เดก็ ท่บี กพร่องทางด้านการเรียนรู้
ช่วยกนั ให้ความหมายของ เดก็ ท่มี ีความบกพร่องทางด้านการเรียน
ความหมายของเดก็ ท่มี ีความบกพร่องทางด้านการเรียนรู้ LD หรือ Learning Disabilities หมายถึง ความบกพร่องทางดา้ นการเรียนรู้ แสดงออกมาในรูปของปัญหาดา้ นการอ่าน การเขียน การสะกดคา การคานวณและเหตุผลเชิงคณิตศาสตร์
รศ. พญ. ศนั สนีย์ ฉัตรคปุ ต์ ผ้อู ำนวยกำรสถำบนั สร้ำงสรรค์ศกั ยภำพสมองครีเอทีฟเบรน กลำ่ ววำ่ เด็ก LD หรือเด็กที่มีควำมบกพร่องทำงกำรเรียนรู้ เป็นเด็กที่มีวงจรกำรทำงำนของสมองไม่เป็นไปตำมท่ีควรจะเป็นเซลล์สมองบำงส่วนอยู่ผิดที่ ทำให้มีปัญหำในกำรเรียน เรียนอ่อนบำงวิชำ หรือหลำยๆ วิชำ ทงั้ ที่สติปัญญำปกติ บำงคนมีปัญหำในกำรอ่ำนทงั้ ท่ีมีสำยตำหรือประสำทตำปกติ แตก่ ำรแปลภำพในสมองไม่เหมือนคนท่วั ไป ทำให้เห็นตวั หนังสือกลบั หวั กลบั หำง ลอยไป ลอยมำ ไม่คงท่ี บำงครัง้ เห็นๆหยุดๆ มองเห็นตวั หนังสือหำยไปเป็นบรรทดั บำงครัง้ เห็นตวั หนังสือแต่ไม่รู้ควำมหมำยบำงคนมีปัญหำกำรฟัง ทงั้ ที่กำรได้ยินปกติ แต่สมองไม่สำมำรถแยกแยะเสียงสูง- ต่ำจงึ มกั เขียนสะกดผิด และไมท่ รำบควำมหมำยของคำ
บำงคนมีปัญหำเรื่องทิศทำง ซงึ่ ไมเ่ ก่ียวข้องกบั ภำษำ ไมร่ ู้ว่ำซ้ำยหรือขวำ กะระยะทำงไม่ถูก ทำให้เดินชนอยู่บ่อยๆ บำงคนคำนวณไม่ได้ เพรำะไม่เข้ำใจสญั ลกั ษณ์ตวั เลข ฯ จำกกำรวิจยั ในประเทศไทยพบวำ่ ปัจจบุ นั มีเดก็ ไทย โดยเฉพำะในระดบั ประถมศกึ ษำปีที่ 1-2 กวำ่700,000 คน มีควำมบกพร่องทำงกำร เรียนรู้ อ่ำนไม่ออก เขียนไม่ได้ตำมวยั ทงั้ ท่มี ีระดบั สตปิ ัญญำ (IQ)ปกติ หรือสงู กวำ่ ปกตไิ ด้ในบำง
สาเหตุของเดก็ LD คืออะไร
สาเหตุของเดก็ LDศ.ดร.ผดุง อารยะวญิ ญู อาจารยป์ ระจาภาควิชาการศึกษาพิเศษ คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ ระบุวา่ มีสาเหตุสาคญั 3 ประการ - ประการแรก คือ กรรมพนั ธุ์ เดก็ บางคนอาจมีญาติผใู้ หญ่ที่ เป็น LD แต่สงั คมในสมยั ก่อนยงั ไม่รู้จกั LD
ประการที่สอง การที่เดก็ คลอดก่อนกาหนด ทาใหเ้ ซลลส์ มองผดิ ปกติประการท่ีสาม คือ สารเคมีเขา้ สู่ร่างกายและสะสมในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ สารตะกวั่ ซ่ึงมาจากอากาศและอาหารที่ปนเป้ื อนสารเหล่าน้ี
อาการของเดก็ ท่มี คี วามบกพร่อมด้านการเรียนรู้ อาการของเดก็ LDจะมีมาต้งั แต่กาเนิด ท้งั ที่มี IQ และร่างกายทุกส่วนปกติ และจะปรากฎชดั เมื่อเขา้ เรียน คือ เบ่ือการอ่าน อ่านหนงั สือตะกกุ ตะกกั ไม่สมกบั วยั เมื่อพอ่ แม่ครู ใหอ้ ่านหรือทาการบา้ น กจ็ ะไม่ยอมอ่าน ทาใหส้ อบตก ถึงข้นั ตอ้ งเรียนซ้าช้นั โดยวชิ าท่ีเป็นปัญหามากที่สุด คือ คณิตศาสตร์ เนื่องจากอ่านไม่ออก จบั ความไม่ได้ ตีความโจทยไ์ ม่เป็น ท้งั ที่เม่ืออ่านใหฟ้ ังกส็ ามารถตอบไดถ้ ูก อาการของ LD อาจแบ่งไดเ้ ป็น 3 กลุ่ม คือ
1. มีปัญหำในกำรอำ่ นหนงั สือ (Dyslexia) อำจจะอำ่ นไม่ออก หรืออำ่ นได้บ้ำง แตส่ ะกดคำไมถ่ กู ผสมคำไมไ่ ด้สลบั ตวั พยญั ชนะ สบั สนกบั กำรผนั สระ วรรณยกุ ต์ บำงทสี นใจแตก่ ำรสะกดคำทำให้อำ่ นแล้วจบั ควำมไม่ได้
2.มีปัญหาในการเขียนหนงั สือ (Dysgraphia) ท้งั ๆที่รู้ว่าจะเขียนอะไร แต่ก็เขียนไม่ได้ หรือเขียนไดช้ า้ เขียนตกหล่นเขียนพยญั ชนะสลบั กนั หรือคาเดียวกนั แต่เขียนสองคร้ังไม่เหมือนกนั บางคนเขียนแบบสลบั ซา้ ยขวาเหมือนส่องกระจก ลายมือโยเ้ ย้ ขนาดของตวั อกั ษรไม่เท่ากนั ข้ึนลงไม่ตรงบรรทดั ไม่เวน้ ช่องไฟ อาจจะเกิดจากมือและสายตาทางานไม่ประสานกนั หรือการรับภาพของสมองไม่เหมือนคนอ่ืนๆ
3. มีปัญหำในกำรคำนวณ (Dyscalculia) อำจจะคำนวณไม่ได้เลย หรือทำได้แต่สบั สนกับตวั เลข ไม่เข้ำใจสญั ลกั ษณ์ ไม่เข้ำใจคำ่ ของตวั เลข บำงคนสบั สนตงั้ แตก่ ำรจำเครื่องหมำยบวก ลบ คูณ หำร ไม่สำมำรถจับหลักกำรได้ เช่น หลักหน่วย หลักสิบหลกั ร้อยตำ่ งกนั อย่ำงไร บำงคนบวกลบเป็น เข้ำใจเครื่องหมำย แต่ตโี จทย์คณิตศำสตร์ไมไ่ ด้ เช่น ถำมวำ่ 2+2 เทำ่ กบั เท่ำไร ตอบได้ แตถ่ ้ำบอกวำ่ มีส้มอยู่ 2 ลกู ปำ้ ให้มำอีก 2 ลกู รวมเป็นกี่ลกู เด็กกลมุ่ นีจ้ ะตอบไมไ่ ด้
เราจะช่วยเหลือเดก็ ท่มี ีปัญหาทางด้านการบกพร่ องอย่ างไร
LD ถือเป็นโรคที่ไม่มีทำงรักษำให้หำยได้เด็ดขำด แตส่ ำมำรถรักษำให้มีอำกำรดีขนึ ้ ตำมลำดบักำรฝึกฝนอำจจะทำให้ทักษะกำรอ่ำน เขียน หรือคำนวณพัฒนำขึน้ มำได้บ้ำงเป็นบำงส่วน แต่โดยธรรมชำติ วิธีกำรเรียนรู้ของเดก็ LD จะแตกตำ่ งจำกเดก็ อื่นๆ เทคนิคที่ใช้จงึ แตกต่ำงกนั ไป ผู้ปกครองและครูจะต้องมีควำมเข้ำใจถึงควำมแตกต่ำงและข้อจำกัดของเด็ก ต้องสอนเด็กกลมุ่ นีเ้ป็นพเิ ศษ อำจแยกวิชำท่ีเดก็ ออ่ น เชน่ ออ่ นกำรสะกดคำ กแ็ ยกมำสอนเฉพำะเพ่ือพฒั นำสว่ นนนั้รวมทงั้ ชว่ ยฝึกฝนประสำทตำและมือให้เดก็ เพรำะสองสว่ นนีเ้ป็นสงิ่ สำคญั ในกำรใช้อ่ำนและเขยี น เมื่อสงสยั วำ่ เดก็ เป็น LD ซงึ่ ถือว่ำเป็นควำมพิกำรชนิดหนงึ่ ท่ีเดก็ จะต้องได้รับควำมช่วยเหลือทำงกำรแพทย์และกำรศกึ ษำตำมกฎหมำย
ครูมีสิทธิท่ีจะส่งเด็กไปพบแพทย์ เม่ือตรวจพบ แพทยจ์ ะเป็ นผูอ้ อกใบรับรองเพ่ือให้เด็กไดร้ ับความช่วยเหลือ ซ่ึงท้งั พ่อแม่ ครู และแพทยต์ อ้ งทางานร่วมกนั ในการใหค้ วามช่วยเหลือเดก็ ครูจะตอ้ งจดั ทาแผนการเรียนเฉพาะบุคคล สาหรับเดก็ ท้งั น้ีเพ่ือให้เด็กไดร้ ับการแกไ้ ขความบกพร่องในการเรียนรู้ไดต้ รงเป้าหมายยิ่งข้ึน นอกจากน้ี ครูอาจจะปรับกระบวนการเรียนการสอนที่เนน้ การฟัง การเห็น การลงมือปฏิบตั ิมากกวา่ จะเนน้ การอ่าน หรือมีส่ือการศึกษาประเภทต่างๆ เขา้ มาช่วย เช่น เทปเสียง วดิ ีโอ คอมพวิ เตอร์ เพือ่ ช่วยใหเ้ ดก็ เรียนรู้ต่อไป
ชว่ งถำม-ตอบ
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: