Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มที่ 2 ประเภทเครื่องตี เครื่องเป่า

เล่มที่ 2 ประเภทเครื่องตี เครื่องเป่า

Published by ครูแพม ภิญญดา, 2022-07-24 15:26:23

Description: เล่มที่ 2 ประเภทเครื่องตี เครื่องเป่า

Search

Read the Text Version

ก คานา แบบฝึกทักษะ ดนตรีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) สาหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้จัดทาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและเป็น แนวทางสาหรับครูได้นาไปใช้ในการดาเนินการสอนดนตรีไทยในโรงเรียน โดยมุ่งหวังให้บรรลุ วัตถุประสงค์ของหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษา มี ก า ร วั ด ผ ล ป ร ะ เ มิ น ผ ล ค ร อ บ ค ลุ ม ทุ ก ตั ว ชี้ วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ อั น พึ ง ป ร ะ ส ง ค์ แบบฝกึ ทักษะ ดนตรไี ทย มีทั้งหมด 5 เล่ม ดงั น้ี เล่มที่ 1 เรื่อง ประเภทเคร่อื งดดี เคร่อื งสี เล่มที่ 2 เรือ่ ง ประเภทเครอ่ื งตี เครื่องเป่า เล่มที่ 3 เรื่อง วงดนตรีไทย เล่มที่ 4 เรือ่ ง ดนตรีพื้นบ้าน เล่มที่ 5 เรือ่ ง การใช้และดูแลรกั ษาเครือ่ งดนตรไี ทย ในการใช้แบบฝึกทักษะ ดนตรีไทย ควรใช้เอกสารเรียงลาดับจากเล่มที่ 1 ถึงเล่มที่ 5 เพื่อความต่อเนื่องของเนื้อหา ซึ่งสอนจากง่ายไปหายาก ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่ า แบบฝึกทักษะเล่มนี้จะเกิดประโยชน์แก่นักเรียนและผู้ที่ศึกษาค้นคว้า ขอขอบพระคุณ ครูอาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ รวมท้ังผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์และให้คาแนะนา อย่างดยี ิ่ง ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ ภญิ ญดา เภาพงศ์

สารบญั ข เรือ่ ง หน้า คานา ก สารบัญ ข สาระและจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1 ขั้นตอนการใช้แบบฝกึ ทักษะ ดนตรีไทย 2 คาชีแ้ จงสาหรบั ครู 3 คาชแี้ จงสาหรบั นกั เรียน 4 แบบทดสอบก่อนเรียน 5 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน 9 เครื่องดนตรีไทยประเภทเคร่อื งตี 10 แบบฝกึ หดั ที่ 1 42 แบบฝกึ หัดที่ 2 43 เครือ่ งดนตรีไทยประเภทเครอ่ื งเป่า 44 แบบฝกึ หัดที่ 3 52 แบบฝกึ หัดที่ 4 54 แบบทดสอบหลังเรยี น 55 กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรยี น 59 บรรณานุกรม 60 ภาคผนวก 67 68 เฉลยแบบฝกึ หัดที่ 1 69 เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ 2 70 เฉลยแบบฝกึ หัดที่ 3 72 เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ 4 73 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 74 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น

1 สาระและจดุ ประสงค์การเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ ดนตรไี ทย เล่มท่ี 2 ประเภทเครื่องตี เครือ่ งเปา่ มาตรฐานการเรียนรู้ ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า ดนตรี ถ่ายทอดความรสู้ ึก ความคิดตอ่ ดนตรีอย่างอสิ ระ ชื่นชม และประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ตวั ชี้วดั ม.1/4 จัดประเภทของวงดนตรไี ทยและวงดนตรที ีม่ าจากวฒั นธรรมต่าง ๆ สาระสาคญั เคร่ืองดนตรีไทยประเภทเคร่ืองตี เป็นเคร่ืองดนตรีที่เกิดเสียงจากการกระทบกันของวัตถุ โดยวัตถุที่กระทบอาจจะเป็นโลหะหรือไม้ นับว่าเป็นประเภทที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์รู้จักใช้ เนื่องจากค้นพบเปน็ ประเภทแรก เคร่ืองดนตรีไทยประเภทเครื่องเป่า เป็นเครื่องดนตรีที่ทาให้เกิดเสียงโดยการใช้ลมเป่า ผา่ นท่อซึ่งทาหน้าที่เปน็ ตัวขยายเสียง อุปกรณ์ดง้ั เดิมทีใ่ ช้เป่า ได้แก่ หลอดไม้ ใบไม้ เป็นต้น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ : นกั เรียนสามารถ 1.1 บอกชื่อของเครือ่ งดนตรีไทยประเภทเครือ่ งตี เครื่องเป่าได้ถูกต้อง 1.2 บอกส่วนประกอบของเครือ่ งดนตรีไทยประเภทเครือ่ งตี เครื่องเป่าได้ถกู ต้อง 1.3 จัดประเภทเครือ่ งดนตรีไทยประเภทเครือ่ งตี เครื่องเป่าได้ถูกต้อง 2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 2.1 นักเรียนมที กั ษะในการฟงั และแยกเสียงเครอ่ื งดนตรไี ด้ 3. ด้านคุณลักษณะ 3.1 มีวินัย 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 รักความเป็นไทย

2 ขั้นตอนการใช้แบบฝกึ ทักษะ ดนตรไี ทย เลม่ ที่ 2 ประเภทเครอื่ งตี เครือ่ งเปา่ 1. อ่านคาชีแ้ จงและคาแนะนาการใช้แบบฝกึ ทักษะ ดนตรไี ทย 2. ศกึ ษาแบบฝกึ ทกั ษะ ดนตรไี ทยโดยปฏิบัติ ดังน้ี ไม่ผ่านเกณฑ์ 2.1 ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2.2 ศึกษาใบความรู้ 2.3 ทาแบบฝึกหัด 2.4 ทาแบบทดสอบหลังเรยี น 3. ตรวจคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรยี น แบบฝกึ หดั การประเมินผล จากแบบเฉลย 4. ศกึ ษาแบบฝกึ ทักษะ ดนตรไี ทยเล่มที่ 3 ตอ่ ไป ผา่ นเกณฑ์

3 คาชี้แจงสาหรบั ครู แบบฝกึ ทกั ษะ ดนตรไี ทย เล่มที่ 2 เร่ือง ประเภทเคร่ืองตี เคร่ืองเป่า ใช้ประกอบการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนสาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยมีขั้นตอนการจัดกิจกรรม การเรียนการสอน ดังน้ี 1. แจกแบบฝกึ ทกั ษะ ดนตรีไทย เล่มที่ 2 เรือ่ ง ประเภทเครือ่ งตี เครื่องเป่า ให้นกั เรียน 2. ใหน้ ักเรียนศกึ ษาคาชีแ้ จงการใช้แบบฝกึ ทกั ษะและชแี้ จงเพิ่มเติม ก่อนลงมอื ปฏิบตั ิ 3. ให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อดูว่านักเรียนมีพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกบั เรือ่ งที่เรยี นมากน้อยเพียงใด 4. ให้นักเรียนศึกษาแบบฝกึ ทกั ษะ ดนตรไี ทย เล่มที่ 2 เรื่อง ประเภทเคร่ืองตี เคร่ืองเป่า และแบบฝกึ หัดที่ 1 - 4 เพือ่ ใหน้ กั เรียนได้ทบทวนและเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างถกู ต้อง 5. ให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียนเพื่อดูว่านักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจหลังเรียน มากน้อยเพียงใด 6. สังเกตพฤติกรรมคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์และบันทึกผล 7. ตรวจคะแนนและบันทึกผลลงในแบบเก็บคะแนนการทาแบบฝึกทักษะ ดนตรีไทย เล่มที่ 2 เรื่อง ประเภทเครื่องตี เครือ่ งเป่า 8. แจ้งคะแนนให้นักเรียนทราบและชมเชยนักเรียนพร้อมให้คาแนะนาเพิม่ เติม

4 คาชีแ้ จงสาหรับนักเรียน แบบฝกึ ทักษะ ดนตรีไทย เล่มที่ 2 เร่ือง ประเภทเคร่ืองตี เคร่ืองเป่า ใช้ประกอบการจัด กิจกรรมการเรียนรู้สาหรบั นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 โดยมีแนวทางการใชแ้ บบฝกึ ทกั ษะ ดงั น้ี 1. ตรวจสอบแบบฝกึ ทักษะว่าครบถ้วนหรอื ไม่ ถ้าไม่ครบถ้วนตอ้ งแจง้ ครผู ู้สอนทนั ที 2. ศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ของแบบฝึกทักษะก่อนจะเริ่มศึกษาหาความรู้ในลาดับ ต่อไป 3. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 10 ข้อ 4. ศึกษาแบบฝึกทักษะด้วยตนเองตามลาดับข้ันตอนที่จัดไว้ในแบบฝึกทักษะ เม่ือเข้าใจ แล้ว ทาแบบฝกึ หดั ใหค้ รบทกุ แบบฝกึ หดั 5. ศกึ ษาแบบฝกึ ทักษะด้วยความเอาใจใส่และมีความซือ่ สัตย์ 6. เม่ือศึกษาใบความรู้และทาแบบฝึกหัดในแบบฝึกทักษะเสร็จแล้ว ตรวจสอบความ ถกู ต้องจากเฉลย 7. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น จานวน 10 ข้อ 8. ในกรณีที่นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียนได้ไม่ถึง 8 ข้อ ให้นักเรียนย้อนกลับไป ศึกษาแบบฝึกทักษะเล่มนี้ใหม่แล้วทาแบบทดสอบหลังเรียนอีกครั้งจนกว่าจะได้คะแนนตาม เกณฑ์ 9. เมือ่ มีปัญหาใด ๆ เช่น ไม่เข้าใจเนื้อหา สามารถขอคาแนะนาจากครูได้ตลอดเวลา

5 แบบทดสอบก่อนเรยี น เรือ่ ง ประเภทเครื่องตี เครื่องเปา่ คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนทาเครื่องหมาย ลงในชอ่ ง  ของกระดาษคาตอบที่กาหนดให้โดยเลือก ข้อที่ถกู ต้องเพียงข้อเดียว (ข้อสอบมีจานวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน) 1. จากรปู เปน็ เครื่องดนตรีที่มชี ื่อวา่ อะไร ก. ระนาดทุ้มเหลก็ ข. ระนาดเอก ค. ระนาดทุ้ม ง. ระนาดเอกเหล็ก 2. ระนาดเอกเป็นเครือ่ งดนตรีประเภทเครือ่ งตีที่ทาด้วยวสั ดุชนิดใด ก. เครือ่ งตีที่ทาด้วยไม้ ข. เครื่องตีที่ทาด้วยเซรามิก ค. เครือ่ งตีที่ขงึ ด้วยหนงั ง. เครือ่ งตีที่ทาด้วยโลหะ

6 3. ส่วนประกอบใดของปี่มอญที่ทาจากใบตาล ก. เลาปี่ ข. รบู ังคบั เสียง ค. ลาโพง ง. ลิน้ ปี่ 4. ข้อใดเป็นเครือ่ งดนตรปี ระเภทเครือ่ งตีที่ทาด้วยโลหะท้ังหมด ก. ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ กรับพวง ข. ฆ้องวงใหญ่ ระนาดเอกเหลก็ ฉิง่ ค. กลองแขก ตะโพน ระนาดทุ้ม ง. ระนาดทุ้ม ฆ้องมอญวงใหญ่ โหม่ง 5. ปี่ในจดั เป็นเครื่องเป่าประเภทใด ก. เครือ่ งเป่าประเภทมีลิน้ ข. เครื่องเป่าประเภทไม่มีล้ิน ค. เครื่องเป่าประเภทมีปาก ง. เครื่องเป่าประเภทไม่มีปาก

7 6. ข้อใดคือส่วนประกอบของตะโพน ก. โขน ข. หนังเรียด ค. ลูกมะหวด ง. ตะขอ 7. กลองชนิดใดที่ข้ึนหนงั หน้าเดียว ก. กลองแขก ข. กลองทัด ค. ตะโพน ง. โทน-รามะนา 8. ข้อใดไม่ใชส่ ่วนประกอบของระนาดเอก ก. เท้า ข. โขน ค. ลูกมะหวด ง. ตะขอ

8 9. จากรปู เป็นเครื่องดนตรีทีม่ ชี ื่อวา่ อะไร ก. ตะโพน ข. กลองแขก ค. เปิงมางคอก ง. โทน-รามะนา 10. จากรปู เปน็ เครือ่ งดนตรีที่มชี ือ่ วา่ อะไร ก. ฆ้องวงใหญ่ ข. ระนาดเอกเหลก็ ค. ระนาดทุ้มเหลก็ ง. ฆ้องมอญวงใหญ่

9 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลังเรี เรือ่ ง ประเภทเครื ชือ่ - สกุล........................................................................ชน้ั ................เลขที.่ ............... คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนเลือกคาตอบในแบบทดสอบ แล้วทาเครื่องหมาย  ลงใน  ในข้อ ที่ถูกต้องที่สดุ เพียงข้อเดียว ข้อ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. รวม สรุปการประเมนิ คะแนนเต็ม 10 ได้....................... ผ่านเกณฑ์ ไมผ่ ่านเกณฑ์ เกณฑ์การประเมินร้อยละ 80 คอื ได้ 8 คะแนนข้ึนไปจึงผ่านเกณฑ์

10 เคร่ืองดนตรีไทย ประเภทเครือ่ งตี

11 เครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องตี เคร่ืองตี เป็นเคร่ืองดนตรีที่ทาให้เกิดเสียงโดยการใช้ของสองสิ่งมากระทบกันด้วยการตี นับว่าเป็นเคร่ืองดนตรีประเภทเก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์รู้จักใช้ มีวิวัฒนาการจากอุปกรณ์ที่ใช้ ในชีวติ ประจาวนั ทีส่ ามารถทาให้เกิดเสียงได้ มคี วามหลากหลายออกไปทั้งรปู แบบและวัสดทุ ี่ใช้ เครือ่ งดนตรีไทยประเภทเคร่อื งตี แบ่งออกเปน็ 3 ประเภท ดังน้ี 1. เครื่องตีทีท่ าด้วยไม้ 2. เครือ่ งตีทีท่ าด้วยโลหะ 3. เครื่องตีทีข่ งึ ด้วยหนงั

12 เครื่องตีทีท่ าดว้ ยไม้ ระนาดเอก ที่มา : siamesemusic ระนาดเอก เป็นเคร่ืองดนตรีที่ทาจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ชิงชัน ไม้ไผ่ มีวิวัฒนาการมาจาก กรับ แต่เดิมใช้กรับสองอันตีเป็นจังหวะ ต่อมาได้มีการประดิษฐ์โดยการนากรับหลาย ๆ อันที่มี ขนาดลดหล่นั กนั มาเรียงจนเกิดเสียงที่แตกต่างกนั การบรรเลงระนาดเอก ทีม่ า : Fino the ReNad

สว่ นประกอบของระนาดเอก มีดงั นี้ 13 โขน ตะขอ ไม้ตี ผืนระนาด รางระนาด ที่มา : TK PARK อุทยานการเรียนรู้ เท้า โขน เปน็ ไม้ 2 แผ่นรปู ทรงพมุ่ ข้าวบิณฑ์ ติดประกบไว้ที่หวั และท้ายของรางระนาด ตะขอ ทาด้วยโลหะโค้งงอ สาหรบั แขวนเชอื กขึงผืนระนาดใหล้ อยอยู่บนราง ผืนระนาด ทาด้วยไม้ไผ่หรอื ไม้เนือ้ แข็ง เช่น ไม้ชิงชัน ไม้มะหาด นามาตัดเหลาด้วยความ ประณีตเป็นลูก ๆ มจี านวน 21-22 ลูก ขนาดลดหลั่นกันตามลาดับ หัว-ท้ายใต้ผืนระนาดติดตะก่ัว โดยนาเอาตะก่วั และขีผ้ ้งึ ผสมกนั เพื่อถ่วงเสียงให้ได้เสียงสงู เสียงต่าตามตอ้ งการ รางระนาด มีลักษณะคล้ายเรือแต่โค้งและเรียวกว่า เป็นส่วนที่เป็นกล่องเสียงของ ระนาดเอกทาหนา้ ทีอ่ มุ้ เสียง เทา้ มีลักษณะเปน็ รูปทรงส่เี หลี่ยมคล้ายฐานของพาน ตรงกลางเป็นคอคอด ตอนบนโค้ง เว้าไปตามท้องราง ยึดติดอยู่ทีก่ ลางลาตวั ของรางระนาดเพือ่ ใหห้ วั และท้ายของรางลอยตวั สูงข้ึน ไมต้ ี ทาด้วยไม้ไผ่ เหลาเป็นท่อนกลมเล็ก ๆ 2 อัน มีดว้ ยกัน 2 แบบ คอื - ไม้นวม หัวไม้พันด้วยผ้าและใช้ด้ายรัดหลาย ๆ รอบเพื่อความสวยงาม มีเสียง นุ่มนวล - ไม้แข็ง หัวไม้พันด้วยผ้าอย่างแน่น ชุบด้วยยางรักจนเกิดความแข็ง เม่ือตีลงไป จะมีเสียงดัง คมชดั

14 ระนาดท้มุ ทีม่ า : siamesemusic ระนาดทุ้ม เป็นเคร่ืองดนตรีที่สร้างเลียนแบบระนาดเอก มีเสียงทุ้มนุ่มนวล ลูกระนาด มีจานวน 17 ลูก ตัวลูกมีขนาดใหญ่และยาวกว่าของระนาดเอก ทาหน้าที่ดาเนินทานอง หยอกล้อ ไปกบั ระนาดเอกทาให้เกิดความสนุกสนาน การบรรเลงระนาดทุ้ม ทีม่ า : Ton Rucirot

15 สว่ นประกอบของระนาดท้มุ มีดังนี้ ผืนระนาด ตะขอ โขน รางระนาด ไม้ระนาด เท้า ที่มา : nontasang โขน เปน็ ไม้ 2 แผ่น ติดประกบไว้ที่หัวและท้ายของรางระนาด ตะขอ ทาด้วยโลหะโค้งงอ สาหรบั แขวนเชอื กขึงผนื ระนาดใหล้ อยอยู่บนราง ผืนระนาด ทาด้วยไม้ไผ่ ไม้ชิงชัน หรือไม้มะหาด นามาตัดเหลาด้วยความประณีต เปน็ ลูก ๆ มี 17 ลูก ขนาดลดหล่นั กันตามลาดับ หวั -ท้ายใต้ผืนระนาดติดตะก่ัวโดยนาเอาตะก่ัวและ ขผี้ ้งึ ผสมกันเพือ่ ถ่วงเสียงให้ได้เสียงสูงเสียงตา่ ตามตอ้ งการ รางระนาด มีลักษณะคล้ายกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นส่วนที่เป็นกล่องเสียง ทาหน้าที่อุ้ม เสียง เท้า เปน็ ชิน้ ไม้เล็ก ๆ วางรองรางระนาดท้ัง 4 มุมดา้ นล่าง ไม้ตี ก้านไม้ทาด้วยไม้ไผ่ เหลาเป็นท่อนกลมเล็ก 2 อัน ส่วนหัวไม้พันด้วยผ้าใช้ด้ายรัด หลาย ๆ รอบเพือ่ ความสวยงาม มีเสียงนมุ่ นวล

16 กรับพวง ที่มา : โลกดนตรี กรับพวง เป็นเคร่ืองตีกากับจังหวะที่ทาด้วยไม้ผสมโลหะ ลักษณะเป็นแผ่นบาง ร้อยเชือก ติดกันเป็นพวงท้ังไม้และโลหะสลับกัน ไม้ชิ้นนอกสุด 2 ชิ้นจะเหลาหนา ให้มีลักษณะโค้งงอน ด้านจับมีขนาดเล็ก ตอนปลายมีขนาดใหญ่ วิธีการตีให้จับกาด้านเล็กและใช้ตอนปลายตีลงบนมือ อีกข้างหนึ่ง ซึ่งจะมีเสียงไม้กับโลหะกระทบกัน สว่ นประกอบของกรับพวง มีดังนี้ ไม้ โลหะ การบรรเลงกรับพวง ทีม่ า : Aun Vlog

17 เครือ่ งตีที่ทาด้วยโลหะ ระนาดเอกเหลก็ ที่มา : โลกดนตรี ระนาดเอกเหล็ก แต่เดิมลูกระนาดทาจากทองเหลือง จึงเรียกว่า ระนาดทอง ต่อมามีการ ทาลูกระนาดด้วยเหลก็ จงึ เรียกว่าระนาดเอกเหลก็ มีลกู ทั้งหมด 21 ลูก ทาการปรับแต่งเทียบเสียง โดยการ ตะไบ หรอื ขูดใต้ลกู เหล็กให้ได้เสียงตามที่ตอ้ งการ การบรรเลงระนาดเอกเหลก็ ทีม่ า : D D

18 สว่ นประกอบของระนาดเอกเหล็ก มีดงั นี้ ไม้ตี ลกู ระนาด รางระนาด ที่มา : โลกดนตรี รางระนาด ทาด้วยไม้เน้ือแข็ง มีลักษณะเป็นรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตอนบนมีฐาน เป็นรางเพือ่ รองรับลกู ระนาดแทนการรอ้ ยเชือกแบบระนาดเอก ลูกระนาด แต่เดิมทาด้วยทองเหลือง เวลาต่อมาได้มีการประดิษฐ์ด้วยเหล็ก มีจานวน 21 ลกู โดยวางพาดไปตามขอบรางระนาด ไม้ระนาด ก้านไม้ทาจากไม้ไผ่เช่นเดียวกับระนาดเอกแต่มีขนาดใหญ่กว่า ส่วนหัวไม้ทา จากผ้าหรอื ทาจากหนงั

19 ระนาดทุ้มเหลก็ ทีม่ า : โลกดนตรี ระนาดทุ้มเหล็ก เป็นเคร่ืองตีที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระอนุชา ธิราชในรัชกาลที่ 4 ได้ทรงพระราชดาริให้สร้างเพิ่มเติม รูปร่างลักษณะคล้ายกับระนาดเอกเหล็ก แต่ทารางใหญ่กว่าเพื่อที่จะบรรจุลูกระนาดที่มีขนาดใหญ่ มีลักษณะเสียงทุ้มต่า ทาหน้าที่เดิน ทานองห่าง ๆ ในวง การบรรเลงระนาดทุ้มเหล็ก ทีม่ า : ปณั ณาสา ผลพฤกษา

20 สว่ นประกอบของระนาดทุม้ เหลก็ มีดังนี้ ลกู ระนาด ไม้ตี รางระนาด ที่มา : โลกดนตรี รางระนาด ทาด้วยไม้เน้ือแข็ง มีลักษณะเป็นรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตอนบนมีฐาน เปน็ รางเพือ่ รองรับลูกระนาดแทนการรอ้ ยเชือกแบบระนาดเอก ลูกระนาด แต่เดิมทาด้วยทองเหลือง เวลาต่อมาได้มีการประดิษฐ์ด้วยเหล็ก มีจานวน 17 ลูก โดยวางพาดไปตามขอบรางระนาด ไม้ระนาด ก้านไม้ทาจากไม้ไผ่เช่นเดียวกับระนาดเอกแต่มีขนาดใหญ่กว่า ส่วนหัวไม้ทา จากผ้าหรอื ทาจากหนัง

21 ฆอ้ งวงใหญ่ ทีม่ า : TK PARK อทุ ยานการเรียนรู้ ฆ้องวงใหญ่ เป็นเครื่องดนตรีที่วิวัฒนาการมาจากฆ้องเดีย่ ว ฆ้องคู่และฆ้องราง สันนิษฐาน ว่ามีมาต้ังแต่สมัยสุโขทัย ทาหน้าที่เป็นเคร่ืองดาเนินทานองหลัก อีกท้ังยังสามารถบรรเลงเดี่ยว อวดความสามารถของผบู้ รรเลงได้อีกด้วย การบรรเลงฆอ้ งวงใหญ่ ที่มา : นฤนาท เรือนรืน่

ส่วนประกอบของฆ้องวงใหญ่ มีดงั นี้ 22 โขนฆ้อง รา้ นฆ้อง ลกู ฆ้อง ไม้ตี ลูกมะหวด ทีม่ า : เพจวงดนตรีไทยนา่ รู้ BY 4/9 รา้ นฆอ้ ง ทาด้วยเส้นหวายโป่ง 4 เส้น โดยใช้ 2 เส้นดัดโค้งเป็นวงนอก อีก 2 เส้นดัดโค้ง เป็นวงใน ลักษณะเป็นทรงกลมเกือบครบรอบวง เว้นทางเข้าเป็นประตูให้ผู้บรรเลงเข้าไปน่ังตรง กลาง ลูกมะหวด ทาด้วยไม้กลึงให้กลมเป็นลอน หัวท้ายบากและปาดโค้ง รับกับร้านฆ้อง เป็นระยะตลอดทั้งวง โขนฆ้อง ทาด้วยไม้ มีลักษณะตอนกลางนูนเป็นสันเรียวแหลมเหมือนใบโพธิ์ ด้านข้าง ปาดเรียวลงยึดติดกบั ต้นหวายท้ังสองขา้ ง ลูกฆ้อง ทาด้วยโลหะทองเหลือง หลอม ตี หรือกลึงเป็นลูก ๆ ลักษณะทรงกลม ด้านบน กลึงตรงกลางให้นูนเป็นปุ่มเรียกว่า “ปุ่มฆ้อง” สาหรับตีให้เกิดเสียง ด้านข้างกลึงเป็นขอบงุ้มลง เรียกว่า “ฉัตร” เพือ่ ให้เสียงดงั กังวานยาวขนึ้ มีลกู ฆ้องจานวน 16 ลกู ลดหลั่นกนั ตามลาดบั ไม้ฆ้อง ก้านไม้ทาด้วยไม่ไผ่ เหลาให้กลมเล็ก ยาวพอประมาณ ส่วนหัวไม้มีลักษณะเป็น ทรงกลม ปลายบานเปน็ ขอบเล็กน้อย พันด้วยผ้าและด้ายสีต่าง ๆ เพือ่ ให้นมุ่ สาหรับตีลงที่ปุ่มฆ้อง

23 ฆ้องวงเล็ก ทีม่ า : TK PARK อทุ ยานการเรียนรู้ ฆ้องวงเล็ก เป็นเคร่ืองดนตรีไทยที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 มีลักษณะโดยทั่วไปเหมือนกับ ฆ้องวงใหญ่แตม่ ีขนาดเล็กกว่าเลก็ น้อย มีลกั ษณะเสียงสูง ไพเราะ ดาเนินทานองถี่ กระช้ัน บรรเลง สอดแทรกไปกบั ฆ้องวงใหญ่ นักดนตรีไทยนิยมเรียกฆ้องวงเล็กส้ัน ๆ ว่า “ฆ้องเลก็ ” การบรรเลงฆอ้ งวงเล็ก ที่มา : โกญจนาท วิบลู ยเ์ พง็ ตวั จรงิ

สว่ นประกอบของฆอ้ งวงเลก็ มีดงั นี้ 24 โขนฆ้อง ร้านฆอ้ ง ลูกมะหวด ลูกฆ้อง ไม้ตี ที่มา : thaismegp ร้านฆ้อง ทาด้วยเส้นหวายโป่ง 4 เส้น โดยใช้ 2 เส้นดัดโค้งเป็นวงนอก อีก 2 เส้นดัดโค้ง เป็นวงใน ลักษณะเป็นทรงกลมเกือบครบรอบวง เว้นทางเข้าเป็นประตูให้ผู้บรรเลงเข้าไปนั่งตรง กลาง ลูกมะหวด ทาด้วยไม้กลึงให้กลมเป็นลอน หัวท้ายบากและปาดโค้ง รับกับร้านฆ้อง เป็นระยะตลอดท้ังวง โขนฆ้อง ทาด้วยไม้ มีลักษณะตอนกลางนูนเป็นสันเรียวแหลมเหมือนใบโพธิ์ ด้านข้าง ปาดเรียวลงยึดตดิ กบั ต้นหวายท้ังสองขา้ ง ลูกฆ้อง ทาด้วยโลหะทองเหลือง หลอม ตี หรือกลึงเป็นลูก ๆ ลักษณะทรงกลม ด้านบน กลึงตรงกลางให้นูนเป็นปุ่มเรียกว่า “ปุ่มฆ้อง” สาหรับตีให้เกิดเสียง ด้านข้างกลึงเป็นขอบงุ้มลง เรียกว่า “ฉัตร” เพื่อให้เสียงดังกงั วานยาวขนึ้ มีลกู ฆ้องจานวน 18 ลูกลดหลั่นกันตามลาดบั ไม้ฆ้อง ก้านไม้ทาด้วยไม่ไผ่ เหลาให้กลมเล็ก ยาวพอประมาณ ส่วนหัวไม้มีลักษณะเป็น ทรงกลม ปลายบานเปน็ ขอบเล็กน้อย พนั ด้วยผา้ และด้ายสีต่าง ๆ เพือ่ ให้นมุ่ สาหรับตีลงทีป่ ุ่มฆ้อง

25 ฆอ้ งมอญ ทีม่ า : TK PARK อุทยานการเรียนรู้ ฆ้องมอญ เป็นเคร่ืองดนตรีที่ได้รับอิทธิพลมาจากมอญ มีลักษณะต้ังโค้งขึ้นไป ไม่ตั้งราบ กับพื้นแบบฆ้องไทย วงฆ้องทาจากไม้ แกะสลักปิดทองสวยงาม ฆ้องมอญมี 2 ขนาด คือ ฆ้องมอญวงใหญ่ มีลกู ฆ้องจานวน 15 ลกู และฆอ้ งมอญวงเล็ก มีลูกฆ้องจานวน 18 ลกู การบรรเลงฆอ้ งมอญ ที่มา : นฤนาท เรือนรื่น

26 ส่วนประกอบของฆ้องมอญ มีดังนี้ ไม้ตี ลูกฆ้อง ร้านฆอ้ ง เท้า ทีม่ า : TK PARK อุทยานการเรียนรู้ ร้านฆ้อง ทาด้วยไม้เน้ือแข็ง ขุดเจาะเป็นกล่องเสียง มี 3 ส่วน คือ หัว กลางและท้าย นามาประกอบกัน บริเวณด้านนอกแกะสลักลวดลาย ด้านหนึ่งเป็นรูปกินนร เรียกว่า หน้าพระ ส่วนปลายอีกด้านแกะสลักเป็นรปู ปลายหางกินนร ลูกฆอ้ ง ทาด้วยโลหะทองเหลือง หลอม ตี หรือกลึงเป็นลูก ๆ ลักษณะทรงกลม ด้านบน กลึงตรงกลางให้นูนเป็นปุ่มเรียกว่า “ปุ่มฆ้อง” สาหรับตีให้เกิดเสียง ด้านข้างกลึงเป็นขอบงุ้มลง เรียกว่า “ฉตั ร” เพื่อให้เสียงดังกงั วานยาวขนึ้ ไม้ฆ้อง ก้านไม้ทาด้วยไม้เน้ือแขง็ เหลากลึงเปน็ ท่อนยาว หัวไม้พันด้วยเชือกเป็นแนวยาว และพันผา้ ดิบอีกช้ันหนึ่ง เท้า มีลกั ษณะรูปทรงส่เี หลี่ยมคล้ายฐานของพาน ยึดติดอยู่ทีก่ ลางลาตวั ของร้านฆ้อง

27 ฉิ่ง ที่มา : www. Shoppe.co.th ฉิ่ง เป็นเคร่ืองดนตรีที่ทาด้วยทองเหลือง หล่อหนา ปากผายกลม รูปคล้ายถ้วยชาไม่มีก้น ตรงกลางเจาะรูสาหรับร้อยเชือก 1 คู่ มี 2 ฝา การตีฉิ่ง ต้องเอาขอบของฝาข้างหนึ่งกระทบกับอีก ฝาข้างหนึ่งแล้วยกขึ้นก็จะมีเสียงดังกังวานยาวดัง ฉิ่ง เม่ือเอาท้ัง 2 ฝานั้นกระทบและประกบกันไว้ จะได้ยินเสียงสั้น ๆ ดัง ฉับ ดังนั้นการเรียกชื่อเคร่ืองดนตรีชนิดนี้ว่า ฉิ่ง ก็เพราะเรียกตามเสียงที่ เกิดข้ึนนน่ั เอง สว่ นประกอบของฉิง่ มีดังนี้ ฝาฉิง่ เชอื ก ฝาฉิ่ง ทาด้วยทองเหลอื ง หล่อหนา ปากกว้างประมาณ 6 ซม. มีรตู รงกลางสาหรับร้อยเชือก เชือก มีไว้สาหรับร้อยฉิ่งท้ัง 2 ฝา ให้อยู่คู่กนั การบรรเลงฉิง่ ทีม่ า : Siammelodies

28 ฉาบ ที่มา : TK PARK อทุ ยานการเรียนรู้ ฉาบ ทาด้วยโลหะคล้ายฉิ่งแต่หล่อให้บางกว่า เวลาบรรเลงใช้ 2 ฝาตีกระทบกันให้เกิด เสียงตามจงั หวะ เม่อื ฉาบท้ังสองขา้ งกระทบกันจะเกิดเสียงดัง ฉาบ แต่ถ้าตีแล้วเปิดเสียงก็จะได้ยิน เสียงดัง แฉ่งหรอื แฉ่ สว่ นประกอบของฉาบ มีดงั นี้ ฉาบ เชอื ก ฉาบ ทาด้วยทองเหลอื งคล้ายฉิ่งแตห่ ล่อให้บางกว่า มีชานแผ่ออกไปรอบตัว เชือก มีไว้สาหรับร้อยฉาบทั้ง 2 ฝา ให้อยู่คู่กัน การบรรเลงฉาบ ที่มา : Rapeethai rapeethai

29 โหมง่ ที่มา : thaismegp โหม่ง เป็นเคร่ืองดนตรีท่ีประเภทตีกากับจังหวะ ทาจากโลหะ มีเชือกร้อยรูท้ัง 2 ที่ใบฉัตร แขวนหอ้ ยกบั ขาหย่ังหรือคานไม้ เรียกว่า กระจังโหม่ง หัวไม้ตีพนั ด้วยผ้าและเชือกให้เป็นปุ่มโตอ่อน นุ่ม เมื่อตีจะมีเสียงดงั โหม่ง ส่วนประกอบของโหมง่ มีดังนี้ กระจงั โหม่ง ลูกฆ้องโหม่ง ไม้ตี กระจงั โหม่ง ทาด้วยไม้เนือ้ แขง็ ใช้สาหรับแขวนลูกฆ้องโหมง่ ลูกฆอ้ งโหม่ง ทาด้วยโลหะ ติดขผี้ ้ึงผสมตะก่ัวถ่วงทีป่ ุ่ม เพื่อให้เกิดเสียงดังกังวาน ไมต้ ี ก้านไมท้ าด้วยไม้ ส่วนหวั ไม้ทีใ่ ช้ตพี ันด้วยผ้าและเชอื ก การบรรเลงโหมง่ ให้เป็นปุ่มโตอ่อนนุ่ม ทีม่ า : บญุ สังฆภันฑ์ Online

30 เครื่องตีที่ขึงด้วยหนัง ตะโพน ที่มา : TK PARK อุทยานการเรียนรู้ ตะโพน เป็นเคร่ืองดนตรีประเภทตีกากับจังหวะที่บรรเลงในวงปี่พาทย์ ขึงหนังสองหน้า หน้าใหญ่เรียกว่า \"หน้าเทิ่ง\" หรือ \"หน้าเท่ง\" อยู่ด้านขวามือ หน้าเล็กเรียกว่า \"หน้ามัด” อยู่ด้าน ซ้ายมือของผู้บรรเลง ในพิธีไหว้ครูได้ถือเอาตะโพนเป็นเคร่ืองแทนพระประคนธรรพและถือว่า ตะโพนเปน็ เครื่องควบคมุ จงั หวะที่สาคญั ทีส่ ุด การบรรเลงตะโพน ที่มา : ปัณณาสา ผลพฤกษา

ส่วนประกอบของตะโพน มีดงั นี้ 31 หหู วิ้ ไส้ละมาน รดั อก หนังเรยี ด หุ่นกลอง หน้ากลอง เท้า ที่มา : TK PARK อุทยานการเรียนรู้ ห่นุ กลอง ทาด้วยไม้เน้อื แขง็ ขุดแตง่ ให้เปน็ โพรงภายใน ตรงกลางป่อง หนา้ กลอง ทาด้วยหนงั แพะหรอื หนังลกู วัว นามาขึงพาดยึดตดิ กับหนุ่ กลองด้วยหนังเรียด ขึน้ หนังสองหนา้ หนังเรียด ทาด้วยหนงั โคหรอื หนังกระบือ สาหรับโยงเร่งเสียงระหว่างหน้ากลองท้ังสอง ไส้ละมาน ถักด้วยหนัง ตีเกลียวเป็นเส้นเล็ก ๆ อยู่ตรงรอบขอบหน้ากลองท้ังสองหน้า ใช้ร้อยหนงั เรียดโยงไปโดยรอบเพือ่ หมุ้ หนุ่ กลอง รัดอก ทาด้วยหนงั โคหรอื กระบือ อยู่ตอนกลางของหนุ่ กลอง เท้า ทาด้วยไม้ มีลักษณะคล้ายพาน รองรับหน้ากลองทั้งสอง ด้านบนคว้านโค้งเป็นรูป พระจันทร์ครึ่งซีก ด้านล่างตัดตรงสาหรับวางลงกับพื้น ระหว่างไม้รองรับหน้ากลองจะยึดด้วยไม้ สี่เหลี่ยม มีลกั ษณะยาวตรง ใส่เหลก็ ห่วงกลม 2 อัน สาหรับร้อยเชอื กยึดกับหนุ่ กลอง หูห้ิว ทาด้วยหนังเรียดเส้นส้ัน ๆ มาขมวดพันรอบตัวเอง อยู่ตรงกลางรัดอกตอนบน ใช้สาหรับหิว้ กลอง

32 กลองทัด ที่มา : Vatinee & Preenapa กลองทัด เป็นกลองที่มีขนาดใหญ่ ขึงหนังสองหน้า มีจานวน 2 ใบ ซึ่งเป็นแบบแผนที่ยึด ปฏิบตั ิมาแตค่ รั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เรียกชือ่ แบ่งตามลกั ษณะเสียงทีแ่ ตกต่าง ได้แก่ กลองทัดตัวผู้ (เสียงสงู ) กลองทดั ตวั เมีย (เสียงต่า) กลองทัดบรรเลงคู่กบั ตะโพนในวงปี่พาทย์ การบรรเลงกลองทัด ทีม่ า : ปัณณาสา ผลพฤกษา

สว่ นประกอบของกลองทดั มีดงั นี้ 33 หน้ากลอง หมดุ ขาหยั่ง ไม้ตี หรู ะวงิ หุ่นกลอง ทีม่ า : TK PARK อทุ ยานการเรียนรู้ หุ่นกลอง ทาด้วยไม้เน้ือแข็ง มีรูปร่างเป็นทรงกระบอก ป่องตรงกลาง เจาะคว้านทะลุ เปน็ กล่องเสียง หน้ากลอง ทาด้วยหนังโค มีชายหุ้มลงมาบนขอบกลองเล็กน้อยและติดด้วยวัสดุเหนียว พร้อมท้ังตอกหมดุ โลหะยึดตรึงไว้โดยรอบอีกคร้ังหน่งึ เพื่อให้ติดแน่นยิ่งขึน้ หมุด เปน็ โลหะที่ใชต้ อกยึดหนา้ กลอง เพื่อให้กลองมีความตงึ และติดแน่นยิง่ ขึน้ หูระวิง เป็นโลหะทรงกลม ใชส้ าหรับหิ้วกลองและใส่ไม้ค้ายันเพื่อป้องกันกลองล้มขณะที่ วางตีกับพืน้ ขาหยั่ง ทาด้วยไม้ 2 ท่อน ใส่เข้าไปในหูระวิงเป็นรูปกากบาท เพื่อค้ายันมิให้ตัวกลอง เอียงล้มขณะบรรเลง ไม้ตี ก้านไม้ทาจากไม้เนือ้ แขง็ ขนาดพอเหมาะมอื หวั ไม้หุ้มดว้ ยวสั ดทุ ี่หนานุ่มเพื่อให้เสียง กลองนมุ่ นวลขึน้

34 กลองแขก ทีม่ า : TK PARK อทุ ยานการเรียนรู้ กลองแขก มีรูปร่างยาวเป็นทรงกระบอก หนังหน้ากลองทาด้วยหนังลูกวัว หนังแพะ หน้าใหญ่เรียกว่า \"หน้ารุ่ย\" หน้าเล็กเรียกว่า \"หน้าต่าน\" สารับหนึ่งมี 2 ลูก ลูกเสียงสูงเรียกว่า \"ตัวผู้\" ลกู เสียงตา่ เรียกว่า \"ตัวเมีย\" การบรรเลงกลองแขก ทีม่ า : Ssvijak Teerapongchai

35 สว่ นประกอบของกลองแขก มีดังนี้ หุ่นกลอง รดั อก หนังเรยี ด หน้ากลอง ที่มา : TK PARK อทุ ยานการเรียนรู้ หุ่นกลอง ทาด้วยไม้เน้ือแข็ง เช่น ไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ เป็นต้น มีลักษณะเป็นทรงกระบอก ภายในหนุ่ กลองขุดกลวงเพื่อเป็นกล่องเสียง หนังเรียด ทาด้วยหนังโคหรือกระบือ ทาหน้าที่ผูกโยงหนังหน้ากลองท้ังสองด้านให้มี ความตงึ และสามารถปรบั เร่งเสียงใหเ้ กิดเสียงสงู ตา่ ตามตอ้ งการ รัดอก ทาด้วยหนังโคหรอื กระบือ ทาหนา้ ที่รวบหนังเรยี ดใหเ้ ปน็ ระเบียบ หน้ากลอง ทาด้วยหนังแพะหรือหนังลูกวัว นามาขึงพาดยึดติดกับหุ่นกลองด้วย หนังเรียด หน้ากลองท้ังสองด้านมีขนาดไม่เท่ากัน หน้าใหญ่เรียกว่า “หน้ารุ่ย” หน้าเล็ก เรียกว่า “หนา้ ต่าน”

36 กลองสองหนา้ ทีม่ า : TK PARK อทุ ยานการเรียนรู้ กลองสองหน้า ทาจากไม้เนื้อแข็ง เป็นกลองรูปทรงกระบอก ด้านหนึ่งเล็ก ด้านหนึ่งใหญ่ ขึงหนังสองหน้า โยงยึดด้วยเชือกที่ทาจากหนังโคหรือกระบือ เรียกว่า “หนังเรียด” บริเวณกลาง หุ่นกลอง มีหนังเรียดถักเป็นแนวขวางเพื่อเร่งเสียงเรียกว่า “รัดอก” บริเวณหน้ากลองทายางรัก ติดขา้ วสุกผสมขีเ้ ถ้าเพือ่ ให้ได้เสียงตามที่ตอ้ งการ การบรรเลงกลองสองหน้า ที่มา : ดนตรีไทยbyครูเจมส์

ส่วนประกอบของกลองสองหนา้ มีดังนี้ 37 รัดอก หนังเรยี ด หุ่นกลอง หน้ากลอง ที่มา : TK PARK อุทยานการเรียนรู้ หุ่นกลอง ทาด้วยไม้เนือ้ แข็ง เชน่ ไม้ชิงชนั ไม้ประดู่ เปน็ ต้น มลี กั ษณะเป็นทรงกระบอก หนา้ กลอง ทาด้วยหนังแพะหรือหนังลูกวัว ทายางรักติดข้าวสุกผสมขี้เถ้าเพื่อให้ได้เสียง ตามทีต่ ้องการ หนา้ กลองท้ังสองด้านมขี นาดไม่เท่ากัน หนังเรียด ทาด้วยหนังโคหรอื กระบือ ทาหนา้ ทีผ่ ูกโยงหนังหนา้ กลองทั้งสองด้าน รัดอก ทาจากหนงั โคหรือกระบือ ถักเป็นแนวขวางเพื่อเรง่ เสียง

38 เปิงมางคอก ที่มา : TK PARK อุทยานการเรียนรู้ เปิงมางคอก เป็นเคร่ืองดนตรีที่อยู่ในวงปี่พาทย์มอญ ทาหน้าที่ตีขัดจังหวะ หยอกล้อกับ ตะโพนมอญ โดยนากลองเปิงมาง 7 ใบที่มีขนาดของหุ่นกลองลดหล่ันกันไปเทียบเสียงสูงต่าไล่เป็น ระดับ ติดข้าวเพื่อถ่วงเสียงให้ต่าลง นาลูกเปิงมางที่ปรับแต่งเสียงแล้วมาร้อยไว้กับแผงไม้รูปครึ่ง วงกลม เรียกว่า “คอกเปิง” โดยไล่จากทางซ้ายมือซึ่งเป็นเสียงต่าสุด จนถึงทางขวามือที่เป็นเสียง สูงสุด ผบู้ รรเลงจะนงั่ อยู่ภายในคอกเปิง การบรรเลงเปิงมางคอก ทีม่ า : ปี่พาทย์มอญ หลานยา่ โล่ห์

39 ส่วนประกอบของเปิงมางคอก มีดงั นี้ ลูกเปิง คอกเปิง ทีม่ า : TK PARK อุทยานการเรียนรู้ ลกู เปิง ทาด้วยไม้เน้ือแขง็ ขึงหนังสองหนา้ มีจานวน 7 ใบ ขนาดลดหลั่นกันไป โดยเทียบ เสียงสงู ตา่ ไล่เปน็ ระดบั ติดขา้ วเพื่อถ่วงเสียงใหต้ า่ ลง คอกเปิง ทาด้วยไม้ ลักษณะเปน็ ครึ่งวงกลม มีตะขอไว้สาหรับแขวนลกู เปิงเปน็ ระยะ

40 โทน-รามะนา ที่มา : siamesemusic โทน เปน็ กลองที่ขึงหนังหนา้ เดียว เกิดข้ึนในสมัยอยธุ ยา ใชต้ ีในวงเครือ่ งสายและวงมโหรี รามะนา เป็นกลองขึงหนังหน้าเดียว หน้ากลองขึงหนังผายออก ตัวกลองสั้น รูปร่าง ลักษณะคล้ายชาม สันนิษฐานว่าได้แบบอย่างมาจากเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งของมลายู ปัจจบุ นั โทน – รามะนา นิยมใชบ้ รรเลงในวงเครอ่ื งสายและวงมโหรี การบรรเลงโทน-รามะนา ทีม่ า : Siammelodies

41 ส่วนประกอบของโทน-รามะนา มีดงั นี้ โทน รามะนา ที่มา : TK PARK อุทยานการเรียนรู้ โทน หนุ่ กลองทาด้วยดินเผา ไม้เนือ้ แขง็ หรอื เซรามิก ขึ้นรูปเป็นทรงกรวย ด้านหน้าใหญ่ ด้านท้ายเลก็ หนา้ กลองขึงด้วยหนงั โค ขึน้ หนา้ ด้วยสายเร่งเสียงที่ทาจากหวายหรอื เชอื กไหม รามะนา หนุ่ กลองทาด้วยไม้เนื้อแข็ง รูปทรงสั้น บาง ขึงหนังหน้าเดียวโดยการตอกหมุด ยึดรอบบริเวณกลอง

42 แบบฝึกหดั ท่ี 1 ชือ่ - สกลุ ........................................................................ชน้ั ................เลขที.่ ............... จุดประสงค์การเรียนรู้ บอกช่อื เครือ่ งดนตรีไทยประเภทเครือ่ งตี เครือ่ งเป่าได้ถูกต้อง คาชี้แจง ให้นักเรียนนาชื่อเคร่ืองดนตรีในตารางไปเขียนลงในช่องว่างให้สัมพันธ์กับข้อความที่ กาหนดให้ ( 10 คะแนน ) โทน – รามะนา ระนาดเอกเหลก็ ระนาดทุม้ กลองทดั กรับพวง ระนาดเอก ฆอ้ งวงใหญ่ ฆอ้ งมอญ กลองแขก ฉิ่ง เปิงมางคอก ระนาดท้มุ เหลก็ 1. .............................................เป็นเครื่องดนตรที ีท่ าด้วยทองเหลอื ง รูปคล้ายถ้วยชาไม่มกี ้น 2 .............................................เครื่องตีทีข่ งึ ดว้ ยหนังนิยมใช้บรรเลงในวงเครอ่ื งสายและวงมโหรี 3 .............................................เป็นเครื่องดนตรที ี่มรี ูปร่างเปน็ ทรงกระบอก 1 สารับมี 2 ลูก 4 .............................................เปน็ เครือ่ งตที ี่ขึงดว้ ยหนังบรรเลงอยู่ในวงปี่พาทย์มอญ 5 .............................................เปน็ เครื่องดนตรที ีม่ ีชื่อเรียกแต่เดิมวา่ ระนาดทอง 6 .............................................เปน็ เครือ่ งตีกากบั จังหวะทีท่ าด้วยไม้ผสมโลหะ 7 .............................................เป็นเครือ่ งดนตรที ีส่ รา้ งเลียนแบบระนาดเอก มเี สียงทุ้มนุ่มนวล 8 .............................................เป็นเครื่องดนตรที ีม่ ลี กั ษณะต้ังโค้งขึน้ ได้รบั อิทธิพลมาจากมอญ 9 .............................................เป็นเครือ่ งตีทีข่ งึ หนังสองหน้า มขี นาดใหญ่ ใชบ้ รรเลงคู่กับตะโพน 10 ............................................เป็นเครื่องดนตรที ี่มวี ิวัฒนาการมาจากกรบั สรุปการประเมนิ คะแนนเต็ม 10 ได้...................... ผ่านเกณฑ์ ไมผ่ ่านเกณฑ์ เกณฑ์การประเมิน รอ้ ยละ 80 คือได้ 8 คะแนนขึน้ ไปจึงผ่านเกณฑ์

43 แบบฝึกหดั ท่ี 2 ชื่อ - สกุล.............................................................................ชน้ั ................เลขที่................ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ บอกส่วนประกอบของเครือ่ งดนตรีไทยประเภทเครือ่ งตี เครื่องเป่า ได้ถกู ต้อง คาชี้แจง ให้นักเรียนใส่เคร่ืองหมาย  หน้าข้อความที่ถูกต้องและใส่เคร่ืองหมาย  หนา้ ข้อความที่ไม่ถูกต้อง ( 10 คะแนน ) 1. ตะขอ ทาด้วยโลหะโค้งงอ สาหรบั แขวนเชือกขึงผืนระนาดเอก 2. ร้านฆ้องของฆ้องมอญ ทามาจากเส้นหวายโป่งสีเ่ ส้น 3. ระนาดทุ้มมีรางระนาดที่คล้ายกบั กล่องสี่เหลีย่ มผืนผา้ 4. หนุ่ กลองของโทนทาจากดินเผาหรอื เซรามิก 5. เท้าของระนาดทุ้มมีลักษณะเป็นรปู ทรงส่เี หลี่ยมคล้ายกบั ฐานของพาน 6. ขาหย่ังของกลองทดั ใช้สาหรบั ค้ายันเพือ่ ป้องกนั กลองลม้ 7. หน้ากลอง เป็นส่วนประกอบที่ทามาจากหนงั งู 8. หวั -ท้ายใต้ผืนระนาดเอกติดตะก่วั เพื่อถ่วงเสียงใหไ้ ด้เสียงสูง-ตา่ 9. ไส้ละมานเป็นส่วนประกอบสาคญั ของกลองทัดที่ใช้สาหรบั ร้อยหนังเรยี ด 10. ลูกฆ้องเปน็ ส่วนประกอบที่ทาจากเซรามิก สรุปการประเมนิ คะแนนเตม็ 10 ได้...................... ผ่านเกณฑ์ ไมผ่ ่านเกณฑ์ เกณฑ์การประเมิน รอ้ ยละ 80 คือ ได้ 8 คะแนนข้ึนไปจงึ ผ่านเกณฑ์

44 เครอ่ื งดนตรีไทย ประเภทเครื่องเป่า

45 เครือ่ งดนตรไี ทยประเภทเครือ่ งเป่า เครื่องเป่า เปน็ เครอ่ื งดนตรีทีท่ าให้เกิดเสียงโดยการใชล้ มเป่าผา่ นท่อ ซึง่ เปน็ ตัวขยายเสียง แบ่งออกได้เปน็ 2 ประเภท คือ 1. ประเภทมีล้ิน เคร่ืองเป่าที่อาศัยลิ้นเป็นเคร่ืองช่วยในการเป่าให้เกิดเสียง เรียกว่า \"ลิ้นปี่\" ทาด้วยใบตาล เม่ือเป่าลมเข้าไปในลิ้นจะเกิดแรงส่ันสะเทือนทาให้เกิดเสียงขึ้น เรียกเคร่ืองดนตรี ประเภทนี้ว่า \"ปี่\" 2. ประเภทไม่มีลิ้น มีแต่รูบังคับลม มีวิธีเป่าที่เป็นเอกลักษณ์ คือ การเป่าระบายลมเพื่อให้ เสียงดังยาวนานติดตอ่ กนั เรียกเครือ่ งดนตรีประเภทนีว้ ่า \"ขลุ่ย\"

46 ปใี่ น ที่มา : TK PARK อุทยานการเรียนรู้ ปี่ใน เป็นปี่ที่มีขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 41-42 ซม. กว้าง 4.5 ซม. เสียงของปี่ในจะเป็น เสียงทีต่ า่ และใหญ่ ส่วนประกอบของปี่ใน มีดงั นี้ ล้ินปี่ กาพวด รูบังคับเสียง เลาป่ี ที่มา : TK PARK อุทยานการเรียนรู้ เลาปี่ ทาด้วยไม้ชิงชันหรือไม้พยุง กลึงให้ป่องตรงกลาง ปลายบานท้ังสองข้าง ภายใน เจาะเปน็ รกู ลวงตลอดหวั ท้าย รูบังคับเสียง เป็นรูที่ใช้สาหรับบังคับเสียงให้เกิดเสียงตามที่ต้องการ มีจานวน 6 รู โดย ให้ 4 รูบนมรี ะยะหา่ งเท่ากัน จากน้ันเว้นหา่ งพอควรจึงเจาะอีก 2 รู ลิ้นปี่ ทาด้วยใบตาลแห้ง ตัดแบ่งซ้อนกัน 4 ชิ้น โดยต้องนาลิ้นปี่เสียบไว้ที่ปลายด้านหนึ่ง ของกาพวด กาพวด ทาด้วย นาค ทองเหลอื ง หรอื เงิน เปน็ แท่งโลหะ ขนาดเล็ก สาหรับเสียบเข้ากับรูบริเวณทวนบนของปี่ การเป่าปี่ใน ที่มา : THAIใWน oodwind

47 ปนี่ อก ที่มา : TK PARK อทุ ยานการเรียนรู้ ปี่นอก เป็นปี่ที่มีขนาดเล็ก ยาวประมาณ 31 ซม. กว้าง 3.5 ซม. เสียงของปี่นอกจะมีเสียง ทีเ่ ลก็ แหลม สว่ นประกอบของปีน่ อก มีดงั นี้ ล้ินปี่ กาพวด รบู งั คับเสียง เลาป่ี ทีม่ า : TK PARK อทุ ยานการเรียนรู้ เลาปี่ ทาด้วยไม้ชิงชันหรอื ไม้พยุง กลึงให้ป่องตรงกลางและปลายบานทั้งสองข้าง ภายใน เจาะเป็นรกู ลวงตลอดหวั ท้าย รูบังคับเสียง เป็นรูสาหรับเปิดปิดนิ้ว 6 รู โดยให้ 4 รูบนเรียงลาดับเท่ากัน เว้นห่าง พอควรจงึ เจาะอีก 2 รู ใช้บงั คบั เสียงใหเ้ กิดตามเสียงทีต่ ้องการ ลิ้นปี่ ทาด้วยใบตาลแห้ง ตัดแบ่งซ้อนกัน 4 ชิ้น โดยต้องนาลิ้นปี่เสียบไว้ที่ปลายด้านหนึ่ง ของกาพวด กาพวด ทาด้วย นาค ทองเหลอื ง หรอื เงิน เปน็ แท่งโลหะ ขนาดเล็ก สาหรับเสียบเข้ากบั รบู ริเวณทวนบนของปี่ การเป่าปี่นอก ที่มา : TWW CH


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook