Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเขียนสะกดคำภาษาไทย

การเขียนสะกดคำภาษาไทย

Published by สุภรัตน์ เหล็กมา, 2020-10-10 12:53:37

Description: น.ส.สุภรัตน์ เหล็กมา 016 ค.บ.สาขาวิชาภาษาไทย

Search

Read the Text Version

หนังสื ออิเลก็ ทรอนิกส์ เรือง การเขียนสะกดคาํ ภาษาไทย

คํานาํ หนงั สอื อิเล็กทรอนกิ ส์ เรอื ง การเขยี นสะกดคํา ภาษาไทย มวี ถั ปุ ระสงค์เพอื สง่ เสรมิ ทักษะการ เขยี นสะกดคําหรอื การอ่านสะกดคําในภาษาไทย ใหถ้ กู ต้อง ภายในเล่มประกอบดว้ ย ความหมาย ของการสะกดคํา วธิ กี ารสะกดคํา หลักการ สะกดคํา ใชส้ ระในการเขยี นประวสิ รรชนยี ์ ใชส้ ระในการเขยี นไมป่ ระวสิ รรค์ชนยี ์ เหมาะสาํ หรบั นกั เรยี น นกั ศึกษา คณุ ครู เเละ บุคลากรทัวไป ผจู้ ดั ทําหวงั วา่ หนงั สอื อิเล็กทรอนกิ สเ์ ล่มนจี ะมปี ระโยชนเ์ เก่ผอู้ ่าน ทกุ ๆ ท่าน ผจู้ ดั ทํา

สารบัญ เรอื ง หนา้ ความหมายของการสะกดคํา ๑ วธิ กี ารสะกดคํา ๒ หลักการเขยี นสะกดคํา ๓ ใชส้ ระในการเขยี นประวสิ รรชนยี ์ ๔ ใชส้ ระในการเขยี นไมป่ ระวสิ รรชนยี ์ ๕

๑ ความหมายของการสะกดคํา การสะกดคํา หมายถึง การเขยี นคําทีมี พยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และการสง่ สาร ด้วยการเขยี น จะต้องเขยี นสะกดคําใหถ้ กู ต้องชดั เจนเพอื จะได้สอื สารใหเ้ ขา้ ใจกัน เชน่ การเขยี น คําพอ้ งเสยี ง น่า-หน้า สู้ –ซู่ คําแต่ละค่จู ะมเี สยี งเหมอื นกันแต่ เขยี นต่างกันและความหมายก็ต่างกันด้วย

๒ วธิ ีการสะกดคํา ๑. วธิ กี ารสะกดคําตามรูปคํา ๒. วธิ กี ารสะกดคําโดยสะกด แม่ ก กา ๓. วธิ สี ะกดคําทีมตี ัวสะกด ไมต่ รงตามมาตราตัวสะกด ๔. วธิ กี ารสะกดคําอักษรควบ ๕. วธิ กี ารสะกดคําอักษรนาํ

๓ หลักการเขยี นสะกดคํา ๑. ตังใจฟงคําทีครบู อกใหช้ ดั เจน โดยนกึ ถึง ความหมายของคําควบค่กู ันไปดว้ ย เพอื จะได้ เขยี นไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ๒. เขยี นตัวหนงั สอื ใหช้ ดั เจน อยา่ เขยี นตัวหนงั สอื เล่นหาง เขยี นใหล้ ายมอื สมาํ เสมอ ๓. เขยี นหนงั สอื ตามหลักตัวอักษรไทย วางเครอื งหมายสระและวรรณยุกต์ใหถ้ กู ที ๔. เวน้ ชอ่ งไฟ (เวน้ ระยะระหวา่ งตัวอักษร) ใหเ้ ท่ากัน ๕. เขยี นสะกดการนั ต์ ใหถ้ กู ต้องตาม พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒

ใชส้ ระในการเขยี น ๔ ประวสิ รรชนีย์ ๑) คําพยางค์เดยี วทีออกเสยี งสระอะใหป้ ระ วสิ รรชนยี ์ เชน่ กะ จะ นะ คะ ละ ๒) พยางค์ท้ายของคําเมอื ออกเสยี ง สระอะใหป้ ระวสิ รรชนยี ์ เชน่ ศิลปะ ธุระ โลหะ อิสระ อมตะ สรณะ หมิ ะ ลักษณะ อาสนะ แปะซะ ซาบะ ซากรุ ะ ฯลฯ ๓) คําเดมิ ทีเปนคําสองพยางค์ ต่อมาเกิด การกรอ่ นเสยี งหนา้ เปนเสยี งอะ ใหป้ ระ วสิ รรชนยี ์ เชน่ หมากพรา้ ว – มะพรา้ ว หมากมว่ ง – มะเขอื ๔) คําอัพภาสทีกรอ่ นมาจากคําซาํ และ มกั ใชใ้ นคําประพนั ธใ์ หป้ ระวสิ รรชนยี ์ เชน่ รกิ รกิ – ระรกิ แยม้ แยม้ – ยะแยม้ ๕) คําทีพยางค์หนา้ ออกเสยี ง กระ ประ ใหป้ ระวสิ รรชนยี ์ เชน่ กระษัย กระษาปณ์ กระเสยี ร กระหนก

ใชส้ ระในการเขยี น ๕ ไมป่ ระวสิ รรชนีย์ ๑) คําทีเปนพยญั ชนะโดด ออกเสยี งพยญั ชนะนนั ประสมกับสระอะ เชน่ ณ ทีมคี วามหมายวา่ ใน ทีออกเสยี งวา่ “นะ” เชน่ ณ กาลครงั หนงึ เปนต้น ๒) คําสองพยางค์ ทีพยางค์หนา้ ออกเสยี งกรอ่ น เหลือเพยี งเสยี งพยญั ชนะต้นประสมกับสระอะบาง คํา เชน่ อันหนงึ – อนงึ เปนต้น ๓) คําทีจากภาษาเขมรบางคํา เชน่ กบาล ขจี ฉบบั ถนน ผกา ผสม ลออ สงัด สดบั สนม ๔) คําทีแผลงมาจากคําพยางค์เดยี ว มพี ยางค์หนา้ ออกเสยี งเปนพยญั ชนะต้น ประสมกับสระอะ เชน่ เดมิ แผลงเปน เผดมิ ๕) คําภาษาบาลีสนั สกฤตทีออกเสยี ง พยญั ชนะต้นประสมกับสระอะ เชน่ กนก กษัตรยิ ์ นภา

อ้างอิง มยุรี วไิ ล.(๒๕๕๙).การเขยี นสะกดคําภาษาไทย. สบื ค้นเมอื ๙ ตลุ าคม ๒๕๖๓. จาก https://krukedthai3.wordpress.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook