Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 3 ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย

หน่วยที่ 3 ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย

Published by KruNang, 2022-08-22 14:40:13

Description: หน่วยที่ 3 ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย

Search

Read the Text Version

������ หนว่ ยยอ่ ยทสี่ าคญั ของสมองและไขสนั หลงั ได้แก่ เซลลป์ ระสาท (neuron หรอื nerve cell) ซงึ่ มอี ยูม่ ากมายหลายพันล้านเซลล์ เซลล์ประสาทประกอบด้วย • ตัวเซลล์ (cell body) : ประกอบด้วย ไซโทพลาซมึ และนวิ เคลยี ส • ส่วนที่ย่ืนออกมาจากตัวเซลลท์ เี่ รียกว่า เส้นใยประสาท (nerve fiber) สว่ นเส้นใยประสาทมี 2 ชนิด คือ • เดนไดรต์ (dendrite) : รับกระแสประสาท • แอกซอน (axon) : สง่ กระแสประสาท

������ ประเภทของเซลล์ประสาท เซลลป์ ระสาทแบง่ ออกตามหนา้ ที่ไดเ้ ปน็ 3 ชนิด คือ 1. เซลลป์ ระสาทรับความรู้สกึ (sensory neuron) - รับข้อมูลจากสง่ิ เรา้ 2. เซลลป์ ระสาทสง่ั การ (motor neuron) - ส่งกระแสประสาทไปยงั หน่วยปฏบิ ตั งิ านหรอื อวยั วะต่าง ๆ 3. เซลล์ประสาทประสานงาน (interneuron) - รบั และส่งกระแสประสาทระหวา่ งเซลล์ประสาทรับความรู้สกึ และเซลล์ประสาทสั่งการ

������ การเคลอื่ นท่ีของกระแสประสาท ⚡️การเคล่ือนท่ีของกระแสประสาทจะอยใู่ นรูปของสญั ญาณทางไฟฟ้า ซึ่งจะเคลื่อนจากเซลล์หนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึ่งระหว่างเซลล์ประสาทจะมีช่องว่างแคบ ๆ ซึ่งกระแสประสาทไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านไปได้โดยตรงต้องอาศัยสารเคมีที่สร้ างจาก บริเวณปลายแอกซอน เพื่อไปกระตุ้นให้เกิดกระแสประสาทในเซลล์ถัดไป โดยขณะท่ี กระแสประสาทเคลื่อนมาถึงบริเวณปลายแอกซอน สารเคมีดังกล่าวจะแพร่ผ่านช่องว่าง แคบ ๆ ไปยงั ปลายเดนไดรต์ของอีกเชลลห์ นง่ึ จึงทาให้เกดิ กระแสประสาทขึน้ ได้

ระบบประสาทรอบนอก สว่ นของระบบประสาททอี่ ยนู่ อกสมองและไขสันหลัง เรียกว่า ระบบประสาทรอบนอก (peripheral nervous system) ������เสน้ ประสาท ซง่ึ ได้เเก่ เส้นประสาท - เป็นสว่ นทย่ี น่ื ออกมาจากสมองและไขสันหลังและเชื่อมไปยังอวยั วะต่างๆ ของรา่ งกาย - ประกอบด้วยมดั ของเสน้ ใยประสาทหลายๆ มดั ������เส้นประสาทสมอง : 12 คู่ - ทาหน้าทร่ี ับขอ้ มูลจากอวยั วะตา่ ง ๆ แลว้ สง่ ไปยังสมองและไขสนั หลงั ������เสน้ ประสาทไขสนั หลัง : 31 คู่ - ทาหนา้ ท่รี บั กระแสประสาทจากสมองและไขสันหลังส่งไปยงั อวัยวะต่าง ๆ ของรา่ งกาย

ปฏิกริ ิยารีเฟลก็ ซ์ ปฏิกิริยาตอบสนองอย่างทันทีทันใดโดยไม่ทันไดค้ ดิ เรยี กว่า ปฏกิ ิรยิ ารีเฟล็กซ์ (reflect action) เม่อื มีสง่ิ เรา้ เช่น แสง เสียง สารเคมี การสมั ผสั มากระตนุ้ หน่วยรบั ความรสู้ ึกตาม อวยั วะรบั ความร้สู กึ ของร่างกาย เช่น ตา หู จมกู ลนิ้ ผิวกาย อาจทาให้ร่างกายแสดง ปฏิกิรยิ าตอบสนองอยา่ งใดอย่างหน่ึงออกมา ������เปน็ พฤตกิ รรมท่เี กดิ ขึ้นโดยอัตโนมัติ ������การตอบสนองทผ่ี า่ นสมองจะใชเ้ วลามากนอ้ ยต่างกัน ข้นึ อยกู่ บั ความสามารถในการตอบสนองของแตล่ ะคน

การทางานของปฏิกริ ยิ ารีเฟลก็ ซ์





เมื่อเข้าสู่วยั หนุม่ สาวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของรา่ งกายที่สามารถสังเกตได้ ⭐️เพศชาย ⭐️เพศหญิง - มเี สยี งแตกและทมุ้ ขนึ้ - มเี สยี งแหลมเลก็ - ไหลผ่ าย - เตา้ นมขยายใหญ่ข้ึน - มีหนวดเครา - สะโพกผาย - มีขนรักแร้ - มีขนรักแร้ - มขี นบรเิ วณอวัยวะเพศ - มีขนบริเวณอวัยวะเพศ - มีการสร้างอสจุ แิ ละหลง่ั นา้ อสุจิได้ - มปี ระจาเดือน

รา่ งกายของเราเปลี่ยนแปลงไดอ้ ยา่ งไร?

ระบบสืบพนั ธ์ุ

������ การสบื พนั ธุ์ คอื คุณสมบตั อิ ยา่ งหนึง่ ของสิ่งมีชีวิต เพอ่ื ดารงเผ่าพนั ธ์ุของสิง่ มีชวี ติ นัน้ ๆ ประเภทของการสืบพันธุ์ ⭐️ไม่อาศัยเพศ การเเบ่งตัว/ การเเตกหนอ่ / การสรง้ สปอร์/ การงอกใหม่ ⭐️อาศยั เพศ ใช้เซลลส์ ืบพนั ธุ์

อัณฑะและรังไขท่ าหน้าทีส่ รา้ งเซลลส์ ืบพนั ธ์ุ นอกจากนั้นยงั สร้างฮอร์โมนเพศทาหนา้ ทคี่ วบคุมการเปล่ียนแปลงของร่างกาย ฮอร์โมน ฮอรโ์ มน คือ สารเคมที ร่ี า่ งกายสรา้ งข้นึ จากเน้อื เย่ือหรือตอ่ มไร้ทอ่ และถกู ลาเลียงไปยังส่อู วัยวะเป้าหมาย เพ่อื ทาหน้าท่คี วบคมุ การทางานของระบบต่าง ๆ ในรา่ งกาย เชน่ ระบบสืบพันธุ์ ระบบขับถา่ ย

������ การมีฮอรโ์ มนเพศ จะทาให้อวัยวะในระบบสืบพนั ธุ์มีการพัฒนาและสามารถสืบพันธ์ุได้ ������ฮอรโ์ มนท่สี ง่ ผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงในเพศชาย คอื - เทสโทสเทอโรน (testosterone) ������ฮอรโ์ มนที่สง่ ผลต่อการเปลี่ยนแปลงในเพศหญิง คอื - อีสโทรเจน (estrogen) - โพรเจสเทอโรน (progesterone)

ระบบสบื พนั ธุ์เพศชาย ประกอบด้วยอวยั วะที่สาคญั ได้แก่ ทอ่ นาอสจุ ิ ต่อมสรา้ งน้าเล้ยี งอสจุ ิ ทอ่ ปสั สาวะ ต่อมลกู หมาก องคชาติ ต่อมคาวเปอร์ อณั ฑะ หลอดเก็บอสุจิ ถุงอัณฑะ

อัณฑะ (testis) ทาหน้าที่สร้างอสุจิ ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ อสุจิที่สร้างขึ้นจะ ถูกส่งไปเก็บไว้ที่หลอดเก็บอสุจิ เพื่อให้อสุจิเจริญเติบโตเต็มที่ อสุจิจะเคลื่อนที่จากหลอด เก็บอสุจิไปตามหลอดนาอสุจิ ในระหว่างการเคลื่อนที่จะมีของเหลวที่สร้างจากต่อมหลาย ชนดิ ไดแ้ ก่ ของเหลวจากตอ่ มสร้างน้าเลย้ี งอสุจิสาหรับเป็นอาหารของอสุจิ ของเหลวจาก ต่อมลูกหมาก มีเพื่อปรับสภาพความเป็นกรดในช่องคลอดของเพศหญิงให้เป็นกลาง และ ของเหลวจากต่อมคาวเปอร์ซึ่งช่วยหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธุ์ ของเหลวจากต่อมดังกล่าว จะรวมกบั อสจุ ิเรยี กวา่ น้าอสุจิ แลว้ จะเคล่ือนทีไ่ ปตามทอ่ ปัสสาวะในองคชาติ และหลั่งออก สูภ่ ายนอกรา่ งกาย

ระบบสืบพนั ธ์ุเพศหญิง ประกอบด้วยอวัยวะที่สาคญั ได้แก่ เยอ่ื บมุ ดลูก ทอ่ นาไข่ รงั ไข่ มดลูก ปากมดลูก ช่องคลอด

รังไข่ (ovary) มีอยู่ 2 ข้าง แต่ละข้างอยู่ใกล้กับปลายของท่อนาไข่ ที่มี ลักษณะเป็นปากแตร รังไข่ทาหน้าที่สร้างเซลล์ไข่ ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย เมื่อเกิดการตกไข่ เซลล์ไข่จะเคลื่อนที่จากรังไข่ ไปตามท่อนาไข่ ซึ่งมีปลายข้าง หนึ่งเปิดเข้าสู่มดลูก มดลูกมีผนังหนา ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อด้าน ใน ซึ่งสามารถแบ่งตัวได้ เพื่อรอรับการฝังตัวของเอ็มบริโอ ส่วนบริเวณท่ี มดลูกตดิ ตอ่ กับชอ่ งคลอด เรยี กว่า ปากมดลูก

ประจาเดือน เพศหญิงเมอื่ เขา้ สวู่ ยั เจรญิ พันธ์ุ (11-15ป)ี จะมปี ระจาเดือน (menstruation) เกิดขนึ้ เป็นรอบ ๆ เรียกวา่ รอบเดือน ������แต่ละรอบเดอื นใชเ้ วลาประมาณ 28 วัน ������ในแตล่ ะรอบเดือนจะมีประจาเดอื นออกมาประมาณ 3-5 วนั ������ไขจ่ ะตกก่อนประจาเดอื นมา 14 วนั (คนท่มี ีรอบเดือนปกติ) ประจาเดือนท่ีออกมาแตล่ ะรอบเดือน คอื ผนงั มดลกู ชน้ั ในท่หี นาขนึ้ ในระหวา่ งรอบเดือน ที่หลุดลอกออกมาพรอ้ มกับเลอื ดทางช่องคลอด ������ปวดประจาเดอื น เพราะ มดลกู บบี ตัว เพือ่ ขบั ผนังมดลกู ที่หนาข้นึ จากการเตรียมใหไ้ ขม่ าฝงั

ประจาเดอื น

การปฏิสนธิ ⭐️ เมอ่ื เซลล์ไขเ่ กดิ การปฏิสนธิ (fertilization) กบั อสุจิ นิวเคลยี สของอสุจิจะเข้าไปรวมกับนิวเคลียสของเซลล์ไข่ เกิดเป็นเซลล์ ที่เรยี กว่า ไซโกต (zygote) ⭐️ จากนน้ั ไซโกตจะเพมิ่ จานวนเซลล์ โดยการแบง่ เซลล์ จาก 1 เซลล์ เป็น 2 เซลล์ จาก 2 เซลล์ เปน็ 4 เซลล์ และเพมิ่ ขน้ึ แบบทวีคณู จนกลายเปน็ กลมุ่ เซลล์ เรียกว่า เอ็มบรโิ อ (embryo)

ขณะทารกอยู่ในครรภม์ ารดา ������น้าคร่า - ช่วยปอ้ งกนั อนั ตราย ปรบั อุณหภมู ิ ������รก - ทางผ่านอาหาร อากาศของทารกจากมารดา ������สายสะดือ - เชอื่ มตอ่ ระหวา่ ง รก เเละทารก

������������������������ แฝดเเท้ • ไข่ + อสุจิ (อย่างละ 1) • เพศเดยี วกันเสมอ • ลักษณะทางพนั ธุกรรมเหมอื นกนั • ใช้รกเดียวกัน ������������������������ แฝดเทียม • ไข่ + อสจุ ิ (มากกว่า 1) • เพศเดยี วกัน หรอื คนละเพศก็ได้ • ลกั ษณะทางพันธุกรรมเหมือนกนั หรอื ตา่ งกนั กไ็ ด้ • ใช้คนละรก

การคุมกาเนิด ⭐️การคุมกาเนดิ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คอื 1. การคมุ กาเนดิ ชวั่ คราว - เป็นการปอ้ งกันการตั้งครรภ์ในช่วงเวลาท่ีไมพ่ รอ้ มจะมีบุตร - สามารถกลับมาตั้งครรภ์เมอ่ื หยุดการคุมกาเนิด 2. การคมุ กาเนิดถาวร - เป็นการป้องกนั การตงั้ ครรภถ์ าวร - ไม่สามารถมีบตุ รอีกได้

1. การคมุ กาเนิดชั่วคราว การคมุ กาเนดิ ชว่ั คราว แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท คือ ������ 1.1 การคมุ กาเนดิ ดว้ ยวิธีธรรมชาติ โดยการมีเพศสมั พันธเ์ ฉพาะในชว่ งระยะ 7 วัน กอ่ นมีประจาเดอื นวนั แรก ซึ่งเป็นชว่ งท่เี ซลล์ไขส่ ลายตวั และระยะหลงั จากมีประจาเดอื นวนั แรกต่อไปอกี 7 วัน ซึง่ เปน็ ชว่ งท่ียังไมม่ กี ารตกไข่ อยา่ งไรก็ตาม วธิ ีการน้ีใช้ได้กบั ผหู้ ญงิ ทีม่ ีประจาเดอื นตรงเวลาและสมา่ เสมอ และมโี อกาสผิดพลาดได้สงู

������ 1.2 การคุมกาเนดิ โดยใช้ฮอรโ์ มน การคุมกาเนิดโดยใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ที่เลียนแบบ ยาเมด็ คมุ กาเนิด ฮอรโ์ มนเพศหญงิ เช่น ยาเมด็ คุมกาเนิด ยาเม็ดคุมกาเนิด ฉกุ เฉนิ ยาฝังคุมกาเนดิ เปน็ การคมุ กาเนดิ ทที่ าให้ปริมาณ ฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่งผลต่อ การเจรญิ เติบโตของเซลล์ไขแ่ ละการตกไข่ ������ 1.3 การคุมกาเนดิ โดยใชอ้ ปุ กรณ์ ถุงยางอนามยั การคมุ กาเนดิ โดยใช้อปุ กรณ์ ไดแ้ ก่ การใชถ้ งุ ยางอนามัย ซึ่งเป็นการคุมกาเนิดที่ป้องกัน ไม่ให้อสุจิเข้าไปปฏิสนธิกับเซลล์ไข่ การใช้ห่วงอนามัยโดยแพทย์จะเป็นผู้สอดเข้าไปใน มดลูกทาใหโ้ พรงมดลูกของเพศหญิงมีสภาพไม่เหมาะแก่การฝงั ตัวของเอ็มบรโิ อ

1. การคมุ กาเนิดถาวร การคุมกาเนดิ ถาวร หรอื การทาหมนั ������เพศชาย ทาไดโ้ ดยผกู และตัดหลอดนาอสจุ ิใหแ้ ยกออกจากกัน เพ่อื ปอ้ งกันไม่ใหอ้ สจุ ิ ออกมาพร้อมกบั น้าอสุจิ ������เพศหญิง ใชว้ ิธกี ารผกู และตัดทอ่ นาไข่ท้ัง 2 ข้าง เพอ่ื ปอ้ งกันเซลล์ไข่เคล่ือนท่ีไป ปฏสิ นธกิ ับอสุจใิ นทอ่ นาไข่

วเิ คราะหส์ ถานการณ์ สถานการณท์ ี่ 1 : สามีภรรยาคหู่ น่ึงกาลงั มีความก้าวหน้าในหนา้ ทกี่ ารงานจงึ ยังไมพ่ รอ้ มที่ จะมีบุตรในช่วงน้แี ละวางแผนทจ่ี ะมีบุตรในอกี 3 ปีข้างหน้า คู่สามภี รรยาคู่น้ี ภรรยาสามารถใช้ยาคุมกาเนิด สว่ นสามอี าจใชถ้ ุงยางอนามยั ในการ คมุ กาเนดิ ขอ้ ดีของการคมุ กาเนดิ แบบน้ี คือ เมือ่ หยุดการคมุ กาเนิดก็สามารถมีบุตรได้ และในกรณีที่ ใชถ้ งุ ยางอนามยั ในการคุมกาเนิด ขอ้ ดีคอื มปี ระสทิ ธภิ าพในการคมุ กาเนิดสูง ถ้าปฏิบตั ิถูกตอ้ ง และ ไม่มผี ลขา้ งเคียง ช่วยปอ้ งกนั โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ ข้อจากดั คอื อาจเกดิ อาการแพ้ ล่ืนหลดุ หรอื ฉีกขาดถา้ ฉีกซองถงุ ยางโดยไม่ระมดั ระวงั สว่ นการคมุ กาเนิดโดยการใชย้ าคมุ กาเนิด ข้อดีคอื เหมาะ กบั ผทู้ ่ไี มช่ อบการคมุ กาเนดิ โดยวธิ ีสวมถงุ ยางอนามยั หรอื ฝงั ยาภายในรา่ งกาย ขอ้ จากัดคอื จะต้อง รับประทานยาในชว่ งเวลาท่กี าหนดไว้อย่างสมา่ เสมอ การคมุ กาเนิดจึงจะมปี ระสิทธภิ าพ

วเิ คราะห์สถานการณ์ สถานการณท์ ่ี 2 : สามีภรรยาคู่หนึ่งแต่งงานมา 15 ปมี ีบตุ ร 3 คนและไม่ตอ้ งการมบี ตุ ร เพ่ิมอกี คสู่ ามีภรรยาคู่ไม่อยากมบี ุตรเพม่ิ สามารถเลือกวธิ กี ารทาหมนั ถาวร ซึ่งสามารถเลือกใหส้ ามีทา หมนั ถาวร หรือภรรยาทาหมนั ถาวร หรือทาหมันทงั้ คู่ ขอ้ ดีของการทาหมันถาวร คอื การคุมกาเนิดมี ประสิทธภิ าพสงู ที่สุด ได้ผลดเี กอื บ 100% ขอ้ จากดั คือผูห้ ญงิ จะมีแผลเปน็ ท่ีหนา้ ทอ้ ง

การช่วยใหม้ ีบตุ รงา่ ย ⭐️การชว่ ยให้มีบุตรงา่ ย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื 1. การทากฟิ ท์ : GIFT - ฉดี อสจุ เิ ข้าไปในท่อนาไข่ เเล้วใหป้ ฏสิ นธกิ ันเอง (ไข่+อสจุ ิ อาจไม่ปฏสิ นธกิ นั ) 2. การทาเด็กหลอดแกว้ - นาไขเ่ เละอสจุ ิมาผสมในจานทดลองจนกลายเป็นตัวออ่ น - หลงั จากนนั้ นาไปฝงั ในโพรงมดลกู เพศหญิง (ไข่+อสุจิ ปฏสิ นธิกันเเลว้ )

จบหน่วยท่ี 3


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook