Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Bee survey

Bee survey

Published by xiao xia, 2021-07-29 08:52:59

Description: เปิดโลกของผึ้งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

Search

Read the Text Version

B E E SURVEY สำ�รวจโลกของผึ้ง I N T E R E S T O I F N • G B E E ผึง้ มคี วามน่าสนใจมากกว่าทค่ี ณุ คิด! เรื่องราวที่จะกล่าวถึงวิถีชีวิต วงจรของผึ้ง รวมไปถึงสิ่งที่คุณไม่รู้มาก่อน

ค�ำ คนำ�ำ�นh�ำ หนงั สือเลม่ นเี้ ป็นส่วนหนง่ึ ของกีฏวิทยา ท�ำ เพื่อใหค้ วามรู้เรื่องวถิ ชี วี ิต ระบบการเป็นอยูข่ องผง้ึ และขอ้ มูลตา่ ง ๆ เก่ยี วกับตวั ของผงึ้ หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ ว่าหนงั สอื เลม่ นจี้ ะเปน็ ประโยชนส์ �ำ หรับผูท้ ีส่ นใจศึกษา หรือสนใจเร่อื งราวเหล่านี้

สารบญั 5 รู้จักกบั ผึ้ง - ลักษณะทัว่ ไปของผง้ึ - วงจรชีวิต - การแบง่ วรรณะของผึง้ - ภาษาของผงึ้ - พฤตกิ รรมภายในรงั - สายพนั ธุ์ผึง้ 8 อา้ งองิ 9 resume 3

4

ลกั ษณะทัว่ ไปของผง้ึ โดยทวั่ ไปผ้ึงมีอวัยวะแบ่งได้เปน็ 3 สว่ น คือสว่ นหัว ส่วนอก ส่วนทอ้ ง ผงึ้ มตี ารวมอยู่ 2 ตา ประกอบไปดว้ ยดวงตาเลก็ ๆ เปน็ พนั ตา เชือ่ มตอ่ กนั เปน็ แผง ท�ำ ใหม้ องเห็นไดร้ อบทศิ ผง้ึ ยงั มีตาเดี่ยว อยู่บนส่วนหัว ระหว่างตารวม ซง่ึ เปน็ จุดเล็กๆ อยู่ 3 จุดอยูห่ า่ งกันเป็นรปู สามเหล่ยี ม ซงึ่ ตาเดี่ยวนจี้ ะเปน็ สว่ นรบั รู้ใน เร่ืองของความเขม้ ของแสง ท�ำ ให้ผ้งึ สามารถแยกสีตา่ ง ๆ ของส่ิงของ ที่เห็นได้ หนวด เปน็ สว่ นประกอบขอ้ ต่อและปล้องหนวดขนาดเทา่ ๆ กัน จ�ำ นวน 10 ปล้อง ประกอบเป็นเส้นหนวด ซงึ่ จะท�ำ หนา้ ทร่ี ับความร้สู กึ ซงึ่ สามารถรับความรู้สกึ ได้ไวมาก วงจรชวี ติ ของผ้งึ มรี ะยะเจรญิ เติบโตดว้ ยกนั 4 ระยะ คอื ระยะไข่ ระยะตวั หนอน ระยะดักแด้ ระยะตวั โตเตม็ วัย ระยะไข่ ระยะที่เกดิ หลงั การผสมพนั ธเึฺ สร็จ โดยลกั ษณะของไข่จะมคี วามยาวประมาณ 0.5 ซม. หวั ท้ายมน มีลักษณะโคง้ งอเลก็ น้อย ระยะตัวหนอน เม่ือไข่ได้ 3 วัน จะฟักออกมาเป็นตัวหนอนขนาดเลก็ สขี าว นอนลอยอยู่บนอาหารที่กน้ หลอดรวง จะมีการลอกคราบทัง้ หมด 5 คร้งั ระยะดกั แด้ ดักแด้ในระยะแรกจะมีสขี าว เมือ่ มีอายุมากข้นึ จะค่อยๆ เป่ยี นเปน็ สีนา้ ตาล ระยะตัวโตเต็มวยั เม่ือดักแด้โตเตม็ ทีก่ ็จะใชก้ รามกดั ไขผง้ึ ท่ปี ดิ หลอดรวงออกมาเปน็ ตวั เตม็ วัย 5

วรรณะของผ้งึ วรรณะของผึ้งสามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 วรรณะดว้ ยกนั คอื นางพญา ( The queen ) สามารถแยกออกได้โดยง่าย เพราะผงึ้ นางพญาจะมีขนาดใหญ่ ปกี จะมีขนาดส้ันกวา่ ลำ�ตวั ผึ้งนางพญาจะมีเหล็กไน ซึ่งมีไว้ส�ำ หรับต่อส้กู บั นางพญาตัวอ่นื เทา่ นนั้ ไมเ่ หมือนผึ้ง งานท่ีใชเ้ หลก็ ไนไว้ท�ำ รา้ ยศตั รู ในรงั ผงึ้ นางพญาจะมีหนา้ ท่คี วบคุมรัง วางไข และเ่ ปน็ ผูผ้ สมพันธุ์ ผ้ึงตวั ผู้ ( The drone ) ผง้ึ ตัวผจู้ ะมีขนาดใหญแ่ ละตัวอ้วนกวา่ ผึ้งนางพญา มีความยาวนอ้ ย กวา่ ผึ้งนางพญา ผง้ึ ตัวผจู้ ะไม่มเี หลก็ ไน มลี ้นิ ท่สี นั้ ไว้ส�ำ หรับคอยรับอาหารจากผึ้งงาน หรอื ดดู กินน้ำ�หวานจากท่ี เกบ็ ไว้ในรวงเท่านนั้ ผึ้งตวั ผมู้ จี ะหนา้ ทีอ่ ยา่ งเดยี วคือผสมพันธผ์ุ ้งึ ผ้ึงตวั ผู้จะเจรญิ มาจากไข่ที่ไม่ได้รบั การผสม (Un-fertilized egg) ผ้งึ งาน ( The worker ) ผงึ้ งานเปน็ ผ้ึงที่มขี นาดเลก็ แต่มีจ�ำ นวนเยอะ ผงึ้ งานถอื กำ�เนิดจาก ไข่ที่ได้รับการผสมกับเชือ้ ตวั ผู้ (Fertilized egg) ผึง้ งานเปน็ เพศเมยี เช่นเดยี วกับผ้ึงนางพญา แตจ่ ะเป็นเพศเมีย ที่ไมส่ มบรู ณ์ คอื สว่ นของรังไขจ่ ะมีขนาดเล็กไม่สามารถสรา้ งไข่ได้ ยกเวน้ ในกรณที ี่รังผ้งึ รงั นี้เกดิ ขาดนางพญาข้ึน มากพ็ บว่า อาจมีผึง้ งานบางตวั สามารถวางไข่ได้ (Laying Worker) แต่ไข่ทว่ี างจะเป็นไข่ท่ีเป็นผงึ้ ตวั ผู้ ในแตล่ ะช่วงวยั ผงึ้ งานก็จะมีหนา้ ท่ี ท่ีแตกตา่ งกันไป 66

ภาษาของผึง้ ผึง้ จะใช้การสอ้ื สารโดยการเต้นรำ�เปน็ จังหวะ ส�ำ คญั อยู่ 2 แบบ คอื - การเตน้ รำ�แบบวงกลม (Round dance) - การเตน้ รำ�แบบส่ายทอ้ ง (Wag-tail dance) พฤติกรรมภายในรงั ผึ้ง การกระท�ำ ตา่ งๆทีเ่ กิดขึ้นภายในรังสามารถสรุปยอ่ ๆ มดี งั นี้ - การสรา้ งรวง (Comb Building) - การเลี้ยงดตู วั ออ่ น (Nursing) - การปอ้ นน้�ำ หวาน (Food Sharing) - การปอ้ งกนั รงั (Guard Duty) - การขโมยน�้ำ หวาน (Robbing) - การกระพอื ปกี (Fanning) สายพนั ธข์ุ องผง้ึ ในไทย ชนดิ ของผึง้ ท่ีพบในประเทศไทย จากขอ้ มูลของกรมส่งเสริมการเกษตรพบว่ามีอยู่ 5 ชนดิ 1. ผึง้ หลวง (Apis dorsata) 2. ผง้ึ มิ้ม (Apis florae F.) 3. ผึ้งโพรง (Apis cerana F.) 4. ผ้งึ มา้ ม (Apis andreniformis) 5. ผึง้ พนั ธุ์ (Apis mellifera F.) การแสวงหาแหล่งท่อี ยู่ใหม่ ผึง้ ส�ำ รวจ (Scout bees) ทม่ี ีจำ�นวนหลายร้อยตวั จะบนิ ออกจากทท่ี ีพ่ กั ชว่ั คราวออกไปในทิศทางต่างๆ กนั เพือ่ แสวงหาแหล่งทีอ่ ยู่ใหม่ เมื่อพบโพรงไมห้ รอื โพรงหนิ ท่พี อจะอยู่อาศยั ไดก้ ็จะเข้าไปสำ�รวจภายในวา่ น่าอยหู่ รือไม่ แล้วกจ็ ะกลบั มาเต้นร�ำ บอกขา่ วแก่กลมุ่ ผ้งึ การเต้นร�ำ ผ้ึงก็จะเตน้ ร�ำ แบบเดยี วกับการเต้นร�ำ บอกแหลง่ อาหาร 7

อา้ งอิง https://suwanfarmphueng.com/articles/kind-of-honey-bee/ http://www.agriman.doae.go.th/beegroup/bee3.htm https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E 0%B8%87 https://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/16964054/%E0%B8%9C%E 0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87 8

9

B E E SURVEY เปิดโลกของผง้ึ ทค่ี ุณยงั ไม่เคยรมู้ ากอ่ น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook