หลอดลมคอ (trachea) หลอดลมคอ (trachea)เป็นทอ่ กลวงมผี นงั แขง็ และหนาเพราะมกี ระดกู ออ่ นเรยี ง เป็นรปู เกอื กมา้ ทาํ ใหห้ ลอดลมคอไมแ่ ฟบและการทก'ี ระดกู ออ่ นของหลอดลมคอเป็นรปู เกอื ก มา้ ทาํ ใหห้ ลอดอาหาร ซง'ึ อยดู่ า้ นหลงั สามารถขยายขนาดไดเ้ มอ'ื มกี ารกลนื อาหารผา่ นหลอด อาหารลงสกู่ ระเพาะอาหาร https://sites.google.com/punyawat28290/_/rsrc/151803 6582156/xwaywakeiywkabkart=400&width=373 หลอดลมฝอย (bronchiole) Terminal bronchiole เป็นทอ่ ทแ'ี ยกออกจากหลอดลมแขนงมขี นาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 0.5-1 มลิ ลเิ มตร Respiratory bronchiole เป็นสว่ นแรกทม'ี กี ารแลกเปลย'ี นแก๊ส https://lh3.googleusercontent.com/proxy/QHVgXOpvy89UBivTYC ukCZy
ท่อลม (alveolar duct) ทอ่ ลม (alveolar duct) เป็นทอ่ สว่ นสดุ ทา้ ยของสว่ นทม'ี กี ารแลกเปลย'ี นแก๊ส (respiratory division)ซง'ึ จะไปสนFิ สดุ ทถ'ี ุงลม (alveolar sac) https://www.researchgate.net/profile/wwwtheres piratorysystemcom-and-cell.jpg ปอด(lung) https://anatomyfivelife.files.wordpress.com/2016/03/34. jpg ปอด(lung) เป็นอวยั วะทท'ี าํ หน้าทใ'ี นการหายใจ ปอดตงัF อยภู่ ายในทรวงอกมปี รมิ าตร ประมาณ 2 ใน3ของทรวงอก ปอดขวาจะสนัF กวา่ ปอดซา้ ย เน'ืองจากตบั ซง'ึ อยทู่ างดา้ น ลา่ งดนั ขนFึ มา
การหายใจเขา้ (inspiration)และการใจออก(expiration)รวมเรยี กวา่ การ หายใจ (breathing) โดยมกี ลา้ มเนFือกะบงั ลม กลา้ มเนFือยดึ กระดกู ซโ'ี ครงซโ'ี ครงดา้ น นอกและกลา้ มเนFือยดึ กระดกู ซโ'ี ครงดา้ นในเป็นตวั กระทาํ การหายใจทเ'ี กดิ จากกลา้ มเนFือ กระบงั ลมเรยี กวา่ การหายใจสว่ นทอ้ ง (abdominal breathing)ซง'ึ มคี วามสาํ คญั ประมาณ 75% https://anatomyfivelife.files.wordpress.com/2016/ 03/44.jpg ความจุของปอด ปรมิ าตรอากาศทห'ี ายใจเขา้ ปกติ แต่ละครงัF มปี ระมาณ 500 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ถา้ บงั คบั ให้มกี ารหายใจเข้าเต็มท'ีมากท'ีสุด จะมอี ากาศเข้าไปยงั ปอดเพม'ิ มากขFนึ จนอาจถึง 6,000 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ซง'ึ จะเหน็ วา่ เมอ'ื หายใจออกเตม็ ทแ'ี ลว้ ยงั คงมอี ากาศตกคา้ งในปอด ประมาณ 1,100 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร https://anatomyfivelife.files.wordpress.com/2016/03/53.jpg
การแลกเปล่ยี นแกส๊ ในรา่ งกาย 1.ทป'ี อดเป็นการแลกเปลย'ี นแก๊สระหวา่ งในถุงลมปอดกบั เสน้ เลอื ดฝอย โดยออกซเิ จนจากถุง ลมปอดจะแพรเ่ ขา้ สเู่ สน้ เลอื ดฝอยรอบ ๆถุงลมปอดและรวมตวั กบั ฮโี มโกลบนิ (haemoglobin; Hb) ทผ'ี วิ ของเมด็ เลอื ดแดงกลายเป็นออกซฮี โี มโกลบลิ (oxyhemoglobin; HbO2) 2.ทเ'ี นFือเยอ'ื ออกซฮี โี มโกลบนิ จะสลายใหอ้ อกซเิ จนและฮโี มโกลบนิ ออกซเิ จนจะแพรเ่ ขา้ สู่ เซลลท์ าํ ใหเ้ ซลลข์ องเนFือเยอ'ื ไดร้ บั ออกซเิ จน ในขณะทเ'ี นFือเยอ'ื รบั ออกซเิ จนนนัF คารบ์ อนไดออกไซดท์ เ'ี กดิ ขนFึ ในเซลลก์ จ็ ะแพรเ่ ขา้ เสน้ เลอื ด คารบ์ อนไดออกไซดส์ ว่ นใหญ่จะ ทาํ ปฏกิ ริ ยิ ากบั นFําในเซลลเ์ มด็ เลอื ดแดงเกดิ เป็นกรดคารบ์ อนิก(H2CO3) https://anatomyfivelife.files.wordpress.com/2016/03/63.jp g
ศนู ย์ควบคุมการสดู ลมหายใจ ศนู ยค์ วบคมุ การหายใจ (the respiratory centers) อยทู่ ส'ี มองสว่ นเมดลั ดาออบลองกาตา(medulla oblongata) โดยเป็นเซลลป์ ระสาทกระจายอยทู่ าง ดา้ นขา้ งทงัF สองขา้ ง ศนู ยน์ Fีจะมคี วามไวต่อปรมิ าณของแก๊ส https://anatomyfivelife.files.wordpress.com/2016/03/72.jpg
ศพั ท์ท้ายบท จมกู และปาก nose and mouth pharynx คอหอย trachea หลอดลมคอ หลอดลมฝอย bronchiole ทอ่ ลม alveolar duct ปอด lung อากาศเขา้ สรู่ า่ งกาย conducting division แลกเปลยDี นแก๊ส respiratory division การหายใจภายนอก external respiration
ร้หู รือไมว่ า่ ? การหายใจ (breathing) เป็นกระบวนการซง(ึ นําอากาศเขา้ หรอื ออกจากปอด สง(ิ มชี วี ติ ทต(ี อ้ งการ ออกซเิ จนตอ้ งการไปเพอ(ื ปลดปลอ่ ยพลงั งานผา่ น การหายใจระดบั เซลลใ์ นรปู เมแทบอลซิ มึ โมเลกุล พลงั งานสงู
อวัยวะที่สำคญั ในระบบหมนุ เวียนโลหติ เลือด เป็นเนFือเยอ'ื ชนิดหน'ึงทาํ หน้าท'ี ลาํ เลยี งสารอาหารต่างๆ ในรา่ งกาย ซง'ึ ประกอบดว้ ย นFํา◌้เลอื ด ทม'ี ลี กั ษณะเป็นของเหลวใส ไมม่ สี ี เมด็ เลอื ดสามารถแบง่ ออกเป็น 3 ชนิด คอื -เมด็ เลอื ดขาว เ◌็ป็นเมด็ เลอื ดขนาดเลก็ มากและเป็นเมด็ เลอื ดทม'ี ปี รมิ าณมากทส'ี ดุ ทาํ หน้าทข'ี นสง่ ก๊าซออ็ กซเิ จนจากปอดไปยงั เนFือเยอ'ื สว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย -เมด็ เลอื ดขาว มขี นาดใหญ่กวา่ เมด็ เลอื ดแดง ทาํ หน้าทท'ี าํ ลายเชอFื โรคทเ'ี ป็นอนั ตรายต่อ รา่ งกาย รวมทงัF สรา้ งภมู คิ มุ้ กนั โลก -เกลด็ เลอื ด ชว่ ยทาํ ใหเ้ ลอื ดแขง็ ตวั เพอ'ื ปิดปากแผล เมอ'ื เกดิ บาดแผลขนFึ https://www.leukaemiacare.org /wp- content/uploads/2017/01/redwhite.jpg
เสน้ เลอื ดและหลอดเลอื ด -เสน้ เลอื ดแดงทาํ หน้าทน'ี ําเลอื ดออกจากหวั ใจไปยงั เสน้ เลอื ดฝอย เพอ'ื นําไปเลยFี งสว่ น ต่าง ๆ ของรา่ งกาย -เสน้ เลอื ดดาํ ทาํ หน้าทน'ี ําเลอื ดกลบั สหู่ วั ใจ -เสน้ เลอื ดฝอย มหี น้าทน'ี ําเลอื ดจากหลอดเลอื ดแดงไปตามสว่ นต่าง ๆ หวั ใจ https://sites.google.com/site/rabbhilweiynle uxd หวั ใจหอ้ งบนขวา เป็นหอ้ งทร'ี บั เลอื ดเสยี หรอื เลอื ดดาํ จากทกุ สว่ นของรา่ งกาย เพอ'ื สง่ ตอ่ ให้ หวั ใจหอ้ งลา่ งขวา หวั ใจหอ้ งลา่ งขวา จะรบั เลอื ดจากหอ้ งบนขวาแลว้ สง่ เลอื ดไปฟอกทป'ี อด หวั ใจหอ้ งบนซา้ ย รบั เลอื ดดหี รอื เลอื ดแดงจากปอด เพอ'ื สง่ ต่อใหล้ า่ งซา้ ย หวั ใจหอ้ งลา่ งซา้ ย รบั เลอื ดดจี ากหอ้ งบนซา้ ย แลว้ สง่ ไปเลยFี งสว่ นต่าง ๆ ทวั' รา่ งกาย
http://taem.weebly.com/uploads/1/3/9/5/13955663/6009236.jpg?4 49
ระบบหมุนเวยี นเลอื ด http://taem.weebly.com/uploads/1/3/9/5/13955663/3763058_orig.jpg
ซ่ึงเราสามารถสรปุ เปน็ หน้าท่ีของระบบหมนุ เวยี นโลหติ ได้ ดงั นี้ 1. นําอาหารและสารอน'ื ๆ รวมทงัF ออกซเิ จนไปเลยFี งเซลลข์ องรา่ งกาย 2. นําคารบ์ อนไดออกไซดไ์ ปขบั ออกทางปอดเพอ'ื แลกเปลย'ี นก๊าซออกซเิ จนกลบั มา ใช้ 3. ขบั ถ่ายนFําของเสยี ซง'ึ เกดิ จากเมตาโบลซิ มึ เพอ'ื ขบั ออกภายนอกรา่ งกาย 4. ชว่ ยควบคมุ และรกั ษาดลุ ของสารนFําภายในรา่ งกาย 5. ควบคมุ อุณหภมู ขิ องรา่ งกายใหเ้ ป็นปกติ https://quizizz.com/media/resource/gs/quizizz- media/quizzes/71a89a7c-1db8-4bd3-a47d-a928cda006fc
คำศัพทท์ ้ายบท เซลลเ์ มด็ เลอื ดแดง Red blood cell เซลลเ์ มด็ เลอื ดขาว White blood cell เกลด็ เลอื ดหรอื แผน่ เลอื ด Blood platelet แกรนูโลไซต์ granulocytes อะแกรนูโลไซต์ agranulocyte ภาวะโลหติ จาง Anemia ผนงั หวั ใจชนัD นอก Epicardium ผนงั หวั ใจชนัD กลาง Myocardium ผนงั หวั ใจชนัD ใน Endocardium
หวั ใจจะถกู แบง่ ออกเป็นสหJี อ้ ง (heart chambers) และทศิ ทางการไหลของเลอื ดเขา้ สแู่ ต่ละหอ้ งจะถกู ควบคมุ โดยลนDิ หวั ใจ (cardiac valves) ทาํ ใหเ้ ลอื ดไมไ่ หล ยอ้ นเมอJื มกี ารบบี ตวั และคลายตวั ในทนJี Dีจะกลา่ วถงึ หอ้ ง ของหวั ใจตามลาํ ดบั ของการไหลของเลอื ดภายในหวั ใจ รู้หรือไม่ว่า?
ระบบประสาทเป็นระบบที่ควบคมุ การทำหน้าที่ของ สว่ นตา่ งๆ ของทุกระบบในร่างกายให้ทำงานประสาน สมั พันธ์กัน เซลลป์ ระสาท (nerve cell) ร่างกายคนมเี ซลลป์ ระสาท (nerve cell) หรือ นิวรอน ( neuron) จาํ นวนมาก ทาํ หน้าทเCี กยCี วกับการ รับรู้และการตอบสนอง https://sites.google.com/site/thenervoussystembcnpy/_/rsrc.jp g
เซลลป์ ระสาทประกอบด้วย เดนไดรต์ (dendrite) แอกซอน (axon) เป็นสว่ นของตวั เซลล์ ทย,ี น,ื ออกมาทาํ หน้าทส,ี ง่ เป็นสว่ นของตวั เซลล์ ทย,ี น,ื ออกมารบั กระแสประสาท กระแสประสาทจากตวั เซลล์ ออกไปยงั อวยั วะ จากภายนอกเขา้ สตู่ วั เซลล์ แขนงของเดนไดรต์ มี ตอบสนองจะถกู หมุ้ ดว้ ย เย่อื ไมอลี นิ (myelin ตงั2 แต่หน,ึงถงึ หลายแขนง และมกั มขี นาดสนั2 ภายใน sheath) ซง,ึ เป็นสว่ นหน,ึงของเซลล์ชวันน์ เดนไดรตม์ นี ิสสล์ บอดี (nissl body) (schwann cell) https://sites.google.com/site/yuwada36/_/rsrc/146886446518 3/bth-thi-1-chiwit-satw/1-khorngsrang-laea-hnathi-khxng-rabb- xwaywa/neu3.PNG
ชนิดของเซลลป์ ระสาท Unipolar neuron Multipolar neuron Bipolar neuron เซลล์ประสาทขั้วเดยี ว ( Unipolar neuron ) มใี ยประสาทออกจากตวั เซลลเ์ พยี งเสน้ เดยี วแลว้ แยกออกเป็น 2 กงิ' กงิ' หน'ึงเป็น เดนไดรต์ อกี กงิ' หน'ึงเป็นแอกซอน https://anatomyfivelife.files.wordpress.com/2016/03/1.jpg
เซลลป์ ระสาทชนดิ สองข้ัว (Bipolar neuron) มใี ยประสาทออกจากตวั เซลล์ 2เสน้ ยาวเทา่ ๆ กนั หรอื ใกลเ้ คยี งกนั เสน้ หน'ึง เป็นเดนไดรต์ อกี เสน้ หน'ึงเป็นแอกซอน https://anatomyfivelife.files.wordpress.com/2016/03/2 .jpg ( Multipolar neuron ) เซลล์ประสาทหลายขว้ั มใี ยออกจากตวั เซลลห์ ลายเสน้ ประกอบดว้ ยเดนไดรตแ์ ตกแขนงสนัF ๆ มากมาย และ แอกซอนยาวเพยี งเสน้ เดยี ว https://anatomyfivelife.files.wordpress.com/2016 /03/3.jpg
หนา้ ท่ีของเซลลป์ ระสาท Sensory neuron Association neuron Motor neuron
ไซแนปส์ (Synapse) เซลลป์ ระสาทไมไ่ ดอ้ ยเู่ ดย'ี วๆ แต่จะสานต่อกนั เป็นเครอื ขา่ ย ปลายแอกซอนของ เซลลป์ ระสาท อาจแตกออกเป็นกง'ิ กา้ นหลายอนั แลว้ ไปอยชู่ ดิ กบั ตวั เซลลป์ ระสาทหรอื สว่ นของ เดนไดรต์ หน้าที่ของไซแนปส์ ทาํ ใหค้ าํ สงั' หรอื กระแสประสาทเดนิ ทาง ถ่ายทอดเป็นทางเดยี วเทา่ นนัF ทาํ หน้าทข'ี ยายสญั ญาณ (amplifying action) โดยมกี ารรวมกนั (summation) ทาํ หน้าทเ'ี ป็นศนู ยป์ ระสานงาน (intregative action) ของคาํ สงั' ต่างๆมี ทงัF การเรง่ https://anatomyfivelife.files.wordpress.com/2016/03/5.jpg
central nervous system เป็นโครงสรา้ งทใ'ี หญ่ทส'ี ดุ ของระบบประสาทประกอบดว้ ยสมองและไขสนั หลงั ทาํ หน้าทร'ี ว่ มกบั ระบบประสาทนอกสว่ นกลาง (peripheral nervous system) ใน การควบคมุ พฤตกิ รรม Brain Brain is an important organ in many animals according to anatomical characteristics Also known as the encephalon, it is the central part of the nervous system. The brain is responsible for controlling and directing movement, behavior, and maintaining balance within the body. http://www.okmd.or.th/upload/articles/know-our-brains.jpg
central nervous system สมองส่วนหน้า (Forebrain) Cerebrum Thalamus Hypothalamus สมองสว่ นกลาง (Midbrain) สมองส่วนท้าย (Hindbrain) Pons Medulla Cerebellum https://anatomyfivelife.files.wordpress.com/2016/03/rrr.jpg?w= 566&h=415
spinal cord Spinal cord is an organ that looks like a long, thin tube which has nerve tissue as an important component, including neurons and glia cells, or cells that support nerve cells The spinal cord is the elongated part of the brain. The brain and spinal cord combine to form the central nervous system. nervous system) https://anatomyfivelife.files.wordpress.com/2016/03/tt.jpg?w=495& h=373
peripheral nervous system ประสาทสมอง (Cranial nerve) มี 12 คู่ ทอดออกมาจากพนFื ลา่ งของสมองผา่ นรตู ่างๆทพ'ี นFื ของกะโหลกศรี ษะ ประสาทสมองบางคจู่ ะทาํ หน้าทร'ี บั ความรสู้ กึ (Sensory nerve) บางคทู่ าํ หน้าท'ี เกย'ี วกบั การเคลอ'ื นไหว (Motor nerve) บางคจู่ ะทาํ หน้าทท'ี งัF รบั ความรสู้ กึ และทาํ การ เคลอ'ื นไหว (Mixed nerve) Cranial nerve 1 olfactory nerve It carries the olfactory nerve from the olfactory membrane to the olfactory bulb. It is then sent to the olfactory bulb. olfactory lobe of the cerebral cortex cranial nerve 2 optic nerve It directs visual sensations from the retina of the eye to the optic lobe and then to the occipital lobe of the cerebellum again. cranial nerves 3 oculomotor nerve, which is the nerve that runs from the midbrain to the four muscles of the eyeball that moves the eyeball around the eyeball and also feeds the muscles that keep the eye open. This causes the iris to dim or widen. and to the ciliary muscle of the eye as well cranial nerves 4 trochlea nerve is the nerve that directs the muscles of the eyeball, causing the eyeball to look down and look towards the corner of the eye.
peripheral nervous system เส้นประสาทสมองคู่ท่ี 5 เสน้ ประสาท trigerminal nerve แบง่ ออกเป็น 3 แขนง ทาํ หน้าทร'ี บั ความรสู้ กึ จากใบหน้า ลนFิ ฟัน ปากเหงอื ก เสน้ ประสาทสมองคูท่ ี่ 6 เสน้ ประสาท abducens nerve เป็นเสน้ ประสาทสงั' การออกจากพอนสไ์ ปยงั กลา้ มเนFือลกู ตาทาํ ใหเ้ กดิ การชาํ เลอื ง เสน้ ประสาทสมองค่ทู ่ี 7 เสน้ ประสาท facial nerve เป็นเสน้ ประสาททส'ี งั' การไป ยงั กลา้ มเนFือหน้าทาํ ใหเ้ กดิ สหี น้าต่างๆกนั เส้นประสาทสมองคทู่ ่ี 8 เสน้ ประสาท auditoty nerve เสน้ ประสาทรบั ความรสู้ กึ แยกเป็น 2 แขนง แขนงหน'ึงจากคอเคลยี ของหู อกี แขนงหน'ึงนําความรสู้ กึ เกย'ี วกบั การทรงตวั จากเซมเิ ซอรค์ วิ ลารแ์ คแนล เขา้ สซู่ รี บี รมั เส้นประสาทสมองคูท่ ่ี 9 เสน้ ประสาท (glossopharyngeal nerve) เป็น ประสาทรบั ความรสู้ กึ จากชอ่ งคอ เชน่ รอ้ น เยน็ และรบั รสจากโคนลนFิ เขา้ สซู่ รี บี รมั เส้นประสาทสมองคทู่ ่ี 10 เสน้ ประสาท vegus nerve เป็นเสน้ ประสาทรบั ความรสู้ กึ จากลาํ คอ กลอ่ งเสยี ง ชอ่ งอก ชอ่ งทอ้ ง เส้นประสาทสมองค่ทู ่ี 11 เสน้ ประสาท accessory nerve เป็นเสน้ ประสาทสงั' การจากเมดลั ลาออบลองกาตาและไขสนั หลงั ไปยงั กลา้ มเนFือคอ เสน้ ประสาทสมองคทู่ ี่ 12 เสน้ ประสาท hypoglossal nerve เป็นเสน้ ประสาทสงั' การไปยงั กลา้ มเนFือลนFิ ทาํ ใหเ้ กดิ การเคลอ'ื นไหวของลนFิ
ประสาทไขสันหลงั เสน้ ประสาททแ'ี ยกออกจากไขสนั หลงั มที งัF หมด 31 คู่ เป็นเสน้ ประสาทประสม (mixed never)แบง่ ออกเป็นทงัF หมด 5บรเิ วณ เสน้ ประสาทบรเิ วณคอ (cervical never) 8 คู่ เสน้ ประสาทบรเิ วณอก (thoracal never) 12 คู่ เสน้ ประสาทบรเิ วณเอว (lumbar never) 5 คู่ เสน้ ประสาทบรเิ วณกระเบนเหน็บ (sacral never) 5 คู่ เสน้ ประสาทบรเิ วณกน้ กบ (coccygeal never) 1 คู่ https://sites.google.com/site/4243thawanhathai/_/rsrc/15054 53732094/khisanhlang /i10-13- spinal.jpg?height=281&width=320
Autonomic Nervous System เป็นระบบประสาททป'ี ระกอบไปดว้ ยเซลล์ประสาทจํานวนมาก แต่เซลล์ประสาท เหลา่ นFีจะทาํ งานเป็นอสิ ระไมอ่ ยภู่ ายใตอ้ าํ นาจจติ ใจ (involuntary) หรอื การควบคมุ ของระบบประสาทสว่ นกลาง ระบบประสาทอัตโนมัติ Sympathetic nervous System parasympathetic nervous system https://sites.google.com/site/nattiya2579/_/rsrc/14728523476 43/2-9-rabb-prasath-xatnomati-autonomic-nervous-
Differences in the sympathetic and parasympathetic nervous system parasympathetic sympathetic มา่ นตาหรล?ี ง มา่ นตาขยาย ต่อมนQําตาหยดุ การทาํ งาน ต่อมนQําตาทาํ งาน นQําลายไหลปกติ นQําลายและเหงอ?ื ถกู ผลติ ออกมามาก หวั ใจเตน้ ปกติ หวั ใจเตน้ เรว็ ปอดหด / ขยายปกติ ปอดหด / ขยายเพม?ิ ขนQึ ตบั และกระเพาะอาหารทาํ งานมากขนQึ ตบั และกระเพาะทาํ งานน้อยลง ลาํ ไสท้ าํ งานมากขนQึ ฮอรโ์ มนอะดรนี าลนี ถกู หลงั? ออกมา กระเพาะปัสสาวะหดตวั ลาํ ไสท้ าํ งานน้อยลง อวยั วะเพศแขง็ ตวั กระเพาะปัสสาวะขยายตวั ถุงอณั ฑะขยายตวั ทนั ที
เซลล์ประสาททีม่ ี dendrite ตดิ ตอ่ กบั อวัยวะรับความรูส้ กึ คือ รู้หรือไมว่ า่ ?
คำศัพทท์ า้ ยบท Nervous System เซลล์ประสาท nerve cell นวิ รอน neuron เดนไดรต์ dendrite แอกซอน axon เย่ือไมอลี นิ myelin sheath เซลล์ชวนั น์ schwann cell เซลลป์ ระสาทขวั้ เดียว Unipolar neuron เซลลป์ ระสาทชนดิ สองข้ัว Bipolar neuron เซลลป์ ระสาทหลายขวั้ Multipolar neuron เซลล์ประสาทรับความรูส้ กึ Sensory neuron
อา้ งอิง https://anatomyfivelife.wordpress.com/2016/03/24/%e0%b8 %ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0% b8%a3%e0%b8%81-2/
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133