Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore cricket2

cricket2

Published by นอหนู จันทร์นาค, 2020-04-23 05:08:34

Description: cricket2

Search

Read the Text Version

จงิ้ หรดี (Cricket) ความรูท้ ั่วไปเก่ียวกับจ้ิงหรีด แมลง (Insect) ถือกาเนิดมาในโลกก่อนสัตว์อ่ืน ๆ นับเป็นเวลาล้านล้านปี สามารถปรับตัวตาม สภาพแวดล้อม และขยายพันธุ์ได้รวดเร็วมาก แมลงเป็นสัตว์ท่ีมีลักษณะเป็นข้อปล้อง ท่ีมีปริมาณมากท่ีสุดใน โลก มีประมาณ 850,000 ชนิด ในจานวนนี้เป็นแมลงกว่า 300,000 ชนิด ที่มนุษย์รู้จักนามาใช้ประโยชน์ใน ชีวติ ประจาวนั มานานแล้ว เช่น การบริโภค การใช้แมลงเป็นตัวเบียน (Parasite) และตัวห้า (Predators) เพื่อ กาจัดศัตรูพชื ประเทศไทยต้ังอยู่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) อยู่ในเขตร้อนชื้น มีอุณหภูมิ และสิ่งแวดล้อมท่ีเหมาะสม จึงมีความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพืชและสัตว์ สาหรับสัตว์ โดยเฉพาะแมลง มี จานวนมากกว่า 40 ชนิด ท่ีประชาชนได้นามาบริโภค และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย นับเป็นภูมิปัญญาชาญ ฉลาดของบรรพบุรุษไทย ท่ีสามารถดารงชีวิตอยู่ได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ไม่ทาลายธรรมชาติ แต่ พิจารณาส่งิ ต่าง ๆ ตามธรรมชาติ ในเชิงของการใช้ประโยชน์ทดแทน และได้ก่อให้เกิดประโยชน์หลากหลายนา นานับประการ จง้ิ หรีดมีปากเปน็ แบบปากกัด ขาคู่หลังใหญ่และแข็งแรง กระโดดเก่ง สามารถทาเสียงร้องโดยใช้ขอบ ของปีกคู่หน้าสีกัน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในคันนา ทุ่งหญ้า สนามหญ้า และตามรอยแตกของดิน รูใต้ดิน หรือใต้ กองเศษหญา้ โดยเฉพาะพนั ธุ์ทองดานยิ มเลยี้ งกนั มาก เนอ่ื งจากสามารถขยายพนั ธ์ุได้เรว็ และเล้ยี งงา่ ย ลกั ษณะโดยท่ัวไปของจ้ิงหรีด จิ้งหรดี (Cricket) อยูใ่ นวงศ์ Gryllidae เป็นแมลงขนาดกลางถงึ ขนาดใหญ่ หนวดยาว ปากมลี ักษณะ เปน็ แบบปากกดั มีตารวม ขาคู่หลงั มขี นาดใหญแ่ ละแข็งแรง กระโดดเก่ง เพศเมยี ปกี เรยี วและมีอวัยวะวางไข่ ยาวแหลมคล้ายเข็มยน่ื ออกมาจากสว่ นทอ้ งเพศผู้มปี ีกคูห่ น้ายน่ สามารถทาเสียงได้ จ้ิงหรดี มีหลายชนิด หลาย ขนาดแตกตา่ งกันไปตามพฤติกรรม นอกจากนี้ลักษณะพเิ ศษของจิง้ หรดี ท่ีแตกตา่ งจากแมลงชนดิ อน่ื อย่างโดด เดน่ และสังเกตไดง้ ่าย คือ การสง่ เสียงรอ้ ง และการผสมพนั ธ์ุท่ีเพศเมียจะครอ่ มตัวบนเพศผเู้ สมอ

ประโยชน์ของจิ้งหรดี 1. เพอ่ื ใช้เป็นอาหารมนุษยโ์ ดยตรง 2. เพื่อเป็นอาชพี เสริมรายได้ใหค้ รอบครัว 3. เพื่อเปน็ ทางเลือกใหม่ในการประกอบอาชีพ 4. เพื่อการแปรรูปในอตุ สาหกรรมอาหารหรือเพ่ือการผลติ เชงิ พาณชิ ย์ 5. เพ่อื เปน็ อาหารสัตวห์ รือส่วนผสมของอาหารสตั ว์ 6. เพ่อื ความเพลดิ เพลนิ 7. เพื่อลดการใชส้ ารเคมี 8. เพื่อการอนรุ ักษ์พันธุกรรม

ชวี วิทยาของจ้ิงหรดี 1. หัว ประกอบดว้ ย ตา หนวด ปาก คอ และรอยตอ่ กะโหลกศีรษะ 2. อก มี 3 ปล้อง ปลอ้ งแรกมีขาหน้า 1 คู่ ปลอ้ งกลางมขี าคู่กลาง 1 คู่ และมปี ีกคู่หน้า 1 คู่ ซ่ึงปกี น้ใี ช้ แยกเพศของจงิ้ หรดี ไดด้ ว้ ย โดยจิง้ หรีดตวั ผู้ปกี นอกคหู่ นา้ มลี วดลายหยกั สว่ นตวั เมียจะมีผิวเรยี บ ปลอ้ ง หลงั มีขาคู่หลงั และยงั มีปีกคู่หลงั ซ่งึ เวลาหบุ จะซ่อนอยดู่ ้านใน 3. ท้อง เม่ือเติบโตเต็มทแ่ี ล้วจะมีปล้องจานวน 11 ปล้อง ชนดิ ของจิ้งหรดี จง้ิ หรีดทีพ่ บในประเทศไทย ซ่ึงเป็นท่ีรจู้ ักกันอย่างแพรห่ ลาย มี 4 ชนิด ดังนี้ 1. จ้งิ หรีดทองดา ลาตวั กว้างประมาณ 0.7 ซม. ยาวประมาณ 3 ซม. มี 3 สี ทีพ่ บตามธรรมชาติคอื สีดา สีทอง และสีอาพนั โดยลกั ษณะทเี่ ด่นชดั คือ จะมีจุดเหลอื งทโ่ี คนปกี 2 จุด ภาพ จ้งิ หรีดทองดา

2. จิ้งหรีดทองแดง มลี าตวั สนี า้ ตาล เพศผู้มสี เี ข้มกวา่ เพศเมีย ส่วนหวั เหนือขอบตารวมด้านบน แตล่ ะ ด้านมแี ถบสีเหลือง มองดูคลา้ ยหมวกแก๊ป มีความวอ่ งไวมากภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือเรียกจ้ิงหรดี ชนดิ นเี้ ป็นภาษาทอ้ งถ่ินวา่ จนิ าย อเิ จ็ก จ้ิงหรดี ม้า เป็นต้น ภาพ จิ้งหรดี ทองแดง 3. จิ้งหรดี ทองแดงลาย มขี นาดเลก็ ทส่ี ดุ มีสนี า้ ตาล บางทอ้ งทเี่ รียกว่า จิลอ จิ้งหรีดผี หรือบางท่ีเรียกว่า แอด้ ลักษณะคล้าย จิง้ หรดี พันธุท์ องแดง เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่าเทา่ น้ัน ภาพ จิ้งหรดี ทองแดงลาย/สะดงิ้ 4. จิง้ โกร่ง เป็นจง้ิ หรดี ขนาดใหญ่ สีน้าตาล ลาตัวกางประมาณ 1 ซม. ยาวประมาณ 3.5 ซม. ชอบอยู่ใน รูลึก โดยจะขดุ ดนิ สร้างรังอาศัยได้เอง และมีพฤติกรรมชอบอพยพย้ายท่ีอยู่เสมอ มีช่ือเรียกแตกต่าง กันไป เชน่ จิโปม จลิ อ เปน็ ตน้ ภาพ จ้ิงโกรง่

กข ค งจ ภาพ จิ้งหรีดทองดาในระยะต่างๆ ก (ไข่) ข (ตวั ออ่ น) ค (การลอกคาบ) ง (ตวั เต็มวัยเพศผู้) จ (ตวั เตม็ วยั เพศเมีย) วงจรชีวติ จ้งิ หรดี จิ้งหรดี มรี ะยะการเจรญิ เตบิ โต แบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ระยะ คือ 1. ระยะไข่ ไขจ่ ิ้งหรดี โดยทัว่ ไป ไข่มีสเี หลอื งอ่อนๆ หรือขาวครีม ลักษณะยาวเรียว คลา้ ยเมล็ดขา้ วสาร 2. ระยะตัวอ่อน ไขเ่ ม่อื ฟกั ออกมาเป็นตัวอ่อนจะมีลกั ษณะคล้ายมด มีอวยั วะภายนอกครบเหมือน จิ้งหรดี ตวั เตม็ วยั แตย่ งั ไม่มีปีก จง้ิ หรดี มีการลอกคราบ 8 ครงั้ จงึ จะเปน็ ตัวเตม็ วัย 3. ระยะตัวเต็มวัย เปน็ ระยะทีจ่ ิ้งหรดี มีอวัยวะครบทง้ั เพศผแู้ ละเพศเมีย จง้ิ หรีดเพศผู้ ปีกคู่หนา้ ย่น มี หนาม ไวท้ าเสียง เพศเมยี มีปีกเรยี บ และมีอวัยวะวางไข่ยาวแหลมย่นื ออกมาจากส่วนปลายของ ท้อง อายตุ ัวเตม็ วยั ของจ้ิงหรีดประมาณ 45-50 วัน ภาพ วงจรชีวติ จ้งิ หรีด

การผสมพันธ์ุและการวางไขข่ องจิง้ หรีด เม่ือลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยประมาณ 3-4 วัน ก็จะเริ่มผสมพันธุ์ ตัวผู้จะส่งเสียงเรียกหาตัวเมีย ตอน แรกจะส่งเสียงเรียกหาตัวเมีย ตอนแรกจะส่งเสียงดังและร้องเป็นช่วงยาว ๆ เพ่ือให้ตัวเมียเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ จิ้งหรีดจะอาศัยเสียงร้องเท่าน้ัน จึงจะเห็นเพศตรงข้าม เน่ืองจากสายตาไม่ดี หนวดรับการสัมผัสไม่ค่อยดี จะ สังเกตได้ เม่ือตัวเมยี เกาะอยนู่ งิ่ ๆ ตัวผู้จะเดินผ่านไปท้ัง ๆ ตัวเมียอยู่ใกล้ เมื่อพบตัวเมียแล้วเสียงร้องจะเบาลง เป็นจังหวะสั้น ๆ กริก..กริก..กริก.. ถอยหลังเข้าหาตัวเมีย เพื่อให้ตัวเมียขึ้นคร่อมรับการผสมพันธ์ุ ใช้เวลา ประมาณ 10 – 15 นาที โดยตวั ผจู้ ะย่นื อวัยวะเพศแทงไปทอ่ี วัยวะเพศเมยี แลว้ ปลอ่ ยถุงน้าเชื้อมีลักษณะปลาย เปน็ ลกู ศรออกไปติดที่อวยั วะเพศเมีย หลงั จากน้ัน ถุงนาเช้ือจะฝ่อลง ตวั เมยี จะใช้ขาเขย่ี ถุงนา้ เชอ้ื ท้ิงไป เพศเมยี เพศผู้ ภาพ การผสมพนั ธ์ขุ องจง้ิ หรดี การวางไข่ จ้ิงหรดี เพศเมยี หลงั จากผสมพันธแ์ุ ล้ว 3-4 วัน จะเร่ิมวางไขโ่ ดยการใช้อวัยวะวางไขท่ ี่ยาวแหลมคล้าย เขม็ ที่อยสู่ ่วนท้ายแทงลงในดินท่ีมีความช้ืนพอประมาณ ซึง่ จะแทงลึกลงไปประมาณ 1-1.5 เซนตเิ มตร โดยทั่วไปจิ้งหรดี จะวางไขเ่ ปน็ กล่มุ ๆ ไขจ่ ้งิ หรดี มีสีเหลอื งอ่อนๆ หรือขาวครีม ลกั ษณะยาวเรยี ว คลา้ ยเมลด็ ข้าวสาร ภาพ การวางไข่

การสอื่ ภาษาของจิง้ หรีด การทาเสยี งของจง้ิ หรีด ทาได้เฉพาะจง้ิ หรดี เพศผู้ โดยการใชป้ ีกคู่หน้าถูหรือสีกัน ปกติจง้ิ หรดี เกาะ พกั ตวั ปีกจะซ้อนกันเหนือลาตัว ในเพศผู้ปกี คหู่ น้าปกี ขวาจะทับปกี ซ้าย เพศเมยี ปีกซา้ ยทับปกี ขวา การทาเสียง โดยยกปีกคหู่ นา้ ขึน้ ใช้ขอบของโคนปีกซา้ ยถูหรือสกี บั ฟันซ่ีเลก็ ๆ ท่ีเรียงกันเป็นแถวที่โคนดา้ นในของปกี ขวา มี จงั หวะเสยี งจากการโยกตวั ลกั ษณะเสียงจะบง่ บอกถึงพฤติกรรมในการสือ่ สารขณะนนั้ เชน่ 1) เสียง กริก...กริก...กรกิ ... นาน ๆ แสดงวา่ อยู่โดดเดยี่ วหรอื ต้องการหาคู่ 2) เสียง กรกิ ...กริก...กริก... มีลากเสยี งยาว แสดงวา่ เป็นการบ่งบอกถึงอาณาเขตท่อี ยู่อาศยั 3) เสียง กริก...กริก...กริก... เบา ๆ และถี่ ๆ ติดต่อกนั แสดงว่าต้องการผสมพันธุ์ พฤตกิ รรมนเี้ พศผู้ จะทาเสียง กริก...กริก... ๆ โดยการถอยหลังเขา้ หาเพศเมีย ถา้ เพศเมยี เป็นใจดว้ ยกจ็ ะข้ึนคร่อมเพศผู้ทาการ ผสมพนั ธุ์ 4) เสียง กรกิ ...กริก...กริก... ยาวดงั ๆ 2 - 3 ครง้ั แสดงวา่ โกรธหรือสง่ เสยี งระหวา่ งกัดกัน ระหวา่ ง เพศผกู้ บั เพศผู้เพื่อแย่งความเป็นเจ้าของ หรือระหวา่ งเพศผู้กับเพศเมียก็ได้ เม่ือเพศเมยี ไมย่ อมเปน็ ใจขึ้นคร่อม ผสมพนั ธ์ุ หลักทั่วไปของการทาฟาร์มจ้ิงหรดี การเล้ยี งจิง้ หรดี ก็คือ การนาจิ้งหรีดมาเลยี้ งและมีการดแู ล โดยมหี ลักการท่วี ่าจ้ิงหรดี ท่ีนามาเล้ียงน้ัน จะตอ้ งมีสภาพความเปน็ อยู่เหมอื นกบั ในธรรมชาติมากท่ีสดุ ดังนั้น จงึ ตอ้ งมกี ารเตรยี มการและจดั การทดี่ ีอย่าง เปน็ ข้ันตอน ซึ่งจะได้กลา่ วถงึ ตอ่ ไป การเลือกทต่ี งั้ โรงเรือน 1. บริเวณก่อสร้างโรงเรือนควรเปน็ ที่ดอน น้าไม่ท่วมขัง 2. บรเิ วณทีจ่ ะเลย้ี งควรมพี ้ืนที่กว้างพอสมควร 3. บริเวณทีจ่ ะเลยี้ งตอ้ งป้องกนั ฝนและแสงแดดจัดได้ โดยมีแสงแดดส่องผ่านประมาณ 30-40% ในช่วงเช้าและสาย มีอากาศถ่ายเทสะดวก 4. พน้ื ท่จี ะใช้เล้ียงไมค่ วรเปน็ สถานท่ีมโี รคและการระบาดของแมลงศตั รูพวกมด ไร 5. พืน้ ที่ควรมแี หลง่ อาหารธรรมชาติ หาไดง้ ่าย เช่น หญา้ จากธรรมชาติ ผักตบชวา เปน็ ตน้ แบบโรงเรอื น โรงเรือน สามารถเลีย้ งไดใ้ นสภาพทวั่ ไปที่มีอยู่ หรืออาจจะจัดทาโรงเรือนไว้เล้ียงโดยเฉพาะที่ก็ได้ ถา้ มที ุนดาเนินการเพยี งพอ หรอื จะเล้ียงใต้ชายคาบ้าน ใต้ถนุ บ้านกไ็ ด้ แลว้ แต่ความเหมาะสม แตต่ ้องมีการ ปอ้ งกันการถูกฝนสาดถึง และปอ้ งกันแดดจดั ได้

อุปกรณ์ในการเลี้ยงจงิ้ หรีด 1.บ่อจ้ิงหรีด วัสดุท่ีสามารถนามาประยุกต์ใช้เป็นที่เพาะเล้ียงจิ้งหรีดน้ันมีหลายชนิดมาก เช่น บ่อ ซีเมนต์ ถัง กะละมัง ปี๊บ กล่องกระดาษ กรงตาข่าย กล่องทาจากไม้อัด หรือกล่องเล้ียงที่ทาขึ้นมาเพ่ือ วัตถุประสงค์ ในการเล้ยี งโดยเฉพาะ หรอื วัสดหุ รือใช้ สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสม ภาพ ภาชนะ/บอ่ เล้ียงจ้ิงหรีด 2. เทปกาว โดยการใช้เทปกาวชนิดผิวนอกลน่ื เพอื่ ใช้ตดิ รอบวงในด้านบนเพื่อป้องกันจ้ิงหรดี ไม่ให้ ออกจากบ่อเลย้ี ง ภาพ เทปกาว

3. ตาขา่ ยพลาสติก ใช้ตาข่ายพลาสติกสฟี า้ /มุ้งเขียว เพอ่ื ใชค้ ลุมปากบ่อด้านบน สาหรับปอ้ งกันศัตรู เชน่ จิง้ จก หนู งู เป็นต้น ภาพ ตาขา่ ยพลาสติก 4. ยางรดั ขอบบ่อ ในกรณีที่บอ่ เลี้ยงเป็นบ่อซีเมนต์ นยิ มใช้ยางในรถจักรยานหรือรถจักรยานยนต์ เพ่ือ ใช้สาหรับรัดตาข่ายพลาสติกไนล่อนกับขอบบ่อทางด้านนอก เพื่อป้องกันศัตรูเข้าทาลายจิ้งหรีดและป้องกัน ไม่ให้จ้ิงหรีดหนีออกจากบอ่ ภาพ ยางลดั ขอบบ่อ 5. วัสดุหลบซอ่ น ที่เหมาะสมทีส่ ดุ ไดแ้ ก่ แผงวางไข่ไก่ชนิดท่ที าจากกระดาษ สาหรับใหจ้ ิ้งหรีดหลบ ซ่อนตัวในเวลากลางวันและเวลาลอกคาบ ภาพ แผงไข่ใช้เปน็ วัสดุหลบ ซ่อน

6. ทใี่ ห้นา้ ภาชนะใสน่ ้านั้นมหี ลายแบบ เชน่ ท่ใี หน้ า้ ไก่ ขวดพลาสตกิ ฟองน้า เป็นตน้ ภาพ ภาชนะใส่นา้ 7. ทใี่ ห้อาหาร ภาชนะใสอ่ าหารน้นั มีหลายแบบ เช่น ถาดพลาสตกิ ตา่ งๆ จานอาหารชนดิ ผิวหยาบ กระป๋องนา้ มันเคร่อื งผา่ ครึ่งหรอื กระดาษท่ีใชท้ ่วั ๆ ไป ภาพ ภาชนะใสอ่ าหาร 8. ภาชนะวางไข่ ภาชนะทนี่ ิยมนามาใชม้ หี ลายแบบ เช่น ขันพลาสติก แกลลอนนา้ มนั ถาดพลาสติก ภาพ ภาชนะวางไข่

9. วสั ดุวางไข่ เชน่ แกลบเผา ภาพ แกลบเผาวสั ดุวางไข่ 10. อาหารจ้ิงหรีด ในการเล้ียงจ้ิงหรีดเพ่ือการค้า อาหารจ้ิงหรดี ที่เหมาะสม แบง่ ไดด้ ังนี้ -อาหารหลัก อาหารจ้ิงหรดี โดยตรง หรอื อาหารไก่เล็กจัดเปน็ อาหารท่ีเหมาะสมท่ีสดุ ในปจั จบุ นั เนอ่ื งจากราคาไม่แพงมากนกั และหาซื้อได้ท่วั ไป ภาพ อาหารไก่เล็ก -อาหารเสรมิ วชั พืช ผัก หรือพืชไร่ทัว่ ไปทมี่ ใี บอ่อนน่มุ เชน่ ใบฟักทอง ผกั บุ้ง ผักกาด ใบมัน สาปะหลัง เปน็ ตน้ ภาพ อาหารเสริมของจ้ิงหรดี

การจัดการภายในบอ่ เล้ียงจิ้งหรดี การวางภาชนะ/บอ่ เล้ียง ควรวางเรยี งกนั เป็นแถวแตล่ ะวงให้หา่ งกนั เล็กน้อย (ประมาณ 3 นิ้ว) แต่ละแถวควรห่างกนั พอท่ี ผูด้ ูแลจะปฏิบตั งิ าน ไดส้ ะดวก ไมค่ วรจะวางหา่ งกนั มากนกั เพราะจะทาให้สิน้ เปลอื งพ้นื ที่ เมือ่ วางวงปนู แล้ว จะตอ้ งเทพืน้ หนาประมาณ 1/2 - 1 น้วิ เพ่ือป้องกนั มดจากใตด้ นิ เขา้ มาทาลายไข่ และตัวจงิ้ หรีด สาหรบั รองวง ด้านนอกจะต้องป้องกนั มดด้วยทาร่องนา้ ล้อมรอบโรงเรอื น หรือใช้ผ้าชุบนา้ มนั เคร่ืองพนั รอบวงดา้ นลา่ งจานวน วงปนู จะวางมากหรือน้อยขน้ึ อยู่ท่ขี นาดความกว้างยาวของโรงเรอื น ภาพ การวางบ่อแบบวงปูน เทคนิคและขั้นตอนการเพาะเลี้ยงจ้ิงหรีด 1. เตรียมภาชนะที่ใช้เลีย้ ง เชน่ บ่อซีเมนต์ ตปู้ ลา กลอ่ งพลาสติก กล่องแมลง ถัง กะละมัง และกล่อง กระดาษก็ได้ แตต่ ้องติดเทปกาวหรือแผ่นพลาสตกิ ด้านในเพอ่ื ป้องกนั จ้ิงหรดี ไต่หนี แต่ควรเลอื กภาชนะทเ่ี บา ทาความสะอาดง่าย ผิวเรยี บล่นื ปลอดภัยและจัดวางเปน็ ช้ันเพ่อื ประหยดั พื้นที่ 2. การเตรยี มดนิ โดยการตากดนิ ให้แหง้ นาน 2-5 วัน เพื่อใหป้ ลอดจากมด ไร เชอื้ รา และพรมนา้ ไมใ่ ห้ช้ืนหรอื แฉะจนเกินไปเพื่อใหจ้ ิง้ หรีดวางไข่ 3. วสั ดุทีใ่ ห้จง้ิ หรีดเกาะและมุดเพอ่ื หลบภัยเวลาลอกคราบ อาจใชแ้ ผงไข่ เศษกระดาษ กระดาษฝอย กล่องกระดาษ กระถาง เศษกระเบื้องหรือท่อพวี ซี ี เปน็ ตน้ 4. สถานที่เพาะเลย้ี งจิ้งหรดี ต้องไม่มแี ดดสอ่ งถงึ อากาศถ่ายเทสะดวกและมหี ลงั คาเพื่อป้องกนั นา้ ฝน สาดถึง 5.อาหารทีใ่ ช้เลย้ี งจ้งิ หรดี ใชไ้ ดท้ ัง้ อาหารสดและอาหารสาเร็จรปู อาหารสดเชน่ ผักกาดขาว ผกั กาด เขยี ว ผกั บุ้ง กะหลา่ ปลี คะนา้ ถ่ัวฝักยาว ผักกวางต้งุ ผักกาดหอม หญา้ มาเลย์ หญา้ ขน ใบฟกั ทอง อาหาร จาพวกผักและหญา้ ที่นามาให้จง้ิ หรดี กิน ควรล้างให้สะอาดเพ่อื ป้องกนั สารเคมี 6. ท่ใี ห้น้าจิง้ หรดี ควรมกี ้อนหินเล็กๆ หรือแผ่นฟองนา้ ให้จ้งิ หรีดเกาะเพ่ือปอ้ งกันลูกจ้งิ หรีดตกน้าตาย ควรทาความสะอาดและเปลย่ี นนา้ เสมอ 7. บอ่ ซเี มนตเ์ ล้ยี งจงิ้ หรีดควรป้องกนั มดโดยใช้เชอื กเส้นโตหรือผา้ ชบุ น้ามนั เคร่ืองผูกรอบกน้ ภายนอน ของภาชนะเลยี้ งหรือใชช้ อล์กขดี กันมด พร้อมตดิ เทปกาวที่ปากบอ่ ด้านใน เพื่อป้องกนั จ้งิ หรดี ไตห่ นี

8. เตรียมฝาตาขา่ ยปดิ ภาชนะเลี้ยงจิง้ หรดี เพ่ือปอ้ งกนั จ้งิ จก ตุ๊กแก คางคง และสตั ว์อ่ืนๆท่ีชอบกิน แมลงลงไปกินจงิ้ หรีด 9. ภาชนะเล้ียงจ้ิงหรีด เช่น ตปู้ ลายกตั้งบนโตะ๊ หรือชน้ั พร้อมมีน้าหรือน้ามนั เคร่อื งใช้แล้วหล่อขาโตะ๊ เพื่อใหป้ ลอดภัยจากศตั รจู ิ้งหรดี เชน่ มด จง้ิ จก การจบั จ้ิงหรีด เมื่อเล้ียงลูกจ้ิงหรีดจนอายุประมาณ 45-50 วัน ขึ้นไป จิ้งหรีดโตพร้อมที่จะจับจาหน่ายได้ โดย พฤติกรรม ของจ้ิงหรีดแล้ว ตอนกลางวันจ้ิงหรีดจะหาท่ีหลบซ่อน พอมืดค่าจิ้งหรีดจะออกหาอาหาร อาศัย พฤติกรรมเหล่าน้ี ให้ใช้ กระบอกไม้ไผ่ หรือท่อพลาสติกก็ได้ ตัดเป็นท่อนๆ วางไว้กับพื้นบ่อ จ้ิงหรีดจะเข้าไป หลบอาศยั เวลาจะเกบ็ กย็ กกระบอกไม้ไผ่ หรือท่อพลาสติก เคาะใส่ในถุงหรือกาละมังที่จัดเตรียมไว้โดยไม่ต้อง ยงุ่ ยากใชม้ ือไล่จับทีละตวั ซ่ึงเสียเวลามาก ภาพ การจบั จ้ิงหรดี การจาหน่าย วธิ ีจาหนา่ ยมหี ลายรปู แบบ ทง้ั น้ีขน้ึ อยู่กับผ้ซู ื้อว่าต้องการซ้ือแบบไหน โดยปกตจิ ะมกี ารจาหนา่ ยใน ลักษณะ ดังน้ี 1. นบั จานวนตวั ขาย จะขายร้อยละประมาณ 30-40 บาท 2. ชงั่ น้าหนกั ขาย จะขายกโิ ลกรัมละประมาณ 100-150 บาท 3. จาหน่ายเป็นพอ่ -แม่พนั ธ์ุ (ขันไข่) ขนั ละประมาณ 50 บาท การตลาด การตลาดในการจาหน่ายจ้งิ หรดี ทกุ ครง้ั ท่ีได้สนทนาในการเลย้ี งจ้ิงหรดี ผสู้ นใจท่วั ไปหรอื ผ้ทู ี่ตัง้ ใจ เลย้ี งจง้ิ หรดี ในอนาคต จะได้ยนิ คาถามจะวา่ เปน็ คาถามแรกก็ไดว้ ่า \"ตลาดเปน็ อย่างไร\" เลยี้ งมาก ๆ แล้วจะ ขายทไี่ หน ราคาเป็นอยา่ งไร อกี ก่ปี จี ะลน้ ตลาด ผถู้ ามคงคิดวา่ เลีย้ งจง้ิ หรีดแลว้ รวย อาชีพอยา่ งอืน่ ท่ีเคยทาอยู่

ทิ้งไปหมด แลว้ ผไู้ ด้ยินคาถามอยา่ งน้จี ะตอบ และคิดอย่างไรต่อไป ตลาดท้องถน่ิ 1. ตลาดระหวา่ งผูเ้ ลีย้ งและผูบ้ ริโภคในพืน้ ที่ (บ้านใกล้เคยี ง) จะซอ้ื ขายกันโดยตรง คอื ผ้ซู ื้อจะซ้อื ทบ่ี อ่ เลย้ี ง การซ้อื อาจจะเปน็ รายย่อย 1-2 ขีด ถงึ 1 กิโลกรมั หรือมากกวา่ แลว้ นาไปประกอบอาหาร ทันที การบริโภคเปน็ ไปได้ ทงั้ ภายในครอบครัวหรือเพื่อสังสรรคก์ ับเพ่ือนบ้าน 2. ตลาดของฝาก บ่อยครัง้ ท่ีพบเห็นในพื้นท่ที ่ีมีการเลี้ยงจ้ิงหรีด จะมลี ูกหลานท่ีไปทางานตา่ งจังหวดั หรือ กรงุ เทพมหานคร เมอื่ กลับมาเยี่ยมบ้านหรอื กลบั บ้านมกั จะชอบซอ้ื จิ้งหรีดค่ัวนาตดิ ตวั กลับไปที่ ทางาน นากลับไปกนิ เอง หรอื ซือ้ เป็นของฝาก เปน็ ตน้ 3. ตลาดรวมท้องถ่นิ ในพนื้ ทบ่ี างแหง่ จะมเี กษตรกรทีเ่ ปน็ แม่คา่ ทาหน้าที่จดั ซื้อรวบรวมจง้ิ หรดี ทกุ ๆ เช้า เพ่ือทาการแปรรูปเองแล้วส่งใหแ้ ม่ค้าขายปลีกในเมือง หรอื รวบรวมจ้ิงหรีดเพ่ือจดั สง่ ให้แมค่ ้า ขายปลกี ในเมืองนาไปทาการแปรรูป ตลาดกลาง เปน็ ตลาดทร่ี บั ซื้ออยูใ่ นตัวเมอื งหรอื แหลง่ ชุมชนใหญ่ ๆ เมื่อทาการรวบรวมจง้ิ หรดี แล้วสง่ ไปตาม แหลง่ ใหญ่ ๆ เช่น กรงุ เทพมหานคร หรอื สง่ โรงงานเมลงอัดกระป๋อง เป็นต้น ตลาดเชงิ อตุ สาหกรรม จะมีการรับซอ้ื จากเกษตรกรโดยตรง หรอื รับซ้ือจากตลาดกลางกไ็ ด้ เชน่ สถาบนั วิจัยและฝึกอบรม การเกษตรสกลนคร สถานบันเทคโนโลยีราชมงคล จงั หวดั สกลนคร จะรับซื้อจิง้ หรดี ที่สด (จิ้งหรดี มชี วี ิต) สาหรับทาจิง้ หรีดอดั กระป๋อง เพอื่ จาหน่ายตา่ งประเทศ ภาพ การแปรรปู จิ้งหรีด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook