ความตอ้ งการรับบรกิ ารด้านทพ่ี กั ของนักทอ่ งเท่ียวมุสลมิ กันยปรณิ ทองสามส1ี เอมอร เจียรมาศ2 อิสระ ทองสามส3ี ณัฏฐ์ หลักชยั กุล4 เพญ็ พักตร์ ทองแท5้ และศรณั ยา บุนนาค6บทคดั ยอ่ เน่ืองจากประชากรมุสลิมมีอัตราการเพ่ิมท่ีรวดเร็วกอปรกับมีการส่งเสริมการท่องเท่ียววิถีมุสลิมที่สอดคล้องกับวิถีปฏิบัติตามหลักค�ำสอนทางศาสนา ส่งผลให้ธุรกจิ การทอ่ งเทีย่ วม่งุ พัฒนาบรกิ ารส�ำหรับนักทอ่ งเทย่ี วกลุม่ นี้มากขึน้ ซงึ่ องค์ประกอบส�ำคัญประการหนึ่งที่นักท่องเที่ยวใช้ประกอบการตัดสินใจท่องเท่ียวคือ โรงแรมที่ให้บริการระหว่างการท่องเที่ยว บทความฉบับนี้จัดท�ำขึ้นเพื่อน�ำเสนอแนวโน้มการให้บริการโรงแรมวิถีมุสลิมซ่ึงเร่ิมต้นพัฒนาในแถบตะวันออกกลาง จากนั้นจึงขยายตัวไปสู่ภูมิภาคอ่ืนๆ โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเทศที่ให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาท่ีพักประเภทนี้ ได้แก่ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซียผู้วิจัยศึกษารูปแบบความต้องการท่ีพักตามหลักศาสนาอิสลามด้วยวิธีการปริทัศน์เชิงพรรณนาสามารถจ�ำแนกความตอ้ งการของผู้เข้าพักได้ 7 ประเภท ไดแ้ ก่ การปฏิบตั ิศาสนกิจ การให้บริการของพนักงาน การออกแบบและการตกแต่งห้องพัก อุปกรณ์ที่ให้บริการในห้องพัก การบริการช่วงการถือศีลอด การเงิน และการบริการท่ัวไป จากความตอ้ งการดงั กลา่ วสามารถจำ� แนกระดบั การใหบ้ รกิ ารตามวถิ มี สุ ลมิ ในระดบั ตน้ กลางและสงู ผลการศกึ ษาเปน็ ประโยชนต์ อ่ หนว่ ยงานดา้ นการจดั การทอ่ งเทย่ี วและผปู้ ระกอบการสามารถนำ� ขอ้ มลู ไปใชป้ ระกอบการออกแบบบรกิ ารทเ่ี หมาะสมเพอื่ รองรบั การทอ่ งเทยี่ ว 1 อาจารยป์ ระจำ�คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์อเี มล : [email protected] 2 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำ�คณะศลิ ปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์อเี มล : [email protected] 3 ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยป์ ระจำ�คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สงขลาอีเมล : [email protected] 4 อาจารยป์ ระจำ�คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์อีเมล : [email protected] 5 รองศาสตราจารยป์ ระจำ�คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์อีเมล : [email protected] 6 รองศาสตราจารยป์ ระจำ�คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์อเี มล : [email protected]วารสารมหาวิทยาลยั ศิลปากรปที ี่ 38(3) : 127-147, 2561
ความตอ้ งการรับบรกิ ารด้านทพี่ ักของนกั ทอ่ งเทยี่ วมุสลิม กนั ยปริณ ทองสามสี และคณะวิถีมุสลิม รวมทั้งนักวิชาการสามารถน�ำข้อค้นพบไปใช้ประกอบการเรียนการสอนและตอ่ ยอดสู่งานวิจัยได้ค�ำสำ� คญั : 1. การท่องเทยี่ ววถิ มี สุ ลิม 2. โรงแรมฮาลาล 3. หลักชารีอะฮ์ 4. โรงแรม วถิ มี ุสลิม 5. โรงแรมชารอี ะฮ์ 128
วารสารมหาวทิ ยาลยั ศิลปากร ปที ี่ 38 ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2561 Demands of Muslim tourists for halal-friendly accommodations Kanyaprin Tongsamsi7, Aim-on Jiaramat8, Isara Tongsamsi9, Nat Luxchaigul10, Penpuck Tongtae11 and Saranya Bunnag12Abstract The drastic increase in Muslim population growth, as well as the promotionof Halal tourism in accordance with Islamic beliefs and practices, have encouragedtourism industries to develop services for Muslim travelers. One of the factorsthat influence travelers’ decision is accommodations and services. This articleaims to present the concept of halal-friendly accommodation trend that has begunin the Middle East and then expanded to other regions. Furthermore, countriesin Southeast Asia including Indonesia, Singapore and Malaysia, also place agreat deal of importance on the development of Islamic-oriented hotels. Thisarticle studied the demands for halal-friendly accommodations through narrativereviews. The demands of travelers were classified into 7 types: practice of religiousactivities, hospitality services from the staff, accommodation designs, roomamenities, services to cater for specific needs during Ramadan, finance, and otherservices in general. Based on the demand categories, the provision of serviceswas rated as primary, medium, or high levels in accordance to which extent the 7 Lecturer at Faculty of Humanities and Social Sciences, Prince of Songkla Univer-sity, Pattani, Thailand. Email address: [email protected] 8 Assistant Professor at Faculty of Liberal Arts, Prince of Songkla University, Song-khla, Thailand. Email address: [email protected] 9 Assistant Professor at Faculty of Humanities and Social Sciences, Songkhla Rajab-hat University, Songkhla, Thailand. Email address: [email protected] 10 Lecturer at Faculty of Humanities and Social Sciences, Prince of Songkla Univer-sity, Pattani, Thailand. Email address: [email protected] 11 Associate Professor at Faculty of Humanities and Social Sciences, Prince ofSongkla University, Pattani, Thailand. Email address: [email protected] 12 Associate Professor at Faculty of Humanities and Social Sciences, Prince ofSongkla University, Pattani, Thailand. Email address: [email protected] 129
ความต้องการรบั บรกิ ารด้านท่พี กั ของนักทอ่ งเทีย่ วมสุ ลมิ กันยปรณิ ทองสามสี และคณะhospitality service met the needs of Muslim travelers. The outcome of this studywill benefit tourism organizations while hospitality operators can use informationto design and develop services to cater for the demand for halal tourism. Inaddition, academics can also utilize the outcome of this study for teaching andfurther research.Keywords: 1. Halal tourism 2. Halal-friendly accommodations 3. Shariah 4. Islamic-oriented hotel 5. Shariah-compliant hotel 130
วารสารมหาวทิ ยาลยั ศิลปากร ปีท่ี 38 ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2561บทน�ำ ปจั จบุ นั การทอ่ งเทยี่ ววถิ มี สุ ลมิ ไดร้ บั ความนยิ มเพมิ่ ขนึ้ เนอ่ื งจากมปี จั จยั สง่ เสรมิหลายองค์ประกอบ อาทิ การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรมุสลิม การมุ่งพัฒนาธรุ กจิ การทอ่ งเทยี่ ว และสง่ เสรมิ การเดนิ ทางระหวา่ งประเทศสมาชกิ องคก์ ารความรว่ มมอือิสลาม (Organization of Islamic Cooperation: OIC) ความสามารถในการใชจ้ า่ ยของนกั ทอ่ งเทย่ี วมสุ ลมิ โดยเฉพาะผเู้ ดนิ ทางจากประเทศตะวนั ออกกลางมสี งู (high spendingand lucrative market) ท�ำใหธ้ รุ กจิ ท่องเทย่ี วพฒั นาบริการเพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของลูกค้ากลุ่มน้ี อีกท้ัง การเติบโตทางด้านการเงินและการธนาคารอิสลาม กอปรกับความรดู้ า้ นฮาลาลขยายตวั อยา่ งรวดเรว็ ทำ� ใหน้ กั ลงทนุ สนใจผลติ สนิ คา้ ฮาลาลและพฒั นาบริการฮาลาลมากขึ้น นอกจากนี้ มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดและความเครง่ ครดั ในการอนมุ ตั กิ ารเดนิ ทางเขา้ ประเทศของกลมุ่ ประเทศตะวนั ตกเปน็ ปจั จยัผลกั ดนั ให้นักเดินทางในตะวันออกกลางไปท่องเที่ยวในภูมิภาคอ่ืนแทน ปัจจัยเหล่านี้ท�ำให้ความต้องการรับบริการตามหลักศาสนาอิสลามในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมมี ากขน้ึ ทง้ั นี้ มกี ารประมาณการวา่ ตลาดทอ่ งเทย่ี ววถิ มี สุ ลมิ สรา้ งรายไดถ้ งึ หา้ แสนลา้ นดอลลาร์สหรัฐตอ่ ปี (Nor Zafir, 2014; Razalli, Yusoff, & Roslan, 2013) ผลการสำ� รวจการทอ่ งเทยี่ ววถิ มี สุ ลมิ (Halal Tourism) ทจี่ ดั ทำ� โดย Master Cardรว่ มกบั Crescent Rating ซง่ึ เปน็ บรษิ ทั ใหค้ ำ� ปรกึ ษาเรอ่ื งการทอ่ งเทย่ี ววถิ มี สุ ลมิ กำ� หนดดัชนีการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมทั่วโลก โดยส่วนหนึ่งของการส�ำรวจมีการจัดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม 100 แห่ง ซึ่งมาจากการศึกษา110 สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วจาก 29 ประเทศในกลุม่ ประเทศมุสลมิ และสถานทท่ี อ่ งเทีย่ วในกลมุ่ ประเทศทไ่ี มใ่ ชม่ สุ ลมิ รวม 81 แหง่ ซง่ึ สถานทเี่ หลา่ นเ้ี ปน็ ตวั แทนมากกวา่ รอ้ ยละ 95ของการเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ วของชาวมสุ ลมิ ทว่ั โลก ผลการจดั อนั ดบั ปี 2015 พบวา่ มาเลเซยีเปน็ ประเทศยอดนยิ มอนั ดบั หนงึ่ และสามารถครองอนั ดบั หนง่ึ ตดิ ตอ่ กนั มา 5 ปี นบั ตงั้ แต่ปี 2011 รองลงมา ไดแ้ ก่ ประเทศตรุ กี และประเทศสหรัฐอาหรบั เอมิเรตส์ ส่วนสถานที่ทอ่ งเทย่ี วทเี่ ปน็ มติ รกบั ชาวมสุ ลมิ จากนอกกลมุ่ ประเทศมสุ ลมิ พบวา่ สงิ คโปรเ์ ปน็ ประเทศยอดนยิ มอนั ดบั หนง่ึ ของนกั ทอ่ งเทย่ี วมสุ ลมิ และสามารถครองอนั ดบั หนง่ึ ตดิ ตอ่ กนั ถงึ 3 ปีรองลงมาคอื ประเทศไทย อนั ดบั สามคอื องั กฤษ (Prachachat Online, 2015; SarawutAree, 2015) นอกจากน้ี มขี อ้ มลู ยนื ยนั วา่ โลกมสุ ลมิ ใชจ้ า่ ยเงนิ ไปกบั การทอ่ งเทย่ี วมากกวา่ประเทศเยอรมนี ซ่ึงเป็นประเทศท่ีมีการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวต่างประเทศมากท่ีสุดในโลก และโลกมสุ ลมิ ใชจ้ า่ ยเงนิ เพอื่ การทอ่ งเทยี่ วตา่ งประเทศมากกวา่ การทอ่ งเทยี่ วของชาวจีนเกือบ 2 เท่า โดยนักท่องเท่ียวชาวตะวันออกกลางเป็นกลุ่มท่ีใช้จ่ายมากท่ีสุดคิดเป็นร้อยละ 60 โดยมีซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศในกลุ่มน้ีที่ใช้จ่ายมากท่ีสุด ล�ำดับ 131
ความต้องการรับบริการดา้ นทพ่ี กั ของนกั ทอ่ งเที่ยวมุสลิม กนั ยปรณิ ทองสามสี และคณะถัดมาคือ อิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินโดนีเซีย และคูเวต ตามล�ำดับ (SarawutAree, 2016) มีงานวิจัยของ Shakona (2013) และ Shakona et al. (2015) ได้ศึกษาหลักการทางศาสนากับการเดนิ ทางทอ่ งเท่ยี วในประเทศสหรฐั อเมริกาพบวา่ ความเช่อืทางศาสนาทมี่ อี ิทธพิ ลตอ่ การเดินทางท่องเที่ยวของมสุ ลมิ โดยสถานทที่ ่เี ดนิ ทางตอ้ งมีมัสยดิ เพ่ือละหมาด ผู้หญงิ โสดตอ้ งมีผพู้ ทิ กั ษ์ (Mohram) เดินทางไปด้วย ผูเ้ ดินทางตอ้ งสวมชุดญิฮาบ ต้องไม่ดื่มหรือนั่งในสถานท่ีท่ีบริการเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ การบริโภคอาหารฮาลาล โดยปจั จยั เหลา่ นถ้ี อื เปน็ การเลอื กสถานทท่ี อ่ งเทย่ี วทเี่ ปน็ มติ รกบั คนมสุ ลมิส่วนสถานที่ท่ีควรหลีกเล่ียง ได้แก่ สถานที่ขายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ชายหาดที่มีการแตง่ ชดุ วา่ ยน้ำ� และสถานทีท่ ล่ี ะเมิดข้อหา้ มทางศาสนา ซึ่งเมือ่ พิจารณาสว่ นประสมของการทอ่ งเท่ยี ววถิ มี สุ ลิมที่เอือ้ กับหลกั ศาสนา ทเ่ี สนอโดย Zulkifli, Rahman, Awang andMan (2011) พบว่า การท่องเท่ียวจะต้องประกอบด้วยโรงแรมที่พักท่ีเป็นไปตามหลักศาสนา (halal friendly hotel) การปฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานฮาลาล (halal standard) มอี าหารฮาลาลใหบ้ ริการนักเดนิ ทาง (halal food) มรี ายการนำ� เท่ียววิถีมสุ ลิม (Islamic travelpackages) การเดินทางวิถีมสุ ลิม (halal transport) และให้บริการด้านการเงนิ ตามหลกัศาสนาอิสลาม (Islamic finance) จากองค์ประกอบดังกล่าว จะพบว่าการจัดบริการโรงแรมตามหลักศาสนาอิสลามเป็นปัจจัยส�ำคัญต่อการท่องเท่ียว โดยโรงแรมเหล่าน้ันจะต้องให้บรกิ ารภายใตห้ ลักชารอี ะฮ์ (Shariah compliant hotel) การทอ่ งเทยี่ วแหง่ ประเทศไทย (ททท.) มนี โยบายสง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี วสำ� หรบักลมุ่ ตลาดมสุ ลมิ เชน่ กนั เชน่ การเปดิ งาน “Muslim Friendly Destination” เพอื่ ใหค้ วามรู้และเตรยี มความพรอ้ มรองรบั ตลาดนกั ทอ่ งเทยี่ วมสุ ลมิ ของประเทศไทย แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว ศาสนสถาน ห้องละหมาด ชมุ ชนมุสลิม ตลอดจนโรงแรม ร้านอาหารฮาลาล และแหลง่ทอ่ งเทย่ี วอนื่ ๆ ทเ่ี หมาะกบั กลมุ่ ตลาดนี้ โดยเฉพาะประชากรมุสลิมในอาเซียนมจี ำ� นวน240 ล้านคน นับเป็นตลาดนักท่องเที่ยวท่ีมีขนาดใหญ่และมีการเติบโตสูง โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในอนิ โดนเี ซยี มาเลเซยี และบรไู น สำ� หรบั ประเทศอน่ื ๆ ทเี่ ปน็ ตลาดเปา้ หมายหลกัรวมถงึ อนิ เดยี ประเทศในกลมุ่ ตะวนั ออกกลาง อาทิ สหรฐั อาหรบั เอมเิ รตส์ โอมาน คเู วตอยี ปิ ต์ อหิ ร่าน และภมู ภิ าคแอฟริกาเหนอื ในประเทศโมร็อคโค ตูนเี ซีย แอลจีเรีย ซึ่งถอืเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจและมีศักยภาพในการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวตลาดมุสลิมเปน็ อย่างมาก เปดิ ตัว Mobile Application “Thailand Muslim Friendly Destination”ส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิม น�ำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเท่ียวส�ำหรับกลมุ่ ตลาดทอ่ งเทยี่ วมสุ ลมิ โดยรวบรวมขอ้ มลู รา้ นอาหารฮาลาล มสั ยดิ และโรงแรมทพี่ กั(Tourism Authority of Thailand News, 2015a; 2015b) อยา่ งไรก็ตาม เม่อื พิจารณา 132
วารสารมหาวิทยาลัยศลิ ปากร ปที ่ี 38 ฉบบั ที่ 3 พ.ศ. 2561มาตรฐานทพ่ี กั ทจี่ ดั ทำ� โดยกรมการทอ่ งเทยี่ ว มกี ารจดั ทำ� มาตรฐานทพ่ี กั 8 ประเภท โดยตัวช้ีวัดไม่มีหลักความเช่ือหรือวิถีปฏิบัติทางศาสนามาก�ำหนดแต่อย่างใด โดยเฉพาะการให้บริการส�ำหรับผู้นับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้น บทความฉบับน้ีจึงจัดท�ำขึ้นเพื่อน�ำเสนอหลักการจัดบริการตามหลักชารีอะฮ์ เน่ืองจากปัจจุบันยังไม่มีการก�ำหนดมาตรฐานของทพ่ี กั วถิ มี สุ ลมิ หรอื โรงแรมชารอี ะฮ์ (Nor Zafir, 2014; Stephenson, 2014)และให้ขอ้ เสนอแนะตอ่ การจัดบรกิ ารของโรงแรมเพื่อรองรบั การท่องเท่ยี ววถิ มี ุสลมิกรอบแนวคิดในการศึกษาข้อมูล การนำ� เสนอเนอ้ื หาในบทความนใ้ี ชแ้ นวคดิ ของ Zulkifli et al. (2011) ทไี่ ดเ้ สนอองค์ประกอบของการท่องเท่ียววิถีมุสลิมจะต้องประกอบด้วยโรงแรมท่ีพักท่ีเป็นไปตามหลักศาสนา การปฏิบัติตามมาตรฐานฮาลาล มีอาหารฮาลาลให้บริการนักเดินทางมีรายการน�ำเที่ยววิถีมุสลิม และให้บริการด้านการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม ดังภาพท่ี 1 อยา่ งไรกต็ าม บทความน้นี �ำเสนอเน้อื หาเฉพาะในสว่ นของโรงแรมหรอื ที่พักทต่ี ้องจัดใหบ้ รกิ ารตามหลักศาสนาอิสลามหลักการเงนิ โรงแรมฮาลาล มาตรฐาน อิสลาม (ชารอี ะฮ)์ ฮาลาลการเดินทาง การทอ่ งเทีย่ ว อาหารฮาลาล วถิ ีมุสลิม วิถีมุสลิม การนาเทย่ี ววถิ ี มุสลิมภาพที่ 1 องค์ประกอบของการทอ่ งเทยี่ ววถิ มี สุ ลมิ 133
ความตอ้ งการรับบรกิ ารดา้ นท่พี กั ของนกั ทอ่ งเทยี่ วมสุ ลมิ กนั ยปรณิ ทองสามสี และคณะแนวโน้มการใหบ้ รกิ ารโรงแรมวถิ มี ุสลิม โรงแรมวิถีมุสลิม (Islamic-oriented hotel) หรือโรงแรมชารีอะฮ์ (Shariah-compliant hotel) หมายถึง การบริการที่พักตามวิถีทาง หรือแบบอย่างมุสลิม หรือกฎหมายอิสลาม ซึ่งมุสลิมส่วนใหญ่เช่ือว่าหลักศาสนากับวิถีปฏิบัติในชีวิตประจ�ำวันควรมีความสอดคล้องกัน (Jafari & Scott, 2014) โดยโรงแรมหรือทพ่ี กั ท่ีพฒั นาขึน้ เพอ่ืให้สอดรับกับหลักความเช่ือของศาสนาอิสลามมีการให้บริการในแถบตะวันออกกลางมากวา่ 30 ปี (Nor Zafir, 2014) และเนน้ การพัฒนาเป็นลำ� ดับ ดังเช่นการกอ่ ตงั้ โรงแรมShaza Hotels ทเ่ี มอื งมาดนี ะ ประเทศซาอดุ อิ าระเบยี เปน็ การรว่ มทนุ ระหวา่ ง KempinskiHotels และ Guidance Hotel Investment Company โดยเนน้ ให้บริการผู้เขา้ พกั จากในแถบตะวนั ออกกลางและแอฟรกิ าเหนอื รวมถึงโรงแรม Luthan Hotel and Spa ท่เี ปิดให้บรกิ ารสำ� หรับผ้หู ญิงโดยเฉพาะ (women only hotel) มใี ห้บรกิ ารแหง่ แรกทีป่ ระเทศซาอุดิอาระเบียเช่นกัน สว่ นทพ่ี กั ในประเทศดูไบซึ่งมลี ูกค้าหลกั เป็นชาวซาอดุ อิ าระเบียมกี ารเขา้ พกั มากกวา่ แปดแสนคนตอ่ ปี มโี รงแรมชารอี ะฮ์ 4 ดาวคอื Al Jawhara GardensHotel โดยลกู ค้าทมี่ าใช้บริการสว่ นใหญป่ ระมาณร้อยละ 60 ไมใ่ ชม่ ุสลมิ การบริการของโรงแรมดงั กลา่ วเนน้ บรรยากาศทเี่ ปน็ กนั เอง ขณะเดยี วกนั บรษิ ทั พฒั นาการทอ่ งเทยี่ วในประเทศการต์ าร์ อย่างกลุ่ม Retaj Marketing and Project Management ม่งุ พัฒนาโรงแรมตามหลักชารีอะฮ์จ�ำนวน 20 แห่งในประเทศตุรกี หรือกลุ่ม Lootah HotelManagement รว่ มกบั Maldives’ Kalaidhu Investment Private Ltd. ไดพ้ ัฒนาโรงแรมชารีอะฮ์ในมัลดิฟ ส่วนในประเทศโอมานได้มีการตั้งโรงแรมห้าดาวปลอดแอลกอฮอล์เพ่ือท�ำให้นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมรู้สึกได้รับความสะดวกมากขึ้น ส่วนประธานบริหารการทอ่ งเท่ียว Almulla Hospitality Corporate Culture ได้ประกาศแผนพฒั นาโรงแรมตามหลกั ชารอี ะฮป์ ระมาณ 150 แหง่ ทว่ั โลก ในปี 2013 ใชเ้ งนิ ลงทนุ ประมาณสองพนั ลา้ นดอลลารส์ หรฐั สว่ นในชาตติ ะวนั ตกมกี ารจดั แยกชน้ั สำ� หรบั ผหู้ ญงิ (women only-floors)เพอื่ ความปลอดภยั และความเปน็ สว่ นตวั เชน่ Hamilton Crowne Plaza ในกรงุ วอชงิ ตนัดีซี Hotel Bella Sky ในเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก และโรงแรม GeorgianCourt Hotel ในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา นอกจากน้ี โรงแรมในประเทศมสุ ลมินำ� หลกั กฎหมายอสิ ลามมาเปน็ กรอบในการดำ� เนนิ งาน เพราะปจั จบุ นั ยงั ไมม่ กี ารกำ� หนดหลกั เกณฑอ์ ยา่ งชดั เจนหรอื ยงั ไมม่ หี นว่ ยงานทใ่ี หก้ ารรบั รองอยา่ งเปน็ ทางการในการจดับรกิ ารตามหลกั ชารอี ะฮ์ เชน่ โรงแรมในประเทศอหิ รา่ นและซาอดุ อิ าระเบยี จะตอ้ งมกี ารตรวจหลักฐานของผู้ท่ีเข้ารับบริการชายและหญิงว่าเป็นคู่สมรสท่ีถูกต้องตามกฎหมาย(Battour, Ismail, & Battor, 2010; Stephenson, 2014) 134
วารสารมหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร ปที ่ี 38 ฉบบั ที่ 3 พ.ศ. 2561 ส่วนการใหบ้ รกิ ารในแถบเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้น้ัน การท่องเทย่ี ววิถมี ุสลิมสามารถดึงดูดนักท่องเท่ียวชาวตะวันตกที่ต้องการเย่ียมชมวิถีชีวิต วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเพ่ือสุขภาพซ่ึงได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในประเทศอินโดนีเซีย เช่นการสปาแบบฮาลาล (Halal Spas) ซึง่ เนน้ ให้บริการอยา่ งถกู ตอ้ งตามหลกั ศาสนา เชน่มผี า้ คลมุ ผมบรกิ ารลกู คา้ การใชเ้ ครอื่ งสำ� อางทปี่ ราศจากสว่ นผสมจากเนอื้ สตั วห์ รอื สกุ รเชน่ คอลลาเจน (collagen) เจลาตนิ (gelatin) สารกลเี ซอรนิ (glycerin) เคอราตนิ (keratin)และไขมันสัตว์ (tallow) ขณะท่ีประเทศสิงคโปร์มีการพัฒนารองรับการท่องเที่ยววิถีมุสลิม โดยมีโรงแรมและรีสอร์ต 366 แห่ง ได้รับการรับรองคุณภาพฮาลาลจากMalaysian Halal Certificates ในจำ� นวนนม้ี โี รงแรมขนาดใหญ่ เชน่ Pullman and ThistleHotels รวมอย่ดู ว้ ย ประเทศมาเลเซยี ซง่ึ เปน็ ประเทศมสุ ลมิ ทนี่ กั ทอ่ งเทยี่ วนยิ มเดนิ ทางมาทอ่ งเทย่ี วจำ� นวนมากในแตล่ ะปี ประเทศมาเลเซียประกาศเป็นศนู ย์กลางฮาลาล (halal hub) ในปี2004 และจดั ตัง้ International Halal Showcase (MIHAS) โดยประกาศใช้มาตรฐานMS1500: 2004 และ MS1900: 2005 เพอ่ื ใหก้ ารรบั รองมาตรฐานฮาลาล เพราะมาตรฐานโรงแรมฮาลาลชว่ ยสง่ เสรมิ การตลาดการทอ่ งเทย่ี ว สามารถสรา้ งความเชอื่ มน่ั และดงึ ดดูนกั ทอ่ งเทยี่ วทง้ั ในและตา่ งประเทศ (Nor Zafir, 2014; Sabidin, 2015; Razalli et al., 2013)นอกจากน้ี ประเทศมาเลเซียมีหน่วยงานที่ออกหนังสือรับรองมาตรฐานฮาลาล ได้แก่Malaysian Islamic Development Department (JAKIM) State Islamic ReligiousDepartment (JAIN) and State Islamic Religious Council (MAIN) โดย JAKIM เปน็หน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีให้การสนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมที่ฮาลาลของธุรกิจโรงแรมหรอื ทพ่ี ักสำ� หรับการทอ่ งเทย่ี ว ท้ังน้ใี นปี 2010 มีโรงแรมและรีสอรต์ ท่ีไดร้ บั การรับรองฮาลาลโดย JAKIM จำ� นวน 131 แห่ง (Razalli et al., 2013) กระทัง่ ปี 2016 มโี รงแรมได้รับการรับรองฮาลาลจ�ำนวน 696 แห่ง โดยในจ�ำนวนนี้ต้ังอยู่ในเขตสหพันธรัฐกวั ลาลมั เปอร์ (Wilayah Persekutuan Kuala Lumpur) มากทส่ี ดุ เนอื่ งจากเปน็ เขตเมอื งหลวง(JAKIM, 2016) ดงั รายละเอียดในตารางที่ 1 ทงั้ น้ี โรงแรมส่วนใหญ่ในประเทศมาเลเซียยังไม่ได้การรับรองฮาลาลแต่อย่างใด แต่เน้นความส�ำคัญไปท่ีบริการเฉพาะอย่าง โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ อาหารและเครอื่ งดมื่ ฮาลาล ทง้ั น้ี เพราะมโี รงแรมจำ� นวนมากในมาเลเซยีทไี่ มไ่ ดม้ เี จา้ ของเปน็ คนมาเลเซยี เชน่ Hilton Hotel, Shangri La Hotel, Sheraton Hoteland Ritz Carlton Hotel ซงึ่ โรงแรมเหลา่ นยี้ ดึ กฎระเบยี บทเี่ ปน็ สากล จงึ ไมใ่ หค้ วามสำ� คญักบั การขอรบั รองเครอ่ื งหมายฮาลาล สว่ นโรงแรมทไี่ ดร้ บั รองมาตรฐานฮาลาลแลว้ อยา่ งเชน่ De Palma Group of Hotels, Concorde Hotel, Grand Bluewave Hotel, HiltonHotel and Crystal Crown Hotel 135
ความตอ้ งการรับบริการด้านท่ีพักของนกั ท่องเที่ยวมสุ ลมิ กนั ยปรณิ ทองสามสี และคณะ ปัญหาอีกประการท่ีส�ำคัญที่ท�ำให้โรงแรมส่วนใหญ่ไม่ได้รับรับรองฮาลาลเน่ืองจากกระบวนการพิจารณาท่ีมีด้วยกันหลายขั้นตอน คือ ขั้นตอนการลงทะเบียนขนั้ ตอนการตรวจสอบและจดั ทำ� รายงาน และขน้ั ตอนการอนมุ ตั เิ ครอ่ื งหมายฮาลาล ทำ� ให้ผปู้ ระกอบการรสู้ กึ วา่ เปน็ กระบวนการทย่ี งุ่ ยากลำ� บาก (cumbersome and troublesome)รวมถงึ ลา่ ชา้ ซงึ่ ทพี่ กั บางสว่ นใชเ้ วลามากกวา่ 1 ปจี งึ จะไดร้ บั การอนมุ ตั เิ ครอื่ งหมายฮาลาลส่งผลใหโ้ รงแรมเหลา่ น้ียกเลกิ การขอรับรอง (Battour et al., 2010; Razalli et al., 2013;Sabidin, 2015; Stephenson, 2014)ตารางท่ี 1 จำ� นวนโรงแรมและรีสอร์ตฮาลาลในประเทศมาเลเซีย จำ� แนกตามเขตการปกครอง รัฐและดนิ แดนสหพันธรฐั จ�ำนวน รัฐยะโฮร์ (Jahor) 71 รัฐเคดะห์ (Kedah) 41 รัฐกลนั ตนั (Kelantan) 16 รัฐมะละกา (Melaka) 51 รฐั เนกรี เซมบิลนั (Negeri Sembilan) 33 รฐั ปาหงั (Pahang) 60 รฐั เปรคั (Perak) 37 รฐั เปอร์ลิส (Perlis) 4 รฐั ปีนัง (Penang) 54 รฐั ซาบาห์ (Sabah) 46 รัฐซาราวัค (Sarawak) 58 รฐั สลังงอร์ (Selangor) 72 รัฐตรังกานู (Terngganu) 22 สหพันธรฐั ลาบวน (Wilayah Persekutuan Labuan) 4 สหพนั ธรฐั ปตุ ราจายา (Wilayah Persekutuan Putrajaya) 10 สหพันธรฐั กัวลาลมั เปอร์ (Wilayah Persekutuan Kuala Lumpur) 17 รวม 696ท่ีมา : JAKIM (2016) 136
วารสารมหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร ปีท่ี 38 ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2561มาตรฐานท่ีพกั เพือ่ การท่องเทีย่ วในประเทศไทย กรมการท่องเท่ียว กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬาร่วมกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เช่น มูลนิธิมาตรฐานโรงแรมไทย กรมการปกครอง การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย พัฒนามาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวได้จัดท�ำมาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเท่ียว และประกาศใช้ จำ� แนกเป็น 8 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. มาตรฐานทพ่ี กั สมั ผสั วฒั นธรรมชนบทหรอื โฮมสเตย์ (Homestay StandardThailand) พ.ศ. 2551 โดยเรมิ่ ประกาศใชใ้ นปี 2547 ประกอบดว้ ยมาตรฐานโฮมสเตยไ์ ทย10 ดา้ น 31 ดัชนีชว้ี ดั (Department of Tourism, Ministry of Tourism and Sports,2009b) 2. มาตรฐานที่พักเพ่ือการท่องเทยี่ วประเภทโรงแรมระดับ 5 ดาว โดยกำ� หนดมาตรฐานเปน็ มทท 202 มีคู่มือเล่ม 1: 2557 (Accommodation Standard for Tourism(Hotel) Part 1: 5 Stars, TTS 202 Part 1, 2014) มาตรฐานดงั กลา่ วนเี้ รม่ิ ประกาศใช้ครง้ั แรกในปี 2547 รายละเอยี ดมาตรฐานประกอบดว้ ย 12 หมวด 45 เกณฑ์ 499 ตวั ชว้ี ดั(Department of Tourism, Ministry of Tourism and Sports, 2014b) 3. มาตรฐานทพ่ี กั เพ่ือการทอ่ งเทีย่ วประเภทโรงแรมระดบั 1-4 ดาว ก�ำหนดมาตรฐาน มทท 202 เลม่ 2: 2557 (Accommodation Standard for Tourism (Hotel)Part 2, 1-4 Stars, TTS 202 Part 2, 2014) เรมิ่ ประกาศใชป้ ี 2547 รายละเอยี ดมาตรฐานประกอบดว้ ย 9 องคป์ ระกอบ 29 เกณฑ์ 103 ตวั ชวี้ ดั (Department of Tourism, Ministryof Tourism and Sports, 2014a) 4. มาตรฐานที่พักเพ่ือการท่องเที่ยวประเภทสถานพักตากอากาศ (รีสอร์ต)ระดบั 5 ดาว กำ� หนดเปน็ มาตรฐาน มทท 203 เลม่ 1: 2557 (Accommodation Standardfor Tourism (Resort) Part 1, 5 Stars, TTS 203 Part 1, 2014) เริม่ ประกาศใชป้ ี 2547รายละเอียดมาตรฐานประกอบดว้ ย 11 หมวด 42 เกณฑ์ 448 ตัวช้วี ดั (Department ofTourism, Ministry of Tourism and Sports, 2014c) 5. มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวประเภทสถานพักตากอากาศ (รีสอร์ต)ระดับ 1-4 ดาว รหัสมาตรฐาน มทท 203 เล่ม 2: 2557 (Accommodation Standard forTourism (Resort) Part 2, 1-4 Stars, TTS 203 Part 2, 2014) เร่มิ ประกาศใช้ปี 2547ท่พี กั ประเภทนมี้ ีการจ�ำแนกเกณฑ์อย่างชัดเจน โดยรีสอรต์ ระดบั 4 ดาว ประกอบดว้ ย11 หมวด 45 เกณฑ์ 331 ตัวชวี้ ัด รีสอรต์ ระดับ 3 ดาว ประกอบด้วย 9 หมวด 33 เกณฑ์232 ตัวชี้วัด รสี อรต์ ระดับ 2 ดาว ประกอบดว้ ย 8 หมวด 29 เกณฑ์ 168 ตัวช้ีวดั และรีสอร์ตระดบั 1 ดาว ประกอบด้วย 8 หมวด 28 เกณฑ์ 154 ตวั ชว้ี ัด (Department ofTourism, Ministry of Tourism and Sports, 2014d) 137
ความตอ้ งการรบั บรกิ ารดา้ นท่พี กั ของนักท่องเทีย่ วมุสลิม กันยปริณ ทองสามสี และคณะ 6. มาตรฐานทพี่ กั เพอ่ื การทอ่ งเทย่ี วประเภทบรกิ ารหอ้ งชดุ ประกาศใชค้ รงั้ แรกในปี 2550 รายละเอียดมาตรฐานประกอบด้วย 10 หมวด 35 เกณฑ์ 402 ตัวชี้วัด(Department of Tourism, Ministry of Tourism and Sports, 2009c) 7. มาตรฐานทพ่ี กั เพื่อการทอ่ งเทยี่ วประเภทเกสตเ์ ฮาส์ รายละเอยี ดมาตรฐานประกอบดว้ ย 9 หมวด 35 เกณฑ์ 402 ตัวช้ีวดั (Department of Tourism, Ministry ofTourism and Sports, 2009c) 8. มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวแบบพ�ำนักระยะยาว เป็นสถานที่ท่ีนกั ท่องเท่ยี วต้องใชเ้ วลาอย่ใู กล้สถานทีใ่ ดที่หนึง่ เป็นเวลานาน อาจมากกว่า 15 วัน หรอื1 เดือน รายละเอยี ดมาตรฐานประกอบดว้ ย 9 องคป์ ระกอบ 29 เกณฑ์ 103 ตัวชี้วดั(Department of Tourism, Ministry of Tourism and Sports, 2009a) โดยเมื่อศึกษารายละเอียดของมาตรฐานดังกล่าวพบว่ายังไม่มีการน�ำหลักความเชือ่ ของแต่ละศาสนามากำ� หนดเป็นตัวชว้ี ดั ในการให้บรกิ ารงานวจิ ยั ท่ีเก่ยี วข้องกบั ความต้องการบริการโรงแรมวถิ ีมสุ ลมิ ผู้วิจัยศึกษาโรงแรมวิถีมุสลิมโดยวิธีการปริทัศน์แบบพรรณนา (narrativeliterature review) ดว้ ยการสบื ค้นบทความวิจัยฐานขอ้ มูลอเิ ล็กทรอนิกส์จากฐานขอ้ มูลนานาชาติ SCOPUS, ProQuest และ Web of Science ค�ำส�ำคัญส�ำหรับการสืบค้นคอืค�ำว่า Shariah Compliant Hotel, Shariah Hotel, Islamic Hotel, Halal tourism ในชอ่ื เรอ่ื ง (title) ของบทความวจิ ยั การคดั เลอื กบทความวจิ ยั อาศยั หลกั เกณฑใ์ นการคดั เขา้และออก (inclusion/exclusion criteria) ที่ก�ำหนดข้ึน โดยเกณฑ์ในการคัดเข้า ได้แก่บทความวจิ ยั ทม่ี คี ณะกรรมการพจิ ารณากลน่ั กรองผลงานกอ่ นรบั ตพี มิ พ์ และตพี มิ พแ์ บบฉบับเต็ม หรอื วทิ ยานิพนธฉ์ บับเตม็ สว่ นเกณฑใ์ นการคัดออก ได้แก่ บทความวจิ ยั ทีม่ ีรายละเอียดเฉพาะบทคัดย่อ และไม่ได้ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ จากการสืบค้นได้มีการคัดเลือกงานวิจัยจ�ำนวน 14 เรื่อง เป็นงานวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา 3 เรื่องประเทศมาเลเซยี 6 เรอ่ื ง ประเทศนิวซีแลนด์ 1 เรือ่ ง ประเทศอิตาลี 1 เร่อื ง กลุ่มประเทศแถบเอเชยี 1 เร่อื ง และเป็นบทความวิชาการ 2 เร่อื ง จากการศึกษางานวิจัยที่เก่ียวข้อง สามารถสรุปความต้องการของผู้เข้าพักท่เี ปน็ มสุ ลมิ และสิง่ ทีค่ วรใหบ้ รกิ ารของโรงแรมเพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกับหลกั ศาสนาอิสลามโดยสามารถจำ� แนกความตอ้ งการของผเู้ ข้าพักได้ 7 ประเภท สรปุ ไดด้ ังตารางที่ 2 ดงั น้ี(Razzaq, Hall, Prayag, 2016; Al Jahwari, 2015; Nor Zafir, 2014; Sabidin, 2015;Samori, Salleh, Khalid, 2015; Shakona et al., 2015; Halkias, Pizzurno, Massis,Fragoudakis, 2014; Jafari & Scott, 2014; Razalli et al., 2013; Stephenson, 2014; 138
วารสารมหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร ปที ่ี 38 ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2561Shakona, 2013; Battour, Ismail, & Battor, 2011; Zulkifli et al. 2011; Battour et al., 2010)ตารางท่ี 2 แสดงความตอ้ งการของผเู้ ข้าพัก และลกั ษณะการจัดบรกิ ารของโรงแรมวถิ ีมุสลมิ ความตอ้ งการของผู้เขา้ พกั การให้บริการของโรงแรม1. ดา้ นการปฏิบัติศาสนกจิ - มเี อกสารบอกท่ตี งั้ มัสยดิ หรือห้องละหมาด- สถานท่ลี ะหมาด พร้อมเส้นทางสำ� หรบั เดนิ ทาง- การอาบน�้ำละหมาด - สายชำ� ระหรือโถสขุ ภัณฑใ์ นห้องนำ�้- สถานทลี่ ะหมาดที่สะอาด - บริการพรมสำ� หรบั ละหมาด หรือห้องละหมาด- ชดุ ส�ำหรบั สวมละหมาด - บรกิ ารชุดสวมเพ่ือละหมาด- ตารางเวลาส�ำหรับละหมาด - มีตารางเวลาส�ำหรับการละหมาดในห้องพักครบ ถว้ นทัง้ 5 เวลา และมปี ระกาศอะซานผ่านเครือ่ ง- ทศิ ทต่ี งั้ เมอื งเมกกะ รับฟงั- คัมภรี ์อัลกุรอาน- การสนทนาธรรมกับฮัจญยี ์ - สัญลกั ษณบ์ อกทิศทต่ี งั้ เมืองเมกกะ - บรกิ ารคมั ภรี ์อัลกุรอาน และไมม่ คี มั ภรี ์ของ ศาสนาอนื่ - มขี ้อมลู บรกิ ารเกีย่ วกับฮัจญยี ์ส�ำหรับผู้เข้าพัก- การทำ� ละหมาด - มีอหิ ม่ามเปน็ ผนู้ �ำละหมาดท้งั 5 เวลา2. ด้านการให้บรกิ ารของพนักงาน - พนักงานส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม โดย- พนักงานทใ่ี หบ้ รกิ าร พนักงานผู้ชายควรให้บริการผู้เข้าพักผู้ชาย ส่วน พนักงานบริการผ้หู ญงิ ควรใหบ้ ริการผู้เข้าพกั ที่เป็น- การแตง่ กายท่ีเหมาะสม ผูห้ ญงิ และครอบครัว - แต่งกายด้วยตามหลักศาสนา และสอดคล้อง วฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน 139
ความต้องการรับบริการด้านที่พกั ของนักท่องเทยี่ วมุสลมิ กนั ยปรณิ ทองสามสี และคณะตารางท่ี 2 แสดงความต้องการของผู้เขา้ พกั และลักษณะการจดั บริการของโรงแรมวิถีมุสลิม (ตอ่ ) ความตอ้ งการของผ้เู ข้าพกั การใหบ้ ริการของโรงแรม3. ด้านการออกแบบและการตกแต่ง - มีเคร่ืองหมายบอกทิศเมืองเมกกะหอ้ งพกั - เตียงนอนและหอ้ งนำ�้ ไม่ควรหนั ไปทางทิศ เมืองเมกกะ - ภาพท่ีตกแต่งในหอ้ งพักไม่ควรเป็นภาพมนษุ ย์ หรอื สตั ว์ - มีการแยกช้ันให้บริการส�ำหรับผู้เข้าพักผู้หญิงและ ผ้ชู าย4. ดา้ นอุปกรณ์ท่ีให้บรกิ ารในหอ้ งพัก - อปุ กรณท์ ใ่ี หบ้ รกิ ารในหอ้ งนำ้� ตอ้ งฮาลาล เชน่ เครอ่ื ง สำ� อาง สบู่ ยาสระผม ยาสฟี นั ตอ้ งปราศจากสารสกดั จากสัตว์ น้�ำยาบ้วนปากต้องไม่ผสมแอลกอฮอล ์ แปรงสีฟนั มิสวาก - ไมม่ เี คร่อื งดื่มแอลกอฮอลใ์ นห้องพัก5. ดา้ นการบรกิ ารช่วงการถอื ศลี อด - มีอาหารให้บริการถึงห้องพักก่อนเวลาเช้า หรือ- อาหาร บรกิ ารอาหารท่เี พียงพอภายในห้องอาหาร- ละหมาดตะรอวี - มผี ูน้ ำ� ละหมาดตะรอวี- อา่ นคมั ภีอลั กรุ อาน - บรกิ ารคมั ภีร์อลั กรุ อานในห้องพกั- รบั ชมโทรทศั น์ - บริการชอ่ งโทรทัศน์ท่เี หมาะสม6. ด้านการเงิน- บรกิ ารการเงินตามหลกั การเงนิ อิสลาม - มจี ุดบริการด้านการเงินอสิ ลาม- การจ่ายซากาต - มกี ารตั้งบริการรบั จา่ ยซากาต 140
วารสารมหาวทิ ยาลัยศิลปากร ปีท่ี 38 ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2561ตารางที่ 2 แสดงความต้องการของผูเ้ ข้าพัก และลักษณะการจัดบริการของโรงแรมวถิ ีมุสลมิ (ต่อ) ความตอ้ งการของผู้เข้าพัก การให้บรกิ ารของโรงแรม7. ด้านบริการทัว่ ไป- ดา้ นอาหาร - มีอาหารฮาลาลไว้บริการโดยได้รับการรับรอง เครอื่ งหมายฮาลาล และตอ้ งไมม่ เี ครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์- สง่ิ อ�ำนวยความสะดวก - บรกิ ารสระวา่ ยน้�ำ ห้องกฬี า และสปาทีแ่ ยกบรกิ าร ระหว่างผชู้ ายและผหู้ ญิง- สิง่ บันเทงิ ในหอ้ งพัก - มบี รกิ ารชอ่ งโทรทศั น์ทเี่ หมาะสม- การสันทนาการ - มหี นว่ ยงานใหบ้ รกิ ารดา้ นการทอ่ งเทย่ี ว หรอื ตาราง การเดนิ ทางตามวถิ ีมุสลมิ- สถานท่ที ีไ่ ม่ควรทอ่ งเท่ยี ว - มีเอกสารแสดงจุดที่ต้ังของสถานที่ที่ไม่เหมาะสม กบั มุสลมิ- ไม่บริการสงิ่ ต้องหา้ ม - ไม่มีสถานบันเทิง เช่น ไนต์คลับ ไม่มีเครื่องเล่น การพนัน- รถบรกิ ารรับ-สง่ ผูเ้ ข้าพัก - มพี นกั งานขบั รถผหู้ ญงิ คอยใหบ้ รกิ ารผเู้ ขา้ พกั ผู้หญิง และครอบครัว และมีพนักงานขับรถผู้ชายคอยให้ บรกิ ารผู้เขา้ พกั ผูช้ าย อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโรงแรมหรือท่ีพักประเภทอ่ืน สามารถก�ำหนดระดบั การใหบ้ รกิ ารตามหลักศาสนาอิสลามเป็น 3 ระดบั คือ ระดับต้น ระดับกลาง และระดบั สูงดังเชน่ ที่มีการจ�ำแนกในประเทศมาเลเซยี (Samori et al., 2015; Salleh, 2014;Zulkifli et al., 2011) ดงั ตารางท่ี 3 ดังนี้ 141
ความต้องการรับบรกิ ารดา้ นท่พี กั ของนกั ทอ่ งเทีย่ วมสุ ลิม กนั ยปรณิ ทองสามสี และคณะตารางที่ 3 แสดงการให้บรกิ ารโรงแรมส�ำหรับผเู้ ขา้ พกั มสุ ลิม ระดับการใหบ้ รกิ าร การบริการตามหลักศาสนาอสิ ลามระดับตน้ บรกิ ารอาหารฮาลาลโดยได้รบั การรับรองเครอ่ื งหมายฮาลาล, ไม่บรกิ ารระดบั กลาง เครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล์, สัญลกั ษณ์บอกทิศทีต่ ้งั เมอื งเมกกะ, บริการพรม ละหมาด และอ่างสำ� หรับอาบนำ�้ ละหมาดระดับสูง บริการสระว่ายน�้ำ ห้องกีฬา และสปา ที่แยกบริการระหว่างผู้ชายและ ผู้หญิง, มีบริการช่องโทรทัศน์ที่เหมาะสม, มีตารางเวลาส�ำหรับ การละหมาดในหอ้ งพกั ครบถว้ นทง้ั 5 เวลา, มเี อกสารบอกทตี่ ง้ั มสั ยดิ หรอื หอ้ งละหมาดพรอ้ มเสน้ ทางสำ� หรบั เดนิ ทาง, เตยี งนอนและหอ้ งนำ�้ ไมค่ วร หนั ไปทางทศิ เมอื งเมกกะ, มีจดุ บรกิ ารดา้ นการเงนิ อสิ ลาม และมีสถานท่ี สำ� หรับท�ำละหมาดร่วมกนั ของมสุ ลิม บรกิ ารอปุ กรณส์ ำ� หรบั การอาบนำ้� ละหมาด, บรกิ ารชดุ สวมเพอ่ื ละหมาด, มีประกาศอะซานผ่านเคร่ืองรับฟังเพื่อเตรียมละหมาด, บริการคัมภีร์ อัลกุรอาน และไม่มีคัมภีร์ของศาสนาอ่ืน, มีอิหม่ามเป็นผู้น�ำละหมาด ท้ัง 5 เวลา, พนกั งานส่วนใหญน่ บั ถอื ศาสนาอิสลาม โดยพนักงานผู้ชาย ควรให้บริการผู้เข้าพักผู้ชาย ส่วนพนักงานบริการผู้หญิงควรให้บริการ ผู้เข้าพักท่ีเป็นผู้หญิง และครอบครัว, พนักงานแต่งกายด้วยตามหลัก ศาสนา และสอดคลอ้ งวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ , ภาพทต่ี กแตง่ ในหอ้ งพกั ไมค่ วร เป็นภาพมนุษย์หรือสัตว์, แยกช้ันให้บริการส�ำหรับผู้เข้าพักผู้หญิงและ ผชู้ าย, อุปกรณ์ทีใ่ หบ้ รกิ ารในหอ้ งนำ�้ ต้องฮาลาล เช่น เคร่ืองส�ำอาง สบู่ ยาสระผม ยาสฟี นั ตอ้ งปราศจากสารสกดั จากสตั ว์ นำ�้ ยาบ้วนปากต้อง ไมผ่ สมแอลกอฮอล์ แปรงสฟี นั มสิ วาก, ไมม่ เี ครอื่ งดมื่ แอลกอฮอลใ์ นหอ้ งพกั , มีบริการเฉพาะส�ำหรับผู้ที่ถือศีลอด, มีการต้ังบริการรับจ่ายซากาต, มีหนว่ ยงานใหบ้ รกิ ารด้านการทอ่ งเทีย่ ว หรอื ตารางการเดินทางตามวถิ ี มุสลมิ , มเี อกสารแสดงจดุ ทต่ี ัง้ ของสถานท่ที ่ีไมเ่ หมาะสมกับมสุ ลมิ , ไมม่ ี สถานบนั เทิง เชน่ ไนตค์ ลับ ไมม่ เี คร่ืองเล่นการพนนั , มีพนกั งานขับรถ ผหู้ ญิงคอยใหบ้ รกิ ารผ้เู ข้าพกั ผหู้ ญิงและครอบครัว และมพี นักงานขับรถ ผชู้ ายคอยให้บริการผู้เข้าพักผ้ชู ายสรุปและข้อเสนอแนะ จากการศกึ ษาความตอ้ งการรบั บรกิ ารทพ่ี กั ทส่ี อดคลอ้ งกบั หลกั ศาสนาอสิ ลามพบวา่ สามารถจำ� แนกความตอ้ งการของผเู้ ขา้ พกั ได้ 7 ประเภท ไดแ้ ก่ การปฏบิ ตั ศิ าสนกจิการให้บริการของพนักงาน การออกแบบและการตกแต่งห้องพัก อุปกรณ์ที่ให้บริการในห้องพัก การบริการช่วงการถือศีลอด การเงิน และการบริการท่ัวไป หากแต่เม่ือ 142
วารสารมหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร ปีท่ี 38 ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2561พิจารณามาตรฐานท่ีพักเพ่ือการท่องเที่ยวของประเทศไทยพบว่ายังไม่มีการน�ำหลักความเช่ือทางศาสนามาใช้ประกอบการก�ำหนดมาตรฐานการบริการที่พัก ดังน้ันกรมการท่องเท่ียวและหน่วยงานที่เก่ียวข้องควรมีนโยบายพัฒนามาตรฐานที่พักเพื่อรองรบั นกั ทอ่ งเทย่ี วมสุ ลมิ โดยขอความรว่ มมอื จากผนู้ ำ� ทางศาสนาหรอื ผเู้ ชยี่ วชาญหลกัศาสนาอิสลามมาร่วมกันพัฒนาเกณฑม์ าตรฐาน และประกาศใช้อย่างเปน็ ทางการ ทง้ั นี้เพ่ือสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวมุสลิมท่ีเข้ารับบริการมากข้ึน จากนั้นพัฒนาหลักสูตรส�ำหรับฝึกอบรมผู้ประกอบการที่สนใจพัฒนาท่ีพักส�ำหรับนักท่องเที่ยวมุสลิมโดยเฉพาะใหค้ รอบคลมุ พนื้ ทท่ี งั้ ในสว่ นกลางและตา่ งจงั หวดั อนง่ึ การพฒั นาทพ่ี กั ตามหลกัศาสนาอสิ ลามระยะแรกอาจจะไมส่ ามารถดำ� เนนิ การไดเ้ ตม็ รปู แบบ จงึ ควรนำ� ความตอ้ งการจ�ำเป็นข้ันพื้นฐานมาเริ่มให้บริการก่อน คือ บริการอาหารฮาลาลโดยได้รับการรับรองเครอื่ งหมายฮาลาล ไมบ่ รกิ ารเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์ มสี ญั ลกั ษณบ์ อกทศิ ทตี่ งั้ เมอื งเมกกะในห้องพกั บริการพรมละหมาด และอ่างสำ� หรบั อาบน้�ำละหมาด โดยท่พี ักหรอื โรงแรมท่ีสามารถให้บริการได้ตามมาตรฐานข้างต้นควรน�ำเสนอข้อมูลบริการบนเว็บไซต์เพ่ือนกั ทอ่ งเทยี่ วสามารถสบื คน้ ไดจ้ ากทว่ั โลกและใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ประกอบการตดั สนิ ใจเดนิ ทางท่องเท่ียว อย่างไรก็ตาม จากการสืบค้นงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องกับการท่องเที่ยววิถีมุสลิมและผลงานวิชาการท่ีเก่ียวข้องในประเทศไทยพบว่ายังมีน้อยมาก เน้ือหาที่ปรากฏในบทความฉบับน้ีล้วนเป็นงานวิจัยของต่างประเทศ ดังนั้น เพ่ือท�ำความเข้าใจความต้องการด้านท่ีพักของนักท่องเที่ยวมุสลิมท่ีเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยหรือแม้แต่นักท่องเท่ียวชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามมากข้ึน นักวิจัยท่ีสนใจสามารถน�ำข้อค้นพบในคร้ังนี้ไปใช้ประกอบการเรียนการสอนในวิชาท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดการทอ่ งเทีย่ ว และสามารถนำ� ไปใช้ประกอบการพัฒนางานวจิ ัยได้ 143
ความตอ้ งการรบั บริการดา้ นท่ีพักของนกั ท่องเทยี่ วมุสลิม กนั ยปรณิ ทองสามสี และคณะ ReferencesAbdullah, S. (2007). GCC urged to intensify role in Islamic tourism. Retrieved June 1, 2016 from http://memrieconomicblog.org/bin/content. cgi?article2084Al Jahwari, D. S. (2015). An integrative model of Muslim students’ religiosity and travelling behavior to gaming destinations. Doctoral dissertation, University of South Carolina, Columbia. Retrieved May 1, 2016 from http://scholarcommons.sc.edu/etd/3214Aree, S. (2016). Halal tourism: opportunity of Thailand for the ASEAN economic community (การท่องเท่ียววถิ ีอิสลาม : โอกาสของไทยในประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน). Journal of Humanities and social Sciences, Rangsit University, 10(18), 1-17. Retrieved August 3, 2016 from http://www.rsu. ac.th/jla/public/upload/journal/article/abstract/20160630abstractFV453.pdf_______. (2015, July 10). Halal Tourism 2015 (การท่องเที่ยววิถีมุสลิม 2015). Kom Chad Luek, Retrieved April 14, 2016 from http://www.komchadluek. net/detail/20150710/209490.htmlBattour, M. M., Ismail, M. N., & Battor, M. (2010). Toward a halal tourism market. Tourism Analysis, 15(4), 461-470. doi:10.3727/108354210X12864727453304_______. (2011). The impact of destination attributes on Muslim tourist’s choice. International Journal of Tourism Research, 13(6), 527–540. doi:10.1002/jtr.824Department of Tourism, Ministry of Tourism and Sports. (2009a). Longstay standardThailand(มาตรฐานทพ่ี กั เพอ่ื การทอ่ งเทย่ี วแบบพำ� นกั ระยะยาว) [Online]. Retrieved July 16, 2016 from http://61.19.55.30/dotdoc/v3/docs/ service/LongstayStandard.pdf_______. (2009b). Homestay Standard Thailand (มาตรฐานโฮมสเตย์ไทย พ.ศ.2551) (4th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Printing House._______. (2009c). Accommodation standard for tourism: hotel, resort, serviced apartment, guesthouse (มาตรฐานที่พักเพ่ือการท่องเท่ียว: โรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และเกสต์เฮาส์) (2nd ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Printing House. 144
วารสารมหาวิทยาลัยศลิ ปากร ปที ่ี 38 ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2561Department of Tourism, Ministry of Tourism and Sports. (2014a). 1-4-starstandard hotel in Thailand (มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย มาตรฐานท่ีพักเพ่ือ การท่องเท่ยี ว (เลม่ ที่ 2) ประเภทโรงแรม ระดบั 1-4 ดาว). Bangkok: The War Veterans Organization of Thailand under Royal Patronage of His Majesty the King Printing._______. (2014b). 5-star standard hotel in Thailand (มาตรฐานท่ีพักเพื่อ การทอ่ งเทยี่ วประเภทโรงแรมระดบั 5ดาว) [Online]. Retrieved July 16, 2016 from http://thaihotels.org/wp-content/uploads._______. (2014c). 5-star standard Resort in Thailand (มาตรฐานการทอ่ งเทย่ี วไทย มาตรฐานทพี่ กั เพอื่ การทอ่ งเทยี่ ว (เลม่ ท่ี 1) ประเภทสถานพกั ตากอากาศ (รีสอร์ต 5 ดาว)). Bangkok: The War Veterans Organization of Thailand under Royal Patronage of His Majesty the King Printing._______. (2014d). 1-4-star standard Resort in Thailand (มาตรฐานการทอ่ งเทยี่ วไทย มาตรฐานทพี่ กั เพอื่ การทอ่ งเทย่ี ว (เลม่ ที่ 2) ประเภทสถานพกั ตากอากาศ (รีสอร์ต 1-4 ดาว)). Retrieved August 7, 2016 from http://thaits.org/tts_pr/ มาตรฐานทพ่ี กั เพอ่ื การท-6Halkias, D., Pizzurno, E., Massis, A. D., & Fragoudakis, M. (2014). Halal products and services in the Italian tourism and hospitality industry: brief case studies of entrepreneurship and innovation. Journal of Developmental Entrepreneurship, 19(2), 1450012(1-12). doi:10.1142/S1084946714500125Jafari, J. & Scott, N. (2014). Muslim world and its tourisms. Annals of Tourism Research, 44, 1–19. doi:10.1016/j.annals.2013.08.011JAKIM. (2016). Halal Malaysia. Retrieved July 23, 2016 from http://www.halal. gov.my/v4/index.php/en/Prachachat Online. (2015, March 11). “Malay” soaring number one contributing halal tourism (ทอ่ งเทย่ี วฮาลาลรงุ่ “มาเลย”์ ลวิ่ เบอร1์ เออ้ื มสุ ลมิ ). Prachachat, Retrieved June 11, 2016 from http://www.prachachat.net/news_detail. php?newsid=1426047939Salleh, N. Z. M. (2014). In Radzi et al. (Eds.). Establishing Shariah-compliance hotel characteristics from the Muslim needs perspective (1st ed.). Theory and Practice in Hospitality and Tourism Research, United Kigndom: Taylor & Francis Group. doi:10.13140/2.1.1868.7043 145
ความตอ้ งการรับบรกิ ารดา้ นทพ่ี กั ของนกั ท่องเทยี่ วมสุ ลิม กนั ยปรณิ ทองสามสี และคณะMinistry of Tourism and Sports. (2016). International tourist statistics in Thailand during January-December 2015. Retrieved July 20, 2016 from http://www.tourism.go.th/home/details/11/221/24710Nor Zafir, M. S. (2014). Establishing shariah-compliance hotel characteristics from a Muslim needs perspective. In Radzi et al. (Eds.), Theory and Practice in Hospitality and Tourism Research. London: Taylor& Francis Group. doi:10.13140/2.1.1868.7043Razalli, M. R., Yusoff, R. Z., & Roslan, M. W. M. (2013). A framework of halal certification practices for hotel industry. Asian Social Science, 9(11), 316-326.Razzaq, S., Hall, C. M., & Prayag, G. (2016). The capacity of New Zealand to accommodate the halal tourism market-or not. Tourism Management Perspectives, 18, 92–97. doi:10.1016/j.tmp.2016.01.008Sabidin, F. B. (2015). Halal hotels in Malaysia: certification, issues and challenges. Tourism and Hospitality Essentials (THE) Journal, 5(2), 897-902.Samori, Z., Salleh, N. Z. M., & Khalid, M. M. (2015). Current trends on halal tourism: cases on selected Asian countries. Tourism Management Perspectives, 19, 131-136. doi:10.1016/j.tmp.2015.12.011Shakona, M., Backman, K., Backman, S., Norman, W., Luo, L., & Duffy, L. (2015). Understanding the traveling behavior of Muslims in the United States. International Journal of Culture, Tourism and Hospitality Research, 9(1), 22–35. doi:10.1108/IJCTHR-05-2014-0036Shakona, M. Y. (2013). The influence of religiosity on the intention of United States Muslim tourists to choose a shariah compliant hotel. Doctoral dissertation, the Graduate Sฝchool of Clemson University, South Carolina, USA.Stephenson, M. L. (2014). Deciphering ‘Islamic Hospitality’: developments, challenges and opportunities. Tourism Management, 40, 155-164. doi: 10.1016/j.tourman.2013.05.002Tourism Authority of Thailand News. (2015a). TAT Launches “Muslim friendly destination” for Muslim traveler market in the TTM+ 2015 at Impact Muang Thong Thani (ททท. รุกกลุ่มตลาดนักท่องเท่ียวมุสลิมเปิดตัว 146
วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร ปีที่ 38 ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2561 โครงการ “Muslim Friendly Destination” ภายในงาน TTM+ 2015 ณ อิม แพค เมืองทองธานี). Retrieved June 30, 2016 from http://www. tatnewsthai.org/detail.php?newsID=3951Tourism Authority of Thailand News. (2015b). Debuts applications for “Thailand Muslim friendly destination” gathering the resources of Muslim tourists (เปดิ ตวั แอพพลเิ คชน่ั “Thailand Muslim Friendly Destination” รวมแหล่งข้อมูลท่องเที่ยวรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิม). Retrieved June 30, 2016 from http://www.tatnewsthai.org/detail.php?newsID=3949Zulkifli, W. S. W., Rahman, S. A., Awang, K. W., & Man, Y. B. C. (2011). Developing the framework for halal friendly tourism in Malaysia. International Business Management, 5(6), 295-302. doi:10.3923/ibm.2011.295.302 147
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: