รางวัลบทความวจิ ยั ดเี ดน่ ระดับชาติ 48
49
รางวัลบคุ ลากรดเี ดน่ ประเภทอาจารย์ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ ประจาปี งบประมาณ 2560 บันทึกภาพถวายพระพรสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ณ สถานวี ทิ ยุโทรทัศน์แหง่ ประเทศไทย จ.ยะลา วนั ท่ี 4 กรกฎาคม 2561 50
รบั เกยี รตบิ ัตรและประกาศเกยี รตคิ ณุ บุคลากรดเี ด่น 2560-2561 วิทยาเขตปตั ตานี วนั ท่ี 9 พฤศจกิ ายน 2561 รางวัลผลงานวิจยั ระดบั ดเี ดน่ ในงานประชุมวิชาการ The 7th PSU Education Conference \"Higher Education for All : Surviving in Times of Change ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริ ราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ (13-14 ธนั วาคม 2561) 51
ผา่ นการประเมินเขา้ สสู่ มรรถนะอาจารยม์ หาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ ระดบั ดรณุ าจารย์ ตั้งแต่วันท่ี 12 พฤศจิกายน 2561 ผา่ นการประเมินเขา้ สู่ตาแหนง่ ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ตั้งแต่วนั ที่ 29 พฤศจิกายน 2560 (ตาม มติสภามหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ ในคราวประชุม 409(5/2562) วันท่ี 21 กนั ยายน 2562) ผทู้ รงคุณวุฒิพจิ ารณาเครอ่ื งมอื วิจัยของบณั ฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สงขลา ผู้ทรงคุณวุฒิพจิ ารณาบทความวจิ ัยในการประชมุ วิชาการด้านมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ ระดบั ชาติ คร้งั ที่ 2 ระหวา่ งวนั ที่ 5-6 สิงหาคม 2562 ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความตีพิมพ์ในวารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราช- นครนิ ทร์ 52
ส่วนท่ี 8 การสะทอ้ นประสบการณ์ และการวางแผนในอนาคต โลกปัจจบุ นั ได้เปลีย่ นแปลงอย่างรวดเร็ว นกั คิดในแวดวงต่างๆ ของโลกและไทยต่างใหค้ วาม สนใจกับสภาพสังคมเปน็ อย่างย่งิ นกั คิดทัง้ หลายเรียกสงั คมของมนุษยชาติในอนาคตในชือ่ ที่แตกต่าง กัน อลั วิน ทอฟฟเลอร์ เรียกวา่ ยุคคลืน่ ลูกที่สาม (The third wave) โดยมองว่าการเปลี่ยนแปลงของ กระแสโลกจะเปน็ การเปลี่ยนแปลงทม่ี ลี ักษณะ “ทั้งโลก” (Global) ไม่วา่ จะเป็นด้านเศรษฐกจิ สงั คม การเมือง ฯลฯ โดย มีเทคโนโลยีทีท่ ันสมัยเป็นตัวขับเคล่อื น ในขณะท่ีอีริค ชมิดท์และ เจเรด โคเฮน เรยี กโลกยุคนวี้ ่า ยคุ ดิจทิ ลั เปล่ียนโลก (The New Digital Age) นอกจากนแี้ ลว้ ยงั ถกู เรยี กในชื่ออนื่ ๆ อีกว่าเป็น “ยุคโลกไร้พรมแดน” (Borderless world) ยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization) เรียกว่าเปน็ ยุค “หลังสงั คมฐานความรู้” (Post knowledge – based society) ซง่ึ เป็นโลกทเี่ นน้ เรอื่ งกัลยาณมติ ร มกี ารเปลย่ี นรปู แบบของคนจากต่างคนต่างปิด ไปสู่ต่างคนต่างเปดิ เปน็ โลกที่ก้าวข้าม สังคมทเี่ น้นการ แขง่ ขันไปสกู่ ารร่วมสรา้ งสรรค์ เปน็ โลกทีภ่ มู ปิ ัญญาไดพ้ ัฒนากา้ วขา้ มทรัพย์สนิ ทาง ปัญญาสภู่ ูมปิ ญั ญา มหาชน เช่น ยทู ูบ (Youtube) หรือวกิ ิพีเดีย (Wikipedia) โลกหลังสังคมฐานความรู้ เป็นโลกที่เปลย่ี น วถิ ีชวี ติ มนษุ ยจ์ ากการพงึ่ พงิ ไปสู่ความเป็นอิสระและการพ่ึงพาอาศัยกัน อีกทง้ั การผลกั ดนั การเรียนรู้ ต้องมุง่ สูว่ ธิ กี าร Practices over Theory คอื ใหค้ วามสาคัญกบั การนาไปใชไ้ ดจ้ รงิ มากกว่าเน้นการทา ให้ถูกต้องตามทฤษฎี และจะนามาซ่ึงการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ดังเช่นที่โจอ้ี อีโตะ ( Joi Ito) ผู้อานวยการ Media Lab สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ( Massachusetts Institute of Technology: MIT) กล่าวไว้ในหนงั สอื Whiplash-How to Survive our Faster Future* การเปลีย่ นแปลงดังกลา่ วสง่ ผลให้ผูเ้ รียนสามารถเข้าถงึ องคค์ วามรู้ทที่ นั สมยั จากทั่วโลก มีส่ือ การเรยี นรู้ท่เี ข้าใจง่ายเผยแพรท่ ัว่ ไปบนโลกอินเทอร์เนต็ มหี นงั สือเรียนจากทั่วโลกอยู่บนโลกออนไลน์ ดังน้ัน ผู้สอนจาเป็นตอ้ งค้นคว้าและเข้าถึงแหลง่ ความรูใ้ หม่ตลอดเวลาเพอ่ื ช้ีแนะแก่นักศึกษาในการ เลือกส่ือทม่ี ีเน้ือหาเหมาะสมต่อการเรียนรู้ รวมทั้งพัฒนาส่ือการเรียนรู้แต่ละรายวิชาให้น่าสนใจ นา เทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม เปิดโอกาสให้ผเู้ รยี นเข้าถึงส่ือการเรยี นได้ทกุ ทท่ี กุ เวลา ซ่ึงสอ่ื การสอน ทีไ่ ดร้ ับความนิยมอยใู่ นปจั จบุ ันคือ บทเรียนออนไลนแ์ บบเปดิ (Massive Open Online Courseware : MOOC) ผู้สอนได้เข้าไปศึกษาสื่อดังกล่าวน้ีในหลายสถาบัน และได้ทดลองเป็นผู้เรียนของ Chula MOOC พบว่าอานวยความสะดวกแก่ผู้เรียนอย่างมาก ผู้เรียนสามารถเลือกเนื้อหาเรียนตามความ สนใจในขณะนนั้ ๆ ได้ เช่น ปัจจุบันมีการจาหน่ายสินค้าออนไลนม์ ากขน้ึ ก็สามารถเลือกเรยี นเนือ้ หา เรือ่ งการตลาดออนไลนเ์ พอ่ื นาไปใชจ้ รงิ ในชวี ิตได้ ซงึ่ แตกตา่ งจากการจัดรายวิชาเรยี นตามหลกั สูตรท่ี ต้องเรียนตามลาดับช้ันปีตามที่เขียนไว้ในเล่มหลักสูตร (ไม่สามารถตอบสนองผู้เรียนได้ทันท่วงที) ผู้สอนจึงต้องเรียนรู้เทคโนโลยเี พือ่ พฒั นาเนื้อหารายวิชาใหผ้ ู้เรยี นเข้าถงึ โดยสะดวกยิ่งข้ึน อีกท้ังการ เรียนรู้ไม่จาเป็นต้องเป็นไปตามลาดับขึ้นที่ผู้สอนกาหนดอีกต่อไป เพราะถูกกาหนดโดยผู้เรียนท่ีให้ ความสนใจในขณะปัจจุบัน (หลายมหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้ประชากรทุกช่วงวัยลงทะเบียนเรียน หลักสูตรระยะสั้นแบบออนไลน์ตามความสนใจ จึงมีนักเรียนระดับประถมศึกษาลงทะเบียนเรียน เน้อื หาระดับอุดมศึกษา ดงั นน้ั การจัดลาดับเนอ้ื หาตามความยากง่ายจึงไม่ใช่ประเด็นสาคญั อีกต่อไป) 53
อย่างไรก็ตาม การพบปะระหว่างผู้สอนกับผู้เรยี นยังคงมีความจาเป็นตามระเบยี บของมหาวิทยาลัย และการพฒั นาทกั ษะผ้เู รยี นด้านการส่ือสาร ผู้สอนจงึ ต้องใช้เวลาที่ถกู กาหนดไว้ในตารางเรยี นให้เกิด ประโยชน์สูงสุดด้วยการเสริมสรา้ งประสบการณ์จริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรายวิชานั้น ด้วยการเชิญ ผ้เู ช่ยี วชาญในสาขานน้ั มาบรรยาย แลกเปล่ียนประสบการณ์กบั นักศกึ ษา นาเสนอปัญหาที่พบในการ ปฏิบัติงานจริง และวิธีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม และฝึกทักษะปฏิบัติเพ่ือให้ผู้เรียนปฏิบัติได้ด้วย ตนเองในทกุ รายวชิ า เช่น รายวิชาการจดั สวัสดกิ ารและการประกันสงั คม ผู้เรียนตอ้ งสามารถออกแบบ สารวจความต้องการด้านสวัสดิการของพนักงานในองค์กรได้ สามารถอธิบายสวัสดิการที่กฎหมาย บงั คบั ใชแ้ กส่ ถานประกอบการได้ ใหค้ าแนะนาถึงการใชส้ ิทธิประกันสงั คม สิทธขิ า้ ราชการได้ ซ่ึงผูส้ อน ต้องจัดสถานการณ์ใหผ้ ู้เรยี นได้ลงมือปฏิบตั ิจรงิ เพ่ือสะท้อนได้ว่าผเู้ รยี นเข้าใจและสามารถถ่ายทอด ความรใู้ หผ้ ู้อ่นื เขา้ ใจในเนอ้ื หาทเ่ี รียนได้อยา่ งถูกตอ้ ง * อภิวฒุ ิ พมิ ลแสงสรยิ า. 2562. “เทคนคิ การบรหิ ารข้นั เทพ”, ประชาชาติธุรกจิ . 26-29 กันยายน, น.32. 54
ภาคผนวก ภาคผนวก 1 แนวทางการสัมภาษณ์การคุ้มครองแรงงานและการจัดสวัสดิการแรงงานในสถาน ประกอบการจงั หวัดปัตตานี เป็นกจิ กรรมประกอบรายวชิ า 441-423/441-222 การจัดสวสั ดิการ และการประกันสงั คม แนวทางการสัมภาษณ์การคุม้ ครองแรงงานและการจัดสวัสดิการแรงงาน ในสถานประกอบการจังหวัดปตั ตานี ชื่อสถานประกอบการ ................................................................................................................................................................ สถานที่ตั้ง ............................................................................................................................. ................................... ผลติ ภัณฑ์หลกั /บรกิ ารหลักของสถานประกอบการ ............................................................................................................................. ................................... ขนาดของสถานประกอบการ (จานวนพนกั งาน/คนทางาน) 1 – 5 คน 31-50 คน 6-10 คน 51-100 คน 11-15 คน 101-200 คน 16-20 คน 201-500 คน 21-25 คน 501-1,000 คน 26-30 คน มากกวา่ 1,000 คน ประเภทและจานวนของพนักงาน พนักงานจา้ งรายเดอื น จานวน...............................คน พนกั งานจ้างรายวนั จานวน...............................คน อืน่ ๆ....................................................จานวน...............................คน สมั ภาษณค์ ร้ังที่ 1 ช่ือสกุลผใู้ หส้ ัมภาษณ.์ ........................................................................................................................ ตาแหน่ง…………………………………………………………………หมายเลขโทรศพั ท.์ ...…………………………….. เวลาทใี่ ชส้ มั ภาษณ.์ ............................................................................................................................. 55
สัมภาษณค์ รั้งที่ 2 ชอ่ื สกุลผู้ใหส้ มั ภาษณ.์ ........................................................................................................................ ตาแหน่ง…………………………………………………………………หมายเลขโทรศพั ท.์ ...…………………………….. เวลาที่ใชส้ มั ภาษณ.์ ............................................................................................................................. สัมภาษณค์ รั้งท่ี 3 ชอ่ื สกลุ ผใู้ หส้ มั ภาษณ.์ ........................................................................................................................ ตาแหนง่ …………………………………………………………………หมายเลขโทรศัพท.์ ...…………………………….. เวลาที่ใชส้ มั ภาษณ.์ ............................................................................................................................. แนวทางการจัดสวัสดิการสาหรบั แรงงานตามพระราชบัญญตั คิ ุม้ ครองแรงงาน พ.ศ.2541 สวสั ดิการ หลกั การและสาระสาคัญ ผลการสมั ภาษณ์ เวลาทางาน 1) งานทั่วไป ไม่เกิน 8 ช่ัวโมงต่อวัน และไม่เกิน 48 ชั่วโมง -วนั ทางาน (เชน่ จันทร์-เสาร)์ ต่อสปั ดาห์ .............................................................. -เวลาทางาน (ระบเุ ป็นช่วงเวลา เช่น 8.00-17.00 น.) .............................................................. 2) งานอันตราย ไม่เกิน 7 ช่วั โมงตอ่ วัน และไมเ่ กนิ 42 -ลักษณะงานอันตราย ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาห์ .............................................................. - งานท่ีต้องทาใต้ดิน ใต้น้า ในอุโมงค์หรือในท่ีอับ (หากไม่มใี ห้ระบวุ ่า “ไมม่ ี”) อากาศ -วันทางาน (เช่น จันทร์-ศุกร)์ - งานเกีย่ วกบั กัมมันตภาพรังสี .............................................................. - งานเช่ือมโลหะ -เวลาทางาน (ระบเุ ป็นช่วงเวลา เช่น - งานขนส่งวัตถุอันตราย 8.00-16.00 น.) - งานผลติ สารเคมอี นั ตราย .............................................................. - งานท่ีต้องทาด้วยเคร่ืองมือหรือเครื่องจักรซ่ึงผู้ทา ไดร้ ับความสน่ั สะเทือนอนั อาจเปน็ อนั ตราย - งานท่ีต้องทาเกี่ยวกับความรอ้ นจัดหรอื ความเย็นจดั อันอาจเป็นอนั ตราย 56
สวสั ดิการ หลักการและสาระสาคญั ผลการสัมภาษณ์ เวลาพกั 1) ในวันที่มีการทางานให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพัก เวลาพกั ปกติ (ระบุเป็นช่วงเวลา เช่น ติดต่อกันไม่น้อยกว่าวันละ 1 ช่ัวโมงภายใน 5 ชั่วโมงแรก 12.00-13.00 น.) ของการทางาน .............................................................. 2) นายจา้ งและลกู จ้างจะตกลงกนั ล่วงหนา้ ใหม้ ีเวลาพักน้อย กวา่ ครง้ั ละ 1 ช่วั โมงก็ได้แตต่ ้องไม่น้อยกวา่ ครั้งละ 20 นาที และเมอ่ื รวมกนั แล้วตอ้ งไมน่ ้อยกว่าวันละ 1 ชั่วโมง 3) กรณีงานในหน้าท่ีมลี ักษณะตอ้ งทาตดิ ต่อกนั ไป หรือเป็น -ลักษณะงานทไ่ี มส่ ามารถหยดุ ได้ งานฉุกเฉินโดยจะหยดุ เสียมไิ ด้ นายจ้างจะไม่จัดเวลาพักให้ .............................................................. ลกู จา้ งก็ได้ แตต่ อ้ งไดร้ บั ความยินยอมจากลกู จา้ ง -ความถ่ีท่เี กิดขึ้น ทุกวนั ทุกสัปดาห์ (สัปดาหล์ ะ 1-4 วนั ) ทุกเดือน (เดอื นละ 1 วันขน้ึ ไป) วนั หยดุ ต้องไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 1 วัน โดยมีระยะห่างกันไม่ วนั หยดุ ประจาสปั ดาหม์ จี านวน ประจา เกิน 6 วัน ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจา ...................วนั สปั ดาห์ สัปดาห์ (ยกเว้นลูกจ้างรายวัน รายชั่วโมง หรือตามผลงาน กาหนดวันหยุดประจาสปั ดาห์ (Weekend) โดยคานวณเปน็ หน่วย) แน่นอน (เช่น เสาร์) นายจ้างและลูกจ้างจะตกลงกันล่วงหน้า กาหนดให้มี .............................................................. วันหยดุ ประจาสปั ดาห์วนั ใดกไ็ ด้ งานโรงแรม งานขนส่ง งาน สถานประกอบการเปิดให้บริการ ในปา่ งานในทีท่ รุ กนั ดาร (งานประมง งานดับเพลิง) งานอนื่ ทุกวัน นายจ้างตกลงกับลูกจ้างเป็น ตามที่กฎกระทรวงฯ กาหนด นายจ้างและลูกจ้างจะตกลง รายๆ ว่าหยดุ วนั ใด กันล่วงหนา้ เร่อื งการสะสมหรอื เลอื่ นวันหยุดประจาสปั ดาห์ ไปเมื่อใดก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะเวลาไม่เกิน 4 สัปดาห์ ตดิ ตอ่ กัน กรณีวันหยุดประจาสัปดาห์ไม่แน่นอน ให้นายจ้าง ขอสาเนาตวั อยา่ งประกาศ ประกาศวันหยุดให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน และแจ้งเปน็ หนังสอื ให้พนักงานตรวจแรงงานทราบภายใน 7 วัน นับแต่วนั ทปี่ ระกาศกาหนด วันหยุดตาม ต้องไม่น้อยกว่าปีละ 13 วัน โดยรวมวันแรงงานแห่งชาติ วนั หยดุ ตามประเพณีจานวน............วัน ประเพณี ด้วย ถ้าวันหยุดตามประเพณีตรงกับวันหยุดประจาสัปดาห์ ไดแ้ ก่ ให้หยดุ ชดเชยในวันทางานถดั ไป 1…………………………………………………… 57
สวัสดกิ าร หลกั การและสาระสาคญั ผลการสัมภาษณ์ (Public ลูกจ้างมสี ิทธิได้รบั คา่ จา้ งในวันหยุดตามประเพณี 2…………………………………………………… Holiday) 3…………………………………………………… 4.………………………………………………….. 5.………………………………………………… 6.………………………………………………… 7.………………………………………………… 8.………………………………………………… 9.………………………………………………… 10.………………………………………………… 11.………………………………………………… 12.………………………………………………… 13.………………………………………………… 14.………………………………………………… 15.………………………………………………… วันหยดุ ลกู จา้ งซงึ่ ทางานตดิ ต่อกันมาครบ 1 ปี มีสิทธหิ ยดุ พกั ผอ่ น -วันหยุดพักผ่อนประจาปจี านวน......วนั พักผอ่ น ประจาปี ประจาปีไม่นอ้ ยกวา่ ปีละ 6 วนั ทางาน ถ้าลกู จ้างทท่ี างานยัง -การสะสมวันลาพกั ผอ่ น (Annual Leave) ไม่ครบ 1 ปี จะใหห้ ยุดตามส่วนกไ็ ด้ .…………………………………………………… ลูกจา้ งมสี ิทธิได้รบั คา่ จา้ งในวันหยุดพกั ผ่อนประจาปี .…………………………………………………… ให้นายจ้างเป็นผู้กาหนดวันหยุดพักผ่อนประจาปีให้ ลูกจา้ งทราบล่วงหนา้ หรอื กาหนดตามทีต่ กลงกัน นายจ้างและลกู จา้ งจะตกลงกนั ลว่ งหน้าสะสมและเล่ือน วันหยุดพกั ผอ่ นประจาปไี ปรวมหยดุ ในปอี ่ืนกไ็ ด้ สทิ ธลิ าปว่ ย ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วยได้เท่าท่ีป่วยจริง ทั้งน้ีการลาป่วย (Sick ต้ังแต่ 3 วันขึน้ ไปตอ้ งมีใบรับรองแพทย์ Leave) การลาคลอด ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์มีสิทธิลาคลอดก่อนและหลัง ลูกจ้างหญิงมีสิทธิลาคลอดจานวน คลอดครรภค์ รงั้ หนึง่ ไม่เกนิ 90 วันโดยใหน้ บั รวมวนั หยุดท่ีมี ................วัน ระหว่างวันลาด้วย และให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้างซึ่ง ลาคลอดเท่ากบั คา่ จา้ งในวันทางานตลอดระยะเวลาท่ลี า แต่ ไม่เกิน 45 วัน 58
สวัสดกิ าร หลกั การและสาระสาคัญ ผลการสัมภาษณ์ การลาเพ่ือ ทาหมัน ลูกจ้างมีสิทธิลาเพ่ือทาหมันได้ และมีสิทธิลาเนื่องจาก ในรอบปี 2561 มีลกู จา้ งลาเพื่อทาหมนั การทาหมันตามระยะเวลาท่ีแพทย์แผนปัจจุบันช้ันหน่ึง จานวน………….คน การลากิจ กาหนด และออกใบรบั รองให้ โดยลกู จา้ งมีสิทธิไดร้ บั คา่ จา้ ง ลูกจา้ งหญิงจานวน………….คน การลาเพือ่ ในวนั ลานน้ั ด้วย ลูกจ้างชายจานวน………….คน รับราชการ ทหาร ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อกิจธุระอันจาเป็นได้ตามข้อบังคับ การลากจิ จานวน................วัน การลาเพอื่ เกี่ยวกบั การทางาน ฝกึ อบรม ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อรบั ราชการทหารในการเรยี กพลเพอื่ ในรอบปี 2561 มีลกู จ้างลาเพ่อื รบั ตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพ่ือทดสอบความพรั่ง ราชการทหาร จานวน………….คน พร้อม โดยลาไดเ้ ทา่ กับจานวนวันที่ทางการทหารเรยี ก และ ไดร้ ับคา่ จา้ งตลอดเวลาที่ลาแตไ่ มเ่ กนิ 60 วนั ต่อปี ลูกจ้างมีสิทธิลาเพ่ือการฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ ในรอบปี 2561 มีลกู จ้างลาเพือ่ การ ความสามารถตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดใน ฝึกอบรมหรอื พฒั นาความรู้ กฎกระทรวงโดยไม่ไดร้ ับคา่ จ้างในวนั ลานนั้ ความสามารถ จานวน………….คน คา่ จา้ ง ลกู จ้างมสี ิทธไิ ด้รับค่าจา้ งไม่นอ้ ยกวา่ อัตราค่าจ้างข้นั ต่า -คา่ จ้างขั้นต่าท่ีลกู จา้ งไดร้ บั วนั ละ ..................บาท การทางาน ลว่ งเวลา -คา่ จา้ งขน้ั ต่าที่ลกู จ้างได้รบั เดือนละ และการ ทางานใน ..................บาท วนั หยุด 1) ในกรณีท่ีงานมีลักษณะต้องทาติดต่อกันไป ถ้าหยุดจะ -โดยปกติสถานประกอบการมีการให้ เสียหายแก่งานหรือเป็นงานฉุกเฉิน นายจ้างอาจให้ ลกู จ้างทางานลว่ งเวลาในช่วงเวลา ลูกจ้างทางานล่วงเวลา หรือทางานในวันหยุดเท่าที่ ............................................................. จาเปน็ กไ็ ด้ -เวลาพกั กอ่ นทางานล่วงเวลา 2) ในกรณีที่มีการทางานล่วงเวลาต่อจากเวลาทางานปกติ มี ไม่น้อยกว่าสองช่ัวโมง นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างมเี วลา ไมม่ ี พกั ไมน่ อ้ ยกวา่ ย่ีสบิ นาทกี ่อนที่ลกู จา้ งเรม่ิ ทางานลว่ งเวลา (ยกเว้นงานท่ีมีลักษณะหรือสภาพของงานต้องทา ติดต่อกันไป โดยได้รับความยินยอมจากลกู จ้างหรือเป็น งานฉุกเฉนิ ) 59
สวสั ดิการ หลกั การและสาระสาคัญ ผลการสมั ภาษณ์ ค่าล่วงเวลา 1) ถ้าทางานเกินเวลาทางานปกติของวันทางาน นายจ้าง -ความถี่ของการทางานลว่ งเวลา ค่าทางานใน ต้องจ่ายค่าล่วงเวลาไม่น้อยกว่าหน่ึงเท่าคร่ึงของอัตรา ทุกวนั วนั หยดุ และ ค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทางานตามจานวนชั่วโมงท่ีทา ทุกสปั ดาห์ (สัปดาห์ละ 1-4 วนั ) ค่าล่วงเวลา หรือไมน่ ้อยกว่าหนงึ่ เทา่ คร่งึ ของอตั ราค่าจ้างตอ่ หนว่ ยใน ทุกเดอื น (เดือนละ 1 วนั ขึ้นไป) ในวันหยดุ วันทางาน ตามจานวนผลงานท่ีทาได้สาหรับลูกจ้างท่ี -อัตราคา่ จา้ งในการทางานลว่ งเวลา ได้รับค่าจา้ งตามผลงาน ................................................... 2) ถ้าทางานในวันหยุดเกินเวลาทางานปกติของวันทางาน -ความถ่ีในการทางานล่วงเวลาใน นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างใน วันหยุด อัตราสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทางาน ทุกสัปดาห์ ตามจานวนช่ัวโมงท่ีทา หรือตามจานวนผลงานท่ีทาได้ ทกุ เดือน (เดือนละ 1 วันขนึ้ ไป) สาหรบั ลกู จ้างทไี่ ด้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคานวณเป็น -อัตราค่าจา้ งในการทางานลว่ งเวลาใน หน่วย วันหยดุ ................................................. 3) ถ้าทางานในวันหยุดในเวลาทางานปกติ นายจ้างต้อง -ความถี่ในการทางานในวันหยุด จ่ายค่าทางานในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างท่ีมีสิทธิได้รับ ทุกสัปดาห์ ค่าจ้างในวันหยุดเพ่ิมขึ้นอีก 1 เท่าของค่าจ้างในวัน ทกุ เดือน (เดือนละ 1 วนั ขึน้ ไป) ทางานตามช่ัวโมงที่ทางานในวันหยุด หรือตามจานวน -อัตราค่าจ้างในการทางานในวนั หยุด ผลงานท่ีทาได้สาหรับลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างตามผลงาน ............................................................. โดยคานวณเป็นหน่วย ส่วนลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิได้รับ ค่าจ้างในวันหยุดต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 2 เท่า ของค่าจา้ ง ในวันทางานตามชั่วโมงท่ีทางานในวันหยุด หรือตาม จานวนผลงานที่ทาได้สาหรับลูกจ้างท่ีได้รับค่าจ้างตาม ผลงานโดยคานวณเปน็ หน่วย ค่าชดเชย ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชย หากนายจ้างเลิกจ้างโดย -ในรอบปี 2561 มีลูกจา้ งได้รบั ลกู จ้างไมม่ ีความผดิ ดงั นี้ คา่ ชดเชย จานวน………….คน 1) ลูกจ้างซึ่งทางานติดต่อกนั ครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 -สาเหตกุ ารเกิดสทิ ธไิ ด้รับคา่ ชดเชย ปี มสี ิทธไิ ด้รับค่าชดเชยเทา่ กับค่าจ้างอตั ราสดุ ท้าย 30 ถูกเลิกจา้ ง วนั เกษยี ณอายุ 2) ลูกจ้างซ่งึ ทางานติดต่อกันครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี มี อน่ื ๆ............................................... สทิ ธิไดร้ ับค่าชดเชยเทา่ กับค่าจา้ งอตั ราสุดท้าย 90 วัน 60
สวัสดกิ าร หลกั การและสาระสาคัญ ผลการสมั ภาษณ์ 3) ลูกจ้างซ่ึงทางานติดต่อกันครบ 3 ปีแต่ไม่ครบ 6 ปี มี สิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน 4) ลูกจ้างซึ่งทางานติดต่อกันครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเทา่ กับอัตราค่าจ้างสุดทา้ ย 240 วนั 5) ลูกจ้างซึ่งทางานติดต่อกันครบ 10 ปีขึ้นไป มีสิทธิ ไดร้ บั ค่าชดเชยเท่ากบั คา่ จ้างอตั ราสุดท้าย 300 วนั ในกรณีท่ีนายจ้างจะเลิกจ้างลูกจ้างเพราะเหตุปรับปรุง หน่วยงาน กระบวนการผลิต การจาหน่าย หรือการบรกิ าร อันเนื่องมาจากการนาเครื่องจักรมาใช้ หรือเปล่ียนแปลง เคร่ืองจักรหรือเทคโนโลยี ซ่ึงเป็นเหตุให้ต้องลดจานวน ลูกจ้างลง นายจ้างต้องแจ้งวันท่ีจะเลิกจ้าง เหตุผลของ การเลิกจ้าง และรายช่ือลูกจ้างท่ีจะถูกเลิกจ้างให้ลูกจา้ ง และพนักงานตรวจแรงงานทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าหก สิบวันกอ่ นวันทจ่ี ะเลิกจา้ ง ถา้ ไมแ่ จง้ แก่ลกู จ้างทจี่ ะเลิกจ้าง ทราบล่วงหน้า หรือแจ้งล่วงหน้าน้อยกว่าระยะเวลาหกสบิ วัน นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยพิเศษแทนการบอกกล่าว ล่วงหน้าแก่ลูกจ้างเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้ายหกสิบวัน หรือเท่ากับค่าจ้างของการทางานหกสิบวันสดุ ท้าย สาหรับ ลูกจ้างซ่ึงได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคานวณเป็นหน่วย ค่าชดเชยแทนการบอกกล่าวล่วงหน้านี้ให้ถือว่านายจ้างได้ จา่ ยคา่ สนิ จา้ งแทนการบอกกล่าวล่วงหนา้ ตามกฎหมายด้วย ในกรณีข้างต้น นายจ้างต้องจา่ ยคา่ ชดเชยพเิ ศษเพมิ่ ขนึ้ จาก ค่าชดเชยปกตดิ งั ต่อไปน้ี 1) ลูกจ้างทางานติดต่อกันครบหกปีข้ึนไป นายจ้าง จะต้องจ่ายค่าชดเชยพิเศษเพ่ิมขึ้นจากค่าชดเชยปกติ ซึ่งลูกจ้างน้ันมีสิทธิได้รับอยู่แล้ว ไม่น้อยกว่าค่าจ้าง อั ต ร า สุ ด ท้ า ย สิ บ ห้ า วั น ต่ อ ก า ร ท า ง า น ค ร บ ห นึ่ ง ปี หรือไม่นอ้ ยกว่าคา่ จ้างของการทางานสบิ หา้ วนั สดุ ทา้ ย ต่อการทางานครบหนง่ึ ปีสาหรบั ลกู จา้ งซ่ึงไดร้ บั คา่ จ้าง ตามผลงานโดยคานวณเปน็ หน่วย 61
สวัสดกิ าร หลกั การและสาระสาคญั ผลการสัมภาษณ์ 2) ค่าชดเชยพิเศษนี้รวมแล้วต้องไม่เกินค่าจ้างอัตรา สุดท้ายสามร้อยหกสิบวัน หรือไม่เกินค่าจ้างของการ ทางานสามร้อยหกสิบวันสุดท้าย สาหรับลูกจ้างซึ่ง ได้รับค่าจา้ งตามผลงานโดยคานวณเปน็ หนว่ ย แตร่ วม แล้วตอ้ งไมเ่ กนิ ค่าจ้างอัตราสดุ ทา้ ยสามรอ้ ยหกสบิ วนั 3) เพ่ือประโยชน์ในการคานวณค่าชดเชยพิเศษ เศษของ ระยะเวลาทางานท่ีมากกว่าหน่ึงร้อยแปดสิบวัน ให้ นบั เปน็ การทางานครบหนึ่งปี ในกรณีที่นายจ้างย้ายสถานประกอบกิจการไปต้ัง ณ สถานท่ีอ่ืนอันมีผลกระทบสาคัญต่อการดารงชีวิตตามปกติ ของลูกจ้างหรือครอบครัว นายจ้างต้องแจ้งล่วงหน้าให้แก่ ลูกจ้างทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามสิบวันก่อนย้าย ถ้า ลูกจ้างไม่ประสงค์จะไปทางานด้วย ลูกจ้างมีสิทธิบอกเลิก สญั ญาจ้างได้โดยไดร้ บั ค่าชดเชยพเิ ศษไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละห้า สิบของอัตราค่าชดเชยปกติท่ีลูกจ้างพึงมีสิทธิได้รับ ถ้า นายจ้างไม่แจ้งให้ลูกจ้างทราบการย้ายสถานประกอบ กิจการล่วงหน้า นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยพิเศษแทนการ บอกกลา่ วลว่ งหน้าเทา่ กบั คา่ จ้างอัตราสุดท้ายสามสิบวัน ข้อยกเวน้ ท่นี ายจา้ งไมต่ อ้ งจ่ายค่าชดเชย ลูกจา้ งไม่มีสทิ ธิ ไดร้ บั ค่าชดเชยในกรณใี ดกรณีหนงึ่ ดังนี้ 1) ลูกจา้ งลาออกเอง 2) ทุจริตตอ่ หนา้ ทหี่ รอื กระทาความผิดอาญาโดยเจตนา แกน่ ายจา้ ง 3) จงใจทาใหน้ ายจ้างไดร้ บั ความเสียหาย 4) ประมาทเลินเลอ่ เป็นเหตใุ ห้นายจ้างไดร้ บั ความ เสียหายอย่างรา้ ยแรง 5) ฝา่ ฝนื ข้อบงั คับเก่ียวกบั การทางาน หรือระเบยี บ หรือ คาสั่งของนายจ้างอนั ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตกั เตือนเปน็ หนงั สือแล้ว เวน้ แตก่ รณีที่ ร้ายแรง นายจ้างไม่จาเป็นต้องตักเตือน ซ่ึงหนังสือ 62
สวสั ดิการ หลกั การและสาระสาคัญ ผลการสัมภาษณ์ เตอื นน้นั ใหม้ ีผลบังคบั ได้ไมเ่ กนิ 1 ปี นบั แต่วนั ที่ลูกจา้ ง ได้กระทาผดิ 6) ละท้ิงหนา้ ท่เี ปน็ เวลา 3 วันทางานตดิ ต่อกัน ไมว่ า่ จะมี วันหยดุ ค่นั หรอื ไมก่ ็ตาม โดยไม่มีเหตอุ ันสมควร 7) ไดร้ ับโทษจาคุกตามคาพพิ ากษาถงึ ทส่ี ุดใหจ้ าคุก 8) กรณีการจ้างท่ีมีกาหนดระยะเวลาการจา้ งไว้แน่นอน และนายจ้างเลิกจ้างตามกาหนดระยะเวลาน้ันได้แก่ งานต่อไปน้ี 8.1) การจ้างงานในโครงการเฉพาะท่ีมิใช่งานปกติ ของธุรกิจหรือการค้าของนายจ้างซึ่งต้องมี ระยะเวลาเรม่ิ ตน้ และสิน้ สุดของงานทแี่ นน่ อน 8.2) งานอันมีลักษณะเป็นคร้ังคราว ที่มีกาหนดงาน สนิ้ สุดหรอื ความสาเรจ็ ของงาน 8.3) งานที่เป็นไปตามฤดูกาล และได้จ้างในช่วงเวลา ของฤดูกาลนั้น ซ่ึงจะต้องแล้วเสร็จภายในเวลา ไมเ่ กนิ 2 ปี โดยนายจ้างไดท้ าสญั ญาเปน็ หนังสอื ไว้ต้งั แตเ่ ม่อื เริม่ จ้าง การใช้ หา้ มนายจ้างใหล้ กู จ้างหญิงทางานตอ่ ไปน้ี -ลักษณะงานทเี่ ป็นอันตรายแกล่ กู จา้ ง แรงงานหญงิ 1) งานเหมืองแร่หรืองานก่อสร้างที่ต้องทาใต้ดิน ใต้น้า หญงิ ในถ้า ในอุโมงค์ หรือปล่องในภูเขา เว้นแต่ลักษณะ .............................................................. ของงานไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกายของ (หากไม่มีใหร้ ะบุวา่ “ไม่มี”) ลกู จา้ ง -ในปี 2561 มีลูกจา้ งหญงิ ทม่ี คี รรภ์ 2) งานทตี่ ้องทาบนน่งั ร้านทส่ี งู กวา่ พนื้ ดินตั้งแต่ 10 เมตร และ/หรอื คลอดบตุ ร.....................คน ขนึ้ ไป -ปญั หาการทางานของลกู จา้ งหญงิ ทมี่ ี 3) งานผลติ หรอื ขนสง่ วัตถุระเบดิ หรือวัตถุไวไฟ เวน้ แต่ ครรภ์ สภาพของการทางานไมเ่ ป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพหรือ 1…………………………………………………… รา่ งกายของลกู จ้าง 2…………………………………………………… 4) งานอน่ื ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง 3…………………………………………………… 4…………………………………………………… 5…………………………………………………… 63
สวัสดิการ หลักการและสาระสาคัญ ผลการสมั ภาษณ์ การใช้ ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างหญิงที่มีครรภ์ทางานในระหว่าง แรงงานเด็ก เวลา 22.00-06.00 น. ทางานล่วงเวลา ทางานในวันหยุด หากในกรณีท่ีลูกจ้างซ่ึงเป็นหญงิ มีครรภ์ทางานในตาแหน่ง ผู้บริหาร งานวิชาการ งานธุรการ หรืองานเกี่ยวกับการเงนิ หรือบัญชี นายจ้างอาจให้ลูกจ้างน้ันทางานล่วงเวลาในวัน ทางานได้ เท่าทไี่ มม่ ผี ลกระทบต่อสขุ ภาพของลกู จ้างซ่ึงเป็น หญงิ มคี รรภ์โดยไดร้ ับความยนิ ยอมจากลกู จ้างก่อน ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างซ่ึงเป็นหญิงมีครรภ์ทางานอย่าง ลักษณะงานทเี่ ป็นอันตรายแกล่ ูกจา้ ง หน่ึงอยา่ งใด ดังต่อไปน้ี หญงิ มคี รรภ์ 1) งานเกี่ยวกับเคร่ืองจักรหรือเครื่องยนต์ท่ีมีความ .............................................................. สั่นสะเทอื น (หากไม่มีให้ระบุวา่ “ไมม่ ี”) 2) งานขบั เคลอื่ นหรือติดไปกบั ยานพาหนะ 3) งานยก แบก หาม หาบ ทูน ลาก หรือเข็นของหนัก เกิน 15 กิโลกรัม 4) งานท่ีทาในเรอื 5) งานอืน่ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง หา้ มนายจ้างจ้างเด็กอายตุ า่ กวา่ 15 ปี เป็นลกู จ้าง -ลูกจา้ งที่มอี ายตุ า่ สดุ ..........................ปี กรณที ่ีมกี ารจ้างเดก็ อายตุ ่ากว่า 18 ปีเปน็ ลูกจา้ ง นายจ้าง -ลูกจา้ งทมี่ อี ายุสูงสดุ ......................... ปี ต้องแจ้งต่อพนกั งานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน นบั แตว่ ันที่ -จานวนลูกจ้างที่มีอายุต่ากว่า 18 ปี เด็กเข้าทางาน และแจ้งการส้ินสุดการจ้างเด็กน้ันต่อ ..............คน พนักงานตรวจแรงงานภายใน 7 วัน นับแต่วนั ทเี่ ดก็ ออกจาก -เวลาทางานปกตขิ องลกู จ้างที่มอี ายตุ ่า งาน กว่า 18 ปี (ระบุเป็นชว่ งเวลา เช่น นายจ้างต้องจัดให้มีเวลาพัก 1 ช่ัวโมงต่อวัน ภายใน 4 8.00-16.00 น.) ชั่วโมงแรกของการทางาน และให้มีเวลาพักผ่อนได้ตามที่ ........................................................ -เวลาทางานปกตขิ องลูกจ้างที่มอี ายตุ า่ นายจา้ งกาหนด กว่า 18 ปี (ระบุเป็นชว่ งเวลา เชน่ หา้ มนายจ้างใชล้ กู จ้างเด็กทม่ี อี ายตุ ่ากวา่ 18 ปี ทางานใน 8.00-16.00 น.) ระหว่างเวลา 22.00-06.00 น. เว้นแต่ได้รับอนุญาตจาก ........................................................ อธิบดี -เวลาพกั ของลกู จา้ งทมี่ อี ายุตา่ กวา่ 18 ปี (ระบุเป็นช่วงเวลา เช่น 12.00- ห้ามนายจ้างใช้ลูกจ้างเด็กที่มีอายุต่ากว่า 18 ปี ทางาน ล่วงเวลา หรือทางานในวนั หยดุ 64
สวสั ดิการ หลักการและสาระสาคัญ ผลการสัมภาษณ์ 13.00 น.) ........................................................ ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างเด็กท่ีมีอายุต่ากว่า 18 ปี ทางาน ลักษณะงานอนั ตราย ต่อไปนี้ .............................................................. 1) งานหลอม เป่า หลอ่ หรอื รดี โลหะ (หากไมม่ ใี หร้ ะบวุ ่า “ไม่มี”) 2) สถานทเ่ี ลน่ การพนัน 3) สถานที่เตน้ รา ราวง หรอื รองเงง็ 4) สถานที่ท่ีมีอาหาร สุรา น้าชา หรือเครอื่ งดื่มอย่างอื่น จาหน่ายและบริการ โดยมีผู้บาเรอสาหรับปรนนิบัติ หรือโดยมีที่สาหรับพักผ่อนหลับนอน หรือมีบริการ นวดให้แกล่ กู ค้า 5) สถานทอ่ี ่ืนตามท่กี าหนดในกฎกระทรวง - งานซงึ่ ทาในทท่ี มี่ ีอณุ หภมู สิ ูงกว่า 45 องศาเซลเซยี ส - งานซึ่งทาในห้องเย็นในอุตสาหกรรมการผลิตหรือ การถนอมอาหารโดยการทาเยือกแข็ง - งานทใ่ี ช้เคร่อื งเจาะกระแทก - งานที่มีระดับเสยี งท่ีลกู จ้างได้รบั ติดต่อกัน 8 ช่ัวโมง ตอ่ วัน เกิน 85 เดซิเบลเอ - งานผลติ หรือขนส่งสารกอ่ มะเร็ง - งานผลิตหรือขนสง่ พลุดอกไม้เพลงิ หรอื วัตถุระเบิด อ่ืนๆ - งานสารวจ ขุดเจาะ กลั่น บรรจุ หรือขนถ่ายน้ามัน เช้ือเพลิงหรือก๊าซ เว้นแต่งานในสถานีบริการน้ามัน เชือ้ เพลิง - งานที่ทาในหอ้ งปฏิบัติการชนั สูตรโรค - งานดูแลผู้ท่ีป่วยด้วยโรคติดต่อตามกฎหมายว่าด้วย โรคตดิ ต่อ - งานทาความสะอาดเครื่องใช้และเครื่องนุ่งห่มผ้ปู ่วย ในสถานพยาบาล - งานเก็บ ขน กาจัดมูลฝอยหรือส่ิงปฏิกูลใน สถานพยาบาล - งานบังคบั รถยกหรอื ปั้นจัน่ 65
สวสั ดกิ าร หลักการและสาระสาคัญ ผลการสัมภาษณ์ - งานเกยี่ วกับกมั มันตภาพรังสที กุ ชนิด หา้ มนายจ้างจ่ายคา่ จ้างของลูกจ้างซงึ่ เปน็ เดก็ แกบ่ ุคคล อ่ืน ห้ามนายจ้างเรียก/หรอื รับเงนิ ประกนั จากฝ่ายลกู จ้างซ่งึ เป็นเดก็ ลกู จา้ ง เด็กอายุต่ากว่า 18 ปี มีสิทธิลาเพื่อเข้าประชุม สัมมนา -ในรอบปี 2561 มีลกู จ้างอายตุ ่ากว่า รับการอบรม รับการฝึก หรือลาเพ่ือการอ่ืน ซ่ึงจัดโดย 18 ปลี าเพื่อประชมุ อบรม สมั มนาฯ สถานศึกษา หรือหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่อธิบดี จานวน………….คน เห็นชอบ และให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้างเด็กเท่ากับ -การจา่ ยค่าจ้างระหว่างลาเพ่อื ประชุม ค่าจ้างในวันทางานตลอดระยะเวลาท่ีลา แต่ปีหน่ึงต้องไม่ อบรม สัมมนาฯ เกนิ 30 วัน จา่ ย ไมจ่ ่าย สวสั ดกิ ารใน 1) น้าสะอาดสาหรับด่ืมไม่น้อยกว่าหนึ่งที่สาหรับลูกจ้างไม่ จานวนจุดบรกิ ารน้าดมื่ ทท่ี างาน เกินสี่สิบคน และเพ่ิมขึ้นในอัตราส่วนหนึ่งที่สาหรับลูกจ้าง ...................................... ทุกๆ ส่สี ิบคน เศษของสีส่ บิ คนถา้ เกินยี่สบิ คนให้ถือเปน็ สี่สิบ (ถ่ายภาพประกอบ) คน 2) ห้องน้าและห้องส้วมตามแบบและจานวนที่กาหนดใน -ห้องน้าห้องสว้ มสาหรบั ลูกจ้างชาย กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารและกฎหมายอ่ืนที่ จานวน………………………หอ้ ง เกีย่ วข้อง และมกี ารดแู ลรกั ษาความสะอาดให้อยู่ในสภาพท่ี -ห้องนา้ หอ้ งสว้ มสาหรบั ลูกจ้างหญงิ ถูกสุขลักษณะเป็นประจาทุกวัน ให้นายจ้างจัดให้มีห้องน้า จานวน………………………หอ้ ง และหอ้ งสว้ มแยกสาหรบั ลกู จา้ งชายและลกู จ้างหญิง และใน -หอ้ งน้าห้องส้วมสาหรบั ลกู จ้างพกิ าร กรณีที่มีลูกจ้างที่เป็นคนพิการ ให้นายจ้างจัดให้มีห้องน้า จานวน………………………หอ้ ง และห้องสว้ มสาหรับคนพกิ ารแยกไวโ้ ดยเฉพาะ (ถ่ายภาพประกอบ) -ลกู จ้างพกิ าร...................................คน การปฐม 1) สถานที่ทางานท่ีมีลูกจ้างทางานต้ังแต่สิบคนข้ึนไป -จานวนเวชภณั ฑ์และยาเพอ่ื ใชใ้ นการ พยาบาล นายจ้างต้องจัดให้มีเวชภัณฑ์และยาเพ่ือใช้ในการปฐม ปฐมพยาบาล...................................จดุ และการ รกั ษาพยา พยาบาลในจานวนท่ีเพียงพอ อย่างน้อยตามรายการท่ี -จานวนห้องพยาบาล....................ห้อง บาล -จานวนเตียงพยาบาล...................เตยี ง กาหนดในกฎกระทรวงฯ (ถา่ ยภาพประกอบ) 2) สถานที่ทางานท่ีมีลูกจ้างทางานในขณะเดียวกันต้ังแต่ สองร้อยคนขนึ้ ไป ตอ้ งจัดให้มี ก. เวชภณั ฑแ์ ละยาเพื่อใชใ้ นการปฐมพยาบาลตาม 1) 66
สวสั ดกิ าร หลักการและสาระสาคัญ ผลการสัมภาษณ์ การควบคุม ข. ห้องรักษาพยาบาลพร้อมเตียงพักคนไข้อย่างน้อย หนึ่งเตียง เวชภัณฑ์ และยานอกจากท่ีระบุไว้ใน 1) ตามความจาเป็นและเพียงพอแก่การรักษาพยาบาล เบือ้ งต้น ค. พยาบาลตัง้ แตร่ ะดับพยาบาลเทคนิคข้ึนไปไว้ประจา อยา่ งน้อยหนงึ่ คนตลอดเวลาทางาน ง. แพทย์แผนปัจจุบันชั้นหน่ึงอย่างน้อยหนึ่งคน เพ่ือ ตรวจรักษาพยาบาลไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละสองคร้ัง และเมื่อรวมเวลาแล้วต้องไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละหก ชั่วโมงในเวลาทางาน 3) สถานที่ทางานทมี่ ลี กู จา้ งทางานในขณะเดียวกันตง้ั แต่ หนง่ึ พนั คนขน้ึ ไป ตอ้ งจัดให้มี (ก) เวชภณั ฑ์และยาเพอื่ ใช้ในการปฐมพยาบาลตาม 1) (ข) ห้องรักษาพยาบาลพร้อมเตียงพักคนไข้อย่างน้อย หน่ึงเตียง เวชภัณฑ์และยานอกจากที่ระบุไว้ใน 1) ตามความจาเป็นและเพียงพอแกก่ ารรักษาพยาบาล เบอ้ื งตน้ (ค) พยาบาลตั้งแตร่ ะดับพยาบาลเทคนิคข้ึนไปไว้ประจา อยา่ งน้อยสองคนตลอดเวลาทางาน (ง) แพทย์แผนปัจจุบันช้ันหน่ึงอย่างน้อยหนึ่งคน เพื่อ ตรวจรักษาพยาบาลไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละสองครั้ง และเม่ือรวมเวลาแล้วต้องไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละหก ช่ัวโมงในเวลาทางาน จ) ยานพาหนะซ่ึงพร้อมทจ่ี ะนาลกู จา้ งสง่ สถานพยาบาล เพอื่ ใหก้ ารรักษาพยาบาลได้โดยพลัน 1) นายจ้างที่มีลูกจ้างรวมกันต้ังแต่ 10 คนขึ้นไป จะต้อง ข้อบังคบั เก่ยี วกบั การทางานทสี่ ถาน จัดทาขอ้ บงั คับเกีย่ วกับการทางานเป็นภาษาไทย อย่างน้อย ประกอบการประกาศใช้ล่าสดุ (ระบุ ต้องมีรายละเอยี ดดังน้ี วนั ท่ี/เดอื น/ป)ี - วนั ทางาน เวลาทางานปกติ และเวลาพัก .............................................................. - วนั หยดุ และหลกั เกณฑก์ ารหยุด (ถ่ายภาพสารบญั ของเอกสารประกอบ) - หลักเกณฑ์การทางานล่วงเวลา และการทางานใน วนั หยดุ 67
สวสั ดิการ หลักการและสาระสาคญั ผลการสัมภาษณ์ - วันและสถานที่จ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานใน วนั หยดุ และคา่ ลว่ งเวลาในวนั หยุด - วนั ลาและหลกั เกณฑ์การลา - วินยั และโทษทางวินยั - การรอ้ งทุกข์ - การเลกิ จ้าง ค่าชดเชยและชดเชยพเิ ศษ 2) นายจ้างต้องประกาศใช้ข้อบังคับเก่ียวกับการทางาน ภายใน 15 วนั นบั จากวนั ทมี่ ีลูกจา้ งรวมกนั ต้งั แต่ 10 คนขนึ้ ไป 3) นายจา้ งต้องปิดประกาศข้อบงั คับเก่ยี วกับการทางานโดย เปดิ เผย ณ สถานท่ี ทางานของลกู จ้าง 4) ให้ประกาศใช้ข้อบังคับเกี่ยวกับการทางานต่อไปแม้ว่า นายจา้ งจะมลี กู จ้างลดตา่ กว่า 10 คนก็ตาม สวสั ดกิ ารท่จี ัดใหพ้ นกั งานนอกเหนือจากทก่ี ฎหมายกาหนด (เชน่ ชุดยูนิฟอรม์ , อาหารกลางวัน, รถรับส่ง ฯลฯ) 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5…………………………………………………………………………………………………………………………………………… กิจกรรมน้ีเปน็ ส่วนหน่ึงของการจัดการเรียนการสอนรายวิชา 441-222/441-423 การจัดสวสั ดกิ าร และการประกนั สงั คม คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขต ปัตตานี ผู้สอน: ดร.กนั ยปริณ ทองสามสี โทร.083-5122640 /email: [email protected] 68
ภาคผนวก 2 ตวั อยา่ งแบบทดสอบออนไลน์ 69
ภาคผนวก 3 กิจกรรมเสริมหลกั สูตรโครงการ “การพัฒนาทักษะการทาธุรกิจ สปาฮาลาลเพื่อ เตรียมพรอ้ มสู่อาชีพ” 70
สรุปโครงการ “การพฒั นาทกั ษะการทาธรุ กิจ สปาฮาลาลเพ่อื เตรียมพรอ้ มสูอ่ าชพี ” วนั ท่ี 14 พฤศจิกายน 2561 ระหวา่ งเวลา 13.00-17.30 น. ณ ห้องมะเด่ือ ชั้น 2 คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ ปจั จุบันตลาดฮาลาล มกี ารขยายตวั อย่างรวดเรว็ เนื่องจากประเทศไทยเปน็ ประเทศท่ีมคี วาม พร้อมเออื้ อานวยต่อความหลากหลายทางชีวภาพประกอบกับภูมปิ ญั ญาทางการแพทย์แผนไทยเป็น หนึ่งในประเทศท่ีเป็นเป้าหมายการท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ เพ่ือการบริการด้านสปา รวมไปถึงกลุ่ม ประเทศมสุ ลิมโดยเฉพาะมาเลเซยี อินโดนีเซียและอินเดยี ได้ให้ความสาคัญกับหลักศาสนบัญญัตใิ น การท่ีผลติ ภัณฑท์ ่ีใชต้ อ้ งได้รบั การอนุมัติ (Halal) และภาคใตข้ องประเทศไทยยังมีโอกาสและศักยภาพ เพียงพอต่อการรองรับการขยายตัวของธุรกิจสปาเนื่องจากมีนักท่องเที่ยว ท้ังชาวไทย มาเลเซีย อินโดนเี ซีย ทม่ี งุ่ เดนิ ทางท่องเทย่ี วเพื่อสขุ ภาพมากขน้ึ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เห็นว่าการเตรียมความพร้อมสาหรับนักศึกษาท่ีเข้าสู่ ตลาดงานท้ังในฐานะพนักงานและผู้ประกอบการมีความจาเป็น จึงจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เร่ือง การพัฒนาทักษะการทาธุรกิจสปาฮาลาลเพื่อเตรียมพร้อมสู่อาชีพ โดยผู้รับผิดชอบหลักคือ ดร.กันยปรนิ ทองสามสี คณาจารย์และนกั ศึกษาหลกั สูตรบริหารธรุ กิจบัณฑิตทร่ี บั ผิดชอบในรายวิชา สัมมนาทางการจัดการ ประจาภาคการศึกษา 1/2561 โครงการ “การพฒั นาทกั ษะการทาธุรกจิ สปาฮาลาลเพ่อื เตรยี มพร้อมสอู่ าชีพ” เป็นโครงการ พัฒนานักศึกษาที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ปีงบประมาณ 2562 มีเป้าหมายรับผู้เข้าอบรม 50 คน เม่ือได้มีการประชาสัมพันธ์โครงการหลายช่องทางไปยัง นักศึกษาท่ีสนใจทาธุรกิจด้านสปาเพ่ือความงาม ผู้สนใจเข้าอบรมคร้ังน้ีเป็นนักศึกษาสังกัดคณะ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จานวน 37 คน คณะวิทยาลัยอิสลามศึกษา จานวน 10 คน คณะ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จานวน 3 คน ซึ่งทกุ คนเปน็ นักศกึ ษามุสลิม การจัดโครงการคร้ังน้ีเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษากับสถาน ประกอบการคือบรษิ ทั โกลเด้นเฮิรบ์ บอดแี้ คร์ จากดั ในการให้ความรแู้ ละถ่ายทอดประสบการณจ์ รงิ ใน การทาธุรกิจสปา เพ่ือให้นักศึกษาที่สนใจสามารถดาเนินธุรกิจได้เองในระหว่างกาลังศึกษา กระบวนการฝกึ อบรมจะเนน้ การปฏบิ ตั กิ าร โดยวทิ ยากรสาธิตวิธกี ารสปาหน้า จากนั้นผู้เขา้ อบรมตอ้ ง ฝึกปฏิบตั ิการตามคาแนะนาของวิทยากรทุกคน ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการจงึ ได้จดั เตรียมอปุ กรณส์ าหรบั ผู้ เข้าอบรมอย่างเพียงพอ วิทยากรท่ีทาหน้าทถ่ี ่ายทอดประสบการณ์การทาธุรกิจสปาฮาลาล และฝกึ ทักษะการนวดหน้า/ขัดหน้าเพ่ือความ คือคุณซูรีน่า กากะ เจ้าของศูนย์ความงามโกลเด้นเฮริ ์บบอดี้ แคร์ จากัด สาขาปัตตานี และคุณกามีละห์ สาและ พนักงานประจาบริษัทโกลเด้นเฮิร์บบอดี้แคร์ จากดั 71
การประเมนิ ผลกิจกรรมกระทาทัง้ ระหวา่ งและสิน้ สดุ การจัดกจิ กรรม การประเมินผลระหวา่ ง การจัดกจิ กรรมเป็นการประเมนิ รว่ มกนั ระหวา่ งวทิ ยากรและผจู้ ดั โครงการ หากนักศึกษาไม่เข้าใจหรือ ปฏิบัติไม่ถูกต้อง วิทยากร 2 คน และผู้ช่วยวิทยากร 1 คน จะไปให้คาแนะนาอย่างใกล้ชิด และสอน การทาสปาแบบตัวต่อตัว ทาให้นักศึกษาที่เข้าอบรมทุกคนได้ลงมือปฏิบัติตามข้ันตอนอย่างถูกต้อง ส่วนการประเมินผลเม่ือส้ินสุดโครงการ ผู้จัดกิจกรรมได้จัดทาแบบประเมินความพึงพอใจให้ผู้เข้า อบรมตอบ ซงึ่ มผี ู้ตอบแบบประเมนิ 31 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 62 ใชเ้ กณฑเ์ ฉลย่ี การแปลผลดังน้ี 4.21 - 5.00 พึงพอใจมากทส่ี ดุ 3.41 - 4.20 พึงพอใจมาก 2.61 - 3.40 พงึ พอใจปานกลาง 1.81 - 2.60 พึงพอใจนอ้ ย 1.00 - 1.80 พงึ พอใจนอ้ ยทส่ี ดุ ผูเ้ ขา้ รับการอบรมประเมนิ ความพึงพอใจในภาพรวมของโครงการเทา่ กบั 4.35 ซึ่งอยู่ในระดบั มากที่สุด ขณะที่ความพึงพอใจต่อวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้และความน่าสนใจของกิจกรรมมี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.42 อยู่ในระดับมากท่ีสุดเช่นกัน ส่วนข้อเสนอแนะของผู้เข้าอบรมคือต้องการใหม้ ี การจัดโครงการนี้อกี โดยใช้เวลาฝกึ อบรมมากขน้ึ ผลลัพธ์ที่ได้จากการจัดโครงการคร้ังนี้ทาใหส้ ถานประกอบการด้านความงามคือ บรษิ ทั โกล เดน้ เฮริ ์บบอดแี้ คร์ จากัด ในสว่ นของสานักงานใหญ่ (โดยการตดิ ตอ่ ให้ข้อมลู ของวิทยากรซงึ่ เปน็ พนกั งานบรษิ ัท) แสดงความสนใจจดั กจิ กรรมอบรมใหน้ กั ศึกษาในปีถัดไป ทางบรษิ ัทจะสนับสนนุ เคร่อื งสาอางและวทิ ยากรฝึกอบรมซ่ึงทางตัวแทนของบริษทั ได้แนะนาการเรมิ่ ธุรกจิ ของนักศกึ ษาว่า สามารถทาไดเ้ ลยโดยจัดซื้ออปุ กรณส์ ปาหนา้ แบบพกพา เพอื่ ไปให้บรกิ ารลกู ค้าทหี่ อพกั บา้ นพัก หรือ ในชุมชน เมือ่ นักศกึ ษามปี ระสบการณม์ ากข้ึนและมีแหลง่ สนบั สนนุ เงนิ ทุนกส็ ามารถลงทนุ เปิดร้านส ปาได้ เพราะในปจั จบุ นั ธุรกจิ นี้กาลังขยายตัว ปัญหา/อุปสรรคที่พบระหว่างการฝึกอบรมคือ จัดกิจกรรมอบรมวันพุธบา่ ย (13.00-16.00) ซ่ึงเป็นช่วงเวลาสาหรับการทากิจกรรมของนักศกึ ษา หากแต่การอบรมต้องใช้เวลามากกวา่ 3 ชั่วโมง ทาให้นักศึกษาบางสว่ นเข้าอบรมได้ถึงเวลา 16.00 น. เท่าน้ัน เพราะมีชั่วโมงเรียนในช่วงเย็น ดังนั้น การจัดกิจกรรมท้ังต่อไปควรเป็นวันหยุดของนักศึกษา เพ่ือนักศึกษาจะได้มีเวลาเข้าอบรมเต็มท่ี นอกจากนี้ มีนกั ศกึ ษาผู้ชายทใี่ หค้ วามสนใจเขา้ อบรมโครงการดงั กลา่ วดว้ ย แตเ่ น่อื งดว้ ยในการทาสปา หน้านักศึกษาผู้หญิงต้องถอดผ้าคลุมผม ซึ่งการถอดผ้าคลุมผมขณะทมี่ ีผชู้ ายอยู่ด้วยไมส่ อดคล้องกับ ความเชอ่ื ทางศาสนา การจดั อบรมวันดังกลา่ วจงึ ต้องจัดสถานที่แยกสาหรับนักศกึ ษาผู้ชาย ทาใหไ้ ม่มี ความสะดวก ดังน้ันการฝึกอบรมครั้งต่อไปควรรับนักศึกษาเพียงเพศเดียว เพ่ือความสะดวกในการ ปฏิบตั กิ ารฝกึ อบรม 72
73
74
75
ภาคผนวก 4 ผลงานวจิ ัยที่ไดร้ บั การตพี มิ พเ์ ผยแพร่ Tongsamsi, I. & Tongsamsi, K. (2019). What explains variation in property crimes rates across Thailand provinces? Humanities, Arts and Social Sciences Studies. 19(1), 283-299. (ACI) Tongsamsi, K. & Tongsamsi, I. (2018). Domestic violence resulting from alcohol use: An analysis of reports from Thai daily newspapers during 2006-2015. NIDA Development Journal. 58(2), 148-167. (ACI) Tongsamsi, K. & Tongsamsi, I. (2017). Instrument development for assessing knowledge management of quality assurers in Rajabhat Universities, Thailand. Kasetsart Journal of Social Sciences. 38(2), 111-116. (SCOPUS) Tongsamsi, I. & Tongsamsi, K. (2016). Causal relation of academic misconduct behavior of students in Thai education institutions. Journal of Psychological and Educational Research. 24(1), 26-41. (SCOPUS) Tongsamsi, K. & Tongsamsi, I. (2015). Influence of training and knowledge management on competency among quality managers at Rajabhat universities in Thailand. Journal of Psychological and Educational Research. 23(2), 54-72. (SCOPUS) Tongsamsi, K. & Trichandhara, K. (2014). Competency of Quality Assurance Officers: Comparative Analysis of Literature Review and Survey Research in Thai Public Higher Education. Silpakorn University Journal of Social Sciences, Humanities, and Arts. 14(1), 133-146. (ACI) ผลงานตพี ิมพร์ ะดับชาติ กันยปริณ ทองสามสี และอสิ ระ ทองสามสี. (2562). ผลของความรนุ แรงในครอบครัวจากการด่ืม สรุ า: บทวิเคราะห์ข่าวหนงั สอื พมิ พ์ระหวา่ งปี 2554-2558. วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั วลยั ลกั ษณ.์ 12(1), 61-90. กนั ยปริณ ทองสามสี และอสิ ระ ทองสามสี. (2561). ความรุนแรงทีส่ บื เนือ่ งจากการดม่ื สรุ า: วเิ คราะห์ขา่ วในหนังสือพมิ พ์รายวนั ระหว่างปี 2549-2558. วารสารสงั คมศาสตร์วจิ ัย. 9(1), 7-26. กนั ยปริณ ทองสามสี, เอมอร เจยี รมาศ, อสิ ระ ทองสามส,ี ณฏั ฐ์ หลกั ชัยกลุ , เพญ็ พกั ตร์ ทองแท้ และศรณั ยา บนุ นาค. (2561). ความตอ้ งการรบั บรกิ ารดา้ นท่ีพกั ของนกั ทอ่ งเที่ยวมสุ ลมิ . วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร. 38(3), 127-147. กนั ยปริณ ทองสามสี และอสิ ระ ทองสามสี. (2561). พฤติกรรมไมเ่ หมาะสมทางวชิ าการ: รปู แบบ สาเหตุ ตวั แปร และแนวทางแกไ้ ข. วารสารปารชิ าต. 31(1), 43-67. 76
กันยปริณ ทองสามสี และพรอมั รนิ ทร์ พรหมเกดิ . (2560). ปจั จยั ที่มอี ทิ ธิพลต่อความซ่ือสตั ยท์ าง วิชาการของนกั ศกึ ษาระดบั ปริญญาตรใี นสามจงั หวัดชายแดนภาคใต้. วารสารมนษุ ยศาสตร์ และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ . 34(3), 167-192. กันยปริณ ทองสามสี และอสิ ระ ทองสามส.ี (2560). ความต้องการผลิตภัณฑส์ ินเช่ือของผสู้ ูงอายุ จังหวดั นราธวิ าส. วารสารปาริชาต. 30(3), 231-243. กันยปริณ ทองสามสี, อสิ ระ ทองสามสี, อัลญาณ์ สมหุ เ์ สนโี ต และนุรซาร์ฮาดาห์ อเุ ซ็ง (2560). ความสัมพันธร์ ะหว่างการฝกึ อบรม การจดั การความรู้ และสมรรถนะของผรู้ บั ผิดชอบงาน ประกนั คณุ ภาพในสถาบนั อุดมศกึ ษา. วารสารมหาวทิ ยาลยั ศิลปากร. 37(1), 43-68. อัลญาณ์ สมหุ เ์ สนโี ต, กันยปรณิ ทองสามส,ี ปารชิ าติ เบญ็ ฤทธ์ิ และนรุ ซารฮ์ ดิ าห์ อุเซง็ . (2560). เพศวถิ ใี นชวี ิตสมรสของชาวไทยมุสลิมจงั หวัดปัตตานี. วารสารประวตั ิศาสตรธ์ รรมศาสตร์. 4(1), 271-323. กนั ยปริณ ทองสามสี, เพญ็ พกั ตร์ ทองแท้ และอิสระ ทองสามสี. (2559). การพฒั นาแบบวัดการ จัดการความรรู้ ะดบั บุคคลในงานประกนั คณุ ภาพของสถาบนั อุดมศกึ ษา. วารสารวทิ ยาการ จดั การ. 33(1), 77-99. กนั ยปริณ ทองสามสี. (2558). การพฒั นาแบบวดั สมรรถนะสาหรบั บุคลากรสายงานประกนั คณุ ภาพในสถาบนั อุดมศกึ ษา. วารสารพฤติกรรมศาสตร.์ 21(2), 57-77. กันยปริณ ทองสามสี และคณน ไตรจันทร.์ (2557). กรอบแนวความคิดการศกึ ษาปัจจัยทสี่ ง่ ผลตอ่ สมรรถนะการปฏิบัตงิ าน. วารสารวิทยาการจดั การ. 31(1), 169-187. กนั ยปริณ ทองสามสี และชาลี ไตรจนั ทร.์ (2556). กระบวนการกาหนดสมรรถนะเฉพาะของ ผู้ปฏิบัตงิ านประกนั คุณภาพในสถาบันอุดมศกึ ษาของรัฐ. วารสารวิจยั มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรวี ิชยั . 5(1), 47-60. กนั ยปริณ ทองสามสี, ปรญี าภรณ์ สุขจันทร,์ กิตติยา แสะอาหล,ี วรรณวิมล นาคะ. (2556). สัมฤทธิผลด้านการวิจยั จากผลการประเมินคุณภาพภายใน: กรณีศึกษาหน่วยงานจดั การ เรียนการสอน มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร.์ ว.สงขลานครนิ ทร์ ฉบบั สังคมศาสตร์และ มนษุ ยศาสตร์. 19(3), 157-181. กนั ยปริณ ทองสามสี และนวลจริ า ภทั รรงั รอง. (2553). ปัจจัยทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ บั คุณภาพบณั ฑิต และคุณภาพงานวจิ ยั : กรณมี หาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร.์ ว.สงขลานครินทร์ ฉบบั สงั คมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร.์ 16(2), 299-318. กันยปริณ ทองสามสี, เจดิ จรรย์ เปล่ียนโพธิ์, สาลินี ยวงเกตุ, นวลจิรา ภัทรรังรอง. (2551). การ ประเมินระบบประเมนิ คุณภาพภายใน มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร.์ ว.สงขลานครินทร์ ฉบบั สงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร.์ 14(2), 239-253. 77
Kochapakdee, W., Thongsamsee, K., & Yuang-gate, S. (2003). Quality Management of Higher Education in Thailand: Lessons Learned at Prince of Songkla University. ASAIHL-Thailand Journal. 6(2), 18-46. ผลงานการนาเสนอในท่ีประชมุ ระดบั ชาติ อิสระ ทองสามสี และกันยปรณิ ทองสามสี. (2562). ความไมส่ อดคลอ้ งกันของระดับการศึกษาและ อาชีพในตลาดแรงงาน: กรณีศกึ ษาผสู้ อบแข่งขนั ไดใ้ นตาแหน่งนกั วชิ าการพัฒนาชมุ ชน ปฏบิ ัติการ พ.ศ.2560-2562. ใน การประชมุ หาดใหญ่วชิ าการระดบั ชาติและนานาชาติ ครัง้ ที่ 10 (น.895-905) ณ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา. อสิ ระ ทองสามสี และกันยปรณิ ทองสามสี. (2561). โมเดลการประยุกตใ์ ชป้ รชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงของนักศกึ ษาหลกั สตู รการพฒั นาชมุ ชน มหาวิทยาลยั ราชภัฏสงขลา. ใน The 7th PSU Education Conference \"Higher Education for All : Surviving in Times of Change. (น.53-59) มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา. กันยปรณิ ทองสามส.ี (2561). ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนรเู้ รอื่ งการปอ้ งกันการลอกเลียนวรรณกรรม ด้วยเกมออนไลน์ในรายวิชาระเบยี บวิธีวิจยั ทางธรุ กิจ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร.์ ใน การประชมุ วิชาการระดับชาติวลยั ลักษณ์วิจยั คร้งั ท่ี 10. ณ มหาวทิ ยาลยั วลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช. อิสระ ทองสามสี และกันยปรณิ ทองสามสี. (2560). ความไมส่ อดคลอ้ งของการศึกษาต่อ ตลาดแรงงานในตาแหน่งนักวิชาการพฒั นาชุมชนระดับปฏบิ ตั กิ าร (พฒั นากร) พ.ศ.2560. ใน The 6th PSU Education Conference \"Higher Education for Digital Citizenship towards Thailand 4.0\" (น.312-317) มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา. กันยปริณ ทองสามสี และอิสระ ทองสามส.ี (2560). อิทธพิ ลของโครงสรา้ งของชมุ ชนท่ีมีตอ่ การ ดม่ื สุราในจงั หวดั สงขลา พัทลงุ และสตูล. ใน การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดบั ชาติและ นานาชาติ ครง้ั ที่ 8 (น.194-202). ณ มหาวิทยาลยั หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา. กนั ยปริณ ทองสามสี. (2560). การจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้ปัญหาเปน็ ฐานท่ีมตี อ่ ผลสัมฤทธิ์ทางการ เรยี นในรายวิชาระเบยี บวธิ ีวิจยั ทางธรุ กิจ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร.์ ใน การประชุมวชิ าการระดบั ชาติมหาวทิ ยาลัยทกั ษณิ ครงั้ ท่ี 27 ประจาปี 2560 และการประชุมวิชาการระดับชาตดิ า้ นบริหารธุรกจิ และเศรษฐศาสตร์ ครั้งที่ 3 (น.65-72). ณ โรงแรมบพี ี สมหิ ลา บีช อ.เมอื ง จ.สงขลา. อสิ ระ ทองสามสี และกนั ยปริณ ทองสามสี. (2560). อิทธพิ ลของการเสียระเบยี บทางสงั คมทม่ี ตี ่อ การดืม่ สุราในประเทศไทย พ.ศ.2559. ใน การประชุมวิชาการระดบั ชาติ \"เทคโนโลยี ภาคใต้วจิ ยั \" ครั้งที่ 7 (น.102-108). ณ เทคโนโลยีภาคใต้ อ.ทุ่งสง จ.นครศรธี รรมราช. 78
Search