Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนวิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม

แผนการสอนวิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม

Published by 423ed000003, 2021-04-20 01:52:24

Description: แผนการสอนวิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้รายสัปดาห์ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั ข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 วชิ า การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม รหัสวชิ า สค21003 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเกาะช้าง สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั จงั หวดั ตราด

คาอธิบายรายวชิ า สค21003 การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม จานวน 1 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจ หลกั การพฒั นาชุมชน สังคม สามารถวเิ คราะห์ ขอ้ มลู และกาหนดแนว ทางการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ ปัจจุบนั ศึกษาและฝึ กทกั ษะเกยี่ วกบั เรื่องดงั ต่อไปนี้ 1. ความหมาย ความสาคญั ของขอ้ มูล ประโยชนข์ องขอ้ มลู ตนเอง ชุมชน สังคม 2. เทคนิคและวธิ ีการจดั เกบ็ ขอ้ มูล เช่น การจดั เวทีประชาคม การสารวจขอ้ มูลการ ประชา พิจารณ์ โดยใชแ้ บบสอบถาม การสืบคน้ ขอ้ มูลจากแหล่งต่างๆ ฯลฯ 3. การวเิ คราะห์ขอ้ มูลเพอื่ การจดั ทาแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม 4. การจดั ทาแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคมและการนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ จดั ให้ผูเ้ รียนฝึ กทกั ษะจากการปฏิบตั ิจริงการเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การจดั ทา แผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม โดยการเขา้ ร่วมสังเกตการณ์ สร้างสถานการณ์จาลอง จดั ทาเวที ประชาคม และการศึกษาดูงาน เปรียบเทียบการจดั ทาแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม ระหวา่ งกลุ่ม ระหวา่ งชุมชน การวดั และประเมินผล จากผลงาน และการมีส่วนร่วมในการจดั ทาแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม

ตารางการวเิ คราะห์รายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวชิ า การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม สค 21003 จานวน 1 หน่วยกติ (40ช่ัวโมง) ที่ ตวั ช้ีวดั เน้ือหา จานวน กระบวนการเรียนรู้ (ชม.) พบ เรียนรู้ดว้ ย กลุ่ม ตนเอง 1. 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ 1. หลกั การพฒั นาตนเอง ชุมชน (1)  พฒั นา หลกั การพฒั นาตนเอง สังคม ตนเอง ชุมชน สงั คม ชุมชน 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจ 2. ความหมาย ความสาคญั (4)  สังคม และเห็นความสาคญั ของ ประโยชน์ ขอ้ มูลตนเอง ครอบครัว ของขอ้ มูลดา้ น ชุมชน สงั คม - ภมู ิศาสตร์ 3. วเิ คราะห์และอธิบาย - ประวตั ิศาสตร์ ขอ้ มลู - เศรษฐศาสตร์ 4. เกิดความตระหนกั - การเมือง และมีส่วนร่วมในการ การปกครอง จดั ทาแผนพฒั นาชุมชน - ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี สงั คม - หนา้ ที่พลเมือง 5. สามารถกาหนดแนว - ทรัพยากร สิ่งแวดลอ้ ม ทางการพฒั นาตนเอง - สาธารณสุข ครอบครัว ชุมชน สงั คม - การศึกษา 3. วธิ ีการจดั เก็บ วิเคราะห์ขอ้ มูล (1)  ดว้ ยวธิ ีการท่ีหลากหลาย และ เผยแพร่ขอ้ มลู 4. การมีส่วนร่วมในการวางแผน (2)  พฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม

ท่ี ตวั ช้ีวดั เน้ือหา จานวน กระบวนการเรียนรู้ (ชม.) พบ เรียนรู้ดว้ ย กลุ่ม ตนเอง 5.1 เทคนิคการมีส่วนร่วมใน (2)  การจดั ทาแผน เช่น - การจดั ทาเวทีประชาคม - การประชุมกลุ่มยอ่ ย - การสมั มนา - การสารวจประชามติ - การประชาพจิ ารณ์ ฯลฯ 5.2 การจดั ทาแผน (15)  - ทิศทาง นโยบาย - โครงการ - ผรู้ ับผิดชอบ - จดั ลาดบั ความสาคญั ฯลฯ 5.3 การเผยแพร่สู่การปฏิบตั ิ (10)  - การเขียนรายงาน - การเขียนโครงงาน ฯลฯ 6. นาศกั ยภาพ ของ 6. การพฒั นาอาชีพในชุมชน (5)  ประเทศไทยใน 5 ดา้ น และสงั คม มาเช่ือมโยงสู่งานอาชีพ - อาเซียนกบั การพฒั นาอาเซียน - จุดเด่นของประเทศไทยในการ ผลกั ดนั เศรษฐกิจสร้างสรรค์ -ศกั ยภาพประเทศกบั การพฒั นา อาชีพ

แผนจัดการเรียนรู้รายสัปดาห์ รายวชิ าพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม สค21003 จานวน 1 หน่วยกติ คร้ังที่ 1 สัปดาห์ท.ี่ ..............วนั ท.ี่ .........................................................แบบพบกลุ่ม จานวน 6 ช่ัวโมง เรื่อง หลกั การพฒั นาชุมชน สังคม ตัวชี้วดั 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจหลกั การพฒั นาชุมชน 2. วเิ คราะห์และอธิบายขอ้ มลู เนือ้ หา 1. หลกั การพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม 2. วธิ ีการจดั เกบ็ วเิ คราะห์ขอ้ มูลดว้ ยวธิ ีการที่หลากหลาย และเผยแพร่ขอ้ มูล ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 กาหนดสภาพปัญหาการเรียนรู้ 1. ครูและผเู้ รียนพดู คุยแลกเปล่ียนขอ้ มูล สภาพความเป็นอยขู่ องตนเองในชุมชน ดา้ นต่างๆ ปัญหาท่ีตนเองพบในชุมชน เช่น ปัญหาทรัพยากรส่ิงแวดลอ้ ม วา่ มีปัญหาดา้ นใดบา้ ง เช่น ปัญหาน้าเน่าเสีย ปัญหาฝ่ นุ ละออง เป็ นตน้ , การประกอบอาชีพของคนในชุมชนส่วนใหญ่วา่ ประกอบ อาชีพอะไรบา้ ง เหมาะสมกบั ทรัพยากรที่ชุมชนมีอยหู่ รือไม่ เป็นตน้ แลว้ นาขอ้ มลู ท่ีไดม้ าจดั กลุ่ม สภาพปัญหา (ประเด็นสภาพปัญหาที่ครูและผเู้ รียนร่วมกนั และเปลี่ยนเรียนรู้ ข้ึนอยกู่ บั บริบทของแต่ ละกลุ่ม) 2. ใหผ้ เู้ รียนวเิ คราะห์ปัญหาของชุมชนที่เกิดข้ึนในปัจจุบนั ร่วมกนั สนทนา วิเคราะห์ ถึงบริบทสภาวะแวดลอ้ มของชุมชนท่ีตอ้ งการพฒั นา ข้นั ที่ 2 แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ 1. ให้ผเู้ รียนศึกษาคน้ ควา้ จากแหล่งเรียนรู้สื่อสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง หลกั การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม พร้อมท้งั สรุปเน้ือหาสาระสาคญั และทาใบงานท่ี 1 เรื่องหลกั การพฒั นา ตนเอง ชุมชน สังคม 2. ให้ผูเ้ รียนศึกษาคน้ ควา้ จากแหล่งเรียนรู้ ใบความรู้ที่ 2 เรื่องวิธีการจดั เก็บ วิเคราะห์ ขอ้ มูลดว้ ยวธิ ีการที่หลากหลายและการเผยแพร่ขอ้ มูล โดยให้ผเู้ รียนกรอกแบบสารวจขอ้ มูลตนเอง ตามใบ งานท่ี 2 เร่ืองการสารวจขอ้ มลู ตนเอง วเิ คราะห์และอธิบายขอ้ มูล และให้ผเู้ รียนร่วมกนั สรุปขอ้ มูลของทุกคน ที่ไดพ้ ร้อมท้งั วเิ คราะห์ขอ้ มูลร่วมกนั นามาสรุปผลการสารวจขอ้ มูลในใบงานสรุปผลตามแบบฟอร์มใบงาน ท่ี 2 เรื่องแบบสารวจขอ้ มลู ตนเอง

ข้นั ท่ี 3 การปฏิบัติและการนาไปใช้ 1. ครูและผเู้ รียนสรุปสาระสาคญั นาความรู้ที่ไดไ้ ปเป็ นแนวทางในการประยกุ ตใ์ ช้ ในการมีส่วนร่วมในการวางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม 2. ผเู้ รียนนาแนวทางการมีส่วนร่วมในการจดั ทาแผนชุมชนในชุมชนของตนเอง สรุป พร้อมนาเสนอในการพบกลุ่ม ข้นั ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ 1. ครูและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปสาระสาคญั ตามมาตรฐานการเรียนรู้ 2. ประเมินผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ 1. ใบงานที่ 1 เรื่องการวเิ คราะห์ขอ้ มูลตนเอง ชุมชน สังคม 2. ใบความรู้ที่ 1 เรื่องหลกั การพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม 3. ใบความรู้ท่ี 2 เรื่องวิธีการจดั เก็บ วิเคราะห์ขอ้ มูลดว้ ยวิธีการท่ีหลากหลายและการเผยแพร่ ขอ้ มูล 4. ใบงานที่ 2 แบบสารวจขอ้ มลู ตนเอง 3. หนงั สือหนังสือแบบเรียนวิชาการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม สค21003 ,ส่ือส่ิงพิมพ์, อินเตอร์เน็ต การวดั และประเมินผล 1. ใบงาน 2. ส่งงานตรงตามกาหนด

ใบความรู้ท่ี 1 เร่ือง หลกั การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม ความหมายของคาว่าการพฒั นา ไดม้ ีผใู้ หค้ วามหมายไวห้ ลายคน ดงั น้ี วริ ัช วิรัชนิภาวรรณ กล่าววา่ การพฒั นาหมายถึง การเปล่ียนแปลงที่มีการกระทาให้ เกิดข้ึนหรือมีการวางแผนกาหนดทิศทางไวล้ ่วงหน้า โดยการเปล่ียนแปลงน้ีตอ้ งเป็ นไปในทิศทาง ทิศทางที่ดีข้ึน ขณะเดียวกนั การพฒั นามิไดห้ มายถึงการเพิ่มข้ึนของปริมาณสินคา้ หรือรายไดข้ อง ประชาชนเท่าน้นั แตห่ มายรวมถึงการเพม่ิ ความพงึ พอใจและการเพมิ่ ความสุขของประชาชนดว้ ย วิทยากร เชียงกูล กล่าวว่า การพฒั นาหมายถึง ชีวิตความเป็ นอยู่ของประชาชนมี ความสุข มีความสะดวกสบาย ความอยดู่ ี กินดี ความเจริญทางศิลปวฒั นธรรมและจิตใจและความ สงบสันติ ซ่ึงนอกจากจะข้ึนอยกู่ บั การไดร้ ับปัจจยั ทางวตั ถุเพื่อสนองความตอ้ งการของร่างกายแลว้ ประชาชนยงั ตอ้ งการพฒั นาทางดา้ นการศึกษาส่ิงแวดลอ้ มที่ดี การพกั ผ่อนหยอ่ นใจ การพฒั นาทาง วฒั นธรรมและจิตใจด้านต่างๆด้วย ความต้องการท้งั หมดน้ีบางคร้ังเราเรียกว่าเป็ นการพฒั นา “คุณภาพ” เพอ่ื ที่ให้เห็นวา่ การพฒั นาไม่ไดข้ ้ึนอยกู่ บั การเพ่ิมปริมาณสินคา้ หรือการเพิ่มรายไดเ้ ท่าน้นั หากอยทู่ ่ีการเพ่ิมความพอใจความสุขของประชาชนมากกวา่ สัญญา สัญญาวิวฒั น์ ไดใ้ ห้ความหมายของ การพฒั นาหมายถึง การเปลี่ยนแปลงท่ีมี การกาหนดทิศทาง หรือการเปลี่ยนแปลงท่ีไดว้ างแผนไวล้ ่วงหนา้ แลว้ ยุวฒั น์ วุฒิเมธี ให้ความหมายวา่ การพฒั นาหมายถึง การทาใหเ้ กิดข้ึนคือการเปลี่ยน จากสภาพหน่ึงไปสู่อีกสภาพหน่ึงที่ดีกวา่ ทิตยา สุวรรณชฎ ได้กล่าวถึงการพฒั นาไวว้ ่า คือการเปล่ียนแปลงที่ตอ้ งการและ ไดก้ าหนดทิศทางและมุ่งที่จะควบคุมอตั ราการเปล่ียนแปลงดว้ ย ที. อาร์. แบ็ทเท็น (T.R. Batten) ผูเ้ ช่ียวชาญด้านการพัฒนาชุมชนของอังกฤษ ใหค้ วามหมายของการพฒั นาไวว้ า่ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงในทางทีดีข้ึน จากความหมายของการพฒั นาดงั ท่ีกล่าวมาน้ัน สรุปไดว้ ่าการพฒั นาหมายถึง การ เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีข้ึน โดยไดม้ ีการกาหนดแนวทางในการพฒั นาไวแ้ ลว้ ซ่ึงการพฒั นาน้นั มิได้ หมายถึงการเปล่ียนแปลงท่ีดีข้ึนด้านปริมาณที่สามารถจบั ต้องได้ วดั ได้ เท่าน้นั แต่หมายถึงการ เปลี่ยนแปลงดา้ นคุณภาพดว้ ย นนั่ คือประชาชนไดร้ ับประโยชน์จากการพฒั นาและประชาชนมีความ พึงพอใจตลอดจนมีความสุขดว้ ย

แนวคดิ การพฒั นา การพัฒนาที่ย่ังยืน แนวคิดการพฒั นาที่ยง่ั ยนื (sustainable development) สืบเน่ืองจาก กระแสโลกาภิวตั น์ ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และกลไกการตลาด ได้ก่อให้เกิดการ เจริญเติบโต การผลิต การบริโภคและการใช้ประโยชน์ที่เป็ นผลเสียต่อทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดลอ้ ม รวมถึงผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์ สัตว์ พืชพรรณอยา่ งฉบั พลนั และต่อเนื่อง ประกอบกบั การพฒั นาแบบเดิมท่ีเน้นการบริโภคอย่างฟ่ ุมเฟื อย ไม่คุม้ ค่า ไม่คานึงถึงสภาพแวดล้อมโดยทาลาย สภาพแวดลอ้ ม ซ่ึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่อย่างจากัด ทาให้ทรัพยากรธรรมชาติ บางอยา่ งสูญหายไป เกิดปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม และส่งผลกบั มนุษย์ สร้างปัญหาใหก้ บั มนุษยอ์ ยา่ งมหาศาล หากมนุษยเ์ ร่งพฒั นาและเนน้ การบริโภคอยา่ งฟ่ ุมเฟื อยทรัพยากรทางธรรมชาติท่ีมนุษยจ์ ะ นานามาใช้และบริโภคจะร่อยหรอ เส่ือมสภาพ และหมดลงในท่ีสุด สิ่งมีชีวิตท่ีมีอยู่ในโลกก็คงจะ ดารงชีวติ อยดู่ ว้ ยความยากลาบากหรือหมดสิ้นในที่สุด เพ่ือไม่ให้ทุกสรรพส่ิงในโลกน้ีต้องพบจุดจบ จึงเกิดแนวคิดการพฒั นาท่ียงั่ ยืนข้ึน นานาชาติจึงแสวงหาแนวทางพฒั นาท่ีเป็ นกลางมากที่สุดโดยเนน้ ให้ประชาชนเขา้ มามีส่วนร่วมในการ พฒั นาในทุกข้นั ตอน การพฒั นาท่ียงั่ ยนื ตอ้ ง “ระเบิดจากขา้ งใน” จากชุมชนเองไม่ใช่จากบุคลภายนอกไป กาหนดกรอบและทิศทางการพฒั นา บุคคลภายนอกเป็นเพยี งผสู้ นบั สนุนและช่วยเหลือเท่าน้นั ดงั น้นั จึงเป็นรูปแบบการพฒั นาท่ีตอบสนองความตอ้ งการของคนรุ่นปัจจุบนั โดยไม่ ส่งผลลบกบั คนรุ่นตอ่ ๆไป ตอ้ งไมท่ าลายทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ตอ้ งทาใหม้ นุษยก์ บั ธรรมชาติไดเ้ ก้ือกลู ซ่ึงกนั และกนั ทุกสิ่งทุกอยา่ งสมดุล เป็นไปตามวถิ ีธรรมชาติ การพฒั นาที่ยงั่ ยนื ไมไ่ ดป้ ฏิเสธเทคโนโลยี แต่เทคโนโลยจี ะตอ้ งไมท่ าลายธรรมชาติ จึงจะเป็นการพฒั นาที่ยงั่ ยนื การพฒั นาท่ียง่ั ยนื ในประเทศไทยเป็นการพฒั นาท่ีมีลกั ษณะผสมผสาน คือมีกิจกรรม พฒั นารวมท้งั มีการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในลกั ษณะท่ีเป็นส่วนรวม เม่ือใดท่ี การพฒั นาทรัพยากรทางธรรมชาติหายไปตอ้ งเสริมสร้างคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มในท่ีอ่ืนชดเชยเพ่ือให้ คุณภาพส่ิงแวดลอ้ มในภาพรวมคงอยู่ อนั จะทาใหม้ นุษยแ์ ละส่ิงแวดลอ้ มควบคู่กนั ไปโดยสงบสุขและ ยงั่ ยนื จากแนวคิดดงั กล่าวประเทศไทยไดบ้ รรจุการพฒั นาท่ียงั่ ยนื ไวใ้ นแผนพฒั นาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 9 (พ.ศ. 2545-2549) โดยเนน้ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เนน้ ชุมชนเขม้ แขง็ เนน้ การพฒั นาท่ียงั่ ยนื การพฒั นาตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพียง (sufficiency economy) เป็ นแนวทางการพฒั นาท่ีพระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงมีพระราชดารัสช้ีแนะแนวทางการดาเนินชีวิตแก่ชาวไทยมาโดยตลอดนานกวา่ 28 ปี ซ่ึงมีมาก่อนเกิดวกิ ฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และภายหลงั ไดท้ รงเนน้ ย้าแนวทางแกไ้ ขเพื่อใหร้ อดพน้ และสามารถดารงอยู่ได้อย่างมนั่ คงและยง่ั ยืนภายใตก้ ระแสโลกาภิวตั น์และการเปล่ียนแปลงด้าน ต่างๆ เศรษฐกิจพอเพยี งจึงเป็นฐานในการประยกุ ตใ์ ชก้ บั การพฒั นาดา้ นต่างๆ รวมท้งั ใชใ้ นแง่ของการ ดารงชีวติ และการปฏิบตั ิงานท้งั ตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคมดว้ ย

ความพอเพยี งประกอบดว้ ย 3 ดา้ นดว้ ยกนั 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ไมม่ าก ไม่นอ้ ยจนเกินไป โดยไมเ่ บียดเบียน ตนเอง และผอู้ ื่น ไดแ้ ก่ การบริโภคท่ีอยใู่ นระดบั ที่พอประมาณ 2. ความมีเหตุมีผล หมายถึง การตดั สินใจเก่ียวกบั ระดบั ของความพอเพียง จะตอ้ ง เป็ นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจยั ที่เกี่ยวขอ้ งตลอดจนคานึงถึงผลท่ีคาดวา่ จะเกิดจาก การกระทาน้นั ๆ อยา่ งรอบคอบ 3. การมีภมู ิคุม้ กนั ท่ีดีในตวั หมายถึง การเตรียมตวั ใหพ้ ร้อมรับผลกระทบและการ เปล่ียนแปลงดา้ นต่างๆ ท่ีคาดวา่ จะเกิดข้ึนในอนาคตท้งั ใกลแ้ ละไกล ท้งั น้ี ตอ้ งมีวชิ าความรู้ ควบคูก่ บั คุณธรรม เป้ าหมายของการพฒั นา การพฒั นาชุมชน สังคม น้ันมีหลายคนสงสัยว่าพฒั นาไปเพื่ออะไร ในท่ีน้ีจะให้ คาตอบว่าเป้ าหมายของการพฒั นาคืออะไร ซ่ึงมีผใู้ ห้ความหมายของเป้ าหมายการพฒั นาชุมชนไว้ ดงั น้ี สัญญา สัญญาวิวฒั น์ กล่าวว่าเป้ าหมายของการพฒั นาชุมชน แบ่งออกเป็ น 2 ส่วน ใหญๆ่ คือ คนและสิ่งแวดลอ้ ม คนจะรวมอยใู่ นการพฒั นาดา้ นต่างๆ คือ การเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา สังคม วฒั นธรรม ครอบครัวและประชากร อนามยั และสาธารณสุข นนั ทนาการ ฯลฯ ไพฑูรย์ เครือแกว้ กล่าวถึงเป้ าหมายของการพฒั นาชุมชนวา่ มุง่ หวงั พฒั นาตวั บุคคล กลุ่มคน ปรากฏการณ์และส่ิงแวดลอ้ มทางวตั ถุและสงั คมของหมบู่ า้ น ที. อาร์. แบท็ เทน็ (T. R. Batten) กล่าววา่ เป้ าหมายของการพฒั นาชุมชน หมายถึง งาน ที่จะพฒั นาคน วตั ถุหรือส่ิงของ แต่อยา่ งไรก็ตามมีผรู้ ู้เกี่ยวกบั การพฒั นาชุมชนส่วนใหญ่มิไดก้ าหนดไวแ้ น่นอนวา่ จะตอ้ งพฒั นาส่ิงใดก่อน แต่อยา่ งไรก็ตามการดาเนินการท้งั หลายท้งั ปวงน้นั เป้ าหมายสูงสุดของการ พฒั นาชุมชน คือ การส่งเสริม สนบั สนุนใหป้ ระชาชนในชุมชนพ่ึงตนเอง หลกั การพฒั นาตนเอง หลกั ของการพฒั นาตนเอง มีดงั น้ี 1. การพฒั นาตนเองตอ้ งเกิดจากความเต็มใจและสมคั รใจ ผทู้ ่ีพฒั นาตนเองตอ้ งมีความ ตอ้ งการที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองดว้ ยตวั บุคคลน้นั เอง โดยปราศจากความรู้สึกวา่ ถูกบงั คบั ซ่ึงความเต็ม ใจน้ีเกิดข้ึนจากปัจจัยสาคัญประการหน่ึง คือการตระหนักรู้ถึงปัญหาและความจาเป็ นในการ เปล่ียนแปลงตนเอง น่ันคือผูท้ ่ีจะพฒั นาตนเองต้องมีความใส่ใจมีการติดตามสังเกตตนเองในแง่ พฤติกรรมการแสดงออก ความคิด อารมณ์ความรู้สึกในสถานการณ์ต่างๆ อย่างเป็ นปัจจุบนั ซ่ึงการรู้ ตนเองเก่ียวกบั พฤติกรรมการแสดงออก ความคิดอารมณ์ความรู้สึกเหล่าน้ี จะทาใหบ้ ุคคลตระหนกั รู้ถึง

2. ความรู้สึกของปัญหาและความจาเป็ นของการเปลี่ยนแปลงตนเอง พร้อมท้งั มีความ มุง่ มน่ั ท่ีจะฟันฝ่ าอุปสรรคและการผลกั ดนั ตนเองเพ่ือใหไ้ ปถึงเป้ าหมายได้ 3. ผทู้ ่ีตอ้ งการพฒั นาตนเอง ตอ้ งเป็ นผทู้ ี่มีบทบาทหลกั ในการลงมือพฒั นาตนดว้ ยตนเอง หมายถึงผทู้ ี่พฒั นาตนตระหนกั ถึงความรับผดิ ชอบต่อชีวติ ของตนเองวา่ ไมม่ ีใครลงมือแทนตนเองได้ ถึงแมว้ า่ ในการเปล่ียนแปลงตนเองอาจจะไดร้ ับความช่วยเหลือจากเพื่อน พอ่ แม่ หรือครูอาจารยร์ ่วม ดว้ ย อยา่ งไรก็ตามผทู้ ี่มีบทบาทหลกั คือ ผทู้ ี่ตอ้ งการพฒั นาตนเองนนั่ เอง 4. มนุษยท์ ุกคนมีความสามารถที่จะควบคุมและจดั การเปล่ียนแปลงสภาพแวดลอ้ มและ ปัจจยั ภายในตนเองเพ่ือการพฒั นาตนเอง แมว้ า่ สภาพแวดลอ้ มภายนอกและความคิดความรู้สึกซ่ึงเป็ น สภาพภายในตวั บุคคลจะส่งผลรวมกนั ต่อพฤติกรรมมนุษย์ แต่ผทู้ ่ีควบคุมดูแลจดั การให้ตวั เรามีการ พฒั นาคนหรือพฤติกรรมท่ีเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมคือ ตวั เราเอง 5. การพฒั นาตนเองเป็ นการเปล่ียนแปลงตนเองที่มีขอบเขตของจุดมุ่งหมายครอบคลุมท้งั 3 ดา้ น คือเพ่ือการแกไ้ ขปัญหาท่ีเกิดข้ึนในปัจจุบนั เพ่ือการป้ องกนั ปัญหาที่จะเกิดข้ึนในอนาคต และ เพื่อการสร้างเสริมศกั ยภาพของคนใหส้ ูงข้ึน 6. การพฒั นาตนเองเป็ นกระบวนการเรียนรู้ท่ีต่อเน่ืองตลอดชีวติ เพื่อความสุขและความ งอกงามของตนเอง ซ่ึงจะส่งผลใหเ้ กิดความสุขและความงอกงามของสงั คมส่วนรวมดว้ ยเช่นกนั วธิ ีการพฒั นาตนเอง องค์กรหน่วยงานต่างๆ มีจุดมุ่งหมายที่จะพฒั นาบุคลากรของตน ให้มีประสิทธิภาพ สูงสุด เป็ นผทู้ รงคุณค่า การที่บุคคลไดร้ ับการพฒั นาน้นั จะเป็ นหลกั ประกนั ไดว้ ่าหน่วยงานน้นั จะ สามารถรักษาบุคลากรน้นั ไดย้ าวนาน และเป็ นทรัพยากรมนุษยท์ ี่มีคุณค่าขององคก์ รน้นั ต่อไป วิธีการ พฒั นาตนเองโดยการฝึกอบรม มีดงั น้ี 1. การลงมือปฏิบตั ิจริง 2. การบรรยายในห้องเรียน 3. การลงมือปฏิบตั ิงานจริง 4. การอบรมเพิ่มเติม 5. การฝึกจาลองเหตุการณ์และใชว้ ธิ ีการอื่นๆ

การพฒั นาตนเองดว้ ยการลงมือปฏิบตั ิ เพ่ือเสริมสร้างตนเองใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ ตามที่กาหนดไวค้ วรดาเนินการ ดงั น้ี 1. การหาความรู้เพิม่ เติม กระทาไดโ้ ดย 1.1 การอา่ นหนงั สือเป็ นประจาและอยา่ งต่อเนื่อง 1.2 การเขา้ ร่วมประชุมหรือเขา้ รับการอบรม 1.3 การสอนหนงั สือหรือบรรยายตา่ งๆ 1.4 การร่วมกิจกรรมตา่ งๆ ของชุมชนหรือองคก์ รต่างๆ 1.5 การร่วมเป็ นที่ปรึกษาแก่บุคคลหรือหน่วยงาน 1.6 การศึกษาต่อหรือศึกษาเพ่ิมเติมจากสถาบนั การศึกษาหรือมหาวิทยาลยั เปิ ด 1.7 การพบปะเยย่ี มเยยี นบุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ 1.8 การเป็ นผแู้ ทนในการประชุมตา่ งๆ 1.9 การจดั ทาโครงการพิเศษ 1.10 การปฏิบตั ิงานแทนหวั หนา้ งาน 1.11 การคน้ ควา้ หรือวจิ ยั 1.12 การศึกษาดูงาน 2. การเพิ่มความสามารถและประสบการณ์ อาจกระทาโดย 2.1 การลงมือปฏิบตั ิจริง 2.2 การฝึกฝนโดยผทู้ รงคุณวุฒิหรือหวั หนา้ งาน 2.3 การอา่ น การฟัง การถาม จากเอกสารหรือผทู้ รงคุณวุฒิ หรือหวั หนา้ งาน 2.4 การทางานร่วมกบั บุคคลอ่ืน 2.5 การคน้ ควา้ วจิ ยั 2.6 การหมุนเวยี นเปลี่ยนงาน

ความหมายของชุมชน สังคม ราชบณั ฑิตยสถาน (2546) ไดใ้ หค้ วามหมายของชุมชนไวว้ า่ ชุมชนคือหมชู่ น กลุ่มคน ท่ีอยรู่ วมกนั เป็นสงั คมขนาดเล็ก อาศยั อยใู่ นบริเวณเดียวกนั และมีผลประโยชนร์ ่วมกนั ปาริชาติ วลยั เสถียร ไดก้ ล่าวถึงชุมชนวา่ ชุมชนหมายถึง การท่ีคนจานวนหน่ึง อาศยั อยพู่ ้ืนท่ีแห่งหน่ึง มีความเชื่อ ผลประโยชน์ กิจกรรม และมีคุณสมบตั ิอื่นๆท่ีคลา้ ยคลึงกนั คุณลกั ษณะเหล่าน้ีมีลกั ษณะเด่นเพียงพอท่ีจะทาใหส้ มาชิกน้นั ตระหนกั และเก้ือกลู กนั อนุชาติ พวงสาลี และอรทยั อาจอ่า อธิบายวา่ ชุมชน (community) หมายถึง การ รวมตวั ของกลุ่มคนที่มีวตั ถุประสงคร์ ่วมกนั ซ่ึงการรวมตวั ดงั กล่าวอาจรวมตวั ตามพ้นื ท่ีหรือไม่ก็ได้ ส่ิง สาคญั อยทู่ ี่สมาชิกของชุมชนมีการติดต่อส่ือสารกนั มีความเอ้ืออาทรต่อกนั มีการทากิจกรรมร่วมกนั มีการเรียนรู้ร่วมกนั มีการบริหารจดั การส่ิงตา่ งๆใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันน้ีได้เกิดชุมชนรูปแบบใหม่ พร้อมกับการพัฒนาด้าน เทคโนโลยแี ละความรุนแรงของปัญหาสงั คม ทาใหไ้ มส่ ามารถที่จะจากดั ความเป็นชุมชนเฉพาะแต่ใน พ้ืนท่ีหน่ึงพ้ืนท่ีใดเท่าน้นั แต่เป็ นการรวมพลงั ความร่วมมือและเป็ นการผนึกกาลงั ดา้ นทรัพยากรจาก ภายนอกชุมชนดว้ ยเช่นกนั ซ่ึงสมาชิกในชุมชนรูปแบบใหม่ สคูเลอร์ (Schuler) กล่าววา่ มีสมาชิกใน ชุมชนหลายเพศ วยั ศาสนา และฐานะทางเศรษฐกิจ ตวั อยา่ งชุมชนรูปแบบท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ ชุมชน เครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต สมาชิกรายการวทิ ยกุ ระจายเสียง สมาชิกในชุมชนไม่จาเป็ นตอ้ งพบหน้า กนั โดยตรง แต่มีการส่ือสารถึงกนั ทางเทคโนโลยี ประสานความสัมพนั ธ์และจิตสานึกร่วมกนั โดย ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสื่อสาร เช่น คอมพิวเตอร์โทรศพั ทม์ ือถือ เป็นตน้ ธีระภทั รา เอกผาชยั สวสั ด์ิ กล่าวถึง ความหมายของชุมชนมีลกั ษณะร่วมกนั ดงั น้ี 1. การรวมกลุ่มของคน ซ่ึงอาจมีปฏิกิริยาตอ่ กนั ทางสังคม หรืออาจไมม่ ีก็ไดแ้ ต่เป็ น ความสมั พนั ธ์กนั ทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. มีอาณาเขตบริเวณสาหรับอยอู่ าศยั หรือประกอบกิจกรรม หรืออาจไม่ยดึ ติดพ้ืนที่ ตายตวั เช่นเป็นชุมชนทางอากาศ เป็นตน้ 3. การจดั ระเบียบทางสังคมเพื่อควบคุมความสัมพนั ธ์สมาชิกในชุมชนเช่นบรรทดั ฐาน หรืออาจเป็นการจดั ระเบียบชุมชนในการท่ีจะเขา้ กลุ่ม อาจจะไม่เขม้ ขน้ หรือแน่น แฟ้ นถึงระดบั การจดั ระเบียบทางสังคม แตถ่ า้ ไมป่ ฏิบตั ิตามก็ไม่ไดก้ ารยอมรับจาก กลุ่ม เป็นตน้ 4. มีความสมั พนั ธ์ทางสงั คม มกี ารติดตอ่ สมั พนั ธ์กนั มีกิจกรรมร่วมกนั ในรูปแบบต่างๆ 5. มีวตั ถุประสงคแ์ ละเป้ าหมายร่วมกนั และรับผลกระทบที่มีผเู้ ป็นส่วนไดส้ ่วนเสีย ร่วมกนั 6. มีระบบการติดต่อสื่อสารและการเรียนรู้ร่วมกนั 7. อ่ืนๆ

ประโยชน์ทเี่ กดิ ขึน้ จากการพัฒนาตนเอง 1. การประสบความสาเร็จในการดารงชีวติ 2. การประสบความสาเร็จในการประกอบอาชีพการงาน 3. การมีสุขภาพอนามยั สมบรู ณ์ 4. การมีความเช่ือมน่ั ในตนเอง 5. การมีความสงบสุขทางจิตใจ ความหมายของการพฒั นาชุมชน สังคม วริ ัช วริ ัชนิภาวรรณ กล่าววา่ การพฒั นาชุมชน (community development) ตาม ปรัชญาของการพฒั นาชุมชนน้นั ประกอบดว้ ย 1. มุ่งพฒั นาและใหค้ วามสาคญั กบั คนมากที่สุด แต่การพฒั นาโดยทว่ั ไปมุ่งพฒั นาทาง วตั ถุ เศรษฐกิจ หรือพ้ืนที่เป็ นหลกั 2. การพฒั นาชุมชนเนน้ การมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชนอยา่ งมาก 3. การพฒั นาชุมชนมีแนวคิดท่ีตอ้ งการใหป้ ระชาชนช่วยเหลือตวั เอง และปกครอง ตนเอง โดยรัฐคอยช่วยเหลือดา้ นวชิ าการ 4. ในทุกข้นั ตอนการดาเนินงานเปิ ดโอกาสใหป้ ระชาชนเขา้ มามีส่วนร่วมในการคิด ตดั สินใจ วางแผน ลงมือปฏิบตั ิ และประเมินผล แตก่ ารพฒั นาโดยทวั่ ไปมุ่งท่ีผลสาเร็จของงานเป็ น หลกั อนุรักษ์ ปัญญานุวฒั น์ กล่าวถึงการพฒั นาชุมชนไวว้ า่ เป็นกระบวนการที่มีข้นั ตอน ของการเปลี่ยนแปลง เพื่อใหเ้ ป็นไปในทิศทางท่ีดีข้ึน และมีความสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของ ชุมชน ซ่ึงมีองคป์ ระกอบอยา่ งนอ้ ย 4 ประการคือ 1. ความยง่ั ยนื ของสรรพสิ่ง 2. การมีส่วนร่วมของประชาชน 3. การปรับแนวคิดทางการศึกษาเรียนรู้ 4. การพฒั นาชุมชนภายใตแ้ นวคิดเศรษฐกิจพอเพียง หลกั การพฒั นาชุมชน สังคม การปฏิบตั ิงานพฒั นาเพ่ือสร้างความเจริญให้แก่ประชาชนในดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง เพื่อนาไปสู่จุดหมายปลายทางของการพฒั นา คือการพฒั นาคน และการพฒั นาวตั ถุ สิ่งแวดลอ้ ม แนวทางในการพฒั นา มีดงั น้ี 1. ยดึ ถือผลประโยชนข์ องประชาชนและใหค้ นเป็นศูนยก์ ลางของการพฒั นา 2. ทาการพฒั นาใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพของชุมชน 3. ประชาชนเขา้ มามีส่วนร่วม 4. การทางานตอ้ งค่อยเป็นคอ่ ยไป

5. ใหค้ วามสาคญั กบั ความสนใจ และความตอ้ งการของประชาชน 6. ใชว้ ธิ ีดาเนินงานท่ีสอดคลอ้ งกบั หลกั ประชาธิปไตย 7. การดาเนินงานตอ้ งยดื หยุน่ ได้ 8. ทาการพฒั นาใหส้ อดคลอ้ งกบั วฒั นธรรม 9. ทางานพฒั นากบั ผนู้ าทอ้ งถ่ิน 10. ทางานพฒั นากบั องคก์ รหรือสถาบนั ที่มีอยใู่ นชุมชน 11. ใชเ้ จา้ หนา้ ที่วชิ าการเฉพาะสาขา 12. ทางานกบั คนทุกคนในครอบครัว 13. การดาเนินงานควรกวา้ งขวาง 14. ทางานพฒั นากบั ชนทุกช้นั ของสงั คม 15. การพฒั นาตอ้ งสอดคลอ้ งกบั นโยบายของชาติ 16. ทางานพฒั นาโดยเขา้ ถึงตวั ประชาชน 17. ทางานพฒั นาตามความตอ้ งการท่ีแทจ้ ริงของประชาชน 18. กิจกรรมพฒั นาควรเริ่มจากกิจกรรมพฒั นาท่ีง่ายไปหายาก 19. ทางานพฒั นาดว้ ยความประหยดั 20. ประสานกบั หน่วยงานหรือองคก์ รท้งั ในและนอกชุมชน 21. ทางานพฒั นาโดยผา่ นกลุ่ม 22. มีการประเมินผลตลอดเวลา 23. การพฒั นาเป็นกระบวนการต่อเนื่อง 24. ทางานพฒั นาอยา่ งเป็ นระบบเครือข่าย

ใบความรู้ท่ี 2 เร่ือง วธิ ีการจัดเกบ็ ข้อมูลในชุมชน “ข้อคดิ และการปฏิบัตติ นเม่ือเข้าไปสารวจข้อมูลในชุมชน” เทคนิคการเขา้ สู่ชุมชน เป็นส่ิงที่นกั ศึกษาจะตอ้ งเรียนรู้ ซ่ึงจะแบ่งออกไดเ้ ป็ น 3 ข้นั ตอน หลกั ๆ คือ การเตรียมตวั ก่อนท่ีจะเขา้ ไปสู่ชุมชน การปฏิบตั ิตวั เมื่ออยใู่ นชุมชน และการออกจาก ชุมชน การลงชุมชนเราจะตอ้ ง “พร้อม” เตรียมตวั เตรียมใจ เตรียมความรู้ เตรียมความสามารถ เตรียมงานของตวั เองใหเ้ รียบร้อย พร้อมที่จะลงชุมชนอยา่ งสม่าเสมอลงไปอยา่ งมนั่ ใจ ไปใชเ้ วลา ของชุมชนเป็ นท่ีต้งั เวลาทางาน ไปตามนดั ไมค่ วรผิดสัญญากบั ชาวบา้ น การทางานอะไร ทาที่ไหน โดยเฉพาะทากบั ใคร เป็นส่ิงที่นกั ศึกษาจะตอ้ งเรียนรู้ และ เตรียมพร้อมอยา่ งเตม็ ที่ สิ่งแรกท่ีสาคญั ท่ีสุดในข้นั ตอนแรกกค็ ือ การเตรียมตวั และเตรียมใจของตนเอง อนั ดบั แรก คือ ทาความเขา้ ใจถึงเป้ าหมายและวตั ถุประสงคห์ ลกั ในการทางานคร้ังน้ี “การสารวจข้อมูลคร้ังนี้ วตั ถุประสงค์คอื อะไร ” “ข้อมูลทไี่ ด้จะใช้ประโยชน์อะไร อย่างไร” “จดั กระบวนการเรียนรู้ใหเ้ ขาไดร้ ู้จกั ตวั ของเขาเอง ใหเ้ ขาแกป้ ัญหาดว้ ยตนเอง จนนาไปสู่ การเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนของเขาเอง” เป็นคาถามและคาตอบท่ีจะตอ้ งพดู ซ้าแลว้ ซ้าอีกในทุกคร้ังท่ีทางานพฒั นาชุมชน สังคม เพือ่ ใหน้ กั ศึกษาเขา้ ใจบทบาทของตวั เองวา่ “เราเข้าสู่ชุมชนคร้ังนีเ้ พอ่ื อะไร” ……………………………… เราเขา้ ไปเพ่ือทางานกบั ชุมชน ทางานร่วมกนั กบั เขา ไม่ได้เข้าไปช่วยเขา ไม่ได้เข้าไปสอน เขา เราเข้าไปเพอ่ื ร่วมกนั เรียนรู้ ประโยชน์ที่ไดเ้ กิดจากการเรียนรู้ตามกระบวนการที่ถูกตอ้ งและ สมบรู ณ์ จะตอ้ งไม่นาส่ิงแปลกปลอมจากภายนอกเขา้ ไปสู่ชุมชน แต่สามารถนา “ความรู้” ของเราเขา้ ไปได้ ซ่ึงเป็นความรู้จากภายนอก จากหนงั สือ ตารา แต่เราเขา้ ไปเพือ่ จดั กระบวนการเรียนรู้โดย ฐานความรู้และทุนของชุมชน ดงั น้นั ความรู้ท่ีเราจะเอาเขา้ ไปคือ ความรู้ในการจัดกระบวนการ เรียนรู้เท่าน้ัน ไม่มีการอบรม สอน บรรยาย สัง่ การ ช้ีแนะ และช้ีนา แตอ่ ยา่ งใด

เทคนิคการสนทนาในชุมชน การพบชุมชน นกั ศึกษาจะตอ้ งเรียนรู้เรื่องมนุษยสมั พนั ธ์ โดยเฉพาะ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งคนกบั คน ทกั ษะเร่ืองมนุษยสัมพนั ธ์น้นั คงจะไม่สามารถยดึ เอาตาม ทฤษฎีไดร้ ้อยท้งั ร้อย สิ่งสาคญั ที่สุดกค็ ือ การรู้จกั ปรับตวั และความยดื หยนุ่ นกั ศึกษาจะตอ้ ง ทาในสิ่งที่ถูกตอ้ งมากกวา่ ส่ิงท่ีถูกใจ เรียนรู้จกั การแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ ประยกุ ตใ์ ชส้ ิ่งท่ี ไดร้ ่าเรียนมาต้งั แต่จาความได้ บุคลิก ลกั ษณะนิสยั เขาทาอยา่ งไร เราทาอยา่ งน้นั เขาไมช่ อบ อะไร เราอยา่ ทาแบบน้นั “คนในเมือง กบั คนในชุมชนชนบท ใครที่เม่ือมีคนมาอยใู่ กล้ ๆ แลว้ จะรู้สึกอึดอดั มากกวา่ กนั ” นกั ศึกษาจะตอ้ งเรียนรู้เรื่องของ “ความรู้สึกเป็นเจา้ ของพ้ืนที่ (Space) วา่ คนที่เรา จะตอ้ งเขา้ คุยดว้ ยกนั เขามีความรู้สึกรักในพ้ืนที่หรือช่องห่างระหวา่ งคนสองคนท่ีกาลงั คุยกนั หรือทางานดว้ ยกนั และโดยเฉพาะคนแปลกหนา้ เขาชอบที่จะใหอ้ ยใู่ กล้ ๆ หรือรู้สึกอึดอดั เมื่อมีคนมาอยใู่ กลม้ าก ๆ นกั ศึกษาจะตอ้ งเขา้ ใจผอู้ ่ืน คนในชุมชนชนบทส่วนใหญ่ คุน้ ชินกบั การไดอ้ ยใู่ นท่ีโล่ง ในท่ีกวา้ ง ดงั น้นั เขาจะ ชินกบั การที่อยแู่ บบห่าง ๆ กบั ผคู้ นมากกวา่ คนในชุมชนเมือง เช่น การนงั่ ทานขา้ วใน ร้านอาหารโตะ๊ เดียวกบั คนท่ีเราไมร่ ู้จกั ในขณะท่ีโตะ๊ อาหารอื่นเตม็ หมด “เราจะนงั่ ดีไหม” คง จะเรื่องที่ตดั สินใจไม่ยากและเป็นภาพปกติเมื่อคนไปนง่ั ทานขา้ วโตะ๊ เดียวกนั แตไ่ ม่รู้จกั กนั ถา้ ร้านน้นั ต้งั อยใู่ นกรุงเทพฯ แตน่ อ้ ยนกั ท่ีจะเห็นภาพแบบน้นั ในร้านอาหารต่างจงั หวดั โดยเฉพาะในชุมชนชนบท ดงั น้นั เวลาที่นกั ศึกษาเขา้ ไปสารวจขอ้ มูลหรือจดั การสนทนา จะตอ้ งรู้วา่ เราควรจะ นง่ั อยหู่ ่างจากคนที่เราคุยดว้ ยมากนอ้ ยขนาดไหน นอกจากท่ีจะตอ้ งดูเรื่องของสภาพพ้นื ท่ี โดยรวมรอบ ๆ แลว้ นกั ศึกษาจะตอ้ งดูเพศ ดูวยั ดูลกั ษณะนิสยั ใจคอ ซ่ึงจะตอ้ งอาศยั ทกั ษะ ประสบการณ์ และการสงั เกตอยา่ งละเอียดถ่ีถว้ น เพ่ือใหก้ ารสนทนาน้นั ราบร่ืน และเกิดความ สบายใจท้งั ผสู้ มั ภาษณ์และผถู้ ูกสมั ภาษณ์

คาชี้แจง นกั ศึกษาอาจศึกษาหาความรู้เพิม่ เติมไดจ้ ากเอกสารแบบเรียนการพฒั นาตนเอง ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หรือขอ้ มูลจากหนงั สือ และส่ืออื่น ๆ เพิม่ เติมได้ เร่ือง ปัญหาและแนวทางแก้ไขในการเกบ็ ข้อมูลชุมชน ปัญหาด้านสภาพแวดล้อม 1. เส้นทางในการเก็บขอ้ มูลบางบา้ นเขา้ ไปลาบากระยะทางในหมบู่ า้ นคอ่ นขา้ งไกล 2. ระยะทางของบา้ นแตล่ ะหลงั ห่างกนั 3. ความไม่รู้จกั และคุน้ เคยกบั พ้นื ท่ีที่จะไปเกบ็ ขอ้ มูล 4. มีการหลงทางเพราะไมศ่ ึกษาเส้นทางมาก่อน 5. ผไู้ ปเกบ็ ขอ้ มูลไมม่ ีความชานาญในพ้นื ท่ีน้นั 6. บางบา้ นเล้ียงสตั ว์ เช่น สุนขั ดุมาก 7. บางบา้ นน้าทว่ มเขา้ ไปในบา้ นไมไ่ ด้ 8. สภาพอากาศที่ร้อนทาใหเ้ ป็นอุปสรรคต์ ่อการสารวจขอ้ มูลและดาเนินงาน 9. ปริมาณนกั ศึกษาชายมีไม่เพียงพอ แนวทางแก้ไข

1. ควรหาขอ้ มูลเก่ียวกบั ชุมชนในหมูบ่ า้ น 2. เขียนแผนที่ใหช้ ดั เจนหรือไปสารวจเส้นทางก่อน หรือ เดินทางกนั เป็ นคาราวาน จะไดไ้ ม่ หลงทางกนั 3. ศึกษาดูแผนท่ีแผนผงั ของบา้ นท่ีจะไปก่อนลงมือปฏิบตั ิ 4. สอบถามเส้นทางจากเพือ่ นนกั ศึกษาท่ีรู้จกั เส้นทาง 5. ควรศึกษาเส้นทางใหด้ ีก่อนออกเดินทาง 6. ควรศึกษาเส้นทางก่อนไป หรือใหผ้ ทู้ ่ีเคยไปนาเส้นทาง 7. ตอ้ งหาไมต้ ิดตวั ไปดว้ ยหรือใหเ้ จา้ ของบา้ นมาไล่หรือจบั สุนขั ไวค้ วรเตรียมความพร้อมท่ี จะออกไปเกบ็ ขอ้ มูล 8. ตอ้ งอดทนกบั ความหิว และอากาศท่ีร้อน เพื่อฝึกความอดทน 9. แบ่งกลุ่มคละๆ กนั ไป มีผชู้ ายอยา่ งนอ้ ยกลุ่มละ 1-2 คน

ใบงานที่ 1 เร่ือง หลกั การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม คาชี้แจง ใหผ้ เู้ รียนทุกคนสรุปสาระสาคญั ของเรื่องที่ศึกษามาโดยสังเขปตามประเด็นต่อไปน้ี ความหมายของการพฒั นา คือ ประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากการพฒั นาตนเอง ......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... วธิ ีการพฒั นาตนเองมีอะไรบา้ ง .......................................................................... ......................................................................... .................ก..า..ร..พ...ฒั...น...า.ท...ี่ย..ง.ั่ .ย..นื.....ค..ือ....................... ......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... ........................................................................

การพฒั นาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง คือ เป้ าหมายของการพฒั นา คือ ......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... การพฒั นาชุมชน หมายถึง หลกั การพฒั นาชุมชน มีอะไรบา้ ง ....................................................................... ....................................................................... ..................................................................... ..................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... .......................................................................

ใบงานที่ 2 เร่ือง การสารวจข้อมูลตนเอง วเิ คราะห์และอธิบายข้อมูล คาชี้แจง ใหค้ รูดาเนินการดงั น้ี 1. ครูและผเู้ รียนร่วมกนั แลกเปล่ียนถึงความสาคญั ของ ขอ้ มูล การสารวจ ขอ้ มูล การ วเิ คราะห์ขอ้ มลู 2. ครูแจกแบบสารวจขอ้ มลู ใหผ้ เู้ รียนเกบ็ ขอ้ มูลตนเอง ผา่ นแบบสารวจขอ้ มูลตนเอง 3. ครูและผเู้ รียนร่วมกนั นาขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากการสารวจมาสรุปผลรวมกนั วิเคราะห์ขอ้ มลู ตนเอง โดยใชค้ ่าสถิติอยา่ งง่าย และนาเสนอในรูปของตาราง

แบบสารวจข้อมูลตนเอง คาชี้แจง 1) แบบสารวจฉบบั น้ี ใชเ้ ป็นแบบฝึกหดั ในการฝึกการเกบ็ ขอ้ มลู เบ้ืองตน้ เพื่อใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการ นามาฝึกการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ส่วนท่ี 1 ข้อมูลส่วนตัว 1. เพศ 1. ชาย 2. หญิง 2. อายุ ............ปี 3. อาชีพของบิดา 1. ขา้ ราชการ 2. พนกั งาน/ลกู จา้ งของรัฐ 3. พนกั งาน/ลูกจา้ งของ รัฐวสิ าหกิจ 4. พนกั งาน/ลูกจา้ งของเอกชน 5. เกษตรกร 6. คา้ ขาย/อาชีพอิสระ 7. รับจา้ งทวั่ ไป/งานช่าง 8. อื่นๆ โปรดระบุ................................................. 4. อาชีพของมารดา 1. ขา้ ราชการ 2. พนกั งาน/ลูกจา้ งของรัฐ 3. พนกั งาน/ลูกจา้ งของ รัฐวสิ าหกิจ 4. พนกั งาน/ลูกจา้ งของเอกชน 5. เกษตรกร 6. คา้ ขาย/อาชีพอิสระ 7. รับจา้ งทว่ั ไป/งานช่าง 8. อ่ืนๆ โปรดระบุ................................................. 5. รายไดข้ องผปู้ กครอง (บิดาและมารดารวมกนั ) โดยเฉลี่ยต่อเดือน 1. ไม่เกิน 5,000 บาท 2. 5,001 – 10,000 บาท 3. 10,001 – 15,000 บาท 4. 15,001 – 20,000 บาท 5. 20,001 – 25,000 บาท 6. ต้งั แต่ 25,001 บาท ข้นึ ไป 6. ระดบั การศึกษาสูงสุดของบิดา 1. ประถมศึกษาหรือต่ากวา่ 2. มธั ยมศึกษาตอนตน้ 3. มธั ยมศึกษาตอนปลาย / ปวช. 4. อนุปริญญา / ปวส. 5. ปริญญาตรี 6. สูงกวา่ ปริญญาตรี 7. ระดบั การศึกษาสูงสุดของมารดา 1. ประถมศึกษาหรือต่ากวา่ 2. มธั ยมศึกษาตอนตน้ 3. มธั ยมศึกษาตอนปลาย / ปวช. 4. อนุปริญญา / ปวส. 5. ปริญญาตรี 6. สูงกวา่ ปริญญาตรี 8. ครอบครัวมีพีน่ อ้ งท้งั หมด (รวมนกั เรียน/นกั ศึกษา) ..................คน นกั เรียน/นกั ศึกษาเป็ นบุตรคนท่ี..............

บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ กศน.ตาบลเกาะชา้ ง อาเภอเกาะชา้ ง จงั หวดั ตราด คร้ังที่ 1 สัปดาห์ที่.......................วนั /เดือน/ปี ................/......................./........................ 1. เนือ้ หาสาระทส่ี อน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 2. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 4. ปัญหา/อปุ สรรค การเรียนการสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 5. แนวทางการแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ลงชื่อ..............................................ครูผสู้ อน (.................................................) วนั ท่ี.............../.................../............... ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหาร .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ลงชื่อ....................................................... (........................................................)

แผนจัดการเรียนรู้รายสัปดาห์ รายวชิ าพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม สค21003 จานวน 1 หน่วยกติ คร้ังที่ 2 สัปดาห์ท.ี่ .............วนั ท.่ี ...........................................แบบพบกลุ่ม จานวน 6 ชั่วโมง เรื่อง พฒั นาชุมชน สังคม ตัวชี้วดั 1. มีความรู้ ความเข้าใจและเห็นความสาคัญของข้อมูลตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม 2. เกิดความตระหนกั และมีส่วนร่วมในการจดั ทาแผนพฒั นาชุมชน สังคม เนือ้ หา 1. ความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์ของข้อมูลด้านภูมิศาสตร์,ประวตั ิศาสตร์ ,เศรษฐศาสตร์, การเมือง การปกครอง, ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี , หน้าที่พลเมือง ,ทรัพยากร ส่ิงแวดลอ้ ม,สาธารณสุข, การศึกษา 2. การมีส่วนร่วมในการวางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม 3. การจดั ทาแผน เรื่องทิศทาง นโยบาย, โครงการ, ผูร้ ับผิดชอบ , จดั ลาดบั ความสาคญั ฯลฯ 4. การเผยแพร่สู่การปฏิบตั ิ ไดแ้ ก่ การเขียนรายงาน , การเขียนโครงงาน ฯลฯ ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 กาหนดสภาพปัญหาการเรียนรู้ 1. ครูและผเู้ รียนร่วมกนั พดู คุยและซกั ถามเก่ียวกบั ขอ้ มูลทว่ั ไปของชุมชนดา้ นต่างๆ เช่น ทรัพยากรสิ่งแวดลอ้ ม,ภูมิศาสตร์ , การปกครอง, การศึกษา,วฒั นธรรมในชุมชน, สภาพ เศรษฐกิจในชุมชนของตนเอง ท้งั ขอ้ ดีและขอ้ เสีย ลกั ษณะสภาพที่เป็นอยจู่ ริง 2. ครูใหผ้ เู้ รียนศึกษาคน้ ควา้ การจดั ทาแผน เช่น ทิศทาง นโยบาย ,โครงการ,การ จดั ลาดบั ความสาคญั เป็นตน้ และการเผยแพร่สู่การปฏิบตั ิในการนาไปเขียนโครงงาน รวมท้งั ศึกษาแนวทางการพฒั นาอาชีพในชุมชนของตนเอง ข้นั ท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ 1. ครูให้ผเู้ รียนร่วมกนั แลกเปล่ียนขอ้ มูลทวั่ ไปของชุมชนตนเอง ดา้ นต่างๆ เช่น ทรัพยากรส่ิงแวดล้อม,ภูมิศาสตร์ , การปกครอง, การศึกษา,วฒั นธรรมในชุมชน, สภาพ เศรษฐกิจในชุมชนของตนเอง ท้งั ขอ้ ดีและขอ้ เสีย ลกั ษณะสภาพท่ีเป็ นอยจู่ ริง พร้อมท้งั ศึกษา ขอ้ มูลจากใบความรู้ที่ 3 เร่ืองความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของขอ้ มูล และให้ ผูเ้ รียนจดั กลุ่มสภาพปัญหาท่ีสอดคลอ้ งกนั เขียนสรุปขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากทุกคน ให้ตวั แทนมา

นาเสนอผลการสรุปขอ้ มูลน้นั ตามหวั ขอ้ ใบงานที่ 3 เร่ืองความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของ ขอ้ มูล ในการพบกลุ่มคร้ังตอ่ ไป 2. ให้ผเู้ รียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 – 10 คน ศึกษาคน้ ควา้ จากใบความรู้ที่ 4 เรื่องการมีส่วนร่วม ในการวางแผนพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และใหผ้ เู้ รียนเขา้ ร่วมการจดั กิจกรรมในชุมชน ขององค์กรต่าง ๆ เช่น การทาเวทีชาวบา้ น หรือการประชาคมภายในชุมชนของตนเอง โดยเขา้ ไปมี ส่วนร่วมในการวางแผนพฒั นาชุมชน ตามประเด็น หัวขอ้ ในใบงานท่ี 4 เรื่องการเก็บขอ้ มูลชุมชน และใบงานที่ 5 เร่ืองสารวจความตอ้ งการพฒั นาชุมชน 3. นาขอ้ มูลจากการเก็บขอ้ มูลชุมชนมาจดั ทาแผนชุมชนเผยแพร่สู่การปฏิบตั ิ โดยวิเคราะห์ จากการเก็บขอ้ มูลชุมชนของตนเองที่ได้ มาการเขียนโครงการพฒั นาชุมชนของตนเอง 1 โครงการ ตามรูปแบบใบงานที่ 6 เร่ืองโครงการพฒั นาชุมชน พร้อมนาเสนอโครงการในการพบกลุ่ม ข้นั ท่ี 3 การปฏบิ ัติและการนาไปใช้ 1. ครูและผเู้ รียนสรุปสาระสาคญั นาความรู้ที่ไดไ้ ปเป็ นแนวทางในการพฒั นาตนเอง ชุมชนของตนเอง 2. ใหผ้ เู้ รียนนาเสนอโครงการพฒั นาชุมชนของตนเอง และผลจากการแสวงหา ความรู้เป็ นรายกลุ่ม ข้นั ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. ครูและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปสาระสาคญั ตามมาตรฐานการเรียนรู้ 2. ประเมินผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ 1. ใบความรู้ที่ 3 เร่ืองความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของขอ้ มลู 2. ใบงานท่ี 3 เร่ืองความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของขอ้ มูล 3. ใบความรู้ท่ี 4 เร่ืองการมีส่วนร่วมในการวางแผนพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม 4. ใบงานท่ี 4 เรื่องการเก็บขอ้ มูลชุมชน 5. ใบงานท่ี 5 เร่ืองสารวจความตอ้ งการพฒั นาชุมชน 6. ใบงานท่ี 6 เรื่องโครงการพฒั นาชุมชน 7. หนงั สือแบบเรียนวชิ าการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม,ส่ือส่ิงพมิ พ,์ อินเตอร์เน็ต ฯลฯ การวดั และประเมินผล 1. ใบงาน 2. ส่งงานตรงตามกาหนด

ใบความรู้ท่ี 3 เร่ือง ความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของข้อมูล ข้อมูลทเ่ี กีย่ วข้องกบั การพฒั นาชุมชนมหมายและประเภทข้อมูล ขอ้ มูล หมายถึงขอ้ เท็จจริงที่เป็ นตวั เลข ขอ้ ความ รูปภาพ เสียง ที่เกี่ยวกบั คน สัตว์ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ต่างๆ หรือส่ิงท่ียอมรับวา่ เป็ นความจริง สาหรับใชเ้ ป็ นหลกั อนุมานหา ความจริง หรือการคานวณ ประเภทของข้อมูล แบ่งออกเป็ น 4 ประเภท ดังนี้ 1. ขอ้ มูลท่ีเป็นตวั อกั ขระ คือขอ้ มลู ที่ประกอบดว้ ยตวั อกั ษร และตวั เลขที่ไม่ใชใ้ นการคานวณ เช่น ทะเบียนรถยนต์ หมายเลขโทรศพั ท์ บา้ นเลขที่ ช่ือ นามสกลุ 2. ขอ้ มูลที่เป็ นตวั เลข คือขอ้ มูลที่ประกอบดว้ ย ตวั เลข 0 - 9 ที่ใชใ้ นการคานวณได้ เช่นผล คะแนนการสอบ จานวนเงิน ราคาของสินคา้ 3. ขอ้ มูลที่เป็นรูปภาพ คือขอ้ มลู ที่เป็นภาพ อาจเป็ นภาพน่ิงหรือภาพเคล่ือนไหว ภาพลายเส้น ภาพถ่าย ภาพจากวดิ ิทศั น์ 4. ขอ้ มลู ที่เป็นเสียง คือขอ้ มูลท่ีประสาทสัมผสั ทางหูรับรู้ได้ เช่นเสียงเพลง เสียงนกร้อง บท สัมภาษณ์ หรื อเสียงจากส่ิงต่างๆเป็ นตน้ ประโยชน์ของขอ้ มลู 1. ช่วยใหเ้ ราทราบขอ้ มลู ที่แทจ้ ริง 2. ช่วยใหเ้ ราสามารถตดั สินใจบนฐานขอ้ มูลท่ีถูกตอ้ ง ความสาคญั ของข้อมูล ขอ้ มูลมีความสาคญั เพราะหากขาดขอ้ มลู จะกระทาการบางสิ่งอาจทาไม่ไดห้ รือเกิดการ ผดิ พลาดเสียหายได้ เช่น ผรู้ ับเหมาสร้างบา้ นแตไ่ มม่ ีขอ้ มูลความตอ้ งการของผวู้ า่ จา้ งในการสร้าง บา้ นกไ็ มส่ ามารถสร้างบา้ นได้ หรือ การส่งเน้ือสัตวไ์ ปขายในบริเวณที่ประชาชนเป็นคนมงั สวริ ัติ ไม่กินเน้ือสัตวอ์ าจเขียน แผนภาพแสดงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งขอ้ มูลกบั การตดั สินใจกระทาการส่ิง ต่าง ๆ ดงั น้ี การแบง่ ประเภทของขอ้ มลู แบ่งไดห้ ลายแบบข้ึนอยกู่ บั เกณฑท์ ี่ใชใ้ นการแบง่ ซ่ึงอาจ แตกตา่ งกนั ไป ข้ึนกบั จุดประสงคห์ รือความตอ้ งการในการใชข้ อ้ มลู ในที่น้ีจะแสดงการแบง่ ประเภทของขอ้ มลู เพอ่ื เป็นตวั อยา่ ง ดงั เช่น 1. ประเภทของขอ้ มลู เมื่อจาแนกตามรูปลกั ษณะของขอ้ มูล 2. ประเภทของขอ้ มลู เม่ือจาแนกตามลกั ษณะแหล่งเกิดขอ้ มลู 3. ประเภทของขอ้ มูลเม่ือจาแนกตามแหล่งที่มาของขอ้ มูล

ประเภทของข้อมูลเมื่อจาแนกตามรูปลกั ษณะของข้อมูล 1. ขอ้ มูลตวั เลข 2. ขอ้ มลู อกั ขระ 3.ขอ้ มลู ภาพ 4.ขอ้ มลู เสียง ขอ้ มูลตวั เลข คือ ขอ้ มูลท่ีใชแ้ ทนจานวน เช่น ราคาน้ามนั ปริมาณน้าในเข่ือน อุณหภมู ิขอ้ มูลอกั ขระ คือ ขอ้ มูลท่ีเป็นตวั อกั ษร ตวั เลข และสญั ลกั ษณ์ ต่าง ๆ เช่น ที่อยู่ ประกอบ ดว้ ยตวั เลข คือ เลขที่บา้ นและอาจมีเครื่องหมายประกอบ เช่น / และตวั อกั ษร คือ ชื่อถนน ตาบล ฯลฯขอ้ มูลภาพ คือ ขอ้ มูลภาพถ่าย หรือภาพวาด ภาพลายเส้น เช่น ภาพคน แบบก่อสร้างอาคาร ลายนิ้วมือภาพวาดทิวทศั น์ ฯลฯขอ้ มลู เสียงไดแ้ ก่ เสียงต่าง ๆ ท่ีบนั ทึกไว้ เช่น เสียงคน เสียงดนตรี ฯลฯประเภทของขอ้ มลู เมื่อจาแนกตามลกั ษณะแหล่งเกิดขอ้ มูล 1.ขอ้ มูลส่ิงแวดลอ้ ม 2.ขอ้ มลู หน่วยงาน 3.ขอ้ มูลส่วนตวั 4.ขอ้ มูลวทิ ยาศาสตร์ 5.ขอ้ มลู ข่าวและเอกสาร ขอ้ มูลสิ่งแวดลอ้ ม ไดแ้ ก่ขอ้ มูลของส่ิงที่เกิดข้ึนในสังคมและในโลก ทาให้ทราบวา่ มี อะไรเกิดข้ึนบา้ ง เช่น ราคาน้ามนั สภาพภูมิอากาศ การประทว้ งของประชาชนในประเทศต่าง ๆ ฯลฯข้อมูลหน่วยงาน คือขอ้ มูลที่แสดงความเป็ นไปหรือสภาพในหน่วยงาน เช่น ประวตั ิ พนกั งาน รายงานต่าง ๆ เกี่ยวกบั หน่วยงาน ฯลฯขอ้ มูลส่วนตวั คือ ขอ้ มูลส่วนตวั ของบุคคลต่าง ๆ เช่น น้าหนกั ตวั ส่วนสูง วนั เดือนปี เกิดกลุ่มเลือดขอ้ มูลวิทยาศาสตร์ คือ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ทาง วทิ ยาศาสตร์ อาจเป็นขอ้ มูลที่พิสูจน์แลว้ หรือกฎเกณฑ์และ ทฤษฎีต่าง ๆ เช่น ความเร็วของแสง หรือขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการวดั หรือการสังเกตต่าง ๆ เช่น ปริมาณธาตุต่าง ๆในดิน ณ ท่ีดินแห่งหน่ึง ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของพืชที่ไดจ้ ากการผสมข้ึนมาใหม่ ฯลฯขอ้ มูลเก่ียวกบั เอกสาร ไดแ้ ก่ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ เกี่ยวกบั เอกสารท่ีมีผจู้ ดั พมิ พข์ ้ึนขอ้ มลู ประเภทน้ีมีมากในหอ้ งสมุดตา่ ง ๆ เช่น ช่ือผู้ แตง่ ช่ือหนงั สือ เน้ือหาสาระในหนงั สือ ประเภทของข้อมูลเม่อื จาแนกตามแหล่งทม่ี าของข้อมูล อาจแบ่งประเภทของขอ้ มลู เป็น 2 ประเภท คือ ข้อมลู ปฐมภมู ิ กบั ข้อมลู ทุติยภูมิ ข้อมูลปฐมภูมิ คือ ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมหรือบนั ทึกจากแหล่งข้อมูล โดยตรง อาจไดจ้ ากการสอบถาม การสมั ภาษณ์ การสารวจ การจดบนั ทึก ตลอดจนไดม้ าจาก เครื่องมือวดั ตา่ ง ๆ ขอ้ มูลปฐมภูมิจึงเป็นขอ้ มูลพ้นื ฐานท่ีไดม้ าจากจุดกาเนิดของขอ้ มูล

ข้อมูลทุติยภูมิ หมายถึงขอ้ มูลที่มีผอู้ ่ืนรวบรวมไวแ้ ลว้ บางคร้ังอาจมีการประมวลผล เป็ นสารสนเทศไปแลว้ ผใู้ ชข้ อ้ มูลไม่ไดไ้ ปสารวจเอง ตวั อยา่ งเช่นขอ้ มูลสถิติต่าง ๆ ท่ีมีผทู้ าไว้ อาจเป็นหน่วยราชการ หรือหน่วยงาน อื่น ๆ

ใบความรู้ที่ 4 เร่ือง การมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน ส่วนร่วคือกระบวนการที่ประชาชนเขา้ ามีวนเกี่ยวขอ้ ง ในทุกข้นั ตอนของการพฒั นา ไม่วา่ จะเป็ นการ การมีส่วนร่วมคือกระบวนการท่ีประชาชนเขา้ มามีส่วนเก่ียวขอ้ ง ในทุกข้นั ตอนของการ พฒั นา ไมว่ า่ จะเป็นการวางแผน การดาเนินการ การจดั ทาตามแผน การกากบั ติดตาม การประเมินผล และการรับประโยชน์จากการพฒั นาโดยถือวา่ การพฒั นาน้นั เป็นของประชาชน ซ่ึงสามารถแบ่งระดบั ของการมีส่วนร่วมได้ 3 ระดบั คือ 1. ระดบั เป็นผใู้ ชป้ ระโยชน์ เป็นการเขา้ มามีส่วนเกี่ยวขอ้ งดว้ ยการรับประโยชน์อยา่ งเดียว โดยไม่ไดม้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งอยา่ งอ่ืน ซ่ึงถือเป็ นระดบั ต่าสุดของการมีส่วนร่วม ระดบั เป็ นผูใ้ ห้ความ ร่วมมือ เป็นระดบั การมี 2. ระดบั เป็ นผใู้ หค้ วามร่วมมือ เป็ นระดบั การมีส่วนร่วมที่สูงข้ึนมา ระดบั น้ีประชาชนเขา้ มามีส่วนเก่ียวขอ้ ง โดยการคอยให้ความร่วมมือกบั เจา้ หนา้ ที่รัฐ โดยเจา้ หนา้ ท่ีรัฐจะเป็ นผตู้ ดั สินใจวา่ จะขอความร่วมมือจากประชาชนในเร่ืองใด และเม่ือใด การรู้จกั กาลเทศะ มีความอดทน ควบคุม อารมณ์ไดด้ ี ตอ้ งตดั สินใจไดร้ วดเร็ว รู้จกั ใชค้ าพดู ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และเป็นนกั ฟังท่ีดี ม 3. ระดบั เป็ นผูต้ ดั สินใจ ระดบั น้ีประชาชนจะเป็ นผูศ้ ึกษาสถานการณ์ และตดั สินใจท่ีจะ ดาเนินการในเร่ืองต่าง ๆ นับต้งั แต่การวางแผนการดาเนินการ การประเมินผล และการแบ่งปัน ผลประโยชน์ เจา้ หนา้ ท่ีของรัฐจะเป็นเพยี งผคู้ อยใหค้ าแนะนาปรึกษา ซ่ึงถือเป็นระดบั สูงสุดของการมี ส่วนร่วม โด อยา่ งไรก็ตาม การที่ให้มีตวั แทนของประชาชนเพียงบางคนเขา้ มาร่วมประชุมกบั เจา้ หนา้ ที่ เพ่ือ ตดั สินใจทากิจกรรมสาหรับหมบู่ า้ นน้นั ไม่ใช่ “การมีส่วนร่วมของประชาชน” 1. การมีส่วนร่วมอยา่ งแทจ้ ริง จะตอ้ งเปิ ดโอกาสใหท้ ุกคน ทุกกลุ่มในหมู่บา้ นมีส่วนเก่ียวขอ้ ง ในการตดั สินใจท่ีจะดาเนินการใด ๆ เพ่ือตวั เขา และเพื่อหมู่บา้ นของเขา โดยตวั ของเขาเอง ซ่ึง ลกั ษณะการทางานดงั กล่าวจะมีลกั ษณะของ “หุน้ ส่วน” ระหวา่ งเจา้ หนา้ ท่ีรัฐกบั ประชาชน ซ่ึงจะเป็ น ผไู้ ดร้ ับผลที่เกิดข้ึนจากการพฒั นา การทางานลกั ษณะน้ี จะตอ้ งเร่ิมโดยการรวมกลุ่มประชาชน ตาม กิจกรรมพฒั นาท่ีจดั ข้ึนและค่อย ๆ เพิ่มความสามารถและความรับผิดชอบในการดาเนินการตาม กระบวนการพฒั นาให้แก่ประชาชน จนในท่ีสุดให้ประชาชนสามารถดาเนินงานดว้ ยตนเองตาม ลาพังได้ โดยที่เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องมีความต้ังใจและจริงใจท่ีจะสนับสนุนการปฏิบัติงานของ ประชาชนใหเ้ ป็นดงั น้ีอยา่ งตอ่ เน่ืองและอดทน 2.

3. ข้นั ตอนของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพฒั นาสังคม มขี ้นั ตอนต่อไปนี้ 4. ต่าง 1. การมีส่วนร่วมในการคน้ หาปัญหาและสาเหตุของปัญหา ของรัฐจะ 5. ข้นั ตอนแรกมีความสาคญั ที่สุด เพราะถา้ ประชาชนยงั ไม่สามารถเขา้ ใจปัญหา และสาเหตุ ของปัญหาดว้ ยตวั ของเขาเอง กิจกรรมต่าง ๆ ที่ตามมาก็ไร้ประโยชน์ เพราะประชาชนจะขาดความ เขา้ ใจ และมองไม่เป็ นความสาคญั ของกิจกรรมน้นั สิ่งหน่ึงท่ีแน่นอนที่สุดคือ ประชาชนเป็ นผอู้ ยกู่ บั ปัญหาและรู้จกั ปัญหาของตนดีท่ีสุด แต่อาจจะมองปัญหาของตนไม่ชดั เจน จนกวา่ จะมีเพื่อนมาช่วย ตนวเิ คราะห์ถึงปัญหาและสาเหตุของปัญหา 6. 2. การมีส่วนร่วมในการวางแผนการดาเนินงาน 7. การวางแผนดาเนินกิจกรรม เป็ นข้นั ตอนต่อไปที่ขาดไม่ได้ เพราะถา้ หากเจา้ หนา้ ท่ีตอ้ งการ แต่ผลงานการพฒั นาวตั ถุใหเ้ สร็จสิ้นโดยฉบั ไวก็จะดาเนินการวางแผนงานดว้ ยตนเอง ผลที่ตามมาก็ คือต่อไปเม่ือขาดเจา้ หนา้ ท่ี ประชาชนก็ไม่สามารถจะดาเนินการวางแผนงานไดด้ ว้ ยตนเอง อาจจะมี ความยากลาบากท่ีจะผลกั ดนั ให้เจา้ หน้าที่ทาหน้าที่เป็ นเพียงเพ่ือนของประชาชนในการวางแผน เพราะประชาชนอาจจะมีการศึกษานอ้ ย แต่ถา้ ไม่ให้เขาเขา้ ร่วมในข้นั ตอนน้ี โอกาสท่ีประชาชนจะ ไดร้ ับการศึกษา และพฒั นาตนเอง ในการวางแผนดาเนินงานก็จะหมดไป เพราะฉะน้นั เจา้ หนา้ ท่ี จะตอ้ งทาใจให้ไดว้ า่ การศึกษาใดก็ตามตอ้ งเริ่มจากความยาก ง่าย เร็ว ช้า จากระดบั ของผทู้ ี่จะรับ การศึกษา ไม่ใช่จากระดบั ความรู้ความสามารถของเจา้ หนา้ ท่ี32.3. 8. 3. การมีส่วนร่วมในการลงทุนและปฏิบตั ิงาน3.3.3.3.03.สู3.3. 3.3. 30.33333333.33. 9. 3ข ประชาชนมีแรงงาน และมีประสบการณ์ที่สามารถเขา้ ร่วมในกิจกรรมข้นั น้ีไดเ้ พราะใน กิจกรรมพฒั นาบางประเภทถา้ หากให้ประชาชนร่วมลงทุนในกิจกรรม จะทาให้เขามีความรู้สึกเป็ น เจา้ ของ เกิดการบารุงรักษา รักและหวงแหน ในทางตรงขา้ ม ถา้ เขาไม่มีส่วนร่วมในข้นั ตอนน้ี ถา้ การ ลงทุนและการปฏิบตั ิงานท้งั หมดมาจากภายนอก ถา้ เกิด อะไรเสียหาย เขาก็ไม่เดือดร้อนมากนกั เพราะเม่ือไม่ใช่ของเขา เขาก็จะไม่บารุงรักษา ไม่รักไม่หวงแหนนอกจากน้นั การเขา้ ร่วมปฏิบตั ิงาน ดว้ ยตนเอง จะทาใหเ้ ขาเรียนรู้การดาเนินกิจกรรมอยา่ งใกลช้ ิด และสามารถดาเนินกิจกรรมชนิดน้นั ดว้ ยตนเองต่อไปได้ 10. 4. การมีส่วนร่วมในการติดตามและประเมินผลงานประชาชน ควรมีส่วนร่วมในการติดตาม และประเมินผลงาน เพื่อที่จะสามารถบอกไดว้ า่ งานที่ทาไปน้นั ไดร้ ับผลดี ไดร้ ับประโยชน์หรือไม่ อยา่ งไร ดงั น้นั ในการประเมินผลควรที่จะตอ้ งมีท้งั ประชาชนในชุมชนน้นั เอง และคนนอกชุมชน ช่วยกนั พิจารณาวา่ กิจกรรมท่ีกระทาลงไปน้นั เกิดผลดีหรือไม่ดีอยา่ งไร ซ่ึงจะทาให้ประชาชนเห็น คุณค่าของการทากิจกรรมน้นั ร่วมกนั *********************************************……

ใบงานที่ 3 เร่ือง ความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของข้อมูล คาช้ีแจง ใหผ้ เู้ รียนตอบคาถามในประเด็นตา่ ง ๆ ดงั ต่อไปน้ี 1. ใหอ้ ธิบายความหมายของขอ้ มลู พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งประกอบ พอสงั เขป ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 2. ใหอ้ ธิบายความสาคญั และประโยชนข์ องขอ้ มลู พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งประกอบ ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................

ใบงานท่ี 4 (กรต.) เร่ือง การเกบ็ ข้อมูลชุมชน คาชี้แจง: ใหผ้ เู้ รียนนาแบบเก็บขอ้ มูลต่อไปน้ีไปใชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มลู ชุมชนแลว้ นามา สรุปวเิ คราะห์ร่วมกนั ในการพบกลุ่มคร้ังตอ่ ไป ข้อมูลชุมชน ช่ือชุมชน..............................ตาบล....................อาเภอ...........................จงั หวดั ....................... 1.จานวนหลงั คาเรือน ................. หลงั 2.จานวนประชากร ชาย ........... คน หญิง ............. คน 3.อาชีพในชุมชน เกษตรกร จานวน .............. คน รับจา้ ง จานวน .............. คน คา้ ขาย จานวน .............. คน รับราชการ จานวน .............. คน ไม่มีอาชีพ จานวน .............. คน อื่น ๆ (ระบุ) ................................. จานวน .............. คน 4.รายไดเ้ ฉล่ียของคนในชุมชน ประมาณ ........................... บาท 5. ช่วงอายุ แรกเกิด – 15 ปี ชาย ............ คน หญิง ............คน 16 – 35 ปี ชาย ............ คน หญิง ............คน 36 – 60 ปี ชาย ............ คน หญิง ............คน 60 ปี ข้ึนไป ชาย ............ คน หญิง ............คน 6.การคมนาคม ......................................................................................................................... 7.ทรัพยากรหลกั ...................................................................................................................... 8.ความตอ้ งการของประชาชนในการพฒั นาชุมชน 8.1…………………………………………………………………………………………… 8.2…………………………………………………………………………………………… 8.3…………………………………………………………………………………………… 8.4……………………………………………………………………………………………

แผนผงั ชุมชน(พอสังเขป) ช่ือชุมชน ..........................ตาบล.....................อาเภอ........................จังหวดั .......................... เหนือ ตะวนั ตก ตะวนั ออก ใต้ ใบงานที่ 5 (กรต.)

เรื่อง สารวจความต้องการพัฒนาชุมชน ชื่อชุมชน ............................ตาบล ...........................อาเภอ........................จังหวดั ................................ สภาพปัญหาของชุมชน ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ความต้องการของชุมชน ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. แนวทางการแก้ไขปัญหาของชุมชน ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 6 (กรต.) เร่ือง โครงการพฒั นาชุมชน คาชี้แจง; ใหผ้ เู้ รียนใชแ้ บบฟอร์มโครงการดงั ตอ่ ไปน้ีในการเขียนโครงพฒั นาชุมชน 1 โครงการ 1. ชื่อโครงการ .................................................................................... 2. ผู้รับผดิ ชอบโครงการ 2.1 ............................................................................................................................................ 2.2 ............................................................................................................................................ 2.3 ........................................................................................................................................... 2.4 ............................................................................................................................................ 3. หลกั การและเหตุผล ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 4. วตั ถุประสงค์ 4.1. …………………………………………………………………………………...... 4.2. ……………………………………………………………………………………….. 4.3. ……………………………………………………………………………….....…….. 5. เป้ าหมาย ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 6. ระยะเวลาดาเนินการ 7. กจิ กรรม ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 8. ข้นั ตอนการดาเนินการ ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................

9. สถานทดี่ าเนินการ .................................................................................................................................................. 10. งบประมาณ .............................................................................................................................................. 11. ปัญหาและอุปสรรคทค่ี าดว่าจะเกดิ ขึน้ 11.1 ...................................................................................................................................... 11.2. .................................................................................................................................... 11.3....................................................................................................................................... 11.4....................................................................................................................................... 12. ผลทคี่ าดว่าจะได้รับ 12.1 ...................................................................................................................................... 12.2 ...................................................................................................................................... 12.3 ..................................................................................................................................... 13. การตดิ ตามและประเมินผล ................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................ผเู้ สนอโครงการ (……………………………………) ตาแหน่ง ...........................................................

บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ กศน.ตาบลเกาะชา้ ง อาเภอเกาะชา้ ง จงั หวดั ตราด คร้ังที่ 2 สปั ดาห์ที่.....................วนั /เดือน/ปี ................./............................./................. 1. เนือ้ หาสาระทสี่ อน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 2. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 4. ปัญหา/อปุ สรรค การเรียนการสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 5. แนวทางการแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ลงช่ือ..............................................ครูผสู้ อน (.................................................) วนั ที่.............../.................../............... ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหาร .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ลงช่ือ....................................................... (........................................................)

แผนจัดการเรียนรู้รายสัปดาห์ วชิ าพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม สค21003 จานวน 1 หน่วยกติ คร้ังท่ี 3 สัปดาห์ท.่ี ..................วนั ท.ี่ .....................................................แบบพบกล่มุ จานวน 6 ช่ัวโมง เร่ือง พฒั นาชุมชน สังคม ตัวชี้วดั 1. กาหนดแนวทางการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม 2. นาศกั ยภาพของประเทศไทยใน 5 ดา้ นมาเชื่อมโยงสู่งานอาชีพ เนือ้ หา 1. เทคนิคการมีส่วนร่วมในการจดั ทาแผน เช่น การจดั ทาเวทีประชาคม , การประชุมกลุ่มยอ่ ย , การสมั มนา,การสารวจประชามติ,การประชาพิจารณ์ ฯลฯ 2. การพฒั นาอาชีพในชุมชนและสังคม ได้แก่ อาเซียนกบั การพฒั นาอาชีพ , จุดเด่นของ ประเทศไทยในการผลกั ดนั เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และศกั ยภาพประเทศไทยกบั การพฒั นา อาชีพ ข้ันตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 กาหนดสภาพปัญหาการเรียนรู้ 1. ทบทวน / ติดตามผลการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ในการมีส่วนร่วมของการจดั ทาเวที ชาวบา้ น / ประชาคมหมู่บา้ น ของกลุ่ม ในประเด็นตามใบงาน พร้อมท้งั ศึกษาใบความรู้ท่ี 4 เร่ืองการมีส่วนร่วมในการพฒั นาชุมชน ข้นั ที่ 2 แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ 1. ให้ผเู้ รียนนาเสนอโครงการพฒั นาชุมชนของตนเอง แลกเปล่ียนเรียนรู้ระหวา่ ง กลุ่มผูเ้ รียนและครู และร่วมกนั วิเคราะห์ถึงสภาพปัญหา ความตอ้ งการ และแนวทางการ แกไ้ ขปัญหาของชุมชนของตนเอง รวบรวมโครงการของตนเองในแฟ้ มสะสมงาน 2. ครูเชิญวิทยากรผูท้ ่ีมีความรู้และประสบการณ์ในการพฒั นาชุมชน เช่น ผูน้ า ชุมชน/ผนู้ าทอ้ งถิ่น ,พฒั นากรชุมชน ท่ีมีความรู้และประสบการณ์ในการบริหาร และพฒั นา ชุมชน/ทอ้ งถ่ิน มาบรรยายในหวั ขอ้ เทคนิคการมีส่วนร่วมในการจดั ทาแผน และการพฒั นา อาชีพในชุมชนและสังคม ในประเด็นดงั ต่อไปน้ี 1. การจดั ทาเวทีประชาคม/การประชา พจิ ารณ์/การสัมมนา/การประชุมกลุ่มยอ่ ย/การทาเวทีชาวบา้ น 2. อาเซียนกบั การพฒั นาอาชีพ

3. จุดเด่นของประเทศไทยในการผลกั ดนั เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และ 4.ศกั ยภาพ ประเทศไทยกบั การพฒั นาอาชีพ และให้ผูเ้ รียนร่วมกนั แลกเปล่ียนเรียนรู้เกี่ยวกบั แนว ทางการพฒั นาชุมชน สังคม พร้อมท้งั ให้ผูเ้ รียนสรุปเน้ือหาสาระที่ไดจ้ ากการบรรยายของ วิทยากรลงในสมุดบนั ทึกของตนเอง ให้ผเู้ รียนทาใบงานที่ 7 เร่ืองการมีส่วนร่วมในการ พฒั นาชุมชน และใบงานท่ี 8 เรื่องการพฒั นาอาชีพในชุมชนและสังคม ข้นั ที่ 3 การปฏิบตั แิ ละการนาไปใช้ 1. ครูและผเู้ รียนสรุปสาระสาคญั นาความรู้ท่ีสอดคลอ้ งกบั วิถีชีวติ ไปเป็ น แนวทางในการดาเนินชีวติ 2. ใหผ้ เู้ รียนจดั ทาโครงการพฒั นาชุมชนของตนเอง จดั ทารูปเล่มรายงาน และรวบรวมไวใ้ นแฟ้ มสะสมงาน ข้นั ที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้ 1. ครูและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปสาระสาคญั ตามมาตรฐานการเรียนรู้ 2. ประเมินผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ 1. ใบความรู้ท่ี 4 เรื่องการมีส่วนร่วมในการพฒั นาชุมชน 2. ใบงานท่ี 7 เรื่องการมีส่วนร่วมในการพฒั นาชุมชน 3. ใบงานท่ี 8 เรื่องการพฒั นาอาชีพในชุมชนและสงั คม 4. หนังสือแบบเรียนวิชาการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม สค21003, สื่อส่ิงพิมพ์, อินเตอร์เน็ต 5. วทิ ยากร (ผนู้ าชุมชน / ผนู้ าทอ้ งถิ่น) การวดั และประเมินผล 1. แบบประเมินหน่วยการเรียนรู้ 2. ส่งงานตรงตามกาหนด

ใบงานท่ี 7 เร่ือง การมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน คาชี้แจง : ใหน้ กั ศึกษาตอบคาถามดงั ตอ่ ไปน้ี 1.การมีส่วนร่วม คือ ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 2.ระดบั ของการมีส่วนร่วมมี 3 ระดบั ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง จงอธิบาย 1. ............................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... 2. ................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... 3. ................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... 3. นกั ศึกษาสามารถเขา้ ไปมีส่วนร่วมในการพฒั นาสงั คม และชุมชนไดใ้ นข้นั ตอนใด จง อธิบาย ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................

ใบงานที่ 8 เรื่อง การพฒั นาอาชีพในชุมชนและสังคม ตอนที่ 1 คาชี้แจง : ใหน้ กั ศึกษาตอบคาถามดงั ต่อไปน้ี 1.ท่านจะนาความรู้ที่ไดร้ ับในเร่ืองการพฒั นาอาชีพในชุมชนและสังคมไปปรับใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 2.จงบอกอาชีพท่ีเหมาะสมกบั ชุมชนของท่าน ในสถานการณ์ปัจจุบนั ท่ีจะเขา้ สู่ประชาคม อาเซียน อยา่ งนอ้ ย 2 อาชีพอธิบาย พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................

เรื่อง เทคนิคการมีส่วนร่วมในการจัดทาแผน ตอนที่ 2 คาชี้แจง ใหน้ กั ศึกษาตอบคาถามดงั ต่อไปน้ี 1. การจดั ทาเวทีประชาคมคืออะไร มีข้นั ตอนการดาเนินการอยา่ งไร จงอธิบาย 2. การประชุมกลุ่มยอ่ ยคืออะไร มีข้นั ตอนการดาเนินการอยา่ งไร การประชุมกลุ่มยอ่ ยมีขอ้ ดี ขอ้ เสีย อยา่ งไร 3. การสัมมนามีประโยชน์อยา่ งไร องคป์ ระกอบของการสัมมนามีอะไรบา้ ง 4. การสารวจประชามติหมายถึงอะไร กระบวนการสารวจประชามติมีอะไรบา้ ง จงยกตวั อยา่ งการ สารวจประชามติท่ีนกั ศึกษารู้จกั มา 2 เรื่อง 5. ประชาพจิ ารณ์คืออะไร ข้นั ตอนในการทาประชาพิจารณ์มีอะไรบา้ ง 6. ในการเขียนโครงการน้นั หวั ขอ้ หลกั ที่สาคญั ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ใดบา้ ง 7. ลกั ษณะของรายงานท่ีดีมีกี่ขอ้ อะไรบา้ ง

บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ กศน.ตาบลเกาะชา้ ง อาเภอเกาะชา้ ง จงั หวดั ตราด คร้ังท่ี 3 สปั ดาห์ที่.....................วนั /เดือน/ปี ................./............................./................. 1. เนือ้ หาสาระทส่ี อน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 2. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 4. ปัญหา/อปุ สรรค การเรียนการสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 5. แนวทางการแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ลงช่ือ..............................................ครูผสู้ อน (.................................................) วนั ที่.............../.................../............... ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหาร .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ลงชื่อ....................................................... (........................................................)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook