2. แสง

แสงและการถ่ายภาพ 2.1 แสงกบั การมองเห็น 2.2 แสงกบั การถา่ ยภาพ

2.1 แสงกบั การมองเห็น

ตาของคนเราน้ันมองเห็นแสงเป็ นสีขาว *Visible light+\" หากในความเป็ นจริงมันมีหลายสีซ่อนอยู่ อย่างที่เราเคยได้เห็น ปรากฏการณ์รุง้ กินน้ํา ซึ่งก็คือสีที่ซ่อนอยู่ภายในแสงสีขาวซ่ึงตาของเรา มองเห็นจากแสงอาทิตย์ โดยแถบของสีรุง้ หรือสีที่ซ่อนอยู่น้ันเรียกว่าส เป็ กตรมั (Spectrum)

วตั ถสุ แี ดงจะสะทอ้ น ในตัวของแสงสีขาวที่ตาเรามองเห็นน้ัน จะ แตส่ ีแดงกลบั ออกมา ประกอบดว้ ย Spectrum ของแสงหลกั ๆอยู่ 3 สี วตั ถุสีดาํ จะไม่สะทอ้ น ดว้ ยกันหรือเรียกว่า แม่สีของแสง คือสีแดง (Red) สใี ดออกมา สีเขียว (Green) และสีน้ําเงิน (Blue) หรือที่เรา วตั ถุสีขาวจะสะทอ้ น เรียกคุน้ เคยว่า RGB นัน่ เอง และการท่ีแสงตก ทุกสีกลบั ออกมา กระทบกับวัตถุจนมองเห็นเป็ นสีต่างๆ มีความ แ ต ก ต่ า ง กัน อ อ ก ไ ป น้ั น เ พ ร า ะ มัน เ กิ ด จ า ก คุณสมบตั ิเฉพาะของตวั วตั ถุน้ันๆในการสะทอ้ นแสง สีใดใหก้ ลบั ออกมาและดูดเอาแสงสีใดไว้

Color Temperature อณุ หภมู ิสี(ของแสง) ในสภาพของแต่ละชว่ งเวลา เชา้ สาย บา่ ย เยน็ จะปรากฏค่าสี ของแสงหรืออุณหภูมิสีแตกต่างกนั ออกไป ซึ่งจะส่งผลต่อภาพถ่าย ที่ถูกบนั ทึก โดยอุณหภมู ขิ องสี สามารถวดั ตามหลกั วทิ ยาศาสตร์ ไดด้ ว้ ยหน่วยวดั องศาเคลวนิ (Kelvin) กล่าวคือ แสงมคี วาม แตกต่างกนั เมื่อวดั ตามอุณหภูมิสีต้งั แต่ 1000K ถึง 10000K โดยแสงท่ีมีอุณหภมู ิตาํ่ จะใหส้ ีอุน่ (ปรากฏสีแดง/เหลืองมาก) ขณะท่ีแสงมอี ุณหภมู ิสงู กลบั ใหส้ ีเยน็ (ปรากฏสีฟ้ามาก)

อุณหภมู ิสขี องแสง ชนิดของแหลง่ กาํ เนิดแสง แสดงสใี ดเมื่อมอง ดว้ ยตา (Kelvin) เปลา่ แสงเทียนไข 1000-2000 K แสงจากหลอดมีไสห้ รือทงั สเตน สีแดง 2500-3000 K แสงจากดวงอาทิตยข์ ้ ึนหรือตก สีแดงสม้ 3000-4000 K แสงจากหลอดไฟฟลอู อเรสเซนต์ สีสม้ อมเหลือง 4000-5000 K แสงไฟแฟลช สีเหลืองอมเขยี ว/ขาว 5000-5500 K แสงตอนเที่ยงวนั สีขาว 5000-6500 K แสงแดดตอนกลางวนั ท่ีฟ้าปิ ด มเี มฆมาก สีขาว 6500-7500 K สีอมฟ้า 8000-10000 K แสงแดดบริเวณร่มเงาของตน้ ไมห้ รือชายคา สีฟ้า

แสดงอณุ หภมู ิสี ในแตล่ ะช่วงเวลา

White Balance ไวบาลานซ์

การไวทบ์ าลานซ์ เพ่ือสรา้ งสมดุลของแสงสีขาว หรือทาํ ใหอ้ ุณหภมู ิแสงในแต่ละช่วงวนั หรือแสงที่เกิดจากแสง ประดิษฐ์ ซ่ึงมีความแตกต่างกนั มีสภาพแสงท่ีปรากฏบน ภาพถ่ายถูกตอ้ ง หรือตามความตอ้ งการ

ปรบั อตั โนมตั ิ แกแ้ สงตอนกลางวนั แกแ้ สงในร่มไมห้ รือร่มเงา แกแ้ สงคร้ ืมฟ้าคร้ ืมฝน ชายคาตอนกลางวนั แกแ้ สงแฟลช แกแ้ สงหลอด แกแ้ สงจากหลอดไส้ ฟลอู อเรสเซนต์

“เปล่ียนเพ่ือส่ ิงท่ีดีกว่า” Daylight ใหส้ ที ส่ี มจริง Shade ใหส้ เี หลอื งทอง แตก่ ็ดนู ่าสนใจ Cloudy ใหส้ อี มเหลอื ง เลก็ นอ้ ยเป็ นธรรมชาติ

Auto White Balance ไม่ใช่สิ่งท่ีถูกตอ้ งเสมอ Auto White Balance Cloudy Preset

ถ่ายภาพ2.2 แสงกบั การ

อารมณแ์ สง เชา้ -สาย -บ่าย -เย็น- มืดคา่ํ

ทิศทางแสง ในทิศทางแสงที่ต่างกัน จะทาํ ใหอ้ ารมณ์ของภาพน้ัน ต่างกันไปดว้ ย ถึงแมจ้ ะถ่ายภาพจากวัตถุเดียวกันก็ตาม ดังน้ันเร่ืองของทิศทางแสงเป็ นสิ่งท่ีคุณไม่ควรมองขา้ ม โดยทิศทางแสงแบ่งออกเป็ น 3 ทิศทางกวา้ งๆ คือ แสง หนา้ , แสงหลงั และแสงขา้ ง

แสงหนา้ ( Front Light) แสงจะเขา้ มาทางดา้ นหนา้ ของวตั ถุ หรือในทิศทางเดียวกบั กลอ้ ง แสง ลกั ษณะน้ ีจะทาํ ใหเ้ ราเห็น รายละเอียดของวตั ถไุ ดช้ ดั เจน แต่ ขอ้ ควรระวงั ในบา้ งครง้ั ภาพจะไม่มี เงา ดแู ลว้ แบนเรียบ ขาดมิตคิ วาม ลึก ไม่น่าสนใจ

ในทิศทางแสงดา้ นหนา้ หากเป็ นการ ถ่ายในร่ม ในอาคารโดยแสงผ่านเขา้ มา ทางประตูหรือหนา้ ต่าง ทาํ ใหเ้ กิดแสงท่ี นุ่มนวล และยงั ส่งผลฉากหลังมืดดาํ ทาํ ใหว้ ัตถหุ ลัก(เด็ก)โดดเด่น



แสงหลงั (Back Light) แสงจะเขา้ มาจากดา้ นหลงั ของวตั ถุ อยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกับกล้อง ลกั ษณะน้ ีเราจะไดภ้ าพออกมาเป็ นเงา ดํ า วั ต ถุ แ บ บ ทึ บ แ ส ง ต า ม ศัพท์เทคนิคเรียกว่า การถ่ายภาพ ยอ้ นแสง (Silhouette) ถือเป็ นเทคนิค งานสรา้ งสรรคศ์ ิลปะการถ่ายภาพอีก ชนิดหนึ่ง

ภาพน้ีถ่ายยอ้ นแสงกับดวงอาทิตย์โดยตรง ในช่วงเวลาเชา้ ขณะท่ีมีไอนา้ํ ลอยข้ึนเหนือปก คลุมสรา้ งความแปลกตา และเลือกชดเชย แสง เพ่ือไม่ใหว้ ตั ถโุ ดยรวมของภาพมืดดาํ มาก นกั ภาพน้ีจึงดมู ีเร่อื งราวและความน่าสนใจ





ก า ร ถ่ า ย ภ า พ ด ้ว ย แ ส ง ห ลั ง ท่ี น อ ก จ า ก ถ่าย ภาพ ให้วัตถุหลั ก เป็ นเง ามื ด แล้ว (Silhouette) หากการถา่ ยภาพดว้ ยแสงหลังน้ี ยงั สามารถถ่ายภาพบุคคลท่ีน่าสนใจ ดว้ ย การเกิดประกายรศั มีแสง(Rim Light)







แสงขา้ ง (Side Light) แสงจะเขา้ มาทางดา้ นขา้ งของวัตถุ มีแหล่งกาํ เนิดแสงทาํ มุมกบั หนา้ กลอ้ ง ทางดา้ นขาวหรือซา้ ย (45องศา) โดย ดา้ นท่ีวตั ถุโดนแสงจะเห็นรายละเอียด ชดั เจน ดา้ นท่ีไม่ถูกแสงจะเป็ นเงามืด ถา้ เป็ นช่วงแสงสว่างมากจะทาํ ใหเ้ กิด ความเปรยี บตา่ งแสงสูง (Contrast) แต่ ท ํา ใ ห ้ภ า พ ดู มี มิ ติ ค ว า ม ลึ ก ม า ก ก ว่ า ทิศทางแสง 2 แบบก่อนหนา้ น้ ี

shadow highlight









ระบบวดั แสงกลอ้ ง •เฉพาะจดุ (Spot Metering) •เฉลีย่ หนกั กลางภาพ (Center-Weighted Average Metering) •เฉลยี่ ท้งั ภาพ (Metrix Metering,Evaluative Metering)

รเะฉบบพวดั แาสงะจุด สิ่งที่ควรรู:้ 1.กลอ้ งจะวดั แสงพ้ ืนท่ีจุดเล็กๆเพียง 1-3 % ภาพ 2.กลอ้ งจะวดั แสงเพียงจุดเดียวบนภาพโดยไมส่ นใจ จุดอ่ืนๆบนภาพ 3.ใหค้ า่ ตวั เลขคา่ แสงท่ีแน่นอน เมื่อวิเคราะหป์ รบั ชดเชยแสงตามคา่ เท่ากลาง 18% 4.ระบบวดั แสงน้ ีใชง้ านไดด้ ีกบั สภาพแสงซบั ซอ้ น



ระบบวดั แสงเฉล่ีย หนักกลางภาพ ส่ิงท่ีควรรู:้ 1.กลอ้ งจะวดั แสงบริเวณพ้ ืนท่ีกลาง ภาพเป็ นหลกั ท่ีประมาณ 70 % 2.เหมาะกบั การถ่ายภาพท่ีวตั ถุหลกั อยตู่ รงกลางภาพ 3.ไมเ่ หมาะกบั การถ่ายภาพยอ้ นแสง



ท้งั ภาพระบบวดั แสงเฉลี่ย สิ่งท่ีควรรู:้ 1.ใหค้ วามสาํ คญั พ้ ืนที่วดั แสง ต้งั แต่กลางภาพ ฉากหนา้ ฉาก หลงั 2.มกั เป็ นระบบที่เป็ นค่าเร่ิมตน้ และใชม้ ากที่สุด 3.เหมาะกบั การถ่ายภาพทุก ชนิดและรวมถึงภาพยอ้ นแสง





เคร่อื งวดั แสงกลอ้ งเสมือนคนตาบอดสี ! “ทาํ ทุกอย่างใหเ้ ป็ นสีเทากลาง”









ถา้ ยงั งง อยมู่ ีหลกั จาํ งา่ ยๆ ครบั แบง่ สีออกเป็ นโทน 3 โทนดว้ ยกนั คือ โทนสวา่ ง ( Hilight ) = สีขาว, เหลืองอ่อน, ชมพ,ู ฟ้า โทนกลาง ( Midtone ) = สีเทา, สม้ , แดง, เขียวใบไม้ โทนมืด ( Shadow ) = สีดาํ , เขยี วเขม้ , น้ําตาลไหม,้ มว่ ง