content-posn-5

เนื้อหาสาหรบั การสอบคัดเลอื กเข้าคา่ ย 1 วิชาฟิสิกส์ สาหรับปีการศกึ ษา 2563 1. การแปลงหน่วย เชน่ 30 ms1  108 km / hour. 2. กฎการเคลื่อนท่ขี องนวิ ตนั กฎขอ้ ท่ี 1 เป็นดง่ั คาจากัดความของระบบอา้ งอิงเฉ่ือย กฎข้อที่ 2 ในระบบอา้ งองิ เฉื่อย มรี ปู สมการเป็น ma  f กฎขอ้ ท่ี 3 แรงปฏิกิรยิ ามีขนาดเทา่ กับแรงกริ ิยา มีทิศทางตรงขา้ ม 3. ผลจากกฎการเคล่ือนที่ : ได้หลกั อนรุ ักษ์ โมเมนตัมเชิงเส้น เชน่ m v  m v  m u  m u 11 22 11 22 4. ผลจากกฎการเคล่ือนท่ี : ได้หลกั อนุรักษพ์ ลังงานกลของระบบ พลงั งานจลน์ + พลังงานศักย์ = คงที่ , ไม่ขนึ้ กบั ทัง้ ตาแหน่งและเวลา เม่อื ไม่มีแรงเสียดทานเกย่ี วขอ้ ง 5. แรงเสยี ดทาน สมั ประสิทธข์ิ องความเสยี ดทานสถิตและสัมประสทิ ธิข์ องความเสยี ดทานจลน์ f  N 6. การเคล่ือนทีแ่ บบโพรเจคไทล์ (ใกล้ผวิ โลกแบนราบ) y   1 gt 2  C 1t C2 , x Dt D 2 1 2 7. การเคล่อื นทดี่ ้วยอตั ราเร็วคงทต่ี ามแนววงกลมรัศมี r mv2  แรงที่รั้ง m เขา้ สจู่ ดุ ศนู ยก์ ลาง r m2r  แรงทร่ี ั้ง m เข้าสู่จุดศนู ย์กลาง 8. การเคล่ือนท่ีแบบหมุนของก้อนวตั ถรุ อบแกนผา่ นจดุ ศนู ย์กลางมวล ด้วยอัตราเรง่ เชิงมมุ  I   ทอร์กรอบแกนหมนุ cm 9. สมดุลสถติ : อตั ราเรง่ เชงิ มุม   0 เนอื่ งจากทอร์กลพั ธเ์ ปน็ ศนู ย์ , อตั ราเร็วเชงิ มมุ   0 ดว้ ย 10. ของไหล (หมายถึงของเหลวก็ได้ , แกส๊ กไ็ ด)้ : ความดันท่ีความลกึ h จากผิวของเหลวในสนามโน้มถ่วง g P  P0  gh 11. สมการของ Bernoulli 1 v2  gh  P  คงที่ 2 12. การไหลของความร้อน ฟลักซ์ของการไหล J  K T x  13. การขยายตัวเชิงความร้อน L  L 1  (T T ) 00 14. กฎของแก๊สอุดมคติ PV  nRT 15. หลกั การ Equipartition of Energy 1 kT ต่อหน่ึง degree of freedom 2 16. ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส 17. กฎขอ้ ที่ศูนย์ และกฎข้อทีห่ น่ึงของเทอรโ์ มไดนามิคส์ กฎขอ้ ที่ศนู ย์ หลกั ของสมดุลเชงิ ความร้อน กฎขอ้ ท่ีหน่ึง หลกั อนุรักษ์พลงั งาน (ทุกรูปแบบ) รวมทง้ั พลงั งานความรอ้ น U  Q  W

18. ไฟฟา้ สถติ แรงระหวา่ งประจุไฟฟา้ กฎของคลู อมบ์ งานที่ทาโดยแรงไฟฟ้า แนวคดิ เร่อื งศักย์ไฟฟ้า แนวคิด เร่ืองสนามไฟฟา้ และพลงั งานในสนามไฟฟ้า  1 E 2  แนวคิดเรอื่ งตัวเกบ็ ประจุ (C )  2 0    19. ไฟฟา้ กระแสตรง 20. การไหลของกระแสไฟฟ้าในเส้นลวดโลหะ กฎของโอหม์ แนวคดิ เรื่องความตา้ นทาน (R ) และตัวต้านทาน 21. การสญู เสียพลงั งานไฟฟ้าไปเป็นพลงั งานความร้อนในตัวตา้ นทาน ด้วยอตั รา i2R (เรยี กว่า “Joule heating”) 22. การรวมคา่ R , การรวมค่า C และบทบาทของ R กบั C ในวงจรกระแสตรง i  Rq Cq 23. สนามแม่เหล็กเนื่องจากกระแสไฟฟ้า ท่ีจดุ ศูนย์กลางของวงลวดรศั มี r ท่มี กี ระแสไฟฟา้ i ไหลวน B สนามแม่เหลก็ B   i 2 r  i หน่วย tesla 0 0 or i 4 r 2 2r  เปน็ ค่าคงท่ี และมีค่า  4  107 henry/metre 0 แนวคิดเรอ่ื งสนามแม่เหล็กไฟฟา้ จากกฎของ Biot-Savart และ กฎของ Ampere 24. กฎการเหนย่ี วนาแม่เหลก็ ไฟฟ้าของ Faraday & Lenz แนวคดิ เรอ่ื งพลังงานต่อหนว่ ยปรมิ าตรในสนามแม่เหล็ก 1 B2  ตวั เหนย่ี วนา (L ) และบทบาทของมนั ใน  2   0 วงจรไฟฟ้ากระแสตรง 25. กระแส “Displacement current” ของ Maxwell ทฤษฎแี มเ่ หล็กไฟฟ้า พลงั งานต่อหน่วยปริมาตรในคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้า  1  E 2  1 B2  ,   1  2 2   0  c2 0 0 0 อัตราเรว็ ของคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ในสุญญากาศ c  299792458 m / s 26. กฎของการสะทอ้ น กระจกนูน และกระจกเวา้ การเกิดภาพโดยกระจกเหล่านี้ โดยการเขียนทางเดินของแสง และโดยการคานวณด้วยสมการ 1  1  1 vu f 27. กฎของการหักเห กฎของสเนลล์ กฎของบริวสเตอร์ เลนส์นูน และเลนสเ์ ว้า การเกิดภาพโดยเลนสเ์ หลา่ นี้ โดย การเขียนทางเดินของแสง และโดยการคานวณดว้ ยสมการ 1  1  1 vu f 28. การเกดิ ภาพในระบบกระจกกับเลนส์

เน้อื หาสาหรับการสอบคัดเลอื กเข้าค่าย 1 วชิ าเคมี สาหรับปกี ารศกึ ษา 2563 1. อะตอมและสมบัตขิ องธาตุ - แบบจาลองอะตอม (แบบจาลองอะตอมของดอลตัน ทอมสนั รทั เทอร์ฟอร์ด โบร์ แบบกลมุ่ หมอก] - อนภุ าคในอะตอมและไอโซโทป (อนุภาคในอะตอม เลขอะตอม เลขมวล และไอโซโทป) - การจัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอม (จานวนอิเล็กตรอนในแต่ละระดับพลังงาน ระดับพลังงานหลักและระดับ พลังงานยอ่ ย ออร์บทิ ัล หลกั การจดั เรียงอเิ ล็กตรอนในอะตอม) - ตารางธาตุและสมบัติของธาตุหมู่หลัก (วิวัฒนาการของการสร้างตารางธาตุ กลุ่มของธาตุในตารางธาตุ ขนาด อะตอม ขนาดไอออน พลังงานไอออไนเซชัน สมั พรรคภาพอิเล็กตรอน อเิ ลก็ โทรเนกาติวิตี) - ธาตุแทรนซชิ นั (สมบัตขิ องธาตุแทรนซชิ นั ) - ธาตุกัมมันตรังสี (การเกิดกัมมันตภาพรังสี การสลายตัวของไอโซโทปกัมมันตรังสี อันตรายจากไอโซโทป กัมมันตรังสี คร่ึงชีวิตของไอโซโทปกัมมันตรังสี ปฏิกิริยานิวเคลียร์ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการใช้สาร กัมมันตรังสี) - การนาธาตไุ ปใชป้ ระโยชนแ์ ละผลกระทบต่อสิง่ มีชวี ติ (ประโยชนข์ องธาตุ ผลกระทบต่อสิ่งมชี วี ติ และ สง่ิ แวดลอ้ ม) 2. พันธะเคมี - สัญลกั ษณแ์ บบจดุ ของลวิ อิสและกฎออกเตต - พันธะไอออนิก (การเกิดพันธะไอออนิก สูตรเคมีและช่ือของสารประกอบไอออนิก พลังงานกับการเกิด สารประกอบ ไอออนิก สมบัติของสารประกอบไอออนิก สมการไอออนิกและสมการไอออนกิ สทุ ธิ) - พนั ธะโคเวเลนต์ (การเกิดพนั ธะโคเวเลนต์ สูตรโมเลกุลและชื่อของสารโคเวเลนต์ ความยาวพันธะและพลังงาน พันธะของสารโคเวเลนต์ รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ สภาพข้ัวของโมเลกุลโคเวเลนต์ แรงยึดเหนี่ยวระหว่าง โมเลกลุ และสมบัติของสารโคเวเลนต์ สารโคเวเลนต์โครงรา่ งตาขา่ ย) - พันธะโลหะ (การเกิดพันธะโลหะ สมบัตขิ องโลหะ) - การใชป้ ระโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารประกอบโคเวเลนต์ และโลหะ 3. โมลและสตู รเคมี - มวลอะตอม - โมล (มวลต่อโมล ความสัมพนั ธ์ระหว่างโมล มวล และปรมิ าตรของแกส๊ ) - สูตรเคมี (กฎสดั ส่วนคงท่ี รอ้ ยละโดยมวลของธาตุ การหาสูตรโมเลกุลและสูตรอย่างง่าย) 4. สารละลาย - ความเข้มข้นของสารละลาย - การเตรียมสารละลาย - สมบตั ิบางประการของสารละลาย 5. ปรมิ าณสัมพันธ์ - ปฏกิ ิริยาเคมี - สมการเคมี - การคานวณปริมาณสารในปฏิกิริยาเคมี (การคานวณปริมาณสารท่ีเกี่ยวข้องกับมวล การคานวณปริมาณสารท่ี เก่ียวข้องกับความเข้มข้น การคานวณปริมาณสารที่เกี่ยวข้องกับปริมาตรของแก๊ส การคานวณปริมาณสารใน ปฏกิ ิรยิ าหลายขัน้ ตอน) - สารกาหนดปรมิ าณ - ผลไดร้ อ้ ยละ

เนอื้ หาสาหรับการสอบคัดเลือกเข้าค่าย 1 วชิ าชีววทิ ยา สาหรับปกี ารศกึ ษา 2563 1. โครงสร้างและหน้าทีข่ องเซลล์ - การลาเลยี งสารเขา้ -ออกเซลล์ - สารเคมใี นเซลล์ของส่งิ มชี วี ติ - การหายใจระดับเซลล์ - โครงสร้างต่าง ๆ ของเซลล์ และหน้าที่ - การแบ่งเซลล์ - Prokaryotic cell และ Eukaryotic cell 2. พนั ธศุ าสตร์ - พนั ธศุ าสตร์ประชากร - การถ่ายทอดทางพันธุกรรม - ววิ ัฒนาการ - ยีนและโครโมโซม - พนั ธศุ าสตร์ และเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ 3. ความหลากหลายทางชีวภาพ - อาณาจักรพืช - อนกุ รมวธิ านของสง่ิ มชี วี ติ - อาณาจักรฟงั ไจ - ไวรสั - อาณาจักรสัตว์ - อาณาจักรมอเนอรา - อาณาจกั รโพรทสิ ตา 4. นเิ วศวทิ ยา - นเิ วศวิทยาประชากร - ความสมั พนั ธ์ระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ ในระบบนเิ วศ - พฤตกิ รรม และนเิ วศวิทยาพฤตกิ รรม - การถ่ายทอดพลังงาน และวัฏจักรสาร - การเปลย่ี นแปลงแทนที่ 5. กายวภิ าคและสรีรวทิ ยาของพชื - การสบื พนั ธุ์ และการเจรญิ ของพืชดอก - โครงสรา้ งของพืชดอก - การตอบสนองของพืช - การสงั เคราะห์ดว้ ยแสง - การลาเลยี งในพชื 6. กายวภิ าคและสรรี วิทยาของสตั ว์ - ระบบขับถ่าย และการรกั ษาสมดลุ ของสัตว์ - เนอื้ เยอื่ สตั ว์ - การสืบพนั ธ์ุ และการเจรญิ ของสัตว์ - ระบบย่อยอาหาร - อวยั วะรบั ความร้สู กึ และระบบประสาท - ระบบหายใจ - ระบบต่อมไรท้ ่อ - ระบบหมนุ เวียนเลอื ด และการแลกเปล่ียนแกส๊ - การเคลื่อนที่ของสง่ิ มชี วี ิต - ระบบน้าเหลือง และระบบภมู คิ ุ้มกนั

เนอื้ หาสาหรับการสอบคัดเลอื กเข้าคา่ ย 1 วชิ าคณิตศาสตร์ สาหรับปีการศกึ ษา 2563 1. จานวนและการดาเนินการ ได้แก่ จานวนตรรกยะ เลขยกกาลัง จานวนจริงและพหนุ าม อัตราส่วน 2. พีชคณิต ได้แก่ เซต สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สมการเชิงเส้นสองตัวแปร สมการกาลังสองตัวแปรเดียว อสมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว ระบบสมการ การแยกตัวประกอบของพหุนาม ฟงั กช์ ันกาลงั สอง 3. การวัด ได้แก่ ความยาว พ้นื ท่ผี ิว ปริมาตร อตั ราสว่ นตรโี กณมติ ิ 4. เรขาคณิต ได้แก่ เสน้ ขนาน การแปลงทางเรขาคณิต ความเท่ากันทุกประการ ทฤษฎีบทพที าโกรัส ความคล้าย อัตราส่วนตรโี กณมติ ิ วงกลม 5. สถติ ิและความน่าจะเป็น ได้แก่ การนาเสนอและวิเคราะห์ขอ้ มลู ความน่าจะเป็น 6. ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ไดแ้ ก่ การใหเ้ หตุผล การแก้ปัญหา ตรรกศาสตร์

เน้อื หาสาหรับการสอบคัดเลอื กเขา้ คา่ ย 1 วชิ าคอมพวิ เตอร์ สาหรบั ปีการศึกษา 2563 ระดบั ชนั้ เนื้อหา กลุม่ ที่ 1 1.1 เลขหลัก ฟังกช์ นั กลมุ่ ท่ี 1 1) ความสมั พนั ธแ์ ละฟงั กช์ ัน: ความสมั พันธ์ โดเมนและเรนจ์ ฟังก์ชนั 1.2 เลขเสรมิ 2) ฟงั กช์ นั เชิงเส้น 3) ฟังก์ชันกาลงั สอง: กราฟของฟงั กช์ ันกาลงั สอง การนากราฟไปใช้ในการแกส้ มการและอสมการ การแก้ปัญหาโดย กล่มุ ที่ 2 2.1 เลขหลกั ใชค้ วามรุ้เรื่องฟงั ก์ชันกาลังสองและกราฟ 4) ฟงั ก์ชันเอกซ์โพเนนเชยี ล กลุ่มที่ 2 2.2 เลขเสรมิ กรณฑ์ท่ีสอง 1) สมบัตขิ อง a เมื่อ a  0 2) การดาเนินการของจานวนจริงซึ่งเก่ยี วกบั กรณฑท์ ่ี2 การแยกตัวประกอบพหนุ าม 1) พหุนามดีกรีสอง ที่เป็นผลตา่ งของกาลงั สอง 2) พหุนามดีกรีสอง โดยวิธีทาเปน็ กาลงั สองสมบรู ณ์ 3) พหนุ ามดกี รี สูงกว่าท่ีมปี ระสิทธเ์ิ ปน็ จานวนเตม็ 4) พหุนามทม่ี ี สมั ประสิทธ์ิเป็นจานวนเตม็ โดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ สมการกาลังสอง 1) ทบทวนสมการกาลงั สอง 2) การแก้สมการกาลังสองโดยวธิ กี าลงั สองสมบรูณ์ พาราโบลา สมการของพาราโบลา กาหนดด้วย y = ax2, y = ax2+k, y = a(xh)2+k, y = ax2+bk+c อสมการ 1) อสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดยี ว 2) การแก้อสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดียว 3) โจทย์ปญั หาเก่ียวกับอสมการ เชิงเสน้ ตวั แปรเดยี ว ความนา่ จะเป็น 1) ความน่าจะเป็น 2) การทดลองสุ่มและเหตกุ ารณ์ 3) ความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ 4) ความน่าจะเป็นกบั การตดั สินใจ สถติ ิ 1) ขอ้ มลู และการนาเสนอขอ้ มูล 2) ค่ากลางของข้อมลู ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1) กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 2) ทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์กับตรีโกณมติ ิ การให้เหตผุ ลเกี่ยวกบั รปู สามเหลีย่ ม และ รปู ส่ีเหลยี่ ม 1) ความรพู้ น้ื ฐานเกยี่ วกบั การใหเ้ หตุผลทางเรขาคณติ 2) ทฤษฎีบทเก่ียวกับรูปสามเหล่ียมและรูปสเี่ หลย่ี ม 3) การสร้าง ระบบสมการ 1) ระบบสมการทป่ี ระกอบด้วยสมการเชงิ เส้น และสมการดกี รีสอง 2) ระบบสมการที่ประกอบด้วยสมการดกี รีสองท้งั สองสมการ วงกลม 1) วงกลม 2) มุมท่จี ุดศูนยก์ ลางและมุมในส่วนโคง้ ของวงกลม 3) คอรด์ 4) เสน้ สมั ผัสวงกลม เศษสว่ นของพหนุ าม 1) การดาเนินการของเศษส่วนของพหุนาม 2) การแก้สมการเศษส่วนของพหุนาม 3) โจทยป์ ัญหาเก่ียวกับเศษส่วนของพหุนาม

กลุ่ม เน้อื หา กลุ่มท่ี 3 เซต: 3.1 เลขหลกั เซต เอกภพสมั พทั ธ์ สบั เซตและเพาเวอรเ์ ซต ยเู นียน อนิ เตอร์เซกชันและคอมพลีเมนตข์ องเซต กลุม่ ท่ี 3 การให้เหตุผล: 3.2 เลขเสรมิ การให้เหตุผลแบบอุปนัย การใหเ้ หตุผลแบบนิรนยั กล่มุ ที่ 4 จานวนจริง: 4.1 เลขหลกั 1) จานวนจริง 2) สมบัติของจานวนจริงเกีย่ วกับการบวกและการคณู (การเท่ากันในระบบจานวน การบวกและ กลมุ่ ท่ี 4 การคูณในระบบจานวนจริง) 3) การนาสมบัติของจานวนจริงไปใช้ในการแก้สมการกาลังสอง (การแยกตัวประกอบ 4.2 เลขเสรมิ ของพหนุ าม การแกส้ มการกาลงั สองตวั แปรเดยี ว) 4) การไมเ่ ท่ากัน 5) ค่าสัมบรณู ข์ องจานวนจริง เลขยกกาลัง: รากที่ n ของจานวนจริง เลขยกกาลังทมี่ เี ลขช้ีกาลังเป็นจานวนตรรกะ ตรรกศาสตร์เบือ้ งต้น: 1) ประพจน์ 2) การเชื่อมประพจน์ 3) การหาค่าความจริงของประพจน์ 4) การสร้างตารางค่าความจริง 5) รูปแบบของประพจน์ท่ีสมมลู กนั 6) สัจนริ นั ดร์ 7) การอ้างเหตผุ ล 8) ประโยคเปิด 9) ตวั บ่งปรมิ าณ 10) ค่าความ จริงของประโยคทีมีตัวบ่งปริมาณตัวเดียว 11) สมมูลและนิเสธของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ 12) ค่าความจริงของ ประโยคท่ีมตี ัวบ่งปริมาณสองตัว ระบบจานวนจริง: 1) จานวนจริง 2) สมบัตขิ องระบบจานวนจริง 3) การแก้สมการพหนุ ามตัวแปรเดียว 4) สมบัติของการไมเ่ ท่ากัน 5) ชว่ งและการแกอ้ สมการ 6) คา่ สมั บรณู ์ 7) การแกส้ มการและอสมการในรปู ค่าสัมบรูณ์ ทฤษฎจี านวนเบ้ืองต้น: 1) การหารลงตัว 2) ข้ันตอนวธิ กี ารหาร 3) ตวั หารรว่ มมาก 4) ตัวคูณรว่ มนอ้ ย ฟงั กช์ ัน: 1) ความสมั พนั ธแ์ ละฟังกช์ นั (ความสัมพนั ธ์ โดเมนและเรนจ์ ฟงั ก์ชนั ) 2) ฟงั กช์ นั เชิงเส้น 3) ฟงั กช์ ันกาลังสอง (กราฟของฟังก์ชันกาลังสอง การนากราฟไปใช้ในการแก้สมการและอสมการ การแก้ปัญหา โดยใช้ความรุ้เร่อื งฟังกช์ ันกาลังสองและกราฟ) 4) ฟังกช์ นั เอกซโ์ พเนนเชยี ล 5) ฟังกช์ ันค่าสมบรณู ์ 6) ฟงั กช์ นั ขนั้ บันได อตั ราส่วนตรโี กณมิติ: 1) อตั ราส่วนตรโี กณมิติ 2) การประยกุ ต์ของอตั ราสว่ นตรโี กณมติ ิ ระบบสมการเชิงเส้น และเมทริกซ์: 1) ระบบสมการเชงิ เส้น 2) เมทริกซ์ 3) ตวั ผกผันการคูณของเมทรกิ ซ์ 4) การหาตัวผกผันการคณู ของเมทริกซ์ 5) การใช้เมทรกิ ซแ์ ก้ระบบสมการเชงิ เสน้ ฟงั ก์ชัน: 1) ความสัมพันธ์ (ผลคูณคารท์ เี ซยี น ความสมั พนั ธ์ โดเมนและเรนจ์ของความสัมพนั ธ์) 2) ตัวผกผนั ของความสมั พนั ธ์ 3) ฟังก์ชนั (ความหมายของฟงั กช์ นั การดาเนนิ การของฟงั ก์ชัน ฟงั ก์ชนั ผกผนั เทคนคิ การเขียนกราฟ) เรขาคณิตวเิ คราะห์: 1) ระยะทางระหว่างจุดสองจุด จุดก่ึงกลางระหว่างจุดสองจุดความชันของเส้นตรง เส้นขนาน เส้นต้ังฉาก ความสัมพันธ์ซงึ่ มกี ราฟเปน็ เสน้ ตรง ระยะห่างระหว่างเสน้ ตรงกบั จดุ 2) ภาคตดั กรวย (วงกลม วงรี พาราโบลาโบลา ไฮเพอร์โบลา การเลอื่ นกราฟ)