คำ�น�ำ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มาตรา 22 (5) กำ�หนดให้คณะกรรมการการเลือกตัง้ มหี น้าที่และ อ�ำ นาจในการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ หนว่ ยงานของรฐั สถาบนั การศกึ ษา และองคก์ ร เอกชน ในการสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจทถ่ี กู ตอ้ งใหแ้ กป่ ระชาชนเกย่ี วกบั การปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข การมีส่วนร่วมทาง การเมอื งของประชาชน หรอื ใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มในการตรวจสอบการเลอื กตง้ั และความรทู้ ถ่ี กู ตอ้ งเกย่ี วกบั รฐั ธรรมนญู ประกอบกบั รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปจั จบุ นั มผี ลใชบ้ งั คบั แลว้ เมอ่ื วนั ท่ี 6 เมษายน 2560 ดงั นน้ั เพอ่ื ด�ำ เนนิ การ ให้เป็นไปตามหนา้ ทีด่ ังกลา่ ว สำ�นกั งานคณะกรรมการการเลือกตั้งจงึ ไดจ้ ดั ท�ำ เอกสารความรเู้ กี่ยวกับรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื เผยแพรค่ วามรเู้ กย่ี วกบั รฐั ธรรมนญู และภารกจิ ของส�ำ นกั งานคณะกรรมการ การเลือกต้ัง จำ�นวน 13 ชุด ประกอบด้วย 1. ความรูเ้ กี่ยวกับรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย 2. 108 ความรู้เก่ยี วกับรัฐธรรมนูญ 3. สิทธิ เสรีภาพ และหน้าท่ขี องปวงชนชาวไทย 4. คณะรฐั มนตรี ศาล 5. การเลอื กตง้ั ส.ส. 6. การได้มาซ่ึง ส.ว. 7. การมีส่วนร่วม และการตรวจสอบการเลือกตง้ั 8. องคก์ รอสิ ระและการตรวจสอบอำ�นาจรัฐ 9. การปฏริ ูปประเทศและการปกครองท้องถ่นิ 10. พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยคณะกรรมการการเลอื กตง้ั 11. พระราชบัญญตั ิประกอบรฐั ธรรมนูญว่าดว้ ยพรรคการเมอื ง 12. ศนู ยส์ ง่ เสรมิ พัฒนาประชาธิปไตย 13. หมู่บา้ นรณรงคไ์ ม่ขายเสียง
เพื่อให้องค์กรเครือข่ายต่างๆ ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้แก่ องคก์ รเอกชนตรวจสอบการเลอื กตง้ั กรรมการศนู ยส์ ง่ เสรมิ พฒั นาประชาธปิ ไตย ทุกระดับ ดีเจประชาธิปไตยชุมชน และกรรมการประจำ�หน่วยเลือกตั้ง มอื อาชีพ เปน็ ตน้ ไดน้ ำ�ไปศกึ ษาและเผยแพร่แกป่ ระชาชนทางหอกระจายข่าว เสยี งตามสาย และสถานวี ทิ ยตุ า่ งๆ หรอื ชอ่ งทางอน่ื ๆ ตอ่ ไป โดยเอกสารเผยแพร่ ฉบบั นเ้ี ปน็ เอกสารล�ำ ดบั ท่ี 11 เรอ่ื ง พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ด้วย พรรคการเมือง เขียนโดยนนายวรี ะ ยีแ่ พร ผอู้ ำ�นวยการสำ�นกั พัฒนาเครือข่าย การเลือกตง้ั ส�ำ นักงานคณะกรรมการการเลอื กต้ัง ใคร่ขอขอบคณุ เครอื ข่ายต่างๆ ท่ี ให้ความร่วมมือในการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยและการสร้างพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตยที่ได้ดำ�เนินการมาก่อน หนา้ นจ้ี นประสบความส�ำ เรจ็ ในระดบั หนง่ึ และใครข่ อความรว่ มมอื ในการเผยแพร่ ความรเู้ ก่ยี วกับรฐั ธรรมนญู ให้แก่ประชาชนผา่ นทางช่องทางตา่ งๆ อย่างทัว่ ถึง และต่อเนื่องตอ่ ไปด้วย สำ�นกั งานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พฤศจิกายน 2560
1 ตอนที่ 1 ความส�ำ คัญของพรรคการเมือง กอ่ นเขา้ สเู่ นอ้ื หากฎหมายพรรคการเมอื ง จ�ำ เปน็ ตอ้ งรแู้ ละเขา้ ใจความหมาย ของพรรคการเมืองเสียก่อนครบั รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยฉบบั ปจั จบุ นั ก�ำ หนดใหบ้ คุ คลยอ่ มมี เสรภี าพในการรวมกนั จดั ตง้ั พรรคการเมอื งตามวถิ ที างปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองท่ีสำ�คัญในระบอบประชาธิปไตย แบบตวั แทน เนอ่ื งจากพรรคการเมอื งเกดิ จากการรวมกลมุ่ กนั ของบคุ คลซง่ึ มี อดุ มการณท์ างการเมอื งในแนวทางเดยี วกนั และ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื สง่ ผสู้ มคั ร ลงรบั เลอื กตง้ั เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ใหเ้ ขา้ ไปมบี ทบาทในการพจิ ารณา ออกกฎหมายที่จำ�เป็น เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติ ดังนั้น พรรคการเมืองจึงเป็นสถาบันที่มีความสำ�คัญและเป็นกลไก ทม่ี คี วามส�ำ คญั ของการพฒั นาประชาธปิ ไตยในประเทศไทย จงึ ไดม้ กี ารออกกฎหมาย พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยพรรคการเมอื งขน้ึ มาใช้ในการดำ�เนินการ ของพรรคการเมือง ครับ ร่วมเรียนร้รู ัฐธรรมนญู ใหม่ รว่ มสรา้ งประชาธปิ ไตย กา้ วไปกบั กกต. และ ศส.ปชต.
2 ตอนที่ 2 ความสำ�คัญของพรรคการเมือง เรามาดวู า่ พรรคการเมอื งนน้ั มคี วามส�ำ คญั อยา่ งไรพรรคการเมอื งถอื วา่ เป็นสถาบันที่มีความสำ�คัญ เนื่องจากเป็นองค์กรทางการเมืองที่เปิดโอกาส ใหป้ ระชาชนมที างเลอื กในการเขา้ มามสี ว่ นรว่ มทางการเมอื งโดยใชพ้ รรคการเมอื ง เปน็ เครื่องมอื หรอื แนวทางแก้ปญั หาและพัฒนาต่างๆ ผ่านการเลือกสมาชกิ พรรคเพอื่ เขา้ ไปเปน็ ตวั แทนของประชาชน พรรคการเมืองจงึ มบี ทบาทและความส�ำ คญั ย่งิ ต่อการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตย เนอ่ื งจากพรรคการเมอื งจะท�ำ หนา้ ทเ่ี ชอ่ื มโยงความตอ้ งการระหวา่ ง ภาครฐั กบั ประชาชน โดยทพ่ี รรคการเมอื งมหี นา้ ทใ่ี นการน�ำ ปญั หาความเดอื ดรอ้ น หรือความต้องการของประชาชนมาแปลงเป็นนโยบายของพรรคและนำ�นโยบาย เหลา่ น้นั ไปปฏบิ ตั ิ เม่ือพรรคการเมอื ง ไดร้ ับเลือกตงั้ เขา้ ไปทำ�หนา้ ที่ในฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั ิ หรอื ฝ่ายบริหาร สามารถน�ำ นโยบายของพรรค ที่หาเสยี งไว้กบั ประชาชนไปด�ำ เนนิ การ เพอ่ื แกไ้ ขปญั หาความเดอื ดรอ้ นใหก้ บั พน่ี อ้ งประชาชนครบั การเลอื กต้งั คุณภาพ โดยพลเมอื งคุณภาพ คอื การเลือกตัง้ ท่ีพลเมอื งมสี ่วนรว่ ม
3 ตอนที่ 3 บทบาทของพรรคการเมอื งในการเสรมิ สร้างความเขม้ แขง็ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองถือว่าเปน็ ผทู้ ม่ี บี ทบาทส�ำ คญั ต่อการสร้างความเขม้ แข็ง ให้เกดิ ขนึ้ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยคือ 1. พรรคการเมอื งมหี นา้ ทก่ี ลน่ั กรอง สรรหาและเลอื กผนู้ �ำ ทางการเมอื ง ทีม่ ีความเหมาะสม เข้าสมัครรับเลอื กตั้งทง้ั ระดับชาติและระดับทอ้ งถิน่ 2. ท�ำ หนา้ ทร่ี บั ฟงั ความคดิ เหน็ ขอ้ เรยี กรอ้ ง และปญั หาตา่ ง ๆ จากประชาชน เพอื่ น�ำ มาแปรเปลี่ยนเป็นนโยบายของพรรคการเมอื ง 3. ท�ำ หนา้ ทใ่ี นการใหก้ ารศกึ ษาทางการเมอื งแกป่ ระชาชน โดยการท�ำ ให้ ประชาชนเขา้ ใจถงึ ปัญหาตา่ งๆ ของประเทศ 4.พรรคการเมืองท่ีทำ�หน้าท่ีฝ่ายรัฐบาลจะต้องบริหารประเทศ ตามนโยบายของพรรคท่ีไดห้ าเสยี งไว้กบั ประชาชน 5. พรรคการเมอื งท�ำ หนา้ ทฝ่ี า่ ยคา้ น การปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องฝา่ ยคา้ นถอื วา่ เป็นส่ิงสำ�คัญเพราะมีหน้าท่ีในการทักท้วงและเสนอแนะเก่ียวกับการบริหารงาน ฝ่ายรัฐบาล นอกจากนพ้ี รรคการเมอื งยงั ทำ�หนา้ ทเี่ ก่ยี วกับการเปน็ ตวั แทนของกลมุ่ ผลประโยชนต์ า่ ง ๆ ทม่ี ารวมกนั เพอ่ื รบั รคู้ วามตอ้ งการของประชาชนได้ตรงประเดน็ มากท่ีสุดครบั ร่วมเรยี นรรู้ ัฐธรรมนญู ใหม่ ร่วมสร้างประชาธิปไตย ก้าวไปกับ กกต. และ ศส.ปชต.
4 ตอนที่ 4 คณุ สมบตั ิผขู้ อจดั ตั้งพรรคการเมือง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ได้กำ�หนด ให้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกต้ังเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง สำ�นักงานคณะกรรมการการเลอื กตั้ง จึงมบี ทบาทส�ำ คญั ในการขอจดทะเบียน จดั ตง้ั พรรคการเมอื ง หากผทู้ ม่ี คี วามสนใจหรอื ประสงคใ์ นการจดั ตง้ั พรรคจะตอ้ ง ประกอบดว้ ย บคุ คลซึ่งมอี ดุ มการณ์ทางการเมืองในแนวทางเดียวกัน จำ�นวน ไมน่ อ้ ยกวา่ 500 คน อาจรว่ มกนั ด�ำ เนนิ การเพอ่ื การจดั ตง้ั พรรคตอ้ งมคี ณุ สมบตั ิ และไมม่ ลี กั ษณะตอ้ งหา้ ม ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. มสี ญั ชาตไิ ทยโดยการเกดิ ในกรณเี ปน็ ผมู้ สี ญั ชาตไิ ทยโดยการแปลง สญั ชาติต2้อ. งมไีอดาส้ ยัญไุ มชาต่ ต่ำ�ิแกลวา่้วไ2ม0น่ ้อปยี กว่า 5 ปี 3. ไม่เป็นบุคคลตอ้ งหา้ มใชส้ ิทธสิ มคั รรบั เลอื กตงั้ ตามรฐั ธรรมนญู เชน่ ติดยาเสพติด, ล้มละลาย, ถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งช่ัวคราว, ถกู เพิกถอนสทิ ธิเลอื กต้ัง เป็นตน้ 4. อย่ใู นระหว่างสัง่ หา้ มมใิ ห้ด�ำ รงตำ�แหนง่ ใดในพรรคการเมอื ง 5. ไม่เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่น หรือผู้แจ้งการเตรียมการจัด ต้ังพรรคการเมืองอื่นเพื่อประโยชน์ในการดำ�เนินการของพรรคการเมือง ต้องมี ทนุ ประเดิมไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท โดยผู้ร่วมจัดตั้งพรรคทุกคน ต้องร่วมกันจ่ายเงินเป็นทุนประเดิมคนละไม่น้อยกว่า 1,000 บาท แต่ไม่เกิน คนละ 50,000 บาท หากผู้ฟังมีความสนใจจดั ตัง้ พรรคการเมืองก็สามารถยื่น ต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ณ สำ�นักงานคณะกรรมการ การเลอื กตงั้ ครับ การเลอื กตง้ั คุณภาพ โดยพลเมืองคุณภาพ คอื การเลอื กตั้งท่ีพลเมืองมสี ่วนรว่ ม
5 ตอนท่ี 5 การจดั ตงั้ พรรคการเมือง กฎหมายประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยพรรคการเมอื ง พ.ศ. 2560 ไดก้ �ำ หนด ให้ผสู้ นใจจดั ตงั้ พรรคการเมอื งต้องดำ�เนนิ การ ดังต่อไปนี้ 1. จดั ประชมุ เพื่อจัดตัง้ พรรคการเมือง โดยก่อนยนื่ ค�ำ ขอจดทะเบยี น ตงั้ พรรคการเมอื งจะตอ้ งประชมุ ร่วมกันโดยมผี เู้ ขา้ รว่ มประชมุ ไมน่ อ้ ยกว่า250คน เพอ่ื ด�ำ เนนิ การก�ำ หนดชอ่ื , ชอ่ื ยอ่ , ภาพเครอ่ื งหมายพรรค, ค�ำ ประกาศอดุ มการณ์ ทางการเมอื งของพรรค, นโยบายพรรค, ขอ้ บงั คบั พรรค, เลือกหัวหนา้ พรรค, เหรัญญกิ พรรค, นายทะเบียนสมาชิกพรรค, กรรมการบรหิ ารอ่นื ของพรรค และด�ำ เนนิ การอน่ื อนั จ�ำ เปน็ ตอ่ การจดั ตง้ั พรรค การประชมุ จดั ตง้ั พรรคการเมอื ง จะตอ้ งมบี นั ทกึ การประชมุ เปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร และนโยบายพรรค มตทิ ป่ี ระชมุ ใหเ้ ป็นไปตามเสียงข้างมากของผเู้ ข้ารว่ มประชุม 2. ผไู้ ดร้ บั เลอื กเปน็ หวั หนา้ พรรค เปน็ ผยู้ น่ื ค�ำ ขอตอ่ นายทะเบยี นพรอ้ มชอ่ื ช่อื ย่อ ภาพเครือ่ งหมาย ท่ีตง้ั ส�ำ นักงานใหญข่ องพรรค 3. นายทะเบยี นจะตอ้ งตรวจสอบความถูกต้อง หากถกู ตอ้ งครบถ้วน นายทะเบียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกต้งั รบั จดทะเบียน จดั ตง้ั พรรคการเมอื งและประกาศการจดั ตง้ั พรรคการเมอื ง นน้ั ในราชกจิ จนเุ บกษา ครบั ร่วมเรียนรู้รัฐธรรมนญู ใหม่ ร่วมสร้างประชาธิปไตย กา้ วไปกับ กกต. และ ศส.ปชต.
6 ตอนที่ 6 คณะกรรมการบริหารพรรคการเมอื ง พรรคการเมอื งทจ่ี ดทะเบยี นตง้ั พรรคการเมอื งแลว้ มฐี านะเปน็ นติ บิ คุ คล มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ด�ำ เนนิ กจิ กรรมทางการเมอื งตามหลกั การปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ในการด�ำ เนนิ กจิ กรรมจะตอ้ งมี คณะกรรมการบรหิ ารพรรคการเมอื ง ประกอบดว้ ย หวั หนา้ พรรคการเมอื ง เลขาธกิ าร พรรคการเมือง เหรญั ญิกพรรคการเมือง นายทะเบียนสมาชกิ และกรรมการ บริหารอ่นื คณะกรรมการบรหิ ารพรรคการเมือง เป็นผู้รบั ผดิ ชอบดำ�เนินกจิ กรรม ของพรรคการเมอื งให้เปน็ ไปตามรฐั ธรรมนญู กฎหมาย นโยบาย และขอ้ บงั คบั ของพรรค และมติของทปี่ ระชมุ ใหญ่ของพรรค ดว้ ยความรอบคอบระมดั ระวงั และซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ เพอ่ื ประโยชนข์ องประเทศและประชาชน และตอ้ งใหส้ มาชกิ มีส่วนร่วมและรบั ผิดชอบอยา่ งแทจ้ ริงในการด�ำ เนินกิจกรรมทางการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง ต้องรับผิดชอบร่วมกันในบรรดามติ ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง และในการดำ�เนินการตามหน้าท่ี และอำ�นาจของคณะกรรมการบริหารพรรค ตามพระราชบัญญัติประกอบ รฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยพรรคการเมือง ครบั การเลอื กต้งั คุณภาพ โดยพลเมืองคณุ ภาพ คอื การเลอื กตงั้ ที่พลเมืองมสี ่วนรว่ ม
7 ตอนที่ 7 การดำ�เนนิ กิจกรรมทางการเมอื งของพรรคการเมือง คณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องดำ�เนินกิจกรรมทางการเมือง ตามหลกั การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ซึ่งอย่างน้อยในแต่ละปีพรรคการเมืองต้องมีกิจกรรมอย่างใด อย่างหนึ่ง หรือ หลายอยา่ ง ดังตอ่ ไปนี้ 1. ส่งเสริมให้สมาชิกและประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกย่ี วกบั การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ 2. ร่วมกับประชาชนในการหาแนวทางการพฒั นาประเทศ และแก้ไข ปญั หาตา่ งๆ ท่เี กดิ ขึน้ ในสังคมอยา่ งมีเหตผุ ล โดยคำ�นึงถึงความสมดลุ ระหวา่ ง การพฒั นาด้านวตั ถุกบั การพัฒนาด้านจติ ใจ 3. สง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มของประชาชนในการด�ำ เนนิ กจิ กรรมทางการเมอื ง รว่ มตลอดทั้งการตรวจสอบการใช้อ�ำ นาจรฐั และการด�ำ เนนิ งานขององคก์ ร อสิ ระอย่างมเี หตผุ ล 4. สง่ เสรมิ ใหส้ มาชิกและประชาชนมคี วามสามคั คี ปรองดอง รู้จัก ยอมรบั ในความเห็นทางการเมอื งโดยสจุ รติ ทแี่ ตกต่าง และแก้ไขปัญหาความ ขดั แยง้ ทางการเมืองโดยสนั ตวิ ธิ ี 5. กิจกรรมอืน่ อนั จะยงั ประโยชน์ตอ่ การพัฒนาระบอบประชาธิปไตย อันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ รวมท้งั การพัฒนาพรรคการเมอื งใหเ้ ป็น สถาบันทางการเมอื งของประชาชน ใหห้ วั หนา้ พรรคการเมอื งโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการบรหิ าร พรรคจัดทำ�แผนหรือโครงการที่จะดำ�เนินกิจกรรมในแต่ละปีให้นายทะเบียน พรรคการเมอื งภายในเดอื นเมษายนของทกุ ปี และใหเ้ ผยแพร่ ใหป้ ระชาชนทราบ หากไมด่ �ำ เนนิ การพรรคการเมอื งจะมคี วามผดิ มโี ทษปรบั ไมเ่ กนิ 50,000 บาท และปรบั อกี วนั ละ 1,000 บาท ตลอดเวลาทย่ี ังมิได้ปฏบิ ตั ิใหถ้ ูกตอ้ ง ครับ รว่ มเรยี นร้รู ัฐธรรมนญู ใหม่ รว่ มสร้างประชาธิปไตย ก้าวไปกับ กกต. และ ศส.ปชต.
8 ตอนที่ 8 สมาชิกพรรคการเมอื ง หากทา่ นมคี วามประสงคจ์ ะสมคั รเป็นสมาชิกพรรคการเมอื ง พรรคใด พรรคหนงึ่ ทา่ นสามารถสมคั รการเปน็ สมาชกิ พรรคได้ที่นายทะเบยี นสมาชิกพรรค ของพรรคการเมืองทีท่ า่ นประสงค์ ซง่ึ ผทู้ ีจ่ ะสมคั รเปน็ สมาชกิ พรรคการเมือง จะต้องม1ีค.ณุ มสอี มาบยไุตั มิ ดต่ งั�่ำ ตก่อว่าไป1น8้ี ปี 2. มสี ัญชาตไิ ทยโดยกำ�เนดิ ในกรณเี ปน็ ผู้มสี ัญชาติไทยโดยการแปลง สัญชาติ ต้องไดส้ ัญชาติไทยมาแล้วไมน่ อ้ ยกวา่ 5 ปี 3. ไม่เป็นบคุ คลตอ้ งหา้ มมิใหใ้ ช้สิทธสิ มัครรับเลือกตัง้ ตามรัฐธรรมนูญ เช่น ติดยาเสพตดิ , เปน็ บุคคลลม้ ละลาย หรือเคยเปน็ บคุ คลล้มละลายทจุ รติ , อยู่ในระหว่างเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง, ถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ช่วั คราวหรอื ถกู เพกิ ถอนสทิ ธสิ มัครรบั เลือกตั้ง เปน็ ตน้ 4. ไมเ่ ปน็ สมาชกิ ของพรรคการเมอื งอน่ื หรอื ผแู้ จง้ การเตรยี มการจดั ตง้ั พรรคการเมืองอน่ื นายทะเบยี นสมาชกิ พรรคการเมอื งทร่ี บั สมคั ร จะตอ้ งตรวจสอบคณุ สมบตั ิ และลกั ษณะตอ้ งหา้ มของผสู้ มคั รสมาชกิ และตอ้ งจดั ท�ำ ทะเบยี นสมาชกิ ใหต้ รงตาม ความเป็นจริง และต้องให้สมาชิกสามารถติดตามตรวจสอบได้โดยสะดวก ณ สำ�นักงานใหญ่ของพรรคการเมือง รวมทั้งประกาศชื่อและนามสกุลของ สมาชกิ ใหป้ ระชาชนทราบเปน็ การทว่ั ไปดว้ ย ครบั การเลือกตั้งคุณภาพ โดยพลเมอื งคณุ ภาพ คือ การเลอื กตัง้ ท่ีพลเมอื งมีส่วนรว่ ม
9 ตอนที่ 9 การตรวจสอบการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หากทา่ นตอ้ งการตรวจสอบการเปน็ สมาชกิ พรรคการเมอื งของตวั ทา่ นเอง วา่ เปน็ สมาชกิ พรรคการเมอื งใดบา้ งหรอื มกี ารแอบอา้ งชอ่ื ของทา่ นไปเปน็ สมาชกิ ของพรรคการเมืองใดหรือไม่ ท่านสามารถตรวจสอบได้จากนายทะเบียน พรรคการเมอื ง ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญวา่ ด้วยพรรคการเมอื ง พ.ศ. 2560 ไดก้ �ำ หนดใหเ้ ลขาธกิ ารคณะกรรมการการเลอื กตง้ั เปน็ นายทะเบยี นพรรคการเมอื ง และได้กำ�หนดให้นายทะเบียนพรรคการเมืองตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีท่ี พรรคการเมืองใดแอบอ้างว่าผู้ใดสมัครเป็นสมาชิกโดยไม่รู้เห็นหรือไม่สมัครใจ ผู้ที่ถูกแอบอ้างสามารถแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองตรวจสอบ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการแอบอ้างจริงก็สามารถลบชื่อของผู้นั้นออก จากการเปน็ สมาชิกพรรคการเมืองท่ีแอบอา้ งได้ และใหถ้ อื วา่ ผูน้ น้ั ไมเ่ คยเปน็ สมาชกิ พรรคการเมืองนน้ั มากอ่ น นอกจากนั้น นายทะเบียนพรรคการเมืองยังมีหน้าที่ตรวจสอบถึง ความซ้ำ�ซ้อนของสมาชิกทุกพรรคการเมือง หากตรวจแล้วพบว่าบุคคลใด เปน็ สมาชกิ พรรคการเมอื งหลายพรรคการเมอื ง ใหน้ ายทะเบยี บพรรคการเมอื ง แจ้งให้หัวหน้าพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องทราบ และลบชื่อผู้นั้นออกจาก การเป็นสมาชกิ พรรคการเมอื งนนั้ ครับ รว่ มเรยี นร้รู ฐั ธรรมนญู ใหม่ ร่วมสรา้ งประชาธปิ ไตย ก้าวไปกบั กกต. และ ศส.ปชต.
10 ตอนที่ 10 การส้ินสุดการเป็นสมาชิกพรรคการเมอื ง การเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเม่อื ได้มีการสมัครและมีการตรวจสอบ คุณสมบัติ และลักษณะตอ้ งห้ามถกู ต้องครบถว้ นแลว้ ความเปน็ สมาชิกพรรค เรม่ิ ตง้ั แตส่ มาชกิ ไดช้ �ำ ระคา่ บ�ำ รงุ พรรคการเมอื ง และการสน้ิ สดุ การเปน็ สมาชกิ เมอ่ื 1. ลาออก ใหถ้ อื วา่ สมบรู ณ์ เมอ่ื ไดย้ น่ื ใบลาออกตอ่ นายทะเบยี นสมาชกิ พรรคการเมอื ง หรือนายทะเบียนพรรคการเมืองแลว้ 2. ขาดคณุ สมบตั หิ รอื มลี กั ษณะตอ้ งหา้ ม เชน่ ตดิ ยาเสพตดิ , เปน็ บคุ คล ล้มละลาย, อยู่ในระหว่างเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง, ถูกระงับการใช้สิทธิสมัคร รับเลือกตัง้ เป็นการชั่วคราว หรอื ถูกเพกิ ถอนสิทธิเลือกตงั้ เปน็ ต้น จากกรณกี ารขาดคณุ สมบตั นิ ้ี กฎหมายประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยพรรคการเมอื ง พ.ศ. 2560 ได้ยกเวน้ กรณที ี่มีการบวชตามประเพณนี ิยม จะไมข่ าดคณุ สมบตั ิ แตห่ า้ มใช้สทิ ธใิ นฐานะสมาชกิ พรรคการเมอื งนีไ้ ด้ 3. ไม่ชำ�ระคา่ บ�ำ รงุ พรรคการเมอื งเป็นเวลา 2 ปี ติดตอ่ กัน กรณีสมาชิกพรรคการเมืองดำ�รงตำ�แหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หากขอ้ บงั คบั จะใหส้ มาชกิ พน้ จากต�ำ แหนง่ สมาชกิ พรรคการเมอื งนน้ั ขอ้ บงั คบั พรรคการเมอื งจะต้องมีคะแนนเสยี งไมน่ อ้ ยกวา่ 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมกนั ของคณะกรรมการบรหิ ารพรรคการเมอื ง และสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทส่ี งั กดั พรรคการเมืองนั้น จึงจะให้สมาชิกพรรคการเมืองที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรดว้ ยพน้ จากสมาชกิ พรรคการเมอื งได้ ครับ การเลอื กตั้งคณุ ภาพ โดยพลเมอื งคณุ ภาพ คือ การเลือกตง้ั ที่พลเมืองมสี ว่ นรว่ ม
11 ตอนที่ 11 ขอ้ หา้ มการด�ำ เนินการที่เกย่ี วกบั สมาชิกพรรคการเมือง การดำ�เนินการเกี่ยวกับการรับสมาชิกพรรคการเมืองนั้น จะต้อง ดำ�เนนิ การตามที่กฎหมายก�ำ หนด และหา้ มดำ�เนนิ การ ดังต่อไปน้ี 1. การรับสมาชิกพรรค หา้ มมใิ ห้พรรคการเมอื งหรอื ผ้ใู ดให้เสนอให้ หรอื สญั ญาวา่ จะใหเ้ งนิ ทรพั ยส์ นิ หรอื ประโยชนอ์ น่ื ใด ไมว่ า่ ทางตรงหรอื ทางออ้ ม เพ่ือจูงใจให้บุคคลหนงึ่ บคุ คลใดสมคั รเขา้ เปน็ สมาชกิ 2. การสมคั รเปน็ สมาชกิ หา้ มมใิ หผ้ สู้ มคั รผใู้ ดเรยี กรบั หรอื ยอมจะรบั เงนิ ทรพั ย์สนิ หรอื ประโยชนอ์ ื่นใดจากพรรคการเมอื ง หรอื จากผู้ใดเพอื่ สมคั รเป็น สมาชกิ หากมีกรณีที่พรรคการเมืองให้เงิน หรือทรัพย์สินเพื่อให้เป็นสมาชิก พรรคการเมอื ง หรอื ผสู้ มคั ร เปน็ สมาชกิ เรยี กเงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ จากพรรคการเมอื ง ผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษทางอาญา และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มกี ำ�หนด 5 ปี นอกจากนี้ ในการดำ�เนินกิจกรรมของพรรคการเมือง ห้ามมิให้ พรรคการเมืองยินยอม หรือให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคการเมืองกระท�ำ การอนั เปน็ การควบคมุ ครอบง�ำ หรอื ชน้ี �ำ กจิ กรรมของพรรคการเมอื งในลกั ษณะ ที่ทำ�ให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกพรรคการเมืองขาดความอิสระ ไม่ว่าทั้ง ทางตรงหรือทางอ้อม หากผู้ใดซึ่งมิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองเข้าควบคุม ครอบง�ำ หรอื ชน้ี �ำ ดงั กลา่ ว ผใู้ ดฝา่ ฝนื จะมโี ทษทางอาญา และใหศ้ าลสง่ั เพกิ ถอน สิทธิสมคั รรบั เลือกตงั้ ด้วย ครบั รว่ มเรยี นรู้รัฐธรรมนญู ใหม่ รว่ มสร้างประชาธิปไตย กา้ วไปกับ กกต. และ ศส.ปชต.
12 ตอนที่ 12 การด�ำ เนินการของพรรคการเมอื งภายใน 1 ปี หลงั จัดตัง้ พรรคการเมือง หลังจากการจัดตั้งพรรคการเมืองแล้ว พรรคการเมืองมีภารกิจ ทจ่ี ะตอ้ งด�ำ เนนิ การใหแ้ ล้วเสร็จภายในระยะ 1 ปี ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ดำ�เนินการให้มีจ�ำ นวนสมาชิกไม่น้อยกวา่ 5,000 คน และตอ้ งเพม่ิ จำ�นวนสมาชิกไม่น้อยกวา่ 10,000 คน ภายใน 4 ปนี ับแตว่ ันทน่ี ายทะเบียน พรรคการเมืองรบั จดทะเบยี น 2. จดั ใหม้ สี าขาพรรคการเมอื งในแตล่ ะภาคอยา่ งนอ้ ยภาคละหนง่ึ สาขา โดยสาขาพรรคการเมืองแต่ละสาขาต้องมีสมาชิกที่มีภูมิลำ�เนาอยู่ในเขตพื้นท่ี รับผิดชอบของสาขานั้น ต้งั แต่ 500 คน ขน้ึ ไป เมื่อมีการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองขึ้นในภาคใดแล้ว ให้หัวหน้า พรรคการเมืองมีหนังสือแจ้ง การจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองต่อนายทะเบียน พรรคการเมืองภายใน 15 วัน นับแต่วันที่จัดตั้งสาขานั้น และประกาศให้ ประชาชนทราบเปน็ การทั่วไปด้วย ภายหลังการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองแล้ว สาขาพรรคการเมือง ใดมีสมาชิกที่มีภูมิลำ�เนาของสาขานั้นน้อยกว่า 500 คน ให้นายทะเบียน พรรคการเมืองมีหนังสือแจ้งให้พรรคการเมืองดำ�เนินการหาสมาชิก ให้ครบ จ�ำ นวน 500 คน หากไมด่ �ำ เนนิ การหรอื ด�ำ เนนิ การแลว้ ไมส่ ามารถด�ำ เนนิ การได้ ให้สาขาพรรคการเมืองน้นั สนิ้ สภาพไป ครบั การเลอื กต้งั คุณภาพ โดยพลเมืองคณุ ภาพ คือ การเลอื กตงั้ ทีพ่ ลเมอื งมีสว่ นรว่ ม
13 ตอนท่ี 13 คณะกรรมการสาขาพรรคการเมอื ง ในการจดั ตง้ั สาขาพรรคการเมอื งในแตล่ ะภาค จะตอ้ งมคี ณะกรรมการ สาขาพรรคการเมอื งประกอบดว้ ย หวั หน้า และกรรมการสาขาพรรคการเมือง ตามจำ�นวนที่กำ�หนดในข้อบังคับพรรคการเมือง ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 7 คน กรรมการสาขาพรรคการเมอื งตอ้ งเปน็ สมาชกิ พรรคการเมือง และมีคุณสมบตั ิ และไม่มีลักษณะตอ้ งหา้ มเช่นเดยี วกับกรรมการบริหารพรรคการเมือง ในกรณที ม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงทต่ี ง้ั สาขาพรรคการเมอื ง หรอื คณะกรรมการ สาขาพรรคการเมือง ให้หัวหน้าพรรคการเมืองมีหนังสือแจ้งให้นายทะเบียน พรรคการเมืองทราบภายใน 15 วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้น และประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทว่ั ไปดว้ ย ในการจดั ตั้งสาขาพรรคการเมืองจะจัดตง้ั ขึน้ นอกราชอาณาจกั รมไิ ด้ องค์ประชุมของท่ีประชุมใหญ่สาขาพรรคการเมืองให้เป็นไปตามท่ี ก�ำ หนดในขอ้ บงั คบั ซง่ึ อยา่ งนอ้ ยตอ้ งประกอบดว้ ยกรรมการสาขาพรรคการเมอื ง ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการสาขาพรรคการเมืองทั้งหมด และสมาชิก สาขาพรรคการเมอื ง ท้ังน้ี มีจ�ำ นวนรวมกันไม่นอ้ ยกวา่ 100 คน ครับ รว่ มเรยี นรูร้ ัฐธรรมนญู ใหม่ รว่ มสรา้ งประชาธปิ ไตย ก้าวไปกับ กกต. และ ศส.ปชต.
14 ตอนท่ี 14 ความส�ำ คัญของสาขาพรรคการเมือง สาขาพรรคการเมอื งเปน็ ตวั แทนของพรรคการเมอื งทก่ี ระจายอยตู่ ามภาค สาขาพรรคการเมอื งมีความสำ�คญั ดงั ต่อไปนี้ 1.สาขาพรรคการเมอื งมสี ว่ นส�ำ คญั อยา่ งยง่ิ ในการสรรหาผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ทม่ี คี ณุ สมบตั เิ หมาะสมมคี วามรู้ ความสามารถไดร้ บั การยอมรับจากประชาชน 2.สาขาพรรคการเมอื งจะเปน็ องคก์ รทส่ี ามารถน�ำ นโยบายของพรรคการเมอื ง ไปสคู่ วามส�ำ เรจ็ ในการปฏบิ ตั เิ ปน็ อยา่ งดี เพราะสาขาพรรคมคี วามใกลช้ ดิ กบั สมาชกิ พรรคการเมอื ง ซง่ึ กระจดั กระจายในท้องถนิ่ 3. สาขาพรรคการเมอื ง มหี นา้ ทเ่ี ปน็ สอ่ื ประสานระหวา่ งพรรคการเมอื ง กบั สมาชิกพรรค และผใู้ หค้ วามสนใจในกิจกรรมของพรรคได้เป็นอย่างดี 4. สาขาพรรคการเมอื ง มหี นา้ ทใ่ี หก้ ารสนบั สนนุ การเลอื กตง้ั ของพรรค การเมือง ไม่ว่าเป็นการเลือกตั้งทั่วไป การเลือกตั้งแทนตำ�แหน่งที่ว่าง รวมไปถงึ การเลือกตั้งระดับท้องถนิ่ 5. สาขาพรรคการเมือง เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลและข่าวสารต่างๆ ใหแ้ กพ่ รรคการเมอื ง เนอ่ื งจากสาขาพรรคการเมอื งจะมคี วามใกลช้ ดิ กบั ประชาชน ในทอ้ งถน่ิ โดยสาขาพรรคจะสามารถหาขอ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง หรอื ใกลเ้ คยี งกบั สภาพ ความเปน็ จริงทีเ่ กดิ ข้ึนในทอ้ งถิ่น 6. สาขาพรรคการเมือง เป็นตัวชว่ ยในการตอบสนองความต้องการ ของประชาชน ดังนั้น สาขาพรรคการเมืองจึงมีความสำ�คัญอย่างมาก เพราะสาขา พรรคคอื รากฐานส�ำ คญั ทจ่ี ะท�ำ ใหพ้ รรคการเมอื งเขม้ แขง็ อนั น�ำ ไปสกู่ ารพฒั นา หรือปฏิรูปการเมืองให้เกิดความสมบูรณ์แบบในระบอบประชาธิปไตยท่ีพึง ปรารถนา ครบั การเลือกตงั้ คุณภาพ โดยพลเมืองคณุ ภาพ คือ การเลอื กตั้งทพ่ี ลเมอื งมีสว่ นร่วม
15 ตอนท่ี 15 ตัวแทนพรรคการเมืองประจ�ำ จังหวดั การจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง เพื่อดำ�เนินการคัดเลือกผู้สมัคร ในเขตเลือกตั้งที่รับผิดชอบ แต่หากเขตเลือกตั้งในจังหวัดที่มิได้เป็นที่ตั้ง สำ�นักงานใหญ่หรือสาขาพรรคการเมือง หากจะต้องมีการคัดเลือกผู้สมัคร ก็ไม่สามารถที่จะดำ�เนินการได้ จึงจะต้องมีการดำ�เนินการจัดตั้งตัวแทน พรรคการเมืองประจำ�จังหวัดขึ้น เพื่อดำ�เนินการกิจกรรมของพรรคการเมือง ในเขตพืน้ ทที่ ร่ี ับผดิ ชอบภายในจังหวดั นั้น ตัวแทนพรรคการเมอื งประจำ�จังหวดั เกิดจากการท่ีพรรคการเมืองน้นั มีสมาชิกซึ่งมีภูมิลำ�เนาอยู่ ในเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้นเกินกว่า 100 คน ให้พรรคการเมืองแต่งต้ังสมาชิกซ่ึงมีภูมิลำ�เนาอยู่ในเขตเลือกต้ังในจังหวัดน้ัน ซึ่งมาจากการเลือกของสมาชิกเป็นตัวแทนพรรคการเมืองประจำ�จังหวัด ประกอบดว้ ยหัวหนา้ กรรมการตัวแทนพรรคการเมอื งประจ�ำ จงั หวัด ซึง่ ตอ้ ง ไมน่ อ้ ยกวา่ 7 คนเป็นกรรมการ ใหพ้ รรคการเมอื งแจง้ ใหน้ ายทะเบยี นพรรคการเมอื งทราบ ภายใน 15 วนั นบั แตว่ นั ทม่ี กี ารแตง่ ตง้ั หรอื เปลย่ี นแปลงตวั แทนพรรคการเมอื งประจ�ำ จงั หวดั ครบั รว่ มเรียนรรู้ ัฐธรรมนูญใหม่ รว่ มสร้างประชาธิปไตย ก้าวไปกับ กกต. และ ศส.ปชต.
16 ตอนที่ 16 การประชมุ ใหญ่ของพรรคการเมอื ง พรรคการเมอื งตอ้ งจดั ใหม้ กี ารประชมุ ใหญพ่ รรคอยา่ งนอ้ ยปลี ะ 1 ครง้ั ในการดำ�เนินกิจการของพรรคการเมือง กำ�หนดให้สามารถกระทำ�ได้โดย ที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง ดังต่อไปนี้ 1. การแก้ไขเปล่ยี นแปลงค�ำ ประกาศอดุ มการณ์ทางการเมืองของ พรรคการเมือง หรือนโยบายของพรรคการเมอื ง 2. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับ 3. การเลอื กตง้ั หวั หนา้ พรรคการเมอื ง เลขาธกิ ารพรรคการเมอื ง เหรญั ญกิ พรรคการเมอื ง นายทะเบยี นสมาชกิ และกรรมการบรหิ ารอน่ื ของพรรคการเมอื ง 4. การเลอื กตง้ั คณะกรรมการสรรหาผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ของพรรคการเมอื ง การด�ำ เนนิ การแก้ไขเปล่ยี นแปลงคำ�ประกาศอุดมการณ์การเลือกตงั้ หัวหน้าพรรค เลขาธกิ าร เหรัญญกิ นายทะเบยี น และกรรมการบริหารพรรค เมอ่ื ไดร้ บั ความเห็นชอบจากทปี่ ระชมุ ใหญข่ องพรรคการเมอื งแล้ว ใหห้ ัวหน้า พรรคการเมอื งมีหนังสือแจ้งใหน้ ายทะเบียนพรรคการเมืองทราบ เพอื่ แกไ้ ข เปล่ยี นแปลงการจดทะเบยี นภายใน 15 วัน นับแตว่ นั ทีไ่ ด้รับความเห็นชอบ จากท่ปี ระชมุ ใหญข่ องพรรคการเมือง และใหน้ ายทะเบยี นประกาศการแก้ไข เปลีย่ นแปลงดงั กล่าว ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ครบั การเลือกตัง้ คุณภาพ โดยพลเมืองคณุ ภาพ คือ การเลอื กตงั้ ท่พี ลเมืองมีสว่ นร่วม
17 ตอนท่ี 17 การสง่ ผู้สมัครรบั เลือกตั้ง ในการส่งผู้สมัครรับเลอื กต้ัง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลอื กตัง้ ในเขตเลือกต้งั ใด หรือการส่งผู้สมัครรบั เลือกตง้ั ส.ส. แบบบญั ชรี ายช่อื ใหพ้ รรคการเมืองสง่ ผสู้ มคั รจากผไู้ ดร้ บั การเลอื กจากสาขาพรรคการเมอื ง หรอื ตวั แทนพรรคการเมอื ง ประจำ�จังหวัด ซึ่งในการดำ�เนินการจะต้องเริ่มมีการจัดตั้งสาขาพรรคขึ้น ในแต่ละภาค อยา่ งน้อยภาคละ 1 สาขา หากไม่มีสาขากต็ ้องมกี ารเลือกตวั แทน พรรคการเมอื งประจ�ำ จงั หวดั ขน้ึ มาท�ำ หนา้ ท่ี โดยพรรคการเมอื งทกุ พรรคจะตอ้ ง จัดให้มีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ประกอบด้วยกรรมการบริหารพรรค ไมเ่ กนิ กึ่งหน่งึ ของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกต้ัง และหัวหน้าสาขา พรรคการเมอื ง และตวั แทนพรรคการเมอื งประจ�ำ จงั หวดั ท�ำ หนา้ ทใ่ี นการสรรหา ผ้สู มัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลอื กต้งั และ ส.ส. แบบบญั ชีรายชอ่ื ใหไ้ ดผ้ ูซ้ งึ่ มี ความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์ สุจริต และมีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อเข้าไป ท�ำ หน้าท่ีในฝ่ายนติ บิ ัญญตั ิ และฝ่ายบรหิ ารตอ่ ไป ครบั รว่ มเรียนร้รู ัฐธรรมนูญใหม่ รว่ มสรา้ งประชาธปิ ไตย ก้าวไปกับ กกต. และ ศส.ปชต.
18 ตอนท่ี 18 วธิ กี ารสรรหาผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ส.ส. แบบแบง่ เขตเลอื กตง้ั ในการสรรหาผสู้ มคั ร ส.ส. แบบแบง่ เขตทจ่ี ะมขี น้ึ จ�ำ นวน 350 เขตเลอื กตง้ั คณะกรรมการสรรหาผสู้ มคั รจะตอ้ งมกี ารก�ำ หนดวนั เวลาและสถานท่ี ในการสมคั ร เปน็ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั และประกาศใหส้ มาชกิ รบั ทราบเปน็ การทว่ั ไปเมอ่ื มกี ารสมคั ร จากสมาชกิ เพอ่ื เปน็ ส.ส. แบบแบง่ เขตเลอื กตง้ั และพน้ ระยะเวลาการรบั สมคั ร คณะกรรมการสรรหาจะต้องดำ�เนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง แล้วส่งรายชื่อผู้สมัครให้สาขาพรรค หรอื ตวั แทนพรรค ประจำ�จังหวัดท่ีมพี ื้นท่ีรบั ผดิ ชอบในเขตเลอื กตั้งน้นั เมอ่ื สาขาพรรคหรือตวั แทน พรรคประจำ�จังหวัดได้รับรายชื่อผู้สมัครจากคณะกรรมการสรรหาแล้ว ใหห้ วั หนา้ สาขาพรรค หรอื ตวั แทนพรรคประจ�ำ จงั หวดั จดั การประชมุ สมาชกิ พรรค เลอื กผสู้ มคั รตามรายชอ่ื ทค่ี ณะกรรมการสรรหาสง่ มา ในการประชมุ สาขาพรรค ตอ้ งมสี มาชกิ มารว่ มประชมุ ไมน่ อ้ ยกวา่ 100 คน หรอื การประชมุ ตวั แทนพรรค ประจ�ำ จงั หวดั ทส่ี มาชกิ มารว่ มประชมุ ไมน่ อ้ ยกวา่ 50 คนในการลงคะแนนใหส้ มาชกิ มสี ทิ ธลิ งคะแนนได้ 1 คน และเมอ่ื ลงคะแนนเสรจ็ สน้ิ ใหน้ บั คะแนนและประกาศผล การนบั คะแนนแลว้ รายงานชอ่ื ผสู้ มคั รซง่ึ ไดร้ บั คะแนนล�ำ ดบั สงู สดุ 2 ล�ำ ดบั แรก ใหค้ ณะกรรมการสรรหาแล้วให้สง่ รายช่อื ให้คณะกรรมการบริหารพรรคพจิ ารณา ใหค้ วามเห็นชอบ หากคณะกรรมการบริหารพรรคไม่เห็นชอบใหแ้ สดงเหตผุ ล และใหพ้ จิ ารณา ผสู้ มคั รซง่ึ ไดค้ ะแนนล�ำ ดบั ถดั ไปเปน็ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั หากไมเ่ หน็ ชอบ รายชอ่ื ทส่ี ง่ มาทง้ั หมด ใหค้ ณะกรรมการบรหิ ารพรรคและคณะกรรมการสรรหา ประชมุ รว่ มกนั และถา้ ทป่ี ระชมุ รว่ มกนั มมี ตไิ มเ่ หน็ ชอบกบั รายชอ่ื ผสู้ มคั รทส่ี ง่ มา ก็ให้ดำ�เนินการกระบวนการสรรหาใหม่จนกว่าจะได้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในเขตเลอื กต้ัง ครับ การเลือกตงั้ คณุ ภาพ โดยพลเมอื งคุณภาพ คอื การเลอื กต้ังท่พี ลเมืองมีส่วนรว่ ม
19 ตอนที่ 19 วธิ กี ารสรรหาผู้สมัครรบั เลอื กตง้ั ส.ส. แบบบญั ชรี ายชื่อ ในการสรรหาผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ส.ส. แบบบญั ชรี ายชอ่ื ของพรรคการเมอื ง จำ�นวน 150 รายชื่อ คณะกรรมการสรรหาของพรรค จะกำ�หนดวัน เวลา และสถานที่ ในการเสนอรายชื่อบุคคลเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง จะมีหนังสือ แจง้ ไปยังคณะกรรมการบรหิ ารพรรค หวั หนา้ พรรค ตัวแทนพรรคประจ�ำ จงั หวดั และประกาศใหส้ มาชกิ รบั ทราบเป็นการท่ัวไป เม่อื พน้ ระยะเวลาการเสนอชอ่ื ใหค้ ณะกรรมการสรรหา ตรวจสอบคณุ สมบตั แิ ละจดั ท�ำ บญั ชรี ายชอ่ื ไมเ่ กนิ 150 รายชอ่ื สง่ บญั ชรี ายชอ่ื ไปยงั สาขาพรรค หรอื ตวั แทนพรรคประจ�ำ จงั หวดั เพอ่ื ให้ จดั การประชุมใหส้ มาชิกลงคะแนนเสียงเลือกบุคคลจากบญั ชี โดยใหส้ มาชกิ ลงคะแนนไดค้ นละไมเ่ กิน 15 รายชอื่ การประชมุ สาขาพรรคต้องมสี มาชิก มาประชมุ ไมน่ อ้ ยกวา่ 100 คน หรอื การจดั ประชมุ ตวั แทนพรรคประจ�ำ จงั หวดั ต้องมีสมาชิกมาประชุม ไม่น้อยกว่า 50 คน เมื่อมีการลงคะแนนเสร็จ ให้ประกาศผลการนับคะแนนแล้วรายงานไปยังคณะกรรมการสรรหาจัดทำ�บัญชี รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยเรียงลำ�ดับตามผลรวมของคะแนนที่ได้รับ ในกรณหี วั หนา้ พรรคการเมอื งประสงคจ์ ะเปน็ ผสู้ มคั รบั เลอื กตง้ั ส.ส. แบบบญั ชี รายชื่อ ใหห้ วั หนา้ พรรคอยู่ในบัญชรี ายชื่อผสู้ มัครรบั เลือกต้ังล�ำ ดับที่ 1 และให้ เรียงลำ�ดับรายชื่อตามผลคะแนนในลำ�ดับถัดไปจนครบจำ�นวนแล้วส่งรายชื่อ ให้คณะกรรมการบริหารพรรคให้ความเห็นชอบ หากคณะกรรมการบริหาร พรรคไม่เห็นชอบก็ให้มีการดำ�เนินการสรรหาใหม่ จนกว่าจะได้บัญชีรายชื่อ ผ้สู มคั รรับเลือกตัง้ ตอ่ ไป ครับ รว่ มเรยี นรูร้ ฐั ธรรมนญู ใหม่ รว่ มสร้างประชาธปิ ไตย ก้าวไปกับ กกต. และ ศส.ปชต.
20 ตอนท่ี 20 ขอ้ หา้ มเกี่ยวกบั การด�ำ เนินการสรรหา ผู้สมคั รรับเลอื กตง้ั ของพรรคการเมอื ง ในการสรรหาผสู้ มัคร ส.ส. แบบแบง่ เขตและ ส.ส. แบบบญั ชีรายชื่อ เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค จะต้องดำ�เนินการ ใหเ้ ปน็ ไปตามขน้ั ตอนทก่ี ฎหมายบญั ญตั ิ และในการด�ำ เนนิ การสรรหาหา้ มมใิ ห้ ผใู้ ด ให้เงนิ ทรัพย์สิน เพอ่ื จงู ใจให้สมาชกิ ของสาขาพรรค หรือตวั แทนพรรค ประจ�ำ จงั หวดั ลงคะแนนใหก้ บั ตนเองหรอื ผอู้ น่ื และก�ำ หนดวา่ ในการลงคะแนน สรรหาหา้ มผใู้ ด หลอกลวง บงั คบั ขเู่ ขญ็ ใชอ้ ทิ ธพิ ลคกุ คาม ใสร่ า้ ยดว้ ยความเทจ็ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม หรือไม่ให้ไปประชุมเพื่อลงคะแนน ซึ่งเป็นการจูงใจให้สมาชิกของสาขาพรรค หรือตัวแทนพรรคประจำ�จังหวัด ลงคะแนนให้กบั ตนเองหรอื ผู้อนื่ นอกจากนี้ กฎหมายห้ามมใิ หพ้ รรคการเมือง หรือผู้ใด หรือสัญญาว่าจะให้ เงิน ทรัพย์สิน เพื่อให้สมาชิกผู้ใดลงสมัคร หรอื ไมล่ งสมคั รรบั เลอื ก ส.ส. แบบแบง่ เขตเลอื กตง้ั หรอื ส.ส. แบบบญั ชรี ายชอ่ื หากปรากฏว่ามกี ารฝา่ ฝนื จะมโี ทษทางอาญา และให้ศาลมีคำ�สง่ั เพิกถอนสิทธิ สมคั รรับเลือกต้งั ของผสู้ มคั ร ครับ การเลอื กต้ังคุณภาพ โดยพลเมืองคณุ ภาพ คือ การเลอื กตั้งทพี่ ลเมอื งมสี ่วนรว่ ม
21 ตอนที่ 21 การออกหนงั สอื รบั รองผสู้ มัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบญั ชรี ายช่ือ เมื่อมีการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและ ส.ส. แบบ บัญชีรายชื่อได้แล้ว หัวหน้าพรรคการเมืองออกหนังสือรับรองการส่งผู้ได้รับ การสรรหา เพื่อใช้ในการสมัครรับเลือกตั้ง หากภายหลังปรากฏว่ามิได้มี การด�ำ เนนิ การสรรหาตามขน้ั ตอนของกฎหมาย หรอื ด�ำ เนนิ การแลว้ ไมค่ รบถว้ น แล้วแต่กรณี ไม่ทำ�ให้การสมัครรับเลือกตั้งนั้นเสียไป แต่ถ้าคณะกรรมการ การเลือกต้ังทราบถึงการไม่ดำ�เนินการให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ การเลือกตั้งที่จะต้องกล่าวโทษหัวหน้าพรรคการเมือง และกรรมการบริหาร พรรคการเมอื ง ตอ่ พนกั งานสอบสวนซง่ึ มเี ขตอ�ำ นาจเพอ่ื ด�ำ เนนิ การตามอ�ำ นาจ หนา้ ที่ และหากปรากฏวา่ หวั หน้าพรรคการเมือง ออกหนังสือรับรองผูส้ มคั ร รับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หรือแบบบัญชีรายชื่ออันเป็นเท็จ จะมโี ทษทางอาญา และใหศ้ าลสงั่ เพกิ ถอนสิทธเิ ลอื กตงั้ มกี ำ�หนด 5 ปี ครับ รว่ มเรียนรูร้ ฐั ธรรมนูญใหม่ รว่ มสร้างประชาธิปไตย ก้าวไปกบั กกต. และ ศส.ปชต.
22 ตอนที่ 22 การบรจิ าคแก่พรรคการเมือง พรรคการเมืองอาจมีรายไดจ้ ากเงิน ทรพั ย์สิน และประโยชน์ อืน่ ใด ท่ไี ดจ้ ากการรับบรจิ าค เปน็ การใหเ้ งิน ทรัพย์สินแก่พรรคการเมอื ง นอกจาก ค่าธรรมเนียมและค่าบำ�รุงพรรคการเมือง การรับบริจาคในทุกๆ เดือน ใหพ้ รรคการเมืองประกาศรายชื่อผู้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน ให้ประชาชนทราบ เป็นการทั่วไป พร้อมวัตถุประสงค์ของการบริจาค บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อปีมิได้ กรณีเป็นนิติบุคคล บริจาคให้ พรรคการเมืองไม่เกินปลี ะ 5 ลา้ นบาท และตอ้ งแจง้ ให้ท่ีประชุมใหญ่ ผูถ้ ือหนุ้ ทราบดว้ ย บคุ คลหรือนิติบุคคลสามารถบริจาคใหก้ ับหวั หน้าพรรค กรรมการ บรหิ ารพรรค กรรมการสาขา ตัวแทนพรรคประจำ�จงั หวัด หรอื สมาชิกพรรค เมื่อรับบริจาคต้องแจ้งให้พรรคการเมืองทราบและออกใบเสร็จรับเงิน หรือหลกั ฐานการรบั เงนิ ทรัพยส์ ิน เปน็ หนงั สือใหก้ ับผูบ้ ริจาคไว้เป็นหลักฐาน ในชว่ งของการดำ�เนินการเลอื กต้งั นบั แตม่ พี ระราชกฤษฎกี าให้มกี ารเลอื กต้ัง ส.ส. หากผสู้ มคั รไดร้ บั การบรจิ าคเงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ ทม่ี มี ลู คา่ เกนิ กวา่ 10,000 บาท ตอ้ งแจ้งใหค้ ณะกรรมการการเลือกต้งั ทราบภายใน 7 วนั นับแต่วนั ทีไ่ ดร้ บั บรจิ าคด้วย ครับ การเลือกตงั้ คณุ ภาพ โดยพลเมอื งคุณภาพ คอื การเลอื กต้งั ทีพ่ ลเมืองมสี ว่ นรว่ ม
23 ตอนท่ี 23 การบริจาคแก่พรรคการเมืองในแบบแสดง รายการภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาประจ�ำ ปี (ภงด. 90, 91) ในการบริจาคเงินให้กับพรรคการเมือง นอกจากจะบริจาคให้กับ พรรคการเมอื งไดโ้ ดยตรงแลว้ ประชาชนสามารถบรจิ าคเงนิ ใหก้ บั พรรคการเมอื ง โดยผ่านทางการเสียภาษี ซึ่งบุคคลธรรมดามีสิทธิแสดงเจตนาในแบบ แสดงรายการภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดาประจ�ำ ปแี ละใหร้ ฐั บาลน�ำ เงนิ ทไ่ี ดเ้ สยี ภาษี ไวไ้ ปอดุ หนนุ พรรคการเมอื งทบ่ี ุคคลระบุ พรรคใดพรรคหนงึ่ ปีละ 500 บาท ไดโ้ ดยใหก้ รมสรรพากรจดั ท�ำ บญั ชรี ายชอ่ื พรรคการเมอื ง เมอ่ื มกี ารแสดงเจตนา ระบุภาษีบริจาคให้กับพรรคใดแล้ว กรมสรรพากรจะโอนเงินให้กับกองทุน พฒั นาพรรคการเมอื งของสำ�นกั งานคณะกรรมการการเลือกตัง้ ภายในเดอื น กันยายนของทุกปี เพื่อโอนต่อให้กับพรรคการเมืองที่ได้รับการอุดหนุน จากการเสียภาษขี องประชาชน ก็จะเป็นรายไดข้ องพรรคการเมืองเพ่ือใชใ้ นการ ด�ำ เนนิ กิจกรรมทางการเมอื ง ผูบ้ รจิ าคเงนิ ให้พรรคการเมืองทกุ กรณี ท้ังบคุ คล ธรรมดาและนิติบุคคล มีสิทธินำ�จำ�นวนเงินที่บริจาคไปหักเป็นค่าลดหย่อน หรือรายจ่ายเพ่ือการบริจาคตามท่ีกำ�หนดไว้ในประมวลรัษฎากรตามจำ�นวน ทบ่ี รจิ าค แตไ่ มเ่ กนิ 15,000 บาท ส�ำ หรบั บคุ คลธรรมดา และไมเ่ กนิ 50,000 บาท สำ�หรบั นติ ิบคุ คล ครบั รว่ มเรียนรูร้ ัฐธรรมนูญใหม่ รว่ มสรา้ งประชาธปิ ไตย ก้าวไปกบั กกต. และ ศส.ปชต.
24 ตอนท่ี 24 กองทุนเพอ่ื การพฒั นาพรรคการเมือง พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยพรรคการเมอื ง พ.ศ. 2560 ก�ำ หนดใหส้ �ำ นกั งานคณะกรรมการการเลอื กตง้ั มกี องทนุ เพอ่ื พฒั นาพรรคการเมอื ง อนั ประกอบด้วย เงนิ ทรัพย์สนิ สทิ ธิ หน้สี ิน ภาระผกู พัน ทีม่ ีอยู่กอ่ นวันที่ พรบ. มผี ลบังคับใชใ้ ห้เปน็ ของกองทนุ เพอื่ การพัฒนาพรรคการเมอื ง เงนิ ท่ีได้ รับจากงบประมาณรายจ่าย เงนิ ได้จากกรมสรรพากร จากการบรจิ าคในแบบ แสดงรายการภาษเี งินได้ ภงด. 90, 91 เงนิ ค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตัง้ ตามกฎหมายการเลือกต้งั ส.ส. เงินและดอกเบ้ยี ที่เรียกคืนจากผ้ซู งึ่ ต้องรบั ผิด ในการจัดให้มีการเลือกต้ังใหม่ท่ีมาจากการเลือกต้ังท่ีไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือ เที่ยงธรรม เงินหรือทรัพย์สินที่พรรคการเมืองได้มาโดยฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ตามกฎหมายพรรคการเมอื ง เงนิ หรอื ทรัพย์สินที่ตกเปน็ ของกองทนุ เงินหรอื ทรัพย์สนิ ท่ผี ้มู อบให้เพ่อื สมทบกองทนุ และเงินดอกผลของกองทนุ ทง้ั น้ี วตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใชเ้ ปน็ ทนุ หมนุ เวยี น และใชจ้ า่ ยในการสนบั สนนุ พรรคการเมือง การให้การศึกษาประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ การสง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ ม ของประชาชน และการสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การพฒั นาพรรคการเมอื งใหเ้ ปน็ สถาบนั ทางการเมอื งรว่ มกัน ครับ การเลือกตั้งคณุ ภาพ โดยพลเมอื งคุณภาพ คอื การเลือกต้ังทพี่ ลเมืองมีสว่ นร่วม
25 ตอนที่ 25 การจดั สรรเงินกองทุน และค่าใชจ้ ่ายของพรรคการเมือง ในการจดั สรรเงนิ สนบั สนนุ แกพ่ รรคการเมอื ง การบรหิ าร และการควบคมุ ดแู ลกองทนุ ทก่ี ลา่ วมากอ่ นน้ี คณะกรรมการการเลอื กตง้ั จะแตง่ ตง้ั คณะกรรมการ กองทนุ ขึ้นมาคณะหนงึ่ เพ่อื ทำ�หนา้ ที่แทนโดยมีประธานกรรมการการเลอื กตง้ั เปน็ ประธานกรรมการ และมีกรรมการอืน่ รว่ มอีก 6 คน ภายใน 30 วนั นบั แตว่ นั สน้ิ ปงี บประมาณใหค้ ณะกรรมการการเลอื กตง้ั กำ�หนดวงเงินที่จะจัดสรร เป็นเงินอุดหนุนกิจการพรรคการเมืองสำ�หรับ ปีงบประมาณถัดไป โดยเงินกองทุนจะถูกนำ�มาจัดสรรเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ในการบริหารกองทุนและดำ�เนินกิจการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และ สำ�นักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเฉพาะส่วนที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของเงินกองทนุ รวมท้งั คา่ ใช้จ่ายในการชำ�ระบัญชี ตามที่สำ�นกั งานตรวจเงนิ แผ่นดินเรียกเก็บ ทั้งนี้ พรรคการเมืองต้องเปิดเผยค่าใช้จ่ายในการโฆษณา หรือประชาสัมพันธ์การดำ�เนินกิจกรรมของพรรค ไม่ว่ารูปแบบใดให้สมาชิก และประชาชนทราบเปน็ การทว่ั ไป และใหเ้ ปน็ หนา้ ทข่ี องคณะกรรมการบรหิ าร พรรคการเมอื ง ที่จะต้องตรวจสอบและควบคุมมิใหม้ กี ารนำ�เงินหรอื ทรพั ย์สิน ของพรรคไปใชจ้ ่ายเพื่อการอื่น ครับ รว่ มเรยี นรู้รัฐธรรมนูญใหม่ ร่วมสรา้ งประชาธปิ ไตย กา้ วไปกับ กกต. และ ศส.ปชต.
26 ตอนท่ี 26 การสน้ิ สภาพความเปน็ พรรคการเมือง พรรคการเมืองเม่ือจัดต้ังขึ้นมาแล้วต้องมีการดำ�เนินการ ของพรรคการเมืองตามกฎหมาย หากไม่ดำ�เนินการพรรคการเมืองย่อมสิ้น สภาพความเปน็ พรรคการเมืองดว้ ยเหตุใดเหตหุ นึ่ง ดังต่อไปน้ี 1. ภายหลังพบว่าข้อบังคับของพรรคการเมืองที่ยื่นไม่เป็นไปตาม ทกี่ ฎหมายกำ�หนด คณะกรรมการบรหิ ารพรรคการเมอื งต้องดำ�เนนิ การแกไ้ ข ขอ้ บังคบั ให้ถูกตอ้ งหรือครบถว้ น ภายใน 60 วัน 2. ไมส่ ามารถดำ�เนินการหาสมาชิกไม่นอ้ ยกว่า 5,000 คน ภายใน 1 ปี และจ�ำ นวนไมน่ ้อยกวา่ 10,000 คน ภายใน 4 ปี 3. ไม่สามารถจดั ตั้งสาขาได้ครบทกุ ภาค ภาคละ 1 สาขา ภายใน 1 ปี 4. ภายหลังที่ได้รับการจดทะเบียนพรรคการเมือง มีจำ�นวนสมาชิก เหลือไม่ถงึ 5,000 คน ตดิ ต่อกนั เกนิ 90 วนั 5. ภายหลังที่ได้รับการจดทะเบียนพรรคการเมือง มีจำ�นวนสาขา พรรคการเมอื งเหลอื ไมถ่ งึ 4 สาขา ภาคละ 1 สาขา เปน็ ระยะเวลาตดิ ตอ่ กนั 1 ปี เมอ่ื ปรากฏตอ่ นายทะเบยี นพรรคการเมอื ง ใหน้ ายทะเบยี นพรรคการเมอื ง ดำ�เนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าเห็นว่ามีกรณีที่เป็นเหตุให้พรรคการเมือง สิ้นสภาพให้เสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา ถ้าคณะกรรมการ การเลือกตั้งเห็นว่ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศสิ้นสภาพของพรรคการเมืองในราชกิจจานุเบกษา นอกจากนี้ยังมี การสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองอีกหลายประการ จะได้นำ�เสนอ ในตอนต่อไปครับ การเลือกต้งั คณุ ภาพ โดยพลเมอื งคุณภาพ คือ การเลือกตัง้ ท่ีพลเมืองมีส่วนร่วม
27 ตอนท่ี 27 การส้ินสภาพความเป็นพรรคการเมือง (ตอ่ ) คร้ังทแ่ี ล้วไดม้ ีการพดู ถึงการสิน้ สภาพการเป็นพรรคการเมือง จาก 5 สาเหตุ ในครง้ั น้ี มกี ารพดู ถงึ การสน้ิ สภาพดว้ ยเหตใุ ดเหตหุ นง่ึ เพม่ิ เตมิ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ไมม่ กี ารประชมุ ใหญพ่ รรคการเมอื ง หรอื ไมม่ กี ารด�ำ เนนิ กจิ กรรมใด ทางการเมือง ระยะเวลาติดตอ่ กนั 1 ปี โดยมิไดม้ ีเหตอุ ันจะอ้างกฎหมายได้ 2. ไม่ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการเลอื กต้งั ทวั่ ไป 2 ครงั้ ตดิ ตอ่ กนั หรอื เป็นเวลา 8 ปี ติดต่อกนั สุดแต่ระยะ เวลาใดจะยาวกว่ากัน 3. มีหนส้ี ินลน้ พ้นตัว 4. พรรคการเมืองเลิกตามข้อบงั คับ เมอ่ื ปรากฏตอ่ นายทะเบยี นพรรคการเมอื ง ใหน้ ายทะเบยี นพรรคการเมอื ง ดำ�เนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าเหน็ วา่ มีกรณีทีเ่ ป็นเหตุให้พรรคการเมอื ง สิ้นสภาพ ให้เสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา ถ้าคณะกรรมการ การเลือกตั้งเห็นว่ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศสิน้ สภาพของพรรคการเมืองในราชกจิ จานเุ บกษา ครับ ร่วมเรียนรรู้ ฐั ธรรมนูญใหม่ รว่ มสรา้ งประชาธิปไตย กา้ วไปกบั กกต. และ ศส.ปชต.
28 ตอนท่ี 28 ศาลรัฐธรรมนูญสง่ั ยบุ พรรคการเมือง การกระท�ำ ทอ่ี าจเปน็ เหตใุ หศ้ าลรฐั ธรรมนญู สง่ั ใหย้ บุ พรรคการเมอื ง ดงั น้ี 1. กระท�ำ การลม้ ลา้ งการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ ทรงเป็นประมขุ 2. กระท�ำ การอนั อาจเปน็ ปฏปิ กั ษต์ อ่ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย 3. พรรคการเมอื งด�ำ เนนิ การแสวงหาก�ำ ไรมาแบง่ ปันกัน 4. พรรคการเมอื งยนิ ยอมใหบ้ คุ คลมใิ ชส่ มาชกิ กระท�ำ อนั เปน็ การควบคมุ ช้ีนำ� ทำ�ใหพ้ รรคการเมอื งหรือสมาชกิ ขาดอสิ ระ มกี ารจงู ใจใหบ้ คุ คลสมคั ร เป็นสมาชกิ โดยการให้สัญญาว่าจะให้ เงนิ ทรพั ย์สนิ ทัง้ ทางตรงหรือทางอ้อม, กระท�ำ การกอ่ กวนหรอื คกุ คามความสงบเรยี บรอ้ ย หรอื ศลี ธรรมอนั ดขี องประชาชน 5. สาขาพรรคการเมอื ง และตวั แทนพรรคการเมอื งประจ�ำ จงั หวดั ตง้ั ขน้ึ นอกราชอาณาจกั ร 6. รบั บรจิ าคเพอ่ื ท�ำ ลายประเทศ, แหลง่ ทม่ี าของเงนิ ไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย, หรือรบั บรจิ าคจากบุคคลผ้ไู ม่มีสญั ชาติไทย หรอื นอกราชอาณาจกั ร เมอ่ื ปรากฏตอ่ นายทะเบยี นพรรคการเมอื ง ใหน้ ายทะเบยี นพรรคการเมอื ง รวบรวมข้อเท็จจริง พยานหลักฐานรายงาน เสนอตอ่ คณะกรรมการการเลอื กตัง้ เพ่ือยนื่ คำ�ร้องต่อศาลรฐั ธรรมนูญ หากศาลรัฐธรรมนญู มคี ำ�สง่ั ยบุ พรรคการเมอื ง ห้ามกรรมการบรหิ ารพรรคการเมอื งนนั้ ไปจัดตง้ั พรรคการเมืองใหม่ หรือเป็น กรรมการบริหารพรรคการเมือง มีกำ�หนดระยะเวลา 10 ปี นับแต่ถูกยุบ พรรคการเมือง และให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมอื งนนั้ ด้วย ครับ การเลอื กตงั้ คุณภาพ โดยพลเมอื งคณุ ภาพ คือ การเลือกตั้งทีพ่ ลเมืองมีส่วนรว่ ม
29 ตอนที่ 29 การควบรวมพรรคการเมอื ง พรรคการเมอื งสามารถด�ำ เนนิ การควบรวมพรรคการเมอื งได้ แตต่ อ้ ง เป็นการควบรวมเฉพาะจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่ในระหว่างอายุของ สภาผแู้ ทนราษฎรจะมกี ารควบรวมพรรคการเมอื งทม่ี สี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร มไิ ด้ ในการควบรวมพรรคการเมอื งนีใ้ ห้พรรคการเมืองที่จะควบรวมขอความ เหน็ ชอบจากทป่ี ระชมุ ใหญข่ องแตล่ ะพรรคการเมอื ง เมอ่ื ทป่ี ระชมุ ใหญข่ องแตล่ ะ พรรคการเมอื งเหน็ ชอบใหร้ วมกนั แลว้ ใหห้ วั หนา้ พรรคการเมอื งและกรรมการ บริหารพรรคการเมืองละ 10 คน ประชมุ ร่วมกนั เพอ่ื ดำ�เนินการร่างขอ้ บงั คบั ของพรรคการเมอื งทจ่ี ะจดั ตง้ั ขน้ึ ใหม่ แลว้ ใหจ้ ดั การประชมุ รว่ มกนั ระหวา่ งสมาชกิ ทกุ พรรคการเมืองทจี่ ะรวมกันเพอ่ื ประชมุ จัดตง้ั พรรค โดยมีผูเ้ ข้าร่วมประชมุ ไม่น้อยกว่า 250 คน ในการเรียกประชุมพรรคการเมืองต้องแจ้งให้สมาชิก ทจ่ี ะรวมกันทราบก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่า 7 วัน จะต้องมีการกำ�หนดชื่อ ชื่อย่อ และภาพเครื่องหมายพรรค เลือกคณะกรรมการบริหารพรรค และ ใหผ้ ซู้ ง่ึ ไดร้ บั เลอื กเป็นหัวหน้าพรรคการเมอื ง เปน็ ผู้ย่นื คำ�ขอต่อนายทะเบยี น พรรคการเมือง เมื่อนายทะเบียนพรรคการเมือง รับจดทะเบียนจัดตั้งพรรค การเมอื งแลว้ ใหส้ มาชกิ พรรคการเมอื งเดมิ เปน็ สมาชกิ พรรคการเมอื งใหมท่ จ่ี ดั ตง้ั ข้นึ ด้วย ครับ ร่วมเรียนรรู้ ัฐธรรมนูญใหม่ ร่วมสรา้ งประชาธปิ ไตย กา้ วไปกบั กกต. และ ศส.ปชต.
30 ตอนที่ 30 การด�ำ เนินการของพรรคการเมืองตามบทเฉพาะกาล พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยพรรคการเมอื ง พ.ศ. 2560 ในบทเฉพาะกาล ไดม้ กี ารก�ำ หนดใหพ้ รรคการเมอื งทจ่ี ดั ตง้ั หรอื เปน็ พรรคการเมอื ง ตามพระราชบัญญตั ิประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยพรรคการเมอื ง พ.ศ. 2550 และยงั ด�ำ รงอยูเ่ ป็นพรรคการเมอื งตามพระราชบัญญัตินี้ และใหค้ ณะกรรมการ บริหารพรรคยังคงเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง และให้ถือว่า พรรคการเมอื ง มสี มาชกิ พรรคตามทป่ี รากฏในทะเบยี นสมาชกิ พรรคการเมอื ง ที่สำ�นักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้จัดให้มีขึ้น และให้คณะกรรมการ บริหารพรรคจะต้องแจ้งเปลี่ยนแปลงสมาชิกพรรคที่แตกต่างจากที่ปรากฏ ในทะเบยี นสมาชกิ พรรค ใหน้ ายทะเบยี นทราบภายใน 90 วนั พรรคการเมือง ทจ่ี ดั ต้งั แลว้ แตย่ งั มีสมาชกิ ไม่ครบ 500 คนตอ้ งดำ�เนินการให้มีสมาชกิ ใหค้ รบ 500 คน ภายใน 180 วัน และต้องจัดใหม้ ที ุนประเดมิ จำ�นวน 1 ล้านบาท และ แจง้ ใหน้ ายทะเบียนทราบภายใน 180 วัน ในกรณีท่พี รรคการเมอื งมีเงนิ หรือ ทรัพย์สนิ อยแู่ ล้ว จะกันเงินหรือทรพั ย์สินทีม่ ีอย่แู ล้วเปน็ ทุนประเดิมก็ได้ การเลือกตั้งคณุ ภาพ โดยพลเมืองคุณภาพ คือ การเลือกต้ังท่ีพลเมอื งมีสว่ นร่วม
31 ต่อท่ี 31 การดำ�เนินการของพรรคการเมืองตามบทเฉพาะกาล (ต่อ) คณะกรรมการบรหิ ารพรรคการเมอื งจะตอ้ งด�ำ เนนิ การ ตามบทเฉพาะกาล ในกรณีของสมาชิกพรรคการเมืองในเบ้ืองต้น จะตอ้ งดำ�เนนิ การจัดใหส้ มาชิก พรรคจ�ำ นวนไมน่ อ้ ยกวา่ 500 คน ช�ำ ระคา่ บ�ำ รงุ พรรคการเมอื ง ภายใน 180 วนั นบั แตว่ นั ทพ่ี ระราชบญั ญตั นิ ม้ี ผี ลบงั คบั ใช้ และใหพ้ รรคการเมอื งแจง้ ใหค้ ณะกรรมการ การเลอื กตง้ั ทราบ พรอ้ มหลกั ฐานการช�ำ ระคา่ บ�ำ รงุ พรรคการเมอื ง สมาชกิ พรรค การเมืองที่ชำ�ระค่าบำ�รุงพรรคการเมืองแล้ว หากยังค้างค่าบำ�รุงพรรคการเมือง ส�ำ หรบั ปกี อ่ นๆอยเู่ ปน็ จ�ำ นวนเทา่ ไร ใหเ้ ปน็ อนั พบั ไปและคณะกรรมการบรหิ ารพรรค ตอ้ งจดั ใหส้ มาชกิ ช�ำ ระคา่ บ�ำ รงุ พรรคการเมอื งใหไ้ ดจ้ �ำ นวนไมน่ อ้ ยกวา่ 5,000 คน ภายใน 1 ปี และใหไ้ ดจ้ �ำ นวนไมน่ อ้ ยกวา่ 10,000 คน ภายใน 4 ปี เมอ่ื พน้ ระยะเวลา 4 ปี แลว้ สมาชกิ ทม่ี ไิ ดช้ �ำ ระคา่ บ�ำ รงุ เปน็ อนั สน้ิ สดุ การเปน็ สมาชกิ และใหแ้ จง้ ให้ นายทะเบยี นพรรคการเมอื งทราบเพอ่ื ดำ�เนนิ การตอ่ ไป ครบั รว่ มเรียนรู้รฐั ธรรมนูญใหม่ รว่ มสร้างประชาธิปไตย กา้ วไปกบั กกต. และ ศส.ปชต.
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: