Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 6 การแยกสาร

หน่วยที่ 6 การแยกสาร

Published by KruNang, 2022-12-20 08:54:48

Description: หน่วยที่ 6 การแยกสาร
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

Search

Read the Text Version

รายวิชาวทิ ยาศาสตร์พนื้ ฐาน ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 -การเเยกสารเเละการนาไปใช้

การเเยกสาร เเละการนาไปใช้

การเเยกสาร

การแยกสาร หมายถึง การทาให้องคป์ ระกอบ ของของผสมแยกตวั ออกจากกัน จนกลายเป็น “สารบรสิ ทุ ธ์ิ” #ของผสม คอื ... ของผสมจดั เปน็ สารไมบ่ รสิ ทุ ธิ์ เนอ่ื งจากเกิดจากสารตั้งแต่ 2 ชนดิ ขึน้ ไป มารวมกนั โดยมสี ัดสว่ น ไม่คงทแ่ี น่นอน ซึ่งการรวมตัวกันของสารนน้ั อาจรวมกนั แล้วเปน็ สารเนอ้ื เดยี วกันหรือสารเนื้อผสมกไ็ ด้

������สารละลาย ? เป็นสารเนือ้ เดยี วท่ีประกอบด้วยสารบริสุทธ์ติ ้ังแต่ 2 ชนิดขนึ้ ไปผสมกัน ด้วยอัตราส่วนท่ไี ม่แนน่ อน ไม่มปี ฏิกริ ิยาเกิดขึ้น สารทเี่ กิดขน้ึ จากการผสม จะมีคณุ สมบตั ไิ มค่ งที่ ขึน้ อยู่กับปรมิ าณของสารบรสิ ทุ ธ์ทิ น่ี ามาผสมกัน สารละลายประกอบดว้ ย 2 ส่วน คือ ตวั ทา ละลาย และตวั ถูกละลาย ������สารบริสทุ ธ์ิ ? เปน็ สารเนื้อเดยี วทปี่ ระกอบด้วยสารเพยี งอย่างเดยี ว ไมม่ สี ารอนื่ เจอื ปน ไดแ้ ก่ ธาตุ และสารประกอบ ������สารเนอ้ื เดียว ? สารท่ีมีองคป์ ระกอบชนดิ เดยี ว หรือหลายชนดิ ผสมกันอยู่อยา่ งกลมกลนื มองเห็นเปน็ เน้อื เดยี วกันตลอด ������สารเนื้อผสม ? สารทีม่ องเห็นดว้ ยตาเปล่าไม่เป็นเนื้อเดยี วกนั ตลอดทกุ สว่ น สารท่เี กิดจากสารต้งั แต่ 2 ชนดิ มารวมกนั โดยมีอตั ราส่วนทีไ่ ม่แน่นอน

������ศึกษาสมบตั ขิ องสารแต่ละชนดิ เชน่ ขนาดอนภุ าคสาร จดุ เดือด-จุดหลอมเหลว การละลาย ความหนาแน่น การระเหดิ สภาพแมเ่ หล็ก เป็นตน้ ������เลอื กใชว้ ธิ ใี นการแยกสาร โดยคานงึ ถงึ “งา่ ย สะดวก ประหยัด ปลอดภัย”

เเบ่งออกเป็น 2 ประเภท การเเยกสารเนือ้ ผสม การเเยกสารเนือ้ เดยี ว

การหยิบออก การรินออก การร่อน การระเหดิ การกรอง การดงึ ดูดดว้ ยเเม่เหล็ก การใชก้ รวยเเยก การกลน่ั เเบบการสกดั ดว้ ยไอนา้ การตกตะกอน 10 การสกัดด้วยตวั ทาละลาย

การหยบิ ออก แยกของผสมทม่ี ลี ักษณะ ขนาด สี ทแี่ ตกต่างกนั เลอื กหยบิ สาร ทีต่ อ้ งการออกมา

การรอ่ น แยกของแขง็ ท่มี อี นภุ าคแตกต่างกัน สารที่มขี นาดเล็กกว่าภาชนะ กรองจะตกลงมา

การกรอง เเยกของเเขง็ ออกจากของเหลว ของผสม เวลาผ่านไป ของเหลวจะผ่านกระดาษกรองได้ ของเเขง็ ไมส่ ามารถผ่านกระดาษกรองได้

การใชก้ รวยเเยก แยกของเหลวท่มี ีความหนาเเนน่ เเตกตา่ งกนั เเละไม่ละลายต่อกนั กรวยเเยก ของเหลวความหนาเเนน่ ตา่ ของเหลวความหนาเเนน่ สงู เปิดวาลว์ ปดิ วาลว์ ของเหลวความหนาเเน่นมากกว่า จะไหลออกมากอ่ น

การตกตะกอน แยกของแขง็ ท่ีเเขวนลอยอยใู่ นของเหลว สารสม้ : ชว่ ยใหต้ กตะกอนเรว็ ขึน้ กวา่ เดิม เวลาผา่ นไป น้า น้าคลอง ตะกอนอยู่ที่ก้นภาชนะ

การรนิ ออก แยกสารท่เี เบ่งชัน้ กนั อยา่ งชดั เจน เทสารทีอ่ ย่ดู า้ นบนออกจาก สารดา้ นล่าง

การระเหดิ แยกของแข็งที่สามารถระเหิดไดอ้ อกจากของผสม สาลี เกลด็ ไอโอดนี : ระเหดิ ออกมา สารผสมระหวา่ งไอโอดนี และทราย ใหค้ วามรอ้ น

การดึงดูดดว้ ยเเมเ่ หลก็ เเยกสารทเ่ี เม่เหล็กสามารถดดู ได้ออกจากสารอ่ืน สารทเี่ เมเ่ หล็กดูดได้ เเมเ่ หลก็ สารท่มี ีสารทีเ่ เม่เหลก็ ดดู ไดป้ นอยู่

การกลนั่ เเบบการสกดั ดว้ ยไอน้า แยกสารทรี่ ะเหยงา่ ย ไม่ละลายนา้ และไม่ทาปฏิกริ ยิ ากับนา้ ⚗️ทาได้โดยผ่านไอน้าทม่ี ีอุณหภูมิสงู ไปยังส่วนตา่ งๆ ของพืชท่ีต้องการแยก ไอนา้ จะพาสารท่ีระเหยงา่ ยออกมาจากพืช เทอรม์ อมิเตอร์ นา้ ระเหยออก นา้ นา้ ระเหยออก ใหค้ วามรอ้ น Ex;ผิวส้ม น้ามันหอมระเหย จากผวิ สม้

10 การสกดั ดว้ ยตัวทาละลาย แยกสารที่ละลายในตวั ทาละลายชนดิ นั้นๆ ไดด้ ี 1. แยกของเหลวออกจากของเหลว 2. เเยกของเหลวออกจากของเเขง็ ตวั ทาละลาย เขยา่ ช้ินสว่ นของพชื สารสกดั จากพชื

การสกดั ดว้ ยตัวทาละลาย (ต่อ) การสกดั สารดว้ ยตัวทาละลาย ต้องเลอื กตวั ทาละลายที่เหมาะสมกบั สารท่ีตอ้ งการสกดั โดยตวั ทาละลายจะตอ้ งละลายสารท่ีต้องการไดม้ าก ไม่ทาใหส้ ารเกดิ สารใหม่ และสามารถแยกสารสกดั ออกจากสารละลายไดง้ า่ ย ⭐️ หลกั การ ������������อาศยั สมบตั กิ ารละลายของสาร ⭐️สมบัตขิ องตวั ทาละลายในการสกดั สาร 1. ตอ้ งละลายสารทตี่ ้องการแยกได้ 2. ไม่ละลายสารทีไ่ ม่ต้องการ 3. ไมท่ าปฏกิ ิรยิ ากับสารที่ตอ้ งการเเยก

การสกัดดว้ ยตัวทาละลาย (ตอ่ ) การสกดั สารจากส่วนต่าง ๆ ของพืชด้วยตวั ทาละลาย ทาไดโ้ ดยนาพืช สว่ นนน้ั มาทาให้มขี นาดเล็กลงด้วยวธิ ีการต่าง ๆ เช่น การห่ัน บด ปนั่ เพือ่ ใหเ้ น้ือเย่ือหรอื เซลล์ของพชื ผสมกบั ตัวทาละลายอยา่ งทั่วถงึ ������เมอ่ื เพ่มิ อณุ หภมู แิ กต่ ัวทาละลาย จะละลายดมี ากข้ึน ������การสกัดดว้ ยตัวทาละลายส่วนใหญใ่ ชก้ ับการเเยกสารสตี า่ งๆ จากพชื ������สารสีท่เี ปน็ องค์ประกอบของใบไม้มหี ลายชนดิ เช่น สเี ขยี ว แดง ส้ม เหลือง นา้ ตาล อาจจะตอ้ งใชต้ ัวทาละลาย เช่น น้า หรอื เอทานอล

กจิ กรรมที่ 6.4 แยกสารโดยวิธีการสกัด ด้วยตัวทาละลายไดอ้ ยา่ งไร วิธกี ารดาเนินกจิ กรรม 1. ตัดชนิ้ สว่ นพืชให้เป็นชิน้ เลก็ ๆ บดหยาบ ๆ ดว้ ยโกรง่ บด 2. นาช้นิ ส่วนพชื ที่บดแลว้ แบ่งใส่หลอดทดลองขนาดใหญ่ 2 หลอด เท่า ๆ กัน 3. นานา้ ปรมิ าตร 5 cm3 ใส่ลงหลอดทดลองหลอดที่ 1 และนาเอทานอล ปริมาตร 5 cm3 ใส่ลงหลอด ทดลองหลอดท่ี 2 4. เขย่าหลอดทดลองทง้ั สองหลอดเป็นเวลา 2 นาที 5. กรองสารท่ีไดด้ ้วยกระดาษกรอง และเปรียบเทียบลกั ษณะของสารที่ได้จากตัวทาละลายทั้งสองชนดิ 6. บนั ทกึ ผลลงในตาราง

ตารางบนั ทึกผลการทดลอง ลกั ษณะของสารที่ได้ ชนดิ ของตวั ทาละลาย น้า สารละลายเอทานอล

ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง ลักษณะของสารทไ่ี ด้ ของเหลวใสสเี ขียว ชนิดของตัวทาละลาย ของเหลวใสสีเขยี วเข้ม น้า สารละลายเอทานอล

การระเหยแหง้ การตกผลึก การโครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การกลนั่ อย่างงา่ ย การกลนั่ ลาดบั สว่ น

การระเหยเเหง้ แยกตวั ละลายทเ่ี ปน็ ของแข็งออกจากตวั ทาละลายท่ีเป็นของเหลว ⚗️สามารถแยกโดยให้ความรอ้ น ให้ตวั ทาละลายระเหยกลายเป็นไอ เหลอื เเตต่ วั ละลายท่ีเป็นของเเขง็ ������EX ; การระเหยเเหง้ ของจนุ สี น้าระเหย เตรียมสารละลายจุนสี #นา้ ระเหยออกหมด เหลือจุนสี ติดอยทู่ จ่ี านหลมุ ดับตะเกียง เเล้วนาถาดหลมุ ออก ให้ความร้อนแกส่ ารละลายจุนสีจนแห้ง

กิจกรรมที่ 6.1 การแยกสารโดยการระเหยแห้ง และการตกผลึกได้อยา่ งไร ตอนท่ี 1 การระเหยแหง้ วิธกี ารดาเนินกิจกรรม 1. สงั เกตลักษณะของสารละลายจุนสี บันทกึ ผล 2. เทสารละลายจุนสีประมาณ 2 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร ลงในถว้ ยกระเบ้อื ง 3. เทน้าลงในบกี เกอร์ ประมาณ 1 ใน 4 แลว้ ตัง้ บนตะแกรง 4. ใหค้ วามร้อนแก่สารละลายจุนสจี นแห้ง โดยให้ความรอ้ นผา่ นไอของน้ารอ้ นทอี่ ยู่ในบีกเกอร์ สงั เกต และบันทึกผล

ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง ผลการสงั เกต ลกั ษณะของสารละลายจนุ สี ก่อนใหค้ วามร้อน หลังให้ความร้อน

ตารางบันทกึ ผลการทดลอง ผลการสังเกต ลกั ษณะของสารละลายจนุ สี ของเหลวใส สฟี า้ กอ่ นใหค้ วามร้อน หลงั ใหค้ วามร้อน ของเหลวในถ้วยระเหยไป เหลอื ของแข็งสฟี ้าอ่อน อยใู่ นถว้ ยกระเบอ้ื ง

กิจกรรมที่ 6.1 การแยกสารโดยการระเหยแห้ง และการตกผลึกไดอ้ ยา่ งไร ตอนท่ี 2 การตกผลกึ วิธกี ารดาเนนิ กจิ กรรม 1. สังเกตลักษณะของสารละลายจุนสี บันทึกผล 2. ละลายจุนสีครัง้ ละ 1 ช้อนเบอร์ 2 ในน้า 20 ลูกบาศก์เซนติเมตร ทอ่ี ณุ หภมู หิ อ้ ง จนไดส้ ารละลายอิม่ ตวั 3. ให้ความร้อนจนกระทัง่ จุนสลี ะลายหมด 4. ค่อย ๆ เติมจุนสีครงั้ ละ 1 ชอ้ นเบอร์ 2 จนจุนสไี ม่สามารถละลายไดอ้ กี (ประมาณ 5 ชอ้ น) 5. กรองจนุ สีด้วยกระดาษกรองในขณะทยี่ ังร้อนอยู่ 6. ตง้ั สารละลายจุนสที ่ีกรองแลว้ ไว้จนกวา่ อณุ หภูมิของสารละลายจนุ สจี ะลดลงถึงอณุ หภูมหิ ้อง 7. สงั เกตการเปลี่ยนแปลงและบันทึกผล 8. กรองแยกของแข็งออกจากของเหลว สงั เกตลกั ษณะของแขง็ ท่ีได้ และเปรยี บเทียบกับจนุ สกี อ่ นละลาย น้า และบนั ทึผล

ตารางบนั ทึกผลการทดลอง ผลการสังเกต สาร จนุ สี สารละลายจนุ สีอ่มิ ตัว

ตารางบันทกึ ผลการทดลอง ผลการสังเกต สาร ของแข็ง เปน็ ผงละเอียดสฟี ้า จนุ สี สารละลายจุนสอี ิ่มตวั ของเหลวใส สฟี า้ หลงั จากตง้ั สารละลายไว้ พบวา่ มี ของแขง็ สีฟา้ รปู ปรซิ มึ ส่เี หล่ยี มขนม เปยี กปูนท่ีกน้ บกี เกอร์

การตกผลึก แยกตัวละลายทเ่ี ป็นของแข็ง ในสารละลายอิม่ ตวั ของของแข็งนัน้ ⚗️สามารถแยกโดยใหค้ วามรอ้ น สารที่แยกได้จะเหลือเฉพาะของแข็ง ซ่ึงของแขง็ ท่ไี ดจ้ ะบรสิ ุทธ์สิ งู กวา่ ของเเข็งท่ไี ด้จากการระเหยเเห้ง ������EX ; การตกผลกึ ของจุนสี ให้ความรอ้ น ละลายจนุ สี+คนจนจนุ สีไม่ละลาย เพ่ิมอณุ หภูมิ #เหลือตะกอน คนจนจนุ สที เี่ หลืออยู่ เติมจุนสี ตงั้ ท้งิ ไวใ้ หเ้ ย็น ผลึกของจนุ สี ละลายหมด คนจนจนุ สลี ะลายหมด

การตกผลกึ (ต่อ) ⭐️หลักการ 1. ทาใหข้ องเเขง็ อม่ิ ตวั ที่อณุ หภูมิสูงๆ 2. คอ่ ยๆ ลด อุณหภมู ลิ ง 3. ของเเขง็ เกิดการตกผลึก ������������ ตกผลกึ เปน็ รปู เรขาคณิตทอ่ี นภุ าคเปน็ ระเบยี บ - ควรเลือกตัวทาละลายทีเ่ หมาะสม - พิจารณาสภาพละลายไดท้ อี่ ณุ หภมู ิต่างๆ

การโครมาโทกราฟแี บบกระดาษ เเยกของเหลวปรมิ าณน้อยมากๆ ใช้ตรวจสอบชนดิ องคป์ ระกอบ ������EX ; แยกองคป์ ระกอบของหมกึ ปากกา กระดาษ รอเวลาให้สาร เคลือ่ นท่ี สารละลาย ทที่ ดสอบ ตัวทาละลาย องคป์ ระกอบของสารท่ที ดสอบ นาสารละลายที่จะทดสอบ มกี ารเคลื่อนที่ ไปจมุ่ ลงในตัวทาละลาย

การโครมาโทกราฟแี บบกระดาษ (ตอ่ ) ⭐️หลักการ การละลายเเละการดูดซับ ⭐️ต้องมีคณุ สมบตั ิ 1. ละลายในตัวทาละลายได้ไมเ่ ทา่ กนั 2. ดดู ซับได้ไมเ่ ทา่ กัน 3. เคล่อื นทไ่ี ด้ไมเ่ ท่ากัน : ถา้ องค์ประกอบเคล่อื นทีไ่ ด้ใกล้เคยี งกนั ไม่เเยกจากกัน สามารถแยกไดโ้ ดย •เปลีย่ นชนิดตัวทาละลาย •เพิ่มระยะการเคล่ือนท่ี

การโครมาโทกราฟแี บบกระดาษ (ตอ่ ) ระยะทาง ������สาร B เคล่ือนทไี่ กลทสี่ ุด ละลายดี ดูดซบั ไมด่ ี ������สาร A เคลื่อนทใ่ี กล้สุด ละลายไมด่ ี ดูดซบั ดี : ค่า RF - ค่าเฉพาะตัวของสาร - ขึ้นอยกู่ บั ชนดิ ของตวั ทาละลายเเละตัวดดู ซับ คานวณได้จาก ������������ RF = ระยะทางที่สารเคลอื่ นท่ี ระยะทางท่ตี ัวทาละลายเคล่ือนท่ี

การโครมาโทกราฟีแบบกระดาษ (ต่อ) ������ข-อ้เเยดกีสารนอ้ ยๆ ได้ -ใช้ประโยชนด์ ้านปรมิ าณ ด้านคณุ ภาพ มาวเิ คราะหไ์ ด้ -เเยกได้ท้งั สารมสี ี เเละไม่มีสี ������ขอ้ จากัด -ถา้ องค์ประกอบเคลื่อนทไ่ี ด้เทา่ กนั จะเเยกไมไ่ ด้ หรอื แยกได้ เเตไ่ ม่บริสุทธ์ิ

กจิ กรรมท่ี 6.3 แยกสารโดยวิธีโครมาโทกราฟี แบบกระดาษได้อย่างไร วิธีการดาเนนิ กิจกรรม 1. ตัดกระดาษกรองขนาด 2 × 8 cm. 2 แผ่น 2. ใชด้ นิ สอขดี เส้นบนกระดาษ โดยวดั ข้นึ มาจากดา้ นล่าง 1 cm. 5 cm. 3. ใช้ดินสอนขดี เส้นบนกระดาษอีกครั้ง โดยวดั ตอ่ จากขีดเดมิ ดา้ นลา่ งขึ้นมา 5 cm. 4. ใช้ปากกาเมจิกจดุ สีบนกระดาษกรองให้ไดจ้ ุดสเี ขม้ ขนาดเลก็ 2 สี ทั้งสองแผ่น 5. รินนา้ ลงในบกี เกอร์ท่ี 1 วัดให้มรี ะดบั ความสูงของน้าไมเ่ กิน 1 เซนตเิ มตร 1 cm. 6. รนิ เอทานอลลงในบีกเกอรท์ ่ี 2 วัดใหม้ ีระดบั ความสูงของนา้ ไมเ่ กิน 1 เซนตเิ มตร 7. ตดิ กระดาษกรองกับฝากล่องพลาสตกิ ดว้ ยเทปกาวใส แล้วค่อย ๆ หยอ่ นกระดาษกรองใหต้ ้ังตรงอยู่ กึง่ กลางของบกี เกอรแ์ ละใหจ้ ุดสที ง้ั สองอยเู่ หนือระดบั น้าเท่า ๆ กนั 8. เมอ่ื ระดบั น้าและเอทานอลเคลอ่ื นท่ีขึน้ มาถึงขีดดนิ สอดา้ นบน นากระดาษกรองออกจากบกี เกอร์ สงั เกต และบันทึกผล

ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง ส.ี ...... ผลการแยกสีของหมึก สี.......... ภาพกระดาษ ชนดิ ของตวั ทาละลาย น้า สารละลายเอทานอล

ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง ชนิดของตวั ทา ผลการแยกสีของหมึก สนี ้าเงิน ละลาย สีดา ภาพกระดาษ น้า แยกออกเป็นองค์ประกอบทม่ี ีสฟี า้ แยกออกเป็นองค์ประกอบทม่ี สี ีฟ้า สีมว่ ง และสนี ้าตาล โดยสฟี า้ เคล่อื นท่ไี ด้ สมี ว่ ง และสนี ้าเงิน โดยสฟี ้า ระยะทางไกลท่สี ดุ รองลงมาคือสีมว่ ง เคลื่อนที่ได้ระยะทางไกลที่สดุ ส่วนสีน้าตาลเคล่อื นทไ่ี ดร้ ะยะทางน้อย รองลงมาคือสีมว่ ง สว่ นสีนา้ เงิน ท่ีสุด เคลอื่ นที่ได้ระยะทางนอ้ ยท่ีสุด สารละลายเอ เหน็ แถบสเี ป็นทางยาวบนกระดาษ เหน็ เหน็ แถบสีเปน็ ทางยาวบนกระดาษ ทานอล องค์ประกอบที่มีสมี ่วงและสนี า้ เงินอมม่วง เห็นองค์ประกอบทมี่ สี มี ว่ ง สีน้า โดยสมี ่วง เคล่ือนทไ่ี ด้ระยะทางไกลที่กว่า เงนิ และสฟี า้ โดยสีมว่ งเคล่ือนท่ี สว่ นสีนา้ เงนิ อมม่วงเคลือ่ นทไ่ี ดร้ ะยะทาง ได้ระยะทางไกลท่สี ุด รองลงมาคือ นอ้ ยกว่า สีนา้ เงนิ สว่ นสฟี า้ เคลอ่ื นท่ี ไดร้ ะยะทางน้อยทีส่ ุด

การกลั่นอย่างง่าย หรือการกลน่ั ธรรมดา เปน็ การแยกตัวทาละลายท่เี ปน็ ของเหลวในสารละลาย ซงึ่ มีตัวทาละลายและตัวละลายทีม่ จี ดุ เดือดตา่ งกนั มากๆ (อย่างนอ้ ย 20 องศาเซลเซียสข้ึนไป) เทอรม์ อมิเตอร์ ⚗️ทาไดโ้ ดยใหค้ วามร้อนแกส่ ารละลาย กอ้ นกรวด ผา้ ขาวบางชุบน้า สารละลายจุนสี ⭐️หลักการ น้า - ของเหลวท่ีมีจดุ เดือดตา่ กวา่ จะเดอื ดกลายเป็นไอ - เม่ืออุณหภูมลิ ดลง ควบแน่นกลบั เปน็ ของเหลว บริสุทธ์ิอกี คร้ัง ������EX ; การเเยกน้าออกจากจุนสี

กิจกรรมที่ 6.2 แยกสารโดยการกลัน่ อยา่ งง่ายไดอ้ ย่างไร เทอรม์ อมิเตอร์ วิธีการดาเนินกิจกรรม ก้อนกรวด ผา้ ขาวบางชบุ น้า สารละลายจุนสี 1. จดั อปุ กรณต์ ามภาพ 2. ใหค้ วามรอ้ นแก่สารละลายจนุ สใี นหลอดทดลอง ขนาดใหญ่ 3. สังเกตการเปลยี่ นแปลงของสาร อุณหภมู ิ และส่ิงทีไ่ ดใ้ นหลอดทดลองขนาดเล็ก 4. บันทกึ ผลในตารางผลการทดลอง น้า

ตารางบันทกึ ผลการทดลอง นาทีที่ อุณหภมู ิ การเปลี่ยนแปลงของสารในหลอด ลกั ษณะของสาร (°C) ทดลองขนาดใหญ่ ในหลอดทดลองขนาดเล็ก 0 2 4 6 8 10

ตารางบันทึกผลการทดลอง นาทีท่ี อณุ หภมู ิ การเปล่ยี นแปลงของสารในหลอด ลกั ษณะของสาร (°C) ทดลองขนาดใหญ่ ในหลอดทดลองขนาดเลก็ 0 28 สารละลายมสี ีฟา้ ใส ไม่พบการเปลย่ี นแปลง 2 50 สารละลายมสี ฟี า้ ใส ไมพ่ บการเปล่ยี นแปลง 4 80 มฟี องอากาศที่ด้านในหลอด ไม่พบการเปล่ยี นแปลง 6 100 สารละลายเดือด มีของเหลวใส ไมม่ ีสี 8 100 สารละลายเดอื ด ระดับของสารละลาย มีของเหลวใส ไมม่ ีสี ลดลง ปริมาณมากขน้ึ 10 100 สารละลายเดือด ระดบั ของสารละลาย มขี องเหลวใส ไมม่ สี ี ลดลง ปริมาณมากขึ้น

การกล่ันลาดบั สว่ น เทอรม์ อมเิ ตอร์ เป็นการแยกตัวทาละลายทีเ่ ปน็ ของเหลวในสารละลาย นา้ ระเหยออก ซง่ึ มตี วั ทาละลายและตัวละลายทม่ี ีจุดเดือดใกล้เคยี งกนั เคร่ืองควบเเน่น ⚗️ทาไดโ้ ดยใหค้ วามร้อนแกส่ ารละลาย นา้ ระเหยออก หอกล่นั 1. เเยกสารทร่ี ะเหยง่ายทง้ั คู่ น้า+เอทานอล 2. ควบเเน่นทีอ่ ณุ หภมู ติ า่ งกัน เอทานอล ใหค้ วามร้อน

ตวั อยา่ งการกล่ันลาดับสว่ น : การกลั่นนา้ มนั ดิบ อาศยั หลกั การท่อี งค์ประกอบในน้ามันดบิ เดือด และควบแน่นทอี่ ุณหภูมิแตกตา่ งกนั องค์ประกอบใน นา้ มนั ดบิ ทีม่ จี ดุ เดือดตา่ ท่สี ดุ จะควบแนน่ ออกมาท่ี ส่วนบนสุดของหอกลั่น และองค์ประกอบของน้ามันดิบ ทม่ี ีจดุ เดอื ดสงู สุดจะควบแน่นออกมาทส่ี ่วนล่างสุดของ หอกลนั่ โดยแตล่ ะส่วนนาไปใชป้ ระโยชน์ต่างกนั ������จุดเดือดต่าสดุ อยูบ่ นสุด ������จุดเดือดสงู สุด อยู่ล่างสดุ

จบหน่วยที่ 6 Thank you


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook