รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 รหัสวิชา ท 5๑๑๐๑ เร่อื ง การแต่งกาพยย์ านี ๑๑ โดย นางสาวสุชาดา เพง็ เทีย่ ง ครผู ู้สอน โรงเรียนบ้านเชียงคาน “วจิ ิตรวทิ ยา” สานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาเลยเขต ๑
กาพย์ยานี ๑๑ กาพยย์ านี ๑๑ เป็นบทร้อยกรองชนดิ หนง่ึ นิยมในการแต่งพรรณนาเรือ่ งตา่ ง ๆ ซ่ึงมีข้อกาหนดในการแต่ง ดังน้ี จานวนคา วรรคหน้ามี 5 คา วรรคหลงั มี 6 คา (คาในบทรอ้ ยกรองหมายถึง 1 พยางค์ เช่น “ประวตั ”ิ ถอื วา่ เปน็ 2 คา) กาพย์ยานี 11 บทหน่ึงมี 4 วรรค ๒ วรรค เรยี ก 1 บาท ดงั น้นั กาพยย์ านี 11 บทหนึ่งมี 2 บาท
การสัมผัส กาพย์ยานี ๑๑ บทหนึง่ มี 4 วรรค กาหนดการสัมผัสไวด้ งั นี้ - คาสดุ ทา้ ยของวรรคท่ี 1 สัมผสั กบั คาที่ 3 ของวรรคท่ี 2 - คาสุดทา้ ยของวรรคท่ี 2 สมั ผสั กับคาสดุ ทา้ ยของวรรคที่ 3 - คาสุดทา้ ยของวรรคที่ 3 อาจจะสมั ผสั กบั คาที่ 3 ของวรรคที่ 4 หรอื ไม่มี สมั ผสั ก็ได้ - หากแตง่ กาพย์ยานี 11 มากกว่า 1 บท จะต้องมีสมั ผัสระหว่างบท โดยคาสดุ ทา้ ยของวรรคท่ี 4 ในบทแรกจะสัมผสั กบั คาสุดทา้ ยของวรรคท่ี 2 ในบทตอ่ ไป
แผนผังกาพยย์ านี ๑๑ 1 บท สมั ผสั ระหวา่ งบท 1 บท
ตัวอยา่ งกาพย์ยานี ๑๑ 1 บท ระฆังดังหง่างหงา่ ง ฆ้องใหญก่ ว้างครางหึ่งห่งึ กลองหนังดังตงึ ตึง ตีกระดงึ ดงั กริ่งกรง่ิ
ตวั อยา่ งกาพยย์ านี ๑๑ คนดียังไม่สิ้น จากแผ่นดินถน่ิ สยาม พระเจา้ ตากเรอื งนาม ทาสงครามก้ชู าตไิ ทย
ตัวอยา่ งกาพย์ยานี ๑๑ สม้ ตาอาหารไทย กินคู่ไก่กับขา้ วเหนยี ว ปรงุ รสหวานเคม็ เปรยี้ ว ใช้ผกั เขียวเปน็ เครอ่ื งเคยี ง
การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง การอ่านบทร้อยกรอง โดยทั่วไปแบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ อ่านแบบธรรมดา อ่านแบบเจรจา และอ่านแบบทานองเสนาะ ทั้งนี้เพ่ือให้เข้าใจการอ่านบทร้อยกรอง อย่างลกึ ซ้ึง 1. อ่านแบบธรรมดา คอื การอา่ นออกเสียงเหมือนกับการอา่ นบทรอ้ ยแกว้ ทั่วไป แต่จะมีการเวน้ วรรค และเน้นจังหวะกสี่ ัมผัสตามบทรอ้ ยกรองแตล่ ะประเภท ซึง่ แตกตา่ ง กนั 2. อ่านแบบทานองเสนาะ คือ การอา่ นให้มีสาเนยี งเสียงท่ีสูง ต่า หนัก เบา ยาว ส้ัน เอื้อนเสียงและเน้นสัมผัสให้ชัดเจน ไพเราะ เสียงเป็นกังวาน แสดงอารมณ์ตาม เน้อื หาของบทรอ้ ยกรอง
ข้อปฏิบตั ใิ นการอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง 1. รู้ลักษณะและจงั หวะการอา่ นของบทรอ้ ยกรองแตล่ ะชนิด 2. ออกเสยี งคา้ ให้ถูกต้องชัดเจนตามอักขรวธิ ี โดยเฉพาะตวั ร ล และคา้ ควบกล้า เพ่ือ ไม่ให้ความหมายคลาดเคล่อื น เช่น รวยระรนิ เล่อื นลอย พลับพลึง ฯลฯ 3. รวู้ ิธีอ่าน ดังนี 3.1) เน้นเสียงค้าท่ีเป็นสัมผัสบังคับให้ชัดเจนและต้องทอดเสียงค้าสัมผัส ระหวา่ งบทให้ยาวกวา่ ปรกติ 3.2) ออกเสียงให้สูงและดังก้องในค้าท่ีมีเสียงวรรณยุกต์จัตวา เช่น ไหว – สมยั
ข้อปฏิบัติในการอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง 3.3) ไม่เออื นเสยี งคา้ ที่มสี ระเสยี งสันและเสยี งเบา เชน่ เลาะ แหล่ง สัก อับ 3.4) อ่านเสยี งเบาและรวบเสียงค้าที่มี 2 พยางค์ ในคา้ ทีฉ่ นั ทลกั ษณบ์ งั คับ ใหอ้ อกเสียงเพียง 1 พยางค์ โดยให้เสยี งตกท่พี ยางค์หลงั เช่น ส้าราญ ชโลม สนิท 3.5) ต้องเออื นเสยี งและทอดจังหวะใหช้ า้ ลงเมื่อจบบท 4. เข้าใจความหมายของค้าศัพท์ เพื่อถอดความและจับใจความส้าคญั ได้
หลกั สาคญั ในการอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง 1. อา่ นออกเสยี งใหช้ ดั เจนและถูกตอ้ งตามอักขรวธิ ี 2. อ่านเวน้ จงั หวะวรรคตอนให้ถกู ตอ้ งตามลกั ษณะของบทรอ้ ยกรองแตล่ ะประเภท รจู้ ักทอดจังหวะ เอื้อนเสยี ง หรอื หลบเสยี ง 3. นา้ เสยี งชัดเจน นมุ่ นวลนา่ ฟงั เสยี งไม่เบาหรอื ดงั มากจนเกนิ ไป 4. เนน้ เสียงแสดงอารมณใ์ หเ้ ปน็ ไปตามเนอื้ เรือ่ ง เช่น รกั รา่ เริง โกรธ เศร้า โดยใช้ นา้ เสยี งใหเ้ ขา้ กับสถานการณน์ ้นั ๆ
การอ่านกาพยย์ านี๑๑ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 ในแต่ละครง้ั ควรศกึ ษา บทรอ้ ยกรองนั้นกอ่ นเพอื่ ให้สามารถอ่านได้ถูกต้อง ดงั นี้ 1. หาคาศพั ทย์ ากในบทรอ้ ยกรอง ต้องศึกษาคาอา่ นและความหมายใหเ้ ขา้ ใจกอ่ น 2. สงั เกตรูปแบบของบทร้อยกรอง ตอ้ งศึกษาประเภทของบทร้อยกรอง จานวนคาใน วรรค 3. แบง่ จังหวะการอา่ น ตอ้ งศึกษาจงั หวะการอา่ นของบทร้อยกรองประเภทนนั้ ๆ เพราะบทรอ้ ยกรอง ถา้ มี 5 คา ให้แบ่งเปน็ 2/3 ถ้ามี 6 คา ใหอ้ า่ นเปน็ 3/3 จึงจะลงตัว
เครื่องหมายกากับจังหวะในการอ่านบทรอ้ ยกรอง เครอ่ื งหมายทับ / ใช้กากับจังหวะหยุดเสยี งอา่ นภายในวรรค เครื่องหมายทบั // ใชก้ ากบั จงั หวะหยดุ เสยี งอา่ นเม่อื จบวรรค เปน็ ชว่ งยาวกวา่ จงั หวะเสริม
ตวั อย่างการแบ่งจงั หวะการอ่านกาพย์ยานี 11 กาพย์ยา / นลี านา // สิบเอด็ คา / จาอยา่ คลาย // วรรคหน้า / หา้ คาหมาย // วรรคหลังหก / ยกแสดง // ไมส่ าคัญ / อยา่ ระแวง // ครุ/ ลหุน้ัน // ใหถ้ ูกต้อง /ตามวิธ/ี / สมั ผัส / ต้องจัดแจง // (หลกั ภาษาไทย : กาชยั ทองหลอ่ )
ตวั อย่างการแบง่ จังหวะการอ่านกาพย์ยานี 11 วิชา/เหมอื นสินคา้ // อันมคี ่า/อยเู่ มืองไกล// ต้องยาก/ลาบากไป// จงึ จะได้/สนิ คา้ มา// จงตงั้ /เอากายเจ้า// เปน็ สาเภา/อันโสภา// ความเพยี ร/เปน็ โยธา// แขนซ้ายขวา/เปน็ เสาใบ// นิ้วเป็น/สายระยาง// สองเท้าตา่ ง/สมอใหญ/่ / ปากเปน็ /นายงานไป// อชั ฌาสยั /เปน็ เสบียง// สติ/เปน็ หางเสอื // ถอื ทา้ ยเรือ/ไว้ให้เทย่ี ง// ถอื ไว/้ อย่าใหเ้ อียง// ตัดแลน่ เล่ียง/ข้ามคงคา//
ตัวอย่างการแบง่ จังหวะการอา่ นกาพย์ยานี 11 ปญั ญา/เปน็ กลอ้ งแกว้ // ส่องดูแถว/แนวหนิ ผา// เจ้าจง/เอาหตู า// เป็นลา้ ตา้ /ฟงั ดลู ม// ข้ีเกียจ/คอื ปลาร้าย// จะทาลาย/ใหเ้ รอื จม// เอาใจ/เปน็ ปนื คม// ยิงระดม/ให้จมไป// จึงจะได/้ สนิ ค้ามา// คอื วชิ า/อันพสิ มัย// จงหมน่ั /มนั่ หมายใจ// อย่าได้คร้าน/การวิชา// จากหนงั สอื วรรณคดลี านาช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5 หนา้ 43
ประโยชน์ของการอ่านกาพย์ยานี ๑๑ 1. ชว่ ยให้ผอู้ ่านเขา้ ถึงความงามของบทร้อยกรอง 2. ชว่ ยให้จดจาบทรอ้ ยกรองได้แมน่ ยามากข้นึ 3. ช่วยกลอ่ มเกลาจติ ใจใหเ้ ป็นคนอ่อนโยน
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: