Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความไม่สอดคล้องของการศึกษาต่อตลาดแรงงานในตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนระดับปฏิบัติการ (พัฒนากร)

ความไม่สอดคล้องของการศึกษาต่อตลาดแรงงานในตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนระดับปฏิบัติการ (พัฒนากร)

Published by yokmanee, 2018-07-10 20:34:25

Description: นำเสนอในงานประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ
ครั้งที่ 26 ประจำาปี 2559 "บูรณาการงานวิจัยเพื่อสังคม (Integrating
Research into the Society)" ระหว่างวันที่ 26-29 พฤษภาคม 2559 ณ โรงแรมบุรีศรีภู บูติก อำาเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

Search

Read the Text Version

1

คำ� นำ� ด้วยสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยทักษิณ ร่วมกับ สำ�นักงานคณะกรรมการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา (สกอ.) ส�ำ นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั (สกว.) ส�ำ นกั งานพฒั นาการวจิ ยั การเกษตร (สวก.) ส�ำ นกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สวทช.) และสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ก�ำ หนดจดั งานประชมุ วชิ าการระดบั ชาตมิ หาวทิ ยาลยั ทกั ษณิครั้งที่ 26 ประจำ�ปี 2559 ภายใตห้ วั ข้อ : บรู ณาการงานวจิ ยั เพื่อสงั คม (IntegratingResearch into the Society) ในระหว่างวันที ่ 26-29 พฤษภาคม 2559 ณ โรงแรมบุรีศรภี ู บตู กิ อ�ำ เภอหาดใหญ ่ จงั หวดั สงขลา โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ เปน็ เวทที างวชิ าการใหก้ บั นกั วจิ ยั และนสิ ติ ระดบั บณั ฑติ ศกึ ษา ไดพ้ บปะแลกเปลยี่ นเรยี นรแู้ ละประสบการณ ์ ด้านการวิจัยตลอดจนเป็นการสร้างเครือขา่ ยความร่วมมือด้านการวจิ ัย เพอ่ื เผยแพร่ผลงานวิจัยของนักวิจัยและนิสิตนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาทว่ั ประเทศ การประชมุ วชิ าการครง้ั น้ี ประกอบดว้ ยการบรรยายพเิ ศษ การน�ำ เสนอผลงานวจิ ยั จากนกั วจิ ยั มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ นกั วจิ ยั นกั วชิ าการสถาบนั อดุ มศกึ ษาทวั่ ประเทศโดยมกี ารนำ�เสนอผลงานวิจยั ภาคบรรยาย จ�ำ นวน 82 ผลงาน ภาคโปสเตอร์ จ�ำ นวน135 ผลงาน คณะผูด้ �ำ เนินการจดั ประชมุ วิชาการ ใครข่ อขอบพระคณุ หนว่ ยงานเจา้ ภาพรว่ มที่ได้ให้การสนับสนุนและอำ�นวยความสะดวกในการจัดประชุม ขอขอบคุณวิทยากรตลอดจนผนู้ �ำ เสนอผลงานวจิ ยั ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ วชิ าการ คณะท�ำ งานจากสถาบนั วจิ ยัและพฒั นา และคณะกรรมการจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ในมหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ ทม่ี สี ว่ นรว่ มสำ�คญั ในการจดั ประชมุ วิชาการคร้งั นี้ ให้ส�ำ เร็จตามวัตถุประสงค์ทกุ ประการ สถาบนั วิจยั และพัฒนา มหาวทิ ยาลัยทักษณิ พฤษภาคม 2559 3

073 ความไมส่ อดคลอ้ งของการศึกษาตอ่ ตลาดแรงงานในตาแหนง่ นักวชิ าการพัฒนาชุมชนระดับปฏบิ ตั ิการ (พัฒนากร) Educational Mismatch among Community Development Worker (CD Worker) อสิ ระ ทองสามส1ี * และกันยปรณิ ทองสามส2ี Isara Tongsamsi1* and Kanyaprin Tongsamsi2 บทคัดย่อ การวจิ ัยท่ีผ่านมาพบว่าการทางานในตาแหน่งที่ไม่เหมาะสมกับคุณวุฒิการศึกษามีผลต่อการได้รับค่าจ้างต่ากว่าคุณวฒุ ิ เกดิ ความไม่พงึ พอใจในงาน และมแี นวโน้มทจี่ ะลาออกจากงานเพ่อื ไปประกอบอาชีพอิสระในอนาคต การวิจัยคร้ังน้ีเป็นการวิจัยจากข้อมูลที่มีการบันทึกไว้แล้ว มีวัตถุประสงค์เพ่ืออธิบายลักษณะของความไม่สอดคล้องของการศึกษาต่อตลาดแรงงานในตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนระดับปฏิบัติการ (พัฒนากร) โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากบัญชีรายละเอียดการบรรจุแตง่ ตง้ั ผสู้ อบแข่งขนั ได้ พ.ศ.2557 ผลการวจิ ัยปฏเิ สธสมมตุ ฐิ านทว่ี า่ เพศและช่วงอายุของผสู้ อบแข่งขันได้มีความสัมพันธ์กบั ความไม่สอดคล้องของคุณวฒุ ิการศกึ ษาต่อตาแหนง่ งานคาสาคัญ: ความไมส่ อดคล้องของการศึกษาตอ่ ตลาดแรงงาน นกั วชิ าการพฒั นาชุมชนระดบั ปฏบิ ตั กิ าร (พัฒนากร) Abstract Previous research confirms that many employees work in jobs not well matched to their skillsand education, resulting in lower pay, job satisfaction and turnover. While this study typically usesunobtrusive research, we explain the characteristic of mismatch, by using a secondary data set ofcommunity development worker in Thailand, 2014. The results reject the hypothesis that sex and agehave a significant effect on educational mismatch among community development worker.Keywords: Educational Mismatch, Community Development Worker (CD Worker)1 อ.ดร., โปรแกรมวิชาการพฒั นาชุมชน คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสงขลา สงขลา 900002 อ.ดร., ภาควชิ าสงั คมศาสตร์ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ ปตั ตานี 94000* Corresponding author: Tel.: 0817484210. E-mail address: [email protected] 601

บทนา ความไม่สอดคล้องของการศกึ ษาต่อตลาดแรงงาน (Educational Mismatch) เป็นสถานการณ์แรงงานท่ีบัณฑิตท่ีสาเร็จการศึกษามีคุณวุฒิไม่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถหรือสมรรถนะตามตาแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ความไม่สอดคล้องเกดิ ขน้ึ ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1) การมีคณุ วุฒิสงู กวา่ ตาแหน่งงาน (Vertical Mismatch) เชน่ จบปรญิ ญาโทแต่ต้องทางานในตาแหนง่ ปริญญาตรี เปน็ ต้น 2) การมคี ุณวุฒิตรงตามตาแหน่งงานแต่ไม่เหมาะสมกับตาแหน่งงานหรือไม่ตรงสายงาน(Horizontal Mismatch) เช่น จบปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์แต่ทางานในตาแหน่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินซ่ึงไม่จาเป็นต้องนาความร้ตู ามคณุ วุฒิมาใช้ในการทางานแตอ่ ย่างใด เป็นต้น และ 3) การมีคุณวุฒิสงู กวา่ ตาแหน่งงานและไม่ตรงสายงาน(Vertical- Horizontal Mismatch) เชน่ จบปรญิ ญาโทสาขาการศึกษาแต่ทางานในตาแหน่งพนักงานขายคณุ วฒุ ปิ รญิ ญาตรี เปน็ ตน้ [1] ความไม่สอดคล้องของการศกึ ษาต่อตลาดแรงงานสว่ นหน่ึงมสี าเหตมุ าจากจานวนผู้ที่สาเร็จการศึกษาในแต่ละปีมีจานวนมากกว่าตาแหน่งงานส่งผลให้มีจานวนผู้ว่างงานมากกว่าผู้มีงานทา โดยในปี พ.ศ. 2558 พบว่าผู้ที่สาเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็นกลุ่มท่ีว่างงานมากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ 38.7 รองลงมาคือระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 22.5ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ร้อยละ 20.2 ระดับประถมศึกษา ร้อยละ 12.0 ระดับต่ากว่าประถมศึกษา ร้อยละ 5.0 ไม่มีการศกึ ษา รอ้ ยละ 0.8 และการศกึ ษาอน่ื ๆ ร้อยละ 0.8 ตามลาดบั [2] สถานการณแ์ รงงานท่มี กี ารแข่งขนั กนั สูงดงั กลา่ วทาให้ผู้สาเรจ็ การศึกษาส่วนหนึ่งไม่ตอ้ งการรองานจึงสมคั รใจทางานในตาแหน่งที่คุณวุฒิไม่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถหรือทักษะของตนเอง ผลกระทบเชิงลบท่ีเกิดข้ึนคือการได้รับค่าจ้างต่ากว่าคุณวุฒิ เกิดความไม่พึงพอใจในงาน และมีแนวโนม้ ทจี่ ะลาออกจากงานเพ่อื ไปประกอบอาชีพอสิ ระในอนาคต [3] การวิจยั ครั้งนจี้ ึงมุ่งอธบิ ายความไม่สอดคลอ้ งของการศึกษาต่อตลาดแรงงานในตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนระดับปฏิบัติการ (พัฒนากร) ซ่ึงมีการสอบแข่งขันเพ่ือบรรจุและแต่งต้ังบุคคลเข้ารับราชการครั้งล่าสุดใน พ.ศ.2557 โดยผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งคือได้รับปริญญาตรีหรือคุณวุฒิอย่างอ่ืนที่เทียบเท่าในระดับเดียวกันทุกสาขาวิชาและเปน็ ผสู้ อบผ่านและได้รับการข้ึนทะเบียนความรู้ความสามารถท่ัวไป (ภาค ก.) ระดับปริญญาตรีของ ก.พ. มีจานวนตาแหนง่ วา่ งครง้ั แรก 150 ตาแหน่ง [4] ซึ่งมจี านวนผสู้ มคั รสอบแข่งขันเขา้ สอบภาคความรคู้ วามสามารถท่ีใช้เฉพาะตาแหน่ง (ภาค ข.) มากถึง 25,427 คน [5] และมีจานวนผู้สอบแข่งขันได้และข้ึนบัญชีผู้สอบแข่งขันได้เพียง 4,464 คนเท่านั้น [6] ผลการวิจัยที่ได้จะเป็นประโยชน์ต่อสถาบันอุดมศึกษาท่ีผลิตบัณฑิตสาขาพัฒนาชุมชน/พัฒนาสังคม และท่ีเกี่ยวข้องในการวางแผนผลิตบัณฑิตและจดั ทาหลักสูตรให้สอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของตลาดแรงงานต่อไป วธิ ีการวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยจากข้อมูลที่มีการบันทึกไว้แล้ว (Unobtrusive Research) โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากบัญชีรายละเอียดการบรรจุแต่งต้ังผู้สอบแข่งขันได้ให้ดารงตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนระดับปฏิบัติการ (พัฒนากร)จานวน 150 ราย [7] ผู้วิจัยไดก้ าหนดตวั แปรโดยคานงึ ถงึ การมีอย่จู ริงและความสมบรู ณ์ของข้อมูลในบัญชีดังกล่าว ตัวแปรอิสระจึงได้แก่ เพศ และช่วงอายุของผู้สอบแข่งขันได้ ตัวแปรตาม ได้แก่ ความไม่สอดคล้องของคุณวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีต่อตาแหน่งงาน โดยการวิจัยครั้งน้ีได้ให้นิยามปฏิบัติการตัวแปรตามว่าเป็นผู้ที่ไม่ได้รับปริญญาตรีสาขาพัฒนาชุมชน/พัฒนาสังคม และท่ีเกี่ยวข้องซึ่งมีผลให้คุณวุฒิดังกล่าวไม่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถหรือสมรรถนะตามตาแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร สมมุติฐานการวิจัยมี 2 ข้อ ได้แก่ 1) เพศกับความไม่สอดคล้องของคุณวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีตอ่ ตาแหนง่ งานมีความสัมพันธก์ ัน และ 2) ชว่ งอายุกบั ความไม่สอดคลอ้ งของคุณวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีต่อตาแหน่งงานมีความสัมพันธ์กัน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้เทคนิคการวิเคราะห์เน้ือหาเชิงปริมาณ (QuantitativeContent Analysis) [8] ซ่ึงเปน็ การค้นหาวา่ เนอื้ หาท่ีปรากฏอย่างชัดแจ้งนนั้ คอื อะไร ไมใ่ ช่การตีความเพือ่ ค้นหาความหมายทซ่ี ่อนเรน้ อยใู่ นเนอ้ื ความ (Qualitative Content Analysis) ค่าสถติ ิทใ่ี ช้ ไดแ้ ก่ ความถ่ี รอ้ ยละ คา่ เฉลีย่ คา่ ตา่ สดุ คา่ สูงสดุและค่าสถิติไคสแควร์ 602

ผลการวิจัยและอภปิ รายผลการวิจัย 1. ผลการวิจยั ตารางท่ี 1 นาเสนอข้อมูลทั่วไปของผู้สอบแข่งขันได้ในตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนระดับปฏิบัติการ(พัฒนากร) จานวน 150 คน ซึง่ พบว่าเปน็ เพศชาย ร้อยละ 45.3 และเพศหญิงร้อยละ 54.7 ช่วงอายุต่ากว่า 30 ปี ร้อยละ53.3 และ 30 ปีขึ้นไป ร้อยละ 46.7 อายุเฉล่ีย 29.7 ปี อายุต่าสุด 23 ปี และอายุสูงสุด 42 คุณวุฒิที่สาเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีมากท่ีสุดคือสาขารัฐศาสตร์/รัฐประศาสนศาสตร์/นิติศาสตร์ ร้อยละ 30.7 ถัดมาคือสาขาวิทยาศาสตร์ร้อยละ 24.0 สาขาบริหารธุรกิจ/การจัดการ/เศรษฐศาสตร์ รอ้ ยละ 21.3 สาขาพัฒนาชุมชน/พัฒนาสังคม และที่เก่ียวข้องร้อยละ 8.0 สาขาสังคมศาสตร์ยกเว้นพัฒนาชุมชน/พัฒนาสังคม และที่เกี่ยวข้อง ร้อยละ 6.7 สาขามนุษยศาสตร์ ร้อยละ4.0 สาขาวศิ วกรรมศาสตร์ รอ้ ยละ 3.3 และสาขาสาธารณสขุ ศาสตร์ ร้อยละ 2.0 ตามลาดับ โดยผู้สอบแข่งขันได้มีคุณวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีไม่ตรงสายงานมากที่สุด ร้อยละ 82.7 ถัดมาคือสูงกว่าตาแหน่งงานและไม่ตรงสายงานรอ้ ยละ 6.7 สอดคลอ้ งต่อตาแหนง่ งาน ร้อยละ 6.7 และสูงกวา่ ตาแหนง่ งาน รอ้ ยละ 4.0 ตามลาดับตารางท่ี 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้สอบแข่งขันไดใ้ ห้ดารงตาแหนง่ นกั วิชาการพัฒนาชมุ ชนระดบั ปฏบิ ัตกิ าร (พฒั นากร) ข้อมลู ทว่ั ไป จานวน ร้อยละเพศ ชาย 68 45.3 หญิง 82 54.7ชว่ งอายุ ต่ากวา่ 30 ปี 80 53.3 30 ปีขึ้นไป 70 46.7 อายเุ ฉล่ีย 29.7 ปี อายุตา่ สดุ 23 ปี อายสุ ูงสุด 42 ปีคุณวุฒทิ ส่ี าเรจ็ การศกึ ษาในระดับปรญิ ญาตรี รฐั ศาสตร/์ รฐั ประศาสนศาสตร/์ นติ ิศาสตร์ 46 30.7 วิทยาศาสตร์ 36 24.0 บริหารธรุ กจิ /การจัดการ/เศรษฐศาสตร์ 32 21.3 พฒั นาชมุ ชน/พัฒนาสงั คม และทเ่ี กยี่ วข้อง 12 8.0 สงั คมศาสตรย์ กเว้นพัฒนาชมุ ชน/พัฒนาสังคม และท่ีเกยี่ วขอ้ ง 10 6.7 มนษุ ยศาสตร์ 6 4.0 วิศวกรรมศาสตร์ 5 3.3 สาธารณสุขศาสตร์ 3 2.0ความไมส่ อดคล้องของคุณวุฒิการศกึ ษาในระดบั ปรญิ ญาตรตี อ่ ตาแหน่งงาน สอดคลอ้ ง 10 6.7 สงู กวา่ ตาแหน่งงาน 6 4.0 ไมต่ รงสายงาน 124 82.7 สูงกว่าตาแหนง่ งานและไมต่ รงสายงาน 10 6.7รวม 150 100.0 603

ตารางที่ 2 นาเสนอผลการทดสอบสมมุติฐาน พบว่า เพศกับความไม่สอดคล้องของคุณวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีต่อตาแหน่งงานมีความสัมพันธ์กันอย่างไม่มีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 และช่วงอายุกับความไม่สอดคล้องของคุณวฒุ ิการศกึ ษาในระดับปริญญาตรีต่อตาแหนง่ งานมคี วามสมั พนั ธ์กันอยา่ งไม่มนี ัยสาคัญทางสถิตทิ รี่ ะดับ .05ตารางที่ 2 ผลการทดสอบสมมตุ ฐิ าน ความไมส่ อดคลอ้ งของคุณวุฒิการศึกษาในระดับปรญิ ญาตรตี อ่ ตาแหน่งงาน (ร้อยละ) ตัวแปร สอดคล้อง สูงกว่าตาแหนง่ งาน ไมต่ รงสายงาน สูงกว่าตาแหนง่ งาน และไมต่ รงสายงานเพศ ชาย 5 (7.4) 4 (5.9) 53 (77.9) 6 (8.8) หญิง 5 (6.1) 2 (2.4) 71 (86.6) 4 (4.9)ไคสแควรเ์ ทา่ กบั 2.394นัยสาคญั ทางสถิตเิ ทา่ กับ .495ช่วงอายุ ตา่ กวา่ 30 ปี 6 (7.5) 4 (5.0) 67 (83.8) 3 (3.8) 30 ปีข้นึ ไป 4 (5.7) 2 (2.9) 57 (81.4) 7 (10.0)ไคสแควรเ์ ท่ากบั 2.819นยั สาคญั ทางสถติ ิเทา่ กับ .420 2. อภปิ รายผลการวจิ ัย ผลการวิจัยปรากฏว่าผู้สอบแข่งขันได้ในตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนระดับปฏิบัติการ (พัฒนากร) มีคุณวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีไม่ตรงสายงานมากที่สุด ร้อยละ 82.7 โดยมีคุณวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์/รัฐประศาสนศาสตร์/นิติศาสตร์ มากท่ีสุดคือ ร้อยละ 30.7 ในขณะที่ผู้สอบแข่งขันได้มีคุณวุฒิสอดคล้องต่อตาแหน่งงานเพียงร้อยละ 6.7 โดยเปน็ คณุ วุฒิสาขาพัฒนาชุมชน/พฒั นาสังคม และท่เี กย่ี วข้องร้อยละ 8.0 เท่านั้น ท้ังท่ีโดยขอ้ เท็จจริงสถาบันอดุ มศกึ ษาของรัฐและเอกชนจานวนไมน่ ้อยตา่ งเปดิ การเรยี นการสอนในหลักสูตรปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาพัฒนาชุมชน/พฒั นาสังคม และท่ีเกี่ยวข้อง รวมถึงมีการจัดต้ังสมาคมพัฒนาชุมชน ท้องถิ่นและสังคมข้ึนเมื่อพ.ศ.2557 มีรองศาสตราจารย์ ดร.โกวิทย์ พวงงาม เป็นนายกสมาคม กรรมการสมาคมประกอบไปด้วยคณาจารย์จากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศท่ีจัดการเรียนการสอนหลักสูตรพัฒนาชุมชน/พัฒนาสังคม และที่เกี่ยวข้อง สานักงานใหญ่ต้ังอยู่ ณ ภาควิชาพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์ข้อหน่ึงคือเสริมสร้างความเป็นวิชาการและวิชาชีพของการทางานด้านพัฒนาชุมชน ท้องถิ่นและสังคม [9] และมีการเสริมสร้างความสมั พันธ์และแลกเปล่ียนเรียนร้ใู นชอื่ ของโครงการเครอื ข่ายนสิ ิต/นกั ศึกษาและคณาจารย์พฒั นาชมุ ชน/ สังคม/ท้องถิ่นสัมพันธ์ซ่ึงจัดขึ้นเป็นประจาทุกปีโดยปีน้ีเป็นคร้ังท่ี 15 ระหว่างวันท่ี 29 มกราคมถึง 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 ณมหาวิทยาลัยมหาสารคาม [10] กต็ าม ผลลัพธ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องของการจัดการศึกษาหลักสูตรปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาพฒั นาชมุ ชน/พฒั นาสังคม และที่เก่ียวข้องต่อตลาดแรงงานอย่างชัดเจนจนอาจนาไปสู่การตั้งข้อสังเกตได้ว่ารายวิชาต่าง ๆ ในหลักสูตรไม่สอดคล้องกับมาตรฐานกาหนดตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนระดับปฏิบัติการที่สานักงานข้าราชการพลเรือนกาหนดให้มีหนาท่ีความรับผิดชอบหลัก คือปฏิบัติงานในฐานะผูปฏิบัติงานระดับตนท่ีตองใชความรูความสามารถทางวิชาการในการทางาน ปฏิบัติงานดานวิชาการพัฒนาชุมชนภายใตการกากับ แนะนา ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอ่ืนตามที่ไดรับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านการปฏิบัติการ ด้านการวางแผน ด้านการ 604

ประสานงาน และด้านการบริการ อาทิ ศึกษา วิเคราะห วิจัยดานพัฒนาชุมชน เพ่ือจัดทาแผนงาน สนับสนุนการรวมกลุมของประชาชนในชุมชนประเภทตาง ๆ รวมถึงแสวงหาและพัฒนาศักยภาพของผูนาชุมชน กลุม องคกร และเครือขายองคกรประชาชน ตลอดจนสงเสริม สนับสนุนกระบวนการเรยี นรูและการมีสวนรวมของประชาชนในรูปแบบตาง ๆ เพ่ือใหประชาชนในชุมชนสามารถจัดทาแผนชุมชน รวมทั้งวิเคราะห ตัดสินใจ และดาเนินการรวมกันเพื่อแกไขปญหาความตองการของตนเอง และชมุ ชนได ตลอดจนเปนทีป่ รึกษาในการดาเนินงานพฒั นาชมุ ชน เป็นต้น [11] เป็นทน่ี า่ สังเกตวา่ ในการกาหนดคุณสมบัตเิ ฉพาะสาหรบั ตาแหนง่ น้นั สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนได้ระบุไว้อยา่ งกว้าง ๆ เพียงแค่ไดรับปรญิ ญาตรีหรือคณุ วฒุ ิอยางอน่ื ท่ีเทยี บไดในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชาหรือทางท่ีสวนราชการเจาสังกดั เหน็ วาเหมาะสมกบั หนาท่คี วามรับผดิ ชอบและลักษณะงานที่ปฏบิ ัติ ซ่ึงกรมการพัฒนาชุมชนในฐานะสวนราชการเจาสังกัดได้กาหนดคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งคือได้รับปริญญาตรีหรือคุณวุฒิอย่างอ่ืนที่เทียบเท่าในระดับเดียวกันทุกสาขาวิชา จึงทาให้ผู้สาเร็จการไม่ต่ากว่าระดับปริญญาตรีในสาขาอื่น ๆ นอกเหนือจากสาขาพัฒนาชุมชน/พัฒนาสังคม และท่ีเกี่ยวข้องที่สอบผ่านและได้รับการข้ึนทะเบียนความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ระดับปริญญาตรีของ ก.พ. มีสทิ ธ์ิสมัครเขา้ สอบภาคความรู้ความสามารถทใ่ี ช้เฉพาะตาแหนง่ (ภาค ข.) และมีโอกาสที่จะสอบผ่านท่ีคะแนนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 เนื่องจากลักษณะของขอ้ สอบที่สามารถคาดเดาไดโ้ ดยเป็นแบบปรนัย 100 ข้อ ๆ ละ 2 คะแนน โดยทดสอบความรู้ ความสามารถ ความเข้าใจ ความคิดเห็น และการวิเคราะห์เก่ียวกับหลักการ ทฤษฎี วิธีการปฏิบัติงานพฒั นาชมุ ชน กฎหมาย ระเบยี บทีเ่ กีย่ วข้องกับงานพัฒนาชุมชน นโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์กระทรวงมหาดไทย และยทุ ธศาสตร์กรมการพฒั นาชมุ ชน รวมทงั้ เหตกุ ารณป์ ัจจบุ นั ซึง่ ผูส้ าเรจ็ การไม่ตา่ กวา่ ระดับปรญิ ญาตรใี นสาขาอืน่ ๆ สามารถสืบคน้ และเตรียมตัวสอบได้ไมย่ ากเนื่องจากมีคมู่ ือเตรยี มสอบทีส่ รปุ เน้อื หาดงั กลา่ วออกจาหนา่ ยเปน็ จานวนมาก [12] ผลการวิจัยยังพบว่าเพศและช่วงอายุของผู้สอบแข่งขันได้กับความไม่สอดคล้องของคุณวุฒิการศึกษาในระดับปรญิ ญาตรีตอ่ ตาแหนง่ งานมีความสัมพันธ์กันอย่างไม่มีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 หมายความว่าผู้สอบแข่งขันได้ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิง อายุต่ากว่า 30 ปีหรือ 30 ปีข้ึนไปล้วนมีความไม่สอดคล้องของคุณวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีต่อตาแหน่งงานใกล้เคียงกัน ผลการวิจัยดังกล่าวขัดแย้งกับการศึกษาของ Mauteau, Mavromaras, Sloane, & Wei[13] ท่พี บวา่ เพศชายมีความไม่สอดคล้องของคุณวุฒิการศึกษาต่อตาแหน่งงานสูงกว่าเพศหญิงทั้งในเรื่องของการมีคุณวุฒิสูงกว่าตาแหน่งงานและการมีคุณวุฒิไม่ตรงสายงาน เช่นเดียวกับการศึกษาของ Rasovec & Vavrinova [14] ท่ีพบว่าผู้ท่ีอายุน้อยมีความไม่สอดคล้องของคุณวุฒิการศึกษาต่อตาแหน่งงานสูงกว่าผู้ที่อายุมากในเรื่องของการมีคุณวุฒิสูงกว่าตาแหนง่ งาน การท่ผี ลการวจิ ัยในคร้ังน้ีไม่สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ัยทเ่ี กี่ยวข้องอธบิ ายไดว้ ่าในสังคมไทยยุคปัจจุบันเพศชายและเพศหญิง ตลอดจนผ้ทู ีอ่ ยใู่ นชว่ งวัยที่แตกต่างกนั มโี อกาสในการศกึ ษาไดเ้ ทา่ เทียมกนั คุณวุฒิการศึกษาท่ีสูงจึงไม่ได้จากัดอยู่ที่เพศชายหรือผู้อยู่ในวัยหนุ่มสาวอีกต่อไป ความไม่สอดคล้องของคุณวุฒิการศึกษาต่อตาแหน่งงานจึงสามารถเกิดข้ึนกับเพศและชว่ งอายุของผสู้ อบแขง่ ขันได้ สรปุ ผลการวจิ ัย ผู้สอบแข่งขันได้ในตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนระดับปฏิบัติการ (พัฒนากร) มีคุณวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีไม่ตรงสายงานมากที่สุด โดยส่วนใหญ่มีคุณวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์/รัฐประศาสนศาสตร/์ นติ ิศาสตร์ นอกจากนี้ ผ้สู อบแข่งขันได้ไม่ว่าจะเป็นเพศใดหรือช่วงอายุเท่าใดต่างก็มีความไม่สอดคล้องของคุณวุฒิการศกึ ษาในระดบั ปรญิ ญาตรีต่อตาแหนง่ งานใกลเ้ คยี งกัน ขอ้ เสนอแนะทีไ่ ดก้ ารวิจัยครง้ั นี้ ได้แก่ สมาคมพัฒนาชุมชน ท้องถิ่นและสังคม และเครือข่ายนิสิต/นักศึกษาและคณาจารยพ์ ฒั นาชุมชน/ สงั คม/ท้องถิ่นท่วั ประเทศ ควรรว่ มมือกนั ผลกั ดันให้กรมการพฒั นาชุมชนในฐานะสวนราชการเจ้าสังกัดได้เล็งเห็นถึงความเป็นวิชาการและวิชาชีพของบัณฑิตท่ีสาเร็จการศึกษาหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาพัฒนาชุมชน/พัฒนาสังคม และที่เกี่ยวข้อง โดยการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนระดับ 605

ปฏิบัตกิ าร (พัฒนากร) จากเดิมทไ่ี ดร้ ับปริญญาตรหี รือคณุ วุฒิอย่างอื่นท่ีเทียบเท่าในระดับเดียวกันทุกสาขาวิชาเป็นคุณวุฒิสาขาสงั คมศาสตรแ์ ละพฤตกิ รรมศาสตรต์ ามท่ีสานกั งานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนได้รับรองคุณวุฒิบัณฑิตท่ีสาเร็จการศกึ ษาหลักสตู รศลิ ปศาสตรบัณฑติ สาขาพัฒนาชมุ ชน/พฒั นาสงั คม และทเ่ี กี่ยวข้องไว้ เอกสารอา้ งองิ[1] Pala, A. H. et al. (2015). “Effects of educational mismatch on employee performance : a case study of Co-operative Bank of Kenya Ltd”, Global Business and Economics Research Journal. 4(5), 1-15.[2] สานกั งานสถติ ิแห่งชาติ. (2558). การสารวจภาวะการทางานของประชากร พ.ศ. 2558. กรงุ เทพฯ.[3] Shevchuk, A., Strebkov, D. and Davis, S.N. (2015). Educational mismatch, gender, and satisfaction in self-employment : the case of Russian-language internet freelancers. Research in Social Stratification and Mobility. 40, 16-28.[4] กรมการพฒั นาชมุ ชน. (2556). ประกาศกรมการพัฒนาชมุ ชนเร่ือง รบั สมัครสอบแข่งขันเพ่อื บรรจุและแตง่ ต้ัง บคุ คลเข้ารบั ราชการในตาแหนง่ นกั วิชาการพฒั นาชุมชน ระดบั ปฏิบัตกิ าร (พัฒนากร). กรุงเทพฯ.[5] กรมการพฒั นาชมุ ชน. (2557). ประกาศกรมการพฒั นาชุมชนเรื่อง รายช่ือผู้สมัครสอบ กาหนด วัน เวลา สถานท่ี และระเบยี บเกยี่ วกบั การสอบแขง่ ขนั เพือ่ บรรจแุ ละแตง่ ตั้งบุคคลเขา้ รับราชการในตาแหนง่ นักวชิ าการพัฒนา ชมุ ชน ระดับปฏบิ ตั ิการ (พฒั นากร). กรงุ เทพฯ.[6] กรมการพัฒนาชมุ ชน. (2557). ประกาศกรมการพัฒนาชมุ ชนเรอื่ ง การข้ึนบัญชีและการยกเลกิ บญั ชีผู้สอบแข่งขัน ได้ในการสอบแข่งขนั เพื่อบรรจุและแตง่ ตงั้ บุคคลเขา้ รับราชการในตาแหน่งนกั วชิ าการพฒั นาชุมชน ระดับ ปฏิบตั กิ าร (พฒั นากร). กรงุ เทพฯ.[7] กรมการพฒั นาชุมชน. (2557). บัญชรี ายละเอียดการบรรจุแต่งตงั้ ผสู้ อบแขง่ ขันได้ แนบท้ายคาสัง่ กรมการพฒั นา ชุมชน ที่ 307/2557 ลงวนั ท่ี 30 พฤษภาคม พ.ศ.2557. กรงุ เทพฯ.[8] Riff, D., Lacy, S. and Fico, F. (2014). Analyzing Media Messages : Using Quantitative Content Analysis in Research. (3rd ed.). New York, NY: Routledge.[9] สมาคมพฒั นาชุมชน ท้องถ่ินและสงั คม. (2557). ใบสาคญั แสดงการจดทะเบยี นสมาคมพัฒนาชมุ ชน ท้องถิน่ และ สังคม. กรุงเทพฯ.[10] มหาวิทยาลยั มหาสารคาม. (2559). เอกสารประกอบการสมั มนาวิชาการระดบั ชาติ โครงการเครอื ขา่ ยนสิ ิต/ นักศึกษาและคณาจารยพ์ ัฒนาชมุ ชน/สงั คม/ทอ้ งถิน่ สมั พันธ์ ครง้ั ที่15 “การพฒั นาชมุ ชน สงั คม ภายใต้ กระแสการเปลีย่ นแปลง. มหาสารคาม.[11] สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรอื น. (2551). มาตรฐานกาหนดตาแหน่งสายงานประเภทวชิ าการ กล่มุ งานการศกึ ษา ศิลป สังคม และการพัฒนาชมุ ชน ตาแหน่งนกั วชิ าการพัฒนาชมุ ชนระดับปฏบิ ัติการ. นนทบุร.ี[12] ชลสทิ ธ์ิ ชาญนุชิต. (2557). คู่มือเตรียมสอบ กรมการพฒั นาชมุ ชน ตาแหนง่ นกั วชิ าการพฒั นาชุมชนปฏิบตั กิ าร (พัฒนากร). กรงุ เทพฯ : ซปุ เปอรก์ รปุ๊ เซนเตอร์.[13] Mauteau, S., Mavromaras, K., Sloane, P. and Wei, Z. (2014). Horizontal and vertical educational mismatch and wages. Retrieved January 15, 2016, from https://www.melbourneinstitute.com.[14] Rasovec, T. and Vavrinova, T. (2014). Mismatch in the Czech Republic : comparison of different approaches applied on PiAAC data. Statstika. 94(3), 58-79. 606