Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

Description: ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

ชดุ การเรยี นรู้ กลุ่มสาราการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 เสนอ ผศ.ดร. อนิ ทิรา รอบรู้ โดย นาย เจตปกรณ์ เมืองแกว้ รหสั นกั ศกึ ษา 61131114003 เอกสารเลม่ น่ีเป็นส่วนหนง่ึ ของรายวชิ า PTC3601 การออกแบบการจัดการเรียนร้ทู างเทคโนโลยีการศึกษาและคอมพวิ เตอร์ คณะครศุ าสตร์ สาขาวิชาเทคโนโลยกี ารศึกษาและคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนสุนันทา

คานา คู่มอื แผนการสอน รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 น้จี ะทาตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วัด กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ท่ีสอดคล้องกบั หนงั สือเรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน โดยมีเนือ้ หาเกย่ี วกับแผนการสอนวิทยาการคานวณเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ช้ัน มัธยมศึกษาปที ่ี 5 ท่ใี ช้ควบคู่กัน ขา้ พเจา้ หวงั เปน็ อย่างย่งิ ว่า คมู่ อื แผนการสอนเลม่ นี้จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ การจัดการเรยี นรู้ และเป็น ส่วนสาคัญในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา หากผดิ พลาดประการใดขออภัยไว้ ณ โอกาสน้ี เจตปกรณ์ เมืองแก้ว ผู้จัดทา

คาอธบิ ายรายวชิ า รายวชิ าวิทยาการคานวณ กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน 20 ช่ัวโมง ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ศกึ ษาหลักการของวิทยาการข้อมลู และหลักการคิดเชิงออกแบบเพื่อเพ่ิมมลู คา่ ให้กบั บริการหรือผลิตภัณฑ์ วิธกี าร เกบ็ ข้อมูลและเตรียมข้อมูลการวเิ คราะหข์ ้อมูลการประมวลผลขอ้ มูลเครื่องมือทางเทคโนโลยสี ารสนเทศท่ใี ช้ในการ ประมวลผลขอ้ มลู การจดั เก็บข้อมูล การนาเสนอข้อมูลการแปลงข้อมูลใหเ้ ปน็ ภาพ การเลือกใชข้ ้อมูลจากฐานข้อมลู ขนาด ใหญ่การใช้ประโยชน์จากขอ้ มูลและตวั อยา่ งกรณีศึกษา ตัวชว้ี ัด ว 4.2 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ ม 5/1) รวบรวมวเิ คราะห์ข้อมูลและ ใชค้ วามรดู้ ้านวิทยาการคอมพิวเตอรส์ ื่อดิจิทลั เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปญั หา หรอื เพ่ิมมูลค่าให้กับบรกิ ารหรอื ผลิตภณั ฑ์ ทใ่ี ชใ้ นชวี ิตจริงอย่างสรา้ งสรรค์ รวมท้ังหมด 1 ตวั ชี้วัด

คาชแี้ จงเก่ียวกบั ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง ขอ้ มลู มคี ณุ ค่า 1. ชุดกิจกรรมเรียนรู้ สาหรบั นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ชดุ กิจกรรมท่ี 1 เรื่อง ข้อมูลมีคณุ ค่า 2. ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูช้ ุดนี้ประกอบด้วย - คาช้ีแจงเกยี่ วกับชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ - คาชแ้ี จงสาหรบั ครู - คาชี้แจงสาหรบั นักเรียน - แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลังเรียน - ใบกจิ กรรม 3. ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้ชู ุดน้ีใชเ้ วลาเรียน 5 ชวั่ โมง ก่อนศึกษาชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ให้นักเรียนทาแบบทดสอบ ก่อนเรยี น ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชุดท่ี 1 เรือ่ ง ข้อมลู มีคุณค่า จานวน 10 ขอ้ 4. หลังจากศกึ ษาชุดกิจกรรมการเรียนรจู้ บแล้วทาแบบทดสอบหลังเรยี นชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 1 เรือ่ ง ข้อมลู มีคณุ คา่ จานวน 10 ข้อ

คาชแี้ จงสาหรบั ครู 1. ก่อนนาชดุ กิจกรรมการเรียนรไู้ ปใช้จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนครูควรศึกษาชุดกจิ กรรมการเรียนรใู้ ห้ รอบคอบ จากคู่มอื การใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรูใ้ ห้เขา้ ใจ 2. ศึกษาแผนการจัดการเรยี นรู้ ผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั สาระการเรยี นรู้ กระบวนการเรียนรู้ การวัดผล ประเมินผล ตลอดจนแหลง่ การเรยี นรู้ ในแตล่ ะชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เขา้ ใจอย่างชัดเจน 3. ครคู วรเตรียมชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ซงึ่ ประกอบดว้ ย ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง ส่ือการเรียนการสอนท่ีกาหนดไว้ แบบทดสอบก่อนเรียน ใบกจิ กรรม แบบทดสอบหลังเรียน 4. ก่อนสอนครูควรช้ีแจงบทบาทและหน้าทีข่ องผู้เรยี น และกาหนดข้อตกลงรว่ มกนั 5. ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ในชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขอ้ มูลมีคุณค่า จานวน 10 ข้อ เพื่อประเมิน ความรูพ้ ้นื ฐานของนักเรยี น 6. แจง้ ผลการเรียนรทู้ คี่ าดหวังให้นกั เรยี นทราบ 7. ครแู จกชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาและแนะนาวิธใี ช้ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พือ่ นักเรียนจะได้ปฏิบตั ิ ได้อยา่ งถกู ต้อง 8. ดาเนินการสอนตามกจิ กรรมการเรยี นร้ทู ่ีกาหนดไว้ในแผนการจดั การเรยี นรู้ 9. ขณะประกอบกิจกรรมครูควรเป็นท่ีปรึกษาให้คาแนะนากบั นักเรียนที่มีปญั หาโดยเนน้ ให้นักเรยี นได้รว่ มคิดรว่ ม ทาจากการปฏบิ ัตจิ ริงเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ 10. ถา้ มีนกั เรียนเรียนไม่ทัน ครคู วรให้คาแนะนาหรืออาจมอบหมายงานหรือให้นักเรยี นนาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ไปศึกษาเพ่มิ เติมในเวลาว่าง 11. หลงั จากนกั เรยี นศึกษาชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามขั้นตอนทรี่ ะบไุ วเ้ สรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้วครูและนกั เรียนควร ช่วยกันสรปุ คะแนน จากการทากจิ กรรมลงในแบบฟอร์มการบนั ทกึ คะแนนใหค้ รบถ้วนทุกแบบฝกึ หดั ในชุดกิจกรรมการ เรียนรู้ 12. การจดั ช้ันเรยี นใหจ้ ัดนักเรยี นน่งั เปน็ กลุม่ เพือ่ ฝึกทักษะการทางานกลมุ่ รว่ มกบั ผู้อื่น 13. เมอ่ื เรยี นชดุ กิจกรรมการเรียนร้จู บชุดแล้วให้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง ข้อมูลมีคณุ ค่า จานวน 10 ขอ้ เพื่อวัดความรู้ความเข้าใจ แล้วนาผลการทดสอบกอ่ นเรียน – หลงั เรียน มาเปรยี บเทียบ เพ่ือทราบผลการพัฒนาใน การเรยี นดว้ ยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้

คาชีแ้ จงสาหรบั นกั เรียน 1. กอ่ นศึกษาชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรียนอ่านคาชีแ้ จงและคาแนะนาสาหรับนกั เรียนให้เขา้ ใจ 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชุดท่ี 1 เร่ือง ข้อมูลมีคุณคา่ 3. ศึกษาความรอู้ ยา่ งตั้งใจ และร่วมแสดงความคิดเหน็ ในกลุ่มอย่างมีเหตผุ ล 4. ฝกึ ปฏิบัติกจิ กรรมตามความสามารถของตน 5. ตอบคาถามดว้ ยความต้ังใจ 6. เม่ือเรียนชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 1 เรือ่ งข้อมูลมีคุณคา่ จบแลว้ ทาแบบทดสอบหลังเรียน จานวน 10 ขอ้ ด้วยความรอบคอบและมนั่ ใจ 7. หลงั จากทากิจกรรมการเรียนรูเ้ สรจ็ เรียบรอ้ ยแล้ว ใหน้ ักเรียนเกบ็ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรใู้ ห้เรยี บรอ้ ย 8. ในการทากจิ กรรมแตล่ ะชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขอให้นกั เรียนทาดว้ ยความตง้ั ใจ ให้ความร่วมมอื และมีความ ซ่อื สัตยต์ อ่ ตนเองให้มากท่ีสุด โดยไมด่ ูเฉลยก่อนทากจิ กรรมและแบบทดสอบ 9. ถ้านกั เรยี นเรยี นไมท่ ันหรือเรยี นยังไมเ่ ขา้ ใจ ให้รับชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ไปศึกษาเพม่ิ เติมนอกเวลาเรียน เพอ่ื ให้ เข้าใจมากยิง่ ขนึ้

สาระสาคัญ - ยุคของข้อมูลและสารสนเทศ เป็นยุคของการใชข้ อ้ มลู ที่มอี ยจู่ าานวนมหาศาล มาสร้างมลู ค่าให้เกิดประโยชน์ กบั บคุ คล หรอื องคก์ ร การจะใชป้ ระโยชนจ์ ากข้อมลู เพ่ือเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการทางาน หรือการใชช้ ีวิตของตนเอง จะ ตอ้ งนาาขอ้ มูลท่ีเกบ็ รวบรวมด้วยตนเอง หรอื อาจนาาข้อมูลทุติยภมู ิท่มี ีผูร้ วบรวมหรือสรุปไวแ้ ลว้ มาผ่านกระบวนการ ประมวลผลข้อมลู ให้เป็นสารสนเทศ นอกจากน้ีการนาาเสนอข้อมลู ดว้ ยภาพ และเร่อื งราวบนพืน้ ฐานของขอ้ มูล จะทาาให้ ผูอ้ น่ื เขา้ ใจ เหน็ ความสาคัญและคุณค่าของข้อมูล - “วทิ ยาการข้อมลู ” เป็นการศกึ ษาถึงกระบวนการ วธิ กี าร หรอื เทคนิค ที่นาาข้อมลู จาานวนมหาศาล มา ประมวลผล เพ่ือให้ได้องค์ความรู้ เขา้ ใจปรากฏการณ์ สามารถตคี วาม ทาานายหรือพยากรณ์ ค้นหารปู แบบหรือแนวโนม้ จากข้อมลู เพ่ือนาามาวเิ คราะหต์ อ่ ยอดและแนะนาาทางเลือกทเี่ หมาะสมในการตดั สนิ ใจ -กระบวนการวทิ ยาการข้อมลู ประกอบดว้ ย การตง้ั คาาถาม การเก็บรวบรวมข้อมูล การสาารวจข้อมลู การ วเิ คราะห์ข้อมูล การส่ือสารและการทาผลลพั ธใ์ ห้เปน็ ภาพ เพอื่ เผยแพร่ข้อมูลสผู่ ู้ใชก้ ลุม่ เปา้ หมาย สาระการเรยี นรู้ 1. ยคุ ของข้อมลู และสารสนเทศ 2. วทิ ยาการขอ้ มูล 3. กระบวนการวิทยาการข้อมูล 4. การคิดเชิงออกแบบสาหรับวทิ ยาการข้อมูล ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง 1. ผู้เรียนสามารถอธิบายวิทยาการข้อมลู ได้ 2. ผ้เู รียนตระหนักถงึ ความสาคัญของข้อมลู ประโยชน์หรอื คุณคา่ ของขอ้ มูล 3. ผู้เรยี นประยุกตก์ ารคิดเชงิ ออกแบบกบั วทิ ยาการข้อมูลในการแก้ปัญหาได้

แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน URL : https://forms.gle/RPwFwp613gJ53WQd7 ใบกจิ กรรม URL : https://drive.google.com/drive/folders/1SAT6CNttzxi15scMcK42zYTXykwfBF3-?usp=sharing

คาช้แี จงเกี่ยวกบั ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ท่ี 2 เรอื่ ง การเก็บรวบรวมและสารวจข้อมลู 1. ชดุ กจิ กรรมเรยี นรู้ สาหรบั นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ชดุ กิจกรรมที่ 2 เรื่อง การเกบ็ รวบรวมและสารวจ ข้อมูล 2. ชุดกิจกรรมการเรียนรชู้ ุดนี้ประกอบด้วย - คาชแ้ี จงเก่ียวกบั ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ - คาชแ้ี จงสาหรับครู - คาชแ้ี จงสาหรับนกั เรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน - ใบกิจกรรม 3. ชุดกิจกรรมการเรียนรูช้ ุดน้ีใช้เวลาเรียน 7 ชัว่ โมง ก่อนศึกษาชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบ ก่อนเรยี น ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวน 20 ขอ้ 4. หลงั จากศกึ ษาชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูจ้ บแล้วทาแบบทดสอบหลงั เรียนชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ จานวน 20 ขอ้

คาชแี้ จงสาหรบั ครู 1. ก่อนนาชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ไปใชจ้ ดั กจิ กรรมการเรียนการสอนครูควรศกึ ษาชดุ กิจกรรมการเรยี นร้ใู ห้ รอบคอบ จากคู่มือการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้ใหเ้ ขา้ ใจ 2. ศกึ ษาแผนการจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั สาระการเรยี นรู้ กระบวนการเรียนรู้ การวดั ผล ประเมินผล ตลอดจนแหลง่ การเรียนรู้ ในแตล่ ะชดุ กิจกรรมการเรยี นรูใ้ ห้เข้าใจอยา่ งชดั เจน 3. ครคู วรเตรียมชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ซึ่งประกอบด้วย ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวัง สื่อการเรยี นการสอนที่กาหนดไว้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ใบกจิ กรรม แบบทดสอบหลังเรยี น 4. ก่อนสอนครคู วรชีแ้ จงบทบาทและหน้าที่ของผูเ้ รียน และกาหนดข้อตกลงรว่ มกนั 5. ให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน ในชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ จานวน 20 ข้อ เพ่ือประเมนิ ความรู้พ้ืนฐานของ นักเรียน 6. แจง้ ผลการเรยี นร้ทู ค่ี าดหวังใหน้ ักเรยี นทราบ 7. ครแู จกชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ใหน้ ักเรียนศึกษาและแนะนาวิธีใช้ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื นักเรียนจะได้ปฏบิ ตั ิ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 8. ดาเนนิ การสอนตามกิจกรรมการเรียนร้ทู ่ีกาหนดไวใ้ นแผนการจัดการเรียนรู้ 9. ขณะประกอบกจิ กรรมครูควรเป็นที่ปรึกษาให้คาแนะนากับนกั เรยี นที่มีปญั หาโดยเนน้ ให้นกั เรยี นได้ร่วมคดิ รว่ ม ทาจากการปฏิบัติจริงเพ่ือสรปุ ผลการเรยี นรู้ 10. ถ้ามีนกั เรยี นเรียนไม่ทัน ครคู วรให้คาแนะนาหรืออาจมอบหมายงานหรือใหน้ ักเรียนนาชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ไปศึกษาเพม่ิ เติมในเวลาว่าง 11. หลังจากนกั เรยี นศึกษาชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามขั้นตอนทร่ี ะบไุ ว้เสร็จเรียบรอ้ ยแลว้ ครแู ละนกั เรยี นควร ชว่ ยกันสรปุ คะแนน จากการทากจิ กรรมลงในแบบฟอร์มการบนั ทึกคะแนนใหค้ รบถว้ นทุกแบบฝึกหดั ในชดุ กจิ กรรมการ เรยี นรู้ 12. การจัดช้นั เรยี นให้จัดนักเรียนนงั่ เปน็ กลุ่มเพ่อื ฝกึ ทักษะการทางานกลุม่ รว่ มกับผู้อ่นื

คาช้แี จงสาหรบั นักเรียน 1. ก่อนศึกษาชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ นกั เรียนอ่านคาช้แี จงและคาแนะนาสาหรบั นกั เรยี นใหเ้ ข้าใจ 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชดุ ที่ 2 เรือ่ ง การเกบ็ รวบรวมและสารวจขอ้ มูล 3. ศกึ ษาความรู้อยา่ งตงั้ ใจ และร่วมแสดงความคดิ เห็นในกลุ่มอย่างมีเหตผุ ล 4. ฝึกปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามความสามารถของตน 5. ตอบคาถามดว้ ยความต้ังใจ 6. หลังจากทากจิ กรรมการเรียนรเู้ สร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว ใหน้ กั เรยี นเกบ็ ชุดกิจกรรมการเรยี นรใู้ ห้เรียบรอ้ ย 7. ในการทากิจกรรมแต่ละชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขอให้นกั เรยี นทาด้วยความตั้งใจ ให้ความรว่ มมอื และมีความ ซือ่ สตั ย์ตอ่ ตนเองให้มากทส่ี ดุ โดยไมด่ เู ฉลยก่อนทากิจกรรมและแบบทดสอบ 8. ถ้านกั เรยี นเรยี นไมท่ ันหรือเรยี นยังไมเ่ ขา้ ใจ ใหร้ บั ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ไปศึกษาเพม่ิ เติมนอกเวลาเรียน เพอ่ื ให้ เขา้ ใจมากยิง่ ข้นึ

สาระสาคญั ขอ้ มลู ทุติยภมู ิที่เผยแพรบ่ นอินเทอรเ์ นต็ มีอยู่หลากหลายรูปแบบ เชน่ xls, xlsx, odp, csv หรอื อย่ใู นรปู แบบ รายงานหรือตารางบนเว็บไซต์ แหลง่ ขอ้ มลู ทุตยิ ภูมิ เช่น เว็บไซต์ใหบ้ ริการข้อมลู ของสาานักงานพฒั นารัฐบาลดิจิทัล data.go.th สาานักงานสถติ แิ หง่ ชาติ www.nso.go.th การพิจารณาความเหมาะสมของแหล่งข้อมูล สามารถใช้มุมมองท้ัง 5 ดา้ น ไดแ้ ก่ ความทันสมัยของขอ้ มูล ความ สอดคล้องกบั การใชง้ าน ความน่าเชือ่ ถือของแหลง่ ข้อมลู ความถกู ต้องแม่นยาา และจุดมุ่งหมายของแหล่งข้อมลู การจดั เตรียมข้อมลู (data preparation) เพอื่ เตรยี มพร้อมสาาหรับการประมวลผล ประกอบดว้ ย การทาาความ สะอาดขอ้ มลู (data cleansing) การแปลงข้อมูล (data transformation) และการเช่อื มโยงขอ้ มูล(combining data) สาระการเรียนรู้ 1. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 2. การเตรียมข้อมลู 3. การสารวจข้อมลู 4. ขอ้ มูลสว่ นบคุ คล ผลการเรียนร้ทู ่คี าดหวงั 1. เก็บรวบรวมข้อมูลทุตนิ ภมู ิตามวัตถปุ ระสงค์ 2. เลอื กแหล่งข้อมูลทเี่ ชื่อถือได้ 3. จัดเตรียมขอ้ มูลกอ่ นการประมวลผล 4. ตระหนกั ถงึ การนาข้อมลู ส่วนบุคคลมาใช้

แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน URL : https://forms.gle/JV9Y37bFAxvS8xzd7 ใบกิจกรรม URL : https://drive.google.com/drive/folders/1SAT6CNttzxi15scMcK42zYTXykwfBF3-?usp=sharing

คาชแ้ี จงเกย่ี วกบั ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การวเิ คราะห์ขอ้ มลู 1. ชุดกิจกรรมเรยี นรู้ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ชุดกิจกรรมท่ี 3 เร่ือง วเิ คราะห์ข้อมลู 2. ชดุ กิจกรรมการเรยี นรชู้ ุดน้ีประกอบดว้ ย - คาชี้แจงเก่ยี วกบั ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ - คาช้แี จงสาหรับครู - คาชแี้ จงสาหรับนกั เรียน - ใบกจิ กรรม 3. ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ชุดนี้ใช้เวลาเรียน 3 ชวั่ โมง

คาชี้แจงสาหรบั ครู 1. กอ่ นนาชุดกิจกรรมการเรียนร้ไู ปใชจ้ ัดกิจกรรมการเรยี นการสอนครูควรศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ รอบคอบ จากคู่มือการใช้ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ใหเ้ ขา้ ใจ 2. ศกึ ษาแผนการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง สาระการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ การวดั ผล ประเมนิ ผล ตลอดจนแหลง่ การเรียนรู้ ในแตล่ ะชุดกจิ กรรมการเรยี นรใู้ ห้เขา้ ใจอย่างชดั เจน 3. ครคู วรเตรียมชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ซึง่ ประกอบด้วย ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง ส่ือการเรยี นการสอนท่ีกาหนดไว้ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ใบกิจกรรม 4. กอ่ นสอนครคู วรช้ีแจงบทบาทและหนา้ ทขี่ องผเู้ รยี น และกาหนดข้อตกลงร่วมกัน 5. แจ้งผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวังให้นักเรยี นทราบ 6. ครูแจกชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ใหน้ กั เรียนศึกษาและแนะนาวธิ ีใช้ ชุดกิจกรรมการเรยี นรเู้ พ่ือนักเรียนจะได้ปฏิบตั ิ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 7. ดาเนนิ การสอนตามกิจกรรมการเรียนร้ทู ่ีกาหนดไว้ในแผนการจดั การเรยี นรู้ 8. ขณะประกอบกจิ กรรมครูควรเปน็ ทปี่ รกึ ษาให้คาแนะนากับนกั เรยี นที่มีปญั หาโดยเน้นให้นักเรยี นไดร้ ว่ มคิดร่วม ทาจากการปฏบิ ตั จิ ริงเพ่ือสรปุ ผลการเรียนรู้ 9. ถ้ามนี ักเรียนเรยี นไม่ทัน ครูควรใหค้ าแนะนาหรืออาจมอบหมายงานหรือใหน้ ักเรียนนาชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ไปศกึ ษาเพม่ิ เติมในเวลาวา่ ง 10. หลังจากนักเรียนศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามขั้นตอนทีร่ ะบุไวเ้ สรจ็ เรียบร้อยแลว้ ครแู ละนักเรยี นควร ชว่ ยกันสรุปคะแนน จากการทากจิ กรรมลงในแบบฟอร์มการบนั ทกึ คะแนนใหค้ รบถว้ นทุกแบบฝกึ หัดในชุดกิจกรรมการ เรยี นรู้ 12. การจัดชัน้ เรียนให้จัดนักเรียนน่งั เปน็ กลมุ่ เพอื่ ฝกึ ทกั ษะการทางานกลมุ่ ร่วมกับผู้อ่นื

คาชแ้ี จงสาหรบั นกั เรียน 1. กอ่ นศึกษาชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ นกั เรยี นอ่านคาช้ีแจงและคาแนะนาสาหรับนักเรยี นใหเ้ ข้าใจ 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 3 เรื่อง วิเคราะห์ข้อมูล 3. ศกึ ษาความรู้อย่างต้ังใจ และร่วมแสดงความคดิ เห็นในกล่มุ อยา่ งมเี หตผุ ล 4. ฝกึ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามความสามารถของตน 5. ตอบคาถามด้วยความต้ังใจ 6. หลังจากทากิจกรรมการเรียนรู้เสร็จเรียบร้อยแลว้ ให้นักเรียนเกบ็ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เรียบรอ้ ย 7. ในการทากจิ กรรมแต่ละชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอให้นักเรยี นทาด้วยความต้ังใจ ให้ความรว่ มมอื และมีความ ซ่ือสัตยต์ ่อตนเองให้มากที่สดุ โดยไมด่ ูเฉลยก่อนทากจิ กรรมและแบบทดสอบ 8. ถ้านักเรยี นเรยี นไมท่ นั หรอื เรยี นยังไมเ่ ข้าใจ ให้รบั ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปศึกษาเพม่ิ เตมิ นอกเวลาเรียน เพือ่ ให้ เขา้ ใจมากยิง่ ขึน้

สาระสาคญั การสารวจขอ้ มลู (data exploration) เป็นการทาความเข้าใจเพอ่ื พจิ ารณาภาพรวมของข้อมูล โดยอาจใช้ แผนภาพ หรือกราฟของขอ้ มูลในรูปแบบต่าง ๆ ระหวา่ งการสารวจ อาจจะพบขอ้ ผดิ พลาดหรอื ปัญหาอน่ื ๆ จากการ ตัง้ คาาถาม หรือการรวบรวมขอ้ มูล ซงึ่ ทาาให้ต้องกลับไปดาาเนินการแกไ้ ขให้ถูกตอ้ ง เครอ่ื งมือทใี่ ชใ้ นการสารวจขอ้ มูลอาจ ใช้โปรแกรมสาเร็จรูป หรอื การเขียนโปรแกรมภาษา สาระการเรยี นรู้ 1. การวิเคราะห์เชงิ พรรณนา 2. การวเิ คราะหเ์ ชิงทานาย ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั 1. อธิบายหลักการวเิ คราะหข์ ้อมลู เชงิ พรรณนา และเชงิ ทานาย 2. เลือกใชว้ ิธกี ารวิเคราะห์ขอ้ มลู ได้ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ 3. วิเคราะห์ข้อมูล เพ่ือนาไปสู่การตดั สนิ ใจ ใบกจิ กรรม URL : https://drive.google.com/drive/folders/1SAT6CNttzxi15scMcK42zYTXykwfBF3-?usp=sharing

คาช้แี จงเกยี่ วกับชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง การทาขอ้ มูลใหเ้ ปน็ ภาพ และการสอ่ื สารดว้ ยข้อมูล 1. ชุดกจิ กรรมเรยี นรู้ สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ชุดกิจกรรมที่ 4 เรื่อง การทาข้อมูลใหเ้ ปน็ ภาพ และ การส่อื สารดว้ ยข้อมลู 2. ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ชุดนี้ประกอบดว้ ย - คาชี้แจงเกีย่ วกบั ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ - คาช้ีแจงสาหรบั ครู - คาชี้แจงสาหรบั นักเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - ใบกิจกรรม 3. ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้ชู ดุ น้ีใช้เวลาเรยี น 7 ชว่ั โมง หลังศึกษาชดุ กิจกรรมการเรยี นรใู้ ห้นักเรียนทาแบบทดสอบ กอ่ นเรียน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ จานวน 20 ข้อ 4. หลังจากศกึ ษาชดุ กิจกรรมการเรยี นร้จู บแล้วทาแบบทดสอบหลังเรยี นชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จานวน 20 ขอ้

คาชี้แจงสาหรับครู 1. กอ่ นนาชุดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ปใช้จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนครูควรศึกษาชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ให้ รอบคอบ จากคู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ใหเ้ ขา้ ใจ 2. ศึกษาแผนการจดั การเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง สาระการเรยี นรู้ กระบวนการเรียนรู้ การวดั ผล ประเมินผล ตลอดจนแหล่งการเรียนรู้ ในแตล่ ะชุดกิจกรรมการเรียนรู้ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งชัดเจน 3. ครูควรเตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ซงึ่ ประกอบด้วย ผลการเรียนรทู้ คี่ าดหวงั ส่ือการเรยี นการสอนท่ีกาหนดไว้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ใบกิจกรรม แบบทดสอบหลังเรยี น 4. ก่อนสอนครคู วรชแี้ จงบทบาทและหน้าท่ีของผเู้ รียน และกาหนดข้อตกลงร่วมกัน 5. แจ้งผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวังให้นกั เรียนทราบ 6. ครูแจกชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้ใู ห้นักเรียนศึกษาและแนะนาวิธใี ช้ ชุดกิจกรรมการเรียนร้เู พ่ือนักเรยี นจะไดป้ ฏิบตั ิ ได้อยา่ งถูกต้อง 7. ดาเนินการสอนตามกิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ีกาหนดไว้ในแผนการจัดการเรยี นรู้ 8. ขณะประกอบกิจกรรมครูควรเป็นที่ปรกึ ษาให้คาแนะนากับนกั เรียนที่มีปญั หาโดยเนน้ ให้นักเรยี นไดร้ ว่ มคดิ รว่ ม ทาจากการปฏิบตั จิ ริงเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ 9. ถา้ มีนักเรยี นเรยี นไม่ทัน ครคู วรให้คาแนะนาหรืออาจมอบหมายงานหรอื ใหน้ กั เรียนนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ไปศึกษาเพ่ิมเติมในเวลาวา่ ง 10. หลังจากนกั เรียนศึกษาชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามขัน้ ตอนท่รี ะบไุ ว้เสร็จเรียบร้อยแลว้ ครแู ละนกั เรยี นควร ช่วยกันสรุปคะแนน จากการทากิจกรรมลงในแบบฟอร์มการบันทกึ คะแนนใหค้ รบถ้วนทุกแบบฝึกหดั ในชดุ กิจกรรมการ เรียนรู้ 11. การจัดชัน้ เรียนให้จัดนักเรยี นน่งั เป็นกลุม่ เพ่อื ฝกึ ทักษะการทางานกล่มุ ร่วมกับผู้อนื่ 12. เมือ่ เรยี นชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้จบชดุ แล้วให้นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ขอ้ มูลมีคุณคา่ จานวน 10 ขอ้ เพ่อื วัดความรู้ความเข้าใจ แล้วนาผลการทดสอบกอ่ นเรยี น – หลงั เรยี น มาเปรียบเทียบ เพ่ือทราบผลการพฒั นาใน การเรียนดว้ ยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้

คาชี้แจงสาหรับนักเรยี น 1. ก่อนศึกษาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนอา่ นคาชแี้ จงและคาแนะนาสาหรบั นักเรียนให้เข้าใจ 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชุดกจิ กรรมที่ 4 เร่ือง การทาข้อมูลให้เปน็ ภาพ และการ ส่อื สารดว้ ยขอ้ มลู 3. ศกึ ษาความร้อู ยา่ งตง้ั ใจ และรว่ มแสดงความคดิ เห็นในกลมุ่ อยา่ งมีเหตุผล 4. ฝกึ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามความสามารถของตน 5. ตอบคาถามด้วยความตั้งใจ 6. เมอ่ื เรยี นชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ชุดกจิ กรรมท่ี 4 เรือ่ ง การทาขอ้ มลู ใหเ้ ปน็ ภาพ และการสือ่ สารดว้ ยข้อมลู จบ แลว้ ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น จานวน 20 ขอ้ ดว้ ยความรอบคอบและมน่ั ใจ 7. หลังจากทากจิ กรรมการเรียนรเู้ สรจ็ เรยี บร้อยแล้ว ให้นกั เรยี นเกบ็ ชุดกจิ กรรมการเรียนรูใ้ หเ้ รียบร้อย 8. ในการทากจิ กรรมแตล่ ะชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ขอใหน้ ักเรียนทาด้วยความตัง้ ใจ ให้ความรว่ มมือ และมคี วาม ซ่ือสตั ย์ต่อตนเองให้มากที่สุด โดยไมด่ ูเฉลยก่อนทากจิ กรรมและแบบทดสอบ 9. ถา้ นกั เรียนเรียนไม่ทันหรือเรยี นยังไมเ่ ขา้ ใจ ใหร้ บั ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปศึกษาเพ่ิมเติมนอกเวลาเรยี น เพื่อให้ เขา้ ใจมากยิ่งข้ึน

สาระสาคญั กระบวนการทาาข้อมลู ใหเ้ ปน็ ภาพ เปน็ การจัดการหรือการแปลงข้อมูลใหอ้ ยู่ในรปู ของแผนภาพ แผนภมู หิ รือ กราฟที่เหมาะสมกบั ชุดข้อมูลทต่ี อ้ งการนาาเสนอ โดยสามารถเลือกใช้ตัวแปรในการมองเห็นท่ที าาใหผ้ ้รู บั สารเขา้ ใจถกู ต้อง ตรงประเด็น ชดั เจน และดึงดูดความสนใจ สาระการเรยี นรู้ 1. การสือ่ สารดว้ ยข้อมูล 2. การทาข้อมูลให้เปน็ ภาพ 3. การทาข้อมูลใหเ้ ปน็ ภาพอยา่ งเหมาะสม 4. การเลา่ เรอ่ื งราวจากข้อมลู 5. ขอ้ ควรระวังในการนาเสนอข้อมลู ผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวงั 1. เก็บรวบรวมข้อมลู ทุตินภูมิตามวัตถุประสงค์ 2. เลือกแหล่งข้อมลู ที่เชื่อถือได้ 3. จดั เตรยี มข้อมูลก่อนการประมวลผล 4. ตระหนกั ถึงการนาข้อมลู ส่วนบุคคลมาใช้

แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน URL : https://forms.gle/JV9Y37bFAxvS8xzd7 ใบกิจกรรม URL : https://drive.google.com/drive/folders/1SAT6CNttzxi15scMcK42zYTXykwfBF3-?usp=sharing

ภาคผนวก

แบบประเมนิ หนว่ ยการเรียนรู้ที่.......... เรอ่ื ง........................................................................ รายการประเมนิ ท่ี ช่อื -นามสกุล .................. ....................... .................... .................. คุณลกั ษณะ รวม อนั พงึ ประสงค์ ผ้ปู ระเมิน .................................................... ............../................./....................

แบบประเมนิ ความเหมาะสมของชุดกจิ กรรม(สาหรบั ผเู้ ชี่ยวชาญ) คาชีแ้ จง : แบบประประเมนิ ความเหมาะสมของชดุ กิจกรรม รายวิชา วิทยาการคานวณ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แบ่งออกเปน็ 3 ตอนดังน้ี ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู ส่วนตัวของผู้ประเมนิ ส่วนที่ 2 การประเมนิ ความเหมาะสมของชดุ กจิ กรรม รายวิชาวิทยาการคานวณ สว่ นที่ 3 ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม __________________________________________________________________________________ ส่วนที่ 1 ขอ้ มลู ส่วนตัวของผู้ประเมิน คาชี้แจง กรอกรายละเอยี ดของผูป้ ระเมนิ ช่ือ-นามสกุลผปู้ ระเมิน (นาย,นาง,นางสาว)................................................................................................... ตาแหน่ง....................................................................... สถานทท่ี างาน…………………………………………………………… ขอ้ มูลการติดต่อ เบอรโ์ ทรศพั ท์..........................................Email : ………………………………………………………

ตอนที่ 2 การประเมินความเหมาะสมของชดุ กิจกรรม คาช้แี จง ทาเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งรายการประเมินตามระดับความเหมาะสมในแตล่ ะหัวข้อโดยกาหนดเกณฑ์ ใหเ้ ลือกดงั น้ี 1 หมายถึง มีความความสอดคล้อง 0 หมายถึง ไม่แน่ใจ 1 หมายถึง ไม่เหมาะสม รายการประเมนิ ความเหมาะสม คาแนะนา 1 0 -1 1. ดา้ นภาพรวมชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาการคานวณ ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 1.1 องค์ประกอบมคี วามชัดเจน ครบถ้วนเพยี งพอ 1.2 สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 1.3 ข้อปฏิบัตใิ นการใชช้ ุดการสอนเข้าใจง่ายชดั เจน 1.4 ระบุหน้าท่ขี องผู้เรียนได้ละเอยี ดครบถ้วนเพียงพอ 1.5 ระบหุ น้าท่ีของครผู ู้สอนไดล้ ะเอยี ดครบถ้วนเพียงพอสาหรบั การจดั กิจกรรม การเรียนรู้ 1.6 ระบุสิง่ ทค่ี รผู ู้สอนต้องเตรยี มในการใชช้ ุดการสอนได้ละเอียด ครบถว้ น 1.7 ชุดการสอนมีการดาเนินเร่ืองอย่างต่อเน่อื งและมีความนา่ สนใจ 2.ดา้ นการจดั การเรียนรู้ 2.1 แผนการจดั การเรยี นร้แู ผนท่ี 1 เรื่อง ข้อมูลมีคณุ คา่ - มาตรฐานการเรยี นรูต้ วั ชวี้ ัดและสาระการเรียนรตู้ รงตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน - สาระการเรียนรแู้ ละจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สอดคล้องกับตัวชว้ี ัด - กจิ กรรมการเรยี นรูม้ ีความสอดคล้องตามขนั้ ตอนของกระบวนการการ จัดการเรยี นรู้ - ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมเหมาะสมต่อการเรียนในเน้ือหาแตล่ ะชุดกิจกรรม

2.2 แผนการจัดการเรียนรู้แผนท่ี 2 เรื่อง การรวบรวมข้อมูลและสารวจข้อมลู - มาตรฐานการเรียนรตู้ วั ชว้ี ัดและสาระการเรียนร้ตู รงตามหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน - สาระการเรียนรู้และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องกับตัวชี้วัด - กิจกรรมการเรยี นรมู้ ีความสอดคล้องตามขัน้ ตอนของกระบวนการการ จดั การเรยี นรู้ - ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสมตอ่ การเรยี นในเน้อื หาแต่ละชดุ กิจกรรม 2.3 แผนการจดั การเรียนรู้แผนที่ 3 เรื่อง การวเิ คราะห์ข้อมูล - มาตรฐานการเรียนรตู้ ัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรตู้ รงตามหลกั สูตรแกนกลาง การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน - สาระการเรยี นรแู้ ละจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สอดคล้องกับตัวชวี้ ัด - กิจกรรมการเรียนรูม้ ีความสอดคล้องตามข้ันตอนของกระบวนการการ จดั การเรียนรู้ - ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสมตอ่ การเรยี นในเนอ้ื หาแต่ละชดุ กิจกรรม 2.4 แผนการจัดการเรียนรู้แผนท่ี 4 เรอื่ ง ทาข้อมูลให้เปน็ ภาพ - มาตรฐานการเรยี นร้ตู วั ชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้ตรงตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน - สาระการเรยี นรูแ้ ละจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สอดคล้องกับตวั ช้ีวัด - กิจกรรมการเรียนรู้มีความสอดคล้องตามข้ันตอนของกระบวนการการ จดั การเรียนรู้ - ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสมตอ่ การเรียนในเน้ือหาแตล่ ะชดุ กจิ กรรม ส่วนที่ 3 ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ

............................................................................................................................. ................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. .... ............................................................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ........ .......................................................................................................................... ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... .................................................................................................................................................................................... ............ ...................................................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... ................................................................................................................................................................................ ................ ............................................................................................................................. ................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. .... ............................................................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ........ .......................................................................................................................... ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... .................................................................................................................................................................................... ............ ...................................................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... ................................................................................................................................................................................ ................ .................................................................................................................. .............................................................................. ............................................................................................................................. ...................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook