อลั เบริ ต์ ไอน์สไตน์ เกิด วันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.1879 ทเี่ มืองอูล์ม (Ulm) ประเทศเยอรมนี (Germany) เสียชีวติ วนั ท่ี 18 มถิ นุ ายน ค.ศ.1955 ท่ีเมืองนิวเจอรซ์ ี่ (New Jersey) ประเทศ สหรัฐอเมรกิ า ผลงาน - ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพ (Theory of Relativity) - ค้นพบทฤษฎกี ารแผ่รังสี (Photoelectric Effect Theory) - ได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ ในปี ค.ศ.1921 ผลงานของไอน์สไตน์ในสาขาฟิสิกส์มีมากมาย ต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่ง : ทฤษฎีสัมพัทธภาพ พิเศษ ซึ่งนำกลศาสตร์มาประยุกต์รวมกับคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป, ทฤษฎีใหม่ เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ซึ่งเป็นไปตามหลักแหง่ ความสมมูล,วางรากฐานของจักรวาลเชิงสัมพทั ธ์ และ ค่าคงที่จักรวาล, ขยายแนวความคิดยคุ หลังนวิ ตัน สามารถอธิบายจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สดุ ของดาว พุธได้อย่างลึกซึ้ง, ทำนายการหักเหของแสงอันเนื่องมาจากแรงโน้มถ่วงและเลนส์ความโน้มถ่วง, อธิบายการเกิดปรากฏการณ์ของแรงยกตัว, ริเริ่มทฤษฎีการแกว่งตัวอย่างกระจายซึ่งอธิบายการ เคลื่อนที่ของบราวน์ของโมเลกุล, ทฤษฎีโฟตอนกับความเกี่ยวพันระหว่างคลื่น-อนุภาค ซึ่งพัฒนา จากคุณสมบัติอุณหพลศาสตร์ของแสง, ทฤษฎีควอนตัมเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของอะตอมใน ของแข็ง, พลังงานที่จุดศูนย์, อธิบายรูปแบบย่อยของสมการของชเรอดิงเงอร์, EPR paradox, รเิ ริ่มโครงการทฤษฎีแรงเอกภาพ
อัลเบิรต์ ไอนส์ ไตน์ : ทฤษฎีสัมพัทธภาพพเิ ศษและสมการพลิกโลก ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ เป็นเรื่องความสมมูลระหว่างมวลและพลังงานซึ่งเป็นที่มาของ สมการที่โด่งดังที่สุดในโลก E = mc2 ซึ่ง E คือพลังงาน, m คือมวล และ c คือความเร็วแสงใน สูญญากาศ โดยนัยของสมการนี้มวลสามารถเปลี่ยนไปเป็นพลังงานได้ พลังงานก็สามารถเปลี่ยน กลับมาเป็นอนุภาคได้เช่นกัน มวลนิดเดียวสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานจำนวนมหาศาล ผลจาก สมการนี้ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโลก มีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นอย่างมากมายมหาศาล เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เครื่องมือทางการแพทย์ ระบบสื่อสารโทรคมนาคมผ่านทางดาวเทียม การหาอายจุ ากคารบ์ อนกัมมนั ตรังสี รวมไปถงึ การคดิ คน้ ระเบิดปรมาณูและพลังงานนวิ เคลยี ร์ ที่มา : https://www.takieng.com/stories/7361
ตวั ไอน์สไตน์เอง มีความระลึกถึงผลกระทบทางสงั คม ซ่ึงมีผลมาจากการ คน้ พบทางวิทยาศาสตร์อยา่ งลึกซ้ึง ในฐานะท่ีเขาไดเ้ ป็นปูชนียบคุ คลแห่งความบรรลุ ทางปัญญา เขายงั คงถกู ยกยอ่ งใหเ้ ป็นนกั ฟิ สิกส์ทฤษฎี ท่ีมีอิทธิพลตอ่ วทิ ยาศาสตร์ ท่ีสุดในยคุ ปัจจุบนั ทุกการสร้างสรรคข์ องเขายงั คงเป็นที่เคารพนบั ถือ ท้งั ในความ เชื่อในความสง่า ความงาม และความรู้แจง้ เห็นจริงในจกั รวาล (คือแหล่งเสริมสร้าง แรงบนั ดาลใจในวิทยาศาสตร์ ใหแ้ ก่นกั วทิ ยาศาสตร์ส่วนใหญ)่ เป็นสูงสุด ความชาญ ฉลาดเชิงโครงสร้างของเขา แสดงใหเ้ ห็นถงึ องคป์ ระกอบของจกั รวาล ซ่ึงงานเหล่าน้ี ถูกนาเสนอผา่ นผลงานและหลกั ปรัชญาของเขา ในทกุ วนั น้ี ไอนส์ ไตน์ยงั คงเป็นท่ี รู้จกั ดีในฐานะนกั วทิ ยาศาสตร์ท่ีโด่งดงั ที่สุด ท้งั ในวงการวิทยาศาสตร์และนอก วงการ ไอนส์ ไตนเ์ สียชีวิต เม่ือวนั ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2498 ดว้ ยโรคหวั ใจ ผลงานของไอน์สไตน์ในสาขาฟิ สิกส์มีมากมาย อาทิเช่น : - ทฤษฎีสัมพทั ธภาพพิเศษ ซ่ึงนากลศาสตร์มาประยกุ ตร์ วมกบั คล่ืน แม่เหลก็ ไฟฟ้า - ทฤษฎีสัมพทั ธภาพทว่ั ไป ทฤษฎีใหมเ่ กี่ยวกบั แรงโนม้ ถว่ ง ซ่ึงเป็นไป ตาม equivalence principle - วางรากฐานของจกั รวาลเชิงสัมพทั ธ์ และค่าคงที่จกั รวาล - ขยายแนวความคิดยคุ หลงั นิวตนั สามารถอธิบายจุดใกลด้ วงอาทิตยท์ ี่สุด ของดาวพธุ ไดอ้ ยา่ งลึกซ้ึง
- ทานายการหกั เหของแสงอนั เน่ืองมาจากแรงโนม้ ถ่วงและเลนส์ความ โนม้ ถว่ ง - อธิบายการเกิดปรากฏการณ์ของแรงยกตวั - ริเริ่มทฤษฎีการแกวง่ ตวั อยา่ งกระจายซ่ึงอธิบายการเคล่ือนที่ของบราวน์ ของโมเลกลุ - ทฤษฎีโฟตอนกบั ความเก่ียวพนั ระหวา่ งคล่ืน-อนุภาค ซ่ึงพฒั นาจาก คุณสมบตั ิอณุ หพลศาสตร์ของแสง - ทฤษฎีควอนตมั เก่ียวกบั การเคลื่อนท่ีของอะตอมในของแขง็ - Zero-point energy - อธิบายรูปแบบยอ่ ยของสมการของชเรอดิงเงอร์ - EPR paradox - ริเริ่มโครงการทฤษฎีแรงเอกภาพ ไอนส์ ไตน์ไดต้ ีพมิ พผ์ ลงานทางวทิ ยาศาสตร์มากกวา่ 300 ชิ้น และงานอ่ืนที่ ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกกวา่ 150 ชิ้น ปี พ.ศ. 2542 นิตยสารไทมส์ยกยอ่ งใหเ้ ขาเป็น \"บุรุษแห่งศตวรรษ\" ผเู้ ขียนชีวประวตั ิของเขาเอย่ ถึงเขาวา่ \"สาหรับความหมาย ในทางวิทยาศาสตร์ และตอ่ มาเป็นความหมายตอ่ สาธารณะ \"ไอน์สไตน์\" มี ความหมายเดียวกนั กบั อัจฉริยะ\"
ภาพถา่ ยไอนส์ ไตนใ์ นวยั เดก็ ถ่ายเม่ือปี พ.ศ. 2436 ทมี่ าของภาพ : http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/a/ad/Albert_Einstein_as_a_child.jpg ไอนส์ ไตน์เกิดในเมืองอูลม์ ราชอาณาจกั รเวอร์ทเทมแบร์ก สมยั จกั รวรรดิ เยอรมนั ห่างจากเมืองชตทุ ทก์ าร์ทไปทางตะวนั ออกประมาณ 100 กิโลเมตร ซ่ึงใน ปัจจุบนั คือ รัฐบาเดิน - เวอร์ทเทมแบร์ก ประเทศเยอรมนี บิดาของเขาชื่อวา่ \"แฮร์ มานน์ ไอนส์ ไตน์\" เป็นพนกั งานขายทว่ั ไป ซ่ึงกาลงั ทาการทดลองเกี่ยวกบั เคมีไฟฟ้า มารดาช่ือวา่ \"พอลลีน\" โดยมีคนรับใชห้ น่ึงคนช่ือ \"คอช\" ท้งั คู่แต่งงานกนั ในโบสถใ์ นสต๊ทุ การ์ท (เยอรมนั : Stuttgart-Bad Cannstatt) ครอบครัวของเขาเป็น ชาวยวิ (แตไ่ ม่เคร่งครัดนกั ) อลั เบิร์ตเขา้ เรียนในโรงเรียนประถมคาธอลิก และเขา้ เรียนไวโอลิน ตามความตอ้ งการของแมข่ องเขาท่ียนื ยนั ใหเ้ ขาไดเ้ รียน
เมื่อเขาอายไุ ด้ 5 ขวบ พอ่ ของเขานาเขม็ ทิศพกพามาใหเ้ ลน่ และทาให้ ไอน์สไตนร์ ู้วา่ มีบางส่ิงบางอยา่ งในพ้นื ที่ที่วา่ งเปลา่ ซ่ึงส่งแรงผลกั เขม็ ทิศใหเ้ ปลี่ยน ทิศไป เขาไดอ้ ธิบายในภายหลงั วา่ ประสบการณ์เหลา่ น้ีคือ 1 ในส่วนท่ีเป็นแรง บนั ดาลใจใหแ้ ก่เขาในชีวติ แมว้ า่ เขาชอบท่จี ะสร้างแบบจาลองและอปุ กรณ์กลไดใ้ น เวลาวา่ ง เขาถือเป็นผทู้ ่ีเรียนรู้ไดช้ า้ สาเหตุอาจเกิดจากการท่ีเขามีความพกิ ารทางการ อา่ นหรือเขียน (dyslexia) ความเขินอายซ่ึงพบไดท้ ว่ั ไป หรือการที่เขามีโครงสร้าง สมองที่ไม่ปกติและหาไดย้ ากมาก (จากการชนั สูตรสมองของเขา หลงั จากท่ี ไอน์สไตน์เสียชีวิต) เขายกความดีความชอบในการพฒั นาทฤษฎีของเขาวา่ เป็นผล มาจากความเชื่องชา้ ของเขาเอง โดยกล่าววา่ เขามีเวลาครุ่นคิดถึงอวกาศ และเวลา มากกวา่ เด็กคนอื่น ๆ เขาจึงสามารถสามารถพฒั นาทฤษฎีเหล่าน้ีได้ โดยการท่ีเขา สามารถรับความรู้เชิงปัญญาไดม้ ากกวา่ และนานกวา่ คนอ่ืน ๆ ไอน์สไตนเ์ ริ่มเรียนคณิตศาสตร์เมื่อประมาณอายุ 12 ปี โดยท่ีลุงของเขาท้งั สอง คนเป็นผอู้ ุปถมั ถ์ ความสนใจเชิงปัญญาของเขาในช่วงยา่ งเขา้ วยั รุ่นและวยั รุ่น โดย การแนะนาและใหย้ มื หนงั สือ ซ่ึงเกี่ยวกบั วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ใน พ.ศ. 2437 เนื่องมาจากความลม้ เหลวในธุรกิจเคมีไฟฟ้าของพ่อของเขา ทา ใหค้ รอบครัวไอนส์ ไตนย์ า้ ยจากเมืองมิวนิคไปยงั เมืองพาเวีย (ใกลก้ บั เมืองมิ ลาน) ประเทศอิตาลี ในปี เดียวกนั เขาไดเ้ ขียนผลงานทางวิทยาศาสตร์ชิ้นหน่ึงข้ึนมา (คือ \"การศึกษาสถานะของอีเธอร์ในสนามแม่เหลก็ \") โดยท่ีไอนส์ ไตนย์ งั อาศยั อยใู่ น บา้ นพกั ในมิวนิคอยจู่ นเรียนจบจากโรงเรียน โดยเรียนเสร็จไปแคภ่ าคเรียนเดียว ก่อน จะลาออกจากโรงเรียนมธั ยมศึกษากลางฤดูใบไมผ้ ลิ ในปี พ.ศ. 2438 แลว้ จึงตาม ครอบครัวของเขาไปอาศยั อยใู่ นเมืองพาเวยี เขาลาออกโดยไมบ่ อกพ่อแม่ของ
เขา และโดยไมผ่ า่ นการเรียน 1 ปี คร่ึง รวมถึงการสอบไล่ ไอนส์ ไตน์เกล้ียกล่อม โรงเรียนใหป้ ลอ่ ยตวั เขาออกมา โดยกลา่ ววา่ จะไปศึกษาเป็นนกั ศึกษาแพทย์ ฝึกหดั ตามคาเชิญจากเพื่อนผเู้ ป็นแพทยข์ องเขาเอง โรงเรียนยนิ ยอมใหเ้ ขา ลาออก แตน่ ี่หมายถึงเขาจะไมไ่ ดร้ ับใบรับรองการศึกษาช้นั เรียนมธั ยม แมว้ า่ เขาจะมีความสามารถช้นั เลิศ ในสาขาวิชาคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ แตก่ ารที่เขาไร้ความรู้ใด ๆ ทางดา้ นศิลปศาสตร์ ทาใหเ้ ขาไม่ผา่ นการ สอบคดั เลือกเขา้ สถาบนั เทคโนโลยแี ห่งสมาพนั ธรัฐสวิส (ETH) ในเมืองซูริค ทาให้ ครอบครัวเขาตอ้ งส่งเขากลบั ไปเรียนมธั ยมศึกษาใหจ้ บในสวติ เซอร์แลนด์ เขาสาเร็จ การศึกษา และไดร้ ับใบอนุปริญญาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2439 และสอบเขา้ ETH ไดใ้ นเดือนตุลาคม แลว้ จึงยา้ ยมาอาศยั อยใู่ นเมืองซูริคในปี เดียวกนั เขากลบั มาท่ีบา้ น เกิดของเขา เพอ่ื เพิกถอนภาวะการเป็นพลเมืองของเขาในเวอร์เทมบรู ก์ ทาใหเ้ ขา กลายเป็นผูไ้ ร้สัญชาติ ใน พ.ศ. 2443 เขาไดร้ ับประกาศนียบตั รสาเร็จการศึกษา จากสถาบนั เทคโนโลยี แห่งสมาพนั ธรัฐสวสิ และไดร้ ับสิทธ์ิพลเมืองสวสิ ในปี พ.ศ. 2444 หลงั จากจบการศึกษา ไอนส์ ไตน์ไมส่ ามารถหางานสอนหนงั สือได้ หลงั จาก เพียรพยายามอยเู่ กือบ 2 ปี พ่อของอดีตเพอื่ นร่วมช้นั คนหน่ึง ก็ช่วยใหเ้ ขาไดง้ านทาท่ี สานกั งานสิทธิบตั รในกรุงเบิร์น ในตาแหน่งผชู้ ่วยตรวจสอบเอกสาร หนา้ ท่ีของเขา คือ การตรวจประเมินใบสมคั รของสิทธิบตั ร ในหมวดหม่อู ุปกรณ์แม่เหลก็ ไฟฟ้า ใน
ปี พ.ศ. 2446 ไอนส์ ไตน์กไ็ ดบ้ รรจุเขา้ เป็นพนกั งานประจา หลงั จากถูกมองขา้ มมา นาน จนกระทงั่ กลายเป็นผเู้ ช่ียวชาญดา้ นเทคโนโลยจี กั รกล ไอนส์ ไตน์กบั เพื่อนหลายคนท่ีรู้จกั กนั ในเบิร์น ไดร้ วมกลมุ่ กนั เป็นชมรม เลก็ ๆ สาหรับคุยกนั เร่ืองวิทยาศาสตร์และปรัชญา ต้งั ชื่อกลุ่มอยา่ งลอ้ เลียนวา่ \"The Olympia Academy\" พวกเขาอา่ นหนงั สือร่วมกนั เช่น งานของปวงกาเร, แมค็ และ ฮูม ซ่ึงส่งอิทธิพลตอ่ แนวคิดดา้ นวิทยาศาสตร์และปรัชญาของไอนส์ ไตน์มาก ตลอดช่วงเวลาเหลา่ น้ี ไอนส์ ไตนแ์ ทบจะไม่ไดเ้ ขา้ ไปขอ้ งเกี่ยวใดๆ กบั ชุมชน ทางฟิ สิกส์เลย งานที่สานกั งานสิทธิบตั รของเขาโดยมาก จะเกี่ยวกบั ปัญหาเรื่องการ ส่งสัญญาณไฟฟ้า และการซิงโครไนซท์ างเวลาระหวา่ งระบบไฟฟ้ากบั ระบบทาง กล ซ่ึงเป็น 2 ปัญหาหลกั ทางเทคนิค อนั เป็นจุดสนใจของการทดลองในความคิดยคุ น้นั ซ่ึงในเวลาตอ่ มาไดช้ กั นาใหไ้ อนส์ ไตน์ไปสู่ผลสรุปอนั ลึกซ้ึง เกี่ยวกบั ธรรมชาติ ของแสง และความเก่ียวพนั พ้ืนฐานระหวา่ งอวกาศกบั เวลา ไอน์สไตนม์ ีบุตรสาว 1 คนกบั \"มิเลวา มาริค\" ชื่อวา่ \"ไลแซล\" (Lieserl) คาด วา่ เกิดในตอนตน้ ปี พ.ศ. 2445 ที่เมือง Novi Sad
มิเลวา มาริค ภรรยาของไอน์สไตน์ ทีม่ าของภาพ : http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/4/4c/Mileva_Maric.jpg ไอน์สไตนแ์ ตง่ งานกบั มิเลวาเม่ือวนั ท่ี 6 มกราคม พ.ศ. 2446 แมจ้ ะถกู มารดา คดั คา้ น เพราะนางมีอคติกบั ชาวเซิร์บ และคิดวา่ มาริคน้นั แก่เกินไป ท้งั ยงั หนา้ ตา อปั ลกั ษณ์ ความสัมพนั ธข์ องคนท้งั สองค่อนขา้ งจะเป็นส่วนตวั และเป็นคูช่ ีวิตที่มี สติปัญญา ในจดหมายฉบบั หน่ึงที่กล่าวถึงหลอ่ น ไอน์สไตน์เรียกมาริควา่ \"ส่ิงมีชีวติ ท่ีเสมอกนั กบั ผม ผซู้ ่ึงแขง็ แรง และมีอิสระเฉกเช่นเดียวกนั \" มีการถกเถียงกนั อยเู่ ป็น บางคราววา่ มาริคมีอิทธิพลตอ่ งานของไอน์สไตนบ์ า้ งหรือไม่ อยา่ งไรก็ตาม นกั ประวตั ิศาสตร์ทางวทิ ยาศาสตร์ต่างลงความเห็นเป็นเอกฉนั ทว์ า่ ไม่มี บตุ รคนแรกของ ไอนส์ ไตนก์ บั มิเลวา คือ \"ฮนั ส์ อลั เบิร์ต ไอนส์ ไตน์\" เกิดเม่ือวนั ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 ที่กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บตุ รคนท่ีสองคือ \"เอดูอาร์ด\" เกิดท่ีซูริค เมื่อวนั ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2453
อลั เบิร์ตกบั มาริคหยา่ กนั เมื่อวนั ท่ี 14 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2462 หลงั จากแยกกนั อยู่ 5 ปี ในวนั ท่ี 2 มิถุนายนปี เดียวกนั น้นั ไอน์สไตน์แต่งงานกบั \"เอลซา โลเวนธาล\" (นี ไอน์สไตน์) นางพยาบาลท่ีช่วยดูแลอภิบาลระหวา่ งที่เขาป่ วย เอลซาเป็นญาติ ห่างๆ ท้งั ทางฝ่ ายพ่อและฝ่ ายแม่ของไอนส์ ไตน์ ครอบครัวไอนส์ ไตน์ช่วยกนั เล้ียงดู \"มาร์ก็อต\" และ \"อิลเซ\" ลูกสาวของเอลซาจากการแตง่ งานคร้ังแรกของเธอ แตท่ ้งั สองคนไมม่ ีลูกดว้ ยกนั เมื่อวนั ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2498 อลั เบิร์ต ไอนส์ ไตน์ (Albert Einstein) นกั ฟิ สิกส์ผยู้ งิ่ ใหญ่แห่งศตวรรษท่ี 20 เสียชีวิตดว้ ยโรคหวั ใจวาย ท่ีเมืองพรินซต์ นั รัฐ นิวเจอร์ซี ประเทศสหรัฐอเมริกา
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: