Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบหายใจ

ระบบหายใจ

Published by ronnapoj.lamom, 2020-08-30 22:55:46

Description: ระบบหายใจ

Search

Read the Text Version

ระบบหายใจ(RESPIRATORY SYSTEM) นายรณพจน์ ละม่อม โรงเรียนเทศบาลสันป่ ายางหน่อม





ระบบหายใจ มนุษยท์ ุกคนตอ้ งหายใจเพ่ือมีชีวติ อยู่ การหายใจเขา้ อากาศผา่ นไปตามอวยั วะของระบบหายใจ ตามลาดบั ดงั น้ี 1.จมูก (Nose) จมูกส่วนนอกเป็ นส่วนที่ยืน่ ออกมาจากตรงก่ึงกลางของใบหนา้ รูปร่างของจมูกมีลกั ษณะเป็นรูป สามเหล่ียมพีระมิด ฐานของรูปสามเหลี่ยมวางปะ ติดกบั หนา้ ผากระหวา่ งตาสองขา้ ง สนั จมูกหรือด้งั จมูก มีรูปร่างและขนาดตา่ งๆกนั ยนื่ ต้งั แต่ฐานออกมาขา้ งนอกและลงขา้ งล่างมาสุดท่ีปลายจมูก อีก ดา้ นหน่ึงของรูปสามเหล่ียมหอ้ ยติดกบั ริมฝีปากบนรู จมูกเปิ ดออกสู่ภายนกทางดา้ นน้ี รูจมูกทา หนา้ ท่ีเป็นทางผา่ นของอากาศที่หายใจเขา้ ไปยงั ช่องจมูกและกรองฝ่ นุ ละอองดว้ ย 2. หลอดคอ (Pharynx) เมื่ออากาศผา่ นรูจมูกแลว้ ก็ผา่ นเขา้ สู่หลอดคอ ซ่ึงเป็นหลอดต้งั ตรงยาวประมาณยาวประมาณ 5 \" หลอดคอติดตอ่ ท้งั ช่องปากและช่องจมูก จึงแบ่งเป็นหลอดคอส่วนจมูก กบั หลอดคอส่วนปาก โดยมี เพดานอ่อนเป็นตวั แยกสองส่วนน้ีออกจากกนั โครงของหลอดคอประกอบดว้ ยกระดูกออ่ น 9 ชิ้น ดว้ ยกนั ชิ้นที่ใหญ่ทีสุด คือกระดูกธยั รอยด์ ที่เราเรียกวา่ \"ลูกกระเดือก\" ในผชู้ ายเห็นไดช้ ดั กวา่ ผหู้ ญิง 3. หลอดเสียง (Larynx) เป็นหลอดยาวประมาณ 4.5 cm ในผชู้ าย และ 3.5 cm ในผหู้ ญิง หลอดเสียงเจริญเติยโตข้ึนมา เรื่อยๆ ตามอายุ ในวยั เริ่มเป็นหนุ่มสาว หลอดเสียงเจริญข้ึนอยา่ งรวดเร็ว โดยเฉพาะในผชู้ าย เน่ืองจากสายเสียง (Vocal cord) ซ่ึงอยภู่ ายในหลอดเสียงน้ียาวและหนาข้ึนอยา่ งรวดเร็วเกินไป จึงทา ใหเ้ สียงแตกพร่า การเปล่ียนแปลงน้ีเกิดจากฮอร์โมนของเพศชาย 4. หลอดลม (Trachea) เป็นส่วนที่ต่ออกมาจากหลอดเสียง ยาวลงไปในทรวงอก ลกั ษณะรูปร่างของหลอดลมเป็นหลอด กลมๆ ประกอบดว้ ยกระดูกอ่อนรูปวงแหวน หรือรูปตวั U ซ่ึงมีอยู่ 20 ชิ้น วางอยทู่ างดา้ นหลงั ของ หลอดลม ช่องวา่ ง ระหวา่ งกระดูกอ่อนรูปตวั U ท่ีวางเรียงต่อกนั มีเน้ือเยอื่ และกลา้ มเน้ือเรียบมายดึ ติดกนั การที่หลอดลมมีกระดูกอ่อนจึงทาใหเ้ ปิ ดอยตู่ ลอดเวลา ไม่มีโอกาสที่จะแฟบเขา้ หากนั ไดโ้ ดย แรงดนั จากภายนอก จึงรับประกนั ไดว้ า่ อากาศเขา้ ไดต้ ลอดเวลา หลอดลม ส่วนที่ตรงกบั กระดูกสนั หลงั ช่วงอกแตกแขนงออกเป็ นหลอดลมแขนงใหญ่ (Bronchi) ขา้ งซา้ ยและขวา เม่ือเขา้ สู่ปอดก็แตก แขนงเป็นหลอดลมเลก็ ในปอดหรือที่เรียกวา่ หลอดลมฝอย (Bronchiole) และไปสุดที่ถุงลม (Aveolus) ซ่ึงเป็นการที่อากาศอยู่ ใกลก้ บั เลือดในปอดมากท่ีสุด จึงเป็นบริเวณแลกเปล่ียนกา๊ ซ ออกซิเจน กบั คาร์บอนไดออกไซด์ 5. ปอด (Lung) ปอดมีอยสู่ องขา้ ง วางอยใู่ นทรวงอก มีรูปร่างคลา้ ยกรวย มีปลายหรือยอดช้ีข้ึนไปขา้ งบนและไป สวมพอดีกบั ช่องเปิ ดแคบๆของทรวงอก ซ่ึงช่องเปิ ดแคบๆน้ีประกอบข้ึนดว้ ยซ่ีโครงบนของกระดูก

สนั อกและกระดูกสนั หลงั ฐานของปอดแต่ละขา้ งจะใหญ่และวางแนบสนิทกบั กระบงั ลม ระหวา่ งปอด 2 ขา้ ง จะพบวา่ มีหวั ใจอยู่ ปอดขา้ งขวาจะโตกวา่ ปอดขา้ งซา้ ยเล็กนอ้ ย และมีอยู่ 3 กอ้ น ส่วนขา้ งซา้ ยมี 2 กอ้ น หนา้ ที่ของปอดคือ การนากา๊ ซ CO2 ออกจากเลือด และนาออกซิเจนเขา้ สู่เลือด ปอดจึงมีรูปร่าง ใหญ่ มีลกั ษณะยดื หยนุ่ คลา้ ยฟองน้า 6. เยื่อหุ้มปอด (Pleura) เป็นเยอ่ื ที่บางและละเอียดอ่อน เปี ยกช้ืน และเป็นมนั ลื่น หุม้ ผวิ ภายนอกของปอด เยื่อหุม้ น้ี ไม่ เพียงคลุมปอดเท่าน้นั ยงั ไปบุผวิ หนงั ดา้ นในของทรวงอกอีก หรือกล่าวไดอ้ ีกอยา่ งหน่ึงวา่ เยอื่ หุม้ ปอดซ่ึงมี 2 ช้นั ระหวา่ ง 2 ช้นั น้ีมี ของเหลวอยนู่ ิดหน่อย เพ่อื ลดแรงเสียดสี ระหวา่ งเย่ือหุม้ มีโพรง วา่ ง เรียกวา่ ช่องระหวา่ งเยอื่ หุ้มปอด กระบวนการในการหายใจ ในการหายใจน้นั มีโครงกระดูกส่วนอกและ กลา้ มเน้ือบริเวณอกเป็นตวั ช่วยขณะหายใจเขา้ กลา้ ม เน้ือหลายมดั หดตวั ทาใหท้ รวงอกขยายออกไปขา้ งหนา้ และยกข้ึนบน ในเวลาเดียวกนั กะบงั ลมจะ ลดต่าลง การกระทาท้งั สองอยา่ งน้ีทาใหโ้ พรงของทรวงอกขยาย ใหญม่ ากข้ึน เม่ือกลา้ มเน้ึอหยดุ ทางานและหยอ่ นตวั ลง ทรวงอกยบุ ลงและความดนั ในช่องทอ้ งจะดนั กะบงั ลม กลบั ข้ึนมาอยใู่ น ลกั ษณะเดิม กระบวนการเข่นน้ีทาให้ ความดนั ในปอดเพ่ิมข้ึน เม่ือความดนั ในปอดเพ่ิมข้ึนสูง กวา่ ความดนั ของบรรยากาศ อากาศจะถูกดนั ออกจาก ปอด ฉะน้นั จึงสรุปไดว้ า่ ปัจจยั ประการแรกที่ทา ให้ อากาศมีการเคลื่อนไหวเขา้ ออกจากปอดไดน้ ้นั เกิด จากความดนั ที่แตกต่างกนั นน่ั เอง การแลกเปลยี่ นก๊าซและการใช้ออกซิเจน เม่ือเราหายใจเขา้ อากาศภายนอกเขา้ สู่อวยั วะ ของระบบหายใจไปยงั ถุงลมในปอด ที่ผนงั ของถุง ลมมีหลอดเลือดแดงฝอยติดอยู่ ดงั น้นั อากาศจึงมีโอกาสใกลช้ ิดกบั เมด็ เลือดแดงมากออกชิเจนกจ็ ะ ผา่ นผนงั น้ีเขา้ สู่เมด็ เลือดแดง และคาร์บอนไดออกไชดก์ ็จะออกจากเมด็ เลือดผา่ นผนงั ออกมาสู่ถุงลม ปกติในอากาศมีออกชิเจนร้อยละ 20 แต่อากาศที่เราหายใจมีออกขิเจนร้อยละ 13 กระบวนการหายใจ การหายใจเข้าและหายใจออก การหายใจเข้าและหายใจออก การหายใจเขา้ และหายใจออกเกิดจากการทางานของกลา้ มเน้ือกะบงั ลมและกลา้ มยดึ กระดูก ซี่โครง

การหายใจเข้า กลา้ มเน้ือกะบงั ลมหดตวั และกลา้ มเน้ือยดึ กระดูกซี่โครงดึงกระดูกซ่ีโครง ใหย้ กตวั ข้ึน ปริมาตรของช่องอกท่ีเพ่มิ ข้ึน ทาใหค้ วามดนั ในช่องอกลดลง ส่งผลใหอ้ ากาศจาก ภายนอกเคล่ือนที่เขา้ สู่ปอด การหายใจออก กลา้ มเน้ือกะบงั ลมคลายตวั จะยกตวั สูงข้ึน เป็นจงั หวะเดียวกบั กระดูก ซ่ีโครงลดต่าลง ทาใหป้ ริมาตรในช่องอกลดลง ความดนั เพ่ิมข้ึน มากกวา่ ความดนั ของอากาศ ภายนอก อากาศจึงเคลื่อนท่ีออกจากปอด แผนภูมแิ สดงสัดส่วนของแก๊สชนิดต่าง ๆ ในลมหายใจเข้าและออก ความจุอากาศของปอด ความจุอากาศของปอดในแต่ละคนจะแตกต่างกัน ขึน้ อย่กู ับ 1. เพศ เพศชายจะมคี วามจุปอดมากกว่าเพศหญิง 2. สภาพร่างกาย นกั กีฬามคี วามจุของปอดมากกว่าคนปกติ 3. อายุ ผ้สู ูงอายจุ ะมคี วามจุปอดลดลง 4. โรคทเี่ กดิ กบั ปอด โรคบางชนิด เช่นถงุ ลมโป่ งพอง โรคมะเร็งจะทาให้มคี วามจุปอด ลดลง

ปัจจยั ท่ีมีผลต่อการกาหนดอตั ราการหายใจเขา้ และการหายใจออกท่ีสาคญั ประการหน่ึง คือ ความเขม้ ขน้ ของแกส๊ คาร์บอนไดออกไซดใ์ นเลือด เช่น ในขณะ ท่ีเรากล้นั หายใจ ความ เขม้ ขน้ ของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ในเลือดจะสูงข้ึน ซ่ึงความเขม้ ขน้ ท่ีเพ่ิมข้ึนน้ีจะไป กระตุน้ การทางานของร่างกายใหเ้ กิดการหายใจข้ึนจนได้ ในขณะท่ีนอนหลบั ร่างกายจะถูก กระตุน้ นอ้ ยลง จึงทาใหก้ ารหายใจเป็นไปอยา่ งชา้ ความเขม้ ขน้ ของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ในเลือดที่มีมากเกินไป เป็นอีกสาเหตุ หน่ึงท่ีทาให้เกิดอาการหาว ซ่ึงการหาวที่เกิดข้ึนน้นั ก็ เพ่ือ เป็ นการขบั เอาแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ท่ีสะสมอยมู่ ากเกินไปออกจากร่างกาย :: การไอ การจาม การหาวและการสะอกึ :: อาการที่เกี่ยวขอ้ งกบั การหายใจมีดงั น้ี 1. การจาม เกิดจากการหายใจเอาอากาศที่ไมส่ ะอาดเขา้ ไปในร่างกาย ร่างกายจึงพยายามขบั สิ่ง แปลกปลอมเหล่าน้นั ออกมา นอกร่างกาย โดยการหายใจเขา้ ลึกแลว้ หายใจออกทนั ที 2. การหาว เกิดจากการท่ีมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซดส์ ะสมอยใู่ นเลือดมากเกินไป จึง ตอ้ งขบั ออกจากร่างกาย โดย การหายใจเขา้ ยาวและลึก เพื่อรับแก๊สออกซิเจนเขา้ ปอดและแลกเปล่ียนก๊าซ คาร์บอนไดออกไซดอ์ อกจากเลือด 3. การสะอึก เกิดจากกะบงั ลมหดตวั เป็นจงั หวะๆ ขณะหดตวั อากาศจะถูกดนั ผา่ นลงสู่ปอด ทนั ที ทาใหส้ ายเสียงสน่ั เกิดเสียงข้ึน 4. การไอ เป็นการหายใจอยา่ งรุนแรงเพื่อป้องกนั ไม่ใหส้ ่ิงแปลกปลอมหลุดเขา้ ไปในกล่อง เสียงและหลอดลม ร่างกายจะมี การหายใจเขา้ ยาวและหายใจออกอยา่ งแรง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook