Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore GD58201-W3-หมู่ 5 (E-book Info วิธีการสอน)

GD58201-W3-หมู่ 5 (E-book Info วิธีการสอน)

Published by technoamp, 2022-03-12 16:14:09

Description: GD58201-W3-หมู่ 5 (E-book Info วิธีการสอน)

Search

Read the Text Version

ผสู้ อนนำเสนอ ผเู้ รียนเล่นเกม ผสู้ อน เพื่อให้ผเู้ รยี นเกิด เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมี กำรเรยี นรทู้ ี่เหมำะ ควำมรคู้ วำม เกม ช้แี จง ตำมกตกิ ำ ประเมนิ ผล กบั ศตวรรษท่ี 21 เข้ำใจในบทเรยี น กำรเรียนรู้ และสำมำรนำไป วิธีกำรเล่น และ ของผ้เู รียน เพ่ือให้ผูเ้ รยี นได้ ประยกุ ต์ใชไ้ ด้ พฒั นำทกั ษะโดยยดึ กตกิ ำกำรเล่น ผสู้ อนและผู้เรยี นอภปิ รำย เพือ่ ให้ผเู้ รยี นเป็นศูนยก์ ลำง หลัก 4C (GBL) โดยเปลย่ี นกำรเรียนรจู้ ำกกำร เกย่ี วกบั ผลกำรเลน่ และวิธกี ำร ฟังเป็นกำรเรยี นรูผ้ ำ่ นกำรเล่น และฝกึ ปฏิบัติด้วยตนเอง หรอื พฤติกรรมกำรเลน่ ของ ผเู้ รียน เทคนคิ ในกำรใช้วธิ สี อนโดนใชเ้ กม ใหม้ ปี ระสิทธภิ ำพ 1.การเลือกและนาเสนอเกม 2.การชแ้ี จงวธิ กี ารเลน่ และกตกิ าการเล่น 3. การเลน่ เกม 4.การอภปิ รายหลังการเล่น

1. ผสู้ อนเตรียมเน้ือสาระที่จะบรรยาย ข้นั ตอนสาํ คญั 1)การใชป้ ัญหาเป็นส่ิงเรา้ 2)การใชก้ ารทดสอบก่อน 2. ผสู้ อนบรรยาย (พดู บอก เล่า อธิบาย) เน้ือหา ของการสอน เรยี นและหลงั เรยี น สาระท่ีตอ้ งการใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้ 3)การใชส้ ่ือ 3. ผสู้ อนเปิ ดโอกาสใหผ้ เู้ รียนซกั ถาม และ การบรรยาย ประกอบ เช่นใช้ ประเมินผลการเรียนรู้ของผเู้ รียน แผ่นใส ภาพ การสอนแบบบรรยาย สไลด์ องคป์ ระกอบสาํ คญั 5)การใชก้ ิจกรรม ของวิธีสอน ประกอบการบรรยาย การอภปิ รายซกั ถาม 6)การยกตวั อยา่ ง และประเมนิ ผลการ ประกอบการอธิบาย เรยี นรูข้ องผเู้ รยี น 1. มีเน้ือหาสาระ หรือขอ้ ความรู้ที่ตอ้ งการใหผ้ เู้ รียนได้ เรียนรู้ ผบู้ รรยายควรสรุปสาระสาํ คญั ของการบรรยายและควรเปิ ดโอกาส 2. มีการบรรยาย (พูด บอก เล่า อธิบาย) ใหผ้ ฟู้ ังซกั ถามหรืออภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น ต่อจากน้นั ควร 3. มีผลการเรียนรู้ของผเู้ รียนที่เกิดจากการบรรยาย มีการทดสอบการเรียนรู้ของผเู้ รียนในเรื่องท่ีบรรยายดว้ ยวิธีการต่าง ๆ เช่น การสุ่มถามผเู้ รียน หรือการใหท้ าํ แบบทดสอบ

พฒั นา การระดมสมอง การเนน้ ปัญหา/ การแสดง ศกั ยภาพการ โครงงาน/ บทบาทสมมติ กรณีศกึ ษา คิดการ การใชเ้ กม แกป้ ญั หา การแลกเปลียน การตงั คาํ ถาม ความคิดและ Active สะทอ้ นความคิด Learning นาย เจยี ไฮ่ หวงั รหสั นกั ศึกษา 647190507 ทมี า : หน่วยศกึ ษานิเทศก.์(2562). แนวทางการนิเทศ เพอื พฒั นาและ สง่ เสรมิ การจดั การเรยี นรูเ้ ชิงรกุ หน่วยศึกษานิเทศก์ สาํ นกั งาน คณะกรรมการการศึกษาขนั พนื ฐาน (Active Learning) ตามนโยบายลด เวลาเรยี น เพมิ เวลารู.้ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั พนื ฐาน. กระทรวงศกึ ษาธิการ

ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) Flipped Classroom เป็นการจัดการเรียนการสอน ขั้นตอนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ที่สวนทางกับสิ่งที่เป็นอยู่ปัจจุบันโดยให้นักเรียนศึกษา ความรู้ผ่านอินเตอร์เน็ตนอกห้องเรียน นอกเวลาเรียน ขั้นที่ 1 คุณครูออกแบบแผน ขั้นที่ 2 เตรียมวิดีโอการสอน ขั้นที่ 3 คุณครูแชร์วิดีโอการสอน ส่วนในห้องเรียนจะเป็นการจัดกิจกรรม นำการบ้านมา การสอน กำหนดวัตถุประสงค์ คุณครูอาจบันทึกการสอนของ ส่งให้กับนักเรียน และอธิบายว่า ทำในห้องเรียนแทน การสอน การเลือกใช้สื่อการสอน ตัวเอง หรือใช้บริการจากวิดีโอ เนื้อหาในวิดีโอจะนำมาพูดคุยกัน กิจกรรมเสริม ที่เหมาะสมกับวัย การสอนที่มีเนื้อหาของบทเรียน ในห้องเรียน ห้องเรียนปกติ ผู้เรียน กับห้องเรียน และบริบท ครบตามตัวชี้วัด ของโรงเรียน เรียนรู้ในห้องเรียน ทำการบ้านที่บ้าน สงสัยไม่มีใครให้ซักถาม ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยน เพื่อสนับสนุนการ ขั้นที่ 5 แบ่งกลุ่ม เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ ขั้นที่ 6 รวมกลุ่มกันอีกครั้ง เพื่อ สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน คุณครูเปิด ตามที่วางแผนไว้ คุณครูแบ่งกลุ่มเพื่อ นำเสนอผลงานกลุ่ม เปิดเวที ห้องเรียนกลับด้าน โอกาสให้เด็ก ๆ ได้ร่วมพูดคุย แลก ให้นักเรียนได้ร่วมกันทำงาน ในหัวข้อ ให้เพื่อน ๆ ร่วมกันแสดงความ เปลี่ยน และซักถาม จากเนื้อหาที่ได้ ที่ครูมอบหมาย หรือช่วยกันเลือก คิดเห็น และซักถาม ศึกษามาแล้วในวิดีโอ เพื่อให้เกิดทักษะ หัวข้อในการทำงานเพื่อให้เกิดทักษะ การคิดวิเคราะห์ และการสื่อสาร การคิด สร้างสรรค์ และการทำงาน ร่วมกัน ศึกษาบทเรียนออนไลน์ ทำแบบฝึกหัดที่โรงเรียน ที่มา : ศูนย์นวัตกรรมการเรียนการสอนมหาวิทยาลัยขอนแก่น. (2563). การเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ก่อนเข้าเรียน เมื่อสงสัยสามารถซักถามได้ (Flipped Classroom). เข้าถึงได้จาก https://ltic.kku.ac.th/home/2020/02/25/flipped-classroom/ นายวิรัช เจริญสุข เลขที่ 8 รหัสนักศึกษา 647190508

วิธีสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง (Simulation) มีผู้สอนและผู้เรียน ผู้สอนเตรียมสถานการณ์จำลอง มีสถานการณ์ ข้อมูล บทบาทและกติกา ที่สะท้อนความเป็นจริง ผู้สอนนำเสนอสถานการณ์จำลอง บทบาท ข้อมูล ผู้เล่นในสถานการณ์มีปฏิสัมพันธ์กันหรือมีปฏิสัมพันธ์ คัญ กับปัจจัยต่าง ๆ ในสถานการณ์นั้น งค์ประกอบสำ และกติกาการเล่น มีผลการเรียนรู้ของผู้เรียน Learning นตอนสำคั ขั้ ผู้สอนประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน มีการอภิปรายเกี่ยวกับสถานการณ์ ข้อมูล อ ผู้เรียนเล่นตามกติกาที่กำหนด และกติกาของสถานการณ์ ญ ผู้สอนและผู้เรียนสรุปการเรียนรู้ วิธีการเล่น พฤติกรรมการเล่น ที่ได้รับจากการเล่น และผลการเล่น เพื่อการเรียนรู้ ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับสถานการณ์ การตัดสินใจส่งผลต่อผู้เล่นในลักษณะเดียวกันกับ ข้อมูล และกติกาของสถานการณ์ วิธีการเล่น ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์จริง พฤติกรรมการเล่น และผลการเล่น ผู้เล่นหรือผู้สวมบทบาทมีการใช้ข้อมูลที่ให้ในการตัดสินใจ ผู้เรียน เลือกบทบาทที่จะเล่น หรือผู้สอนกำหนดบทบาทให้ผู้เรียน จัดทำโดย นายวิทวัส รักดี 647190509 หมู่ 5 รุ่น 23

ทฤษฎีการเรียนการสอนแบบประสบการณ์ Experiential Learning Theory (ELT) “การเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experiential Experiencing Learning) คือกระบวนการสร้างความรู้ ทักษะ และ เจตคติด้วยการนำเอา ประสบการณ์เดิมของผู้เรียน จัดการเรียนรู้ให้ มาบูรณาการเพื่อสร้างการเรียนรู้ใหม่ ๆ ขึ้น”  ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่าน การนำตัวเองเข้าไปอยู่ในประสบการณ์ หรือ ประสบการณ์ เช่น สถานการณ์ใหม่ หรือ การตีความประสบการณ์ สาธิตการทำของเล่น ที่เกิดขึ้นมาใหม่ (Concrete Experience)  Acting ELT Reflecting เมื่อเราได้รับประสบการณ์ใหม่ จะทำให้เกิดความไม่ สอดคล้องกันระหว่างประสบการณ์และความเข้าใจ ในขั้นนี้ ผู้เรียนจะเปลี่ยน ตั้งคำถามในทุกๆ เป็นการลองสะท้อน ลองทบทวนให้เกิดการตกผลึกความคิด ความรู้ความเข้าใจ การเรียนรู้เพื่อสะท้อน ความรู้สึก และอารมณ์ โดยอาศัยวิธีการตั้งคำถาม ผ่านการทำซ้ำอีกครั้ง (Reflective Observation of the New Experience) หรือสามารถนำเอา •ความคิด •อารมณ์ การสะท้อนมักก่อให้เกิดแนวคิดใหม่ หรือ การ ไปใช้ได้ •ความรู้สึก ดัดแปลงแนวคิดเชิงนามธรรมที่มีอยู่ ซึ่งหมายความว่า ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองแล้ว Thinking (Abstract Conceptualization) คิดวิเคราะห์-สังเคราะห์ ความรู้จากการเรียน การเรียนรู้จะไม่จบลงเพียงแค่การได้แนวคิดใหม่ ผ่านประสบการณ์เพื่อ ดังนั้นในขั้นนี้ผู้เรียนจะได้ลองใช้ความคิดกับ บริบทรอบตัวของตัวเอง เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น ให้ตกผลึก (Active Experimentation) 

เอกสารอ้างอิง Christy Visaggi and Jeffrey Young. (2020). Experiential Learning Theory. สืบค้น 21 กุมภาพันธ์ 2565, จาก  https://myexperience.gsu.edu/faculty/resources/theory/ Saul McLeod. (2017). Kolb’s Learning Styles and Experiential Learning. สืบค้น 21 กุมภาพันธ์ 2565, จาก https://www.simplypsychology.org/learning-kolb.html จัดทำโดย นางสาวอาทิตยา จันทร์โฉม เลขที่10 หมู่เรียนที่ 5 รหัสนักศึกษา 647190510

สรุป 4-5 ซฏ ๆ



เทคนิคการสอนแบบการแสดบทบาทสมมติ (ROLE PLAYING) ขั้นตอนการสอนแบบ ROLE PLAYING แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ขั้นแสดง 02 02 01 ขั้นเตรียมการ - ครูและนักเรียนร่วมกันกำหนด - ผู้เรียนแสดงบทบาทตามเรื่องราว เรื่องราวหรือสถานการณ์ร่วมกัน หรือสถานการณ์ที่กำหนด - มีการจับกลุ่มผู้เรียนตามความ - ครูทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ สะดวกและเหมาะสมกับเนื้อหา พร้อมฝึกซ้อมการแสดง - จัดเตรียมพื้นที่และอุปกรณ์ 03 ขั้นสรุป - ครูกล่าวชมเชยผู้เรียนที่แสดง และร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิด เห็นและอภิปรายถึงเรื่องราวหรือ การใช้บทบาท สมมติแบบ สถานการณ์ที่ได้แสดง ROLE PLAY - ครูให้นักเรียนได้แสดงเพิ่มเติม จัดทำโดย นางสาวสุพัตรา นาแหะ และทำการสรุปอีกครั้ง ที่มา : นรรัชต์ ฝันเชียร | 29 ต.ค. 62 https://www.trueplookpanya.com By Plook Teacher

การจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถาม 1.ขั้นวางแผน (Questioning Method) การใช้คำถาม ประโยชน์จากการจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถาม ผู้สอนควรจะมีการวางแผนโดยใช้ 1. ผู้เรียนกับผู้สอนสื่อความหมายกันได้ดี คำถามให้เหมาะสมกับเนื้อหาที่เรียน 2. ช่วยให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 2. ขั้นเตรียมคำถาม 3. สร้างแรงจูงใจและกระตุ้นความสนใจของ ผู้เรียน ผู้สอนควรจะเตรียมคำถามที่จะใช้ในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ โดยการสร้างคำถามอย่างมี หลักเกณฑ์ 3. ขั้นการใช้คำถาม ผู้สอนสามารถจะใช้คำถามในทุกขั้นตอนของการจัด กิจกรรมการเรียนรู้และอาจจะสร้างคำถามใหม่ที่นอก เหนือจากคำถามที่เตรียมไว้ก็ได้ 4. ขั้นสรุปและประเมินผล 4.1 การสรุปบทเรียนผู้สอนอาจจะใช้คำถามเพื่อการสรุปบทเรียนก็ได้ 4.2 การประเมินผล ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันประเมินผลการเรียนรู้ โดยใช้วิธีการประเมินผลตามสภาพจริง จัดทำโดย นางสาว ทัชชกร จันทร์ดี เลขที่ 15 หมู่5





โดย นางสาวพิมพ์ลภัส ทิมแสง เลขที่ 18 หมู่เรียนที่ 5 วิธีการสอนโดยใช้สื่อ ประกอบการสอน



สรุปประเภทและคุณสมบัติของสื่อการสอน จากการจำแนกสื่อการเรียนการสอนตามประเภทลักษณะวิธิีการใช้และแหล่ง ทรัพยากรตามที่กล่าวมาแล้วจะสามารถแบ่งสื่อการสอนออกเป็นประเภทต่างๆ รวมถึงรูปแบบและวธิีการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนพร้อมคุณสมบัติข้อดี และข้อจำกัดของสื่อแต่ละชนิด ได้ดังนี้ สื่อสารสอนประเภทไม่ใชเ้ครื่องฉาย สื่อการสอนประเภทใช้เครื่องฉาย วัสดุและอุปกรณ์ประเภทเสนอภาพนิ่ง วัสดุและอุปกรณ์ประเภทเสนอภาพเคลื่อนไหว สื่อการสอนประเภทเครื่องเสียง

สื่อการสอนที่ใช้เครื่องฉาย

สื่อการสอนประเภทเสียง

อ้างอิง กิดานันท์ มลิทอง. เทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่อการ ศึกษา.กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์อรุณการพิมพ์, 2548

วิธีสอนแบบแฮร์บาร์ต 2 4 (HERBART METHOD) 1 ขั้นนำเสนอ ขั้นสรุป วิธีสอนแบบแฮร์บาร์ตเป็นไปตามแนวคิดของแฮร์บาร์ต ขั้นเตรียม ข้อมูล 3 ที่ว่า การที่นักเรียนจะเรียนรู้สิ่งใดนั้นนักเรียนจะต้องสนใจเป็น เบื้องแรก ครูผู้สอนจำเป็นต้องเร้าความสนใจของนักเรียนก่อน การ ขั้นเชื่อมโยง เข้าสู่ขั้นของการสอนเพื่อให้เกิดเรียนรู้ ความรู้ 5 ความมุ่งหมายของวิธีการสอนแบบแฮร์บาร์ต ขั้นประยุกต์ใช้ 1. เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้จากการสนใจ 2. เพื่อฝึกในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เก่าและความรู้ใหม่ที่ได้รับ ความรู้ 3. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสามารถจัดลำดับความรู้จากง่ายไปหายากปละจาก ขั้นตอนของการวิธีสอนแบบแฮร์บาร์ต ความจริงทั่วไปไปสู่หลักเกณฑ์หรือข้อสรุป ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมการ (Preparation) เป็นขั้นการนาเข้าสู่บทเรียนโดยครูจะเป็นผู้เร้าความ ข้อดีของวิธีสอนแฮร์บาร์ต สนใจ ให้นักเรียนเห็นความจาเป็นและเกิดความสนใจ นึกถึงประสบการณ์เดิมที่ผ่านมาเพื่อ เชื่อมต่อความรู้ใหม่ 1.นักเรียนได้เรียนรู้จากความสนใจ ขั้นที่ 2 ขั้นนำเสนอข้อมูล (Presentation) เป็นขั้นที่ครูดาเนินกิจกรรมการสอนอธิบายนำเสนอ 2.การเรียนรู้ดำเนินไปจากง่ายไปหายากตามลำดับ เนื้อหา ข้อมูล ข้อเท็จจริงต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้ในเรื่องนั้น ๆ ของบทเรียน 3.การสร้างกฎเกณฑ์หรือข้อสรุปกระทำโดยนักเรียนและครู ขั้นที่ 3 ขั้นเชื่อมโยงความรู้ (Abstraction) เป็นการเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิมด้วย การวิเคราะห์ข้อความต่าง ๆ ที่สอน เมื่อปฏิบัติตาม 2 ขั้นตอนแล้ว นักเรียนจะพบข้อมูล ความรู้ ข้อสังเกตของวิธีสอนแบบแฮร์บาร์ต ใหม่ว่ามีความแตกต่างและคล้ายคลึงกับบทเรียนเก่าอย่างไรหรือนักเรียนจะสามารถรวบรวม ข้อมูลที่เป็นประสบการณ์เดิมของตนผสานกับประสบการณ์ใหม่ที่ได้รับ 1.ในขั้นของการสัมพันธ์หรือทบทวนและเปรียบเทียบ ครูต้องให้โอกาสนักเรียน ขั้นที่ 4 ขั้นสรุปหรือพัฒนาหลักการ (Generalization) เป็นขั้นที่นักเรียนพยายามจะให้ ในการวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างและคล้ายคลึงกันระหว่างความรู้เดิม ความหมายโดยนักเรียนจะรวบรวมความรู้ต่าง ๆ จากขั้นก่อนแล้วสรุปข้อมูลที่ได้เป็นมโนทัศน์ กับความรู้ใหม่ด้วยตนเองมิใช่เกิดจากการแนะนำของครู กฎหรือหลักการเป็นการช่วยให้นักเรียนเข้าใจในบทเรียนกว้างขึ้น ขั้นที่ 5 ขั้นการประยุกต์ใช้ความรู้ (Application) เป็นขั้นที่นักเรียนนาความรู้ความเข้าใจที่ได้รับ 2. ครูควรเน้นย้ำให้นักเรียนจดบันทึกความรู้ตามลำดับขั้นตอนจากง่ายไปหายาก มาประยุกต์ใช้ โดยนาไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจาวันหรือนาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ต่อไปได้ แหล่งที่มา สมฤดี แจ้งข่าว. (2561). ผลการใช้วิธีสอนแฮร์บาร์ตที่มีต่อมโนทัศน์และการประยุกต์ใช้ความรู้เศรษฐศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ชื่อ นางสาวเครือวัลย์ อนันต์สุข รหัสนักศึกษา 647190519 ของข้อมูล มหาวิทยาลัยศิลปากร. สืบค้นจาก HTTP://ITHESISIR.SU.AC.TH/DSPACE/BITSTREAM/123456789/2282/1/57262322.PDF

รู้จัก CIPPA Model กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) รูปแบบการสอนที่ CIPPA เป็นหลักการซึ่งสามารถนำไหใช้เป็นหลักในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ให้แก่ผู้เรียน การจัดกระบวนการเรียน เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การสอนตามหลัก “CIPPA” สามารถใช้วิธีการและกระบวนการที่หลากหลาย ซึ่งอาจจัดได้หลายรูปแบบ โดย ทิศนา แขมมณี ได้ ความหมายของ CIPPA Model เสนอกระบวนการสอนนี้แบ่งเป็น 7 ขั้นตอน C = Construct คือ การให้ผู้เรียนสร้าง 1. การทบทวนความรู้เดิม 2. การแสวงหาความรู้ใหม่ ความรู้ด้วยตนเอง I = Interaction คือ การให้ผู้เรียนมี เป็นการดึงความรู้ของผู้เรียนเรื่องที่จะเรียน เพื่อช่วยให้ผู้ เป็นการแสวงหาความรู้ใหม่ที่ยังไม่มีจากแหล่งข้อมูลหรือ เรียนมีความพร้อมในการเชื่อมโยงความรู้ใหม่ แหล่งความรู้ต่าง ๆ เช่นหนังสือเรียน ปฏิสัมพันธ์ต่อกัน P = Participation คือ การให้ผู้เรียนมี 4. การแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม 3. การศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ ความรู้ ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม บทบาท ผู้เรียนต้องอาศัยกลุ่มเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ P = Process หรือ Product คือ การให้ผู้ ความรู้ความเข้าใจของตนเอง รวมไปถึงการขยายความรู้ เป็นขั้นที่ผู้เรียนจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับข้อมูลที่ ของตนเองแก่ผู้อื่นด้วย หามา โดยใช้กระบวนการต่าง ๆ เช่น ใช้กระบวนการคิด เรียนได้เรียนรู้กระบวนการควบคู่ไป กระบวนการกลุ่ม เป็นต้น กับผลงาน 5. การสรุปและจัดระเบียบการเรียนรู้ A = Application คือ การให้ผู้เรียนนำ 6. การปฏิบัติ ความรู้ที่ได้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ใน สรุปความรู้ที่ได้รับไปทั้งหมด ทั้งความรู้เดิมและความ ชีวิตประจำวัน รู้ใหม่ และจัดสิ่งที่เรียนให้มีระบบระเบียบ เพื่อช่วยให้ เป็นขั้นที่ช่วยให้ผู้เรียนได้มีโอกาสแสดงผลงานการสร้าง จดจำได้ง่ายขึ้น องค์ความรู้ของตนให้ผู้อื่นรับรู้ และช่วยให้ผู้เรียนใช้ความ คิดสร้างสรรค์ 7. การประยุกต์ใช้ความรู้ ส่งสเริมให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนการนำความรู้ของตนเองไปใช้ใน สถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความชำนาญ ความเข้าใจ ความสามารถในการแก้ปัญหาและความจำในเรื่องนั้นๆ แหล่งที่มา ครูอาชีพดอทคอม (2563). รู้จัก CIPPA Model รูปแบบการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. ของข้อมูล สืบค้น 24 กุมภาพันธ์ 2565, จาก https://rb.gy/l9fkna ชื่อ นางสาวปัญญาพร กำไม รหัสนักศึกษา 647190520



+จำเป็ นภาพ +สนุกกับ3สี +วางกระดาษแนวนอน 2. ใช้รูปภาพหรือ 3 ใช้ปากกาหลากหลายสี วาดรูปประกอบ เพื่อสร้างความจดจำ +คิดเชื่อมโยง 1. เริ่มวาดที่จุดกึ่งกลาง 6 ขั้นตอนการเขียน 4. วาดกิ่งออกมาจาก ของกระดาษ Mind Mapping ภาพตรงกลาง +น่าสนใจกว่า 5. วาดเส้นกิ่งให้โค้งดีกว่า วาดแบบเส้นตรง 6. ใช้เพียงแค่คีย์เวิร์ด เท่านั้น +คำสั้นจำง่าย ที่มา www.kruachieve.com จัดทำโดย ธนะยุทธ พลเดช หมู่5 รหัส 647190522

ขั้นเตรียม 1.1 กำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นสาธิต ขั้นสรุป 3.1 ผู้สอนและผู้ โดยวิธีการสาธิต เรียนร่วมกันสรุปผลที่ วิธีการสอนแบบ 1.2 ศึกษาเนื้อหาสาระให้ชัดเจน และ 2.1 แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ เกิดจากการสาธิต สาธิต จัดลำดับให้เหมาะสม เนื้อหาสาระที่จะเรียนรู้ 3.2 บันทึกขั้นตอน การสาธิตพร้อมทั้งผล 1.3 เตรียมกิจกรรมให้ผู้เรียนปฏิบัติ 1.4 เตรียมสื่อ อุปกรณ์ เอกสารให้ เพียงพอกับผู้เรียน 2.2 บอกให้นักเรียนรู้บทบาท ที่เกิดขึ้น 1.5 กำหนดเวลาการสาธิตให้พอ ของตนเอง ได้แก่ การทดลอง แสดงบางสิ่งบางอย่างให้นักเรียน เหมาะ ปฏิบัติ การจดบันทึก การสรุป 4.1 ผู้เรียนทดลองสาธิต ดู หรือให้เพื่อนๆดู อาจเป็นการ 1.6 กำหนดวิธีการประเมินผล 2.3 แนะนำสื่อการเรียนรู้ แสดงการใช้เครื่องมือแสดงให้เห็น 1.7 เตรียมสภาพห้องเรียน 2.4 ดำเนินการสาธิต ขั้นประเมินผล ให้ผู้อื่ นดูพร้อมทั้งบอกผล กระบวนการวิธีการ กลวิธีหรือการ และข้อคิดที่ได้ ทดลองที่มีอันตราย ซึ่งไม่เหมาะที่ 1.8 ทดลองสาธิตก่อนสอนจริงในห้องเรียน 4.2 ให้เขียนรายงาน ตอบคำถามจากแบบฝึกหัด และแสดงความคิดเห็น ข้อจำกัด สรุป จะให้นักเรียนทำการทดลอง การ ข้อดี 1. การสาธิตบางครั้งไม่สามารถ มุ่งให้ผู้เรียนได้รับ ประสบการณ์ สอนวิธีนี้ช่วยให้นักเรียนเกิดความรู้ ใช้กับผู้เรียนกลุ่มใหญ่ 2. ผู้สอนต้องแนะนำขั้นตอน ความเข้าใจและสามารถทำในสิ่งนั้น 1. นักเรียนได้ประสบการณ์ตรง กว้างขึ้น ให้ผู้เรียนได้เข้าใจลำดับ ได้ถูกต้อง และ ยังเป็นการสอนให้ 2. สร้างความสนใจ และความ อุปกรณ์ ที่ใช้ในการสาธิตอย่าง ขั้นต่าง ๆ และสามารถสรุปผลได้ ชัดเจน นักเรียนได้ใช้ทักษะในการสังเกต กระตือรือร้น 3. ผู้สอนต้องทดลองการสาธิต เป็นกิจกรรมที่สามารถปฏิบัติไป และถือว่าเป็นการได้ประสบการณ์ 3.ฝึกการสังเกต การสรุปผล ก่อนสอนให้แม่นยำเพื่อลดข้อ พร้อมกับวิธีการสอนวิธีอื่น ๆ ตรงวิธีหนึ่ง การบันทึก และการจัดขั้นตอน ด้วยได้ ผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น อ้างอิง ทิศนา แขมมณี. วิธีสอนโดยใช้การสาธิต (Demonstration). ใน: ทัศนีย์ ผิวขำ, บรรณาธิการ. 14 วิธีสอนสำหรับสำหรับครูมืออาชีพ. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2551:17-21.

วิธีการสอนแบบเอ็กซ์พลิซิท (Explicit Teaching Method) ขั้นตอนของวิธีสอนแบบเอ็กซ์พลิซิท วิธีสอนแบบเอ็กซ์พลิซิท คือ ขั้นตอนที่ 1 ทบทวนประจำวันและตรวจสอบการบ้าน เป็นกระบวนการสอนที่เน้นการ ทบทวนประจำวัน ประจำ ขั้นตอนที่ 2 การนำเสนอสาระความรู้ สัปดาห์และประจำเดือน มีการ ตรวจสอบการบ้าน และมีขั้น ขั้นตอนที่ 3 การปฏิบ ัติโดยครูคอยแนะนำ ตอนการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนตามจุดประสงค์การ ขั้นตอนที่ 4 การแก้ไขให้ถูกต้อง และการให้ข้อมูลย้อนกลับ เรียนรู้สั้นๆ เข้าใจง่ายได้คำตอบ ขั้นตอนที่ 5 การฝึกอย่างอิสระ (ฝึกปฏิบัติที่โต๊ะ) ที่ถูกต้องรวดเร็วและแน่นอน นางสาวบุษกร เชื้อกสิการ หมู่ที่5 เลขที่24 ขั้นตอนที่ 6 การทบทวนรายสัปดาห์และรายเดือน

การเรียนรู้โดยวิธีค้นพบ (DISCOVERY) วิธีค้นพบ ให้ผู้เรียนปฏิบัติ ผู้สอนเป็นผู้วางแผน ผู้เรียนเป็นผู้วางแผน การทดลอง เป็นแนวคิดที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้ ผู้สอน กำหนดปัญหา วางแผนการ ผู้สอน กำหนดปัญหา ผู้เรียน กำหนดปัญหา วางแผน สร้างความรู้ใหม่ สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ทดลอง เก็บรวบรวมข้อมูล เตรียม ผู้เรียน แก้ปัญหาเอง ได้แก่ ตั้ง การทดลอง เก็บข้อมูลดำเนินการ ด้วยตนเอง ความรู้ที่ได้จะคงทน อุ ปกรณ์ สมมติฐาน วางแผนการทดลอง ทดลอง เก็บข้อมูล สรุปผล ถาวรอยู่ในความทรงจำระยะยาว ผู้เรียน ปฏิบัติการทดลอง ทดลอง สรุปผลการทดลอง โดยมีผู้ ผู้สอน เป็นผู้กระตุ้นให้ผู้เรียน ซึ่งผู้สอนไม่สามารถสร้างขึ้นได้ 1.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ผู้สอน เป็น สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวก กำหนดปัญหาด้วยตนเอง แต่ผู้สอนเป็นเพียงผู้จัด ผู้นำอภิปรายโดยตั้งปัญหา 2.1 สร้างสถานการณ์/ปัญหา โดยใช้ ประสบการณ์เรียนรู้ให้ผู้เรียน 1.2 ขั้นอภิปรายก่อนทดลอง ผู้สอนตั้ง คำถาม สถานการณ์จริง ภาพปริศนา สร้างความรู้ขึ้นเอง สมมติฐาน อธิบาย/ให้คำแนะนำการใช้ 2.2 ผู้เรียนวางแผนแก้ปัญหา โดยผู้ นักการศึกษาของสหรัฐอเมริกา อุปกรณ์ ข้อควรระวังในการทดลอง สอนเป็นผู้แนะแนวทาง ระบุแหล่ง กลุ่ม BSCB (Biological 1.3 ขั้นทำการทดลองเก็บรวบรวม ความรู้ Science Curriculum Study) ข้อมูล ผู้เรียน ลงมือทดลองเองพร้อม 2.3 รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ได้นำหลักสูตรมาใช้ในวิชา ทั้งบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการแก้ปัญหาด้วยตนเอง วิทยาศาสตร์ โดยมี 5 ขั้นตอน ในรูปแบบวัฏจักร (Learning 1.4 ขั้นอภิปรายหลังการทดลอง Cycle) ดังนี้ ขั้นนำเข้าสู่บท เป็นการนำเสนอข้อมูล สรุปผลการ เรียน สำรวจ อธิบาย ลงข้อมูล ทดลอง โดยผู้สอนนำการอภิปรายเพื่อ นำผู้เรียนไปสู่ข้อสรุป เพื่อให้ได้แนวคิด และการประเมิน หรือหลักเกณฑ์ที่สำคัญ อ้างอิง วนิดา ฉัตรวิราคม. (2554). นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการสอนวิทยาศาสตร์ = Innovations and technology in DISCOVERYteaching science : SE 742 (642). กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook