Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2 เมษาน่ารู้

Description: 2 เมษาน่ารู้

Search

Read the Text Version

2 เมษาน่ารู้ วันท่ี 2 เมษายน วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯสยามบรมราชกมุ ารี เจา้ ฟา้ นักอา่ น วันรกั การอ่าน วันอนรุ ักษ์มรดกไทย

วนั คลา้ ยวันพระราชสมภพ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกมุ ารี “วันที่ 2 เมษายน ของทกุ ปี ถอื เปน็ วันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ซ่งึ พระองคท์ รงเป็นพระราชธดิ า ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร (รชั กาลที่ 9) และ สมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ ในรัชกาลที่ 9 สมเดจ็ พระเทพฯ เสดจ็ พระราชสมภพ เมอ่ื วนั เสาร์ท่ี 2 เมษายน พ.ศ. 2498 ณ พระทนี่ งั่ อัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระองคม์ พี ระปรชี าสามารถในหลาย ๆ ดา้ น โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ทางดา้ นอักษรศาสตร์และดนตรไี ทย ซ่งึ พระองค์ได้นามาใช้ในการอนรุ ักษ์ สง่ เสริม และใหก้ ารอปุ ถัมภใ์ นด้านศลิ ปวัฒนธรรม ของประเทศ จากพระราชกรณียกจิ ในดา้ นศิลปวฒั นธรรมน้ี พระองคจ์ งึ ได้รบั การทลู เกล้าทูลกระหมอ่ มถวายพระสมัญญา ว่า “เอกอคั รราชูปถมั ภกมรดกวัฒนธรรมไทย” และ “วศิ ิษฏศิลปนิ ” นอกจากน้ี พระองค์ยังทรงประกอบพระราชกรณยี กิจ ในดา้ นตา่ ง ๆ เช่น ดา้ นการศกึ ษา การพัฒนาสังคม โดยทรงมโี ครงการในพระราชดาริสว่ นพระองค์หลายหลากโครงการ ซง่ึ โครงการในระยะเริม่ ต้นนน้ั มงุ่ เน้นทางดา้ นการแก้ปัญหาการขาดสารอาหารของเดก็ ในท้องถ่นิ ทุรกนั ดาร และพัฒนามาสู่การ ใหค้ วามสาคญั ทางด้านการศึกษาเพื่อการพฒั นาราษฎร

วนั รกั การอา่ น “วนั รกั การอา่ น” ตรงกับวนั ท่ี 2 เมษายน ของทกุ ปี ถือเป็นวันสาคญั ทกี่ ระทรวงศกึ ษาธกิ ารได้กาหนดขนึ้ เพ่อื สง่ เสริม ใหเ้ ยาวชนและประชาชนทัว่ ไปรักและให้ความสาคญั กบั การหนงั สอื เพราะนอกจากการอ่านหนงั สือจะได้ความ สนกุ สนานเพลดิ เพลนิ แลว้ ยังสามารถสร้างเสรมิ ความรู้ ความคิด จินตนาการ และพัฒนาอาชีพของตนเองได้ ประวตั ิความเปน็ มาของวันรกั การอา่ น “วันรักการอ่าน” เรม่ิ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2552 โดยคณะกรรมการสง่ เสริมการอา่ นเพอื่ เสริมสร้างสงั คมแห่งการเรยี นรู้ ไดเ้ ล็งเหน็ ความสาคัญของการอ่านหนังสือ จงึ ได้กาหนดให้วันที่ 2 เมษายน ของทกุ ปี ซ่ึงเป็นวนั คลา้ ยวนั พระราชสมภพ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผทู้ รงมคี ุณปู การต่อวงการหนังสอื ไทย เปน็ วนั รักการอา่ น

วันอนรุ ักษ์มรดกไทย วันอนุรักษ์มรดกไทย หมายถึง มรดกทางวัฒนธรรมท่ีแสดงออกถึงสัญลักษณ์ของความเป็นชาติ ซ่ึงได้แก่ โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ โบราณสถาน วรรณกรรม ศิลปหัตถกรรม นาฏศิลป์และดนตรี ตลอดจนถึงการดาเนินชีวิตและคุณค่าประเพณีต่าง ๆ อันเป็นผลผลิต ร่วมกันของผูค้ นในผืนแผน่ ดินในช่วงระยะเวลาท่ีผ่านมาและยังเป็น วันเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ทรงเป็นแบบอย่าง ในการบาเพ็ญพระราชกรณียกิจ ในด้านการอนุรักษ์มรดกของชาติในสาขาต่าง ๆ รวมทั้งได้เจริญรอยตาม เบือ้ งพระยุคคลบาท ในการสรา้ งสรรคแ์ ละรกั ษามรดกของชาติให้ยง่ั ยืนตกทอดถงึ ลูกหลานไทย วันอนรุ กั ษม์ รดกไทย จดั ขน้ึ เพอ่ื เทิดพระเกียรติและสานึกในพระมหากรุณาธิคุณ ท่ีทรงประกอบพระกรณียกิจทางด้านการอนุรักษ์และ สืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของ ชาติอันเป็นอเนกประการ คณะรัฐมนตรีได้ประกาศให้วันที่ 2 เมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้าย วันพระราชสมภพในสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น “วันอนุรักษ์มรดกไทย” รวมถึงเพื่อรณรงค์สร้างความเข้าใจ สานึกรักและหวงแหนในมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ ให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันเป็น เอกลักษณ์ของชาติมากยิง่ ขึ้น

พระปรชี าสามารถ ด้านการประพันธ์ ดา้ นการประพนั ธ์ พระราชนพิ นธท์ ่ที รงไวม้ จี านวนมากมาย ทเ่ี ปน็ ร้อยกรองน้ันมีบทร้อยกรองพระราชนพิ นธ์คาฉันท์ดุษฎีสงั เวยและ กาพย์ขบั ไม้ บทร้อยกรองเบด็ เตล็ดและบทร้อยกรองสาหรับเนื้อเพลงท้ังเพลงไทยและเพลงไทยสากล ท่ีเป็นร้อยแกว้ มที ัง้ พระราชนิพนธ์ ด้านวชิ าการ วรรณกรรมสาหรับเยาวชน และพระราชนิพนธ์ที่ทรงบันทกึ เรื่องราวการเสด็จพระราชดาเนินต่างประเทศแตล่ ะคร้ัง นับต้ังแต่เลม่ แรกคอื ”ยา่ แดนมังกร”เมื่อเสด็จฯเยือนประเทศจีนในปี 2524 เปน็ ตน้ มา จนถึงปัจจุบันมพี ระราชนิพนธใ์ นลักษณะบันทกึ การเดนิ ทางยงั ต่างแดนเช่นนีห้ ลายสบิ เล่มแล้ว

พระปรีชาสามารถ ดา้ นดนตรี เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงเรียนดนตรีไทยท่ีโรงเรียนจิตลดา ทรงใฝ่พระทัยศึกษาเช่ียวชาญในเคร่ืองดนตรี ซอด้วง ซอสามสาย ซออู้ จะเข้ ระนาด และขลุ่ย ครู ดนตรีไทยของพระองคไ์ ดแ้ ก่ ครูนภิ า อภัยวงศ์, ครจู นิ ดา สงิ หัตน์, ครเู ทวาประสิทธิ์ พาทย์โกศล เปน็ ตน้ ทรงเรยี นระนาดเอกกับ ครูสิริชัยชาญ ฟักจารูญ และ เสดจ็ ทรงดนตรีประจาทบ่ี ้านปลายเนนิ ต้งั แต่ พ.ศ. 2528 เป็นต้นมา เม่ือทรงเข้าศึกษาต่อที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ทรงดนตรีกับพระสหายในชมรมดนตรี ไทย และทรงเรียนขับร้องเพลงไทยกับอาจารย์เจริญใจ สุนทรวาทิน ในด้านการขับร้องเพลงไทยทานองเสนาะ พระองค์ทรงเรียนกับอาจารย์กาชัย ทอ งหล่อ และอาจารยเ์ จริญใจ สุนทรวาทนิ สว่ นการประพันธ์บทเพลงน้ัน ทรงนิพนธ์เพลงลูกทุ่งเพลงเป็นแรกในปี พ.ศ. 2413 ชื่อเพลงส้มตา เพลงอ่ืนๆที่ทรงนิพนธ์ไว้ ได้แก่ เพลงเต่ากินผักบุ้ง, เพลงพญาโศก เพลงดุจบิดามารดร และเพลงลอยประทีปเถาเป็นต้น นอกจากดนตรีไทยแล้ว พระองค์ยังทรงดนตรีสากลด้วย โดย ทรงเร่ิมเรยี นเปยี โนตง้ั แตพ่ ระชนมายุ 10 พรรษา แต่ได้ทรงเลิกเรียนหลังจากนั้น 2 ปี และทรงฝึกเครื่องดนตรีสากล ประเภทเคร่ืองเป่า จากพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หวั จนสามารถทรงทรมั เปตนาวงดุริยางคใ์ นงานคอนเสริ ต์ สายใจไทย และทรงระนาดฝรั่งนาวงดุรยิ างคใ์ นงานกาชาดคอนเสริ ์ต

พระปรชี าสามารถ ด้านภาษา ในด้านภาษา ทรงศึกษาภาษาต่างประเทศหลายภาษา ไม่ว่าจะภาษาตะวันออกคือ บาลี-สันสกฤต เขมรและจีน หรือภาษาตะวันตกคือ องั กฤษ ฝรัง่ เศสและเยอรมันได้ทรงใช้ภาษาเหล่าน้ีเป็นประโยชน์ในการเสด็จพระราชดาเนินเยือนต่างประเทศอยู่เนืองๆ นอกเหนือจากการ ใช้ภาษาในการสื่อสาร ยังทรงเชี่ยวชาญในบางภาษาจนถึงทรงประพันธ์บทกวีในภาษานั้นๆได้ อาทิ บทกวีพระราชนิพนธ์ภาษา ฝรั่งเศส “les pas de mon pere” หรือ “เดนิ ตามรอยเท้าพอ่ ” รวมท้งั ทรงแปลกวนี ิพนธ์ภาษาจีนกวา่ รอ้ ยบทเป็นภาษาไทย

พระปรีชาสามารถ ดา้ นศิลปะ ในดา้ นศิลปะทรงเริ่มสนพระทยั การวาดภาพจากการได้ทอดพระเนตรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวาดภาพสีน้ามันและขอพระราชทานสี ที่เหลือมาทรงวาดบ้าง จากน้ันก็ได้ทรงงานด้านน้ีตามพระราชอัธยาศัยโดยมิได้ทรงฝึกฝนเป็นพิเศษ ทรงเป็นศิลปินที่ไม่หยุดน่ิง ทรงทดลอง เทคนิคต่างๆและการใช้สี ทรงสร้างงานศิลปะจากส่ือหลากชนิดและวัสดุเหลือใช้ รวมท้ังทรงใช้คอมพิวเตอร์ในการวาดภาพนอกจากการวาด ภาพ ยังสนพระทัยในด้านศิลปะเครื่องเคลือบดินเผา ได้ทรงงานปั้นไว้จานวนไม่น้อยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงได้รับครอบครูช่างจาก หลวงวิศาลศิลปกรรม(เชื้อ ปัทมจินดา) นับเป็นนิมิตหมายอันประเสริฐแก่การเป็นช่างเขียน ช่างปั้น ซึ่งเป็นงานศิลปะอีกแขนงหนึ่งท่ีทรงสน พระทัย

เจา้ ฟ้านกั อ่าน ดา้ นการอา่ น ดา้ นการอ่านน้นั พระองคท์ รงเชย่ี วชาญทางดา้ นภาษาศาสตร์ วรรณคดี และศิลปะไทย เม่ือทรงจบช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น พระองค์พอรู้แน่ว่า อย่างไรก็คงไม่ได้เรียนแผนกวิทยาศาสตร์ จึงพยายามหัดเรียนภาษาบาลี อ่านเขียนอักษรขอม เนื่องจากในสมัยน้ัน ผู้ท่ีจะเรียนภาษาไทยให้ กวา้ งขวาง ลกึ ซงึ้ จะต้องเรยี นทงั้ ภาษาบาลี สนั สกฤต และเขมร ซ่ึงภาษาบาลีนั้น เป็นภาษาท่ีพระองค์สนพระทัยตั้งแต่ทรงพระเยาว์แต่ได้เร่ิม เรียนอย่างจริงจังในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จนสามารถจาการแจกวิภัตติเบื้องต้นที่สาคัญได้ และเข้าพระทัยโครงสร้างและลักษณะท่ัวไป ของภาษาบาลีได้

ในสว่ นของ ด้านการประพันธ์ พระองค์ยงั ทรงมนี ามแฝงอนื่ ๆนอกจากพระนาม \"สริ นิ ธร\" ทรงใช้นามปากกาในการพระราชนพิ นธห์ นังสอื อีก 4 พระนาม ได้แก่ 1. \"ก้อนหินก้อนกรวด\" เปน็ พระนามแฝงที่ทรงหมายถงึ พระองคแ์ ละพระสหาย สามารถแยกได้เป็น ก้อนหิน หมายถึง พระองค์เอง ส่วนกอ้ นกรวด หมายถึง กุณฑิกา ไกรฤกษ์ พระองค์มี รับสั่งถึงพระนามแฝงน้ีวา่ “เราตวั โตเลยใช้ว่า กอ้ นหิน หวานตวั เล็ก เลยใชว้ า่ ก้อนกรวด รวมกันจึงเป็น ก้อนหิน-ก้อนกรวด” นามปากกานี้ ทรงใช้คร้ังเดียวตอนประพันธ์บทความ \"เร่ือง จากเมอื งอสิ ราเอล\" เมอื่ ปี พ.ศ. 2520 2. \"แว่นแก้ว\" เป็นช่ือที่พระองค์ทรงตั้งข้ึนเอง ซ่ึงพระองค์มีรับสั่งถึงพระนามแฝงน้ีว่า \"ช่ือแว่นแก้ว นี้ตั้งเอง เพราะตอนเด็กๆ ช่ือลูกแก้ว ตัวเองอยากชื่อแก้ว ทาไมถึงเปล่ียนไปไม่รู้ เหมือนกัน แล้วก็ชอบเพลงนอ้ ยใจยา นางเอกชื่อ แวน่ แก้ว\" พระนามแฝง แว่นแก้วนี้ พระองค์เริ่มใชเ้ มอื่ ปี พ.ศ. 2521 เม่ือทรงพระราชนิพนธแ์ ละทรงแปลเร่ืองสาหรับเด็ก ได้แก่ แก้วจอม ซน แกว้ จอมแกน่ และขบวนการนกกางเขน 3. \"หนูนอ้ ย\" พระองค์มีรบั สั่งถึงพระนามแฝงน้วี ่า \"เรามชี อ่ื เล่นท่ีเรยี กกนั ในครอบครวั วา่ น้อย เลยใช้นามแฝงว่า หนูน้อย\" โดยพระองค์ทรงใช้เพียงคร้ังเดียวในบทความเร่ือง “ป๋องท่ีรัก” ตีพิมพ์ในหนงั สอื 25 ปีจติ รลดา เมอ่ื ปี พ.ศ. 2523 4. \"บนั ดาล\" พระองค์มรี ับส่งั ถึงพระนามแฝงนี้ว่า \"ใช้ว่า บันดาลเพราะคานี้ผุดข้ึนมาในสมอง เลยใช้เป็นนามแฝง ไม่มีเหตุผลอะไรในการใช้ชื่อน้ีเลย\" ซึ่งพระองค์ทรงใช้ในงานแปลภาษา อังกฤษเป็นภาษาไทยท่ที รงทาใหส้ านักเลขาธกิ ารคณะกรรมการแห่งชาติ วา่ ดว้ ยการศกึ ษา วิทยาศาสตร์และวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติ กระทรวงศกึ ษาธิการ เมื่อปี พ.ศ. 2526

หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมารี”อาเภอสตั หบี ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี”อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จัดข้ึน ในวโรกาสท่ีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุครบ 36 พรรษา โดยการสนับสนุนของกรมการ ศึกษานอกโรงเรียน พร้อมด้วยมูลนิธิหลวงพ่ออ๋ี วัดสัตหีบ และ ประชาชนในเขตพื้นท่ีอาเภอสัตหีบ โดยมีนายจาเนียร ชวนะพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในการวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 ในวโรกาสนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาทาพิธีเปิดในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2536 และทรงปลูกต้นประดูไ่ ว้เปน็ ทร่ี ะลึก

ส่วนผสม มะละกอดบิ กระเทยี ม 5 กลบี พริกขหี้ นู 5 เมด็ ทที่ป่ีปรึกรกึษษา า มะเขือเทศผา่ ครงึ่ 2 ลกู ถ่วั ลสิ งคัว่ 2 ชอ้ นโต๊ะ นานงาสงรุสัสรุ วัสดวีดเีลเ้ยีลคง้ียณคสงณุพะสคงุพะรคศงกู ร์ศศูกผ์นศู้อผ.นอ้าอู้ น.้าอ้าวเนภา้ยวเอกภยาสอกรัตาสรกหัตศีบกหนศีบ.นอ.า้อเภ้าถกนเวั่งุ้้าอภฝปแสลอหกั ย้งาตัสา22วหัตหบีชชน่ัห้อ้อีบน1นโโตฝตะ๊กั๊ะ ผู้จัดทา นา้ มะขามเปียก 1/4 ถว้ ย SผEูจ้ ดั SCทEาTCIOTNIOBNRBERAKEAKแหล่งท่มี า นแ: hหานงtลtานสง่pงทsาานส:ี่มงว/าา/พาสhงวgาtรo:พสhtวทoptารศt.ิพsวทgp:ิรlศs/ยิพ/:ิท/X/ริ์gย/รHoพิทghัพ์ oxotรลพt7o.ยัพgp.อHลg์slIย/ln:1กยอ/L/์s,1ติ/ปh5eกยg5otrรตoิตปttHyะoptไภิรต5.BhsgพะceWญิ:lไภิT//,พht/WUโญิhiบgtญtlXioetโรskบp,วญoรcotsรัฒh5.ณfeว:gtร/ydxltัฒ/ณ/oน,าptgqusรoc์นา:Zrักบa/oรsF์/ษn.รกัugghบb์รolษb4ร/to(ณi7eE์ร.tอlg,7e(ณhาrlัตอ9/eรHtมถกวเนxiาtฉรกัpTัตW่วัธิeราะ้pรลาeะlลทีตาษrเasรกั7eะจะทิสา้าม:กc์า/ษPลสยี้างอะจe/ลFมปง้ม์gd6ก้าะีบ๊ใ)ปoกตห้งุงรอwoแ้แา้1)ุง.ไหiตรgtสทชส้งhlกับย้อ/ทต4ใตyนเ่ีหาHหoา้โม้เใลตปXuหดอื็นะ๊ruท้้วเdว่ัoยสตwwน้แ้ามใๆnละหเะข้เตตtขือeา้า้าเxพกมทtันดรศ.กิ ้วขยถี้หเ่วั นสฝแูน้ กั ลยะาว