั ภาษา ของมนุษยม์ าก การสั่งใหค้ อมพิวเตอร์ทำงานจะตอ้ งมีการแปลความหมายของ คำสงั่ การเขียนอลั กอรทิ มึ ด้วยภาษาธรรมชาติ การเขียนอัลกอรทิ ึมด้วยภาษาธรรมชาติ คอื การบรรยายขัน้ ตอนการทำงานของอลั กอรทิ ึม ใด ๆ โดยใชภ้ าษามนษุ ย์เพือ่ อธบิ ายถงึ ลำดับขัน้ ตอนการทำงานของอัลกอรทิ ึมตามลำดบั การทำงาน กอ่ นหลัง เชน่ การปลูกต้นไม้ แสดงขนั้ ตอนการทำงานดว้ ยอัลกอริทมึ แบบบรรยายไดด้ งั นี้ 1. ขดุ หลมุ 2. ใส่ปุย๋ 3. นำต้นไมล้ งหลมุ 4. กลบดนิ 5. ปกั หลักยึดตน้ ไม้ 6 รดน้ำ ขอ้ ดขี องการเขียนอัลกอริทมึ แบบบรรยาย ข้อดี คือ งา่ ยในการเขียนบรรยาย เน่ืองจากใช้ภาษาพูดทีผ่ ู้เขยี นอัลกอริทึมค้นุ เคยอย่แู ลว้ ดงั น้ันจงึ งา่ ยในการเขียนบรรยาย ข้อเสียของการเขียนอัลกอริทึมแบบบรรยาย เน่อื งจากการเขยี นมีลักษณะบรรยาย ดังนนั้ - ขอบเขตของการบรรยายกวา้ งเกินไปยืดเยื้อเกนิ ไป - ยากต่อความเข้าใจ - ยากในตรวจสอบความถูกต้อง - ยากในการแปลงเปน็ โปรแกรม
14 กิจกรรมที่ 3 เร่ือง อลั กอรทิ ึมเบือ้ งต้น คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาใบงานดา้ นล่าง แล้วพิจารณาขอ้ ความทกี่ ำหนดให้ ……………………………………………1.…ภ…า…ษ…าธ…ร…รม…ช…า…ติ…ค…อื …ร…ูปแ…บ…บ…ภ…า…ษา…ท…ม่ี …น…ุษ…ย์เ…ข…้าใ…จ…แ…ล…ะใ…ช…ใ้ น…ก…า…รส…อ่ื …ส…าร………………… ……………………………………………2.…ภ…า…ษ…าธ…ร…รม…ช…า…ติ…เช…่น…ภ…า…ษ…าไ…ท…ย…ภ…า…ษ…าจ…ีน…ภ…า…ษ…าอ…งั …ก…ฤษ……ภ…าษ…า…ใบ…้……………………… ……………………………………………3.…ภ…า…ษา…ค…อ…มพ…ิว…เต…อ…ร…์ เป…็น…ภ…า…ษ…าท…ม่ี …น…ุษ…ย์ค…ดิ …ค…น้ …ขน้ึ……เพ…่อื …ใช…้ใน…ก…าร…ต…ิด…ต่อ…ก…ับ…ค…อม…พ…วิ …เต…อร…์ … …………………………ท…ำ…ให…ม้ …น…ษุ …ย…ส์ า…ม…า…รถ…ต…ิด…ต่อ…ส…่ือ…ส…าร…ส…ัง่ ก…า…ร…กบั…ค…อ…ม…พ…ิวเ…ต…อร…์ไ…ด้……………………………… …………………..………… 4. ภาษาคอมพวิ เตอร์ คอื โปรแกรมหรอื ชุดคำสง่ั ทโ่ี ปรแกรมเมอรเ์ ขียน เพอื่ ส่ังงาน รปู แบบและโครงสรา้ งของภาษา …………………… 5. ภาษาคอมพวิ เตอร์ แบ่งออกเปน็ 4 ยคุ ซง่ึ พัฒนาการตามววิ ัฒนาการของ คอมพิวเตอร์ในแต่ละยุค …………………… 6. ภาษาของคอมพวิ เตอร์ แบ่งออกเปน็ ยุคของภาษาเครื่อง ยุคของภาษาแอสเซมบลี ยคุ ของภาษาชนั้ สูง ยคุ ของภาษาขน้ั สงู มาก และยุคของภาษาธรรมชาติ …………………… 7. ระดับของภาษาคอมพวิ เตอร์แบ่งไตอ้ อกเปน็ 3 ระดบั คือ ภาษาระดับต่ำ ภาษา ระดับกลาง และภาษาระดับสงู …………………… 8. ภาษาระดบั สงู เป็นภาษาตับท่มี นุษย์มีความเข้าใจยากทีส่ ุด เหมาะสมสำหรับ การเขียนโปรแกรมติดตอ่ กบั ฮารด์ แวร์โดยตรงและรวดเรว็ ไดแ้ ก่ภาษาเคร่ือง และภาษาแอสเซมบลีแบบและโครงสรา้ งของภาษา ……………………9. ภาษาระดบั กลาง เปน็ ภาษาทเี่ ข้าใจงา่ ย มกี ารใช้คำสัง่ เปน็ ภาษาอังกฤษ มี ความใกล้เคยี งกบั ภาษามนษุ ยม์ าก ……………………10. ภาษาระดับต่ำ เปน็ ภาษาทมี่ ีรูปแบบโครงสรา้ ง เปน็ การนำข้อดีของภาษา ระดับสูง และภาษาระดบั ตำ่ มาพัฒนา ไมน่ ยิ มนำมาใช้ในการทำงาน
15 ใบความร้ทู ี่ 4 เรอื่ ง การเขียนอัลกอริทึมด้วยรหสั จำลอง รหัสจำลอง เปน็ รูปแบบภาษาทีม่ ีโครงสรา้ งที่ชดั เจน ใช้อธบิ าย ข้นั ตอน การทำงานของอัลกอริทมึ โดยไม่ข้นึ กับภาษาคอมพวิ เตอรใ์ ดภาษา หนง่ึ สามารถแปลงรหสั จำลองเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ได้งา่ ย โดยรหัส จำลองสามารถใชร้ ูปแบบคำส่งั ท่เี ป็นภาษาองั กฤษหรือภาษาไทยก็ได้ อีกทงั้ สามารถใชค้ ำสง่ั เฉพาะท่มี ีอยใู่ น ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ชว่ ยในการเขียนรหัสจำลองได้ ดงั นน้ั รหัสจำลอง จึงคล้ายคลึงกับการเขียน โปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ จึงเปน็ เคร่อื งมือทนี่ ิยมใช้ใน การอธิบาย ขนั้ ตอนอลั กอรทิ มึ ของโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 1 การเขยี นอัลกอริทึมด้วยรหสั จำลอง การเขียนอัลกอริทึมดว้ ยรหสั จำลอง เปน็ คำสง่ั ท่ีจำลองความคดิ เปน็ ลำดบั ข้นั ตอนโดยใช้ สญั ลักษณ์เปน็ ประโยคภาษาอังกฤษ รหัสจำลองไม่ใช่ภาษาโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์จงึ ไม่สามารถ นําไปประมวลผลได้ และไมส่ ามารถส่ังให้คอมพิวเตอรท์ ำงานตามคำสัง่ แต่เป็นการเขียนจำลองคำสงั่ จริงแบบย่อตามอลั กอรทิ ึมของโปรแกรมระบบ เพอื่ นำไปพัฒนาเป็นการเขียนโปรแกรม ภาษาคอมพิวเตอร์ได้ ตวั อย่างประโยคภาษาองั กฤษเขยี นจำลองคำส่งั Input a number : ใสข่ อ้ มลู นำเขา้ เปน็ คา่ ตัวเลข Find the sum of the number : คำนวณรวมค่าตวั เลขท่นี ำเข้า Print the sum : แสดงผลรวมของขอ้ มูลท้ังหมด 2. หลักเกณฑก์ ารเขยี นรหัสจำลอง 1. ควรใชค้ ำสงั่ เปน็ รูปแบบภาษาที่สัน้ กระชบั และเข้าใจง่าย เช่น start หมายถึง การเรมิ่ ต้นการทำงาน stop หมายถึง การจบการทำงาน 2. ควรมหี มายเลขลำดับข้ันตอนชดั เจน 3. ไมจ่ ำเปน็ ต้องมีเครื่องหมายวรรคตอน 4. รหัสจำลองต้องไมข่ ้ึนกบั ภาษาคอมพิวเตอรภ์ าษาใดภาษาหน่ึง 5. ในหนึง่ บรรทดั ใหม้ ีคำส่ังเพยี งคำส่ังเดยี ว 6. ในการเขียนคำสัง่ ให้เรียงจากบนลงล่าง และมีจดุ สิ้นสุดเพยี งจดุ เดียว
16 ตวั อยา่ ง อธิบายการคำนวณหาพนื้ ทีส่ ี่เหลยี่ ม และแสดงผลลพั ธ์การคำนวณดว้ ยการใช้รหสั จำลอง สูตรการคำนวณหาพน้ื ท่สี ี่เหล่ยี ม พน้ื ทส่ี ่เี หลย่ี ม = ความกว้าง X ความยาว Area of a rectangle = Width x Length ออกแบบอัลกอรทิ ีม รหัสจำลอง ภาษาธรรมชาติ 1. START 1. เริ่มต้นการทำงาน 2. INPUT width 2. นำเข้าข้อมลู ความกว้างของส่เี หลี่ยม 3. INPUT length 3. นำเขา้ ข้อมูล ความยาวของส่เี หลย่ี ม 4. COMPUTE area = width x length 4. คำนวณ พื้นท่ีสีเ่ หลีย่ ม = ความกวา้ ง x ความยาว 5. OUTPUT area 5. แสดงผล พ้นื ทส่ี ีเ่ หลยี่ ม 6. STOP 6. จบการทำงาน ประโยชนข์ องรหัสจำลอง - เป็นเครอ่ื งมอื ในการกำหนดโครงร่างกระบวนการทำงานของการเขยี นโปรแกรมแตล่ ะโปรแกรม - เปน็ ตน้ แบบในการทบทวน ปรับปรุงแก้ไข และพฒั นาโปรแกรมขอโปรแกรมเมอร์ และ นกั วิเคราะห์ระบบ - เปน็ ตัวกำหนดงานเขียนโปรแกรม เพ่อื ใหโ้ ปรแกรมเมอร์นำไปพัฒนา เพื่อใหค้ อมพิวเตอร์ ทำงานตามกระบวนการท่ีได้จำลองกระบวนการจรงิ ไว้ในรหัสจำลอง
17 กิจกรรมที่ 4 เรอื่ ง การเขียนอัลกอรทิ มึ ด้วยรหัสจำลอง คำช้แี จง ให้นักเรยี นตอบคำถามทีก่ ำหนดใหถ้ กู ต้อง 1….…ส…รุป…ค…ว…าม…ร…้เู ก…ีย่ …ว…กับ…ร…ห…ัส…จำ…ล…อ…งม…า…พ…อเ…ข…้าใ…จ…………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………..………………………………………………………………………………………………………………………………….. …2.…ใ…ห้น…กั…เ…รีย…น…อ…ธิบ…า…ย…เก…ณ…ฑ…ก์ …าร…เ…ขีย…น…ร…ห…สั จ…ำ…ล…อง…ม…า…ให…เ้ ข…า้ …ใจ…………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….….…………………………………………………………………………………………………………………………….. ………3……………….………………………ใ………………………ห้น………………………ัก………………………เ………………………รยี ………………………น………………………ส………………………รุป………………………ป………………………ร………………………ะ………………………โย………………………ช………………………น์ข………………………อ………………………ง………………………รห………………………สั ………………………จ………………………ำล………………………อ………………………ง………………………ม………………………าใ………………………ห………………………เ้ ข………………………้าใ………………………จ……….…………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………….….. …4…. …ให…้น…ัก…เร…ีย…นอ…ธ…ิบ…าย…ก…า…รค…ำ…น…วณ……หา…พ…้นื …ท…่สี …เ่ี ห…ล…่ีย…มแ…ล…ะ…แส…ด…ง…ผ…ลล…ัพ…ธ…์ก…าร…ค…ำน…ว…ณ…ด…้ว…ยก…า…รใ…ช…้รห…ัส…จ…ำ…ลอ…ง ……………………ม………า…พ………อ………เ……ข…้า……ใ…จ…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …5……….…ใ…………ห………น้…………ัก…………เ…ร………ยี …น…………บ…………อ…………ก………ป…………ร…ะ…………โ………ย…ช…………น…………ข์ ………อ…………ง…ร…………ห………สั…………จ…ำ…………ล………อ…………ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….….… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
18 ใบความรทู้ ี่ 5 เรอื่ ง การเขียนอัลกอรทิ มึ ดว้ ยผังงาน ผังงาน (Flowchart) คือ การใช้ภาพสญั ลกั ษณ์ เพอ่ื แสดงลำดับ ขนั้ ตอนการทำงานของอลั กอริทึม หรือการทำงานตา่ ง ๆ ต้งั แต่เร่มิ ต้น จนจบการทำงานใหไ้ ด้ผลลัพธ์ทต่ี อ้ งการ การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สามารถใช้ผงั งานเพือ่ ช่วยลำดับแนวความคิดในการเขยี น โปรแกรม เรยี กว่า ผงั งานโปรแกรม ซึง่ เปน็ วิธที ่นี ิยมใชเ้ พราะทำให้เข้าใจการทำงานของโปรแกรมได้ งา่ ยกว่าการอธิบายด้วยข้อความ เมื่อมีข้อผิดพลาดสามารถดจู ากผงั งานทำใหก้ ารแก้ไขหรอื ปรบั ปรุง โปรแกรมทำได้ง่ายข้นึ ซง่ึ สญั ลกั ษณ์ที่ใชใ้ นการเขียนผังงานบางส่วน มีดังน้ี ตารางแสดงสญั ลกั ษณ์ทีใ่ ช้ในการเขยี นผังงาน สัญลักษณ์ ความหมาย เริ่มตน้ ส้ินสุดการทำงาน รับขอ้ มูล/แสดงผลโดยไมก่ ำหนดอุปกรณ์ รบั ข้อมลู ทางแปน้ พิมพ์ ทางเลอื กเง่อื นไข แสดงผลทางเครอื่ งพิมพ์ แสดงผลทางหน้าจอ การกำหนดคา่ หรอื การประมวลผล predefined process หรือโปรแกรมยอ่ ย ทศิ ทางการทำงาน
19 รปู แบบการเขียนผงั งาน การเขียนผังงานจะเขยี นในลักษณะบนลงล่าง (Top-Down) หรอื ซา้ ยไปขวา โดยมรี ูปแบบ การเขยี นผังงาน 3 ลกั ษณะ ดงั น้ี 1. เรยี งลำดับ (Sequence) คอื การเขยี นผังงานแบบเรียงลำดับจากบนลงลา่ ง หรือจากซ้าย ไปขวา เป็นรปู แบบที่งา่ ยทส่ี ดุ เนอ่ื งจากมกี ารทำงานทีเ่ รยี งลำดับไปทล่ี ะลำดับ โดยไมม่ ที างเลอื ก หรอื การทำซ้ำใด ๆ 2. เลอื กกระทำ/เงอ่ื นไข (Selection/Condition) คอื การเขียนผงั งานในลักษณะการนำ ขอ้ มูลไปเปรยี บเทยี บเพือ่ เลอื กกระทำ หากเปรียบเทียบแลว้ ขอ้ มลู เป็นจริงจะกระทำกระบวนการ หน่งึ หากเป็นเทจ็ จะกระทำกระบวนการหน่ึง แต่หากการเปรียบเทียบหรือเงือ่ นไขมีความซบั ซ้อน จำเป็นต้องใช้เงอ่ื นไขหลายชนั้ เพอื่ ใหค้ รอบคลุมการเปรียบเทียบ 3. ทำซำ้ (Loop) คือ การเขยี นผังงานในลกั ษณะทม่ี ีการทำกระบวนการซ้ำหลายคร้งั ขึ้นอยกู่ บั เงอ่ื นไขที่กำหนด
20 การเขียนอัลกอริทมึ ด้วยผังงาน หลกั การเขยี นผังงานจะอ้างองิ จากกระบวนการทางคอมพิวเตอร์ 3 กระบวนการ ไดแ้ ก่ การ รับข้อมูล (Input) การประมวลผล (Process) และการแสดงผลลพั ธ์ (Output) โดยการเขียนผังงาน ทีด่ คี วรมหี ลักการเขยี น ดงั น้ี - ใชส้ ัญลกั ษณท์ เ่ี ป็นสัญลักษณม์ าตรฐาน - เขียนทิศทางการทำงานจากบนลงล่าง หรือซ้ายไปขวา โดยมีหัวลกู ศรกำกับทศิ ทางเสมอ - จดุ เร่มิ ตน้ และจดุ สนิ้ สดุ ควรมีเพยี งจดุ เดยี ว - การเขียนคำอธิบายควรเขียนภายในภาพสัญลกั ษณ์ โดยใชข้ ้อความท่กี ระชับ ชัดเจน และ เข้าใจง่าย รับขอ้ มูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ (Input) (Process) (Output) ประโยชนข์ องผงั งาน 1. ทำให้เขา้ ใจ และแยกแยะปัญหาไดง้ ่าย (Problem define) 2. แสดงลำดบั การทำงาน (Step flowing) 3. หาขอ้ ผิดพลาดได้ง่าย (Easy to debug) 4. ทำความเขา้ ใจโปรแกรมได้งา่ ย (Easy to read) 5. ไมข่ ึน้ กับภาษาใดภาษาหนึง่ (Flexible language)
21 ตัวอยา่ ง อธิบายการคำนวณหาพนื้ ท่สี เ่ี หลี่ยม และแสดงผลลพั ธ์การคำนวณ ด้วยการใช้ผังงาน สูตรการคำนวณหาพื้นท่สี ีเ่ หลีย่ ม พนื้ ทส่ี เ่ี หล่ียม = ความกวา้ ง x ความยาว Area of a rectangle = Width x Length รหัสจำลอง ภาษาธรรมชาติ 1. START 1. เริม่ ต้นการทำงาน 2. INPUT width 2. นำเขา้ ข้อมลู ความกวา้ งของสี่เหล่ียม 3. INPUT length 3. นำเข้าข้อมูล ความยาวของสี่เหลี่ยม 4. COMPUTE Narea = Nwidth x Nlength 4. คำนวณ พ้นื ทส่ี เ่ี หลย่ี ม = ความกว้าง * ความยาว 5. OUTPUT area 5. แสดงผล พ้นื ทีส่ ่เี หลีย่ ม 6. STOP 6. จบการทำงาน ผงั งาน START INPUT INPUT Narea = Nwidth * Nlength Narea STOP
22 กจิ กรรมท่ี 5 เร่อื ง การเขียนอลั กอรทิ มึ ดว้ ยรหัสจำลอง คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขียนอัลกอริทึมด้วยรหัสจำลองทกี่ ำหนดใหถกู ตอ้ ง ……………เ…ขีย…น…อ…ลั …กอ…ร…ทิ …มึ …กา…ร…ต…รว…จ…ส…อบ…ผ…ล…ก…าร…เร…ยี …น…ใน…ร…าย…ว…ิช…าว…ทิ …ย…าศ…า…ส…ต…ร์ว…า่ …ผ่า…น…ห…รอื…ไ…ม…่ โ…ดย…ก…า…รร…บั …ค…า่ ช…่ือ…น…ัก…เร…ีย…นค…ะ…แ…น…น…สอ…บ…จ…า…กค…ะ…แ…น…นเ…ต…ม็ …10…0…ค…ะแ…น…น…ท…าง…แ…ป…น้ …พ…มิ พ…โ์…ด…ยค…ะ…แ…น…น…สอ…บ…ต…งั้…แ…ต…่ 5…0…ข…้นึ …ไ…ปจ…ะ…แ…ส…ดง…ผ…ล…วา่ …ส…อบ…ผ…า่ …น…ค…ะแ…น…น…ส…อบ…ไ…ม…ถ่ งึ…5…0…จะ…แ…ส…ดง…ผ…ล…วา่…ส…อ…บ…ไม…ผ่ …่าน…ด…้ว…ย…ภา…ษ…า…ธร…ร…ม…ชา…ต…ิรห…ัส…… …จ…ำล…อ…ง…แ…ล…ะผ…ัง…งา…น………………………………………………………………………………………………………………… ………..
23 แบบทดสอบหลงั เรียน เล่มที่ 1 เร่ือง การออกแบบและการเขยี นอัลกอริทึม คำชี้แจง ทำเครอื่ งหมาย ทับตวั อักษร ก ข ค หรอื ง ตรงกบั อักษรทีถ่ กู ทีส่ ุด 1. ข้อใดกล่าวถงึ ภาษาธรรมชาติ ก. INPUT color ข. ภาษาประดษิ ฐ์ ค. นำเข้าขอ้ มลู น้ำหนัก ง. ยคุ ของภาษาแอสเซมบลี 2. คำนวณ พนื้ ที่วงกลม = Tr” เปน็ การเขยี นอัลกอริทึมในรปู แบบใด ก. รหัสจำลอง ข. ภาษาธรรมชาติ ค. ภาษาต่างประเทศ ง. ภาษาคอมพิวเตอร์ 3. คำนวณผลตา่ งระหว่างจำนวนแรกและจำนวนท่ีสอง เขยี นอัลกอรทิ มึ ดว้ ยรหัสจำลองได้ ตรงกับขอ้ ใด ก. COMPUTE area = width x length ข. COMPUTE area = 0.5 x height x base ค. COMPUTE difference = number1 + number2 ง. COMPUTE difference = number 1 - number2 4. ข้อใดไม่ใชข่ ัน้ ตอนการแกป้ ญั หา ก. การแจ้งปัญหาใหผ้ ู้ดูแลตรวจสอบปรับปรุงระบบ ข. การวิเคราะหแ์ ละกำหนดรายละเอยี ดของปญั หา ค. การเลือกเครือ่ งมอื และออกแบบข้ันตอนวธิ กี ารแกป้ ัญหา ง. การดำเนินการแก้ปญั หา 5. ข้อใดกลา่ วถึงแนวคดิ เชิงนามธรรมไดถ้ ูกต้องทีส่ ุด ก. แนวคดิ ทใ่ี ช้แก้ปญั หาเฉพาะทางสังคมศาสตร์ ข. แนวคดิ ทใ่ี ชแ้ กป้ ัญหาเฉพาะโจทยป์ ญั หาทางคณติ ศาสตร์ ค. แนวคิดท่ไี ม่สามารถจบั ตอ้ งได้ และยากที่จะทำความเขา้ ใจ ง. แนวคิดท่ีแก้ปญั หาอย่างเป็นระบบ แยกแยะรายละเอียดความสำคญั ของปญั หา แตล่ ะประเด็น 6. ขอ้ ใดช่วยให้คอมพิวเตอรท์ ำงานไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และประมวลผลคำสัง่ ตามลำดับ ก. Ram ข. Rom ค. อัลกอรทิ มึ ง. การตดิ ตัง้ ไฟรว์ อลล์
24 7. การตรวจสอบผลรวมของน้ำหนกั ของผลไม้ 2 ชนิด มากกว่าหรอื เทา่ กับ 10 กิโลกรัม ซ่งึ เขียนอัลกอรทิ ึมด้วยรหัสจําลองได้ตรงกบั ขอ้ ใด ก. INPUT fruit1 ข. OUTPUT totalweight ค. IF total weight > = 10 THEN ง. COMPUTE totalweight = fruit1 + fruit2 8. ข้อใดไม่ใชป่ ระโยชนข์ องการเขียนผงั งาน ก. แยกแยะปญั หาไดง้ ่าย ข. ทาํ ความเขา้ ใจโปรแกรมไดง้ า่ ย ค. ไม่ค่อยมีขอ้ ผิดพลาด ง. แสดงลําดับข้นั ตอนการทํางานชดั เจน 9. การเขยี นผังงานจะตอ้ งอา้ งอิงจากกระบวนการทางคอมพวิ เตอร์ตรงตามขอ้ ใด ก. รับขอ้ มูล การประมวลผล การแสดงผลลพั ธ์ ข. การแสดงผลลัพธ์ รบั ข้อมูล การประมวลผล ค. การประมวลผล การแสดงผลลพั ธ์ รับข้อมูล ง. การนำข้อมูลเขา้ การประมวลผล การนำข้อมลู ออก 10. สัญลักษณน์ ีม้ ีความหมายตรงกับข้อใด ก. การเรมิ่ ต้น ข. การรับ – ส่งขอ้ มลู ค. การตัดสินใจ ง. การประมวลผล
25 ภาคผนวก
26 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ข้อ คำตอบ 1. ก 2. ง 3. ค 4. ข 5. ก 6. ง 7. ก 8. ข 9. ง 10. ค
27 เฉลยกิจกรรมที่ 1 เรอ่ื ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคำถามท่ีกำหนดใหถ้ ูกต้อง ขอ้ ที่ 1-3 1…. ใ…ห…น…กั …เร…ยี น…ส…ร…ุป…คว…า…ม…ห…มา…ย…ข…อง…แ…น…วค…ิด…เช…งิ …น…าม…ธ…ร…รม……มา…ใ…หเ…ข…าใ…จ…………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….….…………พ…………………จิ…………………า………ร…………ณ…………………………า…………ต…………………า………ม…………………ค…………ำ…………………ต………อ…………………บ…………ข…………………อ…………………ง………น…………………ัก…………เ………ร…………ยี…………………น…………………………โ…………ด…………………ย………ใ…………ห…………………อ้ ………ย…………………ู่ใ…………น…………………ด………ุล…………………ย…………พ…………………ิน…………………ิจ…………………ข………อ…………………ง…………ค…………………ร………ผู…………………สู้ …………อ…………………น………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…. 2. ใหนักเรียนพิจารณารูปตอ่ ไปน้ี และวิเคราะห์วาประเดน็ ใดเป็นลกั ษณะทัว่ ไป หรอื ลักษณะเฉพาะ ท่ที ำใหรูวารูปเหลานีจ้ ัดอยู่ในประเภทเดียวกนั ลักษณะท่ัวไป ลักษณะเฉพาะ พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน 3. ใหนักเรยี นสรปุ องคประกอบเชิงนามธรรมของรปู ภาพจากขอ 2 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………พ…จิ …าร…ณ…า…ต…าม…ค…ำ…ตอ…บ…ข…อ…งน…ัก…เร…ยี …น…โ…ด…ยใ…ห…้อย…ู่ใ…น…ดลุ…ย…พ…ิน…ิจ…ขอ…ง…ค…รผู…้สู …อ…น…………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..………………………………………………………………
28 คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาสถานการณ์ต่อไปน้ีว่ามีสง่ิ ใดเป็นขอ้ มูลท่จี ำเปน็ และไม่จำเป็นตอ่ การแก้ปัญหาและแสดงวธิ ีในการหาคำตอบ ข้อท่ี 4-5 4…….……ให……น้ ……กั ……เร……ีย……น……ลา……ก……เส……้น……ต……รง……ผ……า่ ……นจ……ุด……ท……กุ ……จุด……โ……ด……ยใ……ช……้จำ……น……ว……น……เส……้น……ท……ีล่ า……ก……น……อ้ ย……ท……ี่ส……ดุ ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….. พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน 5. มีสม้ 5 กิโลกรมั มอี ง่นุ 7 กโิ ลกรัม นำ้ มันงา 2 กิโลกรัม ชมพู่ 4 กโิ ลกรมั รวมมี ผลไม้ ท้งั หมด ก่กี โิ ลกรมั ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………พ…ิจ…าร…ณ…า…ต…าม…ค…ำ…ต…อบ…ข…อ…งน…ัก…เ…รีย…น…โ…ด…ยใ…ห…้อ…ยู่ใ…น…ด…ุลย…พ…ิน…จิ …ข…อง…ค…รผู…สู้ …อ…น……………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..………………………………………………………………
29 เฉลยกจิ กรรมที่ 2 เร่ือง อลั กอริทึมเบอื้ งต้น คำชแี้ จง ให้นักเรยี นตอบคำถามทกี่ ำหนดให้ถูกตอ้ ง 1….…อ…ลั ก…อ…ร…ทิ …ึมม…คี …ว…าม…เ…ก่ยี…ว…ข…้อ…งก…ับ…ค…อ…มพ…ิว…เต…อ…ร…์อย…า่ …ง…ไร………………………………………………………………… ………………………อ…ลั……ก……อ……ริท……มึ………เ…ป……็น……ว…ิธ…หี ……ร……อื …ข…ั้น……ต……อ……น……ว…ิธ…ีท……ด่ี ……ำ…เ…น……นิ ……ก…า…ร……ได……้ด……้ว……ย…เ…ค……ร่ือ……ง……จ…ัก…ร………เ…พ……่อื …ใ…ช……้ใ…น…ก……า……ร…แ…ก……ป้ ……ัญ……ห……า……โ…ด…ย……… เ……ป……็น…ก…ร……ะ……บ…ว…น……ก……า……รแ……ก……ป้ ……ญั ……ห……า…ท…ไ่ี……ม……ส่ …า…ม……า……รถ……อ……ธ…ิบ……า…ย……ข……ั้น…ต……อ…น……ท……ชี่ ……ัด……เจ……น……ได……้ ………………………………………………………………………………………………… ………………………อ…ลั……ก……อ……ริท……มึ………เ…ป……น็ ……ร…ะ…เ…บ……ีย…น……ว……ิธ…ีห……ร…อื ……ข……ั้น…ต……อ…น……ว……ธิ …ีท…ีด่……ำ……เน……นิ ……ก……า…ร…ไ……ด…ด้…้ว……ย……ค…อ……ม…พ……ิว……เต……อ……ร…์…เ…พ……อ่ื …ใ……ช…้ใ…น……ก……าร………………… แ……ก……้ป……ัญ….ห.…า…โด…ย…เ…ปน็…ก…ร…ะ…บว…น…ก…าร…แ…ก…ป้ …ัญ…ห…าท…่สี …า…มา…ร…ถ…อธ…บิ …า…ยข…นั้ …ต…อ…น…ท่ชี…ัด…เ…จน……มีข…้อ…ม…ูล…ท…ตี่ ้อ…ง…น…ำเ…ข…้า …….. แ…ล…ะ…ผ…ลล…ัพ…ธ…ท์ …ไี่ ด…้จ…าก…ก…า…รน…ำ…เข…้า…ข…อ้ ม…ูล…ร…ว…ม…ท…ั้งก…า…รด…ำ…เน…ิน…ก…าร…ต…า…มข…นั้ …ต…อ…น…แล…ะ…จ…าก…ข…้อ…ม…ลู ก…า…ร…นำ…เข…้า…น…้นั … ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …2………….……………แก……บ………าง่ร……………อเ……ข………อยี……1ก………น.……เ………ปอก……………ัล็นา……รก………3เอ……ข………รรีย……………ทิปูน……………มึแอ……มบ………ัลกี……บก………่ีร……อ………คูปร……………ือแิท……บ………กึ ……บด……………้ว………ย……………ภ……………า……ษ………า……………ธ……………รร……………ม……………ช……………าต……………ิ ………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………2.…ก…า…รเ…ขยี…น…อ…ัล…ก…อร…ิท…มึ …ด…้วย…ร…ห…ัสจ…ำ…ล…อง…………………………………………………………………………… ………………3.…ก…า…รเ…ขยี…น…อ…ลั …ก…อร…ิท…ึม…ด…้วย…ผ…ังง…า…น………………………………………………………………………….…….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3…. …ให…น้ …ัก…เร…ียน…บ…อ…ก…คุณ……สม…บ…ัต…ิข…อง…อ…ัล…ก…อร…ิท…มึ …ม…า …3…ข…อ้ ……..……………………………………………………………… ………………1.…ม…คี …ว…าม…ย…ืด…ห…ยุ่น…ใ…น…กา…ร…ใช…้ง…าน……………………………………………………………………………………… ………………2.…ใ…ช้เ…ว…ลา…ใ…นก…า…ร…พ…ฒั …นา…น…้อ…ย…ท…ส่ี ุด……เม…อ่ื …น…ำอ…ลั …ก…อร…ทิ …ึม…ไป…แ…ป…ล…งเ…ป…็นโ…ป…ร…แก…ร…ม…ภ…าษ…า…ค…อม…พ…วิ …เต…อ…ร์ ……แ……ล……้ว……จ……ะ3ต.……อ้ ง……ง่าใ……ยชต……้เ่อว……ลก……าานร……ท้อ……ำย……คทว……่ีสา……ุดม……เข……้า……ใจ…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….…….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
30 4. จากแผนท่ีต้นข้าว ตอ้ งการเดินทางจากจุดเร่มิ ต้นเพ่ือไปยังจดุ สนิ้ สุด ตน้ ขา้ วตอ้ งเดนิ ทางอยา่ งไร ได้บา้ ง (เดินทางโดยรถยนต์, เดินทางโดยรถฟ, เดินทางโดยการเดินเทา้ ) …………เด…ิน…ท…า…งโ…ด…ยร…ถ…ย…นต…์…อ…ัลก…อ…ร…ิท…ึมท…ี่ …1…ถ…น…น…A…เ…ลย้ี…ว…ข…วา……ถน…น…B……ต…รง…ไป…เ…รือ่…ย…ๆ……แล…้ว…เล…ยี้ …ว…ซา้…ย……… …ถน…น……E…ต…รง…ไป…เ…ร่อื…ย…ๆ……จ…นถ…ึง…จ…ุดห…ม…า…ย…อ…ัล…กอ…ร…ิท…ึม…ท…่ี 2…ถ…น…น…A……ตร…ง…ไป…เร…ือ่ …ย…ๆ…เ…ล…ี้ยว…ข…ว…า …ถ…นน……C…ต…ร…ง … …ไป…เ…รื่อ…ย…ๆ……แล…้ว…เ…ลี้ย…ว…ซ…า้ ย……ถน…น……B…แ…ละ…เ…ลี้ย…ว…ซ…า้ ย……ถน…น……E…ต…รง…ไป…เ…รื่อ…ย…ๆ……จน…ถ…ึง…จ…ดุ ห…ม…า…ย…อ…ัล…กอ…ร…ทิ …มึ …ที่… …3…ถ…น…น…A…ต…ร…งไ…ป…เร…ื่อ…ย…ๆ…แ…ล…ว้ เ…ล…้ียว…ข…ว…า …ถน…น……D…ต…ร…งไ…ป…เร…อ่ื ย……ๆ…แ…ล…ะเ…ล้ีย…ว…ซ…้าย……ถน…น……E…ต…รง…ไป…เ…รอ่ื…ย.…ๆ….. …จน…ถ…ึง…จ…ุดห…ม…า…ย…เด…นิ …ท…า…งโ…ด…ยร…ถ…ไฟ……อลั…ก…อ…ร…ิทมึ…ท…่ี …4………………………………………………………………………… ……………เด…ิน…เท…า้…จ…าก…จ…ุด…เร…ิม่ …ต…้นไ…ป…ย…ังส…ถ…าน…ีร…ถ…ไฟ…โ…ด…ยม…ตี …้น…ท…าง…ท…ีส่ …ถา…น…ีร…ถไ…ฟ…A……แล…ะ…ป…ล…าย…ท…า…งท…ส่ี …ถ…าน…ี…… …รถ…ไ…ฟ…B…แ…ล…ะ…เด…ิน…เท…า้ …ไป…ย…ัง…จุด…ห…ม…าย……เด…ิน…ท…าง…โด…ย…ก…า…รเ…ดิน..…เท…้า…อ…ัล…ก…อร…ิท…ึม…ท…่ี 5…เ…ด…ินเ…ท…้าต…า…ม…เส…้น…ท…าง……… …ถน…น…แ…บ…บ…อ…ัลก…อ…ร…ิท…มึ …1…,2…แ…ล…ะ…3………………………………..……………………………………………………………… 5. จากข้อ 3 หากตน้ ข้าวขบั รถยนตแ์ ละต้องใช้เวลาในการเดนิ ทางน้อยที่สดุ นักเรียนคดิ ว่าตน้ ขา้ วควร เดนิ ทางอย่างไร (กำหนดให้ต้นข้าวจะต้องหยดุ รถเพื่อรอสัญญาณฟจราจรทุกแยกอย่างน้อย 30 วนิ าที) …………ต…น้ …ขา้…ว…คว…า…ม…เล…ือ…กเ…ด…ิน…ท…าง…ด…ว้ ย…อ…ลั …กอ…ร…ิท…มึ …ท…ี่ 3…ค…ือ…ข…ับ…รถ…จ…าก…ถ…น…น…A……ตร…ง…ไป…เ…ร่อื …ย…ๆ…แ…ล…้ว…เล…ี้ย…ว…… …ขว…า…ถ…น…น…D……ตร…ง…ไป…เ…รอ่ื …ย…ๆ……แล…ะ…เล…ย้ี …ว…ซ้า…ย…ถ…น…น…E…ต…ร…ง…ไป…เร…ื่อ…ย…ๆ…จ…น…ถ…งึ จ…ุด…ห…ม…าย……เน…ื่อ…งจ…า…ก…หา…ก…ข…ับ…… …รถ…ต…า…มอ…ัล…ก…อ…รทิ…มึ …น…้ี จ…ะ…พ…บ…ส…ญั …ญ…าณ…ไ…ฟ…จ…รา…จ…รน…้อ…ย…ท…ี่ส…ุด…แ…ละ…เ…ปน็…ก…า…รห…ล…ีก…เล…ี่ย…ง…กา…ร…แ…ออ…ดั …ข…อ…ง …………… …กา…ร…จ…รา…จ…รร…อ…บ…วง…เว…ีย…น……………………………………………………………………………………………………….…….. …………ต…น้ …ข้า…ว…คว…า…ม…เล…ือ…กเ…ด…นิ …ท…าง…ด…้วย…อ…ลั …กอ…ร…ทิ …ึม…ท…ี่ 2…ถ…น…น…A……ตร…ง…ไป…เร…อื่ …ย…ๆ…เ…ล…้ยี ว…ข…ว…า…ถ…นน……C…ต…ร…ง …… …ไป…เร…่ือ…ย…ๆ…แ…ล…ว้ …เ…ลี้ย…ว…ซ…้าย……ถน…น……B…แ…ละ…เ…ลีย้…ว…ซ…้าย……ถน…น……E…ต…รง…ไป…เ…รือ่…ย…ๆ……จน…ถ…งึ …จุด…ห…ม…า…ย…เน…อ่ื …ง…จา…ก……… …ห…าก…ข…ับ…รถ…ต…า…มอ…ลั …ก…อ…ริท…มึ …น…ี้ จ…ะ…พ…บ…ส…ญั …ญ…าณ…ไ…ฟ…จ…รา…จ…รม…า…ก…ท…ี่สดุ……แ…ละ…เป…น็…ก…า…รห…ล…ีก…เล…ย่ี …งก…า…ร…แอ…อ…ดั …ข…อง…… …กา…ร…จ…รา…จ…รร…อ…บ…วง…เว…ีย…น……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….…….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
31 เฉลยกิจกรรมท่ี 3 เร่ือง อลั กอรทิ ึมเบอื้ งตน้ คำชี้แจง ให้นกั เรียนศึกษาใบงานดา้ นล่าง แล้วพจิ ารณาข้อความท่ีกำหนดให้ ……………ถ…ูก……ต……้อ…ง………………1.…ภ…า…ษ…าธ…ร…รม…ช…า…ติ…ค…อื …ร…ปู แ…บ…บ…ภ…า…ษา…ท…มี่ …น…ุษ…ยเ์…ข…า้ ใ…จ…แ…ล…ะใ…ช…้ใน…ก…าร…ส…่อื …ส…าร………………… ……………ถ……กู …ต……้อ……ง……………2.…ภ…า…ษ…าธ…ร…รม…ช…า…ติ…เช…น่ …ภ…า…ษ…าไ…ท…ย…ภ…า…ษ…าจ…นี …ภ…า…ษ…าอ…ัง…ก…ฤษ……ภ…าษ…า…ใบ…้……………………… ……………ถ……กู …ต……อ้ ……ง……………3.…ภ…า…ษา…ค…อ…มพ…ิว…เต…อ…ร…์ เป…น็…ภ…า…ษ…าท…ีม่ …น…ุษ…ย์ค…ดิ …ค…น้ …ข้ึน……เพ…ื่อ…ใช…้ใน…ก…าร…ต…ิด…ต่อ…ก…บั …ค…อม…พ…ิว…เต…อร…์ … …………………………ท…ำ…ให…ม้ …น…ุษ…ย…์สา…ม…า…รถ…ต…ดิ …ตอ่…ส…่ือ…ส…าร…ส…ั่งก…า…ร…กบั…ค…อ…ม…พ…ิวเ…ต…อร…ไ์ …ด้……………………………… ……………ถ…ูก….ต.…อ้ …ง…… 4. ภาษาคอมพิวเตอร์ คือ โปรแกรมหรือชุดคำสงั่ ทโ่ี ปรแกรมเมอรเ์ ขียน เพอื่ สั่งงาน รูปแบบและโครงสรา้ งของภาษา …………ผ…ิด……… 5. ภาษาคอมพิวเตอร์ แบง่ ออกเปน็ 4 ยุค ซึ่งพฒั นาการตามวิวัฒนาการของ คอมพวิ เตอร์ในแต่ละยคุ ………ถ…ูกต…อ้ …ง…… 6. ภาษาของคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเปน็ ยุคของภาษาเครือ่ ง ยุคของภาษาแอสเซมบลี ยุคของภาษาช้นั สงู ยุคของภาษาขนั้ สงู มาก และยคุ ของภาษาธรรมชาติ ………ถูก…ต…้อ…ง…… 7. ระดบั ของภาษาคอมพิวเตอร์แบง่ ไต้ออกเป็น 3 ระดบั คือ ภาษาระดับต่ำ ภาษา ระดบั กลาง และภาษาระดบั สงู …………ผ…ดิ ……… 8. ภาษาระดับสงู เปน็ ภาษาตับที่มนุษย์มีความเขา้ ใจยากที่สุด เหมาะสมสำหรับ การเขยี นโปรแกรมตดิ ต่อกบั ฮารด์ แวรโ์ ดยตรงและรวดเร็ว ไดแ้ ก่ภาษาเคร่ือง และภาษาแอสเซมบลีแบบและโครงสรา้ งของภาษา …………ผดิ…………9. ภาษาระดับกลาง เป็นภาษาท่ีเข้าใจงา่ ย มีการใช้คำสั่งเป็นภาษาอังกฤษ มี ความใกล้เคยี งกับภาษามนษุ ยม์ าก …………ผ…ิด………10. ภาษาระดับต่ำ เปน็ ภาษาท่ีมรี ูปแบบโครงสรา้ ง เป็นการนำข้อดีของภาษา ระดบั สูง และภาษาระดับต่ำมาพฒั นา ไม่นิยมนำมาใช้ในการทำงาน
32 เฉลยกจิ กรรมท่ี 4 เรื่อง การเขยี นอัลกอริทึมด้วยรหสั จำลอง คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนตอบคำถามทก่ี ำหนดให้ถูกต้อง 1….…ส…รุป…ค…ว…าม…ร…ู้เก…่ยี …ว…กับ…ร…ห…ัส…จำ…ล…อ…งม…า…พ…อเ…ข…า้ ใ…จ…………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………พ……จิ ……า…ร…ณ……า……ต……าม……ค……ำ……ต…อ…บ……ข……อ……ง…น…ัก……เ…ร…ยี……น……โ……ด……ย…ใ…ห……้อ…ย…ู่ใ……น……ด…ุล…ย……พ……ิน……จิ ……ข…อ…ง……ค……ร…ผู…้สู……อ……น……………………………………………………… …………………..………………………………………………………………………………………………………………………………….. …2.…ใ…หน้…กั…เ…รยี …น…อ…ธบิ…า…ย…เก…ณ…ฑ…ก์ …าร…เ…ขยี…น…ร…ห…สั จ…ำ…ล…อง…ม…า…ให…้เข…้า…ใจ…………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………พ……ิจ……าร……ณ……า……ต……าม……ค……ำ……ตอ……บ……ข……อ……งน……ัก……เร……ยี ……น……โ……ดย……ใ……ห……้อย……ู่ใ……น……ดุล……ย……พ……ิน……จิ ……ขอ……ง……ค……รูผ……้สู ……อ……น………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….….…………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………3.………………………ใ………………………หน้………………………กั………………………เ………………………รยี ………………………พน………………………ิจสา………………………รรุป………………………ณป………………………ารต………………………ะา………………………โมย………………………คช………………………นำต์ข………………………ออ………………………บง………………………รขห………………………อสัง………………………นจ………………………ำักล………………………เรอ………………………ยี ง………………………นม………………………าโใด………………………หย………………………้เใขห………………………า้ อ้ใ………………………จย………………….….ู่ใ…น………………………ด………………………ลุ ……………………ย………………………พ………………………ิน………………………ิจ…ข……………………อ………………………ง………………………ค…ร……………………ผู………………………ู้ส………………………อ…น…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……….….. …4…. …ให…น้ …กั …เร…ีย…นอ…ธ…บิ …าย…ก…า…รค…ำ…น…วณ……หา…พ…ืน้ …ท…ส่ี …ี่เห…ล…่ยี …มแ…ล…ะ…แส…ด…ง…ผ…ลล…ัพ…ธ…์ก…าร…ค…ำน…ว…ณ…ด…ว้ …ยก…า…รใ…ช…ร้ ห…ัส…จ…ำ…ลอ…ง ………………………………………………ม…………………า………พ…………………อ…………………เ…………ขพ………้า…………ิจใ………าจ…………………ร…………ณ…………………า…………………ต………า…………ม…………………ค…………………ำ………ต…………………อ…………บ…………………ข…………………อ………ง…………น…………………ัก…………………เ………ร…………ยี …………………น…………………โ………ด…………………ย…………ใ…………………ห………อ้…………………ย…………ู่ใ…………………น………ด…………………ลุ …………ย…………………พ…………………ิน…………………ิจ………ข…………………อ…………ง…………………ค………ร…………………ูผ…………ู้ส…………………อ………น……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………5……………….…………ใ………………………ห……………้น………………………กั………………………เ…………ร……………ีย…………น……………พ…………บ……………ิจ…………อา………………………กร……………ณป………………………รา…………ะ……………ต…………โา……………ย…………มช……………ค…………น……………ำ…………์ขต……………อ…………อ……………ง…………บร……………ข…………ห……………อัส…………ง……………จ…………นำ………………………ักล……………เอ…………ร……………งยี………………………น…………………………………โด………………………ย………………………ใ……………ห…………้อ………………………ย…………..…………ู่ใ……………น……………ด………………………ุล……………………ย……………พ………………………ิน………………………จิ ……………ข………………………อ……………………ง……………ค……………ร……………………ผู……………สู้………………………อ………………………น………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……….…….…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
33 เฉลยกจิ กรรมที่ 5 เรื่อง การเขยี นอัลกอริทมึ ด้วยรหัสจำลอง คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนเขยี นอัลกอริทมึ ด้วยรหัสจำลองที่กำหนดใหถกู ตอ้ ง ……………เ…ขยี…น…อ…ัล…กอ…ร…ิท…มึ …กา…ร…ต…รว…จ…ส…อบ…ผ…ล…ก…าร…เร…ีย…น…ใน…ร…าย…ว…ชิ …าว…ทิ …ย…าศ…า…ส…ต…ร์ว…า่ …ผ่า…น…ห…รือ…ไ…ม…่ โ…ดย…ก…า…รร…บั …ค…่า…ช่ือ…น…ัก…เร…ีย…น…ค…ะแ…น…น…ส…อ…บ…จา…ก…ค…ะแ…น…น…เต…็ม…1…0…0…ค…ะ…แน…น……ท…าง…แ…ป…้น…พ…ิมพ…์โ…ด…ย…คะ…แ…น…น…ส…อบ……ต…้ังแ…ต…่ 5…0 …ข…้ึน…ไป…จ…ะ…แ…สด…ง…ผ…ลว…่า…ส…อบ…ผ…่า…น…ค…ะแ…น…น…ส…อ…บ…ไม…่ถ…ึง5…0…จ…ะ…แส…ด…ง…ผ…ลว…่า…ส…อบ…ไ…ม…่ผ่า…น…ด…้ว…ยภ…า…ษ…า…ธร…ร…ม…ชา…ต…ิ …ร…ห…สั จ…ำ…ล…อง…แ…ล…ะ…ผ…งั ง…าน…………………………………………………………………………………………………………… ………..
34 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน แบบทดสอบหลังเรยี น ขอ้ คำตอบ 1. ข 2. ก 3. ง 4. ก 5. ง 6. ค 7. ง 8. ค 9. ก 10. ข
35 บรรณานกุ รม กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชว้ี ดั และหลักสตู รแกนกลาง กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษา ข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพชมุ นมุ สหกรณการเกษตรแหง ประเทศไทย จํากัด. โกสนั ต์ เทพสิทธทรากรณ.์ (2559). เทคโนโลยีสารสนเทศ. กรงุ เทพฯ : สำนกั พมิ พ์แมค็ . ครรชติ มาลยั วงศ์. (2559). พจนานกุ รมคอมพวิ เตอร์สำหรับเยาวชน. กรงุ เทพฯ : กองบริการส่อื สารสนเทศ ศนู ย์เทคโนโลยอี เิ ล็กทรอนิกส์และคอมพวิ เตอรแ์ หง่ ชาติ สำนักงานพฒั นา วิทายาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยสี ง่ิ แวดลอ้ ม, ม.ป.ป. จุฑาพร เรืองฤทธ.ิ์ (2559). คอมพิวเตอร์และระบบปฏบิ ตั ิการเบือ้ งตน้ . กรงุ เทพฯ : วงั อักษร. วชิราพร พ่มุ บานเยน็ .(2560). เทคโนโลยสี ารสนเทศและคอมพิวเตอร์. กรุงเทพฯ : ซเี อด็ ยูเคชั่น, วิโรจน์ ทวีปวรเดช. (2560). ความรู้เบื้องต้นกับคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ. กรุงเทพฯ : โปรวชิ น่ั , สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (2560). หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ ท่ี 1-2. กรงุ เทพฯ : สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
36
Search
Read the Text Version
- 1 - 43
Pages: