Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Pesticide-residue-free-farming

Pesticide-residue-free-farming

Published by นอหนู จันทร์นาค, 2020-04-10 02:15:57

Description: Pesticide-residue-free-farming

Search

Read the Text Version

การผลติ ผกั ปลอดสารพษิ ผจู ัดทาํ นางสาวกรกนก ปานอาํ พนั ธ และ นางสมใจ ศิรมิ าตร วทิ ยาลยั ชมุ ชนนา น สาํ นักงานบริหารและพฒั นาองคความรู 69/18-19 อาคารชุดมวิ บลิ ดงิ้ ชนั้ 18-19 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400

การผลิตผกั ปลอดสารพิษ สํานักงานบรหิ ารและพฒั นาองคความรู 69/18-19 อาคารชุดมิว บลิ ดง้ิ ชัน้ 18-19 ถ.วภิ าวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรงุ เทพฯ 10400

ชุดความรูท ํามาหากิน “การผลิตผักปลอดสารพิษ” จังหวัดนา น เปน จังหวดั หนึง่ ทางภาคเหนอื ท่มี ีอาณาเขตอยตู ิดกับประเทศลาว มีภมู ปิ ระเทศ ท่เี ปนภูเขาสงู ธรรมชาติงดงามและเปนแหลงตน นา้ํ นา น ประชากรสว นใหญประกอบอาชพี การเกษตร แตป จจบุ นั มีการใชสารเคมีเพ่อื การผลิตเยอะขนึ้ สง ผลใหพ ืชอาหารมกี ารปนเปอนสารพิษ สง ผล ทัง้ ตวั ผูปลูกและผูบ รโิ ภค ทั้งยงั เกิดสารพิษตกคา ง ในส่งิ แวดลอมอกี ดวย ดังนั้น การทาํ เกษตร ทางเลอื ก หรือเกษตรปลอดสารพษิ จึงเปน สิ่งท่ีควร นํามาใชในกระบวนการผลิตพืชอาหารของจงั หวัด นาน

พชื ผักเปนพืชอาหารทค่ี นไทยนยิ มนํา มาใช รับประทานกนั มากเน่ืองจากมคี ณุ คาทางอาการทงั้ วิตามินและแรธ าตุตางๆ ท่ีเปนประโยชนตอ รา งกายสงู แตค า นิยมในการบริโภคผกั น้ัน มักจะเลอื กบริโภคผกั ท่ีสวยงามไมม รี องรอยการทํา ลายของหนอนและแมลง ศัตรพู ชื จงึ ทํา ใหเ กษตรกรทีป่ ลูกผักจะตองใช สารเคมีปองกนั และกาํ จัดแมลงฉดี พนในปรมิ าณท่ี มาก เพื่อใหไ ดผักที่สวยงามตามความตองการของตลาด เม่อื ผูซ้ือนาํ มาบริโภคแลว อาจไดร ับอนั ตรายจาก สารพษิ ท่ตี กคา งอยใู นพชื ผกั นน้ั ไดเพอ่ื เปน การแกปญ หา ดงั กลาว เกษตรกรจงึ ควรหันมาทาํ การปลูกผัก ปลอดภยั จากสารพิษ โดยนํา เอาวธิ ีการปองกนั และกํา จดั ศัตรูพชื หลายวิธีมาประยุกตใชรวมกนั เปนการ ทดแทนหรอื ลดปริมาณการใชสารเคมใี หน อ ยลง เพื่อ ความปลอดภัยของเกษตรกร ผูบ ริโภคและสิง่ แวดลอ ม

ชดุ ความรูทํามาหากนิ “การผลติ ผักปลอดสารพิษ” ผรู ับบริการชุดประมวลความรู มีความรูค วาม เขา ใจ มองเหน็ ทิศทาง และคุณคาของการสรา งอาชีพดวย การปลูกผกั ปลอดสารเคมี • เกษตรกรผูปลูกผัก • คนทั่วไปทต่ี องการปลูกผักกินเอง • นกั เรยี น นักศึกษา และผสู นใจศกึ ษาเพ่ิมเติม

แมจ ะมรี าคาคอ นขา งสูง แตไดรับความนิยมในกลมุ คนรักสุขภาพอยา งตอเนอ่ื ง ดวยปลอดภยั จากการปนเปอ นสารเคมีคอนขางสงู ปจจุบนั ผูบ ริโภคสามารถสังเกตผกั อินทรยี ไ ดจากตราสัญลักษณร ับรองทป่ี รากฎบนบรรจุ ภณั ฑ ผกั ประเภทนีใ้ ชวิธีการปลูกแบบองครวมทใ่ี สใจทุกรายละเอยี ด เริ่มตง้ั แตไ มใชเมล็ด พนั ธุท ่ีผา นการตดั แตง พันธุกรรม (จเี อ็มโอ) โดยปลูกในสงิ่ แวดลอ มทีด่ ี พ้นื ท่ีนัน้ เลิกใช สารเคมีตง้ั แต 3 ปข น้ึ ไป ในการบาํ รุงพชื และกาํ จัดศัตรูพืชจะใชส ารทีส่ กดั จากธรรมชาตไิ ด เชน นํ้าหมัก ชีวภาพ นํ้ายาสะเดาแทนสารเคมี สังเคราะหและปยุ เคมที กุ ประเภท เนื่องจากมผี ลกระทบตอ ระบบนิเวศในดนิ ทง้ั เชิงกายภาพ เคมี และชีวภาพ รวมทงั้ เพ่ือ ปอ งกันสารเคมตี กคา งใน ผลผลิตและสิ่งแวดลอม การปลกู ผกั ชนิดนค้ี ลา ยคลงึ กบั ผกั อนิ ทรยี  คือ ปลกู ในพนื้ ทท่ี ่เี ลกิ ใช สารเคมไี มตํา่ กวา 3 ป ไมใ ชส ารเคมี สงั เคราะหและปยุ เคมี แตจะใชส ารสกดั จากธรรมชาติ แทน อยา งไรก็ตามการปลกู ผักประเภทนย้ี ังไมม ีการจํากัดเมล็ดพนั ธุที่นาํ มาใช

ผักชนดิ นี้ใชสารเคมีสังเคราะหแ ละปยุ เคมีในการปลูก แตม ีฤทธต์ิ กคา งไมน านและ ไมใ ชส ารตองหา ม สามารถใชฮอรโมนเรงผลผลิตได เพราะไมถ อื วาเปนสารเคมอี นั ตราย จากนน้ั เมอ่ื ใกลเ วลาเกบ็ เกี่ยว จะงดใชส ารเคมีตางๆ และ เวนระยะเวลาใหสารทใ่ี ชส ลายตวั จึงจะเก็บเกยี่ วผักน้ันได ผกั ชนิดนอ้ี าจมีปรมิ าณสารเคมีตกคางบาง แตอยใู นระดับท่ีไมเปน อนั ตราย ไดแก ผักที่ปลูกโดยใชทงั้ สารเคมีสงั เคราะห และปยุ เคมโี ดยไมมีการควบคุม หรือ เวนระยะเวลาในการเก็บเกย่ี ว จึง ทําใหม สี ารพิษตกคา งในผกั ปริมาณสูงเกินกาํ หนด และไม ปลอดภยั ตอ ผบู ริโภค



















การผลิตผักปลอดสารพิษ ความรูพ นื้ ฐานที่ตอ งมี • ความรเู กยี่ วกบั การเลอื กพ้นื ที่ การเตรียม แปลง การเลอื กพันธุ การเพาะกลา การปลูกและ ดูแล การปอ งกนั และกําจัดศัตรูพืช การเกบ็ เก่ยี วผลผลติ การจดั การตลาด • ความรเู กย่ี วกับการผลติ ปยุ และสารชีวภาพเพ่อื ลดตน ทุนการผลติ • การหาชอ งทางการตลาดเฉพาะสําหรบั ผักปลอด สารพิษ • กรณีศึกษาจากเกษตรกรทีท่ าํ การปลูกผักปลอด สารพษิ































6. เพลี้ยออ น เพลยี้ ออนมีหลายชนิด ทุกชนิดจะดูดกินน้าํ เล้ยี งจากพืชในระยะกลา หรอื ขณะท่ีตนผกั ยังออ น ถาระบาด มากตนเหีย่ วเฉา ใบซดี เหลือง หงิกงอ ไมเ จริญเตบิ โต อาศยั ตามซอกใบ และถา ยมลู ออกมาทําใหเ กดิ ราดาํ มาเกาะตามสว นตา ง ๆ ของพืช ทําใหใบพชื ไมส วย และยังเปนพาหะนําเชื้อไวรัสมาระบาดในตน พืชดว ย ตรงทเี่ พลี้ยออ นระบาด จะสงั เกตงายทไี่ หน เพราะมเี พลี้ยออนทไี่ หนจะมมี ดทนี่ ั้น เพราะมดจะอาศยั กิน นํ้าหวานทเ่ี พลีย้ ออนขบั ถา ยออกมา ระบาดมากในชว งฤดูแลงอากาศรอ น แตถ าฝนตกปริมาณจะลดลง ลกั ษณะของเพลีย้ ออน เพลยี้ ออ นกะหลา่ํ จะมีสเี หลือง สวนเพลยี้ ออ นผกั กาดจะมีสีเขยี วแกมเหลอื ง มีท้งั ชนดิ ท่มี ปี ก และไมมปี ก ถามปี กที่ทอ งดานบนจะมรี อยดางสีดาํ เพลยี้ พวกนเ้ี คล่อื นไหวชา และชอบอยู รวมเปนกลมุ การปองกันและการควบคุม 1. รักษาตัวหา้ํ พวกดว งเตา ลายจุด ดว งเตา ลายหยกั ต๊กั แตนตาํ ขา ว แมลงชา งปก ใส แมลงวนั เซอรฟ ด 2. ใชข เ้ี ถา (ถาเปนข้เี ถาจากไมไ ผผ ุ ยงิ่ ดี) เอาขี้เถาไปสาดในแปลงผกั ในตอนเชาตรทู ่ยี งั มีน้าํ คา งจบั ที่ ใบผกั 3. ปลกู ดาวเรืองปนลงในแปลงผกั กาด ผกั ฮองเต และผกั กาดหัว 4. ใชส มุนไพร นอ ยหนา นอ ยโหนง แตจะออกฤทธ์ชิ า 2-3 วนั จึงจะเห็นผล โดยใชผลดิบ ใบ ราก ถาไดเ มล็ดย่ิงดี บดแลวใสถุงตาขา ยแชน้าํ สักครู นาํ ไปฉดี จะใหผลดี สมุนไพร กระเทียม ยาสบู พริก สะเดา สลอด นา้ํ เยี่ยววัว กใ็ ชได พริกสตู รสมุนไพรไลแมลง 1. นําพริกท่ปี น ละเอียด 1 ขีด ผสมน้าํ 1 ลิตร คนใหเขา กนั ดีแลว กรองดวยผา ผสมนํา้ คัน้ จาก พริกน้ี 1 สว น ในนํา้ สบู 5 สว นกอนนําไปฉดี การผสมนํ้าสบูจะชว ยใหจบั เกาะใบพชื ไดดขี ึ้น 2. ในการนาํ ไปใชค วรทดลองแตนอ ย ๆ กอน เพราะสารละลายทเ่ี ขมขน เกนิ ไปจะทําใหใบไหม หาก พชื เกดิ อาการดังกลาวใหผสมนํ้าเพ่อื ใหเ จอื จาง และควรใชอ ยา งระมดั ระวัง อาจเกดิ การระคายเคืองตอ ผิวหนังของผูใช 3. สาํ หรบั การใชเพ่ือยบั ย้ังเชือ้ ไวรสั ไมมีรายงานการใชในไรน า แตม รี ายงานในหอ งวทิ ยาศาสตรว าใช นํ้าค้นั จากใบและดอกของพรกิ ไปฉดี พน กอ นจะมกี ารระบาดของไวรสั สามารถปองกันตน พชื จากไวรสั ไดผ ลดกี วา นําไปฉีด เม่ือพืชเกิดโรคไวรสั แลว

7. เพลย้ี ไฟ เพล้ียไฟเปน แมลงขนาดเล็ก จะใชปากเขย่ี และดดู นํา้ เลี้ยงตามยอด ตามดอก และใบออ น ซงึ่ จะทําใหใบยอด สั้น ใบหอ พ้ืนใบเปนคล่ืน ผิวดาน หลงั ใบ กานใบ กา นดอก หรือสว นยอดจะเปน รอยกรานสนี ํ้าตาล หากระบาดรุนแรงตอเน่ืองจะทาํ ใหพืชผักชะงกั การเจรญิ เตบิ โต ยอดจะแหง ใบและดอกจะรว ง เพลีย้ ไฟมักระบาดทั่วไปในชว งฤดแู ลง-รอ น-ตน ฤดูฝน สภาพทอ่ี ากาศรอนแลงมักเกดิ ในระยะฝนทิง้ ชวงนาน รูปราง นสิ ัย พฤตกิ รรมการกนิ อยู ตวั แกของเพลย้ี ไฟ ลาํ ตัวจะผอม ขนาดเพียง 1 มลิ ลิเมตร ตัวมปี กเรียวยาว 2 คู มขี นบาง ๆ ตัวหนุมสาว มีสนี ้ําตาลออ น สเี หมือนฟางขา ว ตวั ออ นจะมรี ูปรางเหมือนตัวหนมุ สาว แตไมมีปก สจี างกวา ตวั หนุม สาว เพลี้ยไฟทกุ ระยะการเตบิ โต จะดูดน้าํ เล้ียงทําลายพชื พบอยูต ามมุมกานใบ ใตใบ ดอกท้งั ตูมและบาน การเคลอ่ื นไหวคอนขางเชือ่ งชา ไข ตัวแมจ ะวางไขไวตามเสนใบ ตัวออนเม่อื ออกจากไขจ ะลอกคราบเปนระยะ ๆ เมอ่ื โตเต็มทีจ่ ะเขา พกั ตัวตาม พื้นดนิ แลวออกเปนตัวหนมุ สาว หากสภาพแวดลอ มแหงแลง เหมาะสมกับการเจริญเตบิ โต ตวั เมยี จะมีมากกวา ตัวผู ทําใหก ารระบาดเปน ไปอยา งรวดเรว็ โดยจะแพรกระจายออกบินไปตามกระแสลมเคลอื่ นยายตัวมนั ใน ขณะท่ีมอี ณุ หภมู สิ งู แดดจัด การปอ งกันและการควบคมุ 1. เพลี้ยไฟเปนแมลงตัวเลก็ ตองสงั เกตใหดี ในชวงฝนไมตกอากาศแหง เปน เวลานาน ตองตรวจดู ถา พบ ตวั ออ นมากกวาตัวหนมุ สาว แสดงวา ระบาดมานาน ตองหากําจดั คือถาพบเพล้ยี ไฟทงั้ ตัวออ นและตัวหนมุ สาว 10 ตวั ตอยอด ควรกาํ จดั ทันที (ตรวจโดยจบั ยอดพริกเคาะกบั กระดาษหรือผา ดาํ แลวตรวจนบั ) 2. เพลย้ี ชนิดนีเ้ ปนอันตรายตอพริก ชวงอายุ 1 ถึง 1 เดือนครง่ึ มากในชว งนคี้ วรบาํ รุงรักษาตนพรกิ ให ดีควรใหน ํา้ อยางเพียงพอ และคลมุ ดนิ รกั ษาความชุมช้นื และใสป ุย หมักบํารุงตน กาํ จดั หญา เพ่ือใหต นพืช แขง็ แรง 3. กรณที ร่ี ะบาดรนุ แรง ใชสารธรรมชาติหลายชนิด ฉดี พน เชน - ใชเมล็ด ใบสะเดา แชน า้ํ ท้ิงไว 1 คนื ผสมนํ้าอีก 1 เทา แลว นําไปฉีดพน - นําแปง (แปง 2 ถวย กบั นาํ้ 5-10 ขวด คนใหเขา กนั ) ฉีดใหถ ูกเพล้ยี ในชว งเชา (8 โมงเชา ) วนั ท่ี ทองฟาแจม ใส รอจนถึงเท่ยี งวนั เม่ือแดดรอ นจัดแปง ท่ผี สมน้ําที่ติดบนตัวหนอนไร หรือเพลีย้ กจ็ ะดดู น้ํา จากตัวหนอน แลวหนอนก็จะตาย - ขี้เถา สาดขเ้ี ถาในชวงเชาทใ่ี บพืช ทย่ี ังมีน้ําคางเกาะในตอนเชา หลักการเดียวกับการใชแปง - ใชฉี่ววั รวบรวมฉ่ีวัวแลวนาํ ไปหมกั ตากแดดประมาณ 2 อาทติ ย นาํ ไปผสมนํ้าอีก 1 เทา แลว นําไปฉดี พนเพล้ีย ไมค วรใชแบบเขมขน เพราะจะทาํ ใหใบพชื ไหมได 4. อนรุ กั ษ แมลงตัวห้ํา ตวั เบียน เชน แมงมุม แมงใบ แมงชางปก ใส ดว งเตาลายจุด และลายหยกั ตั๊กแตนตาํ ขาว เปน ตน


























Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook