คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัส พว 21001 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเล่มน้ี จัดทาข้ึน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ สาหรับนักศึกษา กศน. ในการจัดทาแผนการเรียนรู้ครั้งนี้ ได้วิเคราะห์ ความยากง่ายของเนื้อหาจากผังข้อสอบ กาหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้มีความรู้ มีทักษะ มเี จตคติท่ีดี และมคี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ท่ผี เู้ รยี นไดร้ ับจากการเรยี นรู้ ตามกระบวนการท่ีกาหนดในแผน แผนจดั การเรียนรู้เลม่ นี้ ประกอบดว้ ยคาอธบิ ายรายวชิ า แผนจดั การเรียนร้แู บบรายวชิ า ใบความรู้ ใบ งาน แบบบันทึกความรู้ แบบฝึกหัดและแบบทดสอบ คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อครู กศน. และผู้เกี่ยวข้อง หากมี ข้อผดิ พลาดประการใดขอรบั คาเสนอแนะเพอ่ื ปรับปรงุ และพฒั นาต่อไป คณะผจู้ ัดทา
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ ภำคเรียนท่ี 1 ปกี ำรศึกษำ 2564 ระดบั มธั ยมศึกษำตอนตน้ กศน.ตำบลเกำะชำ้ ง อำเภอเกำะชำ้ ง จงั หวัดตรำด ครัง้ ท่ี 1 สัปดำห์ที่ 1 วนั ท.่ี ...............เดือน........................................พ.ศ.......................เวลำ.............................. สำระวชิ าพ้ืนฐาน วิชำ วทิ ยำศำสตร์ รหัสวิชำ (พว21001) จำนวน………4…………….หนว่ ยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ มำตรฐำนที่ 2.2 มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเกีย่ วกบั คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยกำรเรยี นรู้ 1. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. อาชีพช่างไฟฟ้า 1. สำระสำคญั 1.1 อธบิ ายธรรมชาติและความสาคัญของวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ วิธกี ารวิทยาศาสตร์ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1.2 เลือกใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ทางวิทยาศาสตร์ได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสมและนาความรูไ้ ปเลือกใชเ้ ทคโนโลยี อย่างเหมาะสม 1.3 บอกประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้ 1.4 อธิบายแนวทางและการวางแผนทาโครงงานได้ 1.5 เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสยี ของการตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม แบบขนาน และแบบผสมได้ 1.6 เลือกใชก้ ารออกแบบการติดตั้งอุปกรณไ์ ฟฟ้าภายในบ้านได้อย่างเหมาะสม 1.7 อธิบายการใช้อปุ กรณ์ในการประกอบอาชีพช่างไฟฟ้าได้อยา่ งถูกต้อง 2. เนอื้ หำ 2.1 อธิบายกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วธิ กี ารวทิ ยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางเลือกใช้วัสดุ อปุ กรณ์ทางวทิ ยาศาสตร์ได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม 2.2 อาชพี ช่างไฟฟา้ การออกแบบการตดิ ตัง้ อปุ กรณ์ไฟฟ้าภายในบา้ นไดเ้ หมาะสม วสั ดอุ ุปกรณทใี่ ชในวงจร ไฟฟา 3. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู/้ ผลกำรเรยี นรู้ทค่ี ำดหวงั 3.1 อธิบายธรรมชาตแิ ละความสาคญั ของวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ วิธีการวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3.2 เลือกใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ทางวิทยาศาสตรไ์ ด้อย่างถูกต้องเหมาะสมและนาความรู้ไปเลือกใช้เทคโนโลยี อยา่ งเหมาะสมบอกประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตรไ์ ด้
3.3 อธิบายแนวทางและการวางแผนทาโครงงานได้ 3.4 เปรยี บเทียบข้อดี ข้อเสยี ของการตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบอนกุ รม แบบขนาน และแบบผสมได้ 3.5 เลอื กใช้การออกแบบการติดตั้งอปุ กรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านได้อยา่ งเหมาะสม 3.6 อธิบายการใช้อปุ กรณ์ในการประกอบอาชีพช่างไฟฟ้าได้อย่างถกู ต้อง 4. กระบวนกำรจดั กำรเรียนร้แู ละกิจกรรมเพม่ิ เติม 4.1 ขนั้ นำ 4.1.1 แบง่ กล่มุ ให้ผ้เู รียนเล่นเกมห่วงภาพลวงตา เพ่ือเป็นการละลายพฤตกิ รรม เพ่ือฝึกทกั ษะ การสังเกต การทดลอง และการแก้ปัญหา 4.1.2 ครแู จ้งวตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1.3 ครแู ละผู้เรียนร่วมกนั สรา้ งความเขา้ ใจกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เจตคติทาง วทิ ยาศาสตร์ จิตวิทยาศาสตร์ และอาชพี ชา่ งไฟฟ้า 4.1.4 ครูและผ้เู รียนร่วมกันกาหนดความตอ้ งการในการเรียนรู้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การทาโครงงาน และอาชีพช่างไฟฟ้า โดยการนาความรมู้ าใช้ในชีวิตประจาวันและนาเสนอในการพบกล่มุ 4.2 ขนั้ สอน 4.2.1 แบง่ ผู้เรียนออกเป็นกลุ่มละ ๆ 3 - 5 คน 4.2.2 ครใู ห้ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 4.2.3 ครูสอบถามผูเ้ รยี นเกี่ยวกบั ความรู้พืน้ ฐานเรอ่ื ง กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และอุปกรณ์ ทางวทิ ยาศาสตร์ 4.2.4 ครูเปิดคลิปวีดโี อ จาก You Tube เรอื่ งกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และอปุ กรณ์ทาง วทิ ยาศาสตร์ https://www.youtube.com/watch?v=vGZxfRNlpBU
4.2.5 ครูและผูเ้ รยี นแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ โดยใช้คาถามปลายเปดิ ในการชวนคดิ เพ่ือให้รว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เรื่องกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และอปุ กรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ทไี่ ด้ชมจากคลปิ วีดีโอ 4.2.6 ครูใหผ้ ู้เรยี นดูคลปิ วีดโี อ จาก You Tube เร่อื งขนั้ ตอนการทาโครงงาน https://youtu.be/dKrcKqkbqIc 4.2.7 ครใู หผ้ เู้ รยี นทแี่ บ่งกลุ่มเล่นเกมส์ โดยการ scan Qr coed เรอื่ งอุปกรณ์ปริศนา https://drive.google.com/file/d/ 1hnE-EuRoD-UJ33DCAVzhGWfaJ6v7oKTh/view?usp=sharing 4.2.8 ครใู หผ้ เู้ รยี นสรปุ ความร้ทู ่ีไดจ้ ากการดูคลปิ วีดโี อ พร้อมจับฉลากเป็นตวั แทนในการ นาเสนอหน้าชัน้ เรยี น 4.2.9 ครูให้ผ้เู รยี นทาใบงาน เรอื่ งกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และอุปกรณท์ างวทิ ยาศาสตร์ 4.2.10 ครสู อบถามผู้เรยี นเกย่ี วกับความรู้พน้ื ฐานเก่ียวกับอาชพี ช่างไฟฟา้ และใชอ้ ปุ กรณ์ในการ ประกอบอาชีพช่างไฟฟา้
4.2.11 ครใู ห้ผู้เรียนศึกษาสอื่ การเรียนเร่อื ง อาชีพช่างไฟฟ้า และคลปิ วดี โี อ จาก You Tube เรอ่ื ง การต่อวงจรไฟฟ้า อาชพี ชา่ งไฟฟา้ http://xn--72cahb0gaya3b8ioadbf3x7bhp.blogspot.com/2017/04/blog-post.html การตอ่ วงจรไฟฟ้า https://www.youtube.com/watch?v=iHC2mjmhDJo&t=6s 4.2.12 ครใู หผ้ ้เู รียนฝกึ ทักษะการตอ่ วงจรไฟฟ้าดว้ ยการเล่นเกมส์ การต่อวงจรไฟฟา้ https://drive.google.com/file/d/ 1ruyX4dnFgxf6JDSyBmpou1FE_JSXToRj/view?usp=sharing 4.2.13 ครใู ห้ผู้เรยี นสรุปความรูท้ ่ีได้จากการดูคลิปวีดีโอ พร้อมจบั ฉลากเป็นตัวแทนในการ นาเสนอหน้าช้ันเรียน
4.2.14 ครูให้ผู้เรียนทาใบงาน เรอื่ งอาชีพชา่ งไฟฟา้ 4.2.15 ครูให้ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ขนั้ สรุป 4.3.1 ครูและผเู้ รยี นร่วมสรปุ ความรู้ เรือ่ งกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และอปุ กรณ์ทาง วิทยาศาสตร์ ผเู้ รียนคน้ คว้าหาข้อมูลเพ่ิมเติมในห้องสมุดหรืออินเทอร์เนต็ ผู้เรยี นแตล่ ะกลมุ่ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ซ่งึ กันและกัน 4.3.2 ครแู ละผู้เรียนร่วมสรุปความรเู้ รือ่ ง อาชีพช่างไฟฟา้ 4.3.3 ครูและผู้เรยี นรว่ มกันอภปิ ราย เรือ่ งความปลอดภยั ในการปฏิบัติงานของชา่ งไฟฟา้ ทสี่ ามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ 5. สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้ 5.1 สื่อการเรยี นออนไลน์ 5.2 VDO 5.3 ใบงาน 5.4 แบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรียน แบบทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี น ใบงาน https://drive.google.com/file/d/1_ZGllP6nAz https://drive.google.com/file/d/1tGWawk0vx gG3w6zJs0eYtT9UVjYUCtI/view?usp=sharing RtYfJsMktj6bk1nLp1hkfVu/view?usp=sharing 6. กำรวดั และประเมนิ ผล 6.1 ผูเ้ รยี นทาใบงาน 6.2 ผ้เู รียนทาแบบทดสอบ
7. เกณฑ์กำรวดั เคร่อื งมอื กำรวัดผล เกณฑ์กำรประเมินผล กำรวัดตำมจุดประสงค์ ถาม-ตอบ มีความรูค้ วามเขา้ ใจในการเรียนรู้ รอ้ ยละ 50 ขน้ึ ไป ความรู้ (Knowledge) สามารถเข้าใจเน้ือหา และตอบ คาถาม ทาใบงาน ร้อยละ 50 ขน้ึ ทกั ษะ (Skill) -ใบงาน ไป เจตคติ (Attitude) -แบบทดสอบ -ผลจากงานกลมุ่ ผูเ้ รียนรอ้ ยละ 50 ขนึ้ ไป มสี ่วน -การนาเสนอหน้าชั้นเรยี น ร่วมในการอภปิ รายและเปลยี่ น -การมีส่วนร่วมในการอภปิ ราย ความคิดเห็น แลกเปลีย่ นความคิด -ความรบั ผิดชอบของงาน -การสงั เกตพฤติกรรม
แบบประเมินผลกำรสังเกตพฤติกรรมกำรทำงำนรว่ มกับผู้อนื่ ของผเู้ รียนรำยบคุ คล กลุม่ ท.ี่ ................ ⌂ โครงงาน ⌂ โครงการ ⌂ รายงาน เรอื่ ง..........................................วชิ า..............................ระยะเวลาในการทา วันท.ี่ ...............ถงึ วนั ท.่ี ................. จานวนสมาชิกกลมุ่ ................................คน ภาคเรียนท่.ี ......................................กศน.ตาบล............................ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ คาชี้แจง ครูผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมการทางานร่วมกันของผเู้ รียน แล้วทาเคร่อื งหมาย ∕ ลงในชอ่ งทต่ี รงกับความ เปน็ จริง เกณฑ์การให้คะแนน 3 หมายถงึ ให้ความร่วมมือทุกคร้งั ระดับดี เกณฑ์การให้คะแนน 2 หมายถึง ใหค้ วามร่วมมือบ้างครั้ง ระดับพอใช้ เกณฑ์การให้คะแนน 1 หมายถงึ ไมใ่ ห้ความรว่ มมือ ระดบั ตอ้ งปรบั ปรุง ท่ี พฤติกรรม การ การวางแผน ความริเรม่ิ การ การมีสว่ น รวม ระดับ มอบหมาย สรา้ งสรรค์ ช่วยเหลือ ร่วมในการ 15 คุณ เก้อื กลู อภปิ ราย คะแนน ภาพ งาน/ แบง่ งาน ชอื่ -สกุล 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 4 5 รวม เกณฑก์ ำรประเมิน 1. ไดค้ ะแนน 10 -15 มีพฤติกรรมการอยรู่ ว่ มกับผู้อ่นื อยู่ในระดับ ดี 2. ไดค้ ะแนน 5-9 มพี ฤติกรรมการอยรู่ ว่ มกับผอู้ น่ื อยใู่ นระดบั พอใช้ 3. ไดค้ ะแนน 1-4 มพี ฤติกรรมการอยรู่ ่วมกับผู้อน่ื อยู่ในระดบั ควรปรบั ปรงุ ลงชือ่ .....................................................ผู้ประเมนิ (...................................................) หมำยเหตุ แบบประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมการทางานร่วมกับผู้อ่นื ของผเู้ รียนรายบคุ คล สามารถ เปลีย่ นแปลงได้ตามความเหมาะสมของแตล่ ะสถานศึกษา
บันทกึ หลังกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ กศน.ตำบลเกำะช้ำง อำเภอเกำะช้ำง จงั หวดั ตรำด ครงั้ ท่ี 1 สปั ดำห์ท.่ี .............................วนั ......................เดือน..........................พ.ศ............................ ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนต้น สำระวิชำพนื้ ฐำน วิชำ วิทยำศำสตร์ รหัสวชิ ำ พว 21001 เนื้อหำ/สำระท่ีสอน ............................................................................................................................. ......................................... .......................................................................................... ............................................................................ ............................................................................................................................. ......................................... ........................................................................................................................................... ........................... ............................................................................................. .................................................................... ... กิจกรรมกำรเรยี นกำรสอน ............................................................................................................................. ......................................... .................................................................................................................................... .................................. ................................................................................................. ..................................................................... ........................................................................................................... ........................................................... ปญั หำ/อุปสรรค กำรเรียนกำรสอน ............................................................................................................................. ......................................... ................................................................................. ..................................................................................... .................................................................................................................. ................................................... วธิ กี ำรแกป้ ัญหำ ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................... ................................................ ลงชอ่ื ..............................................ครูผสู้ อน (................................................) ควำมคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหำร ............................................................................................ .......................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ลงชอ่ื ..............................................ผ้บู ริหารสถานศึกษา (................................................)
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ภำคเรยี นที่ 1 ปีกำรศกึ ษำ 2564 ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนตน้ กศน.ตำบลเกำะชำ้ ง อำเภอเกำะช้ำง จังหวดั ตรำด ครงั้ ที่ 2 สัปดำหท์ ่ี 2 วันท.ี่ ............เดอื น...........................................พ.ศ.......................เวลำ............................ วิชำ วทิ ยำศำสตร์ รหัสวิชำ พว21001 จำนวน…………..4…………….หน่วยกติ มำตรฐำนท่ี 2.2 มคี วำมรู้ ควำมเข้ำใจ และทักษะพ้ืนฐำนเก่ียวกับคณติ ศำสตร์ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี หน่วยกำรเรยี นรู้ 1. สำระสำคญั 1.1 ลักษณะโครงสรา้ ง องคป์ ระกอบ และหน้าที่ของเซลล์ เปรียบเทยี บความแตกตา่ งระหว่างเซลล์พชื และเซลล์สัตว์ 1.2 อธบิ ายกระบวนการแพร่และออสโมซิสได้ 1.3 อธิบายโครงสรา้ งและการทางานของระบบลาเลียงน้าและระบบลาเลียงอาหารได้ 1.4 อธิบายความสาคัญและปัจจัยทีจ่ าเปน็ สาหรับกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงได้ 1.5 อธบิ ายโครงสร้างและการทางานของระบบสืบพันธข์ องพืช ระบบหายใจหรือระบบย่อยอาหารของ สัตว์ และระบบสืบพันธ์หรอื ระบบขับถ่ายในสตั วไ์ ด้ 1.6 อธิบายความสมั พนั ธ์และการถา่ ยทอดพลงั งานของส่งิ มีชีวติ ตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศ และเขยี นแผนภูมิ แสดงสายใยอาหารของระบบนเิ วศต่าง ๆ ได้ 1.7 อธบิ ายวฎั จักรของนา้ และวฎั จักรคารบ์ อนได้ 1.8 บอกองค์ประกอบและความสาคัญของช้นั บรรยากาศ ชนดิ ของลมและอทิ ธิพลของลมท่มี ีตอ่ มนษุ ย์ และส่งิ แวดล้อม 1.9 อธบิ ายกระบวนการเปลย่ี นแปลงของเปลือกโลกและผลกระทบจากการเปล่ยี นแปลงของเปลือกโลก 1.10 อธิบายความหมาย ความสาคญั ของอุณหภูมิ ความช้ืน และความกดอากาศได้ 1.11 อธบิ ายเกีย่ วกับปญั หาการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มและการอนุรักษ์ และวิธีการปอ้ งกนั ภัยทีเ่ กดิ จากปรากฎการณ์ทางธรรมชาตไิ ด้ 2. เน้ือหำ 2.1 อธิบายเกี่ยวกับเซลล์ กระบวนการดารงชวี ติ ของพชื และระบบต่าง ๆ ของสตั ว์ 2.2 อธบิ ายเก่ยี วกบั ความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่งิ มชี ีวิตกับสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศ การถา่ ยทอดพลงั งาน การ แกป้ ัญหา การดแู ลรกั ษาและการอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อมของท้องถน่ิ และประเทศ 2.3 อธิบายเก่ยี วกับโลกและบรรยากาศปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ การกระทาของมนษุ ย์ทีม่ ผี ลต่อการ เปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจบุ ัน การปอ้ งกันภัยทีเ่ กิดจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ
ตัวช้วี ัด 3.1 ลักษณะโครงสร้าง องคป์ ระกอบ และหนา้ ที่ของเซลล์ เปรยี บเทยี บความแตกต่างระหวา่ งเซลลพ์ ืช และเซลลส์ ัตว์ 3.2 อธบิ ายกระบวนการแพร่และออสโมซิสได้ 3.3 อธิบายโครงสร้างและการทางานของระบบลาเลยี งนา้ และระบบลาเลยี งอาหารได้ 3.4 อธบิ ายความสาคัญและปัจจยั ที่จาเป็นสาหรบั กระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงได้ 3.5 อธิบายโครงสร้างและการทางานของระบบสบื พันธข์ องพืช ระบบหายใจหรือระบบย่อยอาหารของ สตั ว์ และระบบสบื พันธ์หรือระบบขับถ่ายในสตั ว์ได้ 3.6 อธิบายความสัมพนั ธ์และการถ่ายทอดพลังงานของส่งิ มีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนเิ วศ และเขยี นแผนภูมิ แสดงสายใยอาหารของระบบนิเวศตา่ ง ๆ ได้ 3.7 อธิบายวัฎจกั รของนา้ และวัฎจกั รคาร์บอนได้ 3.8 บอกองค์ประกอบและความสาคญั ของชนั้ บรรยากาศ ชนดิ ของลมและอิทธพิ ลของลมทม่ี ีตอ่ มนุษย์ และสง่ิ แวดลอ้ ม 3.9 อธิบายกระบวนการเปลย่ี นแปลงของเปลือกโลกและผลกระทบจากการเปลีย่ นแปลงของเปลือกโลก 3.10 อธิบายความหมาย ความสาคญั ของอุณหภูมิ ความช้ืน และความกดอากาศได้ 3.11 อธิบายเก่ยี วกบั ปญั หาการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มและการอนรุ ักษ์ และวธิ กี ารป้องกัน ภัยที่เกดิ จากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติได้ 4. กระบวนกำรจดั กำรเรียนรูแ้ ละกิจกรรม 4.1 ข้นั นำ 4.1.1ทักทาย/สวัสดี กจิ กรรมกระตนุ้ ผเู้ รยี นเพลง chicken dance https://www.youtube.com/watch?v=l5sIspLfmXM 4.1.2 ครูบอกวัตถปุ ระสงค์ของการเรยี นรู้ 4.1.3 ครใู ห้ผ้เู รยี นเลน่ เกมปริศนาเรื่อง โครงสรา้ งและหนา้ ท่ขี องเซลล์ 4.1.4 ครสู นทนากับนกั เรียนเกี่ยวกับสงิ่ มชี วี ิต โดยชใี้ ห้นักเรียนเห็นว่าพืชเปน็ ส่ิงมชี ีวติ ชนดิ หน่งึ ทต่ี อ้ งการน้า และแร่ธาตุที่มีอยู่ในดินเพอ่ื ใชใ้ นการเจริญเติบโตและพืชดูดน้าและแรธ่ าตุทางราก 4.1.5 ครูให้ผู้เรียนช่วยกันยกตวั อยา่ งสง่ิ ตา่ ง ๆ ท่ีอยูใ่ นระบบนเิ วศ 4.1.6 ครนู าลกู โลกจาลองมาให้ผูเ้ รียนดู แลว้ ถามความรู้จากลกู โลกวา่ สว่ นประกอบของโลกมอี ะไรบ้าง 4.1.7 ครยู กตวั อยา่ งพดู คุยเกี่ยวกับการเกดิ ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติท่ีเกดิ ขึ้นในประเทศไทย
4.2 ขน้ั สอน+ 4.2.1 ครใู ห้ผูเ้ รียนแบง่ กลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน 4.2.2 ครนู าภาพตัวอยา่ งเซลล์พชื และเซลลส์ ัตว์มาให้ผเู้ รยี นดู แล้วครูและผ้เู รียนรว่ มกันสนทนา เก่ียวกับรูปร่างของเซลลพ์ ืชและเซลล์สตั ว์ 4.2.3 ครเู ปิด VDO ให้ผเู้ รยี นดูลักษณะโครงสร้างองคป์ ระกอบและหน้าท่ีของเซลล์ และใหผ้ ู้เรยี น ดูใบความรคู้ วบคู่กบั การฟงั ครูอธิบายลกั ษณะโครงสรา้ ง องค์ประกอบและหนา้ ที่ของเซลล์ ครูอธิบายลกั ษณะ โครงสรา้ งองคป์ ระกอบและหนา้ ท่ขี องเซลลเ์ พ่ิมเตมิ เปรียบเทียบความแตกตา่ งระหว่างเซลลพ์ ชื และเซลล์สัตว์ https://www.youtube.com/watch?v=Xv2TTtcqE38 4.2.4 ครแู จกใบความรู้ รูปภาพตวั อย่างความแตกต่างของเซลล์พืชและเซลล์สตั ว์ ผเู้ รียนสังเกต และเขยี นแผนภาพแสดงสว่ นประกอบท่สี าคัญของเซลล์พืชและเซลลส์ ตั วพ์ ร้อมบอกความแตกต่างของเซลลพ์ ืช และเซลลส์ ตั ว์ ครูและผเู้ รยี นร้องเพลง ความแตกตา่ งของเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ 4.2.5 ครเู ปดิ วดิ โี อเรื่อง กระบวนการแพร่และกระบวนการออสโมซสิ ใหผ้ เู้ รียนดู ครูแจกใบ ความรู้ท่ี เรือ่ งกระบวนการแพร่และกระบวนการออสโมซิส ใหน้ กั เรียนศกึ ษาเพิ่มเติม แลว้ ตอบคาถามในใบงาน การแพร่และการออสโมซิส https://www.youtube.com/watch?v=9mrlAGLgFtU
4.2.6 ครใู ห้ผู้เรียนศกึ ษาแผนภาพแสดงกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงของพชื กบั การหมุนเวยี น ของกา๊ ซท่สี ง่ ผลต่อส่งิ มีชีวิตและสภาพแวดล้อม แลว้ ร่วมกันวิเคราะห์ ความสาคญั ของกระบวนการสงั เคราะห์ ด้วยแสงในแง่มุมต่าง ๆ ประโยชนท์ ่ีสงิ่ มีชวี ติ ได้รบั และการรักษาสมดลุ ทางธรรมชาติในแง่การหมุนเวยี นของ กา๊ ซและแรธ่ าตุในดนิ ครูคอยช้แี นะเพิ่มเติม ครูทบทวนเรื่องการสรุปความรู้เป็นแผนผงั ความคิด ครูใหผ้ ู้เรียน เขยี นแผนผงั ความคดิ ( Concept map) เกีย่ วกบั กระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช โดยใช้ขอ้ มลู ดังนีเ้ ตมิ ในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้อง (นอกเวลาเรียน) ข้อมลู นา้ ตาลกลูโคส ก๊าซออกซเิ จน นา้ คลอโรฟลิ ส์ กา๊ ซ คาร์บอนไดออกไซด์ แสงสว่าง กระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช วตั ถุดิบ ปจั จยั จาเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ 4.2.7 ผ้เู รียนแต่ละกลมุ่ สบื ค้นข้อมลู เร่อื ง โครงสร้างของรากและกระบวนการในการลาเลียง นา้ และแร่ธาตุจากใบความรู้ เร่ือง โครงสร้างของรากและกระบวนการลาเลยี งน้าและแรธ่ าตุ 4.2.8 ครใู ห้ผเู้ รียนดู VDO เรอื่ ง การถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนเิ วศและวัฏจักรของสาร และให้ แตล่ ะกลุม่ ทาการศึกษาคน้ คว้าเกี่ยวกบั ระบบนเิ วศในท้องถ่ิน ได้แก่การสารวจสง่ิ มชี วี ติ ท่ีพบ และลกั ษณะการอยู่ อาศัยรว่ มกัน ความสัมพนั ธ์ของสงิ่ มชี ีวติ ในระบบนเิ วศแตล่ ะประเภท แลว้ ให้แตล่ ะกลุ่มนามาอภปิ รายหน้าชนั้ เรยี น https://www.youtube.com/watch?v=jls5Yc8vv_s 4.2.9 ครูผู้สอนถามรายบุคคลเกยี่ วกับการเกดิ การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ จากน้ันให้ผู้เรยี น แต่ละกลุม่ เลือกหัวข้อการเรียนรู้ ครผู สู้ อนอธบิ ายหัวข้อการทางาน กาหนดรปู แบบการนาเสนอ คือ 4.2.10 .การเปลีย่ นแปลงของเปลอื กโลก ชนดิ ของลม 4.2.11 ความสาคญั ของชนั้ บรรยากาศ ความสัมพนั ธข์ องอุณหภมู ิ ความชนื้ และความกดอากาศ 4.2.12 ปัญหาการใชท้ รัพยากรธรรมชาติการอนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม สมาชิกกลุ่มชว่ ยกนั มอบหมาย หน้าท่กี ันทาเพ่ือใหไ้ ด้คาตอบจากหวั ข้อที่ได้รับมอบหมาย
4.3 ขั้นสรปุ 4.3.1 ครูและผู้เรียนสรปุ ความรู้ เร่อื งเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์มีความแตกตา่ งกันอยา่ งไร ลงใน สมุดของตัวเอง (ร้องเพลงสรุปความแตกตา่ งของเซลล์พชื และเซลล์สตั ว)์ ทาแบบทดสอบยอ่ ย ผ้เู รียนค้นควา้ หา ขอ้ มูลเพ่มิ เติมในห้องสมุดหรืออนิ เทอร์เน็ต ผู้เรยี นแตล่ ะกล่มุ แลกเปล่ยี นเรียนรูซ้ งึ่ กันและกนั https://www.youtube.com/watch?v=iAoTQKTbqLk 4.3.2 ครแู ละผเู้ รียนสรปุ ความร้เู รื่อง กระบวนการแพร่และกระบวนการออสโมซิส 4.3.3 ครูและผเู้ รียนรว่ มกันสรปุ แผนผงั ความคดิ ( Concept map ) กระบวนการสงั เคราะห์ ดว้ ยแสงดงั น้ี กระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงของพชื วัตถดุ บิ ปจั จัยจาเป็น ผลิตภณั ฑ์ นา้ คารบ์ อนไดออกไซดด์ ์ แสงสวา่ ง คลอโรพลาสต์ นา้ กลโู คส ออกซเิ จน 4.3.4 ครแู ละผ้เู รียนรว่ มกันอภปิ รายเร่อื งระบบนเิ วศในท้องถนิ่ และสรุปองค์ความรรู้ ่วมกัน เร่อื ง ระบบนเิ วศ วัฏจักรน้า วฏั จกั รคารบ์ อน 4.3.5 ครแู ละผูเ้ รยี นร่วมกนั สรปุ เชือ่ มโยงจากทผ่ี ูเ้ รยี นนาเสนอกับเน้ือหาเรอ่ื ง โลกและการ เปล่ียนแปลงของโลก วิธีการป้องกนั ภัยที่เกิดข้ึนทางธรรมชาติ ใหค้ วามรู้เพ่ิมเตมิ 5. สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้ 5.1 ตวั อย่างภาพเซลล์พืช เซลลส์ ัตว์ 5.2 VDO 5.3 ใบความรู้ 5.4 ใบงาน 5.5 แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลังเรยี น 5.6 เกมส์
6. กำรวดั และประเมินผล 6.1 ผู้เรยี นทาใบงาน 6.2 ผเู้ รียนทาแบบทดสอบ 7. เกณฑ์กำรวัด เครอ่ื งมอื กำรวัดผล เกณฑ์กำรประเมนิ ผล กำรวดั ตำมจดุ ประสงค์ -ถาม-ตอบ มีความรู้ความเข้าใจในการเรียนรู้ ร้อยละ 50 ข้ึนไป ความรู้ (Knowledge) สามารถเข้าใจเนอื้ หา และตอบ คาถาม ทาใบงาน ร้อยละ 50 ขึน้ ทกั ษะ (Skill) -ใบงาน ไป เจตคติ (Attitude) -แบบทดสอบ -ผลจากงานกลุ่ม ผู้เรยี นร้อยละ 50 ขน้ึ ไป มสี ว่ น -การนาเสนอหนา้ ชั้นเรียน รว่ มในการอภิปรายและเปลี่ยน -การมีสว่ นรว่ มในการอภิปราย ความคิดเห็น แลกเปล่ียนความคิด -ความรบั ผิดชอบของงาน -การสังเกตพฤติกรรม
แบบประเมินผลกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรว่ มกับผู้อน่ื ของผ้เู รยี นรำยบคุ คล กล่มุ ที.่ ................ ⌂ โครงงาน ⌂ โครงการ ⌂ รายงาน เรอ่ื ง..........................................วชิ า..............................ระยะเวลาในการทา วนั ท.่ี ...............ถงึ วันท.่ี ................. จานวนสมาชกิ กลมุ่ ................................คน ภาคเรียนท.่ี ......................................กศน.ตาบล............................ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ คาชีแ้ จง ครูผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมการทางานรว่ มกนั ของผู้เรยี น แล้วทาเครอ่ื งหมาย ∕ ลงในช่องทต่ี รงกบั ความ เป็นจริง เกณฑ์การให้คะแนน 3 หมายถงึ ใหค้ วามร่วมมือทุกครั้ง ระดับดี เกณฑ์การให้คะแนน 2 หมายถงึ ใหค้ วามรว่ มมือบ้างครั้ง ระดบั พอใช้ เกณฑ์การให้คะแนน 1 หมายถึง ไมใ่ หค้ วามรว่ มมือ ระดบั ต้องปรับปรุง ท่ี พฤติกรรม การ การวางแผน ความริเริม่ การ การมีส่วน รวม ระดบั มอบหมาย สรา้ งสรรค์ ชว่ ยเหลือ ร่วมในการ 15 คุณ เก้ือกูล อภิปราย คะแนน ภาพ งาน/ แบง่ งาน ช่ือ-สกลุ 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 4 5 รวม เกณฑ์กำรประเมนิ 4. ไดค้ ะแนน 10 -15 มีพฤติกรรมการอยู่รว่ มกับผอู้ ื่นอยู่ในระดบั ดี 5. ไดค้ ะแนน 5-9 มีพฤตกิ รรมการอยูร่ ่วมกับผู้อ่นื อยู่ในระดับ พอใช้ 6. ไดค้ ะแนน 1-4 มีพฤติกรรมการอยู่รว่ มกับผ้อู ื่นอย่ใู นระดบั ควรปรบั ปรุง ลงชอื่ .....................................................ผปู้ ระเมนิ (...................................................) หมำยเหตุ แบบประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมการทางานรว่ มกับผ้อู นื่ ของผู้เรยี นรายบุคคล สามารถ เปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานศกึ ษา
บนั ทึกหลังกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กศน.ตำบลเกำะช้ำง อำเภอเกำะชำ้ ง จังหวัดตรำด คร้งั ที่ 2 สปั ดำห์ท่ี..............................วัน......................เดอื น..........................พ.ศ............................ ระดบั มัธยมศึกษำตอนต้น สำระวชิ ำพืน้ ฐำน วิชำ วิทยำศำสตร์ รหสั วชิ ำ พว 21001 เนื้อหำ/สำระท่ีสอน ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... .................................................................................................................................................................... กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................... ปัญหำ/อุปสรรค กำรเรยี นกำรสอน ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... .................................................................................................................. ................................................... วิธีกำรแกป้ ัญหำ ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................... ................................................ ลงชื่อ..............................................ครูผู้สอน (................................................) ควำมคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหำร ............................................................................................................................. ......................................... .......................................................................................... ........................................................................... ลงช่อื ..............................................ผู้บริหารสถานศึกษา (................................................)
เกมตำรำงปรศิ นำ (ข้อละ 1 คะแนน) คำชีแ้ จง 1. นกั เรยี นอ่านคาถามขา้ งลา่ ง 2. หาคาตอบในตารางปรศิ นา 3. วงลอ้ มรอบคาตอบท่ีถกู ต้องแล้วเขียนหมายเลขหนา้ คาตอบน้ัน ๆ ไม โ ทรมน เ ไ คำถำม นิ ว เ ค ลี ย ส ยื่ ล 1.หนว่ ยทีเ่ ล็กทส่ี ดุ ของเซลล์ ว เ ซ ล ล์ ผ ซ อ โ 2.เม็ดกลมๆภายในมสี ารสเี ขียว เ ยื่ ห อ ผ นั ง หุ้ ซ 3.เป็นกอ้ นกลมเก่ียวขอ้ งกบั การถา่ ยทอดลกั ษณะ ล แ ไ โ ลี ย ส ม โ ทางพันธกุ รรม ซ ว ค ร นิ ว เ นิ ซ 4.ทาหน้าท่เี กย่ี วกับการสงั เคราะหโ์ ปรตีน บ คิ ล พ โ ย ส ว ม 5.มขี องเหลวอยู่ภายในและสะสมของเสยี ฟิ ว อ ล ก บ พ เ อ ลโ โ าออ โ ลา ล์ อ ร ส ล ค เ ซ ล ว ล ฟิ ต์ จิ อ ม บ ม บนั ทกึ คะแนน คะแนนเตม็ 15 คะแนนท่ที ำได้ คอื ....................................................
แบบทดสอบย่อย ก่อนเรยี น-หลังเรยี น เร่ือง โครงสรำ้ ง องคป์ ระกอบและหนำ้ ท่ขี องเซลล์ 1. สว่ นประกอบของเซลล์พืชทท่ี าหน้าท่ีคลา้ ยยามคือข้อใด 7. น้าตาลทีไ่ ดจ้ ากการสังเคราะหด์ ้วยแสงถกู ลาเลยี งไปยงั ส่วน ก. ผนงั เซลล์ ข. นิวเคลยี ส ต่างๆ ของพชื ในลักษณะใด ค. เยอ่ื หมุ้ เซลล์ ง. ไวโทรพลาซมึ ก. ทอ่ ลาเลียงนา้ 2. ขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกต้องเก่ียวกบั เซลล์สัตว์ ข. ท่อลาเลยี งอาหาร ก. มผี นังเซลล์และคลอโรพลาสต์ ค. ท่อลาเลียงแรธ่ าตุ ข. มีผนงั เซลลแ์ ต่ ไมม่ ีเยื่อหุ้มเซลล์ ง. โดยการแพรไ่ ปตามส่วนตา่ งๆ ของพชื ค. มเี ยอ่ื หุม้ เซลแต่ไม่มีไซโทพลาซึม 8. ข้อใดสรปุ เกย่ี วกบั การหมนุ เวียนแกส๊ ในกระบวนการ ง. มนี ิวเคลียสแต่ ไม่มีคลอโรพลาสต์ สงั เคราะหด์ ว้ ยแสงท่ีใบพชื ได้ถูกต้อง 3. โครงสร้างท่ที าหนา้ ทเ่ี ปรยี บไดก้ ับสมองของเซลล์ไดแ้ ก่ข้อใด ก. มกี ารดดู แกส๊ คาร์บอนไดออกไซดแ์ ละคายแก๊สออกซเิ จน ก. นิวเคลยี ส ข. คลอโรพลาสต์ ข. มีการคายแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์และดูดแก๊สออกซเิ จน ค. เซนทริโอล ง. ไรโบโซม ค. มกี ารคายแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดเ์ พียงอย่างเดยี ว 4. เซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์แตกตา่ งกนั อย่างไร ง. มกี ารคายแก๊สออกซิเจนเพียงอยา่ งเดยี ว ก. เซลล์พืชมีลกั ษณะกลมรี สว่ นเซลลส์ ัตว์มีลกั ษณะเป็นเหลี่ยม 9. พชื ไม่มีดอกทส่ี ืบพนั ธ์โุ ดยใชส้ ปอร์ท้งั หมดคือข้อใด ข. เซลลพ์ ืชและเซลล์มลี กั ษณะรูปร่างนิวเคลียสทีแ่ ตกตา่ งกัน ก. เฟิร์น เห็ด ไผ่ ค. เซลลพ์ ชื มีลกั ษณะเปน็ สเี่ หล่ียม สว่ นเซลลเ์ ป็นวงกลม ข. เห็ด รา ตะไคร้ ง.เซลลพ์ ืชและเซลล์สตั ว์มลี กั ษณะเหมือนกันมาก ค. รา ยีสต์ เฟริ น์ 5. ความแตกต่างของการแพร่กับออสโมซสิ คอื อะไร ง. มะเขือ เหด็ หลนิ จอื ผักตบชวา ก.การแพร่เกิดจากสารเคลอ่ื นทีจ่ ากที่ท่มี ีโมเลกลุ น้อยไปส่ทู ี่ที่มี 10. ระบบการแลกเปลย่ี นก๊าซของสัตว์ในนา้ เชน่ ปลา กุ้ง มี โมเลกลุ มากเท่านนั้ การปรับตวั อยา่ งไร ข. การแพร่ไม่ต้องผ่านเย่ือบาง ๆ แต่ออสโมซิสต้องผา่ นเยื่อบาง ๆ ก. มีโครงสร้างช่วยทาให้น้าไหลหมุนเวยี นผา่ นอวัยวะแลกเปลย่ี น ค. ออสโมซสิ เปน็ การเคลื่อนที่ของเย่ือบาง ๆ ก๊าซ ง. ถูกทุกข้อ ข. เพิ่มพ้นื ทใี่ นการแลกเปลยี่ นกา๊ ซของอวยั วะแลกเปลี่ยนก๊าซ 6. ท่อลาเลียงนา้ ในลาตน้ พืชใบเล้ยี งเดย่ี วจะมลี ักษณะอย่างไร ค. มีการแลกเปลี่ยนกา๊ ซผา่ นผนงั ลาตัว ก. เรียงกนั อยู่เปน็ วง ง. ไม่มีข้อถูก ข. กระจัดกระจายอยทู่ ่วั ลาต้น 11. ระบบขบั ถ่ายของไฮดราเป็นอย่าไร ค. อยเู่ ปน็ กลุ่มตรงกลางลาต้น ก. ทางรูเปิดข้างลาตวั ง. อย่เู ป็นยอ่ มๆ ระหว่างเซลล์ ข. ขบั ออกทางปากหรือแพรท่ างผนงั ตวั ค. ใชท้ ่อเล็กๆ ท่ีอยูร่ ะหวา่ งกระเพาะลาไส้ ง. ใชเ้ ฟลมเซลล์ซึ่งกระจายอยูท่ ัง้ สองขา้ งตลอดความยาวของลาตัว
12. ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่ิงมีชีวติ คใู่ ดเหมอื นกนั 14. ข้อใดต่อไปนี้ไมต่ อ้ งใช้พลังงานความร้อน ก.การเดอื ดของน้า 1. กบบนใบบวั 2. แบคทเี รยี ในลาไสใ้ หญ่ ข.การระเหยของนา้ ค.การควบแนน่ ของน้า 3. เหบ็ บนตัวสนุ ัข 4. นกบนต้นมะมว่ ง ง.การหลอมเหลวของน้าแขง็ 15. เม่อื มนุษย์นาคารบ์ อนมาใช้จะเกิดการหมุนเวียนเขา้ สู่ ก. 1. และ 2. ข. 2. และ 3. สภาพ CO2ได้ ลกั ษณะเชน่ นี้เรียกวา่ วฎั จักรอะไร ก. วฎั จักรส้ันของคาร์บอน ค. 1. และ 4. ง. 3. และ 4. ข. วฎั จกั รยาวของคารบ์ อน ค. วัฎจักรกลางของคาร์บอน 13. “แมลง นก ข้าวเปลอื ก ไรนก” พบในระบบนิเวศแหง่ หนง่ึ ง. วฎั จกั รผสมผสานของคาร์บอน จะเขยี นความสัมพนั ธใ์ นรูปห่วงโซอ่ าหารได้อย่างไร ก. ข้าวเปลอื ก → นก → ไรนก → แมลง ข. ขา้ วเปลอื ก → แมลง → นก → ไรนก ค. ข้าวเปลือก → นก → แมลง → ไรนก ง. : ข้าวเปลือก → ไรนก → แมลง → นก
QR Code แบบทดสอบ เรื่อง โครงสร้ำง องค์ประกอบและหน้ำทข่ี องเซลล์ เฉลย แบบทดสอบกอ่ น – หลังเรียน 1.ค. 2. ค. 3. ก. 4. ก. 5. ง. 6. ข. 7. ข. 8. ก. 9. ค. 10. ก. 11. ข. 12. ค. 13. ข. 14. ค.1 15. ข.
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ภำคเรยี นที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2564 ระดบั มัธยมศึกษำตอนต้น กศน.ตำบลเกำะช้ำง อำเภอเกำะช้ำง จังหวัดตรำด คร้งั ท่ี 3 สัปดำหท์ ่ี 3 วันที่...................เดอื น.....................................พ.ศ.......................เวลำ............................... วิชำ วทิ ยำศำสตร์ รหสั วิชำ พว21001 จำนวน…………..4…………….หนว่ ยกติ มำตรฐำนท่ี 2.2 มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และทักษะพื้นฐำนเกยี่ วกับคณิตศำสตร์ วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยกำรเรียนรู้ หน่วยกำรเรียนรู/้ เรอื่ ง สารและการจาแนกสาร ธาตแุ ละสารประกอบ สารละลาย สารและผลิตภัณฑใ์ นชีวิต 1. สำระสำคญั จาแนกสารโดยใช้เน้ือสารและสถานะของสารเป็นเกณฑ์ สมบัติทางกายภาพของสาร สมบัติทางเคมีของ สาร ความแตกต่างและจาแนกธาตุ สารประกอบ สารละลาย และสารผสม สมบัติ โลหะ อโลหะ และโลหะกึ่ง โลหะ ความหมาย สมบัติของธาตุกัมมันตรังสีและกัมมันตภาพรังสี แนวทางการใช้ประโยชน์และโทษของ กัมมันตภาพรังสีได้ การเกิดและสมบัติของสารประกอบได้ ปัจจัยที่มีผลต่อการละลายของสารได้ สมบัติและ องค์ประกอบของสารละลายได้ หาความเขมขนของสารละลายและเตรยี มสารละลายบางชนิดใหมีความเขมขนตาม ที่ตองการ จาแนกประเภทของสารละลายเบส เกลือ และตรวจสอบความเปนกรด – เบส ของสารละลายบอก ความหมายของสารและสารสังเคราะห์ อธิบายการใช้สารและผลิตภัณฑ์ของสารบางชนิดในชีวิตประจาวันและ เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม อธิบายแนวทางการนาสารละลายกรด สารละลายเบสมาใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างถูกต้องและ ปลอดภยั อธบิ ายผลกระทบที่เกิดจากการใชส้ ารและผลติ ภณั ฑ์ทม่ี ตี อ่ ชีวิตและสิ่งแวดลอ้ มได้ 2. เนื้อหำ 2.1 เกณฑ์ในการจาแนกสาร 2.2 สมบตั ขิ องสาร 2.3 สมบัตทิ างเคมขี องสาร 2.4 สมบัตขิ องธาตุสารประกอบ สารละลาย สารผสม 2.5 สมบตั ิของสารประกอบ 2.6 สารและคุณสมบตั ขิ องสาร 2.7 สารสังเคราะห์ 2.8 สารและผลิตภณั ฑท์ ใ่ี ช้ในชวี ิต 2.9 การเลือกใช้สารในชวี ิต 2.10 ผลกระทบทเี่ กดิ จากการใชส้ ารต่อชวี ิตและสิง่ แวดล้อม
3. ตัวช้ีวดั 3.1จาแนกสารโดยใชเ้ นอ้ื สารและสถานะของสารเป็นเกณฑไ์ ด้อย่างถูกต้อง 3.2 อธบิ ายสมบตั ทิ างกายภาพของสารได้ 3.3 อธิบายสมบตั ทิ างเคมีของสารได้ 3.4 อธบิ ายความแตกต่างและจาแนกธาตุ สารประกอบ สารละลาย และสารผสมได้ 3.5 อธิบายสมบัติ โลหะ อโลหะ และโลหะกึ่งโลหะได้ 3.6 บอกอธบิ ายความหมาย สมบัติของธาตกุ มั มันตรงั สแี ละกัมมนั ตภาพรังสี 3.7 บอกแนวทางการใชป้ ระโยชน์และโทษของกัมมันตภาพรังสีได้ 3.8 อธบิ ายการเกิดและสมบัติของสารประกอบได้ 3.9 อธิบายปจั จัยทมี่ ีผลต่อการละลายของสารได้ 3.10 อธบิ ายสมบตั ิและองคป์ ระกอบของสารละลายได้ 3.11 หาความเขมขนของสารละลายอธบิ ายและเตรียมสารละลายบางชนิดใหมีความเขมขนตามทตี่ องการได 3.12 จาแนกประเภทของสารละลายเบส เกลือ และตรวจสอบความเปนกรด – เบส ของสารละลายได 3.13 อธิบายความหมายของสารและสารสงั เคราะหไ์ ด้ 3.14 อธิบายการใชส้ ารและผลติ ภัณฑข์ องสารบางชนิดในชีวิตประจาวนั และเลอื กใชไ้ ด้อย่างเหมาะสม 3.15 อธิบายแนวทางการนาสารละลายกรดสารละลายเบสมาใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและปลอดภยั 3.16 อธิบายผลกระทบทเ่ี กิดจากการใช้สารและผลติ ภัณฑ์ท่ีมีตอ่ ชีวติ และสง่ิ แวดลอ้ มได้ 4. กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้และกิจกรรม 4.1 ขัน้ นำเขำ้ สบู่ ทเรียน 4.1.1 ครูสร้างความคุ้นเคยกับผู้เรียนทาความเข้าใจเนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์เร่ืองสารและการ จาแนกสาร ธาตแุ ละสารประกอบ สารละลาย สารและผลติ ภณั ฑใ์ นชีวิต ช้ีแจงตัวชี้วัดของหนว่ ยการเรียนรู้ 4.1.2 ครูเปิดประเด็นการสนทนาร่วมกับนักเรียนว่า “ผู้เรียนเคยได้ยินคาว่า สสาร ธาตุ สารละลาย สารประกอบและสารในชีวิตประจาวันหรือไม่ จากนั้นผเู้ รยี นชว่ ยกันวเิ คราะห์ และตอบคาถาม โดยครูยังไม่เฉลย แตก่ ระตุน้ ให้ผูเ้ รยี นอยากคน้ ควา้ หาคาตอบ เพอื่ นาไปสู่กิจกรรมการทดลองและการสืบค้น ขอ้ มูล สารและการจาแนกสาร ธาตุและสารประกอบ สารละลาย สารและผลติ ภัณฑใ์ นชวี ติ 4.2 ข้ันสอน 4.2.1 ผูเ้ รียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด จากการดูคลิปวีดโี อ 4.2.2 ครูให้ผูเ้ รยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5 คน แต่ละกลมุ่ ศึกษาเรอื่ งสารและการจาแนกสาร ธาตุ และสารประกอบ สารละลาย สารและผลิตภณั ฑ์ในชวี ิต จากคลปิ วีดโี อ
คลิปวดี ีโอกำรจำแนกสำร คลปิ วีดีโอธำตแุ ละสำรประกอบ คลปิ วีดโี อเร่ืองสำรละลำย 4.2.3 ผูเ้ รยี นมารบั เอาอุปกรณใ์ นการทดลอง ก้อนหนิ น้าเปลา่ น้าตาลทราย นม เกลอื น้ามนั พืช เหล็ก ทองแดง นา้ อดั ลม แม่เหล็ก อลมู เิ นียม น้าแดง พริกไทย 4.2.4 ผู้เรยี นทาการสังเกตและจาแนกประเภทของสารตา่ งๆตอ่ ไปนี้ละทาเคร่อื งหมายถูกตรงชอ่ ง ประเภทของสาร
ตำรำงท่ี 1 วัตถุ ธาตุ สารประกอบ สารละลาย โลหะ อโลหะ กรด เบส สารสังเคราะห์ ก้อนหนิ น้าเปล่า น้าตาลทราย นม เกลอื น้ามันพืช เหลก็ ทองแดง นา้ อัดลม แม่เหล็ก อลูมเิ นียม น้าแดง พริกไทย นา้ มะนาว โซดาไฟ 4.2.5 ผู้เรียนทาแบบทดสอบสารและการจาแนกสาร ธาตุและสารประกอบ สารละลาย สารและ ผลิตภัณฑ์ในชีวิต
4.3 ขั้นสรปุ 3.1 ครแู ละผูเ้ รยี นสรุปเน้อื หาท่ีได้เรยี นรู้ร่วมกนั 3.2 ครูและผ้เู รียนตอบคาถามร่วมกนั 3.3 ผูเ้ รยี นศกึ ษาค้นควา้ เพิ่มเติมจากใบความรู้ และหนงั สือเรียน 5. สอ่ื กำรเรยี นรู้ 5.1 คลปิ วีดโี อ 5.2 ใบความรู้เรื่อง ธาตแุ ละสารประกอบ สารและการจาแนกสารและสมบัติของสาร ใบความร้เู ร่ือง ธาตแุ ละสารประกอบ ใบความร้เู ร่ืองสารและการจาแนกสารและสมบตั ิของสาร 5.3 ใบงานการทดลอง 5.4 แบบฝกึ หดั 5.5 หนงั สือเรียน 6. กำรวัดผลประเมนิ ผล 6.1 แบบฝึกหัด 6.2 การนาเสนอ
7. เกณฑก์ ำรวัด เคร่อื งมือกำรวดั ผล เกณฑก์ ำรประเมินผล กำรวดั ตำมจดุ ประสงค์ ถาม - ตอบ มคี วามรคู้ วามเข้าใจในการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge) ร้อยละ 50 ขน้ึ ไป ทักษะ (Skill) - ใบงานการทดลอง สามารถเขา้ ใจในเนื้อหา และตอบ เจตคติ (Attitude) - แบบทดสอบ คาถามทาใบงาน รอ้ ยละ 50 ข้ึนไป - ผลงานจากงานกลุ่ม - การมีส่วนร่วมในการ ผูเ้ รยี นร้อยละ 50 ขึ้นไปมสี ่วนรว่ ม ในการอภปิ รายและแลกเปลยี่ น นาเสนอ ความคดิ เหน็ - การมีสว่ นรว่ มในการ อภปิ รายแลกเปลยี่ น ความคิด - ความรับผดิ ชอบของงาน - การสังเกตพฤติกรรม
บันทกึ หลังกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ กศน.ตำบลเกำะช้ำง อำเภอเกำะชำ้ ง จงั หวัดตรำด ครัง้ ท่ี 3 สัปดำห์ท.ี่ .............................วนั ......................เดือน..........................พ.ศ............................ ระดบั มัธยมศึกษำตอนตน้ สำระวชิ ำพ้ืนฐำน วชิ ำ วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ พว 21001 เนอ้ื หำ/สำระทส่ี อน ................................................................................................................................................................ ...... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................. .............................................. ......................... กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ........................................................................................................... ........................................................... ปญั หำ/อุปสรรค กำรเรยี นกำรสอน ....................................................................................................................................................... ............... .................................................................................................................... .................................................. .................................................................................................................. ................................................... วธิ ีกำรแกป้ ญั หำ ..................................................................................................................................................... ................. .................................................................................................................. .................................................... ...................................................................................................................... ................................................ ลงชอื่ ..............................................ครูผ้สู อน (................................................) ควำมคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหำร ................................................................................................. ..................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ลงชอ่ื ..............................................ผบู้ ริหารสถานศึกษา (................................................)
แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรยี น เรอ่ื ง สำรและกำรจำแนกสำร คาช้ีแจง แจงเลือกคาตอบที่คิดวา่ ถูกต้องทีส่ ุดเพยี งคาตอบเดยี วในแต่ละข้อ 1. ขอ้ ใดไม่ใชส่ าร ก. เกลือแกงใส่ลงในอาหาร ข. เสียงของสุนขั หอน ค. น้าแกงกาลังเดือด ง. สายไฟท่ีทาจากพลาสตกิ 2. ทองเหลืองจัด เป็นสารประเภทใด ก. ธาตุ ข. สารประกอบ ค สารละลาย ง. สารเนอื้ ผสม 3. ข้อใดต่อไปน้เี ป็นความหมายของสารประกอบ ก. โมเลกลุ ของสารประกอบดว้ ยธาตุ 2 อะตอมข้ึนไป ข. สารท่ีธาตเุ ปน็ ชนิดเดียวกัน ค. สารท่ีเกิดจากธาตุ 2 ชนิดขึ้นไปมารวมกัน ง. ผลิตภัณฑท์ ่ีได้จากการทาปฏิกริ ยิ ากันของสาร 2 ชนิด 4. ข้อความตอ่ ไปน้ีข้อใดถกู ต้อง ก. สารละลายทกุ ชนิดเป็นสารบริสุทธิ์ ข. สารบริสุทธ์บิ างชนดิ เปน็ สารเนื้อเดยี ว ค. สารประกอบทกุ ชนดิ เปน็ สารเนอื้ เดียว ง. ธาตบุ างชนิดเปน็ สารเนอื้ เดียว 5. ถ้าจัด เหล็ก น้าเชอ่ื ม และสารละลายกรดซนั ฟิวริก ใหอ้ ยู่ในกลุม่ เดยี วกนั จะต้องใช้อะไรเป็นเกณฑใ์ นการ จัด ก. การนาไฟฟ้า ข. การละลาย ค การเป็นสารเนือ้ เดียวกัน ง. สมบตั เิ ปน็ กรด – เบส 6. วิธกี ารกลน่ั นา้ ใหบ้ รสิ ุทธแ์ิ บบธรรมดาจะไมเ่ หมาะสม เมื่อนามาใชก้ ับอะไร ก. น้าทะเล ข. นา้ คลอง ค น้าผสมแอลกอฮอล์ ง. สารละลายโพแทสเซยี มคลอไรด์ 7. การแยกนา้ มนั ดิบสว่ นใหญ่อาศัยวิธกี ารแบบใด ก. การสันดาป ข. การกลน่ั ดาดบั ส่วน ค การตกตะกอนลาดับสว่ น ง. การสลายตัวดว้ ยความร้อน
8. กรดในข้อใดเป็นกรดอนิ ทรีย์ท้ังหมด ข. น้ามะนาว กรดไนตริก ก. น้ามะขาม กรดไฮโดรคลอริก ง. นา้ มะขาม กรดซันฟวิ รกิ ค กรดแอซิติก น้ามะนาว 9. สารใดต่อไปนม้ี สี ภาพเป็นเบส ท้งั หมด ก. นา้ มะนาว นา้ อดั ลม ข. น้ามะขาม น้าเกลือ ค. สารละลายผงซักฟอก น้าขี้เถ้า ง. สารละลายยาสฟี ัน นา้ ยาล้างจาน 10. สบ่เู กดิ จากปฏิกริ ยิ าเคมีระหวา่ งส่ิงใด ก. แชมพูกบั น้ามนั พชื ข. กรดกับไขมันสตั ว์ ค. ไขมนั สตั ว์กบั น้าข้เี ถ้า ง. ไม่มีข้อใดถูก
QR Code แบบทดสอบ เรื่อง สำรและกำรจำแนกสำร เฉลยแบบทดสอบ 1. ข 2. ก 3. ค 4. ค 5. ก 6. ง 7. ข 8. ก 9. ค 10. ง
แบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน เร่ือง สำรละลำย คำชี้แจง ขอ้ สอบมที ้ังหมด 10 ขอ้ ให้เลือกคาตอบทีถ่ ูกต้องทสี่ ุดเพียงคาตอบเดียว 1. ข้อใดกลา่ วถึงสารละลายได้ถกู ต้อง ก.สารทมี่ เี นอื้ สารเหมอื นกันตลอดทกุ สว่ น ข.สารทีม่ เี นอื้ สารมองดูใสไมม่ สี กี ลิน่ และรส ค.สารทไี่ ม่บริสทุ ธ์เิ กิดจากสารบรสิ ุทธ์ิตงั้ แต่ 2 ชนดิ ผสมกนั ง.สารที่มีจุดหลอดเหลวตา่ กวา่ 100 องศาเซลเซยี ส 2. ขอ้ ใดผิดเกย่ี วกับตวั ทาละลาย ก.สารทมี่ ีปรมิ าณมากกวา่ ข.สารท่ีมสี ถานะเดยี วกบั สาระละลาย ค.สารท่มี สี ถานะเปน็ ของเหลวเท่าน้ัน ง.สารท่ีมีสถานะเปน็ ของแขง็ ของเหลว และกา๊ ซ 3. ตัวถกู ละลายคืออะไร ก.สารท่ีมปี รมิ าณน้อยกวา่ ข.สารท่มี สี ถานะเดยี วกบั สารละลาย ค. สารท่มี สี ถานะเปน็ ของเหลวเทา่ น้ัน ง.สารทมี่ คี วามหนาแนน่ น้อยกว่าสารละลาย 4. สาร A สามารถละลายในนา้ ได้ 15 กรมั แตเ่ ม่ือนาไปต้ม สาร A ละลายได้เพมิ่ ขึ้นเป็น 25 กรมั และก็ไม่ สามารถละลายไดอ้ ีก เราเรียกสารอะไร ก.สารละลายอ่มิ ตวั ข.สารละลายเข้มขน้ ค.สารละลายเจือจาง ง.สารละลายไมอ่ ิ่มตวั 5. ความแตกตา่ งของสารกบั สารบริสทุ ธค์ิ ือข้อใด ก.สารละลายมปี รมิ าตรมากกวา่ สารบริสทุ ธ์ิ ข.สารละลายมีจุดเดือดไม่คงท่ี สารบริสทุ ธ์มิ ีจุดเดือดคงท่ี ค.สารละลายมจี ดุ เดอื ดคงท่ี สารบริสุทธ์ิมีจุดเดอื ดไมค่ งที่ ง.สารละลายมีจดุ เยือกแข็งคงที่ สารบริสทุ ธมิ์ ีจดุ เยือกแขง็ ไม่คงที่ 6. ขอ้ ใดต้องใช้ตัวทาละลายต่างจากพวก ก.น้าตาล ข.เชลแลก็ ค.เกลอื แกง ง.สผี สมอาหาร
7. ข้อใดไม่สง่ ผลตอ่ ความสามารถในการละลายของสาร ก.ความดัน ข.อณุ หภมู ิ ค.ความหนาแนน่ ง.ชนดิ ของตัวทาละลายและตัวถูกละลาย 8. แอลกอฮอล์ 80% โดยปริมาตร มีความหมายตรงกับข้อใด ก.สารละลายนนั้ 100 cm3 มเี อทลิ แอลกอฮอล์อยู่ 80 cm3 ข.สารละลายนั้น 100 กรัม มีเอทิลแอลกอฮอลอ์ ยู่ 80 กรมั ค.สารละลายนน้ั 100 cm3 มีเอทลิ แอลกอฮอล์อยู่ 80 กรัม ง.สารละลายนั้น 100 กรัม มเี อทลิ แอลกอฮอลอ์ ยู่ 80 cm3 9. เกลือแกง 10 g ผสมกบั นา้ แลว้ ไดส้ ารละลายปริมาตร 50 cm3 จะมีความเข้มขน้ ของ สารละลายเท่าใด ก. 10 g /cm3 ข. 10 % โดยปริมาตร ค. 20 g /10 cm3 ง. 50 % โดยปริมาตร 10. ข้อใดจัดเป็นการพิสจู นว์ า่ สาร x กบั สาร y มีความสามารถในการละลายในของเหลว z ไดด้ กี วา่ กนั ก.ใช้ของเหลว Z ปรมิ าณเทา่ กนั ท่อี ุณหภมู เิ ดียวกนั ข.ใชข้ องเหลว Z ปริมาณเท่ากนั ท่ีอุณหภมู ิต่างกนั ค.ใช้สาร x และ y ปริมาณเทา่ กันที่อณุ หภมู ิต่างกนั ง.ใชส้ าร x และ y ปริมาณเทา่ กันท่ีอณุ หภูมเิ ดยี วกัน
QR Code แบบทดสอบ เรอ่ื ง สำรละลำย เฉลยแบบทดสอบเร่อื ง สำรละลำย 1. ก 2. ค 3. ก 4. ก 5. ข 6. ข 7. ก 8. ก 9. ค 10. ง
แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรียน เรื่อง สำรและผลิตภณั ฑ์ในชวี ิต คำชแี้ จง ข้อสอบมีท้ังหมด 10 ข้อใหเ้ ลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่สี ุดเพียงคาตอบเดียว 1.การเกบ็ สารเคมแี ละสารกาจัดศัตรูพืชควรปฏิบตั ิตามขอ้ ใด ก. เก็บรวมกับของใช้อื่น ข. เก็บใหเ้ ดก็ สามารถนามาใช้ได้ ค. แยกเกบ็ ตา่ งหากไม่ปนกับส่ิงอื่น ง. เกบ็ ไว้ใต้ภาชนะท่ีเย็น เชน่ ต่มุ นา้ 2.หากต้องการใหเ้ น้ือเป่ือยง่าย ควรใชส้ ารจากธรรมชาตขิ อ้ ใดเป็นตวั เรง่ ปฎกิ ิริยา ก. ผิวส้ม ข. นา้ ปนู ใส ค. แอลกอฮอล์ ง. ยางมะละกอ 3.น้ายาลา้ งหอ้ งน้า เปน็ ผลิตภัณฑท์ ี่ไดจ้ ากสารสงั เคราะห์ที่มสี มบตั ิในข้อใด ก. เป็นกรด ข. เปน็ ดา่ ง ค. เปน็ กลาง ง. มีฤทธผ์ิ สมผสานกัน 4.พฤตกิ รรมของบคุ คลใดทสี่ ง่ ผลใหเ้ กิดอากาศเป็นพิษตอ่ ชุมชน ก. สุดาฉีดยาฆ่าแมลงภายในบ้านทกุ เดือน ข. สุชพิ น่ นา้ สม้ ควนั ไม้เพื่อปอ้ งกันศตั รูพืช ค. สมศรกี าจัดขยะมีพษิ โดยการฝังกลบทุกครั้ง ง. สมชายเผาขยะพลาสติกขา้ งบ้านเป็นประจา 5.สารเคมสี ามารถเขา้ สู่รา่ งกายไดท้ างใดบา้ ง ก. ทางตา ทางปาก ทางจมกู ข. ทางปาก ทางผวิ หนัง ทางจมกู ค. ทางตา ทางผิวหนงั ทางการหายใจ ง. ทางปาก ทางผิวหนัง ทางการหายใจ
6.ขอ้ ใดไมใ่ ช่อาการเมอื่ ร่างกายไดร้ บั สารเคมี ก. อ่อนเพลีย ข. ระคายเคือง ค. เกิดผดผืน่ คนั ง. ผิวหนังไหม้ 7.สารเคมใี นเคร่ืองสาอางค์ข้อใดดูดซมึ เขา้ สู่ร่างกายแล้วทาให้เสยี่ งต่อการเป็นมะเร็งเตา้ นม ก. โพลีเอธลิ นี ไกลคอล ข. โซเดยี มลอริลซลั เฟต ค. ไอโซโพรพลิ แอลกอฮอล์ ง. สารกันเสยี ประเภทพาราเบน 8.สารเคมใี นข้อใดมักจะใชใ้ นผลิตภณั ฑท์ าความสะอาดเพื่อให้เกดิ ฟอง ก. โพลเี อธลิ นี ไกลคอล ข. โซเดียมลอริลซลั เฟต ค. ไอโซโพรพลิ แอลกอฮอล์ ง. สารกันเสยี ประเภทพาราเบน 9.สารเคมใี นข้อใดที่มีการตรวจพบในนา้ หอมปรบั อากาศ ก. พาทาเลต ข. โซเดียมซัลเฟต ค. คอปเปอร์ซัลเฟต ง. เอททิลแอลกอฮอลล์ 10.จากการสารวจสารเคมีในขอ้ ใดท่ีพบมากท่สี ดุ ในของเล่นเดก็ ก. ตะกั่ว ข. ปรอท ค. โครเมียม ง. สารกันเสียประเภทพาราเบน
QR Code แบบทดสอบ เรอ่ื ง สำรและผลิตภณั ฑ์ในชวี ติ เฉลยแบบทดสอบเรือ่ ง สำรและผลติ ภัณฑใ์ นชีวติ 1. ค 2. ง 3. ก 4. ง 5. ง 6. ก 7. ง 8. ข 9. ก 10. ก
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ภำคเรยี นที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2564 ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น กศน.ตำบลเกำะชำ้ ง อำเภอเกำะชำ้ ง จงั หวัดตรำด คร้งั ที่ 4 สัปดำหท์ ี่ 4 วนั ท.่ี ................เดอื น....................................พ.ศ.......................เวลำ................................. วชิ ำ วิทยำศำสตร์ รหสั วิชำ พว21001 จำนวน…………..4…………….หน่วยกิต มำตรฐำนที่ 2.2 มคี วำมรู้ ควำมเข้ำใจ และทักษะพืน้ ฐำนเกยี่ วกับคณติ ศำสตร์ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยกำรเรยี นรู้ 1. แรงและการใช้ประโยชน์ 2. งานและพลงั งาน 1. สำระสำคญั 1.1 ระบุประเภทของแรงประเภทต่าง ๆ ได้ 1.2 อธิบายความหมายของแรงและระบบหน่วยของแรงได้ 1.3 อธบิ ายการกระทาของแรงและโมเมนต์ของแรงได้ 1.4 หาค่าผลจากการกระทาของแรง และโมเมนต์ได้ 1.5 บอกประโยชน์ของแรงในชวี ติ ประจาวันได้ 1.6 นาความรู้เกย่ี วกบั โมเมนตข์ องแรงไปใช้แกป้ ญั หาในชวี ิตประจาวันได้ 1.7 อธบิ ายความหมายของงานและพลงั งานในรปู แบบต่าง ๆ ได้ 1.8 ใชก้ ฎของโอห์มในการคานวณไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 1.9 บอกวิธกี ารอนรุ ักษ์พลงั งานได้ 1.10 อธิบายสมบตั ขิ องแสงและนาประโยชน์ไปใช้ได้ 1.11 อธบิ ายสมบตั ิของพลังงานความรอ้ นและการนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้ 112 อธิบายเก่ียวกบั พลังงานทดแทนและการนาไปใช้ได้ 2. เนอ้ื หำ 2.1 อธิบายเกีย่ วกบั แรงและการใชป้ ระโยชนข์ องแรง 2.2 อธิบายเกีย่ วกับพลงั งานไฟฟา้ การตอ่ วงจรไฟฟา้ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ในชวี ิตประจาวนั แสงและสมบตั ิ ของแสง เลนส์ ประโยชนแ์ ละโทษจากแสงการเปลย่ี นรปู พลังงาน พลังงานความร้อนและแหลง่ กาเนิด การนา พลงั งานไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวนั และการอนรุ ักษ์พลงั งานได้
3. ตวั ชว้ี ดั 3.1 ระบุประเภทของแรงประเภทต่าง ๆ ได้ 3.2 อธิบายความหมายของแรงและระบบหนว่ ยของแรงได้ 3.3 อธิบายการกระทาของแรงและโมเมนต์ของแรงได้ 3.4 หาคา่ ผลจากการกระทาของแรง และโมเมนต์ได้ 3.5 บอกประโยชน์ของแรงในชีวิตประจาวันได้ 3.6 นาความรูเ้ กีย่ วกับโมเมนตข์ องแรงไปใช้แก้ปัญหาในชวี ิตประจาวันได้ 3.7 อธบิ ายความหมายของงานและพลังงานในรูปแบบต่าง ๆ ได้ 3.8 ใช้กฎของโอห์มในการคานวณไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 3.9 บอกวธิ ีการอนรุ กั ษ์พลังงานได้ 3.10 อธิบายสมบตั ิของแสงและนาประโยชน์ไปใช้ได้ 3.11 อธิบายสมบตั ขิ องพลังงานความร้อนและการนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้ 3.12 อธิบายเกย่ี วกบั พลงั งานทดแทนและการนาไปใช้ได้ 4. กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ 4.1 ข้นั นำ 4.1.1 ครูให้นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียนจาก Google From หรอื เกมส์ KaHoot (ก) แบบทดสอบกอ่ นเรยี นจาก Google From แหล่งท่มี า (ก) : https://docs.google.com/forms/d/18eM-aOhPU5I8A2h5P- zcfiebQg026KAzNSi27wxkbiM/viewform?edit_requested=true 4.1.2 ครูให้นักเรยี นโหลดไฟล์เอกสารประกอบการเรยี นรู้ แหล่งท่มี า(ข):http://203.159.251.144/pattana/count.php?id =235&doc=download/g.6/15.%20sarup%2051/11.pdf
4.2 ข้นั สอน 4.2.1 แบง่ กลมุ่ ผู้เรยี นออกเป็น 5 กลมุ่ เท่ากัน (คละชายหญงิ ) หรอื ตามความเหมาะสม 4.2.2 ให้ผเู้ รยี นใชโ้ ทรศพั ทม์ ือถือสแกน QR code (ค) ความหมาย ประเภทการกระทาของแรงและโมเมนต์ (ง) การหาคา่ ประโยชน์ของแรงและโมเมนต์ แหล่งที่มา (ค) : https://www.youtube.com/watch?v=ytqxKEaKr-E แหล่งท่ีมา (ง) : https://www.youtube.com/watch?v=fCpgmmDTDJo&feature=youtu.be 4.2.3 ให้ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายจากคลปิ วีดโี อที่ละกลมุ่ 4.2.4 ครอู ธิบายเพมิ่ เติมความหมาย ระบบหน่วย ประเภทการกระทาของแรงและโมเมนต์ จากคลปิ วีดีโอ 4.2.5 ให้ผู้เรยี นดูคลปิ วดี ีโอการประดิษฐ์รถขับเคลื่อนไฟฟ้าด้วยขวดพลาสตกิ (จ) รถขบั เคลอื่ นไฟฟ้าดว้ ยขวดพลาสตกิ แหลง่ ทม่ี า (จ) : https://www.youtube.com/watch?v=OfcUnjeYlsk 4.2.6. ลงมอื ปฏิบตั ติ ามขัน้ ตอนต่างๆ วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1. มอเตอร์ขนาดเล็ก 2. ไมเ้ สยี บลกู ชิ้น 3. ปนื กาว 4. ฝาขวด 5. แอมปม์ เิ ตอร์ 6. สายไฟขนาดเล็ก 7. หลอดกาแฟ 8. ถ่าน ขนาด 2A จานวน 2 ก้อน
4.2.7. ลงมือประดิษฐ์ รถขบั เคลือ่ นไฟฟา้ ด้วยขวดพลาสติก จนเสรจ็ 4.2.8 ครใู หผ้ ้เู รยี นวัดกระแสไฟฟ้าก่อนแข่งขันด้วยแอมมเิ ตอร์ โดยการต่อแบบขนาน กบั วงจรไฟฟ้า 4.2.9 นารถแต่ละกลุม่ มาว่งิ แข่งกันวดั ระยะทาง ความเรว็ วดั กระแสไฟฟา้ หลังแข่งขนั และบนั ทึกผล 4.2.10 ผเู้ รยี นใชโ้ ทรศัพท์มือถือสแกน QR code ศึกษาเกี่ยวกับพลงั งานแสง พลงั งานความรอ้ น และการนาไปใชป้ ระโยชน์ (ฉ) พลงั งานแสง พลังงานความรอ้ น และการนาไปใชป้ ระโยชน์ แหลง่ ทม่ี า (ฉ) : https://www.youtube.com/watch?v=xI2t5tsIf-4 4.2.11. ผเู้ รยี นใช้โทรศพั ท์มือถือสแกน QR code ศกึ ษาเกี่ยวกับพลังงานทดแทน และการนาไปใชป้ ระโยชน์ (ช) พลังงานทดแทนและการนาไปใช้ประโยชน์ แหลง่ ท่ีมา (ช) : https://www.youtube.com/watch?v=03UXdNl2E6c 4.3 ข้นั สรุป 4.3.1 ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกันอภปิ รายเร่อื งของแรงและพลังงานเพอื่ ชีวติ 4.3.2 ทาแบบทดสอบหลงั เรียนจาก Google From หรอื เกมส์ KaHoot Google From KaHoot
5. ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ 5.1 ใบความรู้ 5.2 รถขับเคลื่อนไฟฟ้าด้วยขวดพลาสติก 5.3 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน โดยใช้ Google From หรือเกมส์ KaHoot 6.การวัดและการประเมนิ ผล 6.1 แบบทดสอบกอ่ นและหลังเรยี น โดยใช้ Google From หรือเกมส์ KaHoot 6.2 แบบประเมนิ ผลการสังเกตพฤติกรรมการทางานรว่ มกับผอู้ ่ืน ของผู้เรียนรายบุคคล 7. เกณฑ์กำรวัด กำรวดั ตำมจุดประสงค์ เครื่องมือกำรวดั ผล เกณฑก์ ำรประเมินผล ความรู้ (Knowledge) ถาม-ตอบ มคี วามรู้ความเขา้ ใจในการเรียนรู้ ร้อยละ 50 ขนึ้ ไป ทกั ษะ (Skill) -แบบทดสอบ สามารถเขา้ ใจเนือ้ หา และแบบทดสอบ -ผลจากงานกลมุ่ รอ้ ยละ 50 ขนึ้ ไป เจตคติ (Attitude) -การมสี ว่ นร่วมในการ ผเู้ รียนร้อยละ 50 ขึน้ ไป มีส่วนร่วม มคี วามรู้สกึ ต่อวิชาวทิ ยาศาสตร์ อภปิ รายแลกเปลย่ี นความคดิ ในการอภปิ รายและเปล่ียน -ความรับผดิ ชอบของงาน ความคดิ เหน็ -การสังเกตพฤติกรรม
แบบประเมินผลกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรว่ มกับผู้อน่ื ของผ้เู รยี นรำยบคุ คล กล่มุ ที.่ ................ ⌂ โครงงาน ⌂ โครงการ ⌂ รายงาน เรอ่ื ง..........................................วชิ า..............................ระยะเวลาในการทา วนั ท.่ี ...............ถงึ วันท.่ี ................. จานวนสมาชกิ กลมุ่ ................................คน ภาคเรียนท.่ี ......................................กศน.ตาบล............................ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ คาชีแ้ จง ครูผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมการทางานรว่ มกนั ของผู้เรยี น แล้วทาเครอ่ื งหมาย ∕ ลงในช่องทต่ี รงกบั ความ เป็นจริง เกณฑ์การให้คะแนน 3 หมายถงึ ใหค้ วามร่วมมือทุกครั้ง ระดับดี เกณฑ์การให้คะแนน 2 หมายถงึ ใหค้ วามรว่ มมือบ้างครั้ง ระดบั พอใช้ เกณฑ์การให้คะแนน 1 หมายถึง ไมใ่ หค้ วามรว่ มมือ ระดบั ต้องปรับปรุง ท่ี พฤติกรรม การ การวางแผน ความริเริม่ การ การมีส่วน รวม ระดบั มอบหมาย สรา้ งสรรค์ ชว่ ยเหลือ ร่วมในการ 15 คุณ เก้ือกูล อภิปราย คะแนน ภาพ งาน/ แบง่ งาน ช่ือ-สกลุ 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 4 5 รวม เกณฑ์กำรประเมนิ 7. ไดค้ ะแนน 10 -15 มีพฤติกรรมการอยู่รว่ มกับผอู้ ื่นอยู่ในระดบั ดี 8. ไดค้ ะแนน 5-9 มีพฤตกิ รรมการอยูร่ ่วมกับผู้อ่นื อยู่ในระดับ พอใช้ 9. ไดค้ ะแนน 1-4 มีพฤติกรรมการอยู่รว่ มกับผ้อู ื่นอย่ใู นระดบั ควรปรบั ปรุง ลงชอื่ .....................................................ผปู้ ระเมนิ (...................................................) หมำยเหตุ แบบประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมการทางานรว่ มกับผ้อู นื่ ของผู้เรยี นรายบุคคล สามารถ เปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานศกึ ษา
บนั ทกึ หลังกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ กศน.ตำบลเกำะช้ำง อำเภอเกำะชำ้ ง จงั หวดั ตรำด ครัง้ ที่ 4 สัปดำห์ท่.ี .............................วนั ......................เดอื น..........................พ.ศ............................ ระดบั มธั ยมศึกษำตอนตน้ สำระวิชำพ้นื ฐำน วิชำ วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ พว 21001 เนื้อหำ/สำระทสี่ อน ............................................................................................................................. ......................................... ................................................................................................................................................................ ...... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... .................................................................................................................................................................... กิจกรรมกำรเรยี นกำรสอน ...................................................................................................................... ................................................ ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................... ปัญหำ/อุปสรรค กำรเรยี นกำรสอน ............................................................................................................................. ......................................... .......................................................................................... ............................................................................ .................................................................................................................. ................................................... วิธกี ำรแก้ปญั หำ ............................................................................................................................. ......................................... ........................................................................................ .............................................................................. ...................................................................................................................... ................................................ ลงช่ือ..............................................ครูผู้สอน (................................................) ควำมคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหำร ..................................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ........................................ ลงชอ่ื ..............................................ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา (................................................)
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: